แชร์

บทที่ 689

ผู้เขียน: ซินต้งหรูสุ่ย
ทั้งสองคนมาถึงร้านขายเสื้อผ้าแห่งหนึ่งในอำเภอไถหยางอย่างรวดเร็ว

เหยียนซวงนำเสื้อผ้าที่ตัวเองเย็บออกมาให้เจ้าของร้านดู

“เสื้อผ้าพวกนี้ทำจากเนื้อผ้าชั้นดี ท่านลองดูว่าเป็นอย่างไร?”

“ข้าเย็บทีละเข็มทีละเส้นด้วยความตั้งใจ รับรองว่าผู้พบเห็นต้องอยากซื้อแน่นอน”

เจ้าของร้านหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาดู พบว่ามันถูกเย็บอย่างประณีต นอกจากนี้ เนื้อผ้าก็ดีกว่าที่ขายในร้านของพวกเขาหลายเท่า

เจ้าของร้านตาเป็นประกาย ขณะที่กำลังจะเสนอราคาซื้อก็มีคนผู้หนึ่งเดินเข้ามาในร้าน

วันนี้ถังหมิงเซวียนอยากซื้อเสื้อผ้าเปลี่ยนใหม่

ครั้นเดินเข้ามาในร้านก็เห็นเหยียนซวงกำลังเสนอขายเสื้อผ้าที่นางเย็บขึ้นเอง

ถังหมิงเซวียนคิดว่าตัวเองตาฝาด เขารีบเดินเข้ามายืนข้างเหยียนซวงโดยพลัน

จ้องมองใบหน้ามุมข้างของเหยียนซวงอย่างไม่ละสายตา ภายในใจรู้สึกประหม่ามาก

เขาไม่กล้าถามอีกฝ่ายว่าใช่คนที่เขาต้องการตามหาหรือไม่

เหยียนซวงถูกจ้องจนเริ่มรู้สึกรำคาญ นางหันไปถลึงตาใส่ถังหมิงเซวียน

“คุณชายท่านนี้ ท่านไม่ดูเสื้อผ้าแต่มามองข้าทำอันใด?”

เหยียนซวงว่าจบก็กำหมัดแน่น

หากอีกฝ่ายเป็นพวกบ้าตัณหาที่หน้าไม่อาย นางจะต่อยให้ศีรษะของอีกฝ่ายบวมไม
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 690

    ขณะที่นางกำลังจะพูด ถังหมิงเซวียนก็ส่ายหน้าว่า “ไม่ใช่ๆ ราคาห้าหมื่นตำลึงต่างหาก”เจ้าของร้านเบิกตาโพลงโดยพลัน คิดในใจว่าเจ้าหนุ่มนี่ช่างรู้จักตั้งราคาเสียจริงบทสนทนาที่ทั้งสามคนคุยกันเมื่อครู่ทำให้เขารู้ว่าสามคนนี้ไม่ได้รู้จักกันเจ้าของร้านแค่นเสียงเย็นว่า “คุณชายท่านนี้ หากท่านต้องการซื้อเสื้อผ้าก็สามารถเดินดูได้”“แต่หากไม่ซื้อก็ขอให้รีบออกไปด้วย อย่าได้ขัดขวางการประกอบกิจการของข้า”เหยียนซวงคิดไม่ถึงเช่นกันว่าถังหมิงเซวียนจะช่วยเรียกราคาให้นางนอกจากนี้ยังสูงกว่าราคาที่นางคิดไว้มากถึงสองหมื่นตำลึงสีหน้าของเหยียนซวงค่อยๆ อ่อนลงเยอะมากถังหมิงเซวียนมองเหยียนซวงปราดหนึ่ง เห็นว่านางไม่ได้จ้องตัวเองตาขวางแบบก่อนหน้านี้อีกมุมปากยกโค้งเป็นรอยยิ้มน่ามองถังหมิงเซวียนตัดสินใจแล้ว ในเมื่อเขาพบตัวคนที่ตัวเองต้องการตามหาแล้วเขาย่อมไม่อาจเปิดเผยตัวตนของตัวเองในทันทีเพราะหากอีกฝ่ายกลัวจนหนีไปขึ้นมา เขาจะไปตามหาจากที่ใดได้อีกเขาต้องช่วยเหยียนซวงขายเสื้อผ้าในราคาสูงก่อน อีกฝ่ายจะได้ประทับใจในตัวเขาวันหน้าเขาค่อยเปิดเผยตัวตนออกมาช้าๆ ถึงเวลานั้น เหยียนซวงก็จะยอมกลับมาอยู่ข้างก

