ฉันมองแม่พูดอึ้ง ๆ ฉันอยากเปิดใจนะ รออีกสักพักแล้วกันฉันไม่ได้คุยกับหมอเลยคืนนั้น เขาผ่าเคสใหญ่สองเคส ฉันก็เหนื่อยด้วย เผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้ ตื่นเช้ามาก็มีไลน์จากเขาLINE | Dr.Nine05:45[Dr.Nine: ฝันดีตัวแสบ]ฉันยิ้มให้จอมือถือ ก่อนจะลุกไปอาบน้ำ วันนี้ฉันไปลองชุดเป็นเพื่อนสองสาว ตัวฉันเองก็เลือกชุดเพื่อนเจ้าสาวไปด้วย ทั้งสองงานอยากใส่ชุดเจ้าสาวจัง ณีเวียกับแตงโมสวยมาก ท้องณีเวียป่องหน่อย ๆ ส่วนแตงโมยังไม่ค่อยชัด เท่าไหร่ สวยทั้งคู่ ปลื้มจัง เห็นสองคนนี้เป็นฝั่งเป็นฝาสักที“ไม่เลือกไว้เลยล่ะ” ณีเวียเลือกมาทาบตัวฉัน แต่ไม่ดีกว่า กลัวอาถรรพ์ไม่ได้แต่ง“ค่อยเถอะ ฝาชีไปไหนอะ ไม่มาเลือกด้วยเหรอ” ณีเวียส่ายหัว“ประชุม เอะอะประชุม”“อย่าไร้สาระให้มาก เป็นแม่คนแล้ว เขาทำงาน” ณีเวียถอนหายใจเบา ๆ“รู้ล่ะ อยากให้แฟนมาเลือกด้วยป้ะล่ะ” ก็จริง ดูแตงโมสิมันไม่เห็นเครียด“แตงพี่เอสไปไหน”“นอน” ณีเวียเงยหน้ามองแตงโมทันที“บ้า นอนนี่นะ น่างอลนะเนี่ย”“แกบ้านฉันเปิดผับป่ะ กลางคืนก็ไม่ได้นอนอยู่แล้ว เขาทำงานน่า” ณีเวียคือคนที่ฮอร์โมนคนท้องพุ่งพล่านสุดตอนนี้“เออ” นางหน้ามุ่ย เมื่อเราเลือกชุดกันเสร็จก
เขายิ้มให้ฉัน ก่อนที่จะก้มลงมาบดจูบอีกรอบ ลิ้นอุ่น ๆ เราเริ่มคลอเคลียกัน ตวัดชิมรสหวานระมุนอบอุ่นอยู่ข้างในมือนุ่มของหมอสูติกำลังนวดคลึงเนินอกอวบฉันช้า ๆ ก่อนที่จะเลื่อนหน้าลงมาชิมรสชาติของเม็ดทับทิมสีสดบนยอดมันลิ้นนุ่มบดขยี้ฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่า เหมือนเขาอยากดูดกินทั้งทรวงอกสองข้างให้หมดไปอย่างไงอย่างงั้นหมอสูตินารีคนนี้ เขารู้ว่าจุดไหนไวต่อสัมผัส ซึ่งมันดีเหลือเกินเขาเลื่อนนิ้วยาวไล่ลงไปหว่างขา ก่อนสัมผัสนุ่มนวลเร่าร้อนเริ่มคืบคลานเข้ามา เมื่อหมอสูตินารีตรงหน้าเขาสำรวจทุกส่วนในร่างกายเขาค่อย ๆ ปลดกระโปรงพีชสีสดของฉันออก ก่อนจะใช้มือนุ่ม ๆ ลูบไล้ไปตาม จุดไวสัมผัสทั้งหลาย อื้ม... มันดีจัง“หมอคะ ทำไมดีแบบนี้ อื้ม...” แค่มือนุ่มสัมผัสเบา ๆ ฉันก็แทบจะครางกระเส่าออกมาเขายิ้มให้ฉัน ก่อนจะเริ่มดึงกางเกงในฉันลงช้า ๆ เขากำลังจะตรวจภายในเหรอเนี่ยฉันหอบหายใจเหนื่อย เหมือนใจจะขาดตั้งแต่ยังไม่เริ่ม อื้ม... มีแฟนเป็นหมอสูติมันดีแบบนี้นี่เอง จะตรวจแล้วใช่ไหม“อ๊ะ~ หมอคะ” แค่โดนนิ้วนุ่มแตะเบา ๆ กลับเหมือนฉันใจจะขาดเสียตรงนี้“ว่าไงครับ คนไข้” ฉันกำผ้าปูที่นอนสีเทาแน่นจนเขาเริ่มจับขาสองข้างฉัน
