เจี่ยนอันอันไม่คิดอยากจะฟังคำอธิบายจากถังก่วง นางหันไปกล่าวกับพ่อและแม่ของอวี้ซินว่า “ตอนนี้เด็กคนนั้นอยู่ที่ใด ข้าจะไปรักษาเขา”แม่ของอวี้ซินที่เดิมทีไม่ประสงค์ให้ผู้ใดล่วงรู้ถึงเรื่องอัปยศในครอบครัว ครั้นได้ยินคำของเจี่ยนอันอันนางจึงรีบตอบ “แม่นาง เชิญตามข้ามา”แม่ของอวี้ซินนำทางเจี่ยนอันอันพร้อมทั้งอีกสองคนไปยังห้องอีกห้องหนึ่งห้องนั้นไม่กว้างขวาง มีเพียงเตียงหนึ่งเตียงและโต๊ะหนึ่งตัวเท่านั้นเมื่อเจี่ยนอันอันมองไปบนเตียง ก็เห็นเด็กชายวัยราวสิบขวบนอนอยู่ดวงตาของเขาปิดสนิท ดวงหน้าเล็กซีดขาวเจี่ยนอันอันก้าวเข้าไปใกล้ พลางจับชีพจรให้ถังเสี่ยวซานเด็กผู้นี้ไม่ได้มีโรคอื่นติดตัว เพียงแต่สำลักน้ำเข้าไปมาก ทำให้ปอดเต็มไปด้วยน้ำชีพจรของเขาเต้นช้ามาก หากไม่ได้ทำการรักษาอย่างทันท่วงที เกรงว่าเด็กคนนี้อาจสิ้นใจได้ไม่รู้ว่าแพทย์ที่รักษาก่อนหน้าทำอย่างไร แต่กลับไม่ได้ใช้วิธีปั๊มหัวใจให้เด็กโชคยังดีที่แพทย์คนก่อนให้ยารักษาบางชนิดแก่ถังเสี่ยวซาน ซึ่งช่วยชะลอการหยุดเต้นของหัวใจเป็นการชั่วคราวเป็นเหตุให้เขายังคงอยู่ในสภาพหมดสติ โดยไม่ได้สิ้นลมไปเจี่ยนอันอันยืนอยู่ต่อหน้าแม่ของอ
ครอบครัวของนางหาได้มั่งคั่งไม่ เงินเหล่านี้ล้วนเป็นเงินที่นางหาได้จากการออกไปขายเห็ดหูหนูในบ้านก็เหลือเงินเพียงเท่านี้ แต่แม่ของอวี้ซินก็ยอมยื่นส่งเงินทั้งหมดให้เจี่ยนอันอันโดยไม่เสียดายแม้แต่น้อย“แม่นาง บ้านข้าเหลือเงินเพียงเท่านี้ ขอแม่นางอย่ารังเกียจที่มันน้อยเกินไป”เจี่ยนอันอันรับเศษเงินมา หยิบออกมาเพียงก้อนเดียว แล้วส่งส่วนที่เหลือคืนให้แม่ของอวี้ซิน“เงินแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว ส่วนที่เหลือท่านเก็บไว้ใช้จ่ายในครอบครัวเถิด”แม่ของอวี้ซินมองเศษเงินที่ถูกส่งคืนให้ นางตื้นตันจนไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี“แม่นาง ท่านช่วยชีวิตหลานข้า และยังช่วยชีวิตบุตรสาวของข้าอีก ไฉนท่านจึงรับเงินเพียงเท่านี้เล่า”ก่อนหน้านี้ นางเคยจ้างหมอมา แต่กลับไม่อาจช่วยรักษาพวกเขาให้หายได้ ทั้งยังเรียกค่ารักษาถึงสิบห้าตำลึงเงินในคราวเดียวแต่แม่นางที่อยู่ตรงหน้า ไม่ได้เพียงรักษาชีวิตคนในครอบครัวของนางให้หายดี ยังรับเงินเพียงห้าตำลึงเท่านั้นนี่มันช่างไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลยแม่ของอวี้ซินพลันคิดขึ้นได้ว่า ในบ้านของนางยังมีเห็ดหูหนูจำนวนมาก บางทีนางอาจจะมอบเห็ดหูหนูเหล่านั้นให้แม่นางผู้นี้ไปเลยก็ได้เมื่อคิ
