Share

บทที่ 392

Penulis: ซินต้งหรูสุ่ย
ระหว่างทาง เจี่ยนอันอันไม่ได้พูดออกมาว่าพี่ชายของนางเองก็ทะลุมิติมาเช่นกัน

เพราะอย่างไรแล้วที่นี้ก็ยังมีซ่างตงเยว่อยู่ด้วย นางไม่อยากให้ซ่างตงเยว่รู้เรื่องมากจนเกินไป

ในตอนที่ทั้งสามคนมาถึงยังอำเภอไถหยางนั้น เจี่ยนอันอันก็อยากจะไปเยี่ยมเซิ่งฟางก่อน

และก็สามารถทำความเข้าใจจากเขาได้ว่าภายในตัวอำเภอนั้นมีร้านขายไม้ร้านใด ที่สามารถซื้อไม้ดีๆ ได้

เซิ่งฟางตอนนี้กำลังนั่งพักผ่อนอยู่ในจวน วันนี้ไม่มีคดีใดให้ตัดสิน เขามีความสุขที่ได้อยู่เฉยๆ

ทว่าเมื่อได้อยู่ว่างๆ แล้ว เขาก็มักจะคิดไปเรื่อยเปื่อย

เขานั่งอยู่ในศาลา ถือถ้วยชาขึ้นมาวางไว้ตรงขอบปากแต่กลับลืมที่จะดื่มมัน

ความคิดของเขา บินลอยไปยังค่ายเทียนอวิ๋นเสียนานแล้ว

และก็ไม่รู้ว่าเหวินอิงตอนนี้ไม่รู้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง

นางคงจะไม่ใช่เพราะว่าหลายวันมาแล้วที่ไม่ได้ข่าวคราวของเขา ก็เลยโกรธเขาขึ้นมา?

อารมณ์ร้อนแรงเช่นนั้นของเหวินอิง หากว่านางไม่อยากจะรอเขาอีก แล้วไปหาคนอื่นจะทำอย่างไรกัน?

และก็เป็นในตอนที่เซิ่งฟางกำลังคิดวุ่นวายอยู่นั้น เจ้าหน้าที่ทางการก็นำเจี่ยนอันอันทั้งสามคนเข้ามายังด้านหน้าศาลา

“ใต้เท้า มีแขกมาเยี่ยมท่าน”

เจ้าหน้าที่
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 393

    ซ่างตงเยว่ที่เดิมก็ไม่อาจแทรกพูดขึ้นมาได้ จึงได้ทำเพียงนั่งอยู่ด้านข้างคอยมองพวกเขาเซิ่งฟางถอนหายใจออกมาเบาๆ เขาไม่อาจออกจากเมืองอินเป่ย เหวินอิงก็ไม่อาจเข้ามาได้ตอนนี้จึงไม่มีวิธีใดที่จะติดต่อกับภายนอกเจี่ยนอันอันครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ ทันใดนั้นดวงตาก็สว่างขึ้นมา“หรือว่าจะเอาเช่นนี้ ข้าจะไปค่ายเทียนอวิ๋นดูเหวินอิงเอง?”“ท่านจะไป? ท่านจะออกไปจากเมืองอินเป่ยได้อย่างไร?”“ไม่ได้ ทำเช่นนี้อันตรายจนเกินไป!”เซิ่งฟางและฉู่จวินสิงพูดออกมาพร้อมกันเจี่ยนอันอันรู้ว่า พวกเขาล้วนแต่เป็นกังวลว่านางจะเป็นอันตรายก่อนหน้านั้นนางคิดถึงการสะกดจิตขึ้นมา ทว่าเพียงแค่ใช้การสะกดจิตเฉินหย่งเหนียน ให้เขาเปิดประตูเมืองแล้วปล่อยนางไปเกรงว่าคนอื่นๆ ก็คงจะไม่ยินยอมเพราะอย่างไรแล้วด้วยกฎเกณฑ์ของเมืองอินเป่ยในตอนนี้คือ ห้ามไม่ให้ผู้ใดเดินออกจากเมืองอินเป่ยไปหากว่าสะกดจิตให้กับทุกคน ก็คงจะทำให้สิ้นเปลืองเวลาและลงแรงไปมากเพราะว่าทหารที่คอยเฝ้าอยู่ตรงหอประตูเมืองก็มีนับร้อยคน นางไม่ได้มีเวลามากพอที่จะสะกดจิตพวกเขาทีละคนได้ดังนั้นนางถึงคิดถึงเรื่องเครื่องมือลอบเคลื่อนย้ายกายขอเพียงแค่นางคิดขึ้

