เวลาไล่เลี่ยกัน บนรถของเทียนหยด
สมัตถ์นั่งหน้าบึ้งอยู่บนเบาะของตัวเอง เขายังไม่ได้รับคำตอบจากสิ่งที่เอ่ยถาม “เธอทำแบบนี้ทำไม ป่วนประสาทไนท์?” เขาถามอีก
เทียนหยดหันมามองเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองท้องถนนอย่างเดิม
“เพื่อ...ปูทางแก้แค้นมั้งคะ”
“แก้แค้นอะไรกัน แค่นี้ยังเป็นศัตรูกันไม่พออีกเหรอ”
“ฉันไม่เคยคิดว่าพวกคุณเป็นศัตรู”
“แล้วเป็นอะไรล่ะ” เขาย้อน
“คนในครอบครัวมั้งคะ” ตอบนิ่งๆ ได้ยินเสียงสมัตถ์หัวเราะหึๆ ในลำคอราวอยากเยาะหยันในสิ่งที่ได้ยิน
“เกลียดกันออกขนาดนี้ เธอยังคิดว่าจะญาติดีกันได้เหรอ”
“ฉันไม่เคยเกลียดค่ะ ฉันพยายามบอกคุณอยู่”
สมัตถ์อึ้งไปนิด ผ่อนลมหายใจเบาๆ แล้วเอนหลัง พาตัวเองดำดิ่งไปกับสิ่งที่เทียนหยดเอื้อนเอ่ย ในขณะที่เทียนหยดก็พาสมองดำดิ่งสู่เรื่องที่ค้างคาใจ จีรวัฒน์กำลังนอกใจเธอ จริงหรือไม่จริง และถ้าไม่จริง ทำไมเธอถึงไม่เคยรู้ว่าเขามีเพื่อนชื่อราตรี เธอรู้จักแก๊งเพื่อนเขา เพื่อนกินเพื่อนเที่ยวของเขาน่ะ รู้จักดี เคยไปนั่งดื่มกินด้วยกันก็บ่อย แต่ไม่มีใครเคยเอ่ยชื่อเพื่อนผู้หญิง ชื่อที่พอจะเป็นเจ้าของลิปสติกแท่งนั้นที่ราตรีแย่งไปเลย หรือว่าแท้ที่จริงแล้วนั้น ลิปสติกเจ้าปัญหา มันเป็นของราตรีจริงๆ
ปรี๊น!
เอี๊ยด... ปึ้ก!
เสียงเบรกลากล้อพารถเก๋งคันงามเข้าจอดข้างทาง ตามด้วยเสียงอะไรสักอย่างกระทบกันอย่างแรง สมัตถ์อ้าปากเหวอ มือข้างหนึ่งจับที่จับเหนือศีรษะ หัวใจเต้นเร็วแรง มีรถจักรยานยนต์คันหนึ่งวิ่งตัดหน้ารถเขาไปในระยะประชิด ดีที่เทียนหยดหลบทันแล้วบังคับรถเข้าจอดข้างทางได้ ให้ตายเถอะ หล่อนไม่เห็นรถสองล้อหรืออย่างไร
“นี่เธอทำบ้าอะไรเนี่ย เราเกือบตายแล้วนะ!”
สมัตถ์ได้สติรีบเฉ่งสารถีตีนผีที่เอาแต่ขับรถไม่ยอมมองการจราจรดีๆ
เทียนหยดพาใบหน้าออกจากพวงมาลัย หน้าผากเธอกระแทกมันอย่างแรง เจ็บหนึบไปหมด
“โอ...ตายแล้ว เจ็บไหม!” ถามอย่างตระหนก ไม่รู้จะทำอย่างไรเลยเอามือไปวางทาบบนหน้าผากหล่อน ราวกับว่าการทำเช่นนั้นจะทำให้รอยแดงปื้นใหญ่หายไป
หญิงสาวยังหลับตาปี๋ รับรู้ถึงมืออุ่นๆ ที่วางทาบหน้าผากอยู่ ความอบอุ่นจากมือของชายที่รักภรรยายิ่งกว่าสิ่งใด มันทำให้เธออดเวทนาตัวเองไม่ได้ ราตรีทำบุญด้วยสิ่งใดจึงได้สมัตถ์เป็นสามี
เทียนหยดน้ำตาซึมเอ่อ ก่อนที่มันจะไหลช้าๆ เธอลืมตาขึ้นมา พาสองมือออกจากพวงมาลัยรถมาปาดเช็ดหยดน้ำตา
สมัตถ์รีบเอามือออก รู้ว่าไม่เหมาะที่ไปโดนเนื้อตัวของหล่อนมากเกินไป
“เจ็บเหรอ ไปหาหมอไหม มาเถอะ เดี๋ยวฉันขับเอง”
เขาอาสา ตั้งท่าจะลงจากรถแต่เทียนหยดโบกมือห้าม
“ไม่ๆๆ ฉันไหว ฉันไหวสิ แค่...เอ่อ...บ้าจริง ฉันมัวแต่คิดเรื่องอื่นจนมองไม่เห็นมอเตอร์ไซค์”
บอกเขาแล้วยกมือปิดใบหน้า พยายามกลั้นน้ำตาแต่สุดท้ายแล้วมันก็ไหลพรั่งพรู
“เจ็บมากเหรอ อย่านะ อย่าร้องสิ ฉันทำอะไรไม่ถูก”
