Home / วัยรุ่น / พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา / บทที่ 11 พัสดุส่งตรงที่มาพร้อมความคาดหวัง

Share

บทที่ 11 พัสดุส่งตรงที่มาพร้อมความคาดหวัง

last update Last Updated: 2025-03-08 08:24:13

อาเรียมองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยท่าทีชั่งใจก่อนจะสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วบอกกล่าวไปตามตรง “ขอบคุณนะ... แต่ฉันคิดว่าฉันคงไม่ไปร่วมงานนั้นหรอก”

คำพูดนั้นทำให้มาร์คัสชะงัก ใบหน้าของเขาดูผิดหวังเล็กน้อย “ทำไมล่ะ งานออกจะสนุก”

“ฉันไม่คิดว่ามันเหมาะกับฉันหรอก” เธอตอบพลางหลบสายตา แต่ทุกคนก็เข้าใจได้ว่าเป็นเพราะเรื่องอะไรเธอจึงเลี่ยงออกงานสังคมขนาดนี้

ลิเลียนเหลือบมองอาเรียด้วยสายตาเศร้าสร้อย หากอาเรียยืนกรานปฏิเสธคนที่มาชวนถึงขนาดนี้ เธอก็คงไม่ไปจริง ๆ แล้วล่ะ

ในขณะที่มาร์คัสเองก็ถอนหายใจอย่างนึกเสียดายเช่นกัน “ถ้าอย่างนั้น เป็นว่าถ้าเธอเปลี่ยนใจก็บอกฉันได้ทุกเมื่อเลยนะ”

“ขอบคุณ” อาเรียตอบกลับอย่างสุภาพพร้อมรอยยิ้มเพื่อแสดงมารยาท

เมื่อเห็นว่ามาร์คัสและเพื่อน ๆ เดินจากไปแล้ว เจย์เนสถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

แล้วจะโล่งบ้าโล่งบออะไร! แต่ความรู้สึกว้าวุ่นเดือดเนื้อร้อนใจในตอนแรกมันหายไปเป็นปลิดทิ้งอย่างน่าเหลือเชื่อเลยล่ะ

แต่ก่อนที่เขาจะเดินกลับออกไป หญิงสาวทั้งสองคนก็เดินผ่านบริเวณที่ตัวเขายืนอยู่พอดี นั่นทำให้เจย์เนสรีบดึงสีหน้าเมินเฉยราวกับว่าไม่ได้เห็นการมาถึงของพวกเธอ แล้วเดินลอยหน้าลอยตาออกไป

แต่ก็ยังไม่วายที่จะมีสายตาของอาเรียคอยมองตาม

“นี่! ไม่ได้นะอาเรีย ห้ามมองทางนั้นเด็ดขาด เลิกคิดเลยอันตรายมาก!” ลิเลียนยกมือขึ้นกอดอกแล้วยืนบังสายตาของอาเรียที่กำลังจับจ้องไปทางเจย์เนส

“อะไรนะ” อาเรียตวัดสายตามองเพื่อนสาวด้วยความสงสัย บอกตามตรง เธอไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรของเขามากนักหรอก แต่ก็แอบอยากสมัครเป็นแฟนตัวยงอยู่ไม่น้อย หลังจากเรื่องที่เขาช่วยเหลือเธอ

เพราะฉะนั้น เธอจึงไม่รู้เลยว่าเพื่อนสนิทของเธอกำลังพูดถึงเรื่องอะไรกัน ลิเลียนเห็นแบบนั้นก็ได้แต่ส่ายศีรษะอย่างหน่าย ๆ ที่เพื่อนของเธอคนนี้ไม่ค่อยจะอัพเดทข่าวสารอะไรเสียบ้างเลย

“เขาอาจสุขุมนุ่มลึกก็จริง แต่ว่าร้ายกาจมาก โดยเฉพาะ….” เธอค่อย ๆ โน้มตัวเข้ามากระซิบข้างหูอาเรีย “เรื่องผู้หญิงน่ะ”

อาเรียได้ยินแบบนั้นสีหน้าก็ดูตกใจอยู่ไม่น้อย เธอไม่รู้มาก่อนเลยว่าคนนิ่งขรีมอย่างเจย์เนสจะฉาวโฉ่เรื่องผู้หญิง นี่มันเรือ่งจริงเหรอเนี่ย

“เอ่อ แต่เขาออกจะนิ่งขนาดนั้น”

“ใช่ ถึงจะนิ่งแต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีเรื่องอย่างว่าหนิ ผู้ชายร้ายลึกกันทั้งนั้นแหละอาเรีย อย่าได้โดนภาพลักษณ์ภายนอกหลอกเชียว”

แต่สิ่งที่เขาแสดงออกกับเธอ มันไม่เห็นเหมือนอย่างข่าวที่ลือเลยนะ…

“นี่อย่าบอกนะว่ากำลังหาข้ออ้างแก้ตัวให้แบรดฟอร์ด หรือว่าเธอ...” ลิเลียนยังพูดไม่ทันจบประโยคก็ยกมือขึ้นอุดปากเสียก่อน

“ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย ฉันแค่คิดว่าเขาไม่เห็นเหมือนที่เธอพูด เลยสงสัยก็แค่นั้นเอง”

“เอาเป็นว่าขึ้นป้ายเตือนว่าอันตราย อย่าไปยุ่ง ก็แล้วกัน”

ว่าจบลิเลียนก็เดินนำเธอไปทางหอพักหญิง ส่วนอาเรียก็เดินตามเจ้าหล่อนไป แต่ก็อดพึมพำกับตัวเองเบา ๆ เสียไม่ได้ “ฉันว่า...ฉันยุ่งไปแล้วล่ะ...”

และเมื่อกลับมาถึงหอพัก เธอก็พบว่ามีพัสดุกล่องใหญ่นำมาส่งถึงหน้าห้องนอนของเธอ ไม่รู้ว่าเพราะอะไรทั้งที่ยังไม่ได้เปิดออกแท้ ๆ แต่กลับรู้สึกหนักใจอย่างไรชอบกล

เพราะชื่อที่จ่าหน้ามาบนกล่องพัสดุ มันคือของจากที่บ้านของเธอ

และเมื่อเปิดออกดูก็พบว่าข้างในเป็นชุดเดรสสีแดงประดับลูกไม้ละเอียดเหมือนเป็นชุดออกงานอย่างไรอย่างนั้น มือเรียวค่อย ๆ ลูบไล้เนื้อผ้าที่ถูกสั่งตัดมาอย่างดี ก่อนจะดึงมันออกมากางทาบกับร่างของตัวเอง

“เฮ้อ...ต้องไปจริง ๆ สินะ”

ชุดมาขนาดนี้แล้ว คงไม่ต้องสงสัยเลยว่าคุณพ่อต้องอยากให้เธอโดดเด่นที่สุดในงานแน่นอน

แต่สิ่งนี้มันไม่ถูกใจเธอเอาเสียเลย เพราะยิ่งเด่นยิ่งเป็นที่ถูกพูดถึง เพียงเท่านี้เธอก็ไม่อยากสู้หน้าใครเขาแล้ว ยิ่งมีข่าวลือว่าคุณพ่ออยากจะขายเธอออกไปให้ตระกูลสูงศักดิ์แล้วเธอยิ่งรู้สึกไม่ดี

