“พี่หมอปล่อยนะ เดี๋ยวเด็กๆมาเห็น แล้วเอาไปคุยกันสนุกปาก” “รถพี่ติดฟิล์มดำ ไม่มีใครเห็นหรอก พี่แค่อยากกอดน้ำ อีกสักสองสามนาทีนะครับ นะ” น้ำเสียงชายหนุ่มออดอ้อน ก่อนที่ใบหน้าของชายหนุ่มจะซบที่หน้าอกสาว มือที่ลูบไล้เบาๆ ทำให้ต้นน้ำแทบขาดใจ แต่ก็อยากจะตามใจคนที่ตนเองรัก และตนเองก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ก็คิดถ
“คุณมาอยู่นี่ได้ไง แล้วคุณวิทย์ล่ะ” “วิทย์ก็กลับไปแล้วสิ อีกอย่างฉันเป็นเจ้าบ่าว ไม่ใช่นายวิทย์” กริชชัยตอบน้ำเสียงเคร่งขรึม ชายหนุ่มขยับเข้ามากใกล้ มือของชายหนุ่มยังจับที่เอวและสะโพก “ปล่อยนะ” กอหญ้ากระซิบสั่ง แววตาแข็งกระด้าง “ไม่ปล่อย นี่ไม่เห็นเหรอว่าช่างเขากำลังทำงาน” “อ๋อ รู้เหรอว่าคนอื่น
โรงพยาบาล เอกชนชื่อดัง ภายในแคนทีน เล็กๆในโรงพยาบาล ที่เปิดไว้สำหรับ แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่และญาติผู้ป่วย ต้นน้ำ จอย และแชมพู่ พยาบาลสามสาวที่จบมาในรุ่นเดียวกัน และได้ทำงานที่เดียวกัน สามสาว ถือถาดอาหาร น้ำ และขนมหวาน มาวางไว้ที่โต๊ะด้านหลังสุด “ตาย...พู่ แกดูดิ ฉันว่านะคุณหมอนิภา เนี่ยต้องชอบหม
ร้านกาแฟชื่อดัง ในห้างสรรพสินค้าใจกลางเมืองกรุงเทพฯ กอหญ้าเดินตรงเข้ามาที่ร้านที่ได้นัดหมายกับเพื่อนสาวคนสนิท หญิงสาวพึ่งเสร็จงานแฟชั่นโชว์ เมื่อได้รับแมสเสจว่า เพื่อนสาวคนสนิทอยู่ในที่เดียวกัน กอหญ้าก็แมสเสจนัดให้มาเจอกัน กอหญ้าขมวดคิ้วเมื่อเห็นนักบัญชีสาว กำลังนั่งคุยกับชายหนุ่มที่มองยังไงก็อายุ
ชั้นสาม เรือนหลังใหญ่ กอหญ้าก้าวขึ้นมาหัวใจเต้นแรง นานแค่ไหนแล้วนะที่ไม่ได้ขึ้นมาบนชั้นนี้ ภาพตนเองกับชายหนุ่ม ในอิริยาบถต่างๆ ตัดเข้ามาในช่วงคำนึง กอหญ้าหลับตาก่อนสะบัดศีรษะไปมาอย่างต้องการสลัดความทรงจำต่างๆออกไป ห้องทำงานของชายหนุ่มถูกเปิดออก กอหญ้าพยายามชะลอฝีเท้า ก่อนชะโงกเข้าไปเห็น กริชชัยยื
โรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง ต้นน้ำ ตรวจงานครั้งสุดท้ายก่อนจะปิดแฟ้มงานอย่างเรียบร้อย จอยเพื่อนพยาบาลสาวที่คืนนี้ มีเวรดึกเวรเดียวกัน เดินกลับมาหลังจากเอายาไปให้ผู้ป่วยห้องพิเศษ “หิวจังเลยน้ำ เดี๋ยวไปซื้ออะไรที่เซเว่น ข้างโรงพยาบาลมาทานกันไหม ตอนนี้ไม่มีผู้ป่วยแล้ว ทางสะดวก ยัยนก กับยัยมนหลับไปแล้ว” “ก็
