เมื่ออาหารมาถึงเธอจึงออกจากห้องลงลิฟต์ของคอนโดไปและกลับขึ้นมาบนห้อง จัดการกินอาหารอ่อน ๆ ที่สั่งมาจนหมด พร้อมกับกินยาแก้ไข้ทันที คอที่แห้งพราก ตอนที่พยายามจะกินน้ำหรืออาหารมันช่างทรมานเหลือเกิน แต่ก็คงน้อยกว่าความทรมานเมื่อคิดถึงใครสักคนแหละนะ และส่วนหนึ่งที่ทำให้เธอต้องเป็นหวัดแบบนี้ก็เพราะชายคนนั้น.. ถ้าเขาไม่มาดักรอเธอที่หน้าคณะ เธอคงจะอยู่ใต้อาคารและรอให้ฝนหยุดก่อน จะได้ไม่ต้องเดินตากฝนจนไข้ขึ้น
หญิงสาวยิ้มเยาะให้กับตัวเองอย่างสมเพชของร่างกายตัวเองที่เป็นหนักขนาดนี้เพราะใครบางคนคนนั้น ไม่ได้รู้ด้วยซ้ำว่าเธอป่วยจนไปเรียนไม่ไหว
รีไวน์ที่ตอนบ่ายอาจารย์ยกคลาส ทำให้เขากลับมานั่งเล่นนอนเล่นที่คอนโดหรูของตัวเอง และเมื่อช่วงเย็นมาถึงท้องของรีไวน์ก็ส่งเสียงร้องออกมาเป็นสัญญาณว่าให้หาของกินได้แล้ว แต่เขาเบื่อที่จะสั่งอาหารมานั่งกินที่คอนโดคนเดียว จึงขับรถไปร้านพิซซ่า โฮมเมดร้านชื่อดังที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากที่พักของเขามากนัก ซึ่งเขาชอบมาทานร้านนี้อยู่เป็นประจำ มันเป็นร้านที่เรียบง่ายและไม่มีผู้คนมากจนน่ารำคาญ แถมอาหารก็ยังถูกปาก
ช่วงเย็นเป็นช่วงที่การจราจรค่อนข้างหนาแน่น แต่ก็ไม่ใช่อุปสรรคในการออกไปหาของกิน หากได้กินของอร่อยไม่ว่าจะต้องขับรถไปไกลแค่ไหนก็ไม่เกี่ยง
รถBWWสุดหรูทรงสปอร์ตสีเทาขับแล่นเข้ามาในบริเวณลานจอดที่ทางร้านจัดเตรียมไว้ให้ ก่อนที่เจ้าของรถจะดับเครื่องยนต์และหยิบมือถือของตัวเองขึ้นมา เตรียมลงจากรถแต่ระหว่างที่เขากำลังจะเปิดประตูสายตาของเขาก็ดันไปเห็นรถที่จอดอยู่ฝั่งตรงข้าม หากว่าเป็นคนธรรมดาเขาคงจะมองและก็เมินไปได้อย่างง่ายดาย
แต่ชายหนุ่มที่ดูเหมือนจะอายุมากกว่าเขาไม่กี่ปี รีไวน์จำได้ทันทีว่าคือคนเดียวกันกับที่นีน่าคบหาอยู่! แต่ข้างกายของผู้ชายคนนั้นไม่ใช่นีน่าแต่เป็นผู้หญิงคนอื่น!
ทั้งสองคนเดินกอดเอวกันกระหนุงกระหนิงเดินไปที่ร้าน พิซซ่า แต่รีไวน์ไม่ปล่อยให้พวกนั้นเดินไปได้ง่าย ๆ
มือหนากำหมัดกำพวงมาลัแน่นจนเส้นเลือดปูนขึ้อย่างเห็นได้ชัด ไอ้หมอนี่มันแย่งนีน่าไปจากเขาไม่พอ ยังกล้าคบซ้อนมีผู้หญิงคนอื่นอีกงั้นหรอ! เขาไม่อาจระงับโทสะตัวเองได้อีกต่อไป มันทำเขาเจ็บไม่พอยังมาหักหลังคนที่เขารักอีก รีไวน์รีบก้าวลงจากรถอย่างหัวเสียทันทีด้วยความเลือดร้อน เขาตรงปรี่เข้าไปหาชายคนนั้นก่อนที่จะกระชากชายคนนั้นจากด้านหลัง ปล่อยหมัดเข้าไปกระแทกหน้าของชายคนนั้นอย่างแรงจนเขาเซไปอีกทาง
“มึงกล้าทำแบบนี้กับนีน่าได้ยังไงวะ!” ใบหน้าของรีไวน์เต็มไปด้วยอารมณ์โกรธ ตวาดถามเสียงดังท่ามกลางเสียงกรีดร้องของผู้หญิงด้านหน้าของเขา
“มึงมาต่อยกูทำไมวะ! สวะเอ้ย!” ฟรานซิสไม่ปล่อยให้ตัวเองถูกโจมตีอยู่ฝ่ายเดียว เมื่อตั้งหลักได้เขาจึงพุ่งตัวเข้าไปหารีไวน์และซัดหมัดเข้าไปที่หน้าของรีไวน์อย่างเต็มแรง
รีไวน์ตั้งรับกับหมัดเมื่อครู่ไม่ทันเขาจึงโดนหมัดเข้ามาอย่างจังแต่ตัวเขาเองก็ไม่ยอมแพ้ เขาเข้าไปประชิดกับตัวของฟรานซิสก่อนที่จะเกิดการตะลุมบอนขึ้นอย่างชุลมุน
จนในที่สุดหญิงสาวปริศนาไม่อาจมองดูสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้อีกต่อไป ถึงจึงรวบรวมความกล้าเข้าไปขวางตรงกลางระหว่างรีไวน์และฟรานซิสจนทั้งสองแยกออกจากกัน
รีไวน์เองมีความเป็นลูกผู้ชายที่จะไม่ลงมือทำร้ายผู้หญิง เขาจึงปาดเลือดที่มุมปากทิ้งอย่างลวกๆ ซึ่งฟรานซิสก็ทำแบบนั้นเช่นกัน
“ช่วยบอกหน่อยได้ไหม ว่ามันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น!” เธอตะโกนถามทั้งสองคนอย่างเหลืออด เพราะเธอคงทนเฉยไม่ได้หากมีชายที่ไหนก็ไม่รู้มาทำร้ายคนที่เธอรัก
“ก็ผู้ชายของเธอมันคบอยู่กับนีน่าแท้ๆ แต่กลับมาเดินโอบกอดผู้หญิงอีกคนหน้าตาเฉย ไม่รู้สึกผิดบ้างเลยหรือไงวะ!”