‘หรือว่าฉันควรจะไปบอกมาร์คัสว่าเปลี่ยนใจแล้ว?’แต่ทันทีที่ความคิดนั้นเกิดขึ้น เธอก็รีบปัดมันทิ้งไป

‘ไม่ได้นะ แบบนั้นมันน่าอายเกินไป เพิ่งบอกเขาแท้ ๆ ว่าจะไม่ไป...’ คิดไปคิดมาดวงหน้าสวยก็เริ่มซุกลงกับฝ่ามือของตนเหมือนคิดไม่ตกเสียทีว่าจะทำอย่างไรดี

เอาเป็นว่า ลงไปหาอะไรกินก่อนดีกว่า เดี๋ยวก็คิดออกเองแหละอาเรีย ทุกปัญหาย่อมมีทางออกเสมอ

เธอลงไปหาลิเลียนที่รออยู่ข้างล่างเพื่อออกไปหาอะไรทานด้วยกัน แต่แล้ว...ยังไม่ทันจะได้ลงไปถึงห้องนั่งเล่นรวม เธอก็ได้ยินเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นของกลุ่มนักเรียนหญิงดังมาจากชั้นล่าง

“ฉันชวนเขาเป็นคนแรก แต่เจย์เนสไม่ยอมตอบรับ นี่ก็เหลืออีกแค่วันเดียวแล้วนะ...” เสียงของนักเรียนหญิงคนหนึ่งดังขึ้นอย่างร้อนรน และเมื่อได้ยินชื่อของเจย์เนส ก็ทำให้อาเรียหูผึ่งแทบจะทันที

นี่มันเพราะอะไรกัน เป็นปฏิกิริยาอัตโนมัติอย่างนั้นเหรอ

“เขาไม่รับคำชวนของใครเลยนี่...” อีกเสียงหนึ่งตอบกลับ ฟังแล้วน้ำเสียงดูเหนื่อยใจไม่แพ้กัน

เพียงเพราะเขาไม่ยอมตอบตกลงว่าจะไปงานด้วย ต้องเศร้าเสียใจกันขนาดนั้นเลยหรือไง อาเรียส่ายศีรษะไปมาอย่างเวทนาก่อนจะเดินออกไปทานมื้อเย็นพร้อมกับลิเลียน

แต่ก็ยังไม่วายนึกถึงคำพูดที่เพิ่งได้ยินมาจนเหมือนกำลังจมอยู่กับความคิด

‘ทำไมเขาถึงไม่ยอมตอบรับคำขอของใครเลยล่ะเนี่ย’

ถึงแม้สีหน้าอขงเธอจะดูฉงนใจเอาเสียมาก ๆ แต่ก็รู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก ว่าแต่...ทำไมเธอจะต้องมีความคิดแบบนี้ด้วยล่ะเนี่ย

หลังทานมื้อเย็นเรียบร้อยเธอก็กลับขึ้นห้องของตัวเอง ขณะที่กำลังไล่สายตาอ่านหนังสืออยู่นั้น ความคิดก็เหมือนจะล่องลอยจนเรียกได้ว่าเข้าขั้นเพ้อเจ้อ

‘ถ้าเธอลองไปชวนเขา เขาจะตอบรับไหมนะ’ ไม่ว่าเปล่ายังทำท่าครุ่นคิดอย่างเป็นจริงเป็นจังอีกด้วย แต่แล้วเมื่อนึกขึ้นได้ว่าตัวเองกำลังคิดเรื่องบ้าอะไรอยู่นั้น ก็รีบซุกหน้าลงกับฝ่ามืออย่างเหลือเชื่อ

‘บ้าจริงอาเรีย คิดอะไรอยู่เนี่ย เดี๋ยวก็ได้มีเรื่องกับสาว ๆ พวกนั้นอีกหรอก’

มันไม่ใช่ความคิดที่จะจางหายไปได้โดยง่าย แต่เมื่อนึกถึงสิ่งที่ลิเลียนบอกไปเมื่อเย็นวันนี้ที่บอกว่า ‘ห้ามเด็ดขาดเลยนะ อันตรายมาก!’

และในที่สุด อาเรียก็ล้มเลิกความคิดนั้นไปโดยปริยาย อย่าใส่ใจเลยดีกว่า ยิ่งอยู่ห่างจากเขามากเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น ท่องเอาไว้สิอาเรีย

และแล้ว วันสุดท้ายของการหาคู่ควงไปงานคริสต์มาสก็มาถึงจนได้ อาเรียเดินไปตามทางเดินของโรงเรียน ท่ามกลางบรรยากาศยามเช้าที่เหมือนจะสดใส(?)

แต่สิ่งที่ทำให้หม่นหมองก็คือความคิดในใจที่ดูเหมือนจะไม่สงบนั่นแหละ บอกตามตรง เธอยังคิดไม่ตกว่าจะไปชวนมาร์คัสอีกครั้งหรืออย่างไรดี และหากรอช้าไปมากกว่านี้เดี๋ยวจะไม่ทันกาล และหากพ่อรู้ว่าเธอไม่ได้ไปร่วมงานแล้วใส่ชุดสวย ๆ ที่เขาตั้งใจตัดส่งมาให้ มีหวังได้โดนบ่นยาวแน่

แต่ยังมีเรื่องใหญ่กว่านั้นเสียอีก...

“คุณพ่อเล่นใหญ่เกินไปแล้ว” อาเรียบ่นพึมพำกับตัวเองเมื่อได้รับข้อความจากคุณพ่อว่าจะส่งช่างแต่งหน้าทำผม รวมถึงอาจารย์ที่คอยดูแลเรื่องการวางตัวในงานเลี้ยงมาให้เธอเป็นการพิเศษอีกต่างหาก

แต่ก็ไม่ถือว่าเว่อร์วังเกินไปนักหรอก เพราะโรงเรียนนี้เต็มไปด้วยเหล่าลูกหลานตระกูลดัง ส่วนใหญ่แล้วก็จะจ้างเลดี้ผู้สูงศักดิ์มากำชับเรื่องการวางตัวให้กันทั้งนั้นแหละ

เพียงแต่มันเป็นความต้องการส่วนบุคคล ซึ่งอาเรียไม่ได้ต้องการเช่นนั้นเลยแม้แต่น้อย

ขณะที่ก้าวเดินไปตามทาง สายตาของเธอก็ล่องลอยจมอยู่กับความคิด แต่แล้วสติก็กลับเข้าร่างอย่างกะทันหัน เนื่องจาก สายตาเจ้ากรรมดันเหลือบไปเห็นร่างสูงของเจย์เนสที่กำลังเดินสวนทางมากับกลุ่มเพื่อน

อาเรียยกมือขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว เหมือนกำลังจะโบกทักทาย แต่ท่าทีของเขานั้นนิ่งเฉยมาก ไม่แม้แต่จะปรายตามองมาทางเธอด้วยซ้ำ เขาชอบทำเหมือนว่าทุกอย่างรอบตัวไม่ได้มีความสำคัญต่อเขาเลยแม้แต่น้อย

นั่นรวมถึงเธอด้วยสินะ...

