หน้าหลัก / วัยรุ่น / พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา / บทที่ 12 จงใจหักหน้ากันหรือเปล่า

แชร์

บทที่ 12 จงใจหักหน้ากันหรือเปล่า

ผู้เขียน: มินซอลทัง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-03-08 08:24:42

“ขอคุยด้วยหน่อยได้ไหมพ่อรูปหล่อ” เอเดรียนกระซิบแซวกับเซบาสเตียน แต่ถึงจะกระซิบด้วยเสียงที่เบาแค่ไหน เจย์เนสก็ได้ยินอยู่ดี

สายตาคมปรายมองเพื่อนของตน ทำให้พวกเขาต้องรีบหลบสายตาแล้วแอบไปหัวเราะอย่างชอบใจกันยกใหญ่

“มีธุระอะไร” เขาถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา แต่ลึก ๆ แล้วก็ให้ความสนใจอยู่ไม่น้อยว่าเธอจะพูดเรื่องอะไรกันแน่

อาเรียเม้มปากเล็กน้อย ขณะที่มองสายตาของเขา เธอชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งว่าจะพูดออกไปเลยดีไหม แต่เมื่อเห็นว่าเพื่อน ๆ ของเจย์เนสต่างจ้องมองเธอด้วยความอยากรู้ เธอก็เปลี่ยนใจ

“ไปคุยตรงนู้นได้ไหม?” เธอเอ่ยพร้อมชี้ไปยังมุมที่ไกลออกไปจากกลุ่มเพื่อนของเขาเล็กน้อย

เจย์เนสถอนหายใจ อนแรกอาเรียคิดว่าเขาจะไม่ยอมเดินไปตามคำขอ แต่แล้วไม่นานเขาก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เตรียมพร้อมจะเดินไปกับเธอเสียอย่างนั้น

“หวังว่าจะเป็นเรื่องสำคัญ” ว่าจบก็เดินนำไปตรงจุดที่เธอชี้มาเมื่อสักครู่

ในขณะเดียวกันกลุ่มเพื่อนของเขาก็ยังนั่งหัวเราะคิกคักส่งสายตาแซวตามหลังทั้งสองคนไป

“แหม องค์ชาย มีสาวเรียกไปคุยส่วนตัวด้วยแฮะ” เอเดรียนเอ่ยแซวไล่หลังไป

“อยากใส่ใจจังเลยว่าเรื่องอะไร” ลูคัสเองก็ไม่น้อยหน้า เอ่ยแซวไปพร้อมกัน ในขณะที่เซบาสเตียนก็นั่งกอดอกแล้วเอาแต่หัวเราะตามวาทะของพวกเพื่อน ๆ ไปด้วย

หลังจากทั้งคู่เดินมาถึงที่หมายแล้ว เจย์เนสก็หมุนตัวหันกลับมาแล้วรอให้เธอพูดธุระที่อยู่ในใจออกมา แต่จนแล้วจนรอดอาเรียก็ยังเม้มปากแน่น ไม่รู้ว่าเป็นกังวลอะไรขนาดนั้น แต่ยิ่งเงียบอยู่แบบนี้บรรยากาศก็ดูจะตึงเครียดมากยิ่งขึ้นไปใหญ่

เสียงลมที่พัดใบไม้ไหวไปมาไม่ได้ช่วยลดความตึงเครียดที่เกิดขึ้นระหว่างพวกเขาเลยสักนิด ไม่ได้ช่วยอะไรเลย

“ว่าไง มีอะไร?” เจย์เนสเห็นว่าอีกฝ่ายเงียบไปนานแล้ว จึงตัดสินใจถามขึ้นเพื่อทำลายความเงียบอีกครั้งน้ำเสียงของเขานิ่งเฉย ดวงตาสีแดงจับจ้องอาเรียเหมือนกำลังรอคำตอบ

ท่าทีของเขาทำให้อาเรียที่ตั้งใจจะพูดบางอย่างกลับรู้สึกประหม่าอย่างบอกไม่ถูก เธอหลบสายตาของเขาเล็กน้อย ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ไม่มั่นใจนัก

“ฉัน...คือช่วงนี้...ไม่ค่อยได้เจอนายเลยนะ” อาเรียโยงออกนอกประเด็นไปไกลมาก เพราะไม่กล้าพูดตรง ๆ เหมือนเป็นการเดินอ้อมไปมาก่อนจะพุ่งเข้าจุดหมายอย่างไรล่ะ

เจย์เนสเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยเมื่อได้ยินแบบนั้น ถึงแม้แวตาจะนิ่งเรียบ แต่ก็ยังฉายแววสงสัยอยู่มากโข

“เธอเรียกฉันมาเพื่อพูดเรื่องนี้เนี่ยนะ” เจย์เนสแค่นหัวเราะ ก่อนจะพูดต่อ “เราอยู่กันคนละคลาส แปลกตรงไหน” น้ำเสียงยังคงเย็นชาเหมือนเดิม แต่ภูมิใจเอาไว้เถอะ เขาพูดกับเธอด้วยประโยคที่ยาวกว่าเพื่อนในห้องบางคนเสียอีก

คำว่า "คนละคลาส" ของเขาเหมือนกั้นระยะห่างระหว่างทั้งสองให้ชัดเจนขึ้นไปอีก อาเรียเม้มปากแน่น บอกตามตรง มันทำให้เธอพูดสิ่งที่อยู่ในใจไม่ออกเข้าไปใหญ่

แต่ในใจเธอก็ยังพยายามรวบรวมความกล้าที่จะพูดในสิ่งที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่แรก

‘ใจเย็นไว้อาเรีย แค่พูดออกไป... ชวนเขาไปงานคริสต์มาสแค่นั้นเอง จะยากอะไร’ เธอสูดหายใจลึก ในขณะที่ร่างสูงตรงหน้าก็ขมวดคิ้วมงเธอด้วยความสงสัยไม่แพ้กัน

“นาย...อยาก-”

ยังไม่ทันจะได้เริ่มต้นประโยคดีเลย เสียงฝีเท้าของใครบางคนก็ดังขึ้นจากด้านหลัง ทั้งสองจึงหันไปมองแทบจะพร้อมกัน ก่อนจะพบว่าเป็น แคทลีน คาร์ลตัน ที่กำลังเดินตรงมาหาเจย์เนสพร้อมรอยยิ้มเขินอาย

เธอเป็นนักเรียนหญิงจากคลาสเอ ซึ่งก็เรียกได้ว่าเป็นที่ชื่นชอบในหมู่หนุ่ม ๆ พอตัว ด้วยลักษณะนิสัยอ่อนหวาน เรียบร้อย พูดง่าย ๆ ก็คือ เธอเป็นหญิงสาวที่ผู้ชายอยากจะได้มาเป็นคู่ครองนั่นแหละ

นอกจากนี้เธอไม่ได้มาคนเดียวด้วย ยังมีกลุ่มเพื่อนสาวของเธอยืนเหมือนรอให้กำลังใจอยู่ข้างหลัง

ไม่รอช้า แคทลีนก็ยื่นซองจดหมายมาให้เจย์เนสพร้อมท่าทีเขินอาย ต่างจากอาเรียที่ยืนอ้ำอึ้งไม่ยอมพูดออกมาสักที มันทำให้เธอเห็นความแตกต่างของตัวเองกับแคทลีนได้อย่างชัดเจน

