Share

บทที่ 506

Author: ซินต้งหรูสุ่ย
เจี่ยนอันอันรีบกล่าวว่า “ท่านยายหลิน ไข่ไก่ของบ้านพวกข้ามีเพียงพอแล้ว ไม่ต้องให้เพิ่มแล้ว”

“ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้มีลูกไก่ฟักออกมาหลายตัวแล้ว ต่อไปที่บ้านข้าก็จะเลี้ยงไก่ได้แล้ว”

ท่านยายหลินหยุดฝีเท้า เมื่อเห็นว่าเจี่ยนอันอันไม่ยอมรับ จึงต้องยอมล้มเลิกความตั้งใจ

เจี่ยนอันอันเดินมาที่ริมบ่อน้ำ มองดูน้ำในบ่อ

น้ำในบ่อมีไม่มากนัก เนื่องจากเมื่อวานฝนตก น้ำในบ่อจึงดูขุ่นมัว

นางเอาน้ำพุวิญญาณออกมา แล้วแอบเทลงไปเล็กน้อย

ไม่นาน น้ำในบ่อที่เคยขุ่นมัวก็ค่อย ๆ ใสสะอาด และพลันไหลพุ่งขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

น้ำในบ่อพุ่งขึ้นจนถึงขอบบ่อ แล้วจึงหยุดอยู่ตรงนั้น

เจี่ยนอันอันแสร้งทำหน้าตกใจ

นางรีบหันกลับไป แล้วกล่าวกับคนตระกูลหลินว่า “พวกเจ้ามาดูเร็ว เมื่อครู่น้ำในบ่อพุ่งขึ้นมาเอง”

เมื่อคนตระกูลหลินได้ยิน ต่างรีบวิ่งเข้ามาดู

สิ่งที่เห็นก็เป็นดังที่เจี่ยนอันอันพูด น้ำในบ่อที่เกือบจะแห้งเหือด ตอนนี้กลับล้นจนเกือบไหลออกมานอกบ่อ

คนตระกูลหลินล้วนยินดีปรีดา สายตาที่มองเจี่ยนอันอันเปี่ยมไปด้วยความชื่นชม

พวกเขาพากันพูดว่า เจี่ยนอันอันคือดาวนำโชคที่มาจุติ

ตั้งแต่นางมาถึงหมู่บ้านชิงสุ่ย ฟ้าที่แห้งแล้งจนไม่ม
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 507

    เมื่อได้ผลลัพธ์จากการทดลองครั้งนี้ เจี่ยนอันอันก็วางใจที่จะปลูกผักชนิดอื่นต่อไปเจี่ยนอันอันปลูกถั่วฝักยาว มะเขือ และพริกเพิ่มอีกหลังจากรดน้ำพุวิญญาณลงไป ไม่นานผักเหล่านี้ก็เริ่มงอกต้นอ่อนทั้งสองนั่งพักหลบแดดอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ เจี่ยนอันอันเอนศีรษะพิงไหล่ของฉู่จวินสิง ดวงตาจับจ้องไปยังผักในแปลง“อันอันเหนื่อยหรือไม่?” ฉู่จวินสิงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเขายกมือขึ้นจัดเส้นผมที่ติดอยู่บนใบหน้าของเจี่ยนอันอันอย่างแผ่วเบา“ข้าไม่เหนื่อย ท่านพี่เหนื่อยหรือไม่?” เจี่ยนอันอันเงยหน้าขึ้นมองฉู่จวินสิงสายตาของฉู่จวินสิงเต็มไปด้วยความเอ็นดู เขาก้มศีรษะลง จุมพิตเบา ๆ บนริมฝีปากของเจี่ยนอันอัน“อันอันไม่เหนื่อย ข้าก็ไม่เหนื่อย”เจี่ยนอันอันเผยรอยยิ้มหวาน ก่อนจะเอนศีรษะพิงไหล่ของฉู่จวินสิงอีกครั้งแม้ว่าชีวิตที่นี่จะยากลำบากและขัดสนอยู่บ้าง แต่การได้อยู่กับคนที่รัก แม้วันคืนจะลำบากเพียงใด ก็กลับรู้สึกว่าหวานชื่นเจี่ยนอันอันฮัมเพลงเบา ๆ ซึ่งเป็นเพลงที่ฉู่จวินสิงไม่เคยได้ยินมาก่อนเสียงของนางใสกังวานไพเราะ ทำให้ฉู่จวินสิงหลับตาฟังอย่างเพลิดเพลินความเงียบสงบในช่วงเวลานั้นถูกขัดจังหวะด

