Home / โรแมนติก / พันธะแค้นผูกรัก / บทที่ 3 หยิบยื่นโอกาส

Share

บทที่ 3 หยิบยื่นโอกาส

last update Last Updated: 2025-02-13 21:25:28

ภาคินไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไปเขารีบส่าวเท้าเดินตามร่างบางออกจากผับทันที ขณะที่อีกคนรีบก้าวเท้าเดินกึ่งวิ่งออกไปริมถนนเพื่อเรียกรถแท็กซี่ 

"พี่ไอนะพี่ไอทำให้เอวาซวยอีกแล้ว" ใบหน้าคมเอี่ยวไปมองร่างสูงที่ตามหลังเธอมาเป็นระยะๆ ใจดวงน้อยกระหน่ำเต้นไม่เป็นส่ำๆ เมื่อเห็นว่าเขาเริ่มใกล้เข้ามาทุกที ก่อนรีบสับเท้าวิ่งด้วยความตื่นตระหนกในใจก็นึกโมโหแฝดพี่ไม่น้อยที่พลอยทำให้เธอเดือดร้อนไปด้วย

"ว๊าย!" เสียงหวานหลุดร้องด้วยความตกใจในตอนที่มือหนาจับหมับเข้าที่ต้นแขนแล้วถูกกระชากจนตัวเซถลาปะทะเจ้าของมือหนาอย่างแรงจนใบหน้าสวยคมเหยเกด้วยความเจ็บ

"ผู้หญิงด้านชา ไร้ยางอายอย่างคุณเจ็บเป็นด้วยเหรอ" คนกระทำไม่ได้รู้สึกผิดสักนิดกลับพูดจาเหยียดหยามบีบแขนเล็กแรงขึ้นเรื่อยๆ ดวงตาคมกริบจับจ้องใบหน้าคมราวกับจะฉีกเนื้อเธอออกเป็นชิ้นๆ

"อะ..โอ๊ยย!" เสียงหวานหลุดร้องออกมาอีกครั้งอย่างสุดจะกลั้นแรงบีบรัดทำให้เธอรู้สึกเจ็บราวกับกระดูกแขนจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ พยายามใช้อีกมือแกะมือหนาออก แต่แรงเพียงน้อยนิดของเธอไม่ได้ทำให้มือหนาขยับเขยื้อนสักนิดกลับกันยิ่งออกแรงบีบมากขึ้น

"เจ็บแค่นี้มันเทียบไม่ได้สักนิดกับสิ่งที่คุณทำไว้กับผมไอวา" ยิ่งเห็นหญิงสาวเจ็บปวดมากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งรู้สึกสะใจคนอย่างเธอแค่เจ็บปวดทางกายยังน้อยไปด้วยซ้ำต้องพบกับความทุกข์ทางใจด้วยถึงจะสาสม และเขานี้แหละจะเป็นคนหยิบยื่นโอกาสนั้นให้เธอเอง

"ปล่อยฉันนะบอกแล้วไงว่าฉันไม่ได้ชื่อไอวา" เอวารีบเปล่งปฏิเสธพลางพยายามดึงแขนออกจากการจับกุมดวงตากลมโตกวาดมองรอบๆ เพื่อหาความช่วยเหลือเมื่อเห็นคนเดินออกจากผับก็ไม่รอช้าที่จะขอความช่วยเหลือ "ช่วยดะ..." 

"อื้อๆ" ยังไม่ทันจะได้พูดจบประโยคเสียงหวานก็หายไปในลำคอเมื่อภาคินใช้มือปิดปากเธอไว้แน่นได้ยินเพียงเสียงอู้อี้เบาๆ ก่อนใช่มืออีกข้างรวบเอวคอดกิ่วแล้วลากไปยังรถหรูที่จอดอยู่ไม่ใกล้ไม่เปิดโอกาสให้เธอได้หนีอีกต่อไป แม้ว่าร่างบางพยายามต่อต้านขัดขืนเพียงได้ก็เปล่าประโยชน์

"อ๋อยอั๋นอุนอะอาอั๋นไออั้ย" (ปล่อยฉันคุณจะพาฉันไปไหน) ความกลัวเริ่มเข้าเกราะกุมใจดวงน้อยๆ ของเอวาเธอพยายามดีดดิ้นสุดกำลังเพื่อให้หลุดพ้นจากวงแขนแกร่งแต่ความหวังที่จะหนีพลันดับวูบลงเมื่อเธอถูกลากมาถึงรถคันหรู

"ฉันไม่ใช่ไอวาคุณกำลังเข้าใจผิดฉันเป็นฝะ...โอ๊ย!" ร่างบางรีบอธิบายทันทีที่ริมฝีปากได้รับอิสระแต่ไม่ทันจะได้พูดจบเธอก็ต้องร้องโอดโอยด้วยความเจ็บเมื่อถูกชายหนุ่มจับยัดเข้าไปในรถอย่างแรงจนศีรษะชนกับขอบประตูก่อนหน้าจะคะมำชนกับกล่องเก็บของข้างเบาะ

น้ำตาแห่งความเจ็บเอ่อซึมตาคู่สวยจนพร่ามัวเธอทั้งกลัวทั้งเจ็บในเวลาเดียวกัน มือเรียวยกขึ้นจับศีรษะเบาๆ ขณะใช้อีกมือยันพนักพิงเบาะคนขับเพื่อทรงตัวลุกขึ้นนั่ง และเมื่อหันกลับไปมองทางประตูเธอก็ต้องตื่นตระหนกเข้าไปอีกเมื่อเห็นร่างสูงที่ยืนอยู่กำลังถอดเข็มขัดหนังราคาแพงออกจากรอบเอว "จะ..จะทำอะไร"

"....." ไร้ปฏิกิริยาตอบสนองจากภาคินเขาถอดเข็มออกจากขอบกางเกงอย่างใจเย็นมองร่างบางที่มีท่าทีตื่นตระหนกด้วยแววตาเย้ยหยันอะไรที่เป็นเธอเขาก็คิดว่ามันคือการแสแสร้งแกล้งทำทั้งนั้น 

