Home / วัยรุ่น / พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา / บทที่ 9 ยุ่งเรื่องของเธอ

Share

บทที่ 9 ยุ่งเรื่องของเธอ

last update Last Updated: 2025-03-07 20:27:39

วันรุ่งขึ้นช่วงหลังเลิกเรียน อาเรียก็รีบไปยื่นใบสมัครขอทำงานที่ห้องสมุดโรงเรียน

งานส่วนใหญ่ที่นี่จะเป็นการจัดเรียงหนังสือที่นักเรียนคนอื่น ๆ นำมาคืนใส่เข้าชั้นให้เรียบร้อย หรือในบางครั้งก็อาจต้องช่วยอาจารย์บรรณารักษ์ในการอำนวยความสะดวกการหยิบยืมหนังสือเล่มต่าง ๆ และงานทั้งหมดนี้ จะได้ทำเพียงช่วงพักกลางวันและช่วงบ่ายหลังเลิกเรียนไม่เกินหกโมงเย็นเท่านั้นแหละ

ก็ถือว่าเป็นงานที่สบายใช้ได้เลยทีเดียว นอกจากนี้เธอยังชอบใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับหนังสือเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว

แต่อย่างไรวันนี้เธอก็ยังต้องไปร้องเพลงที่ร้านอาหารตามที่รับปากกับผู้จัดการร้านอยู่ดี อย่างน้อยก็จะได้เก็บเงินบางส่วน และหากชวดงานนี้ก็จะไม่เสียโอกาสไปโดยสูญเปล่าด้วย

เพียงแต่...

‘เชื่อฉัน งานห้องสมุดดีกว่าเยอะ’ อยู่ ๆ เธอก็หวนนึกถึงคำพูดของเขาขึ้นมาเสียอย่างนั้น แล้วก็ลำบากเธอมานั่งชั่งใจอีก...

แต่ตอนนี้ที่บ้านเธอก็ยังไม่ถือว่าไม่ได้มีปัญหาขนาดที่จะต้องไปลำบากทำงานขนาดนั้นหรอก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็อยากจะทำอะไรที่พอจะช่วยเหลือได้บ้าง

ระหว่างที่กำลังนั่งคิดอย่างถี่ถ้วนเวลาก็ค่อย ๆ ผ่านไปเรื่อย ๆ จนสุดท้ายก็ไม่ได้ไปร้องเพลงที่ร้านอาหารจนได้...

พึ่บ!

ก่อนที่อาเรียจะทันได้คิดอะไรเรื่อยเปื่อยต่อ ร่างสูงของใครบางคนที่ไม่ได้รับเชิญก็เดินเข้ามาทิ้งตัวนั่งลงข้างกัน

“นาย?”

อาเรียมีสีหน้าตกใจ ตอนแรกเธอไม่รู้ว่าควรจะเอ่ยทักทายเขาอย่างเป็นทางการให้มากกว่านี้หรือเปล่า แต่ด้วยความที่เพิ่งนึกถึงคำพูดของเขาไปอีกฝ่ายก็ปรากฎตัวขึ้นตรงหน้าเสียอย่างนั้น ตายยากเสียจริง! นั่นจึงทำให้เธอไม่รู้จะวางตัวอย่างไร

เจย์เนสหันมองเธอทันควันเมื่อได้ยินอีกฝ่ายเสียงหลง คิ้วหนาขมวดพันกันวุ่น เหมือนเป็นเชิงเอ่ยถามว่า ‘อะไร’

อีกฝ่ายเห็นเขาจ้องมองมาก็รีบหลุบตาลงทันที ก่อนจะพึมพำเพียงให้ตัวเองได้ยิน “ที่ก็มีตั้งเยอะ...”

เธอเปล่ารังเกียจนะ แค่ประหม่าเกินกว่าจะทำใจให้เขาอยู่ใกล้ได้

ถึงจะเป็นแค่เสียงพึมพำ แต่การรับรู้ของแวมไพร์นั้นไวมาก ทำให้เขาจับใจความได้ทุกคำพูดที่เธอพ่นออกมา ก่อนจะสวนกลับด้วยท่าทีเย็นชายิ่งขึ้นกว่าเดิม

“เธอก็ไม่ได้เขียนชื่อเอาไว้บนโต๊ะสักหน่อย”

อาเรียได้ยินแบบนั้นก็เปลือบมองพร้อมสายตาประหลาดใจ ‘นี่พูดเบาจนแทบจะเรียกได้ว่าแอบคิดในใจ เขายังรู้อีกเหรอ’

เจย์เนสไม่ยี่หระต่อท่าทีของเธอแม้แต่น้อย เขาเพียงแค่นั่งลงแล้วเปิดหนังสืออ่านด้วยความสบายใจ ใบหน้าหล่อเหลานิ่งราวรูปน้ำแข็งทำให้อาเรียที่กำลังจ้องมองถึงกับหลุดเข้าไปในภวังค์อย่างช่วยไม่ได้

“มองขนาดนี้ เก็บเอาไปมองที่ห้องด้วยเลยไหม” เขาพูดแต่ก็ยังไม่ได้ละสายตาออกจากหนังสือแม้แต่น้อย

“นายเองก็เหมือนกันนั่นแหละ”

“อะไร...”

“อ่านแบบนั้นรู้เรื่องด้วยเหรอ?”

“?”

“ฉันว่าตีลังกาอ่านน่าจะง่ายกว่านะ ถ้าถือหนังสือแบบนั้นน่ะ...” อาเรียเอ่ยเสียงแผ่ว ท่าทีเหมือนคนไม่กล้าพูดอย่างตรงไปตรงมา แต่ถึงอย่างนั้นก็ทำให้เขาฉุกคิดได้

“.....”

ใบหน้าหล่อขึ้นสีจนลามไปถึงใบหู ก่อนจะรีบลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วเก็บหนังสือของตัวเองก้าวยาวออกไปที่ห้องสมุดทันที

เมื่อพ้นเขตห้องสมุด เขาก็พ่นลมหายใจออกมาด้วยความโล่งอกอย่างบอกไม่ถูก อย่างหนึ่งเป็นเพราะเขาเจอเธออยู่ในห้องสมุดแทนที่จะต้องไปหาตัวในร้านอาหาร

นี่คือเบื้องหลังในสิ่งที่คนอื่นไม่รู้ เขาเพียงแค่มาสังเกตการณ์ว่ายัยแมวขโมยยอมรับความคิดเห็นเรื่องการทำงานที่ห้องสมุดของเขาหรือเปล่า จึงอยากมาดูให้แน่ใจก็เท่านั้นแหละ ไม่ได้สนใจอะไรขนาดนั้นหรอกนะ!