“เดี๋ยวนะ? นีน่าไหน?” หญิงสาวหน้าสวยขมวดคิ้วและหันกลับไปถามแฟนหนุ่มของตัวเองในทันที
“นีน่า? น้องสาวข้างบ้านฉันนะเหรอ?” ฟรานซิสเองก็ขมวดคิ้วจนเป็นปมไม่ได้ต่างอะไรกัน นีน่าเดียวที่เขารู้จักในตอนนี้ก็มีแค่น้องข้างบ้านที่โตมาด้วยกันและเห็นกันมาตั้งแต่ยังเล็กเท่านั้น
“อ่ออน้องนีน่านะเหรอ? แสดงว่าคุณคงเข้าใจผิดแล้วล่ะค่ะ ทั้งสองคนไม่เคยคบกัน ส่วนฉันเองก็เป็นแฟนกับฟรานซิสมาเข้าปีที่สี่แล้ว” เธออธิบายให้รีไวน์ได้เข้าใจอย่างใจเย็น และหากเป็นการเข้าใจผิดกันเธอเองก็จะไม่ถือโทษโกรธเคืองรีไวน์ ที่ทำอะไรไปด้วยความไม่รู้
“แต่วันนั้นฉันเห็นแกเดินซื้อของกับนีน่าอยู่ที่ห้างและดูมีความสุขกันมากซะด้วย” รีไวน์ยังไม่ปักใจเชื่อคำพูดของทั้งสองคน ถึงแม้ฝ่ายหญิงจะมาช่วยอธิบายแล้วก็ตาม แต่มันก็เป็นไปได้ว่าฟรานซิสจะโกหกเพื่อที่จะซ่อนเรื่องของนีน่าไว้
“วันนั้นฉันไปเดินซื้อของกับนีน่าก็จริง แต่ฉันซื้อของให้กับแฟนฉันต่างหาก! แกได้ลองถามนีน่าดูหรือเปล่าก่อนที่จะมาโวยวายใส่คนอื่นแบบนี้!” ฟรานซิสเองก็โกรธจัดเช่นกัน เพราะเขาเริ่มจะจำเรื่องราวของนีน่าที่ต้องเลิกกับแฟนได้ ตอนนั้นนีน่าเองก็เสียใจไปอยู่นานเหมือนกัน
“...” เขาเงียบและเถียงไม่ออก วันนั้นเขาเอาแต่โทษว่าเป็นความผิดของนีน่าจนพูดจารุนแรงใส่เธอแบบไม่ยั้งคิดโดยไม่ได้ให้โอกาสเธอได้อธิบยเลยด้วยซ้ำ แสดงว่าเรื่องทั้งหมดเขาคิดเองเออเองน่ะสิ
ในตอนนี้รีไวน์รู้สึกเหมือนคนโง่จริง ๆ โลกทั้งใบตอนนี้มีเพียงแค่ตัวเองเท่านั้น เขาไม่ได้ยินเสียงรอบข้างหรือว่ามองหน้าของใครอีก ภายในหัวกำลังเรียบเรียงและใช้ความคิดอยู่กับตัวเองให้ได้มากที่สุด
ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งอดไม่ได้ที่จะหงุดหงิดตัวเอง ที่ทำไมชอบทำอะไรไปโดยที่ใช้อารมณ์ตัดสินแม้กระทั่งกับคนที่เขารักมากที่สุด เขาก็ไม่เว้น
“ถ้าวันนั้นฉันฟังเธอบ้างเรื่องของเรามันคงไม่ต้องจบลงสินะ” รีไวน์บ่นพึพำกับตัวเองแล้วเดินกลับมาที่รถ เปิดประตูออกและขึ้นไปนั่งตรงตำแหน่งคนขับ
แต่เขาไม่ออกรถภายในทันที ชายหนุ่มฟุบหน้าของตัวเองลงไปกับพวงมาลัยของรถอย่างรู้สึกผิดและสมเพชในความโง่ของตัวเอง ก่อนที่จะคิดย้อนไปถึงเรื่องราวในวันที่ต้องเลิกกัน
เมื่อได้รับรู้ความจริงความรู้สึกผิดความรู้สึกเจ็บปวดก็แล่นเข้ามาถาโถมในอกของเขาจนเจ็บปวดไปทั้งหัวใจ รีไวน์จึงรีบกดโทรศัพท์ไลน์หาเรนกับมั้นท์ทันที
รีไวน์ : คืนนี้สองทุ่มที่ผับ Y
เขาพิมพ์เพียงเท่านั้นก่อนที่จะโยนโทรศัพท์ไปยังเบาะด้านข้าง อย่างไม่กลัวว่ามันจะกระเด้งลงไปบนพื้น ตอนนี้เขาไม่นึกเสียดายอะไรอีกแล้ว
สิ่งเดียวที่เขาเสียดายคือช่วงเวลาสองปีที่ผ่านมา เขาปล่อยคนดี ๆ ให้ออกไปจากชีวิตอย่างไม่คิดที่จะยื้อหรือปรับความเข้าใจเลย เขามันช่างโง่เขลา
รีไวน์สตาร์ทรถก่อนที่จะขับมันออกมาจากลานจอดรถของร้านพิซซ่าทันที ความอยากอาหารของเขาถูกแทนที่ด้วยความกระหายแอลกอฮอล์แทน
