นางยังคงขมวดคิ้ว กล่าวเสียงเย็น "ไม่มีอะไรน่าดูหรอก ข้าสบายดี ไม่ต้องให้น้องรองมาเป็นห่วงหรอก"คำว่า 'น้องรอง' นับเป็นการดึงความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขากันให้ห่างจากกันและทำให้สถานะของทั้งสองชัดเจนขึ้นไม่ว่าในอดีตทั้งสองจะเป็นอย่างไร ทว่าบัดนี้ นางคือพี่สะใภ้ของเขา เขาไม่ควรมีความคิดสปรกใดกับนางอีกความเจ็บปวดที่เกาะกุมในใจนั้น ในที่สุดก็ระเบิดออกมาดวงตาของเซียวเหิงเผยสีแดงก่ำออกมาเล็กน้อยเขาก้าวไปข้างหน้าก้าวหนึ่งโดยไม่รู้ตัว "เนี่ยนเนี่ยน..."แต่ไม่คิดเลยว่า เฉียวเนี่ยนกลับถอยหลังไปหนึ่งก้าวทั้งๆ ที่ระยะห่างของทั้งสองห่างกันขนาดนั้น ทว่าแค่เพียงหนึ่งก้าวนี้ นางกลับไม่ยอมให้เขาเข้าใกล้เลยนาง ต่อต้านเขาถึงเช่นนี้!สองมือใต้แขนเสื้อกำแน่น เขามองใบหน้าที่เย็นชาของนาง และแทบไม่อยากเชื่อเลยว่านางที่ชอบตนในอดีตขนาดนั้น บัดนี้จะไม่ชอบเขาเลยแม้แต่นิดเดียวทันใดนั้น เซียวเหอก็ปรากฏตัวอยู่ด้านหลังเซียวเหิง"เจ้ามาทำอันใด?" เซียวเหอถามเสียงเข้ม สุ้มเสียงเยือกเย็นดุจน้ำแข็งเขาไม่ได้หยุด ยังคงตรงไปทางเฉียวเนี่ยนต่อไป บนขาทั้งสอง มีจานไม้หนึ่งวางอยู่ ในจานไม้มีขนมอบจัดเรียงไว้ในนั้
ฟังคำตอบเฉียวเนี่ยนแล้ว เซียวเหอไม่รู้ทำไม ถึงได้โล่งใจเล็กน้อย"หากเจ้าปล่อยวางได้ ก็เป็นเรื่องที่ดี"อย่างน้อย นางก็ไม่ต้องเสียใจเพราะไอ้คนเลอะเลือนอย่างเซียวเหิงอีกเฉียวเนี่ยนหยักยิ้มขึ้น หลังจากอิ่มท้องแล้ว ก็เริ่มฝึกต่อ ทว่าจู่ๆ ก็นึกอะไรขึ้นมาได้ กล่าว “ตั้งแต่วันนี้ไป ข้าจะไม่ลองฝังเข็มแล้ว!”นางรู้สึกว่าการไปพบเซียวเหิงในตอนนี้ไม่ใช่การตัดสินใจที่ฉลาดนักเซียวเหิงจะหย่าหรือไม่ ก็ไม่เกี่ยวกับนาง นางไม่อยากให้คนอื่นคิดว่านางคือต้นเหตุของเรื่องนี้เซียวเหอพยักหน้าเล็กน้อย บ่งบอกว่าเห็นด้วยแต่ไม่คิดเลยว่า เฉียวเนี่ยนจะกล่าวขึ้นอีกครั้ง “ข้าอยากฝังเข็มบนขาของท่านพี่เซียว ไม่ทราบว่าท่านพี่เซียวจะกล้าให้ฝังหรือไม่“ความจริง เรื่องแรงปักของเข็ม ความลึกตื้น และอื่นๆ นางก็เข้าใจดีอยู่แล้วเซียวเหอไหนเลยจะฟังไม่ออก นี่นางกำลังใช้ ‘วิธียั่วยุ’ หรือ?จึงหัวเราะขึ้นมา “หากบอกว่าไม่กล้า ข้าคงขี้ขลาดชัดเจนเกินไป”เฉียวเนี่ยนยิ้มกว้างขึ้น “คงไม่ถึงขนาดนั้น แค่ขี้ขลาดไปนิดหน่อยเท่านั้นเอง”ขณะพูด นางยังยกนิ้วของตัวเองขึ้นทำท่า “นิดหน่อย” ประกอบเซียวเหอทำได้เพียงหัวเราะเบาๆ อย่างจ
