ในเวลานี้เอง อวี๋เซียงก็กลับมาแล้ว "ท่านเจ้าเมืองมาถึงแล้วเจ้าค่ะ"แม้ว่าเมื่อกี้ซ่งอวี่เอ๋อร์จะไม่ให้ไปรายงานเจ้าหน้าที่ แต่อวี๋เซียงก็ยังคงไปซ่งอวี่เอ๋อร์เตรียมตัวมาอย่างดี อวี๋เซียงก็ถูกคนรับใช้ที่นางจัดไว้ที่ประตูขวางไว้ แต่อวี๋เซียงมีทักษะการต่อสู้ หลังจากตีสองคนนั้นสลบแล้วก็จากไปตอนนี้ซ่งอวี่เอ๋อร์มองไปที่คนรับใช้สองคนที่ยืนอยู่ข้างๆ อวี๋เซียงที่มีใบหน้ารอยฟกช้ำ ทั้งโกรธทั้งตื่นตระหนก"ข้าได้รับรายงานว่ามีพวกอันธพาลจุดไฟเผาจวนเจิ้นเป่ยโหว จนเกือบจะฆ่าคนตาย เกิดอะไรขึ้นกันแน่ขอรับ?"ท่านเจ้าเมืองคือเฉินเจียง ผู้มีชื่อเสียงในเรื่องความยุติธรรมของเมืองหลวง"ใต้เท้าเฉิน ข้าชื่อซ่งสีเหยาเจ้าค่ะ อวี๋เซียงที่ไปรายงานเรื่องต่อท่านเมื่อกี้เป็นสาวใช้ของข้าเจ้าค่ะ" ซ่งซือเหยาออกไปทักทายเฉินเจียงพอเฉินเจียงเห็นซ่งซือเหยา ก็นึกถึงพ่อและพี่ชายของนางที่เสียสละในสนามรบ เขาก็นึกถึงเฉินเหอน้องชายแท้ๆ ของเขาที่เสียสละในสนามรบเช่นกันเฉินเหอก็เป็นญาติเพียงคนเดียวของเขา เขาเหมือนกับซ่งซือเหยา ตอนนี้ล้วนอยู่ตัวคนเดียว"ใต้เท้าเฉิน ดึกขนาดนี้แล้วยังลำบากให้ท่านวิ่งมาอีก เรื่องเล็กน้อยแบบนี้
"ใต้เท้าเฉิน ฆาตกรจะไม่ใช่นางได้อย่างไรเจ้าคะ? มีแต่นางที่เกลียดข้าเข้ากระดูกดำ แทบรอไม่ไหวที่จะทำให้ข้าตายเจ้าค่ะ!"ซ่งอวี่เอ๋อร์รู้สึกกังวล ขัดจังหวะเฉินเจียงเฉินเจียงมองไปที่ซ่งอวี่เอ๋อร์แล้วพูดว่า "คุณหนูสามตระกูลซ่ง เจ้าอธิบายให้ข้าฟังหน่อยว่า หอบรรพบุรุษถูกเผาจนเป็นแบบนี้แล้ว ทำไมเจ้าถึงไม่ได้รับบาดเจ็บเลย?"ซ่งอวี่เอ๋อร์อธิบายว่า "ตอนที่เราซ่อนตัวอยู่ข้างในไฟยังไม่ลุกลามไปถึงที่นั่น ต่อมาก็ได้รับการช่วยเหลือแล้วเจ้าค่ะ บางทีอาจจะเพราะข้าเป็นคนดี พระเจ้าจึงทนไม่ได้ที่จะเห็นข้าได้รับบาดเจ็บน่ะเจ้าคะ"นางมองไปที่ซ่งซือเหยา "พี่สอง ข้าแนะนำให้พี่เป็นคนดี พี่ดูสิ แม้แต่พระเจ้าก็ยังไม่ช่วยพี่"ซ่งซือเหยาเลิกคิ้วแล้วพูดว่า "ถ้าข้าอยากจะจัดการเจ้าจริงๆ ต้องให้พระเจ้าช่วยข้าทำไม""เจ้า!" ซ่งอวี่เอ๋อร์มองไปที่เฉินเจียง "ใต้เท้าเฉิน ท่านเห็นไหมเจ้าคะ นางเป็นฆาตกร เมื่อกี้ท่านได้ยินไหมเจ้าคะ นางบอกว่านางจะจัดการข้าเจ้าค่ะ"เฉินเจียงขมวดคิ้ว "คุณหนูสามตระกูลซ่ง เจ้าไม่ได้เป็นคนหาเรื่องเองเหร?""ข้า...""เอาล่ะ ข้ามีวิจารณญาณของตัวเอง คุณหนูสามตระกูลซ่ง อย่าพูดอะไรที่ไม่เกี่ยวข้องกั