เจย์เนสมองซองจดหมายในมือของหญิงสาว เขาคิดว่ามันคงเป็นจดหมายซองสุดท้ายแล้ว จึงรับมันไว้โดยที่แคทลีนยังไม่ต้องพูดอะไรด้วยซ้ำ

ทำเอาสาว ๆ ที่ยืนเชียร์อยู่ข้างหลังถึงกับกรี๊ดกร๊าดไปพร้อมกัน

ส่วนอาเรียก็ยืนนิ่งชะงักไปเหมือนถูกตัดบทที่เธอกำลังทำใจจะพูดได้แล้วไปเสียดื้อ ๆ

“ฉันจะรอที่หน้าห้องโถงประชุมนะ” แคทลีนบอกเพียงเท่านั้นก่อนจะวิ่งกลับไปหากลุ่มเพื่อนของตัวเองด้วยท่าทีร่าเริง ทิ้งให้เจย์เนสและอาเรียยืนอยู่ในความเงียบอีกครั้ง

สายตาคมก้มมองซองจดหมายของแคทลีนในมือ ก่อนจะเหลือบมองอาเรียที่ยืนอยู่ตรงหน้าอีกครั้ง

“ว่าไง ฟลอเรนซ์ สรุปเธอจะพูดไหม”

“ไม่มีอะไรแล้วล่ะ” เธอยกยิ้มขึ้นแต่เหมือนจะเป็นรอยยิ้มที่เกิดจากการฝืนเสียมากกว่า ก่อนจะหมุนตัวเดินจากไป ทิ้งให้เจย์เนสยืนงุนงงกับประโยคที่เธอยังพูดไม่จบ

“นี่เดี๋ยวสิ ฉันยังคุยไม่รู้เรื่องเลย”

หลังจากที่เดินหนีออกมาแล้ว อาเรียก็รีบไปหาที่เงียบ ๆ เพื่อนั่งอยู่คนเดียว น้ำตาที่เอ่อล้นออกมาทำให้เธอรู้สึกสับสน ‘นี่จะร้องไห้ไปทำไมกัน…เขาไม่ได้สำคัญขนาดนั้นสักหน่อย...’

ในมุมมองของอาเรีย เธอคิดว่าเจย์เนสดูออกอยู่แล้วว่าเธอต้องการจะพูดอะไร แต่เขาก็จงใจจะหักหน้าเธอ ใช่สิ ใครมันจะอยากให้ผู้หญิงที่ที่บ้านใกล้จะล้มละลายควงคู่ออกงานใหญ่แบบนั้นกันล่ะ

น้ำตาหยดลงบนหลังมือของเธอช้า ๆ แม้เธอจะพยายามเช็ดออก แต่มันก็ยังคงไหลลงมาอย่างไม่อาจควบคุมได้

เธอกอดเข่ากับตัวเองแน่น พยายามปล่อยให้ความรู้สึกหนักอึ้งในใจค่อย ๆ คลายลงไปตามน้ำตาที่รินไหล

หลังจากใช้เวลารวบรวมสติให้สงบลงได้แล้ว เธอก็มานั่งอยู่ที่โต๊ะพร้อมกับกระดาษวาดรูปตรงหน้า แต่เธอไม่ได้วาดอะไรเลย ความคิดในหัวของเธอยังคงหมุนวนกับสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อตอนกลางวัน

‘น่าขายหน้าที่สุด’ อาเรียตัดพ้ออยู่ในใจไม่นาน เสียงตรงหน้าประตูห้องชมรมศิลปะก็ดังขึ้น เธอเงยหน้าขึ้นมองตรงไปที่ประตู ก่อนจะพบกับผู้มาเยือนในที่สุด

“โทษที ฉันไม่คิดว่ามีคนอยู่น่ะ”

เสียงทุ้มนุ่มของชายหนุ่มคนหนึ่งดังขึ้น ตามมาด้วย มาร์คัส โรเวลล์ นักเรียนชายจากคลาสเอ ซึ่งก็ตือคนที่เคยชวนเธอไปงานคริสต์มาสก่อนหน้านี้นั่นเอง เพียงแต่ครั้งนี้แทนที่จะมีกลุ่มเพื่อนมากันอีกสามคน แต่กลับมีเขาเพียงคนเดียว

อาเรียเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยท่าทีฉงน “นายมาทำอะไรเหรอ?”

“มาเก็บรูปที่วาดค้างเอาไว้น่ะ แล้วเธอ...มานั่งอยู่ที่นี่คนเดียวทำไม” มาร์คัสที่เห็นว่าอาเรียดูสนใจรื่องของตนเอง จึงถือโอกาสนั้นนั่งคุยกับเธอตามลำพังไปด้วยเลย

“ไม่มีอะไรหรอก แค่กำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อยน่ะ”

“เหรอ แล้วคิดเรื่องงานวันคริสต์มาสได้หรือยัง ฉันยังรอคำตอบจากเธออยู่นะ จนถึงวินาทีสุดท้ายเลย”

คำพูดนั้นทำให้อาเรียชะงัก เธอเงยหน้าขึ้นมองเขา “นาย...ยังรอฉันอยู่อีกเหรอ?”

มาร์คัสที่เห็นดวงตาคู่สวยเบิกกว้างด้วยความตกใจก็หัวเราะออกมาอย่างเอ็นดู “ก็ใช่น่ะสิ ฉันเองก็ไม่รู้จะชวนใครแล้วถ้าไม่ใช่เธอ”

“นายไม่อายหรือไง ที่จะต้องเดินคู่กับฉันในงานใหญ่แบบนั้นน่ะ” น้ำเสียงของอาเรียเต็มไปด้วยความประหม่า กลัวว่าเขาจะครุ่นคิดถึงเรื่องนั้นแล้วเปลี่ยนใจไม่ชวนตัวเองแล้ว

เหมือนอย่างที่อีกคนทำอย่างไรล่ะ!

“มีอะไรน่าอายกัน เธอออกจะสวยเพรียบพร้อมขนาดนี้ ใคร ๆ ก็อยากได้เป็นคู่คงในงานใหญ่อยู่แล้ว”

“แต่ว่า ที่บ้านฉัน...”

“เรื่องนั้นปล่อยมันไปเถอะ ให้มันเป็นเรื่องของคนใหญ่คนโตเขาไป แต่สำหรับฉัน ไม่ว่าฐานะทางบ้านเธอจะเป็นยังไงฉันก็ไม่สนหรอก”

อาเรียเงยหน้าขึ้นสบตาเขาด้วยความรู้สึกซาบซึ้งใจอย่างเสียไม่ได้ แต่ก็ยังไม่ได้ตอบรับในทันทีหรอก

“ฉันว่าเธอควรไปสนุกด้วยกันนะ หลังจากเรียนมาตลอดหลายเดือน” เขายังส่งยิ้มอบอุ่นมาให้อีก เป็นการหว่านล้อใครั้งสุดท้าย “ว่าไงฟลอเรนซ์ เธออยากไปงานคริสต์มาสกับฉันไหม”

อาเรียนิ่งไปครู่หนึ่ง ความอบอุ่นในน้ำเสียงของเขาทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายลง ก่อนจะพยักหน้าตอบรับในที่สุด “ก็ได้...”