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 691

    เมื่อทั้งสามเดินออกจากร้านจำหน่ายเสื้อผ้า ถังหมิงเซวียนยังไม่คิดกล่าวอำลาเหยียนอวี่เอ่ยปากด้วยความละอายใจ “เมื่อครู่เพราะข้าล่วงเกินคุณชายไป ขอโปรดให้อภัยด้วย”ถังหมิงเซวียนเห็นว่าตนได้บรรลุจุดประสงค์แล้ว จึงรีบคารวะตอบกลับคนทั้งคู่“โปรดอย่าได้เกรงใจ เราต่างพบกันโดยบังเอิญ ได้รู้จักก็นับเป็นวาสนา”“ข้าเห็นแม่นางมีฝีมือไม่เลว ไม่ทราบพอตัดเย็บเสื้อผ้าให้ข้าสักชุดได้หรือไม่?”ถังหมิงเซวียนกล่าว พลางหยิบเงินจำนวนหนึ่งออกมาจากถุงเงิน“นี่คือเงินมัดจำสำหรับการซื้อเสื้อผ้า รบกวนแม่นางช่วยวัดตัวและตัดให้ข้าสักหนึ่งชุด”เหยียนซวงพอดูออกว่า ถังหมิงเซวียนหาใช่คนพาลเกเรตามที่นางคาดคิดไม่พลางพิจารณาถังหมิงเซวียนตั้งแต่ศีรษะจรดเท้ารอบหนึ่ง ในใจพอประมาณการได้บ้าง“ขอถามคุณชายบ้านอยู่หนใด เผื่อข้าตัดเย็บเสื้อผ้าเสร็จแล้ว จะติดต่อท่านได้อย่างไร?”ถังหมิงเซวียนคิดจะบอกที่ตั้งโรงเตี๊ยมที่ตนพักอยู่ให้นางรู้ แต่กลับเฉลียวใจฉุกคิด มิสู้ถามที่อยู่อีกฝ่ายจะดีกว่าเช่นนี้แล้ว วันหน้ามีเวลาจะได้แวะไปเยี่ยมเยียนนางจึงกล่าวตอบยิ้มๆ “อย่าได้รบกวนแม่นางนำเสื้อมาส่งแก่ข้าเลย สู้บอกที่อยู่ให้ข้ารู้ คา

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 692

    ทันใดนั้นเขายังมองไปที่หน้าแข้งของหม่าลู่ ซึ่งโผล่พ้นชายกระโปรงออกมารำไรเดิมทีควรจะมีขนหน้าแข้งหนาทึบเป็นชั้นๆ แต่บัดนี้กลับถูกโกนจนเกลี้ยงเกลาขาวสะอาดหม่าลู่เหลียวมองเจี่ยนอันอันด้วยสีหน้าจนใจ ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นความคิดของนางจนยามนี้แม้แต่พี่น้องแท้ๆ ยังจำเขาไม่ได้อีกเจี่ยนอันอันหลุดหัวเราะออกมา นางกล่าวยิ้มๆ ต่อหม่าลู่ “เป็นอย่างไรบ้าง ความคิดข้าไม่เลวใช่หรือไม่?”“ยามนี้ถึงขั้นน้องชายแท้ๆ ยังจำท่านไม่ได้ อย่าว่าแต่ทหารที่ไล่ตามมาเลย”หม่าลู่เหยียดริมฝีปาก ไม่รู้จะตอบโต้นางอย่างไรดีด้วยระหว่างทางทั้งเขาและเฉินเช่อ แทบกลายเป็นจุดสนใจของผู้คนก็ว่าได้ทุกคนที่ผ่านไปมา ล้วนต้องหยุดฝีเท้าและหันมาจ้องมองพวกเขาปากก็พร่ำนินทาไม่หยุด ต่างบอกว่าสองคนนี้ช่างอัปลักษณ์สิ้นดี ใครเห็นเข้าคงจะถูกหลอนไปนาน กลางคืนฝันร้ายเป็นแม่นมั่นเฉินเช่อกล่าวเสียงเบา “ฮูหยินช่างมีความคิดพิเรนทร์นัก แต่ก็ดีที่เราแต่งกายเช่นนี้ ช่วยให้ตัดปัญหาไปได้มาก”เจี่ยนอันอันปิดปากแอบหัวเราะ นางคุ้นชินกับการแต่งกายของพวกเขานานแล้วและหม่าจั๋วก็เพิ่งจำได้ ว่าผู้ที่เอ่ยปากก็คือเฉินเช่อเขาตะลึงจนหัวใจแทบหล่นไป