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 508

    ท่านปู่เฉินรีบพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “ข้าเจอแล้ว แต่ไม่ว่าจะพูดอย่างไร แม่ลูกตระกูลเฉียวก็ไม่ยอมรับเงินของข้า”เรื่องนี้ก็กลายเป็นปมในใจของท่านปู่เฉินเจี่ยนอันอันไม่คาดคิดเลยว่า เฉียวซื่อและบุตรจะไม่รับเงินของท่านปู่เฉินหากเป็นนาง นอกจากจะรับเงินมาแล้ว ยังต้องลงมือสั่งสอนท่านปู่เฉินสักครั้งนางมองท่านปู่เฉินด้วยสายตาดูแคลน “ท่านขอโทษพวกเขาอย่างไม่จริงใจกระมัง?”ท่านปู่เฉินไม่กล้ามองเจี่ยนอันอัน ก้มหน้าลงต่ำกว่าเดิม“ข้าขอโทษอย่างจริงใจแล้ว แต่พวกเขาแม่ลูกไม่ยอมรับคำขอโทษของข้า”เมื่อคิดถึงเหตุการณ์ตอนที่พบเฉียวซื่อ ท่านปู่เฉินก็ขนลุกด้วยความหวาดกลัวเฉียวซื่อเป็นโรคเรื้อน ทำให้แขนขาของนางบิดเบี้ยวผิดรูปเมื่อเห็นท่านปู่เฉิน นางก็พุ่งเข้ามาหาอย่างดุดันราวกับสัตว์ร้ายแม้มือของนางจะเหยียดออกไม่ได้ แต่ก็พยายามทำร้ายท่านปู่เฉินอย่างสุดกำลังท่านปู่เฉินรู้ดีว่าตนมีความผิด เขาจึงไม่ได้หลบเลี่ยง ร่างกายและใบหน้าถูกเฉียวซื่อทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บไม่น้อยเขาขอโทษเฉียวซื่อและบุตรด้วยความจริงใจ แต่กลับได้รับคำด่าทอจากเฉียวซื่อเฉียวซื่อยังโยนเงินที่เขาให้ไปลงกับพื้นอีกด้วยท่าทางที่แ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 509

    ท่านปู่เฉินหอบหายใจอยู่พักใหญ่ท่าทางของเจี่ยนอันอันเมื่อครู่ช่างน่าหวาดกลัวยิ่งนักสายตาของนางที่มองเขา ราวกับกำลังจ้องมองศพ ทำเอาหนังศีรษะของเขาชาวาบวันนี้เวินอี๋ตื่นค่อนข้างสายเนื่องจากเมื่อคืนดื่มสุรามากเกินไป เขาจึงพักอยู่ในห้องเดียวกับเหยียนเซ่าทั้งสองสนทนากันทั้งคืน ส่วนใหญ่เวินอี๋เป็นฝ่ายพูด เหยียนเซ่าเป็นฝ่ายฟังวันนี้เหยียนเซ่าตื่นแต่เช้า เขารับประทานอาหารเสร็จแล้วก็ฝึกวิทยายุทธ์ในลานเรือนหลายวันที่ผ่านมา เขาไม่ได้ฝึกฝนอย่างจริงจัง จึงรู้สึกว่ากล้ามเนื้อแขนขาเริ่มตึงๆเวินอี๋ถูกเสียงตอกไม้เพื่อสร้างเตียงนอนจากด้านนอกปลุกให้ตื่นเมื่อเขาเดินออกมานอกห้อง ก็เห็นชาวบ้านสามคนกำลังทำเตียงอยู่ในลานบ้านจ้าวลิ่วเหลือบมองไปทางเหยียนเซ่าเป็นระยะ ๆ ในดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความชื่นชมและฉากนี้ตกอยู่ในสายตาของฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอันที่เพิ่งกลับมาพอดีสาวใช้เห็นเวินอี๋ตื่นแล้ว จึงตักน้ำใส่อ่างมาให้เขาล้างหน้าก่อนออกไปรับประทานอาหารเวินอี๋กล่าวขอบคุณสาวใช้อย่างสุภาพ แล้วเริ่มล้างหน้าล้างตาเจี่ยนอันอันเห็นว่าจ้าวอู่และซ่างชิวใช้เครื่องมือตัดท่อนซุงให้เป็นแผ่นไม้พวกเขาม

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 510

    เมื่อจ้าวลิ่วได้สติกลับมา เขารีบลุกขึ้นแล้ววิ่งตรงไปหาฉู่จวินสิงและเหยียนเซ่า“คุณชายฉู่ คุณชายเหยียน วิทยายุทธ์ของพวกท่านยอดเยี่ยมนัก สอนข้าได้หรือไม่ขอรับ?”ฉู่จวินสิงแอบยิ้มที่มุมปาก ก่อนจะตีหน้าขรึมแล้วกล่าวว่า “การเรียนวิทยายุทธ์มิใช่สิ่งที่จะสำเร็จได้ในวันเดียว”“หากเจ้าต้องการให้ข้าสอนก็มิใช่ว่าไม่ได้ แต่เจ้าต้องอดทนต่อความลำบาก”จ้าวลิ่วในตอนนี้เอาแต่นึกถึงภาพการประลองของทั้งสองเมื่อครู่นี้คำว่าลำบากหรือเหนื่อยยากนั้น เขาไม่ได้ใส่ใจแม้แต่น้อย“ข้าทนลำบากได้ และไม่กลัวเหนื่อยขอรับ” แววตาของจ้าวลิ่วในยามนี้ฉายประกายความมุ่งมั่นจากคำพูดของฉู่จวินสิง เขาก็พอจะเดาออกว่าฉู่จวินสิงไม่ได้เอ่ยปฏิเสธเขาหากตอนนี้เขาไม่แสดงความตั้งใจว่าต้องการฝึกฝน เกรงว่าฉู่จวินสิงอาจเปลี่ยนใจซ่างชิวและจ้าวอู่ก็วางงานในมือลง แล้วก้าวเข้ามาอย่างรวดเร็วซ่างชิวเพิ่งได้เห็นท่าทางของฉู่จวินสิงที่ใช้วิทยายุทธ์เป็นครั้งแรกเมื่อคิดถึงเหตุการณ์ฆ่าล้างเมืองในอดีต คนที่ไม่มีวิทยายุทธ์อย่างพวกเขาก็ต้องเผชิญกับความสูญเสียมากมายหากพวกเขาเรียนรู้วิทยายุทธ์ได้ ก็คงไม่ต้องหวาดกลัวการถูกข่มเหงรังแกอีกต่อ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 511

