หน้าหลัก / โรแมนติก / พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก / บทที่ 17 ราวกับพวกเขาไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน

แชร์

บทที่ 17 ราวกับพวกเขาไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน

ผู้เขียน: พะเนินเทินทึก
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2021-09-24 16:35:01
“พวกเรามาที่นี่ เพราะว่า…” ลุคยังพูดไม่ทันจบประโยค เขาก็มองไปเห็นหญิงชราคนหนึ่งเดินมาทางพวกเขา

หรือคุณยายท่านนี้จะเป็นแม่ของคุณบี?

“สวัสดีครับ คุณยาย!” ลานี่ทักทายหญิงชราอย่างสุภาพ

คุณยายอย่างนั้นหรือ...?

เบียงก้ามองตามลานี่ไปยังด้านหลังของเธอ

หญิงชราวัยห้าสิบเศษ สวมชุดวอร์มอะดิดาสสีชมพูขาว เธอเดินมาหยุดอยู่ตรงพวกเขาสามคน

ลุครู้ดีว่าหญิงชราคนนี้ไม่ใช่แม่ของเบียงก้า เขาจึงไม่ได้พูดอะไร

“คุณน้ามีอะไรรึเปล่าคะ?” เบียงก้ากังวลกับสายตาที่หญิงชรามองมาที่เธอ

หญิงชราขมวดคิ้วก่อนจะเริ่มแนะนำบางอย่างแก่เบียงก้า “เมื่อแต่งงานแล้ว เธอต้องเรียนรู้วิธีดูแลเอาใจใส่คนในครอบครัวของเธอด้วยสิ อย่าทำให้สามีและลูกของเธอโกรธ ที่ฉันจะพูดก็คือ ดูเธอสิ! นี่มันกี่โมงกี่ยามกันแล้ว แต่เธอเพิ่งกลับน่ะรึ?”

คำว่า “สามีของเธอ” คงจะหมายถึงชายหน้าตายที่ยืนอยู่ข้างหลังเธอเป็นแน่

เบียงก้าทั้งอับอายและอึดอัดที่สุด

เบียงก้าพยายามจะอธิบายให้หญิงชราเข้าใจ แต่หญิงชราหันไปมองลุคด้วยสายตาอันไร้ความปราณีเช่นกัน “คุณเองก็ไม่ได้เป็นสามีที่ดีนักหรอกนะ คุณไม่ควรจะโกรธภรรยาของคุณ เพียงเพราะเธอเข้มงวดกับคุณ อย่างนี้แล้วคุณจะเป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกคุณได้ยังไง? ผู้ชายสมัยนี้ก็ควรจะเรียนรู้วิธีทำอาหารเหมือนกัน ไม่ใช่ผลักภาระงานบ้านทุกอย่างให้ภรรยาทำอยู่ฝ่ายเดียว เธอแต่งเข้ามาเป็นภรรยาไม่ใช่คนใช้!”

เบียงก้าคิดไม่ตกว่าหญิงชราคิดไปไกลเช่นนี้ได้อย่างไร

ทำไมเธอถึงเข้าใจอะไรไปในทางนั้นได้

ใคร ๆ ก็น่าจะมองออกว่าระหว่างเขากับเธอนั้นเหมือนมาจากคนละโลกกัน

“คุณน้าคะ คุณกำลังเข้าใจผิด เขาเป็นเจ้านาย ส่วนฉันเป็นลูกน้องของเขาเท่านั้นค่ะ” เบียงก้าอธิบายอย่างรวบรัด

มีวูบหนึ่งที่หญิงชราจะเปิดปากพูดต่อ แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เธอมองเบียงก้า ลุค และเด็กผู้ชายตัวเล็กอย่างชั่งใจ

พวกเขาน่ะหรือจะไม่เกี่ยวข้องกัน คนพวกนี้เห็นว่าเธอโง่รึ?

‘มันชัดเจนอยู่แล้วว่าเธอน่ะมีอะไรบ่างอย่างกับพ่อรูปหล่อนี่’

‘ให้ตายเถอะ โลกนี้มันเป็นอะไรไปแล้วกันแน่นะ? ฉันไม่ยักรู้ว่าก่อนว่าที่นี่มีพวกผู้หญิงอย่างว่าอาศัยอยู่ที่นี่ด้วย...’

เบียงก้าถูกเข้าใจผิดอย่างไม่มีเหตุผล เธอได้แต่เม้มปากตอนที่หญิงชราเดินจากไป เธอคงไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรกับพ่อลูกคู่นี้ ถ้าหากเธอหันหลังกลับไป

เพราะว่าเธอไม่ได้สนิทชิดเชื้ออะไรกับเขาสองคนเลยสักนิดเดียว

เบียงก้ารู้ดีว่าสาวโสดเช่นเธอควรหรือไม่ควรทำอะไร มันเป็นเรื่องปกติที่จะต้องมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานต่างเพศ แต่มันคงไม่เหมาะนักที่จะนัดพบกับชายอื่นเป็นการส่วนตัวในเวลากลางค่ำกลางคืนเช่นนี้

ลุคก้มลงมองลูกชายที่ยืนอยู่ข้าง ๆ แล้วพูดกับเขา “ลูกมีอะไรจะบอกเธอใช่ไหม? พูดออกไปสิ!”

เบียงก้าหมุนตัวกลับมา

บรานช์ ครอว์ฟอร์ด เหลือบตามองผู้ใหญ่ทั้งสองคน เขาไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรด้วยซ้ำ... แต่พ่อบอกว่าเขามีบางอย่างจะต้องพูด... และดูเหมือนพ่อจะอยากให้เขาพูดเดี๋ยวนี้!

อ๋อ ในที่สุดลานี่ก็จำได้!

เขามาที่นี่ก็เพราะผู้เป็นพ่อต้องการเพื่อนสักคนก็เท่านั้น

เด็กชายตัวเล็กเดินออกไปด้วยขาสั้น ๆ ของตัวเอง แล้วกลับออกมาจากมุมอับแสงพร้อมกับกล่องใหญ่สองกล่องที่อุ้มมาด้วยแขนสั้น ๆ ของเขา

กล่องหนึ่งมีสีฟ้าอ่อน ในขณะที่อีกกล่องมีสีขาว ทั้งสองกล่องประดับด้วยริบบิ้นที่ทำจากผ้าไหมราคาแพง “คุณบีครับ นี่เป็นของขวัญสำหรับคุณนะครับ” ลานี่หันกลับไปมองพ่อของตัวเองหลังจากพูดจบ เพราะกลัวว่าตัวเองจะพูดอะไรผิดไป

บลองช์เป็นเด็กตัวเล็ก ๆ เบียงก้าได้ยินในสิ่งที่เขาพูด แต่ไม่ได้เห็นสีหน้าของเขาแต่อย่างใด

ถึงแม้ว่าเธอจะไม่อยากได้ของขวัญอะไรจากลุค ครอว์ฟอร์ดอีก แต่เธอก็ตัดสินใจรับมันเพราะเห็นว่าเด็กชายต้องแบกของขวัญหนัก ๆ เอาไว้ ในตอนนั้นเองที่เธอเห็นสีหน้าของเด็กชาย...

