แชร์

บทที่ 522

ผู้เขียน: ซินต้งหรูสุ่ย
เจี่ยนอันอันได้ยินแล้วก็หัวเราะ ริมฝีปากนางเผยอขึ้นเล็กน้อย “เจ้าไม่ยอมรับก็ไม่เป็นไร ข้าจะไปคุยเรื่องนี้กับขุนนางฝ่ายราชเลขาธิการเอง ถึงตอนนั้นจะรอดูว่าเจ้าจะอธิบายเรื่องนี้กับขุนนางฝ่ายราชเลขาธิการอย่างไร”

เจี่ยนอันอันว่าแล้วก็หันหลังเตรียมจากไป

เฉินหย่งเหนียนหัวใจกระตุกวูบ เขารู้ว่าขุนนางฝ่ายราชเลขาธิการจัดการเรื่องต่างๆ อย่างโหดเหี้ยม

ถ้าปล่อยให้ขุนนางฝ่ายราชเลขาธิการทราบเรื่องจริงๆ เขาคงต้องหัวหลุดจากบ่าแน่แล้ว

“ท่านช้าก่อน พวกเรามาคุยกันดีๆ ดีกว่า”

เฉินหย่งเหนียนรีบส่งเสียงรั้งเจี่ยนอันอัน

เจี่ยนอันอันเลิกคิ้ว นางหันกลับมาอย่างช้าๆ รอยยิ้มเย็นชาประดับอยู่บนใบหน้า

เฉินหย่งเหนียนกัดกรามกรอด สุดท้ายก็พูดว่า “ใช่ ข้ายอมรับว่ารับเงินหนิงเจิ้น”

“แต่ข้าแค่ให้ทหารเปิดประตูเมืองแล้วปล่อยเขาออกไป เรื่องนี้คงไม่ถึงกับต้องทำให้ข้าหัวหลุดจากบ่าหรอกกระมัง”

เจี่ยนอันอันยิ้มเย็นเอ่ยว่า “ถ้าเจ้าร่วมมือกับข้า ข้าสามารถรับประกันว่าเจ้าจะไม่หัวหลุดจากบ่า”

“ถ้าเจ้าไม่อยากร่วมมือกัน ข้าสามารถทำให้หัวกับตัวเจ้าแยกกันอยู่ได้ตอนนี้เลย”

เจี่ยนอันอันกล่าวพลางเลิกคิ้ว

เฉินหย่งเหนียนย่อมรู้ว่าตนเ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 523

    เฉินหย่งเหนียนเปิดประตูเมืองเป็นช่องขนาดพอให้คนหนึ่งคนออกไปได้ ให้เจี่ยนอันอันกับฉู่จวินสิงออกไปหลังคนทั้งสองออกไปแล้ว เขาก็รีบปิดประตูเมืองเจี่ยนอันอันออกไปนอกเมืองแล้วก็รู้สึกว่าอากาศข้างนอกนั้นสดชื่นกว่าในเมืองมากนักนางกวาดสายตามองไปรอบๆ ก็เห็นว่าเหมือนมีคนปลูกกระโจมเรียบง่ายหลังหนึ่งไว้บริเวณที่ค่อนข้างห่างไกลจากประตูเมืองเห็นที ยามนี้คนที่เฝ้าอยู่นอกเมืองผู้นั้นคงพักอยู่ที่นั่นเองขณะที่ก่อนหน้านี้ พวกแม่นมหลี่กับเตียวเฉียงก็ไม่ได้ข้อมูลที่มีประโยชน์อันใดจากการจับตามองกวนซินต่อให้หนิงเจิ้นออกมารายงานคนที่เฝ้าอยู่ตรงนั้น เกรงว่าก็คงไม่ได้นำข่าวอันใดออกมาด้วยเกรงว่าขณะนี้คนผู้นั้นคงกำลังรอข่าวจากหนิงเจิ้นอยู่คนทั้งสองก้าวไวๆ ตรงไปทางกระโจมหลังนั้นฝีเท้าของพวกเขาแผ่วเบายิ่ง ไม่ก่อให้เกิดเสียงดังแม้แต่น้อยยามนั้น คนสองคนที่เฝ้าอยู่ในกระโจมกำลังสนทนากันอยู่หนึ่งในนั้นกล่าวว่า “ผู้บัญชาการหนิงบอกว่าสองวันนี้จะออกมานอกเมืองอีกครั้ง คราวนี้เขาคงจะนำข่าวที่มีประโยชน์ออกมาได้เสียทีกระมัง”อีกคนกล่าวว่า “เรื่องกวนซิน ข้าไม่สนใจเลยสักนิด ข้าแค่อยากรู้เรื่องเกี่ยวกับเยียน