    ไม่นานนักฟ้าก็มืดลง เจี่ยนอันอันและฉู่จวินสิงเองก็กลับเรือนไปตอนนี้เตียงอุ่นภายในห้อง ได้ถูกพวกของซ่างชิวทั้งสามคนรื้อออกไปแล้ว แล้วย้ายเตียงที่สร้างเสร็จแล้วขึ้นมาแทนกองดินที่ถูกรื้อออกมาเหล่านั้น ถูกพวกของซ่างชิวทั้งสามคนกองเอาไว้ด้านนอกลานแล้วเมื่อเห็นเตียงใหม่ที่สร้างขึ้นในห้อง เจี่ยนอันอันก็พอใจเป็นอย่างมากนางหยิบเงินออกมา มอบให้ทั้งสามคน“นี่เป็นเงินที่พวกเจ้าสร้างเรือนและเตียงขึ้นมา วันนี้พวกเจ้าลำบากแล้ว เงินที่เพิ่มขึ้นมานั้นพวกเจ้าก็เก็บเอาไว้เถอะ”จ้าวลิ่วไม่คิดเลยว่าเพียงแค่มาสร้างเตียงเท่านั้นไม่เพียงแต่จะได้รับเงินเพิ่มมากขึ้น พรุ่งนี้ยังสามารถเรียนศิลปะการต่อสู้กับฉู่จวินสิงได้อีกด้วยเขารู้สึกว่าวันนี้ที่ทำงานมากมายถึงเพียงนี้ ช่างคุ้มค่าจริงๆหลังจากกลับมายังหมู่บ้านชิงสุ่ย จ้าวลิ่วก็คิดว่าจะปรับปรุงสถานการณ์ของที่บ้านอย่างไรดีหลายวันมานี้ทำงานให้เจี่ยนอันอัน เขาไม่มีคำบ่นใดออกมาเลยเขาเองก็เสียใจจริงๆ ไม่คิดที่จะออกไปเร่ร่อนด้านนอกอีกเมื่อมองเงินจำนวนมากในมือ ในใจก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมา“แม่นางเจี่ยน ต่อไปหากว่าท่านมีงานอะไรให้ทำ อย่าลืมเรียกข้ามาทำ”จ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 512

    ฉู่จื่อซีพูดขึ้นข้างๆ “อาสะใภ้รอง เถี่ยต้านพูดว่าขอบคุณท่าน เป็นเพราะว่ามีท่านอยู่ทำให้ทั้งสี่ฤดูอบอุ่นขึ้นมา...”เจี่ยนอันอันไม่พูดอะไรออกมา มุมปากก็อดที่จะกระตุกขึ้นมาไม่ได้นางสูดลมหายใจเข้าลึก สะกดข่มความคิดที่อยากจะเหยียบเถี่ยต้านให้ตายไปนางไม่อยากได้ยินเถี่ยต้านดังจี๊ดๆ ดึงมือฉู่จื่อซีหมุนกายจากไปเมื่อกลับมาถึงเรือน เจี่ยนอันอันก็ล้มหัวลง ผล็อยหลับไปวันนี้นางขุดผักเหล่านั้นมันเหนื่อยมากจริงๆ บวกกับตอนนี้ยังนอนอยู่บนเตียง สบายจนนางหลับตาลงแล้วก็หลับไปฉู่จวินสิงปวดใจกับนางเป็นอย่างมาก เมื่อห่มผ้าให้นางเรียบร้อยแล้ว ก็กอดนางแล้วหลับไปพร้อมกันเช้าวันถัดมา เจี่ยนอันอันลุกขึ้นมาจะไปขายผักที่อำเภอไถหยางฉู่จวินสิงปวดใจเป็นอย่างมาก “เจ้ามีเงินมากถึงเพียงนี้แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องตื่นแต่เช้าเพื่อไปขายผักแล้ว”“ไม่ได้ เงินพวกนั้นเก็บเอาไว้ใช้ในภายหน้า ข้าไม่อาจจะนั่งนิ่งเฉย จะต้องคิดหาวิธีการหาเงินเพิ่มให้มากขึ้นถึงจะถูก”เจี่ยนอันอันมีแผนการของตนเองรอจนเมื่อพวกเขาสามารถบุกโจมตีกลับไปยังเมืองจิงโจวได้สักวันหนึ่ง นางจะต้องเป็นหญิงที่ร่ำรวยที่สุดในแคว้นไท่ยวนฉู่จวินสิงยิ้มออก