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 693

    ขณะที่นางก็กำลังคิดเช่นกัน พลันอุโบสถด้านในเกิดเสียงดัง ‘โครม’ ขึ้นทั้งคู่ต่างสบตา แล้ววิ่งเข้าไปด้านในทันทีภายในอุโบสถมีพุทธรูปตั้งอยู่สามองค์ ขาดการเซ่นไหว้ด้วยธูปนานแล้วทันทีที่เข้าไปถึง ฉู่จวินสิงก็ตระหนักถึงไอสังหารอยู่รอบกายมีดาบยาวเล่มหนึ่งพุ่งมาทางพวกเขาฉู่จวินสิงรีบดึงตัวเจี่ยนอันอันให้ถอยหลัง พร้อมยกเท้าขึ้นเตะดาบกระเด็นไปเขาชักกระบี่เฝินเทียนที่เหน็บอยู่บั้นเอวออกมา สายตาเย็นชามองปราดไปรอบข้างไม่นานก็เห็นเงาหนึ่งแวบผ่านไป“นั่นใคร หยุดนะ!”ฉู่จวินสิงดึงตัวเจี่ยนอันอัน พร้อมพุ่งตัวไปยังเงานั้นขณะทั้งคู่มาถึงอุโบสถด้านหลัง พลันมีดาบยาวอีกหนึ่งเล่มพุ่งตรงมาฉู่จวินสิงรีบใช้กระบี่เฝินเทียน ฟันดาบที่พุ่งมาขาดเป็นสองท่อนลู่ซานมองดูดาบในมือตน ช่างถูกฟันหักได้อย่างง่ายดายยิ่งเขาเปล่งเสียงคำราม พร้อมจู่โจมไปทางฉู่จวินสิงอีกหลังจากฉู่จวินสิงเห็นหน้าอีกฝ่ายชัดเจน จึงใช้วิธีหมุนตัว เตะอีกฝ่ายจนล้มลงกับพื้นเขาไม่ได้ใช้กำลังทั้งหมด ด้วยเกรงว่าเพียงลูกเตะจะทำให้อีกฝ่ายบาดเจ็บลู่ซานถูกเตะจนล้มลง มือกุมจุดที่โดนเตะ พยายามลุกขึ้นเพื่อจะต่อสู้อีกครั้งฉู่จวินสิงรี

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 694

    แต่ฉู่จวินสิงกลับไม่คิดเช่นนั้น เขากับเจี่ยนอันอันสามารถใช้พลังแห่งการเคลื่อนย้ายชั่วพริบตากลับไปเมื่อใดก็ได้แต่กว่าจะตามหาลูกน้องทั้งสามจนพบมิใช่เรื่องง่าย จึงไม่อยากให้พวกเขาจากไปอีกและพวกเขายังไม่ได้ผ่านการแปลงโฉม หากถูกทหารพบเห็นเข้า คงไม่พ้นเกิดการเข่นฆ่าขึ้นมาพวกหลิ่วหยวนนั่งอยู่ในรถม้า ต่างไม่กล้ามองหน้าเจี่ยนอันอันโดยตรงเจี่ยนอันอันจึงถือโอกาสนี้หลับตานิ่ง ส่งภวังค์เข้าไปในห้วงมิติอีกนางคิดมองหาร้านค้าในมิติ ว่าพอมีหน้ากากหนังมนุษย์วางขายอยู่หรือไม่แต่นางสำรวจมารอบหนึ่งก็ยังหาไม่พบ จึงได้แต่คิดหาวิธีอื่นหากพวกเขาจะกลับไปเมืองจิงโจวพร้อมกันจริง จะต้องแปลงโฉมเป็นผู้อื่นเสียก่อนมิเช่นนั้นอาจถูกคนของฉู่ชางเหยียนจับได้ขณะที่เจี่ยนอันอันกำลังคิดว่าจะหาหน้ากากหนังมนุษย์ได้จากที่ใด พลันรถม้าก็หยุดลงพวกหลิ่วหยวนไม่กล้าแหวกม่านออกไปดู เพราะได้ยินเสียงสนทนาที่อยู่ด้านนอกรถม้ามีทหารผู้หนึ่งกล่าว “ใต้เท้าอิ่น ท่านมาอยู่นี่ได้อย่างไร?”ฉู่จวินสิงแสร้งกดเสียงต่ำลง “ฝ่าบาทมีรับสั่งให้มาจับนักโทษหลบหนี”ทหารมองดูรถม้า คิดเปิดผ้าม่านไปดูว่าข้างในมีคนที่พวกเขาต้องการจับตัว

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 695

    เพียงไม่นานหนังหน้าของทหารสิบกว่าคน ก็ได้ถูกฉู่จวินสิงกรีดออกมาจนสิ้นเขานำหนังหน้ามนุษย์ที่ชุ่มด้วยโลหิต ยื่นส่งให้เจี่ยนอันอันเจี่ยนอันอันยิ้มแย้มขณะรับมา พลางส่งเข้าไปในห้วงมิติ ใช้น้ำพุวิญญาณแช่เอาไว้หนังใบหน้าที่ผ่านการแช่มา ไม่เพียงมีความนุ่มลื่น ผิวนั้นยังใสกระจ่างเป็นอย่างมากหลังจากแช่หนังใบหน้าเรียบร้อย เจี่ยนอันอันจึงหยิบผงสลายศพออกมา นำร่างทหารสิบกว่าคนนั้นสลายจนกลายเป็นของเหลวทำเอาหลิ่วหยวนกับพวกมองจนตาค้างพวกเขารู้ดีว่าท่านอ๋องไม่เคยปรานีต่อศัตรูก็จริงแต่ไม่คาดคิดว่าพระชายาจะโหดร้ายยิ่งกว่าเจี่ยนอันอันมองดูพวกหลิ่วหยวนที่ยืนตาค้าง พลางยิ้มเล็กน้อย “อย่ามัวยืนเฉยเลย รีบขึ้นรถเถิด”หลิ่วหยวนกับพวกจึงค่อยตั้งสติกลับมา พวกเขาต่างขึ้นรถม้า ปล่อยให้ฉู่จวินสิงควบเดินทางต่อไปรถม้าเดินทางราวหนึ่งชั่วยาม ในที่สุดก็มาถึงหมู่บ้านทุกคนต่างลงจากรถม้า พร้อมเคาะประตูลานบ้านทันใดนั้นเอง หวังโหย่วเหอเห็นฉู่จวินสิงกับเจี่ยนอันอันกลับมา จึงรีบก้าวเท้ามาหาพลางคารวะต่อคนทั้งคู่ “ขอถามท่านทั้งสอง เรื่องที่ลูกข้าสมัยก่อนเข้าสอบจอหงวน แล้วถูกแอบอ้างชื่อแทน ไม่ทราบพอมีเบาะแส