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 524

    เจี่ยนอันอันหันศีรษะไปอีกทางก็เห็นว่าอีกคนถูกฉู่จวินสิงจัดการจนไปกองบนพื้นเรียบร้อยแล้ว กลางแผ่นหลังยังมีดาบใหญ่เล่มหนึ่งเสียบค้างไว้คนผู้นั้นไม่มีลมหายใจอีกแล้ว“สามีข้าจัดการได้เด็ดขาดรวบรัดนัก ข้าเองก็ไม่อาจน้อยหน้าเขา”“ผู้บัญชาการหนิงของพวกเจ้าไปรอพวกเจ้าอยู่ข้างล่างแล้ว รีบไปรวมตัวกับเขาเสียเถอะ”เจี่ยนอันอันกล่าวจบ มือก็ออกแรงใช้กริชปาดคอชายผู้นั้นเลือดสดๆ พุ่งกระฉูดออกมาในบัดดล เจี่ยนอันอันถอยหลังไปหลายก้าว ยิ้มมองชายผู้นั้นล้มลงไปชักกระตุกบนพื้นเขาชักกระตุกไม่กี่ครั้ง สองตาก็เหลือกลาน จากนั้นจึงแน่นิ่งไปเจี่ยนอันอันเก็บกริชบนพื้นขึ้นมาแล้วหันมายิ้มยิงฟันให้ฉู่จวินสิง“ท่านพี่ พวกเรากลับกันเถอะ”ฉู่จวินสิงขานรับ “อืม” คำหนึ่ง จูงมือเจี่ยนอันอันก้าวยาวๆ ออกไปจากกระโจมคนทั้งสองตรงไปยังประตูเมือง ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงฝีเท้าระลอกหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลังทั้งคู่หันกลับไปก็เห็นเหวินอิงพาโจรภูเขาหลายคนตรงมาหาพวกตน“เจี่ยนอันอัน เป็นพวกเจ้าจริงๆ ด้วย”ขณะที่เหวินอิงพูด คนก็มาถึงตรงหน้าเจี่ยนอันอันกับฉู่จวินสิงแล้วเมื่อครู่นางอยู่บริเวณตีนเขา เห็นเงาร่างที่คุ้นตาสองร

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 525

    รอจนถึงตอนที่เหวินอิงอยากเข้าไปในเมืองอินเป่ยก็ไม่จำเป็นต้องใช้กำลังบุกฝ่าเข้าไปแล้วส่วนว่าเหวินอิงจะสามารถหาหนังสือผ่านทางมาได้หรือไม่ก็ต้องดูความสามารถของนางแล้วเมื่อเหวินอิงเห็นซองจดหมายก็ยิ้มออกมาทันทีนางเคยเห็นซองจดหมายเช่นนี้จากพวกคนสกุลเสิ่นตอนนั้นหญิงชราสกุลเสิ่นผู้นั้นยังเอ่ยด้วยสีหน้าหยิ่งยโสว่านั่นคือหนังสือผ่านทางที่ใช้เข้าเมืองเหวินอิงจึงจดจำลักษณะซองใส่หนังสือผ่านทางเอาไว้ตั้งแต่ตอนนั้นเองนางคิดไม่ถึงเลยว่าเจี่ยนอันอันจะมอบซองจดหมายนี้ให้นางขณะที่เหล่าพี่น้องในค่ายเทียนอวิ๋นก็ไม่ใช่โจรภูเขาที่ไร้ประโยชน์ไปเสียทั้งหมดในหมู่พวกเขาก็มีคนที่มีทักษะความสามารถอยู่เหมือนกันเหวินอิงเพียงแต่ต้องให้คนเขียนหนังสือผ่านทางเลียนแบบขึ้นมาสักฉบับ แล้วให้โจรภูเขาที่แกะสลักตราประทับเป็นแกะสลักตราประทับขึ้นมาสักอันหนังสือผ่านทางที่สามารถเข้าไปในเมืองอินเป่ยก็สามารถใช้ของปลอมตบตาเอาได้แล้วถึงตอนนั้นนางก็แค่ต้องนำหนังสือผ่านทางนั้นมาใส่ไว้ในซองจดหมายนี่ก็สามารถเข้าไปในเมืองอินเป่ยได้แล้วเหวินอิงมองเงาหลังที่กำลังจากไปของเจี่ยนอันอันพลางตะโกนมาว่า “เจี่ยนอันอัน ขอบใจเจ้

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 526

    พวกเขามองเฉินหย่งเหนียนกลับไปเอาเงิน ไม่มีผู้ใดเข้าไปปลอบประโลมทั้งนั้นภายในใจของเฉินหย่งเหนียนหลั่งเลือด นำตั๋วเงินหนึ่งร้อยตำลึงที่ซ่อนอยู่ใต้เตียงออกมาทั้งหมดแต่เขามีการเหลือทางหนีทีไล่ไว้ให้ตัวเอง บางทีเจี่ยนอันอันกับฉู่จวินสิงอาจจะไม่รู้ก็ได้ว่าหนิงเจิ้นให้เงินเขามาเท่าไรเขาจะไม่โง่ที่จะนำเงินออกมาทั้งหมดหรอกเฉินหย่งเหนียนหยิบตั๋วเงินหนึ่งร้อยตำลึงสามใบกลับไปใส่ไว้ใต้เตียงอาศัยจังหวะที่ไม่มีผู้ใดสังเกตเห็นมารีบเก็บตั๋วเงินที่เหลือเข้าในอกเสื้อเขารีบเดินออกจากกำแพงเมือง มอบตั๋วเงินจำนวนเจ็ดร้อยตำลึงให้เจี่ยนอันอันด้วยใบหน้าที่อยากร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตาเจี่ยนอันอันนับดูแล้วพบว่าเงินแค่เจ็ดร้อยตำลึงก็สามารถซื้อตัวเฉินหย่งเหนียนได้แล้วชีวิตของเขานี่ช่างไม่มีค่าเอาเสียเลยเจี่ยนอันอันเก็บตั๋วเงิน นางปรายตามองเฉินหย่งเหนียนด้วยสายตาดูแคลนก่อนจะขึ้นรถม้า กระทั่งเมื่อฉู่จวินสิงขับรถม้าจากไป เฉินหย่งเหนียนถึงค่อยถอนหายใจด้วยความโล่งใจในที่สุดคอของเขายังปวดแสบสุดๆ อยู่ จึงรีบวิ่งกลับไปทายาให้ตัวเองขณะที่เฉินหย่งเหนียนกำลังทายา ทหารเหล่านั้นก็พากันเบียดเสียดเข้ามาในห้องข

