Share

บทที่ 202

Penulis: โม่เสียวชี่
ทว่าความรู้สึกเจ้ากรรมนั้นเขาไม่อาจควบคุมได้

เขาเห็นเฉียวเนี่ยนแล้วก็อดสงสารไม่ได้ จึงคิดหาหนทางเอาอกเอาใสนางอย่างห้ามไม่อยู่

เขาเองก็จนปัญญา

ยามนี้ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร จึงคำนับแล้วเอ่ยลา "เช่นนั้นข้าน้อยขอตัวก่อน"

เมื่อสิ้นเสียงแล้วแต่กลับไม่ได้ยินเสียงตอบรับใดจากเซียวเหิง

จิ่งเหยียนรั้งรอ เมื่อเห็นว่าเซียวเหิงไม่ตอบเสียที สุดท้ายจึงหันหลังแล้วเดินออกไปจากห้อง

เมื่อประตูห้องปิดลง ความรู้อันอ้างว้างก็ปะทะเข้ามา เซียวเหิงกำมือหลวมๆ รู้สึกเหมือนถูกคนควักหักใจออกไป

สิ่งที่เคยรู้เกี่ยวกับเฉียวเนี่ยน บัดนี้กลายเป็นเรื่องตลกในสายตาจิ่งเหยียน

เขาไม่รู้ว่าเฉียวเนี่ยนเปลี่ยนไป หรือว่าเขาไม่เคยเข้าใจนางเลย...

หลังจากวันนั้นเป็นต้นมา อาหารที่ถูกส่งไปยังเรือนฟางเหอ มักจะมีกับเพิ่มเติมอีกหนึ่งอย่าง

จากนั้นหลายวัน หนิงซวงเห็นไส้ใหญ่หมูอยากที่คาดการไว้ ดวงน้ำหน้าน้อยง้ำงอเหมือนฝักมะระ "คุณหนูเจ้าคะ ...อีกแล้วหรือเจ้าคะ"

เฉียวเนี่ยนบีบจมูกไว้ตั้งแน่ก่อนหน้าแล้ว "เอาออกไป"

นางคิดในใจ วันนั้นหลินเย่ว์ต้องไปหาจิ่งเหยียนแน่นอน ไม่อย่างนั้นครัวในจวนไม่มีทางย่างไส้ใหญ่หมูให้นางทุกวันโดยไม่มีต้น
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 203

    ยามหนิงซวงมาหาหลินยวน หลินยวนอยู่ในสวนดอกไม้ของจวนดอกไม้เรือนลั่วเหมยร่วงโรยแล้ว นางมาดูว่ามีไม้ดอกใดมาปลูกในเรือนลั่วเหมยบ้าง เพื่อให้เรือนของตนไม่ดูโหวงเหวงแต่คิดไม่ถึงเลยว่า นางจะเห็นหนิงซวงเดินระรื่นมาแต่ไกลแถมในมือของหนิงซวงยังมีแกว่งห่อผ้าไปมาอีกนางจำได้ในทันทีว่านั่นคือห่อผ้าที่นางมอบให้เสี่ยวชุ่ยเองกับมือใบหน้านั้นจึงพลันซีดเผือดนางมองหนิงซวงเดินเข้ามาหาตนอย่างยิ้มแย้ม อีกฝ่ายคำนับก่อนจะยื่นห่อผ้าให้ "คุณหนูรอง คุณหนูข้าบอกว่าท่านทำของตก จึงสั่งข้าให้นำมามอบให้ท่านโดยเฉพาะ ท่านลองเปิดดูว่ามีอะไรขาดหายหรือไม่?"หนิงซวงยิ้มใสซื่อ แต่หลินยวนกลับขนลุกชูชันไปทั่งตัวนางมองห่อผ้านั้น ไม่กล้าแม้แต่จะยื่นมือออกไปรับ เพียงแค่เอ่ยถามเสียงสั่นเครือ "เอา...เอามาจากไหนรึ?"หนิงซวงขำขัน "ก็คุณหนูรองทำตกเอาไว้ เอามาจากไหน คุณหนูรองไม่รู้หรือเจ้าคะ?"ทันใดนั้นหลินยวนก็ลนลานพลั้งปากออกมาโดยไม่ทันคิด "ท่านพี่ไปหาเสี่ยวชุ่ยรึ?"หนิงซวงเบ้ปาก เอ่ยอย่างหมดความอดทน "คุณหนูรอง คุณหนูข้าถูกกักบริเวณอยู่ในเรือนฟางเหอ ไม่เคยก้าวขาออกจากเรือนแม้แต่ก้าวเดียว ท่านอย่ากล่าวหาผู้อื่นเช่นนี

