หน้าหลัก / โรแมนติก / พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก / บทที่ 5 การกลับมาหลังผ่านไปห้าปี

แชร์

บทที่ 5 การกลับมาหลังผ่านไปห้าปี

ผู้เขียน: พะเนินเทินทึก
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2021-09-21 16:35:01
ห้าปีผ่านไปเมื่อเบียงก้าก้าวกลับเข้าสู่เมืองเอที่คนพลุกพล่านอีกครั้ง

เธอจากเมืองนี้ไปได้เกือบสองพันวัน แต่กลับไม่ได้รู้สึกนานแต่อย่างใด รวมถึงไม่ได้มีอะไรแปลกไปเสียด้วยซ้ำ

ย้อนกลับไปตอนนั้น เธอไร้ซึ่งหนทาง และถูกโชคชะตาผลักไสอย่างไร้ปราณี

ณ ตอนนี้ เธอต้องการยืนหยัดด้วยกำลังของตนและต้องการเลือกทางเดินของชีวิตด้วยตนเอง

ดวงตะวันสาดส่องลงมา

“บี ทางนี้” นีน่าลดกระจกรถลง และโบกมือให้เบียงก้าที่กำลังเดินออกจากชานเมือง

เวลาผ่านไปแล้วห้าปี พวกเขาไม่ใช่เด็กผู้หญิงไร้เดียงสาที่อายุสิบแปดสิบเก้าอีกต่อไป

เบียงก้าและฌองเดินกลับสู่บ้านเกิดเมื่อวานนี้ และนีน่าเป็นคนที่ไปรับทั้งสองที่สนามบิน

คืนนั้น ฌองพาเบียงก้ากลับไปรับประทานอาหารเย็นที่บ้านของตระกูลแลงดอน

พ่อกับแม่ของฌองหลงใหลได้ปลื้มตัวเบียงก้าในฐานะลูกสะใภ้ในอนาคตไม่น้อย

ในเช้าวันนั้น ฌองต้องการไปสัมภาษณ์งานที่บริษัทกับเบียงก้า แต่มีบางอย่างเกิดขึ้น เขาเลยไม่สามารถไปพร้อมกับเธอได้

เบียงก้าขึ้นรถของนีน่า และนั่งในที่นั่งผู้โดยสารพร้อมคาดเข็มขัดนิรภัยเรียบร้อย

“เธอรู้ไหมว่าเมื่อคืนแม่ฉันพูดว่าอะไร หลังจากที่เธอออกไปกับพี่ฌองน่ะ?” นีน่าเอ่ยถามขึ้น

“ท่านพูดว่าไง?” เบียงก้ากังวลว่าพ่อแม่ของฌองจะไม่ชอบเธอ

“แม่พูดว่า ‘ดูเบียงก้าสิ เธอดูสวยสง่า อ่อนโยนและอ่อนหวานจริง ๆ เลย แต่ดูลูกสิ! ทำไมถึงได้ต่างขนาดนี้? ลูกนอนอยู่แต่บ้าน กระโดกกระเดกเหมือนเด็กผู้ชาย สบถเหมือนพวกไม่มีการศึกอย่างนั้นแหละ!” นีน่าอดไม่ได้ที่จะสัมผัสใบหน้าอันอ่อนนุ่มของเพื่อนเธอในขณะที่เธอพูดและเดาะลิ้นไปด้วย “เพราะอากาศเมืองนอกแน่ ๆ ผิวเธอถึงได้ดีขนาดนี้เนี้ย”

“อย่างกับเธอไม่เคยออกจากบ้านมาก่อนเลยงั้นแหละ เธอก็เลยไม่รู้เลยว่าที่นั่นมันลำบากขนาดไหน” เบียงก้าปัดมืออันซุกซนของเธอออกไป “มองถนนเถอะ”

ทั้งสองพูดคุยกันระหว่างทาง

ตอนที่หญิงสาวทั้งสองเดินทางถึงมาบริษัท ที คอร์ปอเรชั่น ก็เกือบแปดโมงสี่สิบแล้ว

“ฉันหวังว่าพี่ชายฉันคงไม่มาสายหรอกนะ หัวหน้าที่นี่เป็นจอมเผด็จการใจยักษ์สุด ๆ เลย เธอรู้ใช่ไหม!” นีน่าพึมพำกับตนในขณะที่ก้มศีรษะส่งข้อความเร่งพี่ชายบนวีแชท

จอมเผด็จการใจยักษ์งั้นหรอ? นีน่าทำให้เบียงก้าประหม่าอยู่ไม่น้อย

เธอเปิดโทรศัพท์และเปิดข้อมูลมือถือเพื่อที่จะค้นหาข้อมูลของหัวหน้าของบริษัท ทีคอร์ปอเรชั่นอีกครั้ง เธอหวังว่าสิ่งที่พบบางอย่างอาจช่วยเธอในระหว่างการสัมภาษณ์ได้

ข้อมูลส่วนใหญ่ที่เธอพบทางออนไลน์ ไม่มีอะไรมากไปกว่าข่าวลือเกี่ยวกับคนรวยและคนดัง

ประธานของบริษัท ที คอร์ปอเรชั่น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของครอว์ฟอร์ด อินดัสทรี่ คือชายชื่อ

ลุค ครอว์ฟอร์ด เขาอายุ 29 ปีในปีนี้ แต่ไม่มีใครรู้ว่าเขาโสดหรือแต่งงานแล้ว สื่อมวลชนเองก็ยังไม่มีข่าวคราวใด ๆ เกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวของเขาเลย

จริง ๆ แล้วชื่อครอว์ฟอร์ดยังคงมีกระทบความรู้สึกของเบียงก้าอยู่เล็กน้อย

ถึงกระนั้น นั่นเป็นเพียงจินตนาการในวัยเด็กที่ไร้เดียงสาของเธอในอดีต ถึงตอนนี้ เธอได้ฝังความฝันเหล่านั้นไว้ในมุมที่ลึกที่สุดของขั้วหัวใจนานแล้ว

ข่าวยังรายงานว่า มีเหตุการณ์ใหญ่เกิดขึ้นเมื่อห้าปีที่แล้ว เมื่อลูกชายทั้งสองของครอว์ฟอร์ด

ต่อสู้แย่งชิงธุรกิจของครอบครัว

หลุยส์ ครอว์ฟอร์ด ทายาทโดยชอบธรรมตามกฎหมายที่สังคมให้การยอมรับถูกปลดออกกะทันหัน

ในทางกลับกัน ผู้อาวุโสของครอว์ฟอร์ดรับเลี้ยงบุตรบุญธรรมเพิ่มอีกหนึ่งคน ชื่อลุค ครอว์ฟอร์ด ซึ่งเป็นทายาทนิรนามในนามครอว์ฟอร์ด และภายหลังประสบความสำเร็จในธุรกิจของครอบครัว ในที่สุดเขาก็สืบทอดอุตสาหกรรมครอว์ฟอร์ดที่กำลังจะตาย

