Share

บทที่ 387

Author: ซินต้งหรูสุ่ย
เจียงหว่านเอ๋อร์รับคำเสียงเบา ก่อนจะนำหมั่นโถวในมือเก็บลงในอกเสื้อ

นางไม่ได้คิดอะไรมาก เพียงแต่คิดว่าตอนนี้เสิ่นจือเจิ้งคงไม่ได้อยากกิน นางจึงไม่ได้รบเร้าต่อไป

“เจ้าคงอยากรู้มาก ว่าเมื่อครู่ข้ากับอันอันพูดเรื่องอะไรกัน”

เจียงหว่านเอ๋อร์เงยหน้าขึ้นเพียงเล็กน้อย มองเสิ่นจือเจิ้งแวบหนึ่ง ก่อนจะรีบก้มหน้าลงทันที

นางไม่กล้ามองสบดวงตาเย็นชาคู่นั้นของเสิ่นจือเจิ้งเลยจริง ๆ

ความรู้สึกห่างเหินที่แผ่ซ่านมาทำให้เจียงหว่านเอ๋อร์พลันรู้สึกขึ้นมาว่า วาสนาคู่ชีวิตระหว่างนางกับเสิ่นจือเจิ้ง คงมาถึงจุดสิ้นสุดเสียแล้ว

เจียงหว่านเอ๋อร์เจ็บปวดใจ แต่กลับไม่กล้ากล่าวออกมาแม้แต่คำเดียว

เสิ่นจือเจิ้งมองเจียงหว่านเอ๋อร์ ก่อนจะหันสายตาไปทางอื่น

“อันอันคือน้องสาวของข้า ต่อไปเจ้าจงปฏิบัติต่อนางให้ดี”

เมื่อได้ยินคำว่า ‘น้องสาว’ เจียงหว่านเอ๋อร์รู้สึกแสบจมูกขึ้นมาโดยพลัน น้ำตาพรั่งพรูไหลรินไม่ขาดสาย

นางจะไม่รู้ได้อย่างไรว่า เสิ่นจือเจิ้งมีเพียงเสิ่นจืออวี้เป็นน้องชายเพียงคนเดียว แล้วเขาจะมีน้องสาวมาจากที่ใด

นางเองก็ได้ยินจากปากของคนอื่นมาว่า เดิมทีอดีตฮ่องเต้ต้องการให้อันอันและเสิ่นจือเจิ้งเข้าพิธีวิวาห์
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Kaugnay na kabanata

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 388

    หากนางมีความรู้เรื่องการแพทย์ ก็คงไม่ปล่อยให้เสิ่นจือเจิ้งต้องทนทุกข์ทรมานหลายวันเช่นนี้บางทีเสิ่นจือเจิ้งอาจจำนางได้แล้ว เพียงแต่เขากำลังโทษนางที่ไร้ความสามารถ ไม่อาจช่วยให้เขาหลุดพ้นจากความเจ็บปวดได้เร็วกว่านี้เมื่อเจียงหว่านเอ๋อร์เดินออกจากห้อง ก็พบว่าเสิ่นจืออวี้กำลังเดินเข้ามาจากนอกเรือน“พี่สะใภ้ พี่ชายข้าตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?”เจียงหว่านเอ๋อร์เม้มริมฝีปากแน่น กลั้นความรู้สึกน้อยใจเอาไว้“พี่ชายของเจ้าตอนนี้ต้องการพักผ่อน เจ้าอย่าเพิ่งเข้าไปกวนเขาเลย”เสิ่นจืออวี้พยักหน้าเล็กน้อย ไม่ได้เข้าไปรบกวนจริง ๆ แล้วเขาตั้งใจจะถามพี่ชายว่า เรื่องของย่าเล็กจะจัดการอย่างไรดีตอนนี้นางกลายเป็นเหมือนคนตายทั้งเป็น ซึ่งก็สมควรกับกรรมที่นางก่อแต่เสิ่นจืออวี้เร่งรีบอยากจัดการเรื่องของย่าเล็กให้เรียบร้อยไปเสียเขานึกถึงคำว่า ‘พี่สะใภ้ก็เหมือนแม่’ หากพี่ชายยังจำพวกเขาไม่ได้ เช่นนั้นเขาปรึกษากับพี่สะใภ้ก็น่าจะได้เหมือนกัน“พี่สะใภ้ ข้ามีเรื่องอยากจะหารือกับท่าน”เสิ่นจืออวี้เอ่ยพลางก้มมองเสิ่นคังเด็กคนนี้แม้จะยังอายุน้อย แต่กลับดูมีวุฒิภาวะเกินวัยเรื่องที่ย่าเล็กใช้วิชาอาคม เสิ่

