เขาจับท้ายทอยหวาลี่ฟางไว้ขณะที่พูดและกดตัวเธอลงกับพื้นหวาลี่ฟางรู้สึกเจ็บแปลบที่หน้าผากในทันที หัวของเธอกระแทกพื้น เธอพยายามจะยกหัวขึ้นแต่มือของกู้ลี่เฉินก็จับหัวเธอไว้แน่น “รู้ไหมว่าความโลภของเธอทำลายชีวิตฉัน? หวาลี่ฟางเธอควรตาย เธอมันสมควรตาย!” “ไม่... ลี่เฉิน... เชื่อ... เชื่อฉันสิ ฉันเป็นคนที่ช่วยชีวิตคุณไว้ในตอนเด็กจริง ๆ นะ... อย่าไปฟังเรื่องไร้สาระจากปากคนอื่น...” หวาลี่ฟางกล่าวพลางพยายามดิ้นทันใดนั้นกู้ลี่เฉินก็ยกร่างของเธอขึ้นมาอีกครั้งด้วยนิ้วมือที่บีบคอของเธอไว้ “เธอคิดว่าฉันไม่ได้ตรวจสอบเลยเหรอ? ฉันตรวจสอบทุกอย่างที่จำเป็นหมดแล้ว ไม่ใช่เธอที่ช่วยชีวิตฉันไว้ในตอนเด็ก เป็นอี้หรานต่างหาก!”ใบหน้าของหวาลี่ฟางเปลี่ยนเป็นซีดเผือดในทันที และเธอก็ตัวสั่นอย่างรุนแรง ดวงตาของชายหนุ่มในตอนนี้เปลี่ยนเป็นสีแดง และความเกลียดในนั้นทำให้เธอตัวสั่น‘เขา... รู้หมดแล้ว! เขารู้ความจริงแล้ว!’ ทันใดนั้นหวาลี่ฟางก็เหมือนจะรู้แล้วว่าไม่ว่าเธอจะโกหกไปเท่าไหร่ อย่างไรมันก็ไม่ต่างกันผู้ชายคนนี้จะไม่มีวันเชื่อใจเธออีกแล้ว! ความฝันของเธอที่จะกลายเป็นคนร่ำรวยได้มาถึงจุดจบแล้ว! จู่ ๆ หวาลี่
กู้ลี่เฉินเดินออกมาจากห้องบอลรูมซึ่งตกแต่งอย่างหรูหราและไม่หันกลับไปมองอีกเขาต้องการให้หวาลี่ฟางชดใช้ความผิดของตัวเองไปตลอดชีวิตของเธอ!เพราะเขาต้องใช้ชีวิตอยู่กับมันไปตลอดชีวิตด้วยเช่นกัน!‘ทำอะไรได้อย่างนั้น’ น่าจะเป็นคำอธิบายที่ดีที่สุดสำหรับเรื่องนี้!ความสุขในชีวิตนี้ของเขาจบลงแล้ว! ...สิ่งที่เกิดขึ้นในงานปาร์ตี้วันเกิดของหวาลี่ฟางเป็นหัวข้อยอดนิยมในคืนวันนั้น รวมไปถึงวิดีโอที่เปิดโปงว่าเธอจงใจใส่ความกวอซินหลี่ ทั้งยังมีวิดีโอที่กู้ลี่เฉินเข้ามาแล้วสั่งให้คนของเขาถอดเสื้อผ้าของหวาลี่ฟางออกด้วยแม้ในคลิปจะไม่ได้แสดงออกมาทั้งหมด แต่นั่นก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เห็นว่า ผู้หญิงที่ถูกปั้นให้เป็นดาวในแวดวงบันเทิงด้วยน้ำมือของเจ้าชายได้มาถึงคราวจบสิ้นลงแล้ว ความรุ่งโรจน์และความร่ำรวยต่างก็จากเธอไปแล้วก็ยังพบกับบางสิ่งที่แย่กว่านั้นคือ กู้กรุ๊ปได้ฟ้องหวาลี่ฟางด้วยสาเหตุฉ้อโกงเอาทรัพย์สินจำนวนมากข่าวนี้ดูเหมือนจะทำให้สาธารณชนแตกตื่น ‘ฉ้อโกง? นี่หวาลี่ฟางหลอกลวงกู้ลี่เฉินเหรอ?’ด้วยเหตุนั้นชาวเน็ตหลายคนต่างก็คาดเดาไปกันว่าเธอหลอกเขาด้วยวิธีไหนหลิงอี้หรานไม่ได้รู้สึกอะไรมากห
