ซ่างกวนหลิวหยางไม่ฟัง คุยตอนไหนก็ได้ ตอนนี้อยากรักเมียก่อนเขาแข็งจนปวดแล้ว หลี่ว่านถิงอ่อนใจ ไม่มีใครห้ามเขาได้จริงๆ เอาแต่ใจเหลือเกิน ซ่างกวนหลิวหยางกระซิบแต่คำรักจนกระทั่งเขาสุขสมไปถึงสามครั้งจึงยอมปล่อยนาง ป่านนี้เด็กๆเป็นอย่างไรบ้างก็ไม่รู้ บิดาเอาแต่ใจเช่นนี้หน้าของหลี่หนิงฮวาลอยมาเลย แฝดน้องได้นิสัยพ่อมาเต็มๆ"พี่หลิวหยาง รอข้าหน่อยนะข้าคงรักท่านไม่ยากนักหรอก""ได้พี่จะรอ รอจนกว่าเจ้าจะรักพี่หมดหัวใจเหมือนที่พี่รักเจ้า อยากรู้เรื่องของเจ้าเล่าให้ฟังได้ไหม"หลี่ว่านถิงเล่าเรื่องของตนเองคร่าวๆ ไม่ได้บอกอะไรเขามากมาย บอกแค่ประวัติครอบครัว ชีวิตประจำวัน หากบอกว่าตกเรือสำราญเขาคงไม่รู้จักอีกนั่นแหละ นางจึงบอกแค่ว่านางพลัดตกสะพานแล้วจมน้ำโผล่อีกทีก็มาอยู่ในร่างนี้เรียบร้อยแล้ว สองผัวเมียบอกรักกันอยู่ในบ้านไม่ออกมาเลยทางด้านหลี่ไฉ่หงที่ท่านอาฝ่าบาทคาดโทษนางไว้จึงต้องมาตามสัญญา เขาใจร้ายนักแค่เรื่องนิดเดียวก็จะฟ้องไม่สมกับเป็นบุรุษเลยสักนิด เดินมาจนถึงต้นหลิวท้ายหมู่บ้านเห็นเขานั่งเล่นอยู่ จึงดินหน้างอไปหา"ท่านอาฝ่าบาท ข้ามาแล้วท่านต้องการอะไรเจ้าคะ""เรียกข้าท่านอาหย่งก็พอ ไปเดินเล่น
ยามห้าย(21.00-22.59) ซ่างกวนหย่งเฉิงที่นอนไม่หลับเพราะคิดถึงแต่เด็กสาวที่เขาเพิ่งเอาเปรียบเมื่อเย็นนี้ ลุกออกมาหน้าเรือนมองไปทางบ้านของนางตะเกียงดับหมดแล้ว ซ่างกวนหลิวที่ยังไม่นอนเพราะเพิ่งกลับมาจากบ่อนเห็นบุตรชายเดินไปเดินมา นั่งมองไปทางบ้านของหลี่ต้านก็เดินมาหา"เฉิงเอ๋อร์ เหตใดยังไม่นอนกันอีกสองวันเจ้าต้องกลับผิงอัน ขุนนางและเหล่าทหารจากเมืองหลวงจะมาถึงแล้ว หากฮ่องเต้ไม่อยู่จะวุ่นวายตามหาได้""เสด็จพ่อ ลูกมีเรื่องขอร้องสักเรื่องหนึ่งพ่ะย่ะค่ะ""เจ้าว่ามามีอะไร เจ้าเป็นฮ่องเต้ยังมีเรื่องที่ทำเองไม่ได้อีกหรือ""เสด็จพ่อ ช่วยไปขอเมียให้หน่อยได้ไหมพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมอยากมีเมีย""อะไรนะ? ขอเมียไอ้ที่มีเต็มวังนั่นไม่ใช่เมียรึ""เด็จพ่อ ลูกมีสนมหลายร้อยคนก็จริง แต่มีเพียงจางผินกับอี้ผินเท่านั้น เพราะหน้าที่ลูกจึงเลือกหลับนอนกับพวกนางจนมีองค์ชายทั้งห้าคน ส่วนสนมที่เหลือลูกไม่เคยเห็นหน้าด้วยซ้ำ หากไม่ใช่เพราะต้องสืบเชื้อสายของราชวงศ์ลูกคงไม่ยอมรับสนมหรอกพ่ะย่ะค่ะ""อยากให้ข้าไปนางเจ้าชอบนางหรือ สตรีคนไหนกันแล้วจะให้ตำแหน่งผินหรือเฟยกันเล่า""ตำแหน่งเดียวที่นางคู่ควรคือเมียลูก ตำแหน่งฮองเฮาพ่