บทที่ 8 อยากคืนดีพอถึงช่วงเวลานัดรีไวน์จึงเข้าไปในผับและตรงดิ่งโซน VIP โต๊ะประจำ เสียงดนตรีที่แม้ตอนนี้อึกทึกครึกโครมแต่มันก็ไม่ได้เข้าไปในหูของรีไวน์เลยสักนิดที่โต๊ะเป็นเบาะนั่งโซฟาหรูหราสีแดงโดยมีมั้นท์และเรนนั่งอยู่ก่อนแล้ว ข้างกายของมั้นท์มีหญิงสาวแต่งกายด้วยชุดสุดเซ็กซี่ประกบข้าง และนัวเนียกันอย่างไม่สนใจการมาถึงของรีไวน์เลยสักนิด“ไล่ยัยพวกนี้ออกไป” รีไวน์พูดห้วน ๆ แสดงออกอย่างชัดเจนว่าภาพที่เห็นมันขัดหูขัดตาเขามากแค่ไหนหญิงสาวสุดเอ็กซ์ที่นั่งอยู่ก่อนทำหน้าบูดบึ้งทันทีเมื่อรีไวน์พูดกับเธอแบบนั้น แต่มั้นท์ก็พูดกับเธออย่างอ่อนโยน เธอจึงยอมออกไปแต่โดยดีและได้เงินเล็กน้อยติดไม้ติดมือกลับไป“มีเรื่องอะไร หรือว่าเป็นเพราะเรื่องเมื่อวาน ? ” มั้นท์ถามขึ้น เพราะเขารู้อยู่แล้วว่าการที่รีไวน์เป็นคนออกปากอยากมาผับคงไม่ใช่เรื่องธรรมดาแน่ ๆ“ไม่ใช่” รีไวน์ทิ้งตัวลงนั่งที่เบาะก่อนที่จะเริ่มรินเหล้าลงใส่แก้วโดยที่ไม่ผสมมิกเซอร์“เล่นแดกแต่หัววันแบบนี้ อย่ามาโกหกพวกกูเลย มึงมีเรื่องอะไรกันแน่ว่ะ”“ไว้กูค่อยพูด ตอนนี้ขอเหล้าแรงๆ กระแทกปากก่อนได้ไหมวะ!” รีไวน์ชักสีหน้าไม่พอใจทันที เมื่อถูกเพื่อ
บทที่ 9 วางแผนคืนดี“เอาล่ะตอนนี้กูได้เบอร์ติดต่อของนีน่ามาแล้ว และที่สำคัญกูได้ที่อยู่เธอมาด้วยล่ะ” มั้นท์ส่งยิ้มไปให้รีไวน์เหมือนกำลังจะบอกว่าเขาเองมีประโยชน์มากกว่าเรนเสียอีก“กูมีที่อยู่ของนีน่าอยู่แล้วเถอะ”“งั้นเหรอ..ไหนมึงลองบอกมาสิว่าเธออยู่ที่ไหน”มั้นท์ มีความเชื่อใจในตัวเองสูงมากว่าข้อมูลที่เขาหามาได้ รีไวน์ต้องไม่รู้มาก่อนอย่างแน่นอน“คอนโดZ กูเคยไปส่งเธอมาแล้ว”รีไวน์ตอบไปอย่างมั่นใจ ก็ในเมื่อเขาไปส่งเธอเองกับมือ มันจะไม่ใช่คอนโดนั้นได้ยังไง“ผิดครับ คอนโดXต่างหาก”มั้นท์ยิ้มอย่างภาคภูมิใจทันที เขารู้อยู่แล้วว่าข้อมูลที่รีไวน์มีทั้งหมดมันเป็นของปลอม“ได้ยังไงวะ! ก็กูไปส่งเธอมา กูเห็นกับตาตัวเองว่านีน่าเดินเข้าไปในนั้น”เขาแปลกใจและไม่เข้าใจไปพร้อมๆกัน ก็ในเมื่อวันนั้นเขายังเห็นนีน่าเดินเขาไปในตึกอยู่เลย มันจะไม่ใช่ได้ยังไง“นีน่าคงพามึงไปที่อยู่ปลอมนั่นแหละ เธอคงกังวลเรื่องความปลอดภัย ที่อยู่นี้กูได้มาจากแฟนต้าเลยนะ!!”แต่เมื่อรีไวน์คิดตามที่มั้นท์บอกอย่างถี่ถ้วนแล้ว สิ่งที่มันพูดก็น่าจะเป็นเรื่องจริง ทำไมเรื่องแค่นี้เขายังคิดไม่ได้นะ วันนั้นนีน่าก็บอกแล้วว่าจะไม่ให้เขา
บทที่ 10 เข้าแผนนีน่าเห็นแว๊ปๆ ว่าเหมือนจะพึ่งมีใครเดินออกจากประตูคอนโดไป แต่แล้วเธอก็สังเกตว่ามีชายปริศนากำลังนอนกองอยู่กับพื้น เจ้าตัวใส่ชุดสีโทนดำทั้งตัว เธอจึงตงิดใจอยู่แปลกๆ เพราะเธอก็รู้จักชายคนหนึ่งที่มีผมสีดำและชื่นชอบในการแต่งตัวคุมโทนสีดำเหมือนกันเธอค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้ชายคนนั้นอย่างระมัดระวัง และค่อยๆ ชะเง้อมองดูว่าชายคนนี้คือใครกันแน่ หรือว่าเธอควรจะโทรแจ้งตำรวจไหมนะ?แต่แล้วเสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น มันเป็นเบอร์เดียวกับที่พึ่งโทรคุยกับเธอเมื่อไม่ถึงห้านาทีที่แล้ว“เห็นของที่ผมทิ้งไว้ให้แล้วใช่ไหมครับ?” เมื่อมั้นท์กลับไปถึงรถตัวเอง เขาจึงโทรหานีน่าอีกครั้ง“ของที่ว่านี่ อย่าบอกนะคะ...” นีน่าหวังว่ามันคงจะไม่ใช่ชายที่นอนอยู่ตรงนี้หรอกนะ!“ยังไม่เห็นเหรอครับ ว่านั่นคือรีไวน์เพื่อนรักของเราเอง” หญิงสาวสะดุ้งด้วยโหยงความตกใจทันที เมื่อเธอเห็นหน้าของผู้ชายคนนั้นชัดๆ และได้พบว่าคนที่นอนกองไม่ได้สติอยู่กับพื้นคือรีไวน์จริงๆแต่ผิวหน้าและผิวตัวของเขามันแดงไปหมด นี่อย่าบอกนะว่าเขาเมา? หรือมันเกิดเรื่องอะไรไม่ดีกับเขากันแน่“ทำไมคุณถึงเอาเขามาทิ้งแบบนี้ล่ะคะ นั่นเพื่อนคุณนะ!” เ
