ยามหนิงซวงมาหาหลินยวน หลินยวนอยู่ในสวนดอกไม้ของจวนดอกไม้เรือนลั่วเหมยร่วงโรยแล้ว นางมาดูว่ามีไม้ดอกใดมาปลูกในเรือนลั่วเหมยบ้าง เพื่อให้เรือนของตนไม่ดูโหวงเหวงแต่คิดไม่ถึงเลยว่า นางจะเห็นหนิงซวงเดินระรื่นมาแต่ไกลแถมในมือของหนิงซวงยังมีแกว่งห่อผ้าไปมาอีกนางจำได้ในทันทีว่านั่นคือห่อผ้าที่นางมอบให้เสี่ยวชุ่ยเองกับมือใบหน้านั้นจึงพลันซีดเผือดนางมองหนิงซวงเดินเข้ามาหาตนอย่างยิ้มแย้ม อีกฝ่ายคำนับก่อนจะยื่นห่อผ้าให้ "คุณหนูรอง คุณหนูข้าบอกว่าท่านทำของตก จึงสั่งข้าให้นำมามอบให้ท่านโดยเฉพาะ ท่านลองเปิดดูว่ามีอะไรขาดหายหรือไม่?"หนิงซวงยิ้มใสซื่อ แต่หลินยวนกลับขนลุกชูชันไปทั่งตัวนางมองห่อผ้านั้น ไม่กล้าแม้แต่จะยื่นมือออกไปรับ เพียงแค่เอ่ยถามเสียงสั่นเครือ "เอา...เอามาจากไหนรึ?"หนิงซวงขำขัน "ก็คุณหนูรองทำตกเอาไว้ เอามาจากไหน คุณหนูรองไม่รู้หรือเจ้าคะ?"ทันใดนั้นหลินยวนก็ลนลานพลั้งปากออกมาโดยไม่ทันคิด "ท่านพี่ไปหาเสี่ยวชุ่ยรึ?"หนิงซวงเบ้ปาก เอ่ยอย่างหมดความอดทน "คุณหนูรอง คุณหนูข้าถูกกักบริเวณอยู่ในเรือนฟางเหอ ไม่เคยก้าวขาออกจากเรือนแม้แต่ก้าวเดียว ท่านอย่ากล่าวหาผู้อื่นเช่นนี
เมื่อได้ยินดังนั้น หลินยวนก็ชะงักไป นางคิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องนี้จะเกี่ยวโยงไปถึงหน้าตาของจวนโหวทว่าหนิงซวงกลับพูดต่อ "คุณหนูข้ายังบอกอีกว่า วันหน้าคุณหนูรองจะเป็นนายหญิงแห่งตระกูลแล้ว ย่อมต้องรู้ว่าเรื่องใดควรทำ เรื่องใดไม่ควรทำ ในห่อผ้านี้มีเครื่องประดับเพชรนิลจินดา คนอื่นมองปราดเดียวก็รู้ว่านี่คือสมบัติของคุณหนูรอง เรื่องนี้หากไปถึงหูตระกูลเซียวเข้า พวกเขาจะมองคุณหนูรองอย่างไร? ขอโปรดคุณหนูรองเข้าใจความหวังดีของคุณหนูข้าด้วย"หนิงซวงเอ่ยพลางค้อมหัวคำนับ ไม่รอให้หลินยวนได้เอ่ยปากก็หันหลังเดินจากไปแล้วเหลือเพียงหลินยวนที่ตกตะลึงงันอยู่ที่เดิมเมื่อกลับมาถึงงเรือนฟางเหอ หนิงซวงก็ไปหาเฉียวเนี่ยนในทันที สีหน้าตื่นเต้นดีใจอย่างควบคุมไม่อยู่ "คุณหนูเจ้าคะๆ ที่ท่านให้ข้าพูด ข้าพูดไปหมดแล้วเจ้าค่ะ! ท่านไม่เห็นสีหน้าของคุณหนูรอง น่าขันยิ่งนัก!"เมื่อได้ยินดังนั้นมุมปากของเฉียวเนี่ยนก็ยกยิ้มอย่างห้ามไม่อยู่ แต่ก็ยังเอ่ยถาม "หวังอู่เล่า? ไปหาเสี่ยวชุ่ยแล้วหรือ?"หนิงซวงพยักหน้า "ยามนี้คงได้พบเสี่ยวชุ่ยแล้วกระมัง ว่าแต่คุณหนูเจ้าคะ ท่านว่าเสี่ยวชุ่ยจะเชื่อหรือไม่ว่าคุณหนูรองไปคนเอาห่อผ้านั