เบียงก้าเห็นแววตาของเด็กชายที่มองมาอย่างเธอ ก่อนจะส่งยิ้มอย่างเป็นมิตรมาให้

“ทำไมหนูบลองช์ถึงให้ฉันล่ะ?” เบียงก้าถามเด็กชายที่ยืนอยู่ตรงหน้า แต่เธอกำลังรอให้ผู้เป็นพ่อเป็นคนตอบคำถาม

เธอไม่ได้ล่วงรู้เลยว่า ชายหนุ่มผู้แสนเย็นชามองเห็นแหวนเพชรที่นิ้วนางของเธอเข้าแล้ว...

แหวนที่หมายความว่าเธอหมั้นกับชายอื่นไปแล้ว

“หืม… หนูบลองช์ก็ไม่รู้เหมือนกันอย่างนั้นเหรอคะ?” บลองช์ไม่สามารถปิดบังเบียงก้าได้อีก สีหน้าของเขาแสดงออกถึงความบริสุทธิ์ไร้เดียงสาสมวัย เขาเกามือตัวเองอย่างเขอะเขินแล้วหันไปมองผู้เป็นพ่ออย่างสับสน

“หมดเรื่องของลูกแล้ว เราก็กลับกันเถอะ!” ลุคบอกลูกชาย เขาส่งสายตาสีดำแสนลึกลับไปยังเบียงก้าที่บัดนี้มีกล่องของขวัญเต็มไม้เต็มมือ เขายังมองเธออีกครั้งก่อนจะเดินจากไป

ทั้งเบียงก้าและลานี่มองชายหนุ่มที่เดินจากไปดื้อ ๆ

“พ่อผม คือ…” ลานี่อยากจะพูดบางอย่าง หากแต่ต้องสงบปากสงบคำเมื่อพูดได้เพียงครึ่งประโยค แววตาของเขาฉายแววผิดหวัง

เบียงก้าเคืองอยู่หน่อย ๆ “จริง ๆ แล้วฉันรับของขวัญของคุณไม่ได้หรอกค่ะ”

“ทำไมล่ะครับ?”

เธอไม่ได้อธิบายเหตุผลที่แท้จริงให้แก่เด็กอายุห้าขวบฟัง เพราะอย่างไรเขาก็คงไม่เข้าใจ

นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเธอถึงได้หาเหตุผลที่เด็กคนหนึ่งจะเข้าใจขึ้นมาแทน “ฉันไม่รับของขวัญที่ตัวเองไม่สมควรจะได้หรอกค่ะ”

ด้วยเหตุนั้น เธอยัดกล่องของขวัญกลับใส่มือของลานี่ไปด้วยรอยยิ้ม

“หนูควรเดินตามพ่อของหนูไปก่อนที่เขาจะห่างมากเกินไปนะ”

รถปอร์เช่สีขาวแล่นเข้ามาจอดที่ริมทางเข้าหมู่บ้าน

สีหน้าของชายคนนั้นเคร่งขรึม เมื่อเขานั่งอยู่บนเบาะคนขับ มือข้างหนึ่งอยู่บนพวงมาลัย ในขณะที่อีกข้างคีบบุหรี่ไว้ในมือ เขายกบุหรี่ขึ้นสูบอย่างดุดัน

“ลูกเห็นถังขยะข้างหลังไหม? โยนทิ้งไว้ตรงนั้นแหละ!” ลุคกล่าวอย่างเย็นชา เมื่อเห็นว่าลูกชายยกกล่องพวกนั้นกลับมาที่รถ

เมื่อพวกเขากลับมาถึงคฤหาสน์ครอว์ฟอร์ด

ลุคปลดเข็มขัดนิรภัยออกบ้างเมื่อเขาเห็นว่าลูกชายปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วเดินลงจากรถไป เด็กชายไม่ได้พูดอะไรอีกตลอดทางที่เขาเดินเข้าบ้านไป

ผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ดที่กำลังดื่มชาอยู่ที่สวนเห็นว่าหลานชายคนโตรีบเดินลงจากรถแล้วรีบขึ้นบันไดกลับไปอย่างเงียบ ๆก็ค่อนข้างเป็นกังวล

“เกิดอะไรขึ้นกับเหลนชายคนโตของฉัน ใครทำอะไรให้เขาไม่พอใจ?”

ในสายตาของเขา ลุคและลานี่ไม่เคยทะเลาะกันแม้แต่ครั้งเดียวตลอดห้าปีที่ผ่านมา

ลุคคลายเนคไทของเขาก่อนจะเดินเข้าไปในคฤหาสน์

“ลูกพาลานี่ของแม่ไปเป็นกันชนเรื่องผู้หญิงอีกแล้วเหรอ?” อลิสัน แทนเนอร์เดินมาช่วยถอดเสื้อให้ลูกชาย เธอพยายามคาดเดา

ลุคส่ายหน้า

เพียงเท่านั้น อลิสันถึงกับนิ่งไป แล้วนี่มันเรื่องอะไรกัน?

ตามปกติแล้ว นั่นเป็นสิ่งเดียวที่จะทำให้ลานี่เป็นเช่นนี้

ตั้งแต่เล็กจนโต ลานี่และเรนนี่ได้รับการปกป้องดูแลอย่างดี พวกเขาไม่ได้พบเจอใครต่อใครมากนัก พวกเขาไม่รู้จักคำว่าแม่ด้วยซ้ำ

มีเพียงครั้งเดียวที่พวกเขาได้รับรู้ว่าเด็กคนอื่น ๆ มีทั้งพ่อและแม่ของตัวเอง

วันนั้นเอง ลานี่กลับมาที่บ้านแล้วถามขึ้นมา “แม่ของพวกเราอยู่ที่ไหนครับ?”

ผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ดยังคงโกหกเด็กน้อยต่อไป เขาบอกเด็กทั้งสองว่าพวกเขาไม่มีแม่

ลานี่เข้าใจสิ่งอื่นมากกว่าเด็กห้าขวบทั่วไป และครั้งนี้ปู่ก็ไม่สามารถโกหกเขาได้อีก

สายตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนาอันแรงกล้าของลานี่ทำให้ชายชราพ่ายแพ้ เขาถอนหายใจออกมา “แม่ของหลานจากไปในที่ที่ไกลแสนไกล ถ้าหากวันหนึ่งแม่หลานกลับมา ปู่ทวดจะให้พ่อแนะนำหลานให้ผู้หญิงคนนั้นรู้จัก”

ลานี่ที่ได้ฟังดังนั้นจึงจดจำทุกถ้อยคำฝังไว้ในหัวใจ

อลิสันส่งต่อเสื้อของลูกชายให้สาวรับใช้

เธอเดินไปที่หน้าต่าง อลิสันมองลงไปยังข้างล่าง ในฐานะแม่ของลูกและย่าของเด็กทั้งสองคน เป็นไปไม่ได้เลยที่เธอจะไม่กังวลเรื่องตัวตนที่แท้จริงของแม่ของหลาน ๆ

และเพราะว่าเวลาได้ล่วงเลยมามากกว่าห้าปีแล้ว มันจึงไม่ง่ายเลยที่จะออกตามหารายละเอียดของข้อตกลงในอดีต

ในฐานะแม่ของลุค เธอไม่เคยถามเขามาก่อน และเขาเองก็ไม่เคยปริปากพูดอะไรเกี่ยวกับข้อตกลงนั้นแม้แต่คำเดียว

สำหรับเฟย์ โทมัส และชาร์ลส์ ฟินน์ ผู้ที่เคยเป็นดั่งมือขวาและมือซ้ายของลูกชายของเธอ ผู้ซึ่งเกษียณออกไปนานแล้วเนื่องด้วยปัญหาสุขภาพ บางทีเธออาจจะไปเยี่ยมพวกเขาในสักวันหนึ่ง และถ้าหากเธอได้ไปที่นั่น บางทีพวกเขาอาจจะยอมเปิดปากออกมา...
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Piyapatta Samungkun
พระเอกมีเงินล้นฟ้าแต่ไม่เคยคิดที่จะแอบไปดูหรือติดตามข่าวคราวนางจนผ่านไป5ปีมาเจอกันถึงเริ่มสนใจนางก็ตอนนางมีคู่หมั้นตอนเขาโสดไม่เห็นสนใจหยิ่งอยู่บนฟ้าไร้สาระ ทำไมพอเห็นหน้าก็รู้สึกชอบแม่ของลูกแต่ไม่เห็นหน้าก็ไม่สนใจไม่ชอบงี้เง่าปัญญาออ่นทำไมทำให้ทุกอย่างมันยุ่งยากด้วยนาเอกก็มีแฟนเพราะผู้รักตัวบ้าบอ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 18 เขาไม่ต้องตามหาภรรยาอีกแล้ว

    วันถัดมาเบียงก้าออกจากบ้านตอนแปดโมงเช้าเธอภูมิใจเหลือเกินที่ห้องเช่าราคาถูกนี้อยู่ไม่ไกลจากที่ทำงาน เพราะด้วยรถไฟใต้ดิน เธอใช้เวลาแค่เพียงยี่สิบนาทีก็เป็นอันถึง เมื่อเธอเดินพ้นตัวอาคารออกมา เบียงก้าจำต้องยกมือขึ้นป้องที่ใบหน้าของตัวเองเพื่อให้พ้นจากแสงแดดอันแรงกล้าเธอแทบไม่ได้หลับได้นอนตลอดทั้งคืน ดวงตาของเธอจึงเหนื่อยล้ามากในตอนที่ลุกจากเตียงเพียงแค่แสงแดดก็มากพอจะทำให้ตาของเธอระคายเคืองได้แล้วเมื่อคืนเบียงก้าใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการพิจารณาถึงความเป็นไปได้ทั้งหมดเพื่อตอบคำถามที่ว่าทำไมท่านประธานต้องให้ของขวัญอะไรเธอมากมายขนาดนี้?เรื่องการดูแลถึงบ้าน หรือแม้แต่เรื่องสุขภาพนั่นคงจะเป็นสิ่งที่เขามอบให้แทนคำขอบคุณ เพราะเธอช่วยดูแลลูก ๆให้เขาอย่างนั้นใช่รึเปล่า?”เรื่องดอกไม้นำเข้านั่น อาจจะเป็นเพราะว่าเขาแค่อยากจะปลอบใจเธอที่ป่วยอย่างนั้นหรือ?ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ผู้ชายคนนั้นไม่ได้ดูเป็นมิตรเอาเสียเลยเธอยังงงรู้สึกมึนงงกับของขวัญสองกล่องเมื่อคืนไม่หายไม่ว่าจะเป็นเรื่องความฟุ่มเฟือยของเขา หรือแม้แต่ของขวัญที่เขาส่งให้เธอเมื่อคืน ทั้งหมดนั่นสร้างความไม่สบายใจให้เบียงก้าอย่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2021-09-24
  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 19 อย่างไรเสียมันก็เป็นบ้านของเธอ

    บลองช์มองดูพ่อของเขาขับรถออกไปอย่างไม่พอใจ เด็กชายรู้ดีว่าครั้งนี้ตนทำให้พ่อต้องเจ็บปวดจากคำพูดที่ทิ่มแทงเข้าไปในหัวใจอันแสนเย็นชาของเขาเรนนี่ลงมาจากบันได แล้วเดินออกมานอกตัวบ้าน เธอถามพี่พี่ชายของตัวเอง “พ่อไปไหนเหรอคะ?”“ไม่รู้สิ พี่คิดว่าพี่คงจะทำให้พ่อไม่พอใจแน่เลย” เด็กชายก้มศีรษะลงอย่างรู้สึกผิด น้ำเสียงดูไม่ดีนักในตอนที่เขาสารภาพกับน้องสาว“พี่ชายคะ หนูคิดถึงคุณบีจัง!”ถ้าจะถามว่าแล้วกับพ่อของเธอล่ะ? เขาเป็นอย่างไร? พ่อของเธอเป็นไม่ใช่คนสนุกสนานเฮฮา เขามักจะมองเธอด้วยสายตาอันแสนเย็นชา เธอชอบพ่อของตัวเองน้อยกว่าคุณครูที่ช่างคุยจนน่ารำคาญของตัวเองเสียอีก เรนนี่ ครอว์ฟอร์ดไม่เคยสนใจด้วยซ้ำว่าพ่อของเธอจะมีเวลาช่วงวันหยุดให้เธอหรือไม่แต่คุณบีต่างออกไป เธอเป็นคนน่ารักแถมยังยิ้มเก่งเสียด้วย“เรนนี่อยากให้พี่พาไปหาคุณบีที่บ้านของเธอไหม? พี่รู้ว่าคุณบีอยู่ที่ไหน!” บลองช์พูดแล้วจับมือของเรนนี่เอาไว้เรนนี่พยักหน้ารับสองแฝดความต้องการตรงกันในทันทีสองพี่น้องออกจากบ้าน หาแท๊กซี่จากแอปพลิเคชั่นหลังจากที่พวกเขาบอกจุดหมายปลายทางแก่คนขับ รถยนต์คันนั้นก็มุ่งตรงไปยังระแวกบ้านของเบีย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2021-09-25
  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 20 คุณพ่อจะตีก้นคุณแน่