"ไม่ใช่อย่างนั้นนะเจ้าคะ คุณหนูสาม ท่านเป็นคนสั่งข้าน้อยเอง..." เพียะ!ซ่งอวี่เอ๋อร์ตบเฉียจื่ออีกครั้ง "เฉียจื่อ เจ้าหยุดแก้ตัวได้แล้ว รอให้พวกเขาหาผ้าออกมาจากห้องเจ้าแล้วค่อยอธิบายมันก็สายเกินไปแล้ว เจ้าไม่สนใจความเป็นตายของตัวเอง ก็ต้องคิดถึงแม่เจ้าบ้าง แม่เจ้ามีเจ้าเป็นลูกสาวคนเดียวนะ ถ้าเจ้าเป็นอะไรไป แม่เจ้าก็จะอยู่ไม่ได้นะ""คุณหนูสามตระกูลซ่ง เจ้ากำลังชักจูงให้สารภาพ!" เฉินเจียงไม่พอใจอย่างมาก"ข้าพูด ข้าจะสารภาพ" เฉียจื่อรู้จักนิสัยของซ่งอวี่เอ๋อร์ดี หากนางกล้าพูดความจริง ทั้งนางและแม่ของนางก็จะไม่รอด"ข้าเป็นคนปักกระเป๋าเงิน ข้าเป็นคนจุดไฟเผาเอง ข้าเกลียดคุณหนูสอง ตราบใดที่คุณหนูสามเป็นอะไรไป ทุกคนจะสงสัยคุณสองแน่นอน ข้าต้องการแก้แค้นนาง"ซ่งอวี่เอ๋อร์ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย นางจับจุดอ่อนของเฉียจื่อได้สำเร็จนางหันไปมองซ่งซือเหยา "พี่สอง เมื่อกี้ข้าปรักปรำพี่แล้ว เป็นเพราะสถุลนี่คนเดียว นางเป็นคนยุแยงตะแคงรั่ว ทำลายความสัมพันธ์ของเราสองพี่น้อง""น้องสาม เรื่องที่เฉียจื่อปักกระเป๋าจุดไฟเผาเป็นเรื่องจริง แต่เจ้าต่างหากที่เป็นผู้บงการที่แท้จริง ไม่งั้นไฟแรงขนาดนั้น เจ้าจะเตรี
พอสิ้นเสียงของเฉินเจียง พนักงานศาลก็ก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว เฉียจื่อไม่กล้าต่อต้าน ได้แต่ยอมจำนนอย่างเชื่อฟัง การไปศาลครั้งนี้นางไม่ตายก็ต้องเกือบตาย ไม่มีทางปรากฏตัวที่จวนเจิ้นเป่ยโหวอีกซ่งอวี่เอ๋อร์ตื่นตระหนกเมื่อเห็นพนักงานศาลที่หยาบคาย นางคว้าแขนของขุนนางซ่งแล้วพูดว่า "ท่านพ่อ ช่วยลูกด้วยเจ้าค่ะ ลูกจะโดนจับไปศาลไม่ได้นะเจ้าคะ"นางเป็นผู้หญิงที่มีความสามารถมากที่สุดในเมืองหลวง เป็นแบบอย่างของกุลสตรี หากนางถูกพาไปศาล ชื่อเสียงเหล่านี้ก็จะไม่เหลือแน่นอนจากนี้ไปนางจะกลายเป็นตัวตลกของทุกคน"ใต้เท้าเฉิน ลูกสาวข้ายังเด็กไม่รู้เรื่อง อารมณ์ชั่ววูบขอรับ เป็นเรื่องปกติที่พี่น้องจะทะเลาะกัน ข้าว่าไม่ต้องไปศาลก็ได้มั้งขอรับ ท่านวางใจได้ อยู่ที่บ้านข้าก็จะลงโทษนางอย่างหนักขอรับ"ขุนนางซ่งตำหนิซ่งอวี่เอ๋อร์ "อวี่เอ๋อร์ ยังไม่รีบขอโทษพี่สองเจ้าอีก! ขอให้พี่สองยกโทษให้เจ้า"ซ่งอวี่เอ๋อร์รู้ว่าขุนนางซ่งกำลังช่วยเหลือนาง แม้ว่านางจะไม่เต็มใจอย่างยิ่ง แต่นางก็ต้องก้มหัว"พี่สอง ขอโทษเจ้าค่ะ ข้าไม่ควรเอาแต่ใจขนาดนี้ ระหว่างพี่น้องไม่มีความบาดหมางกันข้ามคืน ข้าสัญญาว่าต่อไปจะทำดีกับพี่ ขอให
