หลังจากที่เราลาพ่อแม่เสร็จ ก็รีบขับรถกลับห้องทันที ฉันนั่งมองแหวนเพชรเม็ดโตที่นิ้วนางตัวเอง แล้วอดยิ้มไม่ได้จริง ๆ ทำไมเขาเลือกแหวนได้เก่ง แบบนี้นะ ต้องอวดแล้วล่ะ!“คุณ... ขอมือหน่อย” ฉันเอื้อมไปจับมือเขามาวางไว้ที่ตัก ก่อนจะเอามือซ้ายของตัวเองจับลงไป‘แชะ’ คนข้าง ๆ หันมามองฉันแว๊บนึง ก่อนจะหันไปขับรถต่อฉันเอารูปลง ไอจี ก่อนจะแชร์ลงเฟซบุ๊กแคปชั่น: ขอบคุณนะคะ #สมาคมคนอวดผัว #อวดผัว2018“เดี๋ยวก็โดนปล้นหรอก...” เขาบ่นอุบอิบทันทีที่ฉันลงรูป“ปล้นไม่กลัว กลัวไม่ได้อวด” เขายิ้มเบา ๆ ก่อนจะเอื้อมมือมายีหัวฉัน“ที่หายไป คือไปจัดการเรื่องนี้เหรอคะ” ฉันตัดสินใจถามเขาอีกครั้ง หลังจากมองแหวนพลิกไปพลิกมาอยู่นาน อยากรู้ว่าวันนี้ทั้งวันเขาทำอะไรบ้าง“ใช่ กว่าจะกล้าคุยกับพ่อเธอ”“อยู่ ๆ ก็ตั้งใจไปคุยเหรอ แล้วคุยอะไรอีก. ไหนว่าเราถูกผู้ใหญ่หมายหมั้นกันแล้ว” ความอยากรู้อยากเห็นของฉันยิ่งมากขึ้นไปอีก“ฉันกลับบ้าน แม่ก็พูดเรื่องเธออีกแล้ว บอกว่าเธอใกล้จะเรียนจบ แต่ก่อนฉันจะเดินหนีไม่อยากฟัง แต่วันนี้ฉันสนใจเรื่องของเธอ อยากฟังจากแม่เยอะ ๆ ไม่รู้เหมือนกันทำไม”“แล้วยังไงต่อคะ?”“ฉันรู้สึกว่าฉันคงชอบเธ
ฉันกอดคอเขาแน่น ก่อนที่ร่างใหญ่จะเลื่อนลงไปชิมทุกส่วนของร่างกายฉัน นิ้วเรียวเริ่มคลึงเบา ๆ กระตุ้นติ่งสวาท ก่อนจะสอดมันเข้ามาสลับกับลิ้นอุ่น มันกระตุ้นน้ำรักฉันกระตุกมาเป็นระรอก...จนร่างบางฉันไม่รอช้า จับเขากดลงแนบชิดเตียง ก่อนจะระดมจูบแผ่นอกกว้างกำยำ ขาวเนียนนั้น... หัวใจเขาดัง ตึก ตึก ส่งเสียงให้ฉันได้ยินฉันยิ้มและปลดกางเกงเขาออก ก่อนจะก้มลงไปทักทายมังกรใหญ่แข็ง ๆ นั้น น้ำใส ๆ ติดอยู่ที่ปลายแดง... ฉันหยุดไม่ได้ที่จะใช้ลิ้นสัมผัสชิมรสชาติมัน“อ่า เธอเซ็กซี่ จนฉันไม่ไหวแล้ว...” ฉันยิ้มชอบใจกับคำชมเขา มือเล็ก ๆ เริ่มรูดขึ้นลงให้รางวัล ปลุกให้มันแข็งผงาดยิ่งกว่าเดิม...ฉันก้มลงอมมังกรตัวใหญ่ ใช้ลิ้นสัมผัสมันเบา ๆ จนเจ้าของมัน มีเสียงครางกระเสร่าออกมา...“อ่า... อ่า” ฉันเหลือบมองใบหน้าหล่อ ๆ ของเขาเป็นระยะ ก่อนจะถอดมันออกจากปาก ใช้ลิ้นเลียไล่ตั้งแต่โคนถึงปลาย จนหยุดวนตวัด ชิมหัวแดงเนียน ๆ ของมัน เขาหอบหายใจถี่ ดันตัวขึ้นหวังจะลุกมากดฉันลงปลดปล่อย แต่ไม่เป็นผล ฉันดันเขานอนลงอีกครั้ง ก่อนจะเลียก้อนกลมสองก้อนในถุงรักของเขา“ลูกชายของคุณอยู่ในนี้เหรอคะ” เจ้าของมันครางกระเสร่า“อ่า... ณีเ