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 389

    เจี่ยนอันอันสั่งให้บ่าวไพร่นำร่างเฉียนซื่อวางลงกับพื้นจากนั้น นางก็หยิบผงสลายศพออกมาจากมิตินางมองไปยังเสิ่นจืออวี้อีกครั้ง “พวกท่านคิดดีแล้วใช่หรือไม่ แน่ใจว่าไม่ต้องการให้ย่ารองมีชีวิตอยู่อีกต่อไป?”เสิ่นจืออวี้กัดฟันแน่น ก่อนพยักหน้าหนักแน่น“ข้ากับพี่สะใภ้หารือกันแล้ว ย่าเล็กทำร้ายคนมากมายเพียงนั้น แถมยังทำให้พี่ชายข้ากลายเป็นเช่นนี้”"นางมีชีวิตอยู่ก็มีแต่จะสร้างภัยร้าย พวกเราไม่มีใครอยากให้นางมีชีวิตอยู่อีกต่อไป"เมื่อเสิ่นจืออวี้กล่าวเช่นนี้แล้ว เจี่ยนอันอันก็ไม่พูดอะไรให้มากความถึงอย่างไร เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องของครอบครัวพวกเขา นางเพียงแค่ยื่นมือช่วยเล็กน้อยเท่านั้นท่ามกลางสายตาของทุกคน เจี่ยนอันอันโปรยผงสลายศพลงบนร่างของเฉียนซื่อเมื่อกลุ่มควันบางเบาลอยขึ้นมา ร่างของเฉียนซื่อพลันแปรเปลี่ยนเป็นกองน้ำหนองในชั่วพริบตาเสิ่นจืออวี้และคนอื่น ๆ มองดูภาพนั้นด้วยความตกตะลึง ทุกคนต่างสบตากันโดยไม่มีคำพูดใดพวกเขาแทบไม่อยากเชื่อ ว่าคนที่ยังมีชีวิตเมื่อครู่จะกลายเป็นเพียงกองน้ำหนองจากศพในพริบตาเดียวเจี่ยนอันอันยกมือขึ้นโบกต่อหน้าเสิ่นจืออวี้ ทำให้เขาหลุดออกจากภวังค์“แม่น

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 390

    เสิ่นจือเจิ้งมองไปรอบ ๆ เมื่อไม่เห็นเจี่ยนอันอัน จึงเอ่ยถามขึ้นว่า “อันอันล่ะ เหตุใดนางถึงไม่มากินข้าวด้วยกัน?”เมื่อเจียงหว่านเอ๋อร์เห็นว่าเสิ่นจือเจิ้งห่วงใยเจี่ยนอันอันเพียงนี้ นางก็รู้สึกน้อยใจ“ท่านพี่ แม่นางเจี่ยนกลับไปที่บ้านแล้ว ท่านกินก่อนเถิด”เสิ่นจือเจิ้งปรายตามองเจียงหว่านเอ๋อร์ และเห็นว่านางกำลังคีบเนื้อกระต่ายชิ้นหนึ่งใส่ลงในถ้วยของเขา“ข้าไม่กินของที่คนอื่นจับต้องแล้ว” เสิ่นจือเจิ้งกล่าวพลางคีบเนื้อกระต่ายจากถ้วยตัวเองไปใส่ในถ้วยของเสิ่นคังแทน“คังเอ๋อร์ กินเนื้อสิ” เสิ่นจือเจิ้งยิ้มให้เสิ่นคังการกระทำนี้ของเขาทำให้เจียงหว่านเอ๋อร์รู้สึกน้อยใจจนรู้สึกแสบจมูกนางสูดลมหายใจเข้าลึกหลายครั้ง พยายามบังคับตัวเองไม่ให้ร้องไห้ออกมาเสิ่นจืออวี้รู้สึกแปลกใจ เพราะในอดีตพี่ใหญ่ไม่เคยปฏิบัติต่อพี่สะใภ้เช่นนี้ทั้งสองคนให้เกียรติกันและกันเสมอมา ไยพี่ใหญ่จึงแสดงความห่างเหินต่อพี่สะใภ้เช่นนี้?หรือเป็นเพราะพี่ใหญ่ยังจำพี่สะใภ้ไม่ได้ เขาถึงได้เปลี่ยนไปเช่นนี้?ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นต่างนิ่งเงียบบรรยากาศเต็มไปด้วยความอึดอัดทุกคนก้มหน้ากินข้าวกันเงียบ ๆ ขณะที่เจียงหว่านเอ๋อร