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 513

    ในไม่ช้าแผงขายของเจี่ยนอันอัน ก็ถูกคนแย่งชิงกันอย่างบ้าคลั่ง“อย่ามาเบียดข้า ไม่รู้จักมาถึงก่อนหลังอย่างนั้นหรือ!”“ใช่ๆ อย่ามาเบียดข้า ข้าแทบจะตกทับบนพืชผักของผู้อื่นแล้ว”เจี่ยนอันอันรีบเก็บเงินไว้ ฉู่จวินสิงก็วุ่นวายอยู่กับการคอยดูพืชผักแผงขายของของผู้อื่น เมื่อเห็นว่าเจี่ยนอันอันและฉู่จวินสิงมาใหม่สุดท้ายพวกเขาเพิ่งจะมาถึง ก็ดึงดูดลูกค้าเข้ามาทันทีเจ้าของแผงขายของเหล่านี้ในใจต่างก็ไม่มีความสุขนักถือดีอะไรที่พวกเขาเพิ่งจะมาถึง ก็ตัดขาดส่วนแบ่งตลาดไปเสียไม่นานก็มีเจ้าของแผงขายกะหล่ำปลีคนหนึ่ง เดินมาที่แผงขายของเจี่ยนอันอันด้วยความโมโห“นี่ เจ้าสองคนที่มาใหม่ ข้าไม่เคยพบกับพวกเจ้ามาก่อน”“พวกเจ้าถือสิทธิ์อะไรถึงได้นำผักมาขายราคาถูกถึงเพียงนี้ ทำเสียจนผักของพวกเราขายแทบไม่ออกแล้ว!”เจ้าของแผงลอยคนอื่นๆ ต่างก็แสดงออกว่าเห็นด้วยในใจ ทว่าพวกเขากลับไม่ได้พูดออกมา เพียงแต่คอยยืนมองความครื้นเครงอยู่ด้านข้างเจี่ยนอันอันมองผ่านผู้ที่มาซื้อผัก ไปยังเจ้าของแผงท่านนั้นหญิงสาวร่างกายกำยำอายุราวสามสิบปี ใบหน้าราวนางจิ้งจอกไขมันในร่างกายอ้วนนั้น แทบจะสามารถตัดออกมาขายได้เจี่ย

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 514

    หลังจากที่เจี่ยนอันอันกลับมาแล้ว ก็ได้ยินกุ้ยเหมยพูดกับคนที่แต่งกายด้วยชุดของเจ้าหน้าที่ทั้งสามคนออกมา“ท่านใต้เท้า ท่านต้องตัดสิน ทั้งสองคนนี่ไม่เพียงแต่ไม่จ่ายค่าคุ้มครอง แล้วยังขายผักราคาถูกมากอีกด้วย”“พวกเขาทำเช่นนี้ แล้วจะให้พวกเราที่ขายพืชผักเหล่านี้ทำอย่างไรกัน แล้วใครจะมาซื้อผักของพวกเรากัน!”“ข้าว่าพวกเขาคงจะจงใจละเลยการมีอยู่ของพวกท่าน คิดที่จะหาเงินเล็กๆ น้อยๆ ที่นี่แล้ววิ่งหนีไป”“พวกท่านห้ามปล่อยทั้งสองคนนี้ไป จะต้องจับพวกเขาไว้แล้วสั่งสอนให้ดีๆ”กุ้ยเหมยเติมเชื้อเพลิงในกองไฟซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำจนชายทั้งสามโมโหจนต้องเลิกคิ้วออกมาพวกเขาเมื่อเห็นว่าผักของเจี่ยนอันอันขายดีมาก จนทำให้แผงลอยของคนอื่นมีลูกค้าอยู่เพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้นพวกเขามองไปยังบนกระดาษที่เขียนราคาผักเอาไว้ เข้าใจขึ้นมาทันทีว่าทั้งสองคนจงใจทำให้ราคาผักลดลง ขายถูกเสียยิ่งกว่าของผู้อื่นเงินที่ทั้งสองคนหามาได้ จะต้องส่งมอบให้ทั้งหมดหนึ่งชายหนุ่มที่สวมชุดเจ้าหน้าที่พูดออกมาด้วยความโกรธ “พวกเจ้าทั้งสองคน รีบส่งเงินมา”“มิฉะนั้นแล้วข้าจะเก็บแผงลอยของพวกเจ้าเสีย ต่อไปพวกเจ้าก็อย่าคิดจะมาขายผักที่นี่อีก