ทายาทนิรนามได้รับนามครอว์ฟอร์ด…

ผู้เขียนบทความบอกเป็นนัยอย่างละเอียดว่าลุค ครอว์ฟอร์ดเป็นลูกชายนอกสมรสของ

ครอบครัวที่ร่ำรวย

เบียงก้าครุ่นคิดบางสิ่งพร้อมจ้องมองโทรศัพท์ของตน

ตึกของบริษัท ที คอร์ปอเรชั่นสูงมากจนข่มขวัญทุกคนที่ก้าวเข้ามาทันที

ฌองมาที่นี่ด้วยความเร่งรีบ เขาเคยอ่านประวัติความเป็นมาของบริษัทมาก่อน และเมื่อเขา

เห็นว่าอาคารใหญ่โตเพียงใด เขาจึงยิ่งรู้สึกกังวลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

เขาไม่ต้องการขายหน้าต่อหน้าเบียงก้า

นั่นเป็นเหตุผลที่เขาจะไม่มีทางล้มเหลวในการสัมภาษณ์ครั้งนี้

ในห้องทำงานแห่งหนึ่งในตึกนี้ มีผู้บริหารห้าคนในห้องสัมภาษณ์ หนึ่งในนั้นไม่ใช่ใครอื่น นอกจากผู้บริหารใหญ่สุดของบริษัท ที คอร์ปอเรชั่น ลุค ครอว์ฟอร์ด

หลังจากผู้สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งเสร็จสิ้นการสัมภาษณ์ ผู้ให้สัมภาษณ์อีกคนเหลือบมองลุค ราวกับพยายามอ่านความคิดของเขา

อย่างไรก็ตาม ไม่นานเขาสังเกตเห็นผู้บริหารหันเหความสนใจไปที่บางอย่างในหน้าจอกล้องวงจรปิด เขามองอะไรอยู่กัน?

“คนต่อไปเชิญครับ” หนึ่งในผู้ให้สัมภาษณ์กล่าวเชิญ

กล้องวงจรปิดนั้นเผยให้เห็นภาพด้านนอก ที่ซึ่งทั้งหญิงและชายต่างกำลังมองหางานกำลัง

รอเรียกสัมภาษณ์อยู่ เมื่อดูพฤติกรรมของพวกเขาภายนอก ผู้ให้สัมภาษณ์สามารถสรุปได้ชัดเจนว่าผู้สมัครเป็นอย่างไรเมื่ออยู่กับตนเองเงียบ ๆ

สายตาของลุคนั้นลึกซึ้งชวนซับซ้อน ขณะที่เขาจ้องมองไปที่เด็กสาวคนหนึ่ง

ไม่สิ เธอเป็นหญิงสาวมากกว่า

ตอนนี้เบียงก้าอายุยี่สิบสามปี และเธอก็ละทิ้งความไร้เดียงสาแบบเด็ก ๆ จนสิ้น เธอมีพัฒนาการอันน่าทึ่ง ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหรือรอยยิ้มเล็ก ๆ ทุกอย่างเกี่ยวกับเธอแสดงเห็นว่าหญิงสาวคนนี้มีเอกลักษณ์ขนาดไหน

ความคิดของลุคหวนกลับไปสู่ช่วงเวลาห้าปีที่แล้วอย่างกะทันหัน ภาพของผู้หญิงคนนี้คร่ำครวญและร้องไห้ขณะที่เขาหลับนอนกับเธอในทุกคืน

“อีกเดี๋ยวพี่ฌองก็มาแล้ว” นีน่าสะกิดเบียงก้าที่ด้านนอกทางเดิน

เบียงก้ากลับมามีสติอีกครั้งและเก็บโทรศัพท์ที่เธอดูมันมานาน

เป็นเพราะเวลาผ่านไปนานมาก สิ่งนั้นก็ดันปลุกความทรงจำนั้นขึ้นมารึเปล่า?

เมื่อเบียงก้ามองไปที่รูปภาพของหัวหน้า ลุค ครอว์ฟอร์ด มันให้ความรู้สึกที่ค่อนข้างคุ้นเคย เขาดูคล้ายกับรุ่นพี่นักบาสเก็ตบอลสมัยมัธยมอย่างกับแกะ พวกเขามีนามสกุลเดียวกันอีก

ขณะนั้น ฌองวิ่งขึ้นบันไดและเดินไปหาเบียงก้า ขยี้ผมของเธอด้วยความรัก “ขอโทษนะ พี่มาช้าไปหน่อย”

“ไม่เป็นไรค่ะ ยังไงก็ยังไม่ถึงเวลาของพวกเรา” เบียงก้าพูดกับฌองด้วยความเข้าใจ

นีน่าเบ้ปากให้กับหนุ่มสาวที่นั่งอยู่ข้างกาย "ไม่คิดว่าการพลอดรักจะทำให้ลูกตาฉันบอดบ้างรึไง ทั้งสองคน เพลา ๆ ลงบ้างถือว่าสงสารคนโสดที่นั่งหัวโด่อยู่ตรงนี้หน่อยเถอะ! ฉันยังต้องใช้ลูกตาทำมาหากินอยู่นะ"

“ประวิงเวลาไปก็เท่านั้นแหละน้องพี่ เธอจะไม่แหกลูกตาออกมาเลยรึไงถ้าพี่แต่งงานและพาเบียงก้าเข้าบ้านนะหา?”

"แต่งเลยค่ะ! แต่งงานกับเบียงก้าเลยสิคะ!" ดวงตาของนีน่าแทบจะเป็นประกายเมื่อบอกกับพี่ชายของเธอว่า “เมื่อคืน ตอนที่พ่อกับแม่อยู่กับบีนะ พวกท่านมีความสุขอย่างบอกไม่ถูกเลยแหละ ตอนที่ทั้งสองได้งานและลงตัวเรียบร้อยแล้ว พี่ก็รีบลงหลักปักฐานเรื่องครอบครัวได้แล้วนะ”

ฌองพยักหน้าและอดไม่ได้ที่จะแอบหลือบมองอาการเบียงก้าที่อยู่ข้าง ๆ เขา

เบียงก้ารู้สึกว้าวุ่นเล็กน้อย

เธอมีความสุขมาก ๆ กับชีวิตตอนนี้ อันที่จริง เธอต้องขอบคุณฌองกับคำแนะนำที่มีให้เธอตลอดทั้งห้าปีที่ผ่านมา

ก่อนที่ฌองจะสารภาพกับเธอ เธอสังเกตว่าเขามีความรู้สึกดี ๆ ให้เธอ ประสบการณ์ที่ผ่านมาทำให้เธอรู้สึกว่าตนเองเป็นหญิงสาวตัวจ้อยและไร้ค่า ย้อนกลับไปตอนนั้น เธอพยายามเมินเฉยต่อฌองมาโดยตลอด ที่จริงแล้ว เธอหลีกเลี่ยงผู้ชายทุกคนที่เข้าหาเธอต่างหาก