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 204

    เมื่อได้ยินดังนั้น หลินยวนก็ชะงักไป นางคิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องนี้จะเกี่ยวโยงไปถึงหน้าตาของจวนโหวทว่าหนิงซวงกลับพูดต่อ "คุณหนูข้ายังบอกอีกว่า วันหน้าคุณหนูรองจะเป็นนายหญิงแห่งตระกูลแล้ว ย่อมต้องรู้ว่าเรื่องใดควรทำ เรื่องใดไม่ควรทำ ในห่อผ้านี้มีเครื่องประดับเพชรนิลจินดา คนอื่นมองปราดเดียวก็รู้ว่านี่คือสมบัติของคุณหนูรอง เรื่องนี้หากไปถึงหูตระกูลเซียวเข้า พวกเขาจะมองคุณหนูรองอย่างไร? ขอโปรดคุณหนูรองเข้าใจความหวังดีของคุณหนูข้าด้วย"หนิงซวงเอ่ยพลางค้อมหัวคำนับ ไม่รอให้หลินยวนได้เอ่ยปากก็หันหลังเดินจากไปแล้วเหลือเพียงหลินยวนที่ตกตะลึงงันอยู่ที่เดิมเมื่อกลับมาถึงงเรือนฟางเหอ หนิงซวงก็ไปหาเฉียวเนี่ยนในทันที สีหน้าตื่นเต้นดีใจอย่างควบคุมไม่อยู่ "คุณหนูเจ้าคะๆ ที่ท่านให้ข้าพูด ข้าพูดไปหมดแล้วเจ้าค่ะ! ท่านไม่เห็นสีหน้าของคุณหนูรอง น่าขันยิ่งนัก!"เมื่อได้ยินดังนั้นมุมปากของเฉียวเนี่ยนก็ยกยิ้มอย่างห้ามไม่อยู่ แต่ก็ยังเอ่ยถาม "หวังอู่เล่า? ไปหาเสี่ยวชุ่ยแล้วหรือ?"หนิงซวงพยักหน้า "ยามนี้คงได้พบเสี่ยวชุ่ยแล้วกระมัง ว่าแต่คุณหนูเจ้าคะ ท่านว่าเสี่ยวชุ่ยจะเชื่อหรือไม่ว่าคุณหนูรองไปคนเอาห่อผ้านั

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 205

    หลินยวนตกใจจนสะดุ้งตัวโยนโชคดีที่นี่คือประตูหลังจึงมีคนเห็นไม่มากนักนางตั้งสติได้ในทันใด ลากแขนเสี่ยวชุ่ยเข้าไปในตรอกที่อยู่ถัดไป กดเสียงต่ำ ตำหนินางอย่างอดไม่ได้ "ข้าบอกเจ้าแล้วมิใช่หรือ ว่าอย่ามาหาข้าที่นี่?""ข้ามาไม่ได้หรือไร?" เสี่ยวชุ่ยสะอื้นตัดพ้อ "เจ้าไม่เต็มใจช่วยข้า เหตุใดต้องเสแสร้งแกล้งทำ? ให้ความหวังข้า แล้วก็ทำให้ข้าผิดหวัง สนุกนักหรือไร?"หลินยวนตื่นตกใจ รีบคว้ามือของเสี่ยวชุ่ยเอาไว้ สีหน้าเหลือเชื่อ "เสี่ยวชุ่ย เหตุใดเจ้าถึงคิดว่าข้าเป็นคนเช่นนั้น?"ขณะพูดอยู่นั้นน้ำตาก็เอ่อล้นในดวงตาแต่ใครจะคิดว่าเสี่ยวชุ่ยจะสบัดมือหลินยวนออก "ข้าไม่ใช่พวกโง่ตระกูลหลิน เจ้าอย่าใช้ไม้นี่กับข้าเลย เจ้าบอกมาว่าเจ้าเอาห่อผ้าที่ให้ข้าคืนกลับไปแล้วใช่หรือไม่?""ข้าไม่ได้เอากับคืนมา!" หลินยวนรีบอธิบาย "ท่านพี่ส่งคนไปจับตาดูเจ้า ข้าเพิ่งส่งห่อผ้าให้เจ้า ไม่ทันไรนางก็สั่งให้คนเอามันกลับมาให้ข้าแล้ว!"เมื่อได้ยินดังนั้นเสี่ยวชุ่ยเองก็ตกใจอย่างอดไม่ได้นางคิดไม่ถึงเลยว่าเฉียวเนี่ยนจะส่งคนไปจับตาดูนาง!ในตอนนั้นนางแทบเสียสติ "ข้าออกมาจากจวนโหวแล้ว นางคิดจะทำอะไรอีก? จะบีบให้ข้าตายเลยห

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 206

    เสียงที่ดังขึ้นกะทันหันนั้นทำเอาจิ่งเหยียนตื่นตกใจ เมื่อเห็นว่าเป็นหลินยวน ก็รีบคำนับในทันใด "คำนับคุณหนูหลิน"หลินยวนเดินเข้ามาหาจิ่งเหยียน ชำเลืองมองถังตักน้ำก่อนจะเอ่ยถาม "เหตุใดท่านพี่จิ่งถึงมาอยู่ที่นี่?""ผะ...ผ่านมาน่ะขอรับ..."จิ่งเหยียนลนลานอย่างเห็นได้ชัดหลินยวนเม้มปากยิ้ม "แต่นี่มันประตูหลัง จะผ่านมาทางนี้ได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย! ท่านพี่จิ่งมาหาพี่สาวใช่ไหมเจ้าคะ?"เมื่อได้ยินดังนั้น จิ่งเหยียนมองหลินยวนอย่างตื่นตระหนกแถมหลินยวนยังเอ่นต่ออีกว่า "พี่ใหญ่บอกเรื่องท่านพี่จิ่งกับข้าแล้ว!"ที่แท้เป็นเช่นนี้นี่เองจิ่งเหยียนครุ่นคิด หลินเย่ว์และหลินยวนสนิทสนมกันปานนั้น จะเล่าเรื่องที่เขาชอบพอเฉียวเนี่ยนให้หลินยวนฟัง ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกยามนี้ใบหน้าของเขาแดงก่ำ เขาเอ่ยอ้ำอึ้ง "ข้า...ข้ายังมีธุระต่อ ขอตัวก่อนขอรับ"ว่าจบก็เดินออกไป แต่หลินยวนเอ่ยรั้งเขาไว้ "ท่านพี่จิ่งจะยอมแพ้เช่นนี้หรือเจ้าคะ?"ได้ยินดังนั้นจิ่งเหยียนก็ชะงักฝีเท้าลงโดยไม่รู้ตัวจากนั้นก็ได้ยินเสียงหลินยวน "ข้าได้ยินมาว่า สองสามวันนี้พี่ใหญ่ให้คนเอาไส้ใหญ่หมูไปส่งที่เรือนพี่สาวตลอด แต่พี่สาวกลับไม่กินแม้

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 207

    หลายวันต่อมาเฉียวเนี่ยนเพิ่งกินข้าวเย็นเสร็จ ก็เห็นหนิงซวงหิ้วกล่องอาหารเดินเข้ามา "คุณหนูดูนี่สิเจ้าคะ!"เฉียวเนี่ยนยิ้มบางอย่างจนใจ "นี่เจ้าคิดจะให้ข้าจุกตายหรือย่างไร? ไปเอาของอร่อยมาจากไหนอีก?""เจอที่มุมรั้วในเรือนน่ะเจ้าค่ะ!" หนิงซวงยิ้มอย่างมีเลสนัย "คุณหนูไม่รู้สึกว่ากล่องอาหารนี้คุ้นตายิ่งนักหรือเจ้าคะ?"ได้ยินดังนั้นเฉียวเนี่ยนก็จ้องมองกล่องอาหารนั้นอีกครั้งอย่างอดไม่ได้คุ้นตาอย่างที่ว่าจริงๆ ในห้องนางก็มีกล่องหน้าตาเช่นนี้เหมือนกันเป็นกล่องที่จิ่งเหยียนเอามาให้กลางดึก จนป่านนี้แล้วก็ยังไม่ได้เอากลับไปเช่นนั้นแล้วกล่องตรงหน้านี้...ไม่รอให้เฉียวเนี่ยนเอ่ยถาม หนิงซวงก็วางกล่องอาหารลงบนโต๊ะ จากนั้นจึงเปิดออกแล้วยกจานไส้ใหญ่หมูออกมาน่าตาน่าอร่อย กลิ่นหอมเตะจมูกสองคนที่ดมกลิ่นคาวจนชินชามาหลายวันก็กลืนน้ำลานอึกใหญ่อย่างอดไม่ได้หนิงซวงสูดน้ำลายเสียงดังอย่างไม่เขินอาย หยิบตะเกียบขึ้นมา ก่อนจะขมวดคิ้วมองเฉียวเนี่ยน "คุณหนูจะชิมไหมเจ้าคะ?"เฉียวเนี่ยนอดรนทนไม่ไหวตั้งนานแล้ว นางรับตะเกียบมาแล้วกินอย่างเอร็ดอร่อยหนิงซวงก็เคี้ยวตุ้ยๆ เต็มปากน้อยของตัวเอง แต่ก็ยังอดพู

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 208

    "ไม่จำเป็นต้องอธิบายกับเขา" เฉียวเนี่ยนเอ่ยเสียงนิ่งตัดบทหนิงซวงนางหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมา เช็ดมุมปากของตัวเองเบาๆ ก่อนจะเอ่ย "ครั้นตั้งใจจะกล่าวโทษ เหตุใดต้องหาเหตุผล ท่านโหวน้อยจะตราหน้าข้าว่าอย่างไร ก็สุดแล้วแต่ท่าน"หลังจากทะเลาะกันคราวก่อน นางก็เข้าใจแล้วในใจของหลินเย่ว์ นางนั้นสกปรกสมโมมเพียงใด นางเกิดมาชั่วช้า เพราะอย่างนั้นต่อให้นางจะพูดอะไร เขาก็ไม่ฟังทั้งนั้นเช่นนั้นแล้วจะอธิบายให้เปลืองแรงไปเพื่อเหตุใด?เมื่อเห็นท่าที 'ต่อให้ผิดแล้วอย่างไรเล่า' ของเฉียวเนี่ยน หลินเย่ว์ก็ยิ่งโมโห "ข้าตราหน้าเจ้าอย่างนั้นหรือ? หรือว่าไส้ใหญ่หมูมันลอยเข้ามาเอง? ข้าล่ะสงสัยนัก เจ้าของสิ่งนี้มันดีอย่างไร? สู้ขนมของหลี่จี้ได้หรือ? เจ้ารู้หรือไม่ว่าขนมนั่นต้องต่อแถวข้ามคืนถึงจะซื้อได้!"ที่หลินเย่ว์เอ่ยถึง คือขนมที่เซียวเหิงวางไว้บนรถม้า ทว่านางไม่ยอมแตะต้อง ต่อมาเซียวเหิงลงมือทำให้นางเองกับมือ นางก็สั่งให้คนเอากล่องนั้นไปให้หลินยวนอีกเฉียวเนี่ยนหัวเราะ "ต่อให้ต้องต่อแถวเป็นปีแล้วอย่างไรเล่า? ข้าไม่ชอบกินก็คือไม่ชอบกิน"ก็เหมือนที่เซียวเหิงคิดกับนางเมื่อก่อน ไม่ชอบก็คือไม่ชอบ ต่อให้นางเอา