"ฉันไม่ใช่ไอวาฉันชื่อเอวาเป็นฝาแฝดกับไอวา คุณจะทำแบบนี้กับฉันไม่ได้" เอวาร้องบอกเสียงสั่นพลางพยายามพามือหนีในตอนที่ร่างสูงโน้มตัวลงมาหมายจะจับมือถ้าเดาไม่ผิดเขาคงจะใช้เข็มขัดมัดมือเพื่อไม่ให้เธอหนีเป็นแน่หนทางเดียวที่เธอจะทำได้ในตอนนี้คือต้องบอกให้เขารู้ว่าเธอไม่ใช่ไอวา

"หึหึ" ภาคินเค้นหัวเราะออกมาราวกับคำพูดของหญิงสาวเป็นเรื่องตลกก่อนรอยยิ้มบนใบหน้าจะหายไปกลายเป็นดุดันแทน "คุณกลัวจนต้องแต่งเรื่องโกหกเพื่อเอาตัวรอดเลยเหรอไอวา"

ท่าทางที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วของชายหนุ่มทำเอาเอวาอกสั่นขวัญหายไม่น้อยรับรู้ได้ถึงรังสีอำมหิตที่ส่งผ่านทางสายตาและน้ำเสียง เธอลอบกลืนน้ำลายเหนี่ยวๆ ลงลำคอแห้งผากอึกใหญ่ข่มความกลัวเอาไว้แล้วเอ่ยบอกไปด้วยน้ำเสียงติดๆ ขัดๆ "ฉะ..ฉันพะ..พูดจริงๆ" 

"กรี๊ด!" 

สิ้นเสียงพูดร่างบางหมัดหนักก็พุ่งใส่เบาะนุ่มอย่างแรงด้วยความโกรธเฉียดใบหน้าเรียวไปนิดเดียว ขณะที่อีกคนหลับตาปี๋กรีดร้องด้วยความตกใจเพราะคิดว่าเขาจะฝังหมัดลงบนหน้าเธอจริงๆ 

"ฮึก" ความกลัวผสานกับความตกใจทำให้น้ำสีใสไหลลงอาบสองแก้มนวลอย่างกลั้นไม่อยู่ เนื้อตัวของเธอสั่นเทาราวกับลูกแมวตกน้ำแม้จะรู้ว่าเขาไม่ได้ทำจริงๆ ก่อนเปลือกตาบางจะค่อยๆ ปรือขึ้นมองร่างสูงผ่านม่านน้ำอย่างกล้าๆ กลัวๆ 

"ถ้ายังตอแหลไม่เลิกครั้งต่อไปมันจะไปอยู่บนหน้าคุณจริงๆ ไอวา" ริมฝีปากเอิบอิ่มเม้มเข้าหากันแน่นจนเป็นเส้นตรงเมื่อได้ยินประโยคที่เปล่งออกจากปากร่างสูงเธอไม่มีสิทธิแม้แต่จะอธิบายความจริง ทำไมเธอต้องมารับผลจากการกระทำของพี่สาวฝาแฝดด้วยฟ้าชั่งไม่ยุติธรรมกับเธอเลย

Related chapters

  • พันธะแค้นผูกรัก   บทที่ 4 ลิ้มรสความลำบาก

    "คุณอย่าทำแบบนี้เลย" ใบหน้าสวยคมที่อาบด้วยหยาดน้ำตาส่ายไปมาเชิงเว้าวอนพลางขยับตัวหนีไปยังเบาะคนขับในตอนที่ร่างสูงโน้มตัวเข้ามาพยายามจะใช้เข็มขัดมัดมือทั้งสองข้างของเธอ"โอ๊ย!" น้ำเสียงสั่นเครือเปล่งออกจากริมฝีปากเอิบอิ่มด้วยความเจ็บเมื่อถูกมือหนาจับต้นแขนแล้วกระชากเธอกลับมาที่เดิมจากนั้นก็รวบมือทั้งสองข้างมาไว้หน้าตักใช้เข็มขัดมัดจนแน่น "เดี๋ยวนี้เอาน้ำตาเข้าว่าแล้วเหรอ ไอวาคนจองหองหายไปไหนแล้วละ" ภาคินมองใบหน้าสวยคมที่อาบด้วยสายธารน้ำตาอย่างเย้ยหยันนานนับนาทีหลังจากมัดมือเรียวเสร็จก่อนปิดประตูรถดังปังทำเอาร่างบางสะดุ้งเฮือกอกสั่นขวัญหายดวงตากลมโตมองตามร่างสูงที่เดินอ้อมไปขึ้นรถฝั่งคนขับด้วยแววตาสั่นระริกขณะพยายามบิดข้อมือไปมาเพื่อให้หลุดจากพันธนาการ แต่ยิ่งพยายามเข็มขัดหนังก็ยิ่งเสียดสีกับผิวหนังบริเวณข้อมือจนแดงเถือกเป็นแผลถลอกสร้างความเจ็บแสบให้เธอไม่น้อย"อย่าทำอะไรโง่ๆ พยายามไปก็เปล่าประโยชน์" ร่างสูงที่เพิ่งเข้ามานั่งในรถพูดขึ้นเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นรอยแดงรอบข้อมือเล็กก่อนจะสตาร์ทรถแล้วขับออกจากลานจอดรถของผับด้วยความเร็ว"คุณจะพาฉันไปไหน" เอวาหันมองสองข้างทางด้วยแววตาหวาดระแวง