เสียงนุ่มนวลของเขาฟังดูอ่อนโยนและสบาย ๆ แต่ดวงตาของเขากำลังมองมาที่เธอโดยไม่ปล่อยให้สีหน้าของเธอคลาดไปจากสายตาของเขาแม้แต่นิดเดียวหลิงอี้หรานเม้มปากล่างของตัวเอง “ไม่มีอะไรต้องเสียใจค่ะ ในเมื่อนี่เป็นการตัดสินใจของฉัน ฉันก็ไม่มีอะไรต้องเสียใจ”‘อีกอย่าง ถึงจะบอกเขาไป แต่ฉันก็มอบสิ่งที่กู้ลี่เฉินต้องการไม่ได้อยู่ดี ไม่ว่ายังไง คนที่ฉันรักก็คือ...’ ดวงตาของหลิงอี้หรานหม่นลงเมื่อคิดเรื่องนี้ตอนนั้นเธอรักเขามาก แล้วตอนนี้ล่ะ? เธอยังคงมีความรู้สึกรักให้เขาไหม?“คิดอะไรอยู่?” เขาถามขณะที่ใช้นิ้วจับกรามของเธอไว้ในทันใด เขาไม่ชอบสายตาอ้างว้างและเศร้าสร้อยในดวงตาของเธอ ราวกับว่ามันมีบางสิ่งที่เขาไม่สามารถเข้าใจได้“ไม่มีอะไรค่ะ” หลิงอี้หรานพูด“ฉันอยากได้ยินความจริง” เขาพูดพลางหรี่ตาเธอลังเลไปครู่หนึ่งก่อนสุดท้ายจพูดว่า “ฉันแค่กำลังสงสัยว่า ตัวเองมีความรู้สึกแบบไหนกับคุณ”ดวงตาดอกท้อสีดำขลับของเขาหรี่ลง เขามองเธอและอ้าปากเล็กน้อยก่อนเสียงที่เจือความแหบแห้งของเขาจะเล็ดลอดออกมา “งั้นบอกมาสิว่าเธอรู้สึกแบบไหนกับฉัน?”“ฉันไม่รู้ค่ะ” หลิงอี้หรานยกยิ้มมุมปากอย่างนึกหัวเราะเยาะตนเอง “ยังไง
นิ้วของเขาจับกรามของเธอไว้แน่นโดยไม่ปล่อยให้เธอหลบเลี่ยง และริมฝีปากของเขาก็เย็นเล็กน้อยซึ่งต่างจากของเธอจูบของเขาครอบงำ แต่ครอบครองโดยสมบูรณ์ด้วยความอ่อนโยนและความปรารถนาจากครั้งก่อนหลิงอี้หรานรู้สึกได้เพียงหัวใจที่เต้นเร็วขึ้นเรื่อย ๆ ของตนเอง ในตอนนี้เธอไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดเธอถึงไม่อยากดิ้นรนหรือต่อต้านอีกแล้วเธอค่อย ๆ หลับตาและไหลไปกับรสจูบของเขา ทันใดนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตปรากฏในหัวของเธออีกครั้ง กลายเป็นว่าบางความรู้สึกนั้นไม่สามารถลืมเลือนไปได้แม้ว่าจะผ่านไปนานหลายปีแล้วก็ตามเธอบอกกับตัวเองให้ลืมมันไป แต่ก็ไม่เคยลืมได้สักอย่างเมื่อจูบนั้นสิ้นสุดลง หลิงอี้หรานก็ลืมตาขึ้นมองคนที่อยู่ตรงหน้า“ทำไมเธอไม่ต่อต้านฉัน?” เสียงของเขาพึมพำ เธอไม่รู้ว่าต้องตอบเขาอย่างไรเพราะเธอเองก็ไม่รู้คำตอบเช่นกัน“เพราะว่าเธออยากเป็นครอบครัวเดียวกับฉัน ดังนั้นถ้าฉันจะจูบหรือทำอะไรที่ใกล้ชิดสนิทสนมกับเธอมากกว่านี้ เธอก็จะทนกับมันเพื่อลูก ๆ ใช่ไหม?” เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย และดูเหมือนจะมีความไม่พอใจปรากฏอยู่ในดวงตาของเขาเล็กน้อยเธอแต่งงานกับเขาก็เพื่อเด็ก ๆ เท่านั้น แต่เขาไม่อยากให้เธอทำทั้
