ฉันหันหาคุณพ่อคุณแม่ทันที “คุณพ่อคุณแม่ขับรถช้าเหมือนเต่า” หมอเท็นเดินตามฉัน และบอกมาหน้านิ่ง ๆ “โอ้ย! ปวดท้อง... ปวด! ไม่ไหวแล้ว!” ฉันกรีดร้อง! ทำไม ฉันไม่มีสามีวิ่งตามจับมือเหมือนชาวบ้านเขาเนี่ย ให้ตาย! มีแค่น้องสามีที่เหมือนมาแต่วิญญาณ ฮือ ๆ ไม่นานฉันก็ถูกเข็นเข้ามาในห้องคลอดแล้ว! ฉันหอบเหนื่อยเหงื่อท่วมตัว และถูกพามาห้องนึง ก่อนที่พยาบาลจะตรวจอะไรต่าง ๆ นา ๆ เร็ว ๆ เถอะ! ฉันจะตายแล้ว! “พยาบาลฉันจะตายแล้วค่ะ ตามหมอ ตามหมอด่วน” ฉันส่ายหน้าไปมา ปวดท้องหน่วงมาก แขนสองข้างสั่นแทบจะไม่มีแรงแล้ว ลูกสามคน สามคนเลยนะเว้ย! “ค่ะ คุณน้ำหวาน เดี๋ยวให้ยาแก้ปวดก่อนนะคะ ตอนนี้ห้องผ่าตัดยังไม่พร้อมค่ะ” ยังไม่พร้อม! รอให้ฉันตายก่อนใช่ไหม! “หะ! หวานจะตายก่อนไหม ไม่ผ่าก็ได้ คลอดธรรมชาติเลย หวานพร้อม ฮือ ๆ หวานทนไม่ได้แน่ ๆ” ฉันกุมท้องกรีดร้องบนเตียง “ไม่ได้ค่ะ คุณน้ำหวานมีทารกในครรภ์สามคน คุณน้ำหวานอาจจะช็อกได้ อดทนหน่อยนะคะ” อดทน! ใครจะไปทนได้!
--- น้ำหวาน --- ฉันคลอดลูกมาเกือบปีแล้ว ตอนนี้ลูก ๆ สามคนกำลังนั่งเล่นสนุกสนานกับเพื่อน ๆ ในคอกเด็กขนาดใหญ่ ในนั้นมี... เวียร์ ซินน์ ไออุ่น นาวา นาวิน และน้ำปั่น วันนี้เรานัดทานข้าวและมีปาร์ตี้เล็ก ๆ กันที่บ้านแตงโม เหล่าแม่ ๆ อย่างเรานั่งคุยกัน และมองดูลูกตัวเองเป็นระยะ “แง...” ไออุ่นร้องไห้ เมื่อนาวินดึงของเล่นออกจากมือ แตงโมหัวเราะ เบา ๆ แล้วเดินไปอุ้มลูกมานั่งตัก “เบา ๆ นะลูกเดี๋ยวโดนน้อง” และปรามน้องไออุ่นไปด้วย เพราะกลัวโดนน้องอีกคนที่อยู่ในท้อง ใช่ค่ะ แตงโมท้องอีกแล้ว! ท้องได้สามเดือนแล้ว ส่วนณีเวียกับฉันขอบาย เราขอพักก่อน ผ่าคลอดมา ยังเสียวท้องอยู่เลย อย่างอื่นก็ยังเสียวอยู่นะ ว่างก็กินกับสามี ว่างบ่อยก็กินบ่อย เฮ้อ... มันเป็นความสุขของชีวิตอีกอย่างหนึ่งจริง ๆ สามีสูตินารีแพทย์ของฉัน เดินไปอุ้มน้ำปั่นที่คอก ก่อนจะเดินยิ้มมาหาฉัน มองยังไงก็หล่อคุณพ่อคนนี้ “น้ำปั่น น้ำหนักขึ้นหรือเปล่าลูก” คุณพ่อสูตินารีแพทย์แซวลูกสาวคนเล็ก ลูกสาวตอบไม่ได้ ได้แต่ยิ้มและหัวเราะให้ผู้เป็นพ่อ แถมยังใช้แก้มป่อง ๆ ซบคลอเคลียพ่อของเขาอีก น้ำปั่นติดหมอนายหนักมาก! สงสัยคนที่ได้ยินเ