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 527

    จางเฉวียนรับหนังสือแต่งตั้งหัวหน้าทหารพิทักษ์เมืองทำการขอบคุณขุนนางฝ่ายราชเลขาธิการแล้วกลับไปอย่างมีความสุขบรรดาเจ้าหน้าที่มาถึงหอกำแพงเมืองก่อนจางเฉวียนหนึ่งก้าวพวกเขาจับกุมเฉินหย่งเหนียนไปที่สำนักราชเลขาธิการทันทีเมื่อเฉินหย่งเหนียนเห็นจางเฉวียนที่กลับมา เขาก็เข้าใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นเขาถลึงตาใส่จางเฉวียน ตะโกนด้วยความเกรี้ยวกราด “จางเฉวียน เจ้าคนเนรคุณ ต่อให้ข้าตาย ข้าก็จะไม่ปล่อยเจ้าไว้!”จางเฉวียนไม่ยี่หระต่อคำขู่ของเฉินหย่งเหนียนแม้แต่น้อย เขาไม่ชอบเฉินหย่งเหนียนมานานแล้ว ตอนนี้ตัวเขาถูกแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าทหารพิทักษ์เมืองยิ่งไม่เห็นเฉินหย่งเหนียนอยู่ในสายตามากกว่าเดิมหลังจากที่เจ้าหน้าที่คุมตัวเฉินหย่งเหนียนจากไป จางเฉวียนก็นำหนังสือแต่งตั้งออกมาให้เหล่าทหารได้ดูตามด้วยนำเงินสองร้อยตำลึงมาแบ่งให้ทหารทุกคนจางเฉวียนพูดเสียงดังว่า “ทุกคนฟังให้ดี ข้า จางเฉวียน จะไม่มีวันยักยอกเงินแบบเฉินหย่งเหนียนเด็ดขาด”“หากวันหน้าข้ามีเงินแม้เพียงอีแปะเดียว ข้าก็จะนำมาแบ่งกับทุกคน”เหล่าทหารต่างมีความสุขเมื่อได้รับเงินพวกเขาต่างเรียกจางเฉวียนว่าท่านหัวหน้าจางทางฝั่งของเจ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 528

    หากไม่ใช่เพราะวันนี้ต้องรีบไปคิดบัญชีกับเฉินหย่งเหนียน นางคงขายผักได้มากกว่านี้ฮูหยินใหญ่มองเงินทองแดงแล้วพูดกับเจี่ยนอันอัน “อันอัน เจ้าเก็บเงินพวกนี้ไว้เถิด นี่เป็นเงินที่เจ้ากับจวินสิงได้จากการปลูกผักขาย พวกข้ารับไว้ไม่ได้”“พี่หญิงพูดถูก พวกข้ารับเงินพวกนี้ไว้ไม่ได้ เจ้าเก็บไว้เถอะ” ฮูหยินรองพูดกับเจี่ยนอันอันเช่นกันเจี่ยนอันอันมองทุกคน พบว่าทุกคนต่างก็มีความคิดเช่นนี้จึงไม่ได้พูดอะไร ทำการเก็บเงินเข้าสู่ห้วงมิติ“พรุ่งนี้ข้าจะไปขายผักอีก ได้เงินแล้วจะนำมาแบ่งให้กับทุกคน”เจี่ยนอันอันกินข้าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว นางลุกขึ้นยืดเส้นยืดสายนั่งรถม้ามาตั้งนาน ร่างกายตึงเกร็งไปหมดแล้วฮูหยินใหญ่เห็นเจี่ยนอันอันมีท่าทีอ่อนล้าก็ให้นางกลับห้องไปพักผ่อนฉู่จวินสิงกำลังจะเดินตามไปแต่ถูกฮูหยินใหญ่เรียกไว้“จวินสิง เจ้านั่งก่อน แม่มีเรื่องจะคุยด้วย”ฉู่จวินสิงมองจนเจี่ยนอันอันเดินเข้าห้องไปแล้วถึงค่อยดึงสายตากลับคืนฮูหยินใหญ่ถาม “จวินสิง อันอันก็แต่งงานกับเจ้ามานานแล้ว เหตุใดท้องของนางจึงยังไม่มีความเคลื่อนไหวอีก?”คนอื่นๆ มองฉู่จวินสิงด้วยความสงสัยเช่นกันฉู่จวินสิงเห็นทุกคนมองตัว