อาเรียรีบดึงมือลงก่อนที่จะทำตัวหน้าขายหน้าไปมากกว่านี้ เมื่อรู้สึกว่าเขาจงใจเมินเฉยใส่เธออย่างถึงที่สุด

‘เฮ้อ คิดว่าเป็นเพื่อนกันแล้วซะอีก แต่ดูเหมือนเราจะคิดไปเองสินะ’ คิดในใจพร้อมถอนหายใจออกมาอย่างหนักใจ

แต่แล้วสิ่งที่เธอครุ่นคิดอยู่เมื่อคืนก็กลับเข้ามาอีกครั้ง ‘ลองชวนเขาดูสิ!’ ความคิดในจิตใต้สำนึกเริ่มทำงานอีกครั้ง ขณะที่สมองก็ได้แต่ฝืนปฏิเสธ

เจย์เนสเดินผ่านเธอไปโดยไม่หันกลับมามองเลยสักนิด ราวกับว่าจงใจจะเมิจริง ๆ ‘ฉันไม่มีทางยอมโดนสเน่ห์ของเธออีกหรอกฟลอเรนซ์ พอกันที’

กลุ่มของเจย์เนสเดินไปนั่งอยู่ในสวนหย่อมโรงเรียนใต้ต้นไม้ใหญ่ที่เป็นเหมือนจุดประจำของพวกเขา

เมื่อถึงที่หมาย ร่างสูงก็ทิ้งตัวลงนอนพิงต้นไม้ ดวงตาสีแดงปิดลงเพื่อผ่อนคลายตัวเองจากสิ่งที่รบกวนจิตใจ โดยเฉพาะแม่สาวฟลอเรนซ์ที่เพิ่งเดินสวนกันเมื่อสักครู่ด้วย

บอกตามตรง ถึงเขาจะพยายามทำเหมือนว่าไม่ได้มอง แต่สายตาก็ยังเหลือบไปเห็นโดยไม่ได้ตั้งใจอยู่ดี

ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้นะ ทั้งที่เรื่องการเมินเฉยต่อทุกสิ่งรอบตัวเป็นงานถนัดของเขา แต่เหมือนว่า การเมินเฉยต่อเรื่องของเอจะกลายเป็นเรื่องยากเย็นสำหรับเขาไปซะอย่างนั้น

ขณะที่เพื่อน ๆ ของเขานั่งคุยกันอยู่บนพื้นหญ้าด้วยบรรยากาศที่ผ่อนคลาย

เอเดรียนหยิบขนมจากกระเป๋ามาโยนใส่เซบาสเตียน ที่เมื่อขนมมาโดนเสื้อผ้า เขาก็รีบยกมือขึ้นปัดเสื้อผ้าให้สะอาดทันที

“นี่ยังไม่เลิกทำตัวเนี้ยบอีกเหรอ” เอเรียนมองเขาอย่างเหนื่อยหน่าย

“นายนั่นแหละหัดทำตัวให้สะอาดซะบ้าง” เซบาสเตียนตอบกลับทันที ก่อนจะค่อย ๆ หยิบม้วนเสื่อขนาดหย่อมออกมากางออกแทนที่จะนั่งลงกับพื้นหญ้าโดยตรง

ลูคัสที่ปรายตามองเพื่อนอีกคนก็พูดขึ้นเสียงเรียบ “องค์ชายของเราดูเหนื่อย ๆ นะว่าไหม”

“อ๋อ ก็ต้องเหนื่อยแหละ คิดออกหรือยังล่ะว่าจะไปงานคริสมาสต์กับสาวคนไหน ของดี ๆ ก็คงหมดไปเรียบร้อยแล้วล่ะนะ ดันเล่นปฏิเสธไปตั้งแต่ต้นน่ะ” เอเดรียนตอบพร้อมหัวเราะด้วยความขนขันในท่าทีของเจย์เนส

“หรือเพราะไม่มีสาว ๆ คนไหนถูกใจเลยสักคนหือเปล่า เลยเหนื่อยใจยู่นี่ไง” เซบาสเตียนกล่าว

ไม่ทันขาดคำ เงาของใครบางคนก็ทาบลงบนกลุ่มของพวกเขา ทำให้บทสนทนาที่กำลังออกรสชาตินั้นต้องเงียบลงแทบจะทันที

เจย์เนสลืมตาขึ้นก่อนจะพบเข้ากับหญิงสาวผมสีบลอนด์ที่ยืนอยู่ตรงหน้า ท่าทางของเธอดูประหม่ายิ่งกว่าครั้งไหน ๆ

“มีอะไรหรือเปล่าครับ” ลูคัสเป็นคนแรกที่เปิดปากถาม อาเรียเหลือบมองพวกเขาครู่หนึ่งก่อนจะหันมาจับจ้องที่เจย์เนส เหมือนเป็นการสื่อว่าคนที่เธอมาหาก็คือเขา

“ขอคุยด้วยหน่อยได้ไหม?” อาเรียพูดขึ้นพลางเหลือบมองเพื่อน ๆ ของเขาอย่างระแวดระวังไปด้วย

พวกเขาต่างพากันหันมองหน้ากัน ก่อนจะเริ่มกระซิบกระซาบและกระแทกศอกใส่กันไปมา

Related chapters

  • พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา   บทที่ 12 จงใจหักหน้ากันหรือเปล่า

    “ขอคุยด้วยหน่อยได้ไหมพ่อรูปหล่อ” เอเดรียนกระซิบแซวกับเซบาสเตียน แต่ถึงจะกระซิบด้วยเสียงที่เบาแค่ไหน เจย์เนสก็ได้ยินอยู่ดีสายตาคมปรายมองเพื่อนของตน ทำให้พวกเขาต้องรีบหลบสายตาแล้วแอบไปหัวเราะอย่างชอบใจกันยกใหญ่“มีธุระอะไร” เขาถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา แต่ลึก ๆ แล้วก็ให้ความสนใจอยู่ไม่น้อยว่าเธอจะพูดเรื่องอะไรกันแน่อาเรียเม้มปากเล็กน้อย ขณะที่มองสายตาของเขา เธอชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งว่าจะพูดออกไปเลยดีไหม แต่เมื่อเห็นว่าเพื่อน ๆ ของเจย์เนสต่างจ้องมองเธอด้วยความอยากรู้ เธอก็เปลี่ยนใจ“ไปคุยตรงนู้นได้ไหม?” เธอเอ่ยพร้อมชี้ไปยังมุมที่ไกลออกไปจากกลุ่มเพื่อนของเขาเล็กน้อยเจย์เนสถอนหายใจ อนแรกอาเรียคิดว่าเขาจะไม่ยอมเดินไปตามคำขอ แต่แล้วไม่นานเขาก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เตรียมพร้อมจะเดินไปกับเธอเสียอย่างนั้น“หวังว่าจะเป็นเรื่องสำคัญ” ว่าจบก็เดินนำไปตรงจุดที่เธอชี้มาเมื่อสักครู่ในขณะเดียวกันกลุ่มเพื่อนของเขาก็ยังนั่งหัวเราะคิกคักส่งสายตาแซวตามหลังทั้งสองคนไป“แหม องค์ชาย มีสาวเรียกไปคุยส่วนตัวด้วยแฮะ” เอเดรียนเอ่ยแซวไล่หลังไป“อยากใส่ใจจังเลยว่าเรื่องอะไร” ลูคัสเองก็ไม่น้อยหน้า เอ่ยแซวไปพร้อมกัน ในขณ

    Last Updated : 2025-03-08
  • พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา   บทนำ