ตลอดช่วงเวลาเหล่านั้น ไม่มีสิ่งใดเป็นแสงสว่างสำหรับเธอ แต่ฌองไม่ละความพยายาม เขาคอยตามดูแลเธอตลอด ในที่สุดก็ทำให้เธอยอมเปิดใจเล่าอดีตอันแสนเจ็บปวดให้เขาฟัง

เขาทำให้เบียงก้าประหลาดใจ ฌองไม่ได้ละทิ้งเธอไปไหน เขาไม่ได้คิดว่าเป็นความผิดของเธอที่ 'ให้กำเนิดเด็กน้อยให้กับชายแปลกหน้า'

เบียงก้าคิดว่าเธอโชคดีมากในเรื่องนี้

“คนต่อไปครับ ฌอง แลงดอน!”

“จะไปเดี๋ยวนี้แหละครับ” ฌองบีบมือของของเบียงก้า

“เต็มที่นะคะ สู้ ๆ” เบียงก้าพูดพร้อมพยักหน้า

เมื่อฌองผลักประตูและเดินเข้าไปในห้อง เขารู้สึกได้ทันที ถึงสายตาที่จับจ้องมายังเขา เขาทำการบ้านและค้นหาเรื่องราวของผู้บริหารหนุ่มชื่อดังของทีคอร์ปอเรชั่นมาพอสมควร

ลุคเห็นทุกอย่างที่ฌองปฏิบัติต่อเบียงก้าด้านนอก

การสัมภาษณ์เป็นไปอย่างเป็นทางการ จริงจังและเป็นมืออาชีพ

ฌองมีความสามารถมาก ดังนั้นเขาจึงตอบคำถามของผู้ให้สัมภาษณ์ได้ทุกข้ออย่างใจเย็นและสงบ เนื่องจากความสามารถและการวางตัวของเขา จึงทำให้เขาได้รับคะแนนจากผู้ให้สัมภาษณ์ไปไม่น้อยเลย

สายตาของลุคหันกลับมาที่หน้าจอกล้องวงจรปิดอีกครั้ง

ในภาพหน้าจอ เบียงก้าจ้องมองประตูอย่างใจจดใจจ่อ เธอกัดริมฝีปากของตนเบา ๆ และบีบนิ้ว ดูเหมือนว่าเธอจะกังวลอย่างมากเกี่ยวกับผลการสัมภาษณ์ขอคนที่อยู่ในห้องตอนนี้

บทที่เกี่ยวข้อง

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 6 หัวใจที่เต้นระรัว

    สิบนาทีต่อมา การสัมภาษณ์ของฌองก็เสร็จสิ้น เขาเปิดประตูและเดินออกไป เบียงก้ายืนขึ้นในทันที “เป็นยังไงบ้างคะ?” “กรรมการที่สัมภาษณ์ถามคำถามยากมาก แต่มันก็ไม่ใช่อะไรที่พี่รับมือไม่ได้นะ” ฌองก้มตัวลงไปจูบที่หน้าผากของเบียงก้า เบียงก้าถอนหายใจด้วยความโล่งอก“คนต่อไปค่ะ เบียงก้า เรย์น” เลขาสาวประกาศเรียก เบียงก้ารีบจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อยและเดินเข้าไปในห้องอย่างกังวล วินาทีที่เธอเดินเข้ามาในห้อง ลุคจ้องมองเธอด้วยแววตาอันสับสนเบียงก้านั่งลงอย่างเรียบร้อย และเงยหน้าขึ้นมาสบตาผู้ให้สัมภาษณ์ทีละคน หลังจากนั้น เธอแนะนำตัวสั้น ๆ "สวัสดีค่ะ ทุกท่าน ก่อนอื่นเลย ขอพระขอบคุณที่ให้โอกาสดิฉันได้เข้าร่วมการสัมภาษณ์ครั้งนี้ ดิฉันชื่อเบียงก้า เรย์นค่ะ” เนื่องจากเธอตัดสินใจกลับประเทศนี้และหางานทำที่นี่ บริษัทที่เธอต้องการไปสัมภาษณ์ผุดขึ้นมาในความคิดมากมาย อาจไม่ใช่วิธีที่สร้างสรรค์ที่สุดในการเริ่มต้น แต่ก็สมบูรณ์เพียงพอและไร้ปัญหาใด ๆ การสัมภาษณ์ดำเนินต่อไป ลุคประเมินเธอด้วยสายตาที่เย็นชา บางที การจ้องมองของเขาอาจดูเฉียบแหลมเกินไป แม้ว่าเบียงก้าจะสามารถตอบคำถามของในการสัมภาษณ์ทั้งห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2021-09-21
  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 7 ท่าทีอันแปลกประหลาดออกไปของฌอง

    เบียงก้าเดินออกจากห้อง ลุคก็พลันวางพิมพ์เขียวที่อยู่ในมือ เขาลุกขึ้นยืนและเดินออกจากโต๊ะทำงานไปยังตู้เก็บไวน์แทน ตรงนั้น เขาหยิบแก้วออกมาและรินไวน์ลงไปครึ่งหนึ่งด้วยท่าทีหงุดหงิดเล็กน้อยช่างเป็นตัณหาที่เย้ายวนเสียจริง! ตอนที่เบียงก้าออกจากบริษัท ก็เป็นเวลาที่ดึกมากเลยทีเดียว แต่โชคดีที่ยังมีรถไฟขบวนสุดท้ายที่จะพาเธอกลับบ้านได้ เมื่อกลับมาถึงบ้าน สิ่งแรกที่เธอทำคือตอบกลับข้อความของฌองบนวีแชทหลังจากนั้น เธอดึงกระเป๋าเดินทางออกมา และเริ่มจัดของที่เธอจำเป็นต้องใช้สำหรับการเดินทางในวันพรุ่งนี้ทันใดนั้น โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น สายเรียกเข้านั้นคือฌอง“นี่พี่ยังไม่นอนอีกเหรอคะ? ฉันคิดว่าฉันบอกพี่ไปแล้วนะว่าแทนที่โทรหาฉันแบบนี้ ให้พี่พักผ่อนแต่หัวค่ำน่ะ” เมื่อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เบียงก้ากล่าวด้วยความกังวล “พี่ยังทำงานไม่เสร็จเลย พี่ก็เลยเอาของกลับไปที่ห้องพักในโรงแรมเพื่อทำงานต่อน่ะสิ” ฌองเอ่ยถามต่อ “พี่เห็นข้อความของเธอก่อนหน้านี้แล้ว ทำไมเธอถึงต้องออกไปข้างนอกด้วยละ? ไปกับใครเหรอ?” “ฉันยังไม่รู้ว่าใครเลยค่ะ ต้องรอพรุ่งนี้เช้าเลยแหละถึงจะรู้” เบียงก้าตอบกลับ “ถ้าเป็นคนที่ไป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2021-09-22
  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 8 บลานก้า และ เรนนี่