บ้านศิทธิศาสตร์โสภณ“วันนั้น คนที่ไปกับหนูแฟนหรือจ๊ะ” หญิงวัยกลางคนผมสั้น จีบปากจีบคอถามเธอด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส แต่ภายนัยน์ตาที่มองเธอนั้นกลับแข็งกร้าว หญิงคนนี้ไม่ได้รักและเอ็นดูเธอเลยสักนิด ไม่มีใครเอะใจกับคำพูดเหล่านี้ของหล่อนเพราะต่างตั้งหน้าตั้งตาทานอาหารที่อยู่ตรงหน้า เว้นแต่ผู้ถูกถาม ‘เคร้ง’ เสียงช้อนซ้อมที่วางกระแทกจานอย่างแรง ร่างเล็กดีดตัวขึ้นด้วยอารมฉุนเฉียวเพราะรู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกก้าวก่ายเรื่องส่วนตัว“แล้วคุณมีปัญหาอะไรกับเรื่องส่วนตัวของฉันคะ?” หญิงสาวถามขึ้นด้วยความโมโห เพราะเธอเดาทางออก ผู้หญิงคนนั้นตั้งใจทำให้ผู้เป็นพ่อของเธอเข้าใจเธอผิด หล่อนต้องการทุกอย่าง เงิน ชื่อเสียง และพ่อของเธอ“ณีเวียทำไมไปขึ้นเสียงใส่แม่นัทอย่างนั้นลูก!” แม่... คำนี้ที่พ่อของเธอสั่งให้เธอเรียกหล่อน แม่ของเธอเพิ่งจากเธอไปไม่ถึงเดือนผู้หญิงคนนี้ก็เข้ามาเป็นทุกอย่างแทนแม่ของเธอ แม่เลี้ยงของเธอ ที่เธอจะไม่มีวันที่เรียกว่า แม่“พ่อ พ่อไม่เคยรู้อะไรเลย ว่าเขาตั้งใจทำให้พ่อเข้าใจผิด เขายุแยงให้พ่อโกรธหนู” ฉันหันไปบอกพ่อเพื่ออธิบายทุกอย่างให้พ่อฟัง และอยากจะบอกเหลือเกินว่าผู้หญิงคนนี้เป็นค
ฉันได้แต่ทบทวนเรื่องปัญหาชีวิตหน้าป้ายรถเมล์ แต่ต้องไปสะดุดตากับใบประกาศที่ติดอยู่ขอบเสาตรงหน้า รับสมัครพนักงาน MC ขายเหล้า ZER หน้าตาดี รายได้ดี สามหมื่นบาทต่อเดือน มีสวัสดิการ และที่พักให้ฉันรีบกดเบอร์โทรหาตามที่เขาแจ้งไว้ทันที สามหมื่นบาทก็ถือว่าใช้ได้ เพราะเขามีที่พักให้ คราวนี้ฉันจะได้มีเงินไปจ่ายค่าเทอมด้วย คอยดูฉันจะไม่ง้อเงินของพ่อสักบาทเดียว!(สวัสดีครับ)“ฉันเห็นประกาศที่ติดไว้แล้วสนใจค่ะ ไม่ทราบว่าต้องทำยังไงบ้างคะ เขียนใบสมัครที่ไหน”(มาที่ตึก ZER เลยครับ เข้ามากรอกใบสมัครนายจะสัมภาษณ์เอง)“ขอบคุณค่ะ” ฉันรีบเปิด Map หาตำแหน่งของตึก ZER ว่าพอจะมีรถเมล์ผ่าน พอดิบพอดี นั่งไม่กี่ป้ายนี่เอง การสมัครงานครั้งแรกของฉัน ก็เริ่มด้วยการ เป็น MC ขายเหล้าแล้ว ดีไปอีกไม่นานฉันก็แบกของพะรุงพะรังขึ้นรถเมล์มาถึงตึก ZERตึกใหญ่ที่มีลักษณะการออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดังที่เป็นข่าวนี่เอง สวยและดูทันสมัยมาก ฉันจำได้ในข่าวบอกว่าข้างล่างเป็นห้าง ข้างบนเป็นโรงแรม บนสุดเป็นแพนเฮ้าส์ ของเจ้าของตึกทั้งชั้น ฉันไม่อยากจะคิดเลยถ้าแผ่นดินไหวขึ้นมาจะลงมาทันไหมฉันตรงดิ่งไปหายามที่รอเปิดประตูให้“ขอโ
