ซ่งอวี่เอ๋อร์ไม่ได้นอนมาทั้งคืนแถมยังถูกโบยอีก ตอนนี้เสื้อผ้าไม่เรียบร้อย ผมยุ่งเหยิง ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า สภาพมอมแมมมากเมิ่งจ้านถิงเต็มไปด้วยความสงสาร เขาจับมือของซ่งอวี่เอ๋อร์ไว้ "อวี่เอ๋อร์ เจ้าลำบากแล้ว ทำไมพวกเขาถึงโหดร้ายขนาดนี้ ทรมานเจ้าให้เป็นแบบนี้ได้?"ผู้หญิงที่อ่อนแออย่างซ่งอวี่เอ๋อร์ การโบยสิบทีก็เกือบจะเอาชีวิตนางแล้ว"ท่านพี่ถิง ข้าอยากออกไป ท่านช่วยข้าออกไปทีเจ้าค่ะ"คุกทั้งสกปรกทั้งเหม็น นางไม่อยากอยู่ต่อไปแม้แต่วินาทีเดียว"อวี่เอ๋อร์ เมื่อกี้ข้าได้อ่านคำสารภาพแล้ว บอกว่าเจ้าสั่งให้สาวใช้วางเพลิงใส่ร้ายซ่งซือเหยา นี่เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า?" เมิ่งจ้านถิงถาม"ท่านไม่เชื่อข้าเหรอเจ้าคะ?" ซ่งอวี่เอ๋อร์ถาม"ข้าเชื่อเจ้าแน่นอน ไม่งั้นข้าคงไม่มาหาเจ้าที่นี่หรอก"เมิ่งจ้านถิงรู้สึกผิด "แต่ในคำสารภาพเขียนไว้อย่างชัดเจน...""ใช่ ข้าเป็นคนทำเองเจ้าค่ะ แต่ท่านรู้ไหมว่าทำไมข้าถึงทำแบบนั้น?" ซ่งอวี่เอ๋อร์รู้ดีว่าเรื่องนี้ไม่สามารถปิดบังได้"ทำไมล่ะ?" เมิ่งจ้านถิงถาม"เพื่อท่านเจ้าค่ะ ท่านพี่ถิง ข้าทำทั้งหมดนี้ก็เพื่อท่านเจ้าค่ะ" ซ่งอวี่เอ๋อร์อธิบายทั้งน้ำตาว่
"ข่าวอะไรเหรอ?"ผมสีดำของซ่งซือเหยาพาดอยู่บนหลัง นางเดินไปนั่งลงที่โต๊ะเครื่องแป้ง หงเฉาก็มาหวีผมให้นาง"รองหัวหน้าเมิ่งไปเยี่ยมคุณหนูสามตระกูลซ่งที่ศาลแล้วเจ้าค่ะ รีบไปอย่างเร็วและออกมามือเปล่าเจ้าค่ะ ได้ยินว่าเกือบจะทะเลาะกับใต้เท้าเฉินเจ้าค่ะ"อวี๋เซียงเปิดกล่องเครื่องประดับ หยิบปิ่นปักผมหยกสีขาวออกมาแล้ววางไว้บนหัวของซ่งซือเหยาเพื่อเปรียบเทียบ"เขาอยากไปช่วยคนจากเฉินเจียง คงผิดหวังแล้ว" ซ่งซือเหยาน้ำเสียงสงบ ไม่สนใจเลย"ข้าน้อยไปที่จวนติ้งอันโหวมาเจ้าค่ะ ฮูหยินบอกว่านางจะไปพูดเจ้าค่ะ ครั้งนี้ต้องให้คุณหนูสามถูกขังครบสิบวันแล้วค่อยปล่อยนางออกมาเจ้าค่ะ" อวี๋เซียงกล่าว"เจ้าลำบากแล้ว" ซ่งซือเหยาไม่สนใจว่าซ่งอวี่เอ๋อร์จะถูกขังครบสิบวันหรือไม่จุดประสงค์ของนางคือทำให้ชื่อเสียงของซ่งอวี่เอ๋อร์เสียหาย ดังนั้นผลของการขังหนึ่งวันและขังสิบวันจึงเหมือนกันฮูหยินติ้งอันโหวทำเพื่อช่วยนาง นางไม่สามารถปฏิเสธความหวังดีของคนอื่นได้"คุณหนู วันนี้ใส่กระโปรงสีเขียวดีไหมเจ้าคะ? คู่กับปิ่นหยกสีขาวอันนั้นเจ้าค่ะ" อวี๋เซียงถาม"สายตาไม่เลว" ซ่งซือเหยากล่าวชม"คุณหนู ท่านเอาแต่ชมข้าน้อยตลอดเลยเ
