หลังจากที่บุหงาพาลูกกลับไปแล้ว ป้าสุนีย์จึงโทรหากันต์บอกให้มาหาท่านที่บ้านด่วนเพราะมีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย กันต์กับกลอยใจจึงรีบมาหาป้าสุนีย์ทันที"นั่งก่อนสิ"กันต์ซึ่งตกอกตกใจเพราะเขาคิดว่าป้าสุนีย์ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า กำลังจะเอ่ยปากถามก็ถูกป้าขัดขึ้นเสียก่อน เขากับกลอยใจจึงนั่งลง"แม่บุหงาไปหากันต์หรือเปล่า ?""ไปครับ"ตอบคำถามของท่านแล้วกันต์กับกลอยใจก็มองหน้ากัน ป้าสุนีย์จึงพูดต่อ"วันนี้บุหงามาที่นี่ มาพร้อมกับเด็กผู้ชายคนหนึ่ง หน้าตาน่าเอ็นดูเชียว เธอบอกว่าเป็นลูกของกันต์"กันต์รู้สึกตกใจและงงงวย ลูกของเขา เขาไปมีลูกตั้งแต่เมื่อไหร่ มองหน้าเมียรักเห็นว่ากลอยใจเองก็หน้าตาไม่สู้ดีเช่นกัน"บุหงาบอกกับป้าอย่างนั้นหรือครับ ?""ใช่ และป้าก็มาคิดดูแล้วอายุของเด็กคนนั้นมันก็คาบเกี่ยวอยู่นะกับช่วงเวลาที่กันต์คบหากับบุหงา"เขานิ่งเงียบไปรู้สึกโกรธบุหงามาก เป็นคนทิ้งเขาไปเองแท้ ๆ สุดท้ายก็ยังเลือกที่จะกลับมาทำร้ายเขาอีกครั้ง"คุณป้าเชื่อเธอหรือครับ ?""ก็ไม่เชิง แต่ถ้าเด็กคนนั้นเป็นลูกของกันต์จริง ๆ ล่ะ"กันต์หันไปมองหน้ากลอยใจ เขาบีบมือเธอไว้แน่น"ผมขอปรึกษากับเมียผมก่อนได้ไหมครับ ?"ท่า
เช้าวันนี้กันต์และภูมิได้นำตัวอย่างเลือดไปตรวจที่โรงพยาบาลเอกชนที่น่าเชื่อถือแห่งหนึ่งของจังหวัด รอผลการตรวจประมาณเจ็ดวัน "ระหว่างนี้บุหงากับลูกจะย้ายไปอยู่กับกันต์ค่ะ"บุหงาประกาศหลังจากที่กลับมาจากโรงพยาบาล และเธอก็ทำจริง ๆ เธอให้คนขนเสื้อผ้าและของใช้ของเธอกับน้องภูมิมาไว้ที่บ้านของกันต์"บุหงาจะมากไปแล้วนะ !"กันต์ตะคอกเธอด้วยความโมโห แต่พอสบตากับน้องภูมิเขาก็ใจอ่อน ไม่อยากจะทำอะไรรุนแรงกับแม่ของหนูน้อย กลอยใจรีบมาดึงตัวสามีออกมาจากตรงนั้น"พี่กันต์ใจเย็น ๆ ค่ะ โมโหไปก็เท่านั้น เธออยากอยู่ก็ให้อยู่ไปเถอะค่ะ เดี๋ยวเราไปอยู่ที่อื่น"กลอยใจบอกกับสามีของเธอด้วยน้ำเสียงชิลล์ ๆ เธอไม่ได้โกรธหรือน้อยใจอะไรเลย เพราะเธอตัดสินใจแล้วว่าจะอยู่เคียงข้างเขา ตอนนี้กันต์กำลังมีปัญหาจะให้เธอมางอนมางี่เง่าสร้างความหนักใจให้สามีอีกก็ใช่เรื่อง เธอรู้ว่ากันต์มีบ้านอีกหนึ่งหลังซึ่งเป็นบ้านเดิมที่เขาเคยอยู่ตอนเป็นเด็ก อยู่ลึกเข้าไปในสวนทุเรียน และหลังใหญ่กว่าบ้านหลังนี้มาก สภาพก็ทรุดโทรมไปบ้างตามกาลเวลา แต่ถ้าทำความสะอาดและต่อน้ำต่อไฟเข้าไปก็อยู่ได้สบาย กันต์เคยพาเธอไปดูบ้านหลังนั้นครั้งหนึ่ง เธอยังแซว