    ลุคไม่แม้แต่จะมองเธอด้วยซ้ำ เขาเพียงแค่เอ่ยเตือน “อาหารเย็นชืดหมดแล้ว”เพียงเท่านั้น เขาก็หันหลังแล้วเดินไปยังระเบียงเล็กและแคบเพียงสองตารางเมตร ราวกับว่าเขารู้จักที่นี่ไม่ต่างไปจากหนังมือของตัวเองเบียงก้ายืนตัวแข็งทื่ออยู่อย่างเดิม ลุคทำตัวเหมือนกับเป็นเจ้าของบ้าน เขาล้วงเอากล่องบุหรี่ออกมาแล้วเดินไป เขาหยิบบุหรี่ออกมาจากกล่อง คีบมันใส่ปากแล้วจุดไฟสูบทุกกริยาของเขาดูนุ่มนวลและเท่เหลือทนที่นี่มันบ้านของเธอ แต่เด็กสองคนที่นั่งถือช้อนอยู่บนโต๊ะขณะที่จ้องมองชามที่ยังว่างเปล่า ทำเอาเธอรู้สึกติดค้างพวกเขาเสียอย่างนั้น แต่พวกเขาก็ยังเชื่อฟังและน่ารักอย่างยิ่งปัญหาเดียวของเธอก็คงจะเป็นผู้ใหญ่ที่ยืนอยู่ตรงนั้น เขาดูจะไม่สนใจเลยสักนิดว่าเธอเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ตามมารยาทแล้ว ควรจะมีใครสักคนอธิบายว่าเขาเข้ามาที่นี่ได้อย่างไร…เบียงก้าตักอาหารให้เด็กทั้งสองก่อน เธอไม่ได้กินอะไรเลย แต่เลือกที่จะไปหลบในครัวแทนเธอทำเรื่องพื้นฐานทุกอย่างที่แม่ของบลองช์และเรนนี่ควรทำ โดยที่ไม่มีรับค่าตอบแทนอะไรกลับมานี่มันดูไม่เข้าท่าเอาเสียเลยเบียงก้าหลงคิดไปว่าห้องครัวจะเป็นสถานที่ปลอดภัยของเธ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2021-09-25
  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 21 เขาน่าจะตรวจสอบดูชุดชั้นในของเธอ

    ริมฝีปากอันอบอุ่นและเย้ายวนของลุคลูบไล้ลงไปยังเนินอกของเบียงก้า... เสียงลมหายใจดังหวีดหวิว เธอสัมผัสได้ถึงอารมณ์ที่ประเดประดังอยู่ภายในกำลังจะปะทุออกมา น้ำตาหลั่งรินออกมาจากดวงตาคู่น้อยของเธอราวกับสายน้ำไหล ทันใดนั้น ความคิดของเธอพลันพลันถลำลึกลงไปยังเหตุการณ์ที่เอ่ยถึงไม่ได้คืนนั้นเมื่อห้าปีก่อน เสียงใด ๆ ไม่อาจกระทบกับโสตประสาทของเธอได้นอกจากเสียงเหนื่อยหอบของชายหนุ่มตรงหน้า เบียงก้าจำได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นในตอนนั้นหลังจากที่เธอได้ให้กำเนิดแล้ว เธอกับนีน่าคุยกันผ่านวิดีโอในตอนที่เธอบังเอิญเห็นเศรษฐีในข่าวทางโทรทัศน์ ข้อตกลงถือเป็นสิ่งที่เด็ดขาด มันไม่สำคัญว่าเขาจะเป็นผู้ชายประเภทไหน เบียงก้าไม่มีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธอยู่ดี เมื่อโดนบังคับจูบอย่างไม่เต็มใจ เบียงก้าอดไม่ได้ที่จะนึกถึงชายวัยกลางคนผู้นั้นจนอาการคลื่นไส้ซัดขึ้นมาเหนือหน้าอก จากนั้นเธอก็รู้สึกว่าครองสติไม่อยู่ ลุคสัมผัสได้ว่าเธอกำลังฟุ้งซ่าน เขาจับที่คางของเธอด้วยมือข้างหนึ่ง จากนั้นเขาก็เงยหน้าของเธอขึ้นอย่างช้า ๆ ดวงตาที่เต็มไปด้วยตัณหาของเขาจ้องมองมาที่เธออย่างจดจ่อ "คุณกำลังคิดอะไรอยู่? คุณร้องไห้ทำไม?" เบี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2021-09-25
  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 22 เสียงทั้งสองสอดประสานทีละน้อย

    ในคืนนั้น ณ คฤหาสน์ครอว์ฟอร์ด ทั้งครอบครัวกำลังรับประทานอาหารเย็น และลุค ครอว์ฟอร์ดไม่ได้ร่วมมื้ออาหารนั้นด้วย อลิสัน แทนเนอร์หยิบชิ้นแตงกวาใส่ลงในชามของลานี่ จากนั้นก็หยิบใส่ลงในชามให้เรนนี่ “คุณย่าอยากให้สิ่งที่ดีกับพวกหลานนะ แม้ว่าจะไม่ชอบ แต่หลานจะต้องหัดกินบ้าง หลานกำลังเติบโตขึ้น ดังนั้นพวกหลานคงไม่อยากจะตัวเล็กไปตลอดใช่ไหมจ๊ะ?” ทุกคนที่อยู่ร่วมโต๊ะต่างก็กำลังรับประทานอาหาร บลองช์มองแตงกวาในชามแล้วตักเข้าปาก เขารับประทานเข้าไปอย่างว่าง่าย หลังจากนั้น เขาก็เงยหน้าขึ้นและมองไปที่คุณย่าของตอน “คุณย่า ทำไมถึงไม่ทานหัวหอมบ้างล่ะครับ?” มีจานหัวหอมผัดอยู่บนโต๊ะ บลองช์และน้องสาวของเขาต่างก็ชื่นชอบเช่นเดียวกับคุณปู่ทวด คุณลุงหลุยส์และคุณย่าซูซานเองก็ชอบหัวหอมเช่นกัน มีเพียงคุณย่าเท่านั้นที่ไม่ชอบหัวหอม เธอมักจะผลักจานหัวหอมผัดออกห่างจากเธอ คุณย่ามักจะพูดเสมอว่า กลิ่นของมันเหม็นจนทำให้เธอไม่อยากอาหาร ก่อนที่อลิสันจะได้พูด ซูซาน อาร์มสตรองก็กล่าวออกมาอย่างเย้ยหยันว่า “เพราะว่าคุณย่าหลานเป็นพวกเรื่องมากยังไงล่ะ” เมื่อผู้อาวุโสคอรว์ฟอร์ดได้ยินเช่นนั้น เขาก็ขมวดคิ้วและกระแอมอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2021-09-25
  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 23 เห็นคนที่ชอบมั่วไปทั่วด้วยตาของเธอเอง

    มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เด็กชายยังคงไม่เข้าใจ ดังนั้นเขาจึงยืนอยู่ที่ประตูห้องน้ำและรอให้พ่อของเขาออกมาหลังจากอาบน้ำเสร็จจากนั้นไม่นาน ลุคก็ออกมาจากห้องน้ำโดยมีเพียงผ้าขนหนูพันรอบเอว หน้าอกอันกระชับของเขาเปล่งประกายไปด้วยหยดน้ำที่มองดูแล้วให้ความรู้สึกที่แสนจะเย้ายวน“คุณพ่อครับ ผมเชื่อว่าคุณบีเธอเองก็มีพ่อมีแม่ แล้วทำไมพ่อถึงต้องดูแลด้วย?” บลองช์ยังคงไม่สามารถหาคำตอบได้ลุคนั่งลงด้วยท่าทางที่ผ่อนคลายในขณะที่เขากำลังเช็ดผมที่เปียกด้วยผ้าขนหนู เขาถามกลับว่า “ลูกอายุเท่าไหร่? แล้วเธออายุเท่าไหร่?"“อืม ผมอายุ 5 ขวบ...” บลานช์ตอบ “แต่ผมไม่รู้ว่าคุณบีอายุเท่าไหร่”ลุคมองดูลูกชายแล้วตอบอย่างจริงจังว่า “ลูกอายุ 5 ขวบและเธออายุ 24 ปี ทั้งสองคนอายุห่างกันตั้ง 19 ปี ลูกจะเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ และลูกจะเป็นผู้ใหญ่เหมือนกับพ่อ เมื่อถึงตอนนั้น ลูกจะมีอาชีพและความฝันที่อยากจะไล่ตาม และพ่อก็คงจะมีอายุสัก 50 ได้และหลังจากไม่นาน พ่อก็จะแก่ชราเช่นเดียวกับคุณบีของลูก วันหนึ่งเราจะแก่เหมือนกับคุณปู่ทวดของลูก แต่กว่าจะถึงวันนั้นยังมีเวลาอีกมากมาย ผู้ชายมีไหล่ที่แข็งแรงกว่าผู้หญิงเมื่อต้องทนต่อเรื่องความเจ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2021-09-26
  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 24 เอามือสกปรกของเธอออกไป

    เบียงก้าโทรหาฌองอย่างไรก็ตาม เธอได้รับข้อความแบบเดียวกันจากระบบ “ขออภัยค่ะ หมายเลขที่คุณเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้”ทันใดนั้น เบียงก้าก็รู้สึกไม่สบายใจเธอหวังว่าจะไม่มีอะไรเลวร้ายเกิดขึ้นจากนั้น เธอก็โทรหานีน่านีน่ารับสายทันทีและถามว่า “มีอะไรเหรอ เพื่อนรัก?”เบียงก้าจึงอธิบายทุกอย่างให้เธอฟังจากนั้นนีน่าก็กล่าวว่า “ฉันเดาว่าอาจจะมีใครบางคนเรียกแม่ไปเล่นไพ่นกกระจอกก็ได้นะ? เธอคงจะไม่รู้ แต่ตอนเล่นไพ่นกกระจอก แม่ชอบเก็บโทรศัพท์เอาไว้ในกระเป๋า แม่ก็เลยอาจไม่ได้ยิน ส่วนพี่ชาย ก็คงกำลังจะยุ่งอยู่แหละ”เมื่อนีน่าพูดเช่นนั้น เบียงก้าจึงไม่คิดมากอีกเบียงก้าวางโทรศัพท์ลงและเดินไปเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำ มันช่วยให้เธอสดชื่นมากขึ้น ในขณะที่เธอกำลังเป่าผม เธอก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์บนโต๊ะกาแฟภายในห้องนั่งเล่นดังขึ้นฌองเป็นคนที่โทรเข้ามา"สวัสดีค่ะพี่" เบียงก้ารับสายทันทีฌองเงียบไปครู่หนึ่ง จนผ่านไปนาน ดูเหมือนว่าเขาจะกลั้นอะไรบางอย่างเอาไว้ก่อนที่เขาจะถามออกมาอย่างเย็นชาว่า “เบียงก้า เรย์น เธอมีผู้ชายซ่อนเอาไว้ลับหลังพี่กี่คน?”“อะไรนะ…พี่หมายความว่ายังไง? ฉันซ่อนผู้ชายเอาไว้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2021-09-26
  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 25 นอกใจนับครั้งไม่ถ้วน

    หญิงวัยกลางคนมองไปที่เบียงก้า ท่าทางของเธอไม่เปลี่ยนแปลงเลย เธอครุ่นคิดอยู่ภายในใจอย่างดูถูกเหยียดหยาม ‘อย่างที่คิดเอาไว้ไม่มีผิดว่าเธอเป็นพวกมั่วไปทั่ว เธอช่างเลือดเย็นและไร้หัวใจ! พี่สาวของเธอถูกดูหมิ่นอยู่แท้ ๆ แต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่สนใจเลย!”เดซี่รู้สึกผิดหวังจริง ๆ ในตอนนี้ ถ้าเธอรู้ว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น เธอน่าจะดูถูกเรื่องของนางตัวแสบนั่นแทน!รถไฟใต้ดินเพิ่งจะเคลื่อนที่ผ่านสถานีอีสต์เกทไป เดซี่รู้สึกหมดความอดทน เธอจ้องมองไปที่เบียงก้าและพูดว่า “ทำไมเธอถึงใจร้ายได้ขนาดนี้ สาวน้อย?"เบียงก้ามองไปที่เธอเธอเป็นคนใจร้ายอย่างไร?ในเวลาเดียวกัน เธอก็อยากรู้ว่า เดซี่ หญิงวัยกลางคนผู้นี้พูดจาไร้สาระเช่นนี้ได้อย่างไร?เดซี่จ้องมองไปที่เธอ “ตอนที่เราขึ้นรถไฟมา เธอพยายามที่จะแย่งที่นั่งกับฉันใช่ไหม? มองฉันสิ! ฉันอายุเกินห้าสิบแล้วนะ แต่ทำไมเธอถึงพยายามแย่งที่นั่งกับฉัน? อายุอานามก็ยังน้อยแต่กลับไม่มีปัญญาหาเงินซื้อรถยนต์เอง ก็เลยต้องมาขึ้นรถไฟและแย่งที่นั่งจากพวกเราผู้สูงวัยที่แทบจะเดินไม่ได้ด้วยซ้ำ!“เฮ้อ ขอบคุณพระเจ้าที่ลูกชายของฉันมีความสามารถมากพอ และก็ยังมีปัญญาซื้อรถยนต์ขับเองไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2021-09-26