วาจาที่เจือไปด้วยการตำหนิ มันเด่นชัดมากยิ่งแม่เซียวพูดว่า ‘แม้จะจริงใจ‘ ด้วยแล้วเห็นได้ชัดว่า นางก็ไม่ได้เชื่อใจหลินยวนทั้งหมดเช่นกัน...หลินยวนจะฟังไม่ออกได้อย่างไร?เพียงแต่นางก็ไม่กล้าขัดคำแม่เซียว จึงทำได้แค่ร้องไห้ไปพร้อมกับพยักหน้ารับ “เป็นข้าเองที่ไม่ควรทำตามอำเภอใจ...”ฮูหยินหลินยืนอยู่ข้างๆ มองหลินยวนที่มีท่าทางเสียใจ ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดีพวกเขาย่อมเชื่อว่าหลินยวนบริสุทธิ์อยู่แล้ว แต่ก็รู้ดีว่า เรื่องนี้มันคือความผิดของหลินยวนได้ยินเพียงแม่เซียวพูดว่า "แต่ว่า เจ้าไม่ต้องห่วง แม่จะไม่ให้เหิงเอ๋อร์หย่าเจ้าแน่นอน รอให้เขาหายโกรธก่อน แม่จะให้เขามารับเจ้า"ยังคงเหมือนวาจาเมื่อครู่ทว่า เซียวเหิงจะหายโกรธตอนไหน จะมารับนางเมื่อไหร่ กลับไม่ได้บอกหลินยวนสะอื้นไปพลาง เช็ดน้ำตาไปพลาง นัยน์ตาเต็มไปด้วยความเยือกเย็นแม่เซียวพูดปลอบใจหลินยวนอีกเล็กน้อยก่อนจะจากไปฮูหยินหลินจึงออกไปส่งแม่เซียวข้างนอกพวกท่านทั้งสองออกไปได้ไม่นาน หลินยวนก็ระเบิดอารมณ์อยู่ในห้องตัวเอง"เป็นเพราะเฉียวเนี่ยน! หากไม่ใช่นาง ท่านพี่เหิงจะเอ่ยเรื่องหย่าขึ้นมาได้ยังไง!" นางตะคอกไปด้วย ร้องไห้ไปด้วย
วันเวลา ผ่านไปวันแล้ววันเล่าพริบตาเดียวก็หนึ่งเดือนแล้วหนึ่งเดือนผ่านมานี้ เฉียวเนี่ยนไม่เคยย่างก้าวออกจากเรือนของเซียวเหอเลยแม้แต่ก้าวเดียวในทุกๆ วัน นอกจากฝึกขว้างก้อนหินแล้ว บางครั้งนางยังไปอ่านตำราพิชัยสงครามกับเซียวเหอ หรือไม่ก็เล่นหมากล้อมกับเซียวเหอ ชีวิตถือว่าผ่านไปอย่างมีความสุขและเปี่ยมไปด้วยความหมายเซียวเหิงไม่เคยมาอีกหรือพูดให้ถูกคือ นอกจากสาวใช้ที่มาทำความสะอาดทุกวันแล้ว ก็ไม่มีคนนอกเข้ามาที่นี่อีกเลยบางครั้งเฉียวเนี่ยนก็รู้สึกว่า เรือนของเซียวเหอเปรียบเสมือนดินแดนอันสันโดด ที่สามารถตัดขาดความวุ่นวายทั้งปวงจากโลกภายนอกได้อย่างสิ้นเชิงหากเป็นเช่นนี้ได้ตลอดไป คงจะดีไม่น้อย...ทว่า อย่างไรก็ไม่ใช่ดินแดนแห่งความฝันที่แท้จริง...วันนี้ แม่เซียวส่งคนมาถ่ายทอดคำพูด บอกเพียงว่าวันนี้เป็นวันเกิดของพ่อเซียว อยากให้ทุกคนในครอบครัวมารวมตัวกัน ทานข้าวด้วยกันมื้อหนึ่งนับตั้งแต่เซียวเหอได้รับบาดเจ็บ ตลอดปีมีเพียงวันเกิดพ่อเซียวและแม่เซียวสองวันเท่านั้นที่เขาจะออกไปพบปะทานข้าวร่วมกับครอบครัว ปีนี้ก็ไม่เว้นเช่นกันเพียงแต่เซียวเหอรู้สึกเป็นห่วงเฉียวเนี่ยนเล็กน้อย จึงกล่า