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 529

    เจี่ยนอันอันใช้ช่วงที่ฉู่จวินสิงยังไม่กลับห้องมาดูของในห้วงมิตินางตรวจดูคลังอาวุธ ตั้งใจว่าจะนำปืนกระบอกนั้นออกมาดูแต่แล้วกลับพบความผิดปกติบางอย่างภายในปืนกระบอกนั้นเหลือกระสุนอยู่หนึ่งนัดตอนที่ต่อสู้กับกู้มั่วหลี นางจำได้ว่าด้านในมีกระสุนอยู่เต็ม เหตุนี้ตอนนี้จึงเหลือแค่นัดเดียว?ขณะที่เจี่ยนอันอันกำลังสงสัย เบื้องหน้านางก็มีภารกิจของห้วงมิติปรากฏ[เนื่องจากมีการนำปืนออกจากคลังอาวุธ คลังอาวุธจึงถูกลดระดับลง][ระดับของคลังอาวุธตอนนี้ถูกลดเป็นเลเวล 0 และกำลังจะปิดลง กรุณาเก็บปืนกลับคืนโดยเร็ว]นี่มันบ้าอะไรกัน ไม่ใช่ว่าคลังอาวุธจะเปิดตอนไหนก็ได้หรือ เหตุใดจึงมีการลดระดับด้วย?เจี่ยนอันอันถามห้วงมิติด้วยความคิด เห็นว่าภารกิจของห้วงมิติปรากฏอีกครั้ง[อาวุธเหล่านี้ไม่ได้มาด้วยวิธีที่ถูกต้อง เจ้าไม่ทราบเรื่องนี้หรือ?]มุมปากของเจี่ยนอันอันกระตุก นางรู้ว่าอาวุธพวกนี้ไม่ได้มาด้วยวิธีที่ถูกต้องมันเป็นของที่นางได้มาจากการติดตามพี่ชายไปซื้อมาขายเก็งกำไรในยุคปัจจุบันพี่ใหญ่เคยอยู่หน่วยรบพิเศษ เคยได้เป็นเจ้าหน้าที่สืบราชการลับระหว่างปฏิบัติภารกิจครั้งหนึ่งแต่หลังจากที่เขาทำภาร

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 530

    ความคิดของเจี่ยนอันอันเพิ่งจะปรากฏ นางก็ได้ยินภารกิจของห้วงมิติส่งเสียงว่า “ชิ”[เจ้าเคยเป็นหญิงแสนดีเมื่อไรกัน]“เจ้าหุบปากไปเลย!” เจี่ยนอันอันโมโหจนด่าออกเสียงคำพูดนี้ทำให้ฉู่จวินสิงที่เดินเข้ามามีสีหน้าประหลาดใจเจี่ยนอันอันนึกไม่ถึงว่าฉู่จวินสิงจะเข้ามาพอดี นางกระแอมไอแล้วหัวเราะอย่างกระอักกระอ่วน“ข้าไม่ได้หมายถึงท่าน ฮะๆๆ…”ฉู่จวินสิงมองเห็นว่าภายในห้องมีเจี่ยนอันอันอยู่แค่คนเดียว ไม่ได้มีคนอื่น แม้แต่หนูสักตัวก็ยังไม่มีเช่นนั้นเจี่ยนอันอันกำลังคุยกับผู้ใดกัน?ฉู่จวินสิงไม่ได้ถาม และเจี่ยนอันอันก็ไม่คิดจะบอกทั้งสองคนเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน ประกอบกับวันนี้ก็ตื่นกันตั้งแต่เช้าเวลานี้ต่างก็รู้สึกง่วงนอนมากเจี่ยนอันอันดมกลิ่นตัวฉู่จวินสิงแล้วพูดกับเขา “ท่านไปอาบน้ำก่อนค่อยเข้านอนเถิด จะได้สบายตัวหน่อย”ฉู่จวินสิงขานรับและให้เหล่าสาวใช้เตรียมน้ำร้อนให้ เขาเดินเข้าไปหลังฉากกั้น ถอดเสื้อผ้าออกแล้วแช่ตัวในอ่างเจี่ยนอันอันกำลังจะใช้จังหวะนี้เข้าไปในห้องอาบน้ำห้วงมิติเพื่อแช่น้ำแต่แล้วกลับได้ยินเสียงของฉู่จวินสิงลอยมา “อันอัน ขาข้าตะคริวกิน!”หัวคิ้วของเจี่ยนอันอันขมว