บทที่ 11 ผิดแผน“ฉันขอโทษนีน่าฉันขอโทษ หยุดร้องไห้เถอะนะ” รีไวน์พุ่งตัวไปกอดนีน่าทันทีและไม่สนว่าเธอจะดิ้นแค่ไหน เขาพยายามออกแรงข่มนีน่าไว้ในอ้อมกอด แต่เธอไม่ยอมง่ายๆ หญิงสาวดีดดิ้นอย่างแรงจนหลุดจากอ้อมกอดของรีไวน์ก่อนที่ผ่ามือเล็กๆจะตบไปที่หน้าของเขาอย่างแรงจนผิวขาวๆ ขึ้นรอยแดงห้านิ้ว ความเจ็บปวดลามไปทั่วหน้าของรีไวน์จนมันชาไปหมด แต่เขาได้เห็นท่าทีหวาดกลัวของนีน่าในตอนนี้ เขารู้ดีว่าตัวเองต้องถอยได้แล้ว ไม่อย่างนั้นนีน่าจะยิ่งเกลียดเขาไปมากกว่าเดิม“ฉันเข้าใจแต่ฉันมันแย่เองที่ตอนนั้นฉันไม่ยอมฟังเธอ ทำให้เธอต้องเจ็บและทรมาน ฉันเข้าใจถ้าเธอจะเกลียดฉัน แต่ฉันสัญญาฉันจะทำให้ดีขึ้นกว่าเดิม”“ออกไป..” นีน่ากดเสียงต่ำเพื่อข่มรีไวน์ แต่ก็ยังไม่เป็นผล เจ้าตัวยังคงยืนที่เดิมและพูดต่อไปเรื่อยๆ“ฉันจะไม่ยอมปล่อยเธอไปง่ายๆ หรอกนะ ไม่อีกแล้ว..”“พอเถอะรีไวน์ เรื่องของเรามันจบไปแล้ว จบมาตั้งนานแล้ว ฉันกับนายก็ควรจะเริ่มต้นใหม่สักที” นีน่าพูดออกไปแบบนั้นแต่เธอทำมันไม่ได้หรอก ทุกวันนี้เธอยังทรมาณจากการคิดถึงรีไวน์อยู่เลย เธอแค่ปากดีไปเท่านั้น“แต่ฉันยังไม่จบ ฉันยังรู้สึกกับเธออยู่เลย ให้ฉันได้ดูแลเธ
บทที่ 12 ผิดหวัง“นีน่า ฉันซื้อมาให้” รีไวน์หยุดลงตรงหน้าของเธอ ก่อนที่จะยื่นขนมเค้กถุงใหญ่ให้กับเธอ นีน่าตกใจมากที่รีไวน์มาดักรอเธอถึงหน้าคณะ อย่าบอกนะว่าที่เขาพูดว่าจะไม่ยอมปล่อยนั่นคือเรื่องจริง ไม่ใช่แค่ว่าเขาเมาหรอกเหรอ!“ไม่เอาอ่ะ เยอะขนาดนี้ใครจะไปกินหมด” เธอมองบรรดาเค้กหลากหลายหน้ามากมายภายในถุงพร้อมปฏิเสธอย่างสุภาพ ไม่ใช่ว่าเธอจะกินมันไม่หมดหรอก แต่เธอไม่อยากรับของจากรีไวน์ให้ติดเป็นบุญคุณต่างหาก“ไม่ได้นะ! มีแต่เค้กที่เธอชอบทั้งนั้นเลย ทั้งเค้กมะพร้าว ทีรามิสุ บานอฟฟี่แล้วก็..”“โอ๊ย ขนมาเยอะขนาดนี้นีน่ามันเป็นเบาหวานตายกันพอดี เพราะงั้นให้แฟนต้าช่วยถือดีกว่านะคะ” แฟนต้ารีบเข้าไปรับถุงเค้กมากมายจากมือของรีไวน์ทันที ถึงนีน่าจะพยายามดึงตัวแฟนต้ากลับมา แฟนต้าก็ไม่ฟังเพราะแฟนต้าเองก็เชียร์รีไวน์สุดฤทธิ์ แฟนต้าแค่อยากให้เพื่อนเลิกเศร้าและมีความสุขบ้าง รีไวน์อุตส่าห์ไปหาซื้อเค้กที่นีน่าชอบมาทั้งนั้น นั่นก็แสดงถึงความจริงใจได้แล้วไม่ใช่เหรอ“แค่รับมาก็พอแล้วมั้ง ไปเข้าเรียนกันเถอะแฟนต้า ใกล้เวลามากแล้ว” นีน่าห้ามเพื่อนไม่ได้เธอจึงช่วยแฟนต้าถือถุงเค้กแทนก่อนที่จะเดินปลีกตัวมาจากตรง
บทที่ 13 ทำเซอร์ไพร์รีไวน์เดินกลับไปที่รถของตัวเองอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์พร้อมกับโทรหาเพื่อนเพื่อรายงานความคืบหน้าของการตามง้อนีน่าให้เพื่อนได้รับรู้ โดยการกดโทรและประชุมสาย“ที่แท้ก็ยังเอานีน่ากลับมาไม่ได้ น่าผิดหวังจริงๆ เลย” มั้นท์พอฟังที่รีไวน์เล่าไปทั้งหมดแล้วจึงพูดออกมาก่อน“นี่ผ่านมาแค่กี่วันเองวะ แถมมึงยังทำตัวล้ำเส้นไปจูบเธออีก เป็นกูนะเกลียดมึงเข้าไส้ไปแล้ว” เรนพูดต่อ รีไวน์รู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังถูกตอกย้ำ เขาจึงถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมา“เฮ้อออ”“ไม่ต้องมาถอนหายใจยาวขนาดนั้นเลย ทำตัวเองแท้ๆ”“เอาจริงๆ ถ้ามึงไม่ไปจูบเขาเมื่อวันนั้น กูว่าทุกอย่างมันคงง่ายกว่านี้” ก็จริงอย่างที่เพื่อนๆพูด แต่เขาเองก็ขอโทษนีน่าไปแล้วถึงแม้เธอจะไม่ฟังก็ตาม“กูไม่ยอมแพ้กับเรื่องแค่นี้หรอก ยังไงมันก็ต้องมีสักวันที่ นีน่าใจอ่อนสิวะ”“การมั่นใจในตัวเองเป็นสิ่งที่ดีนะเพื่อน แต่ถ้ามั่นใจเกินไปมันจะกลายเป็นว่ามึงมั่นหน้านะ...”“ไอ่เชี้ยมั้นท์ มึงช่วยให้กำลังใจกันหน่อยมันจะตายหรือไงวะ!”อีกหนึ่งงานอดิเรกของมั้นท์ก็คือการกวนประสาทรีไวน์อยู่ตลอดเวลานั่นเอง แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังรักกันมากอยู่ดี“ถ้าซื
