หัวใจของผมเต้นรัวเร็วจนแทบจะทะลุออกมานอกอก เพราะนี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผมได้เห็น ‘ผู้หญิงเปลือย’ ต่อหน้าต่อตา ความจริงอวัยวะทุกสัดส่วนในตัวผู้หญิงนั้น ผมเห็นมาแล้วทั่วทุกรูขุมขน แต่นั่นมันเพียงในรูปภาพที่ซูมชัดใกล้เสียจนมองเห็นแม้กระทั่งน้ำหวานหยาดเยิ้ม แต่ของจริงๆ ของคนเป็นๆ ก็วันนี้แหละที่ได้เห็น แม้จะห่างกันเกือบเมตรแต่ภาพนั้นก็ชัดเสียจนมโนภาพร้ายกาจเริ่มจะเข้ามาทำร้ายผม
ฝ่ามือพยายามกดความแข็งขืนที่ตื่นตัวไม่รู้เวล่ำเวลา ผมไม่ควรเกิดความรู้สึกแบบนี้กับน้าเยาว์เลยสักนิด น้าเยาว์ไม่ใช่สเปคของผม แต่ถ้าเป็น ‘น้องหมวย’ ลูกสาวเถ้าแก่นั้นก็น่าฟอนเฟ้นหน่อย แต่ผมกลับสะกดใจตัวเองไม่ได้
ใบหน้าของน้าเยาว์ยามตื่นตะลึงมองผมเหมือนจะลอยวนเวียนตามหลอกหลอน ผมยาวๆ ที่ขมวดไว้เป็นมวยด้านหลังช่วยส่งขับใบหน้าสวยคมเข้มให้โดดเด่น อีกทั้งลูกผมที่เปียกน้ำเป็นบางส่วนละใบหน้าก็ทำให้น้าเยาว์ดูเซ็กซี่เสียจนผม...
‘โอย... นี่ผมเป็นอะไรกันนี่ ผมกำลัง... มีอารมณ์’
เมื่อต้านทานตัวเองไม่ไหวผมก็ไม่คิดจะยั้งไว้อีก กางเกงบอลตัวหลวมถูกปลดลงแค่เข่าก่อนที่เจ้าหนูตัวใหญ่ของผมจะเด้งดึ๋งออกจากกางเกงในตัวจิ๋ว ที่มันดูเล็กไปถนัดตาเมื่อเทียบกับขนาดของผมในตอนนี้ ฝ่ามือกำทาบที่ลำโคนก่อนจะค่อยๆ รูดลงและรูดขึ้นในจังหวะจะโคนสม่ำเสมอ
มโนภาพของผมคิดถึงแต่ใบหน้าตกตะลึงของน้าเยาว์ไม่ขาด ริมฝีปากที่อ้าค้างของน้าเยาว์มันช่างเร้าอารมณ์ผมเสียยิ่งกว่าอกอวบอิ่มพุ่งชูชันนั้นเสียอีก ผมเพิ่งรู้ตัวว่าผมชอบริมฝีปากของผู้หญิงมากกว่าทุกสิ่ง เพราะผมกำลังคิดถึงริมฝีปากของน้าเยาว์ที่อ้าออกกว้างและครอบครองเจ้าลำโคนยาวใหญ่ของผมไว้จนมิด
‘อา... น้าเยาว์กำลังเคลื่อนใบหน้าเข้าหาผม อา... น้าเยาว์หยอกเย้ากับเจ้าตัวโตของผมอย่างเอาเป็นเอาตาย โอย... น้าเยาว์ครับ ผมเสียวสุดๆ น้าเยาว์ครับ น้าเยาว์คนสวย โอย...’
