หวาลี่ฟางถอนหายใจอย่างโล่งอก ตอน 4 โมง 12 นาที เธอยังแต่หน้าอยู่! แถมเธอยังมีพยานเต็มไปหมดเลยด้วย!“ใครเป็นคนขยับกล้องวงจรปิดครับ?” กู้ลี่เฉินถาม “เรากำลังตรวจสอบเรื่องนั้นอยู่ว่ามีใครในที่เกิดเหตุสังเกตเห็นว่าใครเป็นคนขยับกล้องไหม ถึงอย่างนั้นผมก็เกรงว่ามันอาจต้องใช้เวลานาน เพราะเราต้องหาทางติดต่อกับคนที่อยู่ในบริเวณส่วนนั่งเล่นของห้างสรรพสินค้าในเวลานั้น และตรวจสอบว่าพวกเขาสังเกตเห็นอะไรผิดปกติหรือเปล่า” ตำรวจกล่าว จากนั้นเขาก็พูดถึงเรื่องจ้าวต้าจู้จากคำให้การของจ้าวต้าจู้ วันนั้นเขามาหาหวาลี่ฟาง และหวาลี่ฟางก็บอกให้เขารออยู่ในส่วนนั่งเล่นจ้าวต้าจู้รู้สึกไม่สบายตัวหลังจากนั้นสิบนาที แล้วเขาก็ไม่มีความทรงจำอะไรหลังจากนั้นอีกเลย ผลจากแล็บของโรงพยาบาลออกมาแล้ว และจ้าวต้าจู้ก็โดนวางยาจริง ๆ ซึ่งยาตัวนั้นมีผลกระตุ้นความต้องการทางเพศ ทว่ายาตัวนี้หาซื้อได้ง่ายในอินเทอร์เน็ต ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่จะหาที่มาของมันตำรวจบอกว่า พวกเขายังคงตามสืบเรื่องนี้ต่อไป แต่ก็ยากที่จะได้ผลโดยเร็วเนื่องจากหลักฐานที่ไม่เพียงพอในปัจจุบันหวาลี่ฟางรู้สึกโล่งอกขึ้นมาเมื่อได้ยินเช่นนี้! ตราบใดที่พว
“ผมเกือบจะมาไม่ทันซะแล้ว” เสียงราวกับสายลมยามค่ำคืนดังขึ้นในหูของเธอหลิงอี้หรานหันไปมองและเห็นกู้ลี่เฉินที่ยืนอยู่ด้านหลังเธอ “ทำไมคุณถึงมาขึ้นรถเมล์ล่ะ?” เธอถามด้วยความประหลาดใจ“เพราะผมยังอยากไปส่งคุณกลับบ้านไงล่ะ ในเมื่อคุณไม่ขึ้นรถผม ผมก็จะนั่งรถเมล์ไปกับคุณ” เขากล่าวหลิงอี้หรานตะลึงไป บางทีเพราะเธอไม่คาดคิดเลยว่ากู้ลี่เฉินจะมานั่งรถเมล์ไปพร้อมกับเธอ“จ่ายเงินก่อนโดยสารด้วยครับ” คนขับรถกล่าวเตือนขณะที่ขับรถออกจากป้ายรถเมล์กู้ลี่เฉินคลำกระเป๋ากางเกงตัวเองแล้วดึงแบงก์ร้อยดอลลาร์และกำลังจะเอามันใส่ลงไปในกล่องจ่ายเงินค่าโดยสาร สุดท้ายแล้วแบงก์เล็กสุดที่เขามีก็มีแค่แบงก์นี้เท่านั้น“เดี๋ยวก่อน!” หลิงอี้หรานรีบหยุดกู้ลี่เฉินไว้ “นี่คุณจะใส่แบงก์ร้อยลงไปงั้นเหรอ?”“ก็ผมมีแค่แบงก์ร้อนนี่” กู้ลี่เฉินกล่าวเสียงเบา หลิงอี้หรานเม้มปากเล็กน้อย “ไม่เป็นไร ฉันจ่ายให้คุณเอง เก็บเงินคุณไปเถอะ” พูดจบเธอก็ใช้บัตรโดยสารรายเดือนแตะเครื่องจ่ายเงินค่าโดยสารก่อนจะเดินไปกลางรถตอนนี้ไม่ใช่ชั่วโมงเร่งด่วน และรถก็ค่อนข้างโล่ง แต่ว่าไม่มีที่นั่งเหลือเลยหลิงอี้หรานเจอที่เหมาะ ๆ สำหรับยืนแล้ว เธอ
