แชร์

บทที่ 134

ผู้เขียน: ซินต้งหรูสุ่ย
อวี๋ว่านบอกความคิดในใจออกมา

เจี่ยนอันอันฟังแล้วก็โบกมือเบาๆ “ไม่ต้องไปตัดต้นไม้ให้ยุ่งยากหรอก ข้ามีวัสดุไม้อยู่แล้ว”

อวี๋ว่านได้ยินว่าเจี่ยนอันอันมีวัสดุไม้ก็ตอบตกลงทันที “เช่นนั้นก็ไม่มีปัญหา”

“ท่านบอกข้ามาว่าอยากได้เก้าอี้รถเข็นแบบไหน ข้าจะทำเก้าอี้รถเข็นให้ท่านคืนนี้เลย”

เจี่ยนอันอันกล่าว “ไว้ข้าวาดแบบให้ท่านก่อน ถึงตอนนั้นท่านแค่ทำออกมาตามแบบก็ใช้ได้แล้ว”

“แล้วก็ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนทำภายในคืนนี้หรอก ตอนกลางคืนมันมืด ทำตอนกลางวันดีกว่า”

อวี๋ว่านรับคำอย่างซื่อๆ แล้วเริ่มกินข้าว

เจี่ยนอันอันหันกลับไปทางซ่างชิวอีกครั้ง เอ่ยกับเขาว่า “ท่านเองก็ไม่จำเป็นต้องสงสัยในความสามารถของข้า ข้าบอกว่าสามารถรักษาให้หายดีภายในหนึ่งอาทิตย์ได้ก็ย่อมสามารถทำเช่นนั้น”

ซ่างชิวตระหนักว่าคำถามเมื่อครู่ของตนเองไม่ค่อยเหมาะสมนัก

เขารีบเอ่ยว่า “เมื่อครู่ข้าพูดมากเกินไปแล้ว แม่นางโปรดอย่าเก็บไปใส่ใจ”

หลังคนทั้งสามกินข้าวเสร็จแล้ว ซ่างชิวกับอวี๋ว่านก็ไปทำงานต่อที่ท้ายเรือน

เจี่ยนอันอันกำลังจะเก็บถ้วยชามบนโต๊ะก็เห็นเหล่าสาวใช้เดินออกมา

พวกนางรีบแย่งถ้วยชามในมือเจี่ยนอันอันแล้วนำไปล้างในครัว

สี่เอ๋อร์
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 135

    “เจ้าหมายความว่าขาพี่ใหญ่สามารถรักษาให้หายดีได้?”เจี่ยนอันอันบอกเล่าคำพูดที่ฟางอิ๋งเคยพูดไว้ให้ฉู่จวินสิงฟังหลังฉู่จวินสิงได้ฟังแล้ว ความรู้สึกก็เปลี่ยนเป็นซับซ้อนขึ้นมาปีนั้นตอนอยู่ในสนามรบ พี่ใหญ่ถูกธนูยิงก็เพราะปกป้องเขาตอนนั้นเขาก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นกันกว่าเขาจะฟื้นขึ้นมาก็เป็นห้าวันหลังจากนั้นเขารู้จากผู้ใต้บังคับบัญชาว่าอาการบาดเจ็บของฉู่จวินหลุนไม่สามารถรักษาได้สุดท้ายก็ต้องพิการไปชั่วชีวิตเขารู้สึกละอายใจมาโดยตลอด คิดว่าตัวเองทำผิดต่อพี่ใหญ่แต่คิดไม่ถึงว่าที่สองขาของพี่ใหญ่ไม่สามารถยืนขึ้นได้เป็นเพราะถูกฉู่ชางเหยียนทำร้ายตอนนี้เขาเองก็ถูกฉู่ชางเหยียนลดขั้นเป็นสามัญชน คนทั้งครอบครัวถูกเนรเทศมาที่นี่ฉู่จวินสิงยิ่งคิดก็ยิ่งมีโทสะ มือทั้งสองกำเป็นหมัด อยากกลับเมืองจิงโจวไปคิดบัญชีกับฉู่ชางเหยียนเสียเดี๋ยวนี้ใจจะขาดเจี่ยนอันอันนำสมุดกลับมาก้มหน้าวาดรูปต่อไปนางเอ่ยโดยไม่เงยหน้า “วิญญูชนแก้แค้น สิบปีก็ยังไม่สาย ตอนนี้ท่านไม่ต้องคิดอะไรมาก ความแค้นนี้จะต้องได้ชำระไม่ช้าก็เร็ว”ฉู่จวินสิงคิดไม่ถึงว่าเจี่ยนอันอันจะรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่เขาจ้องมองเจี่ยนอันอัน