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 696

    แต่เป็นเช่นนี้ก็ดีเหมือนกัน เมื่อตามหาคนจนพบแล้ว ขั้นตอนต่อไปจะทำสิ่งใดก็สะดวกขึ้นเมื่อทุกคนเห็นว่าฉู่จวินสิงตัดสินใจแน่วแน่ จึงต่างเบนสายตาไปยังเจี่ยนอันอันแทนพวกเขาต้องการให้นางช่วยเกลี้ยกล่อมนายท่าน แต่กลับเห็นนางมีท่าทีไม่รู้ร้อนรู้หนาว“พวกท่านจงวางใจเถิด ป่านนี้แล้วยังไม่เชื่อมั่นในความสามารถของนายท่านอีกรึ?”คำพูดของเจี่ยนอันอัน ทำให้พวกหม่าลู่ต่างเงียบเสียงลงท่านอ๋องของพวกเขาเก่งกล้าสามารถโดยแท้ หาไม่คงไม่นำพาพวกเขาไปออกศึกหลายครั้ง ล้วนได้ชัยชนะกลับมาทั้งสิ้นเพียงแต่ฮ่องเต้องค์ปัจจุบันมิได้มีความเมตตาดั่งเช่นอดีตฮ่องเต้ หากฐานะพวกเขาถูกฮ่องเต้พบเห็นเข้า จะมีโทษถึงขั้นหัวหลุดจากบ่าแน่นอนพวกเขาตายไม่เสียดายหรอก เพราะอย่างไรก็ล้วนเป็นชายโสดทั้งสิ้นแต่ท่านอ๋องไม่เหมือนกัน บัดนี้เขามีภรรยาแล้วหากเกิดเรื่องอันใดขึ้นจริง ฮูหยินคงยากจะทำใจได้เมื่อนึกถึงตรงนี้ สายตาทุกคนมีฉายแววกังวลออกมาอย่างเห็นได้ชัดเจี่ยนอันอันดูออกว่าพวกเขาเป็นห่วงตนเอง จึงให้รู้สึกอุ่นใจขึ้นเหล่าบริวารของฉู่จวินสิง นับว่ายังพอมีน้ำใจอยู่นางจึงยิ้มให้พวกเขา “ทุกคนไม่ต้องเป็นห่วงแทนข้า”“หา

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 697

    เสิ่นจืออวี้กลับรั้งแขนเสิ่นจือเจิ้งเอาไว้“พี่ใหญ่ ข้าอยากไปเดินเล่นในอำเภอ ท่านไปกับข้าได้หรือไม่?”เสิ่นจืออวี้มองหน้าเสิ่นจื้อเจิ้งด้วยความคาดหวัง อยากให้เขาไปกับตนด้วยเสิ่นจือเจิ้งกลับมองมือเสิ่นจืออวี้ที่จับอยู่ด้วยความเย็นชา “ปล่อยมือ!”เสิ่นจืออวี้ตกใจจนรีบปล่อยมือออก เขารู้นิสัยเสิ่นจือเจิ้งดี ไม่ชอบให้ผู้อื่นถูกเนื้อต้องตัวแต่เมื่อครู่เพราะเขาร้อนใจเกินไป จึงได้จับแขนของอีกฝ่ายเอาไว้ ขณะที่เสิ่นจืออวี้คิดว่า พี่ชายคงไม่พาเขาไปอำเภอไถหยางแน่นอนกลับได้ยินเสิ่นจือเจิ้งกล่าวเนิบๆ “เจ้าไปเอารถม้ามา”เสิ่นจืออวี้ได้ยินดังนี้ สีหน้ารีบปรากฏรอยยิ้มออกมาเขารีบร้อนวิ่งออกไป จูงรถม้ามาคันหนึ่งขณะเสิ่นจือเจิ้งเดินออกจากลานบ้าน เซียงเสวี่ยได้ติดตามมาด้วยเสิ่นจือเจิ้งหันไปกล่าวต่อนาง “เจ้าอยู่เฝ้าบ้านไว้”เซียงเสวี่ยตอบรับว่า “เจ้าค่ะ” พลางหยุดเดินนางเป็นเพียงสาวใช้ผู้หนึ่ง แม้ใจนึกอยากติดตามไปเที่ยวอำเภอไถหยางบ้าง แต่ก็ต้องฟังคำสั่งเสิ่นจือเจิ้งให้อยู่เฝ้าบ้านแทนจำได้ว่าตอนถูกเนรเทศมาใหม่ๆ นางก็เคยไปอำเภอไถหยางแล้วครั้งหนึ่งแต่เพียงเดินผ่านครู่เดียวเท่านั้น มิได้เ