หลังจากที่กลับมาจากโรงพยาบาลบุหงาพบว่าไม่มีใครอยู่ที่บ้านเลยสักคน กันต์ไปไหนนะ ? เธอจึงอาละวาดและทำลายข้าวของในบ้านจนพังเสียหายเกือบหมด แล้วก็กลับไปที่บ้านของเธอ"แม่กลับมาแล้ว"ภูมิวิ่งไปหาแม่ของเขาที่กำลังเดินเข้ามาในบ้านด้วยความดีใจ "หยุด ! ไม่ต้องเข้ามา"แต่บุหงาตวาดลูกเสียก่อน ภูมิหยุดชะงักเดินก้มหน้ากลับไปหาตากับยาย"บุหงา พูดกับลูกดี ๆ หน่อย"นายหัวเข้มตำหนิลูกสาว ส่วนยายนั้นก็กอดปลอบหลานชายตัวน้อย"เพราะมันชีวิตหนูถึงได้เป็นแบบนี้" พูดจบบุหงาก็เดินเข้าไปในห้อง ไม่สนใจลูกแล้วก็พ่อกับแม่อีก ทั้งสองท่านได้แต่มองหน้ากันแล้วก็ถอนหายใจ "กินขนมเถอะนะลูก""ครับยาย"หนูน้อยกินขนมที่คุณยายส่งมาให้ พลางชะเง้อตามหลังแม่ อยากจะเข้าไปกอดแต่ก็ไม่กล้า บุหงานอนร้องไห้อยู่บนเตียง ตั้งแต่เธอตั้งท้องเสี่ยนพก็เปลี่ยนไป เธอจึงคิดว่าเป็นเพราะลูกที่ทำให้ชีวิตของเธอเป็นแบบนี้ เพราะตั้งแต่มันเกิดมาก็มีแต่เรื่องเฮงซวยตลอด เธอหารู้ไม่ว่าที่เสี่ยนพเป็นแบบนั้นไม่ใช่เพราะเขาเปลี่ยนไปแต่มันคือสันดานที่แท้จริงของเขาต่างหากคำพูดหวาน ๆ การเอาใจสารพัดในตอนที่คบกันใหม่ ๆ นั้นเพราะเสี่ยนพเห็นว่าเธอร่ำรวยและหน้
"อะไรกันเนี่ย !?"น้ำผึ้งร้องโวยวายก่อนจะโทรหาหาญกล้า เพราะสภาพที่อยู่ตรงหน้าของเธอตอนนี้เละเทะไปหมด ข้าวของภายในบ้านโดยเฉพาะห้องนอนนั้นแตกเสียหายยับเยิน ประมาณสิบนาทีหาญกล้าก็ขับรถเครื่องมาถึง "พี่โทรบอกนายหัวแล้วเดี๋ยวนายหัวก็มา"น้ำผึ้งมาทำความสะอาดและจะนำผ้าห่มกับผ้าปูไปซักตามปกติ แต่พอมาเห็นสภาพบ้านของนายหัวที่บุหงาทำเอาไว้ เธอก็ทำอะไรไม่ถูกโมโหมากเพราะคนที่เก็บกวาดนั้นเป็นเธอ แต่งานนี้คงไม่ไหวเพราะเละเทะขนาดนี้คงต้องเก็บทิ้งแล้วล่ะระหว่างรอนายหัวน้ำผึ้งกับหาญกล้าก็ช่วยกันเก็บกวาดของบางส่วนเท่าที่พอจะทำได้ไปก่อน"พี่หาญ ชั้นว่าแม่บุหงานี่คงเป็นโรคจิตแน่ ๆ เลย ดูสิทำบ้านช่องคนอื่นพังเสียหายหมด"น้ำผึ้งวิพากษ์วิจารณ์แฟนเก่าของเจ้านายด้วยความโมโห ตอนที่บุหงาคบกับเจ้านายของเธอนั้นบุหงามักจะจิกหัวใช้คนงานแทบทุกคนรวมทั้งน้ำผึ้งด้วย ดีที่เลิกกับนายหัวไปได้ไม่งั้นคงวุ่นวายน่าดูเมื่อกันต์กับกลอยใจมาถึงและเห็นสภาพบ้านก็ได้แต่ส่ายหน้า เขาบอกให้น้ำผึ้งเก็บของที่แตกเสียหายทิ้ง เอากระเป๋าของบุหงามาวางไว้ที่ใต้ถุนบ้าน แล้วก็ล็อคกุญแจปิดบ้านเอาไว้ ก่อนที่จะพากันออกจากบ้านบุหงาก็ขับรถมาถึงพอดี
