Share

บทที่ 737

Penulis: ซินต้งหรูสุ่ย
เดิมถังหมิงเซวียนก็เป็นคนรูปงามอยู่แล้ว ยิ่งมาสวมใส่เสื้อชุดใหม่นี้ ก็ยิ่งเสริมความเป็นผู้ดีมีตระกูลให้เขามากขึ้น

“แม่นางเหยียน ฝีมือเจ้าไม่เลวจริงๆ เสื้อผ้าชุดนี้ข้าใส่แล้วพอดีกับตัวมาก”

ถังหมิงเซวียนกล่าวชมจากใจจริง

เมื่อครู่อยู่ในห้อง เขาได้มองผ่านคันฉ่อง ว่าตนใส่ชุดนี้แล้วผลจะเป็นอย่างไร

พูดแล้วจะหาว่าชมกันเอง ฝีมือว่าที่ภรรยาของเขาช่างยอดเยี่ยมนัก

เหยียนซวงก็พอใจฝีมือตนเองเช่นกัน นางจึงยิ้มให้ถังหมิงเซวียน

“คุณชายถังใส่พอดีก็ย่อมจะดีมาก ข้าจะได้ไม่ต้องแก้ไขใหม่”

ทั้งคู่ถามไถ่ทุกข์สุขตามมารยาทเล็กน้อย ในที่สุดถังหมิงเซวียนยังคงอดใจไม่ไหว ซักถามในสิ่งที่กังขาอยู่

“แม่นางเหยียน ข้ามีเรื่องจะถามเจ้า เห็นคุณชายเหยียนบอกว่า เมื่อครู่เจ้าไปส่งเสื้อให้พี่เสิ่น”

“พี่เสิ่นท่านนี้คือผู้ใด และเขาเป็นอะไรกับเจ้า?”

ถังหมิงเซวียนจ้องมองเหยียนซวงด้วยแววตาเป็นประกาย และหาได้ตระหนักไม่ว่า คำถามของตนมีความละลาบละล้วงเพียงใด

ทันใดนั้นเหยียนซวงก็มีใบหน้าเย็นชา

“คุณชายถัง เรื่องที่ไม่ควรรู้โปรดอย่าได้ซักถามมากนัก ในเมื่อได้เสื้อผ้าแล้ว ก็เชิญท่านกลับไปเถิด”

ถังหมิงเซวียนไม่คาดคิดว่า เหยียน
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 738

    ต่อมานางถูกอารองจับขายให้แก่ชายชราวัยห้าสิบกว่าผู้หนึ่งจึงยิ่งไม่มีแก่ใจไปตามหาหมอเทวดาถังอีกได้แต่พาเหยียนอวี่ซึ่งยังป่วยอยู่ หลบหนีมาอยู่เมืองอินเป่ยโดยไม่คาดคิดว่า แม้จะอยู่ในเมืองที่ถูกปิดกั้นแห่งนี้ ก็ยังได้มาพบหมอเทวดาถังตัวจริงเข้าเหยียนซวงรู้สึกตื้นตันใจยิ่ง พร้อมลบล้างความรู้สึกไม่พอใจเมื่อครู่นี้ไปหมดสิ้น“ท่านหมอถังคงยังไม่ได้กินอาหารเช้า ถ้าอย่างไรอยู่กินก่อนแล้วค่อยไปเถิด”เหยียนซวงกล่าวพลางรีบวิ่งไปยังห้องครัวเพื่อทำอาหารเมื่อเช้านี้นางยังไม่ทันได้ทำอาหาร ก็คิดว่าจะนำเสื้อตัวใหม่ที่เพิ่งตัดเย็บเสร็จไปมอบให้แก่คุณชายใหญ่แห่งตระกูลเสิ่นก่อนหน้านี้เสิ่นจือเจิ้งคิดจะไปอำเภอไถหยางซื้อเสื้อชุดใหม่มาสับเปลี่ยนแต่ได้ยินเซียงเสวี่ยกล่าวว่า แม่นางเหยียนซวงที่อยู่ข้างบ้านมีฝีมือในการตัดเย็บเสื้อผ้าเก่งนักถ้าให้ดีไปจ้างนางตัดชุดใหม่ ดีกว่าไปซื้อที่อำเภอไถหยางซึ่งอยู่ห่างไกลเสิ่นจือเจิ้งไม่คัดค้าน จึงให้เซียงเสวี่ยไปพาเหยียนซวงมาพบ เพื่อให้นางวัดตัวตัดชุดใหม่ให้เขาและเสิ่นจืออวี้ด้วยเมื่อคืนหลังจากเหยียนซวงตัดเสื้อสองตัวเรียบร้อย รุ่งขึ้นจึงรีบนำไปส่งทันทีโดยไม