“เยี่ยม” มาร์คัสยิ้มกว้าง “ถ้าอย่างนั้น พรุ่งนี้ฉันจะไปรอเธอที่หน้าห้องโถงประชุมตอนหนึ่งทุ่มนะ” ว่าจบก็เดินไปหยิบภาพวาดที่เป็นตัวการหลักทำให้เขาได้มาเจออาเรียในนี้ ก่อนจะหันกลับมาโบกมือลาหญิงสาวอีกครั้ง

เธอรู้สึกขอบคุณเขาเหลือเกินที่ทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นและมีแรงใจในการที่จะไปร่วมงานอีกครั้ง

อีกด้านหนึ่ง หลังจากที่เจย์เนสเห็นว่าอาเรียเดินจากไปแล้ว เขาก็เดินกลับไปหากลุ่มเพื่อนของตัวเองที่นั่งรอยิงคำถามชุดใหญ่

แต่ยังไม่ทันจะเอ่ยถาม พวกเขาก็เหลือบไปเห็นซองจดหมายในมือของเจย์เนสเสียก่อน จึงพากันฮือฮายกใหญ่

“ของฟลอเรนซ์เหรอ?”

“แท้ นายก็รอฟลอเรนซ์นี่เอง”

“แคทลีน คาร์ลตัน” เขาพูดชื่อของหญิงสาวอีกคนที่เป็นเจ้าของจดหมายในมือของเขาขึ้นมา ทำเอาเพื่อน ๆ ต่างงุนงงกันยกใหญ่

“อ้าว ทำไมเป็นคนนี้ไปได้ล่ะ” มาร์คัสยกมือขึ้นแนบคางด้วยท่าทีครุ่นคิด

“แล้วกับฟลอเรนซ์ไปคุยอะไรกันตั้งนาน”

“ไม่ได้คุยอะไรเลย เดินหนีไปก่อน” ว่าจบก็ทิ้งตัวนั่งลงตรงโคนต้นไม้อีกครั้ง

“โธ่ ไอโง่เอ๊ย เธอตั้งใจจะชวนนายไงล่ะ”

“เท่าที่ฉันรู้มา ฟลอเรนซ์ไม่คิดจะไปงานนี้” เจย์เนสตอบเสียงเรียบ แล้วกอดอกนั่งหลับตาลงอีกครั้ง

“แสดงว่าตอนแรกที่นายไม่ยอมรับจดหมายจากใครเป็นเพราะฟลอเรนซ์จะไม่ไปงานใช่ไหมล่ะ” เอเดรียนพูดขึ้นพร้อมปรายตามองอย่างจับผิด

“ไร้สาระ อย่าโยงไปเรื่อย” อันที่จริง ต้องยอมรับว่าเอเดรียนโยงได้ดีจนน่าตกใจเลยล่ะ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังปฏิเสธโดยการตัดจบบทสนทนาแบบขาดฉับ

“แต่สุดท้ายนายก็รับของแคทลีน คาร์ลตันมานี่นา” เซบาสเตียนที่นั่งกินขนมเหลือต่อจากเอเดรียนอย่างเพลิดเพลินก็พูดขึ้นในที่สุด

“รำคาญ รับให้จบ ๆ ไป”

ที่พูดมาเขาก็หมายความเช่นนั้นจริง ๆ นั่นแหละ รับมาแล้วไปงานให้มันจบ ๆ จะได้ไม่ต้องตกเป็นประเด็นพูดถึงไปทั่วอีก

ข่าวลืเรื่องที่เจย์เนสตอบรับคำชวนของ แคทลีน คาร์ลตัน แพร่ไปทั่วโรงเรียนในไม่ช้า ไม่เว้นแม้แต่โซเฟีย ผู้คลั่งไคล้เจย์เนสเป็นชีวิตจิตใจ

“แคทลีน คาร์ลตัน อย่างนั้นเหรอ” หญิงสาวยืนหน้าแดงก่พด้วยความฉุนเฉียว กำปั้นยกขึ้นกำหมัดแน่น แต่ก็ทำได้เพียงเท่านั้น

เพราะสำหรับแคทลีน คาร์ลตัน เธอไม่ได้อยู่ในสถานะเดียวกับฟลอเรนซ์ที่จะสามารถหาเรื่องกันได้ง่าย ๆ จึงต้องยอมปล่อยผ่านไปโดยปริยาย

บทที่เกี่ยวข้อง

  • พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา   บทนำ

    ฤดูใบไม้ร่วงหวนกลับมาอีกครั้ง ตามมาด้วยลมหนาวที่คืนสู่เมืองใหญ่ซึ่งเคลื่อนผ่านสนามหญ้าอันกว้างขวางของ เซนต์โยเซีย อะเคเดมีปราสาทสูงใหญ่ที่ถูกออกแบบมาในรูปแบบสถาปัตยกรรมกอทิค ตั้งสูงตระหง่านอยู่บนเนินเขา ตัวปราสาทล้อมรอบไปด้วยรั้วสูงเกือบเท่าตัว หอคอยหลายชั้นตั้งเรียงตัวต่อกันจนสูงชะลูด เป็นสถานที่ซึ่งปราศจากการมองเห็นจากคนนอกที่ไม่ได้ถูกต้อนรับเข้าสู่โลกแห่งความพิศวง นอกจากนี้เถาวัลย์ที่เลื้อยปกคลุมตัวอาคารนั้นยังเผยให้เห็นถึงความเก่าแก่ของโรงเรียนแห่งนี้อีกด้วยซึ่งหากมองจากภายนอกแล้ว ดูเหมือนจะเงียบร้างอย่างไรอย่างนั้น แต่มันก็เป็นเพียงฉากหน้าเท่านั้นแหละ เพราะอันที่จริงแล้ว ภายใต้อาคารใหญ่ต่างมีผู้คนต่างพลุกพล่านไปทั่ว โดยเฉพาะในห้องโถงประชุม เนื่องด้วยวันนี้เป็นวันมอบตัวเพื่อส่งนักเรียนเข้าศึกษา ณ อะคาเดมีแห่งนี้มีทั้งลูกหลานตระกูลแวมไพร์ และด้วยความที่ที่อะคาเดมีแห่งนี้ถูกก่อตั้งมามากกว่าหนึ่งร้อยปีแล้ว จึงมีตระกูลมนุษย์ผู้ดีเก่าแก่ที่ได้อภิสิทธืในการส่งลูกหลานของตระกูลตัวเองเข้ามาเรียนในสถานที่แห่งนี้เช่นกันการมีโรงเรียนแห่งนี้กำเนิดขึ้นก็นับเป็นอุบัติการณ์ของโลกแวมไพร์ที่สาม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-02
  • พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา   บทที่ 1 อาเรียน่า ฟลอเรนซ์

