Home / โรแมนติก / พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก / บทที่ 9 เปิดประตูสู่โลกของฉัน

Share

บทที่ 9 เปิดประตูสู่โลกของฉัน

Author: พะเนินเทินทึก
last update Last Updated: 2021-09-22 16:35:01
ในตอนนี้เรนนี่ตัวน้อยมีความสุขอย่างน่าเหลือเชื่อ เธอได้แอบกินไก่ทอดลับหลังพ่อ

ระหว่างทางกลับห้องเรนนี่ ยังคงเกาะติดเบียงก้ากอดขาเธอราวกับเป็นโคอาล่าเกาะต้นไม้

มันค่อนข้างยากสำหรับเบียงก้าที่จะเดินโดยมีเด็กน้อยเกาะอยู่ที่ขาของเธอ

เธอต้องเดินกะเผลกไปตลอดทางจนกลับชั้นบน

“นี่ก็ดึกมากแล้วนะ เดี๋ยวฉันจะไปส่งพวกหนูเข้านอนที่ห้องนะจ๊ะ ” หญิงสาวกับเด็กทั้งสองนั่งดูการ์ตูนในห้องสักพัก ก่อนที่เบียงก้าจะหันไปหาทั้งคู่

พี่ชายเงยหน้าขึ้นมองเธอแล้วพูดว่า “พวกเราไม่มีคีย์การ์ดเข้าห้องพักหรอกครับ”

เรนนี่กอดเบียงก้าด้วยมือที่อวบอ้วนของเธอ ดวงตาของเธอปิดสนิท ตอนนี้เธอเกือบจะ

หลับสนิทแล้ว

ถึงกระนั้น พวกเขาจะกลับเข้าห้องโดยไม่มีคีย์การ์ดได้อย่างไร?

เบียงก้ารู้สึกงุนงงไม่น้อย

เธอไม่รู้ว่าในวันนี้ ท่านประธานจะทำงานเสร็จเมื่อไหร่และกลับไปที่โรงแรมตอนไหน

“ไปเรียกคุณดอยล์สิครับ” เบียงก้ามองไปที่เรนนี่ซึ่งหลับไปแล้ว เธอขยับตัวไม่ได้ เธอจึงต้อง

ขอให้ลานี่หยิบโทรศัพท์ของเธอมาให้หน่อย

ลานี่หยิบโทรศัพท์และส่งให้เบียงก้า

เบียงก้าโทรหาเพื่อนร่วมงานและขอหมายเลขโทรศัพท์ของเจสัน ดอยล์

เจสันรับสายเร็วพอสมควร แต่เขากลับพูดขึ้น “ผมขอโทษครับที่ทำให้คุณลำบากใจครับ คุณเรย์น แต่คุณครอว์ฟอร์ดกำลังรับประทานอาหารกับผู้นำจังหวัดสองสามคน ผมคิดว่าเขายังกลับไปตอนนี้ไม่ได้ มีอะไรรึเปล่าครับ? ให้เด็กสองคนนอนกับคุณสักคืนได้ไหม? "

เบียงก้า “…”

เป็นเวลาสี่ทุ่มกว่าแล้ว เบียงก้ากล่อมเด็กน้อยให้เข้านอน

ลานี่นอนด้านซ้ายของเตียงขนาดมหึมา ขณะที่เรนนี่นอนชิดข้างขวา

เด็กน้อยทั้งสองนอนหลับเร็วมาก

เบียงก้าทำความสะอาดห้องน้ำอย่างเงียบเชียบเท่าที่จะทำได้ จากนั้นเธอก็พับเสื้อผ้าเด็กและวางไว้บนโซฟาอย่างเป็นระเบียบ ในที่สุด เธออุ้มเรนนี่เข้าไป ก่อนที่จะก้าวขึ้นเตียงอย่างระมัดระวัง

ขอบคุณพระเจ้าที่เตียงกว้างมากพอ

มีพื้นที่มากมายสำหรับผู้ใหญ่หนึ่งคนและเด็กสองคนจะนอนหลับอย่างสบาย

เพียงห้านาทีหลังเอนกายลงบนที่นอน เบียงก้าแทบจะหลับสนิท

ช่วงตีหนึ่ง

โทรศัพท์ของเบียงก้าสั่นอยู่ใต้หมอน

เธอง่วงนอนมากจนปวดตา และต้องฝืนลืมตามา ค่อย ๆ ขยับตัวเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์

มีหมายเลขที่ไม่รู้จักแสดงขึ้น บนหน้าจอ

139-0909-9999

อาจเป็นพวกโทรมาก่อกวนตอนกลางดึกก็เป็นได้ แต่ตัวเลขนั้นค่อนข้างสวยเลยทีเดียว!

เบียงก้าหยิบขึ้นมา พูดตรง ๆ และค่อนข้างหยาบคาย “นั่นใคร?”

“เปิดประตูหน่อย นี่ผมเอง” มันเป็นเสียงที่ลึกและแหบแห้ง ฟังดูชวนให้หลงใหลมากเป็นพิเศษในยามดึก

“เปิดประตูหน่อยงั้นหรอ? คุณเป็นใครกัน?”

เธอง่วงนอนมาก

อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์เงียบลง ทั้งหมดที่เธอได้ยินคือลมหายใจของเขา

เบียงก้าใช้เวลาสองสามวินาทีเพื่อเรียกสติกลับมา จากนั้นเธอก็เห็นเด็กสองคนนอนอยู่บนเตียงใต้แสงจันทร์ ลานี่ เรนนี่...

“คุณ… คุณครอว์ฟอร์ดเหรอคะ?” เธอรู้สึกหวิว

"เปิดประตู!" เสียงของชายคนนั้นเข้มขึ้น

เบียงก้าตกใจมากจนหัวใจเต้นผิดจังหวะ เธอรีบลุกออกจากเตียงและตรวจดูให้แน่ใจว่าชุดนอนดูเรียบร้อยดีก่อนที่ลุกไปเปิดประตู

แย่จริง! เจ้านายของเธอมาที่นี่เพื่อรับลูก ๆ ของเขากลับ แต่เธอผล็อยหลับไปอย่างรวดเร็ว และปล่อยให้เขารอนานเสียได้

เบียงก้าก่นด่าตนเองด้วยความหงุดหงิด!