และแล้วก็มาถึงวันที่จะไปรับฟังผลตรวจ DNA ซึ่งน่าแปลกมากหลังจากที่วันนั้นวันที่บุหงาไปสลบที่หน้าบ้านของกันต์เธอก็ไม่ได้ไปรังควานอะไรเขาอีก เพราะคงจะมั่นใจในผลตรวจจนน่าสงสัยกันต์กับกลอยใจไปรับป้าสุนีย์แล้วจึงเลยไปที่โรงพยาบาลและพอไปถึงก็พบว่าครอบครัวของบุหงาไปรออยู่ที่นั่นเรียบร้อยแล้วเมื่อทุกคนไปกันครบแล้วเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลก็ถือซองใส่ผลตรวจ DNA ของกันต์กับน้องภูมิออกมา เขาสบตากับบุหงาแวบหนึ่งก่อนจะยื่นซองให้กันต์"เปิดดูได้เลยครับ"กันต์จึงเปิดซองเอกสารออกมาและค่อย ๆ ไล่สายตาไปตามตัวอักษรในกระดาษแผ่นนั้น'ผลการตรวจ DNA ปรากฏว่า โครโมโซมมีความคล้ายคลึงกัน 99.999 % ยืนยันว่าบุคคลทั้งสองเป็นพ่อลูกกัน'กันต์รู้สึกตกใจและแปลกใจเป็นอย่างมากกับผลตรวจ กลอยใจเองก็เช่นกันแม้ว่าเธอจะทำใจไว้แล้วส่วนหนึ่งก็ตาม"ฮึ ฮึ ฮ่า ๆๆๆ"บุหงาหัวเราะออกมาอย่างพอใจและสะใจ"ว่าไงคะกันต์ พอใจรึยัง"กันต์ไม่พูดกับบุหงาแต่หันไปหานายหัวเข้มกับคุณนายจันทราและคุยกับพวกท่านทั้งสองแทน"เราคงมีเรื่องต้องคุยกันอีกหลายเรื่อง ยังไงผมจะไปหานายหัวที่บ้านนะครับ"พูดจบแล้วกันต์ก็จูงมือของกลอยใจและหันไปมองป้าสุนีย์ เดินพา
หลังจากที่กลับมาจากโรงพยาบาลบุหงาพบว่าไม่มีใครอยู่ที่บ้านเลยสักคน กันต์ไปไหนนะ ? เธอจึงอาละวาดและทำลายข้าวของในบ้านจนพังเสียหายเกือบหมด แล้วก็กลับไปที่บ้านของเธอ"แม่กลับมาแล้ว"ภูมิวิ่งไปหาแม่ของเขาที่กำลังเดินเข้ามาในบ้านด้วยความดีใจ "หยุด ! ไม่ต้องเข้ามา"แต่บุหงาตวาดลูกเสียก่อน ภูมิหยุดชะงักเดินก้มหน้ากลับไปหาตากับยาย"บุหงา พูดกับลูกดี ๆ หน่อย"นายหัวเข้มตำหนิลูกสาว ส่วนยายนั้นก็กอดปลอบหลานชายตัวน้อย"เพราะมันชีวิตหนูถึงได้เป็นแบบนี้" พูดจบบุหงาก็เดินเข้าไปในห้อง ไม่สนใจลูกแล้วก็พ่อกับแม่อีก ทั้งสองท่านได้แต่มองหน้ากันแล้วก็ถอนหายใจ "กินขนมเถอะนะลูก""ครับยาย"หนูน้อยกินขนมที่คุณยายส่งมาให้ พลางชะเง้อตามหลังแม่ อยากจะเข้าไปกอดแต่ก็ไม่กล้า บุหงานอนร้องไห้อยู่บนเตียง ตั้งแต่เธอตั้งท้องเสี่ยนพก็เปลี่ยนไป เธอจึงคิดว่าเป็นเพราะลูกที่ทำให้ชีวิตของเธอเป็นแบบนี้ เพราะตั้งแต่มันเกิดมาก็มีแต่เรื่องเฮงซวยตลอด เธอหารู้ไม่ว่าที่เสี่ยนพเป็นแบบนั้นไม่ใช่เพราะเขาเปลี่ยนไปแต่มันคือสันดานที่แท้จริงของเขาต่างหากคำพูดหวาน ๆ การเอาใจสารพัดในตอนที่คบกันใหม่ ๆ นั้นเพราะเสี่ยนพเห็นว่าเธอร่ำรวยและหน้
น้ำผึ้งหาเก้าอี้มาให้เมธีนั่ง พร้อมกับหาน้ำหาท่ามาเสิร์ฟ ไม่นานกันต์ก็มาถึง"เอามา"กันต์ไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรแบมือไปตรงหน้าของเมธี เขาจึงยื่นซองเอกสารสีน้ำตาลให้เพื่อนรัก กันต์รีบเปิดดูทันที เมธีส่ายหน้าเอือมระอากับพฤติกรรมของเพื่อน ขอบอกขอบใจเขาสักคำก็ไม่มี แต่ก็ชินแล้วล่ะ เดี๋ยวถ้ามันนึกได้มันก็คงขอบใจเองแหละเมื่อกันต์อ่านทุกตัวอักษรบนเอกสารแผ่นนั้นอย่างละเอียดแล้วเขาก็กระโดดกอดเมธีแล้วก็จุ๊บแก้มเพื่อนไปหนึ่งที"อี๋ ไอไอ้ไอ้บ้า"เมธีถูแก้มข้างที่โดนจุ๊บอย่างแรง กันต์ไม่ได้สนใจท่าทางของเพื่อน รีบเดินเข้าไปหาเมียรักและเอาเอกสารแผ่นนั้นให้กลอยใจอ่าน และเมื่อเธออ่านจบแล้วก็หันไปมองภูมิด้วยความสงสาร ไม่รู้ว่าหากนำเรื่องนี้ไปคุยกับบุหงาภูมิจะโดนอะไรบ้าง"ไอ้หมอ มานี่"กันต์กวักมือเรียกเพื่อนที่กำลังถูแก้มด้วยความสยดสยองให้เดินเข้ามาหา เมธีก็เดินเข้ามาอย่างงง ๆ"กลอยนี่เมธี เพื่อนของพี่""สวัสดีค่ะ"กลอยใจยกมือไหว้ "นี่กลอยใจเมียของข้า""สวัสดีครับ"กันต์เล่าให้เขาฟังแล้วเรื่องกลอยใจ ก็ดูสวยเหมาะสมกันดีแหละกับไอ้กันต์ แต่เขาสะดุดตาแม่สาวน้อยผิวสีน้ำผึ้งนัยน์ตาโศกคนนั้นมากกว่า เพราะถ้าเกิ
บุหงาขับรถหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยความเร็วสูง ภูมิที่นั่งเบาะข้าง ๆ ไม่กล้าขยับตัวเลยแม้แต่นิดเดียว ได้แต่มองหน้าแม่ด้วยความหวาดกลัวย้อนไปเมื่อสองอาทิตย์ก่อน "เพี๊ยะ !!""ฮือ ๆ ไอ้ผัวชั่ว"เสียงทะเลาะตบตีกันของแม่กับพ่อยังคงดังออกมาจากห้อง ภูมิได้แต่นั่งหลบอยู่ใต้โต๊ะกินข้าวด้วยความหวาดกลัว"โอ๊ย ! มึงหยุดนะอีบุหงา"เสี่ยนพร้องเสียงดังลั่นเมื่อบุหงาขว้างแจกันโดนหัวของเขา รู้สึกปวดแปลบที่หน้าผากและเหมือนมีของเหลวสีแดงอุ่น ๆ ไหลลงมาที่ข้างแก้ม เมื่อเห็นดังนั้นเขาก็โมโหขีดสุดเดินตรงปรี่เข้าไปหาบุหงาทันที และเมื่อเข้ามาใกล้ตัวของบุหงาเขาก็เงื้อมือขึ้นหมายจะตบลงไปที่ใบหน้าของเธอ"ฟุบ !"ร่างของเสี่ยนพหงายผึ่งลงไปทันที ที่หน้าผากมีรูกระสุนขนาด .22 มม. ปรากฏอยู่ ปืนกระบอกนั้นเป็นของเขาเอง บุหงาทรุดนั่งลงกับพื้น ทั้งหัวเราะและร้องไห้สลับกันไปมา มองปืนในมือที่ใส่ที่เก็บเสียงอย่างเลื่อนลอย นานนับสิบนาทีเธอจึงได้ลุกขึ้นและเดินออกไปหาภูมิเมื่อเสียงในห้องนอนของแม่กับพ่อเงียบไปแล้วภูมิจึงค่อย ๆ คลานออกมาจากใต้โต๊ะ ก็เห็นว่าแม่ของเขาออกมาจากห้องแล้ว ส่วนพ่อก็คงออกจากบ้านเหมือนเช่นทุกครั้ง แต่คราวน
เมื่อมาถึงผับของนทีแล้วเขาก็เปิดห้อง VIP ให้กับทุกคน และสั่งเครื่องดื่มมาให้แบบจัดเต็ม หาญกล้าชอบใจมาก เมธีเองก็สนุก ส่วนกันต์นั้นในตอนแรกเขาก็ไม่กล้าเมาได้แต่หันไปมองหน้าภรรยา "พี่กันต์อยากดื่มก็ดื่มเลยค่ะ"กลอยใจบอกกับสามีเสียงอ่อนโยน เธอเองก็นึกเห็นใจเขาไม่น้อย เพราะตั้งแต่รู้ว่าเธอตั้งครรภ์เขาก็เข้าหน้าเธอไม่ติดเลย เพราะนอกจากเธอจะเหม็นกลิ่นตัวเขาแล้วยังเข้าหน้าเธอไม่ติดอีกด้วย เพิ่งจะมีสองสามวันมานี่แหละที่เธอการดีขึ้นเธอจึงไม่ค่อยหงุดหงิดใส่เขาเมื่อเมียรักอนุญาติกันต์จึงจัดเต็ม ชนแก้วกับเมธี