ชนิตาย้ายกลับไปอยู่ที่บ้าน และวางแผนให้พ่อและแม่ฟังว่าหลังจากนี้เธอจะใช้ชีวิตแบบไหน ซึ่งโกศลและศจีก็ต่างสนับสนุน เพราะมั่นใจว่านั่นคือความสุขของลูกสาวคนนี้ ส่วนเรื่องคู่ครองพวกเขาคงไม่เข้าไปก้าวก่ายอะไรอีก หาก ชนิตาจะครองตัวเป็นโสดก็คงสบายไปอีกแบบส่วนว่าที่คุณพ่อและคุณแม่ก็กำลังตระเตรียมห้องสำหรับเด็กอ่อน ที่เวลานี้รู้เพศแล้วว่าคือผู้ชาย แต่ทั้งคู่ยังคงเก็บเป็นความลับ เพื่อให้ทุกคนไปลุ้นเอาวันที่พรฟ้าคลอด ซึ่งจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้แล้ว“ซื้อพอแล้วมั้งคะคุณอธิศ”“พอแล้วเหรอ” ว่าที่คุณพ่อเอ่ยถามขึ้นเพราะคิดว่าสิ่งของจำเป็นที่เขาซื้อเตรียมไว้ให้ลูกชายคนแรกนั้นยังไม่มากพอ ขณะที่พรฟ้าได้แต่มองจำนวนสิ่งของในรถเข็นที่เยอะจนล้นออกมา“ค่ะ...ถ้าหมดค่อยซื้อเพิ่มก็ได้”“โอเค...พอก็พอครับ” อธิศยิ้มให้ก่อนจะพาพรฟ้าไปทานอาหาร ในขณะที่รถช้อปปิ้งชายหนุ่มส่งให้แม่บ้านเป็นคนจัดการต่อ แต่ระหว่างทางเดินไปร้านอาหารนั้นจู่ๆ เขาก็วกเข้าร้านเพชรที่อยู่ตรงทางผ่านแบบไม่มีปี่ไม่ขลุ่ย ก่อนจะจัดแจงบอกให้พนักงานขึ้น&ldq
“ยินดีจากใจจริงอีกครั้งครับเพื่อน”“ขอบใจนายมากนพ”“เป็นฝั่งเป็นฝากับคนที่รัก สีหน้าของนายเต็มไปด้วยความสุขจริงๆ” นั่นเพราะนพกรยังจำสีหน้าของอธิศที่เกิดขึ้นตอนงานแต่งงานกับชนิตาได้ดี ว่ามันดูอึมครึมไม่ได้สดใสอย่างในตอนนี้“อื้อ”“เจ้าสาวนายก็สวย”“ใช่ไหม เบลสวย ยิ่งอยู่ในชุดเจ้าสาวแบบนี้ก็ยิ่งสวย” อธิศยิ้มกว้างเมื่อเอ่ยชมความสาวของภรรยา ยิ่งตอนนี้พรฟ้าท้องด้วยแล้วเธอก็ยิ่งสวยเปล่งปลั่ง“เบื่อคนอวยเมียว่ะ”“ก็เมียข้าสวยจริงๆ นี่หว่า”“เออๆ สวยก็สวย สรุปนายได้ลูกสาวลูกชาย บอกได้ยัง”“ยัง ไปลุ้นเอาวันที่เบลคลอดนู่น”“บอกหน่อยไม่ได้หรือไง จะได้ซื้อของรับขวัญถูก” นพกรเซ้าซี้ นั่นเพราะตอนนี้เขาไม่รู้จะซื้ออะไรรับขวัญหลานจริงๆ ยิ่งไม่รู้ว่าเป็นเพศอะไรก็ยิ่งมืดแปดด้าน“จ