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 739

    ครั้นเมื่อเห็นถังหมิงเซวียนจ้องมองนางเขม็ง จึงได้แต่กล่าวตอบ “อันอันเดินทางไกล อีกนานกว่าจะกลับมา”ถังหมิงเซวียนไม่รู้คำว่าเดินทางไกลคือหมายถึงไปที่ใด ตามหลักหากเพียงแค่เข้าเมือง ก็ไม่นับว่าเดินทางไกลมากนักเว้นเสียแต่เจี่ยนอันอันออกจากเมืองอินเป่ย แต่กลับไปที่อื่นมากกว่าแต่พอเขามาอยู่เมืองอินเป่ยจึงได้รู้ ว่าประตูเมืองถูกปิดแน่น ผู้ใดก็ห้ามเข้าออกเป็นอันขาดแล้วเจี่ยนอันอันจะออกจากเมืองอินเป่ยได้อย่างเปิดเผย ไปอยู่ที่อื่นได้อย่างไร?แต่เมื่อเห็นเหยียนซวงไม่ยอมพูดความจริง เขาจึงไม่กล้าถามมากความอีกเหตุเพราะเมื่อครู่เขาเองก็ใจร้อนเกินไป ถามในสิ่งที่ไม่ควรถาม จึงทำให้เหยียนซวงไม่พอใจนักถ้ายังไปซักไซ้ไล่เลียงจนทำให้นางโกรธอีก เห็นทีอาหารมื้อนี้เขาคงไม่ต้องกินอีกแล้วไม่นานทั้งสามคนก็กินข้าวจนอิ่ม เหยียนซวงลุกไปล้างชาม ยังได้ยินถังหมิงเซวียนกับเหยี่ยนอวี่พูดคุยอยู่ลานบ้านถังหมิงเซวียนถามเขา “โรคของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง ตอนนี้ดีขึ้นหรือยัง?”เหยียนอวี่ไม่เข้าใจว่าเหตุใดถังหมิงเซวียนจึงได้ถามเรื่องนี้ขึ้นมา แต่ยังคงตอบตามตรง “โรคของข้าได้รับการรักษาจากแม่นางเจี่ยนจนหายดีแล้ว”“เ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 740

    แม้ว่าถังหมิงเซวียนและคู่หมั้นนางต่างมาจากแคว้นหนิงชวนเช่นกัน แต่ก็มิได้แปลว่าทั้งคู่จะเป็นคนคนเดียวกันเหยียนซวงแอบนึกดีใจเสียด้วยซ้ำ เคราะห์ดีที่คู่หมั้นนางไม่ใช่ถังหมิงเซวียน หาไม่แล้วด้วยชาติกำเนิดของนาง คงไม่คู่ควรกับถังหมิงเซวียนเป็นแน่แท้ถังหมิงเซวียนไม่เพียงเป็นหมอเทวดาเลื่องชื่อแห่งแคว้นหนิงชวน เมื่อครู่จากการเอ่ยปากของเขา ยังได้กล่าวถึงคนในครอบครัวอีกต่างหากเขามีบิดาเป็นขุนนางในวัง ส่วนมารดาก็เป็นธิดาของพ่อค้าใหญ่ในแคว้นหนิงชวนมีปูมหลังที่ยิ่งใหญ่ถึงเพียงนี้ ส่วนตัวเขาเองก็เป็นหมอเทวดาอันเลื่องชื่อครั้นหันมามองดูนางบ้าง กำพร้าทั้งบิดามารดา ไปใช้ชีวิตอยู่กับอารองและอาสะใภ้อารองมิได้เมตตาต่อนางและเหยียนอวี่แม้แต่น้อย ซ้ำยังเห็นแก่เงินเพียงห้าสิบตำลึงจนยอมขายนางทิ้งไปเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว นางกับเขาย่อมเหมือนอยู่กันคนละโลกโดยแท้หากไม่เพราะนางหนีแต่งงานจนมาถึงเมืองอินเป่ย คงไม่ได้รู้จักกับครอบครัวเสิ่นจือเจิ้งและเจี่ยนอันอันและยิ่งไม่ได้พบหมอเทวดาเช่นถังหมิงเซวียนหลายวันนี้ความใส่ใจของเหยียนซวงล้วนไปอยู่ที่เสิ่นจือเจิ้งเพียงผู้เดียว แต่อีกฝ่ายกลับเย็นชาต่อนาง ห

