Home / โรแมนติก / พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก / บทที่ 8 บลานก้า และ เรนนี่

Share

บทที่ 8 บลานก้า และ เรนนี่

Author: พะเนินเทินทึก
last update Last Updated: 2021-09-22 16:35:01
เบียงก้าไม่กล้าพูดอะไรอีกเลย จากที่เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นมองเธอ

กาลเวลาผ่านไป

เด็กชายพูดว่า “ผมว่าดูน่าอึดอัดครับ”

น้องสาวตัวน้อยพยักพยักหน้า

เบียงก้า “….”

“คุณผู้หญิงครับ โทรหาพ่อของผมตอนนี้เลยเถอะ และบอกเขาด้วยว่าคุณไม่ต้องการดูแลพวก

เราสองคนแล้ว” เด็กชายกล่าว

เด็กชายตัวเล็ก ๆ ดูค่อนที่จะไม่เป็นมิตรกับเธอสักเท่าไหร่

“ฉันไม่เคยบอกเลยนะว่าไม่อยากดูแลพวกหนูน่ะ” เธอต้องอธิบายให้ชัดเจน

เธอจะกล้าพูดว่าเธอไม่ต้องการดูแลลูก ๆ ของเจ้านายได้อย่างไรกัน? เจ้านายคงจะจัดการเธอ

จนกลายเป็นอาหารกลางวันเป็นแน่

“ในเมื่อต้องการจะดูแลเราสองคนจริง ๆ คุณควรทำเหมือนที่คุณพูดสิครับ” เห็นได้ชัดว่าเด็กชายไม่ชอบบรรยากาศที่เงียบ ๆ แบบนี้

ผู้หญิงคนนี้ดูซื่อบื้อกว่าคนอื่น ๆ มาก

เบียงก้า “…”

เป็นความผิดพลาดของเธอเองสินะที่ออกจากบ้านมาโดยที่ไม่ดูตาม้าตาเรือเสียก่อน ถึงได้มาเจอเรื่องเช่นนี้

“มากับหนูหน่อยค่ะ พี่ชาย” เด็กหญิงตัวเล็กบอกได้ว่าสีหน้าของป้าคนนี้เริ่มไม่พอใจ และเธอก็ลากพี่ชายออกไปด้วยความขุ่นเคือง

เบียงก้าถอนหายใจยาว มองดูเด็กน้อยสองคนเดินหายไปทางประตูห้องน้ำ

ภายในห้องน้ำ

น้องสาวเอ่ยถาม “พี่คะ ทำไมถึงใจร้ายกับคุณป้าคนสวยจังเลย?!”

“ก็เธอมีแผนน่ะสิ” พี่ชายรู้สึกแย่กับน้องสาวที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย จากนั้น เด็กชายพูดอย่างเคร่งขรึม “พวกผู้หญิงหน้าตาดีพวกเต็มใจที่จะดูแลเราก็เพียงเพราะต้องการแต่งงานกับพ่อของเราเท่านั้นแหละ”

“พวกเขาต้องการแต่งงานกับพ่อของเราเหรอ?” น้องสาวไม่เข้าใจ

พี่ชายกล่าวเสริม “แถมอย่างน้อย ผู้หญิงคนอื่นก็ยังทำทีเป็นชอบพวกเรา แต่ดูเธอคนนี้สิ!”

ถ้าผู้หญิงคนนี้แต่งงานกับพ่อของตนจริง ๆ เธอจะไม่มีวันดูแลพวกตนได้อย่างดีแน่นอน

น้องสาวของเขายืนกราน “คุณปู่ทวดพูดเสมอนะคะว่าเราอย่าตัดสินคนอื่นจากรูปลักษณ์ภายนอกน่ะ”

อย่างไรก็ตาม พี่ชายของเธอพูดอย่างโกรธเคือง “ฉันไม่สนว่าเธอจะคิดยังไงนะ ไม่ว่ายังไงฉัน

จะมีแม่แค่คนเดียว และนั่นคือผู้หญิงที่ทำให้ฉันเกิดมาเท่านั้น!!”

แม้น้องสาวสุดแสนซื่อจะเข้าใจ แต่เธอก็ขุนเคืองไม่แพ้กันพร้อมกับเอ่ยขึ้น “คุณปู่บอกว่าพวกเราเกิดมาจากต้นไม้ในสวน!”

"ยายโง่!" พี่ชายของเธอโกรธมากจนหน้าเล็ก ๆ ของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ เขาผลักประตูห้องน้ำให้เปิดออก และไม่พูดอะไรอีก

เบียงก้าตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น

ทำไมพวกเขาถึงทะเลาะแบบนี้กัน

“ขอโทษด้วยนะจ๊ะ ฉันผิดเองแหละ ฉันไม่รู้ว่าจะต้องรับมือกับเด็กยังไง มันก็เลยเกิดบรรยากาศที่น่าอึดอัดแบบนั้น” เบียงก้ารู้สึกผิดอย่างมาก

น้องสาวเงยหน้าขึ้นและเอ่ยขึ้น “พี่ชายนั่นแหละค่ะที่เป็นคนผิด!”

เบียงก้าหันไปมองเด็กชายและพยายามพูดเพราะ ๆ กับเขา “หนูอยากดูการ์ตูนไหม?” เธอหยิบรีโมทคอนโทรลขึ้นมาขณะที่เธอกล่าวเสริม “ดูเรื่องเพลสแซ่นต์โก๊ตแอนด์บิ๊กบิ๊กวูล์ฟไหม หรือจะดูบาบู ดาบลูดีล่ะ?”

“นั่นมันให้เด็กดูแล้ว!” เด็กชายตัวน้อยอดไม่ได้ที่จะทำให้เธอดูโง่เขลาอีกครั้ง

เบียงก้ารู้สึกอึดอัดยิ่งขึ้น

ทุกอย่างชะงักลงชั่วครู่

“คุณผู้หญิงครับ ทำไมถึงไม่ถามว่าเราอายุเท่าไหร่ล่ะ?”

เบียงก้าพบข้อแก้ตัวเพื่อขจัดความอึดอัด “แล้วหนูอายุเท่าไหร่?”