Latest chapter

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 558

    สีหน้าของเจี่ยนอันอันมืดครึ้มลง ดูแล้วสตรีอ้วนนางนี้คงจะลืมความเจ็บปวดจากบทเรียนไปแล้วสินะนางควรกรอกยาพิษใส่ปากกุ้ยเหมยให้เป็นใบ้ ต่อไปจะได้พูดอะไรไม่ได้อีกกุ้ยเหมยเห็นลูกค้าที่ซื้อผักมีท่าทีไม่เชื่อก็พูดทันที “พวกเจ้าไม่รู้อะไร เมื่อวานข้าซื้อผักจากร้านพวกเขา หลังจากได้กินก็มีอาการถ่ายท้อง”เจ้าของแผงขายของคนอื่นๆ พากันเอะอะโวยวายตาม“กุ้ยเหมยพูดถูก เมื่อวานข้าก็ซื้อผักจากร้านพวกเขาเช่นกัน ตอนแรกคิดว่าผักสดใหม่มาก ทว่ากินไปแล้วกลับถ่ายท้อง”“พวกข้าล้วนแต่เป็นเหยื่อ ขอแนะนำให้พวกเจ้าอย่าซื้อผักของพวกเขาจะดีกว่า”บรรดาคนที่ซื้อผักได้ฟังดังนี้ก็มีสีหน้าไม่สู้ดีตอนนี้พวกเขาไม่รู้ว่าควรซื้อหรือไม่ควรซื้อดี กุ้ยเหมยใช้โอกาสนี้พูดต่ออีกว่า “ข้าจะบอกความจริงให้พวกเจ้าฟัง ผักของร้านนี้ถูกทำอะไรบางอย่าง”“ถึงแม้ว่าหลังจากที่พวกเจ้ากินจะไม่ได้มีอาการถ่ายท้อง แต่ยิ่งกินก็ยิ่งเสพติดใช่หรือไม่?”บรรดาคนที่ซื้อผักหันไปมองหน้ากันเมื่อได้ยินดังนี้ทุกคนต่างมีความรู้สึกเช่นนี้ นับแต่ที่พวกเขาซื้อผักของร้านนี้ เป็นความจริงที่กินแล้วติดใจเสมือนว่าหากไม่ได้กินผักของร้านนี้แม้เพียงมื้อเดีย

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 557

    เมื่อทั้งสองคนกลับถึงบ้านก็เห็นฉู่จวินสิงกระโดดลงมาจากหลังคาเจี่ยนอันอันตะลึงงันไปชั่วขณะ แต่ไม่นานก็เข้าใจได้ว่าเกิดอะไรขึ้นนางหยอกล้อว่า “ท่านขึ้นไปทำอะไรบนหลังคา คงไม่ใช่ขึ้นไปอาบแดดกระมัง”ฉู่จวินสิงพูดเสียงต่ำทุ้ม “ข้ากลัวเจ้าจะมีอันตราย”เจี่ยนอันอันหัวเราะ “พรืด” ออกมา มีหรือที่นางจะไม่รู้ความคิดของเขานางไม่ได้หยอกล้อฉู่จวินสิงต่อ แต่จูงมือฉู่ตั๋วตั่วเดินไปอยู่ใต้ร่มเงา นางบอกฉู่ตั๋วตั่วว่าต้องใช้กำลังไฟอย่างไรในการหลอมสมุนไพรสามชนิดนี้ฉู่ตั๋วตั่วฟังด้วยความตั้งใจและจดจำวิธีการไว้ในสมองหลังจากที่ฉู่ตั๋วตั่วเรียนรู้วิธีการหลอมเสร็จเรียบร้อย นางก็กลับไปพร้อมกับกวนซินเจี่ยนอันอันกลับเข้าห้องไปปิดตาเอนตัวลง จิตสำนึกของนางเข้าสู่ห้วงมิติทันทียาพิษที่หลอมอยู่ในเตาหลอมยาหลอมเสร็จเรียบร้อยนานแล้วนางสูดดมกลิ่นยาพิษ มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ลอยมาปะจมูก ในนั้นมีกลิ่นหอมของบุปผาพิเศษนานาชนิดผสมผสานอยู่ เจี่ยนอันอันยิ้ม ทำการเทยาพิษในเตาหลอมลงในขวด นี่เป็นยาพิษที่นางเพิ่งหลอมขึ้นใหม่ แม้จะมีกลิ่นหอมปะจมูก ทว่าความเป็นพิษกลับรุนแรงกว่ายาพิษชนิดอื่นเป็นร้อยเท่าตัวเจี่ยนอันอั