แต่เมื่อสักครู่นี้มันอะไรกัน บ้าเอ๊ย เจย์เนส วันนี้แค่เจอเธอเพียงแค่ไม่กี่นาทีก็ทำเรื่องขายหน้าขนาดนั้นได้แล้วเหรอเนี่ย

ร่างสูงยกมือขึ้นกอบกุมขมับอย่างเหนื่อยหน่าย เห็นทียัยคนนี้จะอันตรายกว่าที่คิดเอาไว้ ควรอยู่ให้ห่างจะดีเสียกว่า

เมื่อดึงสติกลับมาได้ เขาก็รีบเดินตรงกลับไปที่หอพักชาย เพื่อออกไปทานข้าวกับเพื่อน ๆ อย่างที่ทำเป็นประจำ

หลังจากเหตุการณ์ในห้องสมุดวันนั้น จึงทำให้เจย์เนสต้องคอยเว้นระยะห่างกับเธอ ทั้งที่จริง ๆ แล้วก็ไม่ได้ใกล้ชิดขนาดนั้นสักหน่อย

แต่ทุกที่ที่เขาไปมันกลับมีเรื่องของเธออยู่ตลอดเลยเนี่ยสิ ให้ทำไงได้ หรืออันที่จริงแล้วเธอเป็นหัวข้อสนทนาปกติของนักเรียนในโรงเรียน แต่เขาเพิ่งจะถูกสะกิดใจให้ได้ยินมันอย่างนั้นเหรอ

“เจย์เนส...” เสียงหวานดังขึ้นจากข้าง ๆ เมื่อหันไปยังต้นเสียงก็เจอดวงหน้าหวานสวยกำลังโบกมือมาให้เขาอย่างเป็นมิตร ดูเหมือนว่าเธอจะได้งานในห้องสมุดอย่างสมใจอยากแล้วสินะ

เธออยู่ที่นี่ไม่ได้แปลกแต่อย่างใด แต่คำถามก็คือ ตัวเขาเองนั่นแหละมาทำอะไรที่นี่

เฮ้อ ช่วงนี้ชอบหลงเดินมาที่นี่อยู่บ่อยครั้ง เหมือนเป็นอัตโนมัติแทบจะตลอดเลย คิดในใจพลางก้มหน้ามองหนังสือที่อยู่ในมือของตัวเองก่อนจะพบว่ามันเป็นวรรณกรรมเกี่ยวกับความรักของมนุษย์และแวมไพร์

เมื่อเห็นแบบนั้นเขาจึงรีบวางมันกลับเข้าชั้นไปแทบจะทันที ก่อนจะหันหลังให้หญิงสาวที่ยังยืนมองเขาอย่างพินิจแล้วรีบเดินจากไป

อาเรียเห็นแบบนั้นก็หน้ามุ่ยลงเล็กน้อย ว่าเหตุใดเขาจึงต้องเมินกันถึงขนาดนี้ด้วย หรือว่าเธอไม่น่าคบเป็นมิตรสหายด้วยอย่างนั้นหรือเปล่า

แต่ความจริงแล้วนั้นเขาไม่ได้หายออกไปไหนไกลจากอาณาเขตของเธอเลยแม้แต่น้อย หลังจากเดินหันหลังหนีไปแล้ว ก็มาอยู่ตรงช่องชั้นวางหนังสือที่อยู่ห่างจากจุดที่เธอยืนไปประมาณสี่ถึงห้าล็อก แต่ถึงอย่านั้นเขาก็ยังจับจ้องเธอได้อย่างไม่เป็นปัญหา

“เกือบไปแล้ว อย่าเข้ามาใกล้ฉํนเกินไปสิ...” เจย์เนสพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะไปหาที่นั่งตรงมุมห้องสมุดที่พอจะให้ตัวเองอยู่ในซอกหลืบได้

รอจนกระทั่งอาเรียเลิกงานที่ห้องสมุดตามเวลาแล้ว เขาจึงเก็บของแล้วเดินออกไปก่อนที่เธอจะทันได้ไหวตัวทัน

ผู้หญิงอะไรอันตรายเป็นบ้า หรือนี่จะเป็นแผนการอย่างที่ทุกคนต่างพูดถึง ว่าท่านมาร์ลอนแห่งตระกูลฟลอเรนซ์กำลังหาชายหนุ่มจากตระกูลสูงศักดิ์เพื่อมาแต่งกับบุตรสาวของเขา

แม่สาวฟลอเรนซ์หว่านสเน่ห์ได้ดีจนน่าตกใจ คงเป็นเพราะทางบ้านอบรมเรื่องการวางตัวและมารยาทมนการโปรยสเน่ห์มาอย่างดี เธอแค่ตั้งใจจะจับผู้ชายหรือเปล่าเนี่ย

เจย์เนสคิดถึงความเป็นไปได้ และหากเป็นเช่นนั้น ก็ต้องขอบอกเลยว่าทำได้ดีจนเขาเกือบจะหลงกลเชียวล่ะ รู้ว่าการคิดแบบนี้ไม่ใช่เรื่องดี แต่เขาก็อดสงสัยเสียไม่ได้

แต่สิ่งที่พลาดไปก็คือ เขาไม่ได้ไตร่ตรองความรู้สึกของตัวเองอย่างถี่ถ้วนเลยแม้แต่น้อย ว่าแท้จริงแล้วรู้สึกอย่างไรกันแน่ ก็เขาไม่เคยเสียอาการขนาดนี้เลยนี่นา ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของฟลอเรนซ์ทั้งนั้น

พูดง่าย ๆ ก็คือเขาตั้งใจจะดึงทุกอย่างมาโทษยกเว้นตัวเองนั่นแหละ

“นี่ องค์ชาย” เสียงเรียกของเซบาสเตียนทำให้เขาดึงสคิกลับมา ก่อนจะพบว่าตัวเองกำลังยืนจังงังอยู่ตรงโซฟาห้องนั่งเล่นรวม

“เอ๊ะ?”