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 136

    หัวใจของเจี่ยนอันอันเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อต้องมาถูกบุรุษหน้าตาดีมองแบบนี้นางรีบก้มหน้าลงในทันใด ไม่กล้ามองฉู่จวินสิงอีก“เมื่อครู่ข้ามือหนักไปหน่อย ขออภัย”เจี่ยนอันอันพูดโดยไม่หยุดมือขณะที่นางกำลังทายารักษาให้ฉู่จวินสิง มือของนางก็ถูกมือหนาข้างหนึ่งกุมเอาไว้เจี่ยนอันอันอยากชักมือกลับแต่ต้องพบว่าอีกฝ่ายกุมแน่นกว่าเดิม“นี่ ท่านคิดจะทำอะไรอีก เมื่อครู่ข้าก็ขอโทษไปแล้ว อย่าให้มันมากเกินไปนัก!”เจี่ยนอันอันพูดแล้วเงยหน้าขึ้นทันควันที่นางไม่รู้ก็คือ ใบหน้าของฉู่จวินสิงขยับเข้ามาใกล้มากครั้นนางเงยหน้าขึ้น ริมฝีปากของทั้งสองจึงประกบเข้าด้วยกันพอดีเจี่ยนอันอันรีบถอยหลังกรูดประหนึ่งโดนไฟดูดแต่นางบังเอิญนั่งอยู่ที่ขอบเตียงพอดี เมื่อถอยหลังเช่นนี้จึงเกือบร่วงตกพื้นฉู่จวินสิงตาไวมือไว เขาโอบเอวของเจี่ยนอันอันเอาไว้“ระวังหน่อย” ฉู่จวินสิงพูดแล้วโอบเจี่ยนอันอันที่ตกใจจนทำอะไรไม่ถูกเข้ามาไว้ในอ้อมอกตัวเองครั้นเจี่ยนอันอันคืนสติ นางก็รีบผลักฉู่จวินสิงอย่างแรง“ฉู่จวินสิง คนเลว ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้!”หน้าอกของฉู่จวินสิงเจ็บจากการถูกผลัก แต่เขาไม่อยากปล่อยเจี่ยนอันอันทั้งอย่างนี้

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 137

    เจี่ยนอันอันเห็นฉู่จวินสิงปล่อยมือออกก็แทงเข็มเงินในมือเข้าที่ซี่โครงของเขาอย่างแรงฉู่จวินสิงรู้สึกเจ็บแปลบ เขาไม่ร้องแม้แต่คำเดียว เพียงหลับตารอให้เจี่ยนอันอันใจเย็นลงจังหวะที่เจี่ยนอันอันดึงเข็มออก มีโลหิตสีดำไหลออกมาโลหิตสีดำคั่งค้างอยู่ที่นี่มาโดยตลอด เป็นสาเหตุที่ทำให้ซี่โครงของฉู่จวินสิงไม่หายดีสักทีจริงอยู่ว่าเมื่อครู่นี้นางโกรธเคืองมาก แต่นางไม่ได้อยากทำร้ายฉู่จวินสิงเป็นครั้งที่สองเจี่ยนอันอันพูดเมื่อเห็นโลหิตสีดำไหลออกมา “หากมีครั้งหน้า ข้าจะทำให้ท่านนอนติดเตียงไปตลอดชีวิต ไม่มีวันได้ลุกขึ้น”ฉู่จวินสิงลืมตาขึ้นก็พบว่าเจี่ยนอันอันดูจะใจเย็นลงแล้วเขาขานตอบว่า “อืม” แล้วไม่ได้พูดอะไรอีกเจี่ยนอันอันพบว่ายาในขวดยาหมดลงแล้วนางดึงเข็มออกมาแล้วทิ้งขวดยาไว้ในห้วงมิติฉู่จวินสิงรู้สึกว่าหลังจากที่ซี่โครงถูกเข็มแทงเมื่อครู่ ความรู้สึกเจ็บก็มลายหายไปไม่เพียงเท่านั้น เขารู้สึกหายใจโล่งขึ้นด้วยแม้จะเป็นยามที่โมโหสุดขีด แต่เจี่ยนอันอันก็ไม่ได้ฆ่าเขาการค้นพบนี้ทำให้ภายในใจฉู่จวินสิงรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาในทันใด ความรู้สึกประหลาดที่มีต่อเจี่ยนอันอันยิ่งลึกซึ้งมากขึ้นไปอ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 138