บทล่าสุด

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 207 ครอบครัวทั้งสี่คนนอนอยู่ด้วยกัน

    เมื่อไม่มีทางเลือกอื่น เบียงก้าจึงเปิดประตูอย่างแผ่วเบา เด็ก ๆ ยังคงนอนในห้องเล็ก ๆ ขนาดสามร้อยตารางฟุตใต้แสงจันทร์ แต่ตอนนี้ผู้ใหญ่สองคนกลับกอดกันอยู่ตรงประตู เบียงก้าต้องการหันหลังกลับและมุ่งหน้าเข้าไปในห้อง แต่ชายหนุ่มก็กอดร่างอันบอบบางของเธอไว้แน่นอย่างร้ายกาจ “อย่าทำอย่างนี้สิคะ เด็ก ๆ จะเห็นเราถ้าพวกเขาตื่น…” เธอเหนื่อยหอบในอ้อมแขนของลุค ลุคเป็นสัตว์ร้ายอยู่แล้วตั้งแต่ตอนที่ยังเขาไม่ดื่ม แต่ตอนนี้เขาดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปแล้ว… เบียงก้าไม่อยากจะจินตนาการ เธอทำได้เพียงอธิษฐานว่าเขาจะไม่ดำดิ่งลงไป “ผมไม่บังคับคุณหรอกถ้าคุณไม่เต็มใจ คุณต้องบอกผมถ้าผมกำลังทำร้ายคุณอยู่ ต้องรีบบอกออกมาเลยนะ” ลุคเอาริมฝีปากบางและเย้ายวนของเขามาแนบใบหูของเธอ ก่อนจูบผิวที่ขาวเนียน เขาพยายามอย่างหนักที่จะระงับความอยากที่จะครอบงำเธอ เบียงก้าเงียบงันอยู่ในอ้อมแขนของเขา เธอรู้สึกสบายใจขึ้นเล็กน้อยเมื่อชายหนุ่มสัญญากับเธอ เธอคิดว่ามันน่าขันที่ลุคมักจะเป็นสัตว์ร้าย แต่เขาก็ยังเห็นอกเห็นใจมากขึ้นทั้งที่อยู่ในสภาพเมาเช่นนี้ ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนในตอนที่พวกเขากอดกัน เรนนี่หลับใหลและพึมพำห

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 206 คุณเมารึเปล่า

    เบียงก้าส่ายหน้าอย่างงุ่มง่ามเพื่อแสดงให้เห็นว่าเธอไม่เป็นไร เธอกังวลว่าใบหน้าที่บูดบึ้งของเขาอาจทำให้เด็กชายหวาดกลัว เธอจึงรีบขยับออกจากอ้อมแขนของเขาและพยักหน้าให้เขาเพื่อเป็นการขอบคุณ แขนของลุคว่างเปล่าในทันใด เขามองไปที่เบียงก้าซึ่งกำลังพาลูก ๆ ไปเล่นที่อื่นด้วยความห่วงใยและความไม่พอใจที่ก่อตัวขึ้นในหัวใจของเขา เขาไม่พอใจที่เบียงก้าตอบโต้เขาอย่างเย็นชาก่อนหน้านี้ แม้ว่าเขาจะคิดว่าเธอทำเช่นนั้นก็เพราะกลัวคนอื่นจะเห็น ความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะอ้างตัวเธอว่าเป็นของเขาเองนั้นก็ทำให้เขาไม่พอใจด้วย เขาอยากจะเดินไปกอดเธอในอ้อมแขนและประกาศให้ทุกคนรู้ว่าเบียงก้า เรย์นเป็นผู้หญิงของลุค ครอว์ฟอร์ขนาดไหนใครจะรู้! ไม่เพียงเท่านั้น ผู้หญิงคนนั้นยังให้กำเนิดลูกของเขาด้วย! ไม่ใช่แค่หนึ่ง แต่ถึงสอง! เบียงก้าก้มศีรษะลงที่เท้าของผู้บริหารเมืองเป็นการทักทาย แล้วก้มหน้าก้มตาวิ่งหนีไปราวกับว่าเธอกำลังหลบหนี เธอกังวลว่าผู้บริหารเมืองจะเข้าใจผิด “ช่างอ่อนโยนและอบอุ่นเหลือเกินนะ ท่านประธานครอว์ฟอร์ด! เราก็ทานอาหารเย็นกันบ่อย ๆ ทำไมผมไม่เห็นด้านนั้นของคุณเลยล่ะ?” ผู้บริหารเมืองชายวัยกลางคนหัวเราะ

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 205 ลุคแสดงความรักต่อหน้าสาธารณชน

    “น้าบี… จริงเหรอคะ?” เรนนี่มองไปที่เบียงก้าด้วยแววตาลูกสุนัขที่มีน้ำตาเอ่อคลอ เบียงก้าก้มศีรษะลงจูบที่หน้าผากของเรนนี่ และขยี้ผมของเธอ “ไม่เลย น้าไม่เคยคิดว่าหนูน่ารำคาญเลยนะ” น้ำเสียงของเบียงก้าอาจจริงจังเกินไป ไม่เพียงแต่จะโน้มน้าวใจเด็กน้อยอย่างเต็มที่ แต่คำพูดของเธอยังทำให้เจสันซึ่งกำลังขับรถอยู่ตกใจไปด้วย เจสันถือว่าตัวเองเป็นคนที่ผ่านอะไรมามาก เขาเคยเห็นคนทุกประเภทตั้งแต่ผู้สูงศักดิ์และยิ่งใหญ่ไปจนถึงคนอนาถาและน่ารังเกียจ ในช่วงหลายปีที่ทำงานกับเจ้านายมา เขาคิดว่าเขาเชี่ยวชาญในการอ่านนิสัยของคนอื่นและสามารถบอกความจริงจากการโกหกได้อย่างง่ายดาย ในขณะนั้น เจสันไม่รู้สึกถึงคำโกหกใด ๆ จากปากของเบียงก้าเลย เขาอดไม่ได้ที่จะแอบมองเบียงก้าผ่านกระจกมองหลัง ครู่หนึ่ง เขาคิดว่าตัวเองกำลังเห็นแม่ผู้ให้กำเนิดเด็กทั้งสองคน... โรงพยาบาลในเมืองเอ เมื่อผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ดตื่นขึ้น เขาไม่เห็นแม้แต่หลานชายหรือเหลนทั้งสองคนของตัวเอง เขาเริ่มกังวลทันที อลิสันเข้ามาในนาทีนั้นและพยายามปลูกฝังความคิดในหัวของชายชรา “พ่อจะโทรไปถามลุคไหม?” “ฉันควรถามอะไรล่ะ?” ผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ดตอบกลับระหว่