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 741

    เขาเห็นเสิ่นจือเจิ้งมีท่าทีเย็นชาต่อเหยียนซวง ในขณะที่เหยียนซวงมองอีกฝ่ายด้วยสีหน้าแดงระเรื่อถังหมิงเซวียนแบะปากเล็กน้อย พลางคิดในใจว่าหนุ่มผู้นี้ช่างเล่นตัวนัก คนประเภทนี้ไม่คู่ควรกับเหยียนซวงเห็นทีว่าเขาต้องพยายามให้มากกว่านี้ เผื่อว่าสักวันเหยียนซวงจะหน้าแดงเวลามองเขาบ้างเมื่ออำลาเหยียนซวงแล้ว ถังหมิงเซวียนจึงขึ้นหลังม้าควบไปทางอำเภอไถหยางเหยียนซวงยังคงยืนอยู่หน้าประตู สายตามองไล่หลังเสิ่นจือเจิ้งไปเหยียนอวี่กระตุกแขนเสื้อของนาง “พี่หญิง อย่าดูอีกเลย พี่เสิ่นไม่เห็นท่านอยู่ในสายตาหรอกตามความเห็นข้า คุณชายถังยังจะดีมากกว่า”“เจ้าอย่าได้กล่าวเหลวไหล และห้ามจับคู่ส่งเดช คุณชายถังเป็นถึงหมอเทวดา จะมาชอบพอข้าได้อย่างไร”เหยียวซวงถลึงตาใส่เหยียนอวี่ด้วยอารมณ์หงุดหงิด พลางหันหลังเดินเข้าเรือนไปหลายวันนี้เหยียนอวี่ย่อมจะดูออก ว่าผู้เป็นพี่มีใจให้เสิ่นจือเจิ้งแต่เสิ่นจือเจิ้งแทบไม่เห็นนางอยู่ในสายตาเลยนางยังคงเสนอหน้าไปเอาอกเอาใจไม่เลิก รังแต่ทำให้อีกฝ่ายเกิดความรำคาญใจมากกว่าเหยียนอวี่กลับมองว่าถังหมิงเซวียนเป็นคนไม่เลวนักพวกเขาขายเสื้อผ้าในราคาสูงถึงเพียงนั้น ถังหมิ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 742

    พวกเขาต้องกลับไปเมืองอินเป่ยให้เร็วที่สุด หาไม่ถ้าถูกทหารพบเห็นเข้ากลางทาง คงมิวายต้องเกิดการนองเลือดขึ้นอีกรถม้าสามคันออกจากอำเภอไปอย่างรวดเร็ว มุ่งหน้าไปทางเมืองอินเป่ยขณะรถม้าสามคันกำลังเร่งเดินทางอยู่นั้น จู่ๆ เหนือท้องฟ้าขึ้นไปพลันมีเสียงกู่ร้องเจี่ยนอันอันเลิกผ้าม่านรถขึ้นมอง จึงเห็นนกแร้งสองตัว กำลังบินฉวัดเฉวียนอยู่กลางอากาศซึ่งเจี่ยนอันอันจำนกแร้งสองตัวนี้ได้ เป็นนกที่ฉู่ชางเหยียนเลี้ยงดูอยู่ในวังหลวง“นกแร้งหัวโกร๋นสองตัวนี้ไม่อยู่ในวัง บินมาที่นี่ทำไมกัน?”เจี่ยนอันอันบ่นพึมพำเบาๆ แต่ยังถูกฉู่จวินสิงได้ยินเข้า“ข้าจะไปยิงลงมาเดี๋ยวนี้” ฉู่จวินสิงกล่าว และจะสั่งให้รถม้าหยุดเดินทางเจี่ยนอันอันแสดงท่าทีให้เขาอยู่เฉยไว้ก่อน “รอดูอีกสักครู่ หากนกแร้งสองตัวนี้คิดมาปองร้ายเรา ค่อยสอยลงมาย่างกินก็ยังไม่สาย”เจี่ยนอันอันรู้สึกว่านกสองตัวนี้ไม่ได้ถูกฉู่ชางเหยียนบงการให้มา แต่เป็นเพราะพวกมันบินมาเองต่างหากเพราะฉู่ชางเหยียนไม่รู้ว่าพวกเขายังมีชีวิตอยู่ จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะส่งนกแร้งมาจับตาดูความเคลื่อนไหวของพวกเขาฉู่จวินสิงไม่คัดค้าน จึงนั่งลงอย่างวางใจต่อไปส่วนนกแร้ง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 743

    เจี่ยนอันอันคลี่ม้วนกระดาษออก พลันเห็นอักษรเขียนอยู่สองแถว“อันอัน จวินสิง นกแร้งสองตัวนี้ถูกจื่อซีฝึกฝนมา วันหน้าจะเป็นกำลังสำคัญในการช่วยเหลือพวกเจ้า”เจี่ยนอันอันอ่านถึงตรงนี้ พลันสีหน้าผุดรอยยิ้มออกมานางยื่นกระดาษให้ฉู่จวินสิงได้อ่าน ทั้งคู่ต่างรู้สึกยินดีปรีดานี่คือนกแร้งที่ฉู่ชางเหยียนเลี้ยงอยู่ในวังมาหลายปี กลับถูกฉู่จื่อซีฝึกซ้อมจนเชื่องได้อีกทั้งให้พวกมันกลืนกระดาษลงคอตั้งหลายวัน ยังไม่มีผู้ใดพบเห็นพวกมันก็อดทนอยู่นาน จนในที่สุดก็ได้คายกระดาษออกมา ส่งมอบให้แก่เจี่ยนอันอันช่างลำบากนกแร้งสองตัวนี้นักหากจะบอกว่าเพราะพวกเขาผ่านการแปลงโฉมมา คนอื่นจะไม่รู้ฐานะที่แท้จริงแต่นกแร้งไม่เหมือนกัน พวกมันสามารถใช้การดมกลิ่น จนรู้ฐานะแท้จริงของเจี่ยนอันอันและฉู่จวินสิงอีกทั้งเมื่อเจี่ยนอันอันลักลอบเข้าไปในห้องทรงอักษร นกแร้งสองตัวนี้ก็จำกลิ่นได้ อีกทั้งด้วยสายตาแหลมคมของพวกมัน จึงรู้ว่านั่นคือเจี่ยนอันอันนานแล้วแต่ในเมื่อได้รับการฝึกสอนจากฉู่จื่อซี พวกมันก็ต้องเชื่อฟังฉู่จื่อซีมากกว่าแม้ว่าจะอยู่ในห้องทรงอักษร พวกมันก็ทำตามคำสั่งฉู่จื่อซี ทำให้ฉู่ชางเหยียนหลงเชื่อฉู่ช