เซียวเหอก็ยกแก้วตาม "ลูกเองก็ขอให้ท่านพ่อมีสุขภาพแข็งแรง อายุยืนยาว"เฉียวเนี่ยนย่อมยกแก้วขึ้นตามเซียวเหอเช่นกันอารมณ์ของพ่อเซียวก็คลายลงไปไม่น้อย ดูแล้วมีความสุขอย่างมาก ทว่าสายตากลับมองไปที่เซียวเหิงลูกสามคน ยกแก้วเหล้าให้สองคน มีเพียงเซียวเหิงคนเดียวที่ไม่ยก ทำให้พ่อเซียวสีหน้าครึมลงอีกครั้งเหมือนจะสัมผัสได้ว่าบรรยากาศเริ่มตึงขึ้นอีกครา เซียวเหิงถึงได้ยกถ้วยเหล้าขึ้นตรงหน้า "ขอให้ท่านพ่ออายุยืนยาว"พ่อเซียวถึงได้ยกยิ้มขึ้นอีกครั้ง และดื่มเหล้าจนหมดถ้วยแต่เพิ่งดื่มเหล้าหมดก็พูดขึ้นมาอีกว่า "หากเจ้าไม่ทำให้ข้าโกรธ ข้าคงมีอายุยืนยาวได้จริงๆ !"บรรยากาศเย็นลงทันทีแม่เซียวตบพ่อเซียวเบาๆ ด้วยความเคืองพ่อเซียวจึงเพิ่งรู้ตัวว่าคำพูดของตนได้ทำลายบรรยากาศที่เพิ่งจะดีขึ้นไป และอดแสดงสีหน้าอึดอัดออกมาไม่ได้แต่ไม่คิดเลยว่า เซียวเหิงกลับหัวเราะเยาะเสียงเบา "หึ"ความหมายเหยียดหยามชัดเจนทำให้พ่อเซียวระงับความโกรยไม่ไหวทันที "เจ้าหมายความว่าอย่างไร!"เซียวเหิงยังคงมีสีหน้าเย็นชา สุ้มเสียงราบเรียบ "ก็แค่ตัดสินใจทำตามสิ่งที่ตัวเองต้องการ ก็กลายเป็นคนอกตัญญูแล้ว ลูกชายของตระกูลเซีย
คิ้วของเฉียวเนี่ยนขมวดเข้าหากันทันที นางไม่น่าเผลอทำตะเกียบหล่นเลยเป็นอย่างที่คิด ยังไม่ทันได้นั่งตัวตรง เรื่องก็โยนมาถึงหัวนางแล้วพ่อเซียวตบโต๊ะพร้อมลุกขึ้น “ไอ้สารเลว ตอนนี้นางเป็นพี่สะใภ้ใหญ่ของเจ้า!”ระหว่างคิ้วของเซียวเหอขมวดเข้าหากันอย่างไม่พอใจทันที ในดวงตาที่หลุบลงเล็กน้อยนั้น เคลือบไปด้วยความเย็นชาเฉียวเนี่ยนยืดนั่งตัวตรงอย่างเงียบเชียบ วางตะเกียบกลับลงบนโต๊ะ คิดแค่ว่าไม่อยากให้ตัวเองเป็นจุดสนใจคนอื่นขนาดนั้นทว่าตอนนี้ คนตระกูลเซียวมองมาที่นางกันอยู่แล้วนอกจากเซียวเหิงสองตาคู่นั้นของเขาเอาแต่จ้องพ่อเซียว ดูเย่อหยิ่ง เย็นชา มุมปากยิ่งดูไม่สบอารมณ์เท่าไรนัก “ตอนนี้พูดถึงเรื่องการหย่าของข้า มันเกี่ยวอะไรกับคนอื่น?”คำว่า “พี่สะใภ้” เขาไม่มีวันเอ่ยมันออกมาจากปากแน่นอนฉะนั้น เฉียวเนี่ยนในยามนี้ ก็เป็นแค่คนอื่นเท่านั้นทว่าในสายตาของแม่เซียว การที่เฉียวเนี่ยนทำตะเกียบหล่นเมื่อครู่ เป็นการตั้งใจทำตั้งใจดึงดูดความสนใจของเซียวเหิงอย่างไรเสียหากเซียวเหิงจะหย่าวันนี้ให้ได้ ก็ต้องเกี่ยวกับเฉียวเนี่ยนแน่นอน!แม้แต่สายตาของเซียวชิงหน่วนที่มองมาที่เฉียวเนี่ยนยังแฝงแววไม
เซียวชิงหน่วนรีบลุกขึ้นยืน ไปขวางหน้าพ่อเซียวเอาไว้ด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยความยินดี "ท่านพ่อดีใจจนเลอะเลือนแล้ว! ขาของพี่ใหญ่ดีขึ้นได้ก็เพราะพี่สะใภ้เป็นคนฝังเข็มรักษา จะไปเรียกหมอคนอื่นมาทำไมกัน?"เมื่อถูกนางเตือนสติ พ่อเซียวก็พยักหน้ารัวๆ “ใช่ๆ เป็นเนี่ยนเนี่ยนที่รักษา ต้องขอบคุณเนี่ยนเนี่ยนจริงๆ !”แม้แต่เซียวเหิงที่เดิมมีสีหน้าเคร่งขรึมก็ยังอ่อนลงไปไม่น้อยเขาไม่เคยคิดเลยว่า ขาของพี่ใหญ่จะกลับมามีความรู้สึกได้อีกครั้งสำหรับตระกูลเซียวแล้ว นี่ถือเป็นเรื่องมงคลที่ยิ่งใหญ่ที่สุด!