“เป็นอะไรไป เรียกตั้งนานกว่าจะตอบ”

“เปล่าหนิ ขอตัวนะ”

ว่าจบก็รีบกระชับสายสะพายกระเป๋าแน่นแล้วเดินขึ้นห้องนอนของตัวเองไป

Related chapters

  • พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา   บทที่ 10 ใครเร็วใครได้

    เทศกาลคริสต์มาสเริ่มใกล้เข้ามา บรรยากาศภายในโรงเรียนก็ครึกครื้นมากขึ้น ต้นคริสต์มาสขนาดใหญ่ถูกนำมาจัดเตรียมเพื่อวางกลางโถงหอประชุมนอกจากนี้ ตามธรรมเนียมในทุกปี โรงเรียนจะจัดงานเลี้ยงในคืนวันที่ยี่สิบสามธันวาคม โดยให้นักเรียนหาคู่ควงไปร่วมงานกัน ทั้งนี้ก็เพื่อการสานสัมพันธ์ไมตรีระหว่างนักเรียนนั่นเอง ไม่เพียงแค่นักเรียนในโรงเรียนนี้เท่านั้น แต่ยังมีโรงเรียนราชนิกุลจากที่อื่นมาร่วมฉลองด้วยอีกต่างหากแต่สำหรับเจย์เนสแล้ว มันเป็นงานเลี้ยงที่เขามองว่าน่าเบื่อที่สุดเลยก็ว่าได้ ก็เขาไม่ชอบความวุ่นวาย นอกจากนี้ยังเกลียดการตกเป็นเป้าของผู้หญิงเกือบแทบทุกคนในโรงเรียนอีก เพราะไม่ว่าใครก็ต่างอยากควงคู่กับเขาออกงานใหญ่ทั้งนั้นแต่ธรรมเนียมก็คือธรรมเนียม เขาไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้อยู่แล้ว นอกจากนี้เขาก็มีวิธีจัดการกับความชุลมุนที่จะโถมเข้ามาเชิญชวนเขาไปงานด้วยอย่างยุติธรรมอยู่แล้ว โดยถือคติว่า “ใครเร็วใครได้” ซึ่งมันก็ช่วยให้เขาไม่ต้องเสียเวลาต้องเลือกมากด้วยทันทีที่เสียงระฆังดังบอกเลิกเรียน สาว ๆ ในห้องของเจย์เนสรวมถึงจากห้องอื่นก็ต่างกรูกันเข้ามาในคลาสเอส ความชุลมุนนั้นแออัดจนแทบจะไม่มีช่องทางให

    Last Updated : 2025-03-08
  • พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา   บทที่ 11 พัสดุส่งตรงที่มาพร้อมความคาดหวัง

    อาเรียมองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยท่าทีชั่งใจก่อนจะสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วบอกกล่าวไปตามตรง “ขอบคุณนะ... แต่ฉันคิดว่าฉันคงไม่ไปร่วมงานนั้นหรอก”คำพูดนั้นทำให้มาร์คัสชะงัก ใบหน้าของเขาดูผิดหวังเล็กน้อย “ทำไมล่ะ งานออกจะสนุก”“ฉันไม่คิดว่ามันเหมาะกับฉันหรอก” เธอตอบพลางหลบสายตา แต่ทุกคนก็เข้าใจได้ว่าเป็นเพราะเรื่องอะไรเธอจึงเลี่ยงออกงานสังคมขนาดนี้ลิเลียนเหลือบมองอาเรียด้วยสายตาเศร้าสร้อย หากอาเรียยืนกรานปฏิเสธคนที่มาชวนถึงขนาดนี้ เธอก็คงไม่ไปจริง ๆ แล้วล่ะในขณะที่มาร์คัสเองก็ถอนหายใจอย่างนึกเสียดายเช่นกัน “ถ้าอย่างนั้น เป็นว่าถ้าเธอเปลี่ยนใจก็บอกฉันได้ทุกเมื่อเลยนะ”“ขอบคุณ” อาเรียตอบกลับอย่างสุภาพพร้อมรอยยิ้มเพื่อแสดงมารยาทเมื่อเห็นว่ามาร์คัสและเพื่อน ๆ เดินจากไปแล้ว เจย์เนสถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกแล้วจะโล่งบ้าโล่งบออะไร! แต่ความรู้สึกว้าวุ่นเดือดเนื้อร้อนใจในตอนแรกมันหายไปเป็นปลิดทิ้งอย่างน่าเหลือเชื่อเลยล่ะแต่ก่อนที่เขาจะเดินกลับออกไป หญิงสาวทั้งสองคนก็เดินผ่านบริเวณที่ตัวเขายืนอยู่พอดี นั่นทำให้เจย์เนสรีบดึงสีหน้าเมินเฉยราวกับว่าไม่ได้เห็นการมาถึงของพวกเธอ แล้วเดินลอยหน้าลอยตาออกไป

    Last Updated : 2025-03-08
  • พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา   บทที่ 12 จงใจหักหน้ากันหรือเปล่า

    “ขอคุยด้วยหน่อยได้ไหมพ่อรูปหล่อ” เอเดรียนกระซิบแซวกับเซบาสเตียน แต่ถึงจะกระซิบด้วยเสียงที่เบาแค่ไหน เจย์เนสก็ได้ยินอยู่ดีสายตาคมปรายมองเพื่อนของตน ทำให้พวกเขาต้องรีบหลบสายตาแล้วแอบไปหัวเราะอย่างชอบใจกันยกใหญ่“มีธุระอะไร” เขาถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา แต่ลึก ๆ แล้วก็ให้ความสนใจอยู่ไม่น้อยว่าเธอจะพูดเรื่องอะไรกันแน่อาเรียเม้มปากเล็กน้อย ขณะที่มองสายตาของเขา เธอชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งว่าจะพูดออกไปเลยดีไหม แต่เมื่อเห็นว่าเพื่อน ๆ ของเจย์เนสต่างจ้องมองเธอด้วยความอยากรู้ เธอก็เปลี่ยนใจ“ไปคุยตรงนู้นได้ไหม?” เธอเอ่ยพร้อมชี้ไปยังมุมที่ไกลออกไปจากกลุ่มเพื่อนของเขาเล็กน้อยเจย์เนสถอนหายใจ อนแรกอาเรียคิดว่าเขาจะไม่ยอมเดินไปตามคำขอ แต่แล้วไม่นานเขาก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เตรียมพร้อมจะเดินไปกับเธอเสียอย่างนั้น“หวังว่าจะเป็นเรื่องสำคัญ” ว่าจบก็เดินนำไปตรงจุดที่เธอชี้มาเมื่อสักครู่ในขณะเดียวกันกลุ่มเพื่อนของเขาก็ยังนั่งหัวเราะคิกคักส่งสายตาแซวตามหลังทั้งสองคนไป“แหม องค์ชาย มีสาวเรียกไปคุยส่วนตัวด้วยแฮะ” เอเดรียนเอ่ยแซวไล่หลังไป“อยากใส่ใจจังเลยว่าเรื่องอะไร” ลูคัสเองก็ไม่น้อยหน้า เอ่ยแซวไปพร้อมกัน ในขณ

