แชร์

บทที่ 4 ทายาท

ผู้เขียน: วรนิษฐา / Miss sexy
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-13 12:12:34

“ขะ...คุณอธิศได้เอกสารแล้วเหรอคะ” 

“ได้แล้ว” อธิศชูเอกสารที่อยู่ในมือขึ้นให้พรฟ้าดู แต่ดูเหมือนเธอจะเอาแต่มองพื้นมากกว่ามองมาที่เขา ถ้าเขายังยืนอยู่ตรงนี้พรฟ้าก็คงคอก้มจนเคล็ดเสียเปล่าๆ นั่นทำให้ชายหนุ่มเอ่ยขึ้น

“ฉันไปล่ะ” เอ่ยจบชายหนุ่มก็เดินกลับออกไปจากห้องครัว ซึ่งทันทีที่เขาเดินห่างออกไปพรฟ้าก็ถึงกับเป่าลมหายใจออกปากหนักๆ พร้อมยกมือขึ้นจับหัวใจของตัวเองที่เต้นโครมคราม

“เต้นเป็นปกติได้แล้ว” พรฟ้าบอกตัวเอง ก่อนจะดึงสติแล้วเตรียมน้ำอุ่นให้ชนิตา จากนั้นจึงกลับขึ้นไปชั้นบน ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ชนิตาเดินออกมาจากห้องน้ำพอดี

“น้ำอุ่นค่ะคุณตา”

“ขอบใจมากจ้ะ แล้วนี่ไปเอากระบอกน้ำเก็บอุณหภูมิมาจากไหน” ชนิตาเอ่ยถามอย่างสงสัย 

“เบลเห็นมันเก็บไว้ในตู้นะคะ เลยเอามาใช้ก่อน”

“จ้ะ” ชนิตาเอ่ยรับ ก่อนจะดื่มน้ำอุ่นๆ จากกระบอกน้ำเก็บอุณภูมิที่พรฟ้าเตรียมไว้ให้ จากนั้นก็บำรุงใบหน้าด้วยสกินแคร์ตัวโปรด ในขณะที่พรฟ้าเข้ามาเป่าผมให้กระทั่งแห้งดีแล้ว จึงส่งยิ้มให้

“ขอบใจที่ดูแลฉัน”

“ค่ะ...แต่สิ่งที่เบลดูแลคุณตา ยังเทียบไม่ได้กับที่คุณตาดูแลเบลเลยด้วยซ้ำ ชีวิตของเบลเป็นของคุณตาค่ะ”

“ชีวิตเป็นของเธอไม่ใช่ของฉัน” ชนิตารีบแย้งทันที 

“ของคุณตาค่ะ เบลทำเพื่อคุณตาได้ทุกอย่าง ขอแค่คุณตาบอก ต่อให้สิ่งนั้นจะยากแค่ไหน เบลก็จะพยายามทำให้ได้” แววตาของพรฟ้านั้นมั่นคง เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอพูดอะไรแบบนี้ออกไป สำหรับพรฟ้าแล้วชนิตาเป็นมากกว่าผู้มีพระคุณ แต่คือเจ้าชีวิตของเธอต่างหาก

“ขอบใจมากนะเบล” เอ่ยจบชนิตาก็คว้าตัวพรฟ้าเข้ามากอด จะว่าไปหลายปีมานี้เพื่อนในชีวิตเธอก็คงมีแต่พรฟ้าเท่านั้นที่สามารถพูดคุยกันได้ในทุกๆ เรื่อง

อาจเพราะปกติแล้วเธอเป็นคนค่อนข้างเก็บตัว ชอบเที่ยวคนเดียว อยู่คนเดียวมากกว่าออกไปหาเพื่อนหรือสังสรรค์ ไลฟ์สไตล์ของเธออาจไม่ตรงกับใครต่อใคร เพื่อนที่เคยมีจึงค่อยๆ ห่างออกไปเรื่อยๆ แม้จะเหงาบ้างแต่เธอกลับชอบใช้ชีวิตแบบนี้

อธิศเคยบอกว่าหลังแต่งงานเธอไม่จำเป็นต้องลบความเป็นตัวของตัวเอง ยังใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการได้ แต่ทุกอย่างมันไม่ง่ายแบบนั้น เมื่อในตอนนี้เธอใช้นามสกุลเดียวกับเขา ก่อนที่ทำอะไรสิ่งแรกที่ต้องนึกถึงคือครอบครัว วงศ์ตระกูล ต้องวางตัวในสังคมให้ถูกต้อง และยิ่งอยู่ในกรอบมากๆ ชนิตาก็ยิ่งอึดอัด แต่เธอก็พยายามปรับตัว ซึ่งหวังว่าทุกอย่างจะเข้าที่เข้าทางในเร็ววัน

เมื่อคุยกันเสร็จทั้งคู่ก็แยกย้ายกันพักผ่อน ชนิตานั้นหลับไปอย่างรวดเร็ว ผิดก็แต่พรฟ้าที่ยังคงนอนคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในห้องครัว เพราะจนถึงตอนนี้เธอก็ยังสัมผัสความอบอุ่นจากร่างกายของอธิศได้ ก่อนที่ใบหน้าสวยซึ่งเห่อร้อนจากความเขินอายจะซึมลงไป

“เราไม่ควรคิดแบบนั้นกับคุณอธิศ ไม่ควร” พรฟ้าเอ่ยบอกตัวเอง แรกๆ เธอไม่รู้จริงๆ ว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นมันคืออะไร กระทั่งเธอได้คำตอบ มันเป็นความรู้สึกที่ไม่ควรเกิดขึ้น แต่เธอกลับห้ามใจตัวเองไม่ได้และปล่อยให้มันครอบครองมากขึ้นเรื่อยๆ

