แชร์

บทที่ 515

ผู้เขียน: ซินต้งหรูสุ่ย
กุ้ยเหมยเจ็บปวดเสียจนทั่วทั้งกายสั่นเทิ้ม รู้ได้เองว่าวันนี้ไปล่วงเกินคนที่ไม่ควรล่วงเกินเข้า

นางรีบหันหน้าหนี หลบเข็มถัดไปของเจี่ยนอันอัน

เจี่ยนอันอันเหวี่ยงมือไป พูดอย่างเย็นชา “ถ้ายังหลบอีกข้าจะแทงตาเจ้าให้เหมือนตาปลาเสีย!”

กุ้ยเหมยตื่นตกใจเสียจนรีบร้องอ้อนวอนออกมา “แม่นาง เมื่อครู่นี้เป็นข้ามีตาแต่หามีแววไม่ ขอร้องท่านอย่าได้ถือสาที่ผู้น้อยทำไป ปล่อยข้าไปเถอะ”

เจี่ยนอันอันเย้ยหยันออกมา “เจ้าพูดจาเน่าๆ จนข้าขุ่นเคืองเข้า ปากนี้เย็บเสียดีกว่า"

เจี่ยนอันอันพูดขึ้น แล้วแทงเข้าไปอีกหนึ่งเข็ม

กุ้ยเหมยจะทนความเจ็บปวดเช่นนี้ได้ย่างไรกัน ริมฝีปากของนางตอนนี้เต็มไปด้วยเลือด ปากเองก็ถูกแทงไปแล้วถึงสามเข็ม

ด้ายสีดำนั้นถูกเข็มเงินดึงผ่านปากของกุ้ยเหมย

เลือดไหลซึมออกมาจากปากของกุ้ยเหมย หยดลงบนเสื้อผ้าของนาง

กุ้ยเหมยเจ็บปวดจนสองตากลอกไปมา แล้วเป็นลมไป

เจ้าของแผงคนอื่นๆ ถูกภาพฉากนี้ทำเสียตกใจไม่น้อย พวกเขาลอบยินดีอยู่ในใจ

โชคดีที่พวกเขาไม่ได้ผสมโรงกับกุ้ยเหมย ไปโต้แย้งกับทั้งสองคนนี้

มิฉะนั้นแล้วตอนนี้คนที่ถูกทุบตีก็คงจะเป็นพวกเขาแล้ว

โดยเฉพาะเด็กสาวคนนี้ มองแล้วอายุไม่มาก ทว่าล
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 516

    รถม้าเดินทางไปได้ระยะหนึ่ง เจี่ยนอันอันก็มองเห็นเบื้องหน้าที่ไม่ไกลออกไปนัก มีขอทานหลายคนกำลังห้อมล้อมเด็กน้อยอยู่เด็กน้อยหันหลังให้พวกเขา ทว่าเมื่อมองไปยังเสื้อผ้าที่เขาสวมใส่อยู่นั้น เพียงแค่ชั่วพริบตาเดียวเจี่ยนอันอันก็จดจำได้ทันที นั่นคือเฉียวอี้เด็กคนนี้ทำไมถึงได้ถูกขอทานห้อมล้อมอยู่กัน?เมื่อรถม้าเข้ามาใกล้นั้น ก็ได้ยินขอทานทั้งหลายพูดออกมาว่า "เฉียวอี้ ตอนนี้เจ้าร่ำรวยแล้ว ไม่ใช่ว่าจะต้องมอบเงินให้พวกเราเสียหน่อยหรือ""ใช่แล้ว ในตอนนั้นที่เจ้าออกมาขอทานกับแม่เจ้า พวกเราได้ช่วยเหลือเจ้าสองแม่ลูกไว้ไม่น้อย""หยุดพูดไร้สาระกับเขาได้แล้ว ดูเขาสวมใส่เสื้อผ้ามีราคามากเช่นนี้ ทุกคนถอดเสื้อผ้าเขาออกเสีย คงจะขายได้เงินมาไม่น้อย"เฉียวอี้ก้าวถอยหลังด้วยความประหม่า เขาจับเสื้อผ้าที่สวมเอาไว้แน่น ไม่ให้ผู้ใดแตะต้อง"นี่เป็นเสื้อผ้าที่ผู้มีพระคุณมอบให้ข้า พวกเจ้าห้ามถอดมันออก" เฉียวอี้พูดขึ้น ก็หมุนกายจะวิ่งออกไปทว่าด้านหลังของเขายังมีขอทานอีกสองคนยืนอยู่ พวกเขาต่างก็มองไปยังเฉียวอี้ อย่างไม่หวังดีนัก"จะให้พวกเราถอดให้เจ้า หรือว่าเจ้าจะถอดออกมาเอง"ขอทานคนหนึ่งพูดออกมา มือก็ยื่