    Last Updated : 2025-03-08
  • พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา   บทนำ

    ฤดูใบไม้ร่วงหวนกลับมาอีกครั้ง ตามมาด้วยลมหนาวที่คืนสู่เมืองใหญ่ซึ่งเคลื่อนผ่านสนามหญ้าอันกว้างขวางของ เซนต์โยเซีย อะเคเดมีปราสาทสูงใหญ่ที่ถูกออกแบบมาในรูปแบบสถาปัตยกรรมกอทิค ตั้งสูงตระหง่านอยู่บนเนินเขา ตัวปราสาทล้อมรอบไปด้วยรั้วสูงเกือบเท่าตัว หอคอยหลายชั้นตั้งเรียงตัวต่อกันจนสูงชะลูด เป็นสถานที่ซึ่งปราศจากการมองเห็นจากคนนอกที่ไม่ได้ถูกต้อนรับเข้าสู่โลกแห่งความพิศวง นอกจากนี้เถาวัลย์ที่เลื้อยปกคลุมตัวอาคารนั้นยังเผยให้เห็นถึงความเก่าแก่ของโรงเรียนแห่งนี้อีกด้วยซึ่งหากมองจากภายนอกแล้ว ดูเหมือนจะเงียบร้างอย่างไรอย่างนั้น แต่มันก็เป็นเพียงฉากหน้าเท่านั้นแหละ เพราะอันที่จริงแล้ว ภายใต้อาคารใหญ่ต่างมีผู้คนต่างพลุกพล่านไปทั่ว โดยเฉพาะในห้องโถงประชุม เนื่องด้วยวันนี้เป็นวันมอบตัวเพื่อส่งนักเรียนเข้าศึกษา ณ อะคาเดมีแห่งนี้มีทั้งลูกหลานตระกูลแวมไพร์ และด้วยความที่ที่อะคาเดมีแห่งนี้ถูกก่อตั้งมามากกว่าหนึ่งร้อยปีแล้ว จึงมีตระกูลมนุษย์ผู้ดีเก่าแก่ที่ได้อภิสิทธืในการส่งลูกหลานของตระกูลตัวเองเข้ามาเรียนในสถานที่แห่งนี้เช่นกันการมีโรงเรียนแห่งนี้กำเนิดขึ้นก็นับเป็นอุบัติการณ์ของโลกแวมไพร์ที่สาม

    Last Updated : 2025-03-02
  • พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา   บทที่ 1 อาเรียน่า ฟลอเรนซ์

    ชีวิตในโรงเรียนสำหรับพวกนักเรียนแวมไพร์เป็นเรื่องที่ไม่ได้ยากลำบากนัก แต่กลับเป็นที่น่ากดดันสำหรับพวกนักเรียนมนุษย์ ด้วยความที่โรงเรียนนี้เต็มไปด้วยเหล่าลูกหลานชนชั้นสูงของตระกูลแวมไพร์จากทั่วทุกมุมโลก มันจึงเกิดเป็นชนชั้นทางสังคมภายในโรงเรียนขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดสำหรับเจย์เนสกับเรย์เน่แล้วเรื่องนี้ไม่ได้เป็นปัญหาเลยสักนิด พวกเขาเป็นถึงลูกหลานของเชื้อพระวงศ์จากตระกูลแวมไพร์ที่เรียกได้ว่าเก่าแก่ที่สุด แล้วมีหรือที่นักเรียนคนอื่นจะกล้าล้ำเส้นมาจัดชนชั้นให้กับพวกเขาเรียกได้ว่าอยู่เหนือห่วงโซ่ของพวกหัวสูงอย่างสบาย ๆ เลยล่ะ“นั่นเจย์เนสใช่ไหม”“ใช่ หล่อมากเลยเนอะ”“หล่อที่สุดเท่าที่เคยเจอพวกผู้ชายมาเลยล่ะ”“เคยเห็นพ่อเขาหรือยัง เหมือนกันอย่างกับฝาแฝดแหนะ”“แสดงว่าเบ้าหน้าดีทั้งบ้านเลยสิ”“เรียนดี กีฬาเด่น หน้าหล่อ ตรงสเป็คสุด ๆ เลย”“เสียดาย อันตรายเกินไปหน่อย”เสียงเจื้อยแจ้วของพวกนักเรียนหญิงดังขึ้นตลอดทางที่เจย์เนสเดินผ่าน ยอมรับว่าสมัยที่เพิ่งเข้ามาเรียนใหม่ ๆ แล้วเจอเหตุการณ์เช่นนี้เขามักจะทำตัวไม่ถูก แต่เมื่อวันเวลาผ่านไปก็ปรับตัวได้อย่างน่าเหลือเชื่อ กลายเป็นไม่ยี่หระต่อสิ่งรอบข้า

    Last Updated : 2025-03-02
  • พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา   บทที่ 2 เกมท้าทายความกล้าหาญ

    หลังจากวันหยุดสุดสัปดาห์ผ่านไป เจย์เนสและเรย์เน่ก็กลับเข้ารั้วโรงเรียนอีกครั้ง สองพี่น้องใช้ชีวิตในรั้วโรงเรียนอย่างสงบสุข แต่ทว่าความสงบสุขนี้ดูเหมือนจะไกลเกินเอื้อมสำหรับหญิงสาวอย่าง อาเรียน่า ฟลอเรนซ์เพราะหลังจากเหตุการณ์ในห้องสมุด โซเฟียก็เพ่งเล้งเธออยู่แทบตลอดเวลา และเจ้าหล่อนก็ดูเหมือนจะไม่ปล่อยให้อาเรียได้อยู่อย่างสงบสุขอีกเลยวันนี้ก็เช่นกัน..."เธอคิดว่าตัวเองพิเศษมากนักเหรอ?" โซเฟียเริ่มต้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน "แค่เจย์เนสเสียสละยอมให้หนังสือไป อย่าได้คิดสำคัญตัวเองเชียว" ไม่ว่าเปล่ายังจับจ้องไปยังปกหนังสือที่อยู่ในมือเรียวของอาเรียอีกต่างหากแต่หญิงสาวไร้ซึ่งการตอบโต้แต่อย่างใด เพียงแค่ก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือในมือและพยายามไม่สนใจต่อสิ่งเร้าที่เข้ามารบกวนก็แค่พวกแมลงหวี่แมลงวันเท่านั้นล่ะ...“ฉันพูดกับเธออยู่นะ แม่สาวฟลอเรนซ์” ไม่ว่าเปล่ายังยื่นหน้าเข้ามาใกล้ และความใกล้นั้นก็ทำเอาคนที่ตั้งใจเมินถึงกับหลุดสมธิเลยทีเดียวสายตาของอาเรียละออกจากหนังสือก่อนจะถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย ก่อนจะตอบกลับในทันควัน“ฉันไม่เคยสำคัญตัวเองหรอกนะ เธอเข้าใจผิดแล้วล่ะ” ถึงแม้จะเป็นประโยคที่ดู

