“เก่งจริง ๆ เลยนะ” ด้วยร่างกายอันอ่อนแอในตอนนี้ของนีน่า เธอค่อนข้างที่จะหมดแรงและพยายามที่จะเซฟพลังงานเอาไว้ใช้เรียน ทำให้การเคลื่อนไหวของเธอมันช้าไปหมด ถ้าไม่ได้แฟนต้าวิ่งมาที่โต๊ะล่ะก็ เธอคงได้ยืนอยู่จนกว่าจะหมดเวลาพักแน่ ๆ
เสียงของผู้คนคุยกันจอแจดังจนแทบจะกลบเสียงของพวกเธอไปจนหมด ทำให้การคุยกันในตอนนี้เหมือนเป็นการตะโกนใส่กันมากกว่า หากคนอื่นมาเห็นภาพทั้งคู่ในตอนนี้คงเข้าใจว่าทั้งสองกำลังโกรธและทะเลาะกันอยู่แน่ ๆ
แต่แล้วสายตาของนีน่าก็สะดุดเข้ากับชายหนุ่มที่ดูคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูกด้วยร่างที่สูงสง่า เป็นจุดเด่นท่ามกลางผู้คน เรือนผมสีดำขลับราวกับขนของอีกา กับตัดกับสีผิวขาวเนียนละเอียดและผุดผ่อง ใบหน้าคมเข้มจมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากบางยาวได้รูปผู้เป็นเจ้าของดวงตาอันทรงเสน่ห์รูปลักษณ์ที่ดึงดูดทุกสายตาโดยไม่ต้องพยายาม
และนีน่าก็รู้ทันที เธอรู้ได้ทันว่านั่นคือแฟนเก่าของเธอ รีไวน์
ชายคนนั้นกำลังนั่งทานข้าวอยู่ท่ามกลางเพื่อนผู้ชายหมู่มากจนไม่ได้สังเกตเห็นว่ามีสายตาคู่หนึ่งกำลังจับจ้องเขาอยู่อย่างไม่วางตา แต่แล้วเพื่อนของเขาก็รีบวิ่งถือจานข้าวมายังที่โต๊ะอย่างรีบร้อน เพื่อที่จะแจ้งข่าวเด็ดให้กับรีไวน์
“รีไวน์ เมื่อกี้กูเห็นคนที่เป็นสุดที่รักของมึงด้วยว่ะ เธอมากินข้าวที่คณะนี้เหมือนกันนะเว้ย หรือว่าจะมาหาแกกันวะ?” มั้นท์เพื่อนที่สุดของรีไวน์ที่พึ่งมาถึงโต๊ะ บอกกับรีไวน์อย่างตื่นเต้นเพื่อน ๆต่างรู้ดีว่า รีไวน์ยังลืมรักเก่าของตัวเองไม่ได้เลยแม้แต่วินาทีเดียว นั่นจึงเป็นสาเหตุว่าทำไมเขาถึงได้ตื่นเต้นในการแจ้งข่าวแบบนี้
“มึงเพ้อเจ้ออะไรวะ คนอย่างนีน่าจะมากินข้าวที่คณะนี้ได้ยังไง” รีไวน์รู้ได้ทันทีว่าสุดที่รักที่เพื่อนเขาหมายถึงคือใคร ชีวิตของเขาหลังจากที่เลิกกันกับคนเก่าก็ไม่เคยแตะต้องตัวผู้หญิงคนไหนอีกเลย
“อะไรกันวะ พูดเหมือนรู้จักกันดี เลิกกันไปนานแล้วไม่ใช่หรือไงเวลาเปลี่ยนคนเปลี่ยนนะมึง”
มั้นท์ยังคงพูดเพื่อที่จะเสี้ยมให้ รีไวน์อยากรู้อยากเห็นเรื่องของนีน่าให้มากกว่านี้ และมันก็ได้ผลถึง รีไวน์จะไม่เชื่อว่านีน่ามากินข้าวที่นี่ ถึงปากจะพูดแบบนั้นแต่สายตาของเขาดันสอดส่องหาเธอไม่ยอมหยุด แต่ก็หาไม่เจอเพราะตัวของ นีน่าถูกบังเอาไว้โดยเพื่อนสาวของเธอ กลับกันนีน่าเห็นรีไวน์ได้อย่างชัดเจนแจ่มแจ้งเต็มสองตา
อันที่จริงแล้วรีไวน์กับนีน่าเคยเจอกันก่อนหน้านี้ ในตอนที่ปฐมนิเทศ ครั้งนั้นเขากับนีน่าเจอกันโดยบังเอิญ แต่ทั้งสองมองหน้ากันเหมือนคนรู้จักแต่ก็แค่เหมือน หลังจากนั้นชายหนุ่มก็เมินและมองไปทางอื่น
นีน่ารู้สึกแปลกใจไม่น้อยที่ได้เจอรีไวน์ที่มหาลัย แต่ก็เท่านั้นเพราะรีไวน์ไม่ได้มีท่าทีที่สนใจเธอเลย เธอจึงทำแบบเดียวกันกับที่ เขาทำกับเธอบ้าง นั่นคือการทำเป็นไม่สนใจเขาเช่นกันเพราะยิ่งเธอนึกถึงเขามากเท่าไหร่นั่นยิ่งทำให้เธอนึงถึงอดีตที่คิดถึง...และเจ็บปวดไปด้วย
“รีไวน์!!”
ชายร่างสูงผมดำหนาเข้ากันดีกับผิวกายขาวสว่างดูสุขภาพดี หันหลังตามเสียงเรียกทันทีเมื่อได้ยิน เขาได้เจอกับเด็กนักเรียนใส่ชุดมอปลายและผูกผมเป็นหางม้า มันดูน่ารักเอามาก ๆ ในสายตาของเขา ใบหน้าของเธอมีแต่รอยยิ้มและความสดใส จนทำให้รีไวน์รู้สึกเบิกบานทุกครั้งเมื่อได้เจอหรือพูดคุยกับเธอ
“ว่าไงครับ?”
