หลังจากหลิง อี้หราน สัมภาษณ์งานที่บริษัทอีกที่เสร็จ เธอก็อดไม่ได้ที่จะทำหน้าบูดหน้าเบี้ยวเธอคิดว่าเธอมีความพร้อมทางจิตใจและเต็มใจที่จะทำงานเป็นพนักงานส่งอาหาร โดยไม่กำหนดเงินเดือนขั้นพื้นฐาน ซึ่งบางบริษัทอาจจะมีการกำหนด แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ถูกปฏิเสธอยู่ดีเมื่อเห็นว่าเวลาเกือบเที่ยงแล้ว หลิง อี้หราน ก็ไปที่ร้านอาหารเล็ก ๆ ข้างทางและสั่งก๋วยเตี๋ยวหนึ่งชามในราคาสิบดอลลาร์นี่คือก๋วยเตี๋ยวชามที่ถูกที่สุดในร้านนอกจากนี้ยังมีโทรทัศน์เก่าตั้งอยู่ในร้าน ทีวีที่เปิดช่องข่าวอยู่และกำลังฉายซ้ำข่าวของเมื่อวาน หลิง อี้หราน ฟังอย่างไม่ตั้งใจนักในตอนแรก แต่เธอก็เงยหน้าขึ้นมองอย่างรวดเร็วเมื่อนักข่าวเอ่ยถึงบริษัทที่คุ้นเคยมันคือ... บริษัทแรกที่เธอไปสัมภาษณ์งานเป็นพนักงานส่ง และยังเป็นที่เดียวกันที่เจ้าของบริษัทโทรหาอี้ จิ่นหลี และบอกเขาเกี่ยวกับการสัมภาษณ์ของเธออี้ จิ่นหลี เคยบอกไว้ก่อนหน้านี้ว่าเขาต้องการกำจัดบริษัทนี้ตอนนี้ข่าวบอกว่าบริษัทกำลังเผชิญกับเงินลงทุนที่กระจายออกไป เงินที่จัดสรรไว้สำหรับการลงทุนถูกยกเลิกอย่างกะทันหัน และผู้มีส่วนร่วมในการจัดหาเงินทุนของบริษัทได้ทำการประท้วงหน้
“เขาไม่ได้รบกวนฉันหรอกค่ะ ลูกชายของคุณน่ารักจัง" หลิง อี้หราน กล่าว “ดูเหมือนว่าเขาจะอยากกินก๋วยเตี๋ยวนะคะ เขามองก๋วยเตี๋ยวบ่อย ๆ”“ถ้าคุณให้ก๋วยเตี๋ยวเขา เขาอาจจะกินหรือไม่กินก็ได้ เขาแค่อยากเล่นสนุกด้วยค่ะ” ผู้หญิงคนนั้นกล่าวและเริ่มทำท่าทางด้วยมือทั้งสองข้างต่อหน้าเด็กน้อยหลิง อี้หราน ตกตะลึงและสังเกตได้ทันทีว่าผู้หญิงคนนั้นกำลังทำอะไร... ภาษามือ!“เขา... ” เธอกล่าวโพล่งออกมาหญิงสาวกล่าวว่า “เขาไม่ได้ยิน แต่เขารู้ภาษามือค่ะ เขาเข้าใจได้ท่าทางง่าย ๆ”ผู้หญิงคนนั้นพูดและค่อย ๆ พูดต่อว่า “ขอโทษคุณน้าสิ” ในขณะทำท่าทางจากนั้นหลิง อี้หราน ก็เห็นเด็กน้อยโค้งคำนับมาทางเธอราวกับจะแสดงความขอโทษหลิง อี้หราน อดไม่ได้ที่จะลูบหัวของเด็กน้อย เขายังเด็กแต่เขาไม่สามารถได้ยิน เสียงทั้งหมดในโลกนี้ไม่มีอยู่จริงสำหรับเขาใช่ไหม?หญิงสาวคนนั้นอุ้มเด็กน้อยออกไป ในขณะที่หลิง อี้หราน ยังคงกินก๋วยเตี๋ยวของเธอต่อไป แต่เธอกลับรู้สึกเสียใจเธอกินก๋วยเตี๋ยวเสร็จและกำลังจะออกจากร้านอาหารเล็ก ๆ เมื่อออกไปจากร้าน เธอก็เห็นแผ่นประกาศรับสมัครงานที่หน้าประตูพวกเขากำลังมองหาพนักงานส่งอาหารหลิง อี้หราน ห