    Last Updated : 2025-03-02
  • พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา   บทที่ 3 ยัยแมวขโมย

    “นะ...นายเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่” สองนิ้วเรียวพันวนกันไปมาแสดงความประหม่าอย่างชัดเจน“นี่ห้องฉัน...” เขากดเสียงต่ำพลางเดินเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อย ๆ “แล้วอีกอย่าง ฉันอยู่ในนี้มาตลอด”ว่าจบก็มาหยุดยืนประชันหน้ากับเธอเข้าพอดี เขาจ้องมองหญิงสาวที่กำลังกก้มหน้างุดมองปลายเท้าอยู่เพียงครู่หนึ่ง“บางที นายควรจะเปิดไฟสักหน่อย...”ได้ยินแบบนั้น แวมไพร์หนุ่มก็แสยะยิ้มขึ้นมุมปาก ก่อนจะค่อย ๆ โน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ราวกับอยากจะพินิจแววตาของเธอให้ชัดเจนยิ่งขึ้นอาเรียที่เห็นว่ามันใกล้เกินไปก็ค่อย ๆ เบี่ยงตัวหลบไปด้านหลังจนเกือบหงายลงไปทั้งร่าง แต่ทันทีที่เธอเกือบจะล้มลงไปนั้น มือหนาของเขาประคองร่างเอาไว้ได้ทันเสียก่อน“เธอผิดประเด็นไปหรือเปล่า เห็นได้ชัดว่าเธอมาอยู่ในที่ที่ไม่ควรอยู่เอง ทำไมถึงได้มาตั้งคำถามใส่ฉัน”ไม่เพียงแค่พูดเท่านั้น หลังจากประคองร่างเธอให้ทรงตัวได้แล้ว เขาก็ยังยังคว้าจับข้อมือข้างหนึ่งของเธอ ซึ่งดูหมือนกำลังแอบซ่อนสิ่งของบางอย่างเอาไว้ในกำปั้นเล็กนั่น"ขโมยของเหรอ" น้ำเสียงนิ่งสงบแต่เฉียบขาด “เข็มกลัดนี่ขายไม่ได้ราคาหรอกคุณฟลอเรนซ์” ไม่ว่าเปล่ายังส่งสายตาเย็นชาใส่อย่างต่อเนื่อง“ฉ

    Last Updated : 2025-03-05
  • พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา   บทที่ 4 ความช่วยเหลือ

    “เป็นอะไรไปน่ะแบรดฟอร์ด ทำไมนอนคุดคู้แบบนั้น”เมื่อได้ยินเสียงอาจารย์ใกล้มาก แขนเรียวเล็กก็คว้ากอดร่างของคนตัวสูงเข้าเต็มปังเหมือนคอยลุ้นตามว่าจะโดนจับได้หรือเปล่า ทำเอาเจย์เนสชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ก็ยังพยายามดึงน้ำเสียงให้มั่นคงแล้วตอบกลับอาจารย์ไป“ปวดท้องครับ แต่...เดี๋ยวก็หายแล้ว”“งั้นเหรอ อืม ดูแลตัวเองแล้วกันนะ” ที่พูดเช่นนั้นเป็นเพราะอาจารย์ก็ไม่นึกฝันว่าแวมไพร์จะป่วยได้ เขาจึงไม่มีชุดความรู้ทางด้านนี้มาให้คำแนะนำว่าจะต้องทำเช่นไร จึงเลี่ยงหลบออกไปเสียดีกว่าเสียงประตูปิดลงพร้อมกับความเงียบที่หวนคืนสู่ห้อง แต่ทั้งคู่ก็ยังนอนนิ่งต่อไปอีกสักพักเพื่อให้แน่ใจว่าอาจารย์จะไม่ย้อนกลับมาเปิดประตูห้องอีกอาเรียนอนนิ่งอยู่ใต้ผ้าห่ม ความเงียบนั้นทำให้เสียงหัวใจของเธอที่เต้นโครมครามเด่นชัดขึ้นอย่างน่าอาย“ปลอดภัยแล้ว” เขาพูดพลางมองไปที่ประตู แล้วหลังจากนั้นอาเรียก็รีบผุดใบหน้าแดงก่ำออกมาจากผ้าห่มเหมือนแอบสังเกตการณ์ก่อนจะตัดสินใจว่าจะลุกหรือไม่ลุกดี “ปล่อยได้แล้วมั้ง”เจย์เนสนอนนิ่งเมื่อยังมีแขนเรียวของอาเรียพาดกอดตัวเองอยู่ หญิงสาวที่เพิ่งรู้ตัวว่าทำเรื่อถือวิสาสะก็รีบปล่อยกอดพร้อมลุกพรวดอ

    Last Updated : 2025-03-05

Latest chapter

  • พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา   บทที่ 12 จงใจหักหน้ากันหรือเปล่า

