บทที่ 2 โคแก่ชอบกินหญ้าอ่อน
“มานี่สิ” หลังจากที่มาถึงเพนต์เฮาส์ภาคย์ก็ให้เด็กหนุ่มไปอาบน้ำ ก่อนจะมาจิบไวน์รออีกฝ่ายที่ปลายเตียง เมื่อเด็กหนุ่มออกมาผิวขาวนวลตัดกับหลอดไฟ ใบหน้าหวานที่กำลังแดงก่ำ เต็มไปด้วยหยาดน้ำเกาะพราว ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินมานั่งบนตักแล้วโอบรอบคออีกฝ่ายไว้แล้วเอ่ยด้วยเสียงหวานว่า
“ตอนนี้เตตัวหอมแล้วคุณป๋าลองดมดูสิ” เตโชยื่นซอกคอที่ตั้งใจขัดถูให้อีกฝ่ายดมถึงปลายจมูก ภาคย์ไม่ขัดความต้องการของเด็กหนุ่มก่อนจะสูดจมูกลงที่ผิวเนื้อ แล้วดูดดึงจนขึ้นรอยแดง เรียกเสียงครางอืออาในลำคอของเตโชให้อารมณ์ของภาคย์พุ่งสูงขึ้น ก่อนจะลูบมือไปที่ต้นขาขาวเนียนตามรอยแยกของเสื้อคลุมอาบน้ำ แล้วบีบนวดเต็มแรงมือ
“หอมมากค่ะ ไหนให้ป๋าดมใกล้ๆ อีกทีสิคะ” เมื่อได้ยินเตโชก็ยกยิ้มก่อนจะยกมืออีกฝ่ายขึ้นมาจับที่หน้าอกนุ่มนิ่มของตัวเอง พร้อมกับเอ่ยกระซิบเสียงหวานว่า
“ดมตรงนี้เลยนะคะคุณป๋า” เตโชเอ่ยพร้อมแอ่นหน้าอกให้อีกฝ่าย พร้อมกับมองด้วยสายตาหวานหยดย้อย ภาคย์กลืนน้ำลายก่อนจะก้มลงซุกใบหน้าเข้าหาอกนุ่มนิ่มของอีกฝ่าย แล้วสูดจมูก เตโชกัดริมฝีปากเมื่อได้ยินเสียงสูดลมหายใจเข้า ก่อนจะโอบรอบคออีกฝ่ายเพื่อให้เข้าหาหน้าอกตัวเองด้วยความประหม่า นี่เป็นครั้งแรกจริงๆ ที่มีคนจับเนื้อต้องตัวตัวเองมากขนาดนี้หากไม่ประหม่าก็คงแปลกแล้ว เตโชตัวสั่นจนภาคย์ต้องเงยขึ้นมามองใบหน้า แล้วยกมือขึ้นลูบแก้มอีกฝ่าย พลางเอ่ยด้วยเสียงอ่อนโยนว่า
“กลัวหรือคะเด็กดี?” เมื่อได้ยินเตโชก็เม้มปากก่อนจะพยักหน้ารับ แล้วจับมือกอดแขนภาคย์ไว้แน่น พลางเอ่ยด้วยเสียงออดอ้อนน่าสงสารว่า
“ไม่เคยมีใครทำแบบนี้กับเตมาก่อน เตกลัวครับคุณป๋า” เมื่อได้ยินภาคย์ก็กอดเด็กหนุ่มแน่น ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงอ่อนโยนว่า
“ไม่ต้องกลัวนะคนดี ฉันสัญญาว่าจะอ่อนโยน” เมื่อได้ยินเตโชก็พยักหน้ารับ ก่อนจะกอดอีกฝ่าย แล้วถูกเจ้าตัวกดลงบนเตียงจนนอนแผ่หลากับเตียง ก่อนจะเม้มปากเมื่ออีกฝ่ายเอ่ยขึ้นว่า “ไหนช่วยฉันถอดเสื้อหน่อยสิ” เมื่อได้ยินเตโชก็เม้มปาก ยกมือสั่นๆ ขึ้นถอดเสื้อเชิ้ตอีกฝ่ายออกจากตัว แล้วเท้าแขนตัวเองกับเตียง ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงออดอ้อนว่า
“คุณป๋าหุ่นดี” เตโชเขินอายหน้าแดง พลางยกมือขึ้นสัมผัสกล้าหน้าท้องขึ้นเป็นลอนกล้ามของอีกฝ่าย ก่อนจะบีบเบาแล้วช้อนสายขึ้นมองอีกฝ่ายอย่างมีเลศนัย ภาคย์ที่เห็นว่าเด็กหนุ่มไม่ประสาแต่พยายามเอาอกเอาใจตัวเองก็เกิดความพอใจ ก่อนจะก้มลงแล้วบดจูบเด็กหนุ่มอย่างอ่อนโยน
