เขายิ้มบาง ๆ “ผมกับท่านเคยคุยกันราบรื่นด้วยเหรอครับ? ในตระกูลไป๋ก็มีแค่ท่านนี่แหละ ที่อยากให้ผมตายมากที่สุด” ชินเหลียนอีคิดเรื่องนั้น ‘ก็จริง ตอนนี้ไป๋ทิงซินเป็นคนดูแลตระกูลไป๋อยู่ ดังนั้นคุณนายใหญ่และครอบครัวของเธอจึงโกรธจนอกจะแตกตายเป็นธรรมดา’“พวกเขาเป็นคนที่ทำให้คุณกับเกาจิ้งหรงเจอกันวันนี้ พวกเขาอยากจะหาโอกาสจัดงานแต่งงานระหว่างตระกูลไป๋และตระกูลเกาเพื่อที่พวกเขาจะได้กลับมามีสิทธิ์และอำนาจในตระกูลไป๋อีกครั้ง” ไป๋ทิงซินกล่าวชินเหลียนอีกะพริบตา “แต่ถ้าเขาจะใช้ตระกูลเกามาสู้กับคุณ ทำไมพวกเขาถึงไม่ให้เกาจิ้งหรงแต่งกับพี่น้องต่างแม่ของคุณล่ะคะ?”“เกาจิ้งหรงก็แค่เครื่องสังเวยเท่านั้นแหละครับ” ไป๋ทิงซินกล่าว“เครื่องสังเวยเหรอคะ?” ชินเหลียนอีงุนงง “เกาจิ้งหรงไม่ใช่ลูกสาวตระกูลเกาหรอกเหรอคะ?” “เธอเป็นลูกสาวตระกูลเกาก็จริง แต่เธอก็แค่เด็กที่ตระกูลเการับเข้ามาเลี้ยงเพราะเข้าใจผิดน่ะ ตระกูลเกาหาลูกสาวตัวจริงที่หายไปเจอแล้ว พวกเขาแค่ไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการเท่านั้น แม้แต่ตัวเกาจิ้งหรงเองก็ยังไม่รู้เรื่องนี้”ดวงตาของชินเหลียนอีเบิกกว้างขึ้นในทันที ‘ไม่มีทาง ล้อกันเล่นหรือปล่าเนี่
เธอกลอกตามองเขา “คุณคิดว่าไงล่ะ? ถ้าโดนกัดเองบ้างจะได้รู้”เขากล่าวว่า “ได้สิ ถ้าอยากกัดผมก็กัดเลย”ชินเหลียนอีถลึงตา ‘ไม่มีทาง เขาจะให้ฉันกัดเขาเหรอ?’ถึงอย่างนั้นถ้าเธอต้องกัดเขาก็ดูเหมือนว่า... เธอจะทำไม่ได้! ชินเหลียนอีมองไปยังใบหน้าตรงหน้าเธอที่เรียกได้ว่างดงามรูปลักษณ์ของเขาดูเป็นกลางมากกว่า แต่ก็ไม่ถึงกับหวานแบบผู้หญิง รายละเอียดบนใบหน้าของเขาชัดเจนยิ่งขึ้นเมื่อเธอมองเขาในระยะใกล้เช่นนี้ ใกล้จนเธอแทบจะนับขนตาที่ขยับไปมาเล็กน้อยของเขาได้ เขาช่าง... เย้ายวนใจเสียจริง!ชินเหลียนอีอดไม่ได้ที่จะยื่นปากออกไปจูบและเลียเขาเธอไม่อยากกัดเขา เพราะอย่างนั้นจึงออกมาเป็นเช่นนี้ไป๋ทิงซินตัวสั่น ริมฝีปากบางของเขาอ้าออกเล็กน้อยและกล่าวด้วยเสียงแหบพร่าว่า “คุณไม่ได้จะกัดเหรอ?”“คุณงดงามขนาดนี้ ฉันทนทำแบบนั้นไม่ได้หรอก!” ชินเหลียนอีกล่าวขณะที่แทบจะขึ้นคร่อมเขาและจูบเขาไม่หยุด“เหลียนอี...” เขาพึมพำในลำคอ น้ำเสียงของเขาแหบพร่าเสียงยิ่งกว่าเดิม “ถ้า... ถ้าคืนนี้คุณยังอยากกลับบ้านอยู่ก็หยุดเถอะ”“งั้นฉันไม่กลับ” เธอพูดและวางแขนโอบรอบคอของเขาราวกับว่าไม่อยากจากเขาไปในคืนนี้เธออยากจะอยู่