บทที่ 14 ตามตื๊อหญิงสาวสะดุ้งตัวอย่างแรงด้วยความตกใจ เพราะอีกแค่ไม่กี่ก้าวเธอก็จะถึงลิฟต์ของตึกแล้วเชียว แต่รีไวน์ดันเห็นเธอก่อนซะได้“วะ ว่าไง” และหากว่าเธอจะวิ่งหนีก็คงไม่ทันแล้ว เสียงเท้าของรีไวน์ดังเข้ามาใกล้เธอขึ้นเรื่อยๆ เธอหันหลังไปมองและยิ้มให้ รีไวน์อย่างเจื่อน ๆ เธอคิดแค่จะรีบคุยให้จบๆไป โดยที่ไม่ต้องมาทะเลาะกันให้ยืดเยื้อแต่ที่ผ่านมาถ้ารีไวน์ไม่หาเรื่องเธอ เธอก็ไม่ได้หาเรื่องเขาก่อนเลยนะ!“ฉันซื้อแซนด์วิชมาให้ แล้วก็นมหมีน้ำผึ้ง ฉันรู้ว่าเธอไม่ได้กินข้าวเช้ามาใช่ไหมล่ะ?” ชายตรงหน้ายื่นถุงที่มีแซนด์วิชสามเหลี่ยมอยู่ด้านในมายังตรงหน้าของเธอ เธอมองมันและอึ้งอยู่ไม่น้อยที่รีไวน์ยังจำรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของเธอได้อยู่เลยถึงแม้เวลาจะผ่านมานานหลายปี“ยังไงก็...ขอบใจแล้วกันนะ” เธอเอื้อมมือออกไปรับมันมาถือไว้ในมือ ก่อนที่จะม้วนตัวหันหลังให้ เพราะไม่มีอะไรที่จะต้องพูดคุยกันอีก“ขอให้วันนี้เป็นวันที่ดีนะนีน่า!” นีน่าสะดุ้งอีกครั้งแต่เธอไม่ได้หันหลังกลับไปมองรีไวน์ สองเท้าของเธอรีบจ้ำอ้าวเข้าไปในลิฟต์ก่อนที่จะปิดมันลงทันทีเธอไม่คิดเลยว่ารีไวน์จะพูดอะไรแบบนั้นเป็นด้วย ไหนจะแซนด์ว
บทที่ 15 แรงหึงเธออ้าปากค้างไปทันที ตอนนี้เธออยากจะแกล้งบ้าด้วยซ้ำ ไม่คิดเลยว่าเรื่องแบบนี้จะมาเกิดขึ้นกับเธอ เคยเห็นแต่ในซีรี่ส์ไทยเท่านั้นแหละ ใครเป็นคนบอกเขากันนะว่าทำแบบนี้มันโรแมนติก“คะ...คือว่า” เธออ้ำอึ้งพูดอะไรไม่ถูก พร้อมกับมองไปที่แฟนต้าอย่างต้องการความช่วยเหลือ แต่ตอนนี้แฟนต้าก็ทำอะไรไม่ถูกเช่นกัน มันประหลาดเกินไปแล้ว!“อย่าอยู่เลยมึง!!” เสียงตะโกนดังขึ้น พร้อมกับร่างของรีไวน์ที่พยายามแหวกวงล้อมของฝูงชนจนตัวเองผ่านเข้ามาได้ และเขาได้กระโดดถีบไปที่รุ่นพี่จนเขาล้มลงกับพื้น เท่านั้นยังไม่พอเขายังเข้าไปกระหนำรัวหมัดใส่รุ่นพี่ผมทรงอันเดอร์คัต“โอ้ย! อะไรของมึงเนี่ย!!”ชายคนนั้นพยายามจะปัดป้องหมัดของรีไวน์แต่เขาก็สู้แรงหึงของรีไวน์ไม่ได้เลย“อะไรของมึงงั้นเหรอ งั้นเอาไปอีกหมัดเลยไป!!” รีไวน์ไม่รอให้ชายคนนั้นได้พูดอะไรไปมากกว่านี้ เขาประเคนหมัดเข้าไปอีกครั้งตรงกลางหน้าของชายคนนั้น หลังจากนั้นการตะลุมบอนก็เกิดขึ้นอีกครั้ง ท่ามกลางเสียงโวยวายและเสียงเชียร์ของผู้คนรอบข้าง“หยุดนะ! รีไวน์! พอแล้ว!” นีน่าไม่อาจเห็นคนทะเลาะกันได้เธอจึงรีบออกปากห้ามรีไวน์ทันที แต่มันก็ไม่ได้มีน้ำหนักมาก
บทส่งท้าย NC คืนวันแต่งงานกว่าจะถึงบริเวณที่จัดงานได้ก็มืดค่ำแล้ว ภายในห้องอาหารสุดหรูที่ด้านในมีแขกมากมายรวมตัวกันฉลองอยู่ในนั้น ทุกคนล้วนเป็นญาติทางฝั่งรีไวน์เกินครึ่งห้อง ส่วนที่เหลืออีกไม่กี่คนคือญาติฝั่งนีน่าเอง ในวันนี้ทุกคนต่างเฮฮาปาร์ตี้กันอย่างสุดเหวี่ยง อาหารบนโต๊ะก็น่าทานไม่แพ้กัน แต่ดูเหมือนเจ้าของงานทั้งสองจะงุ่นง่านกับการกินอาหารมากกว่าการฉลองสะอีก ก็อย่างว่าพวกเขาไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เช้าคงต้องหิวกันเป็นธรรมดา“ผมขออนุญาตกล่าวแสดงความยินดีกับหลานชายหน่อยนะครับ เอ็งเก่งมากหลานลุงข้าเชื่อว่าเอ็งจะทำได้มาตลอดแล้วก็ขึ้นบริหารเหมือนที่พ่อเอ็งทำด้วยนะ!”ชายวัยกลางคนลุกขึ้นยืนประกาศเสียงดังลั่นห้อง ถึงเนื้อความจะดูไม่มีอะไรมากแต่ก็ดันเรียกเสียงฮือฮาได้เป็นอย่างดี จนรีไวน์ต้องกุมขมับ“งั้นฉันพูดต่อบ้าง ในฐานะป้าของเขา ฉันขอแสดงความยินดีกับความสำเร็จก้าวแรกของหลานชาย ป้าเชื่อมาตลอดว่าแกจะต้องทำได้เพราะแกเก่งเหมือนพ่อแกมาก แทบจะถอดกันมาเลยแถม! แกยังได้แฟนสวยอีกด้วย อู้ยย ไม่ต่างจากพ่อมันเลยนี่หว่า”เสียงญาติๆต่างเฮฮาให้กับคำพูดติดตลกของคุณป้าวัยกลางคนอีกคนหนึ่ง รีไวน์เองก็เขินอายม