“ดีๆ ดีมาก” ภาคยิ้มอย่างมีความสุข ตามด้วยโกศลและศจี ในขณะที่มยุราซึ่งยังคงตั้งแง่กับพรฟ้าก็เผลอยิ้มออกมาเช่นเดียวกัน แม้เธอจะไม่ปลื้มแม่ของหลานแต่หลานชายน่ารักน่าชังแบบนี้เธอจะไม่เอ็นดูได้ยังไง อะไรที่หยวนได้ก็หยวนไปแล้วกัน นั่นคือข้ออ้างที่มยุรามีให้กับตัวเอง เพื่อจะหาทางออกกับเรื่องที่เคยก่อชนิตาเองก็ยิ้มกว้างเมื่อรู้ว่าพรฟ้าคลอดลูกอย่างปลอดภัย แถมยังมอบลูกชายที่เปรียบดั่งสายใยความรักความผูกพันให้กับครอบครัวอีก ชนิตารอกระทั่งรู้ว่าพรฟ้าออกมาพักฟื้นที่ห้องแล้วจึงโทรศัพท์ทางไกลมาหา“ดีใจด้วยนะเบล”“ขอบคุณมากค่ะคุณตา”“หลานฉันช่างน่ารักน่าชัง ขอให้ฉันได้เป็นแม่ทูนหัวแกได้ไหม” ชนิตาเอ่ยถาม“ได้ค่ะ”“ขอบใจมากจ้ะ”“ร้องไห้ทำไม” เมื่อเห็นพรฟ้าร้องไห้หลังจากวางสายจากชนิตาแล้ว อธิศก็เข้ามาถามทันที“ดีใจที่ทุกคนเอ็นดูลูกของเรานะคะ”“ก็แกน่ารักน่าชังขนาดนั้นนี่ครับจะไม่ให้ทุกคนเอ็นดู
‘แต่งงานกันมาก็จะครบปีแล้ว เมื่อไหร่หนูตาจะท้องเสียทีละลูก’นั่นคือประโยคคำถามที่ชนิตาและอธิศมักจะได้ยินจากผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายเสมอ และเป็นแบบนี้มาตั้งแต่ที่คนทั้งคู่แต่งงานกันด้วยซ้ำ คำถามเหล่านี้เกิดขึ้นทุกครั้งที่มีการรวมตัวทานอาหารของทั้งสองครอบครัว ซึ่งจะเกิดขึ้นทุกๆ เดือนหรือไม่ครอบครัวฝ่ายอธิศก็เอ่ยถามคำถามแบบนี้กับสะใภ้อย่างชนิตาอยู่เนืองๆ เหตุผลที่เป็นแบบนั้นเพราะพวกเขาต่างคาดหวังให้ชนิตาตั้งท้องเสียที และที่คาดหวังมากกว่าการตั้งท้องคือขอให้หลานคนแรกเป็นผู้ชายด้วย มรดกจากคุณทวดที่ยังไม่ได้แบ่งให้ใครก็จะได้แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย ทั้งอธิศและชนิตาได้แต่ส่งยิ้มแห้งให้กันและกัน เพราะพวกเขานั้นต่างรู้ถึงสาเหตุว่าเพราะอะไรตอนนนี้ชนิตาถึงยังไม่ท้อง ก่อนที่อธิศจะเป็นฝ่ายตอบเหมือนทุกครั้งว่าเขาไม่อยากเร่งรัด ปล่อยให้เรื่องการตั้งท้องเป็นไปตามธรรมชาติ แต่หากหนึ่งหรือสองปีหลังจากนี้ชนิตายังไม่ท้องก็คงไปปรึกษาคุณหมอเฉพาะทางอย่างจริงจัง เมื่อการสนทนาเรื่องสำคัญจบลง การทานอาหารจึงเริ่มต้นขึ้น แต่คนที่ดูจะอัดอัดกับเรื่องนี้อย่างชนิตากลับกินอะไรไม่ค่อยลง ถึงอย่างนั้นก็ต้องฝืนกินและฝืนยิ้ม เพ