ในเวลานี้ ทุกคนในตระกูลเซียวต่างพากันหันมามองเฉียวเนี่ยนด้วยสายตาเต็มไปด้วยความขอบคุณ ราวกับว่าที่มองเฉียวเนี่ยนด้วยสีหน้าไม่พอใจเมื่อครู่ ไม่ใช่พวกเขาอย่างไรอย่างนั้นโชคดีที่เฉียวเนี่ยนไม่ได้ใส่ใจช้าเร็วนางก็ต้องไปจากตระกูลเซียว ดังนั้นตระกูลเซียวจะมีท่าทีอย่างไรกับนาง นางก็ไม่สนใจขอเพียงแค่ขาของเซียวเหอหายเหมือนปกติได้ นางก็พอใจแล้วนางแอบคิดในใจ ต้องไปปรึกษาหมอประจำจวนเพื่อหาวิธีรักษาขั้นต่อไปแต่ไม่ทันไร แม่เซียวกลับคว้ามือนางไว้ฉับพลัน น้ำตาหลั่งไหลนองหน้า "เนี่ยนเนี่ยน แม่ แม่ไม่รู้จะพูดอะไรถ
เซียวเหิงจากไปแบบนี้ ทำให้พ่อเซียวโมโหไม่น้อยเขาทรุดตัวนั่งลงที่เดิมอย่างแรง ชี้เซียวเหิงที่หายลับไปแล้ว พลางกล่าวด้วยความโกรธจัด“ไอ้เด็กเวร! ไปแล้วก็ดี!แน่จริงไปแล้วก็อย่ากลับมาอีก!”แม่เซียวรีบเข้าไปหา ลูบแผ่นหลังพ่อเซียว ทว่าน้ำเสียงกลับตำหนิ "ดูท่านสิ เอาแต่พูดจาด้วยอารมณ์! ท่านรอเขาตั้งเดือนกว่ากว่าเขาจะกลับมา ตอนนี้เขาไปแล้ว ท่านไม่ต้องมารออีกหรอกหรือ!"พ่อเซียวโดนพูดแทงใจ โมโหจนกลอกตาไปมาเซียวเหิงไม่เคยกลับจวนมาหนึ่งเดือนแล้ว เมื่อส่งคนไปถาม เขาก็บอกว่ามีงานในกองทัพ แต่ตอนนี้ไม่มีสงครามเสียหน่อย ในกองทัพที่ไหนจะมีงานมากมายที่ทำให้เขาต้องเอาแต่อยู่ข้างนอกกัน?ไม่ง่ายนักที่ใช้งานวันเกิดพ่อเซียวหนนี้ เรียกเขากลับมาแต่ไม่คิดเลยว่า จะแยกจากไปอย่างไม่สบอารมณ์แบบนี้อีกเมื่อเห็นภาพนี้ เซียวชิงหน่วนอดพูดปลอบขึ้นมาไม่ได้ "แต่อย่างน้อย ทางด้านพี่ใหญ่ก็เป็นข่าวดีนะ! ส่วนพี่รอง...บางที เราควรให้เวลาเขามากกว่านี้อีกสักหน่อย!"ได้ยินคำพูดนี้ แม่เซียวพยักหน้ารัว พ่อเซียวมีสีหน้าขรึมลง ไม่พูดอะไรออกมาอีกสักประโยคบรรยากาศของสามคนนี้ก็ยังคงหม่นหมองลงเพราะการจากไปของเซียวเหิงส่วนเซี
พูดจบก็หันไปพูดกับพ่อเซียวว่า "ขอพี่เซียวยืมด้วยขอรับ"ตระกูลเซียวเป็นท่านแม่ทัพมาหลายชั่วอายุคน สิ่งที่ขาดไม่ได้ที่สุดในจวนก็คือแส้หนังพ่อเซียวพยักหน้าเล็กน้อยและคํารามเสียงต่ำ ไม่นานก็มีคนส่งแส้หนังมาท่านโหวหลินกํามือไว้ แล้วตะโกนว่า "หลินยวน คุกเข่าให้ดี"หลินยวนเองก็รู้ว่าวันนี้ตนคงหนีไม่พ้นการเฆี่ยนตี แต่นี่ก็เป็นสิ่งที่ท่านโหวหลินและฮูหยินหลินหามาให้ตน อย่างไรก็ดีกว่าตาย!ตอนนี้จึงได้แต่ร้องไห้สะอึกสะอื้น ปล่อยหลินเย่ว์แล้วค่อยๆ คุกเข่าตัวตรงหลินเย่ว์สูดหายใจเข้าลึกๆ ถอยไปด้านข้างและเอามือที่บาดเจ็บไว้ด้านหลังท่านโหวหลินก้าวไปข้างหน้า ยกแส้ม้าในมือขึ้น แล้วฟาดไปที่หลังของหลินยวนอย่างแรง"เพียะ!"