แชร์

บทที่ 136

ผู้แต่ง: ซินต้งหรูสุ่ย
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
หัวใจของเจี่ยนอันอันเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อต้องมาถูกบุรุษหน้าตาดีมองแบบนี้

นางรีบก้มหน้าลงในทันใด ไม่กล้ามองฉู่จวินสิงอีก

“เมื่อครู่ข้ามือหนักไปหน่อย ขออภัย”

เจี่ยนอันอันพูดโดยไม่หยุดมือ

ขณะที่นางกำลังทายารักษาให้ฉู่จวินสิง มือของนางก็ถูกมือหนาข้างหนึ่งกุมเอาไว้

เจี่ยนอันอันอยากชักมือกลับแต่ต้องพบว่าอีกฝ่ายกุมแน่นกว่าเดิม

“นี่ ท่านคิดจะทำอะไรอีก เมื่อครู่ข้าก็ขอโทษไปแล้ว อย่าให้มันมากเกินไปนัก!”

เจี่ยนอันอันพูดแล้วเงยหน้าขึ้นทันควัน

ที่นางไม่รู้ก็คือ ใบหน้าของฉู่จวินสิงขยับเข้ามาใกล้มาก

ครั้นนางเงยหน้าขึ้น ริมฝีปากของทั้งสองจึงประกบเข้าด้วยกันพอดี

เจี่ยนอันอันรีบถอยหลังกรูดประหนึ่งโดนไฟดูด

แต่นางบังเอิญนั่งอยู่ที่ขอบเตียงพอดี เมื่อถอยหลังเช่นนี้จึงเกือบร่วงตกพื้น

ฉู่จวินสิงตาไวมือไว เขาโอบเอวของเจี่ยนอันอันเอาไว้

“ระวังหน่อย” ฉู่จวินสิงพูดแล้วโอบเจี่ยนอันอันที่ตกใจจนทำอะไรไม่ถูกเข้ามาไว้ในอ้อมอกตัวเอง

ครั้นเจี่ยนอันอันคืนสติ นางก็รีบผลักฉู่จวินสิงอย่างแรง

“ฉู่จวินสิง คนเลว ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้!”

หน้าอกของฉู่จวินสิงเจ็บจากการถูกผลัก แต่เขาไม่อยากปล่อยเจี่ยนอันอันทั้งอย่างนี้
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 137

    เจี่ยนอันอันเห็นฉู่จวินสิงปล่อยมือออกก็แทงเข็มเงินในมือเข้าที่ซี่โครงของเขาอย่างแรงฉู่จวินสิงรู้สึกเจ็บแปลบ เขาไม่ร้องแม้แต่คำเดียว เพียงหลับตารอให้เจี่ยนอันอันใจเย็นลงจังหวะที่เจี่ยนอันอันดึงเข็มออก มีโลหิตสีดำไหลออกมาโลหิตสีดำคั่งค้างอยู่ที่นี่มาโดยตลอด เป็นสาเหตุที่ทำให้ซี่โครงของฉู่จวินสิงไม่หายดีสักทีจริงอยู่ว่าเมื่อครู่นี้นางโกรธเคืองมาก แต่นางไม่ได้อยากทำร้ายฉู่จวินสิงเป็นครั้งที่สองเจี่ยนอันอันพูดเมื่อเห็นโลหิตสีดำไหลออกมา “หากมีครั้งหน้า ข้าจะทำให้ท่านนอนติดเตียงไปตลอดชีวิต ไม่มีวันได้ลุกขึ้น”ฉู่จวินสิงลืมตาขึ้นก็พบว่าเจี่ยนอันอันดูจะใจเย็นลงแล้วเขาขานตอบว่า “อืม” แล้วไม่ได้พูดอะไรอีกเจี่ยนอันอันพบว่ายาในขวดยาหมดลงแล้วนางดึงเข็มออกมาแล้วทิ้งขวดยาไว้ในห้วงมิติฉู่จวินสิงรู้สึกว่าหลังจากที่ซี่โครงถูกเข็มแทงเมื่อครู่ ความรู้สึกเจ็บก็มลายหายไปไม่เพียงเท่านั้น เขารู้สึกหายใจโล่งขึ้นด้วยแม้จะเป็นยามที่โมโหสุดขีด แต่เจี่ยนอันอันก็ไม่ได้ฆ่าเขาการค้นพบนี้ทำให้ภายในใจฉู่จวินสิงรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาในทันใด ความรู้สึกประหลาดที่มีต่อเจี่ยนอันอันยิ่งลึกซึ้งมากขึ้นไปอ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 138