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 744

    เจี่ยนอันอันลืมตาขึ้นโดยพลัน จึงเห็นฉู่จวินสิงกำลังจ้องมองนางด้วยความห่วงใยอยู่และสายตายังมองไปถึงหน้าท้องนางด้วยเจี่ยนอันอันเพิ่งตระหนักว่าเพราะเมื่อครู่แอบถอนหายใจ จึงทำให้ฉู่จวินสิงเข้าใจนางผิดไปนางยิ้มจนเห็นฟัน “ข้ามิได้เจ็บป่วยอันใด ลูกในท้องก็ยังไม่เป็นตัว ท่านไม่ต้องกังวลมากนัก”“เช่นนั้นเมื่อครู่ เหตุใดเจ้าจึงถอนหายใจ?” ฉู่จวินสิงยังคงห่วงใยต่อสุขภาพของเจี่ยนอันอันเพราะยามนี้นางกำลังตั้งครรภ์ อีกทั้งหลายวันนี้ก็ติดตามเขาเดินทางรอนแรมไปหลายแห่งหากนางรู้สึกไม่สบายแห่งใดจริง คงไม่ยอมเอ่ยปากพูดโดยง่ายฉู่จวินสิงเริ่มรู้นิสัยเจี่ยนอันอันมากขึ้น นางเป็นหญิงที่เข้มแข็งมาโดยตลอดไม่เคยแสดงการออดอ้อนฉอเลาะออกมาให้เห็นต่อให้มีกิจกรรมบนเตียงกับเขา ถูกเขาตักตวงความสุขเสียจนอ่อนแรงหรือแม้กระทั่งปวดหลังเมื่อยเอว ก็หาได้ปริปากโอดครวญแม้แต่สักครั้งไม่และครั้งนี้ ฉู่จวินสิงก็เชื่อว่าเพราะนางเกรงว่าเขาจะเป็นห่วง จึงบอกว่าตนไม่เป็นไรมากเจี่ยนอันอันมิได้เอ่ยถึงเรื่องราวในคลังอาวุธ นางจึงกล่าวมุสา“ข้าถอนใจเพราะเราไม่อาจเดินทางต่อด้วยทางหลักอีก การมาทางอ้อมเช่นนี้ เกรงว่าอาจต้อง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 745

    ในขณะที่เครื่องแต่งกายของเจี่ยนอันอันและฉู่จวินสิง ก็ดูค่อนข้างหรูหราอยู่หากบอกว่าตนเป็นพ่อค้าเร่ ก็พอเชื่อถือได้บ้างผู้เป็นหัวหน้าทหารมองด้วยสายตาเย็นชา พร้อมกล่าวเสียงเย็น “กินข้าวอิ่มแล้ว ให้รีบไปจากที่นี่ซะบริเวณนี้มักมีสัตว์ป่าออกมาเพ่นพ่าน หากเกิดเรื่องอันใดขึ้น อย่าหาว่าข้าไม่เตือนพวกเจ้าก่อนล่ะ”ขณะพูดนั้น ยังได้เหลียวมองนกแร้งสองตัวที่อยู่ไม่ไกลนักดีที่บริเวณนั้นพอมีเนื้อดิบให้พวกมันได้แบ่งปัน หาไม่มนุษย์กลุ่มนี้อาจกลายเป็นอาหารอันโอชะของพวกมันก็ได้เจี่ยนอันอันรีบกล่าวขอบคุณ พร้อมบอกว่าหลังกินข้าวเสร็จจะรีบเดินทางต่อทันทีหัวหน้าทหารเห็นพวกเขาล้วนเป็นคนแปลกหน้า ไม่ใช่คนที่ต้องการจะจับตัวเมื่อกล่าวจบจึงพูดกับทหารอื่น “พวกเราไปเถิด”ทหารทั้งกลุ่มขี่ม้าจากไป เจี่ยนอันอันโยนเนื้อดิบให้นกแร้งสองตัวกินเพิ่มอีกเมื่อกินข้าวเสร็จแล้ว ทุกคนพักผ่อนครู่หนึ่งแล้วจึงขึ้นรถม้าเดินทางต่อไปหลังจากพ้นเส้นทางลัดแล้ว ก็มาถึงทางหลวงเช่นเดิมนกแร้งสองตัวก็เห็นใจเหล่ามนุษย์ จึงไม่ได้นำพาพวกเขาไปยังทางลัดอีกหลังจากพวกมันบินจนเหนื่อย ก็จะไปพักผ่อนที่หลังคารถม้าเพราะมีนกแร้งสองต