    Last Updated : 2025-02-13
  • พันธะแค้นผูกรัก   บทที่ 5 ยินดีต้อนรับสู่นรก

    @ปางไม้วิโรจน์อัครโชติรถสปอร์ตหรูเคลื่อนตัวมาจอดลงยังปางไม้ในช่วงเช้าของอีกวันหลังจากวิ่งยาวนานกว่าเก้าชั่วโมง ภาคินหันมองร่างบางข้างๆ ที่นอนหลับอยู่ด้วยแววตายากเกินคาดเดาได้ก่อนหยิบขวดน้ำขึ้นมาเปิดฝาแล้วราดลงบนศีรษะเล็กทุยทำเอาคนที่หลับอยู่สะดุ้งตื่นด้วยความตกใจเมื่อน้ำเย็นๆ สัมผัสลงบนศีรษะไหลลงอาบใบหน้าและเสื้อของเธอจนเปียก "คุณทำบ้าอะไรฉันเปียกหมดแล้ว" เอวาใช้มือลูบน้ำที่เกราะบนใบหน้าออกแล้วหันไปต่อว่าเจ้าของการกระทำด้วยความไม่พอใจเธอก็แค่เผลอหลับไปแต่เขาก็ไม่จำเป็นปลุกเธอด้วยวิธีแบบนี้ ทว่าคิ้วสวยก็ต้องขมวดชนกันเป็นปมด้วยความสงสัยเมื่อมองผ่านกระจกรถเห็นว่ารอบๆ บริเวณโอบล้อมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่และป่าเขียวชะอุ่ม "คุณพาฉันมาที่ไหน""ยินดีต้อนรับสู่นรก" ร่างสูงพูดเพียงแค่นั้นไม่ได้ตอบคำถามของหญิงสาวก่อนเปิดประตูลงจากรถเดินอ้อมมาเปิดประตูฝั่งที่เธอนั่งแล้วเอื้อมไปจับแขนเล็กดึงลงจากรถ "ปล่อยฉัน ฉันไม่ไป" ร่างบางพยายามขืนตัวต่อต้านไม่ให้ตัวเองเดินตามแรงลากของชายหนุ่มพลางกวาดสายตามองไปรอบๆ อย่างหวาดระแวงคนที่อยู่ต่างประเทศตั้งแต่เด็กๆ แบบเธอไม่สามารถเดาได้เลยว่าที่นี่คือส่วนไหนของประเท

    Last Updated : 2025-02-13
  • พันธะแค้นผูกรัก   บทที่ 6 สุนัขจิ้งจอก ผีห่าซาตาน

    ยามตะวันใกล้ลับขอบฟ้าจิ้งหรีดที่เกาะอยู่ตามต้นไม้เริ่มพากันส่งเสียงร้องระงมชวนให้คนฟังขนลุกไม่น้อย สายลมเย็นโชยกระทบผิวนวลของร่างบางที่นั่งกอดเข่าร้องไห้อยู่ภายในกระท่อมจนรู้สึกเย็นยะเยือกไปถึงกระดูกบนผิวขาวเนียนของเธอเต็มไปด้วยรอยยุงกัดแสบคันไปหมดครั้นจะใช้มือปัดปายยุงที่มาสูบเลือดจากตัวก็ทำไม่ได้เพราะถูดมัดไว้"พ่อ แม่ช่วยหนูด้วยหนูกลัวเหลือเกิน" ความกลัวเข้าเกราะกุมใจดวงน้อยๆ ของเอวามากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อรอบตัวเริ่มมืดสนิทในกระท่อมไม่มีแม้แต่ตะเกียงหรือเทียนสักเล่มสำหรับให้ความสว่าง"กรี๊ดด!" เสียงกรีดเปล่งออกจากริมฝีปากเอิบอิ่มด้วยความตกใจในตอนที่ตุ๊กแกแผดเสียงดังขึ้น ร่างบอบบางสั่นเทาด้วยความหวาดกลัวสุดขีดน้ำสีใสไหลอาบสองแก้มนวลหยดลงบนคอเสื้อจนเปียกปอน ดวงตากลมโตกวาดมองไปรอบๆ กระท่อมผ่านความความมืดสลัวอย่างหวาดระแวงเธอไม่สามารถรู้ได้เลยว่าตอนนี้ตุ๊กแกตัวนั้นอยู่ส่วนไหนของกระท่อมและอยู่ใกล้เธอหรือเปล่า"อะ..โอ้ย!" ไม่ทันที่อาการหวาดกลัวจะได้จางหายไปเธอก็ต้องหน้านิ่วคิ้วขมวดร้องโอดครวญออกมาเมื่อจู่ๆ ก็รู้สึกปวดบริเวณท้องตามมาด้วยเสียงร้องของท้องคงเป็นเพราะตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้เธ

    Last Updated : 2025-02-13
  • พันธะแค้นผูกรัก   บทที่ 7 ทำงานแลกอาหาร

    "อย่าเข้ามาใกล้ฉัน" เอวาร้องห้ามเสียงสั่นเมื่อกระเถิบถอยหลังจนติดฝาสานไม้ไผ่แต่ร่างสูงก็ยังย่างสามขุมเข้าหาเธอไม่ยอมหยุด ดวงตากลมโตจ้องมองคนตรงหน้าด้วยความหวาดหวั่นคงไม่ใช่ว่าเขาโกรธที่เธอไปว่าเขาเป็นผีห่าซาตานแล้วจะเตะเธอเหมือนกะละมังใบนั้น"ปากเก่งไม่ใช่เหรอกลัวทำไม" เสียงทุ้มเปล่งออกจากริมฝีปากหนาอย่างเย้ยหยันกับท่าทางตื่นตระหนกแววตาหวาดหวั่นของเธอ เท้าใหญ่เดินมาหยุดยืนตรงหน้าร่างบางก่อนจะเอื้อมมือไปจับเข็มขัดที่เหลือยาวออกมาจากการมัดข้อมือเล็กไว้ ขณะที่อีกคนก็พยายามพาตัวหนีดึงข้อมือออกจากการจับกุมสุดแรง "คุณจะทำอะไร""โอ๊ย!" เธอหลุดร้องด้วยความเจ็บในตอนที่ชายหนุ่มดึงกระชากเข็มขัดอย่างแรงทำให้เสียดสีกับแผลถลอกจนเลือดซิบออกมา ตัวลอยขึ้นปะทะร่างสูงจังๆ ก่อนจะล้มลงนั่งกองกับพื้นอีกครั้งสร้างความเจ็บปวดให้เธอไม่น้อย ฟันคมขบลงบนกลีบปากเอิบอิ่มจนหอเลือดข่มความเจ็บปวดเอาไว้ ก่อนแหงนหน้าต่อว่าเจ้าของการกระทำอันป่าเถื่อนด้วยความโกรธ "ฉันเป็นผู้หญิงนะทำไมคุณต้องทำรุนแรงกับฉันด้วย""เพราะผมมีความสุขที่ได้เห็นความเจ็บปวดของคุณไงไอวา" ร่างสูงตอบอย่างไร้ความรู้สึกแสยะยิ้มมุมปากอย่างเย้ยหยันเขาส