ฉันรีบโดดขึ้นเตียง ขวานหามือถือก่อนจะรีบโทรกลับหาน้ำหวาน น้ำหวานไม่รับ ฉันจึงกดโทรใหม่อยู่อย่างนั้นหลาย ๆ ครั้งคุณเซ็นวางโทรศัพท์และเดินมาหาฉัน“น้ำหวานจับได้ว่า ไอ้ที... พาผู้หญิงคนอื่นเข้าห้อง” ฉันหันไปมองตามเสียงคุณเซ็น“แล้วตอนนี้น้ำหวานอยู่ไหนคะ ฉันโทรไม่รับเลย” คุณเซ็นถอนหายใจ ยาว ๆ จับไหล่ฉัน“น้ำหวาน กรีดข้อมือ ฆ่าตัวตาย”“ไม่จริง... คุณอย่าโกหกฉัน ไม่จริงเพื่อนฉันไม่ใช่คนใจเสาะขนาดนั้น!” ฉันสั่นไปทั้งตัว รู้สึกเสียใจที่ปัดสายน้ำหวานทิ้งเมื่อกี้“ตอนนี้น้ำหวานอยู่โรงพยาบาล รีบแต่งตัวไปกันเถอะ”ฉันไม่รอช้าวิ่งไปใส่เสื้อผ้า คว้ากระเป๋าออกมาคุณเซ็นบึ่งรถมาที่โรงพยาบาลตามที่พี่ทีบอกไว้... ฉันร้องไห้ไม่หยุด น้ำหวานไม่น่าทำแบบนี้ มันไม่ใช่น้ำหวานที่ฉันรู้จักพอมาถึง ฉันก็เห็นพี่ที ยืนร้องไห้อยู่หน้าห้องฉุกเฉิน รวมถึงพ่อกับแม่น้ำหวานด้วย“พ่อกับแม่คะ น้ำหวานเป็นไงบ้างคะ ฮือ ๆ” แม่น้ำหวานหันมากอดฉันทันที ก่อนจะปล่อยโฮ ออกมา“หมอกำลังช่วยชีวิตอยู่ แม่ไม่คิดเลยว่าน้ำหวานจะอ่อนแอ แบบนี้” ฉันก็ไม่คิด... น้ำหวานเป็นสาวแกร่ง เข้มแข็ง ปกป้องฉันอยู่ตลอดพี่ทียืนร้องไห้กับคุณเซ็น ฉันตัดสิ
พี่ทีรีบปล่อยมือเราสองคน ก่อนหันไปมองค้อนคุณเซ็น“น้ำหวานปลอดภัยแล้วค่ะพี่ที หมอให้อยู่ดูอาการคืนนึง” พี่ทีดีใจมาก พูดพึมพำว่าจะไม่ทำอีกแล้ว“ไม่ทำแล้วจริงนะ” พี่เอสย้อนพี่ทีกวน ๆ“เออ ไม่ทำ” ยืนยันเสียงหนักแน่น“งั้นบัตรเมมเบอร์อ่าง กูขอไปแบ่งกับไอ้เซ็น” ฉันส่งสายตาพิฆาตไปหาคุณเซ็นทันที มีฉันทั้งคนยังจะไปลงอ่างอีกเรอะ!“อย่าเอากูไปเกี่ยวด้วย กูเลิกนานแล้ว”“วันก่อนยังไปกับกูอยู่เลย!”“คุณเซ็น” พอฉันเรียก คุณเซ็นหันไปค้อนพี่เอส อีกชุดใหญ่ไฟกระพริบ แตงโมเอาแต่ยืนเบะปากไม่ว่าอะไร สรุปมันยังไงสองคนนี้?“กูที่ไหนเอส มึงอย่าพังบ้านกู”พี่เอสหัวเราะ ก่อนจะเดินไปคุยกับพี่ที ที่รอน้ำหวานย้ายไปห้องพิเศษอยู่ ฉันกับคุณเซ็นจึงขอกลับก่อน เหนื่อยมากวันนี้ ทั้งเรื่องตัวเอง ทั้งเรื่องเพื่อนแปดโมงเช้า ฉันตื่นมาทำข้าวต้มกุ้งไว้ให้คุณเซ็น เวลายังเหลืออีกเยอะ เลยทำแซนวิชใส่กล่องไว้ให้เขากิน ระหว่างวันด้วยเลย...“ไม่อยากไปทำงานเลย” เขาเอาคางมาเกยไหล่ฉัน ขณะที่ฉันทำแซนวิชอยู่ อ้อนแต่เช้ากินอย่างอื่นก่อนมั้ย?“บริษัทคุณนะ ไม่ใช่บริษัทที่บ้าน ไม่มีคุณใครจะดูละคะ” เขาเดินไปนั่งกินข้าวต้มกุ้งที่ฉันทำ และบ่