หลี่ไฉ่หงลุกขึ้นมานั่งจากนั้นก็ปลดชุดเขาออกทีละชิ้น ซ่ากวนหย่งมองหน้านางแสงจันทร์ทำให้นางยิ่งงาม หากได้รักนางกลางแสงจันทร์จะเป็นเช่นไรนะ สตรีที่ขาพบพา หลี่ว่านถิงว่างามมากแล้วแต่หลี่ไฉ่หงก็งามไม่แพ้พี่สาวทั้งสองคนเลย เมื่อหลี่ไฉ่หงถอดเสื้อผ้าเขาออกจนหมดหน้าก็แดง เมื่อมองเห็นความแข็งขึงใหญ่โตนั่นทำเอานางตาเหลือกทันที ไม่ไหวแน่ๆมันใหญ่มากเลย"ทะ ท่านอา หยะ ใหญ่ไปไหมเจ้าคะ ข้าไม่เรียนแล้วได้ไหม มันน่ากลัว""อย่าเกร็งเด็กดี นอนลงนะกางขาให้กว้างหน่อย อืม อาจะรักเจ้าแล้วนะเสี่ยวหง เจ็บนิดหน่อยนะอาสัญญาว่าจะนุ่มนวล"น้ำเสียงออดอ้อน ถ้อยคำหวานหู ทรวงอกที่เขาครอบครองทำให้นางเคลิบเคลิ้มสาวน้อยพยักหน้าให้เขา เข่ามนแนบกับที่นอนทำให้ขากว้างออก ซ่างกวนหย่งค่อยๆกดปลายแท่งหยกของเขาลงกลางกลีบผกาแสนงาม หลี่ไฉ่หงเจ็บมากจึงพยายามดันหน้าท้องเขาออกแต่คนตัวโตยึดเอวนางไว้มั่น ก่อนจะดูดกลืนหัวนมแสนหวานนั้นให้นางเสียวซ่านเพื่อลืมความเจ็บ ไม่นานเขาก็อยู่ในตัวนางจนหมด หลี่ไฉ่หงน้ำตาซึม มันคับแน่นไปหมดเลย จนเขารู้ว่านางปรับตัวกับความใหญ่โตของเขาได้ซ่างกวนหย่งเฉิงก็เริ่มขยับ"อ่าห์ เมียจ๋าเสียวเหลือเกินเจ้าแนนนัก
ซ่างกวนหลิวหยางรั้งนางมากอด จับปอยผมทัดหุให่อย่างอ่อนโยน หลี่ว่านถิงพยักหน้าให้เขา ไม่นานก็มีบุรุษผู้นึงอยู่หน้าประตูรั้ว เสี่ยวชุยเป็นคนพามา มีหมอหยวนตามหลังมาด้วย"เฮ้อ นี่เสี่ยวชุ่ยพวกเจ้านายบ่าวอยู่ที่นี่ก่อเรื่องอะไรกันนักนะ""อาจารย์เจ้าคะ ท่านถอนหายใจวันละร้อยรอบ ข้าเป็นคนแย่ในสายตาท่านเพียงนั้นเชียวหรือ พี่หนานเกอข้าไปตามพี่ใหญ่ก่อนนะ"เสี่ยวชุ่ยเอ่ยไม่ทันจบหลี่ว่านถิงก็มาถึงแล้ว นางมีลางสังหรที่ไม่ดีนัก เหลียงหนานเกอมาที่นี่เหลียงเป้าเล่าเขาอยู่ที่ใดกัน"เสี่ยวเกอ ท่านอาเจ้าเล่าเหตุใดเจ้ามาแทนเขา""เอ่ย นายหญิงท่านอาเขาเอ่อเขา บาดเจ็บขอรับ""บาดเจ็บหรือ ถูกปล้นหรือ แล้วตอนนี่อยู่ที่ใด อาการเล่าน่าเป็นห่วงมากหรือไม่""เอ่อ คือว่าท่านหมอผุ้นี้รักษาให้แล้วขอรับ ตอนนี้พักอยู่ที่บ้านเช่าในหมู่บ้านขอรับ""ท่านหมอหยวน คนของข้าเป็นเช่นไรบ้าง""ทูลพระชายา เขาถูกทำร้ายสาหัสนัก เพียงแต่ว่าข้าน้อยใช้สมุนไพรอย่างดีรักษาแล้ว เสี่ยวชุ่ยของท่านใจใหญ่นัก ขนสมุนไพรข้าเสียเกลี้ยงเชียว ตอนนี้พ้นความตายแล้ว เหลือเพียงรอให้เขาฟื้นพ่ะย่ะค่ะ""ขอบคุณท่านมากท่านหมอหยวน เรื่องสมุนไพรข้าจะหาทางชดใช้ให้
