"เอาละทุกคนที่มาช่วยกันชำแหละเนื้อหมูป่าในวันนี้และคนที่ขึ้นไปลากหมูป่าลงจากบนเขาจะได้เนื้อเพิ่มคนละสองชั่ง ครอบครัวเซียวบอกว่าจะแบ่งให้ทุกคนในหมู่บ้านแต่ต้องมาลงชื่อเพื่อจะทำงานให้ครอบครัวเซียวแทนตำลึงเพราะบ้านรองเซียวแยกบ้านออกมาไม่ได้ตำลึงสักอีแปะจากบ้านใหญ่ พวกเขาจะขายเนื้อหมูป่าเอาเงินก็ได้แต่บ้านเซียวบอกจะเอาเนื้อแลกกับการที่ให้คนในครอบครัวของพวกเจ้าที่มารับเอาเนื้อไปกินในครอบครัว ให้มาช่วยทำรั้วล้อมรอบที่ดินหกหมู่กับทำประตูใหม่ทั้งหน้าบ้านกับในบ้านและเปลี่ยนไม้ตัวใหม่ให้แข็งแรง เพราะอีกไม่นานก็จะถึงหน้าหนาวแล้ว ทั้งเซียวอี้ถังยังบาดเจ็บจากการตกเขายังไม่หายดี ครอบครัวเซียวจึงจะเอาหมูป่าทั้งสองตัวนี้แบ่งให้กับทุกบ้านที่ลงชื่อมาทำงานบ้านเซียว จะมากี่คนก็จะแบ่งให้เท่ากันเพราะต้องถางหญ้าพลิกหน้าดินให้บ้านเซียวด้วย"
หัวหน้าหมู่บ้านพูดให้ลูกบ้านให้ฟังชาวบ้านมารวมตัวกันแทบจะทุกหลังคาเรียนตั้งแต่ได้ยินว่าบ้านรองเซียวล่าหมูป่ามาได้สองตัวใหญ่ น้ำหนักหมูสองตัวหกร้อยชั่งได้เพราะตัวใหญ่มากไม่คิดว่าเด็กสองคนจะโชคดีเพราะหมูป่าไม่ใช่จะล่าได้ง่ายๆ พอได้ยินสิ่งที่หัวหน้าหมู่บ้านบอกเรื่องแลกเปลี่ยนให้ทำงานแทนกับการแบ่งเนื้อหมูป่าทั้งสองตัว หัวหน้าหมู่บ้านบอกให้ทุกคนที่อยากกินเนื้อหมูป่าแต่ต้องแลกกับการทำงานแลกเปลี่ยน ซึ่งผู้ชายในหมู่บ้านก็ยกมือขึ้นกันทุกหลังคาเรือนเพราะชาวบ้านทุกคนใช่ว่าจะมีตำลึงกันทุกบ้าน พวกเขาได้กินเนื้อก็จะเป็นพวกไก่ป่าที่นานๆครั้งจะจับลงมาให้ครอบครัวได้กินได้ง่ายๆ ทุกคนจึงอยากกินเนื้อหมูกันทุกบ้าน ตอนที่หัวหน้าหมู่บ้านบอกข้อแลกเปลี่ยนทุกคนจึงเข้าแถวลงชื่อจะได้แบ่งเนื้อหมูตามจำนวนคนที่ลงชื่อทำงานให้ครอบครัวเซียว พอได้จำนวนคนครบแล้วคนแจกเนื้อหมูก็ตัดเนื้อท่อนเท่ากันตามจำนวนคน รวมถึงกระดูกที่ทำกินได้เย่วเย่วบอกว่าอะไรที่ชาวบ้านไม่เอาให้กองเอาไว้ให้พวกนางบ้านเซียวจะรับส่วนที่ชาวบ้านไม่กิน แต่คนชำแหละก็เนื้ออย่างดีชิ้นโตกองเอาไว้ให้บ้านเซียวด้วยจะได้บำรุงเซียวอี้ถังให้แข็งแรง มีเครื่องในหมูป่าที่ชาวบ้านไม่กินจึงกองเอาไว้ให้บ้านเซียวทั้งสองตัว ส่วนขี้หมูนั้นพวกเขาได้นำไปขุดหลุมฝังให้เรียบร้อย ทุกคนนั้นมีรอยยิ้มเต็มใบหน้าเพราะได้กินเนื้อหมูกันทุกครัวเรือน เย่วเย่วให้พี่ชายนำไปไว้ครัวก่อนเหลือไว้แค่เครื่องในเนื้อหมูป่าที่นางจะโยนเข้ามิติหลังชาวบ้านกลับไป เพราะชาวบ้านทยอยกันหอบเนื้อหมูกลับบ้านแล้วก่อนจะไปผู้ใหญ่ได้ประกาศให้มาทำงานในวันพรุ่งนี้และห่อข้าวมากินเองเพราะบ้านเซียวนั้นไม่มีข้าวให้กินทุกคน ก็เข้าใจเพราะมารดาของเซียวอี้ถังนั้นปากร้ายขี้เหนียวเป็นที่หนึ่งนางรักเพียงบุตรชายคนโตเท่ากับหลานของลูกชายคนโตที่นางเลี้ยงดีจนอ้วนเป็นหมู เอจะว่าไปวันนี้ข้าก็ไม่เห็นบ้านใหญ่มาหาเรื่องลูกชายคนรอง ตั้งแต่ไล่ออกจากบ้านมาอยู่ที่บ้านเก่าของภรรยาตัดขาดแล้วยังบอกว่าเป็นตายไม่ข้องเกี่ยวกันตัวไร้ประโยนช์ของลูกชายคนรอง ชาวบ้านคุยกันเสียงดังออกจากบ้านไปทุกคนต่างก็ไม่ชอบนางเซียวอี้จูย่าของเย่วเย่วจึงพากันนินทาบ้านใหญ่อย่างสนุกไปตามทางกลับเข้าหมู่บ้าน ที่บ้านใหญ่ไม่ได้มาที่บ้านรองเซียวนั้นเย่วเย่วนั้นได้แอบลอบเข้าบ้านใหญ่และวางยาถ่ายให้คนทั้งบ้านได้กินตอนทานข้าวก่อนจะขึ้นเขาไปล่าสัตว์ จนได้ชาวบ้านบางคนได้ข่าวว่าบ้านเซียวหลักได้ขนกันไปที่โรงหมอกันทั้งบ้าน สงสัยเวรกรรมจะตามทันที่ทำร้ายลูกชายคนรองมาตลอดสิบกว่าปี สมน้ำหน้าส่วนเย่วเย่วนั้นนางรู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้นกับบ้านใหญ่ทั้งนางวางยานอนหลับพวกเขาอีกด้วยก่อนจะวางยาถ่าย แล้วจึงขนเอาตำลึงในบ้านนั้นออกมาเกือบหมดเหลือไว้สิบตำลึงเงิน แม้แต่ห้องเสบียงนางกวดเอาเข้ามิติลงมือแก้แค้นแทนร่างเดิมเหลือไว้สิบชั่ง ในเมื่อของทุกอย่างมีแต่บ้านนางเป็นคนหาเข้าแต่ไม่เคยได้กินอิ่นนอนหลับเลย รอให้ชาวบ้านทำงานให้พวกนางเรียบร้อยก่อนเถอะพอมาถึงวันที่บ้านใหญ่มาเห็นคงกระอักเลือดตายที่ได้ข่าวว่าบ้านนางแจกเนื้อหมูป่าให้ชาวบ้านทุกหลังยกเว้นบ้านใหญ่ รอรับกรรมจากข้าคนนี้ได้เลยแค่หญิงชรานิสัยเห็นแก่ตัว ทำตัวน่ารังเกียจที่สุดนางจะค่อยๆสอนบทเรียนให้ครอบครัวใหญ่ให้ได้รับหายนะที่ทำร้ายเจ้าของร่างเดิม ได้ยินข่าวว่าพอกินมื้อเช้าอิ่มก็วิ่งเข้าห้องน้ำทั้งบ้านจนไม่ไหวให้เกวียนชาวบ้านไปส่งโรงหมอในเมือง โวยวายลั่นว่ามีขโมยขึ้นบ้านขโมยตำลึงไปด้วยจนหมดเหลือสิบตำลึงเงิน ข้าวของในห้องเสบียงเหลืออย่างละสิบชั่งนางเซียวอี้จูทั้งให้คนขี่เกวียนไปแจ้งหัวหน้าหมู่บ้าน ก่อนจะพาเข้าเมืองไปโรงหมอเพราะท่านหมอชราไม่อยู่บ้านพอดีจนทนไม่ไหวเพราะหลานรักสองคนถ่ายไม่หยุดเหม็นไปหมดทั้งเกวียนนั้นละ หัวหน้าหมู่บ้านแจ้งลูกบ้านบางคนที่ถามข่าวของบ้านหลักเซียว เย่วเย่วยกยิ้มมุมปากอย่างถูกใจและขยิบตาให้พี่ชายเป็นอันรู้กันสองคน พอชาวบ้านกลับไปกันหมดสี่คนพ่อแม่ลูกก็ปิดประตูบ้าน ทุกคนกินมื้อค่ำบ้านของนางอิ่มหน่ำสำราญมารดานั้นจึงถามบุตรสาวว่าจะทำอะไรกับไส้หมูป่าบ้างทุกส่วนของเครื่องในหมูป่า นางจึงเปิดทีวีให้มารดาดูวิธีการล้างการทำการหมัก พี่ชายรีบไปจัดการล้างให้มารดาทำตามสูตรทุกขั้นตอน "พรุ่งนี้รอกินของอร่อยได้เลยเจ้าค่ะท่านพ่อ" นางบอกก่อนจะไปตุนเครื่องในหมูป่า หมักไส้เอาไว้ย่างกับมารดา ส่วนตุ๋นเครื่องในหมูป่านั้นนางใช้เตาถ่ายตุ๋นทิ้งเอาไว้เลยพรุ่งนี้ตอนเช้ารออร่อยได้เลย จากนั้นจึงเข้าห้องอาบนอนพักผ่อนกันห้องใครห้องมัน อีกครอบครัวกำลังกำลังเริ่มต้นด้วยความสุขแต่ครอบครัวบ้านใหญ่นั้นนอนเครียดแค้นใจที่โดนขโมยขึ้นบ้าน นางคิดว่าต้องเป็นลูกชายคนรองมาขโมยของกินบ้านใหญ่ไปแน่ รอให้นางหายก่อนเถอะจะไปทวงคืนถึงที่เลยที่ทำให้นางเสียตำลึงค่าหมอไปหลายอิแปะ อีกทั้งห่อตำลึงของนางยังโดนขโมยไปอีกมันทิ้งเอาไว้เพียงสิบตำลึงเงินยามเหมาสี่คนพ่อแม่ลูกทำธุระกินข้าวทุกอย่างในมิติจนเรียบร้อยเรียบร้อยจึงพากันออกจากมิติเพราะหัวหน้าหมู่บ้านจะพาชาวบ้านมาทำงานให้ตามที่ตกลงกันเมื่อวานตอนค่ำ ส่วนท่านพ่อก็จะให้นอนแกล้งเจ็บไปก่อนจนกว่าที่บ้านจถล้อมรั้วบ้านให้เสร็จก่อน ต่อจากนี้เวลาทำอะไรก็จะได้ไม่มีคนมองเห็นมีรั้วกั้นสายตาของคนที่อยากรู้เรื่องของครอบครัวของนางพี่ใหญ่กับท่านพ่อเอาหม้อหมูตุ๋นออกมาตั้งส่งกลิ่นหอมไปจนทั่วหลังบ้าน แต่ใช้ไฟอ่อนๆอุ่นให้ร้อนใช้หม้อที่ใหญ่ที่สุดที่เห็นในบ้านของท่านตาท่านยาย เพราะตอนที่พวกท่านเสียชีวิตมารดากับบิดาเก็บใส่ห้องเก็บของเอาไว้เป็นอย่างดี พอดีท่านตาทำห้องเก็บเสบียงใต้ดินเอาไว้ไม่มีใครรู้จักนอกจากท่านแม่ ครอบครัวใหญ่ที่จ้องจะเอาทุกอย่างจึงผิดหวัง ท่านแม่รีบนำของที่พอจะใช้ได้ไปซ่อนจนหมดจึงเหลือเพียงของที่นำออกมาให้เห็นไม่มากจึงรอดจากท่ายย่าจอมเอาเปรียบไปได้แต่ยังไม่วายพูดจาด่าท่านแม่ว่าที่บ้านเก่าของท่านแม่มีหม้อเก่าๆไม่กี่ใบที่ใกล้แตกจนใช้งานไม่ได้ ส่วนมากชาวบ้านจะช่วยงานกันตามมีตามเกิดไม่มากินเหมือนงานศพในยุคของเขาที่ประเทศบ้านเกิดทุกคนช่วยงานจบก็กลับบ้านใครบ้านมัน หลังจากนำไปฝังในสุสาน