หาญกล้าแล้วก็นทีด้วยความสนุกสนาน แหกปากร้องคาราโอเกะแบบไม่สนคีย์ ดูท่าทางสนุกสนานของสามีแล้วกลอยใจก็พลอยมีความสุขไปด้วย เธอเข้าไปเช็คยอดวิวของนิยายและใช้โอกาสนี้เขียนนิยายสักหน่อย ตั้งแต่แพ้ท้องเธอก็ไม่ได้อัพนิยายมาเป็นอาทิตย์แล้ว มีรี้ดเข้ามาคอมเมนต์ทวงตอนต่อไปอยู่หลายคน แม้จะมีเสียงดังอยู่รอบตัวก็ไม่ใช่ปัญหา ขอแค่อารมณ์มาไอเดียผุด กลอยใจก็สามารถเขียนนิยายได้ทุกที่"เป็นไงบ้าง ?"เมธีถามกุหลาบอย่างเป็นห่วง เห็นท่าทางพะอืดพะอมของเธอแล้วเขาก็ทั้งขำแล้วก็สงสาร "ไม่เป็นไร ดีขึ้นแล้วค่ะ"เธอย
เมื่อหนุ่ม ๆ ขึ้นรถเรียบร้อยแล้ว จึงไปรับสามสาวที่ร้านเสริมสวย กลอยใจมองสามีไม่วางตาเพราะลุคนี้เขาดูหล่อเหลา ชุดสูทพอดีตัวสีเทาเข้มส่งให้ร่างสูงกำยำของกันต์ดูเปลี่ยนไป แม้ความหล่อคมเข้มยังอยู่ แต่ที่เพิ่มมาอีกก็คือความอ่อนละมุนอบอุ่นอบอวลไปทั่วร่าง กันต์เองก็เขินกับสายตาของเมียรักและก็อดตะลึงกับความสวยของเมียไม่ได้ ชุดราตรีสีชมพูอ่อน เปิดไหล่เนียนละมุน เอวคอดกิ่วและหน้าท้องแบนราบแม้ตอนนี้เธอจะท้องได้เกือบสองเดือนแล้วก็ตาม แต่รูปร่างก็ยังเพรียวระหงอยู่เช่นเดิม ส่วนน้ำผึ้งกับกุหลาบก็สวยมากเช่นกันในชุดราตรีโทนสีฟ้าอ่อนขับผิวสีน้ำผึ้งของทั้งสองให้ดูเนียนละเอียดมากขึ้น โดยเฉพาะกุหลาบแทบดูไม่ออกเลยว่าเป็นเพียงสาวน้อยในสวนในไร่คนหนึ่งเท่านั้น เมธีมองกุหลาบตาไม่กระพริบ เมื่อสามสาวขึ้นรถเรียบร้อยแล้วรถก็เคลื่อนตัวตรงไปที่โรงแรมที่จัดงานแต่งของเกมส์กับน้ำฟ้า ทั้งหกคนเดินเข้าไปในงาน ต่างก็ตกเป็นเป้าสายตาของใครหลาย ๆ คน โดยเฉพาะกลอยใจนั้นต่างก็มีสายตาอยากรู้อยากเห็นของหลายคนมองตาม"นั่นมันยัยกลอยนี่"เสียงกระซิบกระซาบของอดีตเพื่อนร่วมงานของเธอพูดคุยกัน เกมส์กับน้ำฟ้าคงเชิญคนทั้งบริษัท กลอยใจคล
"โอ้..ว่าแล้ว"หลังจากที่กลอยใจเปิดประตูรั้วเข้าไปในบ้านเธอก็อุทานออกมา บริเวณหน้าบ้านในตอนนี้หญ้าขึ้นรก ดอกไม้ต้นไม้ก็เหี่ยวเฉา ฝุ่นเกาะเต็มตรงระเบียงหน้าบ้าน และขอบหน้าต่าง และภายในบ้านก็คงไม่ต่างกัน"นี่แหละค่ะบ้านของกลอย เชิญทุกคนค่ะ"เมื่อเธอพูดจบก็ดันประตูหน้าบ้านให้เปิดกว้างออก น้ำผึ้ง กุหลาบ กันต์แล้วก็หาญกล้าจึงลากกระเป๋าเสื้อผ้าเดินเข้าไปบ้านของกลอยใจเป็นบ้านเดี่ยว สามห้องนอนสองห้องน้ำลักษณะเหมือนบ้านในหมู่บ้านจัดสรรทั่วไป เธอซื้อบ้านหลังนี้ด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง เมื่อก่อนเธออยู่กับยายแต่พอยายเสียเธอก็เลยอยู่คนเดียว บ้านของน้ำฟ้าก็อยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้แต่อยู่ถัดไปอีกซอย"คุณกลอย