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 391

    “ข้าว่าพี่สาววันนี้ดูเหมือนว่าจะอารมณ์ไม่ดีนัก ไม่สู้ลองพูดกับน้องสาวดู?”คำของกวนซิน ทำให้จมูกของเจียงหว่านเอ๋อร์แสบร้อนขึ้นมาอีกครั้งเดิมทีความคับข้องใจในใจที่มีเดิมทีก็ไม่รู้ว่าจะพูดออกไปที่ใด ถึงแม้ว่าเสิ่นจืออวี้จะเป็นคนในครอบครัว แต่อย่างไรแล้วเขาก็เป็นชายหนุ่มความในใจของนาง จะไปแสดงออกกับเสิ่นจืออวี้ได้อย่างไรกันแต่ว่ากวนซินเป็นหญิงสาว หากว่านางนำความในใจพูดออกมา บางทีอาจจะได้รับความเข้าใจจากกวนซินก็เป็นได้เมื่อคิดถึงตรงนี้ ในที่สุดเจียงหว่านเอ๋อร์ก็พูดความคับข้องใจออกมากวนซินฟังอย่างเงียบๆ รอจนเมื่อเจียงหว่านเอ๋อร์พูดออกมาจนหมดแล้วนางตบลงบนหลังมือของเจียงหว่านเอ๋อร์เบาๆ “พี่สาวกังวลใจเกินไปแล้ว”“อันอันเป็นแม่นางที่ดีคนหนึ่ง ความสัมพันธ์ระหว่างนางและฉู่จวินสิงดีเป็นอย่างมาก”“นางไม่มีทางที่จะทรยศฉู่จวินสิง แล้วหันไปเลือกอยู่กับสามีของท่าน”เจียงหว่านเอ๋อร์ยังคงรู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ง่ายดายนักนางไม่สนิทกับเจี่ยนอันอัน จึงไม่รู้ว่าเจี่ยนอันอันเป็นคนอย่างไร“ทว่าเจ้าเองก็เห็นแล้วว่า สามีของข้าอยู่ในห้องกับแม่นางเจี่ยนตั้งนาน ยากจะรับรองได้ว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรกัน”

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 392

    ระหว่างทาง เจี่ยนอันอันไม่ได้พูดออกมาว่าพี่ชายของนางเองก็ทะลุมิติมาเช่นกันเพราะอย่างไรแล้วที่นี้ก็ยังมีซ่างตงเยว่อยู่ด้วย นางไม่อยากให้ซ่างตงเยว่รู้เรื่องมากจนเกินไปในตอนที่ทั้งสามคนมาถึงยังอำเภอไถหยางนั้น เจี่ยนอันอันก็อยากจะไปเยี่ยมเซิ่งฟางก่อนและก็สามารถทำความเข้าใจจากเขาได้ว่าภายในตัวอำเภอนั้นมีร้านขายไม้ร้านใด ที่สามารถซื้อไม้ดีๆ ได้เซิ่งฟางตอนนี้กำลังนั่งพักผ่อนอยู่ในจวน วันนี้ไม่มีคดีใดให้ตัดสิน เขามีความสุขที่ได้อยู่เฉยๆทว่าเมื่อได้อยู่ว่างๆ แล้ว เขาก็มักจะคิดไปเรื่อยเปื่อยเขานั่งอยู่ในศาลา ถือถ้วยชาขึ้นมาวางไว้ตรงขอบปากแต่กลับลืมที่จะดื่มมันความคิดของเขา บินลอยไปยังค่ายเทียนอวิ๋นเสียนานแล้วและก็ไม่รู้ว่าเหวินอิงตอนนี้ไม่รู้ว่าเป็นอย่างไรบ้างนางคงจะไม่ใช่เพราะว่าหลายวันมาแล้วที่ไม่ได้ข่าวคราวของเขา ก็เลยโกรธเขาขึ้นมา?อารมณ์ร้อนแรงเช่นนั้นของเหวินอิง หากว่านางไม่อยากจะรอเขาอีก แล้วไปหาคนอื่นจะทำอย่างไรกัน?และก็เป็นในตอนที่เซิ่งฟางกำลังคิดวุ่นวายอยู่นั้น เจ้าหน้าที่ทางการก็นำเจี่ยนอันอันทั้งสามคนเข้ามายังด้านหน้าศาลา“ใต้เท้า มีแขกมาเยี่ยมท่าน”เจ้าหน้าที่

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 393

    ซ่างตงเยว่ที่เดิมก็ไม่อาจแทรกพูดขึ้นมาได้ จึงได้ทำเพียงนั่งอยู่ด้านข้างคอยมองพวกเขาเซิ่งฟางถอนหายใจออกมาเบาๆ เขาไม่อาจออกจากเมืองอินเป่ย เหวินอิงก็ไม่อาจเข้ามาได้ตอนนี้จึงไม่มีวิธีใดที่จะติดต่อกับภายนอกเจี่ยนอันอันครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ ทันใดนั้นดวงตาก็สว่างขึ้นมา“หรือว่าจะเอาเช่นนี้ ข้าจะไปค่ายเทียนอวิ๋นดูเหวินอิงเอง?”“ท่านจะไป? ท่านจะออกไปจากเมืองอินเป่ยได้อย่างไร?”“ไม่ได้ ทำเช่นนี้อันตรายจนเกินไป!”เซิ่งฟางและฉู่จวินสิงพูดออกมาพร้อมกันเจี่ยนอันอันรู้ว่า พวกเขาล้วนแต่เป็นกังวลว่านางจะเป็นอันตรายก่อนหน้านั้นนางคิดถึงการสะกดจิตขึ้นมา ทว่าเพียงแค่ใช้การสะกดจิตเฉินหย่งเหนียน ให้เขาเปิดประตูเมืองแล้วปล่อยนางไปเกรงว่าคนอื่นๆ ก็คงจะไม่ยินยอมเพราะอย่างไรแล้วด้วยกฎเกณฑ์ของเมืองอินเป่ยในตอนนี้คือ ห้ามไม่ให้ผู้ใดเดินออกจากเมืองอินเป่ยไปหากว่าสะกดจิตให้กับทุกคน ก็คงจะทำให้สิ้นเปลืองเวลาและลงแรงไปมากเพราะว่าทหารที่คอยเฝ้าอยู่ตรงหอประตูเมืองก็มีนับร้อยคน นางไม่ได้มีเวลามากพอที่จะสะกดจิตพวกเขาทีละคนได้ดังนั้นนางถึงคิดถึงเรื่องเครื่องมือลอบเคลื่อนย้ายกายขอเพียงแค่นางคิดขึ้