เขายกมือขึ้นและใช้ปลายนิ้วเช็ดหยดน้ำที่เปื้อนริมฝีปากเธอ “แต่ไม่สำคัญหรอก ว่าเธอเกลียดมันหรือเปล่า! เราเป็นสามีภรรยากัน การแตะเนื้อต้องตัวกันก็ต้องมีบ้างไม่ใช่หรือไง? ถึงเธอจะไม่เต็มใจ แต่เธอก็คงจะทนเพื่อลูกใช่ไหมล่ะ?”พูดจบเขาก็เดินออกไปราวกับว่าเขาไม่มีความตั้งใจจะอยู่ฟังคำตอบของเธอ “เอาเถอะ ดึกแล้ว ไปนอนเถอะ ฉันยังมีเรื่องต้องทำในห้องทำงาน”ถึงอย่างนั้นก่อนที่เขาจะก้าวไปอีกหนึ่งก้าว ทันใดนั้นแขนเรียวคู่หนึ่งก็โอบเขาไว้จากข้างหลัง “ฉันไม่ได้เกลียดนะคะ” หลิงอี้หรานพูดขณะฝังใบหน้าลงบนแผ่นหลังกว้างของอี้จิ่นหลี “ฉันแค่แพ้ท้อง ฉันควบคุมมันไม่ได้ แต่อย่างน้อยฉันก็ไม่ได้เกลียดจูบก่อนหน้านี้ของคุณ”เขาตัวแข็งทื่อไปในทันทีขณะที่ไม่คิดว่าเธอจะพูดอะไรแบบนั้นออกมาหลังจากเงียบไปครู่หนึ่งเธอก็กล่าวต่อไปว่า “บางทีก็มีสิ่งที่ต้องเกิดขึ้นอยู่แล้วระหว่างคู่แต่งงาน แต่ถ้าเราไม่มีความรักความรู้สึกต่อกัน และแค่ตอบสนองความต้องการของตัวเองเท่านั้น แล้วเราจะต่างอะไรจากสัตว์ล่ะคะ? อย่างน้อย ฉันคิดว่าความสัมพันธ์... ใกล้ชิดระหว่างคู่แต่งงานก็ต้องการความรู้สึกบ้าง... ฉันไม่อยากทำมันไปเพื่อลูก และฉันก็ไม่
“ขอบคุณนะ อี้หราน” กวอซิ่นหลี่กล่าวหลิงอี้หรานพูดอย่างรู้สึกผิด “ฉันไม่ค่อยได้ช่วยอะไรเลย ส่วนใหญ่เป็นเพราะวิดีโอที่ถูกปล่อยออกมา อีกอย่างคุณโดนใส่ร้ายก็เพราะฉัน เรื่องนี้คงไม่เกิดขึ้นถ้าคุณไม่รู้จักฉัน”‘แต่วิดีโอนั่นมาได้ยังไง? เท่าที่ดูกล้องน่าจะถูกแอบติดไว้ในตัวรถ ใครเป็นคนติดตั้งมันไว้ในรถหวาลี่ฟาง? พวกเขามีเป้าหมายที่จะทำอะไร?’หลิงอี้หรานยังไม่มีเบาะแสเรื่องนี้เลยกวอซิ่นหลี่รีบพูดว่า “ไม่เลย ไม่เลย! คุณช่วยได้มากเลยล่ะ ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ ผมคงเครียดตายในคุกไปแล้ว!”หลิงอี้หรานรู้ว่ากวอซิ่นหลี่ไม่อยากให้เธอรู้สึกผิดกับเรื่องนี้เธอไม่ได้พูดอะไรอีกและช่วยกวอซิ่นหลี่จัดการตามขั้นตอนก่อนจะเดินออกมาจากศูนย์กักกันพร้อมเขา“อี้หราน กู้ลี่เฉินฟ้องญาติคุณข้อหาฉ้อโกงจริงเหรอ?” กวอซิ่นหลี่ถาม“น่าจะอย่างนั้นนะ แต่ฉันก็อ่านมาจากข่าวซุบซิบในเน็ตเหมือนกัน ฉันไม่รู้รายละเอียดมาก แล้วก็ไม่ได้คุยกับกู้ลี่เฉินแล้วด้วย” หลิงอี้หรานกล่าว“เป็นเพราะ... คดีของผมเหรอ?” กวอซิ่นหลี่ถามด้วยความรู้สึกที่ค่อนข้างไม่สบายใจ“ไม่ใช่เลย อย่าคิดมาก เขากับฉันก็ไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น” หลิงอี้หรานพูดกวอ