“เรา... เราควรจะแต่งงานกัน แต่ว่า... คุณไม่คิดว่ามันเร็วไปเหรอคะ?” ชินเหลียนอีกล่าวตะกุกตะกัก อย่างไรมันก็แค่สามเดือน ที่เธอจะเปลี่ยนจากหญิงโสดไปเป็น... ผู้หญิงที่แต่งงานแล้วทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก!“เหรอครับ?” เขาพึมพำ ดวงตาของเขาลุ่มลึกยิ่งขึ้น “แต่มันช้าไปสำหรับผมนะ ตั้งแต่ที่คุณกดผมในคืนนั้น ผมก็คิดไว้ว่าจะทำให้คุณกลายเป็นภรรยาในสักวัน” เขาเป็นคนจริงจัง และถ้าเขาไม่ต้องการจะอยู่กับผู้หญิงคนนี้ไปตลอดชีวิต เขาคงไม่ยอมให้เธอทำแบบนั้นกับเขาแล้วมีคืนอันเร่าร้อนกับเธอแน่ดังนั้นสำหรับเขาแล้ว มันไม่ได้เร็วเลย และออกจะช้าไปด้วยซ้ำที่เขารอจนถึงวันนี้ถึงได้ขอเธอแต่งงาน! ใบหน้าของชินเหลียนอีเปลี่ยนเป็นสีแดง และเธอก็มองไปยังไป๋ทิงซิน เธอสูดลมหายใจเข้าลึกและกุมหน้าไว้ราวกับกำลังตัดสินใจแล้วพูดอย่างจริงจังว่า “ตกลงค่ะ เราจะแต่งงานกันในอีกสามเดือน!”พูดจบเธอก็จูบปากเขา!ไม่ว่าในอนาคตอะไรจะเกิดขึ้น แต่พวกเขาก็จะกุมมือกันและกันไว้จนแก่เฒ่าไปด้วยกัน … ค่ำคืนอันมืดมิด เกาฉงหมิงยืนอยู่หน้าประตูห้องเลือดกระเซ็นพลางมองไปยังประตูห้องที่ปิดอยู่ด้วยความกังวลเล็ก ๆนายน้อยอี้อยู่ในห้องนี้มาตล
คฤหาสน์นี้จะต้องถูกปิดตายเพื่อให้สิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่ตายไปจากความทรงจำของเขา และเขาก็จะไม่นึกถึงมันอีก!อี้จิ่นหลียกเท้าและก้าวไปยังประตูทางเข้าคฤหาสน์เขาจะไม่กลับมาเหยียบที่นี่อีก! ทั้งความหวังและความสิ้นหวังของเขาเกิดขึ้นในคฤหาสน์แห่งนี้ และมันก็จะกลายเป็นสิ่งต้องห้ามตั้งแต่นี้ไป เหมือนกับที่ผู้หญิงซึ่งครั้งหนึ่งเขาเคยเรียกเธอว่า ‘พี่สาว’ ก็ได้กลายเป็นสิ่งต้องห้ามเช่นกัน! ...การมาที่บริษัทของหวาลี่ฟางทำให้หลิงอี้หรานค่อนข้างแปลกใจแต่หวาลี่ฟางมาหาทนายกู้เพื่อขอคำแนะนำด้านกฎหมายและเธอก็ขอให้ทนายกู้ช่วยจัดการกับเรื่องการหมิ่นประมาท เธอบอกว่าเธออยากฟ้องพวกชาวเน็ตที่ชอบคอมเมนต์มุ่งร้ายแก่เธอ ทนายกู้ปฏิเสธเรื่องธุรกิจไม่ได้ อีกทั้งหวาลี่ฟางยังจะจ่ายให้เขาอย่างงามด้วยหลังจากคุยธุระที่เธอต้องการแล้ว หวาลี่ฟางก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ฉันว่าจ้างบริษัทของคุณให้ทำคดีนี้ก็เพราะอี้หรานลูกพี่ลูกน้องของฉันที่ทำงานที่นี่ค่ะ ฉันรู้สึกว่าสามารถมอบหมายงานให้คุณได้ แล้วในขณะเดียวกันฉันก็รู้สึกวางใจได้ด้วยค่ะ”ทนายกู้ตอบรับอย่างสุภาพไปสองสามคำตอนที่หวาลี่ฟางกำลังจะกลับ ทนายกู้ก็กล่าวว่า “อี