ทุกคนเจรจาเรียบร้อยก็เตรียมตัวกลับ หยวนซานไห่เดินหน้าบึ้งมาก่อนจะถามหาเสี่ยวชุ่ย"พระชายา น้องสาวของพระองค์เล่าพ่ะย่ะค่ะ นี่มันเพลาใดแล้วยังไม่ไปเรียน ถ้านางขี้เกียวจนักก็ล้มเลิกเถอะ""อืม ข้าก็ว่าเช่นนั้นแหละท่านหมอ เสี่ยวชุยต้องมานั่งร้องไห้ทุกวันข้าสงสารนางเช่นกันเลิกเรียนก็ดี""อะไรนะพ่ะย่ะค่ะ นางร้องไห้หรือ กระหม่อมไม่ได้ลงโทษอันใดเลยแล้วนี่นางไปอยู่ที่ใดพ่ะย่ะค่ะ อยากเรียนก็มาขอเรียน นึกอยากเลิกก็จะเลิกมิหนำซ้ำยังฝากคนอื่นมาพูดอีก เด็กอะไรไร้กาลเทสะจริงๆ""เจ้าก็ปากคอเราะร้ายเกินไป นางไปหาสมุนไพรให้คนของถิงถิง แล้วเห็นว่าจะหามาคืนเจ้าด้วย ไม่อยากติดหนี้บุญคุณจนโดนทวงไม่เลิก""ท่านอ๋อง กระหม่อมปากร้ายที่ใดกัน นางเอาแต่ใจเกินไป สมุนไพรบางอย่างหากใช้ราวมกันมันเป็นยาพิษได้นะพ่ะย่ะค่ะ""เอาเถอะท่านหมอ ข้าขอโทษแทนน้องสาวด้วย ถ้าเช่นนั้นหากนางกลับมาข้าจะบอกให้นางไปยกเลิกเรียนวิชาแพทย์กับท่านด้วยตนเอง นางสิบเจ็ดแล้ว เสี่ยวหงยังมีคู่ครองแล้ว ท่านอ๋องว่าหม่อมฉันควรคิดเรื่องคูครองให้เสี่ยวชุ่ยสักทีดีหรือไม่เพคะ"หลี่ว่านถิงหันไปถามซ่าวกวนหลิวหยาง เขาก็ตอบนางกลับ"ก็ดีนะ หาคนดีๆ ข้ามีคนอยู่
บนเขาซานสุ่ยเสี่ยวชุ่ยที่กำลังเดินหาสมุนไพรที่นางเอาของอาจารย์มาใช้รักษาท่านอาเหลียงจนหมด นางได้สมุนไพรเกือบครบแล้วขาดแค่หญ้าเกล็ดมังกรเท่านั้น ยามเซินแล้วดูเหมือนท้องฟ้าจะครึ้มเล็กน้อย นี่หน้าร้อนนะจะมีฝนได้อย่างไรกันไม่นานนักเสี่ยวชุ่ยเจอสมุนไพรที่นางตามหาอยู่ มันมีเยอะมากเป็นดงเลย เสี่ยวชุ่ยถอนอย่างระวังบริเวณที่มันขึ้นกระจัดกระจาย กำลังจะเดินไปยยังดงที่หญ้าเกล็ดมังกรขึ้นหนาแน่นก็ได้ยินบางอย่างแกร๊ก!! แกร๊ก!! แกร๊ก!! แกร๊ก!!ฟ่อ !! ฟ่อ !! ฟ่อ!! ฟ่อ!! บริเวณด้านหน้ามีตัวใหญ่และยาวกำลังชูตัวขึ้นแผ่แม่เบี้ยขู่นางอยู่ เสี่ยวชุ่ยยืนนึ่งกับที่ นางเข่าแทบจะยืนไม่ไหวแล้ว อสรพิษตัวร้ายไม่ยอมขยับ เสี่ยวชุ่ยยืนขาแข็งเกือบครึ่งชั่วยามแล้ว พอนางเริ่มจะขยับเพียงนิด งูตัวนั้นก็ทำท่าขยับตาม น้ำตาไหลจนแห้ง อสรพิษร้ายก็ยังไม่ยอมไปประจันหน้ากับนางอย่างไม่ถอย"พี่งูจ๋า ท่านไปเถอะนะข้าขอร้อง ฮือๆๆ มืดแล้วข้าอยากกลับบ้านฮือๆๆ"หยวนซานไห่ตามหานางจนแทบเป็นบ้า ด้วยเขาฝึกยุทธจึงหูดี ป่านิ่งสงัดเขาได้ยินเสียงร้องไห้ จำได้ว่าเป็นเสียงของนาง หยวนซานไห่ดีดตัวเหินมาตามเสียงที่ได้ยิน เขาเห็นร่างบางยืนนิ่งเอาแต่
ข้างนอกฝนตกแรงเพราะเป็นพายุฤดูร้อนซ่างกวนหลิวหยางที่นั่งมองเมียกำลังคิดบัญชีอยู่ก็เริ่มกระสับกระส่าย นี่ยามไฮ่แล้วเมียยังไม่วางงานในมือเลย ซ่างกวนหลิวหยางเดินไปหานั่งลงข้างๆ ช้อนตัวนางมานั่งบนตัก จมูกโด่งไซร้ซอกคอระหง มือหนาเริ่มเอื้อมมาด้านหน้าล้วงสาบเสื้อกอบกุมความนุ่มหยุ่น เคล้นคลึงบีบปลายถันยั่วเย้าจนหลี่ว่านถิงต้องจับมือเขาแล้วดุเสียงเข้ม"ท่านอ๋อง