เด็กสองคนหลับสนิทอยู่บนเตียง พวกเขาไม่มีท่าทีว่าจะตื่นเลย

เบียงก้าเปิดประตู

ลุคยืนอยู่ข้างนอกประตู เขาหลับตาอยู่ และมือข้างหนึ่งวางพิงกรอบประตู เขาถือเสื้อคลุมและโทรศัพท์สีดำที่เขาใช้โทรหาเธอด้วยมือข้างเดียว เห็นได้ชัดเลยว่า เขารออยู่ที่นี่มาระยะหนึ่งแล้ว

“คะ…คุณครอว์ฟอร์ดคะ…” เบียงก้าเรียกชื่อเขาและไม่กล้าเข้าใกล้

ลุคเงยหน้าขึ้นทันที สีหน้าเหนื่อยหน่ายพลางขมวดคิ้วใส่เธอ ชายหนุ่มคนนั้นยังคงท่อประกายแสงแห่งความมั่นใจและความโดดเด่นของตน แม้แต่สภาพแวดล้อมของเขาก็ยังไม่อาจขวางทางรัศมีแห่งความสูงศักดิ์ที่แผ่ซ่านออกมาจากส่วนลึกที่สุดของเขาได้เลย

ลุคจ้องมองเธอ ราวกับกับว่าสายตานั้นจะจับจ้องเธอตลอดไป

ทั้งคู่ไม่มีใครพูดอะไร

เบียงก้าเอียงตัวไปยืนหลบด้านข้างเพื่อให้เขาเข้าไปรับลูกทั้งสอง

เมื่อชายคนนั้นเดินผ่านไป เธอก็ได้กลิ่นแอลกอฮอล์จากตัวเขาอย่างชัดเจน ผสมกับกลิ่นนิโคตินที่แรงจนแทบสะกดจิตได้

เบียงก้ายืนนิ่งอยู่ตรงประตู เพราะเธอหวาดกลัวเกินกว่าจะขยับหรือจ้องมอง

ไฟที่ทางเข้าประตูก็ดูสว่างมาก

ตอนนี้เธอตื่นเต็มตาแล้ว เธอยืนอยู่ตรงประตูที่เปิดอยู่ราวกับเทพผู้พิทักษ์รอให้เจ้านายอุ้มลูกของเขาออกจากห้องไป

เวลาผ่านไปสักครู่

เบียงก้าไม่ได้ยินเสียงของเด็กสองคนตื่นขึ้น

ด้วยความสงสัย เธอจึงปิดประตูอย่างเงียบเชียบและค่อย ๆ ก้าวกลับเข้าไปในห้องนอน

มีเพียงโคมไฟดวงเดียวที่ส่องสว่างในห้องนอน มันไม่ได้สว่างจนเกือบทำให้ตาพร่าเหมือนข้างนอก

ราวกับอยู่ในฉากที่โคมไฟส่องแสงสลัว บรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่นอย่างไม่น่าเชื่อ

เตียงขนาดใหญ่ที่ควรจะเป็นของเธอ ตอนนี้กลับถูกครอบครองโดยครอบครัวทั้งสามคน ในที่สุดพ่อที่กลับมาจากการทำงานอันยาวนานตลอดทั้งวัน ก็นอนหลับอย่างเงียบ ๆ กับลูกชายและลูกสาวของเขา

เธอควรปลุกเขาไหม?

ถ้าเธอทำ เจ้านายของเธอจะหงุดหงิดจนไล่เธอไหมนะ?

ถ้าเธอไม่ แล้วเธอจะไปนอนที่ไหน?

เธอครุ่นคิดและในที่สุดก็ตัดสินใจว่า มันไม่เหมาะสมที่เธอจะไปปลุกคนเมาให้ตื่น ถ้าเธอให้เขาออกไป คงจะเกิดเรื่องใหญ่กับเธอแน่

เพราะฉะนั้น เธอจึงหยิบเสื้อคลุมใส่แล้วเดินออกจากห้องไป

เบียงก้าถือคีย์การ์ดห้องเธอในมือ จากนั้นโทรหาเพื่อนร่วมงานสาวที่มาด้วยกัน

“ขออภัย หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ใน…” เสียงจากระบบตอบรับอัตโนมัติตอบกับผ่านเสียงโทรศัพท์

เบียงก้าพิงกำแพงทางเดินอย่างหมดเรี่ยวแรง

เธอลืมถามหมายเลขห้องของเพื่อนร่วมงานหญิง

หลังจากครุ่นคิดชั่วครู่ เธอก็โทรหาเจสัน ดอยล์แทน

เธอฟังเสียงสัญญาณโทรศัพท์อยู่เป็นเวลานานมาก แต่ไม่มีใครรับสาย หรือเขาอาจเมาไปเสียแล้ว!

เบียงก้าไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากไปที่เคาน์เตอร์โรงแรมและขอเข้าพักที่ห้องอื่น

ถึงกระนั้น พนักงานต้อนรับของโรงแรมกล่าวว่า "ขออภัยด้วยค่ะ คุณเรย์น ห้องของโรงแรมถูกจองเต็มหมดแล้วค่ะ ห้องที่นี่ต้องจองล่วงหน้าอย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์นะคะ"

“อ้อ ขอบคุณค่ะ” เบียงก้ากลับขึ้นไปชั้นบน จิตใจของเธอยุ่งเหยิง

เธอควรจะยืนอยู่นอกประตูตลอดคืนดีไหม?

เวลาประมาณตีหนึ่งกว่า ๆ ประตูลิฟต์ก็เปิดออก

ชายและหญิงสองคนเดินออกไป

ผู้หญิงสองคนแต่งหน้าแต่งหน้าค่อนข้างหนา และชายคนนั้นสวมชุดผ้ายีนส์ ศีรษะของเขาเต็มไปด้วยรอยแผลเป็นที่น่าเกรงขาม เขาจูบผู้หญิงสองคนซึ่งอยู่ในอ้อมกอดของเขาพลางพูดคุยแระหัวเราะอย่างออกรส

เมื่อเขาเห็นเบียงก้า ดวงตาของชายคนนั้นก็เป็นประกายขึ้นทันที เขาปล่อยมือจากผู้หญิงทั้งสอง

จากนั้นเดินตรงมาหาเธอ และเริ่มแทะโลม "อ่าว นี่ฉันเจอสาวน้อยผู้น่าสงสารอีกแล้ว! หนูมาจากไหนเหรอจ๊ะ? มาเถอะๆ มาสนุกกับพี่หน่อยไหมจ๊ะ? พี่รับรองเลยว่าหนูน้อยจะรู้สึกเหมือนขึ้นสวรรค์เลยแหละ! "

"โรคจิตเอ้ย!" เบียงก้าตะโกนใส่เขาตามสัญชาตญาณ เธอตกใจมากจนเปิดประตูห้องด้วยคีย์การ์ดทันที พุ่งเข้าไปในห้องราวกับกระต่ายน้อย

จากนั้นเธอก็เอนตัวพิงประตู สูดหายใจเข้าลึก ๆ นับครั้งไม่ถ้วน

ดูเหมือนว่ามีคนข้างนอกกำลังเคาะประตู มันไม่แรงและก็ไม่เบาซะทีเดียว ความกลัวไล่ความคิดอื่น ๆ ออกจากจิตใจของเบียงก้าจนหมด เธอไม่กล้าพิงประตูอีกต่อไป เพราะพวกเขาเคาะประตู