เห้ยนี่มันอะไรกัน ฉันมองซ้ายขวาก่อนจะทบทวนอีกที ว่าฉันมาสมัครงานอะไร เหตุใดต้องให้ฉันมาแก้ผ้าให้ผู้ชายดู ถึงจะหล่อก็เถอะของงก่อน มันอาจจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดก็ได้“คือมาสมัครพนักงาน MC ต้องถอดเสื้อผ้าสัมภาษณ์ด้วยเหรอคะ?” เขาก้มมองใบสมัครอีกทีนึงและลุกขึ้นยืน เขาตัวสูงจนฉันต้องเงยหน้าตาม ขายาว ๆ ของเขาก้าวมาหาฉันพร้อมยื่นกระดาษในมือให้“เธอดู ใบสมัครเธอว่าเธอสมัครอะไร” ฉันสมัครพนักงาน MC ไง ฉันรีบคว้ามาดูเพื่อจะยืนยันกับเขา แต่เห้ย! ‘พนักงานบริการส่วนตัว’“คือฉันมาสมัครพนักงาน MC จริง ๆ ค่ะ ฉันหยิบมาจากกล่องนั้นจริง ๆ” ฉันรีบวิ่งไปที่กล่องใบสมัครที่ฉันหยิบไปกรอก ก็ใช่ มันก็ตรง แต่ทำไมฉันหยิบใบนี้มากรอก“สงสัยคนสมัครคนก่อนเขาหยิบไปวางผิดครับน้อง”พี่ผู้ชายที่เดินสวนฉันตอนเข้ามาเดินเข้ามาพอดี “งั้นเดี๋ยวฉันไป กรอกใหม่ค่ะ!” เขาขมวดคิ้ว เป็นรูปโบว์“ฉันไม่เล่นด้วยหรอกนะ แล้วเธอก็เซ็นมันแล้วสัญญา เธอไม่อ่านรายละเอียดรึไง กฎของอาชีพนี้และถ้าไม่ทำตามจะเป็นยังไง”กฎอะไรวะ ฉันรีบหยิบกระดาษขึ้นมาดูอีกครั้ง กฎ! เห้ย... ทำไมกรูต้องเกิดมาเป็นคนขี้เกียจอ่านด้วย เนี่ย! กรี๊ด...ข
ฉันได้แต่ยืนนิ่ง เหมือนยืนรอคำตัดสินจากคนตรงหน้า ไม่นานประตู เพนท์เฮ้าส์ห้องนี้ก็ถูกเปิดออก ของของฉันถูกย้ายขึ้นมาโดยที่ฉันไม่รู้ตัว“เอาของฉันขึ้นมาทำไม” ไม่มีใครตอบฉัน ทุกคนพยายามเก็บของ ของตัวเอง และเดินออกไป เหลือแค่ฉันกับนายหน้านิ่งคนนี้“ต่อไปนี้ เธอต้องอยู่กับฉัน ดูแลปรนนิบัติฉัน เหมือนเมียดูแลผัว” เขาพูดทิ้งท้ายก่อนถอดสูทตัวนอกออก เมียดูแลผัวงั้นเหรอ? ฉันอายุแค่ยี่สิบสามปี ฉันจะมีสามี หรือ ผัว โดยที่ไม่ได้ตบแต่งเหรอเนี่ย“จะผัวดูแลเมียได้ยังไง เรายังไม่ได้แต่งงาน คุณน่ะเจ้านาย แบบนี้ฉันก็เสียสิ!” ฉันยืนกรานแย้งความคิดเขาแบบสุดโต่ง สำหรับตัวฉันเองก็ไม่ใช่ผู้หญิง ข้างทาง ครอบครัวฉันก็พอมีหน้ามีตาอยู่บ้าง ถึงฉันจะออกมาจากบ้านแล้วแต่ฉันก็ ไม่คิดจะปล่อยตัวเองให้ใครย่ำยีแบบไม่มีศักดิ์ศรีหรอก“เธอ ไม่มีสิทธิเรียกร้อง จำไว้” ประโยคนี้จากปากเขาทำให้หน้า ฉันชาชั่วขณะ“ฉัน ไม่...”อุ๊บ! ก่อนที่ฉันจะเอ่ยปากปฏิเสธเขาอีกรอบ ปากของฉันก็ถูกปิดโดย ปากเขา สัมผัสนี้มันรุนแรงเหมือนฉันถูกทำโทษเขาบดขยี้ปากจนแล้วจนเล่า พร้อมสอดแทรกลิ้นนุ่มเขาเข้ามา แก้มของฉันถูกล็อคไว้ด้วยมือของเขาส