ต่อให้ชนิตากับอธิศจะยังไม่ได้เข้าหอแต่พวกเขาทั้งคู่ก็ได้ชื่อว่าเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย หรือต่อให้เป็นแค่คนรักเธอก็ไม่ควรคิดอะไรเลยเถิดกับอธิศ เธอไม่ควรทำลายความเมตตาที่ชนิตามอบให้มาตลอด

สิ่งที่เธอควรทำคือรักษาความไว้เนื้อเชื่อใจที่ชนิตามอบให้และตอบแทนบุญคุณให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าชนิตาจะร้องขออะไรเธอเต็มใจทำให้เสมอแต่ไม่ใช่การแทงข้างหลังแบบนี้

ในขณะที่พรฟ้าคิดเรื่องอธิศ ชายหนุ่มเองก็เก็บเรื่องของเธอมาคิดอย่างไม่รู้ตัวเช่นเดียวกัน เพราะแม้จะอยู่ในบ้านหลังเดียวกันมาเป็นปีๆ แต่เขากลับไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับพรฟ้าสักเท่าไหร่นัก รู้แค่ผิวเผินว่าเป็นเด็กในบ้านของชนิตา ที่เธอนั้นรักและเอ็นดูเหมือนน้องสาวแท้ๆ คนหนึ่ง และส่งเรียนที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ซึ่งปีนี้พรฟ้าเรียนเป็นปีสุดท้ายแล้ว 

แต่สิ่งที่เขาเห็นได้คือพรฟ้าเป็นเด็กที่รักเรียน และไม่เคยทำตัวเกเรสร้างความลำบากใจให้ชนิตา ตื่นเช้ามาก็ไปเรียน เรียนเสร็จก็กลับเข้าบ้าน เสาร์อาทิตย์ถ้าชนิตาไม่พาไปด้วยก็เห็นอยู่บ้านแทบไม่ไปไหน จนชวนให้สงสัยว่าพรฟ้ามีเพื่อนกับเขาบ้างหรือเปล่า เธอชอบหรือไม่ชอบอะไร 

“แล้วทำไมเราต้องไปอยากรู้เรื่องของเด็กมันด้วย” อธิศ เอ่ยถามกับตัวเอง แต่สุดท้ายก็ไม่ได้คำตอบ  

 

 

 

 

แม้จะพึ่งไปทานอาหารด้วยกันมาเมื่อวันก่อนและเอ่ยถามเรื่องทายาทมาแล้ว แต่มาวันนี้มารดาของอธิศกลับปรากฎตัวขึ้นที่บ้าน โดยมาหลังจากชายหนุ่มออกไปทำงานแล้ว และมาพร้อมอาหารบำรุงร่างกายที่นำมาให้ชนิตาโดยเฉพาะ

รวมไปถึงสารพัดคำแนะนำที่ต้องการให้ชนิตาทำตาม และแรงกดดันที่ชนิตาสัมผัสได้ว่าภายใต้รอยยิ้มรวมไปถึงคำแนะนำต่างๆ นานาล้วนเต็มไปด้วยความคาดหวัง

“ลูกพี่ลูกน้องของอธิศ ที่พึ่งจะแต่งงานไปเมื่อเดือนก่อน มีข่าวดีแล้วนะ แม่ละดีใจแทนครอบครัวเขาจริงๆ” มยุราเอ่ยขึ้น ในขณะที่ชนิตากลับทำเพียงขานรับเท่านั้น

“ค่ะ”

“อีกแปดเดือนก็คงได้เห็นหน้า แม่เองก็อยากมีโมเม้นท์แบบนั้นบ้าง หนูตาต้องบำรุงร่างกายไว้นะลูก” 

“ค่ะ”

“หรือไม่วันไหนว่างๆ ก็ลองชวนอธิศไปปรึกษาคุณหมอดู เผื่อจะได้คำแนะนำดีๆ” 

“เดี๋ยวตาจะลองชวนคุณอธิศดูนะคะ”

“ดีมากจ้ะ” รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความคาดหวังเกิดขึ้นบนใบหน้าของมยุรา แต่หารู้ไม่ว่านั่นยิ่งสร้างความกดดันให้ชนิตามากขึ้นไปอีก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังฝืนยิ้มออกมา

มยุราอยู่คุยกับสะใภ้นานพอสมควร จากนั้นก็ขอตัวกลับโดยมีชนิตาออกมายืนส่ง จากนั้นเธอจึงเดินไปตรงศาลารับลม หย่อนตัวลงนั่งแล้วถอนหายใจออกมาหนักๆ เพราะไม่รู้จะบ่ายเบี่ยงเรื่องท้องได้อีกนานแค่ไหน 

“เฮ้อ” ชนิตาถอนหายใจออกมาหนักๆ แล้วทอดสายตามองขึ้นไปบนท้องฟ้า อยากมีอิสระอย่างก่อนแต่งงานอีกสักครั้ง คิดถึงสีเขียวๆ ของป่า คิดถึงฝูงปลาในทะเล คิดถึงเหลือเกิน

ตั้งแต่แต่งงานชนิตาก็ไม่ได้ทำงานประจำ เธอจึงใช้เวลาในแต่ละวันไปกับการสร้างเพจบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการท่องเที่ยวที่ผ่านมา ซึ่งตอนนี้มีคนติดตามเพจเธอเกือบหนึ่งแสนคนเข้าไปแล้ว ทุกคนเรียกร้องขอให้เธอนำคลิปใหม่ๆ มาลงบ้าง ซึ่งคำตอบของชนิตาที่ตอบกลับไปมีเพียง ‘เร็วๆ นี้’ เท่านั้นเอง