    เบียงก้าไม่กล้าพูดอะไรอีกเลย จากที่เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นมองเธอกาลเวลาผ่านไปเด็กชายพูดว่า “ผมว่าดูน่าอึดอัดครับ” น้องสาวตัวน้อยพยักพยักหน้าเบียงก้า “….” “คุณผู้หญิงครับ โทรหาพ่อของผมตอนนี้เลยเถอะ และบอกเขาด้วยว่าคุณไม่ต้องการดูแลพวกเราสองคนแล้ว” เด็กชายกล่าวเด็กชายตัวเล็ก ๆ ดูค่อนที่จะไม่เป็นมิตรกับเธอสักเท่าไหร่ “ฉันไม่เคยบอกเลยนะว่าไม่อยากดูแลพวกหนูน่ะ” เธอต้องอธิบายให้ชัดเจน เธอจะกล้าพูดว่าเธอไม่ต้องการดูแลลูก ๆ ของเจ้านายได้อย่างไรกัน? เจ้านายคงจะจัดการเธอจนกลายเป็นอาหารกลางวันเป็นแน่“ในเมื่อต้องการจะดูแลเราสองคนจริง ๆ คุณควรทำเหมือนที่คุณพูดสิครับ” เห็นได้ชัดว่าเด็กชายไม่ชอบบรรยากาศที่เงียบ ๆ แบบนี้ ผู้หญิงคนนี้ดูซื่อบื้อกว่าคนอื่น ๆ มากเบียงก้า “…”เป็นความผิดพลาดของเธอเองสินะที่ออกจากบ้านมาโดยที่ไม่ดูตาม้าตาเรือเสียก่อน ถึงได้มาเจอเรื่องเช่นนี้ “มากับหนูหน่อยค่ะ พี่ชาย” เด็กหญิงตัวเล็กบอกได้ว่าสีหน้าของป้าคนนี้เริ่มไม่พอใจ และเธอก็ลากพี่ชายออกไปด้วยความขุ่นเคือง เบียงก้าถอนหายใจยาว มองดูเด็กน้อยสองคนเดินหายไปทางประตูห้องน้ำ ภายในห้องน้ำน้องสาวเอ่ยถา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2021-09-22
  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 9 เปิดประตูสู่โลกของฉัน

    ในตอนนี้เรนนี่ตัวน้อยมีความสุขอย่างน่าเหลือเชื่อ เธอได้แอบกินไก่ทอดลับหลังพ่อระหว่างทางกลับห้องเรนนี่ ยังคงเกาะติดเบียงก้ากอดขาเธอราวกับเป็นโคอาล่าเกาะต้นไม้ มันค่อนข้างยากสำหรับเบียงก้าที่จะเดินโดยมีเด็กน้อยเกาะอยู่ที่ขาของเธอ เธอต้องเดินกะเผลกไปตลอดทางจนกลับชั้นบน“นี่ก็ดึกมากแล้วนะ เดี๋ยวฉันจะไปส่งพวกหนูเข้านอนที่ห้องนะจ๊ะ ” หญิงสาวกับเด็กทั้งสองนั่งดูการ์ตูนในห้องสักพัก ก่อนที่เบียงก้าจะหันไปหาทั้งคู่ พี่ชายเงยหน้าขึ้นมองเธอแล้วพูดว่า “พวกเราไม่มีคีย์การ์ดเข้าห้องพักหรอกครับ” เรนนี่กอดเบียงก้าด้วยมือที่อวบอ้วนของเธอ ดวงตาของเธอปิดสนิท ตอนนี้เธอเกือบจะหลับสนิทแล้ว ถึงกระนั้น พวกเขาจะกลับเข้าห้องโดยไม่มีคีย์การ์ดได้อย่างไร? เบียงก้ารู้สึกงุนงงไม่น้อยเธอไม่รู้ว่าในวันนี้ ท่านประธานจะทำงานเสร็จเมื่อไหร่และกลับไปที่โรงแรมตอนไหน“ไปเรียกคุณดอยล์สิครับ” เบียงก้ามองไปที่เรนนี่ซึ่งหลับไปแล้ว เธอขยับตัวไม่ได้ เธอจึงต้องขอให้ลานี่หยิบโทรศัพท์ของเธอมาให้หน่อย ลานี่หยิบโทรศัพท์และส่งให้เบียงก้าเบียงก้าโทรหาเพื่อนร่วมงานและขอหมายเลขโทรศัพท์ของเจสัน ดอยล์ เจสันรับสายเร็วพ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2021-09-22
  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 10 ชายโฉด

    ภายไม่กี่วินาทีนั้น จิตใจของเบียงก้าก็ว่างเปล่า! เธอขมวดคิ้วและตำหนิตัวเองที่ใจอ่อน 'เบียงก้า อย่าลืมสิ เธอมีฌองอยู่แล้วนะ!' 'ฌองเป็นผู้ชายคนเดียวที่เธอจะมีอารมณ์ด้วยได้นะ!' “คุณอยู่กับผมแล้วนะ ทำไมคุณถึงได้คิดฟุ้งซ่าน!” เขากระชากเสื้อคลุมสีขาวของเธออออกอย่างแรง ความรู้สึกชุ่มชื้นและอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูกแผ่ซ่านไปทั่วริมฝีปากของเธอ จากนั้นเขาก็ก้มศีรษะลงและจูบลงบนเส้นผมของเธอ หลังจากผ่านเวลาไปอย่างยาวนาน เสียงต่ำของเขาก็พูดเข้าหูเธออย่างเย้ายวน เมื่อได้ยินเสียงต่ำของชายคนนั้น เบียงก้ากำลังจะอกแตกตาย! ลุคมีกลิ่นครีมอาบน้ำอันหอมหวน กลิ่นนั้นเป็นกลิ่นเดียวกับที่เธอใช้ นั่นหมายความว่าตอนที่อาบน้ำ ชายคนนี้เพิ่งใช้ครีมอาบน้ำของเธองั้นสิ เบียงก้ารู้ดีว่ามันอันตรายเพียงใดถ้าเธอไม่ขัดขืนตั้งแต่ตอนนี้ แต่แค่ออกแรงดิ้นยังทำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ สิ่งที่เธอสามารถทำได้ในตอนนี้มีเพียงสิ่งเดียว นั่นคือขอโทษเจ้านายของตนเสียก่อน เพราะเธอกำลังจะทำเรื่องที่ไม่น่าเคารพกับเขาเสียแล้ว แต่อย่างน้อยคงจะดีกว่าถ้าปล่อยให้เรื่องราวดำเนินไปอย่างตอนนี้!ดวงตาของเบียงก้าเริ่มคุ้นชินกับความมืด และตอน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2021-09-22
  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 11 เสื้อผ้าของสามี