และแล้ว รถสปอร์ตคันหรูก็เข้ามาจอดหน้าตึกบริหาร“ขอบคุณนะคะ เดี๋ยวตอนกลับให้พี่นพมารับก็ได้ คุณทำงานเถอะ” หน้านิ่งหันมามองฉัน ก่อนจะยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู“ดูก่อน ฉันขอไปดูเรื่องเหล้าใหม่ ถ้ากลับไม่ทันเดี๋ยวให้นพมารอ”“ค่ะ” ฉัน ยิ้มให้เขาก่อนจะเปิดประตูปีกนกลงไป“แก ๆ ทางนี้” ฉันรีบวิ่งไปหาแตงโม ที่โบกแฟ้มเรียก น้ำหวานหน่ะเหรอ สำออยอยู่โรงพยาบาล หยุดเรียน 1 วัน น่าสงสารชะมัด“แกมานานแล้วเหรอ” แตงโมหยิบของจากกระเป๋าให้ฉัน“อะไร” มันเป็นกล่องของขวัญเล็ก ๆ“ไม่รู้ว่ะ กายมันบอกแกลืมทิ้งไว้ แกไปลืมของไว้กับมันตั้งแต่เมื่อไหร่” กายงั้นเหรอ ดี! ฉันจะได้ถามเรื่องไลน์กับแตงโมเลย“บ้า ฉันไม่เคยเจอเขาอีกเลย แล้วนี่แกเอาไลน์ฉันให้กายเหรอ?” แตงโมขมวดคิ้วนิดนึง“บ้า... ใครจะให้ หรือว่ามันเอาเบอร์แกไปตอนยืมมือถือฉันวะ” โอ้ยให้ตายเถอะ“แกรู้ไหมว่า กายทักฉันมาตอนอยู่กับคุณเซ็น เนี่ยฉันปิดแจ้งเตือนไว้เลย ไม่รู้กี่ข้อความแล้ว” แตงโมแกะกล่องเล็ก ๆ ที่กายฝากมาให้ฉันออก ก่อนจะหยิบกระดาษแผ่นเล็ก ๆ ขึ้นมาอ่านเราชอบเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ’ ข้างล่างมีต่างหูเพชรเล็ก ๆ อยู่ฉันหยิบมือถือเปิดข้อความกาย ที่ปิด
ฉันกินยำไปสองจาน อยากกินสุด ๆ คนตรงหน้าก็นั่งทำหน้านิ่งอยู่อย่างนั้น ไม่พูดไม่จา จะโกรธอะไรขนาดนั้นพ่อคุณ มันเป็นเรื่องปกติของคนที่มีแฟนสวย แค่ทำใจให้ชิน แค่นี้เอง“ไม่อร่อยเหรอคะ”“ฉันคิดว่าจะจัดงานหมั้นก่อน เธอเรียนจบเมื่อไหร่แต่งงานเลย” อยู่ ๆ กุ้งที่อยู่บนช้อนฉัน ก็ร่วงลงไปนอนบนจาน“ทำไมรีบล่ะคะ เกิดอะไรขึ้น?” ฉันรวบช้อน ถามเขาอย่างสงสัย พักนี้เขาทำอะไรรวดเร็วไปหมดทุกอย่าง จริง ๆ จะบอกว่าเป็นการคิดของพวกนักธุรกิจอีกสินะ“ฉันอยากจะสบายใจ รวมถึงพ่อเธอได้สบายใจด้วย”“แล้วแต่คุณค่ะ” เขาลุกขึ้นหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทร ก่อนจะเดินออกไปคุยไม่นานหน้านิ่งก็เดินยิ้มมา“โทรหาใคร ยิ้มมาเชียว” เขาคลายเนคไทออก ก่อนจะตักปลาหมึกใส่จานฉัน“แม่บอกว่าฤกษ์คืออาทิตย์หน้า” อาทิตย์หน้างั้นเหรอ ดีเหมือนกันจะได้เป็นทางการสักที คนข้างหน้าก็รีบเหลือเกินสงสัยกลัวกายมาวอแว ฉันรีบไลน์ไปบอกเพื่อน ๆ พวกมันก็ดีใจกันใหญ่ บอกอยากให้ถึงวันนั้นเร็ว ๆ น้ำหวานกลับบ้านแล้ว พี่ทีดูแลดีมาก สงสัยเจ็บตัวครั้งนี้นางจะคุ้ม...เรานั่งคุยเรื่องหมั้นกันสักพัก คุณเซ็นตั้งใจจะจัดที่โรงแรม เขาถามความเห็นฉันว่าอยากได้งานแบบไหน ให้ต