    เวลาล่วงเลยไปถึงช่วงค่ำอย่างรวดเร็วพวกซ่างชิวทำงานกันใกล้เสร็จแล้ว ต่างคนต่างแยกย้ายกันกลับบ้านไปกินข้าวและพักผ่อนหลังจากที่ครอบครัวของฉู่จวินสิงกินมื้อเย็นกันเสร็จก็ออกมานั่งรับลมเย็นๆ ที่ลานบ้านฮูหยินใหญ่เห็นเจี่ยนอันอันเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวันก็พูดด้วยความสงสาร “อันอัน พรุ่งนี้อย่าทำงานหนักขนาดนี้อีกเลย”“ครอบครัวเรามีบ่าวรับใช้ เรื่องบางเรื่องมอบให้พวกเขาจัดการก็พอ”ฮูหยินรองที่เงียบมาโดยตลอดเอ่ยปากพูดเช่นกัน “พี่หญิงพูดถูก อันอัน พรุ่งนี้อย่าทำแบบนี้อีก”“เจ้ายังไม่ตบแต่งกับจวินสิงแต่กลับทำงานหนักขนาดนี้ มันทำให้พวกข้าเกรงใจ”เจี่ยนอันอันส่งยิ้มให้ทั้งสองคน “รอให้สร้างโรงเก็บของเสร็จแล้วข้าค่อยพักเจ้าค่ะ”ฮูหยินใหญ่และฮูหยินรองต่างก็มองเจี่ยนอันอันด้วยสีหน้าปลื้มใจพวกนางรู้สึกว่าเจี่ยนอันอันไม่มีความบอบบางไม่สู้งานของคุณหนูใหญ่แม้แต่น้อยไม่เพียงเท่านั้น เจี่ยนอันอันยังคอยดูแลทุกอย่างมาตลอดหลายวันหากให้นางเป็นผู้ดูแลครอบครัว เช่นนั้นต้องดูแลบ้านให้เป็นระเบียบเรียบร้อยได้แน่นอน ทั้งสองคนต่างก็หวังว่าฉู่จวินสิงจะได้แต่งเจี่ยนอันอันเข้าเรือนในเร็ววันหลังจากที่เจี่ยนอ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 139

    ฉู่จวินหลุนฟังที่เซิ่งฟางพูดแล้วกัดฟันพูดว่า “ทั้งหมดเป็นแผนการฉู่ชางเหยียน”“เขาวางแผนเช่นนี้เพื่อหมายจะชิงบัลลังก์”“เกรงว่าคลังสมบัติที่เมืองอินเป่ยอะไรนั่นจะเรื่องที่เขาจินตนาการขึ้นมาเองมากกว่า”“ในฐานะที่พวกข้าเป็นองค์ชายของแคว้นไท่ยวน พวกข้าไม่เห็นเคยได้ยินมาก่อนว่าเมืองอินเป่ยมีคลังสมบัติ”“แม้แต่ขุนนางคนสำคัญในราชสำนักก็ยังไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้”ฉู่จวินสิงขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความโกรธแค้นเช่นกัน เขามองขาที่พิการของพี่ใหญ่จากนั้นนึกถึงถ้อยคำที่เจี่ยนอันอันเคยพูดด้วย ยิ่งโกรธแค้นหนักกว่าเดิมเวลานี้เขานึกย้อนเสียใจจริงๆ ที่ไม่เห็นธาตุแท้ของฉู่ชางเหยียนให้เร็วกว่านี้เขาไม่ได้กวาดล้างกองกำลังของฉู่ชางเหยียนให้ราบพนาสูญ เพราะเห็นแก่ที่เป็นองค์ชายเหมือนกันส่งผลให้เกิดเหตุการณ์หลายอย่างในเวลาต่อมาฉู่อันเจ๋ออดด่าไม่ได้เช่นกัน “เจ้าคนสารเลวฉู่ชางเหยียน เขาทำให้พวกเราถูกเนรเทศมาอยู่ที่นี่!”“หากวันใดได้กลับไปที่เมืองจิงโจว ข้าจะเป็นคนแรกที่สังหารเขา!”ฮูหยินรองได้ยินฉู่อันเจ๋อก่นด่าเสียงดังขนาดนี้ก็รีบร้องปราม “เจ๋อเอ๋อร์ เจ้าอย่าพูดเหลวไหล”“ท่านแม่ ข้าไม่ได้พูดเหลวไหล

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 140

    ฉู่จวินสิงเห็นเจี่ยนอันอันยอมคุยกับตัวเองในที่สุด หัวใจที่ว่างเปล่าของเขาก็เปลี่ยนจากมืดมนมาเป็นสดใสในทันใดเขานั่งลงข้างเตียงอุ่น กอดผ้าห่มไม่ยอมคืนให้เจี่ยนอันอันเจี่ยนอันอันแค่นเสียงฮึดฮัดแล้วหันหน้าหนี ไม่อยากมองเขา ฉู่จวินสิงพูดอีกครั้ง “เจ้าหายโกรธได้หรือไม่? จะทุบตีข้าก็ได้ ข้าทนไหว”ที่ผ่านมาเขาเอาใจผู้ใดไม่เป็น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการพูดเอาใจหญิงสาวอย่างนอบน้อมเช่นนี้จู่ๆ ภายในห้องก็ตกอยู่ในความเงียบงันผ่านไปครู่หนึ่ง เจี่ยนอันอันถึงค่อยพูดว่า “ท่านมานี่หน่อย”ฉู่จวินสิงไม่รู้ว่าเจี่ยนอันอันจะทำอะไร ได้แต่ทำตามที่นางบอกเขาโน้มตัวเข้าไปใกล้เจี่ยนอัน จากนั้นพบว่านางหันมาจูบริมฝีปากเขาอย่างแรงหลังจากที่จูบฉู่จวินสิง ใบหน้าของเจี่ยนอันอันก็แดงก่ำ“ครานี้พวกเราเสมอกันแล้ว ท่านกลับไปที่เตียงฝั่งของท่านได้แล้วล่ะ”ฉู่จวินสิงยกมือแตะริมฝีปากตัวเองเขาคิดไม่ถึงว่าเจี่ยนอันอันจะทำแบบนี้ครั้นเห็นฉู่จวินสิงแน่นิ่งไม่ขยับ ดวงตาเมล็ดซิ่งของเจี่ยนอันอันก็เบิกโพลงขึ้น“เหตุใดยังไม่กลับไปอีก หรือว่าต้องให้ข้าแทงท่านอีกเข็ม?”ฉู่จวินสิงได้สติ มุมปากยกโค้งเป็นรอยยิ้มหล่อเหลา