"ข้าไม่ไป ปล่อยข้านะ ซ่งซือเหยา พี่สอง ช่วยข้าด้วย!" ซ่งอวี่เอ๋อร์ตะโกน "ถ้าพี่ไม่ช่วยข้าจะถูกคนนับหมื่นดูหมิ่น ข้าจะไม่ปล่อยพี่ไปแน่นอน!""ซ่งซือเหยา อวี่เอ๋อร์เป็นน้องสาวเจ้า เจ้าทำลงคอได้ยังไง? เจ้าทำร้ายน้องสาวเจ้าแบบนี้ไม่กลัวโดนฟ้าผ่าตายเหรอ?" ฮูหยินผู้เฒ่าซ่งสาปแช่งด้วยความโกรธ"ซ่งซือเหยา พ่อแม่เจ้าอยู่บนสวรรค์รู้ว่าเจ้าชั่วร้ายขนาดนี้จะต้องไม่สงบสุขแน่! เจ้าทำให้จวนเจิ้นเป่ยโหวขายหน้า ข้าจะไล่เจ้าออกจากบ้านและลบชื่อของเจ้าออกจากลำดับวงศ์ตระกูล!" ขุนนางซ่งขู่ด้วยเสียงเย็นชา"ซ่งซือเหยา..."ไม่รอให้ซ่งเหวินหวู่พูดจบ เฉินเจียงก็พูดอย่างเคร่งขรึมว่า "ใต้เท้าซ่ง ฮูหยินผู้เฒ่าซ่ง พวกท่านกำลังขัดขวางการดำเนินคดีของท่านเจ้าเมือง อยากจะไปศาลด้วยกันเหรอ?"ฮูหยินผู้เฒ่าซ่งกับขุนนางซ่งหุบปากทันที"คุณหนูสองตระกูลซ่ง หากมีใครคุกคามความปลอดภัยส่วนตัวของเจ้า เจ้ามาศาลได้ตลอดเวลา ข้าจะดูว่าบ้านเมืองมีกฎหมายใครจะกล้าทำผิด!"เฉินเจียงสนับสนุนซ่งซือเหยาอย่างเปิดเผย"ขอบคุณใต้เท้ามากเจ้าค่ะ"ซ่งซือเหยาทำความเคารพ ในเวลานี้เฉินเจียงยังไม่รู้ว่าความยุติธรรมและการปกป้องซ่งซือเหยาของเขาในวัน
เจิ้นเป่ยโหวอยู่ในสนามรบทำให้ศัตรูหวาดกลัว ให้ความสำคัญกับครอบครัวมากที่สุดและใจอ่อนกับญาติพี่น้องมากที่สุดบางทีนี่อาจเป็นเพราะเขาไม่มีแม่ตั้งแต่เด็กมีพ่ออย่างเจิ้นเป่ยโหว ลูกชายหลายคนของเขาต้องยอมอ่อนข้อให้กับญาติพี่น้องมากนี่คือเหตุผลว่าทำไมขุนนางซ่งและครอบครัวถึงได้เกาะติดเจิ้นเป่ยโหวราวกับผีดิบขุนนางซ่งคิดว่าซ่งซือเหยาในฐานะลูกสาวของเจิ้นเป่ยโหว จะต้องเป็นเหมือนเจิ้นเป่ยโหว ตราบใดที่เขายกชายชราออกมา ซ่งซือเหยาก็จะเชื่อฟังความกตัญญูต้องมาก่อน ในบรรดาความดีทั้งหมด ไม่มีใครทนความผิดของการอกตัญญูได้น่าเสียดายที่เขาคิดผิดแล้วหลักการที่ซ่งซือเหยายึดมาตลอดคือ ถ้าเจ้าเคารพข้า ข้าก็จะเคารพกลับ ถ้าเจ้าหาเรื่องข้า ข้าก็จะถอนรากถอนโคน"เจ้า! เจ้า! ซ่งซือเหยา ดีดีดี! เจ้าคอยดูเถอะ! ว่าข้าจะจัดการกับเจ้ายังไง!"ขุนนางซ่งโดนยั่วโมโหจนพูดไม่ออก สู้ก็สู้ไม่ได้ ด่าก็ด่าไม่ชนะ คำขู่ของซ่งซือเหยาแรงกว่าเขาซะอีกเขาทิ้งคำพูดโหดร้ายไว้ ไม่รอให้ซ่งซือเหยาเปิดปากก็หนีไปแล้ว เขาต้องกลับไปคิดวิธีการตอบโต้ เพื่อไล่ซ่งซือเหยาออกไป และยึดจวนเจิ้นเป่ยโหวเป็นของตัวเองซ่งซือเหยาหรี่ตาลงเล็กน้อย
"เจ้าจะให้จวนแม่ทัพไปช่วยอวี่เอ๋อร์เหรอ? เจ้าคิดว่ายังขายหน้าไปพอเหรอ? ถ้าจวนแม่ทัพรู้ว่าอวี่เอ๋อร์ถูกจับไปที่ศาล ยังจะยอมให้นางเข้าจวนไหมก็ยังไม่รู้เลย" ฮูหยินชรากล่าวด้วยสีหน้าว่าฮูหยินผู้เฒ่าซ่งเป็นคนโง่ฮูหยินผู้เฒ่าซ่งโกรธมาก "จวนแม่ทัพเขาจะกล้าเหรอเจ้าคะ! หากพวกเขาไม่ให้อวี่เอ๋อร์เข้าจวน ข้าจะบอกให้ทุกคนในเมืองหลวงรู้ว่าเมิ่งจ้านถิงรังแกอวี่เอ๋อร์และทำลายความบริสุทธิ์ของอวี่เอ๋อร์เจ้าค่ะ!""