ชายหนุ่มหันไปตอบรับอย่างอ่อนโยน แม้ในเวลาที่อยู่กับเพื่อนเขาจะเป็นอีกคนหนึ่งที่เสียงดังและก้าวร้าวกว่านี้ แต่หากได้อยู่กับคนรักแล้ว เขาเหมือนกับหมาตัวโตๆที่แสนใจจะใจดี
“วันนี้รีไวน์จะกลับบ้านเย็นใช่ไหม งั้นวันนี้ไม่ต้องไปส่งเราก็ได้ เดี๋ยวเรากลับเอง”
เธอกล่าวกับชายผู้เป็นคนรัก แม้ว่าตอนนี้จะอยู่ในวัยมัธยมปลาย แต่รีไวน์ก็จะนั่งรถประจำทางไปส่ง นีน่าคนรักของเขา ถึงหน้าบ้านทุกครั้ง ถึงจะเป็นคนละทางกับบ้านของรีไวน์ เขาก็ทำแบบนั้นเป็นประจำเพราะเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของเธอ
“เอางั้นเหรอ แต่อีกนิดก็เสร็จแล้วจะไม่รอกลับพร้อมกันจริงๆ เหรอ?” รีไวน์ทวนถามเธอเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง เพราะการที่จะปล่อยให้แฟนของตัวเองต้องเดินทางกลับบ้านคนเดียว มันคงทำให้เขาไม่สบายใจเท่าไหร่นัก
ภายในใจเขาไม่อยากให้เธอต้องกลับบ้านคนเดียวเลยแท้ๆ แต่ว่าเขาต้องจัดซุ้มงานปัจฉิมให้กับรุ่นพี่ และกว่าจะเสร็จก็คงใช้เวลาอีกสักพัก
“อื้อ! รีไวน์ทำงานก็สู้ๆนะคะ เราเป็นกำลังใจให้”
นีน่ายิ้มให้รีไวน์อีกครั้ง เธอมักจะให้กำลังใจรีไวน์เสมอ ไม่ว่ารีไวน์จะทำอะไร“งั้นถึงบ้านแล้วโทรบอกด้วยแล้วกัน มีอะไรก็รีบโทรมาเลยนะ” รีไวน์บอกกับเธอด้วยความเป็นห่วง เธอตัวเล็กแค่นิดเดียวเขาเลยต้องคอยเป็นห่วงอยู่เรื่อย
ตั้งแต่ทั้งสองคนคบกันรีไวน์แทบจะไม่ปล่อยให้นีน่าอยู่นอกสายตาของเขาเลยแม้แต่ครั้งเดียว และครั้งนี้ก็เป็นครั้งแรกที่เขาต้องจำใจปล่อยนีน่ากลับไปคนเดียว ถ้าไม่ติดว่าต้องทำซุ้มนี่ล่ะก็คงได้กลับบ้านด้วยกันเหมือนอย่างทุกๆวันไปแล้ว เขาจึงมีท่าทีที่หงุดหงิดอยู่บ้างแต่นั่นก็ทำอะไรไม่ได้ เมื่อได้รับงานมาแล้วเขาเองก็ต้องทำมันให้สำเร็จเพียงเท่านั้น
ถึงแม้จะเป็นห่วงมากแค่ไหนแต่หน้าที่เพื่อส่วนรวมก็ต้องสำคัญกว่า รีไวน์ได้แต่คอยยืนมองร่างเล็กๆ ของนีน่าเดินออกไปไกลจนไม่เห็น ก่อนที่เขาจะตั้งใจทำงานต่อให้เสร็จโดยไวที่สุดเท่าที่จะทำได้
เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย ชายหนุ่มจึงรีบเก็บของทุกอย่างและเดินไปเอากระเป๋าที่ถูกวางทิ้งไว้กับพื้น สะพายขึ้นบ่าเตรียมกลับบ้าน แต่แล้วเพื่อนของเขาก็เข้ามาหาและชวนรีไวน์ให้ไปหาอะไรกินก่อนที่จะกลับ เขาจึงตอบตกลงไป
เมื่อถึงศูนย์การค้า รีไวน์เดินคุยกับเพื่อนว่าจะกินข้าวร้านไหนดีแต่ก็ยังตกลงกันไม่ได้ จนสายตาของเขาได้เห็นภาพที่แสนจะทรมานหัวใจ ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋านักเรียนที่ถูกห้อยด้วยพวงกุญแจน่ารักๆ และผมทรงหางม้าที่มองจากด้านหลังเขาก็สามารถรู้ได้ ว่านั่นคือแฟนของเขา กำลังยืนเลือกซื้อของอยู่ในร้านขายตุ๊กตา สิ่งเดียวที่เขารู้สึกได้ในตอนนี้คือ การโดนหักหลัง จากผู้หญิงที่เขารักไหนว่าเธอกลับบ้านไปแล้วไง? ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้ แถมข้างกายของเธอยังมีผู้ชายอีกคนอยู่ด้วย
รีไวน์เลือกที่จะมองสถานการณ์ตรงหน้าก่อน แต่ยิ่งมองเท่าไหร่ภาพมันก็ยิ่งบาดลึกเข้าไปในใจของเขา สิ่งที่เธอเคยทำร่วมกับเขา เธอกลับทำแบบนั้นกับคนอื่นด้วยเช่นกัน แบบนี้ถ้าไม่เรียกว่าการสวมเขา จะให้เรียกว่าอะไร?