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 394

    เจี่ยนอันอันรู้ว่าฉู่จวินสิงสามารถมองเห็นนางได้ จึงจูบลงไปบนริมฝีปากของฉู่จวินสิงอีกครั้ง“ทำตัวดีๆ รอข้ากลับมา”เจี่ยนอันอันนึกถึงค่ายเทียนอวิ๋นอยู่ในใจ ทั้งตัวคนก็หายลับไปต่อหน้าของฉู่จวินสิงทันทีในตอนที่นางปรากฏกายขึ้นมาอีกครั้ง คนก็ไปปรากฏกายอยู่ในห้องโถงใหญ่ของค่ายเทียนอวิ๋นแล้วเหล่าโจรภูเขาในค่ายตอนนี้กำลังนั่งดื่มเหล้ากินเนื้อกันอยู่เหวินอิงกลับไม่อยู่ในกลุ่มของพวกเขาเจี่ยนอันอันเดินไปหยุดด้านหน้าห้องนอนของเหวินอิงนางยกมือขึ้นเคาะประตู ไม่นานก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังออกมาจากในห้อง“ใครกันที่ไม่ดูตาม้าตาเรือ ไม่รู้ว่าข้ากำลังพักผ่อนอยู่ เคาะอะไรกัน!”เหวินอิงสบถด่าแล้วเดินมาเปิดประตู กลับพบว่าตรงหน้าประตูนั้นไม่มีแม้แต่เงาผีสักตัวหนึ่งอยู่พี่น้องเหล่านั้นกำลังดื่มเหล้าต่อยมวยกันอยู่ ไม่มีทางที่จะมีใครมาเคาะประตู“แปลกจริงๆ ไม่มีใครเคาะประตู แล้วทำไมประตูถึงได้ดังขึ้นมา หรือว่าจะมีคนมาเคาะประตูในฝันของข้ากัน?”เหวินอิงพูดขึ้น แล้วก็จะปิดประตูและในตอนประตูห้องกำลังจะปิดลงนั้น ข้างหูของนางจู่ๆ ก็มีเสียงของเจี่ยนอันอันดังขึ้นมา“รองหัวหน้า เท้าของข้าถูกประตูหนีบแล้ว

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 395

    นางเงยหน้าขึ้นเหลือบมองไปยังเจี่ยนอันอัน เมื่อเห็นว่านางถอดชุดแต่งงานที่สวมใส่ก่อนหน้านั้น มาเปลี่ยนเป็นสวมใส่เสื้อผ้าที่สะอาดขึ้นผิวพรรณก็ดูน่ามองกว่าก่อนหน้านั้นไม่น้อย ดูเหมือนว่าคงจะมีชีวิตที่ดีคาดว่าเซิ่งฟางเองก็คงจะมีชีวิตไม่เลวเช่นกันไม่แน่ว่าตอนนี้เขาอาจจะเป็นขุนนางไปแล้วก็เป็นได้ ในตอนนี้ก็อาจจะกอดเหล่าอนุไว้ทั้งซ้ายขวาอย่างมีความสุขเหวินอิงยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห นางเสียใจจริงๆ ที่ในตอนนั้นไม่ได้ยืนกรานจะไปเมืองอินเป่ยด้วยกันกับเซิ่งฟางเซิ่งฟางที่น่าสมควรตายนี่ สนใจเพียงแค่ความสุขของตัวเอง แต่กลับไม่สนใจว่านางจะเป็นหรือตายเจี่ยนอันอันเมื่อเห็นว่าเหวินอิงเต็มไปด้วยท่าทีโกรธเกรี้ยว ก็รู้ว่าเหวินอิงจะต้องคิดไปในทางที่ผิดๆ แล้วยังไม่ทันได้รอให้นางได้พูดออกมา เหวินอิงกลับพูดขึ้น“เจ้ายังไม่ยอมบอกข้าอีกว่าเจ้าเข้ามาในค่ายเทียนอวิ๋นได้อย่างไร”“ค่ายเทียนอวิ๋นของพวกเรา ไม่ใช่ว่าใครก็จะสามารถเข้าที่นี่ได้โดยไม่มีสุ้มมีเสียง”เจี่ยนอันอันเมื่อเห็นว่าเหวินอิงยังคงไม่ยอมปล่อยเรื่องนี้ไป จึงทำได้เพียงแต่งข้ออ้างขึ้นมามั่วๆ อย่างทำอะไรไม่ได้บอกว่านางมีเสื้อคลุมล่องหน ขอเพียงแค