 

บทที่เกี่ยวข้อง

  • พรหมจรรย์คั่นเวลา   บทที่ 5 เหมือนไม่ใช่ผัวเมียกัน

    แต่ความกดดันดูเหมือนจะไม่ได้มาจากฝ่ายครอบครัวของอธิศเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น เพราะพ่อและแม่ของชนิตาเองก็เริ่มกดดันลูกสาวในเรื่องนี้เช่นเดียวกัน โดยยังคงให้เหตุผลว่าท่านอยากอุ้มหลานก่อนตาย ยิ่งทำชนิตารู้สึกไม่ดีมากขึ้นไปอีก จนต้องมานั่งถอนหายใจเฮือกๆ อย่างที่เป็นอยู่ ก่อนจะปรับอารมณ์ให้เป็นปกติแล้วเดินกลับเข้าบ้าน เพื่อสั่งให้แม่บ้านเตรียมมื้อเย็น เนื่องจากวันนี้จะมีเพื่อนของอธิศแวะมากินข้าวด้วย และเพื่อนคนนั้นของอธิศก็คือนพกรนั่นเอง โดยทั้งคู่เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเรียน ไปมาหาสู่กันเสมอๆ แต่ระหว่างการสนทนาบนโต๊ะอาหารก็มีประโยคหนึ่งที่ทำให้ชนิตาถึงกับชะงักไป“ข้าไม่รีบมีลูกว่ะ ปล่อยไปตามธรรมชาติก่อนดีกว่า” อธิศ ตอบคำถามนั้นของนพกร พร้อมกับแอบสังเกตสีหน้าของชนิตาไปด้วย รู้สึกเห็นใจเธอที่ใครต่อใครมักจะถามคำถามทำนองนี้เสมอ แต่จะไปโทษคนเหล่านั้นก็คงไม่ได้ เพราะไม่มีใครรู้ว่าเขากับชนิตาแม้จะแต่งงานกันแต่กลับอยู่กันแบบเพื่อน ไม่ใช่สามีภรรยา“มีลูกตอนอายุเยอะๆ จะไม่ดีต่อสุขภาพคุณตาเขานะโว้ย เด็กก็เสี่ยงตามไปด้วย”“ขอบใจที่แนะนำ แล้วนี่นายดื่มหนักขนาดนี้จะขับรถกลับไหวเหรอ” เอ่ยรับเสร็จอธิศก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-13
  • พรหมจรรย์คั่นเวลา   บทที่ 6 ค่อยเป็นค่อยไป

    “คุณตา”“ค่ะ” ชนิตาเอ่ยรับด้วยน้ำเสียงปกติ เพราะมั่นใจว่าอธิศยังมีสติพอที่จะไม่ล่วงเกินอะไรเธอ หรือต่อให้เขาทำเธอก็จะต่อต้านจนหลุดพ้นได้สำเร็จ“ถ้าคุณอยากหย่า คุณแค่บอกผม ตกลงไหมครับ” คำพูดของอธิศทำให้ชนิตายิ้มออกมา เพราะชายหนุ่มยังคงให้เกียรติเธอเสมอ“ค่ะ”“ผมจะหย่าให้คุณทันที ผมสัญญา”“ฉันรู้ค่ะว่าคุณรักษาสัญญา แต่ตอนนี้คุณเมามากแล้ว พักผ่อนก่อนดีกว่า”“ครับผม”อธิศเอ่ยรับอย่างว่าง่าย เวลานี้เขาช่างดูเหมือนเด็กชายตัวโตไม่ใช่ชายหนุ่มที่แบกภาระความรับผิดชอบไว้เต็มสองบ่า ชนิตาห่มผ้าห่มให้สามีในนามก่อนจะกลับออกไปจากห้อง และเมื่อมาถึงห้องก็เห็นว่าพรฟ้าหลับเสียแล้ว เธอจึงส่ายหน้าให้อย่างเอ็นดู“ที่รีบกลับเพราะง่วงหรอกเหรอ” เมื่อเอ่ยจบชนิตาก็ปิดไฟและเข้านอนเช่นเดียวกัน ทันทีที่ไฟถูกปิดลงพรฟ้าที่แกล้งหลับก็ลืมตาขึ้น เธอไม่ได้ง่วงอย่างที่ชนิตาคิด แต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-14
  • พรหมจรรย์คั่นเวลา   บทที่ 7 ประหม่า (1)

    ความสัมพันธ์ของอธิศและชนิตานั้นยังคงเหมือนเดิม ทั้งคู่ต่างห่วงใยกันแบบเพื่อนที่ดีต่อกัน ในขณะที่พรฟ้าที่รู้ใจตัวเองดีก็คอยเอาแต่หลบหน้าหลบตาอธิศ นั่นเพราะกลัวหากเจอชายหนุ่มเขาจะรู้ความในใจเข้า ขืนเป็นแบบนั้นต้องไม่ดีต่อเธอแน่“เบล”“ค่ะ...คุณอธิศ”“จะไปมหาวิทยาลัยเหรอ”“ค่ะ” พรฟ้าที่เวลานี้อยู่ในชุดนักศึกษาเอ่ยรับด้วยความเกรงใจ ก่อนจะถอยหลังไปยืนห่างอธิศอีกหลายก้าว“ไปด้วยกันสิ ฉันผ่านทางนั้นพอดี”“เอ่อ...ไม่ดีกว่าค่ะ คือ...เบลไปรถเมล์เหมือนทุกวันสะดวกกว่า”“ไปด้วยกันนี่แหละ ฝนตั้งเค้ามานู่นแล้ว เดี๋ยวก็เปียกก่อนถึงป้ายรถเมล์พอดี” อธิศมองออกไปนอกบ้าน ที่เวลานี้ฝนตั้งเค้ามาแล้ว และคงตกหนักแน่นอน“เบลติดร่มไปแล้วค่ะ” คำพูดแย้งของพรฟ้าทำให้อธิศถึงกับส่ายหน้า เห็นเรียบร้อยๆ แบบนี้ แต่บทจะดื้อก็ดื้อไม่ฟังคำพูดเขาเหมือนกัน&ldq

