Home / โรแมนติก / พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก / บทที่ 6 หัวใจที่เต้นระรัว

Share

บทที่ 6 หัวใจที่เต้นระรัว

Author: พะเนินเทินทึก
last update Last Updated: 2021-09-21 16:35:01
สิบนาทีต่อมา การสัมภาษณ์ของฌองก็เสร็จสิ้น

เขาเปิดประตูและเดินออกไป

เบียงก้ายืนขึ้นในทันที “เป็นยังไงบ้างคะ?”

“กรรมการที่สัมภาษณ์ถามคำถามยากมาก แต่มันก็ไม่ใช่อะไรที่พี่รับมือไม่ได้นะ” ฌองก้มตัวลงไปจูบที่หน้าผากของเบียงก้า

เบียงก้าถอนหายใจด้วยความโล่งอก

“คนต่อไปค่ะ เบียงก้า เรย์น” เลขาสาวประกาศเรียก

เบียงก้ารีบจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อยและเดินเข้าไปในห้องอย่างกังวล

วินาทีที่เธอเดินเข้ามาในห้อง ลุคจ้องมองเธอด้วยแววตาอันสับสน

เบียงก้านั่งลงอย่างเรียบร้อย และเงยหน้าขึ้นมาสบตาผู้ให้สัมภาษณ์ทีละคน

หลังจากนั้น เธอแนะนำตัวสั้น ๆ "สวัสดีค่ะ ทุกท่าน ก่อนอื่นเลย ขอพระขอบคุณที่ให้โอกาสดิฉันได้เข้าร่วมการสัมภาษณ์ครั้งนี้ ดิฉันชื่อเบียงก้า เรย์นค่ะ”

เนื่องจากเธอตัดสินใจกลับประเทศนี้และหางานทำที่นี่ บริษัทที่เธอต้องการไปสัมภาษณ์ผุดขึ้นมาในความคิดมากมาย

อาจไม่ใช่วิธีที่สร้างสรรค์ที่สุดในการเริ่มต้น แต่ก็สมบูรณ์เพียงพอและไร้ปัญหาใด ๆ

การสัมภาษณ์ดำเนินต่อไป

ลุคประเมินเธอด้วยสายตาที่เย็นชา

บางที การจ้องมองของเขาอาจดูเฉียบแหลมเกินไป แม้ว่าเบียงก้าจะสามารถตอบคำถามของในการสัมภาษณ์ทั้งหมดได้อย่างเชี่ยวชาญ แต่เธอกลับรู้สึกอึดอัดใจเป็นอย่างมาก

มันไม่เพียงแค่รู้สึกเหมือนมีใครบางคนกำลังจ้องมองเธอด้วยสายคมดุจมีด แต่กลับรู้สึกเหมือนมีหนามประหลาดทิ่มแทงเธอไปทั้งตัว

อันที่จริง เมื่อเดินเข้าไปในห้องครั้งแรก เบียงก้าก็เหลือบมองลุคเช่นเดียวกัน

แต่ถึงกระนั้น นี่เป็นการสัมภาษณ์งานอย่างเป็นทางการ และเธอต้องปฏิบัติตัวอย่างจริงจัง แม้ว่าเธอจะมีคำถามมากมายอยู่ในใจ แต่เธอต้องไม่ชะล่าใจและไม่ฟุ้งซ่าน

“คุณเรย์น คุณแต่งงานแล้วรึยังครับ?” เสียงอันเยือกเย็นของลุคขัดจังหวะการสัมภาษณ์ในทันที

คำถามนั้นทำให้ผู้ให้สัมภาษณ์มืออาชีพทุกท่านถึงพูดไม่ออก

ผู้ให้สัมภาษณ์หยุดการสัมภาษณ์เบียงก้าอย่างเป็นทางการ แล้วหันไปมองผู้บริหารพร้อมกัน

เพราะเขาเป็นส่วนหนึ่งของผู้ให้สัมภาษณ์ด้วย

“ไม่ค่ะ ดิฉันยังไม่ได้แต่งงานค่ะ” เบียงก้าเอ่ยขึ้นพลางพยายามสงบสติอารมณ์ แท้จริงแล้ว หัวใจของเธอเต้นระรัวแทบจะกระเด็นออกมา

“ถ้าอย่างนั้น คุณมีคนที่คุณตั้งใจจะแต่งงานด้วยไหมครับ?” ลุคขมวดคิ้วพร้อมกับเอ่ยถามอีกครั้ง

เบียงก้านิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนที่เธอพยักหน้าและตอบกลับ “ดิฉันมีแล้วค่ะ”

ผู้ให้สัมภาษณ์ทั้งหมดรู้สึกสับสนไม่น้อย พวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไมผู้บริหารถึงตั้งคำถามนี้ออกไป?

บทสนทนาสั้น ๆ ระหว่างทั้งสองทำให้เบียงก้ามองเห็นคุณลักษณะรูปงามของลุคได้ดีขึ้น

นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จคนนี้แตกต่างจากเด็กชายวัยเยาว์ที่โด่งดังในโรงเรียนมาก

ไม่ว่าจะเป็นกิริยาท่าทางหรือสีหน้าของเขา ลุค ครอว์ฟอร์ดดูเป็นคนเย็นชาและโหดเหี้ยมไม่น้อย

ในที่สุด การสัมภาษณ์ก็เสร็จสิ้นลง

เบียงก้าเดินออกจากห้อง เธอพลันรู้สึกเข่าอ่อน

“ในห้องเป็นยังไงบ้าง? บอกมาสิ!" นีน่าเป็นคนแรกที่วิ่งไปหาเธอและไถ่ถาม

เบียงก้านิ่งงันไป เธอพูดขึ้น “คนที่สัมภาษณ์เขาถามฉันว่าฉันแต่งงานยัง และถ้าฉันไม่ได้แต่งงาน มีใครที่ฉันตั้งใจจะแต่งงานด้วยไหม”

ฌองขมวดคิ้วเมื่อได้ยินแบบนั้น เป็นคำถามที่ฟังดูไม่ใช้มันสมองมากเท่าไหร่เลย?