    Last Updated : 2025-02-13
  • พันธะแค้นผูกรัก   บทที่ 8 ข้าวเคล้าน้ำตา

    เอวาถูกคนงานวัยกลางอุ้มมาวางลงในกระท่อมหลังจากนั้นไม่นานก็เห็นผู้จัดการปางและเมียสาวเดินกึ่งวิ่งหน้าตาตื่นเข้าไปในกระท่อม"ทำไมคุณภาคินถึงเอาผู้หญิงคนนี้มาไว้ที่กระท่อมร้างกลางป่าแบบนี้คะพี่พี" ลิลลี่ภรรยาของพีรวัฒน์หันไปถามสามีด้วยความสงสัยเมื่อเห็นร่างบางที่นอนไม่ได้สติอยู่บนเสื่อเก่าๆ เปรอะเปื้อนไปด้วยไรฝุ่นทำให้เกิดความสงสารขึ้นมาจับใจ"พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน คุณภาคินแค่ให้พี่มาเฝ้าเธออยู่ห่างๆ แล้วพี่ก็ไม่กล้าถามด้วยกลัวโดนด่า" พีรวัฒน์ตอบเมียสาวตามความจริงเขาก็รู้สึกสงสารผู้หญิงคนนี้ไม่แพ้กันแต่ก็ทำอะไรไม่ได้"น่าสงสารจัง" ลิลลี่พึมพำออกมาเบาๆ ก่อนนั่งลงข้างๆ ร่างบางแล้วหยิบยาดมออกมาจากกระเป๋ายาจ่อไปที่จมูกโด่งสันของคนที่นอนไม่ได้สติเธอมองใบหน้าสวยคมที่ซีดเผือดอย่างพินิจพิจารณาถึงแม้จะมอมแมมแต่ก็ดูออกว่าหญิงสาวเป็นคนสวยมาก อีกทั้งผิวพรรณก็ขาวผุดผ่องเรียบเนียนคงไม่ใช่คนแถวนี้น่าจะเป็นคุณหนูของบ้านไหนสักแห่ง"ตัวร้อนจี้เลยค่ะพี่พี" เสียงหวานเปล่งบอกผู้เป็นสามีด้วยความตกใจเมื่อสัมผัสลงบนผิวเนียนของหญิงสาว อุณหภูมิร่างกายร้อนระอุจนน่าตกใจหากปล่อยไว้คงช็อคเป็นแน่ เธอรีบหันไปสั่งสามีด้

    Last Updated : 2025-02-13
  • พันธะแค้นผูกรัก   บทที่ 9 ระแคะระคาย

    โคร่ม!เสียงเปิดประตูทำให้ร่างบางที่กำลังนอนหลับอยู่สะดุ้งตื่นด้วยความตกใจรีบดีดตัวลุกขึ้นนั่งอัตโนมัติ มือเรียวยกขึ้นขยี้ตาเบาๆ ไล่อาการงัวเงียแล้วเพ่งมองเวลาบนนาฬิกาข้อมือ"เช้าแล้วเหรอ" เสียงหวานพึมพำเบาๆ เธอจำไม่ได้เลยว่าเมื่อวานตัวเองเผลอหลับไปตอนไหนคงเป็นเพราะฤทธิ์ยาลดไข้ทำให้นอนหลับเสียสนิทรู้ตัวอีกทีก็เช้าของอีกวันแล้ว หน้าตาของเธอดูสดชื่นมีเลือดฝาดดีกว่าเมื่อวานเยอะคงเพราะได้ทานอาหารและพักผ่อนเต็มที่จะมีก็แต่อาการมึนๆ จากพิษไข้นิดหน่อย ดวงตากลมโตปรายมองร่างสูงที่เพิ่งเดินพ้นประตูเข้ามานิ่งๆ รอดูว่าเขาจะทำอะไรเธออีก ภาคินรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นหญิงสาวนั่งอยู่หน้าตาก็ดูดีขึ้นกว่าเมื่อวานมากเขาคิดว่าเธอจะนอนซมเพราะพิษไข้ หรือไม่ก็สำออยแกล้งป่วยเพื่อจะได้ไม่ต้องทำงานเสียอีก ดวงตาคมกริบไล่มองร่างบางตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าก่อนออกคำสั่งเสียงดุ "ตื่นแล้วก็ไปทำงาน""...." สิ้นเสียงทุ้มร่างบางก็หยัดกายลุกขึ้นยืนทันที เธอเลือกจะไม่ตอบโต้ชายหนุ่มให้เปลืองน้ำลายถึงตอบโต้ไปก็ไมชนะเขาอยู่ดีสู้เก็บแรงไว้ขนฟืนขึ้นรถดีกว่า อีกคนยิ่งแปลกใจเข้าไปอีกกับท่าทางนิ่งสงบของร่างบางดวงตาคมกริบจับ