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-16
  • พรหมจรรย์คั่นเวลา   บทที่ 8 ประหม่า (2)

    เมื่อคิดไปคิดมาก็ยังไม่ได้คำตอบพรฟ้าจึงเลิกคิด จากนั้นก็ก้าวขึ้นตึกเรียนไป ท่ามกลางสายตาของเพื่อนๆ ในคณะที่มองมายังเธออย่างสนอกสนใจว่าวันนี้ใครมาส่ง แต่พรฟ้าก็บ่ายเบี่ยงที่จะตอบขณะเรียนพรฟ้าได้ตัดเรื่องของอธิศออกไปจากความคิดชั่วคราว แต่บางครั้งเขาก็มีอิทธิพลจนทำให้เธอเสียสมาธิอยู่บ้าง กระทั่งได้เวลาเลิกเรียน เธอก็ลงมาจากตึกพร้อมกับเพื่อนๆ แต่ต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นว่าเวลานี้อธิศนั่งอยู่ใต้ตึก“คุณอธิศ!” พรฟ้าอุทานออกมาอย่างตกใจและแปลกใจ ก่อนจะมองไปยังอธิศที่เวลานี้ยังคงอยู่ในชุดสูทเต็มยศ ยิ่งสวมแว่นกันแดดสีเข้มรับรูปหน้าด้วยแล้วก็ยิ่งส่งให้เขาดูหล่อและสมาร์ทจนทำให้นักศึกษาผู้หญิงหลายคนหันไปมองแล้วมองอีก รวมถึงเพื่อนๆ ของเธอเองก็ดูจะตะลึงกับความหล่อของอธิศไม่น้อย“ใครอะ หล่อมาก”“คุณอธิศ สามีของคุณตา” พรฟ้าเป็นคนเฉลยให้รู้ว่าชายตรงหน้าคือใคร ทำเอาบรรดาสาวๆ อกหักกันไปเป็นแถว และเมื่อรู้ว่าชายหนุ่มมีภรรยาแล้วแบบนี้ทุกคนจึงแยกย้ายทันทีพรฟ้าสูดอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-17
  • พรหมจรรย์คั่นเวลา   บทที่ 9 แบกรับไม่ไหว (1)

    เมื่อลงจากรถ พรฟ้าก็ถือเค้กไปเซอร์ไพรส์ชนิตาในห้องนั่งเล่น โดยมีอธิศเดินตามมาเช่นกัน เสียงร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์จากพรฟ้าและอธิศที่ดังขึ้นทำให้เจ้าของวันเกิดอย่าง ชนิตาหันไปมอง ก่อนจะส่งยิ้มให้คนทั้งคู่ เพราะไม่คิดว่าพวกเขาจะมาเซอร์ไพรส์อะไรแบบนี้“สุขสันต์วันเกิดครับคุณตา”“ขอบคุณค่ะคุณอธิศ”“สุขสันต์วันเกิดนะคะคุณตา ขอให้คุณตาของเบลมีความสุขมากๆ”“จ้ะ...ขอบใจมากนะเบล” ชนิตาแอบน้ำตาคลอนิดหน่อย งานวันเกิดเล็กๆ ถูกจัดขึ้นแต่ทว่ามันกลับอบอุ่น เพราะปกติทุกปีชนิตาไม่ได้จัดงานหรือรู้สึกตื่นเต้นกับวันเกิดของตัวเองสักเท่าไหร่นัก เมื่อเช้ามาเธอแค่ออกไปใส่บาตรกับโทรศัพท์หาแม่และพ่อ รวมถึงโอนเงินจำนวนหนึ่งไปทำบุญตามสถานที่ต่างๆ อย่างที่เคยทำเป็นประจำทุกปีแต่ที่ตื่นเต้นกว่าทุกปีหน่อยคงหนีไม่พ้นเรื่องที่รู้ว่าพรฟ้ากำลังมีใจให้อธิศนั่นเอง ยิ่งทั้งคู่มาเซอร์ไพรส์เธอด้วยกันแบบนี้ก็ยิ่งคิดไปไกลของขวัญที่พรฟ้ามอบให้ชนิตาปีนี้เป็นเค้กที่เธอชอบ ใ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-18
  • พรหมจรรย์คั่นเวลา   บทที่ 10 แบกรับไม่ไหว (2)

