สวัสดีครับ พี่ๆ นักอ่านทุกท่าน ผมชื่อ ‘หนึ่ง’ ครับ หนึ่งที่แปลว่า ที่หนึ่งนั่นแหละครับ ต้องขอบคุณพ่อแม่ผมนะครับที่ตั้งชื่อผมได้เหมาะสมกับความจริงมาก เพราะตั้งแต่เกิดจนจำความได้ ชีวิตผมก็มักเกี่ยวข้องกับ ‘เลข 1’ เสมอ พี่ๆ อยากรู้แล้วใช่ไหมครับว่ามีอะไรบ้างน้า... ที่ตัวผมไปเกี่ยวพันกับ ‘1’ อย่างนั้นก็ตามผมมาเลยครับ...
‘ฉันเกิดอยู่แดนอีสาน... ถิ่นกันดารที่เขาดูหมิ่นดูแคลน’ แอบเอาเพลงน้าหมู พงษ์เทพ มาร้องเสียเลย
ใช่ครับ ผมเป็นคนอีสานโดยกำเนิด จังหวัดที่ผมเกิดก็คือ 101 เห็นไหมละครับ ชีวิตผมเกี่ยวพันกับเลข 1 จริงๆ จังหวัดในประเทศไทยมีตั้ง 77 จังหวัด ไหงผมตกช่องมาเกิดที่ 101 ได้ละเนี่ย อิอิ... อันนั้นต้องไปถามพ่อและแม่ผมต่อ
พอโตเข้าโรงเรียนได้พ่อแม่ก็พาผมมาฝากเข้าเรียนอนุบาล 1 ผมก็ได้เลขที่ 1 อยู่ห้อง อ.1/1 ยังไม่หมดนะครับ ก็ผมน่ะมันเรียนเก่ง ได้เป็นหัวหน้าชั้นตลอด ก็ไต่เต้าขึ้นมาอยู่ ป.1/1 – 6/1 พอเรียนมัธยมก็ได้อยู่ห้อง ม.1/1 อีกนั่นแหละครับตามประสาเด็กเรียนดี กีฬาเด่น บวกกับหน้าตาเอ็นเตอร์เทนคนอื่นเสมอ เรียกภาษาบ้านๆ ว่า ‘หน้าตารับแขก’ นั่นแหละครับ เพราะผมก็มักจะได้รับเลือกให้เป็นประธานชมรมนู้นนี้โน้นตลอดๆ เวลามีกิจกรรมอะไรก็แล้วแต่ ผมนี่แหละได้รับเลือกเป็นคนแรกเลย
จนเรียน ม.6 ความภาคภูมิใจแรกในชีวิตวัยรุ่นของผมก็มาเยือน ผมได้รับเลือกให้เป็นประธานนักเรียนครับพี่น้อง ชีวิตผมในตอนนั้นดีงามมาก... เรียกได้ว่าเดินไปทางไหน สาวๆ รุ่นน้องก็มักจะมากรี๊ดกร๊าดเรียกผมว่า
‘พี่หนึ่งคะ พี่หนึ่งขา...’ ผมนี่ตัวลอยเลยครับ แต่มันไม่เป็นอย่างนั้นตลอดน่ะสิครับ เรื่องราวดราม่าเริ่มเข้ามาในชีวิตผมอย่างลางๆ จนผมเกิด ‘สภาวะทิ้งตัว’ อย่างแรงก็ตอนตัดสินใจไม่เอ็นทรานซ์นี่แหละครับ
ไม่ใช่ว่าผมกลัวจะสอบเข้าไม่ได้นะครับ เพราะผมก็ถือว่าเป็นเด็กเรียนคนหนึ่งเลยล่ะ และจากแนวข้อสอบที่ผมหมั่นทบทวนอยู่ตลอดนั้นก็ทำให้ผมมั่นใจว่า ผมสามารถสอบเข้าเรียนในสาขาที่ผมอยากเรียนได้สบาย แต่เพราะผมเป็นเด็กดียังไงล่ะครับ ผมรักพ่อแม่ รักครอบครัวครับ ‘งงล่ะสิ... ว่าทำไมผมไม่เอ็นทรานซ์’
ก็ผมน่ะเป็นลูกชายคนโต ที่บ้านก็ไม่ได้มีเงินทองมากมายอะไร แค่พ่อแม่ส่งเสียผมได้จบ ม.6 นี่ก็ถือว่าท่านเก่งมากแล้ว ผมเองความที่เป็นพี่ชายคนโตของน้องๆ อีกหลายคน ผมก็ควรจะเสียสละมาช่วยพ่อแม่ทำงานส่งเสียน้องๆ นั่นแหละครับเส้นทางโลดแล่นในเมืองใหญ่จึงมาเยือนผมจนได้