    “ขอคุยด้วยหน่อยได้ไหมพ่อรูปหล่อ” เอเดรียนกระซิบแซวกับเซบาสเตียน แต่ถึงจะกระซิบด้วยเสียงที่เบาแค่ไหน เจย์เนสก็ได้ยินอยู่ดีสายตาคมปรายมองเพื่อนของตน ทำให้พวกเขาต้องรีบหลบสายตาแล้วแอบไปหัวเราะอย่างชอบใจกันยกใหญ่“มีธุระอะไร” เขาถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา แต่ลึก ๆ แล้วก็ให้ความสนใจอยู่ไม่น้อยว่าเธอจะพูดเรื่องอะไรกันแน่อาเรียเม้มปากเล็กน้อย ขณะที่มองสายตาของเขา เธอชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งว่าจะพูดออกไปเลยดีไหม แต่เมื่อเห็นว่าเพื่อน ๆ ของเจย์เนสต่างจ้องมองเธอด้วยความอยากรู้ เธอก็เปลี่ยนใจ“ไปคุยตรงนู้นได้ไหม?” เธอเอ่ยพร้อมชี้ไปยังมุมที่ไกลออกไปจากกลุ่มเพื่อนของเขาเล็กน้อยเจย์เนสถอนหายใจ อนแรกอาเรียคิดว่าเขาจะไม่ยอมเดินไปตามคำขอ แต่แล้วไม่นานเขาก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เตรียมพร้อมจะเดินไปกับเธอเสียอย่างนั้น“หวังว่าจะเป็นเรื่องสำคัญ” ว่าจบก็เดินนำไปตรงจุดที่เธอชี้มาเมื่อสักครู่ในขณะเดียวกันกลุ่มเพื่อนของเขาก็ยังนั่งหัวเราะคิกคักส่งสายตาแซวตามหลังทั้งสองคนไป“แหม องค์ชาย มีสาวเรียกไปคุยส่วนตัวด้วยแฮะ” เอเดรียนเอ่ยแซวไล่หลังไป“อยากใส่ใจจังเลยว่าเรื่องอะไร” ลูคัสเองก็ไม่น้อยหน้า เอ่ยแซวไปพร้อมกัน ในขณ

  • พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา   บทที่ 11 พัสดุส่งตรงที่มาพร้อมความคาดหวัง

    อาเรียมองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยท่าทีชั่งใจก่อนจะสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วบอกกล่าวไปตามตรง “ขอบคุณนะ... แต่ฉันคิดว่าฉันคงไม่ไปร่วมงานนั้นหรอก”คำพูดนั้นทำให้มาร์คัสชะงัก ใบหน้าของเขาดูผิดหวังเล็กน้อย “ทำไมล่ะ งานออกจะสนุก”“ฉันไม่คิดว่ามันเหมาะกับฉันหรอก” เธอตอบพลางหลบสายตา แต่ทุกคนก็เข้าใจได้ว่าเป็นเพราะเรื่องอะไรเธอจึงเลี่ยงออกงานสังคมขนาดนี้ลิเลียนเหลือบมองอาเรียด้วยสายตาเศร้าสร้อย หากอาเรียยืนกรานปฏิเสธคนที่มาชวนถึงขนาดนี้ เธอก็คงไม่ไปจริง ๆ แล้วล่ะในขณะที่มาร์คัสเองก็ถอนหายใจอย่างนึกเสียดายเช่นกัน “ถ้าอย่างนั้น เป็นว่าถ้าเธอเปลี่ยนใจก็บอกฉันได้ทุกเมื่อเลยนะ”“ขอบคุณ” อาเรียตอบกลับอย่างสุภาพพร้อมรอยยิ้มเพื่อแสดงมารยาทเมื่อเห็นว่ามาร์คัสและเพื่อน ๆ เดินจากไปแล้ว เจย์เนสถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกแล้วจะโล่งบ้าโล่งบออะไร! แต่ความรู้สึกว้าวุ่นเดือดเนื้อร้อนใจในตอนแรกมันหายไปเป็นปลิดทิ้งอย่างน่าเหลือเชื่อเลยล่ะแต่ก่อนที่เขาจะเดินกลับออกไป หญิงสาวทั้งสองคนก็เดินผ่านบริเวณที่ตัวเขายืนอยู่พอดี นั่นทำให้เจย์เนสรีบดึงสีหน้าเมินเฉยราวกับว่าไม่ได้เห็นการมาถึงของพวกเธอ แล้วเดินลอยหน้าลอยตาออกไป

  • พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา   บทที่ 10 ใครเร็วใครได้

    เทศกาลคริสต์มาสเริ่มใกล้เข้ามา บรรยากาศภายในโรงเรียนก็ครึกครื้นมากขึ้น ต้นคริสต์มาสขนาดใหญ่ถูกนำมาจัดเตรียมเพื่อวางกลางโถงหอประชุมนอกจากนี้ ตามธรรมเนียมในทุกปี โรงเรียนจะจัดงานเลี้ยงในคืนวันที่ยี่สิบสามธันวาคม โดยให้นักเรียนหาคู่ควงไปร่วมงานกัน ทั้งนี้ก็เพื่อการสานสัมพันธ์ไมตรีระหว่างนักเรียนนั่นเอง ไม่เพียงแค่นักเรียนในโรงเรียนนี้เท่านั้น แต่ยังมีโรงเรียนราชนิกุลจากที่อื่นมาร่วมฉลองด้วยอีกต่างหากแต่สำหรับเจย์เนสแล้ว มันเป็นงานเลี้ยงที่เขามองว่าน่าเบื่อที่สุดเลยก็ว่าได้ ก็เขาไม่ชอบความวุ่นวาย นอกจากนี้ยังเกลียดการตกเป็นเป้าของผู้หญิงเกือบแทบทุกคนในโรงเรียนอีก เพราะไม่ว่าใครก็ต่างอยากควงคู่กับเขาออกงานใหญ่ทั้งนั้นแต่ธรรมเนียมก็คือธรรมเนียม เขาไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้อยู่แล้ว นอกจากนี้เขาก็มีวิธีจัดการกับความชุลมุนที่จะโถมเข้ามาเชิญชวนเขาไปงานด้วยอย่างยุติธรรมอยู่แล้ว โดยถือคติว่า “ใครเร็วใครได้” ซึ่งมันก็ช่วยให้เขาไม่ต้องเสียเวลาต้องเลือกมากด้วยทันทีที่เสียงระฆังดังบอกเลิกเรียน สาว ๆ ในห้องของเจย์เนสรวมถึงจากห้องอื่นก็ต่างกรูกันเข้ามาในคลาสเอส ความชุลมุนนั้นแออัดจนแทบจะไม่มีช่องทางให

  • พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา   บทที่ 9 ยุ่งเรื่องของเธอ