“ฉันชื่อ โจว เชียนหยุน คุณจะเรียกฉันว่าพี่โจวก็ได้ คุณชื่ออะไรล่ะ?” เจ้าของร้านถาม“ฉันชื่อหลิง อี้หรานค่ะ พี่โจวจะเรียกฉันอี้หรานก็ได้นะคะ” หลิง อี้หราน กล่าวและในดูเหมือนว่าความเศร้าหมองในดวงตาของเธอได้หายไปโจว เชียนหยุน มองไปที่หลิง อี้หราน ดวงตาของเธอกระพริบหลิง อี้หราน ทิ้งชื่อและข้อมูลติดต่อของเธอไว้ ขณะเดียวกันผู้หญิงอายุราว ๆ ห้าสิบปีเดินมาหา โจว เชียนหยุน "ลูกคุยอะไรกับผู้หญิงคนนั้น?"“เธอเพิ่งสมัครเป็นพนักงานส่งอาหารของเรา และหนูตกลงที่จะให้เธอมาทำงานในวันพรุ่งนี้” โจว เชียนหยุน กล่าว“ผู้หญิงอายุเท่าเธอสมัครเป็นพนักงานส่งอาหารเหรอ? ต้องมีอะไรผิดปกติกับเธอแน่นอน ผู้หญิงอย่างเธอมักจะทำงานออฟฟิศไม่ใช่เหรอ?" งานพนักงานส่งอาหารได้รับค่าจ้างที่ต่ำ และมีเพียงคนในวัยห้าสิบปีเท่านั้นที่มาขอสมัครงานในตำแหน่งนี้ อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่พอใจกับค่าจ้างที่ต่ำและชั่วโมงที่ยาวนาน ดังนั้นพวกเขาจึงปฏิเสธที่จะทำมัน”"เธอมีประวัติอาชญากรรมในทำให้คนเสียชีวิตด้วยรถยนต์" โจว เชียนหยุน กล่าว “หนูคิดว่าเธอเป็นคนดี เธอใจดีกับเยียน หนูไม่คิดว่าเธอจะเป็นคนไม่ดี การขับรถชนคนตายของเธอน่าจะเป็นอุบัติ
ปฏิกิริยาของหลิง อี้หราน เมื่อนึกขึ้นได้ว่าอี้ จิ่นหลี สามารถไปตามกำจัดร้านอาหารเล็ก ๆ ได้ แม้แต่บริษัทที่กำลังมาแรง ที่คนต่างกล่าวว่าจะมีอนาคตที่สดใส กลับกำลังมีข้อสงสัยและอาจจะถูกกำจัดไป ดังนั้นร้านอาหารเล็ก ๆ ก็น่าจะไม่รอด“ฉัน... ฉันไม่ได้คิดแบบนั้น” เธอพึมพำ เธอไม่ต้องการให้เกิดอะไรขึ้นกับร้านอาหารเล็ก ๆ ของพี่โจวเพราะฉัน เธอเห็นว่าพี่โจวเป็นคนดี ลูกชายของเธอที่หูหนวก ทำให้เธอต้องรับภาระหนัก “ดีแล้วที่พี่ไม่ได้คิดแบบนั้น พี่สามารถอยู่ที่นี่อย่างสงบสุข” อี้ จิ่นหลี กล่าวด้วยรอยยิ้มหลิง อี้หราน เม้มริมฝีปากของเธอเข้าด้วยกันและไม่ได้พูดอะไรต่ออี้ จิ่นหลี จับมือของหลิง อี้หราน ขึ้นมาและวางฝ่ามือของเธอลงบนแก้มของเขา “เพราะพี่ตั้งใจจะหางานด้วยตัวเอง ไม่ว่าพี่จะกลับมาดึกแค่ไหน พี่ก็จะมา