หลิงอี้หรานบอกชื่อโรงพยาบาลกับเธอแล้วพูดว่า “ทำไมไม่ให้ฉันไปรับพี่ตอนนี้เลยล่ะคะ? ยังไงฉันก็ว่างอยู่แล้ว”หลังจากนั้นไม่นานโจวเชียนหยุนก็แปลกใจเล็กน้อยเมื่อรถสีดำปรากฏขึ้นในบริเวณชุมชนที่เธออาศัย บอดี้การ์ดและคนขับรถเดินตามหลิงอี้หรานมา เธอมองหลิงอี้หรานด้วยความงุนงง “นี่คือ...”หลิงอี้หรานพูดว่า “จินเป็นคนจัดการให้ค่ะ ตอนนี้ฉันแต่งงานกับเขาแล้ว และฉันก็ท้องได้สามเดือนแล้วค่ะ”โจวเชียนหยุนเบิกตากว้างและมองเธออย่างประหลาดใจ “เธอ... แต่งงานและท้องแล้ว? กับอี้จิ่นหลีเหรอ?”หลิงอี้หรานตอบว่า “ค่ะ มาสิคะ ขึ้นรถก่อน”โจวเชียนหยุนยังคงมองหลิงอี้หรานอยู่หลังจากที่ขึ้นรถไปแล้ว ราวกับว่าเธอกำลังพยายามย่อยข้อมูลที่เพิ่งได้รับมา ใครจะไปคิดว่าจะมีเรื่องเกิดขึ้นมากมายขนาดนี้ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เจอหน้ากันไม่กี่วัน!“ว่าแต่พี่โจวคะ คดีของพี่จะถูกไต่สวนในศาลในอีกหนึ่งเดือน นอกจากฉันแล้ว ฉันจะหาทนายอีกคนที่เก่งคดีแบบนี้มาเพื่อให้พี่มีโอกาสชนะมากขึ้น แต่ว่า...” หลิงอี้หรานลังเลเล็กน้อย “ฉันก็ไม่แน่ใจว่าฉันจะชนะคดีนี้ได้ไหม แต่ฉันน่าจะจัดการความคิดเห็นของคนทั่วไปได้ และสามารถจัดการคดีนี้กับอาหยันน้อยไม่
อย่างไรก็ตามข่าวดีในวันนี้ก็คือ อาการของเหลียนอีดีขึ้นแล้วและน่าจะย้ายออกจากไอซียูได้ในอีกสองวัน จากนั้นอีกไม่นานเธอก็น่าจะเข้ารับการผ่าตัดครั้งที่สองได้หลิงอี้หรานไปส่งโจวเชียนหยุนหลังจากไปเยี่ยมชินเหลียนอี ถึงอย่างนั้นจู่ ๆ คนขับก็หยุดรถลงเมื่อพวกเขานั่งมาได้ครึ่งทาง หลิงอี้หรานตกตะลึงในทันที ไม่นานหลังจากนั้นเธอก็พบว่ารถของพวกเธอโดนล้อมไว้ด้วยรถคันสีดำเสียแล้วในตอนนั้นร่างหนึ่งก็ลงมาจากรถและเดินตรงมายังรถของหลิงอี้หราน บอดี้การ์ดซึ่งนั่งอยู่ตรงด้านหน้าเองก็ลงจากรถไปเพื่อหยุดกู้ลี่เฉินที่เดินมาถึงประตูรถกู้ลี่เฉินชำเลืองมองบอดี้การ์ดเล็กน้อย คนที่อยู่ข้างหลังเขาตรงเข้ามา และหลายคนก็เริ่มต่อสู้กันแม้ว่าบอดี้การ์ดที่อี้จิ่นหลีส่งมาตามหลิงอี้หรานจะได้รับการคัดเลือกมาอย่างดี แต่เพราะกู้ลี่เฉินมีคนมามากกว่า ดังนั้นคนของหลิงอี้หรานจึงอ่อนกำลังลงในทันทีกู้ลี่เฉินเดินเข้ามาใกล้ประตูรถฝั่งที่หลิงอี้หรานอยู่และเปิดมันออก หลิงอี้หรานมองเห็นใบหน้าหล่อเหลาที่ซีดเซียวของเขา “อี้หราน ผมมีเรื่องอยากพูดกับคุณ” เขาพูดด้วยเสียงแหบแห้งหลิงอี้หรานขมวดคิ้วและพูดว่า “คุณพูดอะไรที่อยากพูดได้นะ แ