    เวลาล่วงเลยไปถึงช่วงค่ำอย่างรวดเร็วพวกซ่างชิวทำงานกันใกล้เสร็จแล้ว ต่างคนต่างแยกย้ายกันกลับบ้านไปกินข้าวและพักผ่อนหลังจากที่ครอบครัวของฉู่จวินสิงกินมื้อเย็นกันเสร็จก็ออกมานั่งรับลมเย็นๆ ที่ลานบ้านฮูหยินใหญ่เห็นเจี่ยนอันอันเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวันก็พูดด้วยความสงสาร “อันอัน พรุ่งนี้อย่าทำงานหนักขนาดนี้อีกเลย”“ครอบครัวเรามีบ่าวรับใช้ เรื่องบางเรื่องมอบให้พวกเขาจัดการก็พอ”ฮูหยินรองที่เงียบมาโดยตลอดเอ่ยปากพูดเช่นกัน “พี่หญิงพูดถูก อันอัน พรุ่งนี้อย่าทำแบบนี้อีก”“เจ้ายังไม่ตบแต่งกับจวินสิงแต่กลับทำงานหนักขนาดนี้ มันทำให้พวกข้าเกรงใจ”เจี่ยนอันอันส่งยิ้มให้ทั้งสองคน “รอให้สร้างโรงเก็บของเสร็จแล้วข้าค่อยพักเจ้าค่ะ”ฮูหยินใหญ่และฮูหยินรองต่างก็มองเจี่ยนอันอันด้วยสีหน้าปลื้มใจพวกนางรู้สึกว่าเจี่ยนอันอันไม่มีความบอบบางไม่สู้งานของคุณหนูใหญ่แม้แต่น้อยไม่เพียงเท่านั้น เจี่ยนอันอันยังคอยดูแลทุกอย่างมาตลอดหลายวันหากให้นางเป็นผู้ดูแลครอบครัว เช่นนั้นต้องดูแลบ้านให้เป็นระเบียบเรียบร้อยได้แน่นอน ทั้งสองคนต่างก็หวังว่าฉู่จวินสิงจะได้แต่งเจี่ยนอันอันเข้าเรือนในเร็ววันหลังจากที่เจี่ยนอ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 139

    ฉู่จวินหลุนฟังที่เซิ่งฟางพูดแล้วกัดฟันพูดว่า “ทั้งหมดเป็นแผนการฉู่ชางเหยียน”“เขาวางแผนเช่นนี้เพื่อหมายจะชิงบัลลังก์”“เกรงว่าคลังสมบัติที่เมืองอินเป่ยอะไรนั่นจะเรื่องที่เขาจินตนาการขึ้นมาเองมากกว่า”“ในฐานะที่พวกข้าเป็นองค์ชายของแคว้นไท่ยวน พวกข้าไม่เห็นเคยได้ยินมาก่อนว่าเมืองอินเป่ยมีคลังสมบัติ”“แม้แต่ขุนนางคนสำคัญในราชสำนักก็ยังไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้”ฉู่จวินสิงขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความโกรธแค้นเช่นกัน เขามองขาที่พิการของพี่ใหญ่จากนั้นนึกถึงถ้อยคำที่เจี่ยนอันอันเคยพูดด้วย ยิ่งโกรธแค้นหนักกว่าเดิมเวลานี้เขานึกย้อนเสียใจจริงๆ ที่ไม่เห็นธาตุแท้ของฉู่ชางเหยียนให้เร็วกว่านี้เขาไม่ได้กวาดล้างกองกำลังของฉู่ชางเหยียนให้ราบพนาสูญ เพราะเห็นแก่ที่เป็นองค์ชายเหมือนกันส่งผลให้เกิดเหตุการณ์หลายอย่างในเวลาต่อมาฉู่อันเจ๋ออดด่าไม่ได้เช่นกัน “เจ้าคนสารเลวฉู่ชางเหยียน เขาทำให้พวกเราถูกเนรเทศมาอยู่ที่นี่!”“หากวันใดได้กลับไปที่เมืองจิงโจว ข้าจะเป็นคนแรกที่สังหารเขา!”ฮูหยินรองได้ยินฉู่อันเจ๋อก่นด่าเสียงดังขนาดนี้ก็รีบร้องปราม “เจ๋อเอ๋อร์ เจ้าอย่าพูดเหลวไหล”“ท่านแม่ ข้าไม่ได้พูดเหลวไหล

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 140

    ฉู่จวินสิงเห็นเจี่ยนอันอันยอมคุยกับตัวเองในที่สุด หัวใจที่ว่างเปล่าของเขาก็เปลี่ยนจากมืดมนมาเป็นสดใสในทันใดเขานั่งลงข้างเตียงอุ่น กอดผ้าห่มไม่ยอมคืนให้เจี่ยนอันอันเจี่ยนอันอันแค่นเสียงฮึดฮัดแล้วหันหน้าหนี ไม่อยากมองเขา ฉู่จวินสิงพูดอีกครั้ง “เจ้าหายโกรธได้หรือไม่? จะทุบตีข้าก็ได้ ข้าทนไหว”ที่ผ่านมาเขาเอาใจผู้ใดไม่เป็น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการพูดเอาใจหญิงสาวอย่างนอบน้อมเช่นนี้จู่ๆ ภายในห้องก็ตกอยู่ในความเงียบงันผ่านไปครู่หนึ่ง เจี่ยนอันอันถึงค่อยพูดว่า “ท่านมานี่หน่อย”ฉู่จวินสิงไม่รู้ว่าเจี่ยนอันอันจะทำอะไร ได้แต่ทำตามที่นางบอกเขาโน้มตัวเข้าไปใกล้เจี่ยนอัน จากนั้นพบว่านางหันมาจูบริมฝีปากเขาอย่างแรงหลังจากที่จูบฉู่จวินสิง ใบหน้าของเจี่ยนอันอันก็แดงก่ำ“ครานี้พวกเราเสมอกันแล้ว ท่านกลับไปที่เตียงฝั่งของท่านได้แล้วล่ะ”ฉู่จวินสิงยกมือแตะริมฝีปากตัวเองเขาคิดไม่ถึงว่าเจี่ยนอันอันจะทำแบบนี้ครั้นเห็นฉู่จวินสิงแน่นิ่งไม่ขยับ ดวงตาเมล็ดซิ่งของเจี่ยนอันอันก็เบิกโพลงขึ้น“เหตุใดยังไม่กลับไปอีก หรือว่าต้องให้ข้าแทงท่านอีกเข็ม?”ฉู่จวินสิงได้สติ มุมปากยกโค้งเป็นรอยยิ้มหล่อเหลา