เรียกได้ว่าลุกล้ำพื้นที่ส่วนตัวเธอก็ได้

ถึงกระนั้น นีน่ากล่าวขึ้น “โห นั่นเป็นเรื่องปกติในประเทศนี้มาก ๆ เลยนะ อันที่จริง นี่ถือว่า

พวกเขายังดีมีมารยาทที่ไม่ถามว่าเธอมีลูกแล้วรึยัง”

“แต่ทำไมพวกเขาถึงต้องถามแบบนั้นด้วยล่ะ” เบียงก้าเอ่ยถามด้วยความสงสัยขณะที่ทั้งสามลงเดินบันไดไป

“เพราะว่าเด็ก ๆ จะเข้ามารบกวนการทำงานของเธอไงล่ะ” นีน่าตอบโดยมองไปที่พี่ชายของเธอและเบียงก้า “บริษัทในประเทศนี้ส่วนใหญ่จะเลือกปฏิบัติกับผู้หญิงที่แต่งงานมีลูกแล้วน่ะสิ ในเมื่อเธอเลือกกลับมาที่นี่แล้ว ดังนั้นเธอต้องทำใจให้ชินนะ”

บ่ายวันนั้น

เบียงก้าและฌอง ต่างก็ได้รับโทรศัพท์แจ้งมาว่า พวกเขาจะได้ทดลองงานสองเดือน หากพวกเขาสามารถผ่านการทดสอบทั้งหมดในช่วงสองเดือนข้างหน้า พวกเขาจะสามารถอยู่ที่บริษัท ทีคอร์ปอเรชั่นต่อไปในฐานะของพนักงานประจำได้

วันถัดมา

ฌองและนีน่าปลุกเบียงก้า และพวกเขาต้องไปทำงานด้วยกัน

“พี่วางแผนจะซื้อรถสักคัน เราจะได้ไม่ต้องยืมรถของนีน่ามาใช้หลังจากนี้” ฌองกล่าวกับเบียงก้า ก่อนที่พวกเขาเดินเข้าไปทำงานที่แผนกออกแบบ

“ว่าไงนะ พี่ไม่อยากให้ฉันเป็นไปมือที่สามรึไง?” นีน่าจงใจล้อเล่น และเดินคั่นระหว่างทั้งสองคน

เบียงเก้าพูดขึ้น “ตั้งแต่พรุ่งนี้ พวกเธอทั้งคู่ไม่ต้องมารับฉันนะ มันลำบากเกินไป ไหนพวกเธอจะต้องเสียเวลาลำบากขับรถอ้อมกันอีก กว่าถึงบ้านฉัน ฉันว่ายังไงขึ้นรถไฟใต้ดินน่าจะสะดวกกว่าน่ะ”

วันแรกของการทำงานมาถึง

เบียงก้าจริงจังกับงานอย่างผิดปกติ

บ่ายวันนั้น ฌองถูกนักออกแบบรุ่นพี่คนหนึ่งในแผนกพาตัวออกไปคุยงานอย่างกะทันหัน

ก่อนที่จะเดินออกไป ฌองคว้าแล็ปท็อปสำหรับทำงานโดยเฉพาะไปด้วย และเร่งให้เบียงก้ารีบลงไปข้างล่าง

อันที่จริง ฌองรู้สึกสับสนกับตนเองว่าแผนกออกแบบกำลังทำอะไร?

เอาจริง พาเด็กหน้าใหม่ออกไปคุยเรื่องธุรกิจนะ? จะเป็นอย่างไรถ้าเกิดทำงานช้าเกินกำหนด มันทำให้ประสิทธิภาพของทีมลดลงรึเปล่า?

เบียงก้าไม่มีเวลาที่จะคิดเรื่องนั้น เธอทำความคุ้นเคยกับงานอย่างรวดเร็ว

เมื่อถึงเวลาเลิกงาน นีน่าก็เดินไปหาเบียงก้าและพูดว่า “เสร็จแล้วเหรอ? เย็นนี้บ้านฉันนะ

กินข้าวเย็นด้วย แม่สามีในอนาคตของเธอเป็นคนเชิญเองเลยนะ”

เบียงก้าเพิ่งเริ่มชินกับพิมพ์เขียวโครงสร้างอาคารที่ดีที่สุดของบริษัทตลอดหลายปีที่ผ่านมา

เมื่อได้ยินดังนั้น เธอจึงเงยหน้าขึ้นและพูดอย่างเก้กังว่า “ฉันเพิ่งได้รับแจ้งข่าวร้ายมาน่ะสิ ฉันต้องทำงานล่วงเวลาน่ะ…”

ดวงตาของนีน่าเบิกกว้าง และเธอก็รีบวิ่งกลับไปที่โต๊ะทำงานเธอเพื่อเช็คข้อความของเธอ

แย่จริง ล่วงเวลาจริง ๆ ด้วยสิเนี่ย!

เป็นเรื่องจริงสินะที่นักออกแบบต้องทำงานล่วงเวลาค่อนข้างบ่อย แต่ที่นี่ เบียงก้าและพี่ชายของเธอโชคร้ายเป็นพิเศษ คนหนึ่งถูกส่งออกไปคุยธุรกิจในวันแรกของการทำงาน ในขณะที่อีกคน กลับต้องทำงานล่วงเวลาต่อ

ทีมงานรับประทานอาหารเย็นร่วมกันเสร็จ ก่อนที่จะกลับมานั่งก้มหน้าก้มตาทำงานต่อ

คืนนั้น เวลาสี่ทุ่มครึ่ง

ในที่สุดหัวหน้าแผนกก็อนุญาตให้นีน่าและหญิงสาวอีกสองคนกลับบ้านได้

แต่เบียงก้ายังต้องทำงานต่อไป

นาฬิกาชีวิตของเธอกำลังจะพัง ดังนั้นเบียงก้าจึงรู้สึกเหนื่อยล้าเป็นที่สุด

เธอยืนขึ้นและหยิบแก้วกาแฟขึ้นมาเพื่อไปชงกาแฟมาดื่ม

เมื่อเธอกลับมาพร้อมกับกาแฟ หัวหน้าฝ่ายเห็นเธอ เขาจึงพูดว่า “ท่านประธานต้องการพิมพ์เขียวฉบับนี้ รีบเอาไปให้เขาเร็ว”

เบียงวางแก้วกาแฟลงและหยิบพิมพ์เขียวเดินออกจากแผนกออกแบบทันที

เหลือเพียงสามคนในแผนกออกแบบ หัวหน้างาน นักออกแบบอาวุโส และเธอผู้เป็นผู้ทดลองงานที่ได้รับเกียรติครั้งนี้

เอาพิมพ์เขียวไปหาเจ้านายงั้นเหรอ ฮะ?

ขณะที่เบียงก้าเดินเข้าไปในลิฟต์ รูปร่างหน้าที่ละเอียดอ่อนของลุค ครอว์ฟอร์ด ก็ปรากฏขึ้นในใจของเธอ

ลิฟต์ขึ้น จนไปถึงชั้นบนสุด

เบียงก้าเดินไปรอบ ๆ ในที่สุดก็พบห้องทำงานของประธานบริษัท

เธอเคาะประตู

“เข้ามา” เสียงของชายผู้นั้นไร้ซึ่งความอ่อนโยนใด ๆ แต่มันกลับทุ้มนุ่มลึกเหลือเกิน

เบียงก้าเดินตรงเข้าไปยังโต๊ะใหญ่ในห้องทำงานสีโทนเย็น เธอวางพิมพ์เขียวไว้บนโต๊ะพลางเอ่ยขึ้น “พิมพ์เขียวที่คุณต้องการค่ะ ท่านประธาน”

ลุคยังจดจ่ออยู่กับงานของเขาเช่นเดิม ดังนั้นเขาจึงเอื้อมมือไปรับพิมพ์เขียว ก่อนจะหยิบขึ้นมาตรวจ เมื่อเบียงก้ากำลังออกไป เขาก็พลันเงยหน้าขึ้นมองเธอ

เบียงก้าไม่ต้องการเสียมารยาท เธอจึงยืนรออยู่ หรือว่ามีบางอย่างที่ท่านประธานต้องการจากเธอกัน?