แต่สวรรค์ของผมก็ต้องล่มไม่เป็นท่าเมื่อเสียงเคาะประตูจากด้านนอกพร้อมกับเสียงน้าเยาว์นั่นเองที่พูดดังมา
“หนึ่ง ห้องน้ำว่างแล้วนะ น้าเข้าห้องนอนก่อนล่ะ”
ผมยืนนิ่งอยู่ข้างประตูไม่กล้าขานรับหรือตอบปฏิเสธ แต่เมื่อได้ยินเสียงประตูห้องน้าเยาว์เปิดและก็ปิดตามมา ผมก็ต้องค่อยๆ แย้มประตูออกมาดู ด้านนอกนั้นไร้การเคลื่อนไหวใดๆ ทั้งสิ้น ก็แน่ล่ะ เมื่อห้องพักแถบนี้มีแค่ 2 ห้องคือห้องของผมกับห้องของน้ายิ่ง ส่วนคนงานอีก 2 คนที่เป็นผู้หญิงนั้น เถ้าแก่ให้พักด้านในของร้าน เท่ากับว่า ณ เวลานี้มีแค่ผมกับน้าเยาว์ที่อยู่ตรงนี้ ส่วนคนอื่นน่ะเหรอ ก็ปิดบ้านนอนกันเงียบแล้วน่ะสิ
ผมบอกตรงๆ ว่าอารมณ์ยังมีอีกเยอะแต่ถ้าผมไม่ออกไปอาบน้ำ น้าเยาว์ก็จะยิ่งผิดสังเกตว่าผมกำลังทำอะไรอยู่กันแน่ คิดได้ดังนั้นจึงถอดกางเกงในออกและนุ่งกางเกงบอลตัวเดียว คว้าผ้าเช็ดตัวและขันอาบน้ำที่มีสบู่ก้อน ยาสระผมขวดเล็ก แปรงสีฟันและยาสีฟัน ที่เตรียมพร้อมไว้เสมอสำหรับห้องชายโสดและเดินเข้าห้องน้ำไปทันที
ผมรีบอาบน้ำล้างคราบแป้งทำขนมและคราบเหงื่อไคลออกจากร่างกายให้เร็วที่สุด เพราะไม่อยากเสียเวลาสำหรับการบริหารแม่นางทั้ง 5 สักเสี้ยววินาที ถ้าไม่ติดว่าหัวหูมีแต่ฝุ่นแป้ง รับรองได้ว่าผมไม่สระผมแน่ แต่ถ้าขืนไม่สระคืนนี้ ผมคงต้องเปลี่ยนจากนอนเกาหำมาเกาหัวแน่
มือรีบเร่งเอาขันจ้วงน้ำอาบๆ โดยเร็ว ก่อนจะเอากางเกงบอลขยี้ๆ น้ำในขัน บิดเป็นก้อนเล็กและวางไว้บนฝากระดานไม้ที่พาดไว้บนปากอ่างอาบน้ำที่ถูกก่อขึ้นแบบหยาบๆ ไว้กักเก็บน้ำให้มากกว่าโอ่ง เดี๋ยวผมจะมาเล่าให้ฟังอีกทีนะครับว่าไอ้ปากอ่างอาบน้ำนี้มีประโยชน์อะไรบ้าง เดาล่ะสิ...
เมื่อเนื้อตัวสะอาดหมดจดและหอมกรุ่นไปด้วยสบู่ก้อนเขียวราคาไม่แพงที่ผมใช้มาตั้งแต่เล็ก เพราะพ่อบอกว่ามันหอมชื่นใจจริงๆ ไอ้ยี่ห้อนี้ ผมคว้าผ้าเช็ดตัวขึ้นพันปกปิดความยิ่งใหญ่ที่สงบเสงี่ยมอย่างเหลือเชื่อ ก่อนจะค่อยๆ เปิดประตูห้องน้ำออกมา เพราะคนในบ้านเขานอนกันหมดแล้วนี่ครับ ถ้าผมทำเสียงดัง มีหวังตอนเช้าได้ถูกด่าเปิงแน่
ผมเดินออกจากห้องน้ำ ตามองตรงไปยังห้องของตัวเอง นึกแปลกใจนิดๆ ที่ตอนผมออกมานั้นจำได้ว่าเปิดไฟทิ้งเอาไว้ แต่ตอนนี้ที่ผมเห็นคือไฟมันมืดไปทั้งห้อง ผิดกับห้องของน้าเยาว์ที่แสงไฟสว่างซึ่งแปลว่าน้าเยาว์คงยังไม่นอน ‘หลอดไฟอาจเสียก็ได้’ คิดดังนั้นผมจึงเดินไปที่ราวตากผ้าหน้าห้อง