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 394

    เจี่ยนอันอันรู้ว่าฉู่จวินสิงสามารถมองเห็นนางได้ จึงจูบลงไปบนริมฝีปากของฉู่จวินสิงอีกครั้ง“ทำตัวดีๆ รอข้ากลับมา”เจี่ยนอันอันนึกถึงค่ายเทียนอวิ๋นอยู่ในใจ ทั้งตัวคนก็หายลับไปต่อหน้าของฉู่จวินสิงทันทีในตอนที่นางปรากฏกายขึ้นมาอีกครั้ง คนก็ไปปรากฏกายอยู่ในห้องโถงใหญ่ของค่ายเทียนอวิ๋นแล้วเหล่าโจรภูเขาในค่ายตอนนี้กำลังนั่งดื่มเหล้ากินเนื้อกันอยู่เหวินอิงกลับไม่อยู่ในกลุ่มของพวกเขาเจี่ยนอันอันเดินไปหยุดด้านหน้าห้องนอนของเหวินอิงนางยกมือขึ้นเคาะประตู ไม่นานก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังออกมาจากในห้อง“ใครกันที่ไม่ดูตาม้าตาเรือ ไม่รู้ว่าข้ากำลังพักผ่อนอยู่ เคาะอะไรกัน!”เหวินอิงสบถด่าแล้วเดินมาเปิดประตู กลับพบว่าตรงหน้าประตูนั้นไม่มีแม้แต่เงาผีสักตัวหนึ่งอยู่พี่น้องเหล่านั้นกำลังดื่มเหล้าต่อยมวยกันอยู่ ไม่มีทางที่จะมีใครมาเคาะประตู“แปลกจริงๆ ไม่มีใครเคาะประตู แล้วทำไมประตูถึงได้ดังขึ้นมา หรือว่าจะมีคนมาเคาะประตูในฝันของข้ากัน?”เหวินอิงพูดขึ้น แล้วก็จะปิดประตูและในตอนประตูห้องกำลังจะปิดลงนั้น ข้างหูของนางจู่ๆ ก็มีเสียงของเจี่ยนอันอันดังขึ้นมา“รองหัวหน้า เท้าของข้าถูกประตูหนีบแล้ว

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 395

    นางเงยหน้าขึ้นเหลือบมองไปยังเจี่ยนอันอัน เมื่อเห็นว่านางถอดชุดแต่งงานที่สวมใส่ก่อนหน้านั้น มาเปลี่ยนเป็นสวมใส่เสื้อผ้าที่สะอาดขึ้นผิวพรรณก็ดูน่ามองกว่าก่อนหน้านั้นไม่น้อย ดูเหมือนว่าคงจะมีชีวิตที่ดีคาดว่าเซิ่งฟางเองก็คงจะมีชีวิตไม่เลวเช่นกันไม่แน่ว่าตอนนี้เขาอาจจะเป็นขุนนางไปแล้วก็เป็นได้ ในตอนนี้ก็อาจจะกอดเหล่าอนุไว้ทั้งซ้ายขวาอย่างมีความสุขเหวินอิงยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห นางเสียใจจริงๆ ที่ในตอนนั้นไม่ได้ยืนกรานจะไปเมืองอินเป่ยด้วยกันกับเซิ่งฟางเซิ่งฟางที่น่าสมควรตายนี่ สนใจเพียงแค่ความสุขของตัวเอง แต่กลับไม่สนใจว่านางจะเป็นหรือตายเจี่ยนอันอันเมื่อเห็นว่าเหวินอิงเต็มไปด้วยท่าทีโกรธเกรี้ยว ก็รู้ว่าเหวินอิงจะต้องคิดไปในทางที่ผิดๆ แล้วยังไม่ทันได้รอให้นางได้พูดออกมา เหวินอิงกลับพูดขึ้น“เจ้ายังไม่ยอมบอกข้าอีกว่าเจ้าเข้ามาในค่ายเทียนอวิ๋นได้อย่างไร”“ค่ายเทียนอวิ๋นของพวกเรา ไม่ใช่ว่าใครก็จะสามารถเข้าที่นี่ได้โดยไม่มีสุ้มมีเสียง”เจี่ยนอันอันเมื่อเห็นว่าเหวินอิงยังคงไม่ยอมปล่อยเรื่องนี้ไป จึงทำได้เพียงแต่งข้ออ้างขึ้นมามั่วๆ อย่างทำอะไรไม่ได้บอกว่านางมีเสื้อคลุมล่องหน ขอเพียงแค