ฉันตื่นมาก็ได้รับข่าวดีแต่เช้า อาจารย์ส่งเมล์แจ้ง ว่าหัวข้อโปรเจคฉันผ่านแล้ว! ต่อไปฉันไม่ต้องเข้าเรียนทุกคาบ แค่ไปนำเสนอความคืบหน้าบ้างก็พอ สบายไปอีก วันนี้เลยเป็นวันฟรีฉันรีบทำข้าวต้มหมูสับไว้ให้คุณเซ็น ไม่นานเขาก็ถือสูทออกมาวางบนเก้าอี้ ก่อนก้มลงกินมัน ฉันเลยไปแยกผ้าขาว ผ้าสีเอาไปโยนใส่เครื่องซักผ้าตั้งเวลาไว้ ก่อนจะไปดูดฝุ่นในห้องฆ่าเวลา วันนี้ฉันหัวหมุนแต่เช้า อยากจะทำงานให้เสร็จ จะได้ปั่นโปรเจคสักที คุณเซ็นมองตามฉัน ที่วิ่งไปนู่นวิ่งไปนี่ไม่หยุด“ขยันจัง เป็นอะไรวันนี้” ไม่ทำแล้วใครจะทำ ป้านวลก็ไม่อยู่แล้ว เหอะ“ถ้าฉันไม่ทำแล้วใครทำ คุณบอกให้ป้านวลเลิกทำแล้วนิ” ฉันหอบแหก ๆ บ่นกับเขา“ทำไมไม่บอกนพ ให้ป้านวลกลับมา ป้านวลเป็นแม่ของนพ เจอนพทุกวันทำไมไม่บอก” เออ แค่นี้เองจริง ๆ ทำไมไม่บอกฉันล่ะว่าให้ไปบอกพี่นพ ฉันเหนื่อยฟรีมาหลายอาทิตย์แล้ว“คุณไม่เคยบอก ว่าป้านวลเป็นแม่พี่นพนิคะ ฉันจะไปรู้ได้ไง! คิดว่าคุณติดต่อป้านวลได้แค่คนเดียว” ฉันฟึดฟัดอารมณ์เสียใส่เขา จนเขาหัวเราะเบา ๆ“เป็นอะไร เมนส์ไม่มา?” พอเขาพูดจบ ฉันถึงกับหยุดหัวร้อนทันที รีบคิดแล้วตั้งสติ รีบวิ่งไปดูปฏิทิน วิ่งไปดูผ
มือใหญ่ไม่ฟังฉันเลย ที่รักคะ ทำแบบนี้ฉันจะหลับลงได้ยังไง!“อื้อ~” ฉันเผลอครางกระเส่า เมื่อมือปลาหมึกเขาเริ่มเขี่ยติ่งสวาทน้อย ๆ ของฉัน“ยังไม่หลับอีกเหรอ!” ถามได้“กำลังค่ะ...” ฉันส่งเสียงอู้อี้ พลางหยิบหมอนมาปิดหน้าตัวเอง หลับสิณีเวีย หลับ~ เขายังคงหยุกหยิกอยู่ร่องสวาทฉันจน...“อ๊ะ~ คะ คุณ” ให้ตาย... ฉันถูกเขากินอีกแล้ว ลิ้นอุ่น ๆ ของเขาเริ่มทำฉันทรมานอีกแล้ว...“หลับได้แล้ว...” ฉันขยับขาดุกดิก พยายามไม่คล้อยตามคนข้างล่าง“ฉันจะหลับลงได้ยังไงคะทำขนาดนี้” ฉันดึงหมอนออกจากหน้างอแง จนเขาเงยหน้าจากหว่างขาขึ้นมามอง ทำไมต้องส่งสายตายั่วยวน! หยุด“ก็มันน่ากิน...” เขาพูดเสร็จ ก็ก้มลงไปดูด ปลายแหลมติ่งสวาทฉันดังจ๊วบ อ๊าย!“อ๊ะ~” ฉันเสียวท้องวูบนึง จนเผลอยกเอวขึ้นมาสู้หน้าเขา สะ เสียว“ยังไม่หลับอีกเหรอ” เขาละหน้าขึ้นมามองหน้าฉัน ทั้งที่นิ้วยังก่อกวนฉันอยู่!“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ น้องชายคุณอยู่ไหนคะ” ฉันครางกระเส่า มือไม้ลงไปขวานลงไปหาเขา“ถามหาทำไม?” ยัง... ยังไม่หยุดเขี่ย อื้อ~“นะ น้องสาวฉันอยากกิน อ๊ะ~ ด่วนค่ะ ไปตามมาให้หน่อย อ๊ะ~” ฉันตัวบิดเป็นเกลียวจนคนข้างล่างหัวเราะชอบใจ ทรมานฉันเข้าไ