ต้องทำความสะอาดกันยกใหญ่เลยนะเนี่ย"กุหลาบเอ่ยขึ้นมา เพราะมองดูสภาพแล้วถ้าไม่ทำความสะอาดก่อนคงเข้าพักไม่ได้แน่ ๆ กลอยใจพยักหน้าเห็นด้วย เธอไปอยู่กับกันต์ก็สี่ห้าเดือนแล้ว อีกอย่างตอนไปก็ไปอย่างกะทันหันจึงไม่ได้ฝากให้ใครช่วยดูแล ค่าน้ำค่าไฟเธอก็อาศัยจ่ายผ่านช่องทางออนไลน์เอา"เดี๋ยวกลอยโทรหาบริษัทรับทำความสะอาดมาช่วยจัดการ""ไม่ต้องหรอกคุณกลอย พวกเราช่วยกันทำก็ได้จ้ะ"น้ำผึ้งพูดขึ้นมา กุหาบกับหาญก
"พ่อกันต์วันนี้พาแม่กลอยไปหาหมอเลยนะ"ป้าสุนีย์หันไปบอกหลานชาย"ทำไมครับป้า ? กลอยป่วยหนักขนาดนั้นเลยเหรอครับ""ไม่ได้ป่วยแต่แม่กลอยกำลังแพ้ท้อง""แค่แพ้ท้อง ทำไมต้องไปหาหมอ อะ อะไรนะครับ แพ้ท้อง ?"กันต์ตะกุกตะกักถามด้วยความตื่นเต้น จับมือของเมียมาเขย่าพร้อมกับละล่ำละลักถาม"จริงเหรอกลอย ?""ยังไม่แน่ค่ะ แต่ประจำเดือนเลื่อนมาสองอาทิตย์แล้ว"กลอยใจเองก็อ้อมแอ้มตอบสามี รู้สึกตื่นเต้นปนกังวลเหมือนกัน"เราไปโรงพยาบาลกันเลยดีกว่า"กันต์ดึงมือเมียรักให้ลุกขึ้น เห็นท่าทางตื่นเต้นของหลานชายป้าสุนีย์ก็ส่ายหน้า"แม่กลอยยังกินข้าวไม่อิ่ม"กันต์จึงพึ่งนึกได้ ประคองเมียให้นั่งลงเหมือนเดิม ตัวเขาเองก็เพิ่งกินข้าวไปได้แค่สองสามคำเหมือนกัน "แบบนี้ต้องรีบจัดงานแต่ง"ป้าสุนีย์บอกกับสองผัวเมีย ความจริงแล้วท่านเองก็ตื่นเต้นไม่น้อย นึกไปถึงตอนที่มีเด็กตัวเล็ก ๆ มาวิ่งเล่นในบ้านแล้วก็ยิ้มอย่างมีความสุข คงต้องสร้างบ้านหลังใหม่เอาให้ใหญ่กว่าเดิม และท่านก็จะเป็นคนเลี้ยงเจ้าหนูหรือยัยหนูเองกับมือ บางทีท่านจะย้ายตัวเองไปอยู่บ้านเดียวกันกับหลานชายและหลานสะใภ้เลยดีกว่า"ใช่ครับป้า"แล้วก็หันไปพูดกับกลอยใจ"เราแ
บุหงาขับรถหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยความเร็วสูง ภูมิที่นั่งเบาะข้าง ๆ ไม่กล้าขยับตัวเลยแม้แต่นิดเดียว ได้แต่มองหน้าแม่ด้วยความหวาดกลัวย้อนไปเมื่อสองอาทิตย์ก่อน "เพี๊ยะ !!""ฮือ ๆ ไอ้ผัวชั่ว"เสียงทะเลาะตบตีกันของแม่กับพ่อยังคงดังออกมาจากห้อง ภูมิได้แต่นั่งหลบอยู่ใต้โต๊ะกินข้าวด้วยความหวาดกลัว"โอ๊ย ! มึงหยุดนะอีบุหงา"เสี่ยนพร้องเสียงดังลั่นเมื่อบุหงาขว้างแจกันโดนหัวของเขา รู้สึกปวดแปลบที่หน้าผากและเหมือนมีของเหลวสีแดงอุ่น ๆ ไหลลงมาที่ข้างแก้ม เมื่อเห็นดังนั้นเขาก็โมโหขีดสุดเดินตรงปรี่เข้าไปหาบุหงาทันที และเมื่อเข้ามาใกล้ตัวของบุหงาเขาก็เงื้อมือขึ้นหมายจะตบลงไปที่ใบหน้าของเธอ"ฟุบ !"ร่างของเสี่ยนพหงายผึ่งลงไปทันที ที่หน้าผากมีรูกระสุนขนาด .22 มม. ปรากฏอยู่ ปืนกระบอกนั้นเป็นของเขาเอง บุหงาทรุดนั่งลงกับพื้น ทั้งหัวเราะและร้องไห้สลับกันไปมา มองปืนในมือที่ใส่ที่เก็บเสียงอย่างเลื่อนลอย นานนับสิบนาทีเธอจึงได้ลุกขึ้นและเดินออกไปหาภูมิเมื่อเสียงในห้องนอนของแม่กับพ่อเงียบไปแล้วภูมิจึงค่อย ๆ คลานออกมาจากใต้โต๊ะ ก็เห็นว่าแม่ของเขาออกมาจากห้องแล้ว ส่วนพ่อก็คงออกจากบ้านเหมือนเช่นทุกครั้ง แต่คราวน