มาถึงเมืองอินเป่ยหลายวันแล้ว ถังหมิงเซวียนก็ได้เรียนรู้กฎระเบียบของที่นี่ดีแล้วผู้ใดที่เข้าสู่เมืองอินเป่ย จะไม่สามารถออกจากที่นี่ได้โดยง่ายเขาเพียงแค่ต้องค้นหาอย่างละเอียด ก็จะพบอีกฝ่ายอย่างแน่นอนในขณะเดียวกัน เจี่ยนอันอันที่นั่งอยู่ในรถม้าก็ได้นำถุงเงินและเห็ดหูหนูทั้งหมดเก็บเข้าไปในมิติจากนั้นนางกระซิบที่ข้างหูฉู่จวินสิงว่า “ท่านหิวหรือไม่ พวกเราไปหาอะไรอร่อย ๆ กินกันดีหรือไม่?”ฉู่จวินสิงหันมายิ้มบาง ๆ “เจ้าอยากกินอะไร หรืออยากกลับไปกินที่โรงเตี๊ยมเดิมอีก?”เจี่ยนอันอันส่ายหัวเบา ๆ อาหารที่โรงเตี๊ยมแห่งนั้นอร่อยก็จริง แต่ก็ยังไม่ถูกปากนางนัก“ข้าอยากกินเนื้อย่างเสียบไม้ ไม่รู้ว่าในอำเภอไถหยางจะมีร้านขายเนื้อย่างหรือไม่”ขณะที่ทั้งสองกำลังสนทนากันอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงกีบม้าดังมาจากด้านหลังเจี่ยนอันอันหันกลับไปมอง ก็เห็นถังหมิงเซวียนควบม้ามุ่งหน้ามาทางพวกนางเจี่ยนอันอันคิดในใจ ไม่ใช่ว่าเจ้าหมอนี้ไปอีกทางแล้วหรือ เหตุใดถึงได้ตามมาอีกเล่า?ไม่นานนัก ถังหมิงเซวียนก็ตามมาทัน เขาจงใจควบม้าให้ช้าลง เพื่อให้เดินขนาบข้างกับรถม้าเขาหันไปกล่าวกับเจี่ยนอันอันว่า “แม่นางเจี่ย
เจี่ยนอันอันยังคงงัวเงีย รู้สึกเหมือนมีใครบางคนกำลังจับมือของนางและบังคับให้นางกดนิ้วลงบนบางสิ่งบางอย่างนางตอบสนองทันทีด้วยการฟาดฝ่ามือกลับไปเต็มแรงทันใดนั้นก็มีเสียง ‘เพียะ’ ดังขึ้นตามด้วยเสียงคำรามอย่างเกรี้ยวกราดของชายวัยกลางคน“นังเด็กอกตัญญู กล้าดียังไงมาทำร้ายบิดาของเจ้า! ข้าจะส่งเจ้าไปหามารดาที่ตายไปแล้วของเจ้าเดี๋ยวนี้!”เมื่อเจี่ยนอันอันได้ยินคำพูดนั้น หัวใจของนางพลันเย็นเยียบทันทีคนบ้าอะไรกล้าด่าแม่ของนางเช่นนี้ รนหาที่ตาย!เจี่ยนอันอันลืมตาขึ้นทันที เห็นชายแปลกหน้าในชุดโบราณกำลังเงื้อมมือขึ้นหมายจะฟาดหน้านางเจี่ยนอันอันแค่นเสียงเย็นชา ก่อนจะเตะเข้าที่ท้องของชายคนนั้นเต็มแรงชายคนนั้นถูกเตะจนถอยหลังไปหลายก้าวกว่าจะหยุดลงได้ในฐานะที่เป็นกั๋วกงแห่งแคว้นไท่ยวน ถูกบุตรีแท้ ๆ ทำร้าย ซ้ำยังถูกทำร้ายต่อหน้าธารกำนัลเช่นนี้อีกใบหน้าของเจี่ยนกั๋วกงเขียวคล้ำด้วยความโกรธ เขาจ้องมองเจี่ยนอันอันด้วยดวงตาแดงก่ำเขาก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าว หมายจะบีบคอเจี่ยนอันอันให้ตายทันใดนั้น ฮูหยินรองก็รีบพูดขึ้นว่า “นายท่าน ตอนนี้ยังฆ่านางไม่ได้นะเจ้าคะ”“หากนางตาย ใครจะไปแต่งกับเยียน