นีน่าไม่ทันได้สังเกตว่าตัวเองกำลังถูกมองอยู่ไกล ๆ จากรีไวน์ เธอตั้งใจเลือกดูตุ๊กตาอย่างละเอียด นี่คือสิ่งที่พี่ชายข้างบ้านของเธอที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กขอร้อง ก่อนที่เธอจะเดินทางถึงบ้านพี่ชายที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กอย่าง ฟรานซิส โทรมาขอให้เธอมาที่ห้างก่อน เขาต้องการคนที่จะช่วยเลือกของขวัญให้กับแฟน นีน่าจึงเป็นผู้ช่วยที่ดี เพราะเธอเองก็เป็นผู้หญิงเหมือนกัน
“เอาจริง ๆ ถ้าพี่มาเลือกเองผู้หญิงเขาจะดีใจมากกว่านะ” นีน่าเสนอความคิดของเธอกับฟรานซิส หญิงสาวมีความเชื่อว่าสิ่งที่เลือกออกมาจากใจคือสิ่งที่ดีที่สุด แต่ดูเหมือนว่าฟรานซิสจะไม่คิดแบบนั้น หลายครั้งที่ฟรานซิสพยายามจะซื้อของให้กับแฟนของตัวเอง แต่มันก็ดันไม่ถูกใจแฟนเสียที ไม่ว่าจะเป็นเครื่องสำอางต่างๆ ของใช้ หรือกับตุ๊กตาก็ไม่เว้น
“ไม่เอาล่ะ นีน่าเลือกให้พี่หน่อยแล้วกัน พี่ไม่เก่งเรื่องการซื้อของเลย คราวที่แล้วแฟนพี่บ่นว่าอยากได้เครื่องสำอาง พี่เลยซื้อลิปสติกไปให้ ปรากฏว่าเธอโวยวายเป็นฟืนเป็นไฟ หาว่าพี่ซื้อลิปสีอะไรมาก็ไม่รู้ไม่เข้ากับเธอเลยสักนิด”
ฟรานซิสค่อนข้างมั่นใจว่านีน่าจะต้องเลือกได้ดีกว่าเขา และครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งที่ฟรานซิสจะทำผิดพลาดไม่ได้ เขาจึงต้องการผู้ช่วยมากในเวลานี้
บทที่ 3 ความทรงจำที่แสนเจ็บปวดนีน่ารับฟังอย่างเห็นใจ เธอก็พอเข้าใจอยู่บ้างว่าเรื่องสีของลิปสติกผู้ชายไม่ค่อยจะเข้าใจนักเรื่องเฉดสีต่างๆ แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะรวมไปถึงข้าวของพวกนี้ด้วย แต่ถึงอย่างนั้นเธอเองก็ตั้งใจเลือกไม่ต่างอะไรกับเวลาเธอเลือกของให้กับคนรักเลยแต่ในขณะที่หญิงสาวกำลังใช้ความคิดและสมองของเธออยู่นั้น เสียงโทรศัพท์ของฟรานซิสก็ดังขึ้น เจ้าตัวจึงขอเดินออกไปรับโทรศัพท์ก่อน ดูแล้วน่าจะเป็นแฟนของฟรานซิสที่โทรมา เขาจึงต้องรีบไปหามุมเงียบๆ เพื่อคุยโทรศัพท์ ดูท่าแล้วเจ้าตัวคงจะโกหกแฟนเพื่อหาเวลาปลีกตัวมาซื้อของไปเซอร์ไพรส์แน่ๆนีน่าอดยิ้มไม่ได้ ถ้าเธอได้รับการเซอร์ไพรส์เล็ก ๆ น้อย ๆจากแฟนของเธอบ้าง เธอเองก็คงยิ้มหน้าบานไปทั้งวัน“ไหนบอกว่ากลับบ้านไง ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้?” เสียงคุ้นหูของรีไวน์ดังขึ้นทำให้นีน่าหันไปมองด้วยความตกใจ“รีไวน์!” เธอไม่ได้บอกรีไวน์ทั้งเรื่องการมาที่นี่รวมถึงเรื่องซื้อของด้วย เพราะไม่คิดว่าจะเจอเขา เธอตั้งใจปกปิดเรื่องที่มากับ ฟรานซิสเพราะกลัวรีไวน์หึงไม่เข้าเรื่อง แต่ดันมาเจอเขาซะได้ เธอจึงได้แต่อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ พูดไม่ถูก และพยายามมองหาฟรานซิส หากว่า ฟรานซิสช่
บทที่ 4 ยิ่งใกล้ยิ่งเจ็บแฟนต้ายังคงใช้สายตาของเธอมองดูผู้ชายโต๊ะนั้นโต๊ะนี้อย่างไม่วางตา เธอดูตื่นเต้นไปกับผู้ชายมากหน้าหลายตาถึงแม้ว่าจะได้แค่มองก็ตาม แฟนต้าดูมีความสุขจนมันแสดงออกมาจากทางสีหน้าอย่างชัดเจนก็คณะนี้ผู้ชายหล่อมันเยอะจนระรานตาไปหมดเลยนี่เนอะ คนตรงข้ามชี้ให้นีน่าดูผู้ชายโต๊ะอื่นๆเพื่อแบ่งปันความหล่อของบรรดาผู้ชายคณะวิศวะและคณะใกล้เคียง แต่หญิงสาวมองไปตามนิ้วที่เพื่อนชี้แล้วก็รู้สึกว่า ไม่เห็นจะหล่อตรงไหนเลย…หรืออาจจะเพราะเธอเคยคบกับชายที่หล่อราวเทพบุตรมาจุดติบนโลก คนธรรมดาจึงไม่เข้าตาเธอ และอาจจะเป็นเพราะเธอยังคอยแอบมองรีไวน์ แฟนเก่าอยู่เป็นพักๆเลยไม่มีเวลาสนใจคนอื่นๆถึงเธอจะรู้สึกเจ็บแปล๊บๆที่ใจเวลาได้มองเขา แต่ก็เหมือนกับเธอเสพติดความเจ็บปวด ยิ่งมองก็ยิ่งเจ็บแต่ก็มีความสุขอย่างแปลกๆ เธอไม่เข้าใจตัวเองนักแต่ก็หยุดมองไม่ได้หรือเธอจะเป็นโรคจิตเข้าแล้วจริงๆ“สุดท้ายวันนี้ก็ไม่ได้ผู้อีกตามเคย กินเสร็จแล้วก็ไปกันเถอะนีน่า” แฟนต้าหน้าหงิกงอทันที เมื่อเธอนั่งมาร่วมครึ่งชั่วโมงแล้วก็ยังไม่เจอคนที่ถูกใจเลยสักคน“อื้ม ใกล้เวลาเข้าเรียนแล้วด้วย” หญิงสาวตอบรับอย่างเห็นดีเห็นชอบ น