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 141

    “แม่นาง ท่านช่วยเหลือข้ามากขนาดนี้ ข้าไม่รู้ว่าควรพูดอะไรจริงๆ”เบ้าตาของซ่างชิวแดงพร่าเล็กน้อย ภายในใจรู้สึกผิดต่อเจี่ยนอันอันมากขึ้นไปอีกเมื่อไม่กี่วันก่อน พวกเขาพยายามขัดขวางไม่ให้เจี่ยนอันอันกับครอบครัวของนางมาอยู่ที่หมู่บ้านชิงสุ่ยอย่างสุดกำลังทว่าเจี่ยนอันอันไม่เพียงไม่ถือสา แต่ยังรักษาอาการป่วยให้ลูกสาวของเขาด้วยเขาคิดว่าตัวเองคงไม่ได้รับค่าแรงใดๆ นึกไม่ถึงว่าจะได้มาห้าตำลึงต่อให้เขาเข้าไปทำงานในเมืองก็ไม่มีทางหาเงินได้มากขนาดนี้ภายในเวลาแค่สามวันเจี่ยนอันอันเห็นพวกซ่างชิวมีอาการตื้นตันก็พูด “ต่อไปพวกข้าต้องอยู่ที่นี่อีกนาน”“ถึงเวลาแล้วคงต้องรบกวนพวกท่าน”“ค่าแรงนี้เป็นค่าตอบแทนที่พวกท่านสร้างโรงเก็บของ พวกท่านก็รับไว้เถิด”พวกซ่างชิวไม่รู้จะพูดอะไรดี พวกเขาเก็บเงินแล้วโค้งตัวขอบคุณเจี่ยนอันอันหลังจากที่อีกสามคนจากไป มีเพียงซ่างชิวกับอวี๋ว่านที่อยู่ต่อเจี่ยนอันอันเห็นว่าซ่างชิวอยู่ต่อก็ถามด้วยความสงสัย “เหตุใดไม่กลับไปพร้อมกับพวกเขา?”ซ่างชิวเกาท้ายทอยพลางตอบด้วยสีหน้าซื่อๆ “แม่นาง ข้าอยากอยู่ต่อ เผื่อว่าจะมีอะไรให้ข้าช่วย”เจี่ยนอันอันคิดแล้วพยักหน้า “ถ้าเช

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 142

    ฉู่จวินสิงเห็นเจี่ยนอันอันซักไซ้เอาความก็ยักไหล่“ไม่ได้พูดอะไร แค่บอกว่าไม้พะยูงหอมชั้นดีพวกนั้นเป็นของที่เจ้าขนมาจากบ้านมารดา”เจี่ยนอันอันต้องไม่เชื่ออยู่แล้วว่าฉู่จวินสิงจะพูดแค่นี้นางซักไซ้ต่อ “ไม่มีทางที่ท่านจะพูดแค่นี้ รีบบอกความจริงข้ามา ท่านพูดเรื่องที่จะแต่งงานกับข้าให้ฮูหยินใหญ่ฟังด้วยใช่หรือไม่?”ฉู่จวินสิงรู้สึกว่าเจี่ยนอันอันฉลาดเหนือคนธรรมดาจริงๆ เป็นความจริงที่เขาพูดเรื่องนี้กับฮูหยินใหญ่ฉู่จวินสิงกระแอมเบาๆ “ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ยินดีแต่งงานกับข้า แต่นี่เป็นการแต่งงานที่ฮ่องเต้ทรงพระราชทาน”“ตอนนั้นเขาสั่งแล้วว่าเจ้ากับข้าต้องแต่งงานกันภายในหนึ่งเดือน”คำพูดของฉู่จวินสิงเป็นความจริง เจี่ยนอันอันเข้าใจถึงเส้นตายของการแต่งงานครั้งนี้จากความทรงจำของร่างเดิมวันที่ครอบครัวของฉู่จวินสิงถูกยึดทรัพย์และเนรเทศก็คือวันสุดท้ายที่นางต้องแต่งงานกับฉู่จวินสิงพอดีหากวันนั้นไม่เกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นเสียก่อน ตอนนี้นางก็คงแต่งงานกับฉู่จวินสิงไปแล้วตอนนี้พวกนางเลยกำหนดเส้นตายที่ต้องแต่งงานมาหลายวันแล้วเคราะห์ดีที่สวรรค์สูงฮ่องเต้ห่างไกล[1] แม้พวกนางจะยังไม่แต่งงานกัน แต่ฝั่