บ่าวรับใช้รับคำสั่ง รีบหยิบเชือกออกมาเพื่อจะมัดตัวเจี่ยนอันอันแต่เจี่ยนอันอันกลับคว้าเชือกไว้ได้ ก่อนจะก้าวอาด ๆ มาตรงหน้าเจี่ยนกั๋วกงนางเคลื่อนไหวรวดเร็วจนเจี่ยนกั๋วกงไม่ทันตั้งตัว และเชือกก็ถูกคล้องเข้าที่ลำคอของเขาแล้วเจี่ยนอันอันดึงเชือกจนแน่น ทำให้เจี่ยนกั๋วกงหายใจไม่ออกทันทีนางตวาดเสียงเย็นชา “ตาเฒ่าน่ารังเกียจ! หนังสือตัดขาดนั่นเจ้าเก็บรักษาไว้ให้ดี อย่าทำหายเสียเล่า”“จำคำพูดของเจ้าวันนี้ไว้ให้ดี วันหน้าเมื่อข้าโบยบินขึ้นสูง เจ้าก็อย่ามาร้องไห้ฟูมฟายขอคืนดีกับข้าแล้วกัน!”สิ้นประโยค เจี่ยนอันอันก็เตะเจี่ยนกั๋วกงจนล้มลงกับพื้นฮูหยินรองรีบวิ่งมาพยุงเจี่ยนกั๋วกง ก่อนจะหันมาถลึงตาใส่เจี่ยนอันอัน“เจี่ยนอันอัน นังลูกทรพี! เจ้ากล้าตบตีบิดาแท้ ๆ ของเจ้าได้อย่างไร”“พวกข้าดูแลเจ้าให้เติบโตมาแท้ ๆ แต่เจ้ากลับไม่รู้จักบุญคุณ แถมยังคิดฆ่าบิดาของเจ้าอีก!”“จวนกั๋วกงของเรา ไยจึงเลี้ยงดูเด็กเนรคุณเช่นเจ้าออกมาได้”ในขณะเดียวกัน เจี่ยนหลิงเยว่บุตรสาวของฮูหยินรองก็เดินเข้ามานางด่าเจี่ยนอันอันอย่างโกรธจัด “เจี่ยนอันอัน ทางที่ดีเจ้าไปตายอยู่ข้างนอกเสีย แล้วอย่ากลับมาที่นี่อีก”
ในตอนนั้นเอง เจี่ยนอันอันก็เห็นหน้าจอขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นเบื้องหน้านางบนหน้าจอนั้นมีข้อความว่า [ต้องผูกชะตากับเยียนอ๋องเท่านั้นจึงจะเปิดมิติได้ มิเช่นนั้นมิติจะระเบิดภายในสิบวินาที][ไม่ทราบว่าจะทำการผูกชะตาหรือไม่?]เจี่ยนอันอันที่เพิ่งยิ้มแย้มอย่างสดใส ยามนี้หน้าถอดสีทันทีเมื่อเห็นว่าการนับถอยหลังของมิติเริ่มขึ้น เจี่ยนอันอันไม่มีเวลาคิดมาก รีบตะโกนในใจว่า “ผูกสิ ข้าจะผูกชะตา!”การนับถอยหลังของมิติหยุดลง และมีข้อความปรากฏขึ้นอีกครั้งว่า [ผูกชะตาสำเร็จ มิติถูกเปิดแล้ว]เจี่ยนอันอันรีบดึงยาชนิดใหม่ออกมาจากมิติและโยนเข้าปากทันทีโดยไม่คิดลังเลในเมื่อหนีการแต่งงานไม่ได้ นางก็ต้องเริ่มวางแผนสำหรับวันข้างหน้าก่อนอื่นนางต้องสะสมเสบียงจำนวนมาก เพื่อให้ในวันที่ถูกเนรเทศ จะได้ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานไปกับคนในครอบครัวของจวนเยียนอ๋องในเมื่อบิดาของร่างเดิมตั้งใจจะตัดขาดกับนาง เช่นนั้นนางก็จะขนทรัพย์สินของจวนกั๋วกงไปให้หมดก่อนเจี่ยนอันอันหลับตาแล้วกล่าวในใจว่า “ล่องหน ไปยังคลังสมบัติของจวนกั๋วกง”ทันใดนั้นร่างกายของนางก็หายไป วินาทีถัดมานางก็มาปรากฏตัวในคลังสมบัติของจวนกั๋วกงผ้าไหมแพรพรร
เพื่อที่จะไล่พ่อครัวหลวงเหล่านี้ออกไป เจี่ยนอันอันจึงหยิบผงยาถ่ายออกจากมิติแล้วโปรยใส่หน้าพวกเขาหลังจากพ่อครัวหลวงหลายคนสูดผงยาระบายเข้าไปได้ไม่นาน พวกเขาก็เริ่มบ่นปวดท้อง แล้วรีบกุมท้องวิ่งออกจากห้องเครื่องกันไปหมดเจี่ยนอันอันฮัมเพลงไปพลาง กินขนมไปพลาง พร้อมกับโยนขนมและอาหารจากห้องครัวหลวงทั้งหมดเข้าไปในมิติของนางนางเหลือบมองผักและธัญพืชที่วางเรียงไว้อย่างเป็นระเบียบ รวมถึงเนื้อที่ถูกหั่นไว้แล้วเจี่ยนอันอันคิดว่าต้องนำวัตถุดิบเหล่านี้ไปด้วยถึงจะดีเมื่อถูกเนรเทศ นางจะได้ใช้วัตถุดิบเหล่านี้ทำอาหารอร่อย ๆ ได้เมื่อคิดได้ดังนั้น เจี่ยนอันอันก็รีบขนวัตถุดิบทั้งหมดลงในมิติทันทีหลังจากเจี่ยนอันอันออกจากห้องเครื่องหลวง นางก็คิดว่าควรจะลองไปดูเยียนอ๋องผู้นั้นสักหน่อยวินาทีต่อมา นางก็ปรากฏตัวในคุกโดยพลันในขณะนั้น ฉู่จวินสิงซึ่งก็คือเยียนอ๋องกำลังถูกทรมานอย่างหนักร่างกายของเขาถูกทุบตีจนหนังเปิดเนื้อแตก เสื้อผ้าอาภรณ์ก็ถูกย้อมไปด้วยโลหิตจนแดงฉานแม้จะเป็นเช่นนั้น ฉู่จวินสิงก็ไม่ส่งเสียงครวญครางแม้แต่น้อยเจี่ยนอันอันอดไม่ได้ที่จะยกนิ้วโป้งให้เขานางรู้สึกชื่นชมเขาจากใจจริงว่
ผู้คุมหลายคนได้กลิ่นเหม็นรุนแรงจากการผายลม แต่พวกเขาไม่กล้าอุดจมูกหรือหลบเลี่ยงทำได้เพียงกลั้นใจและเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึกขันทีใหญ่ก็วิ่งตามออกมาด้วย ขณะเดินตามหลังฮ่องเต้ก็มีสีหน้ากังวลเขากลัวจริง ๆ ว่าฮ่องเต้อาจพลาดปล่อยลมออกมา แล้วเผลอทำเลอะในกางเกงเจี่ยนอันอันที่ล่องหนอยู่ มองเห็นท่าทางน่าสมเพชของฮ่องเต้สุนัขที่ดูเหมือนจะถ่ายไม่หยุด นางก็แทบจะกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่ยาระบายที่นางใช้ไม่มีทางแก้ได้ พอจะทำให้ฮ่องเต้สุนัขนี้ถ่ายไม่หยุดถึงเจ็ดวันเจ็ดคืนเมื่อเห็นว่าเวลาได้ที่แล้ว เจี่ยนอันอันก็ออกจากวังหลวงแล้วกลับมาที่เกี้ยวแต่งงานในทันทีในเวลานี้ เกี้ยวแต่งงานได้หยุดอยู่หน้าจวนเยียนอ๋องแล้วไร้เงาของชายฉกรรจ์สี่คนที่หามเกี้ยวมาเจี่ยนอันอันดึงผ้าคลุมหน้าสีแดงออก ก่อนจะเปิดม่านเกี้ยวแล้วก้าวออกมาอย่างมั่นใจนางเห็นว่าหน้าจวนเยียนอ๋องได้ถูกล้อมโดยทหารรักษาพระองค์แล้วเสียงร้องไห้และเสียงด่าทอดังมาจากภายในจวนเยียนอ๋องเจี่ยนอันอันไม่สนใจทหารรักษาพระองค์เหล่านั้น นางก้าวเดินเข้าไปในจวนเยียนอ๋องอย่างไม่ลังเลทันทีที่นางเดินเข้าไปก็เห็นว่าภายในจวนเยียนอ
มาถึงเมืองอินเป่ยหลายวันแล้ว ถังหมิงเซวียนก็ได้เรียนรู้กฎระเบียบของที่นี่ดีแล้วผู้ใดที่เข้าสู่เมืองอินเป่ย จะไม่สามารถออกจากที่นี่ได้โดยง่ายเขาเพียงแค่ต้องค้นหาอย่างละเอียด ก็จะพบอีกฝ่ายอย่างแน่นอนในขณะเดียวกัน เจี่ยนอันอันที่นั่งอยู่ในรถม้าก็ได้นำถุงเงินและเห็ดหูหนูทั้งหมดเก็บเข้าไปในมิติจากนั้นนางกระซิบที่ข้างหูฉู่จวินสิงว่า “ท่านหิวหรือไม่ พวกเราไปหาอะไรอร่อย ๆ กินกันดีหรือไม่?”ฉู่จวินสิงหันมายิ้มบาง ๆ “เจ้าอยากกินอะไร หรืออยากกลับไปกินที่โรงเตี๊ยมเดิมอีก?”