แส้ที่ทําจากหนังวัวนั้นเหนียวเป็นพิเศษและเสียงดังมากเมื่อตีลงบนร่างกายเพียงครู่เดียว บนหลังของหลินยวนก็มีรอยเลือดสายหนึ่งตกลงมาแล้ว"เจ้าใจดําอํามหิต ทําร้ายคนอื่นทําร้ายตัวเอง วันนี้ข้าจะให้คําอธิบายแก่ทุกคน"ท่านโหวหลินดื่มเสร็จก็ฟาดแส้ใส่หลินยวนอีกครั้งท่านโหวหลินก็เป็นนายทหารเช่นกัน แรงเฆี่ยนตีไม่เบาแน่นอน เสียงเฆี่ยนตีดังก้องไปทั่วคฤหาสน์ตระกูลเซียว แผ่นหลังของหล
เมื่อคําพูดนี้ออกมา ทุกคนต่างก็รู้สึกประหลาดใจแม้แต่ท่านโหวหลินกับฮูหยินหลินก็คิดไม่ถึงว่าเฉียวเนี่ยนจะตอบตกลงอย่างง่ายดายเช่นนี้เซียวเหอรู้สึกปวดใจ อดไม่ได้ที่จะหันไปมองนาง น้ำเสียงเย็นชาแฝงไปด้วยความอ่อนโยน กระซิบว่า "เจ้าไม่จําเป็นต้องประนีประนอม"แน่นอนว่าเขาสามารถออกหน้าแทนนางได้ ทําให้หลินยวนและจวนโหวต้องก้มหัวให้นางเฉียวเนี่ยนเนี่ยนรู้ว่าเซียวเหอทําเพื่อตัวเองคําว่า 'ไม่จําเป็นต้องประนีประนอม' นั้นเข้าสู่หัวใจของเฉียวเนี่ยนเนี่ยนอย่างแท้จริงแต่นางไม่อยากข้องเกี่ยวกับคนของจวนโหวอีกแล้วจริงๆไม่ว่าจะดีหรือร้ายก็ไม่อยากแล้วทั้งนั้นนางแค่อยากอยู่ให้ห่างจากพวกเขาให้ไกลที่สุด ชาตินี้ไม่ได้พบกันอีกจะดีที่สุดดังนั้นนางจึงส่ายหัวเล็กน้อยและหันไปมองเซียวเหอเล็กน้อยพลางกระซิบว่า "แบบนี้ก็ดีแล้ว"เสียงกระซิบของทั้งสองคนดังเข้าหูเซียวเหิง รู้สึกแสบแก้วหูเหลือเกินพวกเขาเอียงตัวเข้าหากัน หัวเหมือนจะชนกัน สนิทสนมกันเป็นพิเศษข้อมือของเฉียวเนี่ยนยังคงถูกเซียวเหอกุมไว้ในฝ่ามือเช่นเดิม แต่เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่ได้ตระหนักถึงข้อนี้เหมือนว่าการสัมผัสผิวกายของทั้งสองคนเป็นเรื่องป
ท่านโหวหลินก็ปาดน้ำตาเช่นกัน "พ่อรู้ เจ้าเองก็ไม่อยากเห็นหน้าพวกเรา ขอเพียงเจ้ายอมไว้ชีวิตยวนเอ๋อร์ ครอบครัวของพวกเราจะไม่มีวันปรากฏตัวต่อหน้าเจ้าอีก!""เนี่ยนเนี่ยน ยวนเอ๋อร์เพิ่งอยู่กับแม่ได้เพียงสามปีเท่านั้น เดิมทีนางควรจะอยู่เคียงข้างแม่เสมอและได้รับการปกป้องจากแม่ ตอนนี้ เจ้า เจ้าคิดเสียว่าช่วยแม่ชําระหนี้ก้อนนี้ได้หรือไม่? เจ้าไว้ชีวิตนางได้ไหม? แม่โขกหัวให้เจ้าแล้ว"พูดจบ ฮูหยินหลินก็โขกหัวต่อหน้าทุกคนจริงๆแม่เซียวตกใจ รีบปรี่เข้าไปประคองฮูหยินหลินทันที "นี่ท่าน ท่านทําอะไรอยู่เนี่ย""นางจะบังคับให้เนี่ยนเนี่ยนตาย" น้ำเสียงเย็นชาของเซียวเหอดังขึ้น ดวงตาเรียวยาวเต็มไปด้วยความเย็นชา "ท่านทั้งสองยังไงก็เลี้ยงดูเนี่ยนเนี่ยนมาสิบห้าปีแล้ว แม้ว่าจะตัดสายสัมพันธ์กัน แม้ว่าเนี่ยนจะทนทุกข์ทรมานมาสามปี