    เบียงก้าเดินกลับขึ้นไปชั้นบนพนักงานทำความสะอาดกำลังเก็บกวาดห้องพักของเธออยู่เบียงก้าค้อมศีรษะให้พนักงานทำความสะอาดอย่างสุภาพ ก่อนจะเดินไปยังตู้เสื้อผ้า เธอเปิดมันออกแล้วหยิบเสื้อผ้าที่เธอรีดเมื่อคืนออกมาพนักงานสาวทำความสะอาดได้อย่างรวดเร็วตอนที่เบียงก้าล้างหน้าล้างตาเสร็จแล้ว ทุกร่องรอยที่ลุค ครอว์ฟอร์ดทิ้งไว้ในห้องก็ถูกปัดกวาดจนเกลี้ยงเธอถอนหายใจอย่างโล่งอกสิบนาทีที่แล้ว ฌองส่งข้อความถึงเธอ “เบียงก้า ทีมของพี่ทำโครงการเสร็จหมดแล้วนะ พี่กำลังจะไปเมืองเอชบ่ายนี้ แล้วพรุ่งนี้เป็นวันหยุดพอดีด้วย พี่ว่าจะไปหาเธอที่โรงแรมสักหน่อย”เบียงก้าส่งข้อความกลับไป “ยอดไปเลยค่ะ เดี๋ยวฉันจะส่งที่อยู่ของโรงแรมไปให้นะ”ไม่รู้ว่าทำไม ตอนที่เธอมองไปรอบ ๆ ห้องที่ลุค ครอว์ฟอร์ดใช้เวลาอยู่ในนี้ทั้งคืนด้วยความรู้สึกผิดเล็ก ๆ ในใจตอนที่พนักงานทำความสะอาดห้องเสร็จ เธอเห็นว่าเบียงก้ายืนนิ่งงันพร้อมด้วยสีหน้าดูบึ้งตึงและว้าวุ่นใจ“เรียบร้อยแล้วค่ะ” พนักงานทำความสะอาดกล่าวด้วยรอยยิ้มพร้อมถุงขยะในมืออยู่หน้าประตูเบียงก้าดึงสติตัวเองกลับมาอย่างรวดเร็ว “ขอบคุณมากนะคะ”“ดิฉันวางชุดชั้นในที่ใช้แล้วไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2021-09-23
  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 12 ลุค ครอว์ฟอร์ดไม่มีสิทธิ์ก้าวก่าย

    รถยนต์สองคันแล่นออกจากโรงแรมชื่อดัง จากนั้นมุ่งหน้ากลับไปยังโรงแรมที่พวกเขาพักอยู่เมื่อพวกเขามาถึงที่หมาย เบียงก้าก้าวออกจากรถซูก้าวตามลงมาที่หน้าประตูทางเข้า พวกเขาพบว่าเจสัน ดอยล์กำลังรออยู่ก่อนแล้ว เขาสวมชุดสูทที่ดูสง่าเข้าคู่กับรองเท้าหนังเป็นอย่างดี“สวัสดีค่ะ คุณดอยล์” เบียงก้าทักทายเจสันเหมือนอย่างที่ซูและคนอื่น ๆ ทำเจสันพยักหน้ารับคำทักทายของเบียงก้า หากแต่สายตาที่จ้องมองเธอเขม็งนั้นแตกต่างจากคนอื่นหลังจากที่เบียงก้าเดินเข้าไปถึงล็อบบี้ของโรงแรม เจสันก็ยังคงจ้องตามเธอไปอย่างนั้นเมื่อลุคลงมาจากรถ เขาก็สังเกตได้ถึงปฏิกิริยาที่ผิดปกติของเจสันลุคจ้องมองไปยังเจสัน กระทั่งเมื่อเจสันรู้สึกถึงความผิดปกตินั้นแล้ว เขาจึงหันกลับมามองเจ้านายอย่างแนบเนียนเขายืนตรงอย่างสูงสง่า ลุคสาวเท้าเข้าไปในโรงแรม น้ำเสียงเย็นยะเยือกเอ่ยขึ้น “คุณกำลังมองเธออยู่”ลุคพูดกับเจสันที่ยืนอยู่ด้านหลังของเขาเจสันใคร่ครวญอยู่ในใจว่าตัวเองควรจะตอบอะไรกลับไปหรือไม่ ไม่นานนักเขาก็ตัดสินใจที่จะเก็บงำสิ่งเหล่านั้นไว้กับตัวเอง “เปล่าครับ ผมเปล่า”แก้ตัวน้ำขุ่น ๆ !ลุคมองเจสันด้วยสายตาเคลือบแคลงมาก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2021-09-23
  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 13 สายตาไร้อารมณ์ของฌอง

    พวกเขาเดินทางกลับมาถึงเมืองเอในตอนเช้าทอมขับรถเบนลี่ย์ของบริษัทมาจอดอย่างเคยซูก้าวลงจากรถในอีกด้าน ฌองยกสัมภาระของเบียงก้าลงจากกระโปรงหลังของรถพร้อมพูดกับเธอ “เดี๋ยวพี่จะส่งเธอกลับบ้านก่อน เธอจะได้พักบ้าง หลับให้สบายนะแล้วเดี๋ยวคืนนี้พี่จะไปหา”เบียงก้าพยักหน้ารับพวกเขาเข็นสัมภาระจากไปขณะบอกลาซูและทอม พวกเขาเดินไปตามทางก่อนจะเรียกแท๊กซี่ฌองคิดว่าพรุ่งนี้เขาจะต้องซื้อรถสักคันการไม่มีรถส่วนตัวใช้มันลำบากเกินไปเบียงก้าทั้งเหนื่อยและง่วงงุน เมื่อคืนเธอได้นอนในรถไปแค่สองชั่วโมงเท่านั้นเอง แต่ถึงจะได้หลับบ้างแต่ก็ไม่ได้นอนอย่างสบายนักก่อนที่พวกเขาจะได้แท๊กซี่ โทรศัพท์ของฌองก็ดังขึ้น“พี่ขอรับโทรศัพท์ก่อนนะ” ฌองมองไปที่โทรศัพท์แล้วส่งสัญญาณให้เบียงก้าก่อนจะกดรับสายเบียงก้ามองไปที่ฌองแล้วเห็นว่าหน้าเขาค่อย ๆ นิ่วลง “ได้ครับ” ฌองตอบกลับสายในโทรศัพท์ “ผมจะไปเดี๋ยวนี้” เขาเสริม“มีอะไรรึเปล่าคะ?” เบียงก้าถามหลังจากที่เขาวางสายไป“อืม หัวหน้าทีมบอกให้พี่ไปประชุมก่อนเที่ยงวันน่ะสิ เขาบอกว่าตอนนี้น้ำขึ้นมันต้องรีบตัก แล้วจะได้รีบหารือเรื่องขั้นตอนต่อ ๆไปด้วย” ฌองพูดอย่างหัวเสีย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2021-09-23