บทที่ 44 เรียนจบซะทีหลังจากส่งรีไวน์ขึ้นเครื่องในตอนเช้าแล้ว นีน่าเองก็กลับมาเก็บกระเป๋าในส่วนของเธอเตรียมย้ายไปอยู่หอใหม่ใกล้ที่ฝึกงาน เธอได้เข้าฝึกงานที่บริษัทผลิตสื่อในเครือของทางบ้านรีไวน์ เพียงแค่รีไวน์ออกปากบอกแม่ ทางนั้นก็แทบจะปูเสื่อรอรับเธอเป็นอย่างดีและให้ความช่วยเหลือทุกอย่างส่วนทางด้านของรีไวน์นั้นเขาต้องไปฝึกงานไกลถึงภูเก็ต และเป็นรีสอร์ทที่ดังที่สุดในจังหวัด ด้วยสายงานนั้นเขาไม่อยากจะฝึกกับทางบริษัทพ่อของตัวเอง เขากลัวว่าจะไม่ได้อะไรกลับมาและไม่อยากทำตัวเป็นลูกแหง่ที่พึ่งพ่อแม่ไปทุกอย่าง ถึงแม้ตอนกลับมาจะต้องบริหารต่อจากพ่อก็ตาม แต่พอเป็นนีน่าเขารีบส่งไปหาพ่ออย่างไว นั่นก็เพราะเขาเป็นห่วงนีน่าเอามากๆ ไม่อยากให้เธอต้องไปเจอบริษัทที่ไม่ดีและกดขี่เด็กฝึกงานอย่างเธอ ยิ่งสู้ใครเขาไม่ได้อยู่พอถึงห้องพักที่ต้องอยู่ในอีกสี่เดือนข้างหน้านี้ ใบหน้าสวยก็ดันมีน้ำตาเอ่อล้นออกมา ห่างกันได้ไม่เท่าไหร่ด้วยซ้ำ เธอดันคิดถึงเขาอีกแล้ว เธอพยายามฮึบและปาดน้ำตาอย่างลวกๆ“อดทนหน่อยสินีน่า! อีกแค่สีเดือนเอง! อดทนเข้าไว้!”เธอพร่ำพูดให้กำลังใจตัวเองรอบที่ร้อย ในใจก็รอให้รีไวน์โทรเข้าหาเธอเสียท
บทที่ 43 NC จัดก่อนกลับ“คงไม่มาหรอกมั้ง เธอคงไม่กล้ามาสู้หน้าฉันอีก”นีน่าหลุบตาลงเล็กน้อยเมื่อคิดถึงความดีของน้ำหวานที่เธอเคยทำ แต่ยังไงซะมันไม่สามารถหักล้างกับความผิดในวันนั้นได้ ส่วนคนที่รู้จุดจบของน้ำหวานดีอย่างมั้นท์ เรนและรีไวน์ต่างปิดปากเงียบและดูเหมือนมันจะเนียนมากเสียด้วยสิ“เอาเถอะ ๆ ไม่ต้องไปสนใจคนพรรค์นั้นแล้วกัน เรามาดื่มฉลองให้กับเพื่อนและชีวิตหลังจากนี้กันดีกว่า”แฟนต้าคว้าเอาแก้วพั้นช์มาไว้ในมือ เธอถือมันชูขึ้นรอคนอื่นๆเอาแก้วมาชนพวกเขาชนแก้วให้กับชีวิตที่ผ่านมาและสิ่งที่รออยู่ภายภาคหน้า ไม่ว่าจะมีเรื่องราวอะไรรออยู่พวกเขานั้นพร้อมที่จะฝ่าฝันอุปสรรคมากมายที่ถาโถมเข้าใส่ เพียงแค่ยังมีกันไปเรื่อยๆก็พอวันเวลาที่แสนมีความสุขผ่านล่วงเลยไปนานหลายเดือนจนมาถึงวันแห่งบททดสอบความรักทางไกล บางครั้งมันเป็นเหมือนตัวช่วยและตัวกรองว่าคนๆนี้มีคุณสมบัติเพียงพอต่อการคบหากันยืนยาวไปในอนาคตหรือไม่ แต่ในบางทีมันเป็นดาบสองคมได้เช่นกันความห่างไกลมันทำให้ยิ่งห่างเหิน จากที่เคยอยู่ใกล้กันกลับต้องไกลห่างออกไป คิดถึงแต่กอดไม่ได้ อยากสัมผัสตัวก็ทำได้เพียงนึกถึงสัมผัสนั้นครั้งแล้วครั้งเล่า“เธอ
บทที่ 42 เลี้ยงรุ่น“เอาเหล้ามาอีกสิ้!”มือเล็กๆกวักเรียกให้ช่วยเติมเหล้าให้หน่อย ตาเธอนั้นปิดไปแล้วเรียบร้อยน้ำเสียงก็แข็งขึ้นกว่าเดิม มั้นท์ถึงจะเป็นเจ้าของวันเกิดก็ได้แต่รินเหล้าให้เธอตามคำสั่ง เขาเองไม่คิดว่านีน่าจะเมาแล้วเป็นแบบนี้“โอ้ย!ที่นี่มันร้อนชะมัด ไม่เปิดแอร์บ้างเลยหรือไงวะ!เฮงซวยยย”“ที่รักไม่เอาไม่พูดหยาบคายนะครับ ไอ้มั้นท์มึงเลือกโต๊ะได้ห่วยแตกมากเมียกูร้อนหมดแล้วเนี่ย!”“นี่โต๊ะVVIP เลยนะครับเพื่อนดีกว่านี้ไม่มีอีกแล้วเมียมึงเมาแล้วต่างหาก!”“อ้ะ..”