บ้านพิพัฒนพงค์ กริชชัยเดินกลับเข้ามาพร้อมผ้าขนหนูและเสื้อยืดสีขาว ชายหนุ่มจ้องมองร่างของหญิงสาวที่นอนขดบนเตียงนอนของตัวเอง สายตาของชายหนุ่มเต็มไปด้วยความกังวล กริชชัยใช้มือจับที่หน้าผากเบาๆกอหญ้าใช้มือปัดมือ อย่างหงุดหงิดแล้วเมื่อผ้าขนหนูเปียกที่ชุบโคโลญจน์ สัมผัสใบหน้า หญิงสาวเกิดอาการคลื่นไส้อีกค
โรงพยาบาล ต้นน้ำ วางชามที่อ่างน้ำ ก่อนจะลงมือล้างเบาๆ อนวินท์หันไปมองเสี้ยวหน้าของหญิงสาวที่เรียบเฉย ไม่มีรอยยิ้มหวานที่เห็นเป็นประจำ อนวินท์ขมวดคิ้ว พลางเอ่ยถามอย่างข้องใจ “ยังทานไม่หมดเลย ไม่อร่อยเหรอครับ” ต้นน้ำ นิ่ง ก่อนตอบ “อิ่มค่ะ” “โกรธอะไรผมหรือเปล่า” “หมอทำอะไรให้น้ำโกรธหรือเปล่าล่ะคะ”
“ขอเวลา สี่ห้าวันให้พ่อกับแม่ฮันนีมูนกันหน่อยนะ แล้วจะกลับไปรบกับลูกต่อ” อดิศวรหันกลับมาจับที่ไหล่ภรรยาสาวให้มาเผชิญหน้า ส่งสายตาหวานฉ่ำ “อะไรคะเนี่ย ลูกห้าแล้วนะ ยังจะหวานอีก” ยาริกายิ้มเขิน “หวานแบบนี้ตลอดไปครับ จะรักยิ่งๆ ขึ้นไปเชื่อไหมแยม แต่ตอนนี้ผมขอเบรคสักห้าวัน ฝากลูกไว้กับปู่ยา และทวดๆ ก่
ภายในห้องรับประทานอาหาร อดิศวรกำลังสอนให้ อ้น อัคราวัฒน์ ตักอาหารกินเอง ในขณะที่ยาริกากำลังป้อนข้าวให้อั๋น อัคราวุธยาริกาหันไปมองสามีที่กำลังสอนแฝดพี่อย่างใจเย็น “อ้น หัดทานข้าวเองครับ ตักแบบนี้พ่อตักให้ดู” อดิศวรสอนอย่างใจเย็น “โถ คุณศวร ลูกยังเล็กอยู่เลย แยมอยากป้อนข้าวลูก” “ผมอยากให้ลูกช่วยต
สามปีต่อมา ยาริกามองภาพพ่อและลูกๆ ที่วิ่งเล่นกันที่สนามอย่างมีความสุข นึกย้อนไปเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา งานแต่งงานของเธอกับอดิศวรจัดอย่างยิ่งใหญ่ โดยมีลูกแฝด ทั้งสอง อ้น และ อั๋น อัคราวัฒน์ และ อัคราวุธ กรณ์วิภาคและตอนนี้เธอกำลังตั้งครรภ์อ่อนๆ อีกหกสัปดาห์ จำได้ว่าหลังจากอดิศวรรู้ก็รีบจัดงานแต่งงาน แบ