เจี่ยนอันอันส่ายหัวเบา ๆ อาหารที่โรงเตี๊ยมแห่งนั้นอร่อยก็จริง แต่ก็ยังไม่ถูกปากนางนัก“ข้าอยากกินเนื้อย่างเสียบไม้ ไม่รู้ว่าในอำเภอไถหยางจะมีร้านขายเนื้อย่างหรือไม่”ขณะที่ทั้งสองกำลังสนทนากันอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงกีบม้าดังมาจากด้านหลังเจี่ยนอันอันหันกลับไปมอง ก็เห็นถังหมิงเซวียนควบม้ามุ่งหน้ามาทางพวกนางเจี่ยนอันอันคิดในใจ ไม่ใช่ว่าเจ้าหมอนี้ไปอีกทางแล้วหรือ เหตุใดถึงได้ตามมาอีกเล่า?ไม่นานนัก ถังหมิงเซวียนก็ตามมาทัน เขาจงใจควบม้าให้ช้าลง เพื่อให้เดินขนาบข้างกับรถม้าเขาหันไปกล่าวกับเจี่ยนอันอันว่า “แม่นางเจี่ย
ครอบครัวของนางหาได้มั่งคั่งไม่ เงินเหล่านี้ล้วนเป็นเงินที่นางหาได้จากการออกไปขายเห็ดหูหนูในบ้านก็เหลือเงินเพียงเท่านี้ แต่แม่ของอวี้ซินก็ยอมยื่นส่งเงินทั้งหมดให้เจี่ยนอันอันโดยไม่เสียดายแม้แต่น้อย“แม่นาง บ้านข้าเหลือเงินเพียงเท่านี้ ขอแม่นางอย่ารังเกียจที่มันน้อยเกินไป”เจี่ยนอันอันรับเศษเงินมา หยิบออกมาเพียงก้อนเดียว แล้วส่งส่วนที่เหลือคืนให้แม่ของอวี้ซิน“เงินแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว ส่วนที่เหลือท่านเก็บไว้ใช้จ่ายในครอบครัวเถิด”แม่ของอวี้ซินมองเศษเงินที่ถูกส่งคืนให้ นางตื้นตันจนไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี“แม่นาง ท่านช่วยชีวิตหลานข้า และยังช่วยชีวิตบุตรสาวของข้าอีก ไฉนท่านจึงรับเงินเพียงเท่านี้เล่า”ก่อนหน้านี้ นางเคยจ้างหมอมา แต่กลับไม่อาจช่วยรักษาพวกเขาให้หายได้ ทั้งยังเรียกค่ารักษาถึงสิบห้าตำลึงเงินในคราวเดียวแต่แม่นางที่อยู่ตรงหน้า ไม่ได้เพียงรักษาชีวิตคนในครอบครัวของนางให้หายดี ยังรับเงินเพียงห้าตำลึงเท่านั้นนี่มันช่างไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลยแม่ของอวี้ซินพลันคิดขึ้นได้ว่า ในบ้านของนางยังมีเห็ดหูหนูจำนวนมาก บางทีนางอาจจะมอบเห็ดหูหนูเหล่านั้นให้แม่นางผู้นี้ไปเลยก็ได้เมื่อคิ
เจี่ยนอันอันไม่คิดอยากจะฟังคำอธิบายจากถังก่วง นางหันไปกล่าวกับพ่อและแม่ของอวี้ซินว่า “ตอนนี้เด็กคนนั้นอยู่ที่ใด ข้าจะไปรักษาเขา”แม่ของอวี้ซินที่เดิมทีไม่ประสงค์ให้ผู้ใดล่วงรู้ถึงเรื่องอัปยศในครอบครัว ครั้นได้ยินคำของเจี่ยนอันอันนางจึงรีบตอบ “แม่นาง เชิญตามข้ามา”แม่ของอวี้ซินนำทางเจี่ยนอันอันพร้อมทั้งอีกสองคนไปยังห้องอีกห้องหนึ่งห้องนั้นไม่กว้างขวาง มีเพียงเตียงหนึ่งเตียงและโต๊ะหนึ่งตัวเท่านั้นเมื่อเจี่ยนอันอันมองไปบนเตียง ก็เห็นเด็กชายวัยราวสิบขวบนอนอยู่ดวงตาของเขาปิดสนิท ดวงหน้าเล็กซีดขาวเจี่ยนอันอันก้าวเข้าไปใกล้ พลางจับชีพจรให้ถังเสี่ยวซานเด็กผู้นี้ไม่ได้มีโรคอื่นติดตัว เพียงแต่สำลักน้ำเข้าไปมาก ทำให้ปอดเต็มไปด้วยน้ำชีพจรของเขาเต้นช้ามาก หากไม่ได้ทำการรักษาอย่างทันท่วงที เกรงว่าเด็กคนนี้อาจสิ้นใจได้ไม่รู้ว่าแพทย์ที่รักษาก่อนหน้าทำอย่างไร แต่กลับไม่ได้ใช้วิธีปั๊มหัวใจให้เด็กโชคยังดีที่แพทย์คนก่อนให้ยารักษาบางชนิดแก่ถังเสี่ยวซาน ซึ่งช่วยชะลอการหยุดเต้นของหัวใจเป็นการชั่วคราวเป็นเหตุให้เขายังคงอยู่ในสภาพหมดสติ โดยไม่ได้สิ้นลมไปเจี่ยนอันอันยืนอยู่ต่อหน้าแม่ของอ
หากต้องการให้อวี้ซินฟื้นฟูร่างกาย จำเป็นต้องคลายปมในใจของนางก่อนถึงจะสำเร็จเจี่ยนอันอันหยิบเข็มเงินออกมา แทงลงที่จุดไป่ฮุ่ยและจุดอิ้นถังของอวี้ซินฝีมือของนางทั้งมั่นคง แม่นยำ และเฉียบขาด จนทำให้พ่อและแม่ของอวี้ซินที่ดูอยู่ตกใจกลัวก่อนหน้านี้ก็มีหมอคนอื่นมารักษาและฝังเข็มให้อวี้ซินเช่นกันทว่าฝีมือการฝังเข็มของพวกเขา กลับไม่เฉียบคมเท่าเจี่ยนอันอันแม่ของอวี้ซินบีบแขนของผู้เป็นสามีไว้แน่น รู้สึกประหม่าจนมือสั่นเจี่ยนอันอันหยิบยาสงบจิตออกมา และยัดเข้าไปในปากของอวี้ซินนางค่อย ๆ หมุนเข็มเงินอย่างแผ่วเบา ไม่นานก็ได้ยินเสียงอืมเบา ๆ ในลำคอจากอวี้ซินเปลือกตาของนางขยับเล็กน้อย ดูเหมือนจะมีท่าทีว่าใกล้จะฟื้นขึ้นมาแล้วพ่อและแม่ของอวี้ซินเห็นดังนั้น ใจก็เหมือนจะออกมาเต้นนอกอกขณะที่ถังหมิงเซวียนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ มองดูวิธีการฝังเข็มของเจี่ยนอันอัน เขาอดที่จะอุทานเบา ๆ ไม่ได้ฝีมือระดับนี้เทียบเท่ากับเขาเลยทีเดียวเจี่ยนอันอันไม่สนใจคำอุทานของถังหมิงเซวียน นางดึงเข็มเงินออก ทำความสะอาดเล็กน้อยก่อนจะเก็บมันเข้าไปในมิติจากนั้นนางหยิบยารักษาโรคจิตเวชออกมา ป้อนใส่ปากอวี้ซิน“พวกท่าน
ถังก่วงตกใจจนหน้าซีดเผือด รีบวิ่งไปหาอวี้ซินพร้อมจะช่วยพยุง“อวี้ซิน เจ้าเป็นอะไรไป อย่าทำให้ข้าตกใจสิ!”บิดาของอวี้ซินก้าวพรวดเข้ามา ผลักถังก่วงออกไปทันที“เจ้าอย่าแตะต้องลูกสาวข้า หากนางเป็นอะไรไป ข้าจะไม่มีวันปล่อยเจ้าไปแน่”ถังก่วงถูกผลักจนเซไปข้างหนึ่ง ยังคิดจะเข้าไปช่วยอวี้ซินอีก แต่ก็ถูกสายตาเย็นชาของบิดาอวี้ซินข่มจนต้องถอยกลับเจี่ยนอันอันไม่รู้เรื่องของถังก่วง นางเพียงคิดว่านี่เป็นเรื่องภายในครอบครัวของคนอื่น และไม่อยากยุ่งเกี่ยวขณะกำลังจะก้าวออกไป ประตูเรือนก็ถูกผลักเปิดออกแม่ของอวี้ซินกลับมาแล้ว นางเห็นว่าในเรือนมีคนเพิ่มขึ้นมาสี่คน ซึ่งหนึ่งในนั้นมีถังก่วงนางทิ้งสิ่งที่ถืออยู่ลงแล้ววิ่งเข้ามาอย่างเร่งรีบ“เจ้ามาทำไมอีก ยังทำร้ายลูกสาวข้าไม่พออีกหรือ?”ถังก่วงเห็นมารดาของอวี้ซินกลับมาแล้ว เขาก็รีบบอกว่าพาคนมาเพื่อรักษาอวี้ซินและถังเสี่ยวซานแม่ของอวี้ซินเหลือบมองเจี่ยนอันอันและคนอื่นอีกสองคน แล้วก็มองอวี้ซินที่ศีรษะบาดเจ็บนางรู้สึกเศร้าจากใจ ดวงตาพลันแดงก่ำ“ทั้งสามคนนี้มาเพื่อรักษาเสี่ยวซานและซินเอ๋อร์จริง ๆ หรือ?”แม่ของอวี้ซินยังคงมีเหตุผลบ้าง ไม่เหมือนก