สายตาของลุคจ้องมองเธอเป็นช่วงเวลาสักระยะ หลังจากผ่านไปห้าปี หญิงสาวคนนี้ดูอ่อนโยนและยั่วยวนมากขึ้น ทั้งรูปลักษณ์และความงดงามที่สาดส่องออกมาจากเธอ

“คุณสามารถเลิกงานแล้วกลับบ้านได้เลย กลับบ้านไปเตรียมตัวเถอะ เพราะพรุ่งนี้คุณจะต้องเดินทางไปคุยงานกับผม” ลุคละสายตาจากเธอ และหันกลับมามองงานของเขา

เบียงก้าต้องการที่จะบอกว่าตอนนี้ เธอยังไม่มีความสามารถที่เพียงพอที่จะแบกความรับผิดชอบอันมหาศาลนี้ได้ แต่ลุคได้ออกคำสั่งเหล่านั้นอย่างเย็นชาและแข็งกร้าว น้ำเสียงของเขาไม่สามารถมีข้อโต้แย้งใด ๆ

ทั้งหมดที่เธอทำได้คือพยักหน้าและเดินออกจากห้องไป

ลุคหันไปมองเธออีกครั้ง แผ่นหลังของเธอดูสวยงาม โดยเฉพาะเอวอันเพรียวบางและคล่องตัว

ไม่นานหลังจากนั้น ชายคนนั้นก็ตระหนักว่าทุกส่วนตั้งแต่คอจนถึงหน้าอกมีอาการชาไปหมด

Related chapters

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 7 ท่าทีอันแปลกประหลาดออกไปของฌอง

    เบียงก้าเดินออกจากห้อง ลุคก็พลันวางพิมพ์เขียวที่อยู่ในมือ เขาลุกขึ้นยืนและเดินออกจากโต๊ะทำงานไปยังตู้เก็บไวน์แทน ตรงนั้น เขาหยิบแก้วออกมาและรินไวน์ลงไปครึ่งหนึ่งด้วยท่าทีหงุดหงิดเล็กน้อยช่างเป็นตัณหาที่เย้ายวนเสียจริง! ตอนที่เบียงก้าออกจากบริษัท ก็เป็นเวลาที่ดึกมากเลยทีเดียว แต่โชคดีที่ยังมีรถไฟขบวนสุดท้ายที่จะพาเธอกลับบ้านได้ เมื่อกลับมาถึงบ้าน สิ่งแรกที่เธอทำคือตอบกลับข้อความของฌองบนวีแชทหลังจากนั้น เธอดึงกระเป๋าเดินทางออกมา และเริ่มจัดของที่เธอจำเป็นต้องใช้สำหรับการเดินทางในวันพรุ่งนี้ทันใดนั้น โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น สายเรียกเข้านั้นคือฌอง“นี่พี่ยังไม่นอนอีกเหรอคะ? ฉันคิดว่าฉันบอกพี่ไปแล้วนะว่าแทนที่โทรหาฉันแบบนี้ ให้พี่พักผ่อนแต่หัวค่ำน่ะ” เมื่อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เบียงก้ากล่าวด้วยความกังวล “พี่ยังทำงานไม่เสร็จเลย พี่ก็เลยเอาของกลับไปที่ห้องพักในโรงแรมเพื่อทำงานต่อน่ะสิ” ฌองเอ่ยถามต่อ “พี่เห็นข้อความของเธอก่อนหน้านี้แล้ว ทำไมเธอถึงต้องออกไปข้างนอกด้วยละ? ไปกับใครเหรอ?” “ฉันยังไม่รู้ว่าใครเลยค่ะ ต้องรอพรุ่งนี้เช้าเลยแหละถึงจะรู้” เบียงก้าตอบกลับ “ถ้าเป็นคนที่ไป

    Last Updated : 2021-09-22
  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 8 บลานก้า และ เรนนี่

    เบียงก้าไม่กล้าพูดอะไรอีกเลย จากที่เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นมองเธอกาลเวลาผ่านไปเด็กชายพูดว่า “ผมว่าดูน่าอึดอัดครับ” น้องสาวตัวน้อยพยักพยักหน้าเบียงก้า “….” “คุณผู้หญิงครับ โทรหาพ่อของผมตอนนี้เลยเถอะ และบอกเขาด้วยว่าคุณไม่ต้องการดูแลพวกเราสองคนแล้ว” เด็กชายกล่าวเด็กชายตัวเล็ก ๆ ดูค่อนที่จะไม่เป็นมิตรกับเธอสักเท่าไหร่ “ฉันไม่เคยบอกเลยนะว่าไม่อยากดูแลพวกหนูน่ะ” เธอต้องอธิบายให้ชัดเจน เธอจะกล้าพูดว่าเธอไม่ต้องการดูแลลูก ๆ ของเจ้านายได้อย่างไรกัน? เจ้านายคงจะจัดการเธอจนกลายเป็นอาหารกลางวันเป็นแน่“ในเมื่อต้องการจะดูแลเราสองคนจริง ๆ คุณควรทำเหมือนที่คุณพูดสิครับ” เห็นได้ชัดว่าเด็กชายไม่ชอบบรรยากาศที่เงียบ ๆ แบบนี้ ผู้หญิงคนนี้ดูซื่อบื้อกว่าคนอื่น ๆ มากเบียงก้า “…”เป็นความผิดพลาดของเธอเองสินะที่ออกจากบ้านมาโดยที่ไม่ดูตาม้าตาเรือเสียก่อน ถึงได้มาเจอเรื่องเช่นนี้ “มากับหนูหน่อยค่ะ พี่ชาย” เด็กหญิงตัวเล็กบอกได้ว่าสีหน้าของป้าคนนี้เริ่มไม่พอใจ และเธอก็ลากพี่ชายออกไปด้วยความขุ่นเคือง เบียงก้าถอนหายใจยาว มองดูเด็กน้อยสองคนเดินหายไปทางประตูห้องน้ำ ภายในห้องน้ำน้องสาวเอ่ยถา

    Last Updated : 2021-09-22
  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 9 เปิดประตูสู่โลกของฉัน