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 396

    เจี่ยนอันอันเมื่อเห็นว่าสีหน้าของเหวินอิงนั้นดูไม่ดีนัก เกรงว่าหลายวันมานี้นางคงจะกินจะนอนหลับไม่ค่อยดีนักนางไม่ได้ตอบคำของเหวินอิง แต่เป็นถามนางว่าเมื่อเที่ยงได้กินข้าวแล้วหรือยัง?“ไม่ได้กิน ข้าตอนนี้จะไปมีใจกินข้าวได้ยังไงกัน”น้ำเสียงของเหวินอิงยังคงมีความโกรธปนอยู่เจี่ยนอันอันเข้าใจความคิดของเหวินอิงตอนนี้เป็นอย่างดี หากว่าเปลี่ยนเป็นนาง เกรงว่าคงจะโมโหเสียยิ่งกว่าเหวินอิง“รองหัวหน้าโมโหก็ส่วนโมโห แต่ว่าข้าวก็ยังต้องกิน แล้วก็ต้องนอนหลับให้ดีๆ ถึงจะถูก”“หากว่าเจ้าป่วยไป พี่เซิ่งจะต้องปวดใจเป็นอย่างมาก”เมื่อได้ยินว่าเซิ่งฟางจะต้องปวดใจ จมูกของเหวินอิงก็แสบร้อนขึ้นมาเขาจะต้องปวดใจกับนาง แล้วทำไมถึงได้ไม่มีข่าวคราวมาแม้แต่น้อยเขาจะต้องปวดใจกับนาง แล้วทำไมถึงได้ไม่คิดหาวิธีมาหานางที่ค่ายเทียนอวิ๋นท้ายที่สุดแล้ว เขาก็ลืมนางไปเสียแล้วเหวินอิงยิ่งคิดก็ยิ่งเสียใจจนน้ำตาไหลนองลงมาเมื่อเห็นเหวินอิงร้องไห้เสียใจ เจี่ยนอันอันก็กอดเหวินอิงเอาไว้ แล้วตบหลังนางเบาๆ “ข้ารู้ว่าเจ้าเสียใจมาก จริงๆ แล้วพี่เซิ่งก็เสียใจมากเช่นกัน”“ตอนนี้เขาเป็นนายอำเภอของอำเภอไถหยาง ทุกวันจะ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 397

    ทว่าเมื่อคิดถึงฉู่จวินสิงและเซิ่งฟางที่ยังรอข่าวจากนางอยู่ในเมืองอินเป่ยนางไม่อาจดื่มเหล้ามากจนเกินไป มิฉะนั้นแล้วจะทำให้เรื่องราวล่าช้าไปเหวินอิงไปด้านหน้าประตู แล้วเปิดออกเป็นรอยแยก นางตะโกนใส่พวกโจรภูเขาออกมา “หลี่ซาน เจ้าไปห้องครัวแล้วทำอาหารมาสักสี่อย่าง”“แล้วก็หยิบเหล้าผลไม้สองไหนั่นของข้ามาด้วย ข้าจะกินข้าว”โจรภูเขาเหล่านั้นเมื่อได้ยินเหวินอิงบอกว่าจะกินข้าว ต่างก็หยุดการต่อยมวยลงหลี่ซานรีบตอบรับ แล้ววิ่งไปห้องครัวเพื่อทำอาหารโจรภูเขาคนอื่นๆ หันไปมองทางเหวินอิงด้วยใบหน้าตื่นตกใจวันนี้รองหัวหน้าของพวกเขาคิดได้แล้ว ในที่สุดก็ยอมกินข้าวแล้วหนึ่งในโจรภูเขาพูดออกมาอย่างมีความสุข “รองหัวหน้าจะกินคนเดียวคงจะน่าเบื่อไป มาต่อยมวยกับพวกเราเถอะ”“ต่อยบ้าอะไรกัน พวกเจ้าไม่ต้องสนใจข้า ข้าชอบกินคนเดียว”เหวินอิงพูดจบ ก็ปิดประตูไปอย่างแรงเหล่าโจรภูเขาเองก็ไม่ได้สนใจ พวกเขาพากันต่อยมวยต่อไปไม่นานนักหลี่ซานก็อุ้มเหล้าสองไหวิ่งมาเคาะประตูเหวินอิงเปิดประตูออก ใช้กายบังคนด้านในเอาไว้นางรับเหล้าผลไม้มา แล้วใช้เท้าเตะปิดประตูหลี่ซานกลับห้องครัวมาทำอาหาร ไม่นานนักก็ยกอาหา

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 398

    เหวินอิงยิ่งพูดก็ยิ่งโมโห ยังสบถคำหยาบคายออกมาอีกหลายคำนางดื่มเหล้าผลไม้ในชามไปจนหมดในตอนที่รินให้ตัวเองเพิ่มนั้น เหวินอิงถึงได้พบว่า เหล้าในชามของเจี่ยนอันอันยังเหลืออีกกว่าครึ่ง“ทำไมเจ้าถึงได้ไม่ดื่มมัน หรือว่ารังเกียจที่เหล้าผลไม่ที่ข้าซื้อมาไม่อร่อย?”เหวินอิงพูดขึ้นพลางลิ้มรสที่มีในปาก เหล้านี่ก็อร่อยดีนี่ในกลิ่นหอมของเหล้า ยังผสมไปด้วยรสผลไม้จางๆเจี่ยนอันอันยิ้มออกมา แล้วหยิบเหล้าขึ้นมาจิบไปอีกคำ“เจ้าอย่ามัวแต่มาดื่มเหล้าให้หมด กินอาหารให้มากเข้า”“อาหารสี่จานนี่ข้าคนเดียวคงจะกินไม่หมด เจ้าก็กินเสียหน่อย”เจี่ยนอันอันมองไปที่อาหารทั้งสี่จานบนโต๊ะ ดูเมือนว่าจะอร่อยเสียยิ่งกว่าอาหารทั้งหมดเมื่อครั้งก่อนที่นางมายังค่ายเทียนอวิ๋นเสียอีก“ค่ายเทียนอวิ๋นมีคนทำอาหารแล้วหรือ?” เจี่ยนอันอันอดไม่ได้ที่จะถามออกไป“อย่าพูดถึงเลย ในหมู่พี่น้องที่คลุ้มคลั่งเหล่านั้นของข้า ก็มีคนที่เคยเป็นพ่อครัวมาก่อน”“ในตอนนั้นเขาตายอย่างน่าอนาถที่สุด หลังจากที่ทำร้ายพี่น้องไปหลายคนแล้ว เขาก็เชือดคอตัวเอง”เหวินอิงพูดมาจนถึงตรงนี้ ก็รินเหล้าให้เจี่ยนอันอันจนเต็ม“ในเมื่อเจ้าบอกว่าคนพวกนั้