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 517

    ขอทานทั้งหมดพากันหลบออกไป เผยให้เห็นขอทานคนที่พูดออกมาต่อหน้าของเจี่ยนอันอัน พวกเขาล้วนแต่ออกมาเพื่อหาอาหาร แต่ไม่กล้าที่จะล่วงเกินผู้อื่น จนมีจุดจบด้วยการถูกเตะกระเด็นลอยออกไป สหายคนนั้นที่ถูกเตะลอยไปนั้น นอนอยู่บนพื้นโดยไม่ไหวติง ตอนนี้จะเป็นหรือตายก็ไม่อาจรู้ได้ ขอทานคนที่พูดออกมานั้นเมื่อเห็นว่าคนอื่นๆ ล้วนแต่ไม่สนใจเขา ก็รีบหดคอลง ไม่กล้าที่จะพูดมากอีก ใบหน้าของเจี่ยนอันอันเต็มไปด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย แล้วพูดกับขอทานทั้งหมดนี่ “พวกเจ้าหากว่าภายหน้ายังกล้ามายั่วยุเฉียวอี้กับแม่ของเขาอีก ก็อย่ามากล่าวโทษที่ข้าลงมือโหดร้าย!”ขอทานทั้งหลายถูกรอยยิ้มของเจี่ยนอันอันทำให้ตกใจกลัวเข้ามีคนพูดเสียงกระซิบออกมา “ยังมัวยืนอยู่ทำไมอีก รีบวิ่งหนีเข้า!”ขอทานคนอื่นๆ เมื่อได้ยินเข้า ก็รีบหมุนกายวิ่งหนีไปทันทีไม่มีใครคิดจะไปตรวจดูสหายคนที่ถูกเตะกระเด็นไปเมื่อเห็นว่าพวกเขาหนีไปหมดแล้ว เฉียวอี้ถึงได้กล้าที่จะเดินออกมาจากด้านหลังของเจี่ยนอันอันเขาโบกมือให้เจี่ยนอันอันและฉู่จวินสิง “ขอบคุณผู้มีพระคุณทั้งสองท่านที่ลงมือช่วยเหลือ”เสื้อผ้าของเขาในที่สุดก็สามารถปกป้องเอาไว้ได้แล้ว ต่อไ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 518

    ฉู่จวินสิงกระแอมออกมาเบาๆ หยุดความคิดวุ่นวายนั่นของเหยียนอวี่เสียเขารู้สึกได้ว่าสายตาของเหยียนอวี่ที่ใช้มองเจี่ยนอันอันนั้น เหมือนว่าจะมีความรู้สึกบางอย่างอยู่ในนั้นนี่ทำให้เขายิ่งมองในใจก็ยิ่งไม่มีความสุขเจี่ยนอันอันยกมือออก พูดออกมาอย่างเรียบเฉย “ดูเหมือนว่าหลายวันมานี้เจ้าจะกินยาตรงตามเวลา ร่างกายเองก็ดีขึ้นกว่าแปดส่วน”“กินยาต่อไปเหมือนกับก่อนหน้านั้น ผ่านไปอีกสามวัน อาการป่วยของเจ้าก็จะหายดีแล้ว”เมื่อได้ยินว่าร่างกายของเขากำลังจะฟื้นตัว ใบหน้าของเหยียนอวี่ก็เผยรอยยิ้มกว้างออกมาทันทีขอเพียงแค่ร่างกายของเขาฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์ได้ เขาก็สามารถขอร้องพี่สาว ให้นำเขาไปพบเจี่ยนอันอันที่หมู่บ้านชิงสุ่ยได้หลายวันมานี้เขาครุ่นคิดทั้งกลางวันกลางคืน หวังว่าจะสามารถพบกับเจี่ยนอันอันได้โดยเร็ววันบางทีความคาดหวังของเขาที่ได้รับความโปรดปรานจากสวรรค์ วันนี้เจี่ยนอันอันถึงได้มาเยี่ยมเขา“แม่นางเจี่ยน พี่สาวข้าไปซื้ออาหารในตลาด พวกท่านจะอยู่กินข้าวด้วยกันแล้วค่อยไปหรือไม่?”เจี่ยนอันอันเมื่อได้ยินว่าเหยียนซวงไปตลาด ทว่านางเพิ่งจะกลับมาจากตลาด กลับไม่พบเหยียนซวงหรือว่า ในอำเภอไถหยางน