“ฉัน... ฉันกลัว” ยอมรับว่าฉันเองเริ่มมีอารมณ์ร่วมไปกับเขาเขาไม่ตอบ แต่ละจากหน้าอกตูม ๆ เลื่อนต่ำจนไปถึงโหนกที่อวบอิ่ม ของฉัน นิ้วของเขาบดขยี้ลงมาอีกพร้อมกับลิ้นอุ่น ๆ ที่ประกบลงมา เมื่อสองอย่างนี้มันทำงานพร้อมกัน“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊า~”เขาเร่งลิ้นตวัดดูดกลืนน้ำรักฉันอย่างช่ำชอง เสียงดัง จ๊วบ ๆ เหมือนอยากกินของหวานแสนอร่อยให้หมดไม่อยากเหลือแบ่งใคร ฉันแอ่นกาย รับทุกสัมผัสเขา จนเสียวสะท้านไปหมด ร่างกายฉันผลิตน้ำออกมาจน มือสองข้างเริ่มไม่เป็นสุขเอื้อมไปขยี้ผมนุ่มของเขา ฉันจะขาดใจเสียตรงนี้“หวาน หวานมาก” เขาดูดน้ำรักฉันชุดใหญ่ ก่อนใช้นิ้วกลางสอดเข้ามาในรูสวาทที่คับแคบของฉัน ไม่ทันไรฉันต้องสะดุ้งและต่อต้านเขา มันเจ็บ“เจ็บค่ะ ไม่ทำต่อได้ไหม” ฉันส่งสายตาเว้าวอนเขา แต่เขากลับยิ้มออกมาที่มุมปาก สายตาเจ้าเล่ห์เริ่มเผยให้ฉันเห็น“เธอ ยังไม่เคยสินะ อย่าเกร็งเดี๋ยวจะดีเอง” เขาจับขาฉันสองขางดึงเข้าหาตัวเอง ก่อนจะเริ่มดูดน้ำรักฉันอีกรอบ แต่ครั้งนี้เขาเร่งจังหวะถี่ขึ้น เหมือนอยากจะบีบฉันให้ขาดใจ จนฉันทุรนทุรายเสียวส่านไปทั้งตัว“ไม่ไหวแล้ว อ๊ะ อ๊ะ อ๊า~” เสียงครางฉันดังระงมไปทั่วห้อง เอวเด้งรับสัมผัสเ
เขาแช่แก่นกายไว้สักครู่ ก่อนจะก้มลงมาส่งจูบรสหวานให้ ไม่วายมือใหญ่ยังเคล้าคลึกหน้าอึกตึงของฉันอยู่เอวหนาเริ่มขยับเข้าออกช้า ๆ การเสียดสี ที่เพิ่มขึ้นมันแน่นและจุกไปหมด“อย่าเกร็ง เดี๋ยวก็ดีขึ้น”เอวใหญ่ยังทำหน้าที่ไม่หยุด ฉันได้แต่หลับตาปี๋ อยากให้ความรู้สึกเจ็บเหล่านี้หายไปสักที จนสุดท้ายมันก็จบลง... แรงสัมผัสของชายระหว่างขาทำให้ความเสียวซ่านมาเยือนฉันอีกรอบ มือไม้เริ่มอยู่ไม่สุข ขวานหาที่ยึดเหนี่ยวและอยากจะกรีดร้องออกมาดัง ๆ“อ๊ะ อ๊ะ อ๊า~” เอวหนาทำงานเร็วขึ้น กระแทกเขากับเนื้อสาวที่เปียกแฉะ จนดังแปะ ๆ อุณหภูมิในห้องเหมือนถูกเพิ่มขึ้นโดนปริยาย เหงื่อใสเริ่มผุดขึ้น หยดไหลไปตามแรงสัมผัสที่ถาโถมเข้ามา“แน่นมาก หยุดตอดสักที อ่า... คับมาก”เขาจับเข่าสองข้างฉันแน่นและหลับตาปี๋ เสียงครางเบา ๆ ของเขายังคงดังขึ้นมาประสานเสียงแข่งกับฉันอยู่เป็นระรอก ความเสียวซ่านยังคงทำงานไม่หยุดหย่อน และมันก็เพิ่มทวีคูณพร้อมจังหวะเร่งของเอวหนา เหงื่อของเขาเริ่มท่วม รังสีความเซ็กซี่แผ่กระจายจนฉันอดที่จะชื่นชมไม่ได้ น้ำรักมากมายของฉันไหลผ่านช่องสวาทลงไปที่เตียงจนเปียกชื้น ความเสียวยังคงเชือดเฉือนฉันไม่หยุดหย่อน