    ชีวิตในโรงเรียนสำหรับพวกนักเรียนแวมไพร์เป็นเรื่องที่ไม่ได้ยากลำบากนัก แต่กลับเป็นที่น่ากดดันสำหรับพวกนักเรียนมนุษย์ ด้วยความที่โรงเรียนนี้เต็มไปด้วยเหล่าลูกหลานชนชั้นสูงของตระกูลแวมไพร์จากทั่วทุกมุมโลก มันจึงเกิดเป็นชนชั้นทางสังคมภายในโรงเรียนขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดสำหรับเจย์เนสกับเรย์เน่แล้วเรื่องนี้ไม่ได้เป็นปัญหาเลยสักนิด พวกเขาเป็นถึงลูกหลานของเชื้อพระวงศ์จากตระกูลแวมไพร์ที่เรียกได้ว่าเก่าแก่ที่สุด แล้วมีหรือที่นักเรียนคนอื่นจะกล้าล้ำเส้นมาจัดชนชั้นให้กับพวกเขาเรียกได้ว่าอยู่เหนือห่วงโซ่ของพวกหัวสูงอย่างสบาย ๆ เลยล่ะ“นั่นเจย์เนสใช่ไหม”“ใช่ หล่อมากเลยเนอะ”“หล่อที่สุดเท่าที่เคยเจอพวกผู้ชายมาเลยล่ะ”“เคยเห็นพ่อเขาหรือยัง เหมือนกันอย่างกับฝาแฝดแหนะ”“แสดงว่าเบ้าหน้าดีทั้งบ้านเลยสิ”“เรียนดี กีฬาเด่น หน้าหล่อ ตรงสเป็คสุด ๆ เลย”“เสียดาย อันตรายเกินไปหน่อย”เสียงเจื้อยแจ้วของพวกนักเรียนหญิงดังขึ้นตลอดทางที่เจย์เนสเดินผ่าน ยอมรับว่าสมัยที่เพิ่งเข้ามาเรียนใหม่ ๆ แล้วเจอเหตุการณ์เช่นนี้เขามักจะทำตัวไม่ถูก แต่เมื่อวันเวลาผ่านไปก็ปรับตัวได้อย่างน่าเหลือเชื่อ กลายเป็นไม่ยี่หระต่อสิ่งรอบข้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-02
  • พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา   บทที่ 2 เกมท้าทายความกล้าหาญ

    หลังจากวันหยุดสุดสัปดาห์ผ่านไป เจย์เนสและเรย์เน่ก็กลับเข้ารั้วโรงเรียนอีกครั้ง สองพี่น้องใช้ชีวิตในรั้วโรงเรียนอย่างสงบสุข แต่ทว่าความสงบสุขนี้ดูเหมือนจะไกลเกินเอื้อมสำหรับหญิงสาวอย่าง อาเรียน่า ฟลอเรนซ์เพราะหลังจากเหตุการณ์ในห้องสมุด โซเฟียก็เพ่งเล้งเธออยู่แทบตลอดเวลา และเจ้าหล่อนก็ดูเหมือนจะไม่ปล่อยให้อาเรียได้อยู่อย่างสงบสุขอีกเลยวันนี้ก็เช่นกัน..."เธอคิดว่าตัวเองพิเศษมากนักเหรอ?" โซเฟียเริ่มต้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน "แค่เจย์เนสเสียสละยอมให้หนังสือไป อย่าได้คิดสำคัญตัวเองเชียว" ไม่ว่าเปล่ายังจับจ้องไปยังปกหนังสือที่อยู่ในมือเรียวของอาเรียอีกต่างหากแต่หญิงสาวไร้ซึ่งการตอบโต้แต่อย่างใด เพียงแค่ก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือในมือและพยายามไม่สนใจต่อสิ่งเร้าที่เข้ามารบกวนก็แค่พวกแมลงหวี่แมลงวันเท่านั้นล่ะ...“ฉันพูดกับเธออยู่นะ แม่สาวฟลอเรนซ์” ไม่ว่าเปล่ายังยื่นหน้าเข้ามาใกล้ และความใกล้นั้นก็ทำเอาคนที่ตั้งใจเมินถึงกับหลุดสมธิเลยทีเดียวสายตาของอาเรียละออกจากหนังสือก่อนจะถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย ก่อนจะตอบกลับในทันควัน“ฉันไม่เคยสำคัญตัวเองหรอกนะ เธอเข้าใจผิดแล้วล่ะ” ถึงแม้จะเป็นประโยคที่ดู

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-02
  • พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา   บทที่ 3 ยัยแมวขโมย

    “นะ...นายเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่” สองนิ้วเรียวพันวนกันไปมาแสดงความประหม่าอย่างชัดเจน“นี่ห้องฉัน...” เขากดเสียงต่ำพลางเดินเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อย ๆ “แล้วอีกอย่าง ฉันอยู่ในนี้มาตลอด”ว่าจบก็มาหยุดยืนประชันหน้ากับเธอเข้าพอดี เขาจ้องมองหญิงสาวที่กำลังกก้มหน้างุดมองปลายเท้าอยู่เพียงครู่หนึ่ง“บางที นายควรจะเปิดไฟสักหน่อย...”ได้ยินแบบนั้น แวมไพร์หนุ่มก็แสยะยิ้มขึ้นมุมปาก ก่อนจะค่อย ๆ โน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ราวกับอยากจะพินิจแววตาของเธอให้ชัดเจนยิ่งขึ้นอาเรียที่เห็นว่ามันใกล้เกินไปก็ค่อย ๆ เบี่ยงตัวหลบไปด้านหลังจนเกือบหงายลงไปทั้งร่าง แต่ทันทีที่เธอเกือบจะล้มลงไปนั้น มือหนาของเขาประคองร่างเอาไว้ได้ทันเสียก่อน“เธอผิดประเด็นไปหรือเปล่า เห็นได้ชัดว่าเธอมาอยู่ในที่ที่ไม่ควรอยู่เอง ทำไมถึงได้มาตั้งคำถามใส่ฉัน”ไม่เพียงแค่พูดเท่านั้น หลังจากประคองร่างเธอให้ทรงตัวได้แล้ว เขาก็ยังยังคว้าจับข้อมือข้างหนึ่งของเธอ ซึ่งดูหมือนกำลังแอบซ่อนสิ่งของบางอย่างเอาไว้ในกำปั้นเล็กนั่น"ขโมยของเหรอ" น้ำเสียงนิ่งสงบแต่เฉียบขาด “เข็มกลัดนี่ขายไม่ได้ราคาหรอกคุณฟลอเรนซ์” ไม่ว่าเปล่ายังส่งสายตาเย็นชาใส่อย่างต่อเนื่อง“ฉ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-05
  • พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา   บทที่ 4 ความช่วยเหลือ