คนข้าง ๆ นอนตะแคงกอด และส่งลมหายใจอุ่นรดต้นคอฉันเป็นระยะฉันเขิน เขินจนไม่กล้าคุยกับเขา ทำไมถึงเขินแบบนี้ ไม่เข้าใจเหมือนกัน“หวาน...” ฉันหันหน้าไปหาเขา จนเราหน้าติดกันอีกครั้ง จมูกฉันเผลอชนแก้มขาว ๆ ที่ตอนนี้มันมีสีแดงระเรื่อ เขาเขินฉันเขินเขาฉันไม่แปลกใจสักนิด แต่ทำไมฉันถึงเขิน ทั้งที่ฉันไม่ใช่สาวบริสุทธิ์ แรกเริ่ม ฉันผ่านมันมาแล้ว ผ่านมันมาแบบไร้ยางอายด้วยซ้ำ“คะ ค่ะ” ฉันตอบเขาเบา ๆ แล้วสลัดเรื่องปวดหัวออกไปให้หมด“ปวดหัวไหม” ฉันจ้องตาชั้นเดียวคู่นั้น เขาเองก็จ้องมาเหมือนกัน“มะ ไม่ค่ะ หมอปวดเหรอคะ”“นิดหน่อย แต่ดีขึ้นเยอะ”ฉันยิ้มให้เขา ก่อนจะเอื้อมไปลูบแก้มขาว ๆ เบา ๆ ทำไมอ่อนโยน ทำไมอบอุ่นแบบนี้นะ“แฟนหวานเหรอเนี่ย” เขายิ้มเบา ๆ ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย ว่าจะมีแฟนเป็นหมอสูตินารีรูปหล่อ“แฟนหวานคนเดียว” เขาก้มลงมาหอมแก้มฉันฟอดใหญ่ฉันหน้าร้อนผ่าว เขิน“แน่นอนค่ะ แฟนหวานคนเดียว ห้ามให้ใครมายุ่ง ไม่ยอม ๆ” ฉันหันไปซุกอกขาว ๆ ของเขา ทั้งไซ้ทั้งสูดดมเนียนหอม... หิวอีกแล้ว“หิวมั้ย ออกไปหาอะไรกินมั้ย” อื้ม... หมอสูติคนนี้ถามเหมือนรู้ใจ แต่ไม่รู้ว่าเจตนาเหมือนกันหรือเปล่า“เนี่ย... หิว” ฉ
ตกเย็นหมอนายก็ขับรถมาส่งฉันที่บ้าน รถฉันจอดเน่าที่โรงพยาบาลเหมือนเดิม เขาจะทิ้งรถตัวเองไว้กับฉัน และค่อยขับรถฉันมาให้ทีหลัง ดีไหมล่ะ แฟนฉันเอง แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดกำลังจะเกิดขึ้น“สวัสดีครับ คุณพ่อคุณแม่” เมื่อเดินเข้ามาบ้าน พ่อกับแม่ฉันก็นั่งคุยกันอยู่พอดี น่าจะรู้ว่า... เมื่อคืน ฉันไม่ได้กลับบ้าน“อ้าว สวัสดีหมอ นั่ง ๆ” พ่อฉันเอง ส่วนแม่ฉันลุกจากโซฟามาควงแขนหมอนายแล้ว“กินอะไรกันมายังลูก” แม่ฉันถามหมอนาย ลูกอยู่นี่นะแม่ และเขาก็กินลูกแม่มาเมื่อคืน คงอิ่มแล้วล่ะ อุ๊บ!“ครับ เรียบร้อยแล้ว คุณพ่อคุณแม่ล่ะครับ” ความสุภาพอ่อนโยนเขา เอาชนะใจพ่อแม่ฉันเต็ม ๆ“เรียบร้อยแล้วลูก”“ครับ เอ่อ... ผมมีเรื่องจะขอโทษคุณพ่อกับคุณแม่ครับ” ขอโทษ? อะไร? พ่อกับแม่ฉันหยุดทำทุกอย่าง หันมามองหน้าหมอนายพร้อมกัน“ขอโทษอะไร” พ่อฉันถามสงสัย‘ตึก ตึก ตึก’ อะไรของเขา ใจฉันเต้นแรงไม่เป็นจังหวะแล้ว“เมื่อคืน... ผมล่วงเกินน้องไปครับ ผมกราบขอโทษคุณพ่อ คุณแม่ด้วยนะครับ” หมอนายยกมือไหว้ขอโทษพ่อกับแม่ฉัน พ่อฉันนั่งเงียบ ตกใจ แม่ฉันก็ดูอึ้ง ๆ หันมามองหน้าฉัน“หวาน...” ฉันเม้มปากแน่น รอฟังคำตัดสินประหารชีวิต“ค่ะแม่ เอ่อ