เขาต้องเลือกทำตามหัวใจของตัวเองเป็นอย่างแรก!หลิงอี้หรานไม่รู้ว่าจะตอบโต้คำพูดของกู้ลี่เฉินอย่างไรไปครู่หนึ่ง และความเงียบก็ปกคลุมระหว่างพวกเขาในตอนนั้นเอง ที่นั่งข้าง ๆ อี้หรานว่างลงเพราะมีผู้โดยสารลุกขึ้นเพื่อลงรถพอดี“คุณจะนั่งลงไหม? หรือคุณอยากจะยืนกับผม?” กู้ลี่เฉินถามหลิงอี้หรานเม้มปากและนั่งลง อย่างน้อยถ้าเธอนั่งลงแล้วเขายืน ระยะห่างระหว่างพวกเขาก็คงไม่ใกล้ชิดกันจนเกินไป และความกดดันก็คงจะไม่ชัดเจนมากเกินไปด้วยทว่าในเวลาต่อมาเธอก็ต้องคืนคำพูดในความคิดก่อนหน้าทั้งหมดไป กู้ลี่เฉินเดินมายังที่นั่งของเธอ เขาวางมือบนที่จับตรงเก้าอี้ ด้วยความสูงของเขาเมื่อเขาทำอย่างนั้นหลังของเขาจึงโน้มลงมาเล็กน้อย และทำให้ดูคล้ายกับว่าเขากำลังกักขังเธอไว้ด้วยแขนของเขาหลิงอี้หรานรู้สึกได้เพียงความอึดอัดพลางก้มหน้าลงมองพื้น เธอพยายามเพิกเฉยต่อกู้ลี่เฉินที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เธอถึงอย่างนั้น อีกหลายป้ายกว่าเธอจะลง อย่างน้อยก็ใช้เวลาตั้ง 40 นาทีเลยนะ! หลิงอี้หรานหลับตาลง และทำเป็นว่างีบหลับไปกู้ลี่เฉินก้มลงมองร่างบางซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ จากมุมที่เขามองแล้ว เขาเห็นผมสีดำ คิ้วโก่งของเธอ ดวงตาท
“ตื่นแล้วเหรอ?” เสียงของกู้ลี่เฉินดังเข้าหูเธอทันทีที่เธอเงยหน้าขึ้น ใบหน้าของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีแดงเรื่อเล็กน้อย เธอตอบปัดและรีบลุกขึ้นจากไปกู้ลี่เฉินลงรถตามเธอมาไม่ว่าหลิงอี้หรานจะเดินช้าหรือเร็วแค่ไหน แต่กู้ลี่เฉินก็ตามเธอไปด้วยความเร็วคงที่และคอยมองจนเธอเดินไปถึงประตูห้องเช่า“ถ้างั้น ผมกลับบ้านเลยแล้วกัน” เขาพูด เขาไม่ได้พยายามจะเข้าไปในห้องเช่า แต่ในตอนที่เขากำลังจะหมุนตัวกลับ เขาก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้จึงพูดขึ้นว่า “ถึงตอนนี้ตำรวจจะหาความจริงของเหตุการณ์ที่ส่วนนั่งเล่นไม่ได้ แต่ผมก็จะสืบเรื่องนี้ต่อไป ไม่ว่าคนคนนั้นพยายามจะใส่ร้ายใคร แต่ผมก็จะหาตัวเขามาและให้ความยุติธรรมกับคุณให้ได้!”หลิงอี้หรานพูดว่า “งั้นคุณก็เชื่อคำพูดของน้องลี่ฟางสินะคะ ว่ามีใครบางคนพยายามจะทำร้ายเธอ และฉันก็เป็นคนที่โชคร้ายไปเจอแทนเธอเพราะเข้าไปในส่วนนั่งเล่นผิดเวลาอย่างนั้นเหรอคะ?”“ผมไม่ได้เชื่อเธอ ผมแค่อยากรู้ความจริง” กู้ลี่เฉินกล่าว“ถ้าคุณได้รู้ความจริงว่าเธอเป็นคนทำ คุณจะส่งเธอให้ตำรวจและทำทุกอย่างให้ถูกต้องเหรอ?” หลิงอี้หรานถามขณะที่มองไปยังกู้ลี่เฉิน ดวงตาของเขาเป็นประกาย ‘ถ้าลี่ฟางท