--- น้ำหวาน --- ฉันคลอดลูกมาเกือบปีแล้ว ตอนนี้ลูก ๆ สามคนกำลังนั่งเล่นสนุกสนานกับเพื่อน ๆ ในคอกเด็กขนาดใหญ่ ในนั้นมี... เวียร์ ซินน์ ไออุ่น นาวา นาวิน และน้ำปั่น วันนี้เรานัดทานข้าวและมีปาร์ตี้เล็ก ๆ กันที่บ้านแตงโม เหล่าแม่ ๆ อย่างเรานั่งคุยกัน และมองดูลูกตัวเองเป็นระยะ “แง...” ไออุ่นร้องไห้ เมื่อนาวินดึงของเล่นออกจากมือ แตงโมหัวเราะ เบา ๆ แล้วเดินไปอุ้มลูกมานั่งตัก “เบา ๆ นะลูกเดี๋ยวโดนน้อง” และปรามน้องไออุ่นไปด้วย เพราะกลัวโดนน้องอีกคนที่อยู่ในท้อง ใช่ค่ะ แตงโมท้องอีกแล้ว! ท้องได้สามเดือนแล้ว ส่วนณีเวียกับฉันขอบาย เราขอพักก่อน ผ่าคลอดมา ยังเสียวท้องอยู่เลย อย่างอื่นก็ยังเสียวอยู่นะ ว่างก็กินกับสามี ว่างบ่อยก็กินบ่อย เฮ้อ... มันเป็นความสุขของชีวิตอีกอย่างหนึ่งจริง ๆ สามีสูตินารีแพทย์ของฉัน เดินไปอุ้มน้ำปั่นที่คอก ก่อนจะเดินยิ้มมาหาฉัน มองยังไงก็หล่อคุณพ่อคนนี้ “น้ำปั่น น้ำหนักขึ้นหรือเปล่าลูก” คุณพ่อสูตินารีแพทย์แซวลูกสาวคนเล็ก ลูกสาวตอบไม่ได้ ได้แต่ยิ้มและหัวเราะให้ผู้เป็นพ่อ แถมยังใช้แก้มป่อง ๆ ซบคลอเคลียพ่อของเขาอีก น้ำปั่นติดหมอนายหนักมาก! สงสัยคนที่ได้ยินเ
ฉันหันหาคุณพ่อคุณแม่ทันที “คุณพ่อคุณแม่ขับรถช้าเหมือนเต่า” หมอเท็นเดินตามฉัน และบอกมาหน้านิ่ง ๆ “โอ้ย! ปวดท้อง... ปวด! ไม่ไหวแล้ว!” ฉันกรีดร้อง! ทำไม ฉันไม่มีสามีวิ่งตามจับมือเหมือนชาวบ้านเขาเนี่ย ให้ตาย! มีแค่น้องสามีที่เหมือนมาแต่วิญญาณ ฮือ ๆ ไม่นานฉันก็ถูกเข็นเข้ามาในห้องคลอดแล้ว! ฉันหอบเหนื่อยเหงื่อท่วมตัว และถูกพามาห้องนึง ก่อนที่พยาบาลจะตรวจอะไรต่าง ๆ นา ๆ เร็ว ๆ เถอะ! ฉันจะตายแล้ว! “พยาบาลฉันจะตายแล้วค่ะ ตามหมอ ตามหมอด่วน” ฉันส่ายหน้าไปมา ปวดท้องหน่วงมาก แขนสองข้างสั่นแทบจะไม่มีแรงแล้ว ลูกสามคน สามคนเลยนะเว้ย! “ค่ะ คุณน้ำหวาน เดี๋ยวให้ยาแก้ปวดก่อนนะคะ ตอนนี้ห้องผ่าตัดยังไม่พร้อมค่ะ” ยังไม่พร้อม! รอให้ฉันตายก่อนใช่ไหม! “หะ! หวานจะตายก่อนไหม ไม่ผ่าก็ได้ คลอดธรรมชาติเลย หวานพร้อม ฮือ ๆ หวานทนไม่ได้แน่ ๆ” ฉันกุมท้องกรีดร้องบนเตียง “ไม่ได้ค่ะ คุณน้ำหวานมีทารกในครรภ์สามคน คุณน้ำหวานอาจจะช็อกได้ อดทนหน่อยนะคะ” อดทน! ใครจะไปทนได้!