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 399

    เจี่ยนอันอันไม่ได้ใส่ใจมากนัก“ข้าเพียงแค่ดื่มไปเล็กน้อยเท่านั้น กลับเป็นเหวินอิงที่ดื่มไปค่อนข้างมาก”เจี่ยนอันอันกัดฟันแล้วยิ้มให้ฉู่จวินสิง แล้วอดไม่ได้ที่จะเรอออกมาเซิ่งฟางฟังทั้งสองคนพูดคุยกัน ก็รีบหันกายกลับมา เมื่อเห็นว่าเจี่ยนอันอันกลับมาแล้ว ใบหน้าของเขาก็ค่อยๆ เผยรอยยิ้มขึ้นมา“น้องอันอันกลับมาแล้ว”“เจ้ารีบพูดมา ว่าได้พบเหวินอิงหรือไม่?”“ตอนนี้นางเป็นอย่างไรบ้าง คิดถึงข้าหรือไม่?”เซิ่งฟางเป็นเหมือนราวกับปืนใหญ่ ที่ถามคำถามออกมามากมายอารมณ์ของเขาในตอนนี้ดูตื่นเต้นมากเสียยิ่งกว่าใคร ดูเหมือนว่าเจี่ยนอันอันไม่เพียงแต่ได้พบกับเจี่ยนอันอัน ยังจะดื่มเหล้ากับนางอีกด้วยเจี่ยนอันอันหยิบถ้วยชาบนโต๊ะหินขึ้นมา ดื่มน้ำชาเข้าไปคำหนึ่ง เพื่อระงับอาการเรอเอาหล้าออกมานั้นลงไปเซิ่งฟางจ้องไปยังเจี่ยนอันอันอย่างไม่เลื่อนสายตาไปที่ใด รอเพียงแต่ให้นางพูดถึงเรื่องของเหวินออกมาเจี่ยนอันอันนั่งลงบนม้าหิน แล้วโบกมือให้ฉู่จวินสิงและเซิ่งฟางนั่งลงซ่างตงเยว่ในตอนนี้เองก็ถูกคำพูดของพวกเขาปลุกให้ตื่นขึ้นมาแล้ว เมื่อเห็นว่าเจี่ยนอันอันกลับมา ในที่สุดนางก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก“รอ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 400

    เจี่ยนอันอันเมื่อได้ยินก็มีความสุขขึ้นมาหากว่าได้ในราคาที่ถูกลงแล้วยังไม่เอาอีก ก็คงจะโง่เขลาแล้วในเมื่อสามารถใช้เงินน้อยลงเพื่อซื้อไม้ชั้นดีได้ แน่นอนว่านางต้องย่อมยินดี“พี่เซิ่ง เช่นนั้นก็อย่ารอช้ากันเลย พวกเราไปซื้อไม้กันตอนนี้เถอะ”ทั้งสี่คนนั่งบนรถม้า แล้วเดินทางมุ่งหน้าไปยังร้านค้าไม่นานพวกเขาก็มาถึงยังประตูร้านขายไม้ ทั้งสี่คนลงจากรถม้า แล้วเดินก้าวใหญ่เข้าไปในร้านค้าเถ้าแก่ร้านเมื่อเห็นว่าเซิ่งฟางมา ก็รีบออกมาต้อนรับจากด้านหลังโต๊ะ“นายอำเภอเซิ่ง วันนี้มาได้อย่างไรกัน ต้องการซื้อไม้อย่างนั้นหรือ?”เซิ่งฟางพยักหน้าออกมาเบาๆ “ข้าต้องการซื้อไม้เอาไปสร้างบ้าน ที่เจ้ามีไม้ดีอะไรแนะนำบ้างหรือไม่?”เถ้าแก่ร้านเดิมก็ขอบคุณเซิ่งฟางที่ช่วยเขาตามไม้ที่หายไปกลับมา แน่นอนว่าย่อมต้องพยายามช่วยเขาเลือกไม้ออกมาสามชนิดเจี่ยนอันอันมองไปยังเถ้าแก่ร้านที่มีอายุกว่าห้าสิบปี ตัวสูงผอม แต่แรงกลับมีอยู่ไม่น้อยเขานำไม้ทั้งสามชนิดวางไว้ด้านหน้าของพวกเขา รอให้พวกเขาเลือกที่ตนเองชื่นชอบเท่านั้นเจี่ยนอันอันไม่เข้าใจเรื่องของไม้เช่นนี้มากนักนางเพียงจ่ายเงิน ส่วนเรื่องการเลือกนั่น คงต้อ