บทล่าสุด

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 670

    พวกเขาไม่ยอมลงมาเสียที คงกลัวจะถูกคนของทางการพบเห็นว่ามาพักอยู่ที่นี่ไม่นานก็มีเสี่ยวเอ้อยกอาหารออกมา แล้วเดินขึ้นชั้นบนไปเขาเคาะประตู ครู่หนึ่งจึงมีมือข้างหนึ่งยื่นออกมา พร้อมรับเอาถาดอาหารเข้าไปคนในห้องยังได้พูดจาบางอย่างกับเสี่ยวเอ้อ เห็นเพียงเสี่ยวเอ้อพยักหน้าหงึกหงัก หลังจากรับเงินมาแล้วจึงเดินลงชั้นล่างไปเมื่อมั่นใจว่าพวกเขายังอยู่ในห้อง เพียงไม่ได้ปรากฏตัวเท่านั้นฉู่จวินสิงจึงค่อยๆ กินข้าวช้าลงด้วยรอจนกระทั่งทั้งคู่กินข้าวเสร็จ ผู้คนในโถงกินข้าวก็ได้ออกไปกว่าครึ่งแล้วเจี่ยนอันอันซับคราบน้ำมันที่มุมปาก พลางกล่าวด้วยความพึงพอใจ “อาหารโรงเตี๊ยมนี้ช่างถูกปากข้านัก”ฉู่จวินสิงยิ้มๆ มิได้พูดจาทั้งคู่เดินขึ้นชั้นบนไป แต่มิได้กลับเข้าห้องของตน กลับเดินมาหยุดที่หน้าห้องหม่าลู่และเฉินเช่อแทนฉู่จวินสิงยกมือขึ้นเคาะประตู ไม่นานในห้องก็มีเสียงคล้ายหวาดระแวงของเฉินเช่อ“ใคร?”ฉู่จวินสิงกล่าวเสียงต่ำ “เฉินเช่อ เปิดประตู เป็นข้าเองฉู่จวินสิง”ขาดคำมิทันไร จึงได้ยินในห้องมีเสียงฝีเท้าคนเดินและไม่นานประตูก็ถูกแง้มออกเป็นซอกเล็กเมื่อเฉินเช่อเห็นผู้ที่มายืนอยู่ด้านนอก มิใช

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 669

    ฉู่จวินสิงกล่าวจบ จึงปล่อยมือเจี่ยนอันอันแล้วลุกขึ้นเดินออกไปเจี่ยนอันอันเอนกายนอนลงบนเตียงเช่นเดิม มือกุมที่หน้าท้องแบนราบลูกคนนี้มาเร็วเกินไป จนนางไม่ทันได้เตรียมตัวเตรียมใจแต่มาหวนคิดอีกที เมื่อเด็กเลือกที่จะมาอยู่กับพวกเขา นางจึงมีหน้าที่ปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นรอให้ลูกลืมตาดูโลกเมื่อใด นางจะเลี้ยงดูให้ใช้ชีวิตสุขสบายเหมือนตนเองเจี่ยนอันอันนำยาบำรุงจากห้วงมิติออกมาแล้วกินเข้าไป พลันอาการหน้ามืดวิงเวียนค่อยบรรเทาลงบ้างนางลงจากเตียง เดินมาถึงนอกประตู จึงเห็นฉู่จวินสิงยืนอยู่ด้านนอกผู้เดียว คล้ายรับลมเย็นอยู่เจี่ยนอันอันเดินมาข้างกาย พลางเรียกเบาๆ “ท่านพี่”ฉู่จวินสิงกำลังใช้ความคิดบางอย่างอยู่ แม้กระทั่งเจี่ยนอันอันเดินออกมา เขาก็ยังไม่รู้ตัวเมื่อถูกนางเรียกเข้า จึงได้ตั้งสติกลับมาโชคดีที่บริเวณนี้ไม่มีคนนอกอยู่ด้วย มิเช่นนั้นหากให้ใครได้ยินเข้า ชายหนุ่มผู้หนึ่งเรียกหนุ่มอีกคนว่าท่านพี่ คงได้ตกใจจนตาถลนออกนอกเบ้าเป็นแน่แท้ ฉู่จวินสิงมองไปยังชั้นล่าง ยังไม่เห็นวี่แววลูกน้องสองคนจะมาถึงเขาจึงดึงตัวเจี่ยนอันอันกลับเข้าห้องไป“เหตุใดเจ้าจึงไม่นอนพักอี