น้ำผึ้งหาเก้าอี้มาให้เมธีนั่ง พร้อมกับหาน้ำหาท่ามาเสิร์ฟ ไม่นานกันต์ก็มาถึง"เอามา"กันต์ไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรแบมือไปตรงหน้าของเมธี เขาจึงยื่นซองเอกสารสีน้ำตาลให้เพื่อนรัก กันต์รีบเปิดดูทันที เมธีส่ายหน้าเอือมระอากับพฤติกรรมของเพื่อน ขอบอกขอบใจเขาสักคำก็ไม่มี แต่ก็ชินแล้วล่ะ เดี๋ยวถ้ามันนึกได้มันก็คงขอบใจเองแหละเมื่อกันต์อ่านทุกตัวอักษรบนเอกสารแผ่นนั้นอย่างละเอียดแล้วเขาก็กระโดดกอดเมธีแล้วก็จุ๊บแก้มเพื่อนไปหนึ่งที"อี๋ ไอไอ้ไอ้บ้า"เมธีถูแก้มข้างที่โดนจุ๊บอย่างแรง กันต์ไม่ได้สนใจท่าทางของเพื่อน รีบเดินเข้าไปหาเมียรักและเอาเอกสารแผ่นนั้นให้กลอยใจอ่าน และเมื่อเธออ่านจบแล้วก็หันไปมองภูมิด้วยความสงสาร ไม่รู้ว่าหากนำเรื่องนี้ไปคุยกับบุหงาภูมิจะโดนอะไรบ้าง"ไอ้หมอ มานี่"กันต์กวักมือเรียกเพื่อนที่กำลังถูแก้มด้วยความสยดสยองให้เดินเข้ามาหา เมธีก็เดินเข้ามาอย่างงง ๆ"กลอยนี่เมธี เพื่อนของพี่""สวัสดีค่ะ"กลอยใจยกมือไหว้ "นี่กลอยใจเมียของข้า""สวัสดีครับ"กันต์เล่าให้เขาฟังแล้วเรื่องกลอยใจ ก็ดูสวยเหมาะสมกันดีแหละกับไอ้กันต์ แต่เขาสะดุดตาแม่สาวน้อยผิวสีน้ำผึ้งนัยน์ตาโศกคนนั้นมากกว่า เพราะถ้าเกิ
หลังจากที่กลับมาจากโรงพยาบาลบุหงาพบว่าไม่มีใครอยู่ที่บ้านเลยสักคน กันต์ไปไหนนะ ? เธอจึงอาละวาดและทำลายข้าวของในบ้านจนพังเสียหายเกือบหมด แล้วก็กลับไปที่บ้านของเธอ"แม่กลับมาแล้ว"ภูมิวิ่งไปหาแม่ของเขาที่กำลังเดินเข้ามาในบ้านด้วยความดีใจ "หยุด ! ไม่ต้องเข้ามา"แต่บุหงาตวาดลูกเสียก่อน ภูมิหยุดชะงักเดินก้มหน้ากลับไปหาตากับยาย"บุหงา พูดกับลูกดี ๆ หน่อย"นายหัวเข้มตำหนิลูกสาว ส่วนยายนั้นก็กอดปลอบหลานชายตัวน้อย"เพราะมันชีวิตหนูถึงได้เป็นแบบนี้" พูดจบบุหงาก็เดินเข้าไปในห้อง ไม่สนใจลูกแล้วก็พ่อกับแม่อีก ทั้งสองท่านได้แต่มองหน้ากันแล้วก็ถอนหายใจ "กินขนมเถอะนะลูก""ครับยาย"หนูน้อยกินขนมที่คุณยายส่งมาให้ พลางชะเง้อตามหลังแม่ อยากจะเข้าไปกอดแต่ก็ไม่กล้า บุหงานอนร้องไห้อยู่บนเตียง ตั้งแต่เธอตั้งท้องเสี่ยนพก็เปลี่ยนไป เธอจึงคิดว่าเป็นเพราะลูกที่ทำให้ชีวิตของเธอเป็นแบบนี้ เพราะตั้งแต่มันเกิดมาก็มีแต่เรื่องเฮงซวยตลอด เธอหารู้ไม่ว่าที่เสี่ยนพเป็นแบบนั้นไม่ใช่เพราะเขาเปลี่ยนไปแต่มันคือสันดานที่แท้จริงของเขาต่างหากคำพูดหวาน ๆ การเอาใจสารพัดในตอนที่คบกันใหม่ ๆ นั้นเพราะเสี่ยนพเห็นว่าเธอร่ำรวยและหน้