บทล่าสุด

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 558

    สีหน้าของเจี่ยนอันอันมืดครึ้มลง ดูแล้วสตรีอ้วนนางนี้คงจะลืมความเจ็บปวดจากบทเรียนไปแล้วสินะนางควรกรอกยาพิษใส่ปากกุ้ยเหมยให้เป็นใบ้ ต่อไปจะได้พูดอะไรไม่ได้อีกกุ้ยเหมยเห็นลูกค้าที่ซื้อผักมีท่าทีไม่เชื่อก็พูดทันที “พวกเจ้าไม่รู้อะไร เมื่อวานข้าซื้อผักจากร้านพวกเขา หลังจากได้กินก็มีอาการถ่ายท้อง”เจ้าของแผงขายของคนอื่นๆ พากันเอะอะโวยวายตาม“กุ้ยเหมยพูดถูก เมื่อวานข้าก็ซื้อผักจากร้านพวกเขาเช่นกัน ตอนแรกคิดว่าผักสดใหม่มาก ทว่ากินไปแล้วกลับถ่ายท้อง”“พวกข้าล้วนแต่เป็นเหยื่อ ขอแนะนำให้พวกเจ้าอย่าซื้อผักของพวกเขาจะดีกว่า”บรรดาคนที่ซื้อผักได้ฟังดังนี้ก็มีสีหน้าไม่สู้ดีตอนนี้พวกเขาไม่รู้ว่าควรซื้อหรือไม่ควรซื้อดี กุ้ยเหมยใช้โอกาสนี้พูดต่ออีกว่า “ข้าจะบอกความจริงให้พวกเจ้าฟัง ผักของร้านนี้ถูกทำอะไรบางอย่าง”“ถึงแม้ว่าหลังจากที่พวกเจ้ากินจะไม่ได้มีอาการถ่ายท้อง แต่ยิ่งกินก็ยิ่งเสพติดใช่หรือไม่?”บรรดาคนที่ซื้อผักหันไปมองหน้ากันเมื่อได้ยินดังนี้ทุกคนต่างมีความรู้สึกเช่นนี้ นับแต่ที่พวกเขาซื้อผักของร้านนี้ เป็นความจริงที่กินแล้วติดใจเสมือนว่าหากไม่ได้กินผักของร้านนี้แม้เพียงมื้อเดีย

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 557

    เมื่อทั้งสองคนกลับถึงบ้านก็เห็นฉู่จวินสิงกระโดดลงมาจากหลังคาเจี่ยนอันอันตะลึงงันไปชั่วขณะ แต่ไม่นานก็เข้าใจได้ว่าเกิดอะไรขึ้นนางหยอกล้อว่า “ท่านขึ้นไปทำอะไรบนหลังคา คงไม่ใช่ขึ้นไปอาบแดดกระมัง”ฉู่จวินสิงพูดเสียงต่ำทุ้ม “ข้ากลัวเจ้าจะมีอันตราย”เจี่ยนอันอันหัวเราะ “พรืด” ออกมา มีหรือที่นางจะไม่รู้ความคิดของเขานางไม่ได้หยอกล้อฉู่จวินสิงต่อ แต่จูงมือฉู่ตั๋วตั่วเดินไปอยู่ใต้ร่มเงา นางบอกฉู่ตั๋วตั่วว่าต้องใช้กำลังไฟอย่างไรในการหลอมสมุนไพรสามชนิดนี้ฉู่ตั๋วตั่วฟังด้วยความตั้งใจและจดจำวิธีการไว้ในสมองหลังจากที่ฉู่ตั๋วตั่วเรียนรู้วิธีการหลอมเสร็จเรียบร้อย นางก็กลับไปพร้อมกับกวนซินเจี่ยนอันอันกลับเข้าห้องไปปิดตาเอนตัวลง จิตสำนึกของนางเข้าสู่ห้วงมิติทันทียาพิษที่หลอมอยู่ในเตาหลอมยาหลอมเสร็จเรียบร้อยนานแล้วนางสูดดมกลิ่นยาพิษ มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ลอยมาปะจมูก ในนั้นมีกลิ่นหอมของบุปผาพิเศษนานาชนิดผสมผสานอยู่ เจี่ยนอันอันยิ้ม ทำการเทยาพิษในเตาหลอมลงในขวด นี่เป็นยาพิษที่นางเพิ่งหลอมขึ้นใหม่ แม้จะมีกลิ่นหอมปะจมูก ทว่าความเป็นพิษกลับรุนแรงกว่ายาพิษชนิดอื่นเป็นร้อยเท่าตัวเจี่ยนอันอั