"ไม่เป็นไร ใช้!" เสิ่นเผยสั่ง"พ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง กระหม่อมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้พ่ะย่ะค่ะ" เว่ยซินได้รับคำสั่งก็ออกจากห้องไป บังเอิญเจอกับซ่งซือเหยาที่กำลังเข้ามา เขาทักทายว่า "คุณหนูสองตระกูลซ่ง ท่านมาแล้วเหรอขอรับ"ซ่งซือเหยาพยักหน้าเล็กน้อย "ท่านอ๋องล่ะ?""รอท่านอยู่ข้างในขอรับ คุณหนูสองตระกูลซ่ง ท่านเข้าไปเองได้เลยขอรับ ข้าขอตัวไปทำธุระก่อนขอรับ""ได้สิ"ซ่งซือเหยาเข้าไปในห้องก็เห็นเสิ่นเผยทันทีเสิ่นเผยนั่งอยู่บนรถเข็น เงียบสงบราวกับต้นสนบนยอดเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ สูงส่ง สง่างามและหยิ่งผยอง"ท่านอ๋อง ให้พระองค์รอมานานแล้วเพคะ" ซ่งซือเหยาวางกล่องยาลงแล้วหยิบเข็มทองออกมาเสิ่นเผยมองซ่งซือเหยา เห็นแก้มของนางขาวใส ผิวเหมือนไข่ที่เพิ่งปอกเปลือก สีหน้าดีมาก ดูเหมือนว่าเรื่องเมื่อคืนไม่ได้ส่งผลกระทบต่อนางแม้แต่น้อยมุมปากของเขาโค้งเล็กน้อย"ไม่ได้รอนาน คุณหนูสองตระกูลซ่งมาได้เวลาพอดี"ซ่งซือเหยาคุกเข่าลง ยื่นมือออกไปแตะขาของเสิ่นเผยแล้วถามเบาๆ ว่า "ท่านอ๋องเมื่อคืนขาไม่เจ็บปวดแล้วใช่ไหมเพคะ?""ไม่แล้ว ทักษะการแพทย์ของคุณหนูสองตระกูลซ่งยอดเยี่ยมจริงๆ ข้านับถือ" คิ้วของเสิ่นเผยผ่อน
"มี""ใครเพคะ?""เจ้าคิดว่าข้าเป็นอย่างไร?"เสิ่นเผยมองไปที่ซ่งซือเหยา แววตาที่เย็นชามีแสงที่ร้อนผ่าวเปล่งประกายอยู่ ราวกับกำลังคาดหวังอะไรบางอย่างพอซ่งซือเหยาได้ยินคำพูดของเสิ่นเผย เหมือนชายหญิงที่มีความสัมพันธ์แบบคลุมเครือกันมาก คำถามที่ผู้ชายถามก่อนกำลังจะสารภาพรักเมื่อเห็นซ่งซือเหยาเงียบไป เสิ่นเผยก็ถามอีกประโยคหนึ่งว่า "คุณหนูสองตระกูลซ่งคิดว่าข้าอายุน้อยไปไม่มีประสบการณ์เหรอ?"ซ่งซือเหยา "..."ทำไมยิ่งพูดยิ่งแปลก ยิ่งพูดยิ่งคลุมเครือซ่งซือเหยาคิดอะไรขึ้นได้ ถามอย่างติดตลกว่า "หรือว่าท่านอ๋องมีประสบการณ์เยอะเพคะ?"เสิ่นเผยท่าทางจริงจังและเต็มไปด้วยความมั่นใจ "ไม่มีประสบการณ์ก็สามารถเรียนรู้ได้ อีกอย่างเรื่องแยกบ้านไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ สามารถเอาอยู่ก็พอแล้ว"ซ่งซือเหยายิ้มเล็กน้อย นางคิดมากเกินไป เสิ่นเผยไร้เดียงสามาก"คุณหนูสองตระกูลซ่ง เจ้ายังไม่ได้ตอบข้าเลย เจ้าคิดว่าข้าเป็นอย่างไร?" เสิ่นเผยเต็มไปด้วยความคาดหวังซ่งซือเหยาคิดอยู่พักหนึ่ง สิ่งที่เสิ่นเผยพูดนั้นไม่ไร้เหตุผล การแยกบ้าน สิ่งที่ต้องการคือสามารถเอาอยู่ สามารถเที่ยงตรงและยุติธรรมด้วยสถานะของเสิ่น