    ฤดูใบไม้ร่วงหวนกลับมาอีกครั้ง ตามมาด้วยลมหนาวที่คืนสู่เมืองใหญ่ซึ่งเคลื่อนผ่านสนามหญ้าอันกว้างขวางของ เซนต์โยเซีย อะเคเดมีปราสาทสูงใหญ่ที่ถูกออกแบบมาในรูปแบบสถาปัตยกรรมกอทิค ตั้งสูงตระหง่านอยู่บนเนินเขา ตัวปราสาทล้อมรอบไปด้วยรั้วสูงเกือบเท่าตัว หอคอยหลายชั้นตั้งเรียงตัวต่อกันจนสูงชะลูด เป็นสถานที่ซึ่งปราศจากการมองเห็นจากคนนอกที่ไม่ได้ถูกต้อนรับเข้าสู่โลกแห่งความพิศวง นอกจากนี้เถาวัลย์ที่เลื้อยปกคลุมตัวอาคารนั้นยังเผยให้เห็นถึงความเก่าแก่ของโรงเรียนแห่งนี้อีกด้วยซึ่งหากมองจากภายนอกแล้ว ดูเหมือนจะเงียบร้างอย่างไรอย่างนั้น แต่มันก็เป็นเพียงฉากหน้าเท่านั้นแหละ เพราะอันที่จริงแล้ว ภายใต้อาคารใหญ่ต่างมีผู้คนต่างพลุกพล่านไปทั่ว โดยเฉพาะในห้องโถงประชุม เนื่องด้วยวันนี้เป็นวันมอบตัวเพื่อส่งนักเรียนเข้าศึกษา ณ อะคาเดมีแห่งนี้มีทั้งลูกหลานตระกูลแวมไพร์ และด้วยความที่ที่อะคาเดมีแห่งนี้ถูกก่อตั้งมามากกว่าหนึ่งร้อยปีแล้ว จึงมีตระกูลมนุษย์ผู้ดีเก่าแก่ที่ได้อภิสิทธืในการส่งลูกหลานของตระกูลตัวเองเข้ามาเรียนในสถานที่แห่งนี้เช่นกันการมีโรงเรียนแห่งนี้กำเนิดขึ้นก็นับเป็นอุบัติการณ์ของโลกแวมไพร์ที่สาม

    Last Updated : 2025-03-02
  • พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา   บทที่ 1 อาเรียน่า ฟลอเรนซ์

    ชีวิตในโรงเรียนสำหรับพวกนักเรียนแวมไพร์เป็นเรื่องที่ไม่ได้ยากลำบากนัก แต่กลับเป็นที่น่ากดดันสำหรับพวกนักเรียนมนุษย์ ด้วยความที่โรงเรียนนี้เต็มไปด้วยเหล่าลูกหลานชนชั้นสูงของตระกูลแวมไพร์จากทั่วทุกมุมโลก มันจึงเกิดเป็นชนชั้นทางสังคมภายในโรงเรียนขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดสำหรับเจย์เนสกับเรย์เน่แล้วเรื่องนี้ไม่ได้เป็นปัญหาเลยสักนิด พวกเขาเป็นถึงลูกหลานของเชื้อพระวงศ์จากตระกูลแวมไพร์ที่เรียกได้ว่าเก่าแก่ที่สุด แล้วมีหรือที่นักเรียนคนอื่นจะกล้าล้ำเส้นมาจัดชนชั้นให้กับพวกเขาเรียกได้ว่าอยู่เหนือห่วงโซ่ของพวกหัวสูงอย่างสบาย ๆ เลยล่ะ“นั่นเจย์เนสใช่ไหม”“ใช่ หล่อมากเลยเนอะ”“หล่อที่สุดเท่าที่เคยเจอพวกผู้ชายมาเลยล่ะ”“เคยเห็นพ่อเขาหรือยัง เหมือนกันอย่างกับฝาแฝดแหนะ”“แสดงว่าเบ้าหน้าดีทั้งบ้านเลยสิ”“เรียนดี กีฬาเด่น หน้าหล่อ ตรงสเป็คสุด ๆ เลย”“เสียดาย อันตรายเกินไปหน่อย”เสียงเจื้อยแจ้วของพวกนักเรียนหญิงดังขึ้นตลอดทางที่เจย์เนสเดินผ่าน ยอมรับว่าสมัยที่เพิ่งเข้ามาเรียนใหม่ ๆ แล้วเจอเหตุการณ์เช่นนี้เขามักจะทำตัวไม่ถูก แต่เมื่อวันเวลาผ่านไปก็ปรับตัวได้อย่างน่าเหลือเชื่อ กลายเป็นไม่ยี่หระต่อสิ่งรอบข้า

    Last Updated : 2025-03-02
  • พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา   บทที่ 2 เกมท้าทายความกล้าหาญ

    หลังจากวันหยุดสุดสัปดาห์ผ่านไป เจย์เนสและเรย์เน่ก็กลับเข้ารั้วโรงเรียนอีกครั้ง สองพี่น้องใช้ชีวิตในรั้วโรงเรียนอย่างสงบสุข แต่ทว่าความสงบสุขนี้ดูเหมือนจะไกลเกินเอื้อมสำหรับหญิงสาวอย่าง อาเรียน่า ฟลอเรนซ์เพราะหลังจากเหตุการณ์ในห้องสมุด โซเฟียก็เพ่งเล้งเธออยู่แทบตลอดเวลา และเจ้าหล่อนก็ดูเหมือนจะไม่ปล่อยให้อาเรียได้อยู่อย่างสงบสุขอีกเลยวันนี้ก็เช่นกัน..."เธอคิดว่าตัวเองพิเศษมากนักเหรอ?" โซเฟียเริ่มต้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน "แค่เจย์เนสเสียสละยอมให้หนังสือไป อย่าได้คิดสำคัญตัวเองเชียว" ไม่ว่าเปล่ายังจับจ้องไปยังปกหนังสือที่อยู่ในมือเรียวของอาเรียอีกต่างหากแต่หญิงสาวไร้ซึ่งการตอบโต้แต่อย่างใด เพียงแค่ก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือในมือและพยายามไม่สนใจต่อสิ่งเร้าที่เข้ามารบกวนก็แค่พวกแมลงหวี่แมลงวันเท่านั้นล่ะ...“ฉันพูดกับเธออยู่นะ แม่สาวฟลอเรนซ์” ไม่ว่าเปล่ายังยื่นหน้าเข้ามาใกล้ และความใกล้นั้นก็ทำเอาคนที่ตั้งใจเมินถึงกับหลุดสมธิเลยทีเดียวสายตาของอาเรียละออกจากหนังสือก่อนจะถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย ก่อนจะตอบกลับในทันควัน“ฉันไม่เคยสำคัญตัวเองหรอกนะ เธอเข้าใจผิดแล้วล่ะ” ถึงแม้จะเป็นประโยคที่ดู

    Last Updated : 2025-03-02
  • พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา   บทที่ 3 ยัยแมวขโมย