    ในตอนนี้เรนนี่ตัวน้อยมีความสุขอย่างน่าเหลือเชื่อ เธอได้แอบกินไก่ทอดลับหลังพ่อระหว่างทางกลับห้องเรนนี่ ยังคงเกาะติดเบียงก้ากอดขาเธอราวกับเป็นโคอาล่าเกาะต้นไม้ มันค่อนข้างยากสำหรับเบียงก้าที่จะเดินโดยมีเด็กน้อยเกาะอยู่ที่ขาของเธอ เธอต้องเดินกะเผลกไปตลอดทางจนกลับชั้นบน“นี่ก็ดึกมากแล้วนะ เดี๋ยวฉันจะไปส่งพวกหนูเข้านอนที่ห้องนะจ๊ะ ” หญิงสาวกับเด็กทั้งสองนั่งดูการ์ตูนในห้องสักพัก ก่อนที่เบียงก้าจะหันไปหาทั้งคู่ พี่ชายเงยหน้าขึ้นมองเธอแล้วพูดว่า “พวกเราไม่มีคีย์การ์ดเข้าห้องพักหรอกครับ” เรนนี่กอดเบียงก้าด้วยมือที่อวบอ้วนของเธอ ดวงตาของเธอปิดสนิท ตอนนี้เธอเกือบจะหลับสนิทแล้ว ถึงกระนั้น พวกเขาจะกลับเข้าห้องโดยไม่มีคีย์การ์ดได้อย่างไร? เบียงก้ารู้สึกงุนงงไม่น้อยเธอไม่รู้ว่าในวันนี้ ท่านประธานจะทำงานเสร็จเมื่อไหร่และกลับไปที่โรงแรมตอนไหน“ไปเรียกคุณดอยล์สิครับ” เบียงก้ามองไปที่เรนนี่ซึ่งหลับไปแล้ว เธอขยับตัวไม่ได้ เธอจึงต้องขอให้ลานี่หยิบโทรศัพท์ของเธอมาให้หน่อย ลานี่หยิบโทรศัพท์และส่งให้เบียงก้าเบียงก้าโทรหาเพื่อนร่วมงานและขอหมายเลขโทรศัพท์ของเจสัน ดอยล์ เจสันรับสายเร็วพ

    Last Updated : 2021-09-22
  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 10 ชายโฉด

    ภายไม่กี่วินาทีนั้น จิตใจของเบียงก้าก็ว่างเปล่า! เธอขมวดคิ้วและตำหนิตัวเองที่ใจอ่อน 'เบียงก้า อย่าลืมสิ เธอมีฌองอยู่แล้วนะ!' 'ฌองเป็นผู้ชายคนเดียวที่เธอจะมีอารมณ์ด้วยได้นะ!' “คุณอยู่กับผมแล้วนะ ทำไมคุณถึงได้คิดฟุ้งซ่าน!” เขากระชากเสื้อคลุมสีขาวของเธออออกอย่างแรง ความรู้สึกชุ่มชื้นและอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูกแผ่ซ่านไปทั่วริมฝีปากของเธอ จากนั้นเขาก็ก้มศีรษะลงและจูบลงบนเส้นผมของเธอ หลังจากผ่านเวลาไปอย่างยาวนาน เสียงต่ำของเขาก็พูดเข้าหูเธออย่างเย้ายวน เมื่อได้ยินเสียงต่ำของชายคนนั้น เบียงก้ากำลังจะอกแตกตาย! ลุคมีกลิ่นครีมอาบน้ำอันหอมหวน กลิ่นนั้นเป็นกลิ่นเดียวกับที่เธอใช้ นั่นหมายความว่าตอนที่อาบน้ำ ชายคนนี้เพิ่งใช้ครีมอาบน้ำของเธองั้นสิ เบียงก้ารู้ดีว่ามันอันตรายเพียงใดถ้าเธอไม่ขัดขืนตั้งแต่ตอนนี้ แต่แค่ออกแรงดิ้นยังทำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ สิ่งที่เธอสามารถทำได้ในตอนนี้มีเพียงสิ่งเดียว นั่นคือขอโทษเจ้านายของตนเสียก่อน เพราะเธอกำลังจะทำเรื่องที่ไม่น่าเคารพกับเขาเสียแล้ว แต่อย่างน้อยคงจะดีกว่าถ้าปล่อยให้เรื่องราวดำเนินไปอย่างตอนนี้!ดวงตาของเบียงก้าเริ่มคุ้นชินกับความมืด และตอน

    Last Updated : 2021-09-22
  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 11 เสื้อผ้าของสามี

    เบียงก้าเดินกลับขึ้นไปชั้นบนพนักงานทำความสะอาดกำลังเก็บกวาดห้องพักของเธออยู่เบียงก้าค้อมศีรษะให้พนักงานทำความสะอาดอย่างสุภาพ ก่อนจะเดินไปยังตู้เสื้อผ้า เธอเปิดมันออกแล้วหยิบเสื้อผ้าที่เธอรีดเมื่อคืนออกมาพนักงานสาวทำความสะอาดได้อย่างรวดเร็วตอนที่เบียงก้าล้างหน้าล้างตาเสร็จแล้ว ทุกร่องรอยที่ลุค ครอว์ฟอร์ดทิ้งไว้ในห้องก็ถูกปัดกวาดจนเกลี้ยงเธอถอนหายใจอย่างโล่งอกสิบนาทีที่แล้ว ฌองส่งข้อความถึงเธอ “เบียงก้า ทีมของพี่ทำโครงการเสร็จหมดแล้วนะ พี่กำลังจะไปเมืองเอชบ่ายนี้ แล้วพรุ่งนี้เป็นวันหยุดพอดีด้วย พี่ว่าจะไปหาเธอที่โรงแรมสักหน่อย”เบียงก้าส่งข้อความกลับไป “ยอดไปเลยค่ะ เดี๋ยวฉันจะส่งที่อยู่ของโรงแรมไปให้นะ”ไม่รู้ว่าทำไม ตอนที่เธอมองไปรอบ ๆ ห้องที่ลุค ครอว์ฟอร์ดใช้เวลาอยู่ในนี้ทั้งคืนด้วยความรู้สึกผิดเล็ก ๆ ในใจตอนที่พนักงานทำความสะอาดห้องเสร็จ เธอเห็นว่าเบียงก้ายืนนิ่งงันพร้อมด้วยสีหน้าดูบึ้งตึงและว้าวุ่นใจ“เรียบร้อยแล้วค่ะ” พนักงานทำความสะอาดกล่าวด้วยรอยยิ้มพร้อมถุงขยะในมืออยู่หน้าประตูเบียงก้าดึงสติตัวเองกลับมาอย่างรวดเร็ว “ขอบคุณมากนะคะ”“ดิฉันวางชุดชั้นในที่ใช้แล้วไ