    Last Updated : 2025-02-13
  • พันธะแค้นผูกรัก   บทที่ 10 นิสัยร่าน

    หลายวันต่อมา"คุณเอวาครับ ผมเอาข้าวมาให้ครับ" เอวาที่กำลังขนไม้ฟืนขึ้นรถชะงักหยุดเมื่อเสียงทุ้มของพีรวัฒน์ดังขึ้นด้านหลัง เธอหันไประบายยิ้มอ่อนๆ ให้เจ้าของเสียง แล้วรีบเอาไม้ไปวางท้ายรถจากนั้นจึงเดินไปหาชายหนุ่ม"ขอบคุณมากนะคะ ลำบากคุณพีแย่เลยต้องมาส่งข้าวให้ฉันทุกวัน" เธอยื่นมือไปรับข้าวกล่องจากชายหนุ่มพร้อมเอ่ยขอบคุณด้วยความเกรงใจ"มันเป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้วครับ คุณภาคินสั่งไว้" พีรวัฒน์ยิ้มตอบ อีกคนเพียงระบายยิ้มอ่อนๆ พอพูดถึงภาคินผู้ชายใจร้าย เธอก็ไม่ได้เจอเขามา3 วันแล้ว พีรวัฒน์บอกว่าเขากลับไปกรุงเทพซึ่งมันเป็นเรื่องดีมากๆ ตั้งแต่ไม่มีเขาเธอก็สบายใจขึ้นเยอะไม่ต้องมานั่งระแวงว่าเขาจะหาเรื่องอะไรทรมานเธออีก และเป็นโอกาสที่เธอจะได้หาช่องทางหนี แต่ดูเหมือนการออกไปจากที่นี่ไม่ง่ายเอาเสียเลยเพราะเธอพยายามหาหนทางมา2-3 วันแล้วก็ยังไม่เห็นสักช่องทาง พอคิดถึงเรื่องนี้เธอถึงกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่คิดไม่ตกจริงๆ ว่าควรทำยังไง"คุณเอวาเป็นอะไรหรือเปล่าครับ" พีรวัฒน์ถามขึ้นเมื่อเห็นหญิงสาวยืนเหม่อลอย ใบหน้าตึงเครียดคล้ายกับกำลังคิดอะไรอยู่ เสียงของเขาทำให้เอวาหลุดออกจากห้วงความคิด "เปล่าค่

    Last Updated : 2025-02-13
  • พันธะแค้นผูกรัก   บทที่ 11 สนองความร่าน

    ภาคินพุ่งตรงไปยังกระท่อมของหญิงสาวทันทีที่เดินทางมาถึงปางไม้ ทว่าเขาก็ต้องชะงักเท้าอัตโนมัติเมื่อเดินเข้าใกล้บริเวณกระท่อมแล้วได้ยินเสียงคนคุยกันดังเว่วมา"ดีขึ้นหรือยังครับ""ยังรู้สึกระคายเคืองนิดหน่อยค่ะ" "ว๊ายย!" ร่างสูงยืนฟังบทสนทนาของคนทั้งสองเงียบๆ จนกระทั่งได้ยินเสียงร้องอุทานของหญิงสาวจึงรีบปรี่เข้าไปในกระท่อมด้วยความเร็ว"ทำอะไรกัน!" เสียงทุ้มตะเบ็งดังลั่นด้วยความรู้สึกโมโหเมื่อเปิดประตูเข้ามาเห็นทั้งสองกำลังนอนทับกันโดยพีรวัฒน์อยู่ด้านบนหญิงสาวนอนด้านล่างทำให้คิดเป็นอื่นไม่ได้จริงๆ นอกจากทั้งสองกำลังจะทำเรื่องบัดสีบัดเถลิง"คุณภาคิน""คุณ" พีรวัฒน์กับเอวาเบิกตากว้างด้วยความตกใจเอ่ยออกมาอย่างพร้อมเพรียง เมื่อหายตกใจก็รีบผละออกจากกันแล้วลุกขึ้นยืนด้วยความเร็ว"มันไม่ใช่อย่างที่คุณภาคินคิดนะครับ" พีรวัฒน์รีบอธิบายพัลวัน ส่วนเอวายืนมองทั้งสองหนุ่มสลับไปมาด้วยความงุนงงเธอก็แค่เสียหลักล้มแล้วคว้าตัวพีรวัฒน์เอาไว้เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยว แต่เขาดันเสียหลักล้มลงไปกับเธอด้วยไม่ได้มีอะไรในก่อไผ่เลยสักนิด"กลับไปดูเมียพีรวัฒน์ อย่ามายุ่งกับผู้หญิงคนนี้" ภาคินผ่อนลมหายใจเข้าออกเบาๆ พยายา

    Last Updated : 2025-02-13

Latest chapter

  • พันธะแค้นผูกรัก   บทส่งท้าย

    5 ปีต่อมาวันเวลาหมุนเวียนดำเนินไปเรื่อย ๆ นี่ก็ผ่านมาห้าปีแล้วที่เอวากับภาคินได้สร้างครอบครัวด้วยกัน ทั้งสองคนได้ตกลงแต่งงานจดทะเบียนสมรสกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อสามปีก่อนมีลูกเป็นโซ่ผูกใจด้วยกันสามคนก็คืออลัน อลินดา อคิน และยังมีบุตรสาวบุตรธรรมอีกหนึ่งคนชื่อพะพายอายุรุ่นราวคราวเดียวกับอคินบุตรชายคนสุดท้อง"มามี๊ แด๊ดดี๊พี่อลันแกล้งพะพายอีกแล้วครับ" เสียงของอคินเด็กน้อยวัยสี่ขวบเศษ ๆ หน้าตาหล่อเหลาตั้งแต่เด็กวิ่งเข้ามาฟ้องบิดากับมารดาที่นั่งอยู่ในบ้านเสียงดั่งลั่น ภาคินกับเอวาที่กำลังนั่งคุยกันถึงกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนลุกเดินตามบุตรชายคนเล็กออกไปยังลานหน้าบ้าน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ลูกชายคนโตอย่างอลันทะเลาะกับลูกบุตรธรรมแต่มันเกิดขึ้นตลอดตั้งแต่พวกเขารับพะพายเด็กกำพร้ามาเลี้ยงดู "พะพาย! ยัยตัวแสบกล้าทำฉันเลือดออกเหรอห๊ะ""พะพายไม่ได้ตั้งใจนะ ก็พี่อลันแกล้งพะพายก่อน""ไม่ต้องมาเรียกฉันว่าพี่ ฉันไม่ใช่พี่เธอ" เสียงของอลันกับพะพายที่กำลังทะเลาะกันดังแว่วมาทำให้ภาคินต้องรีบเดินเข้าไปห้ามศึก "ทะเลาะอะไรกันอลัน พะพาย" อลันกับพะพายเงียบปากลงทันทีมองหน้าผู้เป็นบิดาตาปริบ ๆ ภาคิน