    “นะ...นายเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่” สองนิ้วเรียวพันวนกันไปมาแสดงความประหม่าอย่างชัดเจน“นี่ห้องฉัน...” เขากดเสียงต่ำพลางเดินเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อย ๆ “แล้วอีกอย่าง ฉันอยู่ในนี้มาตลอด”ว่าจบก็มาหยุดยืนประชันหน้ากับเธอเข้าพอดี เขาจ้องมองหญิงสาวที่กำลังกก้มหน้างุดมองปลายเท้าอยู่เพียงครู่หนึ่ง“บางที นายควรจะเปิดไฟสักหน่อย...”ได้ยินแบบนั้น แวมไพร์หนุ่มก็แสยะยิ้มขึ้นมุมปาก ก่อนจะค่อย ๆ โน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ราวกับอยากจะพินิจแววตาของเธอให้ชัดเจนยิ่งขึ้นอาเรียที่เห็นว่ามันใกล้เกินไปก็ค่อย ๆ เบี่ยงตัวหลบไปด้านหลังจนเกือบหงายลงไปทั้งร่าง แต่ทันทีที่เธอเกือบจะล้มลงไปนั้น มือหนาของเขาประคองร่างเอาไว้ได้ทันเสียก่อน“เธอผิดประเด็นไปหรือเปล่า เห็นได้ชัดว่าเธอมาอยู่ในที่ที่ไม่ควรอยู่เอง ทำไมถึงได้มาตั้งคำถามใส่ฉัน”ไม่เพียงแค่พูดเท่านั้น หลังจากประคองร่างเธอให้ทรงตัวได้แล้ว เขาก็ยังยังคว้าจับข้อมือข้างหนึ่งของเธอ ซึ่งดูหมือนกำลังแอบซ่อนสิ่งของบางอย่างเอาไว้ในกำปั้นเล็กนั่น"ขโมยของเหรอ" น้ำเสียงนิ่งสงบแต่เฉียบขาด “เข็มกลัดนี่ขายไม่ได้ราคาหรอกคุณฟลอเรนซ์” ไม่ว่าเปล่ายังส่งสายตาเย็นชาใส่อย่างต่อเนื่อง“ฉ

    Last Updated : 2025-03-05
  • พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา   บทที่ 4 ความช่วยเหลือ

    “เป็นอะไรไปน่ะแบรดฟอร์ด ทำไมนอนคุดคู้แบบนั้น”เมื่อได้ยินเสียงอาจารย์ใกล้มาก แขนเรียวเล็กก็คว้ากอดร่างของคนตัวสูงเข้าเต็มปังเหมือนคอยลุ้นตามว่าจะโดนจับได้หรือเปล่า ทำเอาเจย์เนสชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ก็ยังพยายามดึงน้ำเสียงให้มั่นคงแล้วตอบกลับอาจารย์ไป“ปวดท้องครับ แต่...เดี๋ยวก็หายแล้ว”“งั้นเหรอ อืม ดูแลตัวเองแล้วกันนะ” ที่พูดเช่นนั้นเป็นเพราะอาจารย์ก็ไม่นึกฝันว่าแวมไพร์จะป่วยได้ เขาจึงไม่มีชุดความรู้ทางด้านนี้มาให้คำแนะนำว่าจะต้องทำเช่นไร จึงเลี่ยงหลบออกไปเสียดีกว่าเสียงประตูปิดลงพร้อมกับความเงียบที่หวนคืนสู่ห้อง แต่ทั้งคู่ก็ยังนอนนิ่งต่อไปอีกสักพักเพื่อให้แน่ใจว่าอาจารย์จะไม่ย้อนกลับมาเปิดประตูห้องอีกอาเรียนอนนิ่งอยู่ใต้ผ้าห่ม ความเงียบนั้นทำให้เสียงหัวใจของเธอที่เต้นโครมครามเด่นชัดขึ้นอย่างน่าอาย“ปลอดภัยแล้ว” เขาพูดพลางมองไปที่ประตู แล้วหลังจากนั้นอาเรียก็รีบผุดใบหน้าแดงก่ำออกมาจากผ้าห่มเหมือนแอบสังเกตการณ์ก่อนจะตัดสินใจว่าจะลุกหรือไม่ลุกดี “ปล่อยได้แล้วมั้ง”เจย์เนสนอนนิ่งเมื่อยังมีแขนเรียวของอาเรียพาดกอดตัวเองอยู่ หญิงสาวที่เพิ่งรู้ตัวว่าทำเรื่อถือวิสาสะก็รีบปล่อยกอดพร้อมลุกพรวดอ

    Last Updated : 2025-03-05
  • พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา   บทที่ 5 ด้วยความตั้งใจ

    เช้าวันต่อมาแสงแดดที่ลอดผ่านหน้าต่างตรงโซนตู้ล็อคเกอร์เข้ามาบ่งบอกว่าอีกไม่นานก็ใกล้จะถึงเวลาเข้าเรียนแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นอาเรียก็ยังยืนอยู่ตรงหน้าล็อคเกอร์ของใครบางคนอยู่ไม่ห่างใช่แล้ว...เธอตั้งใจจะนำเข็มกลัดที่ใช้การไปเรียบร้อยแล้วมาส่งคืนให้เจ้าของหญิงสาวยืนอยู่ตรงหน้าล็อคเกอร์พลางมือก็กอบกุมกล่องใส่เข็มกลัดเอาไว้แน่น ระหว่างที่เขายังไม่โผล่มาก็ดูเหมือนจะซื้อเวลาให้เธอได้รวบรวมความกล้าที่จะไปสู้หน้าเขาต่ออีกสักเล็กน้อยล่ะ ไม่รู้ว่าทำไมถึงต้องมาคืนด้วยตัวเอง ทั้งที่ขอร้องให้คนอื่นมาส่งคืนแทนให้ก็ได้ แต่รู้ตัวอีกทีเธอก็มาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าตู้ล็อคเกอร์ของเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้วเนี่ยสิแต่ก็เอาเถอะ การมาส่งคืนตัวเองก็นับว่าเป็นมารยาทรูปแบบหนึ่งที่พึงกระทำ อย่างน้อยเขาจะได้ไม่เสียน้ำใจที่หวังดีช่วยเธออย่างไรล่ะอาเรียคิดให้เหตุผลกับตัวเองทั้งที่ในใจตอนนี้ยังสั่นไหวอยู่ตลอดเวลาเวลาผ่านไปหลายสิบนาที แต่ล็อคเกอร์ตรงหน้าก็ยังไร้วี่แววเจ้าของ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังรอคอยอย่างอดทน เป็นเวลาเดียวกับจำนวนคนเริ่มบางตาลง‘เขาคงไม่มาแล้วล่ะ…’ เธอคิดในใจก่อนจะถอนหายด้วยความรู้สึกผิดหวังอย่างช่ว

    Last Updated : 2025-03-07
  • พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา   บทที่ 6 แทบทุกที่เป็นเรื่องเธอ