    Last Updated : 2021-09-23
  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 12 ลุค ครอว์ฟอร์ดไม่มีสิทธิ์ก้าวก่าย

    รถยนต์สองคันแล่นออกจากโรงแรมชื่อดัง จากนั้นมุ่งหน้ากลับไปยังโรงแรมที่พวกเขาพักอยู่เมื่อพวกเขามาถึงที่หมาย เบียงก้าก้าวออกจากรถซูก้าวตามลงมาที่หน้าประตูทางเข้า พวกเขาพบว่าเจสัน ดอยล์กำลังรออยู่ก่อนแล้ว เขาสวมชุดสูทที่ดูสง่าเข้าคู่กับรองเท้าหนังเป็นอย่างดี“สวัสดีค่ะ คุณดอยล์” เบียงก้าทักทายเจสันเหมือนอย่างที่ซูและคนอื่น ๆ ทำเจสันพยักหน้ารับคำทักทายของเบียงก้า หากแต่สายตาที่จ้องมองเธอเขม็งนั้นแตกต่างจากคนอื่นหลังจากที่เบียงก้าเดินเข้าไปถึงล็อบบี้ของโรงแรม เจสันก็ยังคงจ้องตามเธอไปอย่างนั้นเมื่อลุคลงมาจากรถ เขาก็สังเกตได้ถึงปฏิกิริยาที่ผิดปกติของเจสันลุคจ้องมองไปยังเจสัน กระทั่งเมื่อเจสันรู้สึกถึงความผิดปกตินั้นแล้ว เขาจึงหันกลับมามองเจ้านายอย่างแนบเนียนเขายืนตรงอย่างสูงสง่า ลุคสาวเท้าเข้าไปในโรงแรม น้ำเสียงเย็นยะเยือกเอ่ยขึ้น “คุณกำลังมองเธออยู่”ลุคพูดกับเจสันที่ยืนอยู่ด้านหลังของเขาเจสันใคร่ครวญอยู่ในใจว่าตัวเองควรจะตอบอะไรกลับไปหรือไม่ ไม่นานนักเขาก็ตัดสินใจที่จะเก็บงำสิ่งเหล่านั้นไว้กับตัวเอง “เปล่าครับ ผมเปล่า”แก้ตัวน้ำขุ่น ๆ !ลุคมองเจสันด้วยสายตาเคลือบแคลงมาก

    Last Updated : 2021-09-23
  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 13 สายตาไร้อารมณ์ของฌอง

    พวกเขาเดินทางกลับมาถึงเมืองเอในตอนเช้าทอมขับรถเบนลี่ย์ของบริษัทมาจอดอย่างเคยซูก้าวลงจากรถในอีกด้าน ฌองยกสัมภาระของเบียงก้าลงจากกระโปรงหลังของรถพร้อมพูดกับเธอ “เดี๋ยวพี่จะส่งเธอกลับบ้านก่อน เธอจะได้พักบ้าง หลับให้สบายนะแล้วเดี๋ยวคืนนี้พี่จะไปหา”เบียงก้าพยักหน้ารับพวกเขาเข็นสัมภาระจากไปขณะบอกลาซูและทอม พวกเขาเดินไปตามทางก่อนจะเรียกแท๊กซี่ฌองคิดว่าพรุ่งนี้เขาจะต้องซื้อรถสักคันการไม่มีรถส่วนตัวใช้มันลำบากเกินไปเบียงก้าทั้งเหนื่อยและง่วงงุน เมื่อคืนเธอได้นอนในรถไปแค่สองชั่วโมงเท่านั้นเอง แต่ถึงจะได้หลับบ้างแต่ก็ไม่ได้นอนอย่างสบายนักก่อนที่พวกเขาจะได้แท๊กซี่ โทรศัพท์ของฌองก็ดังขึ้น“พี่ขอรับโทรศัพท์ก่อนนะ” ฌองมองไปที่โทรศัพท์แล้วส่งสัญญาณให้เบียงก้าก่อนจะกดรับสายเบียงก้ามองไปที่ฌองแล้วเห็นว่าหน้าเขาค่อย ๆ นิ่วลง “ได้ครับ” ฌองตอบกลับสายในโทรศัพท์ “ผมจะไปเดี๋ยวนี้” เขาเสริม“มีอะไรรึเปล่าคะ?” เบียงก้าถามหลังจากที่เขาวางสายไป“อืม หัวหน้าทีมบอกให้พี่ไปประชุมก่อนเที่ยงวันน่ะสิ เขาบอกว่าตอนนี้น้ำขึ้นมันต้องรีบตัก แล้วจะได้รีบหารือเรื่องขั้นตอนต่อ ๆไปด้วย” ฌองพูดอย่างหัวเสีย

    Last Updated : 2021-09-23
  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 14 เบียงก้าพร้อมใบหน้าถูกประดับประดาด้วยสีแดงระเรื่อ

    “ฉันไม่รู้ว่าใครส่งมานะคะ” เบียงก้าตอบกลับไปเบียงก้าไม่อยากเห็นแววตาอันแสนเจ็บปวดของฌอง เธอไม่ต้องการสร้างแผลในใจตัวเองเพิ่มอีก“เธอไม่รู้ว่าใครเป็นคนส่งมันมาอย่างนั้นเหรอ? ล้อพี่เล่นรึไง? พี่ดูปัญญานิ่มขนาดนั้นเลยใช่ไหม? เบียงก้า เรย์น นี่เราเพิ่งกลับมายังไม่ทันไร เธอก็มีผู้ชายอีกคนเข้าหาแล้ว ถ้าไม่มีอะไรกันจริง ๆ ผู้ชายหน้าไหนจะยอมใช้เงินมากมายขนาดนี้เพื่อซื้อดอกไม้ให้เธอกัน?”เบียงก้าแทบทนไม่ได้กับสายตาที่ฌองใช้มองเธอเธอรู้ตัวดีว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิด จิตสำนึกเธอยังทำงานได้ดีเธอไม่รู้จริง ๆว่าใครเป็นคนส่งดอกไม้พวกนี้มา“ฉันขอตัวไปทำงานก่อนนะ” ในที่สุด เบียงก้าก็เปิดปากพูด เพื่อให้ฌองได้สงบสติอารมณ์ เบียงก้าหันไปโยนช่อดอกไม้ในมือทิ้งลงถังขยะที่อยู่ไม่ห่างอย่างไม่ยี่หระฌองมองแผ่นหลังของเบียงก้าที่เดินข้ามถนนจากไปอย่างช้า ๆ เขากำหมัดแน่นเธอเดินไปทางสถานีรถไฟใต้ดินก่อนจะพ้นสายตาฌองไปฌองยังคงยืนอยู่ที่เดิม ความเดือดดาลของเขาไม่ได้ลดลงแม้แต่น้อย เขาหันหลังกลับมาอีกด้าน แล้วสาวหมัดเข้าไปที่เสาไฟตรงหน้า เขากัดฟันแน่น ความเจ็บปวดประเดประดังเข้ามาราวกับกระดูกแตกสลายจนแหลกละเอี