หลินยวนตกใจจนสะดุ้งตัวโยนโชคดีที่นี่คือประตูหลังจึงมีคนเห็นไม่มากนักนางตั้งสติได้ในทันใด ลากแขนเสี่ยวชุ่ยเข้าไปในตรอกที่อยู่ถัดไป กดเสียงต่ำ ตำหนินางอย่างอดไม่ได้ "ข้าบอกเจ้าแล้วมิใช่หรือ ว่าอย่ามาหาข้าที่นี่?""ข้ามาไม่ได้หรือไร?" เสี่ยวชุ่ยสะอื้นตัดพ้อ "เจ้าไม่เต็มใจช่วยข้า เหตุใดต้องเสแสร้งแกล้งทำ? ให้ความหวังข้า แล้วก็ทำให้ข้าผิดหวัง สนุกนักหรือไร?"หลินยวนตื่นตกใจ รีบคว้ามือของเสี่ยวชุ่ยเอาไว้ สีหน้าเหลือเชื่อ "เสี่ยวชุ่ย เหตุใดเจ้าถึงคิดว่าข้าเป็นคนเช่นนั้น?"ขณะพูดอยู่นั้นน้ำตาก็เอ่อล้นในดวงตาแต่ใครจะคิดว่าเสี่ยวชุ่ยจะสบัดมือหลินยวนออก "ข้าไม่ใช่พวกโง่ตระกูลหลิน เจ้าอย่าใช้ไม้นี่กับข้าเลย เจ้าบอกมาว่าเจ้าเอาห่อผ้าที่ให้ข้าคืนกลับไปแล้วใช่หรือไม่?""ข้าไม่ได้เอากับคืนมา!" หลินยวนรีบอธิบาย "ท่านพี่ส่งคนไปจับตาดูเจ้า ข้าเพิ่งส่งห่อผ้าให้เจ้า ไม่ทันไรนางก็สั่งให้คนเอามันกลับมาให้ข้าแล้ว!"เมื่อได้ยินดังนั้นเสี่ยวชุ่ยเองก็ตกใจอย่างอดไม่ได้นางคิดไม่ถึงเลยว่าเฉียวเนี่ยนจะส่งคนไปจับตาดูนาง!ในตอนนั้นนางแทบเสียสติ "ข้าออกมาจากจวนโหวแล้ว นางคิดจะทำอะไรอีก? จะบีบให้ข้าตายเลยห
เสียงที่ดังขึ้นกะทันหันนั้นทำเอาจิ่งเหยียนตื่นตกใจ เมื่อเห็นว่าเป็นหลินยวน ก็รีบคำนับในทันใด "คำนับคุณหนูหลิน"หลินยวนเดินเข้ามาหาจิ่งเหยียน ชำเลืองมองถังตักน้ำก่อนจะเอ่ยถาม "เหตุใดท่านพี่จิ่งถึงมาอยู่ที่นี่?""ผะ...ผ่านมาน่ะขอรับ..."จิ่งเหยียนลนลานอย่างเห็นได้ชัดหลินยวนเม้มปากยิ้ม "แต่นี่มันประตูหลัง จะผ่านมาทางนี้ได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย! ท่านพี่จิ่งมาหาพี่สาวใช่ไหมเจ้าคะ?"เมื่อได้ยินดังนั้น จิ่งเหยียนมองหลินยวนอย่างตื่นตระหนกแถมหลินยวนยังเอ่นต่ออีกว่า "พี่ใหญ่บอกเรื่องท่านพี่จิ่งกับข้าแล้ว!"ที่แท้เป็นเช่นนี้นี่เองจิ่งเหยียนครุ่นคิด หลินเย่ว์และหลินยวนสนิทสนมกันปานนั้น จะเล่าเรื่องที่เขาชอบพอเฉียวเนี่ยนให้หลินยวนฟัง ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกยามนี้ใบหน้าของเขาแดงก่ำ เขาเอ่ยอ้ำอึ้ง "ข้า...ข้ายังมีธุระต่อ ขอตัวก่อนขอรับ"ว่าจบก็เดินออกไป แต่หลินยวนเอ่ยรั้งเขาไว้ "ท่านพี่จิ่งจะยอมแพ้เช่นนี้หรือเจ้าคะ?"ได้ยินดังนั้นจิ่งเหยียนก็ชะงักฝีเท้าลงโดยไม่รู้ตัวจากนั้นก็ได้ยินเสียงหลินยวน "ข้าได้ยินมาว่า สองสามวันนี้พี่ใหญ่ให้คนเอาไส้ใหญ่หมูไปส่งที่เรือนพี่สาวตลอด แต่พี่สาวกลับไม่กินแม้
หลายวันต่อมาเฉียวเนี่ยนเพิ่งกินข้าวเย็นเสร็จ ก็เห็นหนิงซวงหิ้วกล่องอาหารเดินเข้ามา "คุณหนูดูนี่สิเจ้าคะ!"เฉียวเนี่ยนยิ้มบางอย่างจนใจ "นี่เจ้าคิดจะให้ข้าจุกตายหรือย่างไร? ไปเอาของอร่อยมาจากไหนอีก?""เจอที่มุมรั้วในเรือนน่ะเจ้าค่ะ!" หนิงซวงยิ้มอย่างมีเลสนัย "คุณหนูไม่รู้สึกว่ากล่องอาหารนี้คุ้นตายิ่งนักหรือเจ้าคะ?"ได้ยินดังนั้นเฉียวเนี่ยนก็จ้องมองกล่องอาหารนั้นอีกครั้งอย่างอดไม่ได้คุ้นตาอย่างที่ว่าจริงๆ ในห้องนางก็มีกล่องหน้าตาเช่นนี้เหมือนกันเป็นกล่องที่จิ่งเหยียนเอามาให้กลางดึก จนป่านนี้แล้วก็ยังไม่ได้เอากลับไปเช่นนั้นแล้วกล่องตรงหน้านี้...