Bab terbaru

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 813

    พวกเขาลืมเรื่องนี้ไปได้อย่างไรญาติที่เป็นขุนนางของลูกพี่เป็นผู้มีอิทธิพลนัก ดูแลทุกอย่างในอำเภอไถหยางก็ว่าได้เจี่ยนอันอันกล่าวเสียงเย็น “คุยมาตั้งนาน ยังไม่เห็นบอกชื่อว่าคนผู้นั้นเป็นใคร ข้าว่าคงจะแต่งเรื่องส่งเดชมากกว่า”เฝิงซานกวงถูกเจี่ยนอันอันยุยงอีกครั้ง เดิมทีเขาก็ไม่อยากเอ่ยชื่อเจ้าเมืองออกมาแต่ครั้งนี้เห็นทีไม่พูดก็ไม่ได้เสียแล้ว“ฮึ่ม พูดแล้วพวกเจ้าจะตกใจ ท่านอารองของข้าเป็นเจ้าเมืองแห่งอำเภอไถหยาง”“หากพวกเจ้ากล้าแตะต้องกิจการในเหมืองของข้า ข้าจะให้ท่านอาส่งคนมาจับพวกเจ้าไปขังคุกเสีย!”เมื่อเจี่ยนอันอันได้ยินว่าอารองของเฝิงซานกวงก็คือเจ้าเมืองตานนั่นเอง นางจึงเริ่มมีแผนการในใจ“อ้อ หมายถึงเจ้าเมืองตานผู้นั้นหรอกรึ? ยังนึกว่าเป็นคนใหญ่คนโตที่ใดเสียอีก”“เชิญไปเรียกตัวมาได้เลย แล้วเรามายันกันซึ่งหน้า ให้รู้ไปว่าเขาจะเข้าข้างเจ้า หรือเห็นด้วยกับเรามากกว่า”เฝิงซานกวงมองดูท่าทีของเจี่ยนอันอัน คล้ายไม่กลัวกระทั่งคนเป็นเจ้าเมือง จึงให้ตกใจซ้ำอีกเขาแอบคิดในใจ หรือว่าท่านอารองจะรู้จักกับคนสองคนนี้?จึงหันไปกระซิบกระซาบต่อลูกน้องข้างกาย “รีบไปเชิญอารองข้ามาเดี๋ยวนี้”

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 812

    เหล่าคนงานที่เข้าออกเหมืองแร่เห็นเหตุการณ์เข้า ต่างก็ตกใจเป็นอย่างมากเพราะเป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นลูกน้องของนายจ้างถูกผู้อื่นทำร้ายเช่นนี้แม้แต่ละคนจะมีความตกใจ แต่ลึกๆ กลับรู้สึกสะใจมากกว่าเพราะบริวารของเฝิงซานกวงเหล่านี้ ปกติมักจะใช้กำลังกับพวกเขาบ่อยๆทุกครั้งที่พวกเขาขุดหาแร่ออกมาไม่ได้ปริมาณตามที่ต้องการ ลูกน้องเฝิงซานกวงก็พากันมารุมซ้อมพวกเขาอย่างหนัก แต่พวกเขาก็ไม่กล้าไปบอกใครบางคนเคยคิดหนีไปจากที่นี่ แต่ครั้งใดที่มีผู้หลบหนี มักถูกจับกลับมาแล้วซ้อมหนักยิ่งกว่าเดิมอีกที่สำคัญพวกเขาแทบจำไม่ได้ว่าตนคือใคร บ้านช่องอยู่ที่ใดจึงได้แต่ใช้แรงกายแลกกับเงินน้อยนิดเพียงสองอีแปะในแต่ละวัน อดทนทำงานอยู่ที่นี่ต่อไปเมื่อชายสองคนถูกทำร้ายเข้า จึงมีลูกน้องเฝิงซานกวงตามออกมาอีกทุกคนเมื่อเห็นว่ามีคนมาก่อเรื่อง จึงกรูกันเข้าหาฉู่จวินสิงทันทีแต่มิต้องรอให้พวกเขามาเข้าใกล้ ฉู่จวินสิงใช้กำลังภายในซัดออกไปก่อนแล้วทุกคนต่างทยอยล้มลง พลางกลิ้งไปมา ร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดทันใดนั้นเอง มีเสียงหนึ่งตะคอกดังขึ้น “ผู้ใดกล้าบังอาจมาก่อเรื่องในเหมืองของข้า อยากตายหรืออย่างไร?”ใบ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 811