ทำแบบนี้แล้วจะมีประโยชน์อะไรต่ออวี่เอ๋อร์? มีประโยชน์อะไรต่อพวกเรา? อวี่เอ๋อร์ถูกคนอื่นทำลายความบริสุทธิ์เป็นเรื่องที่ควรเอาอวดไปทั่วเหรอ?"ฮูหยินชราขาดแค่ด่าฮูหยินผู้เฒ่าซ่งว่าโง่ตรงๆ แล้วนางคิดว่าเมื่อใดก็ตามที่ฮูหยินผู้เฒ่าซ่งมีสมองหนึ่งในสิบของนางในตอนนั้น แทนที่จะแค่ฝืนแสดงความสามารถ นางคงจะเอาชนะแม่ของซ่งซือเหยาได้ไปนานแล้ว"มีอะไรน่าอายเจ้าคะ? ไม่ใช่ความผิดของอวี่เอ๋อร์สักหน่อย ตอนนั้นเมิ่งจ้านถิงเป็นพี่เขยของอวี่เอ๋อร์ อวี่เอ๋อร์ไม่ได้ระวังเขาเลย เขาเป็นผู้ชาย ถ้าใช้กำลัง อวี่เอ๋อร์ที่เป็นผู้หญิง จะหนีได้อย่างไรเจ้าคะ?"ฮูหยินผู้เฒ่าซ่งมั่นใจ นางไม่เคยผิด คนที่ผิดคือคนอื่นเสมอ
ตอนที่ฮูหยินผู้เฒ่าซ่งมารับซ่งอวี่เอ๋อร์ที่จวนแม่ทัพเมื่อวันก่อน สาวใช้ชิวขุยก็ได้ตามมาด้วย เมิ่งจ้านถิงจำนางได้"เกิดเรื่องอะไร?""รองหัวหน้าเมิ่ง คุณหนูสามถูกท่านเจ้าเมืองจับตัวไปเจ้าค่ะ ฮูหยินผู้เฒ่าขอให้ท่านไปช่วยคุณหนูสามเจ้าค่ะ" ชิวขุยกล้าวเมิ่งจ้านถิง"ท่านเจ้าเมืองจับอวี่เอ๋อร์ไม่ทำไม?" สีหน้ากังวล"คุณหนูสอง นาง...""ซ่งซือเหยา?" เมิ่งจ้านถิงไม่รอให้ชิวขุยพูดจบ จากนั้นก็ทำสีหน้าเหมือนว่าตัวเองรู้ทุกอย่างแล้ว"ข้าว่าแล้วต้องเป็นนาง! นางร้ายไม่เปลี่ยนจริงๆ คิดว่าใช้วิธีนี้แล้วข้าจะหลงรักนางแล้วพานางกลับมาเหรอ? ฝันไปเถอะ!"เมิ่งจ้านถิงมองไปที่ชิวขุย "เจ้าไปรายงานแก่ฮูหยินผู้เฒ่า ข้าจะพาอวี่เอ๋อร์กลับมาอย่างปลอดภัยแน่นอน""เจ้าค่ะ ท่านรองหัวหน้า" จู่ๆ ชิวขุยก็ตระหนักได้ว่า ที่แท้คุณหนูสองไม่ยอมให้อภัยคุณหนูสามเพราะยังอยากกลับมาที่จวนแม่ทัพนางกลับไปต้องรายงานข่าวนี้ให้ฮูหยินผู้เฒ่าทราบ ให้ฮูหยินผู้เฒ่าไปสั่งสอนซ่งซือเหยา เพื่อให้ซ่งซือเหยาหยุดความคิดนี้ซะเมิ่งจ้านถิงก็ไม่สนใจเรื่องที่จะไปเข้าเวรแล้ว เขาขึ้นรถม้าและตรงไปที่ศาลหลังจากที่เฉินเจียงพาตัวซ่งอวี่เอ๋อร์และเฉี
ซ่งซือเหยาคิดว่าต่อให้ปฏิเสธแม่นางหลัวโดยสิ้นเชิงก็ไม่ใช่วิธีที่ดี นอกจากแม่นางหลัวแล้ว ในจวนแม่ทัพยังมีคนอื่น พวกเขาจะมาหาเธออย่างต่อเนื่องเพราะอาการป่วยของฮูหยินผู้เฒ่าบ้านสองตระกูลเมิ่งเพื่อแก้ไขปัญหานี้อย่างสมบูรณ์ ได้แต่ไปหาหมอที่สำนักแพทย์อันดับหนึ่งเท่านั้น ถามให้รู้เรื่องว่าทำไมพวกเขาถึงไม่รักษาให้ฮูหยินผู้เฒ่าบ้านสองตระกูลเมิ่งอีก"ฮูหยินสาม ถ้าท่านกตัญญูจนสุดความสามารถแล้ว ไม่ว่าจะเชิญหมอของสำนักแพทย์อันดับหนึ่งกลับไปได้หรือไม่ คนจวนแม่ทัพก็ไม่มีเหตุผลที่จะตำหนิท่านอีกแล้วใช่ไหมเจ้าคะ?"