ด้วยแรงงานที่มากเพียงพอในที่สุดงานล้อมรั้วรอบเนื้อที่หกหมู่ก็เสร็จสิ้นอย่างพร้อมเพียงกัน ถางหญ้าพลิกหน้าดินขุดร่องน้ำที่เย่วเย่วแบ่งออกเป็นล็อคๆอย่างลงตัวแลกกับการที่นางทำอาหารแสนอร่อยให้ทุกคนได้กินมื้อเที่ยงด้วยความอร่อยข่าวที่นางตุ๋นหมูจากเครื่องในหมูได้อร่อยจนแทบจะกัดลิ้น วันที่สองทำให้แม่บ้านบรรดาภรรยาของคนที่มาตัดไม้ล้อมรั้วให้นางมาจนแทบจะครบทุกคู่ หลังจากได้ยินสามีเล่าเรื่องอาหารแปลกใหม่ที่นางทำให้กิน บ้านรองเซียวจึงได้แรงงานตัดหญ้าเพิ่มทำให้งานเดินเร็วมาก ทั้งเย่วเย่วยังเอาอาหารจานเนื้อจากการตุ๋นกระต่ายป่าในวันที่สาม และต้มยำไก่ป่า ต้มยำปลาที่นางกับพี่ชายจะขึ้นเขาไปดักเอาไว้ทุกวัน ทุกคนที่มาได้กินอิ่มกันทุกมื้อจึงทำงานให้นางเพื่อเป็นการขอบคุณกับอาหารจากเนื้อแสนอร่อย นางยังปลาตัวใหญ่มาแลกแป้งมาทำซาลาเปาใส่ผักป่า ไส้หน่อ ไม้ไส้เผือก ที่นางพบบนเขานางจะเก็บลงมาทุกวันนางจะขึ้นเขาหลังยามเว่ยกับพี่ชายได้ลุงหัวหน้าหมู่บ้านคุมงานยิ่งทำให้เสร็จเร็วและถ้าขุดบ่อน้ำให้บ้านนางเสร็จนางจะล่าหมูป่าลงมาแบ่งให้คนคนที่มาทำงานกับบ้านของนางอย่างแน่นอนชาวบ้านยิ่งดีใจเรียกกันมาบ้านละสามสี่คนก็มีเพรา
เดินทางไปถึงหลุมที่ขุดเอาไว้เกือบสองเค่อแต่ไม่ได้ทำให้ทั้งสองพี่น้องเหนื่อยเลยเพราะได้น้ำพุบำรุงร่างกายทุกวันและกินอาหารจานเนื้อทุกมื้อ จึงทำให้มีน้ำมีนวลให้เห็นบ้างแล้ว ซึ่งแตกต่างจากที่ยังไม่แยกบ้านที่ทั่งสองพี่น้องนั่งผอมแห้งมากเพราะได้กินเพียงเศษน้ำข้าวต้มถึงแล้วมาลุ้นกันดีกว่าว่าจะได้หมูป่ามาไหมนางให้พี่ชายนำหน้าไปดูในหลุมก่อนและรอลุ้นว่าจะได้หมูป่ากันหรือเปล่าหลุมแรก ที่จริงนางจะยิงเลยก็ได้แต่อยากลองวิธีนี้ดูก่อนเพื่อจะได้หมูไม่ตายลงไปเลี้ยงด้วยนั้นเองเซียวอี้เหอที่ชะโงกหน้าลงไปดูหมูในหลุมถึงกับตกใจที่มันมีหมูตัวใหญ่ถึงสองตัวยังไม่ตายพวกมันคงวิ่งจนเหนื่อยจึงนอนในหลุมหลับไป!!!!ไม่อยากจะเชื่อเลยวิธีของน้องเล็กมันดีจริงๆเลยแต่จะทำยังยังดีละถ้ามันไม่ตายพี่ชายคิดหนักทันที"โอ้ะพี่ใหญ่มีหมูป่าตกลงไปตั้งสองตัวเลยเจ้าค่ะดวงของพวกเราดีจริงๆด้วยละ" นางพูดเองเออเองคนเดียว"เยว่เอ๋อร์แล้วเราจะทำยังไรละถ้าหมูมันยังไม่ตายจะจับมันขึ้นมาจากหลุมได้เช่นไร" พี่ชายทำน่าหนักอกหนักใจมากหัวคิ้วขมวดชนกันเลย"พี่ใหญ่อย่าคิดมากนี้น้องสาวคนนี้ของพี่คือใครลูกรักของท่านตาเทพเลยนะ ข้าเตรียมยาสลบเอาไว้ให้