    วันรุ่งขึ้นช่วงหลังเลิกเรียน อาเรียก็รีบไปยื่นใบสมัครขอทำงานที่ห้องสมุดโรงเรียนงานส่วนใหญ่ที่นี่จะเป็นการจัดเรียงหนังสือที่นักเรียนคนอื่น ๆ นำมาคืนใส่เข้าชั้นให้เรียบร้อย หรือในบางครั้งก็อาจต้องช่วยอาจารย์บรรณารักษ์ในการอำนวยความสะดวกการหยิบยืมหนังสือเล่มต่าง ๆ และงานทั้งหมดนี้ จะได้ทำเพียงช่วงพักกลางวันและช่วงบ่ายหลังเลิกเรียนไม่เกินหกโมงเย็นเท่านั้นแหละก็ถือว่าเป็นงานที่สบายใช้ได้เลยทีเดียว นอกจากนี้เธอยังชอบใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับหนังสือเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วแต่อย่างไรวันนี้เธอก็ยังต้องไปร้องเพลงที่ร้านอาหารตามที่รับปากกับผู้จัดการร้านอยู่ดี อย่างน้อยก็จะได้เก็บเงินบางส่วน และหากชวดงานนี้ก็จะไม่เสียโอกาสไปโดยสูญเปล่าด้วยเพียงแต่...‘เชื่อฉัน งานห้องสมุดดีกว่าเยอะ’ อยู่ ๆ เธอก็หวนนึกถึงคำพูดของเขาขึ้นมาเสียอย่างนั้น แล้วก็ลำบากเธอมานั่งชั่งใจอีก...แต่ตอนนี้ที่บ้านเธอก็ยังไม่ถือว่าไม่ได้มีปัญหาขนาดที่จะต้องไปลำบากทำงานขนาดนั้นหรอก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็อยากจะทำอะไรที่พอจะช่วยเหลือได้บ้างระหว่างที่กำลังนั่งคิดอย่างถี่ถ้วนเวลาก็ค่อย ๆ ผ่านไปเรื่อย ๆ จนสุดท้ายก็ไม่ได้ไปร้องเพลงที่ร้า

  • พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา   บทที่ 8 ออดอ้อนเพื่อผลประโยชน์

    อาเรียที่เดินผ่านร้านอาหารร้านหนึ่งเข้า ดวงตาคู่สวยก็กวาดไปเจอประกาศรับสมัครพนักงานเข้าพอดี เธอจึงไม่รอช้า รีบเดินตรงเข้ามาในร้านเพื่อสอบถามเกี่ยวกับงานที่ว่าตอนแรกเธอคิดจะทำงานในห้องสมุดโรงเรียนนั่นแหละ แต่ก็กลัวว่ารายได้จะน้อยเกินไป นอกจากนี้ยังไม่มั่นใจด้วยว่าจะต้องแย่งชิงกับคนอื่นหรือเปล่า จึงอยากหางานสำรองเอาไว้ด้วย“ขอโทษนะคะ” เธอเอ่ยกับพนักงานอย่างสุภาพ ถึงแม้จะเป็นลูกคุณหนูแต่ก็ใช่ว่าเธอจะวางตัวสูงส่งใส่คนอื่นเขาไปทั่ว“ค่ะ มีอะไรให้ช่วยคะ”“คือ...ไม่ทราบว่ายังรับสมัครนักร้องอยู่ไหมคะ” เธอว่าพลางชี้ไปยังป้ายประกาศที่แปะอยู่ตรงหน้าร้านได้ยินแบบนั้นพนักงานก็ยิ้มรับ“ยังรับอยู่ค่ะ” ว่าจบเธอก็เดินไปหาผู้จัดการร้านเขาเป็นชายหนุ่มวัยกลางคน ซึ่งพอมองสำรวจรูปร่างหน้าตาของอาเรียแล้วก็มีความสนอกสนใจเธออยู่ไม่น้อย หากได้เธอมาเป็นนักร้องประจำร้าน คนจะต้องหลั่งไหลเข้ามาเพราะสเน่ห์ของเธอแน่ ๆ“สนใจเริ่มงานเลยไหมล่ะสาวน้อย” เขาถามาอาเรียเรียกได้ว่าแทบจะทันที“ค่ะ”“อ๋อ แต่ว่า บางครั้งถ้าหากลูกค้าเต็มร้าน อาจจะต้องมาช่วยเสริ์ฟด้วยนะเธอสะดวกหรือเปล่า”อาเรียได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้าโดยไม่เกี่ย

  • พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา   บทที่ 7 จับจ้อง หูผึ่ง

    บรรยากาศบริเวณเขตสังสรรค์ในยามเย็นเต็มไปด้วยชีวิตชีวา ร้านค้าเรียงรายสองข้างทาง มีทั้งนักเรียนและผู้คนจากในเมืองใกล้เคียงเดินทางมาจับจ่ายใช้สอยของกินและของใช้มากมายทุกคนต่างเร่งรีบเพื่อให้ทันเวลากลับเข้าไปในหอพัก ต่างจากพวกเขาซึ่งเป็นนักเรียนคลาสเอส สิ่งหนึ่งที่ได้รับการอภิสิทธิ์เหนือนักเรียจากคลาสอื่นก็คือ พวกเขาสามารถกลับเข้าหอพักในยามวิกาลแค่ไหนก็ย่อมได้ ต่างจากนักเรียนคนอื่นที่เมื่อนาฬิกาบอกเวลาสองทุ่มก็ต้องรีบกลับเข้าหอพักแล้วระหว่างที่กลุ่มของเจย์เนสกำลังเดินผ่านร้านอาหารและร้านขนมมากมาย เสียงหัวเราะและบทสนทนาของกลุ่มเพื่อนก็ดังไปตลอดทาง มิหนำซ้ำยังมีสายตาจากบรรดาสาว ๆ คอยจับจ้องมาตลอดทางอีกต่างหาก‘อึดอัดดีแท้...’ เจย์เนสคิดในใจขณะเดินไปพร้อมกับกลุ่มเพื่อนของตัวเองแต่ทันใดนั้น สองขายาวก็ต้องหยุดชะงักราวกับเสียอาการไปชั่วครู่เมื่อพบเจอร่างบางที่ดูคุ้นตา กำลังยืนหันหลังมองป้ายประกาศอะไรบางอย่างอยู่ตรงหน้าร้านหนังสือเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ตรงมุมหนึ่งดวงตาคมจับจ้องเธอเพียงครู่หนึ่ง ก่อนจะรีบเบือนหน้ากลับไปอย่างรวดเร็ว เพื่อไม่ให้พวกเพื่อน ๆ ทันสังเกตเห็นและเกิดเป็นประเด็นสนทนาได้แล

  • พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา   บทที่ 6 แทบทุกที่เป็นเรื่องเธอ