    Last Updated : 2021-09-23

Latest chapter

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 207 ครอบครัวทั้งสี่คนนอนอยู่ด้วยกัน

    เมื่อไม่มีทางเลือกอื่น เบียงก้าจึงเปิดประตูอย่างแผ่วเบา เด็ก ๆ ยังคงนอนในห้องเล็ก ๆ ขนาดสามร้อยตารางฟุตใต้แสงจันทร์ แต่ตอนนี้ผู้ใหญ่สองคนกลับกอดกันอยู่ตรงประตู เบียงก้าต้องการหันหลังกลับและมุ่งหน้าเข้าไปในห้อง แต่ชายหนุ่มก็กอดร่างอันบอบบางของเธอไว้แน่นอย่างร้ายกาจ “อย่าทำอย่างนี้สิคะ เด็ก ๆ จะเห็นเราถ้าพวกเขาตื่น…” เธอเหนื่อยหอบในอ้อมแขนของลุค ลุคเป็นสัตว์ร้ายอยู่แล้วตั้งแต่ตอนที่ยังเขาไม่ดื่ม แต่ตอนนี้เขาดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปแล้ว… เบียงก้าไม่อยากจะจินตนาการ เธอทำได้เพียงอธิษฐานว่าเขาจะไม่ดำดิ่งลงไป “ผมไม่บังคับคุณหรอกถ้าคุณไม่เต็มใจ คุณต้องบอกผมถ้าผมกำลังทำร้ายคุณอยู่ ต้องรีบบอกออกมาเลยนะ” ลุคเอาริมฝีปากบางและเย้ายวนของเขามาแนบใบหูของเธอ ก่อนจูบผิวที่ขาวเนียน เขาพยายามอย่างหนักที่จะระงับความอยากที่จะครอบงำเธอ เบียงก้าเงียบงันอยู่ในอ้อมแขนของเขา เธอรู้สึกสบายใจขึ้นเล็กน้อยเมื่อชายหนุ่มสัญญากับเธอ เธอคิดว่ามันน่าขันที่ลุคมักจะเป็นสัตว์ร้าย แต่เขาก็ยังเห็นอกเห็นใจมากขึ้นทั้งที่อยู่ในสภาพเมาเช่นนี้ ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนในตอนที่พวกเขากอดกัน เรนนี่หลับใหลและพึมพำห

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 206 คุณเมารึเปล่า

    เบียงก้าส่ายหน้าอย่างงุ่มง่ามเพื่อแสดงให้เห็นว่าเธอไม่เป็นไร เธอกังวลว่าใบหน้าที่บูดบึ้งของเขาอาจทำให้เด็กชายหวาดกลัว เธอจึงรีบขยับออกจากอ้อมแขนของเขาและพยักหน้าให้เขาเพื่อเป็นการขอบคุณ แขนของลุคว่างเปล่าในทันใด เขามองไปที่เบียงก้าซึ่งกำลังพาลูก ๆ ไปเล่นที่อื่นด้วยความห่วงใยและความไม่พอใจที่ก่อตัวขึ้นในหัวใจของเขา เขาไม่พอใจที่เบียงก้าตอบโต้เขาอย่างเย็นชาก่อนหน้านี้ แม้ว่าเขาจะคิดว่าเธอทำเช่นนั้นก็เพราะกลัวคนอื่นจะเห็น ความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะอ้างตัวเธอว่าเป็นของเขาเองนั้นก็ทำให้เขาไม่พอใจด้วย เขาอยากจะเดินไปกอดเธอในอ้อมแขนและประกาศให้ทุกคนรู้ว่าเบียงก้า เรย์นเป็นผู้หญิงของลุค ครอว์ฟอร์ขนาดไหนใครจะรู้! ไม่เพียงเท่านั้น ผู้หญิงคนนั้นยังให้กำเนิดลูกของเขาด้วย! ไม่ใช่แค่หนึ่ง แต่ถึงสอง! เบียงก้าก้มศีรษะลงที่เท้าของผู้บริหารเมืองเป็นการทักทาย แล้วก้มหน้าก้มตาวิ่งหนีไปราวกับว่าเธอกำลังหลบหนี เธอกังวลว่าผู้บริหารเมืองจะเข้าใจผิด “ช่างอ่อนโยนและอบอุ่นเหลือเกินนะ ท่านประธานครอว์ฟอร์ด! เราก็ทานอาหารเย็นกันบ่อย ๆ ทำไมผมไม่เห็นด้านนั้นของคุณเลยล่ะ?” ผู้บริหารเมืองชายวัยกลางคนหัวเราะ

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 205 ลุคแสดงความรักต่อหน้าสาธารณชน

    “น้าบี… จริงเหรอคะ?” เรนนี่มองไปที่เบียงก้าด้วยแววตาลูกสุนัขที่มีน้ำตาเอ่อคลอ เบียงก้าก้มศีรษะลงจูบที่หน้าผากของเรนนี่ และขยี้ผมของเธอ “ไม่เลย น้าไม่เคยคิดว่าหนูน่ารำคาญเลยนะ” น้ำเสียงของเบียงก้าอาจจริงจังเกินไป ไม่เพียงแต่จะโน้มน้าวใจเด็กน้อยอย่างเต็มที่ แต่คำพูดของเธอยังทำให้เจสันซึ่งกำลังขับรถอยู่ตกใจไปด้วย เจสันถือว่าตัวเองเป็นคนที่ผ่านอะไรมามาก เขาเคยเห็นคนทุกประเภทตั้งแต่ผู้สูงศักดิ์และยิ่งใหญ่ไปจนถึงคนอนาถาและน่ารังเกียจ ในช่วงหลายปีที่ทำงานกับเจ้านายมา เขาคิดว่าเขาเชี่ยวชาญในการอ่านนิสัยของคนอื่นและสามารถบอกความจริงจากการโกหกได้อย่างง่ายดาย ในขณะนั้น เจสันไม่รู้สึกถึงคำโกหกใด ๆ จากปากของเบียงก้าเลย เขาอดไม่ได้ที่จะแอบมองเบียงก้าผ่านกระจกมองหลัง ครู่หนึ่ง เขาคิดว่าตัวเองกำลังเห็นแม่ผู้ให้กำเนิดเด็กทั้งสองคน... โรงพยาบาลในเมืองเอ เมื่อผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ดตื่นขึ้น เขาไม่เห็นแม้แต่หลานชายหรือเหลนทั้งสองคนของตัวเอง เขาเริ่มกังวลทันที อลิสันเข้ามาในนาทีนั้นและพยายามปลูกฝังความคิดในหัวของชายชรา “พ่อจะโทรไปถามลุคไหม?” “ฉันควรถามอะไรล่ะ?” ผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ดตอบกลับระหว่