--- น้ำหวาน --- ฉันคลอดลูกมาเกือบปีแล้ว ตอนนี้ลูก ๆ สามคนกำลังนั่งเล่นสนุกสนานกับเพื่อน ๆ ในคอกเด็กขนาดใหญ่ ในนั้นมี... เวียร์ ซินน์ ไออุ่น นาวา นาวิน และน้ำปั่น วันนี้เรานัดทานข้าวและมีปาร์ตี้เล็ก ๆ กันที่บ้านแตงโม เหล่าแม่ ๆ อย่างเรานั่งคุยกัน และมองดูลูกตัวเองเป็นระยะ “แง...” ไออุ่นร้องไห้ เมื่อนาวินดึงของเล่นออกจากมือ แตงโมหัวเราะ เบา ๆ แล้วเดินไปอุ้มลูกมานั่งตัก “เบา ๆ นะลูกเดี๋ยวโดนน้อง” และปรามน้องไออุ่นไปด้วย เพราะกลัวโดนน้องอีกคนที่อยู่ในท้อง ใช่ค่ะ แตงโมท้องอีกแล้ว! ท้องได้สามเดือนแล้ว ส่วนณีเวียกับฉันขอบาย เราขอพักก่อน ผ่าคลอดมา ยังเสียวท้องอยู่เลย อย่างอื่นก็ยังเสียวอยู่นะ ว่างก็กินกับสามี ว่างบ่อยก็กินบ่อย เฮ้อ... มันเป็นความสุขของชีวิตอีกอย่างหนึ่งจริง ๆ สามีสูตินารีแพทย์ของฉัน เดินไปอุ้มน้ำปั่นที่คอก ก่อนจะเดินยิ้มมาหาฉัน มองยังไงก็หล่อคุณพ่อคนนี้ “น้ำปั่น น้ำหนักขึ้นหรือเปล่าลูก” คุณพ่อสูตินารีแพทย์แซวลูกสาวคนเล็ก ลูกสาวตอบไม่ได้ ได้แต่ยิ้มและหัวเราะให้ผู้เป็นพ่อ แถมยังใช้แก้มป่อง ๆ ซบคลอเคลียพ่อของเขาอีก น้ำปั่นติดหมอนายหนักมาก! สงสัยคนที่ได้ยินเ
ฉันหันหาคุณพ่อคุณแม่ทันที “คุณพ่อคุณแม่ขับรถช้าเหมือนเต่า” หมอเท็นเดินตามฉัน และบอกมาหน้านิ่ง ๆ “โอ้ย! ปวดท้อง... ปวด! ไม่ไหวแล้ว!” ฉันกรีดร้อง! ทำไม ฉันไม่มีสามีวิ่งตามจับมือเหมือนชาวบ้านเขาเนี่ย ให้ตาย! มีแค่น้องสามีที่เหมือนมาแต่วิญญาณ ฮือ ๆ ไม่นานฉันก็ถูกเข็นเข้ามาในห้องคลอดแล้ว! ฉันหอบเหนื่อยเหงื่อท่วมตัว และถูกพามาห้องนึง ก่อนที่พยาบาลจะตรวจอะไรต่าง ๆ นา ๆ เร็ว ๆ เถอะ! ฉันจะตายแล้ว! “พยาบาลฉันจะตายแล้วค่ะ ตามหมอ ตามหมอด่วน” ฉันส่ายหน้าไปมา ปวดท้องหน่วงมาก แขนสองข้างสั่นแทบจะไม่มีแรงแล้ว ลูกสามคน สามคนเลยนะเว้ย! “ค่ะ คุณน้ำหวาน เดี๋ยวให้ยาแก้ปวดก่อนนะคะ ตอนนี้ห้องผ่าตัดยังไม่พร้อมค่ะ” ยังไม่พร้อม! รอให้ฉันตายก่อนใช่ไหม! “หะ! หวานจะตายก่อนไหม ไม่ผ่าก็ได้ คลอดธรรมชาติเลย หวานพร้อม ฮือ ๆ หวานทนไม่ได้แน่ ๆ” ฉันกุมท้องกรีดร้องบนเตียง “ไม่ได้ค่ะ คุณน้ำหวานมีทารกในครรภ์สามคน คุณน้ำหวานอาจจะช็อกได้ อดทนหน่อยนะคะ” อดทน! ใครจะไปทนได้!