ไม่รอให้เฉียวเนี่ยนเอ่ยถาม หนิงซวงก็วางกล่องอาหารลงบนโต๊ะ จากนั้นจึงเปิดออกแล้วยกจานไส้ใหญ่หมูออกมาน่าตาน่าอร่อย กลิ่นหอมเตะจมูกสองคนที่ดมกลิ่นคาวจนชินชามาหลายวันก็กลืนน้ำลานอึกใหญ่อย่างอดไม่ได้หนิงซวงสูดน้ำลายเสียงดังอย่างไม่เขินอาย หยิบตะเกียบขึ้นมา ก่อนจะขมวดคิ้วมองเฉียวเนี่ยน "คุณหนูจะชิมไหมเจ้าคะ?"เฉียวเนี่ยนอดรนทนไม่ไหวตั้งนานแล้ว นางรับตะเกียบมาแล้วกินอย่างเอร็ดอร่อยหนิงซวงก็เคี้ยวตุ้ยๆ เต็มปากน้อยของตัวเอง แต่ก็ยังอดพู
"ไม่จำเป็นต้องอธิบายกับเขา" เฉียวเนี่ยนเอ่ยเสียงนิ่งตัดบทหนิงซวงนางหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมา เช็ดมุมปากของตัวเองเบาๆ ก่อนจะเอ่ย "ครั้นตั้งใจจะกล่าวโทษ เหตุใดต้องหาเหตุผล ท่านโหวน้อยจะตราหน้าข้าว่าอย่างไร ก็สุดแล้วแต่ท่าน"หลังจากทะเลาะกันคราวก่อน นางก็เข้าใจแล้วในใจของหลินเย่ว์ นางนั้นสกปรกสมโมมเพียงใด นางเกิดมาชั่วช้า เพราะอย่างนั้นต่อให้นางจะพูดอะไร เขาก็ไม่ฟังทั้งนั้นเช่นนั้นแล้วจะอธิบายให้เปลืองแรงไปเพื่อเหตุใด?เมื่อเห็นท่าที 'ต่อให้ผิดแล้วอย่างไรเล่า' ของเฉียวเนี่ยน หลินเย่ว์ก็ยิ่งโมโห "ข้าตราหน้าเจ้าอย่างนั้นหรือ? หรือว่าไส้ใหญ่หมูมันลอยเข้ามาเอง? ข้าล่ะสงสัยนัก เจ้าของสิ่งนี้มันดีอย่างไร? สู้ขนมของหลี่จี้ได้หรือ? เจ้ารู้หรือไม่ว่าขนมนั่นต้องต่อแถวข้ามคืนถึงจะซื้อได้!"ที่หลินเย่ว์เอ่ยถึง คือขนมที่เซียวเหิงวางไว้บนรถม้า ทว่านางไม่ยอมแตะต้อง ต่อมาเซียวเหิงลงมือทำให้นางเองกับมือ นางก็สั่งให้คนเอากล่องนั้นไปให้หลินยวนอีกเฉียวเนี่ยนหัวเราะ "ต่อให้ต้องต่อแถวเป็นปีแล้วอย่างไรเล่า? ข้าไม่ชอบกินก็คือไม่ชอบกิน"ก็เหมือนที่เซียวเหิงคิดกับนางเมื่อก่อน ไม่ชอบก็คือไม่ชอบ ต่อให้นางเอา
เหม่อมองแผ่นหลังของหลินเย่ว์ หัวใจของเฉียวเนี่ยนก็ร่วงหล่นจ่มดิ่งลงเหวลึกนางมองไส้ใหญ่หมูที่ยังกินไม่หมดบนโต๊ะ สุดท้ายก็สูดหายใจลึก เอ่ยเสียงหนักแน่น "หนิงซวง เอาของพวกนี้ไปคืนรองแม่ทัพจิ่งบัดเดี่ยวนี้""เจ้าบอกเขาว่า เขาทำรสไม่ถูกปากข้า ก่อนหน้านี้เห็นว่าเขามีบุญคุณต่อข้าถึงได้พูดเช่นนั้น ขอเขาอย่าได้เข้าใจผิด"พูดถึงเพียงเท่านั้น ริมฝีปากของเฉียวเนี่ยนก็สั่นเครืออย่างห้ามไม่อยู่ คำบางคำไม่อาจพูดออกไป แต่ก็ต้องพูด"แล้วก็บอกเขาว่า แม้ข้าจะเป็นเพียงลูกเลี้ยงของจวนโหว แต่ก็ไม่ใช่ฐานะที่คนเช่นเขาจะไขว่คว้าได้ ขอเขาอย่าได้ทำเรื่องเสื่อมเสียชื่อเสียงแก่ข้าเช่นนี้อีก ไม่เช่นนั้น..."พูดถึงเพียงเท่านั้น แต่สุดท้ายก็ไม่พูดออกสำหรับคนที่ทุ่มเทความจริงใจให้แก่นางคนหนึ่ง คำพูดเหล่านั้นของนาง ไม่ต่างอะไรกับมีดคม แทงลึกกลางดวงใจอีกฝ่ายครั้งแล้วครั้งเล่าแต่นางหมดหนทางแล้วนางเคยเห็นหลินเย่ว์เอาจริงมาแล้วแม้แต่น้องสาวสุดที่รัก เขายังทำเรื่องเช่นนั้นได้ลงคอ นางนึกภาพไม่ออกเลยว่า เขาจะลงมือเช่นไรกับจิ่งเหยียน!เขายังมีอนาคตอีกยาวไกลจะมาถูกทำลายเพราะนางไม่ได้!เพราะอย่างนั้น ต่อให้ต้อง