บทที่ 5 คำพูดที่แสนเจ็บปวดรีไวน์ได้หยิบซองบุหรี่สีดำขึ้นมาพร้อมกับจุดไฟแช็กซิปโป้ ตัวของเขาเองเมื่อก้าวเข้าสู่วงการนี้ บุหรี่ที่รีไวน์สูบเป็นประจำคือคาเมลม่วง ชนิดเย็นหนึ่งเม็ดบีบ ที่มีกลิ่นและเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนกับบุหรี่ที่ขายกันตามท้องตลาดธรรมดาการสูบบุหรี่ถึงแม้จะมีข้อเสียอยู่มากแต่ก็ต้องยอมรับเลยว่าช่วยบรรเทาความเครียดได้เป็นอย่างดี อาจจะเพราะความเพลิดเพลินเมื่อดูดควันเข้าไปเต็มปอด หรือเพราะนิโคตินก็ดี แต่มันก็ช่วยให้รีไวน์ได้ผ่อนคลายลงได้“เสร็จหรือยัง!!! เสร็จแล้วก็รีบมาได้แล้ว!!! ใกล้เวลาเรียนแล้วโว้ย!!!” มั้นท์เดินมาตะโกนเรียกรีไวน์ เขาเห็นว่ารีไวน์เดินออกมาสูบบุหรี่นานเกินไป ปกติแล้วรีไวน์จะสูบแค่มวลเดียว แต่จากเวลาที่ล่วงเลยมาขนาดนี้ รีไวน์คงซัดไปไม่ต่ำว่าสามมวลสินะ มันจะเครียดอะไรขนาดนั้น“เออ! หยุดแหกปากได้แล้ว! มึงไปก่อนเลย!!!”รีไวน์ส่งเสียงไล่เพื่อนของเขาให้ไปที่ห้องก่อนเลยไม่ต้องรอ มั้นท์ได้ยินแบบนั้นจึงเดินออกไปพร้อมกับเรนรีไวน์หยิบบุหรี่อีกมวลออกมาจากซองและจุดมันขึ้นสูบต่อเขาพยายามใช้บุหรี่มาช่วยทำให้เขาได้หยุดคิดถึงเรื่องของนีน่าเสียที เจ้าตัวถึงได้สูบไปมา
บทที่ 6 ฝันร้ายรีไวน์ลากนีน่ามาจนถึงรถของเขาBWW M4 Coupe สีเทาเงิน มันดูเรียบหรูและเหมาะกับรีไวน์ดีอย่างบอกไม่ถูก แต่ไม่ใช่เวลาที่นีน่าจะมาใส่ใจเรื่องรถ เธอกำลังโดนรีไวน์บังคับอยู่นะ! เธอทั้งทุบทั้งตีไปที่แขนและมือของเขา แต่ชายคนนี้ไม่รู้สึกอะไรกับความเจ็บปวดพวกนั้นเลย“เข้าไป!” รีไวน์พูดเสียงห้วนพร้อมยัดนีน่าให้นั่งที่เบาะข้างคนขับ แต่เธอยังคงไม่ยอมง่าย ๆ เมื่อรีไวน์ปิดประตู นีน่าก็เปิดออกมันออกและทำท่าจะวิ่งหนีไปทันที รีไวน์จึงพูดขู่เสียงแข็ง“ถ้าเธอไม่ยอมให้ฉันไปส่งดี ๆ ฉันสัญญาเลยว่าฉันจะทำให้เธอจำวันนี้ไปจนตาย” นีน่าหยุดนิ่งทันทีและกลับเข้าไปในรถอย่างว่าง่าย เธอคิดไปถึงว่าหากรีไวน์ทำอะไรมิดีมิร้ายเธอขึ้นมาจะทำยังไง เธอคงจะสู้แรงรีไวน์ไม่ไหว ขนาดแค่โดนจับมือลากมาเธอยังขัดขืนไม่ได้เลยเมื่อเห็นว่าหญิงสาวยอมเชื่อฟังแต่โดยดี เขาจึงขึ้นไปนั่งประจำที่คนขับก่อนที่จะออกรถ ฝนก็เริ่มตกหนักขึ้นเรื่อยๆจนมองแทบจะไม่เห็นทางรีไวน์เหลือบมองนีน่าเป็นพัก ๆ เพราะกว่าพวกเขาจะเดินมาถึงรถเธอก็ตัวเปียกไปแล้ว เสื้อนักศึกษาตัวบางของเธอก็แนบเนื้อจนเห็นถึงเสื้อชั้นในชสีแดงเซ็กซี่ที่ประคองหน้าอกอวบนั่นชัด
บทที่ 7 เข้าใจเธอผิดไปเมื่ออาหารมาถึงเธอจึงออกจากห้องลงลิฟต์ของคอนโดไปและกลับขึ้นมาบนห้อง จัดการกินอาหารอ่อน ๆ ที่สั่งมาจนหมด พร้อมกับกินยาแก้ไข้ทันที คอที่แห้งพราก ตอนที่พยายามจะกินน้ำหรืออาหารมันช่างทรมานเหลือเกิน แต่ก็คงน้อยกว่าความทรมานเมื่อคิดถึงใครสักคนแหละนะ และส่วนหนึ่งที่ทำให้เธอต้องเป็นหวัดแบบนี้ก็เพราะชายคนนั้น.. ถ้าเขาไม่มาดักรอเธอที่หน้าคณะ เธอคงจะอยู่ใต้อาคารและรอให้ฝนหยุดก่อน จะได้ไม่ต้องเดินตากฝนจนไข้ขึ้นหญิงสาวยิ้มเยาะให้กับตัวเองอย่างสมเพชของร่างกายตัวเองที่เป็นหนักขนาดนี้เพราะใครบางคนคนนั้น ไม่ได้รู้ด้วยซ้ำว่าเธอป่วยจนไปเรียนไม่ไหวรีไวน์ที่ตอนบ่ายอาจารย์ยกคลาส ทำให้เขากลับมานั่งเล่นนอนเล่นที่คอนโดหรูของตัวเอง และเมื่อช่วงเย็นมาถึงท้องของรีไวน์ก็ส่งเสียงร้องออกมาเป็นสัญญาณว่าให้หาของกินได้แล้ว แต่เขาเบื่อที่จะสั่งอาหารมานั่งกินที่คอนโดคนเดียว จึงขับรถไปร้านพิซซ่า โฮมเมดร้านชื่อดังที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากที่พักของเขามากนัก ซึ่งเขาชอบมาทานร้านนี้อยู่เป็นประจำ มันเป็นร้านที่เรียบง่ายและไม่มีผู้คนมากจนน่ารำคาญ แถมอาหารก็ยังถูกปากช่วงเย็นเป็นช่วงที่การจร