จ้าวต้าจู้มองหวาลี่ฟางอย่างไม่พอใจและกล่าวว่า “ไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก! พูดถึงเรื่องนี้แล้ว เธอดูดีกว่าแต่ก่อนนะ ดูเหมือนกู้ลี่เฉินจะเต็มใจให้เงินเธอใช้ไม่ขาดเลยสิ”“แกต้องการอะไร?” หวาลี่ฟางถามอย่างขุ่นเคือง พวกเขาหย่ากันแล้ว แต่สองสามวันก่อนนี้จ้าวต้าจู้ก็ขอเงินไปจากเธอ เขาบอกว่าถ้าเธอไม่จ่าย เขาก็จะโพสต์รูปเก่า ๆ ของเธอให้ชาวเน็ตได้เห็นว่าเมื่อก่อนเธอเป็นอย่างไรในรูปภาพพวกนั้นเธอเคยขี้เหร่และไร้รสนิยม และบางรูปก็เป็นรูปเมื่อก่อนตอนที่เธอถ่ายกับจ้าวต้าจู้ในสภาพที่สนิทสนมด้วย!ถ้ารูปพวกนั้นว่อนไปในโลกออนไลน์ ลืมเรื่องที่ลี่เฉินจะมีท่าทีอย่างไรเมื่อเห็นมันไปได้เลย เพราะแค่รูปพวกนั้นก็เป็นเหมือนความลับสุดยอดในชีวิตของเธอแล้ว และถ้ามันถูกเผยแพร่ไปเธอก็จะกลายเป็นคนดังในชั่วข้ามคืนดังนั้นเธอจึงต้องซื้อรูปพวกนั้นจากเขาเธอคิดว่ามันจบไปแล้ว แต่จ้าวต้าจู้ก็ยังคงปรากฏตัวและขอเงินจากเธอ แต่ละครั้งเขาจะเอารูปให้เธอทีละรูปสองรูป และไม่ยอมมอบให้เธอทั้งหมดในคราวเดียว“ขึ้นอยู่กับว่าเธอให้ฉันได้เท่าไหร่” จ้าวต้าจู้พูดเหมือนเป็นตัวร้ายหวาลี่ฟางอึกอักและพูดว่า “งั้น 50 ล้าน แล้วเอาให้ฉันทุกรูปท
ความริษยาปรากฏวาบขึ้นในดวงตาของคงจื่ออินขณะที่เธอมองโจวหยันซึ่งยืนอยู่ข้างโจวเชียนหยุน เธอไม่เคยคิดเลยว่าโจวเชียนหยุนจะสามารถให้กำเนิดเด็กคนหนึ่งในคุกได้!ในขณะเดียวกันนั้น เธอก็สูญเสียความสามารถในการตั้งครรภ์ไป และตอนนี้ยังโดนบังคับให้เลี้ยงลูกของโจวเชียนหยุนด้วย คงจื่ออินกล่าวว่า “เชียนหยุน ไม่เจอกันนานเลยนะ ฉันได้ยินเหวินหมิงบอกว่า อาหยันน้อยเป็นลูกเขา ถ้าอย่างนั้นแล้วฉันจะดูแลอาหยันน้อยเป็นลูกของฉันเอง!”ขณะที่คงจื่ออินพูด เธอก็ทำท่าทางชี้ไปยังคนขับรถด้านหลังเธอซึ่งตอนนี้กำลังถือของเล่นเด็กหลายชิ้นไว้ในมือ“นี่เป็นของเล่นที่ฉันเตรียมไว้ให้อาหยันน้อย ฉันไม่รู้ว่าพวกเธออยู่ที่ไหน ฉันก็เลยต้องเอามาให้เธอที่นี่” รอยยิ้มสุภาพปรากฏขึ้นบนมุมปากของคงจื่ออินขณะที่เธอพูด ถึงอย่างนั้นโจวเชียนหยุนก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่นเมื่อเห็นรอยยิ้มนั้นตอนนั้นคงจื่ออินก็ส่งรอยยิ้มสุภาพเช่นนี้ให้เธอ แต่เพียงพริบตาเดียวคงจื่ออินก็แสดงละครฉากตกลงบันไดไปแล้ว แล้วครั้งนี้คงจื่ออินคิดจะทำอะไรอีกล่ะ?โจวเชียนหยุนดึงลูกชายให้หลบหลังเธอโดยอัตโนมัติ“เธอจะทำอะไร?” โจวเชียนหยุนถามพลางตั้งท่าป้องกัน “ฉันจะ