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 141

    “แม่นาง ท่านช่วยเหลือข้ามากขนาดนี้ ข้าไม่รู้ว่าควรพูดอะไรจริงๆ”เบ้าตาของซ่างชิวแดงพร่าเล็กน้อย ภายในใจรู้สึกผิดต่อเจี่ยนอันอันมากขึ้นไปอีกเมื่อไม่กี่วันก่อน พวกเขาพยายามขัดขวางไม่ให้เจี่ยนอันอันกับครอบครัวของนางมาอยู่ที่หมู่บ้านชิงสุ่ยอย่างสุดกำลังทว่าเจี่ยนอันอันไม่เพียงไม่ถือสา แต่ยังรักษาอาการป่วยให้ลูกสาวของเขาด้วยเขาคิดว่าตัวเองคงไม่ได้รับค่าแรงใดๆ นึกไม่ถึงว่าจะได้มาห้าตำลึงต่อให้เขาเข้าไปทำงานในเมืองก็ไม่มีทางหาเงินได้มากขนาดนี้ภายในเวลาแค่สามวันเจี่ยนอันอันเห็นพวกซ่างชิวมีอาการตื้นตันก็พูด “ต่อไปพวกข้าต้องอยู่ที่นี่อีกนาน”“ถึงเวลาแล้วคงต้องรบกวนพวกท่าน”“ค่าแรงนี้เป็นค่าตอบแทนที่พวกท่านสร้างโรงเก็บของ พวกท่านก็รับไว้เถิด”พวกซ่างชิวไม่รู้จะพูดอะไรดี พวกเขาเก็บเงินแล้วโค้งตัวขอบคุณเจี่ยนอันอันหลังจากที่อีกสามคนจากไป มีเพียงซ่างชิวกับอวี๋ว่านที่อยู่ต่อเจี่ยนอันอันเห็นว่าซ่างชิวอยู่ต่อก็ถามด้วยความสงสัย “เหตุใดไม่กลับไปพร้อมกับพวกเขา?”ซ่างชิวเกาท้ายทอยพลางตอบด้วยสีหน้าซื่อๆ “แม่นาง ข้าอยากอยู่ต่อ เผื่อว่าจะมีอะไรให้ข้าช่วย”เจี่ยนอันอันคิดแล้วพยักหน้า “ถ้าเช

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 142

    ฉู่จวินสิงเห็นเจี่ยนอันอันซักไซ้เอาความก็ยักไหล่“ไม่ได้พูดอะไร แค่บอกว่าไม้พะยูงหอมชั้นดีพวกนั้นเป็นของที่เจ้าขนมาจากบ้านมารดา”เจี่ยนอันอันต้องไม่เชื่ออยู่แล้วว่าฉู่จวินสิงจะพูดแค่นี้นางซักไซ้ต่อ “ไม่มีทางที่ท่านจะพูดแค่นี้ รีบบอกความจริงข้ามา ท่านพูดเรื่องที่จะแต่งงานกับข้าให้ฮูหยินใหญ่ฟังด้วยใช่หรือไม่?”ฉู่จวินสิงรู้สึกว่าเจี่ยนอันอันฉลาดเหนือคนธรรมดาจริงๆ เป็นความจริงที่เขาพูดเรื่องนี้กับฮูหยินใหญ่ฉู่จวินสิงกระแอมเบาๆ “ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ยินดีแต่งงานกับข้า แต่นี่เป็นการแต่งงานที่ฮ่องเต้ทรงพระราชทาน”“ตอนนั้นเขาสั่งแล้วว่าเจ้ากับข้าต้องแต่งงานกันภายในหนึ่งเดือน”คำพูดของฉู่จวินสิงเป็นความจริง เจี่ยนอันอันเข้าใจถึงเส้นตายของการแต่งงานครั้งนี้จากความทรงจำของร่างเดิมวันที่ครอบครัวของฉู่จวินสิงถูกยึดทรัพย์และเนรเทศก็คือวันสุดท้ายที่นางต้องแต่งงานกับฉู่จวินสิงพอดีหากวันนั้นไม่เกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นเสียก่อน ตอนนี้นางก็คงแต่งงานกับฉู่จวินสิงไปแล้วตอนนี้พวกนางเลยกำหนดเส้นตายที่ต้องแต่งงานมาหลายวันแล้วเคราะห์ดีที่สวรรค์สูงฮ่องเต้ห่างไกล[1] แม้พวกนางจะยังไม่แต่งงานกัน แต่ฝั่