บทล่าสุด

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 823

    เจี่ยนอันอันขมวดคิ้วมุ่น นางมองไปทางซ่งไหล “ท่านเล่า จำไม่ได้ว่าตัวเองเป็นใคร บ้านอยู่ที่ไหนด้วยเหมือนกันรึ?”ซ่งไหลส่ายหน้าเบาๆ “จำไม่ได้”เจี่ยนอันอันคว้าข้อมือซ่งไหลขึ้นมาจับชีพจรให้เขาในไม่ช้านางก็ได้ข้อสรุปคนเหล่านี้ทุกคนล้วนถูกพิษ ขณะที่พิษประเภทนี้จะทำให้คนที่ถูกพิษสูญเสียความทรงจำไปในชั่วพริบตาหลังจากที่นางปล่อยมือซ่งไหลก็สุ่มหยิบแร่ก้อนหนึ่งบนพื้นขึ้นมานางนำมาจ่อใต้จมูกดมดูก็ได้กลิ่นสกปรกจางๆ ที่แผ่ซ่านออกมาจากก้อนแร่ได้ในทันทีนางกล่าวกับฉู่จวินสิง “ถ้าข้าเดาไม่ผิด แร่ในเหมืองนี้ล้วนแต่มีพิษ”คำพูดของเจี่ยนอันอันทำให้ทุกคนบริเวณนั้นล้วนสัมผัสได้ถึงความหวาดกลัวจากก้นบึ้งหัวใจที่พวกเขาจำไม่ได้ว่าตัวเองเป็นใคร เป็นเพราะต้องพิษจากแร่พวกนี้อย่างนั้นหรือ?“พวกข้าควรทำอย่างไรดี ข้าไม่อยากตาย!”“ข้าก็ไม่อยากตายเหมือนกัน ข้าอยากไปจากที่นี่”“แม่นางได้โปรดปล่อยพวกข้าไปเถอะ ให้พวกข้าไปจากที่นี่เถอะนะ”คนงานเหมืองเหล่านั้นขอร้องเจี่ยนอันอันเสียงระงม หวังว่านางจะสามารถปล่อยพวกเขาไปซ่งไหลก็หวาดกลัวมากเช่นกัน เขาอยากไปจากที่นี่ ไม่อยากตายอยู่ในสถานที่แห่งนี้เจี่ยนอันอัน

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 822

    ฉู่จวินสิงและซ่งไหลที่รออยู่ด้านนอกล้วนร้อนใจอย่างยิ่งโชคดีที่เจี่ยนอันอันออกมาอย่างรวดเร็ว ทั้งยังพาเด็กชายหนึ่งคนออกมาด้วยซ่งไหลรีบอุ้มเด็กชายออกมาข้างนอกเขากระซิบเรียกชื่อเด็กชายเบาๆ “หวายหมิง เจ้าฟื้นเร็วเข้า”เจี่ยนอันอันเห็นว่าซ่งไหลมีท่าทางเป็นกังวลอย่างมาก นางจึงบอกเสียงเบาว่า “เขาแค่สลบไปเท่านั้น ไม่ได้เป็นอันใดมาก”หลังจากที่นางพูดจบก็มุดเข้าไปในถ้ำอีกครั้งรอจนถึงตอนที่นางพาเด็กชายคนที่สองออกมาก็ถอดแว่นสายตากลางคืนออกแล้วนางกล่าวกับฉู่จวินสิงว่า “พวกเราออกไปจากที่นี่ก่อนค่อยคุยกัน”ฉู่จวินสิงพยักหน้าน้อยๆ แล้วอุ้มเด็กชายอีกคนขึ้นมาซ่งไหลอุ้มหวายหมิงตามเจี่ยนอันอันออกไปจากในเหมืองด้วยเช่นกันคนที่รออยู่ด้านนอกล้วนแต่ร้อนใจเป็นที่ยิ่งไม่รู้ว่าข้างในเป็นอย่างไรบ้างแล้วเมื่อพวกเขาเห็นพวกเจี่ยนอันอันออกมาก็พากันถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกเจี่ยนอันอันให้พวกเขาวางเด็กชายทั้งสองลงบนพื้นที่ว่าง นางหยิบถุงเข็มเงินออกมาจากในมิติแล้วฝังเข็มให้เด็กชายสองคนนั้นผ่านไปไม่นาน ในที่สุดเด็กชายทั้งสองก็ค่อยๆ ฟื้นขึ้นมาซ่งไหลเห็นว่าน้องชายทั้งสองของตนเองฟื้นแล้วก็คุกเข่าล