“ฉันเป็นคนชอบเที่ยวค่ะ ป่า ภูเขา ทะเล แต่ที่ชอบที่สุดคือสถานที่ที่ไม่ค่อยมีคนไป มีกล้องสักตัวไว้เก็บความทรงจำ แล้วคุณอธิศละคะ มีความฝันอะไรบ้าง” เมื่อได้พูดถึงความฝันที่อยากทำก็พลอยทำให้ใบหน้าของชนิตามีรอยยิ้มเกิดขึ้น “อืม...ผมอยากเป็นชาวสวน คงเพราะเบื่อกับการใช้ชีวิตในเมืองเต็มทนแล้วมั้งครับ เลยอยากไปขุดดินขุดหญ้าเลี้ยงสัตว์ดูบ้าง” นั่นคือความฝันที่อธิศอยากทำ ซึ่งมันเป็นความฝันที่เขาไม่เคยบอกใครมาก่อน ทุกวันนี้เวลาของเขาล้วนหมดไปกับงานที่ต้องรับผิดชอบ มันเหนื่อยจนรู้สึกล้าแต่ถ้าไม่มีเขางานก็คงหงุดชะงัก แบบนั้นมันคงไม่ส่งผลดี“ขอให้เราได้ทำตามความฝันค่ะ”“ครับ” เสียงทุ้มของอธิศเอ่ยรับ จากนั้นเขาก็เลี้ยวรถเข้าบ้านภายในโครงการหมู่บ้านจัดสรรระดับไฮเอน เพราะราคาบ้านของที่นี่เริ่มต้นคือสามสิบล้านบาท ซึ่งบ้านหลังนี้คือเรือนหอของเขากับชนิตา แต่ทว่าห้องหอที่ตกแต่งอย่างสวยงามกลับมีไว้เพียงเพื่อบังหน้าเท่านั้น เพราะนอกจากคืนแรกของการส่งตัวแล้วพวกเขาทั้งคู่ก็แทบไม่เคยเข้าไปนอน ต่างคนต่างมีห้องนอนเป็นของตัวเอง ซึ่งอยู่ตรงข้ามกัน คนนอกไม่มีใครรู้เรื่องนี้ยกเว้นคนในบ้านโดยอธิศกำชับไว้เป็นอย่างดีว
ภาพของคนสนิทภรรยาที่ชื่อว่าพรฟ้า ซึ่งจู่ๆ ก็หยุดเดินและยังยืนแข็งทื่อเป็นหุ่นตรงหน้าในตอนนี้ สร้างความสงสัยให้อธิศว่าเขานั้นทำอะไรผิดไปหรือเปล่า ทำไมเด็กสาวถึงได้ดูตกใจกลัวได้ถึงเพียงนั้น นั่นทำให้อธิศก้มสำรวจตัวเอง เสื้อผ้าเขาก็อยู่ครบทุกชิ้น ไม่มีอะไรผิดปกติสักนิดจะว่าไปนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พรฟ้ามีปฏิกิริยาเช่นในตอนนี้ เพราะทุกครั้งที่เขากับเธอบังเอิญเจอกัน พรฟ้ามักจะทำตัวไม่ถูก ลุกลี้ลุกลนแปลกๆ พยายามหลบหน้าหลบตาไปเสียทุกครั้ง ทั้งๆ ที่เธอน่าจะชินได้แล้ว เพราะเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ก็หลายเดือน “คุณอธิศจะไปไหนหรือคะ” พรฟ้ารวบรวมความกล้าแล้วเอ่ยถามขึ้น เพื่อเปลี่ยนความสถานการณ์ที่แสนอึดอัดจากความประหม่าให้ผ่อนคลายลง เพราะถ้าจะให้เดินหนีไปเสียเฉยๆ ก็คงเสียมารยาทเธอไม่รู้จริงๆ ว่าทำไมทุกครั้งที่เจออธิศใจถึงสั่นจนเธอควบคุมไม่ได้ รวมทั้งไม่กล้าสบตาไม่กล้าคุยกับชายหนุ่ม เลือกที่จะหลบมากกว่าเข้าใกล้ แต่มันก็มีอะไรที่ย้อนแย้งในความคิดเกิดขึ้น เพราะนี่คือความอึดอัดที่เธอนั้นอยากให้เกิดขึ้นบ่อยๆ ซึ่งพรฟ้าเองก็ไม่เข้าใจความคิดของตัวเองเช่นเดียวกัน “ลืมเอกสารไว้ที่รถ ว่าจะลงไปเอา” เสียงทุ้มเ