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 519

    คนกลุ่มนั้นสวมชุดเครื่องแบบทางการ แล้วจับตัวนางไปโดยไม่อธิบายใดนางไม่ได้ทำอะไรผิดไป แน่นอนว่าย่อมไม่ตามคนกลุ่มนั้นไปเพราะเหตุนี้จึงมีเรื่องทะเลาะกับคนกลุ่มนั้นขึ้นมาคนที่เป็นผู้นำพูดว่าเหยียนซวงขโมยเงินพวกเขาไป บอกว่าไม่ว่าจะอย่างไรก็จะนำนางไปแน่นอนว่าเหยียนซวงย่อมปฏิเสธออกมา แล้วต่อสู้กับพวกเขาขึ้นมาทว่าถึงแม้ว่านางจะมีวรยุทธ์ ทว่าสองมือก็ยากที่จะต่อสู้กับสี่มือคนกลุ่มนั้นอาศัยที่มีคนมาก ในมือก็ยังมีมีดอยู่ จึงได้ทุบตีนางจนกลายเป็นเช่นนี้ภายหลังเจ้าของแผงลอยบอกว่า เงินของคนกลุ่มนั้นถูกคนผู้อื่นขโมยไป พวกเขาถึงได้หยุดมือลงเหยียนซวงพูด สองมือกำแน่นเป็นหมัด“เจ้าหน้าที่อะไรกัน ข้าว่าพวกเขาล้วนแต่แสร้งปลอมตัว”“หากว่าให้ข้าได้พบกับพวกเขาอีก ข้าจะต้องไม่ปล่อยพวกเขาไปแน่”เหยียนซวงพูดขึ้น พร้อมกัดฟันเจี่ยนอันอันเข้าใจแล้ว ว่าคนกลุ่มนั้นจะต้องเป็นทั้งสามคนที่ถูกฉู่จวินสิงเตะกระเด็นออกไปดูเหมือนว่าพวกเขาตามหาตนเองไม่พบ ก็เลยระบายความโกรธลงไปที่เหยียนซวงเพียงแต่นางสับสนอยู่มาก ในตอนที่นางกลับมาจากตลาดนั้น ไม่เห็นแม้แต่เงาของเหยียนซวง“ข้าเองก็ไปตลาดมา ทำไมถึงได้ไม่พบเ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 520

    บางทีคนในภาพเหมือน ดูไม่เหมือนกันกับเจ้าของเดิมมากนักในตอนที่เจ้าหน้าที่เหล่านั้นผ่านรถม้าไป ยังเหลือบมองมายังทางด้านของทั้งสองคนพวกเขาเพียงแค่ขมวดคิ้วออกมา แล้วรีบวิ่งจากไปสายตาเฉียบแหลมของเจี่ยนอันอันมองเห็นว่า ในมือของเจ้าหน้าที่ที่เป็นผู้นำนั้น กลับมีภาพเหมือนสองรูปของนางกับฉู่จวินสิง วาดไปอย่างน่าเกลียดเป็นอย่างยิ่งโดยเฉพาะภาพเหมือนของนาง ใบหน้ากลับเต็มไปด้วยกระ ดวงตาข้างหนึ่งยังเอียงอีกด้วยหากว่าด้านบนนั้นไม่ได้เขียนชื่อของนางกับฉู่จวินสิงเอาไว้ เจี่ยนอันอันก็คงจะคิดว่าภาพบนนั้นคือผู้อื่นแล้ว“โอ้ ใครกันที่วาดภาพนี้ ถึงกับวาดพวกเราสองคนได้น่าเกลียดเช่นนี้ คนที่วาดภาพเหมือนนี้ เกรงว่าคงจะใช้เท้าวาดสินะ”นางคิดถึงที่ก่อนหน้านั้นถูกกู้มั่วหลีขังเอาไว้ในห้องลับนั้น กู้มั่วหลีบอกว่าด้านนอกนั้นยังมีคนกำลังตามจับนางอยู่อาศัยภาพเหมือนนี่ แล้วใครจะเชื่อมโยงนางกับคนในภาพเหมือนนี้ได้?นอกจากคนผู้นั้นเป็นอัจฉริยะ!ฉู่จวินสิงเมื่อเห็นว่าเจี่ยนอันอันไม่ได้สนใจที่เจ้าหน้าคอยตามจับนาง ยังคงล้อเลียนคนในภาพเหมือนนั่นมุมปากของเขายกขึ้นเล็กน้อย ความตึงเครียดในใจก็หายไปเขากลับไม่ก

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 521

    “เฉินหย่งเหนียน ข้าจะนับหนึ่งถึงสาม ถ้าเจ้ายังไม่ไสหัวลงมาอีก ข้าจะทำให้เจ้าเลือดสาดหอประตูเมือง!”เจี่ยนอันอันประกาศกร้าวไปทางเฉินหย่งเหนียนเฉินหย่งเหนียนตกใจจนสั่นสะท้านไปทั้งร่าง รีบร้อนลงมาจากหอประตูเมืองทหารคนอื่นๆ ก็วิ่งตามลงมาด้วยเช่นกันพวกเขาล้อมเจี่ยนอันอันกับฉู่จวินสิงเอาไว้ แต่ไม่กล้าก้าวเข้ามาอีกแม้ก้าวเดียวเฉินหย่งเหนียนเองก็ไม่ทราบว่าเพราะเหตุใดทุกครั้งที่เขามองไปทางเจี่ยนอันอัน ในใจมักรู้สึกหวาดหวั่นเขาเป็นทหารรักษาเมืองมานานหลายปีก็ไม่เคยหวาดกลัวผู้ใดมาก่อนทว่ายามอยู่ต่อหน้าเจี่ยนอันอัน เขากลับรู้สึกใจคอไม่สู้ดีเหมือนหนูเผชิญหน้ากับแมวกระนั้น“เจ้า พวกเจ้ามาทำอันใด?”อย่าบอกเขานะว่าฝ่ายตรงข้ามจะออกไปนอกเมืองเจี่ยนอันอันแค่นหัวเราะแล้วเอ่ยว่า “เฉินหย่งเหนียน ข้าขอถามเจ้า ก่อนหน้านี้เจ้ารับเงินของหนิงเจิ้นใช่หรือไม่?”เฉินหย่งเหนียนคิดไม่ถึงว่าเจี่ยนอันอันจะรู้จักหนิงเจิ้นส่วนเรื่องที่เขารับเงินหนิงเจิ้น มีเพียงเขากับหนิงเจิ้นสองคนที่รู้เจี่ยนอันอันไปได้ยินเรื่องนี้มาจากไหน หนิงเจิ้นบอกนางอย่างนั้นหรือ?เห็นเฉินหย่งเหนียนไม่พูดจา เจี่ยนอันอันย่อมรู้