บทที่ 8 อยากคืนดีพอถึงช่วงเวลานัดรีไวน์จึงเข้าไปในผับและตรงดิ่งโซน VIP โต๊ะประจำ เสียงดนตรีที่แม้ตอนนี้อึกทึกครึกโครมแต่มันก็ไม่ได้เข้าไปในหูของรีไวน์เลยสักนิดที่โต๊ะเป็นเบาะนั่งโซฟาหรูหราสีแดงโดยมีมั้นท์และเรนนั่งอยู่ก่อนแล้ว ข้างกายของมั้นท์มีหญิงสาวแต่งกายด้วยชุดสุดเซ็กซี่ประกบข้าง และนัวเนียกันอย่างไม่สนใจการมาถึงของรีไวน์เลยสักนิด“ไล่ยัยพวกนี้ออกไป” รีไวน์พูดห้วน ๆ แสดงออกอย่างชัดเจนว่าภาพที่เห็นมันขัดหูขัดตาเขามากแค่ไหนหญิงสาวสุดเอ็กซ์ที่นั่งอยู่ก่อนทำหน้าบูดบึ้งทันทีเมื่อรีไวน์พูดกับเธอแบบนั้น แต่มั้นท์ก็พูดกับเธออย่างอ่อนโยน เธอจึงยอมออกไปแต่โดยดีและได้เงินเล็กน้อยติดไม้ติดมือกลับไป“มีเรื่องอะไร หรือว่าเป็นเพราะเรื่องเมื่อวาน ? ” มั้นท์ถามขึ้น เพราะเขารู้อยู่แล้วว่าการที่รีไวน์เป็นคนออกปากอยากมาผับคงไม่ใช่เรื่องธรรมดาแน่ ๆ“ไม่ใช่” รีไวน์ทิ้งตัวลงนั่งที่เบาะก่อนที่จะเริ่มรินเหล้าลงใส่แก้วโดยที่ไม่ผสมมิกเซอร์“เล่นแดกแต่หัววันแบบนี้ อย่ามาโกหกพวกกูเลย มึงมีเรื่องอะไรกันแน่ว่ะ”“ไว้กูค่อยพูด ตอนนี้ขอเหล้าแรงๆ กระแทกปากก่อนได้ไหมวะ!” รีไวน์ชักสีหน้าไม่พอใจทันที เมื่อถูกเพื่อ
บทที่ 9 วางแผนคืนดี“เอาล่ะตอนนี้กูได้เบอร์ติดต่อของนีน่ามาแล้ว และที่สำคัญกูได้ที่อยู่เธอมาด้วยล่ะ” มั้นท์ส่งยิ้มไปให้รีไวน์เหมือนกำลังจะบอกว่าเขาเองมีประโยชน์มากกว่าเรนเสียอีก“กูมีที่อยู่ของนีน่าอยู่แล้วเถอะ”“งั้นเหรอ..ไหนมึงลองบอกมาสิว่าเธออยู่ที่ไหน”มั้นท์ มีความเชื่อใจในตัวเองสูงมากว่าข้อมูลที่เขาหามาได้ รีไวน์ต้องไม่รู้มาก่อนอย่างแน่นอน“คอนโดZ กูเคยไปส่งเธอมาแล้ว”รีไวน์ตอบไปอย่างมั่นใจ ก็ในเมื่อเขาไปส่งเธอเองกับมือ มันจะไม่ใช่คอนโดนั้นได้ยังไง“ผิดครับ คอนโดXต่างหาก”มั้นท์ยิ้มอย่างภาคภูมิใจทันที เขารู้อยู่แล้วว่าข้อมูลที่รีไวน์มีทั้งหมดมันเป็นของปลอม“ได้ยังไงวะ! ก็กูไปส่งเธอมา กูเห็นกับตาตัวเองว่านีน่าเดินเข้าไปในนั้น”เขาแปลกใจและไม่เข้าใจไปพร้อมๆกัน ก็ในเมื่อวันนั้นเขายังเห็นนีน่าเดินเขาไปในตึกอยู่เลย มันจะไม่ใช่ได้ยังไง“นีน่าคงพามึงไปที่อยู่ปลอมนั่นแหละ เธอคงกังวลเรื่องความปลอดภัย ที่อยู่นี้กูได้มาจากแฟนต้าเลยนะ!!”แต่เมื่อรีไวน์คิดตามที่มั้นท์บอกอย่างถี่ถ้วนแล้ว สิ่งที่มันพูดก็น่าจะเป็นเรื่องจริง ทำไมเรื่องแค่นี้เขายังคิดไม่ได้นะ วันนั้นนีน่าก็บอกแล้วว่าจะไม่ให้เขา
บทที่ 10 เข้าแผนนีน่าเห็นแว๊ปๆ ว่าเหมือนจะพึ่งมีใครเดินออกจากประตูคอนโดไป แต่แล้วเธอก็สังเกตว่ามีชายปริศนากำลังนอนกองอยู่กับพื้น เจ้าตัวใส่ชุดสีโทนดำทั้งตัว เธอจึงตงิดใจอยู่แปลกๆ เพราะเธอก็รู้จักชายคนหนึ่งที่มีผมสีดำและชื่นชอบในการแต่งตัวคุมโทนสีดำเหมือนกันเธอค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้ชายคนนั้นอย่างระมัดระวัง และค่อยๆ ชะเง้อมองดูว่าชายคนนี้คือใครกันแน่ หรือว่าเธอควรจะโทรแจ้งตำรวจไหมนะ?แต่แล้วเสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น มันเป็นเบอร์เดียวกับที่พึ่งโทรคุยกับเธอเมื่อไม่ถึงห้านาทีที่แล้ว“เห็นของที่ผมทิ้งไว้ให้แล้วใช่ไหมครับ?” เมื่อมั้นท์กลับไปถึงรถตัวเอง เขาจึงโทรหานีน่าอีกครั้ง“ของที่ว่านี่ อย่าบอกนะคะ...” นีน่าหวังว่ามันคงจะไม่ใช่ชายที่นอนอยู่ตรงนี้หรอกนะ!“ยังไม่เห็นเหรอครับ ว่านั่นคือรีไวน์เพื่อนรักของเราเอง” หญิงสาวสะดุ้งด้วยโหยงความตกใจทันที เมื่อเธอเห็นหน้าของผู้ชายคนนั้นชัดๆ และได้พบว่าคนที่นอนกองไม่ได้สติอยู่กับพื้นคือรีไวน์จริงๆแต่ผิวหน้าและผิวตัวของเขามันแดงไปหมด นี่อย่าบอกนะว่าเขาเมา? หรือมันเกิดเรื่องอะไรไม่ดีกับเขากันแน่“ทำไมคุณถึงเอาเขามาทิ้งแบบนี้ล่ะคะ นั่นเพื่อนคุณนะ!” เ