“ขะ...คุณอธิศได้เอกสารแล้วเหรอคะ” “ได้แล้ว” อธิศชูเอกสารที่อยู่ในมือขึ้นให้พรฟ้าดู แต่ดูเหมือนเธอจะเอาแต่มองพื้นมากกว่ามองมาที่เขา ถ้าเขายังยืนอยู่ตรงนี้พรฟ้าก็คงคอก้มจนเคล็ดเสียเปล่าๆ นั่นทำให้ชายหนุ่มเอ่ยขึ้น“ฉันไปล่ะ” เอ่ยจบชายหนุ่มก็เดินกลับออกไปจากห้องครัว ซึ่งทันทีที่เขาเดินห่างออกไปพรฟ้าก็ถึงกับเป่าลมหายใจออกปากหนักๆ พร้อมยกมือขึ้นจับหัวใจของตัวเองที่เต้นโครมคราม“เต้นเป็นปกติได้แล้ว” พรฟ้าบอกตัวเอง ก่อนจะดึงสติแล้วเตรียมน้ำอุ่นให้ชนิตา จากนั้นจึงกลับขึ้นไปชั้นบน ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ชนิตาเดินออกมาจากห้องน้ำพอดี“น้ำอุ่นค่ะคุณตา”“ขอบใจมากจ้ะ แล้วนี่ไปเอากระบอกน้ำเก็บอุณหภูมิมาจากไหน” ชนิตาเอ่ยถามอย่างสงสัย “เบลเห็นมันเก็บไว้ในตู้นะคะ เลยเอามาใช้ก่อน”“จ้ะ” ชนิตาเอ่ยรับ ก่อนจะดื่มน้ำอุ่นๆ จากกระบอกน้ำเก็บอุณภูมิที่พรฟ้าเตรียมไว้ให้ จากนั้นก็บำรุงใบหน้าด้วยสกินแคร์ตัวโปรด ในขณะที่พรฟ้าเข้ามาเป่าผมให้กระทั่งแห้งดีแล้ว จึงส่งยิ้มให้“ขอบใจที่ดูแลฉัน”“ค่ะ...แต่สิ่งที่เบลดูแลคุณตา ยังเทียบไม่ได้กับที่คุณตาดูแลเบลเลยด้วยซ้ำ ชีวิตของเบลเป็นของคุณตาค่ะ”“ชีวิตเป็นของเธอไม่ใช่ขอ
แต่ความกดดันดูเหมือนจะไม่ได้มาจากฝ่ายครอบครัวของอธิศเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น เพราะพ่อและแม่ของชนิตาเองก็เริ่มกดดันลูกสาวในเรื่องนี้เช่นเดียวกัน โดยยังคงให้เหตุผลว่าท่านอยากอุ้มหลานก่อนตาย ยิ่งทำชนิตารู้สึกไม่ดีมากขึ้นไปอีก จนต้องมานั่งถอนหายใจเฮือกๆ อย่างที่เป็นอยู่ ก่อนจะปรับอารมณ์ให้เป็นปกติแล้วเดินกลับเข้าบ้าน เพื่อสั่งให้แม่บ้านเตรียมมื้อเย็น เนื่องจากวันนี้จะมีเพื่อนของอธิศแวะมากินข้าวด้วย และเพื่อนคนนั้นของอธิศก็คือนพกรนั่นเอง โดยทั้งคู่เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเรียน ไปมาหาสู่กันเสมอๆ แต่ระหว่างการสนทนาบนโต๊ะอาหารก็มีประโยคหนึ่งที่ทำให้ชนิตาถึงกับชะงักไป“ข้าไม่รีบมีลูกว่ะ ปล่อยไปตามธรรมชาติก่อนดีกว่า” อธิศ ตอบคำถามนั้นของนพกร พร้อมกับแอบสังเกตสีหน้าของชนิตาไปด้วย รู้สึกเห็นใจเธอที่ใครต่อใครมักจะถามคำถามทำนองนี้เสมอ แต่จะไปโทษคนเหล่านั้นก็คงไม่ได้ เพราะไม่มีใครรู้ว่าเขากับชนิตาแม้จะแต่งงานกันแต่กลับอยู่กันแบบเพื่อน ไม่ใช่สามีภรรยา“มีลูกตอนอายุเยอะๆ จะไม่ดีต่อสุขภาพคุณตาเขานะโว้ย เด็กก็เสี่ยงตามไปด้วย”“ขอบใจที่แนะนำ แล้วนี่นายดื่มหนักขนาดนี้จะขับรถกลับไหวเหรอ” เอ่ยรับเสร็จอธิศก