“ห้าขวบค่ะ พี่ชายก็ห้าขวบค่ะ”

“พวกเหนูเข้าโรงเรียนกันรึยังเอ่ย?” ถ้าพวกเขากำลังเรียนอยู่... วันนี้เป็นวันพฤหัสบดี

“เราไปโรงเรียนค่ะ แต่เราก็มีติวเตอร์ส่วนตัวด้วย คราวนี้พ่อเป็นคนบอกว่าจะพาเราออกไปเล่น พ่อบอกว่าที่นี่มีชิงช้าสวรรค์สูงมากเลยแหละ”

“จ่ะ เข้าใจแล้วค่ะ” เบียงก้าตอบกลับ

“ขอยืมโทรศัพท์หน่อย ผมอยากโทรหาพ่อ” พี่ชายบอก

เบียงก้ากระพริบตาปริบ ๆ และยื่นโทรศัพท์ให้เด็กชายทันที

บลองช์ค้นหารายชื่อในโทรศัพท์ของเบียงก้าเพื่อหาหมายเบอร์ติดต่อของพ่อ แต่หาเด็กน้อยหา

ไม่เจอ จากนั้นเขาก็มองหาผู้ติดต่อทางวีแชทของพ่อ แต่ก็หาไม่พบเช่นกัน

“คุณไม่มีช่องทางติดต่อกับพ่อผมเลยเหรอ?” เขาถามพลางเงยหน้ามองเบียงก้า

เธอส่ายหัว "ไม่มีหรอกจ่ะ"

ดูเหมือนพี่ชายจะไม่เชื่อเธอ ขมวดคิ้วขณะพูดว่า “ไม่มีจริง ๆ เหรอ?”

“หนูบอกพี่แล้วว่าป้าคนนี้ ไม่ใช่ผู้หญิงจิตใจไม่ดีที่ต้องการเป็นแม่เลี้ยงของเราสักหน่อย!”

น้องสาวนั่งมองพี่ชายอย่างสบประมาท

พี่ชายมองไปที่น้องสาวของเขาอย่างรู้สึกผิดเล็กน้อย และเขาไม่กล้ามองไปทางเบียงก้าอีก

ในที่สุดเบียงก้าก็เข้าใจทั้งหมด!

นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเด็กชายถึงเป็นปฏิปักษ์ต่อเธอ

“ฉันขออธิบายบางอย่างให้พวกหนูเข้าใจนะคะ” เบียงก้ามองไปยังเด็กทั้งคู่ “พ่อของพวกหนูส่งหนูสองคนให้เจสันดูแล แต่เจสันกำลังยุ่งกับงานมากเลยจ่ะ เขาเลยส่งพวกหนูมาอยู่กับฉันสักพัก ไม่มีอะไรระหว่างพ่อของพวกหนูกับฉันแน่นอน เราเป็นแค่นายจ้างกับลูกจ้างเท่านั้นจ่ะ”

เด็กชายมองไปที่เบียงก้าอย่างครุ่นคิด

เบียงก้ายอมรับอย่างเปิดอก “พ่อของพวกหนูกับตัวฉันเองมาจากโลกคนละใบกันเลย คนหนึ่งเกิดมาในโลกที่พิเศษมาก ๆ แต่อีกคนเกิดมาในโลกที่ธรรมดา และเป็นคนที่แสนธรรมดาคนหนึ่ง พวกเราสองคนมีความต้องการและอยู่ในสังคมที่แตกต่างกัน ดังนั้น พวกเราไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้หรอกจ่ะ หนูเข้าใจที่ฉันพูดไหมเอ่ย?”

“ไม่ค่ะ…” น้องสาวส่ายหัวอย่างว่างเปล่า

เบียงก้าหันไปมองพี่ชายตัวน้อยแทน

เด็กชายพูดว่า “เข้าใจแล้ว พ่อของผมเป็นคนชนชั้นสูงแต่คุณเป็นพวกรากหญ้าสินะ”

เบียงก้าหัวเราะออกมา “นั่นแรงเหมือนกันนะเนี่ย แต่หนูพูดถูกแล้วจ่ะ พ่อของพวกหนูกับฉันมีระยะห่างเยอะมากเลยแหละ พวกหนูไม่ต้องกังวลไปหรอกนะ ถึงพ่อของคพวกหนูจะเป็นเพียงผู้ชายคนเดียวที่หลงเหลืออยู่ในโลก ฉันก็คงไม่ได้กลายไปเป็นแม่เลี้ยงของพวกหนูหรอกนะ เข้าใจใช่ไหม?”

น้องสาวจ้องมองใบหน้าเบียงก้าและพยักหน้าตอบรับ แต่ก็ค่อนข้างสับสน

“เอาล่ะ เรามาเป็นเพื่อนกันดีกว่านะ” เบียงก้าแนะนำตัวเองว่า “ฉันชื่อเบียงก้า เรย์นค่ะ พวกหนูจะเรียกฉันว่า คุณเรย์น หรือเรียกแค่บีเฉย ๆ ก็ได้จ่ะ”

“หนูชื่อเรนนี่ ครอว์ฟอร์ดค่ะ เหมือนกับวันที่ฝนตกอากาศดี ๆ น่ะค่ะ” น้องสาวแนะนำตัว

“ผมชื่อบลองช์ ครอว์ฟอร์ดฮะ เรียกผมว่าบลานก้าหรือเรียกว่าลานี่ก็ได้ครับ” พี่ชายแนะนำตัวเองเขาเองด้วย สลัดคราบการเป็นปรปักษ์ออกทั้งหมด

เรนนี่เหรอ?

เหมือนกับวันที่ฝนตกสินะ?

บลองช์ ครอว์ฟอร์ด?

บลานก้า?

บลานก้า? เรนนี่?

ทันใดนั้น เบียงก้าก็รู้สึกราวกับว่าเธออาจจะโชคดีก็ได้ที่ได้พบกับเด็กทั้งสอง!

เมื่อทั้งคู่เข้าใจกันแล้ว เด็กทั้งสองเปิดใจกับเธออย่างมีความสุข

เธอยกเลิกนัดอาหารค่ำกับเพื่อนร่วมงาน

เพื่อนร่วมงานทั้งสองคนของเธอไปทำงานหลังทานอาหารเย็นเสร็จ ในขณะที่ภารกิจปัจจุบัน

ของเธอคือดูแลเด็กทั้งสองให้ท่านประธาน

ในตอนแรกเบียงก้าเอาใจใส่ระมัดระวังอย่างมาก หากเด็ก ๆ มีรอยขีดข่วนใด ๆ แม้แต่น้อย อาจจะทำให้เธอต้องตกงานได้ แม้ว่าในที่สุด เธอลงเอยด้วยการกลิ้งเล่นบนพรมไปกับเด็ก ๆ

ลึกลงไปในหัวใจของเธอก็เต็มไปด้วยความชื้นใจ แต่ลึกเข้าไปด้านในอีก เธอรู้สึกเจ็บปวดเหลือเกิน

ลูกของเธอคงอาจจะอายุประมาณลานี่กับเรนนี่ ตอนนี้

เมื่อเธอมองดูใบหน้าที่มีความสุขของเด็กน้อยทั้งคู่ ทำเธอแทบจะมองเห็นเป็นลูกเธอเอง

เด็กคนนั้นตอนนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง? เธอมีความสุขดีใช่ไหม?