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 668

    เขาตื่นเต้นจนนั่งลงที่เตียง พร้อมจับมือเจี่ยนอันอันไว้ วางที่ริมฝีปากแล้วจุมพิตเบาๆ“ขอบคุณสวรรค์ ในที่สุดเราสองคนก็จะมีทายาทแล้ว”“แสดงว่าสิ่งที่ข้าทำไปก่อนหน้านี้ นับว่าไม่เสียเปล่า”เจี่ยนอันอันมองดูสีหน้าตื่นเต้นยินดีของฉู่จวินสิง นางกลับไม่ยินดียินร้ายและไม่นานก็รู้สึกถึงความผิดปกติ“เมื่อครู่นี้ท่านหมายความว่ากระไร อะไรคือสิ่งที่ทำไม่เสียเปล่า?”หรือว่าก่อนหน้านี้ฉู่จวินสิงนำยาคุมกำเนิดของนาง ไปสับเปลี่ยนเป็นยาตัวอื่น?แต่ความคิดนี้ผุดขึ้น พลันถูกเจี่ยนอันอันลบทิ้งไปเขามิใช่คนในยุคปัจจุบันเสียหน่อย จะรู้ได้อย่างไรว่ายังมียาชนิดอื่นทดแทนยาคุมกำเนิดได้แล้วฉับพลันเจี่ยนอันอันก็นึกขึนได้ว่า ครั้งแรกที่นางมีอะไรกับฉู่จวินสิง ตอนนั้นนางไม่ได้กินยาคำนวณเวลาดูแล้ว ห่างจากตอนนั้นถึงตอนนี้ ก็ประมาณหนึ่งเดือนจริงๆเจี่ยนอันอันพลันนิ่งอึ้ง นางนึกเสียใจที่วันนั้นเหตุใดจึงไม่กินยาก่อน?แต่ตอนนี้ไม่ว่าพูดอย่างไรก็สายเกินแก้ นางไม่ต้องการมีลูกเร็วขนาดนี้ แต่ก็ไม่ทันการณ์เสียแล้วฉู่จวินสิงมองหน้าเจี่ยนอันอัน ประเดี๋ยวก็คิ้วขมวด ประเดี๋ยวก็ให้หมดอาลัยตายอยากเขารู้สึกห่อเหี่ยวลง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 667

    ยามนี้เจี่ยนอันอันรู้สึกคล้ายวิงเวียนศีรษะ เห็นทีต้องกลับไปพักเอาแรงเสียหน่อยแล้วระหว่างทางกลับโรงเตี๊ยม เจี่ยนอันอันถามฉู่จวินสิง “ท่านรู้สึกเวียนศีรษะบ้างหรือไม่?”ฉู่จวินสิงส่ายหน้า เป็นเชิงว่าตนมิได้รู้สึกผิดปกติแต่อย่างใดแต่เขากลับรู้สึกว่า มือของเจี่ยนอันอันค่อนข้างเย็น“เจ้าเป็นอะไร ร่างกายไม่สบายใช่หรือไม่?”เจี่ยนอันอันพยักหน้าเบาๆ นางกำลังรู้สึกว่าเวลาเดินคล้ายตัวลอยอย่างไรชอบกลสองเท้าเหมือนดั่งย่ำอยู่บนปุยนุ่น มีความทรมานนักฉู่จวินสิงเห็นท่าไม่สู้ดี จึงก้มตัวลงต่อหน้านาง“ขึ้นมา ข้าจะแบกเจ้ากลับไป”เจี่ยนอันอันมิได้โต้แย้ง เพราะนางรู้สึกไม่ใคร่สบายจริงๆ จึงไม่คิดขัดขืน พลางแนบลงแผ่นหลังฉู่จวินสิงฉู่จวินสิงแบกนางแล้วเดินต่อ ระหว่างทางยังถอยถามไถ่อาการเป็นระยะเจี่ยงอันอันเพียงคิดว่าอาจเพราะเมื่อครู่ฆ่าคนมากเกินไป และสูดกลิ่นคาวเลือดมากไปด้วยบวกกับยาเม็ดนั้น นางใช้เวลาอันสั้นในการปรุงออกมาสรรพคุณของยาคงไม่ดีเท่ายาที่ผลิตได้ในยุคปัจจุบันนางซบอยู่แผ่นหลังฉู่จวินสิง พร้อมนำความคิดตนพูดให้เขาฟังฉู่จวินสิงเริ่มใช้วิชาตัวเบา ทำให้การเดินเท้ารวดเร็วกว่าเมื่อคร