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 821

    แต่ไม่ว่าเขาออกแรงมากเท่าไรก็ไม่อาจผลักหินยักษ์ออกไปได้ก่อนหน้านี้ที่นี่ก็เคยเกิดการถล่มมาก่อน แต่ไม่ได้หนักหนาเท่าครั้งนี้หากยังไม่ช่วยคนข้างในออกมา เกรงว่าเด็กสองคนนั้นคงต้องจบชีวิตลงที่นี่จริงๆ แล้วเจี่ยนอันอันขมวดคิ้วมุ่น นางพลันก้าวออกมาบริเวณหน้าถ้ำแล้วออกแรงผลักหินยักษ์ก้อนนั้นแต่หินยักษ์หนักเกินไป นางผลักอยู่หลายทีแต่ก็ไม่สามารถทำให้หินยักษ์นั้นขยับเขยื้อนได้เลยฉู่จวินสิงก็รีบเดินเข้ามาหา เขาให้เจี่ยนอันอันถอยออกไปแล้วรวบรวมกำลังภายในฟาดฝ่ามือใส่หินยักษ์ก้อนนั้นอย่างหนักหน่วงครั้นฝ่ามือนั้นฟาดลงไป หินยักษ์ก้อนนั้นเพียงสั่นคลอนไม่กี่ที แต่ก็ไม่ได้ถูกกำลังภายในทะลวงไปได้ขณะที่ทุกคนไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดีนั่นเอง เจี่ยนอันอันพลันกวาดตามองคลังอาวุธในมิติครุ่นคิดว่าสามารถหยิบระเบิดออกมาจากในนั้นสักลูกได้หรือไม่โชคดีที่ตอนที่นางช่วยสองแม่ลูกสกุลเฉียวต่อกรกับเฝิงซานกวงก่อนหน้านี้ คลังอาวุธได้เลื่อนขั้นอย่างเงียบๆคำประกาศปรากฏขึ้นในมิติ : [ระดับคลังอาวุธ 50 สามารถหยิบอาวุธได้สองชนิด]เจี่ยนอันอันนึกยินดี นางรีบบอกให้ทุกคนหลบไปนอกเหมือง แม้แต่ฉู่จวินสิงก็ให้ออกไปจากตร

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 820

    เจ้าเมืองตานประสานมือต่อเจี่ยนอันอันและฉู่จวินสิง “เรื่องราวได้จบลงแล้ว ข้าน้อยคงต้องขอกลับจวนไปไต่สวนเรื่องนี้ต่อ ขอลาแต่เพียงเท่านี้”เจี่ยนอันอันประสานมือตอบเช่นกัน “ท่านค่อยๆ เดิน ไม่ส่งแล้ว อย่างไรคงต้องรบกวนท่านให้ความเป็นธรรมแก่เรื่องนี้”“ข้าน้อยทราบดี” เจ้าเมืองตานกล่าวพลางขึ้นรถม้าไปพร้อมกับถอนหายใจหนักหน่วงอีกครั้งเหตุใดเขาจึงมีหลานชายที่ชอบก่อเรื่องนี้เช่นนี้หนอ? ช่างไม่ยอมปล่อยให้เขาได้อยู่สบายบ้างเลยรอจนเจ้าเมืองตานจากไปแล้ว เจี่ยนอันอันจึงหันมามองเหล่าบริวารของเฝิงซานกวงอีกครั้งซึ่งทุกคนต่างก็รู้ว่า ยามนี้ในเหมืองได้เปลี่ยนเจ้าของใหม่แล้วพวกเขาจึงไม่กล้าทำส่งเดชอีก ได้แต่ก้มหน้าก้มตายืนนิ่งอยู่เจี่ยนอันอันกล่าวเสียงเย็นชา “พวกเจ้ามัวยืนเซ่อหาอันใดอีก ที่นี่ไม่ใช่ถิ่นของเฝิงซานกวงอีกแล้ว แต่ละคนจงรีบไสหัวไปให้พ้น”“หากวันหน้าข้าได้รู้ว่า พวกเจ้ากลับมาก่อเรื่องที่นี่อีก ข้าจะให้มีจุดจบเช่นเดียวกับเฝิงซานกวง”บรรดาลูกน้องเฝิงซานกวงเห็นว่าบัดนี้คงได้ตกงานเป็นแน่แท้ต่อไปจะรับเงินใต้โต๊ะคงไม่มี ยิ่งอย่าหมายว่าคิดลักขโมยแร่หินในเหมืองออกไปขายบ้างจึงต่างพากัน