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 556

    ฉู่ตั๋วตั่วเงยหน้าขึ้นมองเจี่ยนอันอัน “ท่านน้า ดูเหมือนสมุนไพรที่นี่จะไม่ได้มีมากนะเจ้าคะ”เจี่ยนอันอันจูงมือน้อยๆ ของฉู่ตั๋วตั่วตอบว่า “พวกเราไปดูที่อื่นกันเถอะ”ฉู่ตั๋วตั่วตอบตกลงด้วยความยินดี ยามที่ทั้งสองคนมาถึงพื้นที่บริเวณใกล้เคียงกับทุ่งนาของบ้านซ่างชิว เจี่ยนอันอันก็ได้ยินเสียง “ฟ่อๆ” ดังมาจากไม่ไกลนางรีบดึงให้ฉู่ตั๋วตั่วให้ถอยออกมา “ระวังด้วยตั๋วตั่ว ที่นี่มีงูพิษ”เมื่อฉู่ตั๋วตั่วได้ยินว่ามีงูพิษ ใบหน้าดวงน้อยของนางก็ตึงเครียดขึ้นมาโดยพลันแม้ปากนางจะบอกว่าไม่กลัวงูพิษ ทว่าภายในใจก็ยังรู้สึกกลัวอยู่ดีนางเคยเห็นภาพเหตุการณ์ที่มีคนถูกงูฉกที่จวนรัชทายาท หลังจากที่บ่าวรับใช้คนนั้นถูกงูฉก เพียงไม่ถึงหนึ่งชั่วยามก็สิ้นใจตายจวบจนถึงตอนนี้ ภาพนั้นก็ยังตราตรึงอยู่ในความทรงจำของฉู่ตั๋วตั่วเจี่ยนอันอันเก็บกิ่งไม้แห้งมาแหวกหญ้าแห้งบนพื้นเห็นว่าห่างจากพวกนางออกไปไม่ไกล มีงูลายขาวตัวหนาเท่านิ้วหัวแม่มือตัวหนึ่งกำลังเลื้อยมาทางพวกนางและที่ด้านหลังงูตัวนี้ก็มีเทียนหมาดำขึ้นอยู่หลายต้นเจี่ยนอันอันดีใจเมื่อเห็นดังนี้ เทียนหมาดำเป็นสมุนไพรมีพิษ ทั้งยังเป็นสมุนไพรที่ฉู่ตั๋ว

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 555

    นางจะต้องปรุงยาพิษที่ฤทธิ์แรงกว่านี้ออกมาให้ได้ถึงจะดีจิตใต้สำนึกของเจี่ยนอันอันเข้าไปในห้วงมิติ หยิบสมุนไพรที่มีพิษร้ายแรงออกมาจากในคลังยาแล้วเริ่มปรุงยาพิษขณะที่นางกำลังปรุงยาพิษอยู่ก็มีคนมาเคาะประตูฉู่จวินสิงเดินไปเปิดประตูก็เห็นสี่เอ๋อร์ยืนอยู่หน้าประตูนางกล่าวกับฉู่จวินสิงว่า “นายน้อยรอง กวนซินกับฉู่ตั๋วตั่วมาเจ้าค่ะ”ฉู่จวินสิงไม่รู้ว่าสองคนนี้มาทำอะไร?เขาหันกลับไปมองเจี่ยนอันอันก็เห็นว่านางยังคงนอนหลับตาอยู่บนเตียงท่าทางแบบนี้คงจะหลับไปแล้วฉู่จวินสิงเดินมาถึงลานเรือน กวนซินรีบเดินเข้ามาหาทันทีนางยอบกายคารวะฉู่จวินสิง “คุณชายฉู่ ตั๋วตั่วลูกข้ามาหาอันอันเพื่อเรียนปรุงยาพิษ ไม่ทราบว่านางสะดวกหรือไม่?”ฉู่จวินสิงเหลือบมองฉู่ตั๋วตั่วแวบหนึ่งก็เห็นว่านางกำลังนั่งยองลูบกระต่ายสองตัวอยู่บนพื้นฉู่จื่อซีพูดอะไรอยู่ข้างๆ บอกว่ากระต่ายสองตัวนี้ชื่อเสี่ยวไป๋กับเสี่ยวฮุยฉู่จวินสิงเอ่ยเสียงเรียบ “อันอันพักผ่อนอยู่ รอจนนางตื่นแล้วค่อยสอนฉู่ตั๋วตั่วก็แล้วกัน”กวนซินไม่ได้พูดอะไรอีก นางก็ไม่อยากรบกวนเจี่ยนอันอันเหมือนกันจึงจูงมือฉู่ตั๋วตั่วจากไปในเวลานั้นเจี่ยนอันอันได้ยิ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 554

    แต่ฉู่จวินสิงลืมคิดไปว่าถ้าเขายังโกรธเสิ่นจือเจิ้งต่อไปก็จะทำให้เจี่ยนอันอันที่อยู่ตรงกลางลำบากใจไม่รอให้ฉู่จวินสิงเอ่ยปาก เจี่ยนอันอันก็พูดต่อไปว่า “เรื่องนี้วันหลังข้าจะบอกกับพี่เองว่าอย่าทำแบบนี้ต่อหน้าคนอื่น”ฉู่จวินสิงเข้าใจเจตนาของเจี่ยนอันอันแล้ว เขายอมรับว่าเมื่อครู่ตนเองทำไม่เหมาะสมคนทั้งสองคุยกันรู้เรื่องแล้ว ความอึดอัดคับข้องใจก็พลันสลายไปทั้งคู่เดินตรงไปยังแปลงผัก พ่อบ้านหลิวก็เดินตามหลังพวกเขาเขาเห็นทั้งสองคนเริ่มพูดคุยหัวเราะก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกพ่อบ้านหลิวเห็นฉู่จวินสิงมาตั้งแต่เล็กจนโตย่อมรู้นิสัยของฉู่จวินสิงดีเดิมทีเขายังกังวลว่าทั้งคู่จะทะเลาะกันเพราะเรื่องเมื่อครู่ตอนนี้ดูแล้ว เขาคงกังวลใจมากเกินไปเองทั้งสามมาถึงแปลงผักก็เห็นว่าพืชผักเติบโตเต็มที่แล้วจ้าวอู่กับจ้าวลิ่วนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง ดูเหมือนกำลังช่วยดูแลผักเหล่านี้อยู่เห็นพวกเขาเดินมาก็รีบร้อนลุกขึ้น“แม่นางเจี่ยน คุณชายฉู่ ในที่สุดพวกท่านก็มาเสียที”จ้าวอู่ว่าพลางเกาท้ายทอยก่อนหน้านี้เขากับจ้าวลิ่วอยากมาดูที่ทุ่งนาบ้านตัวเองว่าข้าวที่ปลูกไว้เป็นอย่างไรบ้าง แล้วก็มาเห็นว่าพืชผ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 553

