“ไอ้ตัวดี ตื่นได้ตลอดนะมึง” ผมพูดกับลูกชายตัวโตของผมเบาๆ ก่อนจะเดินไปในจุดที่วางขันอาบน้ำ
แม้ไม่เปิดไฟแต่ผมก็เห็นหรอกน่าว่าอะไรอยู่ตรงไหนบ้าง เดี๋ยวรอแต่งตัวเสร็จก่อนจะค่อยไปดูไฟว่าเป็นอะไรถึงได้ดับ อาบน้ำมาใหม่ๆ แบบนี้ หากผมเอื้อมมือไปคลำสวิตช์ไฟคงไม่ดีแน่ เพราะหากโชคร้ายมากพ่อแม่ผมคงต้องร้องไห้โฮ หรือโชคร้ายน้อยลงมาหน่อย ผมอาจถูกไฟฟ้าช็อตให้ไอ้ตัวโตใช้งานไม่ได้อีก ซึ่งผมไม่เลือกทั้ง 2 อย่างนั่นแหละครับ เอาเป็นว่าเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อนดีกว่านะ
แต่แค่ผ้าเช็ดตัวผมร่วงหล่นลงพื้น ไฟในห้องก็สว่างวาบขึ้นจนผมตกใจ ลำพังแค่จู่ๆ ไฟก็ติดขึ้นมากะทันหัน ตอนที่ผมแก้ผ้าอยู่นี้ คงไม่ทำให้ผมตกใจเท่าไรหรอก แต่ที่ผมตกใจจนลมหายใจแทบขาดห้วงนั้นก็คือ คนที่ยืนอยู่ข้างสวิตช์ไฟนั้นต่างหากเล่า
เมื่อได้สติผมก้มลงคว้าผ้าเช็ดตัวที่อยู่ปลายเท้าขึ้นมาปิดไอ้ตัวโตของผมในทันที แต่ผมก็ทันเห็นว่าคนตรงนั้นมองไอ้ตัวโตของผมอย่างตื่นตะลึงเช่นกัน แถมยังกลืนน้ำลายลงคออีกด้วย
“น้า... น้าเยาว์มีอะไรกับผมหรือเปล่าครับ”
ผมถามแต่สายตาไม่ได้ละไปจากใบหน้าของน้าเยาว์เลย ทำไมน่ะเหรอครับ ก็น้าเยาว์น่ะสิ จะแต่งตัวมายั่วผมหรือยังไงนะ ชุดนอนบางๆ ที่ไม่มียกทรงข้างในนั่นมันทำให้ผมมองเห็นหัวนมสีเข้มกว่าผิวที่พุ่งชนออกมา ส่วนข้างล่างนั่นน่ะผมไม่มีโอกาสได้มองเพราะสายตาของน้าเยาว์กำลังจับจ้องมองผมอยู่ และผมก็ไม่กล้าไล่สายตาให้ต่ำไปกว่านั้นหรอก ประเดี๋ยวน้าเยาว์จะได้หาว่าผมคิดอะไร... ทั้งที่ผมก็เริ่มคิด
“น้า... น้าไม่ค่อยสบายใจ” น้าเยาว์ตอบดวงตาหลุบมองลงต่ำดุจคนกำลังทำความผิดอะไรสักอย่าง ดูน้าเยาว์ไม่สบายใจจริงตามปากว่า
“น้าเยาว์มีอะไรไม่สบายใจเหรอครับ เอ่อ... รอผมแต่งตัวแป๊บเดียว เดี๋ยวผมแวะไปคุยที่ห้องครับ”
ใจจริงผมอยากจะรู้เสียเดี๋ยวนั้น แต่อยู่ชุดนี้คงไม่ดีแน่ เพราะไอ้ตัวโตของผมน่ะมันกำลังประท้วงอยากจะออกมาดูโลกภายนอกเสียจริง ผมจำเป็นต้องให้น้าเยาว์ออกจากห้องผมโดยด่วน ก่อนที่น้าเยาว์จะสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติแต่คงไม่ทันแล้วล่ะ เพราะสายตาของน้าเยาว์กำลังมองไอ้ตัวโตที่ผงกหัวหงึกๆ อยู่ในผ้าขนหนู