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 143

    เจี่ยนอันอันเดินไปเปิดประตูก็เห็นว่าอวี๋ว่านมายืนอยู่หน้าห้องพร้อมกับถือแบบแปลนของรถเข็นไว้ในมืออวี๋ว่านพูดด้วยความเกรงใจเมื่อเห็นเจี่ยนอันอันออกมา “แม่นาง ข้ารู้สึกว่าตำแหน่งของอาวุธลับไม่ค่อยเหมาะสมนัก”เจี่ยนอันอันมองแบบแปลน ไม่เข้าใจว่ามีอะไรไม่เหมาะสม?ฉู่จวินสิงได้ยินบทสนทนาระหว่างทั้งสองคนก็เคลื่อนตัวลงจากเตียงอุ่นเขาเดินมาที่ด้านหลังเจี่ยนอันอันก่อนจะถามเสียงทุ้ม “แบบแปลนมีอันใดไม่เหมาะสมหรือ?”อวี๋ว่านชี้ไปยังพื้นที่บริเวณหนึ่งในแบบแปลน “เชิญพวกท่านดู นี่เป็นจุดที่จะติดตั้งอาวุธลับ”“หากใช้งานไม่เหมาะสมก็จะมีความเสี่ยงต่อการติดขัด”เจี่ยนอันอันไม่มีความรู้เรื่องพวกนี้ นางเพียงแต่วาดแบบแปลนรถเข็นออกมาตามจินตนาการของตัวเองนึกไม่ถึงว่าการออกแบบเช่นนี้จะมีความเสี่ยงต่อการติดขัดด้วยหากอาวุธลับเกิดการติดขัดภายใต้สถานการณ์ที่ต้องเผชิญกับศัตรู เช่นนั้นการยิงอาวุธลับก็จะล่าช้าออกไปส่งผลให้ผู้ที่นั่งอยู่บนรถเข็นต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายมากเช่นกันเจี่ยนอันอันเงยหน้ามองอวี๋ว่าน “พี่อวี๋ ในความเห็นของท่านแล้ว ตำแหน่งอาวุธลับของรถเข็นคันนี้ควรอยู่ที่ใด?”อวี๋ว่านเกาท

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 144

    เคราะห์ดีที่การซ่อมแซมบ้านไม่ได้มีอะไรยาก ไม่จำเป็นต้องเรียกคนมาเพิ่มซ่างชิวกับอวี๋ว่านใช้เวลาเพียงแค่หนึ่งชั่วยามกว่าก็ซ่อมแซมห้องทั้งหมดเสร็จเรียบร้อยเจี่ยนอันอันไม่ได้อยู่นิ่งภายในห้อง นางต้มยาให้ฉู่จวินสิงเสร็จแล้วต้มยาให้ตงเยว่ต่อ ครั้นเห็นว่าฉู่จวินสิงดื่มยาเรียบร้อยค่อยไปที่บ้านซ่างชิวตอนนี้ซ่างตงเยว่สามารถลุกออกมาเดินเล่นที่ลานบ้านได้แล้วนางกำลังต้มน้ำข้าวอยู่ในครัว เมื่อเห็นเจี่ยนอันอันมาหาก็รีบออกมาต้อนรับ“ท่านอามาแล้ว” ซ่างตงเยว่ส่งยิ้มมีความสุขให้เจี่ยนอันอันในช่วงสองสามวันมานี้ เจี่ยนอันอันจะให้ซ่างชิวส่งยามาให้ทุกวันตอนเที่ยงหลังจากได้ดื่มยา สุขภาพร่างกายของนางก็ค่อยๆ แข็งแรงขึ้นนึกไม่ถึงว่าวันนี้เจี่ยนอันอันจะมาหาด้วยตัวเองเจี่ยนอันอันจับชีพจรให้ซ่างตงเยว่ พบว่าตอนนี้สุขภาพของนางดีขึ้นจากเดิมเกินครึ่งแล้วนางพูดกับซ่างตงเยว่ “อีกสองวันเจ้าก็หายดีแล้ว”ซ่างตงเยว่ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีวันที่ตัวเองหายป่วยนางคุกเข่าเบื้องหน้าเจี่ยนอันอันดัง ‘ตุบ’ ด้วยความตื้นตันใจ“บุญคุณยิ่งใหญ่ของท่านอา ข้าจะไม่มีวันลืมไปชั่วชีวิต”เจี่ยนอันอันประคองซ่างตงเยว่ให้ล