    ระหว่างทาง ร่างสูงก็ได้ยินนักเรียนยืนพูดคุยกันอยู่ไม่ไกลจากนอกอาคารด้วยความบังเอิญ แต่แล้วเนื้อความในนั้นกลับทำให้เขาหูผึ่งเสียอย่างช่วยไม่ได้“นี่ ได้ยินข่าวลือเรื่องที่ตระกูลฟลอเรนซ์ใกล้จะล้มละลายหรือเปล่า”“ได้ยินมาบ้างเหมือนกัน ข่าวลือดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก”ระหว่างที่เงี่ยหูฟังไปด้วย ช่วงก้าวของขาก็สั้นลงจนเรียกว่าแทบจะหยุดนิ่ง และเมื่อรู้ตัวก็ต้องรีบส่ายศีรษะขึ้นอย่างทันควันมันก็ไม่ใช่เรื่องของเขาสักหน่อย เหตุใดต้องสนใจ!แต่ในขณะที่กำลังเดินผ่านโซนตู้ล็อคเกอร์ อยู่ ๆ ก็มีเสียงฝีเท้าของใครบางคนที่กำลังมุ่งตรงเข้ามาหาเขาจากทางด้านหลังด้วยสัญชาตญาณ ใบหน้าหล่อจึงรีบหันกลับไปมองด้วยสายตาคมกริบ ก่อนจะพบกับหญิงสาวที่กำลังวิ่งเข้ามาอย่างเอาเป็นเอาตาย เธอทำราวกับว่าหากช้าไปกว่านี้อีกเพียงนิดเดียว เขาจะหายไปตลอดกาลอย่างนั้นแหละ“เจย์เนส!” เธอหยุดยืนหอบอยู่ตรงหน้าเขา เหมือนวิ่งมาไกลพอสมควรเชียวล่ะ มิหนำซ้ำ ดวงตากลมโตของเธอยังฉายแววหลากหลายอารมณ์อีกต่างหากทั้งดูกังวลใจ รู้สึกผิดจนอยากจะเอ่ยปากขอโทษ หรือแม้แต่ความประหม่าขณะเดียวกันนั้นมือเรียวก็หยิบกล่องเข็มกลัดออกมาถือไว้ในมืออย่างระมัด

  • พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา   บทที่ 5 ด้วยความตั้งใจ

    เช้าวันต่อมาแสงแดดที่ลอดผ่านหน้าต่างตรงโซนตู้ล็อคเกอร์เข้ามาบ่งบอกว่าอีกไม่นานก็ใกล้จะถึงเวลาเข้าเรียนแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นอาเรียก็ยังยืนอยู่ตรงหน้าล็อคเกอร์ของใครบางคนอยู่ไม่ห่างใช่แล้ว...เธอตั้งใจจะนำเข็มกลัดที่ใช้การไปเรียบร้อยแล้วมาส่งคืนให้เจ้าของหญิงสาวยืนอยู่ตรงหน้าล็อคเกอร์พลางมือก็กอบกุมกล่องใส่เข็มกลัดเอาไว้แน่น ระหว่างที่เขายังไม่โผล่มาก็ดูเหมือนจะซื้อเวลาให้เธอได้รวบรวมความกล้าที่จะไปสู้หน้าเขาต่ออีกสักเล็กน้อยล่ะ ไม่รู้ว่าทำไมถึงต้องมาคืนด้วยตัวเอง ทั้งที่ขอร้องให้คนอื่นมาส่งคืนแทนให้ก็ได้ แต่รู้ตัวอีกทีเธอก็มาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าตู้ล็อคเกอร์ของเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้วเนี่ยสิแต่ก็เอาเถอะ การมาส่งคืนตัวเองก็นับว่าเป็นมารยาทรูปแบบหนึ่งที่พึงกระทำ อย่างน้อยเขาจะได้ไม่เสียน้ำใจที่หวังดีช่วยเธออย่างไรล่ะอาเรียคิดให้เหตุผลกับตัวเองทั้งที่ในใจตอนนี้ยังสั่นไหวอยู่ตลอดเวลาเวลาผ่านไปหลายสิบนาที แต่ล็อคเกอร์ตรงหน้าก็ยังไร้วี่แววเจ้าของ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังรอคอยอย่างอดทน เป็นเวลาเดียวกับจำนวนคนเริ่มบางตาลง‘เขาคงไม่มาแล้วล่ะ…’ เธอคิดในใจก่อนจะถอนหายด้วยความรู้สึกผิดหวังอย่างช่ว

  • พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา   บทที่ 4 ความช่วยเหลือ

    “เป็นอะไรไปน่ะแบรดฟอร์ด ทำไมนอนคุดคู้แบบนั้น”เมื่อได้ยินเสียงอาจารย์ใกล้มาก แขนเรียวเล็กก็คว้ากอดร่างของคนตัวสูงเข้าเต็มปังเหมือนคอยลุ้นตามว่าจะโดนจับได้หรือเปล่า ทำเอาเจย์เนสชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ก็ยังพยายามดึงน้ำเสียงให้มั่นคงแล้วตอบกลับอาจารย์ไป“ปวดท้องครับ แต่...เดี๋ยวก็หายแล้ว”“งั้นเหรอ อืม ดูแลตัวเองแล้วกันนะ” ที่พูดเช่นนั้นเป็นเพราะอาจารย์ก็ไม่นึกฝันว่าแวมไพร์จะป่วยได้ เขาจึงไม่มีชุดความรู้ทางด้านนี้มาให้คำแนะนำว่าจะต้องทำเช่นไร จึงเลี่ยงหลบออกไปเสียดีกว่าเสียงประตูปิดลงพร้อมกับความเงียบที่หวนคืนสู่ห้อง แต่ทั้งคู่ก็ยังนอนนิ่งต่อไปอีกสักพักเพื่อให้แน่ใจว่าอาจารย์จะไม่ย้อนกลับมาเปิดประตูห้องอีกอาเรียนอนนิ่งอยู่ใต้ผ้าห่ม ความเงียบนั้นทำให้เสียงหัวใจของเธอที่เต้นโครมครามเด่นชัดขึ้นอย่างน่าอาย“ปลอดภัยแล้ว” เขาพูดพลางมองไปที่ประตู แล้วหลังจากนั้นอาเรียก็รีบผุดใบหน้าแดงก่ำออกมาจากผ้าห่มเหมือนแอบสังเกตการณ์ก่อนจะตัดสินใจว่าจะลุกหรือไม่ลุกดี “ปล่อยได้แล้วมั้ง”เจย์เนสนอนนิ่งเมื่อยังมีแขนเรียวของอาเรียพาดกอดตัวเองอยู่ หญิงสาวที่เพิ่งรู้ตัวว่าทำเรื่อถือวิสาสะก็รีบปล่อยกอดพร้อมลุกพรวดอ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status