“น้าต้องพูดเดี๋ยวนี้ ถ้ารอหนึ่งคงไม่ทัน”
“ระ... เหรอครับ น้าเยาว์พูดได้เลยครับ ผมรอฟังอยู่”
ผมพยายามบิดตัวออกด้านข้าง เพื่อหลบเลี่ยงสายตานั้น เพราะไอ้ตัวโตมันก็ไม่ยอมฟังผมเลย และน้าเยาว์ที่เดินเข้าหาก็ทำให้ผมแทบจะแทรกฝาไม้กระดานหนีเสียให้รู้แล้วรู้แรดกันไปเลย เพราะสายตาของน้าเยาว์นั้น... มันทำให้ผมต้องกลืนน้ำลาย
“น้า... น้าอยากจะขอร้องหนึ่ง”
“ขะ... ขอร้องเรื่องอะไรครับ”
ทั้งน้ำเสียงเว้าวอนและสายตาว้าวุ่นของน้าเยาว์ที่มองสบมามันทำให้ผม... สาบานได้ว่าถ้าน้าเยาว์ไม่มายืนตรงนี้ ผมคงจะแตกคามือตัวเองไปแล้ว แต่มันทำไม่ได้น่ะสิ
“หนึ่งอย่าเอาเรื่องที่เห็นน้าแก้ผ้าไปบอกใครนะ น้า... น้าอายน่ะ”
“โธ่! ผมก็คิดว่าอะไร ผมไม่บอกใครหรอกครับน้าเยาว์ ผมเองนั่นแหละที่เป็นคนผิด ไม่น่าพรวดพราดเข้าไปเลย ผมเองก็ต้องขอโทษน้าเยาว์ด้วยนะครับ ขอโทษจริงๆ ที่ผมรีบจนไม่ดูตาม้าตาเรือ”
ผมยกมือไหว้น้าเยาว์ รู้สึกโล่งอกอยู่เหมือนกันเพราะในที่สุดก็ล่วงรู้ถึงความไม่สบายใจของแกแล้ว แต่น้าเยาว์กลับไม่มองที่มือผมเลย สายตาแสดงอาการบางอย่างกลับมองต่ำลงกว่านั้น ชนิดที่ผมต้องพยายามหนีบต้นขาตัวเองแน่น ผมก็กลัวใจตัวเองเหมือนกันนะครับ
“น้าไม่โกรธหนึ่งหรอก แต่น้าอยาก... อยากให้หนึ่งไถ่โทษ”
“ถะ... ไถ่โทษแบบไหนครับ”
ผมรู้สึกอยากจะเขกหัวตัวเองเหมือนกัน รู้สึกว่าผมชักจะติดอ่างซะแล้ว อ่างแบบนี้ผมไม่ชอบนะครับ ถ้าเป็นอ่างอย่างอื่นล่ะดีหน่อย
“ก็...” ฝ่ามือของน้าเยาว์แตะเบาๆ ที่ไหล่ของผมก่อนจะลูบไล้ลงด้านล่างทั้งที่ดวงตายังจ้องมองผมอย่างกับจะกิน...
‘เฮ้อ!’ ผมกำลังถอนหายใจในใจ บ้าหรือเปล่า ใครจะถอนหายใจในใจตัวเองได้ ก็ผมนี่แหละครับทำได้ ใครจะกล้าถอนออกไปดังๆ ล่ะ ในเมื่อใบหน้าของน้าเยาว์ห่างจากผมแค่คืบ ใช่ครับอ่านไม่ผิดหรอก ‘แค่คืบเท่านั้น...’ ผมเผลอฮัมเพลงไม่เลือกเวล่ำเวลาอีกแล้วครับ
“น้า... น้าเยาว์ จะ... จะให้ผม ทะ... ทำอะไรครับ ผะ... ผม...”