เธอหันกลับ และมุ่งหน้าไปที่ประตูห้องน้ำแทน

เธอค่อนข้างขี้กลัวอยู่แล้ว และตอนนี้เธอรู้สึกหวาดกลัวถึงสุดขั้วหัวใจ หัวใจเต้นแรงอย่าง

บ้าคลั่ง

กระนั้น ก่อนที่เธอจะสามารถแยกแยะสิ่งที่เธอเผชิญหน้าข้างนอกนั่นได้ เธอรู้สึกว่า

มีมืออันอบอุ่นคู่หนึ่งโผล่มาจากด้านหลังเสื้อคลุมของเธอ มือคู่นั้นลูบไล้ร่างกายของเธอ

และค่อย ๆ เคลื่อนขึ้นไป

เธอหันมาด้วยใจระทึก

เธอไม่รู้ว่าเมื่อไร แต่ประตูห้องน้ำที่ทำจากไม้ด้านหลังถูกผลักออกอย่างช้า ๆ เธอเสียสมดุล

ล้มลงในอ้อมกอดอันแข็งแกร่งของชายคนหนึ่ง

“อ๊าย…” เธอร้องออกมาเบา ๆ ด้วยความประหลาดใจ แต่คำพูดที่เหลือของเธอก็กลืนหายไป

ตอนนี้มีเพียงเสียงครางของเธอดังอยู่เพียงเท่านั้น...

ในห้องน้ำมืดสนิท และเธอรู้สึกได้ถึงลมหายใจชื้นที่พัดผ่านใบหน้าไป

มีผู้ชายเพียงคนเดียวในห้องนี้ นั่นคือท่านประธาน ลุค ครอว์ฟอร์ด ดังนั้นจึงเห็นได้ชัดว่าผู้ชายที่กอดเธออยู่คือใคร

เบียงก้าขมวดคิ้วและพยายามผลักตัวเขาออกไป แต่เขาไม่ขยับเขยื้อนสักนิด

ราวกับแมลงเม่าบินเข้ากองไฟ

เธอตกใจกลัว แต่ปากของเธอปิดสนิทแน่นและใช้งานไม่ได้โดยสิ้นเชิง

ชายคนนั้นจูบเธอในคืนที่มืดมิด เบียงก้ากลั้นหายใจ คำพูดทักท้วงเธอแปลเปลี่ยนเป็นเสียงครวญครางอันคลุมเคลือ

Related chapters

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 10 ชายโฉด

    ภายไม่กี่วินาทีนั้น จิตใจของเบียงก้าก็ว่างเปล่า! เธอขมวดคิ้วและตำหนิตัวเองที่ใจอ่อน 'เบียงก้า อย่าลืมสิ เธอมีฌองอยู่แล้วนะ!' 'ฌองเป็นผู้ชายคนเดียวที่เธอจะมีอารมณ์ด้วยได้นะ!' “คุณอยู่กับผมแล้วนะ ทำไมคุณถึงได้คิดฟุ้งซ่าน!” เขากระชากเสื้อคลุมสีขาวของเธออออกอย่างแรง ความรู้สึกชุ่มชื้นและอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูกแผ่ซ่านไปทั่วริมฝีปากของเธอ จากนั้นเขาก็ก้มศีรษะลงและจูบลงบนเส้นผมของเธอ หลังจากผ่านเวลาไปอย่างยาวนาน เสียงต่ำของเขาก็พูดเข้าหูเธออย่างเย้ายวน เมื่อได้ยินเสียงต่ำของชายคนนั้น เบียงก้ากำลังจะอกแตกตาย! ลุคมีกลิ่นครีมอาบน้ำอันหอมหวน กลิ่นนั้นเป็นกลิ่นเดียวกับที่เธอใช้ นั่นหมายความว่าตอนที่อาบน้ำ ชายคนนี้เพิ่งใช้ครีมอาบน้ำของเธองั้นสิ เบียงก้ารู้ดีว่ามันอันตรายเพียงใดถ้าเธอไม่ขัดขืนตั้งแต่ตอนนี้ แต่แค่ออกแรงดิ้นยังทำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ สิ่งที่เธอสามารถทำได้ในตอนนี้มีเพียงสิ่งเดียว นั่นคือขอโทษเจ้านายของตนเสียก่อน เพราะเธอกำลังจะทำเรื่องที่ไม่น่าเคารพกับเขาเสียแล้ว แต่อย่างน้อยคงจะดีกว่าถ้าปล่อยให้เรื่องราวดำเนินไปอย่างตอนนี้!ดวงตาของเบียงก้าเริ่มคุ้นชินกับความมืด และตอน

    Last Updated : 2021-09-22
  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 11 เสื้อผ้าของสามี

    เบียงก้าเดินกลับขึ้นไปชั้นบนพนักงานทำความสะอาดกำลังเก็บกวาดห้องพักของเธออยู่เบียงก้าค้อมศีรษะให้พนักงานทำความสะอาดอย่างสุภาพ ก่อนจะเดินไปยังตู้เสื้อผ้า เธอเปิดมันออกแล้วหยิบเสื้อผ้าที่เธอรีดเมื่อคืนออกมาพนักงานสาวทำความสะอาดได้อย่างรวดเร็วตอนที่เบียงก้าล้างหน้าล้างตาเสร็จแล้ว ทุกร่องรอยที่ลุค ครอว์ฟอร์ดทิ้งไว้ในห้องก็ถูกปัดกวาดจนเกลี้ยงเธอถอนหายใจอย่างโล่งอกสิบนาทีที่แล้ว ฌองส่งข้อความถึงเธอ “เบียงก้า ทีมของพี่ทำโครงการเสร็จหมดแล้วนะ พี่กำลังจะไปเมืองเอชบ่ายนี้ แล้วพรุ่งนี้เป็นวันหยุดพอดีด้วย พี่ว่าจะไปหาเธอที่โรงแรมสักหน่อย”เบียงก้าส่งข้อความกลับไป “ยอดไปเลยค่ะ เดี๋ยวฉันจะส่งที่อยู่ของโรงแรมไปให้นะ”ไม่รู้ว่าทำไม ตอนที่เธอมองไปรอบ ๆ ห้องที่ลุค ครอว์ฟอร์ดใช้เวลาอยู่ในนี้ทั้งคืนด้วยความรู้สึกผิดเล็ก ๆ ในใจตอนที่พนักงานทำความสะอาดห้องเสร็จ เธอเห็นว่าเบียงก้ายืนนิ่งงันพร้อมด้วยสีหน้าดูบึ้งตึงและว้าวุ่นใจ“เรียบร้อยแล้วค่ะ” พนักงานทำความสะอาดกล่าวด้วยรอยยิ้มพร้อมถุงขยะในมืออยู่หน้าประตูเบียงก้าดึงสติตัวเองกลับมาอย่างรวดเร็ว “ขอบคุณมากนะคะ”“ดิฉันวางชุดชั้นในที่ใช้แล้วไ