เพียงแต่ว่าทำไมเสิ่นเผยถึงช่วยนางครั้งแล้วครั้งเล่าเป็นเพราะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับซ่งซือแย่นพี่ชายแฝดนาง? หรือเพราะนางรักษาขาให้เขา?ซ่งซือเหยาไม่ได้คิดอะไรมาก รู้แต่เพียงว่าติดหนี้บุญคุณเสิ่นเผยมากขึ้นเรื่อยๆด้วยการแทรกแซงของเสิ่นเผย ทำให้ซ่งอวี่เอ๋อร์ไม่สามารถได้รับการช่วยเหลือได้สายัณห์ตะวันลาลับ นกกาบินกลับไปสู่รังนอน วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เวลาสิบวันก็ไวเหมือนการดีดนิ้วยี่สิบห้าเดือนหกซ่งซือเหยาไปที่จวนอ๋องหลิงตามปกติ นางเพิ่งออกจากประตูจวนเจิ้นเป่ยโหว ก็เห็นเมิ่งจ้านถิงรีบวิ่งเข้ามาหานางด้วยสีหน้าโกรธเคือง"ซ่งซือเหยา เจ้าคิดว่าเจ้าใช้วิธีนี้ก็จะได้ข้าไปเหรอ? เพ้อฝันสิ้นดี ข้าเมิ่งจ้านถิงจะไม่มีวันตกหลุมรักเจ้า!""อยากหาเรื่องช่วยเปลี่ยนคำใหม่ด้วย ไม่งั้นจะดูเหมือนเจ้าไม่มีสมอง" ซ่งซือเหยารังเกียจที่จะทะเลาะกับเขา"ซ่งซือเหยา เจ้ามันสถุลจริงๆ ข้าไม่รักเจ้า เจ้าก็ไปขอฮ่องเต้ไม่ให้ข้าเลื่อนยศเป็นหัวหน้าเหรอ!"ดวงตาของเมิ่งจ้านถิงเป็นสีแดงเข้ม เต็มไปด้วยความเกลียดชังวันนี้มีพระราชโองการลงมาแล้ว หัวหน้าไม่ใช่เขา ความหวังของเขาก็ว่างเปล่าทั้งหมดตอนนี้เขาไม่มีส่วน
ซ่งซือเหยาเคยคิดว่าเมิ่งจ้านถิงเป็นคนไม่ดีแค่ทางด้านความสัมพันธ์ แต่มีผลงานทางทหารติดตัว ประสบความสำเร็จในการปกป้องประเทศชาติบ้านเมือง อย่างน้อยก็สามารถเรียกได้ว่าเป็นคนแต่หลังจากได้ยินคำพูดของเมิ่งจ้านถิงในตอนนี้แล้ว ทำให้นางได้รับรู้เรื่องอะไรใหม่ๆ ที่ไม่น่าเชื่อเมิ่งจ้านถิงเป็นคนนิสัยไม่ดี"เมิ่งจ้านถิง เจ้าน่าขยะแขยงจริงๆ" ซ่งซือเหยาน้ำเสียงรังเกียจเมิ่งจ้านถิงอยู่ห่างจากซ่งซือเหยาสามฟุต เขาก็ยังได้กลิ่นความรังเกียจของซ่งซือเหยาที่มีต่อเขาแม้ว่าเขาจะไม่สามารถเป็นหัวหน้าได้ แต่ยังคงเป็นรองหัวหน้า มีผลงานติดตัว กินเงินเดือนราชสำนักเลี้ยงดูครอบครัวซ่งซือเหยาคือตัวอะไร?เป็นหนอนน่าสงสารที่เกาะคนอื่นกิน อาศัยผลงานของพ่อกับพี่ชายในการดำรงชีวิตก็แค่ตอนนี้นางได้ฟื้นสติปัญญาแล้ว ถ้ายังเป็นเหมือนเมื่อก่อน นางเดินอยู่บนถนนก็จะไม่มีใครชายตามองนางเลยเมิ่งจ้านถิงที่รู้สึกได้รับความอัปยศอดสูครั้งใหญ่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ น้ำเสียงแหลมคม "ซ่งซือเหยา เจ้าไม่มีสิทธิ์มารังเกียจข้า มีแต่ข้าที่รังเกียจเจ้า เจ้าอย่าลืมว่าถ้าข้าไม่ได้แต่งงานกับเจ้าในตอนนั้น คนโง่อย่างเจ้าจะไม่มีใครอยากแต่งงานด