ราวกับจะรู้ใจผมดี น้าเยาว์ทาบฝ่ามือนุ่มๆ นั้นบนริมฝีปากของผมก่อนที่‘วาบ...’ หัวใจผมตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม เมื่อมือของน้าเยาว์กระตุกผ้าเช็ดตัวของผมออก และไอ้ตัวโตของผมก็ดูจะดีใจเหลือเกินที่ได้ไปอยู่ในฝ่ามือของน้าเยาว์ซะแล้ว ตอนนี้ผมไม่รู้แล้วว่าควรจะพูดอะไรบ้าง เพราะน้าเยาว์ไม่ปล่อยโอกาสให้ผมได้พูดเลยสักนิด
ดวงตาของน้าเยาว์ฉายชัดถึงอารมณ์ไม่ต่างจากภาพนางแบบในหนังสือโป๊ที่ผมซุกไว้ใต้ที่นอนเลยครับ มันหยาดเยิ้มเหมือนคนจะหลับแหล่มิหลับแหล่ ผมว่าดวงตาแบบนี้ก็คงเหมือนตอนที่ผมกำลังจะคว้าสวรรค์ลงมาไว้ในมือนั่นแหละ และริมฝีปากของน้าเยาว์ที่เผยอน้อยๆ อยู่ใกล้ๆ ผมนั้น ก็ทำให้ลมหายใจผมติดๆ ขัดๆ ผมเผลอกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ เมื่อน้าเยาว์ไม่ได้ยืนประจันหน้ากับผมอีกแล้ว แต่น้าเยาว์กำลัง...น้าเยาว์ย่อกายลงนั่งคุกเข่าอยู่เบื้องหน้าผม ทั้งที่ในมือยังกอบกุมไอ้ตัวโตของผมเอาไว้ไม่ปล่อย มโนภาพในหัวของผมวิ่งไวยิ่งกว่าจรวดพุ่งไปดวงจันทร์ เพราะผมกำลังเห็นภาพในเหตุการณ์ข้างหน้า หรือผมจะเป็นคนมีญาณพิเศษที่เรียกว่า ‘เดจาวู’ ที่มองเห็นเหตุการณ์ที่คิดว่าเคยเจอมาแล้ว หรือผมจะสามารถมองเห็นเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต และผมคงมีความสามารถพิเศษนั้นจริงๆ เมื่อน้าเยาว์แลบลิ้นออกมาแตะที่หัวลูกชายของผม“อูย... น้าเยาว์ทำอะไรครับ” ถามอะไรโง่ๆ นั่นน่ะ ไม่รู้หรือว่าเขาเรียกว่าอะไรโอ้ย... ผมด่าตัวเองแบบนั้นจริงๆ ครับ คำพูดมีร้อยแปดประโยค แต่ผมดันถามอะไรโง่ๆ อย่างนั้นออกไปได้ยังไง“หึหึ... ก็กำลังให้หนึ่งไถ่โทษยังไงล่ะ หนึ่
สวัสดีครับ พี่ๆ นักอ่านทุกท่าน ผมชื่อ ‘หนึ่ง’ ครับ หนึ่งที่แปลว่า ที่หนึ่งนั่นแหละครับ ต้องขอบคุณพ่อแม่ผมนะครับที่ตั้งชื่อผมได้เหมาะสมกับความจริงมาก เพราะตั้งแต่เกิดจนจำความได้ ชีวิตผมก็มักเกี่ยวข้องกับ ‘เลข 1’ เสมอ พี่ๆ อยากรู้แล้วใช่ไหมครับว่ามีอะไรบ้างน้า... ที่ตัวผมไปเกี่ยวพันกับ ‘1’ อย่างนั้นก็ตามผมมาเลยครับ...