ลี่เฉินซื้ออพาร์ตเมนต์นี้ให้กับเธอก่อนหน้านี้เธอคิดว่าลี่เฉินดีกับเธอมาก และสามารถซื้อทุกอย่างที่เธอต้องการให้กับเธอได้ทว่าหลังจากเห็นเขากับหลิงอี้หราน เธอพบว่าเมื่อผู้ชายคนหนึ่งต้องการจะทำดีกับผู้หญิงคนหนึ่ง มันไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องของวัตถุเลย แต่เป็นความอ่อนโยนที่ออกมาจากภายใน ที่ทำให้ผู้คนรู้ได้ทันทีว่าผู้ชายคนหนึ่งสนใจในตัวผู้หญิงคนนั้นและตอนนี้กู้ลี่เฉินสนใจหลิงอี้หรานมาก!หลิงอี้หรานเป็นใครถึงจะมาขโมยลี่เฉินไปจากเธอ?เธอไม่รู้ว่าทำไมลูกพี่ลูกน้องที่จำได้ทุกอย่างถึงเลือกที่จะไม่พูดเรื่องนั้นออกมา ในเมื่อเธอเลือกที่จะไม่พูดมันออกมา ถ้าอย่างนั้นเธอก็ไม่ควรเข้าใกล้ลี่เฉินสิ! แถมเธอยังทำให้ลี่เฉินตกหลุมรักอีก!เมื่อลิฟต์มาถึงชั้นที่เธออยู่ หวาลี่ฟางก็เปิดประตูและเดินเข้าไป แต่ก่อนที่เธอจะปิดประตูร่างหนึ่งก็พุ่งเข้ามาในบ้านของเธอจากนั้นประตูก็ปิดลง!หวาลี่ฟางกำลังจะกรี๊ดออกมา แต่ในวินาทีต่อมาเสียงของเขาก็หยุดเธอไว้“คุณหวา นี่คุณลืมฉันเร็วขนาดนี้เลยเหรอ? ฉันคือคนที่ช่วยคุณขยับกล้องไง!” เขาพูดหวาลี่ฟางขนลุกซู่ นี่คือเสียงของ... แม่บ้านที่เธอจ้างมาเหรอ? ถึงอย่างนั้น... คนต
เมื่อได้ยินอย่างนี้ดวงตาของหวาลี่ฟางก็เป็นประกายขึ้นมาในทันใด “เธอมีวิธีเหรอ?”“ถ้าไม่มีฉันก็คงไม่มาหรอก เธอไม่ได้อยากเป็นคุณนายกู้คนต่อไปหรอกเหรอ? แต่แย่หน่อยนะที่ตอนนี้กู้ลี่เฉินดันไปตกหลุมรักหลิงอี้หรานซะแล้ว เธอคงจะไม่โอกาสแล้วล่ะ!” หลิงลั่วอินกล่าวหวาลี่ฟางไม่ใช่คนโง่ เธอถามทันทีว่า “ทำไมเธอถึงช่วยฉัน?”“เงิน ฉันอยากได้เงิน และหลิงอี้หรานก็เป็นตัวปัญหาขวางหูขวางตาฉันมานานแล้ว” หลิงลั่วอินกล่าว ถ้าไม่ใช่เพราะหลิงอี้หราน มีหรือเธอและครอบครัวของเธอจะตกอยู่ในสภาพแบบตอนนี้?พ่อแม่ของเธอออกจากเมืองเฉินไปทำงานที่เมืองอื่นเพื่อหาเลี้ยงชีพ ในขณะที่เธออยู่ที่นี่ต่อและทำงานรับจ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ แม้แต่งานทำความสะอาดก็ไม่ใช่งานประจำ เธอเพียงถูกเรียกมาทำงานแทนลูกจ้างที่ป่วยก็เท่านั้นถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่คิดว่าจะบังเอิญเจอหวาลี่ฟางและได้รับ ‘สินบน’ ด้วยหวาลี่ฟางขมวดคิ้ว อย่างไรเสีย ก่อนหน้านี้เธอก็เพิ่งโดนจ้าวต้าจู้แบล็คเมล์ไป นี่เธอจะโดนหลิงลั่วอินแบล็คเมล์อีกด้วยอย่างนั้นเหรอ?“แล้วยังไง? นี่เธออยากได้ผลแต่ไม่อยากลงแรงงั้นสิ?” หลิงลั่วอินมองไปที่เธอด้วยสายตาเย้ยหยัน “ฉันจะร่วมมือกับเธอ