สะบัดกางเกงบอล 2-3 ทีให้หมาดๆ ผ้าจะได้กระจายตัวกันดีไม่เกาะกันทั้งหน้าหลัง ไม่ใช่สักแต่ว่าเอาผ้าขึ้นพาดตากบนราว เพราะถ้าทำอย่างนั้นมีหวังแม่ผมด่าเปิง เพราะเวลาผ้ามันแห้งน่ะ มันก็จะเกาะกันทั้งด้านหน้าด้านหลัง เสียเวลาต้องมานั่งรีดมานั่งสะบัดให้มันเรียบอีก นี่ล่ะนะเรียกว่าแม่ผมสอนมาดี
ผมเดินเข้าห้องมืดๆ ของผม แต่ไม่วายจะชำเลืองมองห้องด้านข้าง ใจจริงอยากจะแอบดูเหมือนกันว่า คืนนี้น้ายิ่งไม่อยู่ น้าเยาว์จะใช้วิธีไหนระบายความเสียว หรือว่าทนเอาไว้ทบต้นทบดอกพรุ่งนี้ แค่คิดผมก็เสียววูบๆ วาบๆ ที่ไอ้ตัวโตของผมอีกแล้ว ก็มันน่ะดันทะลึ่งพุ่งลิ่วจนดันผ้าเช็ดตัวออกมาซะอย่างนั้น
“ไอ้ตัวดี ตื่นได้ตลอดนะมึง” ผมพูดกับลูกชายตัวโตของผมเบาๆ ก่อนจะเดินไปในจุดที่วางขันอาบน้ำแม้ไม่เปิดไฟแต่ผมก็เห็นหรอกน่าว่าอะไรอยู่ตรงไหนบ้าง เดี๋ยวรอแต่งตัวเสร็จก่อนจะค่อยไปดูไฟว่าเป็นอะไรถึงได้ดับ อาบน้ำมาใหม่ๆ แบบนี้ หากผมเอื้อมมือไปคลำสวิตช์ไฟคงไม่ดีแน่ เพราะหากโชคร้ายมากพ่อแม่ผมคงต้องร้องไห้โฮ หรือโชคร้ายน้อยลงมาหน่อย ผมอาจถูกไฟฟ้าช็อตให้ไอ้ตัวโตใช้งานไม่ได้อีก ซึ่งผมไม่เลือกทั้ง 2 อย่างนั่นแหละครับ เอาเป็นว่าเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อนดีกว่านะแต่แค่ผ้าเช็ดตัวผมร่วงหล่นลงพื้น ไฟในห้องก็สว่างวาบขึ้นจนผมตกใจ ลำพังแค่จู่ๆ ไฟก็ติดขึ้นมากะทันหัน ตอนที่ผมแก้ผ้าอยู่นี้ คงไม่ทำให้ผมตกใจเท่าไรหรอก แต่ที่ผมตกใจจนลมหายใจแทบขาดห้วงนั้นก็คือ คนที่ยืนอยู่ข้างสวิตช์ไฟนั้นต่างหากเล่าเมื่อได้สติผมก้มลงคว้าผ้าเช็ดตัวที่อยู่ปลายเท้าขึ้นมาปิดไอ้ตัวโตของผมในทันที แต่ผมก็ทันเห็นว่าคนตรงนั้นมองไอ้ตัวโตของผมอย่างตื่นตะลึงเช่นกัน แถมยังกลืนน้ำลายลงคออีกด้วย“น้า... น้าเยาว์มีอะไรกับผมหรือเปล่าครับ”ผมถามแต่สายตาไม่ได้ละไปจากใบหน้าของน้าเยาว์เลย ทำไมน่ะเหรอครับ ก็น้าเยาว์น่ะสิ จะแต่งตัวมายั่วผมหรือย
ดวงตาของน้าเยาว์ฉายชัดถึงอารมณ์ไม่ต่างจากภาพนางแบบในหนังสือโป๊ที่ผมซุกไว้ใต้ที่นอนเลยครับ มันหยาดเยิ้มเหมือนคนจะหลับแหล่มิหลับแหล่ ผมว่าดวงตาแบบนี้ก็คงเหมือนตอนที่ผมกำลังจะคว้าสวรรค์ลงมาไว้ในมือนั่นแหละ และริมฝีปากของน้าเยาว์ที่เผยอน้อยๆ อยู่ใกล้ๆ ผมนั้น ก็ทำให้ลมหายใจผมติดๆ ขัดๆ ผมเผลอกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ เมื่อน้าเยาว์ไม่ได้ยืนประจันหน้ากับผมอีกแล้ว แต่น้าเยาว์กำลัง...