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 522

    เจี่ยนอันอันได้ยินแล้วก็หัวเราะ ริมฝีปากนางเผยอขึ้นเล็กน้อย “เจ้าไม่ยอมรับก็ไม่เป็นไร ข้าจะไปคุยเรื่องนี้กับขุนนางฝ่ายราชเลขาธิการเอง ถึงตอนนั้นจะรอดูว่าเจ้าจะอธิบายเรื่องนี้กับขุนนางฝ่ายราชเลขาธิการอย่างไร”เจี่ยนอันอันว่าแล้วก็หันหลังเตรียมจากไปเฉินหย่งเหนียนหัวใจกระตุกวูบ เขารู้ว่าขุนนางฝ่ายราชเลขาธิการจัดการเรื่องต่างๆ อย่างโหดเหี้ยมถ้าปล่อยให้ขุนนางฝ่ายราชเลขาธิการทราบเรื่องจริงๆ เขาคงต้องหัวหลุดจากบ่าแน่แล้ว“ท่านช้าก่อน พวกเรามาคุยกันดีๆ ดีกว่า”เฉินหย่งเหนียนรีบส่งเสียงรั้งเจี่ยนอันอันเจี่ยนอันอันเลิกคิ้ว นางหันกลับมาอย่างช้าๆ รอยยิ้มเย็นชาประดับอยู่บนใบหน้าเฉินหย่งเหนียนกัดกรามกรอด สุดท้ายก็พูดว่า “ใช่ ข้ายอมรับว่ารับเงินหนิงเจิ้น”“แต่ข้าแค่ให้ทหารเปิดประตูเมืองแล้วปล่อยเขาออกไป เรื่องนี้คงไม่ถึงกับต้องทำให้ข้าหัวหลุดจากบ่าหรอกกระมัง”เจี่ยนอันอันยิ้มเย็นเอ่ยว่า “ถ้าเจ้าร่วมมือกับข้า ข้าสามารถรับประกันว่าเจ้าจะไม่หัวหลุดจากบ่า”“ถ้าเจ้าไม่อยากร่วมมือกัน ข้าสามารถทำให้หัวกับตัวเจ้าแยกกันอยู่ได้ตอนนี้เลย”เจี่ยนอันอันกล่าวพลางเลิกคิ้วเฉินหย่งเหนียนย่อมรู้ว่าตนเ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 523

    เฉินหย่งเหนียนเปิดประตูเมืองเป็นช่องขนาดพอให้คนหนึ่งคนออกไปได้ ให้เจี่ยนอันอันกับฉู่จวินสิงออกไปหลังคนทั้งสองออกไปแล้ว เขาก็รีบปิดประตูเมืองเจี่ยนอันอันออกไปนอกเมืองแล้วก็รู้สึกว่าอากาศข้างนอกนั้นสดชื่นกว่าในเมืองมากนักนางกวาดสายตามองไปรอบๆ ก็เห็นว่าเหมือนมีคนปลูกกระโจมเรียบง่ายหลังหนึ่งไว้บริเวณที่ค่อนข้างห่างไกลจากประตูเมืองเห็นที ยามนี้คนที่เฝ้าอยู่นอกเมืองผู้นั้นคงพักอยู่ที่นั่นเองขณะที่ก่อนหน้านี้ พวกแม่นมหลี่กับเตียวเฉียงก็ไม่ได้ข้อมูลที่มีประโยชน์อันใดจากการจับตามองกวนซินต่อให้หนิงเจิ้นออกมารายงานคนที่เฝ้าอยู่ตรงนั้น เกรงว่าก็คงไม่ได้นำข่าวอันใดออกมาด้วยเกรงว่าขณะนี้คนผู้นั้นคงกำลังรอข่าวจากหนิงเจิ้นอยู่คนทั้งสองก้าวไวๆ ตรงไปทางกระโจมหลังนั้นฝีเท้าของพวกเขาแผ่วเบายิ่ง ไม่ก่อให้เกิดเสียงดังแม้แต่น้อยยามนั้น คนสองคนที่เฝ้าอยู่ในกระโจมกำลังสนทนากันอยู่หนึ่งในนั้นกล่าวว่า “ผู้บัญชาการหนิงบอกว่าสองวันนี้จะออกมานอกเมืองอีกครั้ง คราวนี้เขาคงจะนำข่าวที่มีประโยชน์ออกมาได้เสียทีกระมัง”อีกคนกล่าวว่า “เรื่องกวนซิน ข้าไม่สนใจเลยสักนิด ข้าแค่อยากรู้เรื่องเกี่ยวกับเยียน