ยินดีด้วยนะ ณีเวีย & คุณเซ็นพรุ่งนี้งานแต่งฉัน ฉันควรจะนอนพักผ่อน ดูตอนนี้สิ กี่โมงกี่ยาม ฉันยังยืนพะอืดพะอมอยู่หน้าห้องน้ำ ทั้งฉันและคุณชาย แพ้ท้องทั้งคู่ลูกจ๋า ฮือ... ทรมานทั้งปะป๊าหม่าม้าเลยนะ!“คุณ... ฉันจะอ้วก แหวะ” ฉันวิ่งไปอ้วกในห้องน้ำ อ้วกออกมาหลายรอบ ทรมานชะมัด!ฉันเดินออกมา พร้อมสูดยาดมที่ถืออยู่รัว ๆ“จะได้นอนไหมวันนี้” ว่าที่สามีฉันถามนิ่ง ๆ เพราะทั้งวัน เขาก็อ้วก ลูกสองคนในท้องสลับกันทำพิษฉันเดินมึนมาที่เตียง คุณเซ็นเองก็ดมยาดมเหมือนกัน เดือนที่สามย่างเข้าเดือนที่สี่แล้ว เซ็นน้อยณีเวียน้อยฉันนอนลงข้าง ๆ เขา ก่อนที่มือหนาจะโอบกอดฉันไว้ ฉันพยายามนอนให้หลับ พรุ่งนี้แต่งงาน ต้องใช้พลังงานมหาศาลแต่... เวลา 03.54 ฉันหิว! ฉันหิว... หิวมาก คุณพระ!ฉันสะดุ้งตื่น กระสับกระส่ายนอนไม่หลับ ฉันหิวจริง ๆ ทั้งที่กินมากแล้ว เฮ้อ…ว่าที่สามียังหลับอยู่ไม่อยากปลุก คุณชายทำงานมาทั้งวัน แถมยังแพ้ท้องแทนฉันอีก ฉันสงสารเขา“คุณ... ตื่น!” แต่ฉันทำไม่ได้ ทั้งปลุก ทั้งไปเขย่าแขนเขารัว ๆ“หืม... กี่โมงแล้ว” ฉันลุกขึ้นนั่ง เปิดไฟหัวเตียง จ้องเขาไม่ละสายตา จะลุกหรือไม่ลุก!“กี่โมงไม่สนใจ ฉัน
ฉันมึนเดินออกมาจากงานแต่งณีเวีย มือข้างนึงถือช่อดอกไม้ อีกข้างนึงหมอนายคอยจับประคองอยู่ ฉันต้องดื่มแทนเพื่อนทุกคน เพราะพวกนางท้องกันหมด สภาพเลยเป็นแบบนี้เมา แต่พอไหวอยู่จ้า“ที่รักของเค้า” ฉันหันไปเห็นหน้าขาว ๆ ของแฟนตัวเองแล้วหมั่นเขี้ยว คนอะไร ขาวและหอมหมดทั้งตัว“เมาแล้วนะเนี่ย” เขาบ่นเบา ๆ มือนุ่ม ๆ บีบมือฉันไปด้วย เปลี่ยนเป็นบีบอย่างอื่นได้ไหมคะ“อ่าวหวาน ทำไมแกเมาขนาดนี้” ฉันเจอแตงโมพี่เอสพี่ทีเมย์ยืนอยู่หน้าประตู เมย์สดใสขึ้นมาก พี่ทีก็ด้วย“เมาอะไรนิดหน่อยเอง เพื่อนแต่งงานทั้งที แกสองคนดื่มกับฉันไม่ได้นี่หว่า อีกอย่างเหลือแค่แกกับฉันแล้วแตง ใกล้แล้ว ๆ อิอิ” แตงโมหัวเราะเบา ๆ“หวานจะแต่งงานแล้วเหรอ ยินดีด้วยนะ” อยู่ ๆ พี่ทีก็เดินมาแสดงความยินดีกับฉัน พี่ทีดูปกติ หรือฉันดูไม่ออก แต่ช่างเถอะ พี่ทีดูดีกว่าเดิมแล้วกัน แค่นี้ฉันก็ดีใจแล้วหวานเลิกเจ็บเพราะพี่แล้ว พี่ก็ควรเลิกเจ็บเพราะหวานเหมือนกัน“ขอบคุณมากค่ะ” เขายิ้ม ก่อนจะเอามือมาตบไหล่ฉันเบา ๆ“แต่งแล้วมีลูกเลยนะหมอ เดี๋ยวไม่ทันกัน ฮ่า ๆ” พี่เอสแซว กวนตลอด“กำลังครับ จะเริ่มปั๊มก่อนแต่งแล้ว” ฉันหันไปตีแขนแฟนเบา ๆ เขิน มาพูด