บทล่าสุด

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 207 ครอบครัวทั้งสี่คนนอนอยู่ด้วยกัน

    เมื่อไม่มีทางเลือกอื่น เบียงก้าจึงเปิดประตูอย่างแผ่วเบา เด็ก ๆ ยังคงนอนในห้องเล็ก ๆ ขนาดสามร้อยตารางฟุตใต้แสงจันทร์ แต่ตอนนี้ผู้ใหญ่สองคนกลับกอดกันอยู่ตรงประตู เบียงก้าต้องการหันหลังกลับและมุ่งหน้าเข้าไปในห้อง แต่ชายหนุ่มก็กอดร่างอันบอบบางของเธอไว้แน่นอย่างร้ายกาจ “อย่าทำอย่างนี้สิคะ เด็ก ๆ จะเห็นเราถ้าพวกเขาตื่น…” เธอเหนื่อยหอบในอ้อมแขนของลุค ลุคเป็นสัตว์ร้ายอยู่แล้วตั้งแต่ตอนที่ยังเขาไม่ดื่ม แต่ตอนนี้เขาดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปแล้ว… เบียงก้าไม่อยากจะจินตนาการ เธอทำได้เพียงอธิษฐานว่าเขาจะไม่ดำดิ่งลงไป “ผมไม่บังคับคุณหรอกถ้าคุณไม่เต็มใจ คุณต้องบอกผมถ้าผมกำลังทำร้ายคุณอยู่ ต้องรีบบอกออกมาเลยนะ” ลุคเอาริมฝีปากบางและเย้ายวนของเขามาแนบใบหูของเธอ ก่อนจูบผิวที่ขาวเนียน เขาพยายามอย่างหนักที่จะระงับความอยากที่จะครอบงำเธอ เบียงก้าเงียบงันอยู่ในอ้อมแขนของเขา เธอรู้สึกสบายใจขึ้นเล็กน้อยเมื่อชายหนุ่มสัญญากับเธอ เธอคิดว่ามันน่าขันที่ลุคมักจะเป็นสัตว์ร้าย แต่เขาก็ยังเห็นอกเห็นใจมากขึ้นทั้งที่อยู่ในสภาพเมาเช่นนี้ ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนในตอนที่พวกเขากอดกัน เรนนี่หลับใหลและพึมพำห

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 206 คุณเมารึเปล่า

    เบียงก้าส่ายหน้าอย่างงุ่มง่ามเพื่อแสดงให้เห็นว่าเธอไม่เป็นไร เธอกังวลว่าใบหน้าที่บูดบึ้งของเขาอาจทำให้เด็กชายหวาดกลัว เธอจึงรีบขยับออกจากอ้อมแขนของเขาและพยักหน้าให้เขาเพื่อเป็นการขอบคุณ แขนของลุคว่างเปล่าในทันใด เขามองไปที่เบียงก้าซึ่งกำลังพาลูก ๆ ไปเล่นที่อื่นด้วยความห่วงใยและความไม่พอใจที่ก่อตัวขึ้นในหัวใจของเขา เขาไม่พอใจที่เบียงก้าตอบโต้เขาอย่างเย็นชาก่อนหน้านี้ แม้ว่าเขาจะคิดว่าเธอทำเช่นนั้นก็เพราะกลัวคนอื่นจะเห็น ความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะอ้างตัวเธอว่าเป็นของเขาเองนั้นก็ทำให้เขาไม่พอใจด้วย เขาอยากจะเดินไปกอดเธอในอ้อมแขนและประกาศให้ทุกคนรู้ว่าเบียงก้า เรย์นเป็นผู้หญิงของลุค ครอว์ฟอร์ขนาดไหนใครจะรู้! ไม่เพียงเท่านั้น ผู้หญิงคนนั้นยังให้กำเนิดลูกของเขาด้วย! ไม่ใช่แค่หนึ่ง แต่ถึงสอง! เบียงก้าก้มศีรษะลงที่เท้าของผู้บริหารเมืองเป็นการทักทาย แล้วก้มหน้าก้มตาวิ่งหนีไปราวกับว่าเธอกำลังหลบหนี เธอกังวลว่าผู้บริหารเมืองจะเข้าใจผิด “ช่างอ่อนโยนและอบอุ่นเหลือเกินนะ ท่านประธานครอว์ฟอร์ด! เราก็ทานอาหารเย็นกันบ่อย ๆ ทำไมผมไม่เห็นด้านนั้นของคุณเลยล่ะ?” ผู้บริหารเมืองชายวัยกลางคนหัวเราะ

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 205 ลุคแสดงความรักต่อหน้าสาธารณชน

    “น้าบี… จริงเหรอคะ?” เรนนี่มองไปที่เบียงก้าด้วยแววตาลูกสุนัขที่มีน้ำตาเอ่อคลอ เบียงก้าก้มศีรษะลงจูบที่หน้าผากของเรนนี่ และขยี้ผมของเธอ “ไม่เลย น้าไม่เคยคิดว่าหนูน่ารำคาญเลยนะ” น้ำเสียงของเบียงก้าอาจจริงจังเกินไป ไม่เพียงแต่จะโน้มน้าวใจเด็กน้อยอย่างเต็มที่ แต่คำพูดของเธอยังทำให้เจสันซึ่งกำลังขับรถอยู่ตกใจไปด้วย เจสันถือว่าตัวเองเป็นคนที่ผ่านอะไรมามาก เขาเคยเห็นคนทุกประเภทตั้งแต่ผู้สูงศักดิ์และยิ่งใหญ่ไปจนถึงคนอนาถาและน่ารังเกียจ ในช่วงหลายปีที่ทำงานกับเจ้านายมา เขาคิดว่าเขาเชี่ยวชาญในการอ่านนิสัยของคนอื่นและสามารถบอกความจริงจากการโกหกได้อย่างง่ายดาย ในขณะนั้น เจสันไม่รู้สึกถึงคำโกหกใด ๆ จากปากของเบียงก้าเลย เขาอดไม่ได้ที่จะแอบมองเบียงก้าผ่านกระจกมองหลัง ครู่หนึ่ง เขาคิดว่าตัวเองกำลังเห็นแม่ผู้ให้กำเนิดเด็กทั้งสองคน... โรงพยาบาลในเมืองเอ เมื่อผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ดตื่นขึ้น เขาไม่เห็นแม้แต่หลานชายหรือเหลนทั้งสองคนของตัวเอง เขาเริ่มกังวลทันที อลิสันเข้ามาในนาทีนั้นและพยายามปลูกฝังความคิดในหัวของชายชรา “พ่อจะโทรไปถามลุคไหม?” “ฉันควรถามอะไรล่ะ?” ผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ดตอบกลับระหว่