บทล่าสุด

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 558

    สีหน้าของเจี่ยนอันอันมืดครึ้มลง ดูแล้วสตรีอ้วนนางนี้คงจะลืมความเจ็บปวดจากบทเรียนไปแล้วสินะนางควรกรอกยาพิษใส่ปากกุ้ยเหมยให้เป็นใบ้ ต่อไปจะได้พูดอะไรไม่ได้อีกกุ้ยเหมยเห็นลูกค้าที่ซื้อผักมีท่าทีไม่เชื่อก็พูดทันที “พวกเจ้าไม่รู้อะไร เมื่อวานข้าซื้อผักจากร้านพวกเขา หลังจากได้กินก็มีอาการถ่ายท้อง”เจ้าของแผงขายของคนอื่นๆ พากันเอะอะโวยวายตาม“กุ้ยเหมยพูดถูก เมื่อวานข้าก็ซื้อผักจากร้านพวกเขาเช่นกัน ตอนแรกคิดว่าผักสดใหม่มาก ทว่ากินไปแล้วกลับถ่ายท้อง”“พวกข้าล้วนแต่เป็นเหยื่อ ขอแนะนำให้พวกเจ้าอย่าซื้อผักของพวกเขาจะดีกว่า”บรรดาคนที่ซื้อผักได้ฟังดังนี้ก็มีสีหน้าไม่สู้ดีตอนนี้พวกเขาไม่รู้ว่าควรซื้อหรือไม่ควรซื้อดี กุ้ยเหมยใช้โอกาสนี้พูดต่ออีกว่า “ข้าจะบอกความจริงให้พวกเจ้าฟัง ผักของร้านนี้ถูกทำอะไรบางอย่าง”“ถึงแม้ว่าหลังจากที่พวกเจ้ากินจะไม่ได้มีอาการถ่ายท้อง แต่ยิ่งกินก็ยิ่งเสพติดใช่หรือไม่?”บรรดาคนที่ซื้อผักหันไปมองหน้ากันเมื่อได้ยินดังนี้ทุกคนต่างมีความรู้สึกเช่นนี้ นับแต่ที่พวกเขาซื้อผักของร้านนี้ เป็นความจริงที่กินแล้วติดใจเสมือนว่าหากไม่ได้กินผักของร้านนี้แม้เพียงมื้อเดีย

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 557

    เมื่อทั้งสองคนกลับถึงบ้านก็เห็นฉู่จวินสิงกระโดดลงมาจากหลังคาเจี่ยนอันอันตะลึงงันไปชั่วขณะ แต่ไม่นานก็เข้าใจได้ว่าเกิดอะไรขึ้นนางหยอกล้อว่า “ท่านขึ้นไปทำอะไรบนหลังคา คงไม่ใช่ขึ้นไปอาบแดดกระมัง”ฉู่จวินสิงพูดเสียงต่ำทุ้ม “ข้ากลัวเจ้าจะมีอันตราย”เจี่ยนอันอันหัวเราะ “พรืด” ออกมา มีหรือที่นางจะไม่รู้ความคิดของเขานางไม่ได้หยอกล้อฉู่จวินสิงต่อ แต่จูงมือฉู่ตั๋วตั่วเดินไปอยู่ใต้ร่มเงา นางบอกฉู่ตั๋วตั่วว่าต้องใช้กำลังไฟอย่างไรในการหลอมสมุนไพรสามชนิดนี้ฉู่ตั๋วตั่วฟังด้วยความตั้งใจและจดจำวิธีการไว้ในสมองหลังจากที่ฉู่ตั๋วตั่วเรียนรู้วิธีการหลอมเสร็จเรียบร้อย นางก็กลับไปพร้อมกับกวนซินเจี่ยนอันอันกลับเข้าห้องไปปิดตาเอนตัวลง จิตสำนึกของนางเข้าสู่ห้วงมิติทันทียาพิษที่หลอมอยู่ในเตาหลอมยาหลอมเสร็จเรียบร้อยนานแล้วนางสูดดมกลิ่นยาพิษ มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ลอยมาปะจมูก ในนั้นมีกลิ่นหอมของบุปผาพิเศษนานาชนิดผสมผสานอยู่ เจี่ยนอันอันยิ้ม ทำการเทยาพิษในเตาหลอมลงในขวด นี่เป็นยาพิษที่นางเพิ่งหลอมขึ้นใหม่ แม้จะมีกลิ่นหอมปะจมูก ทว่าความเป็นพิษกลับรุนแรงกว่ายาพิษชนิดอื่นเป็นร้อยเท่าตัวเจี่ยนอันอั