    “สรุปในนี้มีคนที่หนูตาชอบบ้างไหม” น้ำเสียงของมยุราแฝงความไม่พอใจอยู่มาก นั่นเพราะเธอพยายามหว่านล้อม ชนิตาดีๆ แล้ว แต่ดูเหมือนลูกสะใภ้จะมองไม่เห็นความหวังดีนั้นของเธอแม้แต่น้อย“ไม่ค่ะ”“หนูตา!” มยุราตวาดใส่ชนิตาอย่างลืมตัว ก่อนจะรีบเก็บท่าที ในขณะที่ชนิตาก็พยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเองเช่นกัน“ถ้าคุณอธิศต้องมีผู้หญิงอีกคนจริงๆ ตาขอเป็นคนเลือกได้ไหมคะ”“ได้สิจ๊ะ” ส่งยิ้มให้ชนิตาเสร็จมยุราก็เอ่ยรับปากอย่างไม่ลังเลทันที เพราะตอนนี้สิ่งเดียวที่ต้องการคือหลานคนแรก และต้องเกิดมาเป็นผู้ชายเท่านั้น เธอจึงแทบไม่สนใจความรู้สึกของ ชนิตาไปมากกว่ามรดกที่อยู่ใกล้แค่เอื้อม ต่อให้หลานคนนั้นจะมีแม่เป็นใครขอแค่มีดีเอ็นเอของอธิศอยู่ครึ่งหนึ่ง เธอก็พอใจแล้ว“ขอบคุณค่ะคุณแม่”“แต่แม่ขอเร็วๆ นี้ด้วยนะ” เอ่ยจบมยุราก็ส่งยิ้มให้ชนิตาอีกครั้ง แต่กลับเป็นรอยยิ้มที่ไม่ได้มีความอบอุ่นแฝงอยู่แม้แต่น้อยชนิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-19
  • พรหมจรรย์คั่นเวลา   บทที่ 11 แบกรับไม่ไหว (3)

    ขณะนั่งคิดถึงเรื่องที่คุยกับมยุราอยู่นั้น จู่ๆ ชนิตาก็สะดุ้งเพราะเสียงเรียกจากพรฟ้า“คุณตาเป็นอะไรหรือเปล่าคะ”“เปล่าจ้ะ”“เปล่าเหรอคะ” พรฟ้าไม่ค่อยเชื่อในคำตอบสักเท่าไหร่ แต่ก็ไม่กล้าเซ้าซี้ถามจากชนิตาเช่นเดียวกัน“ใช่...ว่าแต่เบลมีอะไรหรือเปล่า”“เบลเอาผลการเรียนปีนี้ค่ะมาให้คุณตาค่ะ” เอ่ยจบพรฟ้าก็ยื่นผลการเรียนของเธอให้ชนิตาได้ดู ซึ่งนั่นหมายความว่าเธอเรียนจบระดับปริญญาตรีแล้วนั่นเอง“เก่งมากจ้ะ” คำชมดังขึ้นจากชนิตา เพราะผลการเรียนของพรฟ้าอยู่ในระดับดีมากมาทุกๆ ปี แถมยังคว้าเกียรตินิยมมาได้อีก“เบลเรียนจบแล้วนะคะคุณตา”“ฉันดีใจด้วยนะ”“เบลสมัครงานไปหลายที่ รอแค่เขาเรียกสัมภาษณ์ ถ้าผ่านเบลก็จะได้ทำงานค่ะ” พรฟ้าเอ่ยด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม“จ้ะ...” จู่ๆ ชนิตาก็หยุดพูดแล้วมองใบ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-20
  • พรหมจรรย์คั่นเวลา   บทที่ 12 ใต้อ้อมกอดอันเร่าร้อน (1)

    “แม้จะเป็น...”“พอเถอะครับคุณตา ผมไม่อยากรู้ว่าเป็นใครทั้งนั้น”“ค่ะ” ชนิตาจำต้องปล่อยเรื่องนี้ไปก่อน เพราะดูเหมือนอธิศจะไม่พร้อมรับฟังความคิดของเธออีก ขืนพูดออกไปตอนนี้ชายหนุ่มก็คงยืนกรานปฏิเสธท่าเดียว แต่ชนิตาก็ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ และเธอก็มีแผนบางอย่างไว้สำรองแล้วเช่นกันแม้อธิศจะยืนกราน ว่าเขาไม่พร้อมที่จะรับผู้หญิงคนไหนเข้ามาในชีวิตตอนนี้ แต่ชนิตากลับบอกพรฟ้าว่าชายหนุ่มตอบตกลง เพราะรู้สึกดีๆ กับเธอเช่นเดียวกัน คำโกหกของชนิตาทำให้หัวใจของพรฟ้าพองโตก่อนที่ชนิตาจะจัดแจงให้เธอแยกห้องนอนเพื่อความเป็นส่วนตัว โดยให้เหตุผลกับอธิศว่าพรฟ้าโตพอที่จะต้องนอนแยกห้องกับเธอแล้วนั่นเอง ซึ่งชายหนุ่มก็ไม่ได้เอะใจหรือว่าอะไร ยังคงใช้ชีวิตปกติแต่ภายใต้ความไม่ปกติคือเขามักจะมองหา พรฟ้ามากขึ้น แต่คำพูดหนึ่งของชนิตาในตอนนั้นก็ย้อนกลับเข้ามา เพราะดูเหมือนเธอจะได้เลือกผู้หญิงคนนั้นไว้แล้ว“ใครคือคนที่คุณตาเลือกกันนะ”เพราะคำพูดของชนิตาที่บอกว่าอธิศเองก็มีใจให้เธอ ซึ่งคำพูดเหล่านั้นมันคือสารหล่อเลี้ยงหัวใจข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-21

บทล่าสุด

  • พรหมจรรย์คั่นเวลา   บทที่ 30 แก้วตาดวงใจ (จบ)