บทล่าสุด

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 281

    เจี่ยนอันอันไม่อยากเสียเวลาอีกแล้วจึงก้าวยาวๆ ออกไปข้างนอกคนทั้งสี่ขึ้นไปนั่งบนรถม้าแล้วตรงไปยังจวนผู้ว่าการมณฑลจงโจวจวนผู้ว่าการมณฑลจงโจวไม่ได้อยู่ในอำเภอไถหยาง แต่อยู่ในเมืองหลักระหว่างทางพวกเจี่ยนอันอันรู้สึกหิว แต่ตอนนี้พวกนางไม่มีกะจิตกะใจจะไปกินข้าวในร้านอาหารเลยสักนิดเจี่ยนอันอันซื้อขนมปังกับน้ำจากร้านค้าในมิติแล้วแจกจ่ายให้พวกฉู่จวินสิงสามคนพวกเขาไม่เคยเห็นขนมปังมาก่อน ต่างมองห่อขนมปังอย่างอึ้งงัน ไม่รู้ว่าควรกินอย่างไรเจี่ยนอันอันบอกพวกเขาว่าต้องฉีกซองออกเสียก่อนจึงจะสามารถกินอาหารที่อยู่ข้างในได้คนทั้งสามฉีกซองขนมปังโดยเลียนแบบท่าทางของเจี่ยนอันอันกลิ่นหอมของขนมปังลอยเข้าจมูก ประกอบกับคนทั้งสี่กำลังหิวจึงรีบกัดกินคำโตเซิ่งฟางกินพลางถามว่า “อันอัน นี่คืออะไรหรือ เหตุใดจึงนุ่มอร่อยเช่นนี้?”เจี่ยนอันอันดื่มน้ำคำหนึ่ง กลืนขนมปังในปากลงไป“นี่คือของว่างที่ข้าทำขึ้นมาในบ้าน ข้าตั้งชื่อให้มันว่าขนมปัง”“ที่ข้ายังมีอีกเยอะ พวกท่านกินให้เต็มที่”“ขนมปังค่อนข้างติดคอ พวกท่านกินน้ำตามไปด้วย”ฉู่จวินสิงเคยเห็นน้ำแร่มาก่อน เขารู้ว่าควรเปิดของสิ่งนี้อย่างไรเขาหมุน

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 280

    ในปีนั้นตอนที่เกิดการสังหารหมู่ขึ้น คนในครอบครัวของจงซิ่นเองก็ไม่รอดลูกชายลูกสะใภ้ของเขา ล้วนแต่ตายในน้ำมือของศัตรูจงซิ่นเพื่อที่จะแก้แค้นให้คนในครอบครัว ก็โวยวายที่จะไปฆ่าคนในราชวงศ์ในตอนนั้นเวินอี๋พยายามห้ามเอาไว้อย่างเต็มที่ แล้วยังบอกเขาว่าด้านนอกนั้นวุ่นวายเป็นอย่างมากถึงแม้ว่าเขาจะมีแรงพละกำลังเต็มที่ ทว่าเพียงแค่สองหมัดยากจะเอาชนะสี่มือได้เขาอยากจะแก้แค้นก็ไม่ควรจะรีบร้อนในตอนนี้รอจนเมื่อดึกสงัดผู้คนเงียบสงบลง ค่อยไปแก้แค้นก็ยังไม่สายทว่าจงซิ่นในตอนนั้นถูกความแค้นท่วมท้นทำให้ตาบอดไป เขายืนกรานจะไปแก้แค้นคนที่สังหารครอบครัวเขาจงซิ่นไม่ได้ฟังคำเกลี้ยกล่อมของเวินอี๋ หยิบมีดเล่นยาวแล้วเดินออกไปเวินอี๋กังวลในความปลอดภัยของจงซิ่น แต่ก็ไม่อยากทิ้งจงหลานเอาไว้ที่บ้านเพียงลำพัง พ่อแม่ของจงหลานเพื่อที่จะปกป้องนางแล้ว ถึงได้ตายไปภายใต้คมมีดของศัตรูหากว่านางถูกฆ่า เกรงว่าจงซิ่นคงไม่อาจใช้ชีวิตได้อย่างปกติไปตลอดเพื่อที่จะปกป้องจงหลาน เวินอี๋จึงรออยู่ที่บ้านรอจนเมื่อจงซิ่นกลับมาพร้อมกับบาดแผลทั่วร่างกาย ก็มองเห็นเวินอี๋นอนอยู่กลางลานบ้านแล้วจงหลานอายุสองขวบนั่งร้อ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 279