Pinakabagong kabanata

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 813

    พวกเขาลืมเรื่องนี้ไปได้อย่างไรญาติที่เป็นขุนนางของลูกพี่เป็นผู้มีอิทธิพลนัก ดูแลทุกอย่างในอำเภอไถหยางก็ว่าได้เจี่ยนอันอันกล่าวเสียงเย็น “คุยมาตั้งนาน ยังไม่เห็นบอกชื่อว่าคนผู้นั้นเป็นใคร ข้าว่าคงจะแต่งเรื่องส่งเดชมากกว่า”เฝิงซานกวงถูกเจี่ยนอันอันยุยงอีกครั้ง เดิมทีเขาก็ไม่อยากเอ่ยชื่อเจ้าเมืองออกมาแต่ครั้งนี้เห็นทีไม่พูดก็ไม่ได้เสียแล้ว“ฮึ่ม พูดแล้วพวกเจ้าจะตกใจ ท่านอารองของข้าเป็นเจ้าเมืองแห่งอำเภอไถหยาง”“หากพวกเจ้ากล้าแตะต้องกิจการในเหมืองของข้า ข้าจะให้ท่านอาส่งคนมาจับพวกเจ้าไปขังคุกเสีย!”เมื่อเจี่ยนอันอันได้ยินว่าอารองของเฝิงซานกวงก็คือเจ้าเมืองตานนั่นเอง นางจึงเริ่มมีแผนการในใจ“อ้อ หมายถึงเจ้าเมืองตานผู้นั้นหรอกรึ? ยังนึกว่าเป็นคนใหญ่คนโตที่ใดเสียอีก”“เชิญไปเรียกตัวมาได้เลย แล้วเรามายันกันซึ่งหน้า ให้รู้ไปว่าเขาจะเข้าข้างเจ้า หรือเห็นด้วยกับเรามากกว่า”เฝิงซานกวงมองดูท่าทีของเจี่ยนอันอัน คล้ายไม่กลัวกระทั่งคนเป็นเจ้าเมือง จึงให้ตกใจซ้ำอีกเขาแอบคิดในใจ หรือว่าท่านอารองจะรู้จักกับคนสองคนนี้?จึงหันไปกระซิบกระซาบต่อลูกน้องข้างกาย “รีบไปเชิญอารองข้ามาเดี๋ยวนี้”

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 812

    เหล่าคนงานที่เข้าออกเหมืองแร่เห็นเหตุการณ์เข้า ต่างก็ตกใจเป็นอย่างมากเพราะเป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นลูกน้องของนายจ้างถูกผู้อื่นทำร้ายเช่นนี้แม้แต่ละคนจะมีความตกใจ แต่ลึกๆ กลับรู้สึกสะใจมากกว่าเพราะบริวารของเฝิงซานกวงเหล่านี้ ปกติมักจะใช้กำลังกับพวกเขาบ่อยๆทุกครั้งที่พวกเขาขุดหาแร่ออกมาไม่ได้ปริมาณตามที่ต้องการ ลูกน้องเฝิงซานกวงก็พากันมารุมซ้อมพวกเขาอย่างหนัก แต่พวกเขาก็ไม่กล้าไปบอกใครบางคนเคยคิดหนีไปจากที่นี่ แต่ครั้งใดที่มีผู้หลบหนี มักถูกจับกลับมาแล้วซ้อมหนักยิ่งกว่าเดิมอีกที่สำคัญพวกเขาแทบจำไม่ได้ว่าตนคือใคร บ้านช่องอยู่ที่ใดจึงได้แต่ใช้แรงกายแลกกับเงินน้อยนิดเพียงสองอีแปะในแต่ละวัน อดทนทำงานอยู่ที่นี่ต่อไปเมื่อชายสองคนถูกทำร้ายเข้า จึงมีลูกน้องเฝิงซานกวงตามออกมาอีกทุกคนเมื่อเห็นว่ามีคนมาก่อเรื่อง จึงกรูกันเข้าหาฉู่จวินสิงทันทีแต่มิต้องรอให้พวกเขามาเข้าใกล้ ฉู่จวินสิงใช้กำลังภายในซัดออกไปก่อนแล้วทุกคนต่างทยอยล้มลง พลางกลิ้งไปมา ร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดทันใดนั้นเอง มีเสียงหนึ่งตะคอกดังขึ้น “ผู้ใดกล้าบังอาจมาก่อเรื่องในเหมืองของข้า อยากตายหรืออย่างไร?”ใบ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 811