คนเจ็บหน้าผากส่ายหน้ารัวๆ เธอไม่ได้เจ็บที่หน้าผากกระแทก แต่เจ็บที่ใจต่างหาก เจ็บที่สมองมันวนเวียนตอกย้ำว่าจีรวัฒน์กำลังนอกใจ
“ผ้าเช็ดหน้าไหม” เขาถามอีก ยื่นผ้าเช็ดหน้าให้กับคนที่เหมาเอาว่าเป็นศัตรู เทียนหยดรับไปดีๆ เช็ดหน้าเช็ดตาแล้วสั่งน้ำมูกพรืดใหญ่ใส่ผ้าเช็ดหน้าเขา ก่อนจะยื่นคืนมา “โอ้...ไม่ๆๆ ยกให้ เอาไปเลย”
เขาปฏิเสธรัวๆ ท่าทีขยะแขยงนั้นทำให้เทียนหยดยิ้มขันทั้งที่มีน้ำตา
“ไว้ฉันจะซักมาคืนแล้วกัน”
“อือ...” เขาขานรับ ไม่ได้เอ่ยถามอะไร แต่เฝ้ามองวงหน้างามพริ้มที่ดวงตากับปลายจมูกแดงเถือก น่าสงสารนัก “แค่หน้าผากกระแทก ร้องไห้ยังกับโดนแฟนทิ้ง”
เทียนหยดยิ้มสมเพชตัวเอง ที่เธอกำลังเป็นอยู่ มันหนักหนายิ่งกว่าโดนทิ้งเสียอีก “คุณรักไนท์มากไหมสมัตถ์”
“มากสิ รักมานานแล้ว”
“หรือคะ แล้ว...เคยคิดไหมว่าเธออาจจะนอกใจคุณ”
เขาส่ายหน้ารัวๆ “ไม่มีทาง”
ความมั่นใจในดวงตาและคำพูดของสมัตถ์ทำเอาเทียนหยดสะเทือนใจ ถ้าสิ่งที่เธอคิดเอาเองมันเป็นจริงขึ้นมา สมัตถ์จะเป็นยังไงนะ ที่แน่ๆ มันคงหนักหนากว่าเธอเชียวล่ะ
“ฉัน...กำลังสงสัยว่าจีรวัฒน์...” เขาทำหน้างงยามเธอเอ่ยชื่อนั้น “แฟนฉันน่ะ”
“อ้อ...”
“ฉันสงสัยว่าเขากำลังนอกใจ” ยิ่งระบายออกมาน้ำตาก็ยิ่งไหล ต้องใช้ผ้าเช็ดหน้าของสมัตถ์เป็นที่รองรับหยดน้ำตา
“เธอแน่ใจ?” เขาทวงถาม หญิงสาวส่ายหน้าแทนคำตอบ “เธออาจคิดไปเอง” เขาว่า น้ำเสียงคล้ายๆ มีความเห็นอกเห็นใจซุกซ่อนอยู่
หญิงสาวสูดน้ำมูกแรงๆ จับพลิกผ้าเช็ดหน้า มือไม้สั่นระริกจนสมัตถ์ต้องมาช่วยดึงผ้าที่พับทบกันไว้ให้มันคลี่ออก เพื่อที่ส่วนที่แห้งที่สุดจะได้รองรับน้ำตาหยดต่อไป
EP 4ชู้รัก____________“ฉันก็ขอให้เป็นอย่างนั้น ฉันอาจคิดไปเอง ฉันยังไม่มีหลักฐานมากพอ แต่มันเจ็บนะ ที่ฉันเหมือนจะรู้ว่าผู้หญิงอีกคนของเขาเป็นใคร ฉันดันรู้จักหล่อนด้วย”“โอ...มันคง...ทรมาน..”เทียนหยดพยักหน้า เช็ดหน้าเช็ดตาแต่รู้ว่าสภาพตัวเองคงไม่ได้น่ามองนัก มาสคาร่าแบบไม่ได้กันน้ำของเธอเปรอะเปื้อนผ้าเช็ดหน้าเขา มันทุเรศเหลือเกิน“บ้าจริง! ทำไมฉันต้องมาคร่ำครวญให้คุณฟังด้วยนะ น่าอายชะมัด!”สมัตถ์ส่ายหน้า“ไม่หรอก เรื่องมันละเอียดอ่อน คนเรามีความอ่อนแอทุกคนนั่นแหละ อยู่ที่ว่าจะแสดงออกมามากแค่ไหน”“คุณจะทำยังไง ถ้ารู้ว่าเมียนอกใจ” เธอโยนหินถามทาง สมัตถ์หันไปจ้องถนนเบื้องหน้าชั่วครู่ หัวคิ้วเขาขมวดเข้าหากัน ก่อนจะเอ่ย“ปล่อยเธอไปกับคนที่เธอรักละมั้ง”“จริงเหรอ” เธอถามอย่างทึ่งๆ น้ำตาเริ่มแห้งเมื่อเช็ดมันถี่ๆสมัตถ์ส่ายหน้ารัวๆ “ไม่! จะฆ่าให้ตายทั้งคู่เลย!”“หา!” เทียนหยดเหวอรับประทาน ตาเบิกโต อ้าปากค้าง มาสคาร่าเลอะใต้ตากับสีลิปสติกที่เปรอะไปทั่วยิ่งส่งให้ใบหน้างามไม่น่าดูชมสมัตถ์กลั้นขำไว้ไม่ไหวเลยหลุดหัวเราะเสียงดังลั่น ก็ดูหล่อนเถิด ดูได้ที่ไหน“นี่คุณ! ขำอะไรฮะ ล้อฉันเหรอ”เขาพยั