"แน่นอนว่าเพราะเขาฐานะต่ำต้อย!" หลินเย่ว์ขมวดคิ้วแน่น "สำหรับคนทั่วไป คุณสมบัติอย่างจิ่งเหยียนนับว่าไม่เลว แต่สำหรับเนี่ยนเนี่ยนคุณหนูใหญ่แห่งจวนโหวแล้ว จะแต่งงานกับรองแม่ทัพได้อย่างไร!"เนี่ยนเนี่ยน คือคุณหนูใหญ่แห่งจวนโหวไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด พอได้ยินคำนั้นแล้ว ใจของหลินยวนกลับรู้สึกอิจฉาริษยาขึ้นมาทว่าไม่นานนางก็กักเก็บความรู้สึกนั้นเอาไว้ ส่งยิ้มหวานให้กับหลินเย่ว์ "พี่ใหญ่คือพี่ชายที่ดีที่สุดในโลก ไม่ว่าเรื่องใดก็เป็นห่วงเป็นใยพี่สาวไปเสียหมด!"คำพูดนั้นของนาง เหมือนสองมืออันอบอุ่น โบกพัดไฟโกรธในใจหลินเย่ว์ให้อ่อนแรงลงหลินเย่ว์มองนาง ลูบศีรษะของนางเบาๆ อย่างอดไม่ได้ "หากเนี่ยนเนี่ยนเข้าใจความยากลำบากของข้าได้เหมือนเจ้าก็คงดี""พี่สาวย่อมเข้าใจแน่นอนเจ้าค่ะ" หลินยวนยังคงยิ้มหวาน "ต่อให้ตอนนี้พี่สาวจะยังไม่เข้าใจ แต่วันหน้านางจะเข้าใจเอง!"หลินเย่ว์เค้นรอยยิ้มออกมา "ข้าก็หวังจะเป็นเช่นนั้น!"หลินยวนซบลงกับบ่าของหลินเย่ว์ "แต่ว่าพี่ใหญ่เจ้าคะ หากท่านกีดกันพี่สาวกับรองแม่ทัพจิ่ง พี่สาวต้องเกลียดท่านเป็นแน่"เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของหลินเย่ว์ก็พลันแข็งค้าง "ก็ไม่ถึงกับกีด
"ยวนเอ๋อร์ พี่รู้ว่าเจ้าเป็นคนจิตใจงดงาม และเชื่อด้วยว่าครั้งนี้เจ้ามีเจตนาดีจริงๆ แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจ้าทําเรื่องนี้ ก่อนหน้านี้เจ้าเคยทําครั้งหนึ่ง และถูกเนี่ยนเนี่ยนกดลงบนพื้นสั่งสอนไปครั้งหนึ่งแล้ว ทําไมครั้งนี้ถึงยังไม่จําอีก? เจ้าก็รู้อยู่แก่ใจว่า ในจวนโหวตอนนี้ ท่านย่าเป็นคนเดียวที่เนี่ยนเนี่ยนใส่ใจ หากเจ้าแตะต้องท่านย่า นางจะต้องสู้ตายกับเจ้าแน่!"หลินยวนก้มหน้า น้ำตาไหลพรากลงอาบแก้มไม่หยุด แต่แววตากลับฉายแววอํามหิตใช่ นางจะไม่รู้ได้ยังไง?ฮูหยินเฒ่านับเป็นจุดอ่อนของเฉียวเนี่ยน ตราบใดที่ฮูหยินเฒ่านี่ยังมีชีวิตอยู่ เฉียวเนี่ยนก็จะไม่มีวันออกจากจวนโหวได้!หนังสือตัดขาดความสัมพันธ์เหรอ?เหอะ! หยุดพูดเล่นได้แล้ว!หากเฉียวเนี่ยนสามารถตัดขาดกับจวนโหวได้จริง หลังจากถูกหมิงอ๋องตีจนปางตายก็คงตัดขาดไปนานแล้ว!ไม่สิ ไม่ถูก!มันควรจะตัดขาดตั้งแต่เมื่อสามปีที่แล้ว!แต่จนถึงวันนี้ เฉียวเนี่ยนก็ยังได้ชื่อว่าเป็นคุณหนูใหญ่แห่งจวนโหว!นางมีสิทธิ์อะไร?ตัวนางเองต่างหากที่เป็นบุตรสาวของภรรยาเอกของจวนโหว!ทําไมนางต้องโดนเฉียวเนี่ยนควบคุมอยู่ทุกหนทุกแห่ง ทําไมต้องโดนนางข่มขู่ด้วย?