    “ดีๆ ดีมาก” ภาคยิ้มอย่างมีความสุข ตามด้วยโกศลและศจี ในขณะที่มยุราซึ่งยังคงตั้งแง่กับพรฟ้าก็เผลอยิ้มออกมาเช่นเดียวกัน แม้เธอจะไม่ปลื้มแม่ของหลานแต่หลานชายน่ารักน่าชังแบบนี้เธอจะไม่เอ็นดูได้ยังไง อะไรที่หยวนได้ก็หยวนไปแล้วกัน นั่นคือข้ออ้างที่มยุรามีให้กับตัวเอง เพื่อจะหาทางออกกับเรื่องที่เคยก่อชนิตาเองก็ยิ้มกว้างเมื่อรู้ว่าพรฟ้าคลอดลูกอย่างปลอดภัย แถมยังมอบลูกชายที่เปรียบดั่งสายใยความรักความผูกพันให้กับครอบครัวอีก ชนิตารอกระทั่งรู้ว่าพรฟ้าออกมาพักฟื้นที่ห้องแล้วจึงโทรศัพท์ทางไกลมาหา“ดีใจด้วยนะเบล”“ขอบคุณมากค่ะคุณตา”“หลานฉันช่างน่ารักน่าชัง ขอให้ฉันได้เป็นแม่ทูนหัวแกได้ไหม” ชนิตาเอ่ยถาม“ได้ค่ะ”“ขอบใจมากจ้ะ”“ร้องไห้ทำไม” เมื่อเห็นพรฟ้าร้องไห้หลังจากวางสายจากชนิตาแล้ว อธิศก็เข้ามาถามทันที“ดีใจที่ทุกคนเอ็นดูลูกของเรานะคะ”“ก็แกน่ารักน่าชังขนาดนั้นนี่ครับจะไม่ให้ทุกคนเอ็นดู

  • พรหมจรรย์คั่นเวลา   บทที่ 29 การเจ็บท้องที่แสนชุลมุน

    “ยินดีจากใจจริงอีกครั้งครับเพื่อน”“ขอบใจนายมากนพ”“เป็นฝั่งเป็นฝากับคนที่รัก สีหน้าของนายเต็มไปด้วยความสุขจริงๆ” นั่นเพราะนพกรยังจำสีหน้าของอธิศที่เกิดขึ้นตอนงานแต่งงานกับชนิตาได้ดี ว่ามันดูอึมครึมไม่ได้สดใสอย่างในตอนนี้“อื้อ”“เจ้าสาวนายก็สวย”“ใช่ไหม เบลสวย ยิ่งอยู่ในชุดเจ้าสาวแบบนี้ก็ยิ่งสวย” อธิศยิ้มกว้างเมื่อเอ่ยชมความสาวของภรรยา ยิ่งตอนนี้พรฟ้าท้องด้วยแล้วเธอก็ยิ่งสวยเปล่งปลั่ง“เบื่อคนอวยเมียว่ะ”“ก็เมียข้าสวยจริงๆ นี่หว่า”“เออๆ สวยก็สวย สรุปนายได้ลูกสาวลูกชาย บอกได้ยัง”“ยัง ไปลุ้นเอาวันที่เบลคลอดนู่น”“บอกหน่อยไม่ได้หรือไง จะได้ซื้อของรับขวัญถูก” นพกรเซ้าซี้ นั่นเพราะตอนนี้เขาไม่รู้จะซื้ออะไรรับขวัญหลานจริงๆ ยิ่งไม่รู้ว่าเป็นเพศอะไรก็ยิ่งมืดแปดด้าน“จ

  • พรหมจรรย์คั่นเวลา   บทที่ 28 สัญญาใจ

    ชนิตาย้ายกลับไปอยู่ที่บ้าน และวางแผนให้พ่อและแม่ฟังว่าหลังจากนี้เธอจะใช้ชีวิตแบบไหน ซึ่งโกศลและศจีก็ต่างสนับสนุน เพราะมั่นใจว่านั่นคือความสุขของลูกสาวคนนี้ ส่วนเรื่องคู่ครองพวกเขาคงไม่เข้าไปก้าวก่ายอะไรอีก หาก ชนิตาจะครองตัวเป็นโสดก็คงสบายไปอีกแบบส่วนว่าที่คุณพ่อและคุณแม่ก็กำลังตระเตรียมห้องสำหรับเด็กอ่อน ที่เวลานี้รู้เพศแล้วว่าคือผู้ชาย แต่ทั้งคู่ยังคงเก็บเป็นความลับ เพื่อให้ทุกคนไปลุ้นเอาวันที่พรฟ้าคลอด ซึ่งจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้แล้ว“ซื้อพอแล้วมั้งคะคุณอธิศ”“พอแล้วเหรอ” ว่าที่คุณพ่อเอ่ยถามขึ้นเพราะคิดว่าสิ่งของจำเป็นที่เขาซื้อเตรียมไว้ให้ลูกชายคนแรกนั้นยังไม่มากพอ ขณะที่พรฟ้าได้แต่มองจำนวนสิ่งของในรถเข็นที่เยอะจนล้นออกมา“ค่ะ...ถ้าหมดค่อยซื้อเพิ่มก็ได้”“โอเค...พอก็พอครับ” อธิศยิ้มให้ก่อนจะพาพรฟ้าไปทานอาหาร ในขณะที่รถช้อปปิ้งชายหนุ่มส่งให้แม่บ้านเป็นคนจัดการต่อ แต่ระหว่างทางเดินไปร้านอาหารนั้นจู่ๆ เขาก็วกเข้าร้านเพชรที่อยู่ตรงทางผ่านแบบไม่มีปี่ไม่ขลุ่ย ก่อนจะจัดแจงบอกให้พนักงานขึ้น&ldq