ฉันนั่งมองหมวยน้อยกับณีเวีย ก็อดยิ้มตามไม่ได้ แตงโมคลอดธรรมชาติ! ไม่อยากจะเชื่อ ฉันหน่ะสิ สามคนในท้อง หากคลอดธรรมชาติฉันอาจจะขาดใจตายก่อน ตอนนี้ฉันท้องได้เจ็ดเดือนแล้ว ไม่ต้องถามว่าท้องใหญ่แค่ไหน มันใหญ่จนฉันเดินไม่ไหวเลยล่ะ ฮ่องกงถูกแคนเซิลถาวร ไม่มีกำหนดไป แต่ได้หุ้นห้าสิบเปอร์เซ็นต์กับเบนซ์เอสคลาสเป็นของขวัญแต่งงานนะจ๊ะ ฉันนั่งคุยกับเพื่อนสักพัก เพื่อรอสามีออกเวร สลับไปห้องแตงโมบ้าง ห้องณีเวียบ้าง ณีเวียเจ็บแผลคุณเซ็นจึงเป็นคนเลี้ยงลูก วุ่นวายจนต้องเอางานมาทำที่โรงพยาบาล เห็นแล้วน่ารักดี แต่ก็แอบขำ ‘ก๊อก ก๊อก ก๊อก’ หมอนายเปิดประตูเข้ามา เดินมาตรวจแผลณีเวีย “อย่าหัวเราะดังนะ ระวังแผลฉีก” ณีเวียตกใจเอามือปิดปากทันที “ค่ะ อิอิ จะพยายาม” หมอนายยิ้ม แล้วเดินกลับมาหาฉัน เขานั่งลง เอามือสองข้างโอบท้องฉันไว้ “ไงครับ ลูกพ่อ” เท่านั้นล่ะ! ตุบ ๆ ฉันหลับตาปี๋ ฉันจุก! ลูกถีบหนักมาก รวมพลังเป็นหนึ่งเดียวทันที เมื่อได้ยินเสียงพ่อเขา “โอ้ย เบา ๆ ลูก แม่จุกแล้ว” ฉันลูบท้องปราม ณีเวี
ฉันอยากจะบ้า อยากจะบ้าจริง ๆ ฉันทรมานมากตอนนี้ “ใช่สิสามชั่วโมงผ่าไม่ได้ แตงโมกินเยอะไหม” หมอนายถามฉันอีกครั้ง พลางยกนาฬิกาข้อมือดู… “เรื่อย ๆ ค่ะ คุยไปกินไป ฮือ ๆ” ฉันหลับตาปี๋ ปวดทรมานไปหมด “งั้นประมาณ หกชั่วโมง ไม่เป็นไรเดี๋ยวให้ยาแก้ปวดก่อน” ฮือ ๆ หกชั่วโมง กับยาแก้ปวด โอ้ย! แล้วมันหายปวดเป็นปลิดทิ้งมั้ยล่ะ! “หมอคะ เร็วกว่านี้ไม่ได้เหรอ” ไออุ่นเริ่มถีบท้องฉันรัวแล้ว โอ้ยลูก! อย่าซน ใจเย็น ๆ ลูกแม่ปวด “ไม่ได้จริง ๆ ปกติ ต้องงดข้าวงดน้ำหนึ่งวันเต็ม ๆ” “หมอ แตง... โอ้ย ๆ แตงแจ้งตั้งแต่ฝากครรภ์แล้ว ฮือ ๆ ว่าจะผ่า ไม่คลอดธรรมชาติเด็ดขาด” หมอนายเดินมาใกล้ ๆ ฉัน “ทำไม คลอดธรรมชาติมันปลอดภัยกว่านะ แผลหายเร็วด้วยเจ็บแป๊บเดียว ปวดขนาดนี้ลองเบ่งดูก่อนไหม” ฉันกุมท้องนอนร้องไห้ ในใจนึกโกรธสามี ทำไมฉันต้องมาทรมานคนเดียวด้วย อิตาเอส! “หมอ... ฮือ ๆ ขอยาแก้ปวดก่อนค่ะ ๆ ด่วน” ฉันถูกเข็นไปอีกห้อง และได้ยาแก้ปวดเรียบร้อย อาการทุเลาลง แต่ถามว่ายังปวดไหม ปวดสิ! “พยาบาล
ฉันยืนมองณีเวียและคุณเซ็น ยิ้มกันมีความสุข ก็อดยิ้มตามไม่ได้เลย ลูก ๆ พวกเขาน่ารักมาก น่ารักจริง ๆ เยี่ยมเพื่อนและหลาน ๆ เสร็จ ฉันกับตาเอสก็ออกมาจากโรงพยาบาล ระหว่างอยู่ในรถฉันก็คิดวนเวียนอยู่เรื่องเดียว จะเจ็บแค่ไหนนะ! ณีเวียบอกกับฉันว่าตอนปวดท้องคลอด มันปวดมาก ปวดเหมือนจะตาย ตุบ ๆ นั่นไง พอนึกถึงเรื่องนี้ ลูกสาวตัวดีของฉันก็ดิ้นใหญ่ ฉันลูบท้องเบา ๆ จนสามีเอื้อมมือมาลูบด้วย “ลูกสาวพ่อ พร้อมหรือยัง” ถามแม่บ้างเถอะ! กลัวชะมัด “ฉันยังไม่พร้อม! อย่าเพิ่งสิ” ตาเอสหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะยกมือขึ้นมาหยิกแก้มฉัน “หมวยเธอมันพลังช้างอยู่แล้ว เบ่งเลยสะใจ” “นายลองไปนอนเบ่งดูไหมล่ะตาบ้า!” เขาหัวเราะชอบใจ หน้ากวน ๆ หันมายักคิ้วให้ฉัน “หรือจะผ่าก่อน… จะได้ไม่ต้องเจ็บสองทาง” ฉันหันไปมองเขาทันที เจ็บสองทางงั้นเหรอ “ถ้าถึงกำหนดคลอดก็คลอดเลยสิ ถ้าไม่ปวดก่อน” เอ๊ะก็ดีเหมือนกัน ว่าแต่สามีกวน ๆ ของฉัน ทำไมรู้ดีนัก “รู้ดีนะ” เขายักคิ้วยิ้มกริ่ม
23.56 ฉันเดินเข้าออกห้องน้ำเป็นว่าเล่น สามีนักธุรกิจของฉัน เขายังคงนั่งทำงานที่ห้องทำงานอีกฝั่ง ส่วนฉันตอนนี้ไม่มั่นใจเลยจริง ๆ ว่าตัวเองท้องเสีย หรือจะคลอด ทำไมปวดท้องแบบนี้ ฉันค่อย ๆ จับผนังหวังประคองตัวเองเปิดประตู อยากไปอยู่ใกล้ ๆ คุณเซ็นให้อุ่นใจ แต่ซ่า... นะ น้ำอะไร ฉันไม่ได้ฉี่ราดนะ หรือมันจะเป็น... เป็นน้ำคล่ำ! “กรี๊ด...” ฉันจับประตูกรี๊ดลั่น ดังทั้งเพนท์เฮ้าส์ จนสามีวิ่งออกมาจากห้องทำงาน “เป็นอะไร! เห้ย…” คุณเซ็นวิ่งมาประคองฉันทันที ตอนนี้ฉันเหงื่อท่วมตัว อาการปวดท้องหน่วงมันเริ่มหนักขึ้น หนักจนฉันพรรณนาออกมาไม่ได้! “ไม่ไหว ปวดท้องแล้ว ปวดแล้ว! ฮือ!” ฉันบีบมือเขาแน่น น้ำตาไหลออกมาอาบแก้ม คุณเซ็นรีบโทรหาคนขับรถ และโรงพยาบาลทันที “ผมเซ็นดิณภัทร! ณีเวียภรรยาผม เธอปวดท้องครับ หมอเจ้าไข้ หมอนาย ขอบคุณครับ” เขารีบวางสายแล้วโทรอีกครั้ง “นพเตรียมรถด่วน!” โอ้ย! อะไรนักหนา พาฉันไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้! ไม่ไหวแล้ว! “คุณ ไปโร
กว่าจะได้นอนคือเช้าค่ะ เช้าจริง ๆ หมอสูติคนนี้เขาไม่ได้เล่น ๆ เขากินฉันทั้งคืนเอาหล่ะ วันนี้มาถึงแล้ว ฉันจะได้รู้สักที ว่าลูกฉันเป็นผู้หญิง หรือผู้ชายก่อนแต่งงานหมอนายให้ฉันเจาะเลือดไว้ เขาจะได้เอาไปตรวจความผิดปกติของโครโมโซม และเพศของลูก ๆ ในครรภ์แล้ววันนี้… ผลก็ออกแล้วค่ะ สามีสูตินารีแพทย์เข้าเวรบ่ายโมง ซึ่งฉันเองก็ต้องรอคิวเข้าไปพบเขาเหมือนคนอื่น ๆ“คุณน้ำหวานเหมือนคนท้องสี่ ห้าเดือนเลยค่ะ” พยาบาลพี่ภาเดินเข้ามาลูบท้องฉัน ฉันท้องโตขึ้นทุกวัน ลูก ๆ ทั้งสามคน คงตัวใหญ่ขึ้นมาก ทั้งที่ตอนนี้ฉันท้องเกือบสามเดือนเองส่วนณีเวียกับแตงโมท้องจะหกเดือนแล้ว ณีเวียเหมือนคนใกล้คลอดมาก ลูกสาวลูกชายดิ้นใหญ่“เริ่มอึดอัดแล้วค่ะ เพื่อนหวานท้องแฝดสองคน ตอนนี้หกเดือนแล้ว ท้องโตมาก ท้องหวานคงโตกว่านั้น” พยาบาลพี่ภายิ้ม และทำท่านึกคิด“อ๋อ คุณณีเวียภรรยาคุณเซ็นใช่ไหมคะ รายนั้นแข็งแรงมากค่ะ ดิฉันทาเจลอัลตราซาวด์ให้ ถีบมือดิฉันไม่หยุดเลย ของคุณน้ำหวานเริ่มตอดหรือยังคะ” ตอดงั้นเหรอ“ยังไงคะ” ฉันถามสงสัย เอามือลูบท้องตัวเองไปด้วย“คุณหมอไม่ได้บอกเหรอคะ เด็กในครรภ์เขาดิ้นตลอดเวลาค่ะ อยู่ที่เราจะรู้สึกตัว