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 204 เขาอยากครอบครองเธอใจจะขาด

    เบียงก้ากับแวนด้าขึ้นไปชั้นบนเพื่อคุยกันเป็นการส่วนตัว ลุคกำลังอยู่ในสายของการประชุมธุรกิจระหว่างประเทศ ขณะกำลังคุยโทรศัพท์ เขาสามารถเห็นได้จากท่าทางของคนทั้งสองว่าการสนทนาระหว่างเบียงก้าและแวนด้านั้นไม่ปกติ แต่เขาไม่ได้ยินสิ่งที่ทั้งสองคนกำลังพูดกันเท่าไหร่นัก เมื่อเขาวางสาย ลุคเห็นจากหางตาว่าเบียงก้าและแวนด้าหายตัวแถวหัวมุม “เธอบอกว่าเธอเป็นน้าของเบียงก้า” เจสันเข้ามารายงานสถานการณ์ตามความจริง ลุคหันไปสั่งเจสันว่า "ไปสืบประวัติของน้าคนนั้น" เจสันโค้งคำนับ ลุคมองเข้าไปทางหน้าต่างชั้นสองที่เปิดทิ้งไว้ เขายังคงนิ่งเฉยไม่แสดงออก แม้ว่าความต้องการของเขาจะเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ในห้องบนชั้นสอง เบียงก้ารู้สึกเขินอาย ไม่เพียงเพราะเป็นครั้งแรกที่เธอได้พบกับน้าที่เธอเคยได้ยินผ่านเรื่องเล่า แต่ยังเป็นเพราะเธอกลัวว่าน้าจะรับรู้ถึงฮอร์โมนเพศชายที่แผ่ซ่านไปทั่วห้อง เธอรู้สึกราวกับว่าตัวเองทำอะไรผิด แวนด้าเหลือบมองไปรอบ ๆ ห้องและถามด้วยความสงสัย “ผู้ชายที่ลงมาข้างล่างกับเธอ…” “เขาเป็นเจ้านายของฉัน” เบียงก้าตอบก่อนที่น้าของเธอจะถามคำถามเสร็จ เบียงก้ายังเด็กและไม่ค่อยรู้จักวิธี

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 203 ทำไมคุณถึงขี้อายนักเล่า ผมก็เห็นทุกอย่างไปหมดแล้วนิ

    เบียงก้าสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของการข่มใจที่เล็ดลอดออกมาจากร่างของชายผู้นั้น แม้ว่าเธอจะได้รับการเตือนว่าชายผู้นี้มีความรู้สึกตรงกันข้ามก็ตาม เขาน่ะหรือจะห้ามใจ มีแต่จะทำตามใจตัวเองมากกว่า หัวใจของเธอเต้นแรง และปากเริ่มมีน้ำลายสอ เมื่อนึกถึงสัตว์ร้ายที่ซ่อนอยู่ใต้กางเกงของชายหนุ่ม “คุณ… ออกไปรอข้างนอก… ฉันอาบน้ำเองได้ค่ะ” หลังจากระเริงไปหลายครั้งเมื่อคืน เบียงก้าอายเกินกว่าจะเงยหน้ามองเขา บ้านหลังเก่าที่รกร้างและมืดมิดนั้นทั้งอบอุ่นและร้อนแรงเพราะมีเขาอยู่ กลิ่นของความสกปรกและความชื้นส่งกลิ่นแรงอยู่ตรงหน้าบ้าน แม้ว่าชายผู้นั้นจะจุมพิตและหายใจแรง แต่เธอก็ได้ให้ทุกสิ่งแก่เขาไป ราวกับว่าเธอได้หลอมรวมตัวเองเข้ากับร่างกายที่เร่าร้อนของเขาไป จากนั้น ก็ร่วมรักกันในรถอีกรอบ เบียงก้าคิดว่าลุคเป็นปีศาจที่หิวกระหายเนื้อมนุษย์ ไม่ว่ากลางวันหรือกลางคืนเขามักจะหิวโหยร่างกายของเธอเสมอ แต่ถึงกระนั้น เธอก็พลีกายให้เขาไปหลายครั้ง! โชคดีที่ความมืดมิดในยามค่ำคืนได้บดบังใบหน้าที่แดงก่ำของเธอ เพื่อที่เธอจะได้ไม่รู้สึกอึดอัดใจนักเมื่ออยู่กับเขาตามลำพัง แต่เธอไม่อาจหลบซ่อนมันจากการร่วมรักที

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 202 ตัณหาอันแรงกล้าในยามเช้าของลุค

    ชั้นล่างบริเวณสนามหญ้าหน้าบ้าน เพื่อนร่วมงานบางคนซื้อซาลาเปาสำหรับการทำงานกะเช้า ในขณะที่เพื่อนร่วมงานหญิงกำลังเตรียมข้าวโอ๊ตอยู่ในครัว ทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่าข้าวโอ๊ตที่ซื้อจากร้านมีเนื้อหยาบเกินไป เป็นครั้งแรกที่ลูก ๆ ของเจ้านายลิ้มลองซาลาเปาแป้งทำมือจากเมืองเล็ก ๆ พวกเขารับประทานคนละสองชิ้น แต่เหมือนจะยังไม่พอ เรนนี่ยัดขนมปังเต็มปากแล้วกะพริบตาอย่างไร้เดียงสาใส่คุณลุงดอยล์ของเธอ ก่อนขอเพิ่มทั้งที่ยังเคี้ยวอยู่เต็มปาก “ทานช้า ๆ ก็ได้ครับ เดี๋ยวลุงจะไปซื้อมาเพิ่ม” เจสันขยี้ผมของเรนนี่ เมื่อเขาลุกขึ้น เขาหันไปหาเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ แล้วพูดว่า "ผมจะซื้อมาฝากทุกคนเหมือนกัน" ขนมปังไม่เพียงพอสำหรับทุกคน การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของเจ้านาย ผู้ช่วย และลูกสองคนของเขาทำให้เพื่อนร่วมงานต้องแบ่งอาหารให้ ในเมืองกำลังพลุกพล่าน เจสันยืนอยู่หน้ารถขายอาหารและซื้อซาลาเปาใส่ไส้ไก่มากว่าสิบห้าชิ้น เมื่อเขาหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาและกำลังจะจ่าย เขาสังเกตเห็นผู้หญิงคนหนึ่งสวมชุดทำงานแสนเรียบร้อยเดินเข้าไปในสนามหญ้าหน้าบ้าน เธอดูเหมือนจะอยู่ในวัยสามสิบ "ชิ้นละ 1.80 เหรียญ ซื้อ 15 ชิ้นก็เป

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 201 เจ้านายเอาใจใส่ภรรยาของลูกพี่ลูกน้องมากเลยนะ