    Last Updated : 2021-09-23
  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 12 ลุค ครอว์ฟอร์ดไม่มีสิทธิ์ก้าวก่าย

    รถยนต์สองคันแล่นออกจากโรงแรมชื่อดัง จากนั้นมุ่งหน้ากลับไปยังโรงแรมที่พวกเขาพักอยู่เมื่อพวกเขามาถึงที่หมาย เบียงก้าก้าวออกจากรถซูก้าวตามลงมาที่หน้าประตูทางเข้า พวกเขาพบว่าเจสัน ดอยล์กำลังรออยู่ก่อนแล้ว เขาสวมชุดสูทที่ดูสง่าเข้าคู่กับรองเท้าหนังเป็นอย่างดี“สวัสดีค่ะ คุณดอยล์” เบียงก้าทักทายเจสันเหมือนอย่างที่ซูและคนอื่น ๆ ทำเจสันพยักหน้ารับคำทักทายของเบียงก้า หากแต่สายตาที่จ้องมองเธอเขม็งนั้นแตกต่างจากคนอื่นหลังจากที่เบียงก้าเดินเข้าไปถึงล็อบบี้ของโรงแรม เจสันก็ยังคงจ้องตามเธอไปอย่างนั้นเมื่อลุคลงมาจากรถ เขาก็สังเกตได้ถึงปฏิกิริยาที่ผิดปกติของเจสันลุคจ้องมองไปยังเจสัน กระทั่งเมื่อเจสันรู้สึกถึงความผิดปกตินั้นแล้ว เขาจึงหันกลับมามองเจ้านายอย่างแนบเนียนเขายืนตรงอย่างสูงสง่า ลุคสาวเท้าเข้าไปในโรงแรม น้ำเสียงเย็นยะเยือกเอ่ยขึ้น “คุณกำลังมองเธออยู่”ลุคพูดกับเจสันที่ยืนอยู่ด้านหลังของเขาเจสันใคร่ครวญอยู่ในใจว่าตัวเองควรจะตอบอะไรกลับไปหรือไม่ ไม่นานนักเขาก็ตัดสินใจที่จะเก็บงำสิ่งเหล่านั้นไว้กับตัวเอง “เปล่าครับ ผมเปล่า”แก้ตัวน้ำขุ่น ๆ !ลุคมองเจสันด้วยสายตาเคลือบแคลงมาก

    Last Updated : 2021-09-23
  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 13 สายตาไร้อารมณ์ของฌอง

    พวกเขาเดินทางกลับมาถึงเมืองเอในตอนเช้าทอมขับรถเบนลี่ย์ของบริษัทมาจอดอย่างเคยซูก้าวลงจากรถในอีกด้าน ฌองยกสัมภาระของเบียงก้าลงจากกระโปรงหลังของรถพร้อมพูดกับเธอ “เดี๋ยวพี่จะส่งเธอกลับบ้านก่อน เธอจะได้พักบ้าง หลับให้สบายนะแล้วเดี๋ยวคืนนี้พี่จะไปหา”เบียงก้าพยักหน้ารับพวกเขาเข็นสัมภาระจากไปขณะบอกลาซูและทอม พวกเขาเดินไปตามทางก่อนจะเรียกแท๊กซี่ฌองคิดว่าพรุ่งนี้เขาจะต้องซื้อรถสักคันการไม่มีรถส่วนตัวใช้มันลำบากเกินไปเบียงก้าทั้งเหนื่อยและง่วงงุน เมื่อคืนเธอได้นอนในรถไปแค่สองชั่วโมงเท่านั้นเอง แต่ถึงจะได้หลับบ้างแต่ก็ไม่ได้นอนอย่างสบายนักก่อนที่พวกเขาจะได้แท๊กซี่ โทรศัพท์ของฌองก็ดังขึ้น“พี่ขอรับโทรศัพท์ก่อนนะ” ฌองมองไปที่โทรศัพท์แล้วส่งสัญญาณให้เบียงก้าก่อนจะกดรับสายเบียงก้ามองไปที่ฌองแล้วเห็นว่าหน้าเขาค่อย ๆ นิ่วลง “ได้ครับ” ฌองตอบกลับสายในโทรศัพท์ “ผมจะไปเดี๋ยวนี้” เขาเสริม“มีอะไรรึเปล่าคะ?” เบียงก้าถามหลังจากที่เขาวางสายไป“อืม หัวหน้าทีมบอกให้พี่ไปประชุมก่อนเที่ยงวันน่ะสิ เขาบอกว่าตอนนี้น้ำขึ้นมันต้องรีบตัก แล้วจะได้รีบหารือเรื่องขั้นตอนต่อ ๆไปด้วย” ฌองพูดอย่างหัวเสีย

    Last Updated : 2021-09-23
  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 14 เบียงก้าพร้อมใบหน้าถูกประดับประดาด้วยสีแดงระเรื่อ

    “ฉันไม่รู้ว่าใครส่งมานะคะ” เบียงก้าตอบกลับไปเบียงก้าไม่อยากเห็นแววตาอันแสนเจ็บปวดของฌอง เธอไม่ต้องการสร้างแผลในใจตัวเองเพิ่มอีก“เธอไม่รู้ว่าใครเป็นคนส่งมันมาอย่างนั้นเหรอ? ล้อพี่เล่นรึไง? พี่ดูปัญญานิ่มขนาดนั้นเลยใช่ไหม? เบียงก้า เรย์น นี่เราเพิ่งกลับมายังไม่ทันไร เธอก็มีผู้ชายอีกคนเข้าหาแล้ว ถ้าไม่มีอะไรกันจริง ๆ ผู้ชายหน้าไหนจะยอมใช้เงินมากมายขนาดนี้เพื่อซื้อดอกไม้ให้เธอกัน?”เบียงก้าแทบทนไม่ได้กับสายตาที่ฌองใช้มองเธอเธอรู้ตัวดีว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิด จิตสำนึกเธอยังทำงานได้ดีเธอไม่รู้จริง ๆว่าใครเป็นคนส่งดอกไม้พวกนี้มา“ฉันขอตัวไปทำงานก่อนนะ” ในที่สุด เบียงก้าก็เปิดปากพูด เพื่อให้ฌองได้สงบสติอารมณ์ เบียงก้าหันไปโยนช่อดอกไม้ในมือทิ้งลงถังขยะที่อยู่ไม่ห่างอย่างไม่ยี่หระฌองมองแผ่นหลังของเบียงก้าที่เดินข้ามถนนจากไปอย่างช้า ๆ เขากำหมัดแน่นเธอเดินไปทางสถานีรถไฟใต้ดินก่อนจะพ้นสายตาฌองไปฌองยังคงยืนอยู่ที่เดิม ความเดือดดาลของเขาไม่ได้ลดลงแม้แต่น้อย เขาหันหลังกลับมาอีกด้าน แล้วสาวหมัดเข้าไปที่เสาไฟตรงหน้า เขากัดฟันแน่น ความเจ็บปวดประเดประดังเข้ามาราวกับกระดูกแตกสลายจนแหลกละเอี