    แต่บัดนี้นางเปิดร้านมาสิบกว่าวัน ขายได้เพียงรูปสัตว์โลหะไม่กี่ตัวเท่านั้นเฉียวซื่อบอกเล่าสิ่งที่พบเจอให้เจี่ยนอันอันฟัง ทำให้นางเกิดความเข้าใจขึ้นทันทีที่แท้เฉียวซื่อถูกเฝิงซานกวงหลอกลวงมาแต่แรกเจี่ยนอันอันเพียงคิดว่าต่อให้นางซื้อของตกแต่งเหล่านี้กลับไป ก็มิได้ใช้ประโยชน์นักจึงนำหนูโลหะตัวเล็กในมือวางกลับที่เดิมเฉียวซื่อเห็นเจี่ยนอันอันทำเช่นเดียวกับลูกค้าอื่นในร้าน เพียงเข้ามาหยิบดูเล็กน้อย จากนั้นจึงวางของตกแต่งลงไว้ที่เดิมดูแล้วคล้ายไม่สู้ถูกใจผลงานที่นางสร้างสรรค์ออกมาเท่าใดนัก พลันเกิดความรู้สึกท้อแท้ นางคงไม่เหมาะจะทำอาชีพนี้จริงๆ กระมังหากตอนนี้สามียังอยู่ก็คงดี นางจะได้ฝึกวิชาการตีเหล็กจากเขาให้ออกมาเป็นงานอื่นบ้างและเมื่อครู่เจี่ยนอันอันรู้จากปากเฉียวซื่อ ว่าเฝิงซานกวงได้เปิดกิจการเหมืองแร่แห่งหนึ่งทุกวันจะมีคนงานไปด้านหลังภูเขาที่อยู่ห่างไกล ขุดเอาแร่เหล็กและหยกออกมา เพื่อนำกลับมาถลุงเป็นเครื่องหยกและของใช้ที่ทำจากเหล็กนางเห็นเฉียวซื่อคล้ายมีอาการท้อใจ จึงกล่าวยิ้มแย้ม “พี่เฉียว ท่านพาข้าไปดูที่เหมืองของเฝิงซานกวงก่อน ข้ามีสิ่งของบางอย่างต้องการจะซื้อ”

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 810

    เจี่ยนอันอันหยิบมากวาดตาดูก็มองความผิดปกติบนนั้นออกได้ในทันที“เงื่อนไขในนี้เข้มงวดเกินไปแล้ว ถ้าฝ่ายไหนยุติสัญญาจะต้องชดเชยให้อีกฝ่ายเป็นเงินจำนวนหนึ่งแสนตำลึง”“เจ้าหมอนี่ช่างกล้าเขียน สัญญานี้เห็นได้ชัดว่าเป็นเงื่อนไขแบบมัดมือชกกันชัดๆ”“ข้าว่าท่านไม่ร่วมงานกับเขาเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย”คำพูดของเจี่ยนอันอันทำให้เฉียวซื่อใจหายวูบนางรู้จักตัวหนังสือแค่ไม่กี่ตัว นอกจากเขียนชื่อตัวเองเป็นแล้ว เงื่อนไขในนั้นนางอ่านไม่เข้าใจเลยสักนิดเฝินซานกวงเป็นคนอ่านให้นางฟัง นางรู้สึกว่าเงื่อนไขสมเหตุสมผลมากจึงลงนามในสัญญากับอีกฝ่ายแต่คิดไม่ถึงเลยว่า เฝิงซานกวงจะกล้าเล่นเล่ห์กับนางแบบนี้เดิมนั้นนางอยากยกเลิกสัญญากับอีกฝ่าย แต่กลับได้ยินเฝิงซานกวงพูดว่า ถ้านางกล้าเป็นฝ่ายยกเลิกสัญญาก็จะต้องชดเชยเงินให้เฝิงซานกวงเป็นเงินจำนวนหนึ่งแสนตำลึงตอนนั้นเฉียวซื่อตกใจยิ่งนักนางเคยไปถามเถ้าแก่ร้านข้างเคียง ฝ่ายตรงข้ามก็บอกว่าเงื่อนไขนี้เขียนไว้อย่างชัดเจน ต้องจ่ายเงินชดเชยให้อีกฝ่ายหนึ่งแสนตำลึงจริงๆเงินจำนวนมหาศาลเช่นนี้ นางจะไปหาเงินมากมายขนาดนี้มาจากที่ไหนถึงตอนนี้เฉียวซื่อจึงตระหนักว่

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 809

    ตอนนี้เขาทำได้เพียงอดทนอดกลั้นต่อความเจ็บปวด ยอมรับการทุบตีจากเฉียวอี้บริเวณรอบๆ มีคนล้อมเข้ามามุงดูจำนวนมาก พวกเขาต่างชี้ไม้ชี้มือมาทางชายผู้นั้น“คนคนนี้แค่เห็นก็รู้แล้วว่าต้องไม่ใช่คนดีแน่ ดูหน้าตาทรงโจรของเขาสิ แปดส่วนคงเป็นเพราะไปหาเรื่องคนอื่นก่อน ถึงได้ถูกเด็กคนนั้นซ้อมเอาแบบนี้”“เมื่อครู่ข้าได้ยินแล้ว เขาไปลงไม้ลงมือกับแม่ของเด็กคนนั้น ข้าว่าตีเขายังน้อยไป ควรแจ้งความมากกว่า”คนมุงบริเวณรอบๆ ต่างวิพากษ์วิจารณ์กันต่างๆ นานาเฉียวอี้ควงหมัดทักทายใบหน้าของชายผู้นั้นหนักกว่าเดิมในไม่ช้า เฉียวอี้ก็ตีจนรู้สึกเจ็บกำปั้น แต่เขาก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดจนกระทั่งอัดศีรษะชายผู้นั้นจนบวมเป่งเหมือนหมู เฉียวอี้ถึงได้หยุดมือพร้อมหอบหายใจแม้ว่ากำปั้นของเฉียวอี้จะไม่ใหญ่ แต่ครั้นทุบตีคนก็ร้ายกาจยิ่งนักเห็นใบหน้าชายผู้นั้นเขียวช้ำไปหมด เฉียวอี้ก็รู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมากเจี่ยนอันอันกล่าวกับชายผู้นั้นว่า “หากวันหน้าเจ้ายังกล้ามาคุกคามแม่ลูกตระกูลเฉียวอีก ข้าไม่ปล่อยให้เจ้าสบายแบบนี้แน่ ยังไม่รีบไสหัวไปอีก!”ชายผู้นั้นไม่กล้าพูดมาก ลุกขึ้นมากุมศีรษะแล้วเผ่นหนีไปคนมุงบริเวณรอบๆ เ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 808