    แต่บัดนี้นางเปิดร้านมาสิบกว่าวัน ขายได้เพียงรูปสัตว์โลหะไม่กี่ตัวเท่านั้นเฉียวซื่อบอกเล่าสิ่งที่พบเจอให้เจี่ยนอันอันฟัง ทำให้นางเกิดความเข้าใจขึ้นทันทีที่แท้เฉียวซื่อถูกเฝิงซานกวงหลอกลวงมาแต่แรกเจี่ยนอันอันเพียงคิดว่าต่อให้นางซื้อของตกแต่งเหล่านี้กลับไป ก็มิได้ใช้ประโยชน์นักจึงนำหนูโลหะตัวเล็กในมือวางกลับที่เดิมเฉียวซื่อเห็นเจี่ยนอันอันทำเช่นเดียวกับลูกค้าอื่นในร้าน เพียงเข้ามาหยิบดูเล็กน้อย จากนั้นจึงวางของตกแต่งลงไว้ที่เดิมดูแล้วคล้ายไม่สู้ถูกใจผลงานที่นางสร้างสรรค์ออกมาเท่าใดนัก พลันเกิดความรู้สึกท้อแท้ นางคงไม่เหมาะจะทำอาชีพนี้จริงๆ กระมังหากตอนนี้สามียังอยู่ก็คงดี นางจะได้ฝึกวิชาการตีเหล็กจากเขาให้ออกมาเป็นงานอื่นบ้างและเมื่อครู่เจี่ยนอันอันรู้จากปากเฉียวซื่อ ว่าเฝิงซานกวงได้เปิดกิจการเหมืองแร่แห่งหนึ่งทุกวันจะมีคนงานไปด้านหลังภูเขาที่อยู่ห่างไกล ขุดเอาแร่เหล็กและหยกออกมา เพื่อนำกลับมาถลุงเป็นเครื่องหยกและของใช้ที่ทำจากเหล็กนางเห็นเฉียวซื่อคล้ายมีอาการท้อใจ จึงกล่าวยิ้มแย้ม “พี่เฉียว ท่านพาข้าไปดูที่เหมืองของเฝิงซานกวงก่อน ข้ามีสิ่งของบางอย่างต้องการจะซื้อ”

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 810

    เจี่ยนอันอันหยิบมากวาดตาดูก็มองความผิดปกติบนนั้นออกได้ในทันที“เงื่อนไขในนี้เข้มงวดเกินไปแล้ว ถ้าฝ่ายไหนยุติสัญญาจะต้องชดเชยให้อีกฝ่ายเป็นเงินจำนวนหนึ่งแสนตำลึง”“เจ้าหมอนี่ช่างกล้าเขียน สัญญานี้เห็นได้ชัดว่าเป็นเงื่อนไขแบบมัดมือชกกันชัดๆ”“ข้าว่าท่านไม่ร่วมงานกับเขาเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย”คำพูดของเจี่ยนอันอันทำให้เฉียวซื่อใจหายวูบนางรู้จักตัวหนังสือแค่ไม่กี่ตัว นอกจากเขียนชื่อตัวเองเป็นแล้ว เงื่อนไขในนั้นนางอ่านไม่เข้าใจเลยสักนิดเฝินซานกวงเป็นคนอ่านให้นางฟัง นางรู้สึกว่าเงื่อนไขสมเหตุสมผลมากจึงลงนามในสัญญากับอีกฝ่ายแต่คิดไม่ถึงเลยว่า เฝิงซานกวงจะกล้าเล่นเล่ห์กับนางแบบนี้เดิมนั้นนางอยากยกเลิกสัญญากับอีกฝ่าย แต่กลับได้ยินเฝิงซานกวงพูดว่า ถ้านางกล้าเป็นฝ่ายยกเลิกสัญญาก็จะต้องชดเชยเงินให้เฝิงซานกวงเป็นเงินจำนวนหนึ่งแสนตำลึงตอนนั้นเฉียวซื่อตกใจยิ่งนักนางเคยไปถามเถ้าแก่ร้านข้างเคียง ฝ่ายตรงข้ามก็บอกว่าเงื่อนไขนี้เขียนไว้อย่างชัดเจน ต้องจ่ายเงินชดเชยให้อีกฝ่ายหนึ่งแสนตำลึงจริงๆเงินจำนวนมหาศาลเช่นนี้ นางจะไปหาเงินมากมายขนาดนี้มาจากที่ไหนถึงตอนนี้เฉียวซื่อจึงตระหนักว่

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 809

    ตอนนี้เขาทำได้เพียงอดทนอดกลั้นต่อความเจ็บปวด ยอมรับการทุบตีจากเฉียวอี้บริเวณรอบๆ มีคนล้อมเข้ามามุงดูจำนวนมาก พวกเขาต่างชี้ไม้ชี้มือมาทางชายผู้นั้น“คนคนนี้แค่เห็นก็รู้แล้วว่าต้องไม่ใช่คนดีแน่ ดูหน้าตาทรงโจรของเขาสิ แปดส่วนคงเป็นเพราะไปหาเรื่องคนอื่นก่อน ถึงได้ถูกเด็กคนนั้นซ้อมเอาแบบนี้”“เมื่อครู่ข้าได้ยินแล้ว เขาไปลงไม้ลงมือกับแม่ของเด็กคนนั้น ข้าว่าตีเขายังน้อยไป ควรแจ้งความมากกว่า”คนมุงบริเวณรอบๆ ต่างวิพากษ์วิจารณ์กันต่างๆ นานาเฉียวอี้ควงหมัดทักทายใบหน้าของชายผู้นั้นหนักกว่าเดิมในไม่ช้า เฉียวอี้ก็ตีจนรู้สึกเจ็บกำปั้น แต่เขาก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดจนกระทั่งอัดศีรษะชายผู้นั้นจนบวมเป่งเหมือนหมู เฉียวอี้ถึงได้หยุดมือพร้อมหอบหายใจแม้ว่ากำปั้นของเฉียวอี้จะไม่ใหญ่ แต่ครั้นทุบตีคนก็ร้ายกาจยิ่งนักเห็นใบหน้าชายผู้นั้นเขียวช้ำไปหมด เฉียวอี้ก็รู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมากเจี่ยนอันอันกล่าวกับชายผู้นั้นว่า “หากวันหน้าเจ้ายังกล้ามาคุกคามแม่ลูกตระกูลเฉียวอีก ข้าไม่ปล่อยให้เจ้าสบายแบบนี้แน่ ยังไม่รีบไสหัวไปอีก!”ชายผู้นั้นไม่กล้าพูดมาก ลุกขึ้นมากุมศีรษะแล้วเผ่นหนีไปคนมุงบริเวณรอบๆ เ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 808