ฉันนั่งมองหมวยน้อยกับณีเวีย ก็อดยิ้มตามไม่ได้ แตงโมคลอดธรรมชาติ! ไม่อยากจะเชื่อ ฉันหน่ะสิ สามคนในท้อง หากคลอดธรรมชาติฉันอาจจะขาดใจตายก่อน ตอนนี้ฉันท้องได้เจ็ดเดือนแล้ว ไม่ต้องถามว่าท้องใหญ่แค่ไหน มันใหญ่จนฉันเดินไม่ไหวเลยล่ะ ฮ่องกงถูกแคนเซิลถาวร ไม่มีกำหนดไป แต่ได้หุ้นห้าสิบเปอร์เซ็นต์กับเบนซ์เอสคลาสเป็นของขวัญแต่งงานนะจ๊ะ ฉันนั่งคุยกับเพื่อนสักพัก เพื่อรอสามีออกเวร สลับไปห้องแตงโมบ้าง ห้องณีเวียบ้าง ณีเวียเจ็บแผลคุณเซ็นจึงเป็นคนเลี้ยงลูก วุ่นวายจนต้องเอางานมาทำที่โรงพยาบาล เห็นแล้วน่ารักดี แต่ก็แอบขำ ‘ก๊อก ก๊อก ก๊อก’ หมอนายเปิดประตูเข้ามา เดินมาตรวจแผลณีเวีย “อย่าหัวเราะดังนะ ระวังแผลฉีก” ณีเวียตกใจเอามือปิดปากทันที “ค่ะ อิอิ จะพยายาม” หมอนายยิ้ม แล้วเดินกลับมาหาฉัน เขานั่งลง เอามือสองข้างโอบท้องฉันไว้ “ไงครับ ลูกพ่อ” เท่านั้นล่ะ! ตุบ ๆ ฉันหลับตาปี๋ ฉันจุก! ลูกถีบหนักมาก รวมพลังเป็นหนึ่งเดียวทันที เมื่อได้ยินเสียงพ่อเขา “โอ้ย เบา ๆ ลูก แม่จุกแล้ว” ฉันลูบท้องปราม ณีเวี
ฉันอยากจะบ้า อยากจะบ้าจริง ๆ ฉันทรมานมากตอนนี้ “ใช่สิสามชั่วโมงผ่าไม่ได้ แตงโมกินเยอะไหม” หมอนายถามฉันอีกครั้ง พลางยกนาฬิกาข้อมือดู… “เรื่อย ๆ ค่ะ คุยไปกินไป ฮือ ๆ” ฉันหลับตาปี๋ ปวดทรมานไปหมด “งั้นประมาณ หกชั่วโมง ไม่เป็นไรเดี๋ยวให้ยาแก้ปวดก่อน” ฮือ ๆ หกชั่วโมง กับยาแก้ปวด โอ้ย! แล้วมันหายปวดเป็นปลิดทิ้งมั้ยล่ะ! “หมอคะ เร็วกว่านี้ไม่ได้เหรอ” ไออุ่นเริ่มถีบท้องฉันรัวแล้ว โอ้ยลูก! อย่าซน ใจเย็น ๆ ลูกแม่ปวด “ไม่ได้จริง ๆ ปกติ ต้องงดข้าวงดน้ำหนึ่งวันเต็ม ๆ” “หมอ แตง... โอ้ย ๆ แตงแจ้งตั้งแต่ฝากครรภ์แล้ว ฮือ ๆ ว่าจะผ่า ไม่คลอดธรรมชาติเด็ดขาด” หมอนายเดินมาใกล้ ๆ ฉัน “ทำไม คลอดธรรมชาติมันปลอดภัยกว่านะ แผลหายเร็วด้วยเจ็บแป๊บเดียว ปวดขนาดนี้ลองเบ่งดูก่อนไหม” ฉันกุมท้องนอนร้องไห้ ในใจนึกโกรธสามี ทำไมฉันต้องมาทรมานคนเดียวด้วย อิตาเอส! “หมอ... ฮือ ๆ ขอยาแก้ปวดก่อนค่ะ ๆ ด่วน” ฉันถูกเข็นไปอีกห้อง และได้ยาแก้ปวดเรียบร้อย อาการทุเลาลง แต่ถามว่ายังปวดไหม ปวดสิ! “พยาบาล
ฉันยืนมองณีเวียและคุณเซ็น ยิ้มกันมีความสุข ก็อดยิ้มตามไม่ได้เลย ลูก ๆ พวกเขาน่ารักมาก น่ารักจริง ๆ เยี่ยมเพื่อนและหลาน ๆ เสร็จ ฉันกับตาเอสก็ออกมาจากโรงพยาบาล ระหว่างอยู่ในรถฉันก็คิดวนเวียนอยู่เรื่องเดียว จะเจ็บแค่ไหนนะ! ณีเวียบอกกับฉันว่าตอนปวดท้องคลอด มันปวดมาก ปวดเหมือนจะตาย ตุบ ๆ นั่นไง พอนึกถึงเรื่องนี้ ลูกสาวตัวดีของฉันก็ดิ้นใหญ่ ฉันลูบท้องเบา ๆ จนสามีเอื้อมมือมาลูบด้วย “ลูกสาวพ่อ พร้อมหรือยัง” ถามแม่บ้างเถอะ! กลัวชะมัด “ฉันยังไม่พร้อม! อย่าเพิ่งสิ” ตาเอสหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะยกมือขึ้นมาหยิกแก้มฉัน “หมวยเธอมันพลังช้างอยู่แล้ว เบ่งเลยสะใจ” “นายลองไปนอนเบ่งดูไหมล่ะตาบ้า!” เขาหัวเราะชอบใจ หน้ากวน ๆ หันมายักคิ้วให้ฉัน “หรือจะผ่าก่อน… จะได้ไม่ต้องเจ็บสองทาง” ฉันหันไปมองเขาทันที เจ็บสองทางงั้นเหรอ “ถ้าถึงกำหนดคลอดก็คลอดเลยสิ ถ้าไม่ปวดก่อน” เอ๊ะก็ดีเหมือนกัน ว่าแต่สามีกวน ๆ ของฉัน ทำไมรู้ดีนัก “รู้ดีนะ” เขายักคิ้วยิ้มกริ่ม
23.56 ฉันเดินเข้าออกห้องน้ำเป็นว่าเล่น สามีนักธุรกิจของฉัน เขายังคงนั่งทำงานที่ห้องทำงานอีกฝั่ง ส่วนฉันตอนนี้ไม่มั่นใจเลยจริง ๆ ว่าตัวเองท้องเสีย หรือจะคลอด ทำไมปวดท้องแบบนี้ ฉันค่อย ๆ จับผนังหวังประคองตัวเองเปิดประตู อยากไปอยู่ใกล้ ๆ คุณเซ็นให้อุ่นใจ แต่ซ่า... นะ น้ำอะไร ฉันไม่ได้ฉี่ราดนะ หรือมันจะเป็น... เป็นน้ำคล่ำ! “กรี๊ด...” ฉันจับประตูกรี๊ดลั่น ดังทั้งเพนท์เฮ้าส์ จนสามีวิ่งออกมาจากห้องทำงาน “เป็นอะไร! เห้ย…” คุณเซ็นวิ่งมาประคองฉันทันที ตอนนี้ฉันเหงื่อท่วมตัว อาการปวดท้องหน่วงมันเริ่มหนักขึ้น หนักจนฉันพรรณนาออกมาไม่ได้! “ไม่ไหว ปวดท้องแล้ว ปวดแล้ว! ฮือ!” ฉันบีบมือเขาแน่น น้ำตาไหลออกมาอาบแก้ม คุณเซ็นรีบโทรหาคนขับรถ และโรงพยาบาลทันที “ผมเซ็นดิณภัทร! ณีเวียภรรยาผม เธอปวดท้องครับ หมอเจ้าไข้ หมอนาย ขอบคุณครับ” เขารีบวางสายแล้วโทรอีกครั้ง “นพเตรียมรถด่วน!” โอ้ย! อะไรนักหนา พาฉันไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้! ไม่ไหวแล้ว! “คุณ ไปโร
กว่าจะได้นอนคือเช้าค่ะ เช้าจริง ๆ หมอสูติคนนี้เขาไม่ได้เล่น ๆ เขากินฉันทั้งคืนเอาหล่ะ วันนี้มาถึงแล้ว ฉันจะได้รู้สักที ว่าลูกฉันเป็นผู้หญิง หรือผู้ชายก่อนแต่งงานหมอนายให้ฉันเจาะเลือดไว้ เขาจะได้เอาไปตรวจความผิดปกติของโครโมโซม และเพศของลูก ๆ ในครรภ์แล้ววันนี้… ผลก็ออกแล้วค่ะ สามีสูตินารีแพทย์เข้าเวรบ่ายโมง ซึ่งฉันเองก็ต้องรอคิวเข้าไปพบเขาเหมือนคนอื่น ๆ“คุณน้ำหวานเหมือนคนท้องสี่ ห้าเดือนเลยค่ะ” พยาบาลพี่ภาเดินเข้ามาลูบท้องฉัน ฉันท้องโตขึ้นทุกวัน ลูก ๆ ทั้งสามคน คงตัวใหญ่ขึ้นมาก ทั้งที่ตอนนี้ฉันท้องเกือบสามเดือนเองส่วนณีเวียกับแตงโมท้องจะหกเดือนแล้ว ณีเวียเหมือนคนใกล้คลอดมาก ลูกสาวลูกชายดิ้นใหญ่“เริ่มอึดอัดแล้วค่ะ เพื่อนหวานท้องแฝดสองคน ตอนนี้หกเดือนแล้ว ท้องโตมาก ท้องหวานคงโตกว่านั้น” พยาบาลพี่ภายิ้ม และทำท่านึกคิด“อ๋อ คุณณีเวียภรรยาคุณเซ็นใช่ไหมคะ รายนั้นแข็งแรงมากค่ะ ดิฉันทาเจลอัลตราซาวด์ให้ ถีบมือดิฉันไม่หยุดเลย ของคุณน้ำหวานเริ่มตอดหรือยังคะ” ตอดงั้นเหรอ“ยังไงคะ” ฉันถามสงสัย เอามือลูบท้องตัวเองไปด้วย“คุณหมอไม่ได้บอกเหรอคะ เด็กในครรภ์เขาดิ้นตลอดเวลาค่ะ อยู่ที่เราจะรู้สึกตัว