  • พรหมจรรย์คั่นเวลา   บทที่ 27 รอคำตอบ

    “ผมรอคำตอบอยู่” เมื่อมยุราไม่ตอบภาคก็เอ่ยถามซ้ำอีกครั้ง นั่นยิ่งทำให้มยุราอึกอักอย่างมีพิรุธ ก่อนจะยืนกระต่ายขาเดียวปฏิเสธ“เอ่อคือ...ไม่มีอะไรค่ะ”“คุณแม่เป็นคนแนะนำให้คุณตาหาผู้หญิงสักคนให้ผมครับพ่อ โดยพยายามกดดันเรื่องคุณปู่อยากอุ้มหลาน จนทำให้คุณตาไม่มีทางเลือก” หลังจากเงียบมานานอธิศก็ขอเอ่ยขึ้นบ้าง นั่นเพราะอยากให้ผู้เป็นแม่รู้ว่าทำแบบนี้มันไม่ถูกต้องแต่คำพูดของบุตรชายกลับยิ่งทำให้มยุราไม่พอใจ เพราะไม่คิดว่าอธิศจะกล้าหักหน้าเธอแบบนี้ ทั้งๆ ที่เงียบไปก็ได้“นี่คุณกล้าเอาเรื่องหลานไปกดดันหนูตาอย่างนั้นเหรอ คุณทำเกินไปแล้วนะคุณมยุรา” ภาคจ้องมองมาที่มยุราอย่างเอาเรื่อง เขาไม่พอใจที่มยุราทำอะไรเลยเถิดเช่นนี้“ฉันไม่ได้ทำอะไรเกินไปทั้งนั้น เพราะถ้าเรามีหลานก็จะเป็นเหลนของคุณทวด ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะเป็นของเหลนท่าน ฉันผิดตรงไหน” มยุราแย้งกลับ“ผิดที่คุณห่วงแค่มรดก โดยไม่ห่วงความรู้สึกของคนอื่น” คำพ

  • พรหมจรรย์คั่นเวลา   บทที่ 26 แผนที่วางไว้

    เมื่อทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ชนิตาและอธิศจึงหย่ากันในวันรุ่งขึ้น และวันนั้นก็ยังเป็นวันที่อธิศกับพรฟ้าได้จดทะเบียนสมรส เป็นสามีและภรรยากันอย่างถูกต้องทั้งทางนิตินัยและพฤตินัยเช่นเดียวกัน โดยมีชนิตาเป็นสักขีพยานคนสำคัญ จากนั้นก็ปล่อยให้สามีภรรยาตามกฎหมายป้ายแดงได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน“อยากกินอะไรครับ”“ส้มตำค่ะ”“ไม่ได้ หมอบอกมะละกอจะทำให้ท้องอืด”“งั้นก็ก๋วยเตี๋ยวน้ำตก”“ก๋วยเตี๋ยวน้ำตกใส่เลือด ไม่ดีเหมือนกัน”“นั่นก็ไม่ได้นี่ก็ไม่ได้ สงสัยเราสองคนต้องหิวไปทั้งวันแน่ๆ เลยลูก” พรฟ้าลูบท้องตัวเองไปมาแล้วเอ่ยกับเจ้าตัวเล็กที่โตวันโตคืนไปด้วย พอได้ยินแบบนั้นอธิศก็รีบออกตัวทันที“โอ๋ๆ อย่าพึ่งงอนพ่อนะครับ เอาเป็นว่าเราไปกินอาหารญี่ปุ่นกันดีกว่า วันก่อนเห็นเบลบ่นว่าอยากกิน”“จำได้ด้วยเหรอคะ” รอยยิ้มดีใจผุดขึ้นบนใบหน้าของ พรฟ้า นั่นเพราะไม่คิดว่าอธิศจะได้ยินตอนเธอบ่น“จำได้ครับ”“แต่อาหารญี่ปุ่นมีปลาดิบ เบล

  • พรหมจรรย์คั่นเวลา   บทที่ 25 จากกันด้วยดี (3)

    เพราะไม่เข้าใจความหมายของสองขีดสักเท่าไหร่ อธิศจึงหันไปมองชนิตาเพื่อขอความช่วยเหลือจากเธอ ในขณะที่พรฟ้ายังคงยืนยิ้มอยู่ข้างๆ“ขีดสีแดงถ้าขึ้นสองขีดแสดงว่ากำลังตั้งครรภ์ค่ะ”“ตั้งครรภ์...ท้อง” ว่าที่คุณพ่อทวนคำพูดและแปลความหมายเสร็จสรรพ ในขณะที่พรฟ้าก็เอ่ยรับเช่นกัน“ค่ะ”“เยส! ผมกำลังจะเป็นพ่อคนแล้วจริงๆ เหรอครับเนี่ย ไชโย” อธิศตะโกนเสียงดังลั่นบ้าน ชายหนุ่มแสดงความรู้สึกดีใจออกมาอย่างไม่ปิดบัง นั่นสร้างความตกใจให้พรฟ้าและชนิตาเช่นกัน เพราะไม่คิดว่าจะได้เจออธิศมุมนี้ เนื่องจากปกติแล้วเขาจะเป็นคนเงียบขรึมเสียมากกว่าอธิศรีบพาพรฟ้าไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจให้แน่ใจ และผลที่ออกมาก็ทำให้เขายิ้มกว้างมากกว่าเดิม นั่นเพราะตอนนี้ พรฟ้าท้องจริงๆ แม้อายุครรภ์จะเพียงแค่สิบสัปดาห์ก็ตาม อธิศจัดการฝากครรภ์ให้เธอทันที โดยเลือกหมอที่เป็นเพื่อนกันให้คอยดูแลเมียและลูกระหว่างทางกลับบ้าน อธิศซึ่งขับรถอยู่ก็คว้ามมือเล็กๆ ของพรฟ้าไปกุมไว้ บนใบหน้าของเ