ทั้งสองคนมาถึงบริษัท RPS Cosmetic Co.,Ltd ในเวลาเกือบแปดโมงครึ่ง เป็นความเคยชินของพนักงานเสียแล้วที่จะเห็นผู้บริหารสูงสุดกับคุณเทียนหยดเดินเข้าบริษัทมาพร้อมกัน เพราะปกติแล้ว ทั้งสองก็จะขับรถอกจากบ้านโสภณวิชญ์ในเวลาไล่เลี่ยกันเสมอสมัตถ์เริ่มต้นทำงานของเขาอย่างไม่รีบร้อนนัก เอกสารในรายงานบางแฟ้มเขาต้องถามเทียนหยดเพื่อความเข้าใจ ส่วนเทียนหยด หากว่าเว้นจากการช่วยสมัตถ์ หญิงสาวก็จะขลุกอยู่กับโน้ตบุ๊กเครื่องเก่ง มีสมาร์ตโฟนวางอยู่ใกล้ๆ ตาจ้องหน้าจอแล้วพิมพ์ข้อความเป็นระยะ การเป็นแม่ค้าออนไลน์ทำให้เทียนหยดไม่ค่อยมีเวลาเป็นส่วนตัวมากนัก มีรายการสั่งซื้อเข้ามาตลอดทั้งวัน มากบ้างน้อยบ้างแล้วแต่ตัวแทน แต่เท่านั้นเทียนหยดก็พอใจแล้ว เพราะมันเป็นสิ่งที่เธอทำได้ด้วยตัวเองเกือบสิบเอ็ดโมง สมัตถ์ละสายตาจากเอกสารแฟ้มสุดท้าย ท้องเขาร้องจ้อกๆ เพราะยังไม่ได้รับประทานอาหารเช้าอย่างที่ควรจะเป็น เทียนหยดปิดโน้ตบุ๊กบ้าง เหลือบมองหน้าจอสมาร์ตโฟนก็เห็นว่ายังไม่มีใครโทรเข้ามา“โทรหาเขาสิ ถ้าเธอคิดถึง” เขาแนะ แต่เทียนหยดส่ายหน้า“ฉันโทรหาเขาก่อนทุกที เป็นเวลาหลายปีแล้ว ลองให้เขาเป็นฝ่ายโทรหาฉันบ้าง ฉันจะได้รู้..
แม้จะบอกตัวเองอย่างนั้น แต่สายตาสมัตถ์ก็ไม่อาจละไปจากริมฝีปากเทียนหยดได้เลย กระทั่งไอศกรีมคำสุดท้ายถูกตักเข้าปาก และหล่อนกวักมือเรียกพนักงานมาคิดเงิน เขาจึงได้ละสายตาออกมาแล้วล้วงเอากระเป๋าสตางค์มาเปิด การ์ดสีทองใบหนึ่งถูกดึงออกมารอท่า“อ้าว? ไหนบอกให้ฉันเลี้ยง” เธอท้วง“ฉันเลี้ยงเอง”“ทำไม” เธอยังไม่เข้าใจ“ฉันสงสารน่ะ เดาว่าเธอคงไม่เคยถูกผู้ชายเลี้ยง ฉันเลี้ยงแหละดีแล้ว เพราะฉันเป็นสุภาพบุรุษ”เทียนหยดอ้าปากน้อยๆ รอจนพนักงานเอาเครดิตการ์ดของเขาไปจัดการจึงได้เอ่ยขึ้น “คุณสมัตถ์คะ”“ครับ”“แทงใจดำฉันจึ๊กๆ เลย” บอกแล้วกำกำปั้นทุบอกซ้ายเบาๆ หน้าตาจริงจัง จนสมัตถ์นึกขัน“ความรักมันดีเทียนหยด แต่ต้องมีสติ แม่เธอพูดถูกนะ คนเป็นแม่ก็คงอยากให้ลูกได้เจอคนดีๆ คนที่สามารถดูแลเธอได้ ไม่ใช่คอยแต่แบมือขอเงิน ไม่ใช่จะสั่งสอนหรอกนะ แต่มันอดไม่ได้”หญิงสาวทำหน้าเบื่อโลก ก่อนจะลุกยืนเมื่อพนักงานเอาเครดิตการ์ดมาคืน เขาเซ็นอะไรยุกยิกก่อนจะดึงเครดิตการ์ดและใบเสร็จคืนมา“นั่นแหละเขาเรียกสอนค่ะ” ประชดน้อยๆ แล้วค้อนเขาสมัตถ์ยิ้มบางๆ ยื่นสูทให้หล่อนเอาไปบังแดดเสียเอง การอยู่ใกล้เทียนหยดทำให้ความสามารถในการค
“วันนี้กลับเร็วจัง” ท้วงถามแล้วสอดแขนกอดหล่อนจากด้านหลัง ใช้จมูกคมๆ สูดดมซอกคอภรรยาชาวบ้านจนชื่นปอด“ต้องไปสปา เดี๋ยวเขาสงสัยว่าไปจริงไหม”“คุณมันร้าย”“แล้วชอบไหมล่ะ” ถามออกไปอย่างนั้นเอง เพราะรู้ว่าจีรวัฒน์ไม่ได้รักเธอหรอก เขามีคนรักอยู่แล้ว และเธอไม่ปรารถนาจะรับรู้ว่าเจ้าหล่อนคือใคร“ที่สุดครับ ว่าแต่...