เพราะว่าเขาเข้าใจ เขาเลยโกรธน่ะสิ!ในการ์ตูนพวกคนที่เข้าคุกก็มีแต่คนไม่ดีทั้งนั้น แม่ของเขาเป็นคนที่ดีที่สุดในโลก แล้วเธอจะเป็นคนไม่ดีได้อย่างไร?คงจื่ออินมองไปยังอาหยันน้อยด้วยความรังเกียจที่แฝงเร้นในแววตา โดยเฉพาะเมื่อดวงตาของเด็กชายดูเหมือนกับโจวเชียนหยุนไม่มีผิด“ถามแม่เธอดูสิ จะได้รู้ว่าเธอเคยเข้าคุกจริงหรือเปล่า” สายตาของคงจื่ออินหยุดลงบนใบหน้าซีดขาวของโจวเชียนหยุนขณะที่พูดด้วยความจริงใจอันจอมปลอมว่า “เชียนหยุน เธอไม่ได้โกหกลูกใช่ไหม?”หัวใจของโจวเชียนหยุนรู้สึกราวกับถูกทิ่มแทง ริมฝีปากของเธอสั่นขณะมองไปยังใบหน้าอ่อนเยาว์ของลูกชาย เขากำลังร้องขอคำตอบที่ไม่รู้จะตอบอย่างไร “ดูเหมือนคุณคงจะว่างมากจริง ๆ นะคะเนี่ย!” หลิงอี้หรานเดินเข้าไปหาโจวเชียนหยุนและพูดกับคงจื่ออิน “คุณคง ก่อนหน้านี้คุณส่งอันธพาลเจ้าถิ่นไปสร้างปัญหาที่แผงขายของของพี่โจวเยอะเลยนี่ ฉันสงสัยจังว่าตระกูลคงสมรู้ร่วมคิดกับแก๊งอาชญากรพวกนี้ด้วยหรือเปล่า? เขากำลังปราบปรามแก๊งพวกนี้กันอยู่ หวังว่าตระกูลคงจะไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมายนะคะ ไม่งั้นวันหนึ่งอาจมีใครได้เข้าไปนอนในคุกเอาได้นะคะ”ในทันใดนั้นใบหน้าของคงจื่ออินก็ซ
อาหยันน้อยถามออกมาด้วยความสับสน “ผู้หญิงคนนั้นเป็นคนไม่ดีเหรอฮะ? ไม่อย่างนั้นทำไมเธอต้องพูดว่าแม่และคุณน้าเคยอยู่ในคุกด้วย?”โจวเชียนหยุนไม่รู้ว่าจะอธิบายลูกชายของเธออย่างไรดีหลิงอี้หรานย่อตัวนั่งลงและลูบหัวเจ้าตัวน้อย “ถึงใครบางคนจะเคยเข้าคุก แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเขาเป็นคนไม่ดีนะ ดูน้าสิหยันน้อย น้าเองก็เคยเข้าคุกมาเหมือนกัน แต่มีคนไม่ดีใส่ร้ายน้า แล้วกระบวนการทางกฎหมายก็มอบความยุติธรรมให้กับน้าและจับคนร้ายตัวจริงได้ในที่สุด”เจ้าตัวน้อยเข้าใจได้ครึ่งหนึ่ง และถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกเมื่อหลิงอี้หรานบอกว่าผู้ร้ายตัวจริงถูกจับแล้ว“คุณแม่ล่ะฮะ? คุณแม่ก็โดนคนไม่ดีใส่ร้ายด้วยหรือเปล่า?” เจ้าตัวน้อยหันหน้าไปมองแม่ของเขาโจวเชียนหยุนสูดลมหายใจเข้าลึก เรื่องบางเรื่อง ถึงเธอพยายามจะหลีกเลี่ยงมากแค่ไหน แต่สุดท้ายก็ต้องเผชิญหน้ากับมันอยู่ดี‘นี่เป็นเพียงเรื่องที่ต้องเผชิญหน้าให้เร็วขึ้นก็เท่านั้น’ เธอบอกตัวเอง“อาหยันน้อย แม่ไม่ได้ทำอะไรที่ไม่ถูกต้อง แม่มีจิตสำนึกที่ดี และสิ่งที่ผู้หญิงคนนั้นพูดทั้งหมดไม่ใช่เรื่องจริงเลย แม่ไม่เคยทำร้ายเธอ” โจวเชียนหยุนกล่าวเธอไม่อยากลากเด็กเข้ามายุ่งก