  • พันธะแค้นผูกรัก   บทที่ 52 The end

    วันต่อมา"แด๊ดดี๊ มามี๊ๆ" เสียงร้องตะโกนของสองแฝดที่ดังอยู่หน้าห้องปลุกให้คนเป็นพ่อแม่อย่างเอวากับภาคินที่กำลังนอนกอดกันอยู่ภายในห้องรู้สึกตัวตื่น"คุณนอนต่อเถอะผมไปเปิดประตูให้ลูกเอง" ภาคินยกมือขึ้นรั้งไหล่เมียสาวที่กำลังจะลุกให้นอนลงเหมือนเดิมเพราะอยากให้เธอพักผ่อนเมื่อคืนเขาเล่นต่อแขนต่อขาให้ลูกจนเธอแทบหมดแรง ก่อนเขาจะลุกลงจากเตียงเดินไปเปิดประตูให้ลูกแทน"กู๊ดมอร์นิ่งค่ะแด๊ดดี๊" อลินดาเอ่ยทักทายเสียงใสพร้อมฉีกยิ้มจนตายีทันทีที่บิดาเปิดประตูออกมา"มอร์นิ่งคิดส์ครับคนสวย" ภาคินย่อตัวลงหอมแก้มซ้ายแก้มขวาของบุตรสาวฟอดใหญ่แล้วหอมแก้มบุตรชายต่อ "มอร์นิ่งคิดส์ครับคนหล่อ""มอร์นิ่งครับแด๊ดดี๊" อลันยิ้มตอบบิดาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มจากนั้นก็พากันเดินเข้าไปในห้อง"ทำไมไม่นอนต่อ" ใบหน้าหล่อเหลาเลิ่กคิ้วขึ้นถามเมื่อเห็นว่าร่างบางนั่งพิงหัวเตียงอยู่"นอนไม่หลับแล้ว" เอวาระบายยิ้มตอบชายหนุ่มแล้วหันไปถามไถ่สองแฝดต่อ "เมื่อคืนนอนกับคุณปู่ คุณย่าเป็นไงบ้างคะ""สบายมากครับ สบายมากค่ะ" สองแฝดตอบเสียงเจื้อยแจ้วก่อนอลินดาจะกระโดดขึ้นเตียงไปนั่งทับหน้าขามารดาที่นั่งยืดขายาวเหยียด การกระทำของบุตรสาวสร้างความ

  • พันธะแค้นผูกรัก   บทที่ 51 สมบูรณ์แบบ

    "ว๊าย!""ภาคินปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้นะ" เอวาร้องท้วงเสียงดังลั่นเมื่อจู่ ๆ ชายหนุ่มก็เดินอ้อมมาช้อนตัวเธอขึ้นอุ้มในท่าเจ้าสาวขณะที่เธอกำลังลงจากรถหลังจากรถมาจอดลงหน้าบ้านวิโรจน์อัครโชติแล้ว"ปล่อยแน่...แต่หลังจากต่อแขนต่อขาให้ลูกแล้วนะ" ภาคินตอบหน้าระรื่นไม่ได้สนใจเสียงโวยวายของคนในวงแขนสักนิดอุ้มเธอเดินดุ้ม ๆ เข้าบ้าน "ฉันท้องอยู่นะ คุณคงจะทำอย่างที่พูดจริง ๆ ไม่ได้" คนฟังถึงกับอ้าปากเหวอเมื่อได้ยินคำพูดจากริมฝีปากหนาทำได้เพียงส่งเสียงร้องท้วงไม่กล้าดิ้นหรือขัดขืนอะไรยกมือขึ้นคล้องคอร่างสูงไว้แน่นเพราะกลัวตกตอนนี้เธอไม่ได้ตัวคนเดียวแล้วร่างบางถูกภาคินอุ้มมาวางบนเตียงอย่างแผ่วเบาก่อนเขาจะตามขึ้นไปคร่อมเธอเอาไว้จับจ้องใบหน้าคมที่ห่างกันเพียงคืบด้วยแววตาหวานเยิ้ม "ผมรักคุณนะ"เอวาระบายยิ้มหวานให้คนด้านบนมองสบแววตาหวานเยิ้มด้วยแววตาอ่อนโยนยกมือขึ้นประคองใบหน้าหล่อเหลาพร้อมเอื้อนเอ่ยความรู้สึกในใจออกมา "ตอนนี้ฉันยังไม่รู้หรอกว่าตัวเองรักคุณแล้วหรือเปล่า แต่ฉันมีความสุขและรู้สึกอบอุ่นที่มีคุณอยู่ใกล้ ๆ ฉันเชื่อว่าสักวันคุณจะทำให้ฉันกล้าพูดได้เต็มปากเต็มคำว่าฉันรักคุณ ฉันเปิดโอกาสให้คุณได้ทำ

  • พันธะแค้นผูกรัก   บทที่ 50 ตีตราจอง

    วันเวลาหมุนเวียนมาจนถึงวันงานประมูลเครื่องเพชร รถลีมูซีนคันหรูที่มีสองหนุ่มสาวนั่งอยู่เบาะหลังเคลื่อนตัวมาจอดลงยังหน้าโรงแรมชื่อดังใจกลางเมืองกรุงซึ่งเป็นสถานที่จัดงานประมูลเครื่องเพชรร่างสูงในชุดสูทสีเทาเข้มเข้ารูปเปิดประตูลงจากรถด้วยท่าทางสง่าผ่าเผยก่อนเดินอ้อมไปเปิดประตูรถอีกฝั่ง"ขอบคุณค่ะ" เอวาในชุดเดรสเปิดไหล่แขนพองสีเทาอ่อนยาวเสมอเข่าผ่าข้างเล็กน้อยโชว์เรียวขาขาวเนียนเรียบหรูดูดีก้าวลงจากรถพร้อมระบายยิ้มหวานให้ชายหนุ่มเชิงขอบคุณ "พร้อมไหม" ชายหนุ่มระบายยิ้มบาง ๆ พร้อมยกแขนขึ้นให้อีกคนคล้อง มือเรียวสอดเข้ามาคล้องแขนแกร่งอย่างว่าง่ายพยักหน้าแทนคำตอบว่าเธอพร้อมแล้วจากนั้นทั้งสองก็เดินควงคู่เข้าไปในงานทันทีที่ภาคินกับเอวาย่างกรายเข้ามาในงานทุกสายตาก็มองมายังทั้งสอง ก่อนเสียงซุบซิบจะเริ่มดังขึ้นทุกคนต่างให้ความสนใจกับผู้หญิงหน้าตาสะสวยข้างกายนักธุรกิจหนุ่มชื่อดังเพราะเขาไม่เคยควงผู้หญิงออกงานเลยสักครั้ง กล้องจากนักข่าวหลายสำนักก็กดชัตเตอร์รูปของสองหนุ่มสาวระรัวก่อนจะมีนักข่าวสองสามคนเดินเข้ามาสัมภาษณ์ "สวัสดีค่ะคุณภาคิน""สวัสดีครับ" ภาคินตอบกลับด้วยใบหน้ายิ้มแย้มก่อนปรายตามองสี