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 819

    แต่เรื่องนี้หากจะว่าไป ก็ล้วนเป็นความผิดของเฝิงซานกวงหากเขามิได้แอบใช้แรงงานเด็ก เจี่ยนอันอันก็ไม่อาจใช้เพียงหนึ่งร้อยตำลึง มาซื้อเหมืองแร่แห่งนี้ได้ไม่ทันรอให้เจ้าเมืองตานได้กล่าวตอบ เฝิงซานกวงกลับโมโหขึ้นก่อน “นังตัวดี อย่าถือว่าเคยเป็นอดีตชายาเยียนอ๋องมาก่อน ก็จะใช้เงินเพียงหนึ่งร้อยตำลึงมาซื้อเหมืองของข้าได้”“ขอบอกให้รู้ เหมืองแห่งนี้ข้าเป็นคนขุดขึ้นเอง จะไม่มีวันยอมขายให้เจ้าเด็ดขาด”เจี่ยนอันอันมองหน้าเฝิงซานกวงด้วยแววตาดูหมิ่น สีหน้าเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน“ฟังนะเฝิงซานกวง บัดนี้เจ้ากลายเป็นนักโทษแล้ว มีสิทธิ์อันใดมาเพ้อเจ้อไร้สาระกับข้าอีก”เฝิงซานกวงโกรธจนสุดจะทนไหว พลันกระอักโลหิตออกจากปากทันทีพร้อมพาเอาฟันหน้าสองซี่ที่ถูกต่อยร่วงเมื่อครู่นี้ออกมาด้วยเจ้าเมืองตานรู้ดีว่าไม่อาจสู้เจี่ยนอันอันกับฉู่จวินสิงได้ อีกทั้งเรื่องนี้ก็เป็นความผิดของเฝิงซานกวงจริงว่าตามกฎหมายแล้ว เมื่อเฝิงซานกวงทำผิดเช่นนี้ เหมืองของเขาก็ควรจะถูกทางการยึดคืนดังนั้นเจี่ยนอันอันจึงได้มาพูดกับเขา ว่าจะขอซื้อเหมืองแห่งนี้ไว้เองอีกทั้งเฝิงซานกวงก็ไม่มีสิทธิ์ชอบธรรม ที่จะยับยั้งการซื้อขายของ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 818

    “นี่คือสัญญาฉบับใหม่ที่ข้าเพิ่งเขียนขึ้นมา ทั้งเฝิงซานกวงและเฉียวซื่อต่างได้ลงชื่อเรียบร้อย”“จึงอยากให้ท่านเจ้าเมืองได้ลงชื่ออีกคน เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว วันหน้าเฝิงซานกวงจะได้ไม่กล้าบิดพลิ้วไปล่วงเกินเฉียวซื่ออีก”เจ้าเมืองตานมองดูข้อความในสัญญาฉบับใหม่ เห็นเนื้อหาล้วนสมเหตุสมผลดีอีกทั้งเรื่องนี้ก็ถือเป็นความผิดของเฝิงซานกวงก่อน จึงยอมรับพู่กันมา พร้อมทั้งเขียนชื่อตนเองลงไปเจี่ยนอันอันยิ้มๆ พร้อมนำแป้นประทับตรา มอบให้เจ้าเมืองตานได้ประทับลายนิ้วอีกซ้ำอีกสัญญาชุดเดียวกันแต่มีสองแผ่น เจี่ยนอันอันจึงแบ่งให้เจ้าเมืองตานและเฝิงซานกวงต่างถือไว้คนละแผ่น“มีเจ้าเมืองตานเป็นพยานอีกคน หากวันหน้าเฝิงซานกวงกล้าไปล่วงเกินเฉียวซื่อสองแม่ลูกอีก ให้ข้ารู้เข้า ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไว้”เฝิงซานกวงแค้นจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน นึกอยากหักคอเจี่ยนอันอันให้ตายคามือไปเสียเยียนอ๋องพระชายาบ้าบออันใดกัน ยามนี้ล้วนถูกฮ่องเต้ปลดเป็นสามัญชนทั้งสิ้น ซ้ำยังถูกเนรเทศมาอยู่เมืองอินเป่ยต่างหากบัดนี้ฐานะของพวกเขา จะต่างจากเขาที่ตรงไหน?แต่พอมาอยู่นี่แล้ว ยังกล้ามาทำเหิมเกริมอีกรอให้เรื่องนี้จบสิ้นเมื่อใด ต้องหาวิ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 817

    แต่หากเป็นความผิดของอีกฝ่ายหนึ่ง เขาในฐานะอารอง ก็จะไม่ละเว้นผู้ทำร้ายเฝิงซานกวงเช่นกันแต่ไม่คาดคิดว่า เพียงลงจากรถม้า ก็ได้เห็นเยียนอ๋องและพระชายาอยู่ที่นี่ด้วยเจ้าเมืองตานนึกหวั่นใจขึ้น คงไม่ใช่เพราะเฝิงซานกวงไปทำความผิดอันใดเข้าอีกหรอกนะเจี่ยนอันอันใบหน้าแฝงรอยยิ้ม พร้อมนำสัญญาเผด็จการที่เฝิงซานกวงและเฉียวซื่อทำไว้ฉบับแรกให้เจ้าเมืองตานได้ดูเจ้าเมืองตานดูแล้วจึงเกิดความสงสัย “ในสัญญาได้ลงชื่อทั้งสองฝ่ายไว้ แสดงว่าอีกฝ่ายก็ยินยอมพร้อมใจ แล้วจะผิดอย่างไร?”แม้ว่าเงื่อนไขที่ระบุไว้จะมีแต่ความเอารัดเอาเปรียบ แต่ก็มิได้บ่งบอกถึงสิ่งใดไฉนจึงต้องบาดหมางจนให้เขามาด้วยตนเอง?และเจ้าเมืองตานก็เห็นลูกน้องของเฝิงซานกวง ต่างถูกทำร้ายจนสะบักสะบอมเขามองหน้าเจี่ยนอันอันด้วยความสงสัย ไม่เข้าใจว่าเหตุใดนางกับฉู่จวินสิงจึงต้องทำร้ายลูกน้องเฝิงซานกวงเช่นนี้เจี่ยนอันอันดึงตัวแม่ลูกตระกูลเฉียวมาเข้าใกล้ พลางกล่าวต่อเจ้าเมืองตาน “เจ้าเมืองตาน คนนี้ก็คือผู้ทำสัญญากับเฝิงซานกวง”“นางไม่รู้หนังสือ ข้อความในสัญญาล้วนเป็นเฝิงซานกวงอ่านให้ฟังทั้งสิ้น”“แต่เท่าที่ข้ารู้ เฝิงซานกวงมิได้อ่านเนื้อ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 816