‘ฉันเกิดอยู่แดนอีสาน... ถิ่นกันดารที่เขาดูหมิ่นดูแคลน’ แอบเอาเพลงน้าหมู พงษ์เทพ มาร้องเสียเลยใช่ครับ ผมเป็นคนอีสานโดยกำเนิด จังหวัดที่ผมเกิดก็คือ 101 เห็นไหมละครับ ชีวิตผมเกี่ยวพันกับเลข 1 จริงๆ จังหวัดในประเทศไทยมีตั้ง 77 จังหวัด ไหงผมตกช่องมาเกิดที่ 101 ได้ละเนี่ย อิอิ... อันนั้นต้องไปถามพ่อและแม่ผมต่อพอโตเข้าโรงเรียนได้พ่อแม่ก็พาผมมาฝากเข้าเรียนอนุบาล 1 ผมก็ได้เลขที่ 1 อยู่ห้อง อ.1/1 ยังไม่หมดนะครับ ก็ผมน่ะมันเรียนเก่ง ได้เป็นหัวหน้าชั้นตลอด ก็ไต่เต้าขึ้นมาอยู่ ป.1/1 – 6/1 พอเรียนมัธยมก็ได้อยู่ห้อง ม.1/1 อีกนั่นแหละครับตามประสาเด็กเรียนดี กีฬาเด่น บวกกับหน้าตาเอ็นเตอร์เทนคนอื่นเสมอ เรียกภาษาบ้านๆ ว่า ‘หน้าตารับแขก’ นั่นแหละครับ เพราะผมก็มักจะได้รับเลือกให้เป็นประธานชม
อย่างที่ผมบอกนั่นแหละ ผมล่ะเสียซิงครั้งแรกก็ที่โรงงานขนมปังนี่แหละครับ คนแรกนี่เรียกว่า ‘ขึ้นครู’ ใช่ไหม และผมก็บังเอิญโชคดีได้ครูผู้เชี่ยวชาญเสียด้วย กลเม็ดเด็ดพรายผมก็เลยได้รับการถ่ายทอดมาแบบเนื้อๆ เน้นๆ เรียกได้ว่า เจนสนามดุจชายริรักมาแล้วสัก 5 ปีเชียวล่ะ แต่ใครจะรู้ล่ะว่าผมน่ะเพิ่งได้ลองของจริงครั้งแรก หลังจากบริหารด้วยแม่นางทั้ง 5 มานานปีไอ้ผมก็เด็กเสียวง่ายด้วยครับ รู้จักคำว่า ‘เสียว’ ครั้งแรกก็ตั้งแต่ ป.1 โน่นแน่ะ เล่าแล้วก็อายอีกรอบ ถ้าจะบอกว่าอุปกรณ์สอนเสียวของผมครั้งแรกก็คือ เสาประตูฟุตบอล พี่ๆ จะเชื่อไหมล่ะครับ เชื่อเหอะ มันเรื่องจริงนะวันนั้นแดดร่มลมดี ไอ้เพื่อนผมน่ะสิครับเลิกเรียนแล้วก็ไม่กลับบ้าน แต่มันดันยืนเกาะเสาประตูฟุตบอลไม่ยอมปล่อย ด้วยความสงสัยผมก็เลยถามมันว่า ‘ทำอะไรอ่ะ’ มันบอกผมว่า ‘ลองดูสิสนุกดีนะ’ผมไม่รอช้าลองทันทีเลยครับพี่ และเมื่อต้นขาผมตวัดเกี่ยวกับเสากลมๆ มันวาบ กระบวนการความเสียวครั้งแรกก็ส่งตรงเข้าสู่สมองของผมในทันทีเลยครับ จำได้ว่ากว่าผมกับเพื่อนจะกลับบ้านก็เย็นจนแม่มาตามเลยล่ะครับ เพราะพากันรูดเสา พากันเสียวจนแดดตกเชียวล่ะมาเข้าเรื่อง ‘ขึ้นครู’ ขอ
หัวใจของผมเต้นรัวเร็วจนแทบจะทะลุออกมานอกอก เพราะนี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผมได้เห็น ‘ผู้หญิงเปลือย’ ต่อหน้าต่อตา ความจริงอวัยวะทุกสัดส่วนในตัวผู้หญิงนั้น ผมเห็นมาแล้วทั่วทุกรูขุมขน แต่นั่นมันเพียงในรูปภาพที่ซูมชัดใกล้เสียจนมองเห็นแม้กระทั่งน้ำหวานหยาดเยิ้ม แต่ของจริงๆ ของคนเป็นๆ ก็วันนี้แหละที่ได้เห็น แม้จะห่างกันเกือบเมตรแต่ภาพนั้นก็ชัดเสียจนมโนภาพร้ายกาจเริ่มจะเข้ามาทำร้ายผมฝ่ามือพยายามกดความแข็งขืนที่ตื่นตัวไม่รู้เวล่ำเวลา