อาทิตย์หน้าผมว่าง ไปเที่ยวกันไหม ใกล้ๆ ก็ได้”ราตรีมุ่นคิ้ว “สามีฉันเพิ่งเริ่มงานใหม่ อะไรๆ ยังไม่ลงตัว ที่สำคัญคือฉันต้องช่วยเขาเซฟค่าใช้จ่าย” เธออธิบาย“โอเค งั้นเอาไว้คราวหน้า แล้วคุณจะมาที่นี่อีกเมื่อไหร่” เขาถามต่อ นึกถึงรสรักของราตรีแล้วอยากให้นอนรออยู่บนเตียงทุกคืนเลยล่ะ“ยังไม่รู้เลย แล้วจะโทรมาแล้วกัน ไปแล้วนะ” สั่งลาแล้วทำท่าจะก้าวออกไป แต่ถูกจีรวัฒน์ดึงแขนไว้ เขาดึงร่างเธอเข้าไปหาอีกรอบ แล้วโน้มใบหน้าลงมาจุมพิตเสียดูดดื่ม ประหนึ่งว่ามิเคยจุมพิตกันเสียอย่างนั้น“เมื่อไหร่จะเลิกกับเขาแล้วมาสนุกด้วยกันอย่างถาวรนะ ชักต
EP 5ความจริงอันแสนเจ็บปวด______________วันอาทิตย์โอบนิธินั่งหน้ายุ่งอยู่ข้างมารดาที่กำลังปอกฟักทองลูกใหญ่ ผกากรองจะทำแกงเลียงกุ้งสดเป็นมื้อเที่ยงวันนี้ ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ นอกจากต้องดูแลโอบนิธิไปโรงเรียน จัดการเรื่องทุกอย่างที่เกี่ยวกับเขา นางยังมีหนึ่งอีกหน้าที่ นั่นคือทำอาหารขึ้นโต๊ะ เสริมไปกับอาหารที่ราตรีซื้อมา รสชาติของอาหารที่ปรุงใหม่กับของที่ซื้อขายนั้น ของที่ปรุงใหม่ย่อมอร่อยและดีกว่าเสมอ คนบ้านนี้กินอาหารที่นางทำอย่างเอร็ดอร่อย แต่เชื่อไหมว่านางไม่เคยได้รับคำขอบคุณแม้แต่ครั้งเดียว“แม่ครับ”“ว่าไง” นางย้อนถาม เหลือบมองคนที่นั่งอยู่บนเสื่อผืนหนาใต้ต้นอโศกหลังห้องครัว“แปลไม่ได้ครับ”“กูเกิ้ลสิลูก”คนเป็นลูกทำหน้างง ก้มมองการบ้านภาษาจีนกลางแล้วส่ายหน้า กูเกิ้ลช่วยแค่ให้เขาทำการบ้านเสร็จ แต่ไม่ได้ทำให้เข้าใจนี่นา เขาอยากเข้าใจมัน จะได้ไม่ต้องพึ่งกูเกิ้ลอีก_________เด็กน้อยถอนหายใจเบาๆ มองไปที่สนามด้านหนึ่งก็เห็นสมัตถ์กำลังตีกอล์ฟอยู่
“ครับผม” เด็กน้อยทำตามอย่างว่าง่าย หอบเอาสมุดปากกาและตำราเข้าข้างใน“โอบรอข้างในนะคุณ” เธอบอก เขาพยักหน้า แต่ยังไม่ยอมลุก แม้ว่าเทียนหยดจะลุกไปหาของว่างในครัวแล้วก็ตาม“เรียกฉันว่าน้าก็ได้ เรียกคุณๆ มันยังไงชอบกล ไหนๆ ก็มาอยู่บ้านเดียวกัน” ผกากรองเอ่ย จับเอาฟักทองซีกหนึ่งมาฝานเปลือกออกด้วยมีดสองคม มือขาวๆ นั้นเริ่มดำด่างด้วยการกระทำของเปลือกฟักทอง ทว่าเจ้าของมิได้สนใจ สิ่งที่นางทำช่างขัดกับมาดคุณนายที่เป็น ผกากรองสวมชุดเดรสแบรนด์เนมร่วมสมัย ทว่าด้วยการออกแบบนั้นช่วยทำให้สมกับอายุของนาง มิได้ดูฉูดฉาดมากไป อยู่ในความพอเหมาะพอดี ดูเรียบหรูจนสมัตถ์ยังนึกชื่นชม“คุณไม่โกรธพวกเราแล้วเหรอ เมื่อก่อนยังเห็นเป็นศัตรู” เขาสะกิดใจ ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ ผกากรองกับบุตรชายก็อยู่กันเงียบๆ ไม่ได้ทำบ้านให้ร้อนเป็นไฟอย่างที่เขาเคยคิด นางยังช่วยทำอาหารอร่อยๆ ขึ้นโต๊ะให้คนในบ้านรับประทาน อย่างไม่คิดว่าตัวเองจะเหนื่อย“ไม่มีมิตรแท้หรือศัตรูถาวรนี่ ถ้าคุณทำงานให้ RPS อย่างขันแข็ง ซื่อตรง แล้วฉันจะมองคุณเป็นศัตรูได้ยังไง ฉันไม่