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 556

    ฉู่ตั๋วตั่วเงยหน้าขึ้นมองเจี่ยนอันอัน “ท่านน้า ดูเหมือนสมุนไพรที่นี่จะไม่ได้มีมากนะเจ้าคะ”เจี่ยนอันอันจูงมือน้อยๆ ของฉู่ตั๋วตั่วตอบว่า “พวกเราไปดูที่อื่นกันเถอะ”ฉู่ตั๋วตั่วตอบตกลงด้วยความยินดี ยามที่ทั้งสองคนมาถึงพื้นที่บริเวณใกล้เคียงกับทุ่งนาของบ้านซ่างชิว เจี่ยนอันอันก็ได้ยินเสียง “ฟ่อๆ” ดังมาจากไม่ไกลนางรีบดึงให้ฉู่ตั๋วตั่วให้ถอยออกมา “ระวังด้วยตั๋วตั่ว ที่นี่มีงูพิษ”เมื่อฉู่ตั๋วตั่วได้ยินว่ามีงูพิษ ใบหน้าดวงน้อยของนางก็ตึงเครียดขึ้นมาโดยพลันแม้ปากนางจะบอกว่าไม่กลัวงูพิษ ทว่าภายในใจก็ยังรู้สึกกลัวอยู่ดีนางเคยเห็นภาพเหตุการณ์ที่มีคนถูกงูฉกที่จวนรัชทายาท หลังจากที่บ่าวรับใช้คนนั้นถูกงูฉก เพียงไม่ถึงหนึ่งชั่วยามก็สิ้นใจตายจวบจนถึงตอนนี้ ภาพนั้นก็ยังตราตรึงอยู่ในความทรงจำของฉู่ตั๋วตั่วเจี่ยนอันอันเก็บกิ่งไม้แห้งมาแหวกหญ้าแห้งบนพื้นเห็นว่าห่างจากพวกนางออกไปไม่ไกล มีงูลายขาวตัวหนาเท่านิ้วหัวแม่มือตัวหนึ่งกำลังเลื้อยมาทางพวกนางและที่ด้านหลังงูตัวนี้ก็มีเทียนหมาดำขึ้นอยู่หลายต้นเจี่ยนอันอันดีใจเมื่อเห็นดังนี้ เทียนหมาดำเป็นสมุนไพรมีพิษ ทั้งยังเป็นสมุนไพรที่ฉู่ตั๋ว

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 555

    นางจะต้องปรุงยาพิษที่ฤทธิ์แรงกว่านี้ออกมาให้ได้ถึงจะดีจิตใต้สำนึกของเจี่ยนอันอันเข้าไปในห้วงมิติ หยิบสมุนไพรที่มีพิษร้ายแรงออกมาจากในคลังยาแล้วเริ่มปรุงยาพิษขณะที่นางกำลังปรุงยาพิษอยู่ก็มีคนมาเคาะประตูฉู่จวินสิงเดินไปเปิดประตูก็เห็นสี่เอ๋อร์ยืนอยู่หน้าประตูนางกล่าวกับฉู่จวินสิงว่า “นายน้อยรอง กวนซินกับฉู่ตั๋วตั่วมาเจ้าค่ะ”ฉู่จวินสิงไม่รู้ว่าสองคนนี้มาทำอะไร?เขาหันกลับไปมองเจี่ยนอันอันก็เห็นว่านางยังคงนอนหลับตาอยู่บนเตียงท่าทางแบบนี้คงจะหลับไปแล้วฉู่จวินสิงเดินมาถึงลานเรือน กวนซินรีบเดินเข้ามาหาทันทีนางยอบกายคารวะฉู่จวินสิง “คุณชายฉู่ ตั๋วตั่วลูกข้ามาหาอันอันเพื่อเรียนปรุงยาพิษ ไม่ทราบว่านางสะดวกหรือไม่?”ฉู่จวินสิงเหลือบมองฉู่ตั๋วตั่วแวบหนึ่งก็เห็นว่านางกำลังนั่งยองลูบกระต่ายสองตัวอยู่บนพื้นฉู่จื่อซีพูดอะไรอยู่ข้างๆ บอกว่ากระต่ายสองตัวนี้ชื่อเสี่ยวไป๋กับเสี่ยวฮุยฉู่จวินสิงเอ่ยเสียงเรียบ “อันอันพักผ่อนอยู่ รอจนนางตื่นแล้วค่อยสอนฉู่ตั๋วตั่วก็แล้วกัน”กวนซินไม่ได้พูดอะไรอีก นางก็ไม่อยากรบกวนเจี่ยนอันอันเหมือนกันจึงจูงมือฉู่ตั๋วตั่วจากไปในเวลานั้นเจี่ยนอันอันได้ยิ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 554

    แต่ฉู่จวินสิงลืมคิดไปว่าถ้าเขายังโกรธเสิ่นจือเจิ้งต่อไปก็จะทำให้เจี่ยนอันอันที่อยู่ตรงกลางลำบากใจไม่รอให้ฉู่จวินสิงเอ่ยปาก เจี่ยนอันอันก็พูดต่อไปว่า “เรื่องนี้วันหลังข้าจะบอกกับพี่เองว่าอย่าทำแบบนี้ต่อหน้าคนอื่น”ฉู่จวินสิงเข้าใจเจตนาของเจี่ยนอันอันแล้ว เขายอมรับว่าเมื่อครู่ตนเองทำไม่เหมาะสมคนทั้งสองคุยกันรู้เรื่องแล้ว ความอึดอัดคับข้องใจก็พลันสลายไปทั้งคู่เดินตรงไปยังแปลงผัก พ่อบ้านหลิวก็เดินตามหลังพวกเขาเขาเห็นทั้งสองคนเริ่มพูดคุยหัวเราะก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกพ่อบ้านหลิวเห็นฉู่จวินสิงมาตั้งแต่เล็กจนโตย่อมรู้นิสัยของฉู่จวินสิงดีเดิมทีเขายังกังวลว่าทั้งคู่จะทะเลาะกันเพราะเรื่องเมื่อครู่ตอนนี้ดูแล้ว เขาคงกังวลใจมากเกินไปเองทั้งสามมาถึงแปลงผักก็เห็นว่าพืชผักเติบโตเต็มที่แล้วจ้าวอู่กับจ้าวลิ่วนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง ดูเหมือนกำลังช่วยดูแลผักเหล่านี้อยู่เห็นพวกเขาเดินมาก็รีบร้อนลุกขึ้น“แม่นางเจี่ยน คุณชายฉู่ ในที่สุดพวกท่านก็มาเสียที”จ้าวอู่ว่าพลางเกาท้ายทอยก่อนหน้านี้เขากับจ้าวลิ่วอยากมาดูที่ทุ่งนาบ้านตัวเองว่าข้าวที่ปลูกไว้เป็นอย่างไรบ้าง แล้วก็มาเห็นว่าพืชผ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 553