"หม่อมฉันรับพระราชโองการเพคะ ขอบพระทัยฮ่องเต้เป็นอย่างยิ่งเพคะ" ซ่งซือเหยาซาบซึ้งใจ พระราชโองการนี้ยังเป็นการรำลึกของจักรพรรดิชางหลงที่มีต่อพ่อและพี่ชายของนางบนสวรรค์ จักรพรรดิชางหลงไม่ได้ลืมพ่อและพี่ชายของนางเลย"ขอแสดงความยินดีกับคุณหนูสองตระกูลซ่งด้วย ในอนาคต ไม่ว่าคุณหนูสองตระกูลซ่งจะอยู่บ้านหรือพบความสุขใหม่ก็จะความรุ่งโรจน์และความมั่งคั่งไม่รู้จบ"หวังฝูมอบพระราชโองการแก่ซ่งซือเหยา แอบพูดในใจว่า "ผู้มีพระคุณ ตอนนี้ท่านไม่ต้องเป็นห่วงแล้ว""ขอบคุณท่านขันทีเจ้าค่ะ" ซ่งซือเหยารับพระราชโองการมา"คุณหนูสองตระกูลซ่ง ข้าจะกลับวังไปรายงานต่อฮ่องเต้ก่อนนะ" ขันทีหวังกล่าว"ขอบคุณขันทีหวังมากเจ้าค่ะ"ก่อนไปขันทีหวังได้เหลือบมองเมิ่งจ้านถิงแวบหนึ่ง มุมปากก็ดึงความเย็นชาที่ทำให้คนสังเกตได้ยากออกมา จากนั้นก็หันหลังและจากไปเมิ่งจ้านถิงได้ยินพระราชโองการก็รู้สึกไม่ดีมาก ทั้งเสียใจ อิจฉา เจ็บปวดและไม่พอใจ...เดิมทีเขาคิดว่าหลังจากซ่งซือเหยาจากเขาไปแล้วจะแต่งงานอีกได้ยาก แต่ไม่คิดว่าในอนาคตคนที่จะแต่งงานกับซ่งซือเหยาจะสามารถสืบทอดตำแหน่งท่านโหวได้ งั้นคนที่อยากแต่งงานกับซ่งซือเหยาจะไม่เข้
พอพูดถึงตำแหน่งหัวหน้า หัวใจของเมิ่งจ้านถิงดูเหมือนจะถูกแทงอย่างรุนแรง"อวี่เอ๋อร์ พระราชโองการลงมาแล้ว ข้าไม่ได้เลื่อนยศเป็นหัวหน้า" "ท่านว่าไงนะ ท่านพูดอีกทีสิ!" ซ่งอวี่เอ๋อร์ได้ยินแล้ว แต่นางไม่อยากจะเชื่อเลย"หัวหน้าเป็นคนอื่น ข้ายังเป็นรองหัวหน้าอยู่เหมือนเดิม" เมิ่งจ้านถิงอธิบายอย่างอดทน"ทำไมท่านถึงไม่ได้เป็นหัวหน้าล่ะเจ้าคะ? ท่านบอกว่าท่านมีความมั่นใจมากไม่ใช่เหรอเจ้าคะ? ก่อนหน้านี้ท่านหลอกข้าใช่ไหมเจ้าคะ?"ซ่งอวี่เอ๋อร์โจมตีเขาด้วยคำถามหลายข้อ เมิ่งจ้านถิงมีสีหน้าไม่พอใจในอดีตซ่งอวี่เอ๋อร์เป็นคนอ่อนโยน มีน้ำใจ และไม่สนใจชื่อเสียงลาภยศ นางยินดีที่จะอยู่กับเขาโดยไม่คำนึงถึงสถานะใดๆเมิ่งจ้านถิงคิดว่าไม่ได้ตำแหน่งหัวหน้า ซ่งอวี่เอ๋อร์จะปลอบใจเขา ใครจะไปรู้ว่าจะเป็นการสงสัยในตัวเขา"ข้าหลอกเจ้าหรือเปล่าเจ้าไม่รู้เหรอ? เพื่อเจ้า ข้าจึงทิ้งซ่งซือเหยา และแม้แต่ตำแหน่งที่อยู่ข้างหลังนางก็สูญเสียไปด้วย เจ้าจะให้ข้าทำอย่างไรอีก?""เมิ่งจ้านถิง เจ้าหมายความว่าเป็นความผิดของข้าทั้งหมดเหรอ? เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าตอนนั้น...""น้องสาม อย่าพูดอีกเลย" ซ่งเหวินหวู่เดินมาห้าม คนที่สัญจรไ
ซ่งซือเหยาคิดว่าต่อให้ปฏิเสธแม่นางหลัวโดยสิ้นเชิงก็ไม่ใช่วิธีที่ดี นอกจากแม่นางหลัวแล้ว ในจวนแม่ทัพยังมีคนอื่น พวกเขาจะมาหาเธออย่างต่อเนื่องเพราะอาการป่วยของฮูหยินผู้เฒ่าบ้านสองตระกูลเมิ่งเพื่อแก้ไขปัญหานี้อย่างสมบูรณ์ ได้แต่ไปหาหมอที่สำนักแพทย์อันดับหนึ่งเท่านั้น ถามให้รู้เรื่องว่าทำไมพวกเขาถึงไม่รักษาให้ฮูหยินผู้เฒ่าบ้านสองตระกูลเมิ่งอีก"ฮูหยินสาม ถ้าท่านกตัญญูจนสุดความสามารถแล้ว ไม่ว่าจะเชิญหมอของสำนักแพทย์อันดับหนึ่งกลับไปได้หรือไม่ คนจวนแม่ทัพก็ไม่มีเหตุผลที่จะตำหนิท่านอีกแล้วใช่ไหมเจ้าคะ?"