น้าเยาว์ย่อกายลงนั่งคุกเข่าอยู่เบื้องหน้าผม ทั้งที่ในมือยังกอบกุมไอ้ตัวโตของผมเอาไว้ไม่ปล่อย มโนภาพในหัวของผมวิ่งไวยิ่งกว่าจรวดพุ่งไปดวงจันทร์ เพราะผมกำลังเห็นภาพในเหตุการณ์ข้างหน้า หรือผมจะเป็นคนมีญาณพิเศษที่เรียกว่า ‘เดจาวู’ ที่มองเห็นเหตุการณ์ที่คิดว่าเคยเจอมาแล้ว หรือผมจะสามารถมองเห็นเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต และผมคงมีความสามารถพิเศษนั้นจริงๆ เมื่อน้าเยาว์แลบลิ้นออกมาแตะที่หัวลูกชายของผม“อูย... น้าเยาว์ทำอะไรครับ” ถามอะไรโง่ๆ นั่นน่ะ ไม่รู้หรือว่าเขาเรียกว่าอะไรโอ้ย... ผมด่าตัวเองแบบนั้นจริงๆ ครับ คำพูดมีร้อยแปดประโยค แต่ผมดันถามอะไรโง่ๆ อย่างนั้นออกไปได้ยังไง“หึหึ... ก็กำลังให้หนึ่งไถ่โทษยังไงล่ะ หนึ่
สวัสดีครับ พี่ๆ นักอ่านทุกท่าน ผมชื่อ ‘หนึ่ง’ ครับ หนึ่งที่แปลว่า ที่หนึ่งนั่นแหละครับ ต้องขอบคุณพ่อแม่ผมนะครับที่ตั้งชื่อผมได้เหมาะสมกับความจริงมาก เพราะตั้งแต่เกิดจนจำความได้ ชีวิตผมก็มักเกี่ยวข้องกับ ‘เลข 1’ เสมอ พี่ๆ อยากรู้แล้วใช่ไหมครับว่ามีอะไรบ้างน้า... ที่ตัวผมไปเกี่ยวพันกับ ‘1’ อย่างนั้นก็ตามผมมาเลยครับ...‘ฉันเกิดอยู่แดนอีสาน... ถิ่นกันดารที่เขาดูหมิ่นดูแคลน’ แอบเอาเพลงน้าหมู พงษ์เทพ มาร้องเสียเลยใช่ครับ ผมเป็นคนอีสานโดยกำเนิด จังหวัดที่ผมเกิดก็คือ 101 เห็นไหมละครับ ชีวิตผมเกี่ยวพันกับเลข 1 จริงๆ จังหวัดในประเทศไทยมีตั้ง 77 จังหวัด ไหงผมตกช่องมาเกิดที่ 101 ได้ละเนี่ย อิอิ... อันนั้นต้องไปถามพ่อและแม่ผมต่อพอโตเข้าโรงเรียนได้พ่อแม่ก็พาผมมาฝากเข้าเรียนอนุบาล 1 ผมก็ได้เลขที่ 1 อยู่ห้อง อ.1/1 ยังไม่หมดนะครับ ก็ผมน่ะมันเรียนเก่ง ได้เป็นหัวหน้าชั้นตลอด ก็ไต่เต้าขึ้นมาอยู่ ป.1/1 – 6/1 พอเรียนมัธยมก็ได้อยู่ห้อง ม.1/1 อีกนั่นแหละครับตามประสาเด็กเรียนดี กีฬาเด่น บวกกับหน้าตาเอ็นเตอร์เทนคนอื่นเสมอ เรียกภาษาบ้านๆ ว่า ‘หน้าตารับแขก’ นั่นแหละครับ เพราะผมก็มักจะได้รับเลือกให้เป็นประธานชม