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 204 เขาอยากครอบครองเธอใจจะขาด

    เบียงก้ากับแวนด้าขึ้นไปชั้นบนเพื่อคุยกันเป็นการส่วนตัว ลุคกำลังอยู่ในสายของการประชุมธุรกิจระหว่างประเทศ ขณะกำลังคุยโทรศัพท์ เขาสามารถเห็นได้จากท่าทางของคนทั้งสองว่าการสนทนาระหว่างเบียงก้าและแวนด้านั้นไม่ปกติ แต่เขาไม่ได้ยินสิ่งที่ทั้งสองคนกำลังพูดกันเท่าไหร่นัก เมื่อเขาวางสาย ลุคเห็นจากหางตาว่าเบียงก้าและแวนด้าหายตัวแถวหัวมุม “เธอบอกว่าเธอเป็นน้าของเบียงก้า” เจสันเข้ามารายงานสถานการณ์ตามความจริง ลุคหันไปสั่งเจสันว่า "ไปสืบประวัติของน้าคนนั้น" เจสันโค้งคำนับ ลุคมองเข้าไปทางหน้าต่างชั้นสองที่เปิดทิ้งไว้ เขายังคงนิ่งเฉยไม่แสดงออก แม้ว่าความต้องการของเขาจะเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ในห้องบนชั้นสอง เบียงก้ารู้สึกเขินอาย ไม่เพียงเพราะเป็นครั้งแรกที่เธอได้พบกับน้าที่เธอเคยได้ยินผ่านเรื่องเล่า แต่ยังเป็นเพราะเธอกลัวว่าน้าจะรับรู้ถึงฮอร์โมนเพศชายที่แผ่ซ่านไปทั่วห้อง เธอรู้สึกราวกับว่าตัวเองทำอะไรผิด แวนด้าเหลือบมองไปรอบ ๆ ห้องและถามด้วยความสงสัย “ผู้ชายที่ลงมาข้างล่างกับเธอ…” “เขาเป็นเจ้านายของฉัน” เบียงก้าตอบก่อนที่น้าของเธอจะถามคำถามเสร็จ เบียงก้ายังเด็กและไม่ค่อยรู้จักวิธี

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 203 ทำไมคุณถึงขี้อายนักเล่า ผมก็เห็นทุกอย่างไปหมดแล้วนิ

    เบียงก้าสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของการข่มใจที่เล็ดลอดออกมาจากร่างของชายผู้นั้น แม้ว่าเธอจะได้รับการเตือนว่าชายผู้นี้มีความรู้สึกตรงกันข้ามก็ตาม เขาน่ะหรือจะห้ามใจ มีแต่จะทำตามใจตัวเองมากกว่า หัวใจของเธอเต้นแรง และปากเริ่มมีน้ำลายสอ เมื่อนึกถึงสัตว์ร้ายที่ซ่อนอยู่ใต้กางเกงของชายหนุ่ม “คุณ… ออกไปรอข้างนอก… ฉันอาบน้ำเองได้ค่ะ” หลังจากระเริงไปหลายครั้งเมื่อคืน เบียงก้าอายเกินกว่าจะเงยหน้ามองเขา บ้านหลังเก่าที่รกร้างและมืดมิดนั้นทั้งอบอุ่นและร้อนแรงเพราะมีเขาอยู่ กลิ่นของความสกปรกและความชื้นส่งกลิ่นแรงอยู่ตรงหน้าบ้าน แม้ว่าชายผู้นั้นจะจุมพิตและหายใจแรง แต่เธอก็ได้ให้ทุกสิ่งแก่เขาไป ราวกับว่าเธอได้หลอมรวมตัวเองเข้ากับร่างกายที่เร่าร้อนของเขาไป จากนั้น ก็ร่วมรักกันในรถอีกรอบ เบียงก้าคิดว่าลุคเป็นปีศาจที่หิวกระหายเนื้อมนุษย์ ไม่ว่ากลางวันหรือกลางคืนเขามักจะหิวโหยร่างกายของเธอเสมอ แต่ถึงกระนั้น เธอก็พลีกายให้เขาไปหลายครั้ง! โชคดีที่ความมืดมิดในยามค่ำคืนได้บดบังใบหน้าที่แดงก่ำของเธอ เพื่อที่เธอจะได้ไม่รู้สึกอึดอัดใจนักเมื่ออยู่กับเขาตามลำพัง แต่เธอไม่อาจหลบซ่อนมันจากการร่วมรักที

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 202 ตัณหาอันแรงกล้าในยามเช้าของลุค

    ชั้นล่างบริเวณสนามหญ้าหน้าบ้าน เพื่อนร่วมงานบางคนซื้อซาลาเปาสำหรับการทำงานกะเช้า ในขณะที่เพื่อนร่วมงานหญิงกำลังเตรียมข้าวโอ๊ตอยู่ในครัว ทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่าข้าวโอ๊ตที่ซื้อจากร้านมีเนื้อหยาบเกินไป เป็นครั้งแรกที่ลูก ๆ ของเจ้านายลิ้มลองซาลาเปาแป้งทำมือจากเมืองเล็ก ๆ พวกเขารับประทานคนละสองชิ้น แต่เหมือนจะยังไม่พอ เรนนี่ยัดขนมปังเต็มปากแล้วกะพริบตาอย่างไร้เดียงสาใส่คุณลุงดอยล์ของเธอ ก่อนขอเพิ่มทั้งที่ยังเคี้ยวอยู่เต็มปาก “ทานช้า ๆ ก็ได้ครับ เดี๋ยวลุงจะไปซื้อมาเพิ่ม” เจสันขยี้ผมของเรนนี่ เมื่อเขาลุกขึ้น เขาหันไปหาเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ แล้วพูดว่า "ผมจะซื้อมาฝากทุกคนเหมือนกัน" ขนมปังไม่เพียงพอสำหรับทุกคน การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของเจ้านาย ผู้ช่วย และลูกสองคนของเขาทำให้เพื่อนร่วมงานต้องแบ่งอาหารให้ ในเมืองกำลังพลุกพล่าน เจสันยืนอยู่หน้ารถขายอาหารและซื้อซาลาเปาใส่ไส้ไก่มากว่าสิบห้าชิ้น เมื่อเขาหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาและกำลังจะจ่าย เขาสังเกตเห็นผู้หญิงคนหนึ่งสวมชุดทำงานแสนเรียบร้อยเดินเข้าไปในสนามหญ้าหน้าบ้าน เธอดูเหมือนจะอยู่ในวัยสามสิบ "ชิ้นละ 1.80 เหรียญ ซื้อ 15 ชิ้นก็เป