ใช่ครับ เด็กอีสานอย่างผมจะทำงานทั้งทีก็ต้องโน่น ‘กรุงเทพมหานคร’ เมืองฟ้าเมืองสวรรค์ที่เด็กบ้านนอกคอกนาอย่างผมใฝ่ฝันว่าจะได้มาสูดดมกลิ่นเมืองศิวิไลซ์สักครั้งในชีวิต
‘จากแดนอีสานบ้านเกิดเมืองนอน มาเล่นละครบทชีวิตนัก’ ผมชอบพี่ไมค์ครับ และรักในเส้นทางเสียงเพลงลูกทุ่งมาก แต่ผมไม่ได้มาเป็นนักร้องนะครับ โธ่! พี่ๆ คิดดูสิครับ เด็กหนุ่มวัยละอ่อนอย่างผม ใครจะผลักจะดันเข้าวงการล่ะครับ
แม้หน้าตาผมจะดีเข้าขั้น ‘ณเดชน์ + เจมส์จิ’ ก็เหอะ แต่หากผมต้องไปเสนอตัวให้เก้ง กวาง บ่าง ชะนี ผมก็ไม่กล้าหรอกครับ ผมน่ะยังซิงนะครับพี่ ทั้งทวนแท่งและช่องแคบมะละกาของผม ยังซิงทั้งสองทาง แหม... แต่มันก็ซิงไม่นานนักหรอกครับ
ใช่ครับ ผมเข้ามากรุงเทพฯ ได้ไม่นาน เส้นทางเปิดบริสุทธิ์ผมก็เริ่มขึ้น อายจังที่ต้องเล่าเรื่องตัวเองแบบนี้ แต่มันอดภูมิใจไม่ได้นี่ครับ เพราะไม่ว่าจะสาวแก่ แม่ม่าย คุณน้าข้างบ้าน หรือแม้แต่น้องหมวยในร้านก็บอกว่าของผมน่ะ ‘ใหญ่’ กว่าใครทั้งนั้น แถมทุกคนยังการันตีว่าผมน่ะเป็นที่หนึ่งสมชื่อจริงๆ
ผมเริ่มต้นงานแรกด้วยการเป็นลูกจ้างในร้านขนมปังแถวบางบัวทองครับ แต่ผมไม่ทิ้งการเรียนนะครับ ผมน่ะลงเรียนรามฯ เอาไว้ สาขาที่ผมเลือกน่ะหรือครับ ‘รัฐศาสตร์ การเมืองการปกครอง’ ที่เลือกสาขานี้ก็เพราะผมอยากนำความรู้ที่ผมได้รับไปพัฒนาชุมชนของผมครับ ก็บอกแล้วไงครับว่าผมน่ะเด็กรักเรียน และผมก็ยังสำนึกรักบ้านเกิดของตัวเองอย่างแรงเสียด้วย
แต่เส้นทางอาชีพของผมก็ทำให้ผมมีปัญหากับการเรียนบ้างเล็กน้อย จะว่าไปก็คงไม่เล็กไม่น้อยสักเท่าไร แต่ผมมันลูกคนไม่รวยครับ ผมก็ต้องเลือกอาชีพไว้ก่อนล่ะ กลางวันทำงาน กลางคืนแบ่งเวลาอ่านหนังสือครับ โดยผมน่ะจะทำตารางเรียนเองเหมือนตอนเรียนมัธยมเลยครับ ผมจะเขียนไว้ว่าวันไหนจะอ่านวิชาอะไร เริ่มกี่โมงถึงกี่โมง ถ้าไม่ทำอย่างนี้มีหวังผมคงเรียนไม่จบหรอกครับ ยิ่งทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย เรื่องยากสำหรับผมเลยนะเนี่ย
พี่ๆ อย่าเบื่อเรื่องเล่าของผมเสียก่อนล่ะ ว่าเอ... ฉันจะอ่านเรื่องเสียวหรือมาตามอ่านอัตชีวประวัติของผมกันแน่ เอาเป็นว่าผมรับประกันความเสียวด้วยอาวุธยาวใหญ่ประจำกายของผมแน่นอน แต่ผมอยากให้พี่ๆ รู้จักตัวผมให้ดีกว่านี้น่ะครับ