    เจี่ยนอันอันกับฉู่จวินสิงสบตากัน“พวกเจ้ารอข้าอยู่ตรงนี้” ฉู่จวินสิงว่าแล้วก็ก้าวยาวๆ ตรงไปทางตรอกน้อยชายผู้นั้นเห็นว่าฉู่จวินสิงตรงมาทางเขาก็หันหลังเตรียมวิ่งหนีแต่เขาวิ่งไปได้ไม่กี่ก้าวก็ถูกถีบเข้าที่เอวเสียแล้วชายผู้นั้นถูกถีบกระเด็นไปไกล คว่ำหน้าอยู่บนพื้นร้องโอดโอยออกมาอย่างทนไม่ไหวฉู่จวินสิงย่างสามขุมตรงเข้าไปหาแล้วหิ้วคอเสื้อของชายผู้นั้นขึ้นมาอย่างไม่ปรานีปราศรัย“ไปกับข้า!”ฉู่จวินสิงกล่าวพลางผลักชายผู้นั้นตรงออกไปนอกตรอกชายผู้นั้นได้ลิ้มรสความร้ายกาจของฉู่จวินสิงแล้วย่อมไม่กล้าวิ่งหนีส่งเดชเขาไม่อยากถูกถีบอีกหรอกนะ จนถึงตอนนี้เอวยังระบมอยู่เลยฉู่จวินสิงผลักชายผู้นั้นมาถึงตรงหน้าเจี่ยนอันอันกับเฉียวอี้แล้วกล่าวเสียงเข้ม “บอกมา ระหว่างเจ้ากับเด็กคนนี้เป็นเรื่องอะไรกันแน่?”ชายผู้นั้นมองเฉียวอี้ แววตาเต็มไปด้วยความขุ่นแค้น“คุณชายท่านนี้ ข้าไม่รู้จักเขาเสียหน่อย เขาวิ่งออกมาถนนใหญ่เอง เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับข้าเลยนะ”ขณะที่ชายผู้นั้นพูดก็ถลึงตาใส่เฉียวอี้อย่างดุร้ายเฉียวอี้เห็นฝ่ายตรงข้ามไม่ยอมรับ เขาเงยหน้าขึ้นมาด้วยความโมโห แล้วตวาดใส่ชายผู้นั้นว่า“ท่านโก

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 807

    เจี่ยนอันอันเห็นว่าฉู่จวินสิงก่อสร้างเป็น นางก็วางใจไปได้มากนางยิ้มเอ่ยว่า “ไม่ใช่กระโจม แต่เป็นโรงเรือนสำหรับเพาะปลูกแบบหนึ่ง”นางมีความคิดคร่าวๆ ในใจแล้วจึงรีบกลับบ้านไปกับฉู่จวินสิงนางหยิบกระดาษและปากกาออกมาจากในมิติ แล้ววาดภาพร่างบนโต๊ะฉู่จวินสิงนั่งอยู่ข้างๆ ตั้งใจดูภาพร่างโรงเรือนที่เจี่ยนอันอันวาดที่นี่ไม่มีเหล็กเส้น เจี่ยนอันอันยังไม่อยากใช้เงินจำนวนมากไปซื้อจากในร้านค้านางต้องการสร้างโรงเรือนสำหรับคนในหมู่บ้านทุกคน เหล็กเส้นที่ต้องใช้จึงมีไม่น้อยหากใช้เงินไปซื้อมา นั่นไม่ใช่จำนวนเงินน้อยๆ เลยนางไม่อยากใช้เงินพวกนั้นในมิติมากเกินไป นางยังรอที่จะสนับสนุนฉู่จวินสิงขึ้นนั่งบัลลังก์ฮ่องเต้หลังจากการทำสงครามกลับเมืองจิงโจวในวันหน้าเมื่อถึงตอนนั้น เงินทองของล้ำค่าเหล่านั้นในมิติก็จะได้นำไปใช้แล้วฮ่องเต้จนกรอบคนหนึ่งที่ไม่สามารถจ่ายเบี้ยหวัดให้เหล่าขุนนางได้ ทั้งยังไม่สามารถทำให้ชาวบ้านอยู่ดีมีสุข กับฮ่องเต้ที่มั่งคั่งร่ำรวยคนหนึ่ง เงินในมือสามารถซื้อเมืองทั้งเมืองได้ชาวบ้านกับเหล่าขุนนางจะเอนเอียงไปทางคนไหนมากกว่า นั่นไม่ต้องพูดก็สามารถรู้ได้แล้วในไม่ช้า เจี่ยน