หลังบ้านครอบครัวรองเซียวนั้นมีแต่เสียงหัวเราะด้วยความสุขของชาวบ้านที่ได้รับส่วนแบ่งของเนื้อหมูป่าเท่าๆกัน รวมถึงบ้านของเย่วเย่วด้วยนางใจดีบอกวิธีผัดกระเพราะหมูป่าให้ชาวบ้านผัดเผ็ดหมูป่าที่นางเก็บสมุนไพรลงมาจนครบห่อใหญ่ แบ่งให้คนที่สนใจจะทำบอกวิธีการปรุงไปอีก เมียของหัวหน้าผู้ใหญ่บ้านรับฟังทั้งยังจดจำเอาไว้จะไปทำที่บ้านให้ลูกๆของนางได้กินในวันนี้อีกด้วย หน่อไม้สดที่นางกับพี่ชายตัดลงมาแจกจ่ายให้คนที่จะไปต้มจืดกระดูกหมูมื้อค่ำนี้ด้วย ผักในตระกร้าแจกจ่ายให้กับทุกคนบรรดาป้าๆทั้งหลายยิ้มกันแก้มปริกับของป่าที่ได้รับคนละเล็กละน้อยแต่ได้กันทุกคน"นังหนูเย่วเย่วเอ้ยวันพรุ่งนี้เอ็งต้องตุ๋นเครื่องในหมู่ให้พวกข้าได้กินกันทุกคนนะ เพราะพวกข้าจะมาช่วยงานบ้านของเองเพาะปลูกเมล็ดผักทุกอย่างจนเสร็จโน้นแหละนะทั้งยังจะเอาแป้งมาให้เอ็งสอนทำใส้ซาลาเปาให้อีกด้วยพวกข้าจะได้ทำให้ลูกหลานได้กินกันมันอิ่มท้องและอร่อยมากๆด้วยละ" หญิงวัยกลางคนพูดขึ้นมาทุกคนต่างก็พยักหน้ารับไปด้วยกันอย่างพร้อมเพียง เย่วเย่วจึงยิ้มจนตาหยี่ให้กับบรรดาป้าๆทั้งหลายที่นั่งรอเนื้อหมู่ป่ากลับบ้านไปทำมื้อค่ำกินกันในแต่ละครอบครัวบ้านใหญ่เซี
“จริงหรือที่พวกเจ้าเล่ามา” เซียวจิ้นหูถามย้ำเพื่อความมั่นใจเพราะเขาจะนำไปเล่าให้ท่านย่าของตัวเองฟัง“จริงสิพวกข้าไม่ได้โกหกเจ้าอย่างแน่นอนวันที่ยังจะมีการแจกจ่ายเนื้อหมูให้สำหรับคนที่ไปขุดบ่อน้ำอีกนะข้าได้ยินชาวบ้านที่เดินไปทำงานเมื่อเช้าคุยกันไปตามทางและที่เอ็งไม่เห็นคนในหมู่บ้านก็เพราะไปทำงานบ้านของท่านอารองของเอ็งยังไงละ” เพื่อนของเขาย้ำอีกครั้งเพื่อยืนยันเพื่อนทุกคนพยักเป็นไก่จิกเพื่อยืนยันคำพูดของพวกตนเซียวจิ้นหูจึงขอตัวกลับบ้านไปเล่าเรื่องที่ได้รับฟังข่าวจากเพื่อนของเขาหลังจากที่เล่นคุยกันได้สามเค่อพอมาถึงบ้านเขาก็ตะโกนลั่นบ้านหาย่าของตัวเองเสียงดังนางเซียวอี้จูที่นั่งอยู่โถงบ้านเพื่อจะรอกินมื้อค่ำกับบุตรชายคนโตรวมถึงสามีของนางด้วยพอได้ยินเสียงหลานรักเรียกหานางเซียวอี้จูก็รีบตอบรับทันที“มีอะไรหรือเปล่าหูเอ๋อร์ถึงได้เรียกย่าเสียงดังขนาดนี้มีใครกลั่นแกล้งหลานของย่าหรือตาใหญ่รีบถามหลานของข้าดูซิ” นางเซียวอี้จูรีบให้ลูกชายคนโตของนางรีบไปถามหลานรักทันทีด้วยความร้อนใจ“ท่านย่าข้าไปเล่นที่ในหมู่บ้านกับเพื่อนของข้ามาชาวบ้านในหมู่บ้านทุกทีข้าไปนั่งเล่นกันเต็นใต้ต้นไม้แต่วันนี้ไม่มีชาว
"นั้นสิพวกเจ้าครอบครัวนี้ช่างหน้าหนายิ่งนักเกิดมาพึ่งจะเคยเห็น ข้าละสงสารตาเฒ่าเซียวอี้หวายเสียจริงนี้ละหนาเขาถึงว่าได้เมียผิดคิดจนตัวตาย ดูความลำเอียงของนางสิขับไล่บุตรชายที่ขาหักกับหลานสาวที่ตกน้ำปางตายเพราะโดนคนใจร้ายมันผลักตกน้ำตกท่า ทั้งยังมีนังย่าจิตใจโหดเหี้ยมรักลูกไม่เท่ากันไล่ออกมาจากบ้านอีก ตำลึงสักอีแปะก็ไม่ให้สี่คนพ่อแม่ลูกกับได้ธัญพืชหยาบๆมาแทน คนที่ทำงานเหมือนวัวในบ้านกับเป็นคนที่โดนรังแกทั้งครอบครัวคงจะได้ยินข่าวว่าชาวบ้านมาช่วยบ้านรองแล้วได้เนื้อหมูป่าแลกเปลี่ยนละสิช่างหน้าไม่อายมันคงจะมีส่วนแบ่งให้คนหน้าด้านอย่างพวกเจ้าละมัง"ชาวบ้านหลายสิบคนต่างไม่เกรงกลัวครอบครัวของนางเซียวอี้จูที่ยืนขวางทางเพื่อจะชิงเนื้อหมูป่าในส่วนของพวกนางอีก จึงพากันด่าแล้วเดินชนครอบครัวของนางเซียววอี้จูไปได้ยินแต่เสียงร้องด่าตามหลังตามมาทุกคนจึงหยุด และจะตบให้หายปากดีเสียหน่อยแต่นางเซียวอี้จู้รีบวิ่งไปทางบ้านรองเซียวเสียก่อน"เหอะนึกว่าจะแน่" ชาวบ้านตะโกนตามหลังครอบครัวใหญ่ไปแล้ว "มันจะไม่ไปรังแกบ้านรองเซียวหรือวะพวกเขายิ่งมีแต่คนซื่อๆอยู่ด้วยจะตามนังแก่นังยานเซียวอี้จูทันหรือเปล่าวะ หรื