ถึงผมจะสร้างความเสียวให้สาวๆ ไม่จำกัดเวลา แต่ผมก็เป็นคนหนักเอาเบาสู้นะครับ งานหนักหนาแค่ไหนผมก็ไม่เกี่ยงหรอก ขอแค่ให้ได้เงินมาส่งเสียครอบครัวและไม่ทำให้ใครเดือดร้อน แต่หากจะสร้างความสุขให้ทุกๆ คน ผมก็แสนจะยินดี เริ่มเสียวแล้วล่ะสิ ฮ่า ฮ่า ฮ่า... อย่างนั้นมาเริ่มประสบการณ์เสียวครั้งแรกไปกับผมได้เลยครับ
อย่างที่ผมบอกนั่นแหละ ผมล่ะเสียซิงครั้งแรกก็ที่โรงงานขนมปังนี่แหละครับ คนแรกนี่เรียกว่า ‘ขึ้นครู’ ใช่ไหม และผมก็บังเอิญโชคดีได้ครูผู้เชี่ยวชาญเสียด้วย กลเม็ดเด็ดพรายผมก็เลยได้รับการถ่ายทอดมาแบบเนื้อๆ เน้นๆ เรียกได้ว่า เจนสนามดุจชายริรักมาแล้วสัก 5 ปีเชียวล่ะ แต่ใครจะรู้ล่ะว่าผมน่ะเพิ่งได้ลองของจริงครั้งแรก หลังจากบริหารด้วยแม่นางทั้ง 5 มานานปีไอ้ผมก็เด็กเสียวง่ายด้วยครับ รู้จักคำว่า ‘เสียว’ ครั้งแรกก็ตั้งแต่ ป.1 โน่นแน่ะ เล่าแล้วก็อายอีกรอบ ถ้าจะบอกว่าอุปกรณ์สอนเสียวของผมครั้งแรกก็คือ เสาประตูฟุตบอล พี่ๆ จะเชื่อไหมล่ะครับ เชื่อเหอะ มันเรื่องจริงนะวันนั้นแดดร่มลมดี ไอ้เพื่อนผมน่ะสิครับเลิกเรียนแล้วก็ไม่กลับบ้าน แต่มันดันยืนเกาะเสาประตูฟุตบอลไม่ยอมปล่อย ด้วยความสงสัยผมก็เลยถามมันว่า ‘ทำอะไรอ่ะ’ มันบอกผมว่า ‘ลองดูสิสนุกดีนะ’ผมไม่รอช้าลองทันทีเลยครับพี่ และเมื่อต้นขาผมตวัดเกี่ยวกับเสากลมๆ มันวาบ กระบวนการความเสียวครั้งแรกก็ส่งตรงเข้าสู่สมองของผมในทันทีเลยครับ จำได้ว่ากว่าผมกับเพื่อนจะกลับบ้านก็เย็นจนแม่มาตามเลยล่ะครับ เพราะพากันรูดเสา พากันเสียวจนแดดตกเชียวล่ะมาเข้าเรื่อง ‘ขึ้นครู’ ขอ
หัวใจของผมเต้นรัวเร็วจนแทบจะทะลุออกมานอกอก เพราะนี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผมได้เห็น ‘ผู้หญิงเปลือย’ ต่อหน้าต่อตา ความจริงอวัยวะทุกสัดส่วนในตัวผู้หญิงนั้น ผมเห็นมาแล้วทั่วทุกรูขุมขน แต่นั่นมันเพียงในรูปภาพที่ซูมชัดใกล้เสียจนมองเห็นแม้กระทั่งน้ำหวานหยาดเยิ้ม แต่ของจริงๆ ของคนเป็นๆ ก็วันนี้แหละที่ได้เห็น แม้จะห่างกันเกือบเมตรแต่ภาพนั้นก็ชัดเสียจนมโนภาพร้ายกาจเริ่มจะเข้ามาทำร้ายผมฝ่ามือพยายามกดความแข็งขืนที่ตื่นตัวไม่รู้เวล่ำเวลา ผมไม่ควรเกิดความรู้สึกแบบนี้กับน้าเยาว์เลยสักนิด น้าเยาว์ไม่ใช่สเปคของผม แต่ถ้าเป็น ‘น้องหมวย’ ลูกสาวเถ้าแก่นั้นก็น่าฟอนเฟ้นหน่อย แต่ผมกลับสะกดใจตัวเองไม่ได้ใบหน้าของน้าเยาว์ยามตื่นตะลึงมองผมเหมือนจะลอยวนเวียนตามหลอกหลอน ผมยาวๆ ที่ขมวดไว้เป็นมวยด้านหลังช่วยส่งขับใบหน้าสวยคมเข้มให้โดดเด่น อีกทั้งลูกผมที่เปียกน้ำเป็นบางส่วนละใบหน้าก็ทำให้น้าเยาว์ดูเซ็กซี่เสียจนผม...