หม่อมฉันต้องคิดบัญชีเพคะ พรุ่งนี้ต้องจ่ายค่าแรงคนงานโรงชา อย่าซนนะเพคะ""ไม่ไหวแล้วคนดี ดุสิมันร้อนจนระอุแล้วนะ ไม่รู้สึกหรือ"หลี่ว่านถิงอยากทุบเขาจริงๆ แก่นกายของเขาแข็งขึงทิ่มก้นนางอยู่ คนตัวโตพยายามเสียดสีไปมา หลี่ว่านถิงทำบัญชีไม่รู้เรื่องแล้ว เขาเล่นปลุกเร้าแบบนี้ใครจะทนไหวเล่า"ทะ ท่านอ๋อง นี่มันห้องทำงานนะเพคะ อย่ารุ่มร่ามสิ อื้อ พี่หลิวหยางท่านไม่ฟังข้าบ้างเลย""เมียจ๋า ทบทวนความหลังกันหน่อย วันที่พี่เจอเจ้าครั้งแรกดีหรือไม่หื้ม""ความหลัง อะ อะไร อื้อ อย่าดูดแรงสิ นมช้ำพอดี อ่าห์พี่ พี่หลิวหยาง อื้อ "ซ่างกวนหลิวหยางปลดชุดนางออกจนหมดก่อนจะจับนางเอี้ยวตัวมาแล้วดูดกลืนปลายถันสีทับทิมอย่างหิวกระหาย หลี่ว่านถิงครางออกมาอย่าวรัญจ
เหตุการณ์เมื่อเก้าปีก่อนหลี่ว่านถิงที่นอนหลับหนุนแขนสามีอยู่นั้น ตอนนี้นางกำลังฝันถึงความทรงจำเมื่อเก้าปีก่อนวันนั้นหยางหนิงเฉิงขี่ม้ามารับนาง จากนั้นก็พากันไปนั่งเล่นที่ริมลำธารทิศตะวันออกของเมือง ที่เขาชอบพานางมาเสมอ“ถิงถิง เจ้าชอบให้พี่พาเจ้ามาขี่ม้ามาเดินเล่นแบบนี้หรือไม่บอกพี่หน่อยสิ”“อื่อ พี่หลิวหยางข้าชอบท่านที่สุดเลย ท่านดีกับข้าที่สุด”“ถิงถิง ตอนนี้เจ้าอายุเก้าขวบแล้ว อีกหกปีเจ้าก็เจ้าก็ถึงวัยปักปิ่น ถึงเวลานั้นเจ้ายินดีแต่งเข้าจวนพี่หรือไม่”“ข้ายินดีเจ้าค่ะ พี่หลิวหยางข้าชอบท่านที่สุด แต่ว่าข้ากลัวท่านพ่อกับท่านย่าพวกเขา""หื้ม.. มีเรื่องอะไรหรือ ทานพ่อเจ้าทำไม่หรือบอกพี่ได้หรือไม่""ท่านพ่อยึดที่ดินของท่านแม่ไปขาย ร้านค้าก็ยึดไปด้วย ข้าไม่เข้าใจท่านพ่อมิใช่ยากจน ท่านแม่ก็ขายสมบัติให้ท่านพ่อได้สอบขุนนางจนหมดแล้ว ส่วนที่ท่านพ่ออยากได้นั่นเป็นสินเดิมที่ท่านแม่เก็บเอาไว้ให้ข้า พี่หลิวหยางตอนนี้ข้าไม่มีอะไรเลย แต่งงานกับท่านข้าก็ไม่รู้ว่าคู่ควรหรือไม่”“ถิงถิงพี่แต่งเจ้ามาเพราะพี่รักเจ้า มิได้ต้องการสมบัติของเจ้า ว่าแต่เด็กดีบอกพี่ได้ไหม บิดาเจ้าทำอะไรอยู่ เหตุใดต้องการเงิ
หลังจากทุกอย่าางเรียบร้อยก็ถึงเวลาที่เข้าไปหาหลี่ว่านถิงได้แล้ว คู่แฝดใบหน้าคล้ายกับมารดากับบิดาผสมกันมากเหลือเกินจมูกที่รั้นเหมือนมารดา คิ้วที่ดูหนาเจ้าอารมณ์เหมือนบิดา ปากน้อยๆนั่นคนหนึ่งเหมือนหลี่ว่านถิง อีกคนคล้ายซ่างกวนหลิวหยาง พวกเขาได้พ่อกับแม่มาคนละนิดละหน่อย ใบหน้าช่างน่ารักยิ่งนักหลี่ว่านถิงหยิบป้ายหยกของท่านพ่อใส่ห่อผ้าของคนที่จมูกและปากคล้ายนางมากที่สุด ซ่างกวนหลิวหยางรู้ทันทีว่านั้นคือคนเล็ก ป้ายห้อยเอวของเขาจึงถูกใส่ห่อผ้าที่ห่อบุตรชายคนโตเอาไว้ซ่างกวนหลิวหยางแนบหน้าผากของตนกับหน้าผากของนาง