“เรื่องบางเรื่องก็น่าแปลกที่เราไม่สามารถหาคำตอบให้มันได้” เขาเปรยราวกับปลงแล้วทุกสิ่ง“บางทีเวลาอาจเป็นคำตอบ ฉันไม่รู้ว่าสามีฉันเอาอะไรมาวัดว่าคุณไว้ใจได้ อาจเป็นความรู้สึกผิดของเขา หรืออาจเพราะมันมีเหตุผลมากกว่านั้น ที่เขายกหุ้นให้คุณ แต่ฉันเชื่อใจเขานะ เขาคงไม่หาคนมาผลาญ RPS หรอก ในเมื่อเขาไว้ใจคุณ ฉันก็จะไว้ใจคุณ ไม่ว่าเหตุผลใดก็ตามที่รุ่งรดิศอยากให้ฉันมาอยู่ที่นี่ ฉันมาแล้ว เวลาอาจช่วยไขข้อข้องใจให้เราก็ได้ รอไปด้วยกันไหมคุณสมัตถ์”แม้ไม่อยากเห็นด้วย แต่ไม่มีทางเลือกเลย สุดท้ายสมัตถ์ก็ต้องพยักหน้ารับคำนางผกากรอง นางยิ้มน้อยๆ ราวกับพอใจในคำตอบของเขา ก่อนจะยกเอาถาดฟักทองมาถือไว้แล้วลุกขึ้นยืน เขาลุกตามบ้าง ฟักทองเหลืองอร่ามในถาดอลูมิเนียมหากเอาไปทำแกงคงอร่อยไม่หยอก“แม่ผมไม่ค่อยเข้าครัวเท่าไหร่ เราชอบความสะดวก ซื้อมากิน หรือไม่ก็ไปกินที่ร้าน ผมชินเสียแล้วกับการที่แม่บ้านแม่เรือนไม่ค่อยทำหน้าที่” เขาเอ่ยขำๆ แต่เหมือนแก้ต่างให้ศรีภรรยาที่ยังหลับไม่ตื่น“ฉันเข้าใจค่ะ คนเราถูกเลี้ยงมาไม่เหมือนกัน ยัยเทียนเอง เห็นเป็
“จุ๊ๆๆ อย่าร้องนะโอบ ชู่ว์...” กอดน้องชายไว้แล้วน้ำตาจะไหล ทุกอาทิตย์คุณลุงจะมาหาโอบนิธิ แต่นับตั้งแต่ท่านเสียไป โอบนิธิก็ได้เฝ้ารอแค่ความว่างเปล่า จิตใจของเด็กนั้นอ่อนไหวเกินกว่าจะทนรับเรื่องร้ายๆ เธอไม่โทษน้องชายเลยที่ร้องไห้อย่างไม่อายใคร เพราะหากเธออายุเท่าเขา เธอคงนอนร้องไห้ทุกวันทุกคืน“พี่เทียน...ฮึกๆ คิดถึงพ่อ...พ่อไม่มาแล้ว...ไม่มากอดโอบแล้ว ฮือ...”เด็กชายร้องไห้ฟูมฟาย จนอกเสื้อพี่สาวเปียกชุ่ม เทียนหยดเห็นท่าไม่ดีก็ร้องหาตัวช่วย“แม่! แม่คะ แม่!”“อะไร! อะไรของแกฮึเทียน”ผกากรองเดินหน้าตื่นออกจากห้องครัว นางตรงมาทางห้องนั่งเล่น กลิ่นน้ำพริกแกงเลียงยังติดกายนางมาประหนึ่งถือถ้วยแกงมาด้วยสตรีวัยเลยสาวขมวดคิ้วมุ่นเมื่อเห็นบุตรชายนั่งร้องไห้อยู่กับอกคนเป็นพี่ นางเข้าไปดึงร่างโอบนิธิออกมา“แม่ครับ...ฮึกๆ”“หยุด...แม่บอกให้หยุดร้อง”ผกากรองใช้เสียงเรียบต่ำ บอกให้รู้ว่านางไม่พอใจที่เห็นเขาร้องไห้โอบนิธิปาดน้ำตา หน้าตายังบิดเบ้ พวงแก้มขึ้นส
“ตัวนี้ว่าจะลองเองค่ะ เดี๋ยวนี้แม่ค้าออนไลน์เยอะ เราต้องทำให้เขามั่นใจในสินค้า แค่ถือครีมถือแป้งยืนถ่ายรูปอย่างเดียวไม่ได้แล้วค่ะ งานนี้คงต้องอัดคลิปลงยูทูปไปเลย” เมื่อเอ่ยถึงเรื่องงานความเครียดอีกเรื่องก็เข้ามารุมเร้า“ไหวไหมเทียน ไม่ไหวก็พัก แม่มีเงิน”ลูกสาวค้อนเข้าให้เมื่อมารดาเอ่ยอย่างนั้น“หนูก็อยากมีนี่คะ ไม่อยากขอเงินแม่ไปจนตายหรอก เงินแม่น่ะ เก็บไว้แต่งลูกสะใภ้เถอะค่า” ว่าแล้วยิ้มหวาน ตาบวมฉึ่งกับหน้าโทรมๆ นั้นมิได้เข้ากับรอยยิ้มเลยผกากรองเองก็ยิ้มกับลูกด้วย สุดท้ายเลยถูกลูกกอดแรงๆ“รักแม่นะคะ”“รู้แล้วน่า” ตอบแก้เขิน ยกมือยีกระหม่อมบางเบาๆ “งั้นกลับห้องดีกว่า เผื่อตาโอบตื่นมาไม่เจอ รายนั้นยิ่งกลัวผีอยู่ด้วย”“ค่า วันนี้หลับเร็วนะคะ หนูกลับมาบ้านเงียบเชียว”“อือ...คุณศรีสุรางค์ไม่สบายน่ะ พอกินข้าวเสร็จสองสามีภรรยานั่นก็พาย่าเขาเข้านอน ตาโอบก็ง่วงเพราะตอนบ่ายสมัตถ์สอนเล่นกอล์ฟจนเหงื่อชุ่ม ชอบใจใหญ่ ดูเขาเข้ากันดีนะ อาจเพราะตาโอบไม