สักพักใหญ่ เขาก็โทรตามฉันลงไป ฉันรีบขึ้นรถเขา ก่อนที่คุณหมอจะออกรถทันที สีหน้าเคร่งเครียดที่สุด“คุณหมอ เครียดเหรอคะ” ฉันเอื้อมไปบีบมือเขาเบา ๆ“เครียด ไม่ชอบเลย เกือบช่วยไม่ทัน เฮ้อ...” ฉันบีบมือเขาเบา ๆ อีกครั้ง คนจริงจังกับงาน“ไม่เป็นไรนะคะ แฟนหวานเก่ง ช่วยได้อยู่แล้วใช่ไหม” เขายิ้มเบา ๆ ก่อนจะหันมามองฉัน“รู้ไหมใคร” ฉันขมวดคิ้ว“ใครคะ”“แฟนของแฟนเก่าหวาน ดีที่ช่วยทัน สงสัยเครียดมาก ทั้งความดันทั้งระดับฮอร์โมน”ตายจริง เมย์เกือบแท้งเหรอเนี่ย สงสารเมย์ สงสารพี่ที พี่ทีคงจะเครียดน่าดู เฮ้อ!“แต่ก็ทันนิคะ เฮ้อ... ทันก็ดีแล้ว หวานบอกแล้วว่าแฟนหวานเก่ง” เขายกมือจับแก้มฉันเบา ๆ“ไม่ชอบเลย เคสตกเลือดแท้งลูก บางทีต้องผ่าเอาเด็กออกมาก่อน เห็นแล้วเครียด” เขาขับรถไปบ่นไป ว่าแต่จะไปไหน? ทำไมไม่บอกกัน“ไม่ต้องเครียดนะคะ รักหมอนะ” เขายิ้มออกมาทันที ก่อนจะจับมือฉันขึ้นไปจุมพิตเบา ๆ แทนเขาไม่บอกฉันเลยว่าไปไหน อยู่ ๆ ก็มาจอดที่โรงแรมแห่งหนึ่ง เขาพาฉันขึ้นลิฟต์มาชั้นบนสุด ซึ่งเป็นร้านอาหารเห็นวิวกรุงเทพมหานคร สวยจัง บรรยากาศดีโรแมนติกเหมือนเขาจองโต๊ะริมกระจกไว้แล้ว พนักงานเดินนำเรามานั่ง ร้านน
กลับมาถึงห้องก็ไม่ต้องพูดเลย เขาอยากมีลูกจริง ๆฉันนอนดูหนังกอดกับเขาดี ๆ อยู่ ๆ ก็ได้กินกันซะงั้น จะโทษใครดีล่ะ ฉันเอ็กซ์หรือเขา...“อื้อ~ หมอขา... อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ เสียวค่ะ” ฉันเม้มปากเเน่น มือไม้กระชากผ้าปูที่นอนหลุดลุ่ยหมด สูตินารีแพทย์ข้างล่างกำลังพยายามปั๊มลูกแฝดให้ฉัน พยายามตั้งหลายรอบ ฉันจะบ้าตาย‘ปึก ปึก ปึก’“อื้ม~ อ๊ะ อ๊ะ” ฉันตัวบิดเกลียว กระสับกระส่าย ความเสียววูบวาบในตัวทำฉันใจจะขาดอีกแล้วฉันตัวสั่นตามแรงกระแทก…พลางหยิบยาดมขึ้นมาสูดแรง ๆ หายใจเข้าลึก ๆ หวังผ่อนคลาย แต่มันช่วยไม่ได้! โอ้ย~เขายังทำงานหนักอยู่… แต่ไม่ใช่ที่โรงพยาบาล แต่ที่น้องสาวฉัน!‘ปึก ปึก ปึก’“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ~” ฉันหลับตาครางกระเส่าออกมา ระดับความเร็วของเอวไม่ต้องพูดถึง กระแทกเข้ามาแต่ละครั้ง จริงจังไปไหม!“อื้อ~ อ๊ะ อ๊ะ ท้องแล้วมั้งคะ อย่าทำแรง อ๊ะ ๆ อาจจะติดแล้วก็ได้” ฉันจะบ้าตาย ฉันพูดไม่เป็นภาษา ฉันกลัวว่าจะท้องอยู่เนี่ย พรุ่งนี้ฉันจะตรวจแล้ว ฉันห่วงลูก!“อื้ม~ อื้ม” เขาเบาแรงลง ตาชั้นเดียวคู่นั้นจ้องฉันตาเป็นประกาย เสร็จแล้วใช่ไหม…‘ปึก ปึก ปึก’ ม่าย! คุณหมอ!“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ่า!” ฉันหลับตาปี๋ เหมือนจะเสร