‘โอย... นี่ผมเป็นอะไรกันนี่ ผมกำลัง... มีอารมณ์’เมื่อต้านทานตัวเองไม่ไหวผมก็ไม่คิดจะยั้งไว้อีก กางเกงบอลตัวหลวมถูกปลดลงแค่เข่าก่อนที่เจ้าหนูตัวใหญ่ของผมจะเด้งดึ๋งออกจากกางเกงในตัวจิ๋ว ที่มันดูเล็กไปถน
“ไอ้ตัวดี ตื่นได้ตลอดนะมึง” ผมพูดกับลูกชายตัวโตของผมเบาๆ ก่อนจะเดินไปในจุดที่วางขันอาบน้ำแม้ไม่เปิดไฟแต่ผมก็เห็นหรอกน่าว่าอะไรอยู่ตรงไหนบ้าง เดี๋ยวรอแต่งตัวเสร็จก่อนจะค่อยไปดูไฟว่าเป็นอะไรถึงได้ดับ อาบน้ำมาใหม่ๆ แบบนี้ หากผมเอื้อมมือไปคลำสวิตช์ไฟคงไม่ดีแน่ เพราะหากโชคร้ายมากพ่อแม่ผมคงต้องร้องไห้โฮ หรือโชคร้ายน้อยลงมาหน่อย ผมอาจถูกไฟฟ้าช็อตให้ไอ้ตัวโตใช้งานไม่ได้อีก ซึ่งผมไม่เลือกทั้ง 2 อย่างนั่นแหละครับ เอาเป็นว่าเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อนดีกว่านะแต่แค่ผ้าเช็ดตัวผมร่วงหล่นลงพื้น ไฟในห้องก็สว่างวาบขึ้นจนผมตกใจ ลำพังแค่จู่ๆ ไฟก็ติดขึ้นมากะทันหัน ตอนที่ผมแก้ผ้าอยู่นี้ คงไม่ทำให้ผมตกใจเท่าไรหรอก แต่ที่ผมตกใจจนลมหายใจแทบขาดห้วงนั้นก็คือ คนที่ยืนอยู่ข้างสวิตช์ไฟนั้นต่างหากเล่าเมื่อได้สติผมก้มลงคว้าผ้าเช็ดตัวที่อยู่ปลายเท้าขึ้นมาปิดไอ้ตัวโตของผมในทันที แต่ผมก็ทันเห็นว่าคนตรงนั้นมองไอ้ตัวโตของผมอย่างตื่นตะลึงเช่นกัน แถมยังกลืนน้ำลายลงคออีกด้วย“น้า... น้าเยาว์มีอะไรกับผมหรือเปล่าครับ”ผมถามแต่สายตาไม่ได้ละไปจากใบหน้าของน้าเยาว์เลย ทำไมน่ะเหรอครับ ก็น้าเยาว์น่ะสิ จะแต่งตัวมายั่วผมหรือย
ดวงตาของน้าเยาว์ฉายชัดถึงอารมณ์ไม่ต่างจากภาพนางแบบในหนังสือโป๊ที่ผมซุกไว้ใต้ที่นอนเลยครับ มันหยาดเยิ้มเหมือนคนจะหลับแหล่มิหลับแหล่ ผมว่าดวงตาแบบนี้ก็คงเหมือนตอนที่ผมกำลังจะคว้าสวรรค์ลงมาไว้ในมือนั่นแหละ และริมฝีปากของน้าเยาว์ที่เผยอน้อยๆ อยู่ใกล้ๆ ผมนั้น ก็ทำให้ลมหายใจผมติดๆ ขัดๆ ผมเผลอกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ เมื่อน้าเยาว์ไม่ได้ยืนประจันหน้ากับผมอีกแล้ว แต่น้าเยาว์กำลัง...