หลังจากหลินเย่ว์เดินจากไปได้ช่วงหนึ่งก็ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยโทสะ ทว่าเมื่อครู่ท่านหมอกำชับไว้แล้ว ห้ามขยับตัวมาก ไม่เช่นนั้น เขาต้องซัดจิ่งเหยียนไปสักหมัด เพื่อคลายโทสะเป็นแน่ไม่ง่ายนักที่จะกลับมาถึงจวน หลินเย่ว์จึงมุ่งไปยังเรือนลั่วเหมยหนึ่ง เพื่อดูว่าอาการบาดเจ็บของยวนเอ๋อร์เป็นอย่างไรบ้างสอง เพื่อให้หมอประจำจวนดูบาดแผลเขาสักหน่อยหมอที่อยู่ด้านนอกห้ามเลือดพอได้ ทว่ารักษานั้น อย่างไรก็เชื่อไม่ได้แต่คาดไม่ถึงเลยว่า ทันทีที่ถึงหน้าประตูเรือนลั่วเหมย ก็ปะทะเข้ากับหมอประจำจวนที่กำลังออกมาครั้นเห็นหลินเย่ว์ หมอประจำจวนกุมมือคำนับ "คารวะท่านโหวน้อย"หลินเย่ว์รีบทอดมองเข้าไปในเรือน ก่อนถาม "อาการบาดเจ็บของยวนเอ๋อร์เป็นอย่างไรบ้าง?"หมอประจำจวนตอบตามความเป็นจริง "อาการบาดเจ็บของคุณหนูรองไม่เป็นไรมากแล้ว ดาบนั้นคุณหนูใหญ่แทงได้แม่นยำมาก ไม่ทำให้ถึงตายขอรับ ส่วนบาดแผลตกหน้าอกก็ไม่ถือว่าลึกมาก ข้าน้อยได้สั่งยาให้สาวใช้เรียบร้อยแล้วขอรับ"ได้ยินดังนี้ หลินเย่ว์ถึงได้ขมวดคิ้วหนัก นึกถึงดาบนั้นเมื่อก่อนเขาเป็นคนสอนเฉียวเนี่ยนเองเพียงแต่ตอนนั้น เขาสอนนางเพื่อให้นางจัดการกับพวกเด็กเหลื
หรือจะเกี่ยวข้องกับเนี่ยนเนี่ยน?เช่นนั้นเนี่ยนเนี่ยนคงไม่เป็นไรใช่ไหม?เดิมทีหลินเย่ว์อารมณ์หงุดหงิดอยู่แล้ว ตอนนี้เห็นจิ่งเหยียนเข้า ก็อดเดือดเป็นฟืนเป็นไฟไม่ได้แต่เมื่อนึกถึงคำเตือนของท่านหมอ เขาก็ไม่กล้าขยับตัวอะไรมาก ได้แค่กล่าวเสียงเย็น "เกี่ยวอะไรกับเจ้า?"ขณะกล่าว ก็มุ่งตรงไปทางจวนโหวจิ่งเหยียนไม่ยอมแพ้ ตามไปด้วย "เนี่ยนเนี่ยนล่ะ? ทั้งๆ ที่จวนโหวมีหมอประจำจวนอยู่แล้ว ท่านโหวน้อยกลับมาดูหมอข้างนอก หรือหมอประจำจวนกำลังรีบรักษาให้เนี่ยนเนี่ยนอยู่?"เห็นหลินเย่ว์เอาแต่ไม่ตอบ จิ่งเหยียนเลยก้าวไปข้างหน้าอีกก้าวหนึ่ง ขวางหลินเย่ว์ไว้ "หลินเย่ว์ เจ้าทำอะไรกับเนี่ยนเนี่ยนกันแน่!"หากไม่ใช่เพราะในมือถือยาสองห่อไว้ หลินเย่ว์ต้องซัดหมัดใส่เป็นแน่!เห็นสีหน้าร้อนรนเจือเต็มหน้าจิ่งเหยียน หลินเย่ว์ยิ่งรู้สึกกราดเกรี้ยวมากขึ้น "เรื่องในจวนโหวข้า รองแม่ทัพตัวเล็กๆ อย่างเจ้าเข้ามาสอดได้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?"จิ่งเหยียนหาได้ยอมแพ้ "ข้าไม่ได้เข้าไปยุ่งจวนโหว เพียงแค่ถามถึงเนี่ยนเนี่ยนเท่านั้น!""เจ้า!" เห็นจิ่งเหยียนไม่คิดแม้แต่จะหลีกทางให้ หลินเย่ว์รู้ หากวันนี้ไม่คุยกับเขาชัดเจน เขาไม