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 204 เขาอยากครอบครองเธอใจจะขาด

    เบียงก้ากับแวนด้าขึ้นไปชั้นบนเพื่อคุยกันเป็นการส่วนตัว ลุคกำลังอยู่ในสายของการประชุมธุรกิจระหว่างประเทศ ขณะกำลังคุยโทรศัพท์ เขาสามารถเห็นได้จากท่าทางของคนทั้งสองว่าการสนทนาระหว่างเบียงก้าและแวนด้านั้นไม่ปกติ แต่เขาไม่ได้ยินสิ่งที่ทั้งสองคนกำลังพูดกันเท่าไหร่นัก เมื่อเขาวางสาย ลุคเห็นจากหางตาว่าเบียงก้าและแวนด้าหายตัวแถวหัวมุม “เธอบอกว่าเธอเป็นน้าของเบียงก้า” เจสันเข้ามารายงานสถานการณ์ตามความจริง ลุคหันไปสั่งเจสันว่า "ไปสืบประวัติของน้าคนนั้น" เจสันโค้งคำนับ ลุคมองเข้าไปทางหน้าต่างชั้นสองที่เปิดทิ้งไว้ เขายังคงนิ่งเฉยไม่แสดงออก แม้ว่าความต้องการของเขาจะเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ในห้องบนชั้นสอง เบียงก้ารู้สึกเขินอาย ไม่เพียงเพราะเป็นครั้งแรกที่เธอได้พบกับน้าที่เธอเคยได้ยินผ่านเรื่องเล่า แต่ยังเป็นเพราะเธอกลัวว่าน้าจะรับรู้ถึงฮอร์โมนเพศชายที่แผ่ซ่านไปทั่วห้อง เธอรู้สึกราวกับว่าตัวเองทำอะไรผิด แวนด้าเหลือบมองไปรอบ ๆ ห้องและถามด้วยความสงสัย “ผู้ชายที่ลงมาข้างล่างกับเธอ…” “เขาเป็นเจ้านายของฉัน” เบียงก้าตอบก่อนที่น้าของเธอจะถามคำถามเสร็จ เบียงก้ายังเด็กและไม่ค่อยรู้จักวิธี

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 203 ทำไมคุณถึงขี้อายนักเล่า ผมก็เห็นทุกอย่างไปหมดแล้วนิ

    เบียงก้าสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของการข่มใจที่เล็ดลอดออกมาจากร่างของชายผู้นั้น แม้ว่าเธอจะได้รับการเตือนว่าชายผู้นี้มีความรู้สึกตรงกันข้ามก็ตาม เขาน่ะหรือจะห้ามใจ มีแต่จะทำตามใจตัวเองมากกว่า หัวใจของเธอเต้นแรง และปากเริ่มมีน้ำลายสอ เมื่อนึกถึงสัตว์ร้ายที่ซ่อนอยู่ใต้กางเกงของชายหนุ่ม “คุณ… ออกไปรอข้างนอก… ฉันอาบน้ำเองได้ค่ะ” หลังจากระเริงไปหลายครั้งเมื่อคืน เบียงก้าอายเกินกว่าจะเงยหน้ามองเขา บ้านหลังเก่าที่รกร้างและมืดมิดนั้นทั้งอบอุ่นและร้อนแรงเพราะมีเขาอยู่ กลิ่นของความสกปรกและความชื้นส่งกลิ่นแรงอยู่ตรงหน้าบ้าน แม้ว่าชายผู้นั้นจะจุมพิตและหายใจแรง แต่เธอก็ได้ให้ทุกสิ่งแก่เขาไป ราวกับว่าเธอได้หลอมรวมตัวเองเข้ากับร่างกายที่เร่าร้อนของเขาไป จากนั้น ก็ร่วมรักกันในรถอีกรอบ เบียงก้าคิดว่าลุคเป็นปีศาจที่หิวกระหายเนื้อมนุษย์ ไม่ว่ากลางวันหรือกลางคืนเขามักจะหิวโหยร่างกายของเธอเสมอ แต่ถึงกระนั้น เธอก็พลีกายให้เขาไปหลายครั้ง! โชคดีที่ความมืดมิดในยามค่ำคืนได้บดบังใบหน้าที่แดงก่ำของเธอ เพื่อที่เธอจะได้ไม่รู้สึกอึดอัดใจนักเมื่ออยู่กับเขาตามลำพัง แต่เธอไม่อาจหลบซ่อนมันจากการร่วมรักที

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 202 ตัณหาอันแรงกล้าในยามเช้าของลุค

    ชั้นล่างบริเวณสนามหญ้าหน้าบ้าน เพื่อนร่วมงานบางคนซื้อซาลาเปาสำหรับการทำงานกะเช้า ในขณะที่เพื่อนร่วมงานหญิงกำลังเตรียมข้าวโอ๊ตอยู่ในครัว ทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่าข้าวโอ๊ตที่ซื้อจากร้านมีเนื้อหยาบเกินไป เป็นครั้งแรกที่ลูก ๆ ของเจ้านายลิ้มลองซาลาเปาแป้งทำมือจากเมืองเล็ก ๆ พวกเขารับประทานคนละสองชิ้น แต่เหมือนจะยังไม่พอ เรนนี่ยัดขนมปังเต็มปากแล้วกะพริบตาอย่างไร้เดียงสาใส่คุณลุงดอยล์ของเธอ ก่อนขอเพิ่มทั้งที่ยังเคี้ยวอยู่เต็มปาก “ทานช้า ๆ ก็ได้ครับ เดี๋ยวลุงจะไปซื้อมาเพิ่ม” เจสันขยี้ผมของเรนนี่ เมื่อเขาลุกขึ้น เขาหันไปหาเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ แล้วพูดว่า "ผมจะซื้อมาฝากทุกคนเหมือนกัน" ขนมปังไม่เพียงพอสำหรับทุกคน การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของเจ้านาย ผู้ช่วย และลูกสองคนของเขาทำให้เพื่อนร่วมงานต้องแบ่งอาหารให้ ในเมืองกำลังพลุกพล่าน เจสันยืนอยู่หน้ารถขายอาหารและซื้อซาลาเปาใส่ไส้ไก่มากว่าสิบห้าชิ้น เมื่อเขาหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาและกำลังจะจ่าย เขาสังเกตเห็นผู้หญิงคนหนึ่งสวมชุดทำงานแสนเรียบร้อยเดินเข้าไปในสนามหญ้าหน้าบ้าน เธอดูเหมือนจะอยู่ในวัยสามสิบ "ชิ้นละ 1.80 เหรียญ ซื้อ 15 ชิ้นก็เป

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 201 เจ้านายเอาใจใส่ภรรยาของลูกพี่ลูกน้องมากเลยนะ