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 209

    เหม่อมองแผ่นหลังของหลินเย่ว์ หัวใจของเฉียวเนี่ยนก็ร่วงหล่นจ่มดิ่งลงเหวลึกนางมองไส้ใหญ่หมูที่ยังกินไม่หมดบนโต๊ะ สุดท้ายก็สูดหายใจลึก เอ่ยเสียงหนักแน่น "หนิงซวง เอาของพวกนี้ไปคืนรองแม่ทัพจิ่งบัดเดี่ยวนี้""เจ้าบอกเขาว่า เขาทำรสไม่ถูกปากข้า ก่อนหน้านี้เห็นว่าเขามีบุญคุณต่อข้าถึงได้พูดเช่นนั้น ขอเขาอย่าได้เข้าใจผิด"พูดถึงเพียงเท่านั้น ริมฝีปากของเฉียวเนี่ยนก็สั่นเครืออย่างห้ามไม่อยู่ คำบางคำไม่อาจพูดออกไป แต่ก็ต้องพูด"แล้วก็บอกเขาว่า แม้ข้าจะเป็นเพียงลูกเลี้ยงของจวนโหว แต่ก็ไม่ใช่ฐานะที่คนเช่นเขาจะไขว่คว้าได้ ขอเขาอย่าได้ทำเรื่องเสื่อมเสียชื่อเสียงแก่ข้าเช่นนี้อีก ไม่เช่นนั้น..."พูดถึงเพียงเท่านั้น แต่สุดท้ายก็ไม่พูดออกสำหรับคนที่ทุ่มเทความจริงใจให้แก่นางคนหนึ่ง คำพูดเหล่านั้นของนาง ไม่ต่างอะไรกับมีดคม แทงลึกกลางดวงใจอีกฝ่ายครั้งแล้วครั้งเล่าแต่นางหมดหนทางแล้วนางเคยเห็นหลินเย่ว์เอาจริงมาแล้วแม้แต่น้องสาวสุดที่รัก เขายังทำเรื่องเช่นนั้นได้ลงคอ นางนึกภาพไม่ออกเลยว่า เขาจะลงมือเช่นไรกับจิ่งเหยียน!เขายังมีอนาคตอีกยาวไกลจะมาถูกทำลายเพราะนางไม่ได้!เพราะอย่างนั้น ต่อให้ต้อง

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 210

    "แน่นอนว่าเพราะเขาฐานะต่ำต้อย!" หลินเย่ว์ขมวดคิ้วแน่น "สำหรับคนทั่วไป คุณสมบัติอย่างจิ่งเหยียนนับว่าไม่เลว แต่สำหรับเนี่ยนเนี่ยนคุณหนูใหญ่แห่งจวนโหวแล้ว จะแต่งงานกับรองแม่ทัพได้อย่างไร!"เนี่ยนเนี่ยน คือคุณหนูใหญ่แห่งจวนโหวไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด พอได้ยินคำนั้นแล้ว ใจของหลินยวนกลับรู้สึกอิจฉาริษยาขึ้นมาทว่าไม่นานนางก็กักเก็บความรู้สึกนั้นเอาไว้ ส่งยิ้มหวานให้กับหลินเย่ว์ "พี่ใหญ่คือพี่ชายที่ดีที่สุดในโลก ไม่ว่าเรื่องใดก็เป็นห่วงเป็นใยพี่สาวไปเสียหมด!"คำพูดนั้นของนาง เหมือนสองมืออันอบอุ่น โบกพัดไฟโกรธในใจหลินเย่ว์ให้อ่อนแรงลงหลินเย่ว์มองนาง ลูบศีรษะของนางเบาๆ อย่างอดไม่ได้ "หากเนี่ยนเนี่ยนเข้าใจความยากลำบากของข้าได้เหมือนเจ้าก็คงดี""พี่สาวย่อมเข้าใจแน่นอนเจ้าค่ะ" หลินยวนยังคงยิ้มหวาน "ต่อให้ตอนนี้พี่สาวจะยังไม่เข้าใจ แต่วันหน้านางจะเข้าใจเอง!"หลินเย่ว์เค้นรอยยิ้มออกมา "ข้าก็หวังจะเป็นเช่นนั้น!"หลินยวนซบลงกับบ่าของหลินเย่ว์ "แต่ว่าพี่ใหญ่เจ้าคะ หากท่านกีดกันพี่สาวกับรองแม่ทัพจิ่ง พี่สาวต้องเกลียดท่านเป็นแน่"เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของหลินเย่ว์ก็พลันแข็งค้าง "ก็ไม่ถึงกับกีด