แม่นางหลัวรู้สึกยินดีเมื่อได้ยินเช่นนี้ "เจ้าค่ะ คุณหนูสองตระกูลซ่งได้โปรดชี้แนะด้วยเจ้าค่ะ""ไปคุกเข่าที่หน้าสำนักแพทย์อันดับหนึ่งสิเจ้าคะ" ซ่งซือเหยากล่าวแม่นางหลัวมองไปที่ดวงอาทิตย์ที่แผดเผาข้างนอก "แต่วันนี้...""ฮูหยินสาม ในโลกนี้ไม่มีอะไรได้มาเปล่าๆ เจ้าค่ะ อยากได้อะไรก็ต้องแลกด้วยอะไรบางอย่างเจ้าค่ะ"ซ่งซือเหยากล่าวว่า "ไม่ว่าจะลมแรง ฝนตก แดดจัดหรือหิมะตก ฮูหยินสามจะต้องคุกเข่าอยู่อย่างนั้น อดทนเพื่อแสดงความจริงใจเจ้าค่ะ"แม่นางหลัวก็เข้าใจทันทีแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า "คุณหนูสอง
"นางมาทำไม?" ซ่งซือเหยาเลิกคิ้ว สายตาไม่มีอารมณ์ใดๆ"นางไม่ได้บอกเจ้าค่ะ บอกแค่ว่าตอนที่คุณหนูอยู่ที่จวนแม่ทัพ นางไม่ได้มีปัญหากับท่านเจ้าค่ะ ขอให้ท่านเห็นแก่สิ่งนี้พบนางสักครั้งเจ้าค่ะ" อวี๋เซียงกล่าวหงเฉาเตือนว่า "คุณหนู ฮูหยินสามนิสัยไม่เลวเจ้าค่ะ แต่ใจอ่อน ประกอบกับภูมิหลังเดิมที่ไม่ดี จึงถูกฮูหยินผู้เฒ่าบ้านสองรังแกอยู่ตลอดเจ้าค่ะ""งั้นวันนี้นางมาหาข้าก็คงโดนบังคับจนไม่มีทางเลือกแล้วล่ะสิ" ซ่งซือเหยามองไปที่อวี๋เซียง "ให้นางรอข้าที่ห้องโถงด้านหน้า""เจ้าค่ะ คุณหนู"ซ่งซือเหยามาที่ห้องโถงด้านหน้า เห็นดวงตาของแม่นางหลัวทั้งแดงทั้งบวม ก็รู้ว่าต้องร้องไห้มาหนักมาก"คุณหนูสองตระกูลซ่ง ไม่เจอกันนานเลยเจ้าค่ะ" แม่นางหลัวยืนขึ้น น้ำเสียงสุภาพ พยายามบีบรอยยิ้มบนใบหน้านางมองซ่งซือเหยาขึ้นๆ ลงๆ ไม่เจอกันสิบกว่าวัน ซ่งซือเหยาก็ดูเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เย็นชาราวกับน้ำแข็งหิมะ แต่กลับสดใสมากสูงส่ง สง่างาม สวยล่มเมือง...คำพูดเหล่านี้ดูหยาบคายเป็นพิเศษเมื่อนำไปใช้กับซ่งซือเหยา จู่ๆ แม่นางหลัวก็รู้สึกว่าตัวเองเรียนมาน้อยเกินไป ไม่สามารถหาคำที่เหมาะสมมาอธิบายความงามของซ่งซือเหยาได้เลยน
"ข้ารีบร้อนเกินไป"เสิ่นเผยมีน้ำเสียงทุ้มต่ำ เขาเคยมีอำนาจในสนามรบ ตอนนี้กลับต้องพึ่งรถเข็นในการเดินทางเท่านั้น เขาจะไม่รีบร้อนได้อย่างไร?"คุณหนูสองตระกูลซ่ง แมลงกลืนวิญญาณที่เจ้าพูดถึงต้องวางยาพิษแบบไหนกัน? ข้าตรวจสอบมาหลายวันแล้ว ไม่พบเบาะแสเกี่ยวกับคนวางยาพิษเลยแม้แต่น้อย""พิษนี้สามารถเข้าสู่ร่างกายได้ด้วยการกินเท่านั้นเพคะ ท่านอ๋องสามารถเริ่มจากคนที่สามารถสัมผัสอาหารการกินของพระองค์ได้เพคะ" ซ่งซือเหยากล่าว"ข้าได้รับบาดเจ็บเมื่อห้าปีก่อน เจ้าเคยบอกว่าข้าถูกวางยาพิษก่อนที่จะได้รับบาดเจ็บ แล้วเวลาของการโดนพิษนี้จะต้องเลื่อนไปข้างหน้านานแค่ไหน?" เสิ่นเผยถาม"หนึ่งปีเพคะ" ซ่งซือเหยาตอบเสิ่นเผยจมอยู่กับความคิด งั้นเขาก็ถูกวางยาพิษเมื่อหกปีก่อนเมื่อหกปีก่อน เสิ่นเผยขมวดคิ้วและจมอยู่กับความคิดจวนแม่ทัพเมิ่งในขณะนี้"คุณชายสี่ ตอนนี้จะทำยังไงดีเจ้าคะ? หมอสำนักแพทย์อันดับหนึ่งไม่มา ยาก็กินหมดแล้ว หมอจากสำนักแพทย์อื่นก็ไม่สามารถรักษาโรคท่านแม่ได้ ถ้ายังไม่เชิญหมออีก ท่านแม่เกรงว่า... เกรงว่า..."แม่นางหลัวกังวลจนน้ำตาไหล ตอนนี้นางเป็นคนรับผิดชอบดูแลบ้าน ไม่สามารถเชิญหมอมาได้ ถ