--- น้ำหวาน --- ฉันคลอดลูกมาเกือบปีแล้ว ตอนนี้ลูก ๆ สามคนกำลังนั่งเล่นสนุกสนานกับเพื่อน ๆ ในคอกเด็กขนาดใหญ่ ในนั้นมี... เวียร์ ซินน์ ไออุ่น นาวา นาวิน และน้ำปั่น วันนี้เรานัดทานข้าวและมีปาร์ตี้เล็ก ๆ กันที่บ้านแตงโม เหล่าแม่ ๆ อย่างเรานั่งคุยกัน และมองดูลูกตัวเองเป็นระยะ “แง...” ไออุ่นร้องไห้ เมื่อนาวินดึงของเล่นออกจากมือ แตงโมหัวเราะ เบา ๆ แล้วเดินไปอุ้มลูกมานั่งตัก “เบา ๆ นะลูกเดี๋ยวโดนน้อง” และปรามน้องไออุ่นไปด้วย เพราะกลัวโดนน้องอีกคนที่อยู่ในท้อง ใช่ค่ะ แตงโมท้องอีกแล้ว! ท้องได้สามเดือนแล้ว ส่วนณีเวียกับฉันขอบาย เราขอพักก่อน ผ่าคลอดมา ยังเสียวท้องอยู่เลย อย่างอื่นก็ยังเสียวอยู่นะ ว่างก็กินกับสามี ว่างบ่อยก็กินบ่อย เฮ้อ... มันเป็นความสุขของชีวิตอีกอย่างหนึ่งจริง ๆ สามีสูตินารีแพทย์ของฉัน เดินไปอุ้มน้ำปั่นที่คอก ก่อนจะเดินยิ้มมาหาฉัน มองยังไงก็หล่อคุณพ่อคนนี้ “น้ำปั่น น้ำหนักขึ้นหรือเปล่าลูก” คุณพ่อสูตินารีแพทย์แซวลูกสาวคนเล็ก ลูกสาวตอบไม่ได้ ได้แต่ยิ้มและหัวเราะให้ผู้เป็นพ่อ แถมยังใช้แก้มป่อง ๆ ซบคลอเคลียพ่อของเขาอีก น้ำปั่นติดหมอนายหนักมาก! สงสัยคนที่ได้ยินเ
ฉันหันหาคุณพ่อคุณแม่ทันที “คุณพ่อคุณแม่ขับรถช้าเหมือนเต่า” หมอเท็นเดินตามฉัน และบอกมาหน้านิ่ง ๆ “โอ้ย! ปวดท้อง... ปวด! ไม่ไหวแล้ว!” ฉันกรีดร้อง! ทำไม ฉันไม่มีสามีวิ่งตามจับมือเหมือนชาวบ้านเขาเนี่ย ให้ตาย! มีแค่น้องสามีที่เหมือนมาแต่วิญญาณ ฮือ ๆ ไม่นานฉันก็ถูกเข็นเข้ามาในห้องคลอดแล้ว! ฉันหอบเหนื่อยเหงื่อท่วมตัว และถูกพามาห้องนึง ก่อนที่พยาบาลจะตรวจอะไรต่าง ๆ นา ๆ เร็ว ๆ เถอะ! ฉันจะตายแล้ว! “พยาบาลฉันจะตายแล้วค่ะ ตามหมอ ตามหมอด่วน” ฉันส่ายหน้าไปมา ปวดท้องหน่วงมาก แขนสองข้างสั่นแทบจะไม่มีแรงแล้ว ลูกสามคน สามคนเลยนะเว้ย! “ค่ะ คุณน้ำหวาน เดี๋ยวให้ยาแก้ปวดก่อนนะคะ ตอนนี้ห้องผ่าตัดยังไม่พร้อมค่ะ” ยังไม่พร้อม! รอให้ฉันตายก่อนใช่ไหม! “หะ! หวานจะตายก่อนไหม ไม่ผ่าก็ได้ คลอดธรรมชาติเลย หวานพร้อม ฮือ ๆ หวานทนไม่ได้แน่ ๆ” ฉันกุมท้องกรีดร้องบนเตียง “ไม่ได้ค่ะ คุณน้ำหวานมีทารกในครรภ์สามคน คุณน้ำหวานอาจจะช็อกได้ อดทนหน่อยนะคะ” อดทน! ใครจะไปทนได้!