บทส่งท้าย NC คืนวันแต่งงานกว่าจะถึงบริเวณที่จัดงานได้ก็มืดค่ำแล้ว ภายในห้องอาหารสุดหรูที่ด้านในมีแขกมากมายรวมตัวกันฉลองอยู่ในนั้น ทุกคนล้วนเป็นญาติทางฝั่งรีไวน์เกินครึ่งห้อง ส่วนที่เหลืออีกไม่กี่คนคือญาติฝั่งนีน่าเอง ในวันนี้ทุกคนต่างเฮฮาปาร์ตี้กันอย่างสุดเหวี่ยง อาหารบนโต๊ะก็น่าทานไม่แพ้กัน แต่ดูเหมือนเจ้าของงานทั้งสองจะงุ่นง่านกับการกินอาหารมากกว่าการฉลองสะอีก ก็อย่างว่าพวกเขาไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เช้าคงต้องหิวกันเป็นธรรมดา“ผมขออนุญาตกล่าวแสดงความยินดีกับหลานชายหน่อยนะครับ เอ็งเก่งมากหลานลุงข้าเชื่อว่าเอ็งจะทำได้มาตลอดแล้วก็ขึ้นบริหารเหมือนที่พ่อเอ็งทำด้วยนะ!”ชายวัยกลางคนลุกขึ้นยืนประกาศเสียงดังลั่นห้อง ถึงเนื้อความจะดูไม่มีอะไรมากแต่ก็ดันเรียกเสียงฮือฮาได้เป็นอย่างดี จนรีไวน์ต้องกุมขมับ“งั้นฉันพูดต่อบ้าง ในฐานะป้าของเขา ฉันขอแสดงความยินดีกับความสำเร็จก้าวแรกของหลานชาย ป้าเชื่อมาตลอดว่าแกจะต้องทำได้เพราะแกเก่งเหมือนพ่อแกมาก แทบจะถอดกันมาเลยแถม! แกยังได้แฟนสวยอีกด้วย อู้ยย ไม่ต่างจากพ่อมันเลยนี่หว่า”เสียงญาติๆต่างเฮฮาให้กับคำพูดติดตลกของคุณป้าวัยกลางคนอีกคนหนึ่ง รีไวน์เองก็เขินอายม
บทที่ 44 เรียนจบซะทีหลังจากส่งรีไวน์ขึ้นเครื่องในตอนเช้าแล้ว นีน่าเองก็กลับมาเก็บกระเป๋าในส่วนของเธอเตรียมย้ายไปอยู่หอใหม่ใกล้ที่ฝึกงาน เธอได้เข้าฝึกงานที่บริษัทผลิตสื่อในเครือของทางบ้านรีไวน์ เพียงแค่รีไวน์ออกปากบอกแม่ ทางนั้นก็แทบจะปูเสื่อรอรับเธอเป็นอย่างดีและให้ความช่วยเหลือทุกอย่างส่วนทางด้านของรีไวน์นั้นเขาต้องไปฝึกงานไกลถึงภูเก็ต และเป็นรีสอร์ทที่ดังที่สุดในจังหวัด ด้วยสายงานนั้นเขาไม่อยากจะฝึกกับทางบริษัทพ่อของตัวเอง เขากลัวว่าจะไม่ได้อะไรกลับมาและไม่อยากทำตัวเป็นลูกแหง่ที่พึ่งพ่อแม่ไปทุกอย่าง ถึงแม้ตอนกลับมาจะต้องบริหารต่อจากพ่อก็ตาม แต่พอเป็นนีน่าเขารีบส่งไปหาพ่ออย่างไว นั่นก็เพราะเขาเป็นห่วงนีน่าเอามากๆ ไม่อยากให้เธอต้องไปเจอบริษัทที่ไม่ดีและกดขี่เด็กฝึกงานอย่างเธอ ยิ่งสู้ใครเขาไม่ได้อยู่พอถึงห้องพักที่ต้องอยู่ในอีกสี่เดือนข้างหน้านี้ ใบหน้าสวยก็ดันมีน้ำตาเอ่อล้นออกมา ห่างกันได้ไม่เท่าไหร่ด้วยซ้ำ เธอดันคิดถึงเขาอีกแล้ว เธอพยายามฮึบและปาดน้ำตาอย่างลวกๆ“อดทนหน่อยสินีน่า! อีกแค่สีเดือนเอง! อดทนเข้าไว้!”เธอพร่ำพูดให้กำลังใจตัวเองรอบที่ร้อย ในใจก็รอให้รีไวน์โทรเข้าหาเธอเสียท
บทที่ 43 NC จัดก่อนกลับ“คงไม่มาหรอกมั้ง เธอคงไม่กล้ามาสู้หน้าฉันอีก”นีน่าหลุบตาลงเล็กน้อยเมื่อคิดถึงความดีของน้ำหวานที่เธอเคยทำ แต่ยังไงซะมันไม่สามารถหักล้างกับความผิดในวันนั้นได้ ส่วนคนที่รู้จุดจบของน้ำหวานดีอย่างมั้นท์ เรนและรีไวน์ต่างปิดปากเงียบและดูเหมือนมันจะเนียนมากเสียด้วยสิ“เอาเถอะ ๆ ไม่ต้องไปสนใจคนพรรค์นั้นแล้วกัน เรามาดื่มฉลองให้กับเพื่อนและชีวิตหลังจากนี้กันดีกว่า”แฟนต้าคว้าเอาแก้วพั้นช์มาไว้ในมือ เธอถือมันชูขึ้นรอคนอื่นๆเอาแก้วมาชนพวกเขาชนแก้วให้กับชีวิตที่ผ่านมาและสิ่งที่รออยู่ภายภาคหน้า ไม่ว่าจะมีเรื่องราวอะไรรออยู่พวกเขานั้นพร้อมที่จะฝ่าฝันอุปสรรคมากมายที่ถาโถมเข้าใส่ เพียงแค่ยังมีกันไปเรื่อยๆก็พอวันเวลาที่แสนมีความสุขผ่านล่วงเลยไปนานหลายเดือนจนมาถึงวันแห่งบททดสอบความรักทางไกล บางครั้งมันเป็นเหมือนตัวช่วยและตัวกรองว่าคนๆนี้มีคุณสมบัติเพียงพอต่อการคบหากันยืนยาวไปในอนาคตหรือไม่ แต่ในบางทีมันเป็นดาบสองคมได้เช่นกันความห่างไกลมันทำให้ยิ่งห่างเหิน จากที่เคยอยู่ใกล้กันกลับต้องไกลห่างออกไป คิดถึงแต่กอดไม่ได้ อยากสัมผัสตัวก็ทำได้เพียงนึกถึงสัมผัสนั้นครั้งแล้วครั้งเล่า“เธอ