แต่ในสายตาของคนนอก พวกท่านก็ยังคงเลี้ยงดูเนี่ยนเนี่ยนมาสิบห้าปี ตอนนี้พวกท่านใช้บุญคุณมาบังคับตอบแทน แม้กระทั่งคุกเข่าโขกหัวก็ยอม ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าการยัดข้อหาเนรคุณใส่เนี่ยนเนี่ยน บังคับให้นางพูดคําว่าให้อภัยออกมา แต่ทั้งสองท่านอย่าลืมว่าคนที่เกือบถูกข่มเหงคือนาง คนที่เกือบตายก็คือ
หลินเย่ว์ไม่ขยับ มือทั้งสองของเขาห้อยลง ปล่อยให้หลินยวนกอดอยู่แบบนี้ที่ด้านข้าง ท่านโหวหลินและฮูหยินหลินเห็นเช่นนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะปาดน้ำตาเฉียวเนี่ยนยืนอยู่ข้างหลังเซียวเหอ มองฉากที่พี่ใหญ่น้องกอดกันด้วยสายตาเย็นชา ถ้าบอกว่าในใจไม่รู้สึกอะไรเลย นั่นต้องเป็นเรื่องโกหกแน่ๆนางรู้ว่าหลินยวนเป็นตัวปลอมก็รู้ว่านั่นควรจะเป็นพี่ใหญ่ของนางยิ่งรู้ว่าความรักและความโปรดปรานของคนในตระกูลหลินที่มีต่อหลินยวนนั้น เดิมทีควรเป็นของนางดังนั้นในตอนนี้ เมื่อเห็นหลินยวนแย่งทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยเป็นของนางก่อนหน้านี้อย่างโจ่งแจ้ง หัวใจของนางก็จมดิ่งลงไปในเหวลึกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้คิ้วและดวงตาคู่นั้นยิ่งเย็นจนน่ากลัวโชคดีที่นางไม่สนใจแล้วตอนนี้สิ่งเหล่านั้นที่สามารถถูกแย่งไปได้ง่ายๆ นั้นถูกลิขิตไว้แล้วว่าจะไม่ใช่ของล้ำค่าอะไร นางย่อมไม่เสียดายอยู่แล้วแต่ในขณะนั้นเอง ฮูหยินหลินก็หันมองทุกคนและคุกเข่าลงอย่างช้าๆเมื่อเห็นเช่นนี้ ทุกคนต่างก็ตกใจแม่เซียวรีบเข้าไปประคอง แต่กลับถูกเซียวชิงหน่วนดึงกลับมาได้ยินเพียงฮูหยินหลินพูดว่า "ยวนเอ๋อร์ทําผิดพลาดครั้งใหญ่ในวันนี้ ทั้งหมดเป็นความผิดของ
กําปั้นคู่หนึ่งถูกกําแน่นจนเกิดเสียงกรอบแกร้บโดยไม่รู้ตัวแต่ในขณะนี้ไม่มีใครสนใจเขาเลยราชครูชิวก็น้ำตาไหลพรากตามไปด้วย "คิดไม่ถึงว่าวันนี้ข้าจะได้เห็นเรื่องมงคลเช่นนี้ ดี ดีมาก! เยี่ยมไปเลย!"เซียวเหอมีบุญคุณต่อเขา ในใจเขารู้สึกซาบซึ้งใจ ย่อมคาดหวังให้เซียวเหอดีขึ้นมาตอนนี้เห็นเซียวเหอลุกขึ้นยืนด้วยตาตัวเอง จะไม่ตื่นเต้นได้อย่างไร?แม้แต่ท่านโหวหลินและฮูหยินหลิน ในขณะนี้ต่างก็ตกตะลึงไปด้วย?พวกเขาไม่สามารถคิดได้เลยว่าคนที่ถูกตัดสิน‘โทษตาย’โดยทั้งโรงหมอหลวงจะยืนขึ้นได้อย่างไรกัน!และในตอนนั้นเอง เสียงหัวเราะเบาๆ ก็ดังขึ้นอย่างกะทันหัน"ฮ่าๆๆ ฮ่าๆๆ..."คาดไม่ถึงว่าจะเป็นหลินยวนนางเพิ่งโดนฝ่ามือไป ตอนนี้ยังลุกไม่ขึ้นเลยเมื่อเห็นเซียวเหอลุกขึ้นยืน นางก็ตระหนักว่านางแพ้แล้วเฉียวเนี่ยน รักษาเซียวเหอให้หายได้จริงๆ ด้วยและนาง ก็ถูกทุกคนรังเกียจแล้วจริงๆน่าขำไหม?นางพยายามมาตั้งนาน แต่สุดท้ายก็ยังสู้เฉียวเนี่ยนไม่ได้มีดสั้นที่หล่นอยู่ข้างๆหลินยวนเอื้อมมือไปหยิบมาเมื่อเห็นเช่นนี้ แม้แต่ท่านโหวหลินและฮูหยินหลินก็อดไม่ได้ที่จะถอยหลังไปหนึ่งก้าว และตะโกนด้วยเสียงต่ำว่า