นีน่าทำท่าเหมือนกับเธอจะพูดอะไรขึ้นมาอีก แต่ดันโดนริมฝีปากของรีไวน์หยุดเอาไว้ก่อนจากจูบเนิบๆเขาค่อยๆทวีความรุนแรงขึ้นและแรงขึ้นเรื่อยๆ เขาค่อยๆไล่ริมฝีปากลงมายังซอกคอขาวเนียนอย่างไม่อายสายตาหลายคู่ที่จับจ้องมา“ฮัลโหลว์ เกรงใจคนโสดหน่อยครับเพื่อน”มั้นท์ดีดนิ้วเรียกความสนใจจากเพื่อนรักแต่มันดันสูญเปล่า ในหัวของรีไวน์มีแต่เรื่องกลืนกินนีน่าเท่านั้น“ปล่อยมันไปเถอะ ทำเหมือนมึงจะห้ามได้มาสนุกกับกูดีกว่า เดี๋ยวกูเรียกเด็กให้”สุดท้ายแล้วเรนต้องรับจบแก้ปัญหาเรื่องนี้ให้กับมั้นท์ เขาเรียกเด็กดริ๊งค์ระดับท็อปของร้านมาบริการให้ถึงที่
บทที่ 41 แม่ผัวกับว่าที่สะใภ้ใช้เวลาไปอีกร่วมชั่วโมงกว่าจะเดินทางมาถึงคฤหาสน์หรูแถวชานเมือง และพูดได้ว่ามันเป็นบ้านที่คนรวย คนมีชื่อเสียงมักจะมาสร้างบ้านเดี่ยวกันแถวนี้สะส่วนใหญ่ นีน่าเธอพูดไม่หยุดระหว่างทางขับมาเรื่องการทำตัวให้เหมาะสม ก่อนหน้านี้ตอนมอปลายเธอเคยมาบ้านหลังนี้ครั้งหนึ่งแล้ว ตอนนั้นเธอยังเป็นเด็กและดูเหมือนพ่อและแม่ของรีไวน์จะชอบเธอ แต่ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าความคิดคนจะเปลี่ยนไปตามกาลเวลาไหมนั่นเป็นต้นเหตุอีกหนึ่งเรื่องที่ทำให้เธอประหม่าเธอสูดหายใจเข้าลึกๆพร้อมกับก้าวเท้าลงจากรถ เมื่อมันจอดนิ่งสนิทแล้ว ด้านหน้าบ้านหลังใหญ่โตมีสวนดอกไม้และน้ำพุตกแต่งตามสไตล์บ้านคนรวย นีน่าไล่มองพวกมันและเก็บรายละเอียดทุกอย่าง สวนที่ตั้งใจจัดขึ้นอย่างปราณีต รีไวน์ก้าวขึ้นมาเคียงข้างคนรักของตัวเองก่อนจะยื่นมือให้เธอจับ ซึ่งนั่นเรียกความมั่นใจของนีน่าให้กลับคืนมาได้เป็นอย่างดี“มาแล้วเหรอ ปล่อยให้แม่รอสะนานเลยนะ”เสียงเอ็ดเล็กน้อยดังขึ้นอีกฝั่งของบ้าน ก่อนที่หญิงวัยกลางคนจะปรากฎตัวขึ้น ใบหน้าของเธอนั่นยิ้มแย้มแจ่มใส นานๆทีลูกชายจะกลับมาเยี่ยมบ้านแถมคราวนี้ยังมีแฟนหิ้วติดมือมาด้วยอีก ไม่แปลกที่ผู
บทที่ 40 NC ปล่อยในไม่นานนักเขาก็ถอดกางเกงออกเผยให้เห็นแก่นกายอันใหญ่ยาวที่กำลังกระตุกมองกี่ครั้งก็ไม่เคยชิน ภาพตรงหน้าของรีไวน์นั้นมันทำให้เขามีอารมณ์พุ่งขึ้นถึงขีดสุดจนอยากจะเข้าไปจัดการเธอให้รู้แล้วรู้รอดหญิงสาวรับรู้ชะตากรรมของตัวเอง เธอนั่งถ่างขาออกอยู่บนนั้นใจก็หวิว ๆ ใบหน้าของเธอแดงเถือกไปหมด ร่างกายนั้นก็เปลือยเปล่า ทั้งเขิน เสียว และอายปะปนกันไปหมด หากไม่ใช่รีไวน์เธอคงไม่ยอมใจทำแบบนี้แน่ ๆเจ้าตัวใช้แก่นกายถูขึ้นและลงรอบนอกให้น้ำใส ๆ เปราะเคลือบแท่งของเขาเอาไว้ ก่อนที่จะค่อยๆกดมันเข้าไปรูรักของเธอเต็มไปด้วยน้ำหวาน ของตัวเจ้าของเองทำให้เข้าไปได้โดยง่ายและไม่เจ็บอีกต่อไป เธอครางออกมาเล็กน้อยความรู้สึกปวดตุ้บ ๆ ไม่นานก็ชินและปรับเปลี่ยนเป็นความเสียวที่มากเกินจะรับได้แทน“อ๊า! มันลึก..ลึกมากเลย”ด้วนท่าทีที่เปลี่ยนไปและไม่เคยทำมาก่อนนั่นเป็นองศาที่ทำให้แก่นกายได้เข้าไปลึกจนกระแทกกับมดลูกของเธอเข้าอย่างจัง ถึงมันจะเจ็บแต่เธอนั้นก็ยังชอบและ ยังภาวนาให้รีไวน์ทำกับเธอรุนแรงขึ้นมากกว่านี้อีกร่างสูงไม่รอช้ารีบขยับเข้าออกอย่างเอาแต่ใจ รูรักของ คนตรงหน้านั้นบีบรัดแก่นกายของเข