    Last Updated : 2021-09-23
  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 15 จงยับยั้งชั่งใจตนเองเสีย ลุค ครอว์ฟอร์ด

    เบียงก้าเดาว่าเรนนี่น่าจะชอบกระดาษลายสปอนจ์บ๊อบเธอวางกระดาษแผ่นอื่น ๆ ไว้แล้วเลือกหยิบกระดาษลายสปอนจ์บ๊อบ ก่อนจะลุกขึ้นยืน“อ๊า-”เมื่อลุกขึ้นยืน เธอก็มุ่งความสนใจทั้งหมดไปกับการห่อหนังสือด้วยกระดาษลายสปอนจ์บ๊อบ ทำให้เธอหลงลืมไปเสียสนิทใจว่ามีชายอีกคนยืนอยู่ข้างกายเธอเข็มกลัดที่เธอติดเสื้อทำงานมาด้วย บัดนี้ไปเกี่ยวอยู่กับเข็มขัดหนังของชายหนุ่มเสียแล้ว“ข-ขอโทษค่ะ ฉัน…”เบียงก้าจ้องมองของสองชิ้นที่ติดอยู่ด้วยกันด้วยความอึดอัดใจชายหนุ่มค้อมศรีษะลงมา มีบางสิ่งปรากฏขึ้นในส่วนลึกของแววตา“สักครู่ค่ะ อีกนิดเดียวก็จะเรียบร้อยแล้วค่ะ...” เบียงก้าพัดมือไปทั่วเข็มขัดของเขาด้วยความลนลานนี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่เธอได้สัมผัสกับเข็มขัดของผู้ชายด้วยมือของตัวเองในคืนนั้นเมื่อห้าปีก่อน เธอก็ไม่ได้จับเข็มขัดของผู้ชายคนนั้น และไม่เคยมีอะไรแบบนี้เกิดขึ้นตอนที่เธออยู่กับฌองเช่นกันเธอไม่รู้ว่าทำไมถึงเกิดเรื่องนี้ขึ้นที่นี่ แล้วทำไมเรื่องน่าประหลาดพวกนี้ต้องเกิดขึ้นในตอนที่เธอกับลุค ครอว์ฟอร์ดอยู่ด้วยกันทุกทีราวกับปฏิกิริยาเคมีที่เธอไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้เข็มกลัดถูกออกแบบมาอย่างซับซ้อน

    Last Updated : 2021-09-24
  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 16 การมาเยือนของคู่พ่อลูก

    ฌองรู้ว่าเบียงก้าเองก็รักเขา และยังรู้ว่าเธอไม่ได้รักเขาเท่าที่เขารักเธออีกด้วยเพื่อให้การขอแต่งงานครั้งนี้ไม่มีอะไรผิดพลาด เมื่อเขาตัดสินใจที่จะขอเธอแต่งงานในตอนเที่ยงนั้น ฌองจึงขอให้พ่อและแม่ของเขาเชิญคนในครอบครัวมาด้วยกันสมาชิกในครอบครัวกว่าสิบชีวิตทั้งแก่และเด็กเบียดเสียดรวมกันอยู่ที่นี่หลังจากที่เบียงก้าเดินตามครอบครัวแลงดอนขึ้นไปที่ชั้นบน เธอยืนนิ่งไปในทันทีที่พวกเขาเปิดประตู...ในตอนนั้น นีน่าจ้องมองญาติ ๆ ของตัวเองที่กำลังเบียดเสียดกันอยู่ในบ้านราวกับเห็นผี“มาแล้ว เธอกลับมาแล้ว!” น้าเล็กของฌองตะโกนทันทีที่เห็นเบียงก้ายืนอยู่หน้าประตู เบียงก้าในตอนนี้คือคนเดียวกับหญิงสาวในรูปที่เธอเคยได้เห็น ผู้หญิงที่มีอายุมากกว่าคว้าเอาแขนแม่ของตัวเองไว้แล้วพูด “นั่นแฟนสาวของฌองค่ะ เบียงก้า เรย์น เธอยืนอยู่ตรงประตูนั่นค่ะ! ตายแล้ว ตัวจริงสวยมากเลยนะคะ มาค่ะ ไปดูกันค่ะแม่...”เบียงก้าถึงกับพูดไม่ออก“เข้ามาสิ” ฌองมองเบียงก้าด้วยแววตาอ่อนโยน เขาจูงมือเธอเบียงก้าต้องฝืนยิ้มให้กับญาติของฌองตามมารยาท คุณย่าของฌองไม่ยอมปล่อยมือจากเบียงก้าด้วยซ้ำ เธอจับมือของเบียงก้าไว้แล้วตบเบา ๆ เวลาที

    Last Updated : 2021-09-24
  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 17 ราวกับพวกเขาไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน

    “พวกเรามาที่นี่ เพราะว่า…” ลุคยังพูดไม่ทันจบประโยค เขาก็มองไปเห็นหญิงชราคนหนึ่งเดินมาทางพวกเขาหรือคุณยายท่านนี้จะเป็นแม่ของคุณบี?“สวัสดีครับ คุณยาย!” ลานี่ทักทายหญิงชราอย่างสุภาพคุณยายอย่างนั้นหรือ...?เบียงก้ามองตามลานี่ไปยังด้านหลังของเธอหญิงชราวัยห้าสิบเศษ สวมชุดวอร์มอะดิดาสสีชมพูขาว เธอเดินมาหยุดอยู่ตรงพวกเขาสามคนลุครู้ดีว่าหญิงชราคนนี้ไม่ใช่แม่ของเบียงก้า เขาจึงไม่ได้พูดอะไร“คุณน้ามีอะไรรึเปล่าคะ?” เบียงก้ากังวลกับสายตาที่หญิงชรามองมาที่เธอหญิงชราขมวดคิ้วก่อนจะเริ่มแนะนำบางอย่างแก่เบียงก้า “เมื่อแต่งงานแล้ว เธอต้องเรียนรู้วิธีดูแลเอาใจใส่คนในครอบครัวของเธอด้วยสิ อย่าทำให้สามีและลูกของเธอโกรธ ที่ฉันจะพูดก็คือ ดูเธอสิ! นี่มันกี่โมงกี่ยามกันแล้ว แต่เธอเพิ่งกลับน่ะรึ?”คำว่า “สามีของเธอ” คงจะหมายถึงชายหน้าตายที่ยืนอยู่ข้างหลังเธอเป็นแน่เบียงก้าทั้งอับอายและอึดอัดที่สุดเบียงก้าพยายามจะอธิบายให้หญิงชราเข้าใจ แต่หญิงชราหันไปมองลุคด้วยสายตาอันไร้ความปราณีเช่นกัน “คุณเองก็ไม่ได้เป็นสามีที่ดีนักหรอกนะ คุณไม่ควรจะโกรธภรรยาของคุณ เพียงเพราะเธอเข้มงวดกับคุณ อย่างนี้แล้วคุณจ