EP 6ยั่วฟืดๆๆเสียงสูดน้ำมูกดังๆ ก่อนที่เทียนหยดจะเอาหน้าผากออกจากหลังสมัตถ์ ชายหนุ่มเบี่ยงหน้าจะดูหลังตัวเอง ไม่เห็นมันหรอก แต่รู้เชียวละว่ามันคงเป็นด่างดวงเพราะหยดน้ำตา“ขอโทษนะ แล้วก็...ขอบคุณสำหรับแผ่นหลัง” เธอบอกเขา ปาดน้ำตาลวกๆ“เธอโอเคแล้วใช่ไหม”“ไม่...ไม่โอเค แต่ฉันหิว ขอกินก่อนแล้วค่อยไปนอนร้องไห้เป็นเผาเต่าที่ห้องก็ได้”สมัตถ์พยักหน้าหงึกๆ “งั้นฉันไปแล้วนะ ลงมานานแล้วเดี๋ยวไนท์สงสัย”“สงสัยบ้าอะไรล่ะ คุณกับฉันไม่ได้ลักลอบทำอะไรสักหน่อย”เทียนหยดหน้ายุ่ง เขาจะกลัวเมียอะไรนักหนา“อือ...นั่นแหละ ฉันรักของฉัน”“ค่า เชิญค่ะสามีตัวอย่าง” เธอประชดแล้วก้มหน้าลงจานข้าว เลยไม่ได้เห็นสมัตถ์ยิ้มกว้างยามโดนประชด พอเขาออกนอกประตูไป แม่สาวอกหักก็เงยหน้าขึ้นมา ทำไมผู้ชายดีๆ ไม่มีให้เธอบ้างนะ ที่สวรรค์ส่งมาให้ก็ช่างเลวได้ใจ ที่พอจะมองเห็นก็ดันมีเมียอยู่แล้ว ส
“แน่นะคะ ถ้าผิดคำสาบานล่ะ”“ขอให้...ขอให้เทียนลงโทษอย่างสาสม พอใจหรือยังครับ”จีรวัฒน์เอ่ยทีเล่นทีจริง แต่เทียนหยดถือว่าสิ่งที่เขาเอ่ยออกมาคือคำสาบานที่เขาได้ลั่นวาจาออกมาแล้ว และหญิงสาวขอให้มันเป็นไปตามนั้น และเธอ...จะขอเริ่มบทลงโทษเขาตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป!“พอใจแล้วค่ะ จีน่ารักที่สุด” พูดจบก็ยิ้มกว้างแล้วโผเข้าหาร่างเขาจนอีกฝ่ายหงายหลังบนโซฟา เลยกลายเป็นว่าตอนนี้เธอทาบทับเขาไว้ และมันทำให้จีรวัฒน์พอใจ“เทียนน่ารักจังที่เป็นแบบนี้”“แบบไหนคะ” ถามพลางใช้นิ้วแหวกสาบเสื้อคลุมอาบน้ำของเขาให้แบะอ้าออก แล้วใช้มือบางลูบไล้แผงอกเปล่าเปลือยเล่นอย่างยั่วเย้า“ก็แบบนี้ไง แบบ...ยั่ว...”“เทียนเปล่ายั่ว ก็จีน่ารัก เทียนแค่แกล้งหรอกน่า”“จียอมให้เทียนแกล้งทั้งคืน” ไม่ว่าเปล่าๆ แต่ใช้มือข้างขวาลูบบั้นท้ายงามงอนไปมา ไม่ลืมขยำมันเบาๆ บั้นท้ายหล่อนช่างนุ่มหยุ่นขยำเท่าไหร่ก็มิมีเหลวอ่อน“แต่เทียนไม่ว่าง...” ลากเสียงยาวๆ แล้วก้มลงจุ
“โธ่เทียน...ก็...ที่ตรงนั้นมันไม่ใช่แค่ห้าหกล้าน ถ้าขายจริงๆ มันอาจได้มากกว่านั้นเท่าตัวเลยก็ได้” จีรวัฒน์เริ่มหัวเสีย เทียนหยดปาดน้ำตา“งั้นจีเอาเงินมาคืนเทียนสิคะ เทียนจะได้เอาไปหมุน จีพูดอย่างนี้เทียนเสียใจนะ เทียนช่วยเหลือจีมาตลอด แต่พอเทียนลำบาก จีกลับไม่อยากช่วย ถามจริงๆ เถอะ รักเทียนบ้างไหม...” เทียนหยดเม้มปากแน่น ร้องไห้ฟูมฟายออกมา หยดน้ำตาแห่งความแค้นคลั่งหลั่งออกมาพร้อมกับน้ำตาแห่งความเสียใจจีรวัฒน์นึกสงสารเลยดึงร่างน้อยมากอด กายหนุ่มสัมผัสกายสาวพาให้ความรุ่มร้อนบังเกิดอย่างไม่รู้จักเวล่ำเวลา“ขอโทษนะเทียน จีขอโทษ...ขอเวลาจีหน่อยนะคนดี” ว่าพลางลูบแผ่นหลังบางเรื่อยลงมาถึงเอวคอดเทียนหยดตาเบิกโต รู้สึกได้ถึงฝ่ามือร้อนของอีกฝ่าย ได้แต่เม้มปากแน่น ดวงตาดุดันเพ่งมองไปข้างหน้าแต่ไม่ได้โฟกัสที่จุดใด แม้ในเวลาแห่งความทุกข์ จีรวัฒน์ก็ยังอยากทำบ้าๆ กับเธอ เอาสิจีรวัฒน์ ลองมาพนันกันดู!“เอามือออกนะจี เราเครียดกันอยู่นะ” บอกเสียงเง้างอนไม่จริงจัง จะชนะคนชอบฉวยโอกาส มันต้องทำให้แนบเนียน“ก็