คืนนั้น เบียงก้ารับประทานอาหารกับเด็กน้อยที่รักทั้งสอง

พวกเขามีบริการทุกอย่างเท่าที่เป็นไปได้ ในร้านอาหารของโรงแรม เรนนี่นั่งในร้านอาหาร และเพลิดเพลินไปกับอาหารตรงหน้า สักครู่ก่อนที่เธอจะเริ่มน้ำลายไหลเมื่อเห็นไก่ทอดที่เด็กคนอื่นกำลังรับประทานอยู่

“เช็ดน้ำลายซะ มันสกปรกนะ!” พี่ชายของเธอดุ และเธอเองก็ไม่พอใจ

เบียงก้ารีบหยิบผ้าเช็ดปาก เช็ดน้ำลายออกจากปากของเรนนี่

“พ่อหนูห้ามไม่ให้กินไก่ทอดเหรอจ๊ะ?” เบียงก้ารู้สึกไม่ดีต่อเรนนี่ ถ้าลูกสาวของเธอน้ำลายไหลเพราะไก่ทอดมากขนาดนี้ เธอคงจะยกเว้นให้สักครั้ง

เรนนี่พยักหน้า แต่ดวงตาของเธอยังคงจับจ้องอยู่ที่ไก่ทอดที่อยู่บนโต๊ะถัดไป เธอใจลอย

จนวางตะเกียบลงบนโต๊ะ

“ขอโทษนะคะ?” เบียงก้าโบกมือของเธอเรียกเด็กเสิร์ฟ

สิบนาทีผ่านไป

มีไก่ทอดมาเสิร์ฟ มีทั้งหมดสองชิ้น

ตัวพี่ชายตัวน้อยเสียสละให้น้องสาว เขามองไก่ทอดทั้งสองชิ้น ถึงแม้ว่าจะอยากลองชิมดูเหมือนกัน แต่เขาก็หักห้ามใจพลางเอ่ยขึ้น "กินไปเถอะ แต่พ่อสอนว่าลูกผู้ชายมีหลักการที่ต้องยึดมั่นอยู่”

เบียงก้าไม่ได้พูดอะไร แต่ข้างในเธอค่อนข้างแปลกใจ ในเวลาเดียวกัน เธอค่อนตกใจกับเด็ก

วัย 5 ขวบคนนี้ และการควบคุมตนเองของเขาเมื่อเผชิญกับสิ่งยั่วยวน

หลังจากที่เติบโตขึ้น บางคนอาจประสบความสำเร็จอย่างน่าอัศจรรย์ แต่การเดินทางของพวกเขาไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาต้องอดกลั้นเท่าไร พวกเขาต้องเสียสละมากแค่ไหน

แล้วลุค ครอว์ฟอร์ดเป็นหนึ่งในตัวอย่างดังกล่าวรึเปล่านะ?

เด็กน้อยคนนี้เย็นชาและไม่ไว้ใจใคร เบียงก้าอดไม่ได้ที่จะนึกถึงสิ่งที่นีน่าพูดในตอนนั้นว่า

เจ้านายเป็นคนโหดเหี้ยมและไร้หัวใจในโลกของธุรกิจ

เด็กน้อยคนนี้เป็นเหมือนพ่อของเขาในแบบรุ่นเล็กจิ๋วล่ะนะ!

Related chapters

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 9 เปิดประตูสู่โลกของฉัน

    ในตอนนี้เรนนี่ตัวน้อยมีความสุขอย่างน่าเหลือเชื่อ เธอได้แอบกินไก่ทอดลับหลังพ่อระหว่างทางกลับห้องเรนนี่ ยังคงเกาะติดเบียงก้ากอดขาเธอราวกับเป็นโคอาล่าเกาะต้นไม้ มันค่อนข้างยากสำหรับเบียงก้าที่จะเดินโดยมีเด็กน้อยเกาะอยู่ที่ขาของเธอ เธอต้องเดินกะเผลกไปตลอดทางจนกลับชั้นบน“นี่ก็ดึกมากแล้วนะ เดี๋ยวฉันจะไปส่งพวกหนูเข้านอนที่ห้องนะจ๊ะ ” หญิงสาวกับเด็กทั้งสองนั่งดูการ์ตูนในห้องสักพัก ก่อนที่เบียงก้าจะหันไปหาทั้งคู่ พี่ชายเงยหน้าขึ้นมองเธอแล้วพูดว่า “พวกเราไม่มีคีย์การ์ดเข้าห้องพักหรอกครับ” เรนนี่กอดเบียงก้าด้วยมือที่อวบอ้วนของเธอ ดวงตาของเธอปิดสนิท ตอนนี้เธอเกือบจะหลับสนิทแล้ว ถึงกระนั้น พวกเขาจะกลับเข้าห้องโดยไม่มีคีย์การ์ดได้อย่างไร? เบียงก้ารู้สึกงุนงงไม่น้อยเธอไม่รู้ว่าในวันนี้ ท่านประธานจะทำงานเสร็จเมื่อไหร่และกลับไปที่โรงแรมตอนไหน“ไปเรียกคุณดอยล์สิครับ” เบียงก้ามองไปที่เรนนี่ซึ่งหลับไปแล้ว เธอขยับตัวไม่ได้ เธอจึงต้องขอให้ลานี่หยิบโทรศัพท์ของเธอมาให้หน่อย ลานี่หยิบโทรศัพท์และส่งให้เบียงก้าเบียงก้าโทรหาเพื่อนร่วมงานและขอหมายเลขโทรศัพท์ของเจสัน ดอยล์ เจสันรับสายเร็วพ

    Last Updated : 2021-09-22
  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 10 ชายโฉด

    ภายไม่กี่วินาทีนั้น จิตใจของเบียงก้าก็ว่างเปล่า! เธอขมวดคิ้วและตำหนิตัวเองที่ใจอ่อน 'เบียงก้า อย่าลืมสิ เธอมีฌองอยู่แล้วนะ!' 'ฌองเป็นผู้ชายคนเดียวที่เธอจะมีอารมณ์ด้วยได้นะ!' “คุณอยู่กับผมแล้วนะ ทำไมคุณถึงได้คิดฟุ้งซ่าน!” เขากระชากเสื้อคลุมสีขาวของเธออออกอย่างแรง ความรู้สึกชุ่มชื้นและอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูกแผ่ซ่านไปทั่วริมฝีปากของเธอ จากนั้นเขาก็ก้มศีรษะลงและจูบลงบนเส้นผมของเธอ หลังจากผ่านเวลาไปอย่างยาวนาน เสียงต่ำของเขาก็พูดเข้าหูเธออย่างเย้ายวน เมื่อได้ยินเสียงต่ำของชายคนนั้น เบียงก้ากำลังจะอกแตกตาย! ลุคมีกลิ่นครีมอาบน้ำอันหอมหวน กลิ่นนั้นเป็นกลิ่นเดียวกับที่เธอใช้ นั่นหมายความว่าตอนที่อาบน้ำ ชายคนนี้เพิ่งใช้ครีมอาบน้ำของเธองั้นสิ เบียงก้ารู้ดีว่ามันอันตรายเพียงใดถ้าเธอไม่ขัดขืนตั้งแต่ตอนนี้ แต่แค่ออกแรงดิ้นยังทำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ สิ่งที่เธอสามารถทำได้ในตอนนี้มีเพียงสิ่งเดียว นั่นคือขอโทษเจ้านายของตนเสียก่อน เพราะเธอกำลังจะทำเรื่องที่ไม่น่าเคารพกับเขาเสียแล้ว แต่อย่างน้อยคงจะดีกว่าถ้าปล่อยให้เรื่องราวดำเนินไปอย่างตอนนี้!ดวงตาของเบียงก้าเริ่มคุ้นชินกับความมืด และตอน