Bab terbaru

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 496

    "ว่ากันตามจริงแล้ว ข้าควรขอบคุณแม่ทัพเซียวที่ยังจดจําความสัมพันธ์ระหว่างข้ากับท่านได้ ไม่เช่นนั้นตอนนี้ ข้าคงยังเป็นทาสอยู่ในกรมซักล้าง ข้าขอขอบคุณแม่ทัพเซียวสําหรับความเมตตาของท่าน! แต่ขอเพียงท่านอย่าเลือกตัวเลือกนี้หลังจากชั่งน้ำหนักครั้งแล้วครั้งเล่า บอกว่าเป็นการืำเพื่อข้าอีก"“ข้ารับไม่ไหว”คําสี่คําสุดท้ายนั้น ราวกับค้อนหนักทุบลงบนใจของเซียวเหิงอย่างแรงเซียวเหิงถอยหลังไปก้าวหนึ่ง กลับถูกม้านั่งสะดุดขา โซเซจนเกือบล้มไปข้างหลังอาจเป็นเพราะเสียงนี้ดังไปหน่อย เฉียวเอ๋อร์และฮุ่ยเอ๋อร์ที่อยู่นอกห้องจึงรีบวิ่งเข้ามาเซียวเหิงตวาดเสียงเข้มทันที "ใครให้พวกเจ้าเข้ามา! ออกไป!"แต่ไม่คิดว่า เฉียวเอ๋อร์และฮุ่ยเอ๋อร์จะคุกเข่าลงพร้อมกัน"ฮูหยิน ท่านให้อภัยท่านแม่ทัพเซียวเถอะ! ท่านแม่ทัพเซียวใส่ใจท่านจริงๆ! เขาได้ยินว่าท่านต้องการพบเขา ก็มาโดยไม่คํานึงถึงอาการบาดเจ็บหนัก!""ใครอนุญาตให้พวกเจ้าพูดมาก? ไสหัวไป!"เซียวเหิงตวาดเสียงเข้มอีกครั้งเฉียวเอ๋อร์กับฮุ่ยเอ๋อร์ยังอยากจะเกลี้ยกล่อมอีก พวกนางทนเห็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตตัวเองน่าเวทนาเช่นนี้ไม่ได้ แต่เมื่อสบเข้ากับดวงตาคู่นั้นของเซ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 495

    แผลเป็นเหล่านั้นราวกับกำลังเป็นพยานให้กับเซียวเหิง ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาใส่ใจนางเพียงใดน้ำตาก็เอ่อล้นขึ้นมาในดวงตาของเฉียวเนี่ยนโดยไม่รู้ตัวนางยื่นมือออกไป ลูบเบา ๆ ลงบนแผลเป็นบริเวณอกของเขา ปลายนิ้วของนางเย็นเฉียบราวกับอาวุธอยู่ ๆ นางก็เอ่ยขึ้นมาเสียงเบา "เจ็บไหม?"คิ้วของเซียวเหิงกระตุกขึ้นมาโดยไม่ทันตั้งตัวเจ็บไหม?สองพยางค์นี้ นางเคยถามจิ่งเหยียนมาก่อนเขาเห็นกับตาว่าหลังจากนั้น นางกับจิ่งเหยียนโอบกอดกันแนบแน่นเพียงใด เพราะเหตุนี้ เวลานี้จึงมีอารมณ์บางอย่างที่ไม่อาจเอ่ยออกมาจุกอยู่กลางอก จนไม่อาจเปล่งถ้อยคำใดออกมาได้เลยแม้แต่คำเดียวแต่แล้วก็เห็นนางเงยหน้าขึ้นมามองเขากะทันหัน ท้ายที่สุดน้ำตาในดวงตาก็ไหลรินลงมาเสียงเบา ๆ อ่อนโยนนั้นเอ่ยว่า "จิ่งเหยียน… ต้องเจ็บมากแน่ ๆ เลย"เพราะนางเห็นกับตา ว่าบนร่างของจิ่งเหยียนตรงตำแหน่งนี้ มีรูขนาดใหญ่ทะลุเป็นโพรงเหล่าทหารกล่าวว่า นั่นคือบาดแผลจากดาบที่จิ่งเหยียนรับไว้แทนเซียวเหิง แทงทะลุผ่านร่างกายนางคิดว่า ตอนนั้นจิ่งเหยียนคงเจ็บมาก เจ็บมากจริง ๆเซียวเหิงไม่เคยคาดคิดเลยว่า เวลานี้ เวลาที่นางกำลังมองแผลเป็นทั่วร่างของเขา