อีกด้านหนึ่ง จิ่งเหยียนไปที่จวนเซียวตอนเขามา เซียวเหิงกำลังอ่านตำราพิชัยสงครามอยู่ในห้องหนังสือครั้งเห็นในมือจิ่งเหยียนถือเหล้ามาสองไห ตำราพิชัยสงครามในมือก็ถูกวางลงตาม นัยน์ตาลุ่มลึดทอดมองออกไป เห็นจิ่งเหยียนหยักยิ้ม "ข้าน้อยมาดื่มกับท่านแม่ทัพ"สิ้นเสียง เหล้าไหหนึ่งก็โยนที่ทางเซียวเหิงเซียวเหิงยกมือขึ้นรับ และดึมลงไปหนึ่งอึกรสแสบร้อนลงสู่ปาก ผ่านคอหอยเซียวเหิงอดเลิกคิ้วขึ้นไม่ได้ "จิ่วถานฉุนชั้นยอดของหอจุ้ยเซียง" ระหว่างสนทนา มุมปากก็ยกขึ้นยิ้ม "รองแม่ทัพจิ่งได้ลาภลอยมาหรือ?"เหล้าไหนี้ ราคาไม่ธรรมดายิ่งไปกว่านั้น จิ่งเหยียนถือมาสองขวดจิ่งเหยียนก้าวเข้ามาย้ายเก้าอี้ และนั่งลงตรงข้ามเซียวเหิง พลางยกไหเหล้าในมือตัวเองขึ้นดื่ม "ไหของข้าน้อยไม่ใช่"ของเขาเป็นแค่เหล้าขาวธรรมดาทั่วไปเท่านั้นเซียวเหิงมองไปที่จิ่งเหยียนอย่างไม่เข้าใจ และเห็นจิ่งเหยียนกล่าวด้วยสีหน้าปกติ "วันนี้ขอบคุณท่านแม่ทัพยิ่งนัก"ได้ยินเช่นนี้ เซียวเหิงกลับยิ้มเยาะ "ผู้ที่ไปกู้หน้าให้คือพี่ใหญ่ข้า แต่เจ้ากลับมาขอบคุณข้า?"ขณะว่า ก็แหงนหน้ายกเหล้าขึ้นดื่มจิ่งเหยียนแค่ดื่มไปอึกหนึ่ง ก่อนกล่าวด้วยรอ
นั่นมันต้องเจ็บขนาดไหนกัน!เนี่ยนเนี่ยนของนางต้องเจ็บขนาดไหนกัน!ฮูหยินเฒ่าแค่คิด ก็รู้สึกปวดใจแทบขาดแล้วย่าอย่างนาง ช่างไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ!นางเอาแต่อยู่ในจวนนี้ทั้งวันทั้งคืน ไยแม้แต่ข่าวเล็กน้อยก็ยังไม่ได้รับ?หากนางรู้เร็วกว่านี้ว่าหมิงอ๋องคนนั้นไม่ใช่คนดีอะไร นางคงไม่มีทางให้เนี่ยนเนี่ยนเข้าวังหรอกหากนางรู้ว่าหลินเย่ว์ไอ้สารเลวนั่นทำเรื่องร้ายแรงขนาดนี้ นางคงตีเขาให้ตายแน่!หาก...หากนางจากไปเร็วกว่านี้ เนี่ยนเนี่ยนของนางคงไม่ต้องลำบาก ต้องกล้ำกลืนความไม่เป็นธรรม! อยู่ที่จวนโหวมาตลอดขนาดนี้!เป็นนางเองที่ไร้ประโยชน์!เป็นเพราะนางแก่แล้ว ทนได้ไม่ไหวแล้ว ไม่เพียงแต่ปกป้องเนี่ยนเนี่ยนของนางไม่ได้ ยังกลายเป็นภาระของนางด้วย!พวกเขายังให้นางกินน้ำล้างจานด้วย!หลานสาวแท้ๆ ที่นางรักทะนุทะนอมมาตั้งแต่เด็ก!พวกเขากล้าให้นางกินน้ำล้างจานได้อย่างไรกัน!ฮูหยินเฒ่ายิ่งคิด ความเจ็บปวดในใจก็ยิ่งรุนแรงขึ้น จนสุดท้าย ก็ส่งเสียงร้องไห้ออกมาเสียงโหยหวนและแก่ชราที่ดังเรื่อยๆ นั้น แฝงไปด้วยความเสียใจมากมายและช่วยอะไรไม่ได้นางถึงขนาดที่ไม่รู้แล้วว่า ให้เฉียวเนี่ยนออกมาจากกรมซักล้าง