    Last Updated : 2021-09-22
  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 11 เสื้อผ้าของสามี

    เบียงก้าเดินกลับขึ้นไปชั้นบนพนักงานทำความสะอาดกำลังเก็บกวาดห้องพักของเธออยู่เบียงก้าค้อมศีรษะให้พนักงานทำความสะอาดอย่างสุภาพ ก่อนจะเดินไปยังตู้เสื้อผ้า เธอเปิดมันออกแล้วหยิบเสื้อผ้าที่เธอรีดเมื่อคืนออกมาพนักงานสาวทำความสะอาดได้อย่างรวดเร็วตอนที่เบียงก้าล้างหน้าล้างตาเสร็จแล้ว ทุกร่องรอยที่ลุค ครอว์ฟอร์ดทิ้งไว้ในห้องก็ถูกปัดกวาดจนเกลี้ยงเธอถอนหายใจอย่างโล่งอกสิบนาทีที่แล้ว ฌองส่งข้อความถึงเธอ “เบียงก้า ทีมของพี่ทำโครงการเสร็จหมดแล้วนะ พี่กำลังจะไปเมืองเอชบ่ายนี้ แล้วพรุ่งนี้เป็นวันหยุดพอดีด้วย พี่ว่าจะไปหาเธอที่โรงแรมสักหน่อย”เบียงก้าส่งข้อความกลับไป “ยอดไปเลยค่ะ เดี๋ยวฉันจะส่งที่อยู่ของโรงแรมไปให้นะ”ไม่รู้ว่าทำไม ตอนที่เธอมองไปรอบ ๆ ห้องที่ลุค ครอว์ฟอร์ดใช้เวลาอยู่ในนี้ทั้งคืนด้วยความรู้สึกผิดเล็ก ๆ ในใจตอนที่พนักงานทำความสะอาดห้องเสร็จ เธอเห็นว่าเบียงก้ายืนนิ่งงันพร้อมด้วยสีหน้าดูบึ้งตึงและว้าวุ่นใจ“เรียบร้อยแล้วค่ะ” พนักงานทำความสะอาดกล่าวด้วยรอยยิ้มพร้อมถุงขยะในมืออยู่หน้าประตูเบียงก้าดึงสติตัวเองกลับมาอย่างรวดเร็ว “ขอบคุณมากนะคะ”“ดิฉันวางชุดชั้นในที่ใช้แล้วไ

    Last Updated : 2021-09-23
  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 12 ลุค ครอว์ฟอร์ดไม่มีสิทธิ์ก้าวก่าย

    รถยนต์สองคันแล่นออกจากโรงแรมชื่อดัง จากนั้นมุ่งหน้ากลับไปยังโรงแรมที่พวกเขาพักอยู่เมื่อพวกเขามาถึงที่หมาย เบียงก้าก้าวออกจากรถซูก้าวตามลงมาที่หน้าประตูทางเข้า พวกเขาพบว่าเจสัน ดอยล์กำลังรออยู่ก่อนแล้ว เขาสวมชุดสูทที่ดูสง่าเข้าคู่กับรองเท้าหนังเป็นอย่างดี“สวัสดีค่ะ คุณดอยล์” เบียงก้าทักทายเจสันเหมือนอย่างที่ซูและคนอื่น ๆ ทำเจสันพยักหน้ารับคำทักทายของเบียงก้า หากแต่สายตาที่จ้องมองเธอเขม็งนั้นแตกต่างจากคนอื่นหลังจากที่เบียงก้าเดินเข้าไปถึงล็อบบี้ของโรงแรม เจสันก็ยังคงจ้องตามเธอไปอย่างนั้นเมื่อลุคลงมาจากรถ เขาก็สังเกตได้ถึงปฏิกิริยาที่ผิดปกติของเจสันลุคจ้องมองไปยังเจสัน กระทั่งเมื่อเจสันรู้สึกถึงความผิดปกตินั้นแล้ว เขาจึงหันกลับมามองเจ้านายอย่างแนบเนียนเขายืนตรงอย่างสูงสง่า ลุคสาวเท้าเข้าไปในโรงแรม น้ำเสียงเย็นยะเยือกเอ่ยขึ้น “คุณกำลังมองเธออยู่”ลุคพูดกับเจสันที่ยืนอยู่ด้านหลังของเขาเจสันใคร่ครวญอยู่ในใจว่าตัวเองควรจะตอบอะไรกลับไปหรือไม่ ไม่นานนักเขาก็ตัดสินใจที่จะเก็บงำสิ่งเหล่านั้นไว้กับตัวเอง “เปล่าครับ ผมเปล่า”แก้ตัวน้ำขุ่น ๆ !ลุคมองเจสันด้วยสายตาเคลือบแคลงมาก

    Last Updated : 2021-09-23
  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 13 สายตาไร้อารมณ์ของฌอง

    พวกเขาเดินทางกลับมาถึงเมืองเอในตอนเช้าทอมขับรถเบนลี่ย์ของบริษัทมาจอดอย่างเคยซูก้าวลงจากรถในอีกด้าน ฌองยกสัมภาระของเบียงก้าลงจากกระโปรงหลังของรถพร้อมพูดกับเธอ “เดี๋ยวพี่จะส่งเธอกลับบ้านก่อน เธอจะได้พักบ้าง หลับให้สบายนะแล้วเดี๋ยวคืนนี้พี่จะไปหา”เบียงก้าพยักหน้ารับพวกเขาเข็นสัมภาระจากไปขณะบอกลาซูและทอม พวกเขาเดินไปตามทางก่อนจะเรียกแท๊กซี่ฌองคิดว่าพรุ่งนี้เขาจะต้องซื้อรถสักคันการไม่มีรถส่วนตัวใช้มันลำบากเกินไปเบียงก้าทั้งเหนื่อยและง่วงงุน เมื่อคืนเธอได้นอนในรถไปแค่สองชั่วโมงเท่านั้นเอง แต่ถึงจะได้หลับบ้างแต่ก็ไม่ได้นอนอย่างสบายนักก่อนที่พวกเขาจะได้แท๊กซี่ โทรศัพท์ของฌองก็ดังขึ้น“พี่ขอรับโทรศัพท์ก่อนนะ” ฌองมองไปที่โทรศัพท์แล้วส่งสัญญาณให้เบียงก้าก่อนจะกดรับสายเบียงก้ามองไปที่ฌองแล้วเห็นว่าหน้าเขาค่อย ๆ นิ่วลง “ได้ครับ” ฌองตอบกลับสายในโทรศัพท์ “ผมจะไปเดี๋ยวนี้” เขาเสริม“มีอะไรรึเปล่าคะ?” เบียงก้าถามหลังจากที่เขาวางสายไป“อืม หัวหน้าทีมบอกให้พี่ไปประชุมก่อนเที่ยงวันน่ะสิ เขาบอกว่าตอนนี้น้ำขึ้นมันต้องรีบตัก แล้วจะได้รีบหารือเรื่องขั้นตอนต่อ ๆไปด้วย” ฌองพูดอย่างหัวเสีย