“ดีๆ ดีมาก” ภาคยิ้มอย่างมีความสุข ตามด้วยโกศลและศจี ในขณะที่มยุราซึ่งยังคงตั้งแง่กับพรฟ้าก็เผลอยิ้มออกมาเช่นเดียวกัน แม้เธอจะไม่ปลื้มแม่ของหลานแต่หลานชายน่ารักน่าชังแบบนี้เธอจะไม่เอ็นดูได้ยังไง อะไรที่หยวนได้ก็หยวนไปแล้วกัน นั่นคือข้ออ้างที่มยุรามีให้กับตัวเอง เพื่อจะหาทางออกกับเรื่องที่เคยก่อชนิตาเองก็ยิ้มกว้างเมื่อรู้ว่าพรฟ้าคลอดลูกอย่างปลอดภัย แถมยังมอบลูกชายที่เปรียบดั่งสายใยความรักความผูกพันให้กับครอบครัวอีก ชนิตารอกระทั่งรู้ว่าพรฟ้าออกมาพักฟื้นที่ห้องแล้วจึงโทรศัพท์ทางไกลมาหา“ดีใจด้วยนะเบล”“ขอบคุณมากค่ะคุณตา”“หลานฉันช่างน่ารักน่าชัง ขอให้ฉันได้เป็นแม่ทูนหัวแกได้ไหม” ชนิตาเอ่ยถาม“ได้ค่ะ”“ขอบใจมากจ้ะ”“ร้องไห้ทำไม” เมื่อเห็นพรฟ้าร้องไห้หลังจากวางสายจากชนิตาแล้ว อธิศก็เข้ามาถามทันที“ดีใจที่ทุกคนเอ็นดูลูกของเรานะคะ”“ก็แกน่ารักน่าชังขนาดนั้นนี่ครับจะไม่ให้ทุกคนเอ็นดู
“ยินดีจากใจจริงอีกครั้งครับเพื่อน”“ขอบใจนายมากนพ”“เป็นฝั่งเป็นฝากับคนที่รัก สีหน้าของนายเต็มไปด้วยความสุขจริงๆ” นั่นเพราะนพกรยังจำสีหน้าของอธิศที่เกิดขึ้นตอนงานแต่งงานกับชนิตาได้ดี ว่ามันดูอึมครึมไม่ได้สดใสอย่างในตอนนี้“อื้อ”“เจ้าสาวนายก็สวย”“ใช่ไหม เบลสวย ยิ่งอยู่ในชุดเจ้าสาวแบบนี้ก็ยิ่งสวย” อธิศยิ้มกว้างเมื่อเอ่ยชมความสาวของภรรยา ยิ่งตอนนี้พรฟ้าท้องด้วยแล้วเธอก็ยิ่งสวยเปล่งปลั่ง“เบื่อคนอวยเมียว่ะ”“ก็เมียข้าสวยจริงๆ นี่หว่า”“เออๆ สวยก็สวย สรุปนายได้ลูกสาวลูกชาย บอกได้ยัง”“ยัง ไปลุ้นเอาวันที่เบลคลอดนู่น”“บอกหน่อยไม่ได้หรือไง จะได้ซื้อของรับขวัญถูก” นพกรเซ้าซี้ นั่นเพราะตอนนี้เขาไม่รู้จะซื้ออะไรรับขวัญหลานจริงๆ ยิ่งไม่รู้ว่าเป็นเพศอะไรก็ยิ่งมืดแปดด้าน“จ