แม่นางหลัวรู้สึกยินดีเมื่อได้ยินเช่นนี้ "เจ้าค่ะ คุณหนูสองตระกูลซ่งได้โปรดชี้แนะด้วยเจ้าค่ะ""ไปคุกเข่าที่หน้าสำนักแพทย์อันดับหนึ่งสิเจ้าคะ" ซ่งซือเหยากล่าวแม่นางหลัวมองไปที่ดวงอาทิตย์ที่แผดเผาข้างนอก "แต่วันนี้...""ฮูหยินสาม ในโลกนี้ไม่มีอะไรได้มาเปล่าๆ เจ้าค่ะ อยากได้อะไรก็ต้องแลกด้วยอะไรบางอย่างเจ้าค่ะ"ซ่งซือเหยากล่าวว่า "ไม่ว่าจะลมแรง ฝนตก แดดจัดหรือหิมะตก ฮูหยินสามจะต้องคุกเข่าอยู่อย่างนั้น อดทนเพื่อแสดงความจริงใจเจ้าค่ะ"แม่นางหลัวก็เข้าใจทันทีแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า "คุณหนูสอง
"นางมาทำไม?" ซ่งซือเหยาเลิกคิ้ว สายตาไม่มีอารมณ์ใดๆ"นางไม่ได้บอกเจ้าค่ะ บอกแค่ว่าตอนที่คุณหนูอยู่ที่จวนแม่ทัพ นางไม่ได้มีปัญหากับท่านเจ้าค่ะ ขอให้ท่านเห็นแก่สิ่งนี้พบนางสักครั้งเจ้าค่ะ" อวี๋เซียงกล่าวหงเฉาเตือนว่า "คุณหนู ฮูหยินสามนิสัยไม่เลวเจ้าค่ะ แต่ใจอ่อน ประกอบกับภูมิหลังเดิมที่ไม่ดี จึงถูกฮูหยินผู้เฒ่าบ้านสองรังแกอยู่ตลอดเจ้าค่ะ""งั้นวันนี้นางมาหาข้าก็คงโดนบังคับจนไม่มีทางเลือกแล้วล่ะสิ" ซ่งซือเหยามองไปที่อวี๋เซียง "ให้นางรอข้าที่ห้องโถงด้านหน้า""เจ้าค่ะ คุณหนู"ซ่งซือเหยามาที่ห้องโถงด้านหน้า เห็นดวงตาของแม่นางหลัวทั้งแดงทั้งบวม ก็รู้ว่าต้องร้องไห้มาหนักมาก"คุณหนูสองตระกูลซ่ง ไม่เจอกันนานเลยเจ้าค่ะ" แม่นางหลัวยืนขึ้น น้ำเสียงสุภาพ พยายามบีบรอยยิ้มบนใบหน้านางมองซ่งซือเหยาขึ้นๆ ลงๆ ไม่เจอกันสิบกว่าวัน ซ่งซือเหยาก็ดูเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เย็นชาราวกับน้ำแข็งหิมะ แต่กลับสดใสมากสูงส่ง สง่างาม สวยล่มเมือง...คำพูดเหล่านี้ดูหยาบคายเป็นพิเศษเมื่อนำไปใช้กับซ่งซือเหยา จู่ๆ แม่นางหลัวก็รู้สึกว่าตัวเองเรียนมาน้อยเกินไป ไม่สามารถหาคำที่เหมาะสมมาอธิบายความงามของซ่งซือเหยาได้เลยน
"ข้ารีบร้อนเกินไป"เสิ่นเผยมีน้ำเสียงทุ้มต่ำ เขาเคยมีอำนาจในสนามรบ ตอนนี้กลับต้องพึ่งรถเข็นในการเดินทางเท่านั้น เขาจะไม่รีบร้อนได้อย่างไร?"คุณหนูสองตระกูลซ่ง แมลงกลืนวิญญาณที่เจ้าพูดถึงต้องวางยาพิษแบบไหนกัน? ข้าตรวจสอบมาหลายวันแล้ว ไม่พบเบาะแสเกี่ยวกับคนวางยาพิษเลยแม้แต่น้อย""พิษนี้สามารถเข้าสู่ร่างกายได้ด้วยการกินเท่านั้นเพคะ ท่านอ๋องสามารถเริ่มจากคนที่สามารถสัมผัสอาหารการกินของพระองค์ได้เพคะ" ซ่งซือเหยากล่าว"ข้าได้รับบาดเจ็บเมื่อห้าปีก่อน เจ้าเคยบอกว่าข้าถูกวางยาพิษก่อนที่จะได้รับบาดเจ็บ แล้วเวลาของการโดนพิษนี้จะต้องเลื่อนไปข้างหน้านานแค่ไหน?" เสิ่นเผยถาม"หนึ่งปีเพคะ" ซ่งซือเหยาตอบเสิ่นเผยจมอยู่กับความคิด งั้นเขาก็ถูกวางยาพิษเมื่อหกปีก่อนเมื่อหกปีก่อน เสิ่นเผยขมวดคิ้วและจมอยู่กับความคิดจวนแม่ทัพเมิ่งในขณะนี้"คุณชายสี่ ตอนนี้จะทำยังไงดีเจ้าคะ? หมอสำนักแพทย์อันดับหนึ่งไม่มา ยาก็กินหมดแล้ว หมอจากสำนักแพทย์อื่นก็ไม่สามารถรักษาโรคท่านแม่ได้ ถ้ายังไม่เชิญหมออีก ท่านแม่เกรงว่า... เกรงว่า..."