    Last Updated : 2021-09-24

Latest chapter

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 207 ครอบครัวทั้งสี่คนนอนอยู่ด้วยกัน

    เมื่อไม่มีทางเลือกอื่น เบียงก้าจึงเปิดประตูอย่างแผ่วเบา เด็ก ๆ ยังคงนอนในห้องเล็ก ๆ ขนาดสามร้อยตารางฟุตใต้แสงจันทร์ แต่ตอนนี้ผู้ใหญ่สองคนกลับกอดกันอยู่ตรงประตู เบียงก้าต้องการหันหลังกลับและมุ่งหน้าเข้าไปในห้อง แต่ชายหนุ่มก็กอดร่างอันบอบบางของเธอไว้แน่นอย่างร้ายกาจ “อย่าทำอย่างนี้สิคะ เด็ก ๆ จะเห็นเราถ้าพวกเขาตื่น…” เธอเหนื่อยหอบในอ้อมแขนของลุค ลุคเป็นสัตว์ร้ายอยู่แล้วตั้งแต่ตอนที่ยังเขาไม่ดื่ม แต่ตอนนี้เขาดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปแล้ว… เบียงก้าไม่อยากจะจินตนาการ เธอทำได้เพียงอธิษฐานว่าเขาจะไม่ดำดิ่งลงไป “ผมไม่บังคับคุณหรอกถ้าคุณไม่เต็มใจ คุณต้องบอกผมถ้าผมกำลังทำร้ายคุณอยู่ ต้องรีบบอกออกมาเลยนะ” ลุคเอาริมฝีปากบางและเย้ายวนของเขามาแนบใบหูของเธอ ก่อนจูบผิวที่ขาวเนียน เขาพยายามอย่างหนักที่จะระงับความอยากที่จะครอบงำเธอ เบียงก้าเงียบงันอยู่ในอ้อมแขนของเขา เธอรู้สึกสบายใจขึ้นเล็กน้อยเมื่อชายหนุ่มสัญญากับเธอ เธอคิดว่ามันน่าขันที่ลุคมักจะเป็นสัตว์ร้าย แต่เขาก็ยังเห็นอกเห็นใจมากขึ้นทั้งที่อยู่ในสภาพเมาเช่นนี้ ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนในตอนที่พวกเขากอดกัน เรนนี่หลับใหลและพึมพำห

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 206 คุณเมารึเปล่า

    เบียงก้าส่ายหน้าอย่างงุ่มง่ามเพื่อแสดงให้เห็นว่าเธอไม่เป็นไร เธอกังวลว่าใบหน้าที่บูดบึ้งของเขาอาจทำให้เด็กชายหวาดกลัว เธอจึงรีบขยับออกจากอ้อมแขนของเขาและพยักหน้าให้เขาเพื่อเป็นการขอบคุณ แขนของลุคว่างเปล่าในทันใด เขามองไปที่เบียงก้าซึ่งกำลังพาลูก ๆ ไปเล่นที่อื่นด้วยความห่วงใยและความไม่พอใจที่ก่อตัวขึ้นในหัวใจของเขา เขาไม่พอใจที่เบียงก้าตอบโต้เขาอย่างเย็นชาก่อนหน้านี้ แม้ว่าเขาจะคิดว่าเธอทำเช่นนั้นก็เพราะกลัวคนอื่นจะเห็น ความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะอ้างตัวเธอว่าเป็นของเขาเองนั้นก็ทำให้เขาไม่พอใจด้วย เขาอยากจะเดินไปกอดเธอในอ้อมแขนและประกาศให้ทุกคนรู้ว่าเบียงก้า เรย์นเป็นผู้หญิงของลุค ครอว์ฟอร์ขนาดไหนใครจะรู้! ไม่เพียงเท่านั้น ผู้หญิงคนนั้นยังให้กำเนิดลูกของเขาด้วย! ไม่ใช่แค่หนึ่ง แต่ถึงสอง! เบียงก้าก้มศีรษะลงที่เท้าของผู้บริหารเมืองเป็นการทักทาย แล้วก้มหน้าก้มตาวิ่งหนีไปราวกับว่าเธอกำลังหลบหนี เธอกังวลว่าผู้บริหารเมืองจะเข้าใจผิด “ช่างอ่อนโยนและอบอุ่นเหลือเกินนะ ท่านประธานครอว์ฟอร์ด! เราก็ทานอาหารเย็นกันบ่อย ๆ ทำไมผมไม่เห็นด้านนั้นของคุณเลยล่ะ?” ผู้บริหารเมืองชายวัยกลางคนหัวเราะ

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 205 ลุคแสดงความรักต่อหน้าสาธารณชน

    “น้าบี… จริงเหรอคะ?” เรนนี่มองไปที่เบียงก้าด้วยแววตาลูกสุนัขที่มีน้ำตาเอ่อคลอ เบียงก้าก้มศีรษะลงจูบที่หน้าผากของเรนนี่ และขยี้ผมของเธอ “ไม่เลย น้าไม่เคยคิดว่าหนูน่ารำคาญเลยนะ” น้ำเสียงของเบียงก้าอาจจริงจังเกินไป ไม่เพียงแต่จะโน้มน้าวใจเด็กน้อยอย่างเต็มที่ แต่คำพูดของเธอยังทำให้เจสันซึ่งกำลังขับรถอยู่ตกใจไปด้วย เจสันถือว่าตัวเองเป็นคนที่ผ่านอะไรมามาก เขาเคยเห็นคนทุกประเภทตั้งแต่ผู้สูงศักดิ์และยิ่งใหญ่ไปจนถึงคนอนาถาและน่ารังเกียจ ในช่วงหลายปีที่ทำงานกับเจ้านายมา เขาคิดว่าเขาเชี่ยวชาญในการอ่านนิสัยของคนอื่นและสามารถบอกความจริงจากการโกหกได้อย่างง่ายดาย ในขณะนั้น เจสันไม่รู้สึกถึงคำโกหกใด ๆ จากปากของเบียงก้าเลย เขาอดไม่ได้ที่จะแอบมองเบียงก้าผ่านกระจกมองหลัง ครู่หนึ่ง เขาคิดว่าตัวเองกำลังเห็นแม่ผู้ให้กำเนิดเด็กทั้งสองคน... โรงพยาบาลในเมืองเอ เมื่อผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ดตื่นขึ้น เขาไม่เห็นแม้แต่หลานชายหรือเหลนทั้งสองคนของตัวเอง เขาเริ่มกังวลทันที อลิสันเข้ามาในนาทีนั้นและพยายามปลูกฝังความคิดในหัวของชายชรา “พ่อจะโทรไปถามลุคไหม?” “ฉันควรถามอะไรล่ะ?” ผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ดตอบกลับระหว่