แทนที่จะกลับไปสู่อ้อมอกแม่อย่างเชื่อฟังเหมือนที่เคยทำเมื่อวานนี้ เขากลับจับขาของหลิง อี้หราน ไว้แน่นโจว เชียนหยุน กล่าวว่า “ขอโทษนะ ปกติแล้วอาหยันน้อยมักจะไม่เป็นแบบนี้ ดูเหมือนเขาจะชอบเธอ”“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันก็ชอบอาหยันน้อยเหมือนกัน” หลิง อี้หราน พูดพลางอุ้มเจ้าตัวเล็กขึ้นมาขณะที่เธอพูดเจ้าตัวเล็กไม่ดิ้นและเชื่อฟังอย่างน่าทึ่ง เขายิ้มกว้างให้กับหลิง อี้หราน หลังจากที่เธออุ้มเขาขึ้นมารอยยิ้มมีร่องรอยของความขี้อายและขี้อ้อนที่ทำให้หลิง อี้หราน เศร้าอย่างประหลาด "สวัสดีจ้า อาหยันน้อย" หลิง อี้หราน กล่าวยกมือขึ้นแตะศีรษะของเด็กน้อยอย่างไรก็ตาม เจ้าตัวเล็กไม่ได้ยินเสียงของเธอ เขาไม่รู้ว่าเธอพูดอะไร เขามองเธอด้วยความสับสนเท่านั้นโจว เชียนหยุน มองไปที่ลูกชายของเธอแล้วมองไปที่หลิง อี้หราน ทันใดนั้น ดวงตาของเธอก็เศร้าหมองขึ้น อาหยันน้อย... เข้าใจผิดว่าอี้หรานเป็นคนนั้นหรอ? นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงได้ใกล้ชิดอย่างผิดธรรมชาติ... ถ้าเป็นแบบนั้นก็น่าเศร้า... ที่พวกเขาไม่สามารถเห็นคน ๆ นั้นได้อีก“พี่โจวช่วยสอนภาษามือให้ฉันได้ไหมคะ? ฉันอยากเรียนรู้ที่จะสื่อสารกับอาหยันน้อย” หลิง อี้หราน
นอกจากนี้ ในฐานะหัวหน้า เธอยังต้องดูแลแคชเชียร์, เสิร์ฟอาหาร, ทำความสะอาดโต๊ะ มันเหมือนกับว่าเธอต้องทำทุกอย่าง เมื่อตอนที่ร้านยุ่ง ๆ เธอก็แทบจะไม่มีเวลาว่างเลย ความสามารถของเธออาจจะมีจำกัด แต่เธอก็มอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกชายของเธอ ประมาณบ่ายสามโมง ทางร้านก็ได้มีออเดอร์อื่นเข้ามา มีทั้งขนมปังไส้สับปะรดและชานม เมื่อกี้แค่หลิง อีหราน ได้เห็นที่อยู่ เธอถึงกับฟุ้งซ่าน “มีอะไรเหรอ มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?” โจว เชียนหยุน ได้เตรียมออเดอรให้ หลิง อี้หราน และสังเกตเห็นว่าเธอจ้องไปที่ใบสั่งซื้ออย่าเหม่อลอย “เปล่าไม่มีอะไรค่ะ” หลิง อี้หราน ตอบพร้อมกับหยิบขนมปังสับปะรดและชานม ชัดเจนว่า ที่อยู่ของคำสั่งซื้อนั้นเป็นสำนักงานกฎหมายที่เธอเคยทำงานอยู่ ตอนนี้เธอกำลังจะไปส่งอาหารที่นั่น และเธอจะต้องพบเจอกับอดีตเพื่อนร่วมงานของเธอเป็นธรรมดา ย้อนกลับไป เธอเป็นพนักงานที่ยอดเยี่ยมในออฟฟิศคนหนึ่งเลย แต่บางทีในอีกสักพัก เธออาจจะต้องรู้สึกอับอายใจมาก ๆ หลิง อี้หราน รู้สึกถึงความเจ็บปวดในใจ แต่ในตอนนี้เธอเลือกมุ่งมั่นที่จะทำตรงนี้แล้ว เธอก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเจอกับสถานการณ์เหล่านี้ นอกจากนี้
อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นแขนของเธอก็ถูกจับไว้ ด้วยแรงกระตุกเธอจึงเขาไปอยู่ในอ้อมกอดที่แสนกว้าง เธออยากจะเอาตัวออกมาจากอ้อมแขนของเขาโดยไม่ทันตั้งตัว แต่มือของเขาโอบรอบตัวเธอและกอดเธอไว้ใกล้ ๆ “มันคงจะเป็นฝันที่ดีจริง ๆ สินะพี่สาว!” เขาบ่นพึมพำขณะที่ปากของเขาอยู่ใกล้ ๆ กับหูของเธอ เธอตัวสั่นเล็กน้อยและได้ และรู้สึกว่าลมหายใจของเขาอยู่ข้าง ๆ หูของเธอ เหมือนร่างการของเธอถูกโอบล้อมด้วยลมหายใจของเขา “นี่คุณ... ปล่อยนะ” เธอพูด และหน้าของเธอเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง “ทำไมพี่ไม่เล่าให้ผมฟัง เกี่ยวกับการทำงานวันแรกของพี่ก่อนล่ะ?” เขาถาม “มันก็เป็นแค่งานส่งอาหารตามปกติ มีคนสั่งอะไรฉันก็แค่ไปส่งให้” เธอด้วยความรู้สึกหัวใจเธอเต้นเร็วขึ้น แม้แต่การไหลเวียนของเลือดก็เร็วขึ้นมากด้วย “ถ้าอย่างงั้น วันนี้พี่ทานอาหารดี ๆ แล้วหรือยัง?” เสียงของเขาดังขึ้นในหูของเธอ อีกครั้ง “ใช่สิ ฉันทานข้าวกับเจ้านาย เธอเตรียมให้ฉันวันละสองมื้อ” หน้าของเธอร้อนขึ้น ราวกับว่ามันกำลังจะไหม้ ความรู้สึกแปลก ๆ ของเธอทำให้เธอขวัญเสีย ตอนนี้ทั้งหมดที่เธอต้องการก็แค่ให้เขาปล่อย อย่างไรก็ตาม เขาไม่ให้ในสิ่งที่เธอต้องกา
ในไม่กี่ชั่วโมงของวันนี้ ในตอนที่หลิง อี้หราน นอนหลับอย่ารวดเร็วอยู่บนที่นอน ประตูระหว่างห้องสองห้องก็เปิดออกอย่างช้า ๆ ร่างสูง ๆ ก็เดินเข้ามา ผู้ที่มักจะเย็นชา มองไปที่ผู้หญิงที่นอนอยู่บนเตียงด้วยสายตารักใคร่ การจ้องมองของเขาในตอนนี้เต็มไปด้วยความผูกพัน “ฝันดีนะพี่สาว” เสียงเบา ๆ และนุ่มนวลดังออกมาจากปากของเขามันผสมไปด้วยความผูกพันและในเวลาเดียวกันมันก็มีความสิ้นหวังที่ไม่อาจจะบรรยายความรู้สึกได้ ... วันรุ่งขึ้น เมื่อหลิง อี้หราน ไปทำงาน ช่วงเที่ยงที่ร้านได้รับออเดอร์ เยอะมาก มากกว่า 30 รายการ ปกติแล้ว รอบหนึ่งเธอจะส่งเพียงแค่ 7-8 รายการ แต่ตอนนี้ มีออเดอร มากกว่า 30 รายการโดยกะทันหัน มันเป็นอะไรที่เลิศมากสำหรับร้านเล็ก ๆ ที่จะส่งอาหารในบ่ายวันนี้ โจว เชียนหยุน เตรียมออเดอร์ให้พร้อมและพูดกับหลิง อี้หราน ว่า “ขอบคุณมาก ๆ สำหรับการส่งอาหารพวกนี้นะ” “แล้วออเดอร์อื่น ๆ ล่ะคะ?” หลิง อี้หรานกล่าว สุดท้ายแล้ว เมื่อเธอส่งออเดอร์นี้แล้ว เธออาจจะไม่ต้องส่งออเดอร์อื่น ๆ ก็ได้ “ไม่เป็นไร ฉันจะขอให้แม่ มาช่วยทำหน้าที่แทนตรงเครื่องคิดเงินหลังจากที่พาอาหยันน้อยเข้านอน แล้วฉันจะไปส่งใ