    เสิ่นจือเจิ้งย่อมรู้ว่าเจี่ยนอันอันชอบกินหม้อไฟเขามองท่าทางยิ้มแย้มของเจี่ยนอันอันแล้วก็ยื่นมือไปลูบศีรษะนางอย่างเป็นธรรมชาตินี่เป็นท่าทางที่มักทำบ่อยๆ ตอนทั้งคู่อยู่ที่บ้านแต่คนเหล่านั้นกลับมองเสิ่นจือเจิ้งด้วยสีหน้าตกอกตกใจมีเพียงฉู่จวินสิงที่ตีหน้าเย็นชา ท่าทางเหมือนอยากจะฆ่าคนเขาปัดมือเสิ่นจือเจิ้งออกแล้วจ้องมองฝ่ายตรงข้ามอย่างขุ่นเคืองเสิ่นจือเจิ้งเหลือบมองฉู่จวินสิงด้วยแววตาเย็นชาหาใดเปรียบดุจเดียวกันเขาจะลูบหัวน้องสาวตัวเองก็ต้องให้ฉู่จวินสิงอนุญาตอย่างนั้นรึ?เห็นท่าทางตึงเครียดของคนทั้งสองแล้ว มุมปากเจี่ยนอันอันก็กระตุกยิกสองคนนี้ทำไมทำตัวเหมือนเด็กสามขวบอย่างไรอย่างนั้นคนอื่นๆ เห็นอย่างนั้นก็รีบเอ่ยปากพูดขึ้นมา“หม้อไฟวันนี้อร่อยจริงๆ”“ใช่แล้ว วันนี้แสงแดดก็ยังเปรี้ยงอีกต่างหาก”“ต่อไปพวกเราต้องกินหม้อไฟกันบ่อยๆ นะ รสชาติแบบนี้จะโอชาเกินไปแล้ว”พวกเขาไม่กล้าพูดห้ามปรามคนทั้งสองจึงคิดหาคำพูดมาผ่อนคลายบรรยากาศเจี่ยนอันอันใช้ผ้าแพรเช็ดหน้าซับมุมปากแล้วลุกขึ้นทำท่าจะจากไป“ข้าจะไปดูผักในแปลงผักสักหน่อย ป่านนี้ผักพวกนั้นคงโตได้ที่แล้วกระมัง”ฉู่จวินสิงเ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 552

    สี่เอ๋อร์เพิ่งจะเคยเห็นอุปกรณ์ทำหม้อไฟแบบนี้เป็นครั้งแรกนางเทน้ำลงในหม้อตามคำสั่ง จากนั้นก็เห็นเจี่ยนอันอันหยิบฟืนจำนวนหนึ่งมาใส่ใต้หม้อแล้วจุดไฟสาวใช้คนอื่นๆ ล้างผักเสร็จแต่แรกแล้ว พวกนางยกผักกับเนื้อวัวที่ซอยเสร็จเรียบร้อยเดินมาทางนี้เมื่อพวกนางเห็นอุปกรณ์ทำหม้อไฟก็อึ้งไปทันทีเหมือนกันนี่มันคืออะไรกัน น้ำในนั้นผ่านไปไม่ทันไรก็เดือดแล้วเจี่ยนอันอันไปที่ครัวแล้วนำน้ำจิ้มกับเครื่องเทศสำหรับทำหม้อไฟปริมาณมากออกมาจากในมิตินางเทน้ำจิ้มลงในชามใหญ่ใบหนึ่งแล้วยกชามเดินออกมา“ในชามนี้คือน้ำจิ้มสำหรับหม้อไฟ อีกประเดี๋ยวจะได้ใช้ตอนกินหม้อไฟ ของพวกนี้เป็นเครื่องเทศสำหรับทำหม้อไฟ ต้องเทใส่ในหม้อ”เจี่ยนอันอันว่าพลางเทเครื่องเทศสำหรับทำหม้อไฟลงไปในหม้อกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของหม้อไฟโชยออกมาอย่างรวดเร็วคนตระกูลฉู่ได้กลิ่นหอมนั้นก็เดินออกมาจากในห้องพวกเขาเดินมาตรงหน้าโต๊ะก็เห็นผักและเนื้อสัตว์เต็มโต๊ะ“อันอัน เจ้าทำทั้งหมดนี่เลยหรือ?” ฮูหยินใหญ่สูดกลิ่นหอมกรุ่นนั้นพลางมองไปทางเจี่ยนอันอันอย่างค่อนข้างสงสัยในความคิดของนาง ของแปลกประหลาดแบบนี้ก็มีแต่เจี่ยนอันอันเท่านั้นแหละถึงจ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 551