"นังเด็กอกตัญญูไม่มีคนสั่งสอนแกหรือถึงมายืนเถียงย่าปาวๆอย่างนี้" นางฉินซูอิ๋นตวาดเย่วเย่วเสียงดังแทนแม่สามีเพื่อเอาหน้า "นั้นนะสิเจ้าคะท่านแม่มันคงลืมไม้เรียวของท่านย่าแล้วสินะเย่วเย่วเซียว " อี้หลิงช่วยมารดาด่าเย่วเย่วอีกคน"ข้าพึ่งจะรู้ว่าคนที่สามารถผลักข้าจนตกน้ำปางตายแต่ยังกล้ามาด่าว่าข้าอีก ท่านลุงผู้ใหญ่เจ้าคะข้าขอแจ้งจับเซียวอี้หลิงที่เป็นคนผลักข้าตกน้ำข้อหาพยายามฆ่าได้ไหมเจ้าคะ และเรียกเสียหายกับข้าชดเฉยให้ข้าด้วยเอากี่ตำลึงดีเจ้าคะท่านแม่ถึงจะสาสมกับความใจดำอำมหิตของคนบ้านใหญ่ดี ทั้งที่มีใบตัดขาดเขียนเอาไว้ชัดเจนไม่แหกตาดูถึงตายก็ไม่เผาผีทั้งยังห้ามไม่ให้ไปเหยียบที่บ้านใหญ่อีก พวกข้ายังไม่ได้เดินย่างกรายไปขอร้องให้พวกท่านมาช่วยเหลือเลยแล้วพวกท่านไม่ละอายใจกันบ้างหรือในเมื่อพวกท่านอยากมีเรื่องข้าจะขอแจ้งความจับเซียวอี้หลิงข้อหาพยายามฆ่าข้าลุงผู้ใหญ่ข้าขอแจ้งความเจ้าค่ะ""ได้สิข้ารับแจ้งความจะไปในอำเภอให้ลูกน้องท่านนายอำเภอออกมาจับตัวไปเลยพวกข้าจะไปเป็นพยานให้กับเจ้าเอง" ป้าโจวพูดขึ้นสนับสนุนอีกแรงหลังจากที่ลุงผู้ใหญ่บ้านรับแจ้งเรื่องของเย่วเย่วที่โดนลูกสาวของลุงใหญ่ผลักต
พอโดนพ่อเฒ่าเซียวตวาดนางลี่อี้จูถึงกับหน้าดำหน้าแดงเพราะว่ากลัวคำขู่ของสามีว่าจะให้ใบหย่าตอนที่นางพาลูกชายสะใภ้ใหญ่รวมถึงหลานสุดที่รักทั้งสองคนมาที่บ้านรองเซียว ได้แต่ยืนกัดฟันข่มความโกรธที่มีพอโดนสามีเอาจริงนางก็กลัวเพราะว่าสามียอมนางตั้งแต่ที่รับเอาบุตรชายของน้องสาวมาเลี้ยง เขาก็ไม่ยุ่งเรื่องที่นางเลี้ยงเซียวอี้ถังมาตามที่สัญญาเอาไว้จนถึงวันนี้ที่สามีถึงกับออกปากบอกจะหย่าให้นางถ้ายังไม่เลิกราจากบ้านรองอีกพอหัวหน้าหมู่บ้านลงที่หนังสือตัดขาดเพิ่มเสร็จจึงยื่นให้พ่อเฒ่าเซียวเก็บไว้เป็นหลักฐานกับบ้านรองเซียวคนละใบ "เดี๋ยวข้าจะกลับไปที่บ้านแล้วเขียนลงเพิ่มให้แล้วจะเอามาให้ลงชื่อในวันพรุ่งนี้ด้วยเลยเอาละทุกคนนี้ก็มืดค่ำแล้วกลับบ้านไปพักผ่อนกันได้แล้วพรุ่งนี้ต้องมาช่วยนังหนูเย่วเย่วเพาะปลูกเมล็ดผักอีก" พอหัวหน้าหมู่บ้านพูดจบชาวบ้านต่างก็แยกย้ายกันเดินทางกลับบ้านใครบ้านมัน"ข้ากลับบ้านก่อนละนังหนูเย่วเย่วพรุ่งนี้ข้าจะพาคนมาช่วยปลูกผักช่วยอีก" ก่อนที่จะหันไปหาตาเฒ่าเซียวที่ยืนดูลูกชายคนรองที่ตอนนี้ลูกกับภรรยากำลังพาเข้าบ้าน"เจ้ารองพ่อขอโทษนะลูกที่ไม่ได้ช่วยอะไรลูกได้เลยตลอดเวลาหลายส
หลังจากแต่งกันกับท่านอ๋องภายในตำหนักในทุกคืนจะมีเสียงครางหวานของคู่สามีข้าวใหม่ปลามันจนนางกำนัลหน้าแดงไปตามๆกัน ท่านอ๋องช่างรักพระชายาเหลือเกินตามใจนางทุกอย่างตลอดที่ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน ช่วงก่อนจะถึงวันกลับไปเยี่ยมที่บ้านของพระชายาเขาตักตวงความสุขตั้งแต่ก่อนวันแต่งจนผ่านมาหลายคืนแล้วก็ยังคงหื่นเสมอต้นเสมอปลาย เย่วเย่วคิดในตอนนี้นางนั่งผิงอกแกร่งของพระสวามีกลับหมู่บ้านฉีซานเพื่อจะกลับไปเยี่ยมบ้านเดิมตามประเพณี กว่าจะได้ออกจากห้องแต่ละวันนางนี้ต้องมีนางกำนัลคอยประคองถ้าไม่มีน้ำพุวิเศษนี้นางไม่อย่างจะคิดเลยว่าจะนอนเป็นผักทั้งวันหรือเปล่า"เย่วเอ๋อร์น้องนอนเถอะนะคนดีพอถึงบ้านของพ่อตาแม่ยายพี่จะปลุกน้องเอง"ท่านอ๋องกระชับอ้อมกอดให้ภรรยานั่งพิงอกได้สะดวกตอนกลางวันต้องให้นางนอนพักเอาแรงไว้มากๆหน่อยช่วงกลางคืนคือเวลาของเขา ว่าจะหยุดสักเดือนก่อนจะเดินทางเข้าเมืองหลวงไปหาพี่ชายที่รอจัดงานให้อีกรอบที่ตำหนักอ๋องที่เมืองหลวง แต่จะให้เขาอดใจไหวไม่รังแกภรรยาได้เช่นไรในเมื่อนางน่ารักน่ากินไปทั้งตัว เขาก็ไม่ใช้ผู้หลุดพ้นเสียหน่อย นี้ก็อดทนรอมาตั้งปีเพื่อจะแต่งนางเข้าตำหนักได้แต่ก็ต้องออกศึกไปเป็นปีที่ไ
ท่านอ๋องกว่าจะปลีกตัวจากเหล่าทหารทั้งหลายได้ก็ปาไปเกือบสี่ทุ่มในภพเก่าของนางเย่วเย่วกำลังนั่งหลับพักเอาแรงหลังจากที่มารดามาอวยพรร่ำลากันกลับหมู่บ้านกับบรรดาป้าๆทั้งหลายกลับไปกันจนหมด นางก็อยู่กับนางกำนัลสองคนที่มีอายุสามสิบได้กระมังเย่วเย่วแอบกินนมกับขนมเพราะมีผ้าคลุมหน้านางไม่กลัวนางกำนัลเห็นหรอกนะ คนมันหิวกว่าด้านนอกจะรับแขกและกลับหมดพอดีหิวท้องร้องกันพอดี หยิบของออกมากินจนอิ่มนางก็นั่งหลับไปเลยเอาแรงดีกว่าถ่างตารอไม่ไหวหรอก เพราะเมื่อคืนนี้ท่านอ๋องของรางวัลทั้งคืนถ้านางไม่หลับก่อนคงสว่างคาตาแน่ๆเลย คนอะไรอึดเป็นบ้าขอให้ปล่อยก็ไม่ยอมหยุดจนนางหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ แล้วยังโดนลากมาทำพิธีทั้งวันอีกจนค่ำสองที่พักนอนงีบเอาแรงสักนิดก็ยังดีตัดมาที่ท่านอ๋องที่ตอนนี้กำลังโดนเหล่าทหารคนสนิทมอมเหล้าเพื่อกลั้นแกล้งให้เจ้านายเข้อหอไม่ไหวชนแก้วจอกต่อจอก จนเขาต้องใช้อุบายขอเข้าห้องน้ำพอปลีกตัวออกมาได้ก็เดินตัวปลิวไปที่ห้องหอในตำหนักใหญ่เลยป่านนี้เย่วเย่วคงจะรอแย่แล้ว อ๋องหนุ่มคิดไปยิ้มไปกับความน่ารักของภรรยาหมาดๆที่นางให้รางวัลกับเขาเมื่อคืนนี้จนแทบตายคาอกนาง แต่ใครจะอดใจไหวเล่าภรรยาน่ารักเสียขนาดน
ตอนนี้หัวสมองของสาวน้อยเย่วเย่วขาวโพลนไปหมดกับริมฝีปากหนาของชายคนรักที่ละเลงน้องสาวจนนางครางกระเส่าอย่างไม่อาย ชายหนุ่มนั้นตอนนี้ดูดดึงกุหลาบงามของสาวคนรักอย่างไม่รังเกียจนางสวยไปหมดจนเขาอดใจไม่ไหวอยากกลืนกินทุกอย่างที่เป็นนาง"เย่วเอ๋อร์คนดีร้องดังๆไปเลยพี่ชอบเห็นน้องมีความสุขที่สุุขเสียวไหมที่รัก" ชายหนุ่มเงยหน้ามาพูดกับนางแต่ก็ยังมีนิ้วแทนที่ปากเขาเขี่ยวนตรงปุ่มเสียวของนาง เย่วเย่วยกสะโพกลอยตามนิ้วร้ายของชายหนุ่มที่ละเลงแล้วแหย่เข้าไปที่ละนิ้ว พอถามนางจบเขาไม่คิดจะฟังคำตอบเพราะดูจากการตอบรับของสาวคนรักก็พอใจมากแล้ว ท่านออ๋องหนุ่มก้มหน้าลงฉกชิมกุหลาบงามตรงหน้าต่อจนร่างบอบบางเกร็งกระตุกสุขสมไปก่อนเพื่อเปิดทางให้มังกรตัวเขี่ยงเข้าไปในกุหลาบงาม ชายหนุ่มแยกขาของคู่หมั้นสาวออกจนกว้างก่อนจะชักรูดมังกรตัวเองถูกไถ่ก่อนจะค่อยๆกดเข้าไปทีละน้อย เยว่เยว่หัวขาวโพลนเพราะพึ่งเสร็จสมไปเพราะลิ้นร้ายของท่านอ๋องต้องสะดุ้งเพราะมีสิ่งใหญ่โตกำลังมุดเข้ากุหลาบของนางมาได้แค่ส่วนหัวนางแทบขาดใจทำไมมันใหญ่ขนาดนี้จะเข้าไปในน้องสาวของนางได้จริงๆหรือ"ท่านอ๋องเพคะ" นางเอามือยันหน้าอกแกร่งเอาไว้ก่อน"ท่านพี่เรียก
ตลอดเวลาหนึ่งอาทิตย์มีรถม้ามารับเซียวเย่วเย่วทุกวันในตอนเช้าเพื่อฝึกสาวน้อยที่จะแต่งเข้าตำหนักของท่านอ๋องซงตงหยางในอีกไม่นาน รอเพียงท่านอ๋องเดินทางกลับมาถึงที่อำเภอแห่งนี้ ท่านอ๋องปกครองครอบคลุมไปถึงชายแดนฉีเป่ยที่พึ่งรบจบศึกในตอนนี้นั้นเอง ตลอดเวลาเย่วเย่วก็ตั้งใจเรียนการเดินการนั่งการกินการพูดคุยพิธีการต่างๆที่ชนชั้นสูงต้องมีจนครบสิบวัน นางแทบจะรากเลือดกับสิ่งที่ฝืนกับสิ่งที่ตนเองไม่ถนัดแต่ก็ทำเพื่อหน้าตาของสามีในภายภาคหน้าจะได้ไม่อายใครว่าแต่งชายาบ้านนอกเข้ามาและไม่รู้เรื่องอะไรเลยในตอนค่ำของอีกวันหลังจากที่สามพ่อแม่ลูกกินมื้อค่ำอิ่มแล้วก็เตรียมตัวจะเข้านอนหลังจากที่นั่งย่อยอาหารที่หน้าบ้านเหมือนเช่นทุกวัน จนจะได้เวลาเข้านอนก็ได้ยินเสียงม้าวิ่งมาที่หน้าบ้านพร้อมกับเสียงเคาะประตูหน้าบ้านเสียงดัง"ท่านพ่อท่านแม่ข้ากลับมาแล้วขอรับ" เสียงเรียกที่หน้าบ้านมันเสียงของพี่ชายของนางชัดๆเลย"ท่านพ่อเสียงพี่ใหญ่เจ้าค่ะ" พูดจบนางก็วิ่งลงบ้านไปที่ประตูใหญ่เลยทันที บิดาวิ่งตามลูกสาวไปติดๆหลังจากที่บอกให้ภรรยานั่งรอที่นี้ห้ามวิ่งตามมาสั่งแล้วเขาก็วิ่งตามลูกสาวสาวไปที่หน้าบ้านเหมือนกันเซียวเย่วเย
"เซียวอี้ถังเปิดประตูบ้านเร็วๆเข้า" เสียงลุงผู้ใหญ่บ้านเคาะไม้เรียกเสียงดังลั่นที่ด้านหน้า"ขอรับๆข้ากำลังเปิดอยู่" ส่วนท่านแม่ยืนรอที่หน้าระเบียงบ้านพอเปิดประตูออกก็เห็นคนมากมายเต็มหน้าบ้านของนางไปหมด แม้แต่ท่านนายอำเภอยังมาเลยท่านพ่อกับเย่วเย่วก็ตกใจเหมือนกัน"มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรือท่านลุงทำไมคนมาบ้านของข้าเยอะขนาดนี้ละ" เซียวอี้ถังถามด้วยความสงสัยเหมือนกันส่วนเย่วเย่วนั้นนางตั้งสติแล้วรอฟังว่าทุกคนมีอะไรจึงมาหน้าบ้านของนางมากมายขนาดนี้มองคร่าวๆที่ด้านหลังนั้นอีกที่ชาวบ้านเดินตามกันมาจนจะหมดดทั้งหมู่บ้านเลยกระมัง นางคิดและมองดูคนที่แต่งตัวเป็นเหมือนขันทีในวังเหมือนในละครทีวีที่นางดูเป็นประจำทหารอีกเป็นร้อยรวมทั้งรถม้าหลายสิบคันที่จอดเรียงกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย"มีพระราชโองการจากองค์เหนือหัวถึงคุณหนูเซียวเย่วเย่ว" ทันทีเมื่อคำพูดถึงราชโองการจากผู้เป็นใหญ่เหนือแคว้นเยว่เยว่กับครอบครัวก็รีบคุกเข่ารอรับพระราชโองการทันที ชาวบ้านคนอื่นๆก็รีบยืนสำรวมรอฟัง "เซียวเย่วเย่วรับราชโองการคุณหนูเซียวเย่วเย่วทำความดีส่งเสบียงช่วยเหล่าทหารกล้าที่ไปรบที่ชายแดนกับท่านอ๋องซงตงหยางพระอนุชาของพร
สามพ่อแม่ลูกนั่งคุยกันได้สักพักเสียงร้องของเหยี่ยวที่ท่านอ๋องคอยส่งข่าวก็ร้องขึ้นบริเวณท้องฟ้าเหนือบ้านของนางเสียงดังก่อนที่เจ้าตัวจะบินร่อนลงมาที่หน้าระเบียงบ้านเย่วเย่วร้องตะโกนเสียงดังตั้งแต่ที่ได้ยินเสียงมันร้องตอนยังไม่เห็นตัวลงมาหน้าบ้านด้วยความดีใจ"โอ๊ะเจ้าเหยี่ยวมาแล้วเจ้าค่ะท่านพ่อท่านแม่" ทุกคนยิ้มด้วยความดีใจกับเสียงนกยักษ์ของท่านอ๋องที่มาส่งข่าวหลังจากหายไปนานมันลงมาถึงก็ยกขาให้เย่วเย่วดึงเอาจดหมายที่ผูกมาด้วยเป็นอย่างดีแล้วรับอาหารของตนกินเงียบๆที่ที่ประจำเย่วเย่วเอาจดหมายพี่ชายให้บิดามารดาของนางต่างหากท่านพ่อรีบรับไปอ่านให้ท่านแม่ฟังทันที่'ถึงท่านพ่อท่านแม่น้องเล็กขอโทษที่หายไปนานคงจะทำให้พวกท่านเป็นห่วงตอนนั้นกำลังสู้รบไม่ค่อยมีเวลาตอนนี้ชนะข้าศึกแล้วอีกไม่นานจะได้เดินทางกลับมาบ้านรักและถึงทุกคนขอรับ เซียวอี้เหอ'ท่านแม่ยิ้มแก้มปริพอได้ยินว่าลูกชายกำลังจะกลับมาในอีกไม่ช้า"ท่านพี่ข้าจะไปหาของกินอร่อยๆเอาไว้รอลูกของเราเจ้าค่ะพาข้าไปในห้องเสบียงหน่อยนะเจ้าคะ" นางรีบหันไปหาสามีเพื่อทำอาหารรอบุตรชายที่จากไปนับปี"น้องหญิงอาหารของเร
หลังจากที่จบศึกกับกับทางแคว้นฉีเป่ยแล้วท่านอ๋องก็ยกหน้าที่ให้รองแม่ทัพใหญ่คนสนิทประจำการที่ชายแดนแห่งนี้จัดการต่อ แล้วให้ทหารบางส่วนของพระองค์เอาไว้ให้ฝึกซ้อมยิงธนูและสอนทำธนูเพิ่มเอาไว้ใช้กองทัพทางชายแดนแห่งนี้ด้วย ให้เพียงพอต่อการศึกในครั้งต่อไปดีที่ได้มาหลายพันอันสามารถยิงคู่ต่อสู้ตกตายไปมากมายแถมที่จุ่มน้ำมันจุดไฟพอตกไปที่ศัตรูจึงเกิดไฟกลายเป็นทะเลเพลิงเผ่าไหม้ทหารแคว้นฉีเป่ยตกตายไปในสนามรบที่ผ่านมาตอนนี้ท่านอ๋องกับคนสนิทนับสิบคนเดินทางกลับไปหมู่บ้านฉีซานเรื่องสู่ขอเซียวเย่วเย่วนั้นเขาได้ส่งจดหมายบอกพี่ชายที่วังหลวงเรียบร้อยให้เตรียมงานอภิเษกสมรสได้เลยพอเขารบเสร็จศึกกับมาจะสู่ขอสาวคนรัก และได้เล่าเรื่องเสบียงที่นางช่วยเหลือตอนหิมะตกหนักเสบียงหลวงไปถึงล่าช้าไม่พอแถมยังน้อย จากที่จะมีพอให้ทหารนับแสนกลับมีหนอนในการส่งเสบียง ให้พี่ชายจัดการคนที่มีส่วนร่วมฉ้งโกงเสบียงในครั้งนี้ดีที่เซียวเย่วเย่วส่งเสบียงส่วนตัวของนางไปถึงสี่ครั้งจึงทำให้ทหารมีกินจนเพียงพอฮ้องเต้พอได้รับจดหมายจากน้องชายก็สั่งสอบตรวจสอบขุนนางที่มีหน้าที่ส่งเสบียงไปชายแดนและสำเร็จโทษขุนนางไปหลายคนข้อหาหนัก เพราะต้องการใ
นี้ก็หนาวเข้าเดือนที่สามแล้วข่าวคราวจากชายแดนหายเงียบไปเลยทำให้นางเป็นห่วงพี่ใหญ่กับท่านอ๋องมากเหมือนกัน"ท่านพ่อท่านแม่นี้ถ้าหมดหน้าหนาวลูกจะเดินทางไปที่ชายแดนแคว้นฉีเป่ยเพื่อจะช่วยพี่ชายกับท่านอ๋องได้หรือไม่เจ้าคะ" ไม่รู้ว่าติดปัญหาอันไดอยู่จึงจัดการแม่ทัพฝั่งตรงข้ามไม่ได้สักที"เย่วเอ๋อร์ลูกพูดอะไรเช่นนั้นจะทำให้แม่ใจสลายหรือข่าวจากพี่ชายของเจ้ายังไม่มาถึงเราหลายเดือนแล้ว ยิ่งลูกเป็นผู้หญิงจะเดินทางไปชายแดนได้อย่างไร" มารดาหันมาถามบุตรสาวด้วยความตกใจ"ท่านแม่ข้าก็อยากไปดูที่ชายแดนเหมือนกันว่าตอนนี้พวกเขามีอาหารการกินเพียงพอหรือไม่ ข้าจะนำไปเติมให้ท่านอ๋องกับพี่ใหญ่รวมถึงทหารทุกคนด้วยเจ้าค่ะท่านแม่" นางบอกเหตุผลให้มารดาฟังเผื่อท่านแม่จะใจอ่อนให้นางเย่วเย่วคิดในใจ"ไม่ได้ยังไงแม่ก็ไม่ให้ลูกไปรอไปอีกสักเดือนเถอะนะเย่วเอ๋อร์ไม่ใช่ว่าแม่ไม่เป็นห่วงพี่ใหญ่ของลูก แต่เจ้าเป็นหญิงสาวจะเดินทางไปในที่อันตรายแบบนั้นแม่ย่อมไม่ยินยอม" มารดาตอบเสียงแข็งและหันไปหาสามีให้ช่วยพูดกับบุตรสาวอีกทาง"เย่วเอ๋อร์พ่อว่ารออีกสักเดือนก่อนเถอนะลูกรักทางนั้นคงจะลำบากเหมือนกันกับหน้าหนาว หิมะยังมาตกหนักอีกดีนะท
นับตั้งแต่ที่ได้รับจดหมายจากชายคนรักนี้ก็ผ่านมาหกเดือนแล้ว ตอนนี้ยังไม่ได้รับจดหมายส่งมาอีกเลยนางคิดว่าตอนนี้คงกำลังสู้รบกันแล้ว ตอนนี้บ้านของนางได้เก็บเกี่ยวข้าวที่ปลูกทั้งร้อยหมู่นางได้ส่งไปให้ที่ค่ายทหารของท่านอ๋องทั้งหมดด้วยคนของท่านอ๋องที่อยู่ในอำเภอ สั่งเอาไว้ว่าถ้านางต้องการของฝากของไปให้ คนของท่านอ๋องจึงจัดการทำให้นางส่งเสบียงไปที่ชายแดนแคว้นฉีเป่ยได้กองทัพของท่านอ๋องซงตงหยางอาหารแห้งจำพวกปลาแห้ง เนื้อหมูแห้ง หน่อไม้แห้ง เห็ดแห้งนางส่งไปหลายคันรถม้า รถม้าที่คนของท่านอ๋องส่งมาให้ขนเสบียงไปชายแดนก็มาจากกองขนเสบียงจากค่ายทหารโดยตรง ที่ท่านอ๋องได้จัดการเอาไว้กับคนสนิทเพื่อขนเสบียงไปส่งกองทัพทุกเดือนอยู่แล้ว และนางยังคงปลูกข้าวต่ออีกเพื่อจะส่งไปชายแดนเหมือนเดิมทั้งได้ขอซื้อมูลสัตว์มาใส่ที่นาจากคนในหมู่บ้านและมาช่วยว่านปุ๋ยมูลสัตว์ที่นาข้าวของนาง เย่วเย่วคิดว่าจะปลูกข้าวงวดนี้แล้วจะหวานถั่วเขียวต่อเพื่อบำรุงดินก่อนจะว่านข้าวต่อไปสลับกันจนกว่าจะจบศึกที่ชายแดนแคว้นฉีเป่ยหลังกินมื้อค่ำอิ่มสามพ่อแม่ลูกก็นั่งย่อยอาหารที่หน้าระเบียงบ้าน บางวันก็เดินกันในบริเวณหน้าบ้านหรือก็คือรอเจ้าเหยี