  • พันธะแค้นผูกรัก   บทที่ 49 ลูกคนที่3

    แสงแดดยามเช้าสาดส่องผ่านม่านหน้าต่างกระจกเข้ามากระทบเปลือกตาบางของร่างสูงที่นอนกอดลูกบนเตียงคิงไซส์ให้รู้สึกตัวตื่นในช่วงสาย ๆ ของวันใหม่ใบหน้าหล่อเหลาระบายยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาก็ได้เจอหน้าลูกเมียเป็นอันดับแรกเขาหยัดกายลุกขึ้นนั่งก่อนโน้มไปจูบหน้าผากบุตรชายที่นอนข้าง ๆ อย่างแผ่วเบาแล้วเลื่อนไปจูบหน้าผากบุตรสาวต่อจากนั้นก็ลงจากเตียงเดินอ้อมไปริมเตียงอีกฝั่งที่แม่สองแฝดนอนอยู่โน้มลงจูบหน้าผากมนเบา ๆ "ผมรักคุณกับลูกนะ" ดวงตาคมกริบไล่มองใบหน้าสามคนแม่ลูกที่นอนหลับบนเตียงด้วยความอิ่มเอมใจ ก่อนละสายตาออกแล้วจัดการอาบน้ำแต่งตัวหยิบโน้ตบุ๊คเดินลงมานั่งทำงานที่ห้องนั่งเล่นปล่อยให้เมียกับลูกนอนต่อโดยไม่คิดจะปลุกเพราะเมื่อคืนทั้งสามคนนอนดึกเพราะมัวแต่พูดคุยหยอกล้อกับเขาอยู่"คุณน้าจะไปไหนครับ" ภาคินเปล่งเสียงถามขึ้นเมื่อเหลือบสายตาาไปเห็นมารดาของหญิงสาวกำลังเดินถือตะกร้าผ่านห้องนั่งเล่นไป ดวงเดือนหยุดชะงักหันไปตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มกว่าที่ผ่านมา "ว่าจะออกไปจ่ายตลาดหน่อยนะ" ทำคนฟังอย่างภาคินแปลกใจไม่น้อยกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของดวงเดือนทั้งที่ที่ผ่านมาเธอมักจะแยกเขี้ยวใส่เขาตลอดบาง

  • พันธะแค้นผูกรัก   บทที่ 48 รัก

    วันต่อมา"มามี๊คะเมื่อไรแด๊ดดี๊จะกลับมา อลินคิดถึงแด๊ดดี๊แล้วค่ะ" เสียงของอลินดาดังขึ้นทำลายความเงียบขณะที่ทุกคนกำลังนั่งทานอาหารอยู่ "อีกสองวันแด๊ดดี๊ก็จะกลับแล้วค่ะ อดทนอีกหน่อยนะคะ" เอวาวางช้อนลงเอื้อมมือไปลูบศรีษะเล็กทุยอย่างเอ็นดูเธอเองก็คิดถึงชายหนุ่มมากเหมือนกันไม่รู้ทำไมถึงคิดถึงมากขนาดนี้ "อลันก็คิดถึงแด๊ดดี๊ครับ" อลันพูดเสริมอีกเสียงพร้อมทำหน้าเหงาหงอยจนคนเป็นแม่ต้องเลื่อนไปลูบศีรษะปลอบประโลม "เดี๋ยวแด๊ดดี๊ก็กลับมาแล้วครับ""ครับ ค่ะ" สองแฝดพยักหน้ารับรู้แล้วก้มหน้าก้มตาทานอาหารต่อเมื่อเสร็จก็ขอมารดาขึ้นไปนอนดูการ์ตูนบนห้องนอน ส่วนเอวาก็ช่วยมารดาเก็บจานล้างจากนั้นก็มานั่งคุยกันต่อที่โซฟา"แม่ว่าลูกดูมีน้ำมีนวลขึ้นนะ" ดวงเดือนไล่สายตามองบุตรสาวตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าก่อนพูดลอย ๆ เพราะดูบุตรสาวมีน้ำมีนวลอวบอิ่มขึ้นกว่าเดิมมาก "สงสัยช่วงนี้คงเจริญอาหารค่ะ" คนโดนทักตอบอย่างไม่ใส่ใจมากนัก ดวงเดือนไม่ได้ซักไซร้อะไรต่อพูดคุยเรื่องอีกแทนผ่านไปครึ่งชั่วโมงเธอจึงขอแยกตัวออกไปข้างนอกเพราะมีนัดกับเพื่อน ๆ"เฮ้อ" เอวาถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เอนกายพิงพนักโซฟาแล้วค่อย ๆ หลับตาลงด้วยสมองหนัก