ผมไม่ควรเกิดความรู้สึกแบบนี้กับน้าเยาว์เลยสักนิด น้าเยาว์ไม่ใช่สเปคของผม แต่ถ้าเป็น ‘น้องหมวย’ ลูกสาวเถ้าแก่นั้นก็น่าฟอนเฟ้นหน่อย แต่ผมกลับสะกดใจตัวเองไม่ได้ใบหน้าของน้าเยาว์ยามตื่นตะลึงมองผมเหมือนจะลอยวนเวียนตามหลอกหลอน ผมยาวๆ ที่ขมวดไว้เป็นมวยด้านหลังช่วยส่งขับใบหน้าสวยคมเข้มให้โดดเด่น อีกทั้งลูกผมที่เปียกน้ำเป็นบางส่วนละใบหน้าก็ทำให้น้าเยาว์ดูเซ็กซี่เสียจนผม...‘โอย... นี่ผมเป็นอะไรกันนี่ ผมกำลัง... มีอารมณ์’เมื่อต้านทานตัวเองไม่ไหวผมก็ไม่คิดจะยั้งไว้อีก กางเกงบอลตัวหลวมถูกปลดลงแค่เข่าก่อนที่เจ้าหนูตัวใหญ่ของผมจะเด้งดึ๋งออกจากกางเกงในตัวจิ๋ว ที่มันดูเล็กไปถน
ดวงตาของน้าเยาว์ฉายชัดถึงอารมณ์ไม่ต่างจากภาพนางแบบในหนังสือโป๊ที่ผมซุกไว้ใต้ที่นอนเลยครับ มันหยาดเยิ้มเหมือนคนจะหลับแหล่มิหลับแหล่ ผมว่าดวงตาแบบนี้ก็คงเหมือนตอนที่ผมกำลังจะคว้าสวรรค์ลงมาไว้ในมือนั่นแหละ และริมฝีปากของน้าเยาว์ที่เผยอน้อยๆ อยู่ใกล้ๆ ผมนั้น ก็ทำให้ลมหายใจผมติดๆ ขัดๆ ผมเผลอกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ เมื่อน้าเยาว์ไม่ได้ยืนประจันหน้ากับผมอีกแล้ว แต่น้าเยาว์กำลัง...น้าเยาว์ย่อกายลงนั่งคุกเข่าอยู่เบื้องหน้าผม ทั้งที่ในมือยังกอบกุมไอ้ตัวโตของผมเอาไว้ไม่ปล่อย มโนภาพในหัวของผมวิ่งไวยิ่งกว่าจรวดพุ่งไปดวงจันทร์ เพราะผมกำลังเห็นภาพในเหตุการณ์ข้างหน้า หรือผมจะเป็นคนมีญาณพิเศษที่เรียกว่า ‘เดจาวู’ ที่มองเห็นเหตุการณ์ที่คิดว่าเคยเจอมาแล้ว หรือผมจะสามารถมองเห็นเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต และผมคงมีความสามารถพิเศษนั้นจริงๆ เมื่อน้าเยาว์แลบลิ้นออกมาแตะที่หัวลูกชายของผม“อูย... น้าเยาว์ทำอะไรครับ” ถามอะไรโง่ๆ นั่นน่ะ ไม่รู้หรือว่าเขาเรียกว่าอะไรโอ้ย... ผมด่าตัวเองแบบนั้นจริงๆ ครับ คำพูดมีร้อยแปดประโยค แต่ผมดันถามอะไรโง่ๆ อย่างนั้นออกไปได้ยังไง“หึหึ... ก็กำลังให้หนึ่งไถ่โทษยังไงล่ะ หนึ่