น้าเยาว์ย่อกายลงนั่งคุกเข่าอยู่เบื้องหน้าผม ทั้งที่ในมือยังกอบกุมไอ้ตัวโตของผมเอาไว้ไม่ปล่อย มโนภาพในหัวของผมวิ่งไวยิ่งกว่าจรวดพุ่งไปดวงจันทร์ เพราะผมกำลังเห็นภาพในเหตุการณ์ข้างหน้า หรือผมจะเป็นคนมีญาณพิเศษที่เรียกว่า ‘เดจาวู’ ที่มองเห็นเหตุการณ์ที่คิดว่าเคยเจอมาแล้ว หรือผมจะสามารถมองเห็นเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต และผมคงมีความสามารถพิเศษนั้นจริงๆ เมื่อน้าเยาว์แลบลิ้นออกมาแตะที่หัวลูกชายของผม“อูย... น้าเยาว์ทำอะไรครับ” ถามอะไรโง่ๆ นั่นน่ะ ไม่รู้หรือว่าเขาเรียกว่าอะไรโอ้ย... ผมด่าตัวเองแบบนั้นจริงๆ ครับ คำพูดมีร้อยแปดประโยค แต่ผมดันถามอะไรโง่ๆ อย่างนั้นออกไปได้ยังไง“หึหึ... ก็กำลังให้หนึ่งไถ่โทษยังไงล่ะ หนึ่
ดวงตาของน้าเยาว์ฉายชัดถึงอารมณ์ไม่ต่างจากภาพนางแบบในหนังสือโป๊ที่ผมซุกไว้ใต้ที่นอนเลยครับ มันหยาดเยิ้มเหมือนคนจะหลับแหล่มิหลับแหล่ ผมว่าดวงตาแบบนี้ก็คงเหมือนตอนที่ผมกำลังจะคว้าสวรรค์ลงมาไว้ในมือนั่นแหละ และริมฝีปากของน้าเยาว์ที่เผยอน้อยๆ อยู่ใกล้ๆ ผมนั้น ก็ทำให้ลมหายใจผมติดๆ ขัดๆ ผมเผลอกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ เมื่อน้าเยาว์ไม่ได้ยืนประจันหน้ากับผมอีกแล้ว แต่น้าเยาว์กำลัง...น้าเยาว์ย่อกายลงนั่งคุกเข่าอยู่เบื้องหน้าผม ทั้งที่ในมือยังกอบกุมไอ้ตัวโตของผมเอาไว้ไม่ปล่อย มโนภาพในหัวของผมวิ่งไวยิ่งกว่าจรวดพุ่งไปดวงจันทร์ เพราะผมกำลังเห็นภาพในเหตุการณ์ข้างหน้า หรือผมจะเป็นคนมีญาณพิเศษที่เรียกว่า ‘เดจาวู’ ที่มองเห็นเหตุการณ์ที่คิดว่าเคยเจอมาแล้ว หรือผมจะสามารถมองเห็นเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต และผมคงมีความสามารถพิเศษนั้นจริงๆ เมื่อน้าเยาว์แลบลิ้นออกมาแตะที่หัวลูกชายของผม“อูย... น้าเยาว์ทำอะไรครับ” ถามอะไรโง่ๆ นั่นน่ะ ไม่รู้หรือว่าเขาเรียกว่าอะไรโอ้ย... ผมด่าตัวเองแบบนั้นจริงๆ ครับ คำพูดมีร้อยแปดประโยค แต่ผมดันถามอะไรโง่ๆ อย่างนั้นออกไปได้ยังไง“หึหึ... ก็กำลังให้หนึ่งไถ่โทษยังไงล่ะ หนึ่