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 494

    "..."เฉียวเนี่ยนไม่รู้ว่าเฉียวเอ๋อร์กับฮุ่ยเอ๋อร์ไปพูดสิ่งใดกับเซียวเหิง แต่เห็นได้ชัดว่าเซียวเหิงกำลังเข้าใจผิดคิ้วเรียวงามของนางขมวดแน่น เฉียวเนี่ยนเอ่ยเสียงขรึม "ท่านต้องการอะไรกันแน่? เหตุใดต้องกักข้าทิ้งไว้ที่นี่?"รอยยิ้มบนใบหน้าของเซียวเหิงชะงักไปชั่วขณะ แต่ยังคงฝืนรักษารอยยิ้มอ่อนโยนไว้ ดวงตาสีเข้มลึกฉายแสงจากเปลวเทียน แวววาวนัก"นี่มิใช่การกักขัง ข้าเพียงแค่… อยากให้เราสองคน… มีโอกาสอีกครั้ง"โอกาสที่จะเริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่งแต่ว่าดวงตาของเฉียวเนี่ยนกลับยิ่งหม่นมัว นางมองเซียวเหิง ปากยกยิ้มเย้ยหยัน "โอกาสหรือ? เมื่อสามปีก่อน แม่ทัพเซียวก็หาได้เคยให้โอกาสข้าไม่"เมื่อสามปีก่อน พวกเขาทั้งหมดต่างยืนอยู่ข้างหลินยวน กระทั่งคำแก้ตัวของนาง ก็ยังถูกสายตาอันดุดันของเขาบีบให้กลืนกลับลงไปหากสามปีก่อนเขาไม่ต้องการนางแล้ว เช่นนั้นเหตุใดสามปีให้หลังยังจะมากักนางไว้อีก!เมื่อได้ยินนางพูดถึงเรื่องในอดีตเมื่อสามปีก่อน หัวใจของเซียวเหิงก็เจ็บปวดราวกับถูกกรีดด้วยมีดเขาก้าวเข้าไปใกล้นาง แต่ก็เห็นนางถอยกรูดไปสามก้าวทันที มือที่กำปิ่นปักผมไว้แน่นก็ยกขึ้นเตรียมป้องกันตัวเขาจึงหยุด

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 493

    สามวันต่อมาเฉียวเนี่ยนนั่งอยู่ใต้ชายคา ข้างซ้ายมีสาวใช้กำลังแกะเมล็ดแตงให้กับนาง ข้างขวามีสาวใช้อีกคนกำลังหั่นแตงโมให้นางสามวันแล้ว แต่นางกลับยังไม่ได้พบกับเซียวเหิงเลยกลับกัน ตอนนี้นางกลับคุ้นเคยกับสองสาวพี่น้องคู่นี้เป็นอย่างดีทั้งสองเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ฝั่งซ้ายชื่อเฉียวเอ๋อร์ ฝั่งขวาชื่อฮุ่ยเอ๋อร์สองนางมิใช่คนเมืองหลวง บ้านเกิดอยู่ไกลถึงชายแดนเมื่อครั้งอดีต เซียวเหิงช่วยชีวิตสองนางจากสนามรบ ญาติพี่น้องทั้งหมดล้วนเสียชีวิตเพราะสงคราม สองนางจึงติดตามเซียวเหิงกลับเมืองหลวงสำหรับสองนาง เซียวเหิงคือผู้มีพระคุณช่วยชีวิต จึงเชื่อฟังเซียวเหิงทุกถ้อยคำแน่นอนว่าย่อมเคารพนบนอบต่อเฉียวเนี่ยนด้วยตลอดสามวันที่ผ่านมา ทั้งสองดูแลนางอย่างสุดความสามารถ ว่านอนสอนง่ายเป็นพิเศษ เพียงแต่ไม่ยอมบอกนางว่าที่นี่คือที่ใดหากเซียวเหิงไม่อนุญาต พวกนางจะไม่เปิดเผยข้อมูลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับที่แห่งนี้แม้แต่น้อยไม่ใช่เฉียวเนี่ยนไม่เคยลองใช้วิธีอื่น สามวันมานี้นางเดินสำรวจทั่วทั้งจวน ทว่ากลับไม่พบเบาะแสที่เป็นประโยชน์เลยแม้แต่น้อยไม่ว่าจะเป็นประตูหน้าหรือประตูหลัง ล้วนถูกผนึกไว้อย่างแน่นหนา