    Last Updated : 2021-09-23
  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 14 เบียงก้าพร้อมใบหน้าถูกประดับประดาด้วยสีแดงระเรื่อ

    “ฉันไม่รู้ว่าใครส่งมานะคะ” เบียงก้าตอบกลับไปเบียงก้าไม่อยากเห็นแววตาอันแสนเจ็บปวดของฌอง เธอไม่ต้องการสร้างแผลในใจตัวเองเพิ่มอีก“เธอไม่รู้ว่าใครเป็นคนส่งมันมาอย่างนั้นเหรอ? ล้อพี่เล่นรึไง? พี่ดูปัญญานิ่มขนาดนั้นเลยใช่ไหม? เบียงก้า เรย์น นี่เราเพิ่งกลับมายังไม่ทันไร เธอก็มีผู้ชายอีกคนเข้าหาแล้ว ถ้าไม่มีอะไรกันจริง ๆ ผู้ชายหน้าไหนจะยอมใช้เงินมากมายขนาดนี้เพื่อซื้อดอกไม้ให้เธอกัน?”เบียงก้าแทบทนไม่ได้กับสายตาที่ฌองใช้มองเธอเธอรู้ตัวดีว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิด จิตสำนึกเธอยังทำงานได้ดีเธอไม่รู้จริง ๆว่าใครเป็นคนส่งดอกไม้พวกนี้มา“ฉันขอตัวไปทำงานก่อนนะ” ในที่สุด เบียงก้าก็เปิดปากพูด เพื่อให้ฌองได้สงบสติอารมณ์ เบียงก้าหันไปโยนช่อดอกไม้ในมือทิ้งลงถังขยะที่อยู่ไม่ห่างอย่างไม่ยี่หระฌองมองแผ่นหลังของเบียงก้าที่เดินข้ามถนนจากไปอย่างช้า ๆ เขากำหมัดแน่นเธอเดินไปทางสถานีรถไฟใต้ดินก่อนจะพ้นสายตาฌองไปฌองยังคงยืนอยู่ที่เดิม ความเดือดดาลของเขาไม่ได้ลดลงแม้แต่น้อย เขาหันหลังกลับมาอีกด้าน แล้วสาวหมัดเข้าไปที่เสาไฟตรงหน้า เขากัดฟันแน่น ความเจ็บปวดประเดประดังเข้ามาราวกับกระดูกแตกสลายจนแหลกละเอี

    Last Updated : 2021-09-23
  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 15 จงยับยั้งชั่งใจตนเองเสีย ลุค ครอว์ฟอร์ด

    เบียงก้าเดาว่าเรนนี่น่าจะชอบกระดาษลายสปอนจ์บ๊อบเธอวางกระดาษแผ่นอื่น ๆ ไว้แล้วเลือกหยิบกระดาษลายสปอนจ์บ๊อบ ก่อนจะลุกขึ้นยืน“อ๊า-”เมื่อลุกขึ้นยืน เธอก็มุ่งความสนใจทั้งหมดไปกับการห่อหนังสือด้วยกระดาษลายสปอนจ์บ๊อบ ทำให้เธอหลงลืมไปเสียสนิทใจว่ามีชายอีกคนยืนอยู่ข้างกายเธอเข็มกลัดที่เธอติดเสื้อทำงานมาด้วย บัดนี้ไปเกี่ยวอยู่กับเข็มขัดหนังของชายหนุ่มเสียแล้ว“ข-ขอโทษค่ะ ฉัน…”เบียงก้าจ้องมองของสองชิ้นที่ติดอยู่ด้วยกันด้วยความอึดอัดใจชายหนุ่มค้อมศรีษะลงมา มีบางสิ่งปรากฏขึ้นในส่วนลึกของแววตา“สักครู่ค่ะ อีกนิดเดียวก็จะเรียบร้อยแล้วค่ะ...” เบียงก้าพัดมือไปทั่วเข็มขัดของเขาด้วยความลนลานนี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่เธอได้สัมผัสกับเข็มขัดของผู้ชายด้วยมือของตัวเองในคืนนั้นเมื่อห้าปีก่อน เธอก็ไม่ได้จับเข็มขัดของผู้ชายคนนั้น และไม่เคยมีอะไรแบบนี้เกิดขึ้นตอนที่เธออยู่กับฌองเช่นกันเธอไม่รู้ว่าทำไมถึงเกิดเรื่องนี้ขึ้นที่นี่ แล้วทำไมเรื่องน่าประหลาดพวกนี้ต้องเกิดขึ้นในตอนที่เธอกับลุค ครอว์ฟอร์ดอยู่ด้วยกันทุกทีราวกับปฏิกิริยาเคมีที่เธอไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้เข็มกลัดถูกออกแบบมาอย่างซับซ้อน

    Last Updated : 2021-09-24
  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 16 การมาเยือนของคู่พ่อลูก

    ฌองรู้ว่าเบียงก้าเองก็รักเขา และยังรู้ว่าเธอไม่ได้รักเขาเท่าที่เขารักเธออีกด้วยเพื่อให้การขอแต่งงานครั้งนี้ไม่มีอะไรผิดพลาด เมื่อเขาตัดสินใจที่จะขอเธอแต่งงานในตอนเที่ยงนั้น ฌองจึงขอให้พ่อและแม่ของเขาเชิญคนในครอบครัวมาด้วยกันสมาชิกในครอบครัวกว่าสิบชีวิตทั้งแก่และเด็กเบียดเสียดรวมกันอยู่ที่นี่หลังจากที่เบียงก้าเดินตามครอบครัวแลงดอนขึ้นไปที่ชั้นบน เธอยืนนิ่งไปในทันทีที่พวกเขาเปิดประตู...ในตอนนั้น นีน่าจ้องมองญาติ ๆ ของตัวเองที่กำลังเบียดเสียดกันอยู่ในบ้านราวกับเห็นผี“มาแล้ว เธอกลับมาแล้ว!” น้าเล็กของฌองตะโกนทันทีที่เห็นเบียงก้ายืนอยู่หน้าประตู เบียงก้าในตอนนี้คือคนเดียวกับหญิงสาวในรูปที่เธอเคยได้เห็น ผู้หญิงที่มีอายุมากกว่าคว้าเอาแขนแม่ของตัวเองไว้แล้วพูด “นั่นแฟนสาวของฌองค่ะ เบียงก้า เรย์น เธอยืนอยู่ตรงประตูนั่นค่ะ! ตายแล้ว ตัวจริงสวยมากเลยนะคะ มาค่ะ ไปดูกันค่ะแม่...”เบียงก้าถึงกับพูดไม่ออก“เข้ามาสิ” ฌองมองเบียงก้าด้วยแววตาอ่อนโยน เขาจูงมือเธอเบียงก้าต้องฝืนยิ้มให้กับญาติของฌองตามมารยาท คุณย่าของฌองไม่ยอมปล่อยมือจากเบียงก้าด้วยซ้ำ เธอจับมือของเบียงก้าไว้แล้วตบเบา ๆ เวลาที