ไม่มีใครคาดคิดว่าหลินยวนจะโจมตีอย่างกะทันหันแต่หลินยวนไม่เคยฝึกวรยุทธ์มาก่อน ด้วยฝีมือของนาง จึงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเฉียวเนี่ยนเลยเฉียวเนี่ยนขมวดคิ้วเล็กน้อย ถอยหลังไปสองก้าวโดยไม่รู้ตัว เตรียมพร้อมที่จะเตะแล้วแต่ไม่คิดเลยว่า จู่ๆ ก็มีพลังมหาศาลดึงนางกลับไปข้างหลังเซียวเหอก้าวไปข้างหน้าและตบฝ่ามือไปที่ไหล่ของหลินยวน หลินยวนถูกซัดกระเด็นออกไปและตกลงบนพื้นทันทีได้ยินเพียงเสียง ‘เคร้ง’ มีดสั้นเล่มหนึ่งตกลงบนพื้นเฉียวเนี่ยนตกใจทันทีนางไม่เคยสังเกตเลยว่าตอนที่หลินยวนกระโจนเข้าหานาง ในมือยังซ่อนมีดสั้นเล็กๆ แบบนี้เอาไว้ด้วย!แต่ไม่นานนางก็ได้สติกลับมา และจ้องมองเซียวเหออย่างงุนงงทุกคนในห้องโถงก็ตกใจเช่นกัน!หนึ่งคือหลินยวนกล้าฆ่าเฉียวเนี่ยนต่อหน้าสายตาของทุกคนสองคือตกใจ... เซียวเหอลุกขึ้นยืนแล้วจริงๆ!เฉียวเนี่ยนมองผู้ชายที่ตอนนี้ปกป้องอยู่ตรงหน้าตนแล้ว แววตาเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อเดิมทีนางคิดว่านางจะต้องพยายามอีกสักพักเพื่อให้เซียวเหอค่อยๆ ลุกขึ้นยืนได้ แต่ไม่คิดว่าเพียงชั่วพริบตาเดียว เขาก็มาถึงตรงหน้านางแล้วเซียวเหิงก็เบิกตาโพลงเช่นกัน สายตาที่มองเซียวเหอเต็มไปด้
ส่วนเฉียวเนี่ยน เซียวเหอ หลินเย่ว์ เซียวเหิง...พวกเขาร่วมมือกันผลักดันตัวเองไปสู่เหวลึก!ทันใดนั้นหลินยวนก็ตระหนักได้ว่าสิ่งที่นางกลัวมาตลอดได้กลายเป็นความจริงแล้ว...นางกลัวว่าจวนโหวจะไม่ต้องการนาง และจะทอดทิ้งนางแต่ตอนนี้ดูเหมือนว่านางจะถูกทุกคนรังเกียจแล้วจริงๆ...เมื่อเห็นหลินยวนไม่พูด เฉียวเนี่ยนก็อดไม่ได้ที่จะลุกขึ้นและเดินไปหานาง "ถ้าเจ้าไม่พูด ข้าจะพูดแทนเจ้าเอง เจ้ากับชิวอวี่สมคบคิดกันมานานแล้ว คิดจะร่วมมือกันทําร้ายข้า พอดีสามวันก่อนวัดฝ่าหัวมีพระชั้นสูงมาเทศนา พวกเจ้ารู้สึกว่านั่นเป็นโอกาสอันยอดเยี่ยม จึงซื้อตัวนักลอบสังหารในยุทธภพ จับตัวสตรีตระกูลเซียวไปเป็นเชลย""แน่นอน เป้าหมายของพวกเจ้าคือข้าเท่านั้น ลักพาตัวสตรีตระกูลเซียวทั้งหมด เป็นเพียงระเบิดควันที่เจ้าสร้างขึ้นเองเท่านั้น จุดประสงค์คือต้องการใช้ฐานะของเหยื่อเป็นเกราะกําบังให้ตัวเอง""ชิวอวี่แต่ไหนแต่ไรก็เป็นคนเจ้าชู้อยู่แล้ว ดังนั้นคนของเขาจึงส่งหน่วนหน่วนมาด้วย คิดว่าชิวอวี่จะชอบ แต่ใครจะรู้ว่าชิวอวี่ไม่กล้าขัดใจตระกูลเซียว จึงสั่งให้คนส่งหน่วนหน่วนออกไปใหม่ ส่วนข้าก็ฉวยโอกาสตอนที่ชิวอวี่หละหลามการป้องกันต