Bab terbaru

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 821

    แต่ไม่ว่าเขาออกแรงมากเท่าไรก็ไม่อาจผลักหินยักษ์ออกไปได้ก่อนหน้านี้ที่นี่ก็เคยเกิดการถล่มมาก่อน แต่ไม่ได้หนักหนาเท่าครั้งนี้หากยังไม่ช่วยคนข้างในออกมา เกรงว่าเด็กสองคนนั้นคงต้องจบชีวิตลงที่นี่จริงๆ แล้วเจี่ยนอันอันขมวดคิ้วมุ่น นางพลันก้าวออกมาบริเวณหน้าถ้ำแล้วออกแรงผลักหินยักษ์ก้อนนั้นแต่หินยักษ์หนักเกินไป นางผลักอยู่หลายทีแต่ก็ไม่สามารถทำให้หินยักษ์นั้นขยับเขยื้อนได้เลยฉู่จวินสิงก็รีบเดินเข้ามาหา เขาให้เจี่ยนอันอันถอยออกไปแล้วรวบรวมกำลังภายในฟาดฝ่ามือใส่หินยักษ์ก้อนนั้นอย่างหนักหน่วงครั้นฝ่ามือนั้นฟาดลงไป หินยักษ์ก้อนนั้นเพียงสั่นคลอนไม่กี่ที แต่ก็ไม่ได้ถูกกำลังภายในทะลวงไปได้ขณะที่ทุกคนไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดีนั่นเอง เจี่ยนอันอันพลันกวาดตามองคลังอาวุธในมิติครุ่นคิดว่าสามารถหยิบระเบิดออกมาจากในนั้นสักลูกได้หรือไม่โชคดีที่ตอนที่นางช่วยสองแม่ลูกสกุลเฉียวต่อกรกับเฝิงซานกวงก่อนหน้านี้ คลังอาวุธได้เลื่อนขั้นอย่างเงียบๆคำประกาศปรากฏขึ้นในมิติ : [ระดับคลังอาวุธ 50 สามารถหยิบอาวุธได้สองชนิด]เจี่ยนอันอันนึกยินดี นางรีบบอกให้ทุกคนหลบไปนอกเหมือง แม้แต่ฉู่จวินสิงก็ให้ออกไปจากตร

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 820

    เจ้าเมืองตานประสานมือต่อเจี่ยนอันอันและฉู่จวินสิง “เรื่องราวได้จบลงแล้ว ข้าน้อยคงต้องขอกลับจวนไปไต่สวนเรื่องนี้ต่อ ขอลาแต่เพียงเท่านี้”เจี่ยนอันอันประสานมือตอบเช่นกัน “ท่านค่อยๆ เดิน ไม่ส่งแล้ว อย่างไรคงต้องรบกวนท่านให้ความเป็นธรรมแก่เรื่องนี้”“ข้าน้อยทราบดี” เจ้าเมืองตานกล่าวพลางขึ้นรถม้าไปพร้อมกับถอนหายใจหนักหน่วงอีกครั้งเหตุใดเขาจึงมีหลานชายที่ชอบก่อเรื่องนี้เช่นนี้หนอ? ช่างไม่ยอมปล่อยให้เขาได้อยู่สบายบ้างเลยรอจนเจ้าเมืองตานจากไปแล้ว เจี่ยนอันอันจึงหันมามองเหล่าบริวารของเฝิงซานกวงอีกครั้งซึ่งทุกคนต่างก็รู้ว่า ยามนี้ในเหมืองได้เปลี่ยนเจ้าของใหม่แล้วพวกเขาจึงไม่กล้าทำส่งเดชอีก ได้แต่ก้มหน้าก้มตายืนนิ่งอยู่เจี่ยนอันอันกล่าวเสียงเย็นชา “พวกเจ้ามัวยืนเซ่อหาอันใดอีก ที่นี่ไม่ใช่ถิ่นของเฝิงซานกวงอีกแล้ว แต่ละคนจงรีบไสหัวไปให้พ้น”“หากวันหน้าข้าได้รู้ว่า พวกเจ้ากลับมาก่อเรื่องที่นี่อีก ข้าจะให้มีจุดจบเช่นเดียวกับเฝิงซานกวง”บรรดาลูกน้องเฝิงซานกวงเห็นว่าบัดนี้คงได้ตกงานเป็นแน่แท้ต่อไปจะรับเงินใต้โต๊ะคงไม่มี ยิ่งอย่าหมายว่าคิดลักขโมยแร่หินในเหมืองออกไปขายบ้างจึงต่างพากัน