แม่นางหลัวกังวลจนน้ำตาไหล ตอนนี้นางเป็นคนรับผิดชอบดูแลบ้าน ไม่สามารถเชิญหมอมาได้ ถ
"ไสหัวไปให้พ้น!"เว่ยซินไม่ทันพูดจบก็โดนเสิ่นเผยด่าก่อนแล้ว เขาจึงรีบตอบกลับว่า "พ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง"จากนั้นก็หันหลังจากไป คล่องแคล่วว่องไวมาก เร็วกว่ากระต่ายอีก สร้างโอกาสให้เสิ่นเผยกับซ่งซือเหยาซ่งซือเหยามองไปที่เสิ่นเผย เห็นเม็ดเหงื่อขนาดใหญ่บนหน้าผากของเขา เขาไม่สามารถออกแรงที่ขาได้ อยู่ในท่านี้นานๆ ต้องทรมานมากจริงๆ"ท่านอ๋อง พระองค์อย่าขยับเพคะ หม่อมฉันจะช่วยประคองพระองค์เพคะ"ซ่งซือเหยาพูดจบ ก็เอามือกอดเอวของเสิ่นเผยไว้ แขนทั้งสองข้างออกแรง พลิกตัวก็ทับเสิ่นเผยไว้ข้างล่าง"คุณหนูสองตระกูลซ่งแน่ใจนะว่าจะประคองข้า?"เสียงของเสิ่นเผยต่ำและสั่นเทา พลิกไปพลิกมาแบบนี้ ตัวเขาเองก็ไม่สามารถออกแรงได้ เหนื่อยจนหน้าแดงก่ำและหัวใจเต้นแรง"แน่นอนเพคะ"ซ่งซือเหยาจริงจัง เพื่อปกป้องเสิ่นเผย นางมือหนึ่งประคองหัวของเสิ่นเผย มือหนึ่งประคองเอวของเสิ่นเผยหน้าของทั้งสองอยู่ใกล้กันมากกว่าเมื่อกี้นี้อีก ใกล้จนซ่งซือเหยาสามารถมองเห็นภาพสะท้อนของตัวเองในดวงตาของเสิ่นเผยได้เสิ่นเผยมองขนตายาว ผิวขาวที่อ่อนโยนของซ่งซือเหยา ลูกกระเดือกของเขาขยับโดยไม่รู้ตัว"คุณหนูสองตระกูลซ่ง เราจะลุกขึ้นกัน
"เจ้าอย่าถามอะไรมากเลย อดทนรอดูซ่งซือเหยาทำผิดและถูกลงโทษก็พอ" ฮูหยินผู้เฒ่าซ่งนึกถึงภาพแบบนั้น นางก็รู้สึกมีความสุขมาก"ท่านแม่ ในช่วงที่ข้าไม่อยู่หลานวันมานี้ จวนแม่ทัพได้มาพูดเรื่องสู่ขอบ้างไหมเจ้าคะ?" ซ่งอวี่เอ๋อร์ถาม"ไม่เคยมาเลย" ฮูหยินผู้เฒ่าซ่งมองความคิดของซ่งอวี่เอ๋อร์ออก รู้ความกังวลของนาง "อวี่เอ๋อร์ ไม่ต้องกลัว เรื่องนี้พวกเขาหนีไม่ได้หรอก""ท่านแม่ ข้ากล้วว่าเวลายิ่งนานอุปสรรคจะยิ่งมากเจ้าค่ะ ตอนนี้เมิ่งจ้านถิงมีความคิดที่จะคืนดีกับซ่งซือเหยาแล้วเจ้าค่ะ" ซ่งอวี่เอ๋อร์มีสีหน้าเกลียดชังฮูหยินผู้เฒ่าซ่งโกรธมาก "ข้าว่าแล้วเมิ่งจ้านถิงต้องไม่ใช่คนดีอะไร ถ้าเขากล้ากลับไปคืนดีกับซ่งซือเหยา แม้ข้าจะต้องแลกด้วยชีวิตก็ไม่มีทางปล่อยเขาไป"นางคิดอยู่ครู่หนึ่งและตัดสินใจว่า "อวี่เอ๋อร์ เรื่องหมั้นหมายแม่จะจัดการเอง ถึงตอนนั้นเจ้าจะต้องเข้าวังไปร่วมงานเฉลิมพระชนมพรรษาของฮองเฮาพร้อมกับซ่งซือเหยาในฐานะคู่หมั้นของเมิ่งจ้านถิง""เจ้าค่ะ ท่านแม่" ซ่งอวี่เอ๋อร์ทั้งดีใจทั้งตั้งตารอ "ท่านแม่ ข้าจะไปฝึกกู่ฉินเจ้าค่ะ ในงานเฉลิมพระชนมพรรษาของฮองเฮา ข้าจะให้ทุกคนประทับใจในตัวข้าเจ้าค่ะ!"โด