    เจี่ยนอันอันกับฉู่จวินสิงสบตากัน“พวกเจ้ารอข้าอยู่ตรงนี้” ฉู่จวินสิงว่าแล้วก็ก้าวยาวๆ ตรงไปทางตรอกน้อยชายผู้นั้นเห็นว่าฉู่จวินสิงตรงมาทางเขาก็หันหลังเตรียมวิ่งหนีแต่เขาวิ่งไปได้ไม่กี่ก้าวก็ถูกถีบเข้าที่เอวเสียแล้วชายผู้นั้นถูกถีบกระเด็นไปไกล คว่ำหน้าอยู่บนพื้นร้องโอดโอยออกมาอย่างทนไม่ไหวฉู่จวินสิงย่างสามขุมตรงเข้าไปหาแล้วหิ้วคอเสื้อของชายผู้นั้นขึ้นมาอย่างไม่ปรานีปราศรัย“ไปกับข้า!”ฉู่จวินสิงกล่าวพลางผลักชายผู้นั้นตรงออกไปนอกตรอกชายผู้นั้นได้ลิ้มรสความร้ายกาจของฉู่จวินสิงแล้วย่อมไม่กล้าวิ่งหนีส่งเดชเขาไม่อยากถูกถีบอีกหรอกนะ จนถึงตอนนี้เอวยังระบมอยู่เลยฉู่จวินสิงผลักชายผู้นั้นมาถึงตรงหน้าเจี่ยนอันอันกับเฉียวอี้แล้วกล่าวเสียงเข้ม “บอกมา ระหว่างเจ้ากับเด็กคนนี้เป็นเรื่องอะไรกันแน่?”ชายผู้นั้นมองเฉียวอี้ แววตาเต็มไปด้วยความขุ่นแค้น“คุณชายท่านนี้ ข้าไม่รู้จักเขาเสียหน่อย เขาวิ่งออกมาถนนใหญ่เอง เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับข้าเลยนะ”ขณะที่ชายผู้นั้นพูดก็ถลึงตาใส่เฉียวอี้อย่างดุร้ายเฉียวอี้เห็นฝ่ายตรงข้ามไม่ยอมรับ เขาเงยหน้าขึ้นมาด้วยความโมโห แล้วตวาดใส่ชายผู้นั้นว่า“ท่านโก

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 807

    เจี่ยนอันอันเห็นว่าฉู่จวินสิงก่อสร้างเป็น นางก็วางใจไปได้มากนางยิ้มเอ่ยว่า “ไม่ใช่กระโจม แต่เป็นโรงเรือนสำหรับเพาะปลูกแบบหนึ่ง”นางมีความคิดคร่าวๆ ในใจแล้วจึงรีบกลับบ้านไปกับฉู่จวินสิงนางหยิบกระดาษและปากกาออกมาจากในมิติ แล้ววาดภาพร่างบนโต๊ะฉู่จวินสิงนั่งอยู่ข้างๆ ตั้งใจดูภาพร่างโรงเรือนที่เจี่ยนอันอันวาดที่นี่ไม่มีเหล็กเส้น เจี่ยนอันอันยังไม่อยากใช้เงินจำนวนมากไปซื้อจากในร้านค้านางต้องการสร้างโรงเรือนสำหรับคนในหมู่บ้านทุกคน เหล็กเส้นที่ต้องใช้จึงมีไม่น้อยหากใช้เงินไปซื้อมา นั่นไม่ใช่จำนวนเงินน้อยๆ เลยนางไม่อยากใช้เงินพวกนั้นในมิติมากเกินไป นางยังรอที่จะสนับสนุนฉู่จวินสิงขึ้นนั่งบัลลังก์ฮ่องเต้หลังจากการทำสงครามกลับเมืองจิงโจวในวันหน้าเมื่อถึงตอนนั้น เงินทองของล้ำค่าเหล่านั้นในมิติก็จะได้นำไปใช้แล้วฮ่องเต้จนกรอบคนหนึ่งที่ไม่สามารถจ่ายเบี้ยหวัดให้เหล่าขุนนางได้ ทั้งยังไม่สามารถทำให้ชาวบ้านอยู่ดีมีสุข กับฮ่องเต้ที่มั่งคั่งร่ำรวยคนหนึ่ง เงินในมือสามารถซื้อเมืองทั้งเมืองได้ชาวบ้านกับเหล่าขุนนางจะเอนเอียงไปทางคนไหนมากกว่า นั่นไม่ต้องพูดก็สามารถรู้ได้แล้วในไม่ช้า เจี่ยน