"ไสหัวไปให้พ้น!"เว่ยซินไม่ทันพูดจบก็โดนเสิ่นเผยด่าก่อนแล้ว เขาจึงรีบตอบกลับว่า "พ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง"จากนั้นก็หันหลังจากไป คล่องแคล่วว่องไวมาก เร็วกว่ากระต่ายอีก สร้างโอกาสให้เสิ่นเผยกับซ่งซือเหยาซ่งซือเหยามองไปที่เสิ่นเผย เห็นเม็ดเหงื่อขนาดใหญ่บนหน้าผากของเขา เขาไม่สามารถออกแรงที่ขาได้ อยู่ในท่านี้นานๆ ต้องทรมานมากจริงๆ"ท่านอ๋อง พระองค์อย่าขยับเพคะ หม่อมฉันจะช่วยประคองพระองค์เพคะ"ซ่งซือเหยาพูดจบ ก็เอามือกอดเอวของเสิ่นเผยไว้ แขนทั้งสองข้างออกแรง พลิกตัวก็ทับเสิ่นเผยไว้ข้างล่าง"คุณหนูสองตระกูลซ่งแน่ใจนะว่าจะประคองข้า?"เสียงของเสิ่นเผยต่ำและสั่นเทา พลิกไปพลิกมาแบบนี้ ตัวเขาเองก็ไม่สามารถออกแรงได้ เหนื่อยจนหน้าแดงก่ำและหัวใจเต้นแรง"แน่นอนเพคะ"ซ่งซือเหยาจริงจัง เพื่อปกป้องเสิ่นเผย นางมือหนึ่งประคองหัวของเสิ่นเผย มือหนึ่งประคองเอวของเสิ่นเผยหน้าของทั้งสองอยู่ใกล้กันมากกว่าเมื่อกี้นี้อีก ใกล้จนซ่งซือเหยาสามารถมองเห็นภาพสะท้อนของตัวเองในดวงตาของเสิ่นเผยได้เสิ่นเผยมองขนตายาว ผิวขาวที่อ่อนโยนของซ่งซือเหยา ลูกกระเดือกของเขาขยับโดยไม่รู้ตัว"คุณหนูสองตระกูลซ่ง เราจะลุกขึ้นกัน
"เจ้าอย่าถามอะไรมากเลย อดทนรอดูซ่งซือเหยาทำผิดและถูกลงโทษก็พอ" ฮูหยินผู้เฒ่าซ่งนึกถึงภาพแบบนั้น นางก็รู้สึกมีความสุขมาก"ท่านแม่ ในช่วงที่ข้าไม่อยู่หลานวันมานี้ จวนแม่ทัพได้มาพูดเรื่องสู่ขอบ้างไหมเจ้าคะ?" ซ่งอวี่เอ๋อร์ถาม"ไม่เคยมาเลย" ฮูหยินผู้เฒ่าซ่งมองความคิดของซ่งอวี่เอ๋อร์ออก รู้ความกังวลของนาง "อวี่เอ๋อร์ ไม่ต้องกลัว เรื่องนี้พวกเขาหนีไม่ได้หรอก""ท่านแม่ ข้ากล้วว่าเวลายิ่งนานอุปสรรคจะยิ่งมากเจ้าค่ะ ตอนนี้เมิ่งจ้านถิงมีความคิดที่จะคืนดีกับซ่งซือเหยาแล้วเจ้าค่ะ" ซ่งอวี่เอ๋อร์มีสีหน้าเกลียดชังฮูหยินผู้เฒ่าซ่งโกรธมาก "ข้าว่าแล้วเมิ่งจ้านถิงต้องไม่ใช่คนดีอะไร ถ้าเขากล้ากลับไปคืนดีกับซ่งซือเหยา แม้ข้าจะต้องแลกด้วยชีวิตก็ไม่มีทางปล่อยเขาไป"นางคิดอยู่ครู่หนึ่งและตัดสินใจว่า "อวี่เอ๋อร์ เรื่องหมั้นหมายแม่จะจัดการเอง ถึงตอนนั้นเจ้าจะต้องเข้าวังไปร่วมงานเฉลิมพระชนมพรรษาของฮองเฮาพร้อมกับซ่งซือเหยาในฐานะคู่หมั้นของเมิ่งจ้านถิง""เจ้าค่ะ ท่านแม่" ซ่งอวี่เอ๋อร์ทั้งดีใจทั้งตั้งตารอ "ท่านแม่ ข้าจะไปฝึกกู่ฉินเจ้าค่ะ ในงานเฉลิมพระชนมพรรษาของฮองเฮา ข้าจะให้ทุกคนประทับใจในตัวข้าเจ้าค่ะ!"โด