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 556

    ฉู่ตั๋วตั่วเงยหน้าขึ้นมองเจี่ยนอันอัน “ท่านน้า ดูเหมือนสมุนไพรที่นี่จะไม่ได้มีมากนะเจ้าคะ”เจี่ยนอันอันจูงมือน้อยๆ ของฉู่ตั๋วตั่วตอบว่า “พวกเราไปดูที่อื่นกันเถอะ”ฉู่ตั๋วตั่วตอบตกลงด้วยความยินดี ยามที่ทั้งสองคนมาถึงพื้นที่บริเวณใกล้เคียงกับทุ่งนาของบ้านซ่างชิว เจี่ยนอันอันก็ได้ยินเสียง “ฟ่อๆ” ดังมาจากไม่ไกลนางรีบดึงให้ฉู่ตั๋วตั่วให้ถอยออกมา “ระวังด้วยตั๋วตั่ว ที่นี่มีงูพิษ”เมื่อฉู่ตั๋วตั่วได้ยินว่ามีงูพิษ ใบหน้าดวงน้อยของนางก็ตึงเครียดขึ้นมาโดยพลันแม้ปากนางจะบอกว่าไม่กลัวงูพิษ ทว่าภายในใจก็ยังรู้สึกกลัวอยู่ดีนางเคยเห็นภาพเหตุการณ์ที่มีคนถูกงูฉกที่จวนรัชทายาท หลังจากที่บ่าวรับใช้คนนั้นถูกงูฉก เพียงไม่ถึงหนึ่งชั่วยามก็สิ้นใจตายจวบจนถึงตอนนี้ ภาพนั้นก็ยังตราตรึงอยู่ในความทรงจำของฉู่ตั๋วตั่วเจี่ยนอันอันเก็บกิ่งไม้แห้งมาแหวกหญ้าแห้งบนพื้นเห็นว่าห่างจากพวกนางออกไปไม่ไกล มีงูลายขาวตัวหนาเท่านิ้วหัวแม่มือตัวหนึ่งกำลังเลื้อยมาทางพวกนางและที่ด้านหลังงูตัวนี้ก็มีเทียนหมาดำขึ้นอยู่หลายต้นเจี่ยนอันอันดีใจเมื่อเห็นดังนี้ เทียนหมาดำเป็นสมุนไพรมีพิษ ทั้งยังเป็นสมุนไพรที่ฉู่ตั๋ว

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 555

    นางจะต้องปรุงยาพิษที่ฤทธิ์แรงกว่านี้ออกมาให้ได้ถึงจะดีจิตใต้สำนึกของเจี่ยนอันอันเข้าไปในห้วงมิติ หยิบสมุนไพรที่มีพิษร้ายแรงออกมาจากในคลังยาแล้วเริ่มปรุงยาพิษขณะที่นางกำลังปรุงยาพิษอยู่ก็มีคนมาเคาะประตูฉู่จวินสิงเดินไปเปิดประตูก็เห็นสี่เอ๋อร์ยืนอยู่หน้าประตูนางกล่าวกับฉู่จวินสิงว่า “นายน้อยรอง กวนซินกับฉู่ตั๋วตั่วมาเจ้าค่ะ”ฉู่จวินสิงไม่รู้ว่าสองคนนี้มาทำอะไร?เขาหันกลับไปมองเจี่ยนอันอันก็เห็นว่านางยังคงนอนหลับตาอยู่บนเตียงท่าทางแบบนี้คงจะหลับไปแล้วฉู่จวินสิงเดินมาถึงลานเรือน กวนซินรีบเดินเข้ามาหาทันทีนางยอบกายคารวะฉู่จวินสิง “คุณชายฉู่ ตั๋วตั่วลูกข้ามาหาอันอันเพื่อเรียนปรุงยาพิษ ไม่ทราบว่านางสะดวกหรือไม่?”ฉู่จวินสิงเหลือบมองฉู่ตั๋วตั่วแวบหนึ่งก็เห็นว่านางกำลังนั่งยองลูบกระต่ายสองตัวอยู่บนพื้นฉู่จื่อซีพูดอะไรอยู่ข้างๆ บอกว่ากระต่ายสองตัวนี้ชื่อเสี่ยวไป๋กับเสี่ยวฮุยฉู่จวินสิงเอ่ยเสียงเรียบ “อันอันพักผ่อนอยู่ รอจนนางตื่นแล้วค่อยสอนฉู่ตั๋วตั่วก็แล้วกัน”กวนซินไม่ได้พูดอะไรอีก นางก็ไม่อยากรบกวนเจี่ยนอันอันเหมือนกันจึงจูงมือฉู่ตั๋วตั่วจากไปในเวลานั้นเจี่ยนอันอันได้ยิ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 554

    แต่ฉู่จวินสิงลืมคิดไปว่าถ้าเขายังโกรธเสิ่นจือเจิ้งต่อไปก็จะทำให้เจี่ยนอันอันที่อยู่ตรงกลางลำบากใจไม่รอให้ฉู่จวินสิงเอ่ยปาก เจี่ยนอันอันก็พูดต่อไปว่า “เรื่องนี้วันหลังข้าจะบอกกับพี่เองว่าอย่าทำแบบนี้ต่อหน้าคนอื่น”ฉู่จวินสิงเข้าใจเจตนาของเจี่ยนอันอันแล้ว เขายอมรับว่าเมื่อครู่ตนเองทำไม่เหมาะสมคนทั้งสองคุยกันรู้เรื่องแล้ว ความอึดอัดคับข้องใจก็พลันสลายไปทั้งคู่เดินตรงไปยังแปลงผัก พ่อบ้านหลิวก็เดินตามหลังพวกเขาเขาเห็นทั้งสองคนเริ่มพูดคุยหัวเราะก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกพ่อบ้านหลิวเห็นฉู่จวินสิงมาตั้งแต่เล็กจนโตย่อมรู้นิสัยของฉู่จวินสิงดีเดิมทีเขายังกังวลว่าทั้งคู่จะทะเลาะกันเพราะเรื่องเมื่อครู่ตอนนี้ดูแล้ว เขาคงกังวลใจมากเกินไปเองทั้งสามมาถึงแปลงผักก็เห็นว่าพืชผักเติบโตเต็มที่แล้วจ้าวอู่กับจ้าวลิ่วนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง ดูเหมือนกำลังช่วยดูแลผักเหล่านี้อยู่เห็นพวกเขาเดินมาก็รีบร้อนลุกขึ้น“แม่นางเจี่ยน คุณชายฉู่ ในที่สุดพวกท่านก็มาเสียที”จ้าวอู่ว่าพลางเกาท้ายทอยก่อนหน้านี้เขากับจ้าวลิ่วอยากมาดูที่ทุ่งนาบ้านตัวเองว่าข้าวที่ปลูกไว้เป็นอย่างไรบ้าง แล้วก็มาเห็นว่าพืชผ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 553