    และในตอนที่จงซิ่นกำลังสงสัยอยู่นั้น เซิ่งฟางก็เดินเข้ามาในตอนที่รู้ว่าจะไปบ้านของจงซิ่นเพื่อช่วยคน เซิ่งฟางเองก็ไม่ได้คัดค้านฉู่จวินสิงให้จงซิ่นขึ้นมานั่งบนรถม้า ไม่นานนักก็พากันเดินทางไปยังบ้านของจงซิ่นตลอดทาง จงซิ่นอดที่จะมองไปยังเจี่ยนอันอันเป็นระยะๆ ไม่ได้เขาพบว่าเจี่ยนอันอันเต็มไปด้วยความสงบนิ่ง เหมือนว่าจะมีความมั่นใจอย่างเต็มที่ที่จะช่วยเวินอี๋เอาไว้ทว่าไม่ว่าเขาจะมองอย่างไรก็รู้สึกว่าเจี่ยนอันอันอายุยังน้อย ไม่เหมือนกับคนที่มีทักษะทางการแพทย์เจี่ยนอันอันรู้ว่าจงซิ่นกำลังสงสัยในความสามารถขอองตน แต่นางไม่ใส่ใจนางแน่ใจว่าจะรักษาร่างกายเวินอี๋ได้ระหว่างทางไปยังบ้านของจงซิ่น จงซิ่นก็ได้รู้ว่าเจี่ยนอันอันเป็นภรรยาของฉู่จวินสิงรถม้าไม่นานนักก็มาถึงประตูบ้านจงซิ่น จงซิ่นลงมาจากรถม้าก่อน เคาะประตูดังขึ้นประตูถูกเปิดออกอย่างรวดเร็ว เด็กน้อยอายุราวเจ็ดแปดขวบคนหนึ่งโผล่หัวออกมาเมื่อนางเห็นว่าจงซิ่นกลับมาแล้ว ก็รีบเปิดประตูเรือนขึ้น“ท่านปู่ ท่านรีบไปดูเข้า ท่านลุงเวินไม่สบายอีกแล้ว”จงซิ่นได้ยินคำนี้เข้า ก็รีบเดินเข้าไปทว่าเขาเพิ่งจะเดินไปได้เพียงแค่ไม่กี่ก้าว ก็ค

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 278

    จงซิ่นจ้องมองฉู่จวินสิงขึ้นๆ ลงๆ อยู่ครู่หนึ่ง ก็ยิ่งขมวดคิ้วแน่นขึ้น“ท่านคือเยียนอ๋องคนนั้นที่ถูกเนรเทศมายังเมืองอินเป่ยหรือ?”ฉู่จวินสิงเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายจำตนเองได้ ก็พยักหน้าออกมา “เป็นข้าเอง”จงซิ่นที่เดิมขมวดคิ้วอยู่ก็ผ่อนคลายลงทันทีเขาเคยได้ยินเวินอี๋พูดออกมา เยียนอ๋องจากแคว้นไท่ยวนทั้งกล้าหาญและเก่งการสู้รบ ทำความดีความชอบให้แคว้นไท่ยวนมาไม่น้อย ส่วนวิชาลูกเตะทลายเมฆานั้น ก็เป็นเยียนอ๋องที่สร้างขึ้นมาจงซิ่นอยากจะพบกับเยียนอ๋องมานานแล้ว กลับไม่คิดเลยว่าจะมาพบกับเขาได้ที่นี่จงซิ่นรีบกำหมัดโค้งกายทำความเคารพฉู่จวินสิง“ข้าน้อยจงซิ่น คารวะเยียนอ๋อง”ฉู่จวินสิงรีบพูดขึ้น “มาตอนนี้ข้าไม่ใช่เยียนอ๋องอะไรนั่นอีกแล้ว เจ้าไม่จำเป็นต้องทำความเคารพอะไรเช่นนี้อีก”จงซิ่นยืดตัวขึ้น ใบหน้าค่อยๆ เผยให้เห็นรอยยิ้มยินดีขึ้นมา“ข้าอยางจะพบกับเยียนอ๋องมานานแล้ว กลับไม่คิดเลยว่า จะมาพบกับท่านที่นี่ได้”จงซิ่นตื่นเต้นมากเช่นนี้ ทำให้ฉู่จวินสิงประหลาดใจเล็กน้อย“ผู้เฒ่าจงไปเรียนลูกเตะทลายเมฆามาจากที่ใดกัน?”วิชาเตะนี้เขาเคยสอนไปเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น และคนคนนั้นก็ตายไปในสนามรบเมื

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 277

    จ้าวลิ่วกอดความทะเยอทะยานมายังเมืองหลวง แต่ก็พบว่าที่นี้หาเงินได้ไม่ง่ายเหมือนอย่างที่เขาคิดเอาไว้เดิมทีเขาก็ไม่ได้มีความสามารถอะไร ในตอนที่อยู่ที่บ้านก็ไม่เคยไปทำงานที่ทุ่งนาอะไรเลยหลังจากที่มาในเมืองแล้ว เขาถึงกับอึ้งตะลึงไปโลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสันสวยงาม แตกต่างไปจากความสงบสุขของหมู่บ้านชิงสุ่ยอย่างสิ้นเชิงจ้าวลิ่วคลุกคลีอยู่ด้านนอกมาสองปี แต่กลับคลุกคลีจนกลายเป็นคนที่ไม่มีคุณธรรมหากว่าถูกครอบครัวจางต้าเห็นเข้า ไม่รู้ว่าจะดุด่าเขาว่าอย่างไรแต่ที่ทำให้เขาคิดไม่ถึงก็คือ หญิงสาวที่อยู่เบื้องหน้าเขาจะรู้จักกับพี่ห้าของเขาได้ไม่นานจ้าวลิ่วก็โพล่งออกมา “ข้าไม่รู้จักจ้าวอู่”เขาเพิ่งจะพูดคำนี้ออกมาจบ ก็เสียใจเสียจนอยากจะกัดลิ้นของตนเองทิ้งเสียเมื่อครู่นี้เจี่ยนอันอันไม่ได้พูดถึงชื่อของจ้าวอู่ แต่ตอนนี้เหมือนว่าเขาจะสารภาพมันออกไปเองแล้วเจี่ยนอันอันกลอกตาไปมาให้จ้าวลิ่ว นางไม่ได้เปิดโปงเขา แต่พูดกับเซิ่งฟางออกมา“พี่เซิ่ง ท่านนำตัวเขากลับไปขังที่ว่าการอำเภอเสียก่อน”“รอจนเมื่อเรื่องของพวกเราจัดการกันเรียบร้อยแล้ว ข้าจะกลับมาสั่งสอนเขาให้ดีๆ”เซิ่งฟางพยักหน้า แล้วจ้อง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 276