    รถลีมูซีนเบนท์ลีย์สีดำไม่ได้ขับรถเข้ามาในสนามหญ้าหน้าบ้านแต่กลับจอดอยู่ด้านนอกแทน ลุคไม่ได้ขับรถมาเอง หลังจากที่เจสันจอดรถแล้ว เขาก็ออกไปเปิดประตูเบาะหลัง เจ้านายและลูกน้อยสองคนก้าวออกมา เหมือนเช่นเคย ลุคแต่งตัวอย่างไร้ที่ติในชุดสูทมาดธุรกิจและรองเท้าหนัง ทว่าจากใบหน้าของเขาสามารถบอกได้ง่าย ๆ ว่าเขามีชีวิตชีวามากกว่าปกติราวกับว่าเพิ่งได้ยินข่าวดีมา เรนนี่อยู่ในอ้อมแขนของพ่อ เธอได้กลิ่นโคโลญจน์ของเขา ขณะที่ลานี่วิ่งอย่างตื่นเต้นไปที่สนามหญ้าหน้าบ้านพร้อมกับสะพายกระเป๋าเป้อยู่ “สวัสดีค่ะ พ่อหนุ่มน้อยรูปหล่อ!” เพื่อนร่วมงานหญิงคนหนึ่งทักทายลูกชายของเจ้านาย 'ทริปนี้คุ้มมาก!’ 'สิ่งอำนวยความสะดวกอาจจะไม่ดีเท่าในเมือง แต่ได้เห็นหน้าเจ้านาย และลูกชายกับลูกสาวที่น่ารักของเขาก็พอแล้ว!’ 'ช่างมีความสุขเหลือเกิน!' ลานี่มองไปรอบ ๆ ฝูงชนแต่ไม่พบคุณน้าบีเลย แต่เขาก็ไม่ลืมมารยาทและทักทายกลับว่า “อรุณสวัสดิ์ครับ คุณคนสวย!” เพื่อนร่วมงานหญิงที่ถูกเรียกว่า "คุณคนสวย" ยิ้มกว้าง โจพร้อมทำหน้าที่และพยายามอย่างหนักที่จะควบคุมสิ่งต่าง ๆ ให้อยู่ภายใต้การควบคุมของเขา เขาก้าวไปข้างหน้าแล

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 200 ทำไมเจ้านายถึงมาเร็วจังล่ะ

    เบียงก้าระงับเสียงครางเอาไว้ ร่างกายของเธอเกร็ง ขณะกำผ้าม่านตรงหน้าแน่น... ม่านไม่ได้ยึดอย่างแน่นหนา ขณะที่ชายที่อยู่ข้างหลังเธอเคลื่อนเข้าไปหาเธออีกนิ้ว เธออ้าปากค้าง และจิตใจว่างเปล่า ผ้าม่านหลุดลง... "ใจเย็น" ลุคก้มศีรษะลงและจูบต้นคอของเธอ ผิวขาวภายใต้แสงจันทร์ดูเรียบเนียนและอ่อนโยน การเคลื่อนไหวของเขาเชื่องช้าอย่างจงใจ ปากของเขาทิ้งร่องรอยต่าง ๆ ไว้บนร่างกายของเธอ “อา… อืม…” เธอไม่สามารถต้านทานริมฝีปากและเรียวลิ้นที่บุกรุกเข้ามาได้ เบียงก้าเชยคางและทิ้งตัวบนหน้าต่าง ชายที่อยู่ข้างหลังเธอยังคงดันนิ้วเข้าไปทีละนิ้วราวกับเขาถูกปีศาจสิง เธอรู้สึกได้ว่าการหายใจของเธอเริ่มหนักขึ้น เธอหายใจถี่และลึกขึ้นเพื่อจะได้หายใจหายคอสะดวกขึ้น อากาศก็เริ่มเย็นลง ตอนที่เบียงก้าลืมตาขึ้น เธอมองเห็นหน้าต่างที่มีฝ้าขึ้นจากลมหายใจของเธอ ความรู้สึกไม่สบายกายเกิดขึ้นเพียงห้านาทีและกลายเป็นความเลื่อนลอย... มันเป็นความรู้สึกที่คุ้นเคย ไม่ว่าจะเป็นเมื่อห้าปีที่แล้วที่เธอเคยชินกับการปรากฏตัวของชายคนนั้น หรือในปีนี้ที่เธอได้ติดต่อกับชายคนนั้นที่โรงแรม เธอก็รู้สึกสั่นสะท้านเช่นเดียวกัน… มื

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 199 เธอกลายเป็นผู้หญิงของลุค ครอว์ฟอร์ด

    เธอไม่อาจต้านทานจุมพิตอันเร่าร้อนของชายผู้นี้ไม่ได้ บนใบหน้าของพวกเขา กลิ่นของทั้งสองเป็นเหมือนกับสิ่งที่คุ้นเคยแต่แปลกใหม่ อาจเป็นเพราะพวกเขาเกือบเสร็จกิจเมื่อเช้านี้เอง และตอนนี้พวกเขาก็มีโอกาสอีกครั้ง ลุครู้สึกราวกับว่าตัวเองได้แปลงร่างเป็นสัตว์ร้ายที่หิวกระหาย ความปรารถนาที่ไม่ลดละของเขาบดขยี้ริมฝีปากอ่อนนุ่มของเธอ แม้ว่าเขาจะไม่ลดความรุนแรงลง เขาสามารถรับรู้ได้ถึงความทรมานจากเสียงครางของเธอ เขาอยากจะกลืนกินร่างที่เขาหิวโหยไป ชายหนุ่มดูราวกับเด็กที่เพิ่งได้ลองชิมขนมเป็นครั้งแรก เขาปรารถนาร่างกายของเธอมานานแล้ว จนเมื่อเช้าที่เขาได้มีโอกาสได้ลิ้มรสความหวานอันเป็นเอกลักษณ์ของมัน เมื่อได้รับขนมอร่อย ๆ เด็กที่ไหนก็เหมือนกันหมด พวกเขาจะแกะมันออกจากห่ออย่างตะกละตะกลาม แล้วเอาเข้าปาก ก่อนใช้ความอบอุ่นและน้ำลายละลายพวกมัน พวกเขาอาจจะอ่อนโยนหรือรุนแรง ก็แล้วแต่ระดับความกระหายของคนเป็นเจ้าของ... ลุคกับเบียงก้า เปรียบได้กับเด็กตะกละกับขนมอร่อย ... “อืมมม…” ร่างของเบียงก้าอ่อนยวบเมื่อลุคกอดเธอในอ้อมแขนจนแน่น ช่องปากของเขาอุ่นชื้น เธอจมดิ่งลงไปในจูบอันป่าเถื่อนของเขา… เธอกำ

DMCA.com Protection Status