ชนิตาย้ายกลับไปอยู่ที่บ้าน และวางแผนให้พ่อและแม่ฟังว่าหลังจากนี้เธอจะใช้ชีวิตแบบไหน ซึ่งโกศลและศจีก็ต่างสนับสนุน เพราะมั่นใจว่านั่นคือความสุขของลูกสาวคนนี้ ส่วนเรื่องคู่ครองพวกเขาคงไม่เข้าไปก้าวก่ายอะไรอีก หาก ชนิตาจะครองตัวเป็นโสดก็คงสบายไปอีกแบบส่วนว่าที่คุณพ่อและคุณแม่ก็กำลังตระเตรียมห้องสำหรับเด็กอ่อน ที่เวลานี้รู้เพศแล้วว่าคือผู้ชาย แต่ทั้งคู่ยังคงเก็บเป็นความลับ เพื่อให้ทุกคนไปลุ้นเอาวันที่พรฟ้าคลอด ซึ่งจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้แล้ว“ซื้อพอแล้วมั้งคะคุณอธิศ”“พอแล้วเหรอ” ว่าที่คุณพ่อเอ่ยถามขึ้นเพราะคิดว่าสิ่งของจำเป็นที่เขาซื้อเตรียมไว้ให้ลูกชายคนแรกนั้นยังไม่มากพอ ขณะที่พรฟ้าได้แต่มองจำนวนสิ่งของในรถเข็นที่เยอะจนล้นออกมา“ค่ะ...ถ้าหมดค่อยซื้อเพิ่มก็ได้”“โอเค...พอก็พอครับ” อธิศยิ้มให้ก่อนจะพาพรฟ้าไปทานอาหาร ในขณะที่รถช้อปปิ้งชายหนุ่มส่งให้แม่บ้านเป็นคนจัดการต่อ แต่ระหว่างทางเดินไปร้านอาหารนั้นจู่ๆ เขาก็วกเข้าร้านเพชรที่อยู่ตรงทางผ่านแบบไม่มีปี่ไม่ขลุ่ย ก่อนจะจัดแจงบอกให้พนักงานขึ้น&ldq
“ผมรอคำตอบอยู่” เมื่อมยุราไม่ตอบภาคก็เอ่ยถามซ้ำอีกครั้ง นั่นยิ่งทำให้มยุราอึกอักอย่างมีพิรุธ ก่อนจะยืนกระต่ายขาเดียวปฏิเสธ“เอ่อคือ...ไม่มีอะไรค่ะ”“คุณแม่เป็นคนแนะนำให้คุณตาหาผู้หญิงสักคนให้ผมครับพ่อ โดยพยายามกดดันเรื่องคุณปู่อยากอุ้มหลาน จนทำให้คุณตาไม่มีทางเลือก” หลังจากเงียบมานานอธิศก็ขอเอ่ยขึ้นบ้าง นั่นเพราะอยากให้ผู้เป็นแม่รู้ว่าทำแบบนี้มันไม่ถูกต้องแต่คำพูดของบุตรชายกลับยิ่งทำให้มยุราไม่พอใจ เพราะไม่คิดว่าอธิศจะกล้าหักหน้าเธอแบบนี้ ทั้งๆ ที่เงียบไปก็ได้“นี่คุณกล้าเอาเรื่องหลานไปกดดันหนูตาอย่างนั้นเหรอ คุณทำเกินไปแล้วนะคุณมยุรา” ภาคจ้องมองมาที่มยุราอย่างเอาเรื่อง เขาไม่พอใจที่มยุราทำอะไรเลยเถิดเช่นนี้“ฉันไม่ได้ทำอะไรเกินไปทั้งนั้น เพราะถ้าเรามีหลานก็จะเป็นเหลนของคุณทวด ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะเป็นของเหลนท่าน ฉันผิดตรงไหน” มยุราแย้งกลับ“ผิดที่คุณห่วงแค่มรดก โดยไม่ห่วงความรู้สึกของคนอื่น” คำพ
เมื่อทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ชนิตาและอธิศจึงหย่ากันในวันรุ่งขึ้น และวันนั้นก็ยังเป็นวันที่อธิศกับพรฟ้าได้จดทะเบียนสมรส เป็นสามีและภรรยากันอย่างถูกต้องทั้งทางนิตินัยและพฤตินัยเช่นเดียวกัน โดยมีชนิตาเป็นสักขีพยานคนสำคัญ จากนั้นก็ปล่อยให้สามีภรรยาตามกฎหมายป้ายแดงได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน“อยากกินอะไรครับ”“ส้มตำค่ะ”“ไม่ได้ หมอบอกมะละกอจะทำให้ท้องอืด”“งั้นก็ก๋วยเตี๋ยวน้ำตก”“ก๋วยเตี๋ยวน้ำตกใส่เลือด ไม่ดีเหมือนกัน”“นั่นก็ไม่ได้นี่ก็ไม่ได้ สงสัยเราสองคนต้องหิวไปทั้งวันแน่ๆ เลยลูก” พรฟ้าลูบท้องตัวเองไปมาแล้วเอ่ยกับเจ้าตัวเล็กที่โตวันโตคืนไปด้วย พอได้ยินแบบนั้นอธิศก็รีบออกตัวทันที“โอ๋ๆ อย่าพึ่งงอนพ่อนะครับ เอาเป็นว่าเราไปกินอาหารญี่ปุ่นกันดีกว่า วันก่อนเห็นเบลบ่นว่าอยากกิน”“จำได้ด้วยเหรอคะ” รอยยิ้มดีใจผุดขึ้นบนใบหน้าของ พรฟ้า นั่นเพราะไม่คิดว่าอธิศจะได้ยินตอนเธอบ่น“จำได้ครับ”“แต่อาหารญี่ปุ่นมีปลาดิบ เบล
เพราะไม่เข้าใจความหมายของสองขีดสักเท่าไหร่ อธิศจึงหันไปมองชนิตาเพื่อขอความช่วยเหลือจากเธอ ในขณะที่พรฟ้ายังคงยืนยิ้มอยู่ข้างๆ“ขีดสีแดงถ้าขึ้นสองขีดแสดงว่ากำลังตั้งครรภ์ค่ะ”“ตั้งครรภ์...ท้อง” ว่าที่คุณพ่อทวนคำพูดและแปลความหมายเสร็จสรรพ ในขณะที่พรฟ้าก็เอ่ยรับเช่นกัน“ค่ะ”“เยส! ผมกำลังจะเป็นพ่อคนแล้วจริงๆ เหรอครับเนี่ย ไชโย” อธิศตะโกนเสียงดังลั่นบ้าน ชายหนุ่มแสดงความรู้สึกดีใจออกมาอย่างไม่ปิดบัง นั่นสร้างความตกใจให้พรฟ้าและชนิตาเช่นกัน เพราะไม่คิดว่าจะได้เจออธิศมุมนี้ เนื่องจากปกติแล้วเขาจะเป็นคนเงียบขรึมเสียมากกว่าอธิศรีบพาพรฟ้าไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจให้แน่ใจ และผลที่ออกมาก็ทำให้เขายิ้มกว้างมากกว่าเดิม นั่นเพราะตอนนี้ พรฟ้าท้องจริงๆ แม้อายุครรภ์จะเพียงแค่สิบสัปดาห์ก็ตาม อธิศจัดการฝากครรภ์ให้เธอทันที โดยเลือกหมอที่เป็นเพื่อนกันให้คอยดูแลเมียและลูกระหว่างทางกลับบ้าน อธิศซึ่งขับรถอยู่ก็คว้ามมือเล็กๆ ของพรฟ้าไปกุมไว้ บนใบหน้าของเ
เพราะเธอสงสารชนิตามาตลอดที่ต้องถูกจับคลุมถุงชน แต่อีกใจก็ยังรู้สึกผิดที่ตอนนี้สถานะระหว่างเธอกับอธิศมันลึกซึ้งเกินจะถอยได้แล้วเช่นกัน และเมื่อศจีกลับออกไปแล้วเธอก็เข้าไปดูแลชนิตาอย่างที่เคยทำ“เบลได้ซื้ออุปกรณ์ตรวจครรภ์ไว้บ้างหรือเปล่า” คำถามของชนิตาทำให้พรฟ้าหน้าแดงก่ำ“ยังไม่ได้ซื้อค่ะ”“ไปซื้อไว้หน่อยก็ดี เผื่อตอนนี้เธอท้องแล้ว”“ถ้าเบลท้องคุณตาจะเป็นอิสระใช่ไหมคะ” คำถามของพรฟ้าทำให้ชนิตาชะงักไปนิดหน่อย นี่คงแอบได้ยินที่เธอคุยกับแม่เข้าแน่ๆ“ใช่...เพราะฉันจะหย่ากับคุณอธิศ จะยกสิทธิ์ภรรยาที่ถูกต้องให้กับเธอ เพราะฉะนั้นเธอต้องรีบๆ ท้อง เข้าใจไหม”“แต่เบลรู้สึกผิดกับคุณตา” พรฟ้าน้ำตาเอ่อ เพราะรู้สึกไม่ดีและอยากบอกชนิตาว่าเธอนั้นรู้สึกแบบไหน“รู้สึกผิดอะไร ไหนบอกมาสิ”“เบลไม่ควรคิดอะไรเลยเถิดกับคุณอธิศ มันเหมือนเบลหักหลังคุณตา”