ก่อนจะเปิดโอกาสให้บรรดาแม่นมมาเตรียมวามพร้อมในการอยู่เดือนของนางหลังจากพระชายาคลอดบุตรชายชาวเมืองทั้งแปดมณฑลก็ดีใจ ชินอ๋องละเว้นภาษีให้พวกเขาห้าปี โดยภาษีที่ต้องจ่ายให้ราชสำนักทั้งหมด ตำหนักอ๋องจะรับผิดชอบเองห้าเดือนต่อมาได้รับข่าวว่าฮองเฮาเองก็คลอดพระโอรสและพระธิดาในครั้งเดียว หลี่ว่านถิงนึกขำในใจ คงเพราะเป็นกรรมพันธ์ ซ่างกวนหลิวหยางกับฮ่องเต้เป็นคู่แฝดกัน พอมีลูกก็ได้แต่ลูกแฝดซ่างกวนหลิวหยางที่กำลังคลุกเคล้าอยู่กับกลีบดอกไม้แสนหวานของหลี่ว่านถิงนางทำได้แค่เพียงจับศีรษะเขาแน่น
หลังจากประกาศแต่งตั้งฮองเฮาเรียบร้อยแล้ว ซ่างกวนหลิวหยางก็เตรียมออกเดินทางไปยังดินแดนตะวันออก หลี่ว่านถิงกำลังสั่งงานบ่าวไพร่ ป้าสวีเป็นบ่าวในเรือนที่ไม่เคยรังแกนางสักครั้งนับแต่นางแต่งเข้ามาจวนอ๋อง ทั้งๆที่หลายๆคนรังเกียจนางส่วนแม่ครัวหม่าที่มักเอาของเหลือมาโยนให้นางกับเสี่ยวชุ่ยประจำตอนที่ร่างเดิมยังอยู่ที่นี่ถูกหลี่ว่านถิงขายออกไป ตอนนี้บ่าวไพร่กำลังคุกเข่าฟังคำสั่งนาง"ป้าสวี จากนี้ไปท่านรับผิดชอบเรื่องในจวนทั้งหมด มีเรื่องอันใดให้ปรึกษาอาเต๋อ ส่วนป้าจงท่านรับหน้าที่เรื่องในครัว เดิมทีข้าอยากพาทุกคนไปด้วย แต่เนื่องจากทางนั้นยังไม่เรียบร้อย เอาเป็นว่าเมื่อไหร่ที่เข้าที่เข้าทางข้าจะส่งข่าวให้พวกเจ้า""เพคะพระชายา/พ่ะย่ะค่ะพระชายา"บ่าวไพร่รับคำสั่งก่อนที่หลี่ว่านถิงจะลุกขึ้น ซ่างกวนหลิวหยางก้มาถึง เขาช้อนอุ้มนางขึ้นมาจนหลี่ว่านถิงดุเขาเบาๆ"ท่านอ๋อง ต่อหน้าบ่าวไพร่หม่อมฉันเดินเองได้เพคะ""กลัวอะไร พี่รักเจ้าทุกคืนจนพวกเขาชินแล้วแค่อุ้มเจ้าไม่ใช่ปัญหาหรอก""ท่านนี่นะหน้าหนานักเชียว"ซ่างกวนหลิวหยางอุ้มหลี่ว่านถิงมานั่งที่โต๊ะอาหาร จากนั้นก็อุ้มคู่แฝดคนละข้างมานั่งตักก่อนจะป้อนข้าวให
รุ่งเช้าเหล่าทหารต่างตีฆ้องร้องป่าว เพื่อเฉลิมฉลองที่วันนี้จะประกาศราชโองการแต่งตั้งฮองเอาพร้อมกับข่าวดีที่ว่าฮองเฮากำลังทรงพระครรภ์ซ่างกวนหลิวหยางและหลี่ว่านถิงแต่ชุดเข้าเฝ้าเรียบร้อยแล้ว วันนี้คู่แฝดอยู่จวนเพราะว่าเป็นงานราชพิธี อาจจะทำให้เด็กทั้งสองเบื่อหน่าย อาจจะงอแงอีกด้วย เมื่อถึงเวลาทั้งสองก็ออกจากจวนเดินทางเข้าวังหลวง หลี่ว่านถิงไปหาหลี่ไฉ่หงก่อนเพื่อพุดคุย"พี่ว่านถิง ข้าคิดถึงท่านที่สุดเลย เหตุใดท่านมาหาข้าบ่อยๆไม่ได้เล่า""พระสนม ทรงโตแล้วนะเพคะ จะมางอแงไม่ได้อีกหน่อยต้องปกครองวังหลังต้องเข้มแข็งและหนักแน่น อีกเจ็ดวันหม่อมฉันจะไปดินแดนตะวันออกแล้ว ทรงอยู่ทางนี้หากมีเรื่องอันใดก็เรียกหาพี่หลิงหลิงนะเพคะ""แต่ข้าคิดถึงท่านนี่ หรือว่าบอกท่านอาหย่ง เอ่อ บอกฝ่าบาทว่าพี่เขยไม่ต้องไปดินแดนตะวันออกแล้วดีหรือไม่"หลี่ไฉ่หงเริ่มงอแง นางมาที่นี่นอกจากหลี่ว่านถิง ฟ่านหลิงหลิงแล้วนางไม่รู้จักใครเลย ฮ่องเต้กำลังจะเรียกเหลียนจางหมิ่นมารับตำแหน่งที่เมืองหลวง พี่สาวนางหลี่ไฉ่เหยียนจะได้มาด้วย แต่นั่นอีกตั้งหกเดือนฟ่านหลิงหลิงที่ใกล้คลอดเต็มทีพยุงครรภ์ใกล้คลอดเดินมาหาก่อนจะเอ่ย"พระสนม อ
ซ่างกวนหลิวหยางโอบไหล่มนเอาไว้ ก่อนจะจุมพิตหน้าผากนาง"เจ้าไม่โกรธเกลียดนาง อีกทั้งยังให้อภัยน้องหญิงไม่กลัวว่าวันหน้านางจะหันกลับมาทำร้ายเจ้าหรือ""นางไม่ได้เลวร้ายโดยเนื้อแท้ หลังจากที่หม่อมฉันจำทุกอย่างได้ ทั้งจวนมีเพียงนางที่ดีต่อท่านแม่ นางมักแอบเอาของกิน แอบเอาถ่านไม้ หรือผ้าห่มมาให้เสมอ อย่างที่นางบอกนางคิดว่าท่านแม่ทอดทิ้งนาง สกุลโจวให้ความสนใจเพียงโจวจื่อทงเท่านั้น หม่อมฉันกับนางไม่ต่างกันผิดแค่หม่อมฉันมีท่านคอยปกป้อง แต่นางไม่มีใครเลย กลับกันเถอะเพคะวันนี้ต้องเขาวังไปร่วมงานเลี้ยงฉลองที่ไฉ่หงตั้งครรภ์""อืม ไปเถอะ"ซ่างกวนหลิวหยางช้อนอุ้มร่างบางที่ตอนนี้หน้าท้องเริ่มนูนออกมาอย่างเห็นได้ชัดเจน นางตั้งครรภ์ได้ห้าเดือนแล้ว ว่างกวนหลิวหยางรับราชโองการไปปกครองดินแดนตะวันออกเรียบร้อยแล้ว คู่แฝดถูกแต่งตั้งเป็นองค์หญิงเพราะเป็นบุตรีคู่แรกที่กำเนิดในราชสกุลซ่างกวนปลายยามโหย่ว รถม้าก็มาถึงวังหลวง งานเลี้ยงกำลังจะเริ่ม มีโคมไฟประดับประดามากมาย ด้านหน้าที่นั่งของเหล่าขุนนางทั้งหลายมีอาหารหลากหลาย บางอย่างล้วนแปลกใหม่ พระชายาชินอ๋องทรงเป็นผู้บุกเบิกอาหารเหล่านั้น ตอนนี้หลายอย่างกำลังนิย
มาถึงเมืองหลวงได้เกือบเดือนแล้ว หลี่ว่านถิงที่ตอนนี้อยู่ที่จวนสกุลโจว บรรดาครอบครัวเดิมของสกุลโจวถูกเนรเทศไปจนหมด แม้กระทั่งบ่าวไพร่ก็เช่นกันถูกขายออกไป คนที่สอบแล้วไม่มีส่วนเกี่ยวข้องก็ให้เป็นทาสหลวงหลี่ว่านถิงมองคนงานก่อสร้างกำลังรื้อป้ายจวนออก ต้นไม้บางต้นนางสั่งให้โค่นทิ้ง เรือนเล็กด้านหลังที่หลี่ว่านถิงเคยอยู่นางปรับปรุง ปิดประตูเล็กกั้นออกจากเรือนหลักหลี่ว่าถิงสั่งบ่าวไพร่ที่ตามมาให้ไปจัดการข้าวของในจวน ก่อนที่ตนเองจะเดินไปยังเรือนหลังเล็ก สตรีนางหนึ่งนั่งเหม่ออยู่ที่ศาลาริมน้ำ"เพ่ยเพ่ย ไปเฝ้าด้านหน้าอย่าให้ใครเข้ามา""เพคะพระชายา"สาวใช้คนใหม่รับคำสั่งก่อนจะปิดประตูเชื่อมเรือนหลักลง แล้วยืนเฝ้าที่ประตู หลี่ว่านถิงเดินไปจนถึงร่างผอมบางที่นั่งเหม่อมองไปด้านหน้า บุรุษนึงกำลังเช็ดใบหน้าให้นางอย่างถนอม เขารักนางมากตลอดเวลาแต่นางกลับมองไม่เห็นความรักนั้น ถูกใช้เป็นเครื่องมือจนกลายเป็นเช่นนี้"คุณหนูโจว ไม่พบกันเสียนานระหว่างเรามีหลายเรื่องให้พูดคุย ข้าจะไม่พูดถึงเรื่องที่ผ่านมาแล้ว แต่จะถามเจ้าว่าอยากอยู่หรืออยากไป"โจวลิ่วผิงหันหน้ามาตามเสียง ก่อนจะเมินไม่ตอบคำถามนาง หลี่ว่านถิงไ