พอพูดถึงตำแหน่งหัวหน้า หัวใจของเมิ่งจ้านถิงดูเหมือนจะถูกแทงอย่างรุนแรง"อวี่เอ๋อร์ พระราชโองการลงมาแล้ว ข้าไม่ได้เลื่อนยศเป็นหัวหน้า" "ท่านว่าไงนะ ท่านพูดอีกทีสิ!" ซ่งอวี่เอ๋อร์ได้ยินแล้ว แต่นางไม่อยากจะเชื่อเลย"หัวหน้าเป็นคนอื่น ข้ายังเป็นรองหัวหน้าอยู่เหมือนเดิม" เมิ่งจ้านถิงอธิบายอย่างอดทน"ทำไมท่านถึงไม่ได้เป็นหัวหน้าล่ะเจ้าคะ? ท่านบอกว่าท่านมีความมั่นใจมากไม่ใช่เหรอเจ้าคะ? ก่อนหน้านี้ท่านหลอกข้าใช่ไหมเจ้าคะ?"ซ่งอวี่เอ๋อร์โจมตีเขาด้วยคำถามหลายข้อ เมิ่งจ้านถิงมีสีหน้าไม่พอใจในอดีตซ่งอวี่เอ๋อร์เป็นคนอ่อนโยน มีน้ำใจ และไม่สนใจชื่อเสียงลาภยศ นางยินดีที่จะอยู่กับเขาโดยไม่คำนึงถึงสถานะใดๆเมิ่งจ้านถิงคิดว่าไม่ได้ตำแหน่งหัวหน้า ซ่งอวี่เอ๋อร์จะปลอบใจเขา ใครจะไปรู้ว่าจะเป็นการสงสัยในตัวเขา"ข้าหลอกเจ้าหรือเปล่าเจ้าไม่รู้เหรอ? เพื่อเจ้า ข้าจึงทิ้งซ่งซือเหยา และแม้แต่ตำแหน่งที่อยู่ข้างหลังนางก็สูญเสียไปด้วย เจ้าจะให้ข้าทำอย่างไรอีก?""เมิ่งจ้านถิง เจ้าหมายความว่าเป็นความผิดของข้าทั้งหมดเหรอ? เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าตอนนั้น...""น้องสาม อย่าพูดอีกเลย" ซ่งเหวินหวู่เดินมาห้าม คนที่สัญจรไ
"หม่อมฉันรับพระราชโองการเพคะ ขอบพระทัยฮ่องเต้เป็นอย่างยิ่งเพคะ" ซ่งซือเหยาซาบซึ้งใจ พระราชโองการนี้ยังเป็นการรำลึกของจักรพรรดิชางหลงที่มีต่อพ่อและพี่ชายของนางบนสวรรค์ จักรพรรดิชางหลงไม่ได้ลืมพ่อและพี่ชายของนางเลย"ขอแสดงความยินดีกับคุณหนูสองตระกูลซ่งด้วย ในอนาคต ไม่ว่าคุณหนูสองตระกูลซ่งจะอยู่บ้านหรือพบความสุขใหม่ก็จะความรุ่งโรจน์และความมั่งคั่งไม่รู้จบ"หวังฝูมอบพระราชโองการแก่ซ่งซือเหยา แอบพูดในใจว่า "ผู้มีพระคุณ ตอนนี้ท่านไม่ต้องเป็นห่วงแล้ว""ขอบคุณท่านขันทีเจ้าค่ะ" ซ่งซือเหยารับพระราชโองการมา"คุณหนูสองตระกูลซ่ง ข้าจะกลับวังไปรายงานต่อฮ่องเต้ก่อนนะ" ขันทีหวังกล่าว"ขอบคุณขันทีหวังมากเจ้าค่ะ"ก่อนไปขันทีหวังได้เหลือบมองเมิ่งจ้านถิงแวบหนึ่ง มุมปากก็ดึงความเย็นชาที่ทำให้คนสังเกตได้ยากออกมา จากนั้นก็หันหลังและจากไปเมิ่งจ้านถิงได้ยินพระราชโองการก็รู้สึกไม่ดีมาก ทั้งเสียใจ อิจฉา เจ็บปวดและไม่พอใจ...เดิมทีเขาคิดว่าหลังจากซ่งซือเหยาจากเขาไปแล้วจะแต่งงานอีกได้ยาก แต่ไม่คิดว่าในอนาคตคนที่จะแต่งงานกับซ่งซือเหยาจะสามารถสืบทอดตำแหน่งท่านโหวได้ งั้นคนที่อยากแต่งงานกับซ่งซือเหยาจะไม่เข้