พอพูดถึงตำแหน่งหัวหน้า หัวใจของเมิ่งจ้านถิงดูเหมือนจะถูกแทงอย่างรุนแรง"อวี่เอ๋อร์ พระราชโองการลงมาแล้ว ข้าไม่ได้เลื่อนยศเป็นหัวหน้า" "ท่านว่าไงนะ ท่านพูดอีกทีสิ!" ซ่งอวี่เอ๋อร์ได้ยินแล้ว แต่นางไม่อยากจะเชื่อเลย"หัวหน้าเป็นคนอื่น ข้ายังเป็นรองหัวหน้าอยู่เหมือนเดิม" เมิ่งจ้านถิงอธิบายอย่างอดทน"ทำไมท่านถึงไม่ได้เป็นหัวหน้าล่ะเจ้าคะ? ท่านบอกว่าท่านมีความมั่นใจมากไม่ใช่เหรอเจ้าคะ? ก่อนหน้านี้ท่านหลอกข้าใช่ไหมเจ้าคะ?"ซ่งอวี่เอ๋อร์โจมตีเขาด้วยคำถามหลายข้อ เมิ่งจ้านถิงมีสีหน้าไม่พอใจในอดีตซ่งอวี่เอ๋อร์เป็นคนอ่อนโยน มีน้ำใจ และไม่สนใจชื่อเสียงลาภยศ นางยินดีที่จะอยู่กับเขาโดยไม่คำนึงถึงสถานะใดๆเมิ่งจ้านถิงคิดว่าไม่ได้ตำแหน่งหัวหน้า ซ่งอวี่เอ๋อร์จะปลอบใจเขา ใครจะไปรู้ว่าจะเป็นการสงสัยในตัวเขา"ข้าหลอกเจ้าหรือเปล่าเจ้าไม่รู้เหรอ? เพื่อเจ้า ข้าจึงทิ้งซ่งซือเหยา และแม้แต่ตำแหน่งที่อยู่ข้างหลังนางก็สูญเสียไปด้วย เจ้าจะให้ข้าทำอย่างไรอีก?""เมิ่งจ้านถิง เจ้าหมายความว่าเป็นความผิดของข้าทั้งหมดเหรอ? เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าตอนนั้น...""น้องสาม อย่าพูดอีกเลย" ซ่งเหวินหวู่เดินมาห้าม คนที่สัญจรไ
"หม่อมฉันรับพระราชโองการเพคะ ขอบพระทัยฮ่องเต้เป็นอย่างยิ่งเพคะ" ซ่งซือเหยาซาบซึ้งใจ พระราชโองการนี้ยังเป็นการรำลึกของจักรพรรดิชางหลงที่มีต่อพ่อและพี่ชายของนางบนสวรรค์ จักรพรรดิชางหลงไม่ได้ลืมพ่อและพี่ชายของนางเลย"ขอแสดงความยินดีกับคุณหนูสองตระกูลซ่งด้วย ในอนาคต ไม่ว่าคุณหนูสองตระกูลซ่งจะอยู่บ้านหรือพบความสุขใหม่ก็จะความรุ่งโรจน์และความมั่งคั่งไม่รู้จบ"หวังฝูมอบพระราชโองการแก่ซ่งซือเหยา แอบพูดในใจว่า "ผู้มีพระคุณ ตอนนี้ท่านไม่ต้องเป็นห่วงแล้ว""ขอบคุณท่านขันทีเจ้าค่ะ" ซ่งซือเหยารับพระราชโองการมา"คุณหนูสองตระกูลซ่ง ข้าจะกลับวังไปรายงานต่อฮ่องเต้ก่อนนะ" ขันทีหวังกล่าว"ขอบคุณขันทีหวังมากเจ้าค่ะ"ก่อนไปขันทีหวังได้เหลือบมองเมิ่งจ้านถิงแวบหนึ่ง มุมปากก็ดึงความเย็นชาที่ทำให้คนสังเกตได้ยากออกมา จากนั้นก็หันหลังและจากไปเมิ่งจ้านถิงได้ยินพระราชโองการก็รู้สึกไม่ดีมาก ทั้งเสียใจ อิจฉา เจ็บปวดและไม่พอใจ...เดิมทีเขาคิดว่าหลังจากซ่งซือเหยาจากเขาไปแล้วจะแต่งงานอีกได้ยาก แต่ไม่คิดว่าในอนาคตคนที่จะแต่งงานกับซ่งซือเหยาจะสามารถสืบทอดตำแหน่งท่านโหวได้ งั้นคนที่อยากแต่งงานกับซ่งซือเหยาจะไม่เข้