อย่างที่ผมบอกนั่นแหละ ผมล่ะเสียซิงครั้งแรกก็ที่โรงงานขนมปังนี่แหละครับ คนแรกนี่เรียกว่า ‘ขึ้นครู’ ใช่ไหม และผมก็บังเอิญโชคดีได้ครูผู้เชี่ยวชาญเสียด้วย กลเม็ดเด็ดพรายผมก็เลยได้รับการถ่ายทอดมาแบบเนื้อๆ เน้นๆ เรียกได้ว่า เจนสนามดุจชายริรักมาแล้วสัก 5 ปีเชียวล่ะ แต่ใครจะรู้ล่ะว่าผมน่ะเพิ่งได้ลองของจริงครั้งแรก หลังจากบริหารด้วยแม่นางทั้ง 5 มานานปีไอ้ผมก็เด็กเสียวง่ายด้วยครับ รู้จักคำว่า ‘เสียว’ ครั้งแรกก็ตั้งแต่ ป.1 โน่นแน่ะ เล่าแล้วก็อายอีกรอบ ถ้าจะบอกว่าอุปกรณ์สอนเสียวของผมครั้งแรกก็คือ เสาประตูฟุตบอล พี่ๆ จะเชื่อไหมล่ะครับ เชื่อเหอะ มันเรื่องจริงนะวันนั้นแดดร่มลมดี ไอ้เพื่อนผมน่ะสิครับเลิกเรียนแล้วก็ไม่กลับบ้าน แต่มันดันยืนเกาะเสาประตูฟุตบอลไม่ยอมปล่อย ด้วยความสงสัยผมก็เลยถามมันว่า ‘ทำอะไรอ่ะ’ มันบอกผมว่า ‘ลองดูสิสนุกดีนะ’ผมไม่รอช้าลองทันทีเลยครับพี่ และเมื่อต้นขาผมตวัดเกี่ยวกับเสากลมๆ มันวาบ กระบวนการความเสียวครั้งแรกก็ส่งตรงเข้าสู่สมองของผมในทันทีเลยครับ จำได้ว่ากว่าผมกับเพื่อนจะกลับบ้านก็เย็นจนแม่มาตามเลยล่ะครับ เพราะพากันรูดเสา พากันเสียวจนแดดตกเชียวล่ะมาเข้าเรื่อง ‘ขึ้นครู’ ขอ
ดวงตาของน้าเยาว์ฉายชัดถึงอารมณ์ไม่ต่างจากภาพนางแบบในหนังสือโป๊ที่ผมซุกไว้ใต้ที่นอนเลยครับ มันหยาดเยิ้มเหมือนคนจะหลับแหล่มิหลับแหล่ ผมว่าดวงตาแบบนี้ก็คงเหมือนตอนที่ผมกำลังจะคว้าสวรรค์ลงมาไว้ในมือนั่นแหละ และริมฝีปากของน้าเยาว์ที่เผยอน้อยๆ อยู่ใกล้ๆ ผมนั้น ก็ทำให้ลมหายใจผมติดๆ ขัดๆ ผมเผลอกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ เมื่อน้าเยาว์ไม่ได้ยืนประจันหน้ากับผมอีกแล้ว แต่น้าเยาว์กำลัง...น้าเยาว์ย่อกายลงนั่งคุกเข่าอยู่เบื้องหน้าผม ทั้งที่ในมือยังกอบกุมไอ้ตัวโตของผมเอาไว้ไม่ปล่อย มโนภาพในหัวของผมวิ่งไวยิ่งกว่าจรวดพุ่งไปดวงจันทร์ เพราะผมกำลังเห็นภาพในเหตุการณ์ข้างหน้า หรือผมจะเป็นคนมีญาณพิเศษที่เรียกว่า ‘เดจาวู’ ที่มองเห็นเหตุการณ์ที่คิดว่าเคยเจอมาแล้ว หรือผมจะสามารถมองเห็นเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต และผมคงมีความสามารถพิเศษนั้นจริงๆ เมื่อน้าเยาว์แลบลิ้นออกมาแตะที่หัวลูกชายของผม“อูย... น้าเยาว์ทำอะไรครับ” ถามอะไรโง่ๆ นั่นน่ะ ไม่รู้หรือว่าเขาเรียกว่าอะไรโอ้ย... ผมด่าตัวเองแบบนั้นจริงๆ ครับ คำพูดมีร้อยแปดประโยค แต่ผมดันถามอะไรโง่ๆ อย่างนั้นออกไปได้ยังไง“หึหึ... ก็กำลังให้หนึ่งไถ่โทษยังไงล่ะ หนึ่