เฉียวเนี่ยนวิ่งไปด้วย เช็ดคราบเลือดตรงมุมปากไปด้วย นางจะให้ท่านย่าเห็นสภาพนางกระอักเลือดไม่ได้!เมื่อมาถึงนอกห้องฮูหยินเฒ่า ก็เห็นซูมามากับหมอประจำจวนรออยู่หน้าประตูห้องก่อนแล้วครั้นเห็นเฉียวเนี่ยน หมอประจำจวนก็คำนับเฉียวเนี่ยนรีบไถ่ถาม "เป็นอย่างไรบ้าง? ท่านย่าข้าเป็นอย่างไรบ้าง?"หมอประจำจวนถึงได้ตอบ "คุณหนูใหญ่ ร่างกายของฮูหยินเฒ่าเสียหายอย่างรุนแรง แม้ข้าน้อยจะฝังเข็มรักษาชีพจรหัวใจของฮูหยินเฒ่าไว้มั่นได้ แต่ เกรงว่าคงยืนหยัดได้ไม่เกินสิบวัน"เฉียวเนี่ยนอึ้งไป พลางส่ายหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อเล็กน้อย "ไม่ ไม่จริง ซูมามาบอกว่า วันนี้สภาพท่านย่าไม่เลว แถมยังลุกจากเตียงได้อยู่เลยมิใช่หรือ... "เหตุใดแม้แต่สิบวันก็ทนไม่ไหวแล้วเล่า?ซูมามาปาดน้ำตาไร้สุ้มเสียงแต่หมอประจำจวนกลับถอนหายใจเล็กน้อย กล่าว "หากไม่เคยได้รับการกระตุ้น บางทีฮูหยินเฒ่าอาจทนได้สองสามเดือน เฮ้อ!"ได้ยินเช่นนี้ น้ำตาเฉียวเนี่ยนพลันไหลลงมาไม่หยุด แม้แต่ลมหายใจก็สับสนไปชั่วขณะอย่างไรเสียก็เป็นเรื่องของนางที่ทำร้ายฮูหยินเฒ่า!เมื่อครู่นางควรตวัดดาบจบหลินยวนไปเสีย!ซูมามารีบเข้ามาเช็ดน้ำตาให้นาง และกล่าวโน้
แต่ในเวลานี้เอง ร่างๆหนึ่งปรี่เข้ามาในห้อง ผลักเฉียวเนี่ยนออกและเพราะการกระแทกนี้ ทำให้ดาบยาวทิ้งรอยเลือดไว้เป็นทางยาวตรงหน้าอกหลินยวนหลินเย่ว์ตกใจหน้าถอดสี รีบอุ้มหลินยวนไปข้างนอกทันทีแต่คาดไม่ถึงว่า เฉียวเนี่ยนไล่ตามออกมาเหมือนกับคนบ้า ถือดาบยาวตวัดฟันลงบนหลังของหลินเย่ว์หลินเย่ว์หลบไม่ทัน หลังรับดาบเฉียวเนี่ยนไปเต็มๆ สองมือไร้เรี่ยวแรงทันที และล้มลงไปบนพื้นพร้อมกับหลินยวนท่านโหวหลินที่เร่งตามาเห็นภาพนี้ ก็ปรี่เข้ามาจับสองมือของเฉียวเนี่ยนไว้ทันที พลางตะคอกอย่างกราดเกรี้ยว “เจ้าบ้าไปแล้วหรือ!”หากไม่ใช่เพราะทหารองครักษ์ที่ถูกแย่งดาบไปรีบมารายงาน เกรงว่าเมื่อพวกเขามาถึง หลินยวนคงตายภายใต้ดาบของนางไปแล้วแต่ไม่คิดเลยว่า เฉียวเนี่ยนแทบจะตะโกนเดือดดาลอย่างบ้าบิ่น “ใช่ข้าบ้าไปแล้ว! หากไม่ใช่เพราะนางส่งคนไปพูดไร้สาระต่อหน้าท่านย่า ท่านย่าก็คงจะไม่เป็นไร! วันนี้ข้าจะต้องตัดลิ้นนางให้ได้ ข้าจะดูว่าต่อไปเจ้าจะเอาอะไรออกมาทำร้ายท่านย่าอีก!”ท่านโหวหลินเหมือนเพิ่งจะรู้ว่าจู่ๆ ที่ฮูหยินเฒ่าอาการกำเริบเกิดมาจากหลินยวน จึงมองไปที่หลินยวนด้วยสีหน้าตกตะลึงทันทีเห็นเพียงอีกฝ้ายหมอบอยู่