    ผู้คนที่ผ่านไปมาจดจำเซิ่งฟางได้นานแล้ว แต่พวกเขาเพียงแต่ยืนอยู่ด้านข้าง ไม่มีใครช่วยพูดให้จ้าวลิ่วถึงแม้ว่าพวกเขาจะยังโกรธแค้นอยู่ในใจเพราะเรื่องสังหารหมู่ในปีนั้นแต่พวกเขาก็ไม่ล่วงเกินเจ้าหน้าที่ทางการ ต่างก็พากันคอยเป็นผู้รับชมอยู่ด้านข้างจ้าวลิ่วเมื่อเห็นว่าไม่มีใครคอยช่วยพูดแทนเขา ก็โมโหเป็นอย่างมาก คิดที่จะดิ้นรนให้หลุดรอดออกมาจากมือของจงซิ่นทว่ามือของจงซิ่นที่จับเขาเอาไว้ก็ยิ่งออกแรงมากยิ่งขึ้นจ้าวลิ่วเจ็บเสียจนต้องกัดฟัน ทั่วทั้งกายอดไม่ได้ที่จะสั่นเทาขึ้นมาข้อมือของเขาแทบจะหัก ชายชราผู้นี้ทำไมถึงไม่ยอมปล่อยเขาไปเซิ่งฟางยกมือขึ้น แล้วเหวี่ยงไปยังใบหน้าอีกด้านหนึ่งของจ้าวลิ่วสองฝ่ามือนี้ ทำเสียจนใบหน้าของจ้าวลิ่วบวมจนกลายเป็นหมูมุมปากของจ้าวลิ่วมีเลือดไหลซึมออกมาผู้คนที่ผ่านไปมาคอยดูอยู่ด้านข้าง ก็ตกใจเสียจนต้องก้าวถอยหลังไปพวกเขาต่างก็ลอบยินดีที่ตนเองไม่ได้ปากมากช่วยพูดให้กับจ้าวลิ่วมิฉะนั้นแล้วฝ่ามือนี้ เกรงว่าคงจะตกลงบนใบหน้าของพวกเขาแทนจ้าวลิ่วถูกตบเสียจนวิงเวียนดวงตาพร่ามัว ในตอนนี้เขารู้สึกเสียใจขึ้นมาแล้วจริงๆเขาควรจะหยิบเอาถุงเงินนั่น ไปร้านอาห

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 275

    เมื่อเห็นว่ากีบม้ากำลังจะตกลงบนกายของขอทาน ท่ามกลางกลุ่มคนนั้นจู่ๆ ก็มีเสียงคนร้องดังขึ้น“จ้าวลิ่ว เจ้าบ้านี่ไม่ต้องการชีวิตแล้วอย่างนั้นหรือ!”คนนั้นเมื่อพูดจบ ก็รีบพุ่งเข้ามาเตะลงบนกายของจ้าวลิ่วจ้าวลิ่วที่เดิมทีผอมบางอ่อนแรง เมื่อถูกเตะเข้าก็กลิ้งไปริมถนนกีบม้าตกลงบนถนนอย่างแรง ม้าส่งเสียงร้องดังขึ้น หลังจากที่กีบม้าเหยียบลงบนพื้นอย่างแรงเพียงไม่กี่ครั้ง ถึงได้หยุดลง ในตอนที่เจี่ยนอันอันได้ยินคนผู้นั้นเรียกขอทานว่าจ้าวลิ่วนั้น ก็อดที่จะขมวดคิ้วขึ้นมาไม่ได้นางจำที่จ้าวอู่พูดได้ว่า เขามีน้องหกอยู่คนหนึ่งเข้ามาในเมืองเมื่อสองปีก่อนเขาตามหาน้องหกคนนั้นมาสองปีกว่า ก็ตามหาไม่พบส่วนน้องหกคนนั้นของเขา ชื่อว่าจ้าวลิ่วเจี่ยนอันอันมองไปยังจ้าวลิ่วด้วยความสงสัย พบเพียงใบหน้าของเขาสกปรกอย่างมากไม่มีทางที่จะมองรูปลักษณ์เดิมได้ชัดเจนจ้าวลิ่วลุกขึ้นมา แล้วรีบไปยังเบื้องหน้าของคนที่เตะเขาอย่างไม่ยินยอม“ตาเฒ่านี่ เตะข้าทำอะไรกัน?”“เจ้ารู้หรือไม่ที่เจ้าเพิ่งจะทำไปเมื่อครู่นี้ มาทำลายเรื่องดีๆ ของข้าไปอย่างสิ้นเชิง”เจี่ยนอันอันมองไปยังคนที่เตะจ้าวลิ่ว ก็พบว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นชา