“ไอ้ตัวดี ตื่นได้ตลอดนะมึง” ผมพูดกับลูกชายตัวโตของผมเบาๆ ก่อนจะเดินไปในจุดที่วางขันอาบน้ำแม้ไม่เปิดไฟแต่ผมก็เห็นหรอกน่าว่าอะไรอยู่ตรงไหนบ้าง เดี๋ยวรอแต่งตัวเสร็จก่อนจะค่อยไปดูไฟว่าเป็นอะไรถึงได้ดับ อาบน้ำมาใหม่ๆ แบบนี้ หากผมเอื้อมมือไปคลำสวิตช์ไฟคงไม่ดีแน่ เพราะหากโชคร้ายมากพ่อแม่ผมคงต้องร้องไห้โฮ หรือโชคร้ายน้อยลงมาหน่อย ผมอาจถูกไฟฟ้าช็อตให้ไอ้ตัวโตใช้งานไม่ได้อีก ซึ่งผมไม่เลือกทั้ง 2 อย่างนั่นแหละครับ เอาเป็นว่าเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อนดีกว่านะแต่แค่ผ้าเช็ดตัวผมร่วงหล่นลงพื้น ไฟในห้องก็สว่างวาบขึ้นจนผมตกใจ ลำพังแค่จู่ๆ ไฟก็ติดขึ้นมากะทันหัน ตอนที่ผมแก้ผ้าอยู่นี้ คงไม่ทำให้ผมตกใจเท่าไรหรอก แต่ที่ผมตกใจจนลมหายใจแทบขาดห้วงนั้นก็คือ คนที่ยืนอยู่ข้างสวิตช์ไฟนั้นต่างหากเล่าเมื่อได้สติผมก้มลงคว้าผ้าเช็ดตัวที่อยู่ปลายเท้าขึ้นมาปิดไอ้ตัวโตของผมในทันที แต่ผมก็ทันเห็นว่าคนตรงนั้นมองไอ้ตัวโตของผมอย่างตื่นตะลึงเช่นกัน แถมยังกลืนน้ำลายลงคออีกด้วย“น้า... น้าเยาว์มีอะไรกับผมหรือเปล่าครับ”ผมถามแต่สายตาไม่ได้ละไปจากใบหน้าของน้าเยาว์เลย ทำไมน่ะเหรอครับ ก็น้าเยาว์น่ะสิ จะแต่งตัวมายั่วผมหรือย
หัวใจของผมเต้นรัวเร็วจนแทบจะทะลุออกมานอกอก เพราะนี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผมได้เห็น ‘ผู้หญิงเปลือย’ ต่อหน้าต่อตา ความจริงอวัยวะทุกสัดส่วนในตัวผู้หญิงนั้น ผมเห็นมาแล้วทั่วทุกรูขุมขน แต่นั่นมันเพียงในรูปภาพที่ซูมชัดใกล้เสียจนมองเห็นแม้กระทั่งน้ำหวานหยาดเยิ้ม แต่ของจริงๆ ของคนเป็นๆ ก็วันนี้แหละที่ได้เห็น แม้จะห่างกันเกือบเมตรแต่ภาพนั้นก็ชัดเสียจนมโนภาพร้ายกาจเริ่มจะเข้ามาทำร้ายผมฝ่ามือพยายามกดความแข็งขืนที่ตื่นตัวไม่รู้เวล่ำเวลา ผมไม่ควรเกิดความรู้สึกแบบนี้กับน้าเยาว์เลยสักนิด น้าเยาว์ไม่ใช่สเปคของผม แต่ถ้าเป็น ‘น้องหมวย’ ลูกสาวเถ้าแก่นั้นก็น่าฟอนเฟ้นหน่อย แต่ผมกลับสะกดใจตัวเองไม่ได้ใบหน้าของน้าเยาว์ยามตื่นตะลึงมองผมเหมือนจะลอยวนเวียนตามหลอกหลอน ผมยาวๆ ที่ขมวดไว้เป็นมวยด้านหลังช่วยส่งขับใบหน้าสวยคมเข้มให้โดดเด่น อีกทั้งลูกผมที่เปียกน้ำเป็นบางส่วนละใบหน้าก็ทำให้น้าเยาว์ดูเซ็กซี่เสียจนผม...‘โอย... นี่ผมเป็นอะไรกันนี่ ผมกำลัง... มีอารมณ์’เมื่อต้านทานตัวเองไม่ไหวผมก็ไม่คิดจะยั้งไว้อีก กางเกงบอลตัวหลวมถูกปลดลงแค่เข่าก่อนที่เจ้าหนูตัวใหญ่ของผมจะเด้งดึ๋งออกจากกางเกงในตัวจิ๋ว ที่มันดูเล็กไปถน