ยามอิ๋นหลี่ว่านถิงตื่นขึ้นมา ยังจำความฝันได้ดี เธอมองหน้าซ่างกวนหลิวหยาง มือบางลูบไล้ใบหน้าของเขา ซ่างกวนหลิวหยางลืมตาจับมือนางเอาไว้มาแนบอก“เป็นอะไรเด็กดีของพี่ นอนไม่หลับหรือ”ซ่างกวนหลิบหยางลูบหลังเบาๆ หลี่ว่านถิงกระเถิบตัวเข้าหาเขาอีก ซ่างกวนหลิวหยางกระขับอ้อมกอด“น้องหญิงเจ้าหนาวหรือ พี่เพิ่มผ้าห่มอีกดีไหม หรือเพิ่มถ่านในเตาอุ่นดี”“พี่หลิวหยาง โจวหว่านถิงนางไปแล้วเพคะ ครั้งนี้นางไปจริงๆ แล้ว”“หืม ฝันเห็นนางหรือ นางมาบอกว่าอย่างไร”“นางบอกขอบคุณที่หม่อมฉันรักท่าน ขอบคุณที่ยอมรับคู่แฝด นางไปเกิดเป็นบุตรสาวของพี่สะใภ้หม่อมฉันเพคะ คุณแม่อยากได้หลานสาวสักคนตอนนี้สมหวังแล้ว เพราะพี่ชายหม่อมฉันมีบุตรชายแล้วสามคน ไม่มีบุตรสาวเลย”“เป็นเช่นนี้ พี่จะได้สบายใจสักที”“จริงสิหม่อมฉันรู้สึกเหมือนทุกคืนท่านนอนไม่ค่อยหลับนะเพคะ”“พี่เคยรักโจวหว่านถิง แต่กลิ่นกายเจ้าแปลกไปตั้งแต่ขึ้นมาจากทะเลสาบ พี่รู้ว่าเจ้าความจำเสื่อมจึงไม่คิดมาก จนกระทั่งพี่หาเจ้าเจอ พี่เอาเปรียบเจ้าครั้งแล้วครั้งเล่าจนแน่ใจแล้วว่าเจ้าไม่ใช่นางจริงๆ ไม่ใช่ว่าเป็นเพราะเจ้าจำพี่ไม่ได้แต่เป้นอีกคน จนกระทั่งนางมาเข้าฝันว่านางเ
หมู่บ้านเสวียนหยางที่คึกคักจากงานแต่งงานตอนนี้เงียบสงัด มีเพียงโคมไฟที่ห้อยไปมา ส่องแสงสว่างให้ความรู้สึกสวยงาม สองพี่น้องสกุลฉู่ยืนกอดอกมองไปยังทางบ้านของหลี่ว่านถิง นางคือบุตรสาวของนายท่านยังมีสองเด็กน้อยที่พวกเขาต้องติดตามซ่างกวนหนิงเซียนและซ่างกวนหนิงฮวาอีกด้วยฉู่เหอหนานมองหน้าพี่ชายก่อนจะพากันหายไปในความมืด พวกเขาคือคนของพรรคไร้เงา จะออกมาเวลาเจ้านายมีภัยเท่านั้น ตอนนี้เจ้านายมีความสุขดีพวกเขาจึงเร้นกายรุ่งเช้า ชาวบ้านช่วยกันเก็บกวาดโต๊ะงานเลี้ยงเมื่อคืนนี้ ซ่างกวนหย่งเฉิงที่ไม่ยอมออกจากห้องหอจนซ่างกวนหลิวหยางอ่อนใจกับพี่ชาย จากนั้นซ่างกวนหลิวหยางก็ไปหาแม่ทัพใหญ่เพื่อพูดคุยเรื่องกลับเมืองหลวงสรุปว่าอีกครึ่งเดือนจะเดินทาง ตอนนี้ต่อรถม้าอย่าดีให้บรรดาภรรยาของพวกเขาก่อน ซ่างกวนหลิวหยางไปยังบ้านยของถังฮ่าวหรานเพื่อส่งมอบบัญชีของร้านผ้า อีกทั้งแบบลายใหม่ๆ ที่ทางสกุลถังจะสามารถใช้ได้ถึงสองปี หากออกแบบตามที่หลี่ว่านถิงบอก“ทุกสามเดือนค่อยออกงานชุดใหม่หนึ่งครั้ง นี่เป็นสี่งที่ถิงถิงบอก ฮ่าวหรานเจ้าจะไปหาข้าที่ดินแดนตะวันออกหรือไม่ ข้าจะกลับเมืองหลวงไปส่งเสด็จพี่เพื่อรับราชโองการแล้วอ