    เสิ่นจือเจิ้งย่อมรู้ว่าเจี่ยนอันอันชอบกินหม้อไฟเขามองท่าทางยิ้มแย้มของเจี่ยนอันอันแล้วก็ยื่นมือไปลูบศีรษะนางอย่างเป็นธรรมชาตินี่เป็นท่าทางที่มักทำบ่อยๆ ตอนทั้งคู่อยู่ที่บ้านแต่คนเหล่านั้นกลับมองเสิ่นจือเจิ้งด้วยสีหน้าตกอกตกใจมีเพียงฉู่จวินสิงที่ตีหน้าเย็นชา ท่าทางเหมือนอยากจะฆ่าคนเขาปัดมือเสิ่นจือเจิ้งออกแล้วจ้องมองฝ่ายตรงข้ามอย่างขุ่นเคืองเสิ่นจือเจิ้งเหลือบมองฉู่จวินสิงด้วยแววตาเย็นชาหาใดเปรียบดุจเดียวกันเขาจะลูบหัวน้องสาวตัวเองก็ต้องให้ฉู่จวินสิงอนุญาตอย่างนั้นรึ?เห็นท่าทางตึงเครียดของคนทั้งสองแล้ว มุมปากเจี่ยนอันอันก็กระตุกยิกสองคนนี้ทำไมทำตัวเหมือนเด็กสามขวบอย่างไรอย่างนั้นคนอื่นๆ เห็นอย่างนั้นก็รีบเอ่ยปากพูดขึ้นมา“หม้อไฟวันนี้อร่อยจริงๆ”“ใช่แล้ว วันนี้แสงแดดก็ยังเปรี้ยงอีกต่างหาก”“ต่อไปพวกเราต้องกินหม้อไฟกันบ่อยๆ นะ รสชาติแบบนี้จะโอชาเกินไปแล้ว”พวกเขาไม่กล้าพูดห้ามปรามคนทั้งสองจึงคิดหาคำพูดมาผ่อนคลายบรรยากาศเจี่ยนอันอันใช้ผ้าแพรเช็ดหน้าซับมุมปากแล้วลุกขึ้นทำท่าจะจากไป“ข้าจะไปดูผักในแปลงผักสักหน่อย ป่านนี้ผักพวกนั้นคงโตได้ที่แล้วกระมัง”ฉู่จวินสิงเ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 552

    สี่เอ๋อร์เพิ่งจะเคยเห็นอุปกรณ์ทำหม้อไฟแบบนี้เป็นครั้งแรกนางเทน้ำลงในหม้อตามคำสั่ง จากนั้นก็เห็นเจี่ยนอันอันหยิบฟืนจำนวนหนึ่งมาใส่ใต้หม้อแล้วจุดไฟสาวใช้คนอื่นๆ ล้างผักเสร็จแต่แรกแล้ว พวกนางยกผักกับเนื้อวัวที่ซอยเสร็จเรียบร้อยเดินมาทางนี้เมื่อพวกนางเห็นอุปกรณ์ทำหม้อไฟก็อึ้งไปทันทีเหมือนกันนี่มันคืออะไรกัน น้ำในนั้นผ่านไปไม่ทันไรก็เดือดแล้วเจี่ยนอันอันไปที่ครัวแล้วนำน้ำจิ้มกับเครื่องเทศสำหรับทำหม้อไฟปริมาณมากออกมาจากในมิตินางเทน้ำจิ้มลงในชามใหญ่ใบหนึ่งแล้วยกชามเดินออกมา“ในชามนี้คือน้ำจิ้มสำหรับหม้อไฟ อีกประเดี๋ยวจะได้ใช้ตอนกินหม้อไฟ ของพวกนี้เป็นเครื่องเทศสำหรับทำหม้อไฟ ต้องเทใส่ในหม้อ”เจี่ยนอันอันว่าพลางเทเครื่องเทศสำหรับทำหม้อไฟลงไปในหม้อกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของหม้อไฟโชยออกมาอย่างรวดเร็วคนตระกูลฉู่ได้กลิ่นหอมนั้นก็เดินออกมาจากในห้องพวกเขาเดินมาตรงหน้าโต๊ะก็เห็นผักและเนื้อสัตว์เต็มโต๊ะ“อันอัน เจ้าทำทั้งหมดนี่เลยหรือ?” ฮูหยินใหญ่สูดกลิ่นหอมกรุ่นนั้นพลางมองไปทางเจี่ยนอันอันอย่างค่อนข้างสงสัยในความคิดของนาง ของแปลกประหลาดแบบนี้ก็มีแต่เจี่ยนอันอันเท่านั้นแหละถึงจ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 551