อย่างที่ผมบอกนั่นแหละ ผมล่ะเสียซิงครั้งแรกก็ที่โรงงานขนมปังนี่แหละครับ คนแรกนี่เรียกว่า ‘ขึ้นครู’ ใช่ไหม และผมก็บังเอิญโชคดีได้ครูผู้เชี่ยวชาญเสียด้วย กลเม็ดเด็ดพรายผมก็เลยได้รับการถ่ายทอดมาแบบเนื้อๆ เน้นๆ เรียกได้ว่า เจนสนามดุจชายริรักมาแล้วสัก 5 ปีเชียวล่ะ แต่ใครจะรู้ล่ะว่าผมน่ะเพิ่งได้ลองของจริงครั้งแรก หลังจากบริหารด้วยแม่นางทั้ง 5 มานานปีไอ้ผมก็เด็กเสียวง่ายด้วยครับ รู้จักคำว่า ‘เสียว’ ครั้งแรกก็ตั้งแต่ ป.1 โน่นแน่ะ เล่าแล้วก็อายอีกรอบ ถ้าจะบอกว่าอุปกรณ์สอนเสียวของผมครั้งแรกก็คือ เสาประตูฟุตบอล พี่ๆ จะเชื่อไหมล่ะครับ เชื่อเหอะ มันเรื่องจริงนะวันนั้นแดดร่มลมดี ไอ้เพื่อนผมน่ะสิครับเลิกเรียนแล้วก็ไม่กลับบ้าน แต่มันดันยืนเกาะเสาประตูฟุตบอลไม่ยอมปล่อย ด้วยความสงสัยผมก็เลยถามมันว่า ‘ทำอะไรอ่ะ’ มันบอกผมว่า ‘ลองดูสิสนุกดีนะ’ผมไม่รอช้าลองทันทีเลยครับพี่ และเมื่อต้นขาผมตวัดเกี่ยวกับเสากลมๆ มันวาบ กระบวนการความเสียวครั้งแรกก็ส่งตรงเข้าสู่สมองของผมในทันทีเลยครับ จำได้ว่ากว่าผมกับเพื่อนจะกลับบ้านก็เย็นจนแม่มาตามเลยล่ะครับ เพราะพากันรูดเสา พากันเสียวจนแดดตกเชียวล่ะมาเข้าเรื่อง ‘ขึ้นครู’ ขอ
สวัสดีครับ พี่ๆ นักอ่านทุกท่าน ผมชื่อ ‘หนึ่ง’ ครับ หนึ่งที่แปลว่า ที่หนึ่งนั่นแหละครับ ต้องขอบคุณพ่อแม่ผมนะครับที่ตั้งชื่อผมได้เหมาะสมกับความจริงมาก เพราะตั้งแต่เกิดจนจำความได้ ชีวิตผมก็มักเกี่ยวข้องกับ ‘เลข 1’ เสมอ พี่ๆ อยากรู้แล้วใช่ไหมครับว่ามีอะไรบ้างน้า... ที่ตัวผมไปเกี่ยวพันกับ ‘1’ อย่างนั้นก็ตามผมมาเลยครับ...‘ฉันเกิดอยู่แดนอีสาน... ถิ่นกันดารที่เขาดูหมิ่นดูแคลน’ แอบเอาเพลงน้าหมู พงษ์เทพ มาร้องเสียเลยใช่ครับ ผมเป็นคนอีสานโดยกำเนิด จังหวัดที่ผมเกิดก็คือ 101 เห็นไหมละครับ ชีวิตผมเกี่ยวพันกับเลข 1 จริงๆ จังหวัดในประเทศไทยมีตั้ง 77 จังหวัด ไหงผมตกช่องมาเกิดที่ 101 ได้ละเนี่ย อิอิ... อันนั้นต้องไปถามพ่อและแม่ผมต่อพอโตเข้าโรงเรียนได้พ่อแม่ก็พาผมมาฝากเข้าเรียนอนุบาล 1 ผมก็ได้เลขที่ 1 อยู่ห้อง อ.1/1 ยังไม่หมดนะครับ ก็ผมน่ะมันเรียนเก่ง ได้เป็นหัวหน้าชั้นตลอด ก็ไต่เต้าขึ้นมาอยู่ ป.1/1 – 6/1 พอเรียนมัธยมก็ได้อยู่ห้อง ม.1/1 อีกนั่นแหละครับตามประสาเด็กเรียนดี กีฬาเด่น บวกกับหน้าตาเอ็นเตอร์เทนคนอื่นเสมอ เรียกภาษาบ้านๆ ว่า ‘หน้าตารับแขก’ นั่นแหละครับ เพราะผมก็มักจะได้รับเลือกให้เป็นประธานชม