พ่อตาตวาดลั่นด้วยความโมโห “เจ้าคิดจะหลอกพาตัวอวี้ซินกลับไปละสิ ข้าจะบอกให้นะ ฝันไปเถอะ”“ที่อวี้ซินกลายเป็นแบบนี้ก็เพราะเจ้า จงรีบไสหัวไปให้พ้น ข้าไม่อยากเห็นหน้าเจ้าอีก”พ่อตาว่าจบก็จะปิดประตูถังก่วงเห็นดังนี้ก็รีบก้าวเข้าไปดันประตู หยุดยั้งการกระทำขั้นต่อไปของพ่อตาในตอนนี้เอง มีเสียงกรีดร้องของหญิงสาวดังมาจากในบ้านพ่อตาหันกลับไปมองปราดหนึ่ง สีหน้าไม่สู้ดีทันทีเขารีบเดินเข้าไปแย่งกรรไกรจากมืออวี้ซิน“เจ้าบ้าพอหรือยัง เสี่ยวซานยังหมดสติไม่ฟื้น เจ้าจะบ้าจนถึงเมื่อไร!”พ่อตาขว้างกรรไกรในมือลงพื้นอย่างเดือดดาลถังก่วงรีบวิ่งเข้าไปเมื่อได้ยินเสียงเจี่ยนอันอันกับฉู่จวินสิงเดินตามเข้าไปเช่นกันประตูลานบ้านไม่ได้ปิด ถังหมิงเซวียนจึงตามเข้ามาด้วยทั้งยังช่วยหันไปปิดประตูอย่างมีน้ำใจถังก่วงวิ่งไปที่ด้านหลังอวี้ซินและกอดนางไว้ พยายามหยุดยั้งอาการคลุ้มคลั่งของนางแต่อวี้ซินจำถังก่วงไม่ได้แม้แต่น้อย นางกรีดร้องและกัดเข้าที่แขนของถังก่วง“โอ๊ย!” ถังก่วงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดแต่ไม่ยอมปล่อยตัวนางแต่อย่างใดเจี่ยนอันอันมองเห็นว่าตอนนี้ภรรยาของถังก่วงมีผมเผ้ายุ่งเหยิงและหลุดลุ่ย
ถังก่วงเห็นเจี่ยนอันอันกินเสร็จแล้วก็ทำการเก็บผักที่เหลือลงบนรถเข็นเขาลากรถเข็นและรอให้เจี่ยนอันอันกับฉู่จวินสิงขึ้นรถม้าถังก่วงพูดว่า “แม่นางเจี่ยน ตัวข้าเดินค่อนข้างช้า หากพวกท่านรีบก็ไปรอที่ปากทางเข้าหมู่ซีโข่วก่อนได้ ข้าจะรีบตามไปให้เร็วที่สุด”เจี่ยนอันอันพยักหน้าแล้วบอกให้ฉู่จวินสิงควบรถม้าจากไปถังก่วงเห็นรถม้าของทั้งคู่มุ่งไปทางหมู่บ้านซีโข่วจริงๆ ก็เบาใจลงในที่สุดถังหมิงเซวียนขี่ม้าตามอยู่ด้านหลังรถม้าอย่างไม่เร็วไม่ช้าฉู่จวินสิงได้ยินเสียงฝีเท้าม้าด้านหลังก็หันไปมอง เห็นว่าถังหมิงเซวียนกำลังตามมาเขาจะหยุดรถม้าเพื่อซักถามถังหมิงเซวียนแต่แล้วกลับได้ยินเจี่ยนอันอันพูดว่า “ไม่ต้องสนใจเขา เขาอยากตามก็ปล่อยให้เขาตามไป”นางอยากเห็นเหมือนกันว่าบุรุษผู้นี้คิดจะทำอะไรรถม้ามาถึงปากทางเข้าหมู่บ้านซีโข่วอย่างรวดเร็ว ฉู่จวินสิงดึงบังเหียนรถม้า รอให้ถังก่วงตามมาถังหมิงเซวียนหยุดอยู่ห่างออกไปไม่ไกลเช่นกันดวงตาของเขาจับจ้องเจี่ยนอันอันไม่ละสายตา รู้สึกสงสัยใคร่รู้ในตัวนางมากขึ้นเรื่อยๆแม่นางผู้นี้ดูแล้วท่าทางแค่อายุสิบสี่สิบห้าปี แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับศัตรูกลับมีความเ
เจี่ยนอันอันหันตัวกลับไปด้วยความสงสัย “เจ้ายังมีธุระอะไรหรือ?”ถังก่วงพูดอย่างเขินอายเล็กน้อย “ไม่ทราบว่าแม่นางแซ่เจี่ยนใช่หรือไม่?”เจี่ยนอันอันคิดในใจ บรรดาเจ้าหน้าที่ทางการต่างเรียกนางว่าแม่นางเจี่ยน นางก็ต้องแซ่เจี่ยนอยู่แล้วสิถังก่วงรู้ตัวว่าตัวเองถามอะไรไม่เข้าท่า เขากระแอมไอเบาๆ “แม่นางเจี่ยน ไม่ทราบว่าท่านรู้จักอวี๋ผิงเหลียงหรือไม่?”เจี่ยนอันอันนึกเรื่องที่ตัวเองซื้อสมุนไพรทั้งภูเขาจากครอบครัวของอวี๋ผิงเหลียงขึ้นได้ทันทีนางพยักหน้า “รู้จัก ทำไมหรือ?”ถังก่วงรู้สึกยินดี ดูเหมือนว่าอวี๋ผิงเหลียงจะไม่ได้พูดโกหกเขารีบประสานมือพูดว่า “อวี๋ผิงเหลียงอยู่บ้านติดกับข้า เขาเคยชมท่านให้ข้าฟัง บอกว่าท่านไม่เพียงช่วยเหลือน้องสาวของเขา แต่ยังรับซื้อสมุนไพรของครอบครัวเขาด้วย”เจี่ยนอันอันขานตอบว่า “อ้อ” นางเข้าใจแล้วว่าถังก่วงต้องการผูกมิตรกับนางถังก่วงเห็นเจี่ยนอันอันไม่พูดอะไรก็ยิ่งขาดความมั่นใจเขาอยากบอกเจี่ยนอันอันเหลือเกินว่าที่บ้านเขาก็มีคนป่วยหนักเช่นกัน อยากให้เจี่ยนอันอันช่วยรักษาก่อนหน้านี้ภรรยาของเขาพาลูกกลับไปที่บ้านแม่ แต่แล้วลูกกลับตกลงไปในบ่อ หลังจากช่วยขึ้นมา
เวลานี้พวกเขากลายเป็นคนใบ้กินหวงเหลียน แม้จะขมแต่กลับพูดอะไรไม่ออก[1]หนึ่งในเจ้าหน้าที่ทางการคนหนึ่งหันไปพูดกับเจี่ยนอันอัน “แม่นางเจี่ยน เงินสิบล้านตำลึงนี้ดูจะมากเกินไปหน่อย”“ท่านลดจำนวนลงหน่อยได้หรือไม่และเลิกแล้วเรื่องนี้ต่อกันไป”บรรดาเจ้าของแผงเห็นเจ้าหน้าที่ทางการพูดเข้าข้างตัวเองในที่สุดก็พากันแสดงท่าทีเห็นด้วยเจ้าของแผงที่เอ่ยปากพูดเมื่อครู่ก็เอ่ยเช่นกัน “แม่นาง ก่อนหน้านี้พวกข้าทำผิดไป ท่านช่วยยกโทษให้ได้หรือไม่?”“พวกข้าหาเงินสิบล้านตำลึงมาให้ไม่ได้จริงๆ ข้าขอยกผักทั้งหมดให้ท่านได้หรือไม่ รวมกับเงินทั้งหมดที่มอบให้ก่อนหน้านี้ ขอให้เลิกแล้วต่อกันเถิด”เจ้าของแผงคนอื่นๆ แสดงท่าทีเห็นด้วย พวกเขาแย่งกันพูดอ้อนวอน หวังว่าเจี่ยนอันอันจะใจกว้างยอมยกโทษให้เจี่ยนอันอันยิ้มเยาะว่า “ผักของพวกเจ้าเหี่ยวหมดแล้ว ต่อให้ข้าเอาไปให้หมูกิน เกรงว่าหมูก็คงไม่อยากกินด้วยซ้ำ”บรรดาเจ้าของแผงเห็นเจี่ยนอันอันหัวรั้นและยังคงไม่ยอมปล่อยพวกตัวเองไป พวกเขาก็ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดีในตอนนี้เอง มีเสียงปรบมือดังขึ้นทุกคนหันไปมองทางต้นเสียง เห็นบุรุษชุดขาวหน้าตาอ่อนโยนสง่างามดุจหยกผู้หนึ่งสื