เช้านี้เมื่อหลิงอี้หรานมาถึงสำนักงานทนายความ สิ่งที่เธอเห็นมีเพียงสายตาแปลก ๆ และเสียงซุบซิบจากบรรดาเพื่อนร่วมงานทว่าเมื่อเธอมองไปยังพวกเขา เพื่อนร่วมงานของเธอก็หยุดพูดคุยกันหลิงอี้หรานหรี่ตา ‘เกิดอะไรขึ้น? เกี่ยวกับฉันเหรอ?’สิ่งที่ตลกกว่าคือเมื่อเธอไปยังห้องชงกาแฟ เพื่อนร่วมงานจอมซุบซิบในสำนักงานก็พูดกับเธอว่า “อี้หราน ดีใจด้วยนะ! ดูเหมือนว่าช่วงลำบากของเธอกำลังจะจบลงในเร็ว ๆ นี้ รวยแล้วก็อย่าลืมพวกเรานะ!”“มีอะไรต้องดีใจด้วยเหรอ?” หลิงอี้หรานถาม ถึงอย่างนั้น ผู้หญิงคนนั้นก็มองเธอด้วยสายตาที่ว่า ‘เธอก็รู้ ฉันรู้น่า’ และเม้มปากเป็นรอยยิ้ม “อย่ามาทำเป็นไม่รู้หน่อยเลย ตอนนี้ทั้งอินเทอร์เน็ตเขารู้กันหมดแล้วและทุกคนก็อิจฉาเธอด้วย! แต่ว่าข้างนอกนั่นมีผู้หญิงหลายคนจับตาดูเจ้าชายอยู่นะ เธอน่ะ ก็ต้องระวังตัวไว้!”หลิงอี้หรานไม่รู้ว่าอีกฝ่ายพูดเรื่องอะไร แต่เรื่องนี้ดูเหมือนว่าจะเกี่ยวข้องกับกู้ลี่เฉินแน่นอนแต่ก่อนที่หลิงอี้หรานจะได้ถามอะไรมากไปกว่านั้น อีกฝ่ายก็ออกไปจากห้องชงกาแฟแล้ว ‘ในเน็ตเหรอ?’ หลิงอี้หรานคิดอยู่ครู่หนึ่ง เธอกำลังจะหยิบมือถือออกมาไล่ดูในอินเทอร์เน็ต แต่กลับมีอ
ในเมื่อเป็นแบบนี้ คงจะเป็นการดีกว่าที่จะเริ่มโจมตีและทำให้พวกเขากลัวบ้าง!ใบหน้าของกวานลี่หลี่เปลี่ยนเป็นซีดจัด หลิงอี้หรานยังคงกล่าวต่อไปว่า “ก็เหมือนที่เธอพูด ฉันไต่เต้ากู้ลี่เฉินขึ้นไปก็ได้ ถึงฉันจะเป็นคนในตระกูลกู้ไม่ได้ แต่แค่ขอให้กู้ลี่เฉินจัดการเธอก็คงไม่ยากเท่าไหร่”กวานลี่หลี่กัดฟันแน่นเพราะไม่สามารถยอกย้อนกลับไปได้ มันเป็นเรื่องจริง หากหลิงอี้หรานอยากให้กู้ลี่เฉินจัดการเรื่องนี้ก็สามารถทำได้อย่างง่ายดายสิ่งที่กู้ลี่เฉินทำให้หลิงอี้หรานได้ในตอนนี้ เป็นสิ่งที่หลิงอี้หรานไม่ต้องขออะไรจากเขาเลยด้วยซ้ำ เธอแค่ส่งคลิปบันทึกเสียงไปให้กู้ลี่เฉิน แล้วกู้ลี่เฉินก็จะเป็นคนจัดการเองกวานลี่หลี่ตัวสั่นเมื่อนึกถึงเรื่องนี้ สถานการณ์เธอก็ไม่ค่อยดีอยู่แล้ว ถ้ากู้ลี่เฉินมาจัดการเธออีก มีหวังเธอคงอยู่ในเมืองเฉินไม่ได้อีกต่อไปหลิงอี้หรานไม่สนใจกวานลี่หลี่อีก และเดินออกมาจากห้องชงกาแฟพร้อมด้วยกาแฟสำเร็จรูปในมือทันทีที่เธอกลับมายังที่นั่งของตัวเอง ข้อความจากชินเหลียนอีก็เด้งขึ้นมาใน WeChat ของเธอ หลิงอี้หรานเปิดดูข้อความใน WeChat ซึ่งมาจากเพื่อนสนิทของเธอชินเหลียนอี : [อี้หราน เธอคบกับก