    ระหว่างทาง ร่างสูงก็ได้ยินนักเรียนยืนพูดคุยกันอยู่ไม่ไกลจากนอกอาคารด้วยความบังเอิญ แต่แล้วเนื้อความในนั้นกลับทำให้เขาหูผึ่งเสียอย่างช่วยไม่ได้“นี่ ได้ยินข่าวลือเรื่องที่ตระกูลฟลอเรนซ์ใกล้จะล้มละลายหรือเปล่า”“ได้ยินมาบ้างเหมือนกัน ข่าวลือดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก”ระหว่างที่เงี่ยหูฟังไปด้วย ช่วงก้าวของขาก็สั้นลงจนเรียกว่าแทบจะหยุดนิ่ง และเมื่อรู้ตัวก็ต้องรีบส่ายศีรษะขึ้นอย่างทันควันมันก็ไม่ใช่เรื่องของเขาสักหน่อย เหตุใดต้องสนใจ!แต่ในขณะที่กำลังเดินผ่านโซนตู้ล็อคเกอร์ อยู่ ๆ ก็มีเสียงฝีเท้าของใครบางคนที่กำลังมุ่งตรงเข้ามาหาเขาจากทางด้านหลังด้วยสัญชาตญาณ ใบหน้าหล่อจึงรีบหันกลับไปมองด้วยสายตาคมกริบ ก่อนจะพบกับหญิงสาวที่กำลังวิ่งเข้ามาอย่างเอาเป็นเอาตาย เธอทำราวกับว่าหากช้าไปกว่านี้อีกเพียงนิดเดียว เขาจะหายไปตลอดกาลอย่างนั้นแหละ“เจย์เนส!” เธอหยุดยืนหอบอยู่ตรงหน้าเขา เหมือนวิ่งมาไกลพอสมควรเชียวล่ะ มิหนำซ้ำ ดวงตากลมโตของเธอยังฉายแววหลากหลายอารมณ์อีกต่างหากทั้งดูกังวลใจ รู้สึกผิดจนอยากจะเอ่ยปากขอโทษ หรือแม้แต่ความประหม่าขณะเดียวกันนั้นมือเรียวก็หยิบกล่องเข็มกลัดออกมาถือไว้ในมืออย่างระมัด

    Last Updated : 2025-03-07

Latest chapter

  • พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา   บทที่ 12 จงใจหักหน้ากันหรือเปล่า

    “ขอคุยด้วยหน่อยได้ไหมพ่อรูปหล่อ” เอเดรียนกระซิบแซวกับเซบาสเตียน แต่ถึงจะกระซิบด้วยเสียงที่เบาแค่ไหน เจย์เนสก็ได้ยินอยู่ดีสายตาคมปรายมองเพื่อนของตน ทำให้พวกเขาต้องรีบหลบสายตาแล้วแอบไปหัวเราะอย่างชอบใจกันยกใหญ่“มีธุระอะไร” เขาถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา แต่ลึก ๆ แล้วก็ให้ความสนใจอยู่ไม่น้อยว่าเธอจะพูดเรื่องอะไรกันแน่อาเรียเม้มปากเล็กน้อย ขณะที่มองสายตาของเขา เธอชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งว่าจะพูดออกไปเลยดีไหม แต่เมื่อเห็นว่าเพื่อน ๆ ของเจย์เนสต่างจ้องมองเธอด้วยความอยากรู้ เธอก็เปลี่ยนใจ“ไปคุยตรงนู้นได้ไหม?” เธอเอ่ยพร้อมชี้ไปยังมุมที่ไกลออกไปจากกลุ่มเพื่อนของเขาเล็กน้อยเจย์เนสถอนหายใจ อนแรกอาเรียคิดว่าเขาจะไม่ยอมเดินไปตามคำขอ แต่แล้วไม่นานเขาก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เตรียมพร้อมจะเดินไปกับเธอเสียอย่างนั้น“หวังว่าจะเป็นเรื่องสำคัญ” ว่าจบก็เดินนำไปตรงจุดที่เธอชี้มาเมื่อสักครู่ในขณะเดียวกันกลุ่มเพื่อนของเขาก็ยังนั่งหัวเราะคิกคักส่งสายตาแซวตามหลังทั้งสองคนไป“แหม องค์ชาย มีสาวเรียกไปคุยส่วนตัวด้วยแฮะ” เอเดรียนเอ่ยแซวไล่หลังไป“อยากใส่ใจจังเลยว่าเรื่องอะไร” ลูคัสเองก็ไม่น้อยหน้า เอ่ยแซวไปพร้อมกัน ในขณ

  • พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา   บทที่ 11 พัสดุส่งตรงที่มาพร้อมความคาดหวัง

    อาเรียมองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยท่าทีชั่งใจก่อนจะสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วบอกกล่าวไปตามตรง “ขอบคุณนะ... แต่ฉันคิดว่าฉันคงไม่ไปร่วมงานนั้นหรอก”คำพูดนั้นทำให้มาร์คัสชะงัก ใบหน้าของเขาดูผิดหวังเล็กน้อย “ทำไมล่ะ งานออกจะสนุก”“ฉันไม่คิดว่ามันเหมาะกับฉันหรอก” เธอตอบพลางหลบสายตา แต่ทุกคนก็เข้าใจได้ว่าเป็นเพราะเรื่องอะไรเธอจึงเลี่ยงออกงานสังคมขนาดนี้ลิเลียนเหลือบมองอาเรียด้วยสายตาเศร้าสร้อย หากอาเรียยืนกรานปฏิเสธคนที่มาชวนถึงขนาดนี้ เธอก็คงไม่ไปจริง ๆ แล้วล่ะในขณะที่มาร์คัสเองก็ถอนหายใจอย่างนึกเสียดายเช่นกัน “ถ้าอย่างนั้น เป็นว่าถ้าเธอเปลี่ยนใจก็บอกฉันได้ทุกเมื่อเลยนะ”“ขอบคุณ” อาเรียตอบกลับอย่างสุภาพพร้อมรอยยิ้มเพื่อแสดงมารยาทเมื่อเห็นว่ามาร์คัสและเพื่อน ๆ เดินจากไปแล้ว เจย์เนสถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกแล้วจะโล่งบ้าโล่งบออะไร! แต่ความรู้สึกว้าวุ่นเดือดเนื้อร้อนใจในตอนแรกมันหายไปเป็นปลิดทิ้งอย่างน่าเหลือเชื่อเลยล่ะแต่ก่อนที่เขาจะเดินกลับออกไป หญิงสาวทั้งสองคนก็เดินผ่านบริเวณที่ตัวเขายืนอยู่พอดี นั่นทำให้เจย์เนสรีบดึงสีหน้าเมินเฉยราวกับว่าไม่ได้เห็นการมาถึงของพวกเธอ แล้วเดินลอยหน้าลอยตาออกไป

  • พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา   บทที่ 10 ใครเร็วใครได้

    เทศกาลคริสต์มาสเริ่มใกล้เข้ามา บรรยากาศภายในโรงเรียนก็ครึกครื้นมากขึ้น ต้นคริสต์มาสขนาดใหญ่ถูกนำมาจัดเตรียมเพื่อวางกลางโถงหอประชุมนอกจากนี้ ตามธรรมเนียมในทุกปี โรงเรียนจะจัดงานเลี้ยงในคืนวันที่ยี่สิบสามธันวาคม โดยให้นักเรียนหาคู่ควงไปร่วมงานกัน ทั้งนี้ก็เพื่อการสานสัมพันธ์ไมตรีระหว่างนักเรียนนั่นเอง ไม่เพียงแค่นักเรียนในโรงเรียนนี้เท่านั้น แต่ยังมีโรงเรียนราชนิกุลจากที่อื่นมาร่วมฉลองด้วยอีกต่างหากแต่สำหรับเจย์เนสแล้ว มันเป็นงานเลี้ยงที่เขามองว่าน่าเบื่อที่สุดเลยก็ว่าได้ ก็เขาไม่ชอบความวุ่นวาย นอกจากนี้ยังเกลียดการตกเป็นเป้าของผู้หญิงเกือบแทบทุกคนในโรงเรียนอีก เพราะไม่ว่าใครก็ต่างอยากควงคู่กับเขาออกงานใหญ่ทั้งนั้นแต่ธรรมเนียมก็คือธรรมเนียม เขาไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้อยู่แล้ว นอกจากนี้เขาก็มีวิธีจัดการกับความชุลมุนที่จะโถมเข้ามาเชิญชวนเขาไปงานด้วยอย่างยุติธรรมอยู่แล้ว โดยถือคติว่า “ใครเร็วใครได้” ซึ่งมันก็ช่วยให้เขาไม่ต้องเสียเวลาต้องเลือกมากด้วยทันทีที่เสียงระฆังดังบอกเลิกเรียน สาว ๆ ในห้องของเจย์เนสรวมถึงจากห้องอื่นก็ต่างกรูกันเข้ามาในคลาสเอส ความชุลมุนนั้นแออัดจนแทบจะไม่มีช่องทางให

  • พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา   บทที่ 9 ยุ่งเรื่องของเธอ

    วันรุ่งขึ้นช่วงหลังเลิกเรียน อาเรียก็รีบไปยื่นใบสมัครขอทำงานที่ห้องสมุดโรงเรียนงานส่วนใหญ่ที่นี่จะเป็นการจัดเรียงหนังสือที่นักเรียนคนอื่น ๆ นำมาคืนใส่เข้าชั้นให้เรียบร้อย หรือในบางครั้งก็อาจต้องช่วยอาจารย์บรรณารักษ์ในการอำนวยความสะดวกการหยิบยืมหนังสือเล่มต่าง ๆ และงานทั้งหมดนี้ จะได้ทำเพียงช่วงพักกลางวันและช่วงบ่ายหลังเลิกเรียนไม่เกินหกโมงเย็นเท่านั้นแหละก็ถือว่าเป็นงานที่สบายใช้ได้เลยทีเดียว นอกจากนี้เธอยังชอบใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับหนังสือเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วแต่อย่างไรวันนี้เธอก็ยังต้องไปร้องเพลงที่ร้านอาหารตามที่รับปากกับผู้จัดการร้านอยู่ดี อย่างน้อยก็จะได้เก็บเงินบางส่วน และหากชวดงานนี้ก็จะไม่เสียโอกาสไปโดยสูญเปล่าด้วยเพียงแต่...‘เชื่อฉัน งานห้องสมุดดีกว่าเยอะ’ อยู่ ๆ เธอก็หวนนึกถึงคำพูดของเขาขึ้นมาเสียอย่างนั้น แล้วก็ลำบากเธอมานั่งชั่งใจอีก...แต่ตอนนี้ที่บ้านเธอก็ยังไม่ถือว่าไม่ได้มีปัญหาขนาดที่จะต้องไปลำบากทำงานขนาดนั้นหรอก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็อยากจะทำอะไรที่พอจะช่วยเหลือได้บ้างระหว่างที่กำลังนั่งคิดอย่างถี่ถ้วนเวลาก็ค่อย ๆ ผ่านไปเรื่อย ๆ จนสุดท้ายก็ไม่ได้ไปร้องเพลงที่ร้า

  • พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา   บทที่ 8 ออดอ้อนเพื่อผลประโยชน์

    อาเรียที่เดินผ่านร้านอาหารร้านหนึ่งเข้า ดวงตาคู่สวยก็กวาดไปเจอประกาศรับสมัครพนักงานเข้าพอดี เธอจึงไม่รอช้า รีบเดินตรงเข้ามาในร้านเพื่อสอบถามเกี่ยวกับงานที่ว่าตอนแรกเธอคิดจะทำงานในห้องสมุดโรงเรียนนั่นแหละ แต่ก็กลัวว่ารายได้จะน้อยเกินไป นอกจากนี้ยังไม่มั่นใจด้วยว่าจะต้องแย่งชิงกับคนอื่นหรือเปล่า จึงอยากหางานสำรองเอาไว้ด้วย“ขอโทษนะคะ” เธอเอ่ยกับพนักงานอย่างสุภาพ ถึงแม้จะเป็นลูกคุณหนูแต่ก็ใช่ว่าเธอจะวางตัวสูงส่งใส่คนอื่นเขาไปทั่ว“ค่ะ มีอะไรให้ช่วยคะ”“คือ...ไม่ทราบว่ายังรับสมัครนักร้องอยู่ไหมคะ” เธอว่าพลางชี้ไปยังป้ายประกาศที่แปะอยู่ตรงหน้าร้านได้ยินแบบนั้นพนักงานก็ยิ้มรับ“ยังรับอยู่ค่ะ” ว่าจบเธอก็เดินไปหาผู้จัดการร้านเขาเป็นชายหนุ่มวัยกลางคน ซึ่งพอมองสำรวจรูปร่างหน้าตาของอาเรียแล้วก็มีความสนอกสนใจเธออยู่ไม่น้อย หากได้เธอมาเป็นนักร้องประจำร้าน คนจะต้องหลั่งไหลเข้ามาเพราะสเน่ห์ของเธอแน่ ๆ“สนใจเริ่มงานเลยไหมล่ะสาวน้อย” เขาถามาอาเรียเรียกได้ว่าแทบจะทันที“ค่ะ”“อ๋อ แต่ว่า บางครั้งถ้าหากลูกค้าเต็มร้าน อาจจะต้องมาช่วยเสริ์ฟด้วยนะเธอสะดวกหรือเปล่า”อาเรียได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้าโดยไม่เกี่ย

  • พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา   บทที่ 7 จับจ้อง หูผึ่ง

    บรรยากาศบริเวณเขตสังสรรค์ในยามเย็นเต็มไปด้วยชีวิตชีวา ร้านค้าเรียงรายสองข้างทาง มีทั้งนักเรียนและผู้คนจากในเมืองใกล้เคียงเดินทางมาจับจ่ายใช้สอยของกินและของใช้มากมายทุกคนต่างเร่งรีบเพื่อให้ทันเวลากลับเข้าไปในหอพัก ต่างจากพวกเขาซึ่งเป็นนักเรียนคลาสเอส สิ่งหนึ่งที่ได้รับการอภิสิทธิ์เหนือนักเรียจากคลาสอื่นก็คือ พวกเขาสามารถกลับเข้าหอพักในยามวิกาลแค่ไหนก็ย่อมได้ ต่างจากนักเรียนคนอื่นที่เมื่อนาฬิกาบอกเวลาสองทุ่มก็ต้องรีบกลับเข้าหอพักแล้วระหว่างที่กลุ่มของเจย์เนสกำลังเดินผ่านร้านอาหารและร้านขนมมากมาย เสียงหัวเราะและบทสนทนาของกลุ่มเพื่อนก็ดังไปตลอดทาง มิหนำซ้ำยังมีสายตาจากบรรดาสาว ๆ คอยจับจ้องมาตลอดทางอีกต่างหาก‘อึดอัดดีแท้...’ เจย์เนสคิดในใจขณะเดินไปพร้อมกับกลุ่มเพื่อนของตัวเองแต่ทันใดนั้น สองขายาวก็ต้องหยุดชะงักราวกับเสียอาการไปชั่วครู่เมื่อพบเจอร่างบางที่ดูคุ้นตา กำลังยืนหันหลังมองป้ายประกาศอะไรบางอย่างอยู่ตรงหน้าร้านหนังสือเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ตรงมุมหนึ่งดวงตาคมจับจ้องเธอเพียงครู่หนึ่ง ก่อนจะรีบเบือนหน้ากลับไปอย่างรวดเร็ว เพื่อไม่ให้พวกเพื่อน ๆ ทันสังเกตเห็นและเกิดเป็นประเด็นสนทนาได้แล

  • พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา   บทที่ 6 แทบทุกที่เป็นเรื่องเธอ

    ระหว่างทาง ร่างสูงก็ได้ยินนักเรียนยืนพูดคุยกันอยู่ไม่ไกลจากนอกอาคารด้วยความบังเอิญ แต่แล้วเนื้อความในนั้นกลับทำให้เขาหูผึ่งเสียอย่างช่วยไม่ได้“นี่ ได้ยินข่าวลือเรื่องที่ตระกูลฟลอเรนซ์ใกล้จะล้มละลายหรือเปล่า”“ได้ยินมาบ้างเหมือนกัน ข่าวลือดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก”ระหว่างที่เงี่ยหูฟังไปด้วย ช่วงก้าวของขาก็สั้นลงจนเรียกว่าแทบจะหยุดนิ่ง และเมื่อรู้ตัวก็ต้องรีบส่ายศีรษะขึ้นอย่างทันควันมันก็ไม่ใช่เรื่องของเขาสักหน่อย เหตุใดต้องสนใจ!แต่ในขณะที่กำลังเดินผ่านโซนตู้ล็อคเกอร์ อยู่ ๆ ก็มีเสียงฝีเท้าของใครบางคนที่กำลังมุ่งตรงเข้ามาหาเขาจากทางด้านหลังด้วยสัญชาตญาณ ใบหน้าหล่อจึงรีบหันกลับไปมองด้วยสายตาคมกริบ ก่อนจะพบกับหญิงสาวที่กำลังวิ่งเข้ามาอย่างเอาเป็นเอาตาย เธอทำราวกับว่าหากช้าไปกว่านี้อีกเพียงนิดเดียว เขาจะหายไปตลอดกาลอย่างนั้นแหละ“เจย์เนส!” เธอหยุดยืนหอบอยู่ตรงหน้าเขา เหมือนวิ่งมาไกลพอสมควรเชียวล่ะ มิหนำซ้ำ ดวงตากลมโตของเธอยังฉายแววหลากหลายอารมณ์อีกต่างหากทั้งดูกังวลใจ รู้สึกผิดจนอยากจะเอ่ยปากขอโทษ หรือแม้แต่ความประหม่าขณะเดียวกันนั้นมือเรียวก็หยิบกล่องเข็มกลัดออกมาถือไว้ในมืออย่างระมัด

  • พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา   บทที่ 5 ด้วยความตั้งใจ

    เช้าวันต่อมาแสงแดดที่ลอดผ่านหน้าต่างตรงโซนตู้ล็อคเกอร์เข้ามาบ่งบอกว่าอีกไม่นานก็ใกล้จะถึงเวลาเข้าเรียนแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นอาเรียก็ยังยืนอยู่ตรงหน้าล็อคเกอร์ของใครบางคนอยู่ไม่ห่างใช่แล้ว...เธอตั้งใจจะนำเข็มกลัดที่ใช้การไปเรียบร้อยแล้วมาส่งคืนให้เจ้าของหญิงสาวยืนอยู่ตรงหน้าล็อคเกอร์พลางมือก็กอบกุมกล่องใส่เข็มกลัดเอาไว้แน่น ระหว่างที่เขายังไม่โผล่มาก็ดูเหมือนจะซื้อเวลาให้เธอได้รวบรวมความกล้าที่จะไปสู้หน้าเขาต่ออีกสักเล็กน้อยล่ะ ไม่รู้ว่าทำไมถึงต้องมาคืนด้วยตัวเอง ทั้งที่ขอร้องให้คนอื่นมาส่งคืนแทนให้ก็ได้ แต่รู้ตัวอีกทีเธอก็มาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าตู้ล็อคเกอร์ของเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้วเนี่ยสิแต่ก็เอาเถอะ การมาส่งคืนตัวเองก็นับว่าเป็นมารยาทรูปแบบหนึ่งที่พึงกระทำ อย่างน้อยเขาจะได้ไม่เสียน้ำใจที่หวังดีช่วยเธออย่างไรล่ะอาเรียคิดให้เหตุผลกับตัวเองทั้งที่ในใจตอนนี้ยังสั่นไหวอยู่ตลอดเวลาเวลาผ่านไปหลายสิบนาที แต่ล็อคเกอร์ตรงหน้าก็ยังไร้วี่แววเจ้าของ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังรอคอยอย่างอดทน เป็นเวลาเดียวกับจำนวนคนเริ่มบางตาลง‘เขาคงไม่มาแล้วล่ะ…’ เธอคิดในใจก่อนจะถอนหายด้วยความรู้สึกผิดหวังอย่างช่ว

  • พลาดรัก แวมไพร์เย็นชา   บทที่ 4 ความช่วยเหลือ

    “เป็นอะไรไปน่ะแบรดฟอร์ด ทำไมนอนคุดคู้แบบนั้น”เมื่อได้ยินเสียงอาจารย์ใกล้มาก แขนเรียวเล็กก็คว้ากอดร่างของคนตัวสูงเข้าเต็มปังเหมือนคอยลุ้นตามว่าจะโดนจับได้หรือเปล่า ทำเอาเจย์เนสชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ก็ยังพยายามดึงน้ำเสียงให้มั่นคงแล้วตอบกลับอาจารย์ไป“ปวดท้องครับ แต่...เดี๋ยวก็หายแล้ว”“งั้นเหรอ อืม ดูแลตัวเองแล้วกันนะ” ที่พูดเช่นนั้นเป็นเพราะอาจารย์ก็ไม่นึกฝันว่าแวมไพร์จะป่วยได้ เขาจึงไม่มีชุดความรู้ทางด้านนี้มาให้คำแนะนำว่าจะต้องทำเช่นไร จึงเลี่ยงหลบออกไปเสียดีกว่าเสียงประตูปิดลงพร้อมกับความเงียบที่หวนคืนสู่ห้อง แต่ทั้งคู่ก็ยังนอนนิ่งต่อไปอีกสักพักเพื่อให้แน่ใจว่าอาจารย์จะไม่ย้อนกลับมาเปิดประตูห้องอีกอาเรียนอนนิ่งอยู่ใต้ผ้าห่ม ความเงียบนั้นทำให้เสียงหัวใจของเธอที่เต้นโครมครามเด่นชัดขึ้นอย่างน่าอาย“ปลอดภัยแล้ว” เขาพูดพลางมองไปที่ประตู แล้วหลังจากนั้นอาเรียก็รีบผุดใบหน้าแดงก่ำออกมาจากผ้าห่มเหมือนแอบสังเกตการณ์ก่อนจะตัดสินใจว่าจะลุกหรือไม่ลุกดี “ปล่อยได้แล้วมั้ง”เจย์เนสนอนนิ่งเมื่อยังมีแขนเรียวของอาเรียพาดกอดตัวเองอยู่ หญิงสาวที่เพิ่งรู้ตัวว่าทำเรื่อถือวิสาสะก็รีบปล่อยกอดพร้อมลุกพรวดอ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status