    เสิ่นจือเจิ้งย่อมรู้ว่าเจี่ยนอันอันชอบกินหม้อไฟเขามองท่าทางยิ้มแย้มของเจี่ยนอันอันแล้วก็ยื่นมือไปลูบศีรษะนางอย่างเป็นธรรมชาตินี่เป็นท่าทางที่มักทำบ่อยๆ ตอนทั้งคู่อยู่ที่บ้านแต่คนเหล่านั้นกลับมองเสิ่นจือเจิ้งด้วยสีหน้าตกอกตกใจมีเพียงฉู่จวินสิงที่ตีหน้าเย็นชา ท่าทางเหมือนอยากจะฆ่าคนเขาปัดมือเสิ่นจือเจิ้งออกแล้วจ้องมองฝ่ายตรงข้ามอย่างขุ่นเคืองเสิ่นจือเจิ้งเหลือบมองฉู่จวินสิงด้วยแววตาเย็นชาหาใดเปรียบดุจเดียวกันเขาจะลูบหัวน้องสาวตัวเองก็ต้องให้ฉู่จวินสิงอนุญาตอย่างนั้นรึ?เห็นท่าทางตึงเครียดของคนทั้งสองแล้ว มุมปากเจี่ยนอันอันก็กระตุกยิกสองคนนี้ทำไมทำตัวเหมือนเด็กสามขวบอย่างไรอย่างนั้นคนอื่นๆ เห็นอย่างนั้นก็รีบเอ่ยปากพูดขึ้นมา“หม้อไฟวันนี้อร่อยจริงๆ”“ใช่แล้ว วันนี้แสงแดดก็ยังเปรี้ยงอีกต่างหาก”“ต่อไปพวกเราต้องกินหม้อไฟกันบ่อยๆ นะ รสชาติแบบนี้จะโอชาเกินไปแล้ว”พวกเขาไม่กล้าพูดห้ามปรามคนทั้งสองจึงคิดหาคำพูดมาผ่อนคลายบรรยากาศเจี่ยนอันอันใช้ผ้าแพรเช็ดหน้าซับมุมปากแล้วลุกขึ้นทำท่าจะจากไป“ข้าจะไปดูผักในแปลงผักสักหน่อย ป่านนี้ผักพวกนั้นคงโตได้ที่แล้วกระมัง”ฉู่จวินสิงเ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 552

    สี่เอ๋อร์เพิ่งจะเคยเห็นอุปกรณ์ทำหม้อไฟแบบนี้เป็นครั้งแรกนางเทน้ำลงในหม้อตามคำสั่ง จากนั้นก็เห็นเจี่ยนอันอันหยิบฟืนจำนวนหนึ่งมาใส่ใต้หม้อแล้วจุดไฟสาวใช้คนอื่นๆ ล้างผักเสร็จแต่แรกแล้ว พวกนางยกผักกับเนื้อวัวที่ซอยเสร็จเรียบร้อยเดินมาทางนี้เมื่อพวกนางเห็นอุปกรณ์ทำหม้อไฟก็อึ้งไปทันทีเหมือนกันนี่มันคืออะไรกัน น้ำในนั้นผ่านไปไม่ทันไรก็เดือดแล้วเจี่ยนอันอันไปที่ครัวแล้วนำน้ำจิ้มกับเครื่องเทศสำหรับทำหม้อไฟปริมาณมากออกมาจากในมิตินางเทน้ำจิ้มลงในชามใหญ่ใบหนึ่งแล้วยกชามเดินออกมา“ในชามนี้คือน้ำจิ้มสำหรับหม้อไฟ อีกประเดี๋ยวจะได้ใช้ตอนกินหม้อไฟ ของพวกนี้เป็นเครื่องเทศสำหรับทำหม้อไฟ ต้องเทใส่ในหม้อ”เจี่ยนอันอันว่าพลางเทเครื่องเทศสำหรับทำหม้อไฟลงไปในหม้อกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของหม้อไฟโชยออกมาอย่างรวดเร็วคนตระกูลฉู่ได้กลิ่นหอมนั้นก็เดินออกมาจากในห้องพวกเขาเดินมาตรงหน้าโต๊ะก็เห็นผักและเนื้อสัตว์เต็มโต๊ะ“อันอัน เจ้าทำทั้งหมดนี่เลยหรือ?” ฮูหยินใหญ่สูดกลิ่นหอมกรุ่นนั้นพลางมองไปทางเจี่ยนอันอันอย่างค่อนข้างสงสัยในความคิดของนาง ของแปลกประหลาดแบบนี้ก็มีแต่เจี่ยนอันอันเท่านั้นแหละถึงจ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 551

