แชร์

บทที่ 4 ทายาท

“ขะ...คุณอธิศได้เอกสารแล้วเหรอคะ” 

“ได้แล้ว” อธิศชูเอกสารที่อยู่ในมือขึ้นให้พรฟ้าดู แต่ดูเหมือนเธอจะเอาแต่มองพื้นมากกว่ามองมาที่เขา ถ้าเขายังยืนอยู่ตรงนี้พรฟ้าก็คงคอก้มจนเคล็ดเสียเปล่าๆ นั่นทำให้ชายหนุ่มเอ่ยขึ้น

“ฉันไปล่ะ” เอ่ยจบชายหนุ่มก็เดินกลับออกไปจากห้องครัว ซึ่งทันทีที่เขาเดินห่างออกไปพรฟ้าก็ถึงกับเป่าลมหายใจออกปากหนักๆ พร้อมยกมือขึ้นจับหัวใจของตัวเองที่เต้นโครมคราม

“เต้นเป็นปกติได้แล้ว” พรฟ้าบอกตัวเอง ก่อนจะดึงสติแล้วเตรียมน้ำอุ่นให้ชนิตา จากนั้นจึงกลับขึ้นไปชั้นบน ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ชนิตาเดินออกมาจากห้องน้ำพอดี

“น้ำอุ่นค่ะคุณตา”

“ขอบใจมากจ้ะ แล้วนี่ไปเอากระบอกน้ำเก็บอุณหภูมิมาจากไหน” ชนิตาเอ่ยถามอย่างสงสัย 

“เบลเห็นมันเก็บไว้ในตู้นะคะ เลยเอามาใช้ก่อน”

“จ้ะ” ชนิตาเอ่ยรับ ก่อนจะดื่มน้ำอุ่นๆ จากกระบอกน้ำเก็บอุณภูมิที่พรฟ้าเตรียมไว้ให้ จากนั้นก็บำรุงใบหน้าด้วยสกินแคร์ตัวโปรด ในขณะที่พรฟ้าเข้ามาเป่าผมให้กระทั่งแห้งดีแล้ว จึงส่งยิ้มให้

“ขอบใจที่ดูแลฉัน”

“ค่ะ...แต่สิ่งที่เบลดูแลคุณตา ยังเทียบไม่ได้กับที่คุณตาดูแลเบลเลยด้วยซ้ำ ชีวิตของเบลเป็นของคุณตาค่ะ”

“ชีวิตเป็นของเธอไม่ใช่ของฉัน” ชนิตารีบแย้งทันที 

“ของคุณตาค่ะ เบลทำเพื่อคุณตาได้ทุกอย่าง ขอแค่คุณตาบอก ต่อให้สิ่งนั้นจะยากแค่ไหน เบลก็จะพยายามทำให้ได้” แววตาของพรฟ้านั้นมั่นคง เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอพูดอะไรแบบนี้ออกไป สำหรับพรฟ้าแล้วชนิตาเป็นมากกว่าผู้มีพระคุณ แต่คือเจ้าชีวิตของเธอต่างหาก

“ขอบใจมากนะเบล” เอ่ยจบชนิตาก็คว้าตัวพรฟ้าเข้ามากอด จะว่าไปหลายปีมานี้เพื่อนในชีวิตเธอก็คงมีแต่พรฟ้าเท่านั้นที่สามารถพูดคุยกันได้ในทุกๆ เรื่อง

อาจเพราะปกติแล้วเธอเป็นคนค่อนข้างเก็บตัว ชอบเที่ยวคนเดียว อยู่คนเดียวมากกว่าออกไปหาเพื่อนหรือสังสรรค์ ไลฟ์สไตล์ของเธออาจไม่ตรงกับใครต่อใคร เพื่อนที่เคยมีจึงค่อยๆ ห่างออกไปเรื่อยๆ แม้จะเหงาบ้างแต่เธอกลับชอบใช้ชีวิตแบบนี้

อธิศเคยบอกว่าหลังแต่งงานเธอไม่จำเป็นต้องลบความเป็นตัวของตัวเอง ยังใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการได้ แต่ทุกอย่างมันไม่ง่ายแบบนั้น เมื่อในตอนนี้เธอใช้นามสกุลเดียวกับเขา ก่อนที่ทำอะไรสิ่งแรกที่ต้องนึกถึงคือครอบครัว วงศ์ตระกูล ต้องวางตัวในสังคมให้ถูกต้อง และยิ่งอยู่ในกรอบมากๆ ชนิตาก็ยิ่งอึดอัด แต่เธอก็พยายามปรับตัว ซึ่งหวังว่าทุกอย่างจะเข้าที่เข้าทางในเร็ววัน

เมื่อคุยกันเสร็จทั้งคู่ก็แยกย้ายกันพักผ่อน ชนิตานั้นหลับไปอย่างรวดเร็ว ผิดก็แต่พรฟ้าที่ยังคงนอนคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในห้องครัว เพราะจนถึงตอนนี้เธอก็ยังสัมผัสความอบอุ่นจากร่างกายของอธิศได้ ก่อนที่ใบหน้าสวยซึ่งเห่อร้อนจากความเขินอายจะซึมลงไป

“เราไม่ควรคิดแบบนั้นกับคุณอธิศ ไม่ควร” พรฟ้าเอ่ยบอกตัวเอง แรกๆ เธอไม่รู้จริงๆ ว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นมันคืออะไร กระทั่งเธอได้คำตอบ มันเป็นความรู้สึกที่ไม่ควรเกิดขึ้น แต่เธอกลับห้ามใจตัวเองไม่ได้และปล่อยให้มันครอบครองมากขึ้นเรื่อยๆ