    Last Updated : 2021-09-24

Latest chapter

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 207 ครอบครัวทั้งสี่คนนอนอยู่ด้วยกัน

    เมื่อไม่มีทางเลือกอื่น เบียงก้าจึงเปิดประตูอย่างแผ่วเบา เด็ก ๆ ยังคงนอนในห้องเล็ก ๆ ขนาดสามร้อยตารางฟุตใต้แสงจันทร์ แต่ตอนนี้ผู้ใหญ่สองคนกลับกอดกันอยู่ตรงประตู เบียงก้าต้องการหันหลังกลับและมุ่งหน้าเข้าไปในห้อง แต่ชายหนุ่มก็กอดร่างอันบอบบางของเธอไว้แน่นอย่างร้ายกาจ “อย่าทำอย่างนี้สิคะ เด็ก ๆ จะเห็นเราถ้าพวกเขาตื่น…” เธอเหนื่อยหอบในอ้อมแขนของลุค ลุคเป็นสัตว์ร้ายอยู่แล้วตั้งแต่ตอนที่ยังเขาไม่ดื่ม แต่ตอนนี้เขาดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปแล้ว… เบียงก้าไม่อยากจะจินตนาการ เธอทำได้เพียงอธิษฐานว่าเขาจะไม่ดำดิ่งลงไป “ผมไม่บังคับคุณหรอกถ้าคุณไม่เต็มใจ คุณต้องบอกผมถ้าผมกำลังทำร้ายคุณอยู่ ต้องรีบบอกออกมาเลยนะ” ลุคเอาริมฝีปากบางและเย้ายวนของเขามาแนบใบหูของเธอ ก่อนจูบผิวที่ขาวเนียน เขาพยายามอย่างหนักที่จะระงับความอยากที่จะครอบงำเธอ เบียงก้าเงียบงันอยู่ในอ้อมแขนของเขา เธอรู้สึกสบายใจขึ้นเล็กน้อยเมื่อชายหนุ่มสัญญากับเธอ เธอคิดว่ามันน่าขันที่ลุคมักจะเป็นสัตว์ร้าย แต่เขาก็ยังเห็นอกเห็นใจมากขึ้นทั้งที่อยู่ในสภาพเมาเช่นนี้ ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนในตอนที่พวกเขากอดกัน เรนนี่หลับใหลและพึมพำห

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 206 คุณเมารึเปล่า

    เบียงก้าส่ายหน้าอย่างงุ่มง่ามเพื่อแสดงให้เห็นว่าเธอไม่เป็นไร เธอกังวลว่าใบหน้าที่บูดบึ้งของเขาอาจทำให้เด็กชายหวาดกลัว เธอจึงรีบขยับออกจากอ้อมแขนของเขาและพยักหน้าให้เขาเพื่อเป็นการขอบคุณ แขนของลุคว่างเปล่าในทันใด เขามองไปที่เบียงก้าซึ่งกำลังพาลูก ๆ ไปเล่นที่อื่นด้วยความห่วงใยและความไม่พอใจที่ก่อตัวขึ้นในหัวใจของเขา เขาไม่พอใจที่เบียงก้าตอบโต้เขาอย่างเย็นชาก่อนหน้านี้ แม้ว่าเขาจะคิดว่าเธอทำเช่นนั้นก็เพราะกลัวคนอื่นจะเห็น ความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะอ้างตัวเธอว่าเป็นของเขาเองนั้นก็ทำให้เขาไม่พอใจด้วย เขาอยากจะเดินไปกอดเธอในอ้อมแขนและประกาศให้ทุกคนรู้ว่าเบียงก้า เรย์นเป็นผู้หญิงของลุค ครอว์ฟอร์ขนาดไหนใครจะรู้! ไม่เพียงเท่านั้น ผู้หญิงคนนั้นยังให้กำเนิดลูกของเขาด้วย! ไม่ใช่แค่หนึ่ง แต่ถึงสอง! เบียงก้าก้มศีรษะลงที่เท้าของผู้บริหารเมืองเป็นการทักทาย แล้วก้มหน้าก้มตาวิ่งหนีไปราวกับว่าเธอกำลังหลบหนี เธอกังวลว่าผู้บริหารเมืองจะเข้าใจผิด “ช่างอ่อนโยนและอบอุ่นเหลือเกินนะ ท่านประธานครอว์ฟอร์ด! เราก็ทานอาหารเย็นกันบ่อย ๆ ทำไมผมไม่เห็นด้านนั้นของคุณเลยล่ะ?” ผู้บริหารเมืองชายวัยกลางคนหัวเราะ

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 205 ลุคแสดงความรักต่อหน้าสาธารณชน

    “น้าบี… จริงเหรอคะ?” เรนนี่มองไปที่เบียงก้าด้วยแววตาลูกสุนัขที่มีน้ำตาเอ่อคลอ เบียงก้าก้มศีรษะลงจูบที่หน้าผากของเรนนี่ และขยี้ผมของเธอ “ไม่เลย น้าไม่เคยคิดว่าหนูน่ารำคาญเลยนะ” น้ำเสียงของเบียงก้าอาจจริงจังเกินไป ไม่เพียงแต่จะโน้มน้าวใจเด็กน้อยอย่างเต็มที่ แต่คำพูดของเธอยังทำให้เจสันซึ่งกำลังขับรถอยู่ตกใจไปด้วย เจสันถือว่าตัวเองเป็นคนที่ผ่านอะไรมามาก เขาเคยเห็นคนทุกประเภทตั้งแต่ผู้สูงศักดิ์และยิ่งใหญ่ไปจนถึงคนอนาถาและน่ารังเกียจ ในช่วงหลายปีที่ทำงานกับเจ้านายมา เขาคิดว่าเขาเชี่ยวชาญในการอ่านนิสัยของคนอื่นและสามารถบอกความจริงจากการโกหกได้อย่างง่ายดาย ในขณะนั้น เจสันไม่รู้สึกถึงคำโกหกใด ๆ จากปากของเบียงก้าเลย เขาอดไม่ได้ที่จะแอบมองเบียงก้าผ่านกระจกมองหลัง ครู่หนึ่ง เขาคิดว่าตัวเองกำลังเห็นแม่ผู้ให้กำเนิดเด็กทั้งสองคน... โรงพยาบาลในเมืองเอ เมื่อผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ดตื่นขึ้น เขาไม่เห็นแม้แต่หลานชายหรือเหลนทั้งสองคนของตัวเอง เขาเริ่มกังวลทันที อลิสันเข้ามาในนาทีนั้นและพยายามปลูกฝังความคิดในหัวของชายชรา “พ่อจะโทรไปถามลุคไหม?” “ฉันควรถามอะไรล่ะ?” ผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ดตอบกลับระหว่