ในเรื่องนี้ เฉียวเนี่ยนยอมรับแต่ยังไม่ทันที่เฉียวเนี่ยนจะเอ่ยปาก เซียวเหอก็รับไปเสียก่อน "เมื่อคืนก่อน ข้าให้จี้เยว่ไปขู่เสี่ยวหวนให้กลัวเอง แต่ข้าก็ทำไปเพื่อให้เสี่ยวหวนพูดความจริงเท่านั้น หากมีสิ่งใดล่วงเกินน้องสะใภ้แล้วล่ะก็ ได้โปรดให้อภัยด้วย"คําพูดนี้พูดอย่างเกรงใจก็จริง แต่น้ำเสียงกลับไม่มีความรู้สึกขอโทษเลยแม้แต่น้อยแม้กระทั่งดวงตาคู่นั้นที่มองหลินยวนก็ยังเต็มไปด้วยความเย็นชาหลินยวนเหมือนจับจุดอ่อนอะไรไว้ได้ รีบพูดกับฮูหยินหลินว่า "ท่านแม่ ท่านได้ยินหรือไม่ เขาใส่ร้ายข้าจริงๆ! เป็นพวกเขาที่ใส่ร้ายข้า!"แต่หลังจากได้ยินคําพูดของเสี่ยวหวน แม้แต่สายตาของฮูหยินหลินที่มองมายังนาง ก็กลายเป็นความไม่คุ้นเคยและในเวลานี้เอง เสียงทุ้มต่ําก็ดังมาจากนอกห้องโถง "ข้าจะดูว่าใครใส่ร้ายเจ้า!"น้ำเสียงเย็นชา นํามาซึ่งกลิ่นอายอันทรงพลังที่บดขยี้ผู้คนได้ทั้งหมดก็เห็นเซียวเหิงเดินมาจากนอกห้องโถงอย่างรวดเร็ว ทั้งตัวล้วนถูกย้อมไปด้วยความหนาวเหน็บหลินยวนแยกไม่ออกแล้ว นางได้ยินคําพูดของเซียวเหิง ยังคิดว่าเซียวเหิงมาเพื่อสนับสนุนตัวเอเสียอีกจึงรีบลุกขึ้นพุ่งไปหาเซียวเหิง "ท่านพี่เหิง ข้า
"เจ้าพูดเหลวไหล!" หลินยวนรีบปฏิเสธ "ข้า ข้าไม่เคยพบชิวอวี่มาก่อน!"เพียงแต่ความตื่นตระหนกในดวงตานั้นถูกทุกคนมองเห็นหมดแล้วและก่อนที่เสียงปฏิเสธของนางจะสิ้นสุดลง เซียวเหอก็พูดด้วยน้ําเสียงเย็นชาว่า "เรื่องนี้ ผู้ดุแลร้านกับเสี่ยวเอ้อของโรงเตี๊ยมสามารถเป็นพยานได้ คนอยู่นอกห้องโถงแล้ว สามารถเข้ามาได้ตลอดเวลา"ได้ยินดังนั้น หลินยวนก็เบิกตากว้างทันที น้ําตายิ่งไหลก็ยิ่งเชี่ยวกรากแต่ไม่คิดเลยว่าแม้แต่ฮูหยินหลินก็ยังมองเธออย่างสงสัย "ยวนเอ๋อร์ ตกลงมีเรื่องนี้เกิดขึ้นหรือไม่?"พยานอยู่ข้างนอก หลินยวนไม่สามารถปฏิเสธได้ตอนนี้นางทําได้แค่ร้องไห้และพูดว่า "ท่านแม่ ข้า ข้าถูกชิวอวี่ข่มขู่ ข้าเคยเจอเขาจริงๆ แต่ข้าไม่ได้รับปากอะไรเขาเลยนะเจ้าคะ!"เพียงแต่คําพูดนี้ออกจากปาก ก็ไม่มีใครเชื่อเลยแม้แต่เซียวชิงหน่วนที่ยืนอยู่ข้างหลินยวนมาตลอดก่อนหน้านี้ ก็ยังอดขมวดคิ้วไม่ได้ พูดเสียงเข้มว่า "เคยรับปากอะไรไว้หรือไม่ ถามเสี่ยวหวนน่าจะรู้ดีที่สุดแล้ว""งั้นก็ให้เสี่ยวหวนเข้ามา" เซียวเหอรีบพูดทันที ไม่ให้หลินยวนได้มีเวลาคิดอะไรเลยในที่สุดหลินยวนก็พบว่าในห้องโถงวันนี้ไม่มีคนรับใช้แม้แต่สักคนเลย