บทที่ 42 เลี้ยงรุ่น“เอาเหล้ามาอีกสิ้!”มือเล็กๆกวักเรียกให้ช่วยเติมเหล้าให้หน่อย ตาเธอนั้นปิดไปแล้วเรียบร้อยน้ำเสียงก็แข็งขึ้นกว่าเดิม มั้นท์ถึงจะเป็นเจ้าของวันเกิดก็ได้แต่รินเหล้าให้เธอตามคำสั่ง เขาเองไม่คิดว่านีน่าจะเมาแล้วเป็นแบบนี้“โอ้ย!ที่นี่มันร้อนชะมัด ไม่เปิดแอร์บ้างเลยหรือไงวะ!เฮงซวยยย”“ที่รักไม่เอาไม่พูดหยาบคายนะครับ ไอ้มั้นท์มึงเลือกโต๊ะได้ห่วยแตกมากเมียกูร้อนหมดแล้วเนี่ย!”“นี่โต๊ะVVIP เลยนะครับเพื่อนดีกว่านี้ไม่มีอีกแล้วเมียมึงเมาแล้วต่างหาก!”“อ้ะ..”นีน่าทำท่าเหมือนกับเธอจะพูดอะไรขึ้นมาอีก แต่ดันโดนริมฝีปากของรีไวน์หยุดเอาไว้ก่อนจากจูบเนิบๆเขาค่อยๆทวีความรุนแรงขึ้นและแรงขึ้นเรื่อยๆ เขาค่อยๆไล่ริมฝีปากลงมายังซอกคอขาวเนียนอย่างไม่อายสายตาหลายคู่ที่จับจ้องมา“ฮัลโหลว์ เกรงใจคนโสดหน่อยครับเพื่อน”มั้นท์ดีดนิ้วเรียกความสนใจจากเพื่อนรักแต่มันดันสูญเปล่า ในหัวของรีไวน์มีแต่เรื่องกลืนกินนีน่าเท่านั้น“ปล่อยมันไปเถอะ ทำเหมือนมึงจะห้ามได้มาสนุกกับกูดีกว่า เดี๋ยวกูเรียกเด็กให้”สุดท้ายแล้วเรนต้องรับจบแก้ปัญหาเรื่องนี้ให้กับมั้นท์ เขาเรียกเด็กดริ๊งค์ระดับท็อปของร้านมาบริการให้ถึงที่
บทที่ 41 แม่ผัวกับว่าที่สะใภ้ใช้เวลาไปอีกร่วมชั่วโมงกว่าจะเดินทางมาถึงคฤหาสน์หรูแถวชานเมือง และพูดได้ว่ามันเป็นบ้านที่คนรวย คนมีชื่อเสียงมักจะมาสร้างบ้านเดี่ยวกันแถวนี้สะส่วนใหญ่ นีน่าเธอพูดไม่หยุดระหว่างทางขับมาเรื่องการทำตัวให้เหมาะสม ก่อนหน้านี้ตอนมอปลายเธอเคยมาบ้านหลังนี้ครั้งหนึ่งแล้ว ตอนนั้นเธอยังเป็นเด็กและดูเหมือนพ่อและแม่ของรีไวน์จะชอบเธอ แต่ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าความคิดคนจะเปลี่ยนไปตามกาลเวลาไหมนั่นเป็นต้นเหตุอีกหนึ่งเรื่องที่ทำให้เธอประหม่าเธอสูดหายใจเข้าลึกๆพร้อมกับก้าวเท้าลงจากรถ เมื่อมันจอดนิ่งสนิทแล้ว ด้านหน้าบ้านหลังใหญ่โตมีสวนดอกไม้และน้ำพุตกแต่งตามสไตล์บ้านคนรวย นีน่าไล่มองพวกมันและเก็บรายละเอียดทุกอย่าง สวนที่ตั้งใจจัดขึ้นอย่างปราณีต รีไวน์ก้าวขึ้นมาเคียงข้างคนรักของตัวเองก่อนจะยื่นมือให้เธอจับ ซึ่งนั่นเรียกความมั่นใจของนีน่าให้กลับคืนมาได้เป็นอย่างดี“มาแล้วเหรอ ปล่อยให้แม่รอสะนานเลยนะ”เสียงเอ็ดเล็กน้อยดังขึ้นอีกฝั่งของบ้าน ก่อนที่หญิงวัยกลางคนจะปรากฎตัวขึ้น ใบหน้าของเธอนั่นยิ้มแย้มแจ่มใส นานๆทีลูกชายจะกลับมาเยี่ยมบ้านแถมคราวนี้ยังมีแฟนหิ้วติดมือมาด้วยอีก ไม่แปลกที่ผู
บทที่ 40 NC ปล่อยในไม่นานนักเขาก็ถอดกางเกงออกเผยให้เห็นแก่นกายอันใหญ่ยาวที่กำลังกระตุกมองกี่ครั้งก็ไม่เคยชิน ภาพตรงหน้าของรีไวน์นั้นมันทำให้เขามีอารมณ์พุ่งขึ้นถึงขีดสุดจนอยากจะเข้าไปจัดการเธอให้รู้แล้วรู้รอดหญิงสาวรับรู้ชะตากรรมของตัวเอง เธอนั่งถ่างขาออกอยู่บนนั้นใจก็หวิว ๆ ใบหน้าของเธอแดงเถือกไปหมด ร่างกายนั้นก็เปลือยเปล่า ทั้งเขิน เสียว และอายปะปนกันไปหมด หากไม่ใช่รีไวน์เธอคงไม่ยอมใจทำแบบนี้แน่ ๆเจ้าตัวใช้แก่นกายถูขึ้นและลงรอบนอกให้น้ำใส ๆ เปราะเคลือบแท่งของเขาเอาไว้ ก่อนที่จะค่อยๆกดมันเข้าไปรูรักของเธอเต็มไปด้วยน้ำหวาน ของตัวเจ้าของเองทำให้เข้าไปได้โดยง่ายและไม่เจ็บอีกต่อไป เธอครางออกมาเล็กน้อยความรู้สึกปวดตุ้บ ๆ ไม่นานก็ชินและปรับเปลี่ยนเป็นความเสียวที่มากเกินจะรับได้แทน“อ๊า! มันลึก..ลึกมากเลย”ด้วนท่าทีที่เปลี่ยนไปและไม่เคยทำมาก่อนนั่นเป็นองศาที่ทำให้แก่นกายได้เข้าไปลึกจนกระแทกกับมดลูกของเธอเข้าอย่างจัง ถึงมันจะเจ็บแต่เธอนั้นก็ยังชอบและ ยังภาวนาให้รีไวน์ทำกับเธอรุนแรงขึ้นมากกว่านี้อีกร่างสูงไม่รอช้ารีบขยับเข้าออกอย่างเอาแต่ใจ รูรักของ คนตรงหน้านั้นบีบรัดแก่นกายของเข