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 204 เขาอยากครอบครองเธอใจจะขาด

    เบียงก้ากับแวนด้าขึ้นไปชั้นบนเพื่อคุยกันเป็นการส่วนตัว ลุคกำลังอยู่ในสายของการประชุมธุรกิจระหว่างประเทศ ขณะกำลังคุยโทรศัพท์ เขาสามารถเห็นได้จากท่าทางของคนทั้งสองว่าการสนทนาระหว่างเบียงก้าและแวนด้านั้นไม่ปกติ แต่เขาไม่ได้ยินสิ่งที่ทั้งสองคนกำลังพูดกันเท่าไหร่นัก เมื่อเขาวางสาย ลุคเห็นจากหางตาว่าเบียงก้าและแวนด้าหายตัวแถวหัวมุม “เธอบอกว่าเธอเป็นน้าของเบียงก้า” เจสันเข้ามารายงานสถานการณ์ตามความจริง ลุคหันไปสั่งเจสันว่า "ไปสืบประวัติของน้าคนนั้น" เจสันโค้งคำนับ ลุคมองเข้าไปทางหน้าต่างชั้นสองที่เปิดทิ้งไว้ เขายังคงนิ่งเฉยไม่แสดงออก แม้ว่าความต้องการของเขาจะเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ในห้องบนชั้นสอง เบียงก้ารู้สึกเขินอาย ไม่เพียงเพราะเป็นครั้งแรกที่เธอได้พบกับน้าที่เธอเคยได้ยินผ่านเรื่องเล่า แต่ยังเป็นเพราะเธอกลัวว่าน้าจะรับรู้ถึงฮอร์โมนเพศชายที่แผ่ซ่านไปทั่วห้อง เธอรู้สึกราวกับว่าตัวเองทำอะไรผิด แวนด้าเหลือบมองไปรอบ ๆ ห้องและถามด้วยความสงสัย “ผู้ชายที่ลงมาข้างล่างกับเธอ…” “เขาเป็นเจ้านายของฉัน” เบียงก้าตอบก่อนที่น้าของเธอจะถามคำถามเสร็จ เบียงก้ายังเด็กและไม่ค่อยรู้จักวิธี

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 203 ทำไมคุณถึงขี้อายนักเล่า ผมก็เห็นทุกอย่างไปหมดแล้วนิ

    เบียงก้าสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของการข่มใจที่เล็ดลอดออกมาจากร่างของชายผู้นั้น แม้ว่าเธอจะได้รับการเตือนว่าชายผู้นี้มีความรู้สึกตรงกันข้ามก็ตาม เขาน่ะหรือจะห้ามใจ มีแต่จะทำตามใจตัวเองมากกว่า หัวใจของเธอเต้นแรง และปากเริ่มมีน้ำลายสอ เมื่อนึกถึงสัตว์ร้ายที่ซ่อนอยู่ใต้กางเกงของชายหนุ่ม “คุณ… ออกไปรอข้างนอก… ฉันอาบน้ำเองได้ค่ะ” หลังจากระเริงไปหลายครั้งเมื่อคืน เบียงก้าอายเกินกว่าจะเงยหน้ามองเขา บ้านหลังเก่าที่รกร้างและมืดมิดนั้นทั้งอบอุ่นและร้อนแรงเพราะมีเขาอยู่ กลิ่นของความสกปรกและความชื้นส่งกลิ่นแรงอยู่ตรงหน้าบ้าน แม้ว่าชายผู้นั้นจะจุมพิตและหายใจแรง แต่เธอก็ได้ให้ทุกสิ่งแก่เขาไป ราวกับว่าเธอได้หลอมรวมตัวเองเข้ากับร่างกายที่เร่าร้อนของเขาไป จากนั้น ก็ร่วมรักกันในรถอีกรอบ เบียงก้าคิดว่าลุคเป็นปีศาจที่หิวกระหายเนื้อมนุษย์ ไม่ว่ากลางวันหรือกลางคืนเขามักจะหิวโหยร่างกายของเธอเสมอ แต่ถึงกระนั้น เธอก็พลีกายให้เขาไปหลายครั้ง! โชคดีที่ความมืดมิดในยามค่ำคืนได้บดบังใบหน้าที่แดงก่ำของเธอ เพื่อที่เธอจะได้ไม่รู้สึกอึดอัดใจนักเมื่ออยู่กับเขาตามลำพัง แต่เธอไม่อาจหลบซ่อนมันจากการร่วมรักที

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 202 ตัณหาอันแรงกล้าในยามเช้าของลุค

    ชั้นล่างบริเวณสนามหญ้าหน้าบ้าน เพื่อนร่วมงานบางคนซื้อซาลาเปาสำหรับการทำงานกะเช้า ในขณะที่เพื่อนร่วมงานหญิงกำลังเตรียมข้าวโอ๊ตอยู่ในครัว ทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่าข้าวโอ๊ตที่ซื้อจากร้านมีเนื้อหยาบเกินไป เป็นครั้งแรกที่ลูก ๆ ของเจ้านายลิ้มลองซาลาเปาแป้งทำมือจากเมืองเล็ก ๆ พวกเขารับประทานคนละสองชิ้น แต่เหมือนจะยังไม่พอ เรนนี่ยัดขนมปังเต็มปากแล้วกะพริบตาอย่างไร้เดียงสาใส่คุณลุงดอยล์ของเธอ ก่อนขอเพิ่มทั้งที่ยังเคี้ยวอยู่เต็มปาก “ทานช้า ๆ ก็ได้ครับ เดี๋ยวลุงจะไปซื้อมาเพิ่ม” เจสันขยี้ผมของเรนนี่ เมื่อเขาลุกขึ้น เขาหันไปหาเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ แล้วพูดว่า "ผมจะซื้อมาฝากทุกคนเหมือนกัน" ขนมปังไม่เพียงพอสำหรับทุกคน การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของเจ้านาย ผู้ช่วย และลูกสองคนของเขาทำให้เพื่อนร่วมงานต้องแบ่งอาหารให้ ในเมืองกำลังพลุกพล่าน เจสันยืนอยู่หน้ารถขายอาหารและซื้อซาลาเปาใส่ไส้ไก่มากว่าสิบห้าชิ้น เมื่อเขาหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาและกำลังจะจ่าย เขาสังเกตเห็นผู้หญิงคนหนึ่งสวมชุดทำงานแสนเรียบร้อยเดินเข้าไปในสนามหญ้าหน้าบ้าน เธอดูเหมือนจะอยู่ในวัยสามสิบ "ชิ้นละ 1.80 เหรียญ ซื้อ 15 ชิ้นก็เป