คู่แฝดไม่ได้นอนกับบิดาและมารดา เพราะมารดาต้องตื่นแต่เช้าพวกนางเป็นเด็กรู้ความจึงนอนกับแม่นมที่เสด็จพ่อประทานมาให้ทั้งสองคนหลับไปแล้ว อยู่ๆ หลี่ว่านถิงก็ฝันนางฝันเห็นคุณแม่กับพี่ชายและหลี่หงเพื่อนสนิท อยู่กลางทะเลพวกเขากำลังโปรยดอกไม้ให้เธอ แม่กับพี่ชายพาพี่สะใภ้กับหลานมาด้วย“อาเกี้ยวหนูจากพวกเราไปห้าปีแล้วนะ ตอนนี้พี่ชายหนูเป็นเจ้าของบริษัทมีกิจการเป็นของตัวเองแล้ว อีกทั้งยังมีหลานสาวให้แม่เพิ่มพี่สะใภ้หนูใกล้คลอดแล้วนะไม่รู้ว่าหลานสาวคนนี้เป็นหนูมาเกิดหรือเปล่า แต่แม่อยากให้เป็นหนูมาเกิดจริงๆ”“นี่ยายเกี้ยว ขอบใจเธอมากนะเงินสองแสนที่เธอโอนให้ฉัน มันทำให้ฉันลืมตาอ้าปากได้ ตอนนี้ฉันเปิดบริษัทออกแบบเสื้อผ้าแบรนด์ดืของตัวเอง มีลูกค้ามากมาย ยายเกี้ยวฉันกำลังจะแต่งงานกับคุณอาหยวนน้องชายคุณพ่อของเธอนะ คือตอนนี้ฉันกำลังมีเบบี๋แล้วด้วย เธอสบายดีนะ”พวกเขาพูดคุยกับเธอ หลี่ว่านถิงที่กำลังฝันอยู่ก็ร้องไห้ออกมา พวกเขาต่างมีชีวิตที่ดี แม่ต้องลำบากแล้ว พี่ชายสามารถยืนหยัดได้แล้ว ที่น่าขันคือหลี่หงกับเสี่ยวชุ่ยที่เหมือนกันราวกับแกะ หลี่หงแต่งงานกับคุณอา ส่วนเสี่ยวชุ่ยก็แต่งงานกับท่านหมอหยวนที่ใบหน
นอนคุยกันสักพักก็ได้ยินเสียงเจื้อยแจ้ว บิดายังไม่ทันจะลุกซ่างกวนหนิงฮวาก็โถมมาใส่กอดเขาแน่นกระเง้ากระงอดออดอ้อน"เสด็จพ่อเพคะ ท่านอาอาฝูใจร้ายนัก ลูกไม่อยากเห็นหน้าเขาแล้วเพคะ""หื้ม ท่านอาทำอะไรให้เจ้าไม่พอใจบอกพ่อสิเด็กดี"ซ่างกวนหนิงเซียนกลอกตาบน ก่อนจะเดินมานั่งที่เก้าอี้กลางห้องเอ่ยเสียงเรียบๆ กับน้องสาว"น้องเล็กอย่าชิงฟ้อง เรื่องที่ท่านอาห้ามนั่นถูกต้องแล้ว""พี่ใหญ่เจ้าคะข้าอยากไปนี่"ซ่างกวนหลิวหยางได้ยินแล้ว คนของเขารายงานว่าอาฝูไม่ยอมพาเจ้าตัวเล็กไปบ่อน วันนี้มีบ่อนเปิดใหม่ซ่างกวนหนิงฮวาอยากไปเสี่ยงดวงว่าตนเองมือขึ้นหรือไม่จึงมางอแงเอากับเขา เฮ้อนางเพิ่งจะห้าขวบ เสด็จพ่อสอนหลานเช่นไรกันถึงได้นิสัยนักพนันมาเช่นนี้"ฮวาเอ๋อร์การพนันเป็นสิ่งไม่ดี ลูกยังเด็กไม่สมควรไปยุ่งเกี่ยวกับอบายมุขพวกนี้ ไปเล่นกับเด็กวัยเดียวกันหรือไม่ก็ไปเดินเล่นในตำบลดีหรือไม่""แต่ลูกอยากไปศึกษาเผื่ออนาคตลูกเป็นเจ้าของบ่อนพนันจะได้รู้ทันนักเสี่ยงโชคไงเพคะ หากเจอคนโกงเก่งๆ แบบเสด็จปู่ลูกขาดทุนพอดี"ซ่างกวนหนิงฮวานิ่งสักพักทำท่านใช้ความคิดจนมารดาต้องลุกขึ้นมานั่งก่อนจะบีบแก้มน้อยๆของนาง จนปากยู่“อื้อ อะ