“ไอ้ตัวดี ตื่นได้ตลอดนะมึง” ผมพูดกับลูกชายตัวโตของผมเบาๆ ก่อนจะเดินไปในจุดที่วางขันอาบน้ำแม้ไม่เปิดไฟแต่ผมก็เห็นหรอกน่าว่าอะไรอยู่ตรงไหนบ้าง เดี๋ยวรอแต่งตัวเสร็จก่อนจะค่อยไปดูไฟว่าเป็นอะไรถึงได้ดับ อาบน้ำมาใหม่ๆ แบบนี้ หากผมเอื้อมมือไปคลำสวิตช์ไฟคงไม่ดีแน่ เพราะหากโชคร้ายมากพ่อแม่ผมคงต้องร้องไห้โฮ หรือโชคร้ายน้อยลงมาหน่อย ผมอาจถูกไฟฟ้าช็อตให้ไอ้ตัวโตใช้งานไม่ได้อีก ซึ่งผมไม่เลือกทั้ง 2 อย่างนั่นแหละครับ เอาเป็นว่าเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อนดีกว่านะแต่แค่ผ้าเช็ดตัวผมร่วงหล่นลงพื้น ไฟในห้องก็สว่างวาบขึ้นจนผมตกใจ ลำพังแค่จู่ๆ ไฟก็ติดขึ้นมากะทันหัน ตอนที่ผมแก้ผ้าอยู่นี้ คงไม่ทำให้ผมตกใจเท่าไรหรอก แต่ที่ผมตกใจจนลมหายใจแทบขาดห้วงนั้นก็คือ คนที่ยืนอยู่ข้างสวิตช์ไฟนั้นต่างหากเล่าเมื่อได้สติผมก้มลงคว้าผ้าเช็ดตัวที่อยู่ปลายเท้าขึ้นมาปิดไอ้ตัวโตของผมในทันที แต่ผมก็ทันเห็นว่าคนตรงนั้นมองไอ้ตัวโตของผมอย่างตื่นตะลึงเช่นกัน แถมยังกลืนน้ำลายลงคออีกด้วย“น้า... น้าเยาว์มีอะไรกับผมหรือเปล่าครับ”ผมถามแต่สายตาไม่ได้ละไปจากใบหน้าของน้าเยาว์เลย ทำไมน่ะเหรอครับ ก็น้าเยาว์น่ะสิ จะแต่งตัวมายั่วผมหรือย
หัวใจของผมเต้นรัวเร็วจนแทบจะทะลุออกมานอกอก เพราะนี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผมได้เห็น ‘ผู้หญิงเปลือย’ ต่อหน้าต่อตา ความจริงอวัยวะทุกสัดส่วนในตัวผู้หญิงนั้น ผมเห็นมาแล้วทั่วทุกรูขุมขน แต่นั่นมันเพียงในรูปภาพที่ซูมชัดใกล้เสียจนมองเห็นแม้กระทั่งน้ำหวานหยาดเยิ้ม แต่ของจริงๆ ของคนเป็นๆ ก็วันนี้แหละที่ได้เห็น แม้จะห่างกันเกือบเมตรแต่ภาพนั้นก็ชัดเสียจนมโนภาพร้ายกาจเริ่มจะเข้ามาทำร้ายผมฝ่ามือพยายามกดความแข็งขืนที่ตื่นตัวไม่รู้เวล่ำเวลา ผมไม่ควรเกิดความรู้สึกแบบนี้กับน้าเยาว์เลยสักนิด น้าเยาว์ไม่ใช่สเปคของผม แต่ถ้าเป็น ‘น้องหมวย’ ลูกสาวเถ้าแก่นั้นก็น่าฟอนเฟ้นหน่อย แต่ผมกลับสะกดใจตัวเองไม่ได้ใบหน้าของน้าเยาว์ยามตื่นตะลึงมองผมเหมือนจะลอยวนเวียนตามหลอกหลอน ผมยาวๆ ที่ขมวดไว้เป็นมวยด้านหลังช่วยส่งขับใบหน้าสวยคมเข้มให้โดดเด่น อีกทั้งลูกผมที่เปียกน้ำเป็นบางส่วนละใบหน้าก็ทำให้น้าเยาว์ดูเซ็กซี่เสียจนผม...‘โอย... นี่ผมเป็นอะไรกันนี่ ผมกำลัง... มีอารมณ์’เมื่อต้านทานตัวเองไม่ไหวผมก็ไม่คิดจะยั้งไว้อีก กางเกงบอลตัวหลวมถูกปลดลงแค่เข่าก่อนที่เจ้าหนูตัวใหญ่ของผมจะเด้งดึ๋งออกจากกางเกงในตัวจิ๋ว ที่มันดูเล็กไปถน