    ฉู่จวินสิงนั่งอยู่บนขอบเตียง มองท่าทางนับเงินอย่างจริงจังของเจี่ยนอันอันแล้วใบหน้าก็เผยรอยยิ้มออกมาเจี่ยนอันอันเงยใบหน้าดวงน้อยนั้นขึ้นมาเอ่ยอย่างเบิกบานใจว่า “ท่านพี่ วันนี้พวกเราขายของได้เงินมากขนาดนี้ก็ต้องกินดีๆ หน่อยถึงจะถูก”“เจ้าอยากกินอะไร?” ฉู่จวินสิงมองเจี่ยนอันอันด้วยสีหน้าเอ็นดูเจี่ยนอันอันหัวเราะคิกคัก “วันนี้ข้าอยากกินหม้อไฟแล้วดื่มสุราผลไม้สักหน่อย”ฉู่จวินสิงเลิกคิ้ว หม้อไฟคืออันใด เขาไม่เคยกินมาก่อนครั้นเจี่ยนอันอันคิดถึงว่าอีกหน่อยจะได้กินหม้อไฟ นางก็กลืนน้ำลายอย่างอดไม่อยู่ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ นางไม่ได้กินหม้อไฟหอมกรุ่นมานานแล้ว“หม้อไฟที่เจ้าว่าอร่อยปานนั้นเชียว?” ฉู่จวินสิงถามอย่างสงสัยเจี่ยนอันอันคิดไม่ถึงว่าฉู่จวินสิงจะไม่เคยกินหม้อไฟมาก่อนแต่พอครุ่นคิดดูก็พบว่าไม่แปลก คนในโลกนี้ไม่เหมือนราชวงศ์ต่างๆ ที่นางรู้จักบางทีคนที่นี่อาจไม่เคยกินหม้อไฟมาก่อนเลยก็เป็นได้เจี่ยนอันอันยิ้มยิงฟัน “ประเดี๋ยวท่านก็จะได้รู้แล้วว่าหม้อไฟเลิศรสปานไหน”เจี่ยนอันอันบอกว่าจะทำก็ทำเลย นางรุดออกไปเตรียมวัตถุดิบสำหรับทำหม้อไฟทันทีนางมาที่ชั้นใต้ดิน หยิบผักและเนื้อสัต

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 550

    กุ้ยเหมยเมื่อเห็นว่าถังก่วงไม่ส่งเสียงพูดออกมา นางคิดว่าถังก่วงจะต้องกลัวตนเองนางส่งเสียงเย้ยหยันออกมา แล้วพูดกับเจ้าของแผงคนอื่นๆ “สองคนที่มาใหม่นั่นไม่กำจัดไปไม่ได้ ข้ามีความคิดหนึ่ง พวกเจ้าอยากจะลองฟังหรือไม่?”กุ้ยเหมยเมื่อพูดมาถึงตรงนี้ ก็หยุดลง แล้วมองไปยังเจ้าของแผงเหล่านั้นเจ้าของแผงถึงแม้ว่าจะเกลียดกุ้ยเหมยเป็นอย่างมาก แต่พวกเขาตอนนี้ต้องรวมเป็นหนึ่งเพื่อต่อต้านภายนอกเมื่อเทียบกับกุ้ยเหมยแล้ว เจี่ยนอันอันกับฉู่จวินสิงต่างหากถึงจะเป็นคนที่พวกเขาควรกำจัดทิ้งแน่นอนว่าย่อมอยากฟังว่ากุ้ยเหมยจะพูดอะไรออกมา“ข้าว่ากุ้ยเหมย เจ้าอย่ามัวมาโอ้เอ้อยู่เลย รีบพูดออกมา!”เจ้าของแผงต่างก็เริ่มจะไม่อดทนต่อแล้ว คิดเพียงอยากจะให้กุ้ยเหมยรีบพูดออกมากุ้ยเหมยเปิดปากหัวเราะออกมา ทว่าทันทีที่นางอ้าปาก แผลที่เดิมทีนั้นสมานกันแล้วก็เริ่มมีเลือดออกมานางเจ็บปวดจนร้อง “ไอ้หยา” ดังขึ้น แล้วรีบปิดปากท่าทีน่าอับอายนั้นของนาง ทำให้ถังก่วงรู้สึกในใจว่านี่เป็นการแก้แค้นกุ้ยเหมยเช็ดเลือดตรงปาก ก็เห็นว่าทุกคนรอเพียงข้อเสนอแนะของนาง ไม่มีใครจะห่วงใยว่าปากของนางจะเจ็บหรือไม่ในใจกุ้ยเหมยคิด ไม่ต

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status