ต่อให้ชนิตากับอธิศจะยังไม่ได้เข้าหอแต่พวกเขาทั้งคู่ก็ได้ชื่อว่าเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย หรือต่อให้เป็นแค่คนรักเธอก็ไม่ควรคิดอะไรเลยเถิดกับอธิศ เธอไม่ควรทำลายความเมตตาที่ชนิตามอบให้มาตลอด

สิ่งที่เธอควรทำคือรักษาความไว้เนื้อเชื่อใจที่ชนิตามอบให้และตอบแทนบุญคุณให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าชนิตาจะร้องขออะไรเธอเต็มใจทำให้เสมอแต่ไม่ใช่การแทงข้างหลังแบบนี้

ในขณะที่พรฟ้าคิดเรื่องอธิศ ชายหนุ่มเองก็เก็บเรื่องของเธอมาคิดอย่างไม่รู้ตัวเช่นเดียวกัน เพราะแม้จะอยู่ในบ้านหลังเดียวกันมาเป็นปีๆ แต่เขากลับไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับพรฟ้าสักเท่าไหร่นัก รู้แค่ผิวเผินว่าเป็นเด็กในบ้านของชนิตา ที่เธอนั้นรักและเอ็นดูเหมือนน้องสาวแท้ๆ คนหนึ่ง และส่งเรียนที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ซึ่งปีนี้พรฟ้าเรียนเป็นปีสุดท้ายแล้ว 

แต่สิ่งที่เขาเห็นได้คือพรฟ้าเป็นเด็กที่รักเรียน และไม่เคยทำตัวเกเรสร้างความลำบากใจให้ชนิตา ตื่นเช้ามาก็ไปเรียน เรียนเสร็จก็กลับเข้าบ้าน เสาร์อาทิตย์ถ้าชนิตาไม่พาไปด้วยก็เห็นอยู่บ้านแทบไม่ไปไหน จนชวนให้สงสัยว่าพรฟ้ามีเพื่อนกับเขาบ้างหรือเปล่า เธอชอบหรือไม่ชอบอะไร 

“แล้วทำไมเราต้องไปอยากรู้เรื่องของเด็กมันด้วย” อธิศ เอ่ยถามกับตัวเอง แต่สุดท้ายก็ไม่ได้คำตอบ  

 

 

 

 

แม้จะพึ่งไปทานอาหารด้วยกันมาเมื่อวันก่อนและเอ่ยถามเรื่องทายาทมาแล้ว แต่มาวันนี้มารดาของอธิศกลับปรากฎตัวขึ้นที่บ้าน โดยมาหลังจากชายหนุ่มออกไปทำงานแล้ว และมาพร้อมอาหารบำรุงร่างกายที่นำมาให้ชนิตาโดยเฉพาะ

รวมไปถึงสารพัดคำแนะนำที่ต้องการให้ชนิตาทำตาม และแรงกดดันที่ชนิตาสัมผัสได้ว่าภายใต้รอยยิ้มรวมไปถึงคำแนะนำต่างๆ นานาล้วนเต็มไปด้วยความคาดหวัง

“ลูกพี่ลูกน้องของอธิศ ที่พึ่งจะแต่งงานไปเมื่อเดือนก่อน มีข่าวดีแล้วนะ แม่ละดีใจแทนครอบครัวเขาจริงๆ” มยุราเอ่ยขึ้น ในขณะที่ชนิตากลับทำเพียงขานรับเท่านั้น

“ค่ะ”

“อีกแปดเดือนก็คงได้เห็นหน้า แม่เองก็อยากมีโมเม้นท์แบบนั้นบ้าง หนูตาต้องบำรุงร่างกายไว้นะลูก” 

“ค่ะ”

“หรือไม่วันไหนว่างๆ ก็ลองชวนอธิศไปปรึกษาคุณหมอดู เผื่อจะได้คำแนะนำดีๆ” 

“เดี๋ยวตาจะลองชวนคุณอธิศดูนะคะ”

“ดีมากจ้ะ” รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความคาดหวังเกิดขึ้นบนใบหน้าของมยุรา แต่หารู้ไม่ว่านั่นยิ่งสร้างความกดดันให้ชนิตามากขึ้นไปอีก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังฝืนยิ้มออกมา

มยุราอยู่คุยกับสะใภ้นานพอสมควร จากนั้นก็ขอตัวกลับโดยมีชนิตาออกมายืนส่ง จากนั้นเธอจึงเดินไปตรงศาลารับลม หย่อนตัวลงนั่งแล้วถอนหายใจออกมาหนักๆ เพราะไม่รู้จะบ่ายเบี่ยงเรื่องท้องได้อีกนานแค่ไหน 

“เฮ้อ” ชนิตาถอนหายใจออกมาหนักๆ แล้วทอดสายตามองขึ้นไปบนท้องฟ้า อยากมีอิสระอย่างก่อนแต่งงานอีกสักครั้ง คิดถึงสีเขียวๆ ของป่า คิดถึงฝูงปลาในทะเล คิดถึงเหลือเกิน

ตั้งแต่แต่งงานชนิตาก็ไม่ได้ทำงานประจำ เธอจึงใช้เวลาในแต่ละวันไปกับการสร้างเพจบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการท่องเที่ยวที่ผ่านมา ซึ่งตอนนี้มีคนติดตามเพจเธอเกือบหนึ่งแสนคนเข้าไปแล้ว ทุกคนเรียกร้องขอให้เธอนำคลิปใหม่ๆ มาลงบ้าง ซึ่งคำตอบของชนิตาที่ตอบกลับไปมีเพียง ‘เร็วๆ นี้’ เท่านั้นเอง

 

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status