หมอนายไม่เมาเลยสักนิด พวกผู้ชายพวกนั้นไม่สามารถทำอะไรหมอนายได้ นอกจากไอ้ยาดองบ้า ที่ตอนนี้มันกำลังปั่นป่วนอยู่ในตัวเขา!น้ำหวาน อะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิดนะ“หวาน...” นั่นไงหมอสูติเดินมาจากด้านหลัง มือนุ่ม ๆ ค่อย ๆ ปลดกระดุมฉันออก ทีละเม็ดทีละเม็ด“คะ คุณหมอ มันออกฤทธิ์แล้วเหรอคะ” เขาไม่ตอบ แต่ก้มลงจูบไหล่ฉันเบา ๆ ไล่ลงไปเรื่อย ๆ ตามแผ่นหลังมือนุ่มล้วงเข้ามาบีบอกตึง ก่อนที่เขาจะค่อย ๆ เค้น ช้า ๆ ราวกลับ ปรารถนามันมาแสนนาน“อื้ม... หมอคะ” ฉันเงยหน้ามองเพดาน ยกมือขวาลูบไล้ต้นคออุ่น ๆ ของเขา เขาดึงชุดแต่งงานที่ปลดกระดุมเสร็จลงพื้น จนฉันตกใจหันไปจ้องหน้าสูตินารีแพทย์ที่แสนเร่าร้อนคนนี้“อยากกินหวานมากเลยตอนนี้” เขาพูดเบา ๆ ด้วยเสียงเซ็กซี่ฉันยิ้มกริ่มจ้องตาเขาไม่ละสายตา ฉันจ้อง... จ้องราวกับเชิญชวนให้เขาหิวกระหายตัวฉันมากขึ้นไปอีก“กินสิคะ หวานเป็นของคุณหมอแล้ว หวานเป็นภรรยาคุณ” เขาอมยิ้ม หน้าขาว ๆ เริ่มแดงระเรื่อ ก่อนที่เขาจะช้อนตัวฉันอุ้มมาวางบนเตียงริมฝีปากสวยของหมอสูติ โน้มลงมาบดจูบฉันช้า ๆ เขาส่งลิ้นอุ่น ๆ แสนเร่าร้อนเข้ามา คลอเคลียหยอกล้อกับลิ้นฉันข้างใน หวานเหมือนเดิมสามีฉัน
และแล้ววันนี้ก็มาถึง ฉันนั่งมองกระจกบานใหญ่ ที่ตอนนี้มีเครื่องสำอาง เครื่องประดับตั้งเรียงรายอยู่ ฉันสวมชุดไทยศิวาลัยสีโอรส ผมถูกเกล้าขึ้นปักปิ่นเรียบ ๆอกข้างซ้ายส่งเสียงดัง ‘ตึก ตึก’ ฉันตื่นเต้นมาก ตื่นเต้นที่จะได้แต่งงานกับคนที่ตัวเองรัก และมีพยานตัวน้อยถึงสามคนในท้อง“แกสวยมาก แกโชคดีที่เจอรักดี ๆ ต่อไปนี้มีแต่ความสุขแล้วนะ”ณีเวียกับแตงโม อยู่ในชุดไทยเพื่อนเจ้าสาว สไบสีขาวนวล ผ้าถุงไทย ๆ สีฟ้าอ่อนอมเขียว มันอาจจะไม่เหมาะกับหน้าหมวย ๆ และหน้าจิ้มลิ้มน่าถนุถนอมนั้น แต่วันนี้เพื่อนเจ้าสาวของฉันสองคน ก็สวยเกินจะบรรยายเสียงขันหมากดังมาจากหน้าบ้าน ดังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ จนฉันต้องลุกขึ้นแอบมองผ่านหน้าต่าง เจ้าบ่าวรูปหล่อของฉันกำลังเดินเข้ามาพร้อมกับพ่อแม่ น้องชาย ข้างกายมีพานสินสอดทองหมั้น ที่ญาติสนิททั้งหลายของเขาช่วยกันถือณีเวียกับแตงโมกำลังออกจากห้องฉันเพื่อไปกั้นประตูเงินประตูทองหมอนายผ่านประตูเงินประตูทอง ด่านแรกของเมย์และสายฝนด้านล่างมาแล้ว และตอนนี้เขาก็ขึ้นมาถึงหน้าห้องฉัน“หมอนายคะ รักน้ำหวานแค่ไหน” ฉันได้ยินเสียงแตงโมถามหมอนายหน้าห้อง“รักมากที่สุดเลยครับ มากจนบอกไม่ได้” ฉ