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 204 เขาอยากครอบครองเธอใจจะขาด

    เบียงก้ากับแวนด้าขึ้นไปชั้นบนเพื่อคุยกันเป็นการส่วนตัว ลุคกำลังอยู่ในสายของการประชุมธุรกิจระหว่างประเทศ ขณะกำลังคุยโทรศัพท์ เขาสามารถเห็นได้จากท่าทางของคนทั้งสองว่าการสนทนาระหว่างเบียงก้าและแวนด้านั้นไม่ปกติ แต่เขาไม่ได้ยินสิ่งที่ทั้งสองคนกำลังพูดกันเท่าไหร่นัก เมื่อเขาวางสาย ลุคเห็นจากหางตาว่าเบียงก้าและแวนด้าหายตัวแถวหัวมุม “เธอบอกว่าเธอเป็นน้าของเบียงก้า” เจสันเข้ามารายงานสถานการณ์ตามความจริง ลุคหันไปสั่งเจสันว่า "ไปสืบประวัติของน้าคนนั้น" เจสันโค้งคำนับ ลุคมองเข้าไปทางหน้าต่างชั้นสองที่เปิดทิ้งไว้ เขายังคงนิ่งเฉยไม่แสดงออก แม้ว่าความต้องการของเขาจะเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ในห้องบนชั้นสอง เบียงก้ารู้สึกเขินอาย ไม่เพียงเพราะเป็นครั้งแรกที่เธอได้พบกับน้าที่เธอเคยได้ยินผ่านเรื่องเล่า แต่ยังเป็นเพราะเธอกลัวว่าน้าจะรับรู้ถึงฮอร์โมนเพศชายที่แผ่ซ่านไปทั่วห้อง เธอรู้สึกราวกับว่าตัวเองทำอะไรผิด แวนด้าเหลือบมองไปรอบ ๆ ห้องและถามด้วยความสงสัย “ผู้ชายที่ลงมาข้างล่างกับเธอ…” “เขาเป็นเจ้านายของฉัน” เบียงก้าตอบก่อนที่น้าของเธอจะถามคำถามเสร็จ เบียงก้ายังเด็กและไม่ค่อยรู้จักวิธี

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 203 ทำไมคุณถึงขี้อายนักเล่า ผมก็เห็นทุกอย่างไปหมดแล้วนิ

    เบียงก้าสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของการข่มใจที่เล็ดลอดออกมาจากร่างของชายผู้นั้น แม้ว่าเธอจะได้รับการเตือนว่าชายผู้นี้มีความรู้สึกตรงกันข้ามก็ตาม เขาน่ะหรือจะห้ามใจ มีแต่จะทำตามใจตัวเองมากกว่า หัวใจของเธอเต้นแรง และปากเริ่มมีน้ำลายสอ เมื่อนึกถึงสัตว์ร้ายที่ซ่อนอยู่ใต้กางเกงของชายหนุ่ม “คุณ… ออกไปรอข้างนอก… ฉันอาบน้ำเองได้ค่ะ” หลังจากระเริงไปหลายครั้งเมื่อคืน เบียงก้าอายเกินกว่าจะเงยหน้ามองเขา บ้านหลังเก่าที่รกร้างและมืดมิดนั้นทั้งอบอุ่นและร้อนแรงเพราะมีเขาอยู่ กลิ่นของความสกปรกและความชื้นส่งกลิ่นแรงอยู่ตรงหน้าบ้าน แม้ว่าชายผู้นั้นจะจุมพิตและหายใจแรง แต่เธอก็ได้ให้ทุกสิ่งแก่เขาไป ราวกับว่าเธอได้หลอมรวมตัวเองเข้ากับร่างกายที่เร่าร้อนของเขาไป จากนั้น ก็ร่วมรักกันในรถอีกรอบ เบียงก้าคิดว่าลุคเป็นปีศาจที่หิวกระหายเนื้อมนุษย์ ไม่ว่ากลางวันหรือกลางคืนเขามักจะหิวโหยร่างกายของเธอเสมอ แต่ถึงกระนั้น เธอก็พลีกายให้เขาไปหลายครั้ง! โชคดีที่ความมืดมิดในยามค่ำคืนได้บดบังใบหน้าที่แดงก่ำของเธอ เพื่อที่เธอจะได้ไม่รู้สึกอึดอัดใจนักเมื่ออยู่กับเขาตามลำพัง แต่เธอไม่อาจหลบซ่อนมันจากการร่วมรักที

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 202 ตัณหาอันแรงกล้าในยามเช้าของลุค

    ชั้นล่างบริเวณสนามหญ้าหน้าบ้าน เพื่อนร่วมงานบางคนซื้อซาลาเปาสำหรับการทำงานกะเช้า ในขณะที่เพื่อนร่วมงานหญิงกำลังเตรียมข้าวโอ๊ตอยู่ในครัว ทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่าข้าวโอ๊ตที่ซื้อจากร้านมีเนื้อหยาบเกินไป เป็นครั้งแรกที่ลูก ๆ ของเจ้านายลิ้มลองซาลาเปาแป้งทำมือจากเมืองเล็ก ๆ พวกเขารับประทานคนละสองชิ้น แต่เหมือนจะยังไม่พอ เรนนี่ยัดขนมปังเต็มปากแล้วกะพริบตาอย่างไร้เดียงสาใส่คุณลุงดอยล์ของเธอ ก่อนขอเพิ่มทั้งที่ยังเคี้ยวอยู่เต็มปาก “ทานช้า ๆ ก็ได้ครับ เดี๋ยวลุงจะไปซื้อมาเพิ่ม” เจสันขยี้ผมของเรนนี่ เมื่อเขาลุกขึ้น เขาหันไปหาเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ แล้วพูดว่า "ผมจะซื้อมาฝากทุกคนเหมือนกัน" ขนมปังไม่เพียงพอสำหรับทุกคน การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของเจ้านาย ผู้ช่วย และลูกสองคนของเขาทำให้เพื่อนร่วมงานต้องแบ่งอาหารให้ ในเมืองกำลังพลุกพล่าน เจสันยืนอยู่หน้ารถขายอาหารและซื้อซาลาเปาใส่ไส้ไก่มากว่าสิบห้าชิ้น เมื่อเขาหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาและกำลังจะจ่าย เขาสังเกตเห็นผู้หญิงคนหนึ่งสวมชุดทำงานแสนเรียบร้อยเดินเข้าไปในสนามหญ้าหน้าบ้าน เธอดูเหมือนจะอยู่ในวัยสามสิบ "ชิ้นละ 1.80 เหรียญ ซื้อ 15 ชิ้นก็เป