    “เป็นอะไรไปน่ะแบรดฟอร์ด ทำไมนอนคุดคู้แบบนั้น”เมื่อได้ยินเสียงอาจารย์ใกล้มาก แขนเรียวเล็กก็คว้ากอดร่างของคนตัวสูงเข้าเต็มปังเหมือนคอยลุ้นตามว่าจะโดนจับได้หรือเปล่า ทำเอาเจย์เนสชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ก็ยังพยายามดึงน้ำเสียงให้มั่นคงแล้วตอบกลับอาจารย์ไป“ปวดท้องครับ แต่...เดี๋ยวก็หายแล้ว”“งั้นเหรอ อืม ดูแลตัวเองแล้วกันนะ” ที่พูดเช่นนั้นเป็นเพราะอาจารย์ก็ไม่นึกฝันว่าแวมไพร์จะป่วยได้ เขาจึงไม่มีชุดความรู้ทางด้านนี้มาให้คำแนะนำว่าจะต้องทำเช่นไร จึงเลี่ยงหลบออกไปเสียดีกว่าเสียงประตูปิดลงพร้อมกับความเงียบที่หวนคืนสู่ห้อง แต่ทั้งคู่ก็ยังนอนนิ่งต่อไปอีกสักพักเพื่อให้แน่ใจว่าอาจารย์จะไม่ย้อนกลับมาเปิดประตูห้องอีกอาเรียนอนนิ่งอยู่ใต้ผ้าห่ม ความเงียบนั้นทำให้เสียงหัวใจของเธอที่เต้นโครมครามเด่นชัดขึ้นอย่างน่าอาย“ปลอดภัยแล้ว” เขาพูดพลางมองไปที่ประตู แล้วหลังจากนั้นอาเรียก็รีบผุดใบหน้าแดงก่ำออกมาจากผ้าห่มเหมือนแอบสังเกตการณ์ก่อนจะตัดสินใจว่าจะลุกหรือไม่ลุกดี “ปล่อยได้แล้วมั้ง”เจย์เนสนอนนิ่งเมื่อยังมีแขนเรียวของอาเรียพาดกอดตัวเองอยู่ หญิงสาวที่เพิ่งรู้ตัวว่าทำเรื่อถือวิสาสะก็รีบปล่อยกอดพร้อมลุกพรวดอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-05
  • พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา   บทที่ 5 ด้วยความตั้งใจ

    เช้าวันต่อมาแสงแดดที่ลอดผ่านหน้าต่างตรงโซนตู้ล็อคเกอร์เข้ามาบ่งบอกว่าอีกไม่นานก็ใกล้จะถึงเวลาเข้าเรียนแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นอาเรียก็ยังยืนอยู่ตรงหน้าล็อคเกอร์ของใครบางคนอยู่ไม่ห่างใช่แล้ว...เธอตั้งใจจะนำเข็มกลัดที่ใช้การไปเรียบร้อยแล้วมาส่งคืนให้เจ้าของหญิงสาวยืนอยู่ตรงหน้าล็อคเกอร์พลางมือก็กอบกุมกล่องใส่เข็มกลัดเอาไว้แน่น ระหว่างที่เขายังไม่โผล่มาก็ดูเหมือนจะซื้อเวลาให้เธอได้รวบรวมความกล้าที่จะไปสู้หน้าเขาต่ออีกสักเล็กน้อยล่ะ ไม่รู้ว่าทำไมถึงต้องมาคืนด้วยตัวเอง ทั้งที่ขอร้องให้คนอื่นมาส่งคืนแทนให้ก็ได้ แต่รู้ตัวอีกทีเธอก็มาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าตู้ล็อคเกอร์ของเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้วเนี่ยสิแต่ก็เอาเถอะ การมาส่งคืนตัวเองก็นับว่าเป็นมารยาทรูปแบบหนึ่งที่พึงกระทำ อย่างน้อยเขาจะได้ไม่เสียน้ำใจที่หวังดีช่วยเธออย่างไรล่ะอาเรียคิดให้เหตุผลกับตัวเองทั้งที่ในใจตอนนี้ยังสั่นไหวอยู่ตลอดเวลาเวลาผ่านไปหลายสิบนาที แต่ล็อคเกอร์ตรงหน้าก็ยังไร้วี่แววเจ้าของ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังรอคอยอย่างอดทน เป็นเวลาเดียวกับจำนวนคนเริ่มบางตาลง‘เขาคงไม่มาแล้วล่ะ…’ เธอคิดในใจก่อนจะถอนหายด้วยความรู้สึกผิดหวังอย่างช่ว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-07
  • พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา   บทที่ 6 แทบทุกที่เป็นเรื่องเธอ

    ระหว่างทาง ร่างสูงก็ได้ยินนักเรียนยืนพูดคุยกันอยู่ไม่ไกลจากนอกอาคารด้วยความบังเอิญ แต่แล้วเนื้อความในนั้นกลับทำให้เขาหูผึ่งเสียอย่างช่วยไม่ได้“นี่ ได้ยินข่าวลือเรื่องที่ตระกูลฟลอเรนซ์ใกล้จะล้มละลายหรือเปล่า”“ได้ยินมาบ้างเหมือนกัน ข่าวลือดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก”ระหว่างที่เงี่ยหูฟังไปด้วย ช่วงก้าวของขาก็สั้นลงจนเรียกว่าแทบจะหยุดนิ่ง และเมื่อรู้ตัวก็ต้องรีบส่ายศีรษะขึ้นอย่างทันควันมันก็ไม่ใช่เรื่องของเขาสักหน่อย เหตุใดต้องสนใจ!แต่ในขณะที่กำลังเดินผ่านโซนตู้ล็อคเกอร์ อยู่ ๆ ก็มีเสียงฝีเท้าของใครบางคนที่กำลังมุ่งตรงเข้ามาหาเขาจากทางด้านหลังด้วยสัญชาตญาณ ใบหน้าหล่อจึงรีบหันกลับไปมองด้วยสายตาคมกริบ ก่อนจะพบกับหญิงสาวที่กำลังวิ่งเข้ามาอย่างเอาเป็นเอาตาย เธอทำราวกับว่าหากช้าไปกว่านี้อีกเพียงนิดเดียว เขาจะหายไปตลอดกาลอย่างนั้นแหละ“เจย์เนส!” เธอหยุดยืนหอบอยู่ตรงหน้าเขา เหมือนวิ่งมาไกลพอสมควรเชียวล่ะ มิหนำซ้ำ ดวงตากลมโตของเธอยังฉายแววหลากหลายอารมณ์อีกต่างหากทั้งดูกังวลใจ รู้สึกผิดจนอยากจะเอ่ยปากขอโทษ หรือแม้แต่ความประหม่าขณะเดียวกันนั้นมือเรียวก็หยิบกล่องเข็มกลัดออกมาถือไว้ในมืออย่างระมัด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-07
  • พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา   บทที่ 7 จับจ้อง หูผึ่ง