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 274

    “หวังว่าท่านจะรักษาคำพูด” เจี่ยนอันอันพูดจบ ก็โบกมือขึ้น “ท่านไปได้แล้ว เรื่องที่ท่านมายังที่ว่าการอำเภอ ห้ามบอกผู้อื่น”เจ้าเมืองตานรีบตอบรับออกมา เขาหันไปมองยังเซิ่งฟาง ก็พบว่าอีกฝ่ายพยักหน้าให้กับเขาหลังจากที่เจ้าเมืองตานโค้งคำนับให้กับทั้งสี่คนแล้ว ก็รีบเดินออกไปในตอนที่เขามายังที่ว่าการอำเภอนั้น ไม่ได้นั่งเกี้ยว และก็ไม่ได้สวมเครื่องแบบทางการมา เพียงแต่สวมเสื้อผ้าธรรมดาเท่านั้นเขาเองก็กลัวว่าตนเองจะสะดุดตาจนเกินไป แล้วถูกคนของผู้ว่ามณฑลจงโจวจดจำได้เข้าหลังจากที่เดินออกจากที่ว่าการอำเภอแล้วนั้น เจ้าเมืองตานก็รีบมุ่งหน้ากลับไปยังจวนของตนเองเขาก้มหน้าเดินอย่างเร่งรีบ จนชนเข้ากับคนผู้หนึ่งเจ้าเมืองตานเงยหน้าขึ้น ก็พบกับขอทานที่ทั่วทั้งเนื้อตัวสกปรกมอมแมม ถูกเขาชนจนล้มลงกับพื้นขอทานล้มลงร้อง “โอ๊ย” ออกมา ใบหน้าที่สกปรกนั้นเต็มไปด้วยความเจ็บปวดเจ้าเมืองตานรีบร้อนกลับไปยังจวน จึงไม่ได้สนใจขอทานนั่น เขาส่งเสียงเย็นชา ก่อนจะรีบจากไปที่เขาไม่รู้ก็คือ ในตอนที่เขาชนเข้ากับขอทานเมื่อครู่นี้นั้น ถุงเงินตรงเอวของเขา ได้ตกไปอยู่ในมือของขอทานนั่นแล้วขอทานส่งเสียงร้องดัง “โอ๊ย”

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 273

    สายตาของเจี่ยนอันอันจ้องเขม็งไปยังใบหน้าของเจ้าเมืองตาน อย่างจะคิดมองหาท่าทีโกหกจากสีหน้าของเขาในตอนที่เจ้าเมืองพูดออกมานั้น สีหน้าของเขาดูเคร่งขรึม สายตาเผยให้เห็นความโกรธแค้นออกมาดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้พูดโกหก สายตาของเจี่ยนอันอันดูเย็นชา จนทำให้ในใจของเจ้าเมืองตานที่มองดูเกิดความหวาดกลัวขึ้นมาเขาไม่กล้าที่จะสบสายตากับเจี่ยนอันอัน จึงทำได้เพียงมองไปยังทิศทางอื่นเจี่ยนอันอันพูดออกมาอย่างเย็นชา “ท่านเพิ่งจะพูดออกมาว่า ท่านสนิทชิดเชื้อกันท่านผู้ว่ามณฑลจงโจว”“แล้วทำไมท่านยังจะนำเรื่องนี้มาบอกพวกเราอีก”“ท่านไม่กลัวหรือว่าคำที่ท่านพูดออกมาเหล่านี้ จะลอยเข้าหูผู้ว่ามณฑลจงโจวเข้า?”แน่นอกว่าเจ้าเมืองตานย่อมหวาดกลัว เพียงแต่ว่าเขาไม่อยากสมคบคิดกับคนชั่วอีกในตอนแรกที่เขามีความสัมพันธ์อันดีกับผู้ว่ามณฑลจงโจวนั้น ทั้งหมดก็เป็นเพียงเพราะว่าพวกเขาล้วนแต่เป็นคนบ้านเกิดเดียวกัน เขาถือว่าผู้ว่ามณฑลเป็นคนสนิท ไม่ว่าเรื่องอะไรก็จะหารือกับอีกฝ่ายมาโดยตลอดเพียงแต่ที่ทำให้เขาคิดไม่ถึงนั้น ผู้ว่ามณฑลจงโจวจะเข้าร่วมสมคบคิดกับคนที่มาเพื่อทำการสังหารหมู่ในปีนั้นไม่เพียงแต่เท่านี้ เขาเพื่

DMCA.com Protection Status