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 666

    หลังจากทั้งคู่กินข้าวเสร็จ กลับไม่ได้พักผ่อนอยู่ในโรงเตี๊ยมหลังจากออกไปข้างนอก ก็มาอยู่ในมุมๆ หนึ่งซึ่งปลอดคนในใจรีบท่องชื่อว่านผิงพร้อมกัน และไม่นานก็หายตัวไปจากซอกมุมนั้นเมื่อพวกเขาปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง จึงเห็นว่านผิงกับพวกกำลังเที่ยวจับคนอยู่ทุกครั้งที่จับชายคนหนึ่งได้ ก็จะหยิบภาพเขียนออกมาเปรียบเทียบดูใบหน้าทำเอาผู้คนบนท้องถนนต่างตกใจเป็นการใหญ่ฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอันยังอยู่ในสภาพอำพรางกายอยู่ ว่านผิงกับพวกจึงไม่รู้ว่ามีคนมาคอยติดตามและพวกเขาก็ไม่ได้ปรากฏตัวขึ้น กลับเดินตามพวกว่านผิงไปเรื่อยๆโดยตั้งใจว่าจะหาโอกาสเหมาะ ค่อยลงมือเสียทีเดียวเพราะถ้าอยู่ท้องถนนแล้วลงมือฆ่าคน อาจทำให้ชาวบ้านตื่นตระหนกเป็นอย่างมากพวกเขาจับคนมาหลายคน แต่ล้วนไม่ใช่คนในภาพเขียนทำเอาว่านผิงโกรธจนกำหมัดแน่น มองหน้าลูกน้องพร้อมกล่าวเสียงดุ “พวกมันยังอยู่ในเมืองหลี่จง รีบไปค้นหาให้ทั่ว อย่าได้ปล่อยผ่านแม้แต่คนเดียว!”“ขอรับ ท่านหัวหน้า”ลูกน้องรับคำโดยพร้อมเพรียง และตามหาต่อไปเมื่อพวกเขามาถึงที่เงียบสงบแห่งหนึ่ง พลันเห็นข้างหน้ามีบ้านเล็กหลังหนึ่งตั้งตระหง่านอยู่ดูจากประตูที่เก่าโทร

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 665

    ว่านผิงส่งสายตาให้เหล่าลูกน้อง ทุกคนรีบวิ่งขึ้นชั้นบนไปต่างถือเอาภาพเหมือนออกมา พร้อมเปรียบเทียบบนใบหน้าแขกทีละคน เมื่อเห็นว่าล้วนไม่ใช่คนที่ตนต้องการจะหา อีกทั้งมองดูในห้อง จนแน่ใจว่าไม่มีใครหลบซ่อนอยู่ จึงลงไปยังชั้นล่าง“หัวหน้า ชั้นบนไม่มีคนที่เราจะหา”ว่านผิงเหลียวมองคนที่นั่งกินอาหารอยู่ในโรงเตี๊ยม มองดูแต่ละคนแล้วสำรวจขึ้นลง สุดท้ายไปจับจ้องอยู่ที่ฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอันเขาเห็นคนทั้งคู่ต่างก้มหน้ากินข้าว แทบไม่เงยหน้าขึ้นมองผู้ใดเสียด้วยซ้ำจึงผละจากเถ้าแก่ เดินจ้ำอ้าวไปทางฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอัน“เงยหน้าขึ้นมา” ว่านผิงกล่าวเสียงตะคอก กระบี่ในมือชี้ที่ลำคอฉู่จวินสิงฉู่จวินสิงแทบไม่นำพาต่อกระบี่ที่พาดคอ พลางวางตะเกียบลง หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดมุมปาก “ว่าอย่างไร เจ้าคิดลงมือกับข้าด้วยรึ?”ฉู่จวินสิงเลียนแบบน้ำเสียงของอิ่นเจียง พลางเหลือบตาขึ้นมองว่านผิงทันทีที่ว่านผิงเห็นหน้าฉู่จวินสิงชัดเจน จึงตกใจจนตัวสั่น พลางรีบเก็บกระบี่ขึ้น“ข้าน้อยไม่รู้ว่าใต้เท้ามาอยู่นี่ เมื่อครู่ล่วงเกินไป ขอท่านโปรดอภัยด้วย”ว่านผิงยืนอยู่ด้านข้างฉู่จวินสิง ในใจรู้สึกขนลุกขนชัน

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 664

    ฉู่จวินสิงเห็นเจี่ยนอันอันในที่สุดก็ลืมตาขึ้น จึงได้กล่าวกับนาง “เมื่อครู่ข้าเรียกเจ้าอยู่หลายที เจ้าก็ไม่ขานตอบ ข้ายังนึกว่าเกิดอะไรขึ้นเสียอีก”เจี่ยนอันอันเพิ่งจะนึกได้ เมื่อครู่นางกำลังเพ่งมองภาพในมิติอยู่ ข้างโสตได้ยินเสียงคนเรียกชื่อนางจริงๆเพียงแต่ความสนใจของนาง ล้วนไปอยู่ในภาพนั้นหมดสิ้น จึงไม่ได้ใส่ใจการเรียกหาของฉู่จวินสิงนางจึงยอมให้ฉู่จวินสิงมานั่งด้านข้าง พร้อมนำภาพที่เห็น บอกเล่าให้เขาฟัง“จากที่เจ้าเล่ามา ชายสองคนที่เห็นนั้น อาจเป็นลูกน้องข้าก็ได้”เจี่ยนอันอันก็นึกถึงข้อนี้เช่นกัน หากชายสองคนนั้นไม่เกี่ยวข้องกับพวกเขาจริง เบื้องหน้านางคงไม่ปรากฏภาพเช่นนั้นออกมา“เมื่อเป็นเช่นนี้ เราก็รออยู่ในโรงเตี๊ยมนี้แหละ เพราะที่ๆ สองคนนั้นจะมาพักก็คือโรงเตี๊ยมแห่งนี้”ฉู่จวินสิงได้ยินดังนี้ พลันเกิดความคิดในใจขอเพียงชายสองคนนั้นปรากฏตัวขึ้น เขาก็จะได้สมทบกับพวกเขาทันทีเพียงแต่ไม่รู้ว่าพวกเขาทั้งห้าคนหลบหนีพร้อมกัน เหตุใดจึงได้พลัดหลงกันเช่นนี้?หรือว่าลูกน้องอีกสามคนได้ถูกคนของฉู่ชางเหยียนจับกลับไปเสียแล้ว?เจี่ยนอันอันเห็นฉู่จวินสิงขมวดคิ้วมุ่น นางจึงเอ่ยปาก “อย่าเพ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 663