ซ่งซือเหยาเคยคิดว่าเมิ่งจ้านถิงเป็นคนไม่ดีแค่ทางด้านความสัมพันธ์ แต่มีผลงานทางทหารติดตัว ประสบความสำเร็จในการปกป้องประเทศชาติบ้านเมือง อย่างน้อยก็สามารถเรียกได้ว่าเป็นคนแต่หลังจากได้ยินคำพูดของเมิ่งจ้านถิงในตอนนี้แล้ว ทำให้นางได้รับรู้เรื่องอะไรใหม่ๆ ที่ไม่น่าเชื่อเมิ่งจ้านถิงเป็นคนนิสัยไม่ดี"เมิ่งจ้านถิง เจ้าน่าขยะแขยงจริงๆ" ซ่งซือเหยาน้ำเสียงรังเกียจเมิ่งจ้านถิงอยู่ห่างจากซ่งซือเหยาสามฟุต เขาก็ยังได้กลิ่นความรังเกียจของซ่งซือเหยาที่มีต่อเขาแม้ว่าเขาจะไม่สามารถเป็นหัวหน้าได้ แต่ยังคงเป็นรองหัวหน้า มีผลงานติดตัว กินเงินเดือนราชสำนักเลี้ยงดูครอบครัวซ่งซือเหยาคือตัวอะไร?เป็นหนอนน่าสงสารที่เกาะคนอื่นกิน อาศัยผลงานของพ่อกับพี่ชายในการดำรงชีวิตก็แค่ตอนนี้นางได้ฟื้นสติปัญญาแล้ว ถ้ายังเป็นเหมือนเมื่อก่อน นางเดินอยู่บนถนนก็จะไม่มีใครชายตามองนางเลยเมิ่งจ้านถิงที่รู้สึกได้รับความอัปยศอดสูครั้งใหญ่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ น้ำเสียงแหลมคม "ซ่งซือเหยา เจ้าไม่มีสิทธิ์มารังเกียจข้า มีแต่ข้าที่รังเกียจเจ้า เจ้าอย่าลืมว่าถ้าข้าไม่ได้แต่งงานกับเจ้าในตอนนั้น คนโง่อย่างเจ้าจะไม่มีใครอยากแต่งงานด
เพียงแต่ว่าทำไมเสิ่นเผยถึงช่วยนางครั้งแล้วครั้งเล่าเป็นเพราะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับซ่งซือแย่นพี่ชายแฝดนาง? หรือเพราะนางรักษาขาให้เขา?ซ่งซือเหยาไม่ได้คิดอะไรมาก รู้แต่เพียงว่าติดหนี้บุญคุณเสิ่นเผยมากขึ้นเรื่อยๆด้วยการแทรกแซงของเสิ่นเผย ทำให้ซ่งอวี่เอ๋อร์ไม่สามารถได้รับการช่วยเหลือได้สายัณห์ตะวันลาลับ นกกาบินกลับไปสู่รังนอน วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เวลาสิบวันก็ไวเหมือนการดีดนิ้วยี่สิบห้าเดือนหกซ่งซือเหยาไปที่จวนอ๋องหลิงตามปกติ นางเพิ่งออกจากประตูจวนเจิ้นเป่ยโหว ก็เห็นเมิ่งจ้านถิงรีบวิ่งเข้ามาหานางด้วยสีหน้าโกรธเคือง"ซ่งซือเหยา เจ้าคิดว่าเจ้าใช้วิธีนี้ก็จะได้ข้าไปเหรอ? เพ้อฝันสิ้นดี ข้าเมิ่งจ้านถิงจะไม่มีวันตกหลุมรักเจ้า!""อยากหาเรื่องช่วยเปลี่ยนคำใหม่ด้วย ไม่งั้นจะดูเหมือนเจ้าไม่มีสมอง" ซ่งซือเหยารังเกียจที่จะทะเลาะกับเขา"ซ่งซือเหยา เจ้ามันสถุลจริงๆ ข้าไม่รักเจ้า เจ้าก็ไปขอฮ่องเต้ไม่ให้ข้าเลื่อนยศเป็นหัวหน้าเหรอ!"ดวงตาของเมิ่งจ้านถิงเป็นสีแดงเข้ม เต็มไปด้วยความเกลียดชังวันนี้มีพระราชโองการลงมาแล้ว หัวหน้าไม่ใช่เขา ความหวังของเขาก็ว่างเปล่าทั้งหมดตอนนี้เขาไม่มีส่วน