    รถลีมูซีนเบนท์ลีย์สีดำไม่ได้ขับรถเข้ามาในสนามหญ้าหน้าบ้านแต่กลับจอดอยู่ด้านนอกแทน ลุคไม่ได้ขับรถมาเอง หลังจากที่เจสันจอดรถแล้ว เขาก็ออกไปเปิดประตูเบาะหลัง เจ้านายและลูกน้อยสองคนก้าวออกมา เหมือนเช่นเคย ลุคแต่งตัวอย่างไร้ที่ติในชุดสูทมาดธุรกิจและรองเท้าหนัง ทว่าจากใบหน้าของเขาสามารถบอกได้ง่าย ๆ ว่าเขามีชีวิตชีวามากกว่าปกติราวกับว่าเพิ่งได้ยินข่าวดีมา เรนนี่อยู่ในอ้อมแขนของพ่อ เธอได้กลิ่นโคโลญจน์ของเขา ขณะที่ลานี่วิ่งอย่างตื่นเต้นไปที่สนามหญ้าหน้าบ้านพร้อมกับสะพายกระเป๋าเป้อยู่ “สวัสดีค่ะ พ่อหนุ่มน้อยรูปหล่อ!” เพื่อนร่วมงานหญิงคนหนึ่งทักทายลูกชายของเจ้านาย 'ทริปนี้คุ้มมาก!’ 'สิ่งอำนวยความสะดวกอาจจะไม่ดีเท่าในเมือง แต่ได้เห็นหน้าเจ้านาย และลูกชายกับลูกสาวที่น่ารักของเขาก็พอแล้ว!’ 'ช่างมีความสุขเหลือเกิน!' ลานี่มองไปรอบ ๆ ฝูงชนแต่ไม่พบคุณน้าบีเลย แต่เขาก็ไม่ลืมมารยาทและทักทายกลับว่า “อรุณสวัสดิ์ครับ คุณคนสวย!” เพื่อนร่วมงานหญิงที่ถูกเรียกว่า "คุณคนสวย" ยิ้มกว้าง โจพร้อมทำหน้าที่และพยายามอย่างหนักที่จะควบคุมสิ่งต่าง ๆ ให้อยู่ภายใต้การควบคุมของเขา เขาก้าวไปข้างหน้าแล

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 200 ทำไมเจ้านายถึงมาเร็วจังล่ะ

    เบียงก้าระงับเสียงครางเอาไว้ ร่างกายของเธอเกร็ง ขณะกำผ้าม่านตรงหน้าแน่น... ม่านไม่ได้ยึดอย่างแน่นหนา ขณะที่ชายที่อยู่ข้างหลังเธอเคลื่อนเข้าไปหาเธออีกนิ้ว เธออ้าปากค้าง และจิตใจว่างเปล่า ผ้าม่านหลุดลง... "ใจเย็น" ลุคก้มศีรษะลงและจูบต้นคอของเธอ ผิวขาวภายใต้แสงจันทร์ดูเรียบเนียนและอ่อนโยน การเคลื่อนไหวของเขาเชื่องช้าอย่างจงใจ ปากของเขาทิ้งร่องรอยต่าง ๆ ไว้บนร่างกายของเธอ “อา… อืม…” เธอไม่สามารถต้านทานริมฝีปากและเรียวลิ้นที่บุกรุกเข้ามาได้ เบียงก้าเชยคางและทิ้งตัวบนหน้าต่าง ชายที่อยู่ข้างหลังเธอยังคงดันนิ้วเข้าไปทีละนิ้วราวกับเขาถูกปีศาจสิง เธอรู้สึกได้ว่าการหายใจของเธอเริ่มหนักขึ้น เธอหายใจถี่และลึกขึ้นเพื่อจะได้หายใจหายคอสะดวกขึ้น อากาศก็เริ่มเย็นลง ตอนที่เบียงก้าลืมตาขึ้น เธอมองเห็นหน้าต่างที่มีฝ้าขึ้นจากลมหายใจของเธอ ความรู้สึกไม่สบายกายเกิดขึ้นเพียงห้านาทีและกลายเป็นความเลื่อนลอย... มันเป็นความรู้สึกที่คุ้นเคย ไม่ว่าจะเป็นเมื่อห้าปีที่แล้วที่เธอเคยชินกับการปรากฏตัวของชายคนนั้น หรือในปีนี้ที่เธอได้ติดต่อกับชายคนนั้นที่โรงแรม เธอก็รู้สึกสั่นสะท้านเช่นเดียวกัน… มื

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 199 เธอกลายเป็นผู้หญิงของลุค ครอว์ฟอร์ด

    เธอไม่อาจต้านทานจุมพิตอันเร่าร้อนของชายผู้นี้ไม่ได้ บนใบหน้าของพวกเขา กลิ่นของทั้งสองเป็นเหมือนกับสิ่งที่คุ้นเคยแต่แปลกใหม่ อาจเป็นเพราะพวกเขาเกือบเสร็จกิจเมื่อเช้านี้เอง และตอนนี้พวกเขาก็มีโอกาสอีกครั้ง ลุครู้สึกราวกับว่าตัวเองได้แปลงร่างเป็นสัตว์ร้ายที่หิวกระหาย ความปรารถนาที่ไม่ลดละของเขาบดขยี้ริมฝีปากอ่อนนุ่มของเธอ แม้ว่าเขาจะไม่ลดความรุนแรงลง เขาสามารถรับรู้ได้ถึงความทรมานจากเสียงครางของเธอ เขาอยากจะกลืนกินร่างที่เขาหิวโหยไป ชายหนุ่มดูราวกับเด็กที่เพิ่งได้ลองชิมขนมเป็นครั้งแรก เขาปรารถนาร่างกายของเธอมานานแล้ว จนเมื่อเช้าที่เขาได้มีโอกาสได้ลิ้มรสความหวานอันเป็นเอกลักษณ์ของมัน เมื่อได้รับขนมอร่อย ๆ เด็กที่ไหนก็เหมือนกันหมด พวกเขาจะแกะมันออกจากห่ออย่างตะกละตะกลาม แล้วเอาเข้าปาก ก่อนใช้ความอบอุ่นและน้ำลายละลายพวกมัน พวกเขาอาจจะอ่อนโยนหรือรุนแรง ก็แล้วแต่ระดับความกระหายของคนเป็นเจ้าของ... ลุคกับเบียงก้า เปรียบได้กับเด็กตะกละกับขนมอร่อย ... “อืมมม…” ร่างของเบียงก้าอ่อนยวบเมื่อลุคกอดเธอในอ้อมแขนจนแน่น ช่องปากของเขาอุ่นชื้น เธอจมดิ่งลงไปในจูบอันป่าเถื่อนของเขา… เธอกำ

DMCA.com Protection Status