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 201 เจ้านายเอาใจใส่ภรรยาของลูกพี่ลูกน้องมากเลยนะ

    รถลีมูซีนเบนท์ลีย์สีดำไม่ได้ขับรถเข้ามาในสนามหญ้าหน้าบ้านแต่กลับจอดอยู่ด้านนอกแทน ลุคไม่ได้ขับรถมาเอง หลังจากที่เจสันจอดรถแล้ว เขาก็ออกไปเปิดประตูเบาะหลัง เจ้านายและลูกน้อยสองคนก้าวออกมา เหมือนเช่นเคย ลุคแต่งตัวอย่างไร้ที่ติในชุดสูทมาดธุรกิจและรองเท้าหนัง ทว่าจากใบหน้าของเขาสามารถบอกได้ง่าย ๆ ว่าเขามีชีวิตชีวามากกว่าปกติราวกับว่าเพิ่งได้ยินข่าวดีมา เรนนี่อยู่ในอ้อมแขนของพ่อ เธอได้กลิ่นโคโลญจน์ของเขา ขณะที่ลานี่วิ่งอย่างตื่นเต้นไปที่สนามหญ้าหน้าบ้านพร้อมกับสะพายกระเป๋าเป้อยู่ “สวัสดีค่ะ พ่อหนุ่มน้อยรูปหล่อ!” เพื่อนร่วมงานหญิงคนหนึ่งทักทายลูกชายของเจ้านาย 'ทริปนี้คุ้มมาก!’ 'สิ่งอำนวยความสะดวกอาจจะไม่ดีเท่าในเมือง แต่ได้เห็นหน้าเจ้านาย และลูกชายกับลูกสาวที่น่ารักของเขาก็พอแล้ว!’ 'ช่างมีความสุขเหลือเกิน!' ลานี่มองไปรอบ ๆ ฝูงชนแต่ไม่พบคุณน้าบีเลย แต่เขาก็ไม่ลืมมารยาทและทักทายกลับว่า “อรุณสวัสดิ์ครับ คุณคนสวย!” เพื่อนร่วมงานหญิงที่ถูกเรียกว่า "คุณคนสวย" ยิ้มกว้าง โจพร้อมทำหน้าที่และพยายามอย่างหนักที่จะควบคุมสิ่งต่าง ๆ ให้อยู่ภายใต้การควบคุมของเขา เขาก้าวไปข้างหน้าแล

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 200 ทำไมเจ้านายถึงมาเร็วจังล่ะ

    เบียงก้าระงับเสียงครางเอาไว้ ร่างกายของเธอเกร็ง ขณะกำผ้าม่านตรงหน้าแน่น... ม่านไม่ได้ยึดอย่างแน่นหนา ขณะที่ชายที่อยู่ข้างหลังเธอเคลื่อนเข้าไปหาเธออีกนิ้ว เธออ้าปากค้าง และจิตใจว่างเปล่า ผ้าม่านหลุดลง... "ใจเย็น" ลุคก้มศีรษะลงและจูบต้นคอของเธอ ผิวขาวภายใต้แสงจันทร์ดูเรียบเนียนและอ่อนโยน การเคลื่อนไหวของเขาเชื่องช้าอย่างจงใจ ปากของเขาทิ้งร่องรอยต่าง ๆ ไว้บนร่างกายของเธอ “อา… อืม…” เธอไม่สามารถต้านทานริมฝีปากและเรียวลิ้นที่บุกรุกเข้ามาได้ เบียงก้าเชยคางและทิ้งตัวบนหน้าต่าง ชายที่อยู่ข้างหลังเธอยังคงดันนิ้วเข้าไปทีละนิ้วราวกับเขาถูกปีศาจสิง เธอรู้สึกได้ว่าการหายใจของเธอเริ่มหนักขึ้น เธอหายใจถี่และลึกขึ้นเพื่อจะได้หายใจหายคอสะดวกขึ้น อากาศก็เริ่มเย็นลง ตอนที่เบียงก้าลืมตาขึ้น เธอมองเห็นหน้าต่างที่มีฝ้าขึ้นจากลมหายใจของเธอ ความรู้สึกไม่สบายกายเกิดขึ้นเพียงห้านาทีและกลายเป็นความเลื่อนลอย... มันเป็นความรู้สึกที่คุ้นเคย ไม่ว่าจะเป็นเมื่อห้าปีที่แล้วที่เธอเคยชินกับการปรากฏตัวของชายคนนั้น หรือในปีนี้ที่เธอได้ติดต่อกับชายคนนั้นที่โรงแรม เธอก็รู้สึกสั่นสะท้านเช่นเดียวกัน… มื

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 199 เธอกลายเป็นผู้หญิงของลุค ครอว์ฟอร์ด

    เธอไม่อาจต้านทานจุมพิตอันเร่าร้อนของชายผู้นี้ไม่ได้ บนใบหน้าของพวกเขา กลิ่นของทั้งสองเป็นเหมือนกับสิ่งที่คุ้นเคยแต่แปลกใหม่ อาจเป็นเพราะพวกเขาเกือบเสร็จกิจเมื่อเช้านี้เอง และตอนนี้พวกเขาก็มีโอกาสอีกครั้ง ลุครู้สึกราวกับว่าตัวเองได้แปลงร่างเป็นสัตว์ร้ายที่หิวกระหาย ความปรารถนาที่ไม่ลดละของเขาบดขยี้ริมฝีปากอ่อนนุ่มของเธอ แม้ว่าเขาจะไม่ลดความรุนแรงลง เขาสามารถรับรู้ได้ถึงความทรมานจากเสียงครางของเธอ เขาอยากจะกลืนกินร่างที่เขาหิวโหยไป ชายหนุ่มดูราวกับเด็กที่เพิ่งได้ลองชิมขนมเป็นครั้งแรก เขาปรารถนาร่างกายของเธอมานานแล้ว จนเมื่อเช้าที่เขาได้มีโอกาสได้ลิ้มรสความหวานอันเป็นเอกลักษณ์ของมัน เมื่อได้รับขนมอร่อย ๆ เด็กที่ไหนก็เหมือนกันหมด พวกเขาจะแกะมันออกจากห่ออย่างตะกละตะกลาม แล้วเอาเข้าปาก ก่อนใช้ความอบอุ่นและน้ำลายละลายพวกมัน พวกเขาอาจจะอ่อนโยนหรือรุนแรง ก็แล้วแต่ระดับความกระหายของคนเป็นเจ้าของ... ลุคกับเบียงก้า เปรียบได้กับเด็กตะกละกับขนมอร่อย ... “อืมมม…” ร่างของเบียงก้าอ่อนยวบเมื่อลุคกอดเธอในอ้อมแขนจนแน่น ช่องปากของเขาอุ่นชื้น เธอจมดิ่งลงไปในจูบอันป่าเถื่อนของเขา… เธอกำ

DMCA.com Protection Status