และแล้วก็มาถึงวันที่จะไปรับฟังผลตรวจ DNA ซึ่งน่าแปลกมากหลังจากที่วันนั้นวันที่บุหงาไปสลบที่หน้าบ้านของกันต์เธอก็ไม่ได้ไปรังควานอะไรเขาอีก เพราะคงจะมั่นใจในผลตรวจจนน่าสงสัยกันต์กับกลอยใจไปรับป้าสุนีย์แล้วจึงเลยไปที่โรงพยาบาลและพอไปถึงก็พบว่าครอบครัวของบุหงาไปรออยู่ที่นั่นเรียบร้อยแล้วเมื่อทุกคนไปกันครบแล้วเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลก็ถือซองใส่ผลตรวจ DNA ของกันต์กับน้องภูมิออกมา เขาสบตากับบุหงาแวบหนึ่งก่อนจะยื่นซองให้กันต์"เปิดดูได้เลยครับ"กันต์จึงเปิดซองเอกสารออกมาและค่อย ๆ ไล่สายตาไปตามตัวอักษรในกระดาษแผ่นนั้น'ผลการตรวจ DNA ปรากฏว่า โครโมโซมมีความคล้ายคลึงกัน 99.999 % ยืนยันว่าบุคคลทั้งสองเป็นพ่อลูกกัน'กันต์รู้สึกตกใจและแปลกใจเป็นอย่างมากกับผลตรวจ กลอยใจเองก็เช่นกันแม้ว่าเธอจะทำใจไว้แล้วส่วนหนึ่งก็ตาม"ฮึ ฮึ ฮ่า ๆๆๆ"บุหงาหัวเราะออกมาอย่างพอใจและสะใจ"ว่าไงคะกันต์ พอใจรึยัง"กันต์ไม่พูดกับบุหงาแต่หันไปหานายหัวเข้มกับคุณนายจันทราและคุยกับพวกท่านทั้งสองแทน"เราคงมีเรื่องต้องคุยกันอีกหลายเรื่อง ยังไงผมจะไปหานายหัวที่บ้านนะครับ"พูดจบแล้วกันต์ก็จูงมือของกลอยใจและหันไปมองป้าสุนีย์ เดินพา
"อะไรกันเนี่ย !?"น้ำผึ้งร้องโวยวายก่อนจะโทรหาหาญกล้า เพราะสภาพที่อยู่ตรงหน้าของเธอตอนนี้เละเทะไปหมด ข้าวของภายในบ้านโดยเฉพาะห้องนอนนั้นแตกเสียหายยับเยิน ประมาณสิบนาทีหาญกล้าก็ขับรถเครื่องมาถึง "พี่โทรบอกนายหัวแล้วเดี๋ยวนายหัวก็มา"น้ำผึ้งมาทำความสะอาดและจะนำผ้าห่มกับผ้าปูไปซักตามปกติ แต่พอมาเห็นสภาพบ้านของนายหัวที่บุหงาทำเอาไว้ เธอก็ทำอะไรไม่ถูกโมโหมากเพราะคนที่เก็บกวาดนั้นเป็นเธอ แต่งานนี้คงไม่ไหวเพราะเละเทะขนาดนี้คงต้องเก็บทิ้งแล้วล่ะระหว่างรอนายหัวน้ำผึ้งกับหาญกล้าก็ช่วยกันเก็บกวาดของบางส่วนเท่าที่พอจะทำได้ไปก่อน"พี่หาญ ชั้นว่าแม่บุหงานี่คงเป็นโรคจิตแน่ ๆ เลย ดูสิทำบ้านช่องคนอื่นพังเสียหายหมด"น้ำผึ้งวิพากษ์วิจารณ์แฟนเก่าของเจ้านายด้วยความโมโห ตอนที่บุหงาคบกับเจ้านายของเธอนั้นบุหงามักจะจิกหัวใช้คนงานแทบทุกคนรวมทั้งน้ำผึ้งด้วย ดีที่เลิกกับนายหัวไปได้ไม่งั้นคงวุ่นวายน่าดูเมื่อกันต์กับกลอยใจมาถึงและเห็นสภาพบ้านก็ได้แต่ส่ายหน้า เขาบอกให้น้ำผึ้งเก็บของที่แตกเสียหายทิ้ง เอากระเป๋าของบุหงามาวางไว้ที่ใต้ถุนบ้าน แล้วก็ล็อคกุญแจปิดบ้านเอาไว้ ก่อนที่จะพากันออกจากบ้านบุหงาก็ขับรถมาถึงพอดี