ฉันนั่งมองหมวยน้อยกับณีเวีย ก็อดยิ้มตามไม่ได้ แตงโมคลอดธรรมชาติ! ไม่อยากจะเชื่อ ฉันหน่ะสิ สามคนในท้อง หากคลอดธรรมชาติฉันอาจจะขาดใจตายก่อน ตอนนี้ฉันท้องได้เจ็ดเดือนแล้ว ไม่ต้องถามว่าท้องใหญ่แค่ไหน มันใหญ่จนฉันเดินไม่ไหวเลยล่ะ ฮ่องกงถูกแคนเซิลถาวร ไม่มีกำหนดไป แต่ได้หุ้นห้าสิบเปอร์เซ็นต์กับเบนซ์เอสคลาสเป็นของขวัญแต่งงานนะจ๊ะ ฉันนั่งคุยกับเพื่อนสักพัก เพื่อรอสามีออกเวร สลับไปห้องแตงโมบ้าง ห้องณีเวียบ้าง ณีเวียเจ็บแผลคุณเซ็นจึงเป็นคนเลี้ยงลูก วุ่นวายจนต้องเอางานมาทำที่โรงพยาบาล เห็นแล้วน่ารักดี แต่ก็แอบขำ ‘ก๊อก ก๊อก ก๊อก’ หมอนายเปิดประตูเข้ามา เดินมาตรวจแผลณีเวีย “อย่าหัวเราะดังนะ ระวังแผลฉีก” ณีเวียตกใจเอามือปิดปากทันที “ค่ะ อิอิ จะพยายาม” หมอนายยิ้ม แล้วเดินกลับมาหาฉัน เขานั่งลง เอามือสองข้างโอบท้องฉันไว้ “ไงครับ ลูกพ่อ” เท่านั้นล่ะ! ตุบ ๆ ฉันหลับตาปี๋ ฉันจุก! ลูกถีบหนักมาก รวมพลังเป็นหนึ่งเดียวทันที เมื่อได้ยินเสียงพ่อเขา “โอ้ย เบา ๆ ลูก แม่จุกแล้ว” ฉันลูบท้องปราม ณีเวี
ฉันอยากจะบ้า อยากจะบ้าจริง ๆ ฉันทรมานมากตอนนี้ “ใช่สิสามชั่วโมงผ่าไม่ได้ แตงโมกินเยอะไหม” หมอนายถามฉันอีกครั้ง พลางยกนาฬิกาข้อมือดู… “เรื่อย ๆ ค่ะ คุยไปกินไป ฮือ ๆ” ฉันหลับตาปี๋ ปวดทรมานไปหมด “งั้นประมาณ หกชั่วโมง ไม่เป็นไรเดี๋ยวให้ยาแก้ปวดก่อน” ฮือ ๆ หกชั่วโมง กับยาแก้ปวด โอ้ย! แล้วมันหายปวดเป็นปลิดทิ้งมั้ยล่ะ! “หมอคะ เร็วกว่านี้ไม่ได้เหรอ” ไออุ่นเริ่มถีบท้องฉันรัวแล้ว โอ้ยลูก! อย่าซน ใจเย็น ๆ ลูกแม่ปวด “ไม่ได้จริง ๆ ปกติ ต้องงดข้าวงดน้ำหนึ่งวันเต็ม ๆ” “หมอ แตง... โอ้ย ๆ แตงแจ้งตั้งแต่ฝากครรภ์แล้ว ฮือ ๆ ว่าจะผ่า ไม่คลอดธรรมชาติเด็ดขาด” หมอนายเดินมาใกล้ ๆ ฉัน “ทำไม คลอดธรรมชาติมันปลอดภัยกว่านะ แผลหายเร็วด้วยเจ็บแป๊บเดียว ปวดขนาดนี้ลองเบ่งดูก่อนไหม” ฉันกุมท้องนอนร้องไห้ ในใจนึกโกรธสามี ทำไมฉันต้องมาทรมานคนเดียวด้วย อิตาเอส! “หมอ... ฮือ ๆ ขอยาแก้ปวดก่อนค่ะ ๆ ด่วน” ฉันถูกเข็นไปอีกห้อง และได้ยาแก้ปวดเรียบร้อย อาการทุเลาลง แต่ถามว่ายังปวดไหม ปวดสิ! “พยาบาล
ฉันยืนมองณีเวียและคุณเซ็น ยิ้มกันมีความสุข ก็อดยิ้มตามไม่ได้เลย ลูก ๆ พวกเขาน่ารักมาก น่ารักจริง ๆ เยี่ยมเพื่อนและหลาน ๆ เสร็จ ฉันกับตาเอสก็ออกมาจากโรงพยาบาล ระหว่างอยู่ในรถฉันก็คิดวนเวียนอยู่เรื่องเดียว จะเจ็บแค่ไหนนะ! ณีเวียบอกกับฉันว่าตอนปวดท้องคลอด มันปวดมาก ปวดเหมือนจะตาย ตุบ ๆ นั่นไง พอนึกถึงเรื่องนี้ ลูกสาวตัวดีของฉันก็ดิ้นใหญ่ ฉันลูบท้องเบา ๆ จนสามีเอื้อมมือมาลูบด้วย “ลูกสาวพ่อ พร้อมหรือยัง” ถามแม่บ้างเถอะ! กลัวชะมัด “ฉันยังไม่พร้อม! อย่าเพิ่งสิ” ตาเอสหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะยกมือขึ้นมาหยิกแก้มฉัน “หมวยเธอมันพลังช้างอยู่แล้ว เบ่งเลยสะใจ” “นายลองไปนอนเบ่งดูไหมล่ะตาบ้า!” เขาหัวเราะชอบใจ หน้ากวน ๆ หันมายักคิ้วให้ฉัน “หรือจะผ่าก่อน… จะได้ไม่ต้องเจ็บสองทาง” ฉันหันไปมองเขาทันที เจ็บสองทางงั้นเหรอ “ถ้าถึงกำหนดคลอดก็คลอดเลยสิ ถ้าไม่ปวดก่อน” เอ๊ะก็ดีเหมือนกัน ว่าแต่สามีกวน ๆ ของฉัน ทำไมรู้ดีนัก “รู้ดีนะ” เขายักคิ้วยิ้มกริ่ม
23.56 ฉันเดินเข้าออกห้องน้ำเป็นว่าเล่น สามีนักธุรกิจของฉัน เขายังคงนั่งทำงานที่ห้องทำงานอีกฝั่ง ส่วนฉันตอนนี้ไม่มั่นใจเลยจริง ๆ ว่าตัวเองท้องเสีย หรือจะคลอด ทำไมปวดท้องแบบนี้ ฉันค่อย ๆ จับผนังหวังประคองตัวเองเปิดประตู อยากไปอยู่ใกล้ ๆ คุณเซ็นให้อุ่นใจ แต่ซ่า... นะ น้ำอะไร ฉันไม่ได้ฉี่ราดนะ หรือมันจะเป็น... เป็นน้ำคล่ำ! “กรี๊ด...” ฉันจับประตูกรี๊ดลั่น ดังทั้งเพนท์เฮ้าส์ จนสามีวิ่งออกมาจากห้องทำงาน “เป็นอะไร! เห้ย…” คุณเซ็นวิ่งมาประคองฉันทันที ตอนนี้ฉันเหงื่อท่วมตัว อาการปวดท้องหน่วงมันเริ่มหนักขึ้น หนักจนฉันพรรณนาออกมาไม่ได้! “ไม่ไหว ปวดท้องแล้ว ปวดแล้ว! ฮือ!” ฉันบีบมือเขาแน่น น้ำตาไหลออกมาอาบแก้ม คุณเซ็นรีบโทรหาคนขับรถ และโรงพยาบาลทันที “ผมเซ็นดิณภัทร! ณีเวียภรรยาผม เธอปวดท้องครับ หมอเจ้าไข้ หมอนาย ขอบคุณครับ” เขารีบวางสายแล้วโทรอีกครั้ง “นพเตรียมรถด่วน!” โอ้ย! อะไรนักหนา พาฉันไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้! ไม่ไหวแล้ว! “คุณ ไปโร
กว่าจะได้นอนคือเช้าค่ะ เช้าจริง ๆ หมอสูติคนนี้เขาไม่ได้เล่น ๆ เขากินฉันทั้งคืนเอาหล่ะ วันนี้มาถึงแล้ว ฉันจะได้รู้สักที ว่าลูกฉันเป็นผู้หญิง หรือผู้ชายก่อนแต่งงานหมอนายให้ฉันเจาะเลือดไว้ เขาจะได้เอาไปตรวจความผิดปกติของโครโมโซม และเพศของลูก ๆ ในครรภ์แล้ววันนี้… ผลก็ออกแล้วค่ะ สามีสูตินารีแพทย์เข้าเวรบ่ายโมง ซึ่งฉันเองก็ต้องรอคิวเข้าไปพบเขาเหมือนคนอื่น ๆ“คุณน้ำหวานเหมือนคนท้องสี่ ห้าเดือนเลยค่ะ” พยาบาลพี่ภาเดินเข้ามาลูบท้องฉัน ฉันท้องโตขึ้นทุกวัน ลูก ๆ ทั้งสามคน คงตัวใหญ่ขึ้นมาก ทั้งที่ตอนนี้ฉันท้องเกือบสามเดือนเองส่วนณีเวียกับแตงโมท้องจะหกเดือนแล้ว ณีเวียเหมือนคนใกล้คลอดมาก ลูกสาวลูกชายดิ้นใหญ่“เริ่มอึดอัดแล้วค่ะ เพื่อนหวานท้องแฝดสองคน ตอนนี้หกเดือนแล้ว ท้องโตมาก ท้องหวานคงโตกว่านั้น” พยาบาลพี่ภายิ้ม และทำท่านึกคิด“อ๋อ คุณณีเวียภรรยาคุณเซ็นใช่ไหมคะ รายนั้นแข็งแรงมากค่ะ ดิฉันทาเจลอัลตราซาวด์ให้ ถีบมือดิฉันไม่หยุดเลย ของคุณน้ำหวานเริ่มตอดหรือยังคะ” ตอดงั้นเหรอ“ยังไงคะ” ฉันถามสงสัย เอามือลูบท้องตัวเองไปด้วย“คุณหมอไม่ได้บอกเหรอคะ เด็กในครรภ์เขาดิ้นตลอดเวลาค่ะ อยู่ที่เราจะรู้สึกตัว