อย่างที่ผมบอกนั่นแหละ ผมล่ะเสียซิงครั้งแรกก็ที่โรงงานขนมปังนี่แหละครับ คนแรกนี่เรียกว่า ‘ขึ้นครู’ ใช่ไหม และผมก็บังเอิญโชคดีได้ครูผู้เชี่ยวชาญเสียด้วย กลเม็ดเด็ดพรายผมก็เลยได้รับการถ่ายทอดมาแบบเนื้อๆ เน้นๆ เรียกได้ว่า เจนสนามดุจชายริรักมาแล้วสัก 5 ปีเชียวล่ะ แต่ใครจะรู้ล่ะว่าผมน่ะเพิ่งได้ลองของจริงครั้งแรก หลังจากบริหารด้วยแม่นางทั้ง 5 มานานปีไอ้ผมก็เด็กเสียวง่ายด้วยครับ รู้จักคำว่า ‘เสียว’ ครั้งแรกก็ตั้งแต่ ป.1 โน่นแน่ะ เล่าแล้วก็อายอีกรอบ ถ้าจะบอกว่าอุปกรณ์สอนเสียวของผมครั้งแรกก็คือ เสาประตูฟุตบอล พี่ๆ จะเชื่อไหมล่ะครับ เชื่อเหอะ มันเรื่องจริงนะวันนั้นแดดร่มลมดี ไอ้เพื่อนผมน่ะสิครับเลิกเรียนแล้วก็ไม่กลับบ้าน แต่มันดันยืนเกาะเสาประตูฟุตบอลไม่ยอมปล่อย ด้วยความสงสัยผมก็เลยถามมันว่า ‘ทำอะไรอ่ะ’ มันบอกผมว่า ‘ลองดูสิสนุกดีนะ’ผมไม่รอช้าลองทันทีเลยครับพี่ และเมื่อต้นขาผมตวัดเกี่ยวกับเสากลมๆ มันวาบ กระบวนการความเสียวครั้งแรกก็ส่งตรงเข้าสู่สมองของผมในทันทีเลยครับ จำได้ว่ากว่าผมกับเพื่อนจะกลับบ้านก็เย็นจนแม่มาตามเลยล่ะครับ เพราะพากันรูดเสา พากันเสียวจนแดดตกเชียวล่ะมาเข้าเรื่อง ‘ขึ้นครู’ ขอ
สวัสดีครับ พี่ๆ นักอ่านทุกท่าน ผมชื่อ ‘หนึ่ง’ ครับ หนึ่งที่แปลว่า ที่หนึ่งนั่นแหละครับ ต้องขอบคุณพ่อแม่ผมนะครับที่ตั้งชื่อผมได้เหมาะสมกับความจริงมาก เพราะตั้งแต่เกิดจนจำความได้ ชีวิตผมก็มักเกี่ยวข้องกับ ‘เลข 1’ เสมอ พี่ๆ อยากรู้แล้วใช่ไหมครับว่ามีอะไรบ้างน้า... ที่ตัวผมไปเกี่ยวพันกับ ‘1’ อย่างนั้นก็ตามผมมาเลยครับ...‘ฉันเกิดอยู่แดนอีสาน... ถิ่นกันดารที่เขาดูหมิ่นดูแคลน’ แอบเอาเพลงน้าหมู พงษ์เทพ มาร้องเสียเลยใช่ครับ ผมเป็นคนอีสานโดยกำเนิด จังหวัดที่ผมเกิดก็คือ 101 เห็นไหมละครับ ชีวิตผมเกี่ยวพันกับเลข 1 จริงๆ จังหวัดในประเทศไทยมีตั้ง 77 จังหวัด ไหงผมตกช่องมาเกิดที่ 101 ได้ละเนี่ย อิอิ... อันนั้นต้องไปถามพ่อและแม่ผมต่อพอโตเข้าโรงเรียนได้พ่อแม่ก็พาผมมาฝากเข้าเรียนอนุบาล 1 ผมก็ได้เลขที่ 1 อยู่ห้อง อ.1/1 ยังไม่หมดนะครับ ก็ผมน่ะมันเรียนเก่ง ได้เป็นหัวหน้าชั้นตลอด ก็ไต่เต้าขึ้นมาอยู่ ป.1/1 – 6/1 พอเรียนมัธยมก็ได้อยู่ห้อง ม.1/1 อีกนั่นแหละครับตามประสาเด็กเรียนดี กีฬาเด่น บวกกับหน้าตาเอ็นเตอร์เทนคนอื่นเสมอ เรียกภาษาบ้านๆ ว่า ‘หน้าตารับแขก’ นั่นแหละครับ เพราะผมก็มักจะได้รับเลือกให้เป็นประธานชม