เรือนลั่วเหมย ประตูใหญ่ปิดสนิทเฉียวเนี่ยนถีบประตูเปิด ย่างสามขุมเข้าไปในเรือนลั่วเหมยคนรับใช้ สาวใช้ภายในเรือน แต่ละคนเตรียมพร้อมรออยู่ ราวกับคาดเดาได้ว่าเฉียวเนี่ยนจะมาแต่กลับคาดไม่ถึงเลยว่า เฉียวเนี่ยนจะถือดาบเข้ามาด้วย!กระนั้น แม้พวกเขาจะเคยเห็นความดุร้ายของเฉียวเนี่ยน ทว่ากลับไม่เคยเห็นเฉียวเนี่ยนฆ่าคน จึงคิดว่าเฉียวเนี่ยนแค่มาขู่ก็เท่านั้นมีคนรับใช้ใจกล้าคนหนึ่งเข้ามาพูดโน้มน้าว “คุณหนูใหญ่โปรดระงับโทสะ อย่าทำเรื่องโง่ๆ รอท่านโหวมา…อ๊าก!”ไม่รอให้คนรับใช้คนนั้นพูดจบ เฉียวเนี่ยนก็ฟัดดาบลงไป คนรับใช้คนนั้นถูกฟันเข้าที่แขนทันที เลือดแดงสดไหลลงมาดวงตาสองข้างของเฉียวเนี่ยนแดงก่ำ ตะโกนเสียงดัง “หลินยวน ไสหัวออกมาเดี๋ยวนี้!”จากนั้น เหลือบมองกลุ่มคนรับใช้สาวใช้ที่ยังขวางอยู่ตรงหน้าตัวเอง แล้วตะคอกเสียงเย็น “ใครกล้าขวางข้า!”เหล่าสาวใช้ที่ขี้ขลาดบางส่วนรีบวิ่งหนีเตลิดกันหมด ทว่ายังพอมีใจกล้าอยู่บ้าง ขวางอยู่ข้างหน้าเฉียวเนี่ยน “คุณหนูใหญ่ใจเย็นก่อนๆ หากฆ่าคุณหนูรองจริง ท่านโหวจะปล่อยคุณหนูไปได้อย่างไร?”เฉียวเนี่ยนจ้องคนรับใช้คนนั้นเขม็ง พลางกดเสียงต่ำ “รนหาที่ตาย!”ดาบยา
เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ ซูมามาก็ห้ามเสียงสะอื้นไม่ได้แล้ว “ฮู ฮูหยินเฒ่ารู้เรื่องที่คุณหนูใหญ่จะตัดขาดท่านโหว จึงบีบเค้นถามบ่าว บ่าวไม่กล้าพูดมาก ฮูหยินเฒ่าจึงบีบให้นังพวกใจสกปรกเหล่านี้พูด…”“ฮูหยินเฒ่าไม่เพียงรู้เรื่องที่คุณหนูตัดขาดจวนโหว ยังรู้เรื่องก่อนหน้าที่คุณหนูเกือบถูกหมิงอ๋องตีตาย รู้ว่าท่านโหวน้อยรังแกคุณหนูอย่างไร ดังนั้นฮูหยินเฒ่าก็เลย ก็เลย…”พูดมาถึงตอนท้าย ซูมามาร่ำไห้จนพูดออกมาไม่ได้แล้วส่วนเฉียวเนี่ยน เดือดดาลจนสั่นเทาไปทั่วร่างนางมีสีหน้าเย็นชา ค่อยๆเดินไปทางสาวใช้พวกนั้นพวกสาวใช้แต่ละคนต่างหลุบตาต่ำก้มหน้า จิตใจกระวนกระวาย ไม่กล้าเหลือบมองเฉียวเนี่ยนได้ยินเพียงสุ้มเสียงสั่นเทาของเฉียวเนี่ยนดังออกมา และเจือไปด้วยโทสะ “ข้ากำชับหลายครั้งหลายหนแล้วว่าห้ามเปิดเผยเรื่องของข้าให้ท่านย่าฟัง พวกเจ้าไปเอาความกล้ามาจากไหนกัน ถึงกล้าเอ่ยถึงข้าในเรือนของท่านย่า!”เหล่าสาวใช้ต่างตกใจพากันร่ำไห้โขกหัว “บ่าวผิดไปแล้ว ขอคุณหนูใหญ่ยกโทษให้ด้วย!”“บ่าวรู้ความผิดแล้ว บ่าวไม่กล้าทำอีกแล้ว!”ทว่าสายตาของเฉียวเนี่ยน กลับถูกสาวใช้หนึ่งในนั้นดึงดูดไปนางขมวดคิ้ว กล่าวเสียงเย็น “เ