    ฉู่จวินสิงนั่งอยู่บนขอบเตียง มองท่าทางนับเงินอย่างจริงจังของเจี่ยนอันอันแล้วใบหน้าก็เผยรอยยิ้มออกมาเจี่ยนอันอันเงยใบหน้าดวงน้อยนั้นขึ้นมาเอ่ยอย่างเบิกบานใจว่า “ท่านพี่ วันนี้พวกเราขายของได้เงินมากขนาดนี้ก็ต้องกินดีๆ หน่อยถึงจะถูก”“เจ้าอยากกินอะไร?” ฉู่จวินสิงมองเจี่ยนอันอันด้วยสีหน้าเอ็นดูเจี่ยนอันอันหัวเราะคิกคัก “วันนี้ข้าอยากกินหม้อไฟแล้วดื่มสุราผลไม้สักหน่อย”ฉู่จวินสิงเลิกคิ้ว หม้อไฟคืออันใด เขาไม่เคยกินมาก่อนครั้นเจี่ยนอันอันคิดถึงว่าอีกหน่อยจะได้กินหม้อไฟ นางก็กลืนน้ำลายอย่างอดไม่อยู่ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ นางไม่ได้กินหม้อไฟหอมกรุ่นมานานแล้ว“หม้อไฟที่เจ้าว่าอร่อยปานนั้นเชียว?” ฉู่จวินสิงถามอย่างสงสัยเจี่ยนอันอันคิดไม่ถึงว่าฉู่จวินสิงจะไม่เคยกินหม้อไฟมาก่อนแต่พอครุ่นคิดดูก็พบว่าไม่แปลก คนในโลกนี้ไม่เหมือนราชวงศ์ต่างๆ ที่นางรู้จักบางทีคนที่นี่อาจไม่เคยกินหม้อไฟมาก่อนเลยก็เป็นได้เจี่ยนอันอันยิ้มยิงฟัน “ประเดี๋ยวท่านก็จะได้รู้แล้วว่าหม้อไฟเลิศรสปานไหน”เจี่ยนอันอันบอกว่าจะทำก็ทำเลย นางรุดออกไปเตรียมวัตถุดิบสำหรับทำหม้อไฟทันทีนางมาที่ชั้นใต้ดิน หยิบผักและเนื้อสัต

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 550

    กุ้ยเหมยเมื่อเห็นว่าถังก่วงไม่ส่งเสียงพูดออกมา นางคิดว่าถังก่วงจะต้องกลัวตนเองนางส่งเสียงเย้ยหยันออกมา แล้วพูดกับเจ้าของแผงคนอื่นๆ “สองคนที่มาใหม่นั่นไม่กำจัดไปไม่ได้ ข้ามีความคิดหนึ่ง พวกเจ้าอยากจะลองฟังหรือไม่?”กุ้ยเหมยเมื่อพูดมาถึงตรงนี้ ก็หยุดลง แล้วมองไปยังเจ้าของแผงเหล่านั้นเจ้าของแผงถึงแม้ว่าจะเกลียดกุ้ยเหมยเป็นอย่างมาก แต่พวกเขาตอนนี้ต้องรวมเป็นหนึ่งเพื่อต่อต้านภายนอกเมื่อเทียบกับกุ้ยเหมยแล้ว เจี่ยนอันอันกับฉู่จวินสิงต่างหากถึงจะเป็นคนที่พวกเขาควรกำจัดทิ้งแน่นอนว่าย่อมอยากฟังว่ากุ้ยเหมยจะพูดอะไรออกมา“ข้าว่ากุ้ยเหมย เจ้าอย่ามัวมาโอ้เอ้อยู่เลย รีบพูดออกมา!”เจ้าของแผงต่างก็เริ่มจะไม่อดทนต่อแล้ว คิดเพียงอยากจะให้กุ้ยเหมยรีบพูดออกมากุ้ยเหมยเปิดปากหัวเราะออกมา ทว่าทันทีที่นางอ้าปาก แผลที่เดิมทีนั้นสมานกันแล้วก็เริ่มมีเลือดออกมานางเจ็บปวดจนร้อง “ไอ้หยา” ดังขึ้น แล้วรีบปิดปากท่าทีน่าอับอายนั้นของนาง ทำให้ถังก่วงรู้สึกในใจว่านี่เป็นการแก้แค้นกุ้ยเหมยเช็ดเลือดตรงปาก ก็เห็นว่าทุกคนรอเพียงข้อเสนอแนะของนาง ไม่มีใครจะห่วงใยว่าปากของนางจะเจ็บหรือไม่ในใจกุ้ยเหมยคิด ไม่ต

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status