บทที่ 39 เอาของเล่นไปส่งทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบเพียงชั่วครู่เดียวก่อนที่เสียงตะโกนโหวกเหวกโวยวายของแฟนต้าจะดังขึ้น หล่อนโมโหมากทั้งเรื่องวันนั้นและไหนจะเรื่องที่ขับรถกะชนนีน่าอีก ส่วนนีน่าเองคงไม่ต้องบอกว่าเธอใจสลายแค่ไหน แต่ภายในใจของเธอนั้นไม่มีพื้นที่เหลือให้เพื่อนคนนี้อีกแล้ว“รีไวน์จะจัดการเธอยังไงก็แล้วแต่เถอะค่ะ ฉันไม่อยากสนใจอีกแล้วล่ะ ขอแค่แฟนต้าและแฟนฉันไม่เป็นอะไรก็พอแล้ว”เธอฉีกยิ้มจางๆกลับมาให้ แต่ภายในรอยยิ้มนั้นแฝงไปด้วยความเจ็บปวดอีกมากมาย ถึงนีน่าจะไม่อนุญาตเขาเองก็จัดการหล่อนไปแล้วล่ะ“ไม่ต้องห่วงนะ คนทำผิดต้องได้รับผลกรรมอยู่แล้ว”อย่าหาว่าเขาใจร้ายเลยนะน้ำหวาน ก็เรื่องทั้งหมดเธอเป็นคนเริ่มก่อนเองภายในบ้านหรูหลักหลายร้านล้อมรอบไปด้วยบอดี้การ์ดมากมายคุมรั้วและประตูเอาไว้ อดีตสส.ผู้ได้รับเสียงและความไว้วางใจจากประชาชนหลายสิบสมัยกำลังเครียดอยู่กับปัญหาเรื่องการเงินกำลังรุมเร้า และธุรกิจแยกของเขาต้องมาล้มละลายไปเพราะ เขาได้ไปยุ่งกับผู้หญิงเพียงแค่คนเดียว เจ้าตัวเดินปัดข้าวของตกกระจุยกระจายเต็มพื้นจากความเครียดและดูเหมือนจะไม่มีทางออกในตอนนี้ เพราะนังนั่นคนเดียวนังผู้
บทที่ 38 เอาคืนน้ำหวานเวลาผ่านไปร่วมครึ่งชั่วโมง รถโดยสารส่งเธอลงบริเวณด้านหน้าของคอนโดซึ่งจากนี้นีน่ายังต้องเดินเข้าซอยไปอีกสักหน่อย โครงการนี้ค่อนข้างมีหลายตึกและตึกในสุดเป็นดึกที่พรีเมี่ยมกว่าตึกอื่นเขา ในช่วงนี้ผู้คนเข้าออกยังไม่เยอะเท่าไหร่ นีน่าจึงเดินชิดริมฝั่งซ้ายที่สุดเท่าที่จะทำได้แต่เธอยังไม่ถอดหูฟังออก ดวงตาทั้งสองคู่จ้องมองทางข้างหน้าอย่างไม่ทันได้เฉลียวใจรถยนต์สีขาวทะเบียนยังไม่ทราบพุ่งตรงเข้ามาจากทางด้านหลังด้วยความเร็วราวกับหวังเอาชีวิต ในจังหวะนั้นเองร่างของ นีน่าถูกฉุดเอาไว้ได้ทันท่วงทีแต่ทั้งสองก็ล้มลงไปยังพื้นพร้อมๆกัน โชคดีที่ไม่มีใครบาดเจ็บมากนัก“นีน่า! เป็นอะไรไหม!”นีน่าเธออยู่ในอาการช็อตและยังตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ ตัวของเธอเลอะฝุ่นผงจากข้างทางเต็มไปหมด ไม่นานสติของเธอก็กลับมาและพบว่าเป็นแฟนต้าที่ช่วยเธอเอาไว้“ฟะ...แฟน! เธอมาอยู่นี่ได้ไง”นีน่าไล่สายตามองเพื่อนสนิทตั้งแต่หัวจรดเท้าดูความผิดปกติ หากมีตรงไหนที่บาดเจ็บเธอจะได้ส่งไปโรงพยาบาลได้ทัน“ไม่เป็นไร เธอล่ะ”“ไม่เป็นอะไรเหมือนกัน แค่เจ็บก้นนิดหน่อย เมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้นเหรอ”“เธอไม่ได้ยินเสียง
บทที่ 37 NC แก้ปัญหาจบก็แก้ผ้าต่อ“กรี๊ดดด!!! ไม่จริง! เป็นเพราะแกคนเดียวนังนีน่า! เป็นเพราะแก!”น้ำหวานกรี้ดออกมาเหมือนคนประสาทเสียแววตาแดงก่ำของเธอจ้องมองมาที่นีน่าราวกับจะฆ่าให้ตาย เธอพุ่งตัวเข้ามาหา นีน่าอย่างคนเสียสติ นีน่าตกใจจนตัวแข็งทื่อ แต่ดีที่รีไวน์กันออกไปได้ทัน ส่วนแฟนต้าเข้ามาดึงตัวน้ำหวานออกและพาเธอเข้าไปสงบสติอารมณ์ในบ้าน“เลิกบ้าสักทีน้ำหวาน เธอไม่มีทางเทียบนีน่าหรือคนอื่นๆได้จำไว้เถอะ!” แฟนต้าตวาดเรียดสติน้ำหวานหวังว่าเธอจะยังมีสติกลับตัวกลับใจบ้างเพราะอย่างน้อยพวกเขาก็เคยเป็นเพื่อนกัน“กะ..กลับกันเถอะค่ะ”น้ำเสียงนีน่าสั่นเครือไปหมด เธอร้องไห้สะอึดสะอื้นอย่างน่าสงสาร ความผิดหวังก่อตัวขึ้นเต็มหัวใจเธอไปหมด ก่อนหน้านี้ที่จะมาที่นี่เธอไม่คิดเลยว่าน้ำหวานจะทำทุกอย่างเองทั้งหมด เธอคิดว่ามันอาจจะมีเรื่องจำเป็นอะไรหรือเปล่า น้ำหวานอาจจะกำลังเดือดร้อนเรื่องการเงิน หรือจนตรอกต้องขายเพื่อนแบบนั้นเธอยังพรับได้ แต่ว่ามันไม่ใช่เลยต้องขอบคุณรีไวน์ ที่ทำให้เธอรู้ความจริงตลอดทางกลับบ้านรีไวน์พยายามชวนนีน่าคุย แต่เธอกลับเอาแต่มองออกไปนอกกระจก ใบหน้าเหม่อลอยเหมือนคนตายอดตายอยาก ร