    เจี่ยนอันอันแม้ถูกด่าว่าก็หาโกรธเคืองไม่ กลับกลายเป็นฉู่จวินสิงที่เดินขึ้นหน้า พลางต่อยเข้าที่ปากเฝิงซานกวงหนึ่งหมัด“เจ้ากล้าด่าเหนียงจื่อของข้า เห็นทีอยากถูกเลาะฟันออกจากปากเสียแล้ว”หมัดนี้ของฉู่จวินสิงหนักหน่วงยิ่ง ถึงขั้นทำให้ฟันหน้าของเฝิงซานกวงร่วงสองซี่ในบัดดลแต่เพราะเฝิงซานกวงถูกผ้าพันแผลปิดหน้าไว้หมด ฟันหน้าจึงค้างอยู่ในปาก จะบ้วนทิ้งก็ไม่ได้ กลืนลงคอก็ไม่กล้าอีกฟันหน้าถูกค่อยจนร่วง ริมฝีปากก็ยังแตกซ้ำความเจ็บปวดในปากนั้น แทบทำให้เฝิงซานกวงอยากด่าไปถึงบุพการีแต่ภายหลังได้ลิ้มลองหมัดของฉู่จวินสิง เขากลับไม่กล้าใช้คำพูดดุเดือดออกมาอีกแม้แต่คำเดียวทันใดนั้นเอง มีเสียงรถม้าแว่วมาแต่ไกลทุกคนหันมองไปตามเสียงนั้น จึงเห็นรถม้าของทางการวิ่งตรงมาคันหนึ่งและผู้ที่ไปส่งข่าวยังจวนเจ้าเมืองตาน ก็วิ่งตามหลังรถม้ามาเจี่ยนอันอันผุดรอยยิ้มที่มุมปาก ดูท่าเจ้าเมืองตานมาได้รวดเร็วดีแท้รถม้ามาหยุดที่เบื้องหน้าทุกคนเร็วพลัน โดยมีเจ้าเมืองตานเปิดผ้าม่านแล้วก้าวเดินลงมาทันทีที่เห็นเฝิงซานกวงใบหน้าห่อด้วยผ้าพันแผลหนาเตอะ ซ้ำมุมปากยังมีคราบโลหิตซึมออกมา“เจ้าไปก่อกรรมทำเข็ญเรื่อง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 815

    เจี่ยนอันอันยิ้มเล็กน้อย “พี่เฉียว อย่ามัวยืนเฉย รีบลงชื่อก่อนเถิด”“ประเดี๋ยวเมื่อเจ้าเมืองตานมาถึง ยังต้องให้เขาดูด้วย”เจี่ยนอันอันกล่าวเสียงเบามาก จงใจมิให้เฝิงซานกวงกับลูกน้องเขาได้ยินแต่แม่ลูกตระกูลเฉียวและฉู่จวินสิงกลับได้ยินชัดเจนฉู่จวินสิงมุมปากเชิดขึ้น คิดในใจว่าการจะสั่งสอนคนเช่นเฝิงซานกวง ต้องใช้วิธีนี้จึงจะสาสมเฝิงซานกวงได้ยินไม่ชัดว่าเจี่ยนอันอันพูดเรื่องใด แต่มั่นใจว่าคงมิใช่เรื่องดีแน่นอนเฉียวซื่อรับเอากระดาษและพู่กันไป พลางเขียนชื่อตนเองบนกระดาษด้วยลายมือโย้เย้นางกำลังคิดอยู่ว่าต้องกัดนิ้วตนให้ขาดดีหรือไม่ พลันเห็นเจี่ยนอันอันไม่รู้ไปหยิบแป้นประทับตราจากที่ใดออกมาหนึ่งอันเจี่ยนอันอันกล่าวยิ้มๆ “พี่เฉียว การประทับตราของเราไม่ต้องเสียโลหิต”เฉียวซื่อยิ้มตามเช่นกัน พลางกดนิ้วมือลงบนแป้นนั้น แล้วประทับลายนิ้วลงไปบนสัญญาอีกทีเมื่อต่างลงนามในสัญญาฉบับใหม่เรียบร้อย ฉบับเก่าก็นับว่าเป็นโมฆะไปแต่เจี่ยนอันอันกลับไม่คิดฉีกสัญญาฉบับเก่าทิ้งไป นางจะรอให้เจ้าเมืองตานมาถึง และให้เขาดูเงื่อนไขเอาเปรียบที่อยู่ในนั้นนางใช้วิธีเดียวกันนี้ เขียนสัญญาใหม่ขึ้นมาอีกฉบับ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status