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 819

    แต่เรื่องนี้หากจะว่าไป ก็ล้วนเป็นความผิดของเฝิงซานกวงหากเขามิได้แอบใช้แรงงานเด็ก เจี่ยนอันอันก็ไม่อาจใช้เพียงหนึ่งร้อยตำลึง มาซื้อเหมืองแร่แห่งนี้ได้ไม่ทันรอให้เจ้าเมืองตานได้กล่าวตอบ เฝิงซานกวงกลับโมโหขึ้นก่อน “นังตัวดี อย่าถือว่าเคยเป็นอดีตชายาเยียนอ๋องมาก่อน ก็จะใช้เงินเพียงหนึ่งร้อยตำลึงมาซื้อเหมืองของข้าได้”“ขอบอกให้รู้ เหมืองแห่งนี้ข้าเป็นคนขุดขึ้นเอง จะไม่มีวันยอมขายให้เจ้าเด็ดขาด”เจี่ยนอันอันมองหน้าเฝิงซานกวงด้วยแววตาดูหมิ่น สีหน้าเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน“ฟังนะเฝิงซานกวง บัดนี้เจ้ากลายเป็นนักโทษแล้ว มีสิทธิ์อันใดมาเพ้อเจ้อไร้สาระกับข้าอีก”เฝิงซานกวงโกรธจนสุดจะทนไหว พลันกระอักโลหิตออกจากปากทันทีพร้อมพาเอาฟันหน้าสองซี่ที่ถูกต่อยร่วงเมื่อครู่นี้ออกมาด้วยเจ้าเมืองตานรู้ดีว่าไม่อาจสู้เจี่ยนอันอันกับฉู่จวินสิงได้ อีกทั้งเรื่องนี้ก็เป็นความผิดของเฝิงซานกวงจริงว่าตามกฎหมายแล้ว เมื่อเฝิงซานกวงทำผิดเช่นนี้ เหมืองของเขาก็ควรจะถูกทางการยึดคืนดังนั้นเจี่ยนอันอันจึงได้มาพูดกับเขา ว่าจะขอซื้อเหมืองแห่งนี้ไว้เองอีกทั้งเฝิงซานกวงก็ไม่มีสิทธิ์ชอบธรรม ที่จะยับยั้งการซื้อขายของ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 818

    “นี่คือสัญญาฉบับใหม่ที่ข้าเพิ่งเขียนขึ้นมา ทั้งเฝิงซานกวงและเฉียวซื่อต่างได้ลงชื่อเรียบร้อย”“จึงอยากให้ท่านเจ้าเมืองได้ลงชื่ออีกคน เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว วันหน้าเฝิงซานกวงจะได้ไม่กล้าบิดพลิ้วไปล่วงเกินเฉียวซื่ออีก”เจ้าเมืองตานมองดูข้อความในสัญญาฉบับใหม่ เห็นเนื้อหาล้วนสมเหตุสมผลดีอีกทั้งเรื่องนี้ก็ถือเป็นความผิดของเฝิงซานกวงก่อน จึงยอมรับพู่กันมา พร้อมทั้งเขียนชื่อตนเองลงไปเจี่ยนอันอันยิ้มๆ พร้อมนำแป้นประทับตรา มอบให้เจ้าเมืองตานได้ประทับลายนิ้วอีกซ้ำอีกสัญญาชุดเดียวกันแต่มีสองแผ่น เจี่ยนอันอันจึงแบ่งให้เจ้าเมืองตานและเฝิงซานกวงต่างถือไว้คนละแผ่น“มีเจ้าเมืองตานเป็นพยานอีกคน หากวันหน้าเฝิงซานกวงกล้าไปล่วงเกินเฉียวซื่อสองแม่ลูกอีก ให้ข้ารู้เข้า ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไว้”เฝิงซานกวงแค้นจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน นึกอยากหักคอเจี่ยนอันอันให้ตายคามือไปเสียเยียนอ๋องพระชายาบ้าบออันใดกัน ยามนี้ล้วนถูกฮ่องเต้ปลดเป็นสามัญชนทั้งสิ้น ซ้ำยังถูกเนรเทศมาอยู่เมืองอินเป่ยต่างหากบัดนี้ฐานะของพวกเขา จะต่างจากเขาที่ตรงไหน?แต่พอมาอยู่นี่แล้ว ยังกล้ามาทำเหิมเกริมอีกรอให้เรื่องนี้จบสิ้นเมื่อใด ต้องหาวิ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 817

    แต่หากเป็นความผิดของอีกฝ่ายหนึ่ง เขาในฐานะอารอง ก็จะไม่ละเว้นผู้ทำร้ายเฝิงซานกวงเช่นกันแต่ไม่คาดคิดว่า เพียงลงจากรถม้า ก็ได้เห็นเยียนอ๋องและพระชายาอยู่ที่นี่ด้วยเจ้าเมืองตานนึกหวั่นใจขึ้น คงไม่ใช่เพราะเฝิงซานกวงไปทำความผิดอันใดเข้าอีกหรอกนะเจี่ยนอันอันใบหน้าแฝงรอยยิ้ม พร้อมนำสัญญาเผด็จการที่เฝิงซานกวงและเฉียวซื่อทำไว้ฉบับแรกให้เจ้าเมืองตานได้ดูเจ้าเมืองตานดูแล้วจึงเกิดความสงสัย “ในสัญญาได้ลงชื่อทั้งสองฝ่ายไว้ แสดงว่าอีกฝ่ายก็ยินยอมพร้อมใจ แล้วจะผิดอย่างไร?”แม้ว่าเงื่อนไขที่ระบุไว้จะมีแต่ความเอารัดเอาเปรียบ แต่ก็มิได้บ่งบอกถึงสิ่งใดไฉนจึงต้องบาดหมางจนให้เขามาด้วยตนเอง?และเจ้าเมืองตานก็เห็นลูกน้องของเฝิงซานกวง ต่างถูกทำร้ายจนสะบักสะบอมเขามองหน้าเจี่ยนอันอันด้วยความสงสัย ไม่เข้าใจว่าเหตุใดนางกับฉู่จวินสิงจึงต้องทำร้ายลูกน้องเฝิงซานกวงเช่นนี้เจี่ยนอันอันดึงตัวแม่ลูกตระกูลเฉียวมาเข้าใกล้ พลางกล่าวต่อเจ้าเมืองตาน “เจ้าเมืองตาน คนนี้ก็คือผู้ทำสัญญากับเฝิงซานกวง”“นางไม่รู้หนังสือ ข้อความในสัญญาล้วนเป็นเฝิงซานกวงอ่านให้ฟังทั้งสิ้น”“แต่เท่าที่ข้ารู้ เฝิงซานกวงมิได้อ่านเนื้อ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 816