มือเรียวยกป้องปากงาม หัวใจเต้นถี่ระรัว ทั้งโกรธ...ทั้งรัก ทั้งแค้นใจ! ไฟล์วิดีโอยังเล่นไปพร้อมๆ กับน้ำตาของเทียนหยดที่ไหลริน ริมฝีปากสั่นระริกเม้มแล้วเม้มอีก ดวงตาหลั่งสายธารออกมาราวกับน้ำตกผืนใหญ่ในฤดูฝนพรำ ยิ่งนั่งดู ยิ่งปวดใจ เฝ้ามองภาพคนรักของตัวเองกำลังนัวเนียกอดรัดฟัดเหวี่ยงกับหญิงอื่น ทั้งสองปล้ำถอดเสื้อผ้ากันจนเหลือเพียงชุดชั้นใน และวินาทีที่เสื้อผ้าชิ้นสุดท้ายจะหลุดออกจากสองร่าง เธอก็กดหยุดวิดีโอ ก่อนที่หัวใจจะแตกสลายเพราะการกระทำของชายที่เธอจงรักภักดีเทียนหยดปิดพับหน้าจอกล้องถ่ายรูปเข้าหาตัว กล้องตัวนี้สมรรถภาพเยี่ยมยอด สามารถกดแชร์ภาพ แชร์วิดีโอลงแอปพลิเคชั่นเฟซบุ๊กได้ทันที เธออยากทำใจจะขาด อยากประจานความชั่วร้ายของคนทั้งสอง แต่สุดท้าย...ก็เก็บมันเข้ากระเป๋าถือใบโต หักห้ามใจเอาไว้ ข่มความโกรธความเจ็บใจ ไว้รอวันเอาคืน ตอนนี้เธอยังมีสติไม่พอ เธอกำลังโกรธมาก! และทุกอย่างจะพังพินาศถ้าเธอสติแตก!“อือ...เทียน...มาแล้วเหรอ”เสียงถามดังอืออามาจากห้องนอน เทียนหยดรีบปาดน้ำตา หยิบเครื่องสำอางมาเติมแป้งเติมลิปสติก มิให้มีรอยพิรุธ ทว่าแต่งเติมอย่างไร
“ตายจริง ขอโทษนะคะ ไนท์ปวดหัวเลยลุกไม่ขึ้น ไม่ได้ออกไปซื้อกับข้าวให้ทุกคนเลย” เอ่ยอย่างขออภัยแล้วนั่งลงข้างสามี สาวใช้รีบยกผ้ารองจานกับจานข้าวมาให้ ราตรียังตีหน้าสำนึกผิดจนสมัตถ์นึกสงสาร“ไม่เป็นไรครับ แม่น้องโอบทำกับข้าวแล้วล่ะ คุณกินสิ กำลังร้อนๆ เลย” ว่าแล้วตักแกงเลียงใส่ถ้วยเล็กๆ ให้ภรรยา แต่ราตรีที่ยังมีอาการเมาค้าง เกิดพะอืดพะอม ต้องยกแก้วน้ำขึ้นจิบ “โอย...ไหวไหมไนท์”สมัตถ์ถามอย่างห่วงใย ท่าทีเอาใจใส่ภรรยานั้นทำเอาเทียนหยดหน้าสลด แน่ล่ะ จีรวัฒน์ไม่ได้ครึ่งของสมัตถ์เลย เป็นเธอมากกว่าที่ต้องคอยเอาอกเอาใจเขา“พะอืดพะอมอย่างนี้จะมีข่าวดีหรือเปล่าคะ” ผกากรองตั้งข้อสังเกต แต่ทำให้สีหน้าของสมัตถ์เปลี่ยนไป เขาขยับนั่งตัวตรง หันไปมองภรรยา ฝ่ายนั้นก็ยื่นมือมาจับมือเขา มันทำให้เขาพอมีรอยยิ้มขึ้นมาบ้าง“ถ้าหล่อนหมายถึงเรื่องลูกละก็ เป็นไปไม่ได้หรอก หลานฉันเป็นหมันน่ะ”“คุณย่าคะ!” ราตรีเอ่ยดังๆ ด้วยไม่อยากให้นางศรีสุรางค์เอ่ยเรื่องนี้“ทำไมฮึยัยไนท์ มันเรื่องจริง ยอมรับส