    ฉู่จวินสิงกล่าวเสียงก้อง “เช่นนั้นก็ได้ ข้าจะให้เวลาท่านสามวันในการสืบเรื่องนี้”“ถ้าไม่ได้ตัวผู้ก่อเหตุมา ข้าจะทำตามรับสั่งของฝ่าบาท สั่งประหารพวกท่านทั้งครอบครัว”คำพูดของฉู่จวินสิง ทำให้เจ้าเมืองข่งสะดุ้งอย่างแรงจนแม้แต่สะใภ้รองที่คุกเข่าอยู่ด้านข้าง ก็พลอยหวาดกลัวจนตัวสั่นไปด้วยนางแอบเหลียวมองเจ้าเมืองข่ง เห็นอีกฝ่ายก้มหน้าก้มตา ไม่รู้ว่าจะตามหาคนผู้นั้นได้พบหรือไม่หลังจากฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอันจากไปแล้ว เจ้าเมืองข่งค่อยทรุดตัวลงกับพื้นเขาหายใจหอบแรง หวังจะช่วยระงับความหวาดหวั่นในใจบ้างสะใภ้รองได้ยินว่าโทษถึงขั้นประหารชีวิต ทำให้นางร้อนใจจนเดือดพล่านยิ่งกว่ามดที่อยู่บนฝาหม้อร้อน น้ำตาก็ยิ่งไหลรินไม่หยุด“ท่านพ่อ ข้ายังไม่อยากตาย โรคของซีเอ๋อร์ยังไม่ทันรักษาให้หายขาด เขาจะถูกประหารเช่นนี้ไม่ได้ ท่านต้องรีบจับกุมผู้แอบอ้างชื่อผู้นั้นให้ได้นะเจ้าคะ!”เจ้าเมืองข่งมีแผนการในใจอยู่แล้ว จึงถลึงตาใส่สะใภ้รอง พลางกล่าว “เลิกร้องไห้เสียที รีบไปดูซีเอ๋อร์ก่อนว่าตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?”สะใภ้รองรีบซับน้ำตาที่นองหน้าอยู่ พลางลุกขึ้นแล้วเดินไปข้างเตียงมองดูซีเอ๋อร์ขณะนั้นมีสาวใ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 662

    เสียงของเจี่ยนอันอันดังขึ้นจากด้านหลัง “บอกให้พวกเขาถอยออกไป หาไม่ข้าจะให้พวกท่านตายทั้งบ้าน!”เจ้าเมืองข่งรู้ดีว่าสองคนนี้วรยุทธ์ไม่เบา จึงไม่กล้าทำการบุ่มบ่าม ได้แต่รีบโบกมือให้เหล่าทหารจนแม้แต่สะใภ้รองที่อยู่บนเตียง ก็ตกใจกับคำพูดเจี่ยนอันอันเสียจนต้องรีบหยุดร้องไห้โดยพลันรอให้ทหารออกไปหมดแล้ว เจ้าเมืองข่งจึงได้ถามเสียงสั่น “พวกเจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่?”“ที่เรามานี่ ย่อมได้รับพระบัญชาจากฮ่องเต้ ให้สืบเรื่องราวการสอบจอหงวนเมื่อสามปีก่อน”เจ้าเมืองข่งได้ยินคำพูดของฉู่จวินสิง พลันขมวดคิ้วมุ่น สองตาจ้องเขม็งไปที่เขาเพียงไม่นานเจ้าเมืองข่งก็สังเกตจากบุคลิกและการแต่งกายของฉู่จวินสิง ดูออกว่าอีกฝ่ายเป็นชาวจิงโจวจริงๆแต่จะบอกว่ารับพระบัญชามาจากฮ่องเต้ ก็ออกจะฟังไม่ขึ้นไปเสียหน่อย“พวกเจ้ามีสิ่งใดมายืนยันว่ารับพระบัญชามาสืบสวนข้าจริง?”ซ้ำยังเป็นเรื่องเมื่อสามปีที่แล้วฮ่องเต้ทรงมีราชกิจมากมาย จู่ๆ จะทรงนึกได้อย่างไรว่าต้องสืบสวนเรื่องการสอบจอหงวนเมื่อสามปีก่อนไม่แน่ว่าสองคนนี้ อาจเป็นผู้ใดส่งมาแก้แค้นเขาก็ได้เพราะเขาเคยรับผลประโยชน์จากผู้อื่นมาไม่น้อย อีกทั้งให้ผู้ที่สอบตก

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status