    เจี่ยนอันอันแม้ถูกด่าว่าก็หาโกรธเคืองไม่ กลับกลายเป็นฉู่จวินสิงที่เดินขึ้นหน้า พลางต่อยเข้าที่ปากเฝิงซานกวงหนึ่งหมัด“เจ้ากล้าด่าเหนียงจื่อของข้า เห็นทีอยากถูกเลาะฟันออกจากปากเสียแล้ว”หมัดนี้ของฉู่จวินสิงหนักหน่วงยิ่ง ถึงขั้นทำให้ฟันหน้าของเฝิงซานกวงร่วงสองซี่ในบัดดลแต่เพราะเฝิงซานกวงถูกผ้าพันแผลปิดหน้าไว้หมด ฟันหน้าจึงค้างอยู่ในปาก จะบ้วนทิ้งก็ไม่ได้ กลืนลงคอก็ไม่กล้าอีกฟันหน้าถูกค่อยจนร่วง ริมฝีปากก็ยังแตกซ้ำความเจ็บปวดในปากนั้น แทบทำให้เฝิงซานกวงอยากด่าไปถึงบุพการีแต่ภายหลังได้ลิ้มลองหมัดของฉู่จวินสิง เขากลับไม่กล้าใช้คำพูดดุเดือดออกมาอีกแม้แต่คำเดียวทันใดนั้นเอง มีเสียงรถม้าแว่วมาแต่ไกลทุกคนหันมองไปตามเสียงนั้น จึงเห็นรถม้าของทางการวิ่งตรงมาคันหนึ่งและผู้ที่ไปส่งข่าวยังจวนเจ้าเมืองตาน ก็วิ่งตามหลังรถม้ามาเจี่ยนอันอันผุดรอยยิ้มที่มุมปาก ดูท่าเจ้าเมืองตานมาได้รวดเร็วดีแท้รถม้ามาหยุดที่เบื้องหน้าทุกคนเร็วพลัน โดยมีเจ้าเมืองตานเปิดผ้าม่านแล้วก้าวเดินลงมาทันทีที่เห็นเฝิงซานกวงใบหน้าห่อด้วยผ้าพันแผลหนาเตอะ ซ้ำมุมปากยังมีคราบโลหิตซึมออกมา“เจ้าไปก่อกรรมทำเข็ญเรื่อง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 815

    เจี่ยนอันอันยิ้มเล็กน้อย “พี่เฉียว อย่ามัวยืนเฉย รีบลงชื่อก่อนเถิด”“ประเดี๋ยวเมื่อเจ้าเมืองตานมาถึง ยังต้องให้เขาดูด้วย”เจี่ยนอันอันกล่าวเสียงเบามาก จงใจมิให้เฝิงซานกวงกับลูกน้องเขาได้ยินแต่แม่ลูกตระกูลเฉียวและฉู่จวินสิงกลับได้ยินชัดเจนฉู่จวินสิงมุมปากเชิดขึ้น คิดในใจว่าการจะสั่งสอนคนเช่นเฝิงซานกวง ต้องใช้วิธีนี้จึงจะสาสมเฝิงซานกวงได้ยินไม่ชัดว่าเจี่ยนอันอันพูดเรื่องใด แต่มั่นใจว่าคงมิใช่เรื่องดีแน่นอนเฉียวซื่อรับเอากระดาษและพู่กันไป พลางเขียนชื่อตนเองบนกระดาษด้วยลายมือโย้เย้นางกำลังคิดอยู่ว่าต้องกัดนิ้วตนให้ขาดดีหรือไม่ พลันเห็นเจี่ยนอันอันไม่รู้ไปหยิบแป้นประทับตราจากที่ใดออกมาหนึ่งอันเจี่ยนอันอันกล่าวยิ้มๆ “พี่เฉียว การประทับตราของเราไม่ต้องเสียโลหิต”เฉียวซื่อยิ้มตามเช่นกัน พลางกดนิ้วมือลงบนแป้นนั้น แล้วประทับลายนิ้วลงไปบนสัญญาอีกทีเมื่อต่างลงนามในสัญญาฉบับใหม่เรียบร้อย ฉบับเก่าก็นับว่าเป็นโมฆะไปแต่เจี่ยนอันอันกลับไม่คิดฉีกสัญญาฉบับเก่าทิ้งไป นางจะรอให้เจ้าเมืองตานมาถึง และให้เขาดูเงื่อนไขเอาเปรียบที่อยู่ในนั้นนางใช้วิธีเดียวกันนี้ เขียนสัญญาใหม่ขึ้นมาอีกฉบับ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 814