บทที่ 39 เอาของเล่นไปส่งทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบเพียงชั่วครู่เดียวก่อนที่เสียงตะโกนโหวกเหวกโวยวายของแฟนต้าจะดังขึ้น หล่อนโมโหมากทั้งเรื่องวันนั้นและไหนจะเรื่องที่ขับรถกะชนนีน่าอีก ส่วนนีน่าเองคงไม่ต้องบอกว่าเธอใจสลายแค่ไหน แต่ภายในใจของเธอนั้นไม่มีพื้นที่เหลือให้เพื่อนคนนี้อีกแล้ว“รีไวน์จะจัดการเธอยังไงก็แล้วแต่เถอะค่ะ ฉันไม่อยากสนใจอีกแล้วล่ะ ขอแค่แฟนต้าและแฟนฉันไม่เป็นอะไรก็พอแล้ว”เธอฉีกยิ้มจางๆกลับมาให้ แต่ภายในรอยยิ้มนั้นแฝงไปด้วยความเจ็บปวดอีกมากมาย ถึงนีน่าจะไม่อนุญาตเขาเองก็จัดการหล่อนไปแล้วล่ะ“ไม่ต้องห่วงนะ คนทำผิดต้องได้รับผลกรรมอยู่แล้ว”อย่าหาว่าเขาใจร้ายเลยนะน้ำหวาน ก็เรื่องทั้งหมดเธอเป็นคนเริ่มก่อนเองภายในบ้านหรูหลักหลายร้านล้อมรอบไปด้วยบอดี้การ์ดมากมายคุมรั้วและประตูเอาไว้ อดีตสส.ผู้ได้รับเสียงและความไว้วางใจจากประชาชนหลายสิบสมัยกำลังเครียดอยู่กับปัญหาเรื่องการเงินกำลังรุมเร้า และธุรกิจแยกของเขาต้องมาล้มละลายไปเพราะ เขาได้ไปยุ่งกับผู้หญิงเพียงแค่คนเดียว เจ้าตัวเดินปัดข้าวของตกกระจุยกระจายเต็มพื้นจากความเครียดและดูเหมือนจะไม่มีทางออกในตอนนี้ เพราะนังนั่นคนเดียวนังผู้
บทที่ 38 เอาคืนน้ำหวานเวลาผ่านไปร่วมครึ่งชั่วโมง รถโดยสารส่งเธอลงบริเวณด้านหน้าของคอนโดซึ่งจากนี้นีน่ายังต้องเดินเข้าซอยไปอีกสักหน่อย โครงการนี้ค่อนข้างมีหลายตึกและตึกในสุดเป็นดึกที่พรีเมี่ยมกว่าตึกอื่นเขา ในช่วงนี้ผู้คนเข้าออกยังไม่เยอะเท่าไหร่ นีน่าจึงเดินชิดริมฝั่งซ้ายที่สุดเท่าที่จะทำได้แต่เธอยังไม่ถอดหูฟังออก ดวงตาทั้งสองคู่จ้องมองทางข้างหน้าอย่างไม่ทันได้เฉลียวใจรถยนต์สีขาวทะเบียนยังไม่ทราบพุ่งตรงเข้ามาจากทางด้านหลังด้วยความเร็วราวกับหวังเอาชีวิต ในจังหวะนั้นเองร่างของ นีน่าถูกฉุดเอาไว้ได้ทันท่วงทีแต่ทั้งสองก็ล้มลงไปยังพื้นพร้อมๆกัน โชคดีที่ไม่มีใครบาดเจ็บมากนัก“นีน่า! เป็นอะไรไหม!”นีน่าเธออยู่ในอาการช็อตและยังตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ ตัวของเธอเลอะฝุ่นผงจากข้างทางเต็มไปหมด ไม่นานสติของเธอก็กลับมาและพบว่าเป็นแฟนต้าที่ช่วยเธอเอาไว้“ฟะ...แฟน! เธอมาอยู่นี่ได้ไง”นีน่าไล่สายตามองเพื่อนสนิทตั้งแต่หัวจรดเท้าดูความผิดปกติ หากมีตรงไหนที่บาดเจ็บเธอจะได้ส่งไปโรงพยาบาลได้ทัน“ไม่เป็นไร เธอล่ะ”“ไม่เป็นอะไรเหมือนกัน แค่เจ็บก้นนิดหน่อย เมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้นเหรอ”“เธอไม่ได้ยินเสียง
บทที่ 37 NC แก้ปัญหาจบก็แก้ผ้าต่อ“กรี๊ดดด!!! ไม่จริง! เป็นเพราะแกคนเดียวนังนีน่า! เป็นเพราะแก!”น้ำหวานกรี้ดออกมาเหมือนคนประสาทเสียแววตาแดงก่ำของเธอจ้องมองมาที่นีน่าราวกับจะฆ่าให้ตาย เธอพุ่งตัวเข้ามาหา นีน่าอย่างคนเสียสติ นีน่าตกใจจนตัวแข็งทื่อ แต่ดีที่รีไวน์กันออกไปได้ทัน ส่วนแฟนต้าเข้ามาดึงตัวน้ำหวานออกและพาเธอเข้าไปสงบสติอารมณ์ในบ้าน“เลิกบ้าสักทีน้ำหวาน เธอไม่มีทางเทียบนีน่าหรือคนอื่นๆได้จำไว้เถอะ!” แฟนต้าตวาดเรียดสติน้ำหวานหวังว่าเธอจะยังมีสติกลับตัวกลับใจบ้างเพราะอย่างน้อยพวกเขาก็เคยเป็นเพื่อนกัน“กะ..กลับกันเถอะค่ะ”น้ำเสียงนีน่าสั่นเครือไปหมด เธอร้องไห้สะอึดสะอื้นอย่างน่าสงสาร ความผิดหวังก่อตัวขึ้นเต็มหัวใจเธอไปหมด ก่อนหน้านี้ที่จะมาที่นี่เธอไม่คิดเลยว่าน้ำหวานจะทำทุกอย่างเองทั้งหมด เธอคิดว่ามันอาจจะมีเรื่องจำเป็นอะไรหรือเปล่า น้ำหวานอาจจะกำลังเดือดร้อนเรื่องการเงิน หรือจนตรอกต้องขายเพื่อนแบบนั้นเธอยังพรับได้ แต่ว่ามันไม่ใช่เลยต้องขอบคุณรีไวน์ ที่ทำให้เธอรู้ความจริงตลอดทางกลับบ้านรีไวน์พยายามชวนนีน่าคุย แต่เธอกลับเอาแต่มองออกไปนอกกระจก ใบหน้าเหม่อลอยเหมือนคนตายอดตายอยาก ร