“อ้าปากแลบลิ้นออกมาค่ะเด็กดี”
“แบบนี้หรือครับ?” เตโชอ้าปากพลางแลบลิ้นออกมา ก่อนจะเม้มปากเมื่ออีกฝ่ายดูดกลืนลิ้นตัวเองเข้าไปในปากเจ้าตัว เตโชยกมือขึ้นลูบที่ข้างลำคออีกฝ่าย ก่อนที่ภาคย์จะดึงเอาเชือกที่มัดที่เอวเจ้าตัวออก เผยให้เห็นร่างกายเปลือยเปล่า เตโชยกมือขึ้นปกปิดจุดน่าอาย ก่อนจะชันเข่าขึ้นแล้วเอ่ยด้วยเสียงเบาว่า
“คุณป๋าชอบหุ่นเตไหมครับ?” เมื่อได้ยินภาคย์ก็มองเด็กหนุ่มด้วยความกระหาย ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงแหบพร่าทุ้มต่ำในลำคอว่า
“ชอบค่ะ” เมื่อได้ยินเตโชก็อ้าขาออก เผยให้เห็นเครื่องเพศที่กำลังอ่อนตัวและช่องทางด้านหลังที่เจ้าตัวบรรจงขยายเพื่อเตรียมรับมือกับอีกฝ่ายในห้องน้ำ ภาคย์ไม่รอช้าก้มลงจูบที่หน้าท้องขาว ก่อนจะไล้ลิ้นขึ้นไปตามลิ้นปี่ ใต้ราวนม และมาถึงจุกนมสีชมพูสวย ก่อนจะดูดดึง อีกมือก็บีบเคล้นหน้าอกอีกข้างอย่างมันเขี้ยว เตโชที่โดนปรนเปรอตัวสั่นด้วยความกลัว และความอยากรู้อยากลอง ก่อนจะอ้าขากว้างเพื่อให้อีกฝ่ายแทรกตัวเข้ามาระหว่างขา จนเครื่องเพศอันน้อยแนบกับหน้าท้องอีกฝ่าย มือทั้งสองข้างของเตโชโอบรอบคออีกฝ่ายแล้วบีบนวดเบาๆ พลางเอ่ยหน้าอกให้เจ้าตัวไล้เลียอย่างเอาใจ
“อืม” เตโชครางในลำคอเพราะความเสียวที่ได้รับ ก่อนจะกระดกเอวเสียดสีกับหน้าท้องอีกฝ่าย จนได้เสียงน้ำเฉอะแฉะ ภาคย์ที่เห็นว่าเด็กหนุ่มกำลังอารมณ์พุ่งสูง มีสีหน้ายินดี ก่อนจะผละปากออกจากหน้าอกนุ่ม แล้วเอ่ยด้วยเสียงแหบพร่าว่า
“จับขาไว้ค่ะ”
“แบบนี้หรือครับ?” เตโชจับข้อพับขาของตัวเองทั้งสองข้าง และเบะออก เผยให้เห็นเครื่องเพศเล็กๆ ที่กำลังตั้งชันฉ่ำน้ำ กับช่องทางหวานที่กำลังเปียกชุ่มด้วยของเหลว ภาคย์จ้องมองด้วยสายตาวาววับ ก่อนจะใช้นิ้วสะกิดเขี่ยที่ปากทางเข้า ทำเอาเตโชเงยหน้าเริดขึ้นมองเพดานด้วยความตกใจและความเสียวที่ได้รับจนขนลุกซู่
“อื้อ” เตโชครางเสียงสั่นเมื่อนิ้วของอีกฝ่ายกำลังกดเข้าไปด้านในพร้อมกันถึงสองนิ้ว ก่อนจะที่ภาคย์จะนิ่งชะงักแล้วงอนิ้วกดกระแทกไปรอบๆ เพื่อหาจุดกระสันของอีกฝ่าย จนกระทั่งเตโชตาเบิกกว้างเกร็งรูแน่น จนภาคย์เลียริมฝีปากเมื่อเห็นท่าทางของเด็กหนุ่ม “อื้ม!”
“เสียวใช่ไหมคะ?” เมื่อได้ยินเตโชก็พยักหน้ารับ ก่อนจะมองอีกฝ่ายตาละห้อยความรู้สึกที่โดนเมื่อกี้นี้มันรู้สึกดีมาก มากจนผมให้อีกฝ่ายทำอีก จนเตโชอดใจไม่ไหวกระดกเอวถี่ๆ เพื่อกระเด้านิ้วมืออีกฝ่ายอย่างร่านร้อน
“เสียวค่ะ อื้อ!!” เตโชพยักหน้ารับๆ เงยหน้าจ้องเพดานด