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 492

    แต่แล้วก็เห็นว่า ร่างของเซียวเหิงเอียงวูบไปด้านข้าง นอนแน่นิ่งไป เขาหมดสติไปแล้วแม่เซียวตกใจสุดขีด รีบร้องลั่น "เร็วเข้า! รีบไปตามหมอมา! เหิงเอ๋อร์ เหิงเอ๋อร์! อย่าทำให้แม่ตกใจแบบนี้นะ เหิงเอ๋อร์!"เด็กรับใช้ข้างนอกรีบเข้ามา แล้วช่วยกันหามร่างของเซียวเหิงออกไปทันทีแม่เซียวก็ร้องไห้ตามออกไปทั้งน้ำตาพ่อเซียวมองดูรอยเลือดที่ยังติดอยู่บนแส้ ในใจพลันปวดร้าว สายตาหันไปมองหนิงซวงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ แล้วก็ทำได้แค่ถอนหายใจ "ไม่ใช่ว่าข้าไม่คิดจะช่วยเรื่องนี้ เพียงแต่เมื่อครู่ เจ้าก็เห็นกับตาแล้ว... เจ้ากลับไปก่อนเถอะ!"พูดจบ พ่อเซียวก็เดินจากไปทิ้งไว้เพียงหนิงซวงที่ยังยืนร้องไห้อยู่กับที่อย่างไร้ที่พึ่งนางไม่คิดเลยว่าแม่ทัพเซียวจะปากแข็งถึงเพียงนี้ ถึงขนาดยอมถูกตีจวนตายก็ไม่ยอมเอ่ยถึงเบาะแสของคุณหนูเลยสักคำแต่ถ้าคนที่พาตัวคุณหนูไปคือแม่ทัพเซียว เช่นนั้นคุณหนูของนางก็คงยังไม่มีอันตรายถึงชีวิตใช่ไหม?หากนายท่านเองยังไม่มีวิธีจัดการแม่ทัพเซียว เช่นนั้น บางทีคุณชายใหญ่อาจจะทำอะไรได้บ้างก็เป็นได้?หนิงซวงตัดสินใจว่าจะรอให้คุณชายใหญ่ฟื้นก่อนค่อยมาถาม……เฉียวเนี่ยนลืมตาขึ้นช้า ๆ สิ่งแรก

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 491

    หนิงซวงก็เห็นรอยขีดข่วนบนลำต้นไม้เช่นกันนางรีบลุกขึ้นยืน คว้าชายแขนเสื้อของหวังเอ้อไว้แน่น "ต้นเหมยแดงต้นนี้รองแม่ทัพจิ่งเป็นคนปลูกเอาไว้ คุณหนูไม่มีทางทำร้ายมันเด็ดขาด! หวังเอ้อ ทำยังไงดี! คุณหนูต้องถูกใครจับตัวไปแน่ ๆ !"รอยขีดนี้ ต้องเป็นรอยที่คุณหนูทิ้งไว้ตอนดิ้นรนขัดขืนแน่ ๆ !หวังเอ้อเองก็ร้อนใจเช่นกัน แต่ก็ตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว "เจ้าจงไปแจ้งข่าวให้ตระกูลเซียว ข้าจะไปหาท่านโหวน้อยที่จวนโหว!"แม้ว่าคุณหนูจะตัดขาดความสัมพันธ์กับจวนโหวแล้ว แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ เขาเชื่อว่าท่านโหวน้อยต้องยื่นมือเข้าช่วยแน่ส่วนตระกูลเซียว แม้ว่าคุณหนูของนางจะหย่าขาดกับคุณชายใหญ่ไปแล้ว ทว่าเพิ่งจะกลับมาได้ไม่นาน คิดว่าตระกูลเซียวคงไม่เพิกเฉยแน่นอนไม่อย่างนั้นแล้ว ลำพังเขากับหนิงซวงแค่สองคน จะไปช่วยคุณหนูได้อย่างไรกัน?เมื่อได้ฟังเช่นนั้น หนิงซวงก็พยักหน้ารัว ๆ แล้วรีบปาดน้ำตา ก่อนจะวิ่งออกจากจวนไปอย่างเร่งรีบไม่นานนัก นางก็วิ่งไปถึงตระกูลเซียว พอเห็นพ่อเซียวกับแม่เซียว ก็ทรุดลงคุกเข่าในทันที "นายท่าน ฮูหยิน ได้โปรดช่วยคุณหนูของข้าด้วยเถิด! คุณหนูของข้าถูกคนจับตัวไปแล้ว!"เมื่อได้ยิ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 490

    เขาไม่คาดคิดเลยว่าตนเองจะได้รับความไว้วางใจจากคุณหนูใหญ่ถึงเพียงนี้จึงพยักหน้าแรง ๆ หลายครั้ง "เช่นนั้นบ่าวจะไปเตรียมการเดี๋ยวนี้ คุณหนูวางใจได้ ภายในสามวันเรื่องนี้ต้องแล้วเสร็จแน่นอน จะไม่ขาดไปแม้แต่ตำลึงเดียวขอรับ"เมื่อได้ยินดังนั้น เฉียวเนี่ยนจึงยิ้มแย้มอย่างงดงาม "ดี"หวังเอ้อจึงคำนับแล้วถอยออกไปขณะเดียวกันใจของเฉียวเนี่ยนก็พลันจมดิ่งลงสู่หุบเหวคำพูดของแม่เซียวเมื่อครู่นั้นยังคงก้องอยู่ข้างหูโดยเฉพาะประโยคนั้นที่ว่า 'ดาวกาลกิณีไร้คู่ ไร้วิธีแก้ไข' ช่างราวกับมีดเล่มหนึ่งที่คอยเฉือนนางอย่างไม่หยุดยั้งผู้คนที่นางใกล้ชิดที่สุดต่างทยอยจากนางไปทีละคนแต่แม่เซียวกลับบอกนางว่า ทุกสิ่งล้วนเป็นเพราะตัวนางเองเจ็บปวดราวกับหัวใจถูกฉีกออกเป็นริ้ว ๆเฉียวเนี่ยนกำหมัดแน่น สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังสวนดอกไม้ต้นเหมยแดงต้นนั้น บัดนี้หาได้เป็นเพียงต้นเปล่าโล้นเช่นก่อนออกเรือนไม่มันแตกหน่อใบเขียวออกมาแล้ว ที่ปลายกิ่งเต็มไปด้วยชีวิตชีวาอันเจิดจ้าจนถึงเวลานี้ ความเจ็บปวดที่แน่นอัดในอกของเฉียวเนี่ยนจึงคล้ายจะทุเลาลงบ้างนางเดินมาหยุดใต้ต้นไม้ ลูบไล้ลำต้นอย่างแผ่วเบา ภ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 489