ซ่งซือเหยาเคยคิดว่าเมิ่งจ้านถิงเป็นคนไม่ดีแค่ทางด้านความสัมพันธ์ แต่มีผลงานทางทหารติดตัว ประสบความสำเร็จในการปกป้องประเทศชาติบ้านเมือง อย่างน้อยก็สามารถเรียกได้ว่าเป็นคนแต่หลังจากได้ยินคำพูดของเมิ่งจ้านถิงในตอนนี้แล้ว ทำให้นางได้รับรู้เรื่องอะไรใหม่ๆ ที่ไม่น่าเชื่อเมิ่งจ้านถิงเป็นคนนิสัยไม่ดี"เมิ่งจ้านถิง เจ้าน่าขยะแขยงจริงๆ" ซ่งซือเหยาน้ำเสียงรังเกียจเมิ่งจ้านถิงอยู่ห่างจากซ่งซือเหยาสามฟุต เขาก็ยังได้กลิ่นความรังเกียจของซ่งซือเหยาที่มีต่อเขาแม้ว่าเขาจะไม่สามารถเป็นหัวหน้าได้ แต่ยังคงเป็นรองหัวหน้า มีผลงานติดตัว กินเงินเดือนราชสำนักเลี้ยงดูครอบครัวซ่งซือเหยาคือตัวอะไร?เป็นหนอนน่าสงสารที่เกาะคนอื่นกิน อาศัยผลงานของพ่อกับพี่ชายในการดำรงชีวิตก็แค่ตอนนี้นางได้ฟื้นสติปัญญาแล้ว ถ้ายังเป็นเหมือนเมื่อก่อน นางเดินอยู่บนถนนก็จะไม่มีใครชายตามองนางเลยเมิ่งจ้านถิงที่รู้สึกได้รับความอัปยศอดสูครั้งใหญ่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ น้ำเสียงแหลมคม "ซ่งซือเหยา เจ้าไม่มีสิทธิ์มารังเกียจข้า มีแต่ข้าที่รังเกียจเจ้า เจ้าอย่าลืมว่าถ้าข้าไม่ได้แต่งงานกับเจ้าในตอนนั้น คนโง่อย่างเจ้าจะไม่มีใครอยากแต่งงานด
เพียงแต่ว่าทำไมเสิ่นเผยถึงช่วยนางครั้งแล้วครั้งเล่าเป็นเพราะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับซ่งซือแย่นพี่ชายแฝดนาง? หรือเพราะนางรักษาขาให้เขา?ซ่งซือเหยาไม่ได้คิดอะไรมาก รู้แต่เพียงว่าติดหนี้บุญคุณเสิ่นเผยมากขึ้นเรื่อยๆด้วยการแทรกแซงของเสิ่นเผย ทำให้ซ่งอวี่เอ๋อร์ไม่สามารถได้รับการช่วยเหลือได้สายัณห์ตะวันลาลับ นกกาบินกลับไปสู่รังนอน วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เวลาสิบวันก็ไวเหมือนการดีดนิ้วยี่สิบห้าเดือนหกซ่งซือเหยาไปที่จวนอ๋องหลิงตามปกติ นางเพิ่งออกจากประตูจวนเจิ้นเป่ยโหว ก็เห็นเมิ่งจ้านถิงรีบวิ่งเข้ามาหานางด้วยสีหน้าโกรธเคือง"ซ่งซือเหยา เจ้าคิดว่าเจ้าใช้วิธีนี้ก็จะได้ข้าไปเหรอ? เพ้อฝันสิ้นดี ข้าเมิ่งจ้านถิงจะไม่มีวันตกหลุมรักเจ้า!""อยากหาเรื่องช่วยเปลี่ยนคำใหม่ด้วย ไม่งั้นจะดูเหมือนเจ้าไม่มีสมอง" ซ่งซือเหยารังเกียจที่จะทะเลาะกับเขา"ซ่งซือเหยา เจ้ามันสถุลจริงๆ ข้าไม่รักเจ้า เจ้าก็ไปขอฮ่องเต้ไม่ให้ข้าเลื่อนยศเป็นหัวหน้าเหรอ!"ดวงตาของเมิ่งจ้านถิงเป็นสีแดงเข้ม เต็มไปด้วยความเกลียดชังวันนี้มีพระราชโองการลงมาแล้ว หัวหน้าไม่ใช่เขา ความหวังของเขาก็ว่างเปล่าทั้งหมดตอนนี้เขาไม่มีส่วน