หมอนายไม่เมาเลยสักนิด พวกผู้ชายพวกนั้นไม่สามารถทำอะไรหมอนายได้ นอกจากไอ้ยาดองบ้า ที่ตอนนี้มันกำลังปั่นป่วนอยู่ในตัวเขา!น้ำหวาน อะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิดนะ“หวาน...” นั่นไงหมอสูติเดินมาจากด้านหลัง มือนุ่ม ๆ ค่อย ๆ ปลดกระดุมฉันออก ทีละเม็ดทีละเม็ด“คะ คุณหมอ มันออกฤทธิ์แล้วเหรอคะ” เขาไม่ตอบ แต่ก้มลงจูบไหล่ฉันเบา ๆ ไล่ลงไปเรื่อย ๆ ตามแผ่นหลังมือนุ่มล้วงเข้ามาบีบอกตึง ก่อนที่เขาจะค่อย ๆ เค้น ช้า ๆ ราวกลับ ปรารถนามันมาแสนนาน“อื้ม... หมอคะ” ฉันเงยหน้ามองเพดาน ยกมือขวาลูบไล้ต้นคออุ่น ๆ ของเขา เขาดึงชุดแต่งงานที่ปลดกระดุมเสร็จลงพื้น จนฉันตกใจหันไปจ้องหน้าสูตินารีแพทย์ที่แสนเร่าร้อนคนนี้“อยากกินหวานมากเลยตอนนี้” เขาพูดเบา ๆ ด้วยเสียงเซ็กซี่ฉันยิ้มกริ่มจ้องตาเขาไม่ละสายตา ฉันจ้อง... จ้องราวกับเชิญชวนให้เขาหิวกระหายตัวฉันมากขึ้นไปอีก“กินสิคะ หวานเป็นของคุณหมอแล้ว หวานเป็นภรรยาคุณ” เขาอมยิ้ม หน้าขาว ๆ เริ่มแดงระเรื่อ ก่อนที่เขาจะช้อนตัวฉันอุ้มมาวางบนเตียงริมฝีปากสวยของหมอสูติ โน้มลงมาบดจูบฉันช้า ๆ เขาส่งลิ้นอุ่น ๆ แสนเร่าร้อนเข้ามา คลอเคลียหยอกล้อกับลิ้นฉันข้างใน หวานเหมือนเดิมสามีฉัน
และแล้ววันนี้ก็มาถึง ฉันนั่งมองกระจกบานใหญ่ ที่ตอนนี้มีเครื่องสำอาง เครื่องประดับตั้งเรียงรายอยู่ ฉันสวมชุดไทยศิวาลัยสีโอรส ผมถูกเกล้าขึ้นปักปิ่นเรียบ ๆอกข้างซ้ายส่งเสียงดัง ‘ตึก ตึก’ ฉันตื่นเต้นมาก ตื่นเต้นที่จะได้แต่งงานกับคนที่ตัวเองรัก และมีพยานตัวน้อยถึงสามคนในท้อง“แกสวยมาก แกโชคดีที่เจอรักดี ๆ ต่อไปนี้มีแต่ความสุขแล้วนะ”ณีเวียกับแตงโม อยู่ในชุดไทยเพื่อนเจ้าสาว สไบสีขาวนวล ผ้าถุงไทย ๆ สีฟ้าอ่อนอมเขียว มันอาจจะไม่เหมาะกับหน้าหมวย ๆ และหน้าจิ้มลิ้มน่าถนุถนอมนั้น แต่วันนี้เพื่อนเจ้าสาวของฉันสองคน ก็สวยเกินจะบรรยายเสียงขันหมากดังมาจากหน้าบ้าน ดังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ จนฉันต้องลุกขึ้นแอบมองผ่านหน้าต่าง เจ้าบ่าวรูปหล่อของฉันกำลังเดินเข้ามาพร้อมกับพ่อแม่ น้องชาย ข้างกายมีพานสินสอดทองหมั้น ที่ญาติสนิททั้งหลายของเขาช่วยกันถือณีเวียกับแตงโมกำลังออกจากห้องฉันเพื่อไปกั้นประตูเงินประตูทองหมอนายผ่านประตูเงินประตูทอง ด่านแรกของเมย์และสายฝนด้านล่างมาแล้ว และตอนนี้เขาก็ขึ้นมาถึงหน้าห้องฉัน“หมอนายคะ รักน้ำหวานแค่ไหน” ฉันได้ยินเสียงแตงโมถามหมอนายหน้าห้อง“รักมากที่สุดเลยครับ มากจนบอกไม่ได้” ฉ