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 806

    เมื่อมีชาวบ้านผ่านมาที่นี่แล้วเห็นลูกปลาในสระน้ำเข้าเขาก็ส่งเสียงด้วยความประหลาดใจทันทีว่า “แม่นางเจี่ยน เจ้าเป็นคนนำลูกปลาพวกนี้มาปล่อยไว้ในนี้หรือ?”เจี่ยนอันอันพยักหน้าพร้อมยิ้มบาง ชาวบ้านผู้นั้นเรียกคนอื่นๆ มาด้วยความดีใจทุกคนล้วนรู้สึกซาบซึ้งในความเอาใจใส่ของเจี่ยนอันอัน แบบนี้ต่อไปพวกเขาก็จะสามารถกินเนื้อปลาสดใหม่ได้แล้วชาวบ้านจำนวนมากล้วนรู้สึกยินดีเพราะเรื่องนี้ แต่มีชาวบ้านคนหนึ่งที่นิ่วหน้าคิ้วขมวดเขาอดพูดขึ้นไม่ได้ว่า “สระน้ำนี่ก็ดีอยู่หรอก แต่อากาศค่อยๆ เย็นลงแล้ว กลัวจริงๆ ว่าเมื่อถึงฤดูหนาว สระน้ำนี่ก็จะจับตัวเป็นน้ำแข็ง”“พอถึงยามนั้น อย่าว่าแต่พวกเราจะไม่ได้กินเนื้อปลา เกรงว่าแม้แต่พืชผักก็คงปลูกไม่ได้เหมือนกัน”วาจาประโยคเดียวของชาวบ้านทำให้คนอื่นๆ กลัดกลุ้มตามไปด้วยหลายวันมานี้อากาศค่อยๆ เย็นลง พวกเขาล้วนแต่เพิ่งปลูกผักทั้งยังได้รับเงินสามสิบตำลึงมาแล้วหากถึงฤดูหนาวจริงๆ พวกเขาก็ไม่สามารถปลูกผักพวกนี้ได้อีกแล้วเมื่อถึงตอนนั้น พวกเขาก็จะได้กลับไปมีชีวิตที่ยากลำบากเหมือนที่ผ่านมาอีกครั้งพวกเขาเกี่ยวข้าวไว้มากแล้ว แต่ผักพวกนี้ควรทำอย่างไรดีเล่า?หาก

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 805

    เซียงเสวี่ยเห็นลูกเป็ดและลูกไก่ตัวน้อยที่อยู่ในกรง นางดีใจจนรีบมารับไป“ฮูหยินน้อยรอง อีกหน่อยเมื่อเลี้ยงเป็ดและไก่เหล่านี้จนโต พวกเราก็จะมีเนื้อเป็ดเนื้อไก่กินแล้ว”เจี่ยนอันอันยิ้มเล็กน้อย พลางมองไปยังเสิ่นจือเจิ้ง“พี่ใหญ่ เป็ดไก่เหล่านี้เพียงพอให้พวกท่านกินหลายวันสินะ”เสิ่นจือเจิ้งยิ้มตอบ “เด็กโง่ พี่ใหญ่กลับไม่คิดเช่นนั้น”เจี่ยนอันอันเลิกคิ้วเล็กน้อย “ความหมายของท่านคือ?”เสิ่นจือเจิ้งบอกเล่าความคิดของตนให้ฟังเขาตั้งใจว่าจะเลี้ยงเป็ดไก่เหล่านี้ให้โต พร้อมทำการเพาะพันธุ์ต่อจากนั้นก็ทยอยนำเป็ดไก่ไปขาย เชื่อว่าน่าจะได้เงินเป็นจำนวนมากเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว เขาก็ไม่ต้องอยู่อย่างยากจนข้นแค้นดั่งเช่นทุกวันนี้อีกเจี่ยนอันอันเห็นว่าวิธีนี้พอใช้ได้ ปกติพี่ใหญ่มองการณ์ไกลมากกว่านางอยู่แล้ว“ถ้าเช่นนั้นก็แล้วแต่ท่าน”เจี่ยนอันอันกล่าวจบ จึงคิดจากไปนางยังคิดจะไปดูแอ่งน้ำเสียหน่อย เผื่อจะปล่อยพันธุ์ปลาลงไปในน้ำบ้างเผื่อวันหน้าปลาโตขึ้น ชาวหมู่บ้านชิงสุ่ยก็จะมีเนื้อปลากินอีกขณะที่เจี่ยนอันอันเตรียมตัวจะออกไป กลับถูกเสิ่นจือเจิ้งเรียกตัวไว้“เมื่อคืนที่บ้านเจ้าได้เกิดเรื่อ

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status