“ไอ้ตัวดี ตื่นได้ตลอดนะมึง” ผมพูดกับลูกชายตัวโตของผมเบาๆ ก่อนจะเดินไปในจุดที่วางขันอาบน้ำแม้ไม่เปิดไฟแต่ผมก็เห็นหรอกน่าว่าอะไรอยู่ตรงไหนบ้าง เดี๋ยวรอแต่งตัวเสร็จก่อนจะค่อยไปดูไฟว่าเป็นอะไรถึงได้ดับ อาบน้ำมาใหม่ๆ แบบนี้ หากผมเอื้อมมือไปคลำสวิตช์ไฟคงไม่ดีแน่ เพราะหากโชคร้ายมากพ่อแม่ผมคงต้องร้องไห้โฮ หรือโชคร้ายน้อยลงมาหน่อย ผมอาจถูกไฟฟ้าช็อตให้ไอ้ตัวโตใช้งานไม่ได้อีก ซึ่งผมไม่เลือกทั้ง 2 อย่างนั่นแหละครับ เอาเป็นว่าเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อนดีกว่านะแต่แค่ผ้าเช็ดตัวผมร่วงหล่นลงพื้น ไฟในห้องก็สว่างวาบขึ้นจนผมตกใจ ลำพังแค่จู่ๆ ไฟก็ติดขึ้นมากะทันหัน ตอนที่ผมแก้ผ้าอยู่นี้ คงไม่ทำให้ผมตกใจเท่าไรหรอก แต่ที่ผมตกใจจนลมหายใจแทบขาดห้วงนั้นก็คือ คนที่ยืนอยู่ข้างสวิตช์ไฟนั้นต่างหากเล่าเมื่อได้สติผมก้มลงคว้าผ้าเช็ดตัวที่อยู่ปลายเท้าขึ้นมาปิดไอ้ตัวโตของผมในทันที แต่ผมก็ทันเห็นว่าคนตรงนั้นมองไอ้ตัวโตของผมอย่างตื่นตะลึงเช่นกัน แถมยังกลืนน้ำลายลงคออีกด้วย“น้า... น้าเยาว์มีอะไรกับผมหรือเปล่าครับ”ผมถามแต่สายตาไม่ได้ละไปจากใบหน้าของน้าเยาว์เลย ทำไมน่ะเหรอครับ ก็น้าเยาว์น่ะสิ จะแต่งตัวมายั่วผมหรือย
หัวใจของผมเต้นรัวเร็วจนแทบจะทะลุออกมานอกอก เพราะนี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผมได้เห็น ‘ผู้หญิงเปลือย’ ต่อหน้าต่อตา ความจริงอวัยวะทุกสัดส่วนในตัวผู้หญิงนั้น ผมเห็นมาแล้วทั่วทุกรูขุมขน แต่นั่นมันเพียงในรูปภาพที่ซูมชัดใกล้เสียจนมองเห็นแม้กระทั่งน้ำหวานหยาดเยิ้ม แต่ของจริงๆ ของคนเป็นๆ ก็วันนี้แหละที่ได้เห็น แม้จะห่างกันเกือบเมตรแต่ภาพนั้นก็ชัดเสียจนมโนภาพร้ายกาจเริ่มจะเข้ามาทำร้ายผมฝ่ามือพยายามกดความแข็งขืนที่ตื่นตัวไม่รู้เวล่ำเวลา ผมไม่ควรเกิดความรู้สึกแบบนี้กับน้าเยาว์เลยสักนิด น้าเยาว์ไม่ใช่สเปคของผม แต่ถ้าเป็น ‘น้องหมวย’ ลูกสาวเถ้าแก่นั้นก็น่าฟอนเฟ้นหน่อย แต่ผมกลับสะกดใจตัวเองไม่ได้ใบหน้าของน้าเยาว์ยามตื่นตะลึงมองผมเหมือนจะลอยวนเวียนตามหลอกหลอน ผมยาวๆ ที่ขมวดไว้เป็นมวยด้านหลังช่วยส่งขับใบหน้าสวยคมเข้มให้โดดเด่น อีกทั้งลูกผมที่เปียกน้ำเป็นบางส่วนละใบหน้าก็ทำให้น้าเยาว์ดูเซ็กซี่เสียจนผม...‘โอย... นี่ผมเป็นอะไรกันนี่ ผมกำลัง... มีอารมณ์’เมื่อต้านทานตัวเองไม่ไหวผมก็ไม่คิดจะยั้งไว้อีก กางเกงบอลตัวหลวมถูกปลดลงแค่เข่าก่อนที่เจ้าหนูตัวใหญ่ของผมจะเด้งดึ๋งออกจากกางเกงในตัวจิ๋ว ที่มันดูเล็กไปถน