    ฉู่จวินสิงนั่งอยู่บนขอบเตียง มองท่าทางนับเงินอย่างจริงจังของเจี่ยนอันอันแล้วใบหน้าก็เผยรอยยิ้มออกมาเจี่ยนอันอันเงยใบหน้าดวงน้อยนั้นขึ้นมาเอ่ยอย่างเบิกบานใจว่า “ท่านพี่ วันนี้พวกเราขายของได้เงินมากขนาดนี้ก็ต้องกินดีๆ หน่อยถึงจะถูก”“เจ้าอยากกินอะไร?” ฉู่จวินสิงมองเจี่ยนอันอันด้วยสีหน้าเอ็นดูเจี่ยนอันอันหัวเราะคิกคัก “วันนี้ข้าอยากกินหม้อไฟแล้วดื่มสุราผลไม้สักหน่อย”ฉู่จวินสิงเลิกคิ้ว หม้อไฟคืออันใด เขาไม่เคยกินมาก่อนครั้นเจี่ยนอันอันคิดถึงว่าอีกหน่อยจะได้กินหม้อไฟ นางก็กลืนน้ำลายอย่างอดไม่อยู่ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ นางไม่ได้กินหม้อไฟหอมกรุ่นมานานแล้ว“หม้อไฟที่เจ้าว่าอร่อยปานนั้นเชียว?” ฉู่จวินสิงถามอย่างสงสัยเจี่ยนอันอันคิดไม่ถึงว่าฉู่จวินสิงจะไม่เคยกินหม้อไฟมาก่อนแต่พอครุ่นคิดดูก็พบว่าไม่แปลก คนในโลกนี้ไม่เหมือนราชวงศ์ต่างๆ ที่นางรู้จักบางทีคนที่นี่อาจไม่เคยกินหม้อไฟมาก่อนเลยก็เป็นได้เจี่ยนอันอันยิ้มยิงฟัน “ประเดี๋ยวท่านก็จะได้รู้แล้วว่าหม้อไฟเลิศรสปานไหน”เจี่ยนอันอันบอกว่าจะทำก็ทำเลย นางรุดออกไปเตรียมวัตถุดิบสำหรับทำหม้อไฟทันทีนางมาที่ชั้นใต้ดิน หยิบผักและเนื้อสัต

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 550

    กุ้ยเหมยเมื่อเห็นว่าถังก่วงไม่ส่งเสียงพูดออกมา นางคิดว่าถังก่วงจะต้องกลัวตนเองนางส่งเสียงเย้ยหยันออกมา แล้วพูดกับเจ้าของแผงคนอื่นๆ “สองคนที่มาใหม่นั่นไม่กำจัดไปไม่ได้ ข้ามีความคิดหนึ่ง พวกเจ้าอยากจะลองฟังหรือไม่?”กุ้ยเหมยเมื่อพูดมาถึงตรงนี้ ก็หยุดลง แล้วมองไปยังเจ้าของแผงเหล่านั้นเจ้าของแผงถึงแม้ว่าจะเกลียดกุ้ยเหมยเป็นอย่างมาก แต่พวกเขาตอนนี้ต้องรวมเป็นหนึ่งเพื่อต่อต้านภายนอกเมื่อเทียบกับกุ้ยเหมยแล้ว เจี่ยนอันอันกับฉู่จวินสิงต่างหากถึงจะเป็นคนที่พวกเขาควรกำจัดทิ้งแน่นอนว่าย่อมอยากฟังว่ากุ้ยเหมยจะพูดอะไรออกมา“ข้าว่ากุ้ยเหมย เจ้าอย่ามัวมาโอ้เอ้อยู่เลย รีบพูดออกมา!”เจ้าของแผงต่างก็เริ่มจะไม่อดทนต่อแล้ว คิดเพียงอยากจะให้กุ้ยเหมยรีบพูดออกมากุ้ยเหมยเปิดปากหัวเราะออกมา ทว่าทันทีที่นางอ้าปาก แผลที่เดิมทีนั้นสมานกันแล้วก็เริ่มมีเลือดออกมานางเจ็บปวดจนร้อง “ไอ้หยา” ดังขึ้น แล้วรีบปิดปากท่าทีน่าอับอายนั้นของนาง ทำให้ถังก่วงรู้สึกในใจว่านี่เป็นการแก้แค้นกุ้ยเหมยเช็ดเลือดตรงปาก ก็เห็นว่าทุกคนรอเพียงข้อเสนอแนะของนาง ไม่มีใครจะห่วงใยว่าปากของนางจะเจ็บหรือไม่ในใจกุ้ยเหมยคิด ไม่ต

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status