  • พันธะแค้นผูกรัก   บทที่ 47 ลองดูสักครั้ง

    วันเวลาหมุนเวียนดำเนินไปเรื่อยๆ จากวันเคลื่อนไปเป็นเดือนนี่ก็ผ่านมาสามเดือนแล้วที่ภาคินคอยตามดูแลเอวาและลูกๆ ดูเหมือนทุกอย่างจะดีขึ้นตามลำดับ วันแรกเป็นยังไงวันนี้เขาก็ยังเป็นแบบนั้นความเสมอต้นเสมอปลายทำให้เอวายอมเปิดใจให้เขาในระดับหนึ่ง ความรู้สึกดีๆ เริ่มก่อตัวเธอยอมรับเลยว่ารู้สึกอบอุ่นใจไม่น้อยที่มีเขาคอยดูแลอยู่ใกล้ๆ "เป็นอะไรลูกนั่งหน้าหงอยเชียว คิดถึงภาคินเหรอ" เสียงของดวงเดือนทำให้คนที่นั่งดูทีวีแต่จิตใจกลับเหม่อลอยไม่อยู่กับเนื้อกับตัวหลุดจากภวังค์ ก่อนหันรีบหันไปปฏิเสธทันควัน "หนูจะคิดถึงเขาทำไมกันละแม่" "ใจลูก ลูกย่อมรู้ดีว่าทำไม" ดวงเดือนระบายยิ้มบางๆ มองบุตรสาวด้วยความเอ็นดูเธออาบน้ำร้อนมาก่อนทำไมจะดูไม่ออกว่าบุตรสาวเปลี่ยนไปตั้งแต่พ่อของสองแฝดหายไปเพราะต้องบินไปดูงานที่ต่างประเทศหนึ่งอาทิตย์"..." เอวาเพียงระบายยิ้มให้มารดาถึงปากเธอจะบอกออกไปแบบนั้นแต่ในใจเธอก็คิดถึงเขาจริง ๆ นั่นแหละ ตลอดสามเดือนที่ผ่านมาชายหนุ่มทำตัวติดเธอกับลูกตลอดไม่เว้นแม้แต่เวลานอนขนาดเธอกลับมาอยู่กับมารดาเขาก็ยังตามมานอนด้วยโดยให้เหตุผลว่าอยากนอนกับลูก ทุกวันเธอจะได้ยินคำหยอดหวาน ๆ จากปากเขาตลอ

  • พันธะแค้นผูกรัก   บทที่ 46 ปกป้อง2

    หลายวันต่อมาเอวายังคงอยู่ที่บ้านของภาคินเหมือนเดิมไม่ได้กลับบ้านตั้งแต่วันนั้นแล้วเหตุผลก็คงไม่ต้องบอกเพราะลูกๆ ของเธอยังไงละออดอ้อนให้อยู่ต่อ ดูเหมือนสองแฝดจะติดปู่กับย่าเอามากก็ผู้ใหญ่ทั้งสองเล่นตามใจหลานขนาดนั้นหลานจะไม่ชอบได้ยังไงคนลำบากก็เห็นจะมีแต่เธอนี่แหละถูกพ่อสองแฝดแทะโลมทางสายตา ทางคำพูดและการกระทำทุกวัน เวลานอนก็แอบย่องมานอนกอดเธอทุกคืนถึงแม้จะไม่มีอะไรเกินเลยก็ตามเถอะพอด่าเขาก็ทำหน้ามึนกลายเป็นเธอเสียเองที่ประสาทเสียอย่างเช่นตอนนี้เพี๊ยะ!"ภาคินคุณช่วยตั้งใจขับรถหน่อยได้ไหม" หญิงสาวตีลงบนมือปลาหมึกของร่างสูงที่อยู่ไม่นิ่งยื่นมาวางบนหน้าขาของเธอทั้งที่กำลังขับรถอยู่อย่างแรง"โอ้ย! ผมเจ็บนะ" คนโดนตีร้องโอยด้วยความเจ็บรีบหดมือกลับก่อนหัวเราะออกมาเบา ๆ มิหน่ำซ้ำยังพูดจาเย้าแหย่ให้อีกคนหัวเสียอีก "ผัวจับนิดจับหน่อยไม่ได้หรือไงครับเมีย""พูดจาให้มันดี ๆ ลูกอยู่เห็นไหม" ใบหน้าคมหันขวับไปมองค้อนคนข้างๆ ตาเขียว มือเรียวเอื้อมไปหยิกเอวหนาด้วยความหมั่นไส้"โอ้ยๆ เจ็บๆ" เสียงทุ้มร้องโอดโอยเบาๆ พลางเด้งเอวหนีมือเรียว เอวายกยิ้มมุมปากอย่างสะใจก่อนปล่อยมือออกจากเอวหนาและไม่มีที่จะพูดข

  • พันธะแค้นผูกรัก   บทที่ 45 ปกป้อง1

    "ภาคิน! อะไรของคุณเนี่ยฉันจะนอน เมื่อกี้ยังไม่พอหรือไง" เอวาเอี่ยวหน้าต่อว่าร่างสูงที่นอนซ้อนหลังเธอภายใต้ผ้าห่มผืนใหญ่ด้วยน้ำเสียงดุเพราะเขาเอาแต่กดจูบที่ไหล่สลับกับคลอเคลียซอกคอ มือก็อยู่ไม่นิ่งสอดผ่านเอวคอดกิ่วมาลูบวนหน้าท้องแบนราบแล้วแบบนี้เธอจะข่มตานอนได้ยังไงก่อนหน้านี้เขาก็ตักตวงความสุขจากร่างกายเธอนับครั้งไม่ถ้วนทั้งที่บอกว่าขอแค่ครั้งเดียวซึ่งครั้งเดียวของเขาไม่มีอยู่จริงเล่นเอาน้องสาวเธอบวมช้ำเจ็บแสบไปหมด"ครับๆ ไม่กวนแล้วครับ" ภาคินยอมหยุดการกระทำนอนกอดร่างบางนิ่งๆ ก่อนกดจูบหนักๆ บนศีรษะเล็กทุยจากนั้นจึงหลับตาลง เอวาไม่ได้ขัดขืนอะไรยอมหลับตาลงในอ้อมกอดของร่างสูงอย่างว่าง่ายเพราะรู้สึกเหนื่อยจากกิจกรรมก่อนหน้านี้อยากพักผ่อนเต็มทีแล้วเพียงไม่นานทั้งสองก็ผล็อยไป'ก็อก ก็อก'หลายชั่วโมงต่อมาเสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้นปลุกให้ชายหนุ่มที่นอนกอดร่างบางรู้สึกตัวตื่น มือหนายกขึ้นขยี้ตาเบาๆ ไล่อาการงัวเงีย ก่อนผงกหน้ามองคนในอ้อมกอดก็พบว่าเธอยังหลับอยู่ เขาค่อยๆ ดึงแขนออกจากเอวคอดกิ่วขยับตัวลงจากเตียงอย่างแผ่วเบาเพราะกลัวทำให้อีกคนตื่น แล้วเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวมาพันรอบเอวจากนั้นก็เดินไ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status