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 201 เจ้านายเอาใจใส่ภรรยาของลูกพี่ลูกน้องมากเลยนะ

    รถลีมูซีนเบนท์ลีย์สีดำไม่ได้ขับรถเข้ามาในสนามหญ้าหน้าบ้านแต่กลับจอดอยู่ด้านนอกแทน ลุคไม่ได้ขับรถมาเอง หลังจากที่เจสันจอดรถแล้ว เขาก็ออกไปเปิดประตูเบาะหลัง เจ้านายและลูกน้อยสองคนก้าวออกมา เหมือนเช่นเคย ลุคแต่งตัวอย่างไร้ที่ติในชุดสูทมาดธุรกิจและรองเท้าหนัง ทว่าจากใบหน้าของเขาสามารถบอกได้ง่าย ๆ ว่าเขามีชีวิตชีวามากกว่าปกติราวกับว่าเพิ่งได้ยินข่าวดีมา เรนนี่อยู่ในอ้อมแขนของพ่อ เธอได้กลิ่นโคโลญจน์ของเขา ขณะที่ลานี่วิ่งอย่างตื่นเต้นไปที่สนามหญ้าหน้าบ้านพร้อมกับสะพายกระเป๋าเป้อยู่ “สวัสดีค่ะ พ่อหนุ่มน้อยรูปหล่อ!” เพื่อนร่วมงานหญิงคนหนึ่งทักทายลูกชายของเจ้านาย 'ทริปนี้คุ้มมาก!’ 'สิ่งอำนวยความสะดวกอาจจะไม่ดีเท่าในเมือง แต่ได้เห็นหน้าเจ้านาย และลูกชายกับลูกสาวที่น่ารักของเขาก็พอแล้ว!’ 'ช่างมีความสุขเหลือเกิน!' ลานี่มองไปรอบ ๆ ฝูงชนแต่ไม่พบคุณน้าบีเลย แต่เขาก็ไม่ลืมมารยาทและทักทายกลับว่า “อรุณสวัสดิ์ครับ คุณคนสวย!” เพื่อนร่วมงานหญิงที่ถูกเรียกว่า "คุณคนสวย" ยิ้มกว้าง โจพร้อมทำหน้าที่และพยายามอย่างหนักที่จะควบคุมสิ่งต่าง ๆ ให้อยู่ภายใต้การควบคุมของเขา เขาก้าวไปข้างหน้าแล

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 200 ทำไมเจ้านายถึงมาเร็วจังล่ะ

    เบียงก้าระงับเสียงครางเอาไว้ ร่างกายของเธอเกร็ง ขณะกำผ้าม่านตรงหน้าแน่น... ม่านไม่ได้ยึดอย่างแน่นหนา ขณะที่ชายที่อยู่ข้างหลังเธอเคลื่อนเข้าไปหาเธออีกนิ้ว เธออ้าปากค้าง และจิตใจว่างเปล่า ผ้าม่านหลุดลง... "ใจเย็น" ลุคก้มศีรษะลงและจูบต้นคอของเธอ ผิวขาวภายใต้แสงจันทร์ดูเรียบเนียนและอ่อนโยน การเคลื่อนไหวของเขาเชื่องช้าอย่างจงใจ ปากของเขาทิ้งร่องรอยต่าง ๆ ไว้บนร่างกายของเธอ “อา… อืม…” เธอไม่สามารถต้านทานริมฝีปากและเรียวลิ้นที่บุกรุกเข้ามาได้ เบียงก้าเชยคางและทิ้งตัวบนหน้าต่าง ชายที่อยู่ข้างหลังเธอยังคงดันนิ้วเข้าไปทีละนิ้วราวกับเขาถูกปีศาจสิง เธอรู้สึกได้ว่าการหายใจของเธอเริ่มหนักขึ้น เธอหายใจถี่และลึกขึ้นเพื่อจะได้หายใจหายคอสะดวกขึ้น อากาศก็เริ่มเย็นลง ตอนที่เบียงก้าลืมตาขึ้น เธอมองเห็นหน้าต่างที่มีฝ้าขึ้นจากลมหายใจของเธอ ความรู้สึกไม่สบายกายเกิดขึ้นเพียงห้านาทีและกลายเป็นความเลื่อนลอย... มันเป็นความรู้สึกที่คุ้นเคย ไม่ว่าจะเป็นเมื่อห้าปีที่แล้วที่เธอเคยชินกับการปรากฏตัวของชายคนนั้น หรือในปีนี้ที่เธอได้ติดต่อกับชายคนนั้นที่โรงแรม เธอก็รู้สึกสั่นสะท้านเช่นเดียวกัน… มื

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 199 เธอกลายเป็นผู้หญิงของลุค ครอว์ฟอร์ด

    เธอไม่อาจต้านทานจุมพิตอันเร่าร้อนของชายผู้นี้ไม่ได้ บนใบหน้าของพวกเขา กลิ่นของทั้งสองเป็นเหมือนกับสิ่งที่คุ้นเคยแต่แปลกใหม่ อาจเป็นเพราะพวกเขาเกือบเสร็จกิจเมื่อเช้านี้เอง และตอนนี้พวกเขาก็มีโอกาสอีกครั้ง ลุครู้สึกราวกับว่าตัวเองได้แปลงร่างเป็นสัตว์ร้ายที่หิวกระหาย ความปรารถนาที่ไม่ลดละของเขาบดขยี้ริมฝีปากอ่อนนุ่มของเธอ แม้ว่าเขาจะไม่ลดความรุนแรงลง เขาสามารถรับรู้ได้ถึงความทรมานจากเสียงครางของเธอ เขาอยากจะกลืนกินร่างที่เขาหิวโหยไป ชายหนุ่มดูราวกับเด็กที่เพิ่งได้ลองชิมขนมเป็นครั้งแรก เขาปรารถนาร่างกายของเธอมานานแล้ว จนเมื่อเช้าที่เขาได้มีโอกาสได้ลิ้มรสความหวานอันเป็นเอกลักษณ์ของมัน เมื่อได้รับขนมอร่อย ๆ เด็กที่ไหนก็เหมือนกันหมด พวกเขาจะแกะมันออกจากห่ออย่างตะกละตะกลาม แล้วเอาเข้าปาก ก่อนใช้ความอบอุ่นและน้ำลายละลายพวกมัน พวกเขาอาจจะอ่อนโยนหรือรุนแรง ก็แล้วแต่ระดับความกระหายของคนเป็นเจ้าของ... ลุคกับเบียงก้า เปรียบได้กับเด็กตะกละกับขนมอร่อย ... “อืมมม…” ร่างของเบียงก้าอ่อนยวบเมื่อลุคกอดเธอในอ้อมแขนจนแน่น ช่องปากของเขาอุ่นชื้น เธอจมดิ่งลงไปในจูบอันป่าเถื่อนของเขา… เธอกำ

DMCA.com Protection Status