อย่างที่ผมบอกนั่นแหละ ผมล่ะเสียซิงครั้งแรกก็ที่โรงงานขนมปังนี่แหละครับ คนแรกนี่เรียกว่า ‘ขึ้นครู’ ใช่ไหม และผมก็บังเอิญโชคดีได้ครูผู้เชี่ยวชาญเสียด้วย กลเม็ดเด็ดพรายผมก็เลยได้รับการถ่ายทอดมาแบบเนื้อๆ เน้นๆ เรียกได้ว่า เจนสนามดุจชายริรักมาแล้วสัก 5 ปีเชียวล่ะ แต่ใครจะรู้ล่ะว่าผมน่ะเพิ่งได้ลองของจริงครั้งแรก หลังจากบริหารด้วยแม่นางทั้ง 5 มานานปีไอ้ผมก็เด็กเสียวง่ายด้วยครับ รู้จักคำว่า ‘เสียว’ ครั้งแรกก็ตั้งแต่ ป.1 โน่นแน่ะ เล่าแล้วก็อายอีกรอบ ถ้าจะบอกว่าอุปกรณ์สอนเสียวของผมครั้งแรกก็คือ เสาประตูฟุตบอล พี่ๆ จะเชื่อไหมล่ะครับ เชื่อเหอะ มันเรื่องจริงนะวันนั้นแดดร่มลมดี ไอ้เพื่อนผมน่ะสิครับเลิกเรียนแล้วก็ไม่กลับบ้าน แต่มันดันยืนเกาะเสาประตูฟุตบอลไม่ยอมปล่อย ด้วยความสงสัยผมก็เลยถามมันว่า ‘ทำอะไรอ่ะ’ มันบอกผมว่า ‘ลองดูสิสนุกดีนะ’ผมไม่รอช้าลองทันทีเลยครับพี่ และเมื่อต้นขาผมตวัดเกี่ยวกับเสากลมๆ มันวาบ กระบวนการความเสียวครั้งแรกก็ส่งตรงเข้าสู่สมองของผมในทันทีเลยครับ จำได้ว่ากว่าผมกับเพื่อนจะกลับบ้านก็เย็นจนแม่มาตามเลยล่ะครับ เพราะพากันรูดเสา พากันเสียวจนแดดตกเชียวล่ะมาเข้าเรื่อง ‘ขึ้นครู’ ขอ
สวัสดีครับ พี่ๆ นักอ่านทุกท่าน ผมชื่อ ‘หนึ่ง’ ครับ หนึ่งที่แปลว่า ที่หนึ่งนั่นแหละครับ ต้องขอบคุณพ่อแม่ผมนะครับที่ตั้งชื่อผมได้เหมาะสมกับความจริงมาก เพราะตั้งแต่เกิดจนจำความได้ ชีวิตผมก็มักเกี่ยวข้องกับ ‘เลข 1’ เสมอ พี่ๆ อยากรู้แล้วใช่ไหมครับว่ามีอะไรบ้างน้า... ที่ตัวผมไปเกี่ยวพันกับ ‘1’ อย่างนั้นก็ตามผมมาเลยครับ...‘ฉันเกิดอยู่แดนอีสาน... ถิ่นกันดารที่เขาดูหมิ่นดูแคลน’ แอบเอาเพลงน้าหมู พงษ์เทพ มาร้องเสียเลยใช่ครับ ผมเป็นคนอีสานโดยกำเนิด จังหวัดที่ผมเกิดก็คือ 101 เห็นไหมละครับ ชีวิตผมเกี่ยวพันกับเลข 1 จริงๆ จังหวัดในประเทศไทยมีตั้ง 77 จังหวัด ไหงผมตกช่องมาเกิดที่ 101 ได้ละเนี่ย อิอิ... อันนั้นต้องไปถามพ่อและแม่ผมต่อพอโตเข้าโรงเรียนได้พ่อแม่ก็พาผมมาฝากเข้าเรียนอนุบาล 1 ผมก็ได้เลขที่ 1 อยู่ห้อง อ.1/1 ยังไม่หมดนะครับ ก็ผมน่ะมันเรียนเก่ง ได้เป็นหัวหน้าชั้นตลอด ก็ไต่เต้าขึ้นมาอยู่ ป.1/1 – 6/1 พอเรียนมัธยมก็ได้อยู่ห้อง ม.1/1 อีกนั่นแหละครับตามประสาเด็กเรียนดี กีฬาเด่น บวกกับหน้าตาเอ็นเตอร์เทนคนอื่นเสมอ เรียกภาษาบ้านๆ ว่า ‘หน้าตารับแขก’ นั่นแหละครับ เพราะผมก็มักจะได้รับเลือกให้เป็นประธานชม