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 201 เจ้านายเอาใจใส่ภรรยาของลูกพี่ลูกน้องมากเลยนะ

    รถลีมูซีนเบนท์ลีย์สีดำไม่ได้ขับรถเข้ามาในสนามหญ้าหน้าบ้านแต่กลับจอดอยู่ด้านนอกแทน ลุคไม่ได้ขับรถมาเอง หลังจากที่เจสันจอดรถแล้ว เขาก็ออกไปเปิดประตูเบาะหลัง เจ้านายและลูกน้อยสองคนก้าวออกมา เหมือนเช่นเคย ลุคแต่งตัวอย่างไร้ที่ติในชุดสูทมาดธุรกิจและรองเท้าหนัง ทว่าจากใบหน้าของเขาสามารถบอกได้ง่าย ๆ ว่าเขามีชีวิตชีวามากกว่าปกติราวกับว่าเพิ่งได้ยินข่าวดีมา เรนนี่อยู่ในอ้อมแขนของพ่อ เธอได้กลิ่นโคโลญจน์ของเขา ขณะที่ลานี่วิ่งอย่างตื่นเต้นไปที่สนามหญ้าหน้าบ้านพร้อมกับสะพายกระเป๋าเป้อยู่ “สวัสดีค่ะ พ่อหนุ่มน้อยรูปหล่อ!” เพื่อนร่วมงานหญิงคนหนึ่งทักทายลูกชายของเจ้านาย 'ทริปนี้คุ้มมาก!’ 'สิ่งอำนวยความสะดวกอาจจะไม่ดีเท่าในเมือง แต่ได้เห็นหน้าเจ้านาย และลูกชายกับลูกสาวที่น่ารักของเขาก็พอแล้ว!’ 'ช่างมีความสุขเหลือเกิน!' ลานี่มองไปรอบ ๆ ฝูงชนแต่ไม่พบคุณน้าบีเลย แต่เขาก็ไม่ลืมมารยาทและทักทายกลับว่า “อรุณสวัสดิ์ครับ คุณคนสวย!” เพื่อนร่วมงานหญิงที่ถูกเรียกว่า "คุณคนสวย" ยิ้มกว้าง โจพร้อมทำหน้าที่และพยายามอย่างหนักที่จะควบคุมสิ่งต่าง ๆ ให้อยู่ภายใต้การควบคุมของเขา เขาก้าวไปข้างหน้าแล

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 200 ทำไมเจ้านายถึงมาเร็วจังล่ะ

    เบียงก้าระงับเสียงครางเอาไว้ ร่างกายของเธอเกร็ง ขณะกำผ้าม่านตรงหน้าแน่น... ม่านไม่ได้ยึดอย่างแน่นหนา ขณะที่ชายที่อยู่ข้างหลังเธอเคลื่อนเข้าไปหาเธออีกนิ้ว เธออ้าปากค้าง และจิตใจว่างเปล่า ผ้าม่านหลุดลง... "ใจเย็น" ลุคก้มศีรษะลงและจูบต้นคอของเธอ ผิวขาวภายใต้แสงจันทร์ดูเรียบเนียนและอ่อนโยน การเคลื่อนไหวของเขาเชื่องช้าอย่างจงใจ ปากของเขาทิ้งร่องรอยต่าง ๆ ไว้บนร่างกายของเธอ “อา… อืม…” เธอไม่สามารถต้านทานริมฝีปากและเรียวลิ้นที่บุกรุกเข้ามาได้ เบียงก้าเชยคางและทิ้งตัวบนหน้าต่าง ชายที่อยู่ข้างหลังเธอยังคงดันนิ้วเข้าไปทีละนิ้วราวกับเขาถูกปีศาจสิง เธอรู้สึกได้ว่าการหายใจของเธอเริ่มหนักขึ้น เธอหายใจถี่และลึกขึ้นเพื่อจะได้หายใจหายคอสะดวกขึ้น อากาศก็เริ่มเย็นลง ตอนที่เบียงก้าลืมตาขึ้น เธอมองเห็นหน้าต่างที่มีฝ้าขึ้นจากลมหายใจของเธอ ความรู้สึกไม่สบายกายเกิดขึ้นเพียงห้านาทีและกลายเป็นความเลื่อนลอย... มันเป็นความรู้สึกที่คุ้นเคย ไม่ว่าจะเป็นเมื่อห้าปีที่แล้วที่เธอเคยชินกับการปรากฏตัวของชายคนนั้น หรือในปีนี้ที่เธอได้ติดต่อกับชายคนนั้นที่โรงแรม เธอก็รู้สึกสั่นสะท้านเช่นเดียวกัน… มื

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 199 เธอกลายเป็นผู้หญิงของลุค ครอว์ฟอร์ด

    เธอไม่อาจต้านทานจุมพิตอันเร่าร้อนของชายผู้นี้ไม่ได้ บนใบหน้าของพวกเขา กลิ่นของทั้งสองเป็นเหมือนกับสิ่งที่คุ้นเคยแต่แปลกใหม่ อาจเป็นเพราะพวกเขาเกือบเสร็จกิจเมื่อเช้านี้เอง และตอนนี้พวกเขาก็มีโอกาสอีกครั้ง ลุครู้สึกราวกับว่าตัวเองได้แปลงร่างเป็นสัตว์ร้ายที่หิวกระหาย ความปรารถนาที่ไม่ลดละของเขาบดขยี้ริมฝีปากอ่อนนุ่มของเธอ แม้ว่าเขาจะไม่ลดความรุนแรงลง เขาสามารถรับรู้ได้ถึงความทรมานจากเสียงครางของเธอ เขาอยากจะกลืนกินร่างที่เขาหิวโหยไป ชายหนุ่มดูราวกับเด็กที่เพิ่งได้ลองชิมขนมเป็นครั้งแรก เขาปรารถนาร่างกายของเธอมานานแล้ว จนเมื่อเช้าที่เขาได้มีโอกาสได้ลิ้มรสความหวานอันเป็นเอกลักษณ์ของมัน เมื่อได้รับขนมอร่อย ๆ เด็กที่ไหนก็เหมือนกันหมด พวกเขาจะแกะมันออกจากห่ออย่างตะกละตะกลาม แล้วเอาเข้าปาก ก่อนใช้ความอบอุ่นและน้ำลายละลายพวกมัน พวกเขาอาจจะอ่อนโยนหรือรุนแรง ก็แล้วแต่ระดับความกระหายของคนเป็นเจ้าของ... ลุคกับเบียงก้า เปรียบได้กับเด็กตะกละกับขนมอร่อย ... “อืมมม…” ร่างของเบียงก้าอ่อนยวบเมื่อลุคกอดเธอในอ้อมแขนจนแน่น ช่องปากของเขาอุ่นชื้น เธอจมดิ่งลงไปในจูบอันป่าเถื่อนของเขา… เธอกำ

DMCA.com Protection Status