    บรรยากาศบริเวณเขตสังสรรค์ในยามเย็นเต็มไปด้วยชีวิตชีวา ร้านค้าเรียงรายสองข้างทาง มีทั้งนักเรียนและผู้คนจากในเมืองใกล้เคียงเดินทางมาจับจ่ายใช้สอยของกินและของใช้มากมายทุกคนต่างเร่งรีบเพื่อให้ทันเวลากลับเข้าไปในหอพัก ต่างจากพวกเขาซึ่งเป็นนักเรียนคลาสเอส สิ่งหนึ่งที่ได้รับการอภิสิทธิ์เหนือนักเรียจากคลาสอื่นก็คือ พวกเขาสามารถกลับเข้าหอพักในยามวิกาลแค่ไหนก็ย่อมได้ ต่างจากนักเรียนคนอื่นที่เมื่อนาฬิกาบอกเวลาสองทุ่มก็ต้องรีบกลับเข้าหอพักแล้วระหว่างที่กลุ่มของเจย์เนสกำลังเดินผ่านร้านอาหารและร้านขนมมากมาย เสียงหัวเราะและบทสนทนาของกลุ่มเพื่อนก็ดังไปตลอดทาง มิหนำซ้ำยังมีสายตาจากบรรดาสาว ๆ คอยจับจ้องมาตลอดทางอีกต่างหาก‘อึดอัดดีแท้...’ เจย์เนสคิดในใจขณะเดินไปพร้อมกับกลุ่มเพื่อนของตัวเองแต่ทันใดนั้น สองขายาวก็ต้องหยุดชะงักราวกับเสียอาการไปชั่วครู่เมื่อพบเจอร่างบางที่ดูคุ้นตา กำลังยืนหันหลังมองป้ายประกาศอะไรบางอย่างอยู่ตรงหน้าร้านหนังสือเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ตรงมุมหนึ่งดวงตาคมจับจ้องเธอเพียงครู่หนึ่ง ก่อนจะรีบเบือนหน้ากลับไปอย่างรวดเร็ว เพื่อไม่ให้พวกเพื่อน ๆ ทันสังเกตเห็นและเกิดเป็นประเด็นสนทนาได้แล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-07

บทล่าสุด

  • พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา   บทที่ 12 จงใจหักหน้ากันหรือเปล่า

    “ขอคุยด้วยหน่อยได้ไหมพ่อรูปหล่อ” เอเดรียนกระซิบแซวกับเซบาสเตียน แต่ถึงจะกระซิบด้วยเสียงที่เบาแค่ไหน เจย์เนสก็ได้ยินอยู่ดีสายตาคมปรายมองเพื่อนของตน ทำให้พวกเขาต้องรีบหลบสายตาแล้วแอบไปหัวเราะอย่างชอบใจกันยกใหญ่“มีธุระอะไร” เขาถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา แต่ลึก ๆ แล้วก็ให้ความสนใจอยู่ไม่น้อยว่าเธอจะพูดเรื่องอะไรกันแน่อาเรียเม้มปากเล็กน้อย ขณะที่มองสายตาของเขา เธอชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งว่าจะพูดออกไปเลยดีไหม แต่เมื่อเห็นว่าเพื่อน ๆ ของเจย์เนสต่างจ้องมองเธอด้วยความอยากรู้ เธอก็เปลี่ยนใจ“ไปคุยตรงนู้นได้ไหม?” เธอเอ่ยพร้อมชี้ไปยังมุมที่ไกลออกไปจากกลุ่มเพื่อนของเขาเล็กน้อยเจย์เนสถอนหายใจ อนแรกอาเรียคิดว่าเขาจะไม่ยอมเดินไปตามคำขอ แต่แล้วไม่นานเขาก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เตรียมพร้อมจะเดินไปกับเธอเสียอย่างนั้น“หวังว่าจะเป็นเรื่องสำคัญ” ว่าจบก็เดินนำไปตรงจุดที่เธอชี้มาเมื่อสักครู่ในขณะเดียวกันกลุ่มเพื่อนของเขาก็ยังนั่งหัวเราะคิกคักส่งสายตาแซวตามหลังทั้งสองคนไป“แหม องค์ชาย มีสาวเรียกไปคุยส่วนตัวด้วยแฮะ” เอเดรียนเอ่ยแซวไล่หลังไป“อยากใส่ใจจังเลยว่าเรื่องอะไร” ลูคัสเองก็ไม่น้อยหน้า เอ่ยแซวไปพร้อมกัน ในขณ

  • พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา   บทที่ 11 พัสดุส่งตรงที่มาพร้อมความคาดหวัง

    อาเรียมองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยท่าทีชั่งใจก่อนจะสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วบอกกล่าวไปตามตรง “ขอบคุณนะ... แต่ฉันคิดว่าฉันคงไม่ไปร่วมงานนั้นหรอก”คำพูดนั้นทำให้มาร์คัสชะงัก ใบหน้าของเขาดูผิดหวังเล็กน้อย “ทำไมล่ะ งานออกจะสนุก”“ฉันไม่คิดว่ามันเหมาะกับฉันหรอก” เธอตอบพลางหลบสายตา แต่ทุกคนก็เข้าใจได้ว่าเป็นเพราะเรื่องอะไรเธอจึงเลี่ยงออกงานสังคมขนาดนี้ลิเลียนเหลือบมองอาเรียด้วยสายตาเศร้าสร้อย หากอาเรียยืนกรานปฏิเสธคนที่มาชวนถึงขนาดนี้ เธอก็คงไม่ไปจริง ๆ แล้วล่ะในขณะที่มาร์คัสเองก็ถอนหายใจอย่างนึกเสียดายเช่นกัน “ถ้าอย่างนั้น เป็นว่าถ้าเธอเปลี่ยนใจก็บอกฉันได้ทุกเมื่อเลยนะ”“ขอบคุณ” อาเรียตอบกลับอย่างสุภาพพร้อมรอยยิ้มเพื่อแสดงมารยาทเมื่อเห็นว่ามาร์คัสและเพื่อน ๆ เดินจากไปแล้ว เจย์เนสถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกแล้วจะโล่งบ้าโล่งบออะไร! แต่ความรู้สึกว้าวุ่นเดือดเนื้อร้อนใจในตอนแรกมันหายไปเป็นปลิดทิ้งอย่างน่าเหลือเชื่อเลยล่ะแต่ก่อนที่เขาจะเดินกลับออกไป หญิงสาวทั้งสองคนก็เดินผ่านบริเวณที่ตัวเขายืนอยู่พอดี นั่นทำให้เจย์เนสรีบดึงสีหน้าเมินเฉยราวกับว่าไม่ได้เห็นการมาถึงของพวกเธอ แล้วเดินลอยหน้าลอยตาออกไป

  • พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา   บทที่ 10 ใครเร็วใครได้

    เทศกาลคริสต์มาสเริ่มใกล้เข้ามา บรรยากาศภายในโรงเรียนก็ครึกครื้นมากขึ้น ต้นคริสต์มาสขนาดใหญ่ถูกนำมาจัดเตรียมเพื่อวางกลางโถงหอประชุมนอกจากนี้ ตามธรรมเนียมในทุกปี โรงเรียนจะจัดงานเลี้ยงในคืนวันที่ยี่สิบสามธันวาคม โดยให้นักเรียนหาคู่ควงไปร่วมงานกัน ทั้งนี้ก็เพื่อการสานสัมพันธ์ไมตรีระหว่างนักเรียนนั่นเอง ไม่เพียงแค่นักเรียนในโรงเรียนนี้เท่านั้น แต่ยังมีโรงเรียนราชนิกุลจากที่อื่นมาร่วมฉลองด้วยอีกต่างหากแต่สำหรับเจย์เนสแล้ว มันเป็นงานเลี้ยงที่เขามองว่าน่าเบื่อที่สุดเลยก็ว่าได้ ก็เขาไม่ชอบความวุ่นวาย นอกจากนี้ยังเกลียดการตกเป็นเป้าของผู้หญิงเกือบแทบทุกคนในโรงเรียนอีก เพราะไม่ว่าใครก็ต่างอยากควงคู่กับเขาออกงานใหญ่ทั้งนั้นแต่ธรรมเนียมก็คือธรรมเนียม เขาไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้อยู่แล้ว นอกจากนี้เขาก็มีวิธีจัดการกับความชุลมุนที่จะโถมเข้ามาเชิญชวนเขาไปงานด้วยอย่างยุติธรรมอยู่แล้ว โดยถือคติว่า “ใครเร็วใครได้” ซึ่งมันก็ช่วยให้เขาไม่ต้องเสียเวลาต้องเลือกมากด้วยทันทีที่เสียงระฆังดังบอกเลิกเรียน สาว ๆ ในห้องของเจย์เนสรวมถึงจากห้องอื่นก็ต่างกรูกันเข้ามาในคลาสเอส ความชุลมุนนั้นแออัดจนแทบจะไม่มีช่องทางให

  • พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา   บทที่ 9 ยุ่งเรื่องของเธอ

    วันรุ่งขึ้นช่วงหลังเลิกเรียน อาเรียก็รีบไปยื่นใบสมัครขอทำงานที่ห้องสมุดโรงเรียนงานส่วนใหญ่ที่นี่จะเป็นการจัดเรียงหนังสือที่นักเรียนคนอื่น ๆ นำมาคืนใส่เข้าชั้นให้เรียบร้อย หรือในบางครั้งก็อาจต้องช่วยอาจารย์บรรณารักษ์ในการอำนวยความสะดวกการหยิบยืมหนังสือเล่มต่าง ๆ และงานทั้งหมดนี้ จะได้ทำเพียงช่วงพักกลางวันและช่วงบ่ายหลังเลิกเรียนไม่เกินหกโมงเย็นเท่านั้นแหละก็ถือว่าเป็นงานที่สบายใช้ได้เลยทีเดียว นอกจากนี้เธอยังชอบใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับหนังสือเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วแต่อย่างไรวันนี้เธอก็ยังต้องไปร้องเพลงที่ร้านอาหารตามที่รับปากกับผู้จัดการร้านอยู่ดี อย่างน้อยก็จะได้เก็บเงินบางส่วน และหากชวดงานนี้ก็จะไม่เสียโอกาสไปโดยสูญเปล่าด้วยเพียงแต่...‘เชื่อฉัน งานห้องสมุดดีกว่าเยอะ’ อยู่ ๆ เธอก็หวนนึกถึงคำพูดของเขาขึ้นมาเสียอย่างนั้น แล้วก็ลำบากเธอมานั่งชั่งใจอีก...แต่ตอนนี้ที่บ้านเธอก็ยังไม่ถือว่าไม่ได้มีปัญหาขนาดที่จะต้องไปลำบากทำงานขนาดนั้นหรอก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็อยากจะทำอะไรที่พอจะช่วยเหลือได้บ้างระหว่างที่กำลังนั่งคิดอย่างถี่ถ้วนเวลาก็ค่อย ๆ ผ่านไปเรื่อย ๆ จนสุดท้ายก็ไม่ได้ไปร้องเพลงที่ร้า

  • พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา   บทที่ 8 ออดอ้อนเพื่อผลประโยชน์

    อาเรียที่เดินผ่านร้านอาหารร้านหนึ่งเข้า ดวงตาคู่สวยก็กวาดไปเจอประกาศรับสมัครพนักงานเข้าพอดี เธอจึงไม่รอช้า รีบเดินตรงเข้ามาในร้านเพื่อสอบถามเกี่ยวกับงานที่ว่าตอนแรกเธอคิดจะทำงานในห้องสมุดโรงเรียนนั่นแหละ แต่ก็กลัวว่ารายได้จะน้อยเกินไป นอกจากนี้ยังไม่มั่นใจด้วยว่าจะต้องแย่งชิงกับคนอื่นหรือเปล่า จึงอยากหางานสำรองเอาไว้ด้วย“ขอโทษนะคะ” เธอเอ่ยกับพนักงานอย่างสุภาพ ถึงแม้จะเป็นลูกคุณหนูแต่ก็ใช่ว่าเธอจะวางตัวสูงส่งใส่คนอื่นเขาไปทั่ว“ค่ะ มีอะไรให้ช่วยคะ”“คือ...ไม่ทราบว่ายังรับสมัครนักร้องอยู่ไหมคะ” เธอว่าพลางชี้ไปยังป้ายประกาศที่แปะอยู่ตรงหน้าร้านได้ยินแบบนั้นพนักงานก็ยิ้มรับ“ยังรับอยู่ค่ะ” ว่าจบเธอก็เดินไปหาผู้จัดการร้านเขาเป็นชายหนุ่มวัยกลางคน ซึ่งพอมองสำรวจรูปร่างหน้าตาของอาเรียแล้วก็มีความสนอกสนใจเธออยู่ไม่น้อย หากได้เธอมาเป็นนักร้องประจำร้าน คนจะต้องหลั่งไหลเข้ามาเพราะสเน่ห์ของเธอแน่ ๆ“สนใจเริ่มงานเลยไหมล่ะสาวน้อย” เขาถามาอาเรียเรียกได้ว่าแทบจะทันที“ค่ะ”“อ๋อ แต่ว่า บางครั้งถ้าหากลูกค้าเต็มร้าน อาจจะต้องมาช่วยเสริ์ฟด้วยนะเธอสะดวกหรือเปล่า”อาเรียได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้าโดยไม่เกี่ย

  • พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา   บทที่ 7 จับจ้อง หูผึ่ง

    บรรยากาศบริเวณเขตสังสรรค์ในยามเย็นเต็มไปด้วยชีวิตชีวา ร้านค้าเรียงรายสองข้างทาง มีทั้งนักเรียนและผู้คนจากในเมืองใกล้เคียงเดินทางมาจับจ่ายใช้สอยของกินและของใช้มากมายทุกคนต่างเร่งรีบเพื่อให้ทันเวลากลับเข้าไปในหอพัก ต่างจากพวกเขาซึ่งเป็นนักเรียนคลาสเอส สิ่งหนึ่งที่ได้รับการอภิสิทธิ์เหนือนักเรียจากคลาสอื่นก็คือ พวกเขาสามารถกลับเข้าหอพักในยามวิกาลแค่ไหนก็ย่อมได้ ต่างจากนักเรียนคนอื่นที่เมื่อนาฬิกาบอกเวลาสองทุ่มก็ต้องรีบกลับเข้าหอพักแล้วระหว่างที่กลุ่มของเจย์เนสกำลังเดินผ่านร้านอาหารและร้านขนมมากมาย เสียงหัวเราะและบทสนทนาของกลุ่มเพื่อนก็ดังไปตลอดทาง มิหนำซ้ำยังมีสายตาจากบรรดาสาว ๆ คอยจับจ้องมาตลอดทางอีกต่างหาก‘อึดอัดดีแท้...’ เจย์เนสคิดในใจขณะเดินไปพร้อมกับกลุ่มเพื่อนของตัวเองแต่ทันใดนั้น สองขายาวก็ต้องหยุดชะงักราวกับเสียอาการไปชั่วครู่เมื่อพบเจอร่างบางที่ดูคุ้นตา กำลังยืนหันหลังมองป้ายประกาศอะไรบางอย่างอยู่ตรงหน้าร้านหนังสือเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ตรงมุมหนึ่งดวงตาคมจับจ้องเธอเพียงครู่หนึ่ง ก่อนจะรีบเบือนหน้ากลับไปอย่างรวดเร็ว เพื่อไม่ให้พวกเพื่อน ๆ ทันสังเกตเห็นและเกิดเป็นประเด็นสนทนาได้แล

  • พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา   บทที่ 6 แทบทุกที่เป็นเรื่องเธอ

    ระหว่างทาง ร่างสูงก็ได้ยินนักเรียนยืนพูดคุยกันอยู่ไม่ไกลจากนอกอาคารด้วยความบังเอิญ แต่แล้วเนื้อความในนั้นกลับทำให้เขาหูผึ่งเสียอย่างช่วยไม่ได้“นี่ ได้ยินข่าวลือเรื่องที่ตระกูลฟลอเรนซ์ใกล้จะล้มละลายหรือเปล่า”“ได้ยินมาบ้างเหมือนกัน ข่าวลือดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก”ระหว่างที่เงี่ยหูฟังไปด้วย ช่วงก้าวของขาก็สั้นลงจนเรียกว่าแทบจะหยุดนิ่ง และเมื่อรู้ตัวก็ต้องรีบส่ายศีรษะขึ้นอย่างทันควันมันก็ไม่ใช่เรื่องของเขาสักหน่อย เหตุใดต้องสนใจ!แต่ในขณะที่กำลังเดินผ่านโซนตู้ล็อคเกอร์ อยู่ ๆ ก็มีเสียงฝีเท้าของใครบางคนที่กำลังมุ่งตรงเข้ามาหาเขาจากทางด้านหลังด้วยสัญชาตญาณ ใบหน้าหล่อจึงรีบหันกลับไปมองด้วยสายตาคมกริบ ก่อนจะพบกับหญิงสาวที่กำลังวิ่งเข้ามาอย่างเอาเป็นเอาตาย เธอทำราวกับว่าหากช้าไปกว่านี้อีกเพียงนิดเดียว เขาจะหายไปตลอดกาลอย่างนั้นแหละ“เจย์เนส!” เธอหยุดยืนหอบอยู่ตรงหน้าเขา เหมือนวิ่งมาไกลพอสมควรเชียวล่ะ มิหนำซ้ำ ดวงตากลมโตของเธอยังฉายแววหลากหลายอารมณ์อีกต่างหากทั้งดูกังวลใจ รู้สึกผิดจนอยากจะเอ่ยปากขอโทษ หรือแม้แต่ความประหม่าขณะเดียวกันนั้นมือเรียวก็หยิบกล่องเข็มกลัดออกมาถือไว้ในมืออย่างระมัด

  • พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา   บทที่ 5 ด้วยความตั้งใจ

    เช้าวันต่อมาแสงแดดที่ลอดผ่านหน้าต่างตรงโซนตู้ล็อคเกอร์เข้ามาบ่งบอกว่าอีกไม่นานก็ใกล้จะถึงเวลาเข้าเรียนแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นอาเรียก็ยังยืนอยู่ตรงหน้าล็อคเกอร์ของใครบางคนอยู่ไม่ห่างใช่แล้ว...เธอตั้งใจจะนำเข็มกลัดที่ใช้การไปเรียบร้อยแล้วมาส่งคืนให้เจ้าของหญิงสาวยืนอยู่ตรงหน้าล็อคเกอร์พลางมือก็กอบกุมกล่องใส่เข็มกลัดเอาไว้แน่น ระหว่างที่เขายังไม่โผล่มาก็ดูเหมือนจะซื้อเวลาให้เธอได้รวบรวมความกล้าที่จะไปสู้หน้าเขาต่ออีกสักเล็กน้อยล่ะ ไม่รู้ว่าทำไมถึงต้องมาคืนด้วยตัวเอง ทั้งที่ขอร้องให้คนอื่นมาส่งคืนแทนให้ก็ได้ แต่รู้ตัวอีกทีเธอก็มาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าตู้ล็อคเกอร์ของเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้วเนี่ยสิแต่ก็เอาเถอะ การมาส่งคืนตัวเองก็นับว่าเป็นมารยาทรูปแบบหนึ่งที่พึงกระทำ อย่างน้อยเขาจะได้ไม่เสียน้ำใจที่หวังดีช่วยเธออย่างไรล่ะอาเรียคิดให้เหตุผลกับตัวเองทั้งที่ในใจตอนนี้ยังสั่นไหวอยู่ตลอดเวลาเวลาผ่านไปหลายสิบนาที แต่ล็อคเกอร์ตรงหน้าก็ยังไร้วี่แววเจ้าของ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังรอคอยอย่างอดทน เป็นเวลาเดียวกับจำนวนคนเริ่มบางตาลง‘เขาคงไม่มาแล้วล่ะ…’ เธอคิดในใจก่อนจะถอนหายด้วยความรู้สึกผิดหวังอย่างช่ว

  • พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา   บทที่ 4 ความช่วยเหลือ

    “เป็นอะไรไปน่ะแบรดฟอร์ด ทำไมนอนคุดคู้แบบนั้น”เมื่อได้ยินเสียงอาจารย์ใกล้มาก แขนเรียวเล็กก็คว้ากอดร่างของคนตัวสูงเข้าเต็มปังเหมือนคอยลุ้นตามว่าจะโดนจับได้หรือเปล่า ทำเอาเจย์เนสชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ก็ยังพยายามดึงน้ำเสียงให้มั่นคงแล้วตอบกลับอาจารย์ไป“ปวดท้องครับ แต่...เดี๋ยวก็หายแล้ว”“งั้นเหรอ อืม ดูแลตัวเองแล้วกันนะ” ที่พูดเช่นนั้นเป็นเพราะอาจารย์ก็ไม่นึกฝันว่าแวมไพร์จะป่วยได้ เขาจึงไม่มีชุดความรู้ทางด้านนี้มาให้คำแนะนำว่าจะต้องทำเช่นไร จึงเลี่ยงหลบออกไปเสียดีกว่าเสียงประตูปิดลงพร้อมกับความเงียบที่หวนคืนสู่ห้อง แต่ทั้งคู่ก็ยังนอนนิ่งต่อไปอีกสักพักเพื่อให้แน่ใจว่าอาจารย์จะไม่ย้อนกลับมาเปิดประตูห้องอีกอาเรียนอนนิ่งอยู่ใต้ผ้าห่ม ความเงียบนั้นทำให้เสียงหัวใจของเธอที่เต้นโครมครามเด่นชัดขึ้นอย่างน่าอาย“ปลอดภัยแล้ว” เขาพูดพลางมองไปที่ประตู แล้วหลังจากนั้นอาเรียก็รีบผุดใบหน้าแดงก่ำออกมาจากผ้าห่มเหมือนแอบสังเกตการณ์ก่อนจะตัดสินใจว่าจะลุกหรือไม่ลุกดี “ปล่อยได้แล้วมั้ง”เจย์เนสนอนนิ่งเมื่อยังมีแขนเรียวของอาเรียพาดกอดตัวเองอยู่ หญิงสาวที่เพิ่งรู้ตัวว่าทำเรื่อถือวิสาสะก็รีบปล่อยกอดพร้อมลุกพรวดอ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status