    เฉียวเนี่ยนพูดจบก็เตรียมจะเดินออกไป แต่ไม่คาดคิดว่าแม่เซียวกลับรีบคว้ามือของนางไว้ใบหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึก"เนี่ยนเนี่ยน แม่ก็เห็นเจ้ามาตั้งแต่เล็กจนโต... แม่ผิดเอง กำไลนี้..." แม่เซียวพูดพลางยื่นกำไลข้อมือของตัวเองมาให้เฉียวเนี่ยนแต่ยังไม่ทันได้สวมให้เฉียวเนี่ยน ก็ถูกห้ามไว้เสียก่อนเฉียวเนี่ยนจับมือของแม่เซียวไว้ แล้วยิ้มบาง ๆ "ท่านป้าไม่ต้องทำเช่นนี้หรอกเจ้าค่ะ ข้าเองก็จะไปอยู่แล้ว ตอนนี้แค่เร็วกว่าที่คิดไว้เล็กน้อยเท่านั้นเอง สำหรับกำไลนี้ ข้ารับไว้ไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ"ยิ่งไปกว่านั้น บนข้อมือของนางเองก็มีกำไลหยกอยู่แล้วแม้มันจะไม่ค่อยสวย แต่สำหรับนางแล้วมันมีค่ามากยิ่งนักนางไม่อาจถอดกำไลนั้นออกมาเพื่อใส่กำไลอีกอันหนึ่งได้เฉียวเนี่ยนค่อย ๆ ดึงมือของตัวเองออก แล้วหมุนตัวกลับไป โดยไม่หยุดแม้แต่นิดเดียวหนิงซวงเห็นเฉียวเนี่ยนเดินออกมา ก็รีบเร่งฝีเท้าตามไปอย่างรวดเร็วทว่าไม่คาดคิดว่าเฉียวเนี่ยนกลับไม่พูดอะไรสักคำ เดินตรงไปข้างหน้าอย่างเงียบงันหนิงซวงจึงไม่ได้กล้าถามอะไรมาก เพียงเร่งฝีเท้าตามหลังอย่างกระชั้นชิดใครจะไปคิดว่า เดินตามไปเรื่อย ๆ สุดท้ายกลับมาหยุดอยู่ที่เร

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 488

    แม่เซียวกลับค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน แล้วทำท่าจะคุกเข่าลงต่อหน้าเฉียวเนี่ยนเฉียวเนี่ยนตกใจยิ่ง รีบเข้าไปประคองไว้ก่อนที่หัวเข่าของแม่เซียวจะแตะพื้น "ท่านแม่จะทำเช่นนี้ไปเพื่อสิ่งใดกันเจ้าคะ?!"แม่เซียวที่ลุกขึ้นยืนแล้ว น้ำตาไหลนองเต็มใบหน้า"เนี่ยนเนี่ยน เป็นตระกูลเซียวของเราที่ล่วงเกินเจ้า แต่ข้าก็จนปัญญาจริง ๆ บอกตามตรงนะ ตอนที่ข้าได้ยินข่าวลือจากข้างนอก ข้าก็นำวันเดือนปีเกิดของเจ้าไปให้มหาเถระฉือเอินที่วัดฝ่าหัวดู เดิมทีก็แค่อยากให้ท่านมหาเถระช่วยชี้แนะหาทางแก้ไข ทว่าในกระดาษพยากรณ์ที่ท่านส่งกลับมา มีเพียงว่า ดาวกาลกิณีไร้คู่ ไม่มีทางแก้ไข!"แม่เซียวทั้งร้องไห้ทั้งพูด เสียงสั่นสะอื้นฟังดูเวทนายิ่งนักส่วนเฉียวเนี่ยนนั้น ถึงกับยืนตะลึงนิ่งงันนางคือดาวกาลกิณีไร้คู่เช่นนั้นหรือ?ถึงได้ทำให้คนรอบตัวที่นางรักต้องจากไปทีละคนเช่นนี้งั้นหรือ?กลางอกปวดร้าวราวกับถูกมีดกรีดแทง ในชั่วขณะนั้น เฉียวเนี่ยนรู้สึกราวกับแม้แต่การหายใจก็เป็นเรื่องยากยิ่งแต่แม่เซียวก็ยังคงสะอื้น พลางปาดน้ำตาไปด้วย "เดิมทีข้าคิดว่า หากเหอเอ๋อร์ไม่เป็นอะไร กระดาษพยากรณ์นี้ก็คงไม่น่าเชื่อถือ แต่ตอนนี้…"เฉียวเนี่ยน

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status