  • พรหมจรรย์คั่นเวลา   บทที่ 24 จากกันด้วยดี (2)

    เพราะเธอสงสารชนิตามาตลอดที่ต้องถูกจับคลุมถุงชน แต่อีกใจก็ยังรู้สึกผิดที่ตอนนี้สถานะระหว่างเธอกับอธิศมันลึกซึ้งเกินจะถอยได้แล้วเช่นกัน และเมื่อศจีกลับออกไปแล้วเธอก็เข้าไปดูแลชนิตาอย่างที่เคยทำ“เบลได้ซื้ออุปกรณ์ตรวจครรภ์ไว้บ้างหรือเปล่า” คำถามของชนิตาทำให้พรฟ้าหน้าแดงก่ำ“ยังไม่ได้ซื้อค่ะ”“ไปซื้อไว้หน่อยก็ดี เผื่อตอนนี้เธอท้องแล้ว”“ถ้าเบลท้องคุณตาจะเป็นอิสระใช่ไหมคะ” คำถามของพรฟ้าทำให้ชนิตาชะงักไปนิดหน่อย นี่คงแอบได้ยินที่เธอคุยกับแม่เข้าแน่ๆ“ใช่...เพราะฉันจะหย่ากับคุณอธิศ จะยกสิทธิ์ภรรยาที่ถูกต้องให้กับเธอ เพราะฉะนั้นเธอต้องรีบๆ ท้อง เข้าใจไหม”“แต่เบลรู้สึกผิดกับคุณตา” พรฟ้าน้ำตาเอ่อ เพราะรู้สึกไม่ดีและอยากบอกชนิตาว่าเธอนั้นรู้สึกแบบไหน“รู้สึกผิดอะไร ไหนบอกมาสิ”“เบลไม่ควรคิดอะไรเลยเถิดกับคุณอธิศ มันเหมือนเบลหักหลังคุณตา”

  • พรหมจรรย์คั่นเวลา   บทที่ 23 จากกันด้วยดี (1)

    เพราะอยากกดดันให้ชนิตายอมบอกว่าส่งผู้หญิงคนไหนไปให้อธิศลูกชาย มยุราจึงตั้งใจเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้ศจีมารดาของชนิตาฟัง นั่นทำให้เธอตกใจเป็นอย่างมากที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับลูกสาวของเธอ ไม่คิดว่าชีวิตครอบครัวหลังแต่งงานชนิตาต้องมาเจอกับเรื่องแบบนี้รวมถึงไม่พอใจมยุราเป็นอย่างมากที่เอาเรื่องลูกมากดดันชนิตา แถมยังเป็นตัวตั้งตัวตีที่จะส่งผู้หญิงไปให้อธิศอีก ต่อให้ชนิตาจะได้สิทธิ์เลือกก็เถอะ แต่นั่นมันคือความสุขอย่างนั้นเหรอ และที่สำคัญชนิตาไม่เคยเอาเรื่องนี้หรือเรื่องที่ขุ่นข้องหมองใจมาเล่าให้แม่อย่างเธอฟังเลยสักครั้ง“คุณแม่” ชนิตาอุทานออกมาเมื่อเห็นว่าผู้เป็นแม่มาหาที่บ้าน เพราะตั้งแต่เธอย้ายมาอยู่ที่นี่กับอธิศน้อยครั้งมากที่แม่จะแวะมา“ยุ่งอยู่หรือเปล่าตา”“ไม่ค่ะ”“สวัสดีค่ะคุณศจี” พรฟ้าที่นั่งอยู่กับชนิตามาตั้งแต่ต้น ยกมือไหว้ศจีอย่างนอบน้อม ซึ่งศจีก็รับไหว้พร้อมพินิจมองหน้า พรฟ้าที่เวลานี้โตเป็นสาวเต็มตัวแล้วนั่นเอง“สวัสดีจ้ะเบล สบายดีใช่ไหม” แว

  • พรหมจรรย์คั่นเวลา   บทที่ 22 เงื่อนไขการ...หย่า (3)

    “ไม่ได้ไม่ดี ฉันชอบที่เธอหึงรู้ไหม”“งั้นจะหึงไปอีกหลายวัน” พรฟ้าขู่ฟ่อๆ แต่เป็นการขู่ที่ไม่ได้ทำให้อธิศกลัวแม้แต่น้อย“หึงได้ก็ต้องหายได้ ไม่เอาหลายวัน มีอะไรก็คุยกัน ฉันชอบที่เธอบอกความรู้สึกออกมาตรงๆ คิดยังไงก็บอกไม่ต้องเก็บไว้แล้วคิดเองว่าฉันต้องรู้ อย่างหึงก็บอกหึง เพราะบางอย่างฉันก็ไม่รู้ จะได้อธิบายให้เข้าใจ ตกลงไหม”“ค่ะ”“มาให้ฉันทำโทษซะดีๆ” คำพูดที่บอกว่าจะทำโทษของอธิศนั้นแฝงความวาบหวามไว้เสมอ ซึ่งพรฟ้าเข้าใจความหมายเหล่านั้นดีกว่าใครๆ“คุณอธิศก็ชอบวกมาเรื่องนี้อยู่เรื่อย”“ก็ฉันมีความสุขนี่หรือเธอไม่มี”“มีค่ะ” พรฟ้าเอ่ยรับตรงๆ เพราะการทำโทษของอธิศ สร้างความสุขให้เธอเสมอ มันไม่ได้โหดร้ายแต่กลับเต็มไปด้วยความเร่าร้อนและเสียวซ่าน“ที่ฉันขยันทำโทษเพราะอยากให้เธอท้อง”“ท้องเหรอคะ”&

DMCA.com Protection Status