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 806

    เมื่อมีชาวบ้านผ่านมาที่นี่แล้วเห็นลูกปลาในสระน้ำเข้าเขาก็ส่งเสียงด้วยความประหลาดใจทันทีว่า “แม่นางเจี่ยน เจ้าเป็นคนนำลูกปลาพวกนี้มาปล่อยไว้ในนี้หรือ?”เจี่ยนอันอันพยักหน้าพร้อมยิ้มบาง ชาวบ้านผู้นั้นเรียกคนอื่นๆ มาด้วยความดีใจทุกคนล้วนรู้สึกซาบซึ้งในความเอาใจใส่ของเจี่ยนอันอัน แบบนี้ต่อไปพวกเขาก็จะสามารถกินเนื้อปลาสดใหม่ได้แล้วชาวบ้านจำนวนมากล้วนรู้สึกยินดีเพราะเรื่องนี้ แต่มีชาวบ้านคนหนึ่งที่นิ่วหน้าคิ้วขมวดเขาอดพูดขึ้นไม่ได้ว่า “สระน้ำนี่ก็ดีอยู่หรอก แต่อากาศค่อยๆ เย็นลงแล้ว กลัวจริงๆ ว่าเมื่อถึงฤดูหนาว สระน้ำนี่ก็จะจับตัวเป็นน้ำแข็ง”“พอถึงยามนั้น อย่าว่าแต่พวกเราจะไม่ได้กินเนื้อปลา เกรงว่าแม้แต่พืชผักก็คงปลูกไม่ได้เหมือนกัน”วาจาประโยคเดียวของชาวบ้านทำให้คนอื่นๆ กลัดกลุ้มตามไปด้วยหลายวันมานี้อากาศค่อยๆ เย็นลง พวกเขาล้วนแต่เพิ่งปลูกผักทั้งยังได้รับเงินสามสิบตำลึงมาแล้วหากถึงฤดูหนาวจริงๆ พวกเขาก็ไม่สามารถปลูกผักพวกนี้ได้อีกแล้วเมื่อถึงตอนนั้น พวกเขาก็จะได้กลับไปมีชีวิตที่ยากลำบากเหมือนที่ผ่านมาอีกครั้งพวกเขาเกี่ยวข้าวไว้มากแล้ว แต่ผักพวกนี้ควรทำอย่างไรดีเล่า?หาก

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 805

    เซียงเสวี่ยเห็นลูกเป็ดและลูกไก่ตัวน้อยที่อยู่ในกรง นางดีใจจนรีบมารับไป“ฮูหยินน้อยรอง อีกหน่อยเมื่อเลี้ยงเป็ดและไก่เหล่านี้จนโต พวกเราก็จะมีเนื้อเป็ดเนื้อไก่กินแล้ว”เจี่ยนอันอันยิ้มเล็กน้อย พลางมองไปยังเสิ่นจือเจิ้ง“พี่ใหญ่ เป็ดไก่เหล่านี้เพียงพอให้พวกท่านกินหลายวันสินะ”เสิ่นจือเจิ้งยิ้มตอบ “เด็กโง่ พี่ใหญ่กลับไม่คิดเช่นนั้น”เจี่ยนอันอันเลิกคิ้วเล็กน้อย “ความหมายของท่านคือ?”เสิ่นจือเจิ้งบอกเล่าความคิดของตนให้ฟังเขาตั้งใจว่าจะเลี้ยงเป็ดไก่เหล่านี้ให้โต พร้อมทำการเพาะพันธุ์ต่อจากนั้นก็ทยอยนำเป็ดไก่ไปขาย เชื่อว่าน่าจะได้เงินเป็นจำนวนมากเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว เขาก็ไม่ต้องอยู่อย่างยากจนข้นแค้นดั่งเช่นทุกวันนี้อีกเจี่ยนอันอันเห็นว่าวิธีนี้พอใช้ได้ ปกติพี่ใหญ่มองการณ์ไกลมากกว่านางอยู่แล้ว“ถ้าเช่นนั้นก็แล้วแต่ท่าน”เจี่ยนอันอันกล่าวจบ จึงคิดจากไปนางยังคิดจะไปดูแอ่งน้ำเสียหน่อย เผื่อจะปล่อยพันธุ์ปลาลงไปในน้ำบ้างเผื่อวันหน้าปลาโตขึ้น ชาวหมู่บ้านชิงสุ่ยก็จะมีเนื้อปลากินอีกขณะที่เจี่ยนอันอันเตรียมตัวจะออกไป กลับถูกเสิ่นจือเจิ้งเรียกตัวไว้“เมื่อคืนที่บ้านเจ้าได้เกิดเรื่อ

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status