“จุ๊ๆๆ อย่าร้องนะโอบ ชู่ว์...” กอดน้องชายไว้แล้วน้ำตาจะไหล ทุกอาทิตย์คุณลุงจะมาหาโอบนิธิ แต่นับตั้งแต่ท่านเสียไป โอบนิธิก็ได้เฝ้ารอแค่ความว่างเปล่า จิตใจของเด็กนั้นอ่อนไหวเกินกว่าจะทนรับเรื่องร้ายๆ เธอไม่โทษน้องชายเลยที่ร้องไห้อย่างไม่อายใคร เพราะหากเธออายุเท่าเขา เธอคงนอนร้องไห้ทุกวันทุกคืน“พี่เทียน...ฮึกๆ คิดถึงพ่อ...พ่อไม่มาแล้ว...ไม่มากอดโอบแล้ว ฮือ...”เด็กชายร้องไห้ฟูมฟาย จนอกเสื้อพี่สาวเปียกชุ่ม เทียนหยดเห็นท่าไม่ดีก็ร้องหาตัวช่วย“แม่! แม่คะ แม่!”“อะไร! อะไรของแกฮึเทียน”ผกากรองเดินหน้าตื่นออกจากห้องครัว นางตรงมาทางห้องนั่งเล่น กลิ่นน้ำพริกแกงเลียงยังติดกายนางมาประหนึ่งถือถ้วยแกงมาด้วยสตรีวัยเลยสาวขมวดคิ้วมุ่นเมื่อเห็นบุตรชายนั่งร้องไห้อยู่กับอกคนเป็นพี่ นางเข้าไปดึงร่างโอบนิธิออกมา“แม่ครับ...ฮึกๆ”“หยุด...แม่บอกให้หยุดร้อง”ผกากรองใช้เสียงเรียบต่ำ บอกให้รู้ว่านางไม่พอใจที่เห็นเขาร้องไห้โอบนิธิปาดน้ำตา หน้าตายังบิดเบ้ พวงแก้มขึ้นส
“เรื่องบางเรื่องก็น่าแปลกที่เราไม่สามารถหาคำตอบให้มันได้” เขาเปรยราวกับปลงแล้วทุกสิ่ง“บางทีเวลาอาจเป็นคำตอบ ฉันไม่รู้ว่าสามีฉันเอาอะไรมาวัดว่าคุณไว้ใจได้ อาจเป็นความรู้สึกผิดของเขา หรืออาจเพราะมันมีเหตุผลมากกว่านั้น ที่เขายกหุ้นให้คุณ แต่ฉันเชื่อใจเขานะ เขาคงไม่หาคนมาผลาญ RPS หรอก ในเมื่อเขาไว้ใจคุณ ฉันก็จะไว้ใจคุณ ไม่ว่าเหตุผลใดก็ตามที่รุ่งรดิศอยากให้ฉันมาอยู่ที่นี่ ฉันมาแล้ว เวลาอาจช่วยไขข้อข้องใจให้เราก็ได้ รอไปด้วยกันไหมคุณสมัตถ์”แม้ไม่อยากเห็นด้วย แต่ไม่มีทางเลือกเลย สุดท้ายสมัตถ์ก็ต้องพยักหน้ารับคำนางผกากรอง นางยิ้มน้อยๆ ราวกับพอใจในคำตอบของเขา ก่อนจะยกเอาถาดฟักทองมาถือไว้แล้วลุกขึ้นยืน เขาลุกตามบ้าง ฟักทองเหลืองอร่ามในถาดอลูมิเนียมหากเอาไปทำแกงคงอร่อยไม่หยอก“แม่ผมไม่ค่อยเข้าครัวเท่าไหร่ เราชอบความสะดวก ซื้อมากิน หรือไม่ก็ไปกินที่ร้าน ผมชินเสียแล้วกับการที่แม่บ้านแม่เรือนไม่ค่อยทำหน้าที่” เขาเอ่ยขำๆ แต่เหมือนแก้ต่างให้ศรีภรรยาที่ยังหลับไม่ตื่น“ฉันเข้าใจค่ะ คนเราถูกเลี้ยงมาไม่เหมือนกัน ยัยเทียนเอง เห็นเป็
“ครับผม” เด็กน้อยทำตามอย่างว่าง่าย หอบเอาสมุดปากกาและตำราเข้าข้างใน“โอบรอข้างในนะคุณ” เธอบอก เขาพยักหน้า แต่ยังไม่ยอมลุก แม้ว่าเทียนหยดจะลุกไปหาของว่างในครัวแล้วก็ตาม“เรียกฉันว่าน้าก็ได้ เรียกคุณๆ มันยังไงชอบกล ไหนๆ ก็มาอยู่บ้านเดียวกัน” ผกากรองเอ่ย จับเอาฟักทองซีกหนึ่งมาฝานเปลือกออกด้วยมีดสองคม มือขาวๆ นั้นเริ่มดำด่างด้วยการกระทำของเปลือกฟักทอง ทว่าเจ้าของมิได้สนใจ สิ่งที่นางทำช่างขัดกับมาดคุณนายที่เป็น ผกากรองสวมชุดเดรสแบรนด์เนมร่วมสมัย ทว่าด้วยการออกแบบนั้นช่วยทำให้สมกับอายุของนาง มิได้ดูฉูดฉาดมากไป อยู่ในความพอเหมาะพอดี ดูเรียบหรูจนสมัตถ์ยังนึกชื่นชม“คุณไม่โกรธพวกเราแล้วเหรอ เมื่อก่อนยังเห็นเป็นศัตรู” เขาสะกิดใจ ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ ผกากรองกับบุตรชายก็อยู่กันเงียบๆ ไม่ได้ทำบ้านให้ร้อนเป็นไฟอย่างที่เขาเคยคิด นางยังช่วยทำอาหารอร่อยๆ ขึ้นโต๊ะให้คนในบ้านรับประทาน อย่างไม่คิดว่าตัวเองจะเหนื่อย“ไม่มีมิตรแท้หรือศัตรูถาวรนี่ ถ้าคุณทำงานให้ RPS อย่างขันแข็ง ซื่อตรง แล้วฉันจะมองคุณเป็นศัตรูได้ยังไง ฉันไม่