    ยามนี้เขารู้สึกเสียใจยิ่ง เมื่อครู่ไม่ควรกล่าวถึงท่านอารองออกมาเร็วถึงเพียงนั้นแต่บัดนี้ลูกน้องไปเชิญท่านอามาแล้ว ถึงตอนนั้นเขาจะทำอย่างไรดี?เมื่อนึกถึงตรงนี้ เฝิงซานกวงรีบกล่าวต่อลูกน้องอีกคน “เจ้าไปบอกให้อู่เฉียงกลับมา”ลูกน้องผู้นั้นรับคำสั่งกำลังจะรีบวิ่งไปแต่เดินได้ไม่ถึงสองก้าว พลันถูกฉู่จวินสิงขวางหน้าไว้ก่อน“ผู้ใดกล้าขยับเขยื้อน ข้าจะให้ผู้นั้นเลือดนองอาบพื้นดินในบัดดล”ลูกน้องผู้นั้นได้แต่หวาดกลัวจนชะงักงัน พร้อมหันไปมองเฝิงซานกวง“ลูกพี่...”เขาไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไร ไปก็ไม่ได้อยู่ต่อก็มีความผิดเฝิงซานกวงโกรธจนกำหมัดแน่น เสียงขบฟันดังกรอดจนได้ยินชัด“พวกเจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่?”เขาเริ่มรู้แล้วว่า วันนี้ตนน่าจะเจอจิ้งจอกเขี้ยวลากดินเข้าให้แล้วดูท่าหากไม่ต้อนรับขับสู้พวกเขาให้ดี เกรงว่าอีกประเดี๋ยวจะมีจุดจบที่ไม่สู้งามนักเจี่ยนอันอันเห็นว่าเฝิงซานกวงน่าจะอับจนปัญญา จึงเอาสัญญาที่เฉียวซื่อมอบให้นางออกมา“เฝิงซานกวง นี่คือสัญญาที่เจ้าทำไว้กับเฉียวซื่อ ในนี้มีเงื่อนไขข้อหนึ่ง ข้าอาจต้องแก้ไขเล็กน้อย”เฝิงซานกวงกัดฟันกรอดอีกครั้ง บันดาลโทสะเสียจนใบหน้าที่อยู

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 813

    พวกเขาลืมเรื่องนี้ไปได้อย่างไรญาติที่เป็นขุนนางของลูกพี่เป็นผู้มีอิทธิพลนัก ดูแลทุกอย่างในอำเภอไถหยางก็ว่าได้เจี่ยนอันอันกล่าวเสียงเย็น “คุยมาตั้งนาน ยังไม่เห็นบอกชื่อว่าคนผู้นั้นเป็นใคร ข้าว่าคงจะแต่งเรื่องส่งเดชมากกว่า”เฝิงซานกวงถูกเจี่ยนอันอันยุยงอีกครั้ง เดิมทีเขาก็ไม่อยากเอ่ยชื่อเจ้าเมืองออกมาแต่ครั้งนี้เห็นทีไม่พูดก็ไม่ได้เสียแล้ว“ฮึ่ม พูดแล้วพวกเจ้าจะตกใจ ท่านอารองของข้าเป็นเจ้าเมืองแห่งอำเภอไถหยาง”“หากพวกเจ้ากล้าแตะต้องกิจการในเหมืองของข้า ข้าจะให้ท่านอาส่งคนมาจับพวกเจ้าไปขังคุกเสีย!”เมื่อเจี่ยนอันอันได้ยินว่าอารองของเฝิงซานกวงก็คือเจ้าเมืองตานนั่นเอง นางจึงเริ่มมีแผนการในใจ“อ้อ หมายถึงเจ้าเมืองตานผู้นั้นหรอกรึ? ยังนึกว่าเป็นคนใหญ่คนโตที่ใดเสียอีก”“เชิญไปเรียกตัวมาได้เลย แล้วเรามายันกันซึ่งหน้า ให้รู้ไปว่าเขาจะเข้าข้างเจ้า หรือเห็นด้วยกับเรามากกว่า”เฝิงซานกวงมองดูท่าทีของเจี่ยนอันอัน คล้ายไม่กลัวกระทั่งคนเป็นเจ้าเมือง จึงให้ตกใจซ้ำอีกเขาแอบคิดในใจ หรือว่าท่านอารองจะรู้จักกับคนสองคนนี้?จึงหันไปกระซิบกระซาบต่อลูกน้องข้างกาย “รีบไปเชิญอารองข้ามาเดี๋ยวนี้”

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status