หมอนายไม่เมาเลยสักนิด พวกผู้ชายพวกนั้นไม่สามารถทำอะไรหมอนายได้ นอกจากไอ้ยาดองบ้า ที่ตอนนี้มันกำลังปั่นป่วนอยู่ในตัวเขา!น้ำหวาน อะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิดนะ“หวาน...” นั่นไงหมอสูติเดินมาจากด้านหลัง มือนุ่ม ๆ ค่อย ๆ ปลดกระดุมฉันออก ทีละเม็ดทีละเม็ด“คะ คุณหมอ มันออกฤทธิ์แล้วเหรอคะ” เขาไม่ตอบ แต่ก้มลงจูบไหล่ฉันเบา ๆ ไล่ลงไปเรื่อย ๆ ตามแผ่นหลังมือนุ่มล้วงเข้ามาบีบอกตึง ก่อนที่เขาจะค่อย ๆ เค้น ช้า ๆ ราวกลับ ปรารถนามันมาแสนนาน“อื้ม... หมอคะ” ฉันเงยหน้ามองเพดาน ยกมือขวาลูบไล้ต้นคออุ่น ๆ ของเขา เขาดึงชุดแต่งงานที่ปลดกระดุมเสร็จลงพื้น จนฉันตกใจหันไปจ้องหน้าสูตินารีแพทย์ที่แสนเร่าร้อนคนนี้“อยากกินหวานมากเลยตอนนี้” เขาพูดเบา ๆ ด้วยเสียงเซ็กซี่ฉันยิ้มกริ่มจ้องตาเขาไม่ละสายตา ฉันจ้อง... จ้องราวกับเชิญชวนให้เขาหิวกระหายตัวฉันมากขึ้นไปอีก“กินสิคะ หวานเป็นของคุณหมอแล้ว หวานเป็นภรรยาคุณ” เขาอมยิ้ม หน้าขาว ๆ เริ่มแดงระเรื่อ ก่อนที่เขาจะช้อนตัวฉันอุ้มมาวางบนเตียงริมฝีปากสวยของหมอสูติ โน้มลงมาบดจูบฉันช้า ๆ เขาส่งลิ้นอุ่น ๆ แสนเร่าร้อนเข้ามา คลอเคลียหยอกล้อกับลิ้นฉันข้างใน หวานเหมือนเดิมสามีฉัน
และแล้ววันนี้ก็มาถึง ฉันนั่งมองกระจกบานใหญ่ ที่ตอนนี้มีเครื่องสำอาง เครื่องประดับตั้งเรียงรายอยู่ ฉันสวมชุดไทยศิวาลัยสีโอรส ผมถูกเกล้าขึ้นปักปิ่นเรียบ ๆอกข้างซ้ายส่งเสียงดัง ‘ตึก ตึก’ ฉันตื่นเต้นมาก ตื่นเต้นที่จะได้แต่งงานกับคนที่ตัวเองรัก และมีพยานตัวน้อยถึงสามคนในท้อง“แกสวยมาก แกโชคดีที่เจอรักดี ๆ ต่อไปนี้มีแต่ความสุขแล้วนะ”ณีเวียกับแตงโม อยู่ในชุดไทยเพื่อนเจ้าสาว สไบสีขาวนวล ผ้าถุงไทย ๆ สีฟ้าอ่อนอมเขียว มันอาจจะไม่เหมาะกับหน้าหมวย ๆ และหน้าจิ้มลิ้มน่าถนุถนอมนั้น แต่วันนี้เพื่อนเจ้าสาวของฉันสองคน ก็สวยเกินจะบรรยายเสียงขันหมากดังมาจากหน้าบ้าน ดังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ จนฉันต้องลุกขึ้นแอบมองผ่านหน้าต่าง เจ้าบ่าวรูปหล่อของฉันกำลังเดินเข้ามาพร้อมกับพ่อแม่ น้องชาย ข้างกายมีพานสินสอดทองหมั้น ที่ญาติสนิททั้งหลายของเขาช่วยกันถือณีเวียกับแตงโมกำลังออกจากห้องฉันเพื่อไปกั้นประตูเงินประตูทองหมอนายผ่านประตูเงินประตูทอง ด่านแรกของเมย์และสายฝนด้านล่างมาแล้ว และตอนนี้เขาก็ขึ้นมาถึงหน้าห้องฉัน“หมอนายคะ รักน้ำหวานแค่ไหน” ฉันได้ยินเสียงแตงโมถามหมอนายหน้าห้อง“รักมากที่สุดเลยครับ มากจนบอกไม่ได้” ฉ