เพราะอยากกดดันให้ชนิตายอมบอกว่าส่งผู้หญิงคนไหนไปให้อธิศลูกชาย มยุราจึงตั้งใจเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้ศจีมารดาของชนิตาฟัง นั่นทำให้เธอตกใจเป็นอย่างมากที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับลูกสาวของเธอ ไม่คิดว่าชีวิตครอบครัวหลังแต่งงานชนิตาต้องมาเจอกับเรื่องแบบนี้รวมถึงไม่พอใจมยุราเป็นอย่างมากที่เอาเรื่องลูกมากดดันชนิตา แถมยังเป็นตัวตั้งตัวตีที่จะส่งผู้หญิงไปให้อธิศอีก ต่อให้ชนิตาจะได้สิทธิ์เลือกก็เถอะ แต่นั่นมันคือความสุขอย่างนั้นเหรอ และที่สำคัญชนิตาไม่เคยเอาเรื่องนี้หรือเรื่องที่ขุ่นข้องหมองใจมาเล่าให้แม่อย่างเธอฟังเลยสักครั้ง“คุณแม่” ชนิตาอุทานออกมาเมื่อเห็นว่าผู้เป็นแม่มาหาที่บ้าน เพราะตั้งแต่เธอย้ายมาอยู่ที่นี่กับอธิศน้อยครั้งมากที่แม่จะแวะมา“ยุ่งอยู่หรือเปล่าตา”“ไม่ค่ะ”“สวัสดีค่ะคุณศจี” พรฟ้าที่นั่งอยู่กับชนิตามาตั้งแต่ต้น ยกมือไหว้ศจีอย่างนอบน้อม ซึ่งศจีก็รับไหว้พร้อมพินิจมองหน้า พรฟ้าที่เวลานี้โตเป็นสาวเต็มตัวแล้วนั่นเอง“สวัสดีจ้ะเบล สบายดีใช่ไหม” แว
“ไม่ได้ไม่ดี ฉันชอบที่เธอหึงรู้ไหม”“งั้นจะหึงไปอีกหลายวัน” พรฟ้าขู่ฟ่อๆ แต่เป็นการขู่ที่ไม่ได้ทำให้อธิศกลัวแม้แต่น้อย“หึงได้ก็ต้องหายได้ ไม่เอาหลายวัน มีอะไรก็คุยกัน ฉันชอบที่เธอบอกความรู้สึกออกมาตรงๆ คิดยังไงก็บอกไม่ต้องเก็บไว้แล้วคิดเองว่าฉันต้องรู้ อย่างหึงก็บอกหึง เพราะบางอย่างฉันก็ไม่รู้ จะได้อธิบายให้เข้าใจ ตกลงไหม”“ค่ะ”“มาให้ฉันทำโทษซะดีๆ” คำพูดที่บอกว่าจะทำโทษของอธิศนั้นแฝงความวาบหวามไว้เสมอ ซึ่งพรฟ้าเข้าใจความหมายเหล่านั้นดีกว่าใครๆ“คุณอธิศก็ชอบวกมาเรื่องนี้อยู่เรื่อย”“ก็ฉันมีความสุขนี่หรือเธอไม่มี”“มีค่ะ” พรฟ้าเอ่ยรับตรงๆ เพราะการทำโทษของอธิศ สร้างความสุขให้เธอเสมอ มันไม่ได้โหดร้ายแต่กลับเต็มไปด้วยความเร่าร้อนและเสียวซ่าน“ที่ฉันขยันทำโทษเพราะอยากให้เธอท้อง”“ท้องเหรอคะ”&