“แยมแน่ใจนะว่าจะไม่อันตรายกับลูก ศวรกลัวว่า..” อดิศวรจ้องมองตาภรรยาสาว ถามย้ำเพื่อความแน่ใจ ยาริกาพยักหน้าเบาๆ ยิ้มเขิน พร้อมกับกอดชายหนุ่มกระชับ “ก็อย่ารุนแรงสิคะคุณพ่อ ทำเบาๆ หมอก็ไม่ห้ามหรอกค่ะ นอกจากจะหกอาทิตย์ก่อนคลอดหรือเปล่า แยมไม่แน่ใจ” ยาริกาใช้เล็บกรีดเบาๆ ที่หน้าอก “คุณเรียกผมว่า “คุณพ่อ
ยาริกาน้ำตาไหลตลอด ด้วยความตกใจ ซึ้งใจ ตื่นเต้น มีความสุข ไม่รู้ความรู้สึกไหนมาก่อนแต่มันผสมปนเปกันไปหมด หญิงสาวพยักหน้าๆ ยกมือปิดปาก รับดอกไม้แล้วสวมกอด ท่ามกลางเสียงเชียร์จากเพื่อนๆ ร่วมรุ่น และอีกหลายชั่วโมงต่อจากนั้น มิตติ้งร่วมรุ่นท่ามกลางทะเลแสนสวย และเพื่อนสนิท ทำให้ปาร์ตี้เต็มไปด้วยความสนุกส
สามวันผ่านไป หลังจากประชุมผู้แทนประกอบการโรงแรมที่มิลานสามวัน ยาริกาเพิ่งเห็นมาดบอสของอดิศวรเป็นครั้งแรกเวลาเค้าจริงจังกับการทำงานทำให้เค้าดูมีเสน่ห์ หญิงสาวมองสามีอย่างภาคภูมิใจ ตลอดสามวันที่มีนัดตลอดทั้งวัน ตารางแน่นมากๆ ทำให้แทบจะไม่มีส่วนตัวกันเลย วันนี้ยาริกามีความหวังว่าคงได้ไปเดินเล่นในเมือง
ยาริกาตกใจแทบสิ้นสติ เมื่ออดิศวรทรุดตัวลงไปนั่งกับพื้น แถมจับมือเธอไว้แน่น ยาริกาพยายามบิดมือหนีพร้อมหันไปซ้ายขวาว่ามีใครมองอยู่ไหม มีคนมองอยู่สองสามคน หญิงสาวใบหน้าร้อนด้วยความอายรีบกระตุกมือหนี แต่ชายหนุ่มจับไว้จนแน่น “นี่ คุณศวร ทำบ้าอะไร คุกเข่าทำไม...บ้าหรือเปล่า” ยาริกากัดฟันพูดเบาๆ “แยม ..
ระหว่างขับรถกลับบ้าน ยาริกาเงียบมาตลอดทาง พอๆ กับอดิศวร ก็เงียบเช่นเดียวกัน ตั้งแต่รถออกจากโรงพยาบาล เมื่อรถเลี้ยวเข้าสู่บ้าน เมื่อรถจอดนิ่งสนิทที่โรงจอดรถ อดิศวรนั่งรวบรวมสมาธิก่อนพูดกับภรรยาสาวอย่างใจเย็น “สรุป ยังไงคุณก็จะไปประชุมกับคุณกริชที่อิตาลีแน่ๆ ไม่เปลี่ยนใจ รู้ไหมการเดินทางไกลอาจเป็นอัน
ท่านผู้หญิงแพรวมองดูหลานสะใภ้กับหลานชาย สายตาเต็มไปด้วยความสุข คิดวาดฝันว่าอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า หลานคนเล็กของตระกูลจะลืมตาดูโลก แค่นี้ท่านก็ยิ้มออกแล้ว ถึงแม้จะมีอาการเจ็บไข้อย่างผู้ป่วยสูงอายุ พอนึกถึงหลานที่จะเกิดขึ้นมาทำให้ท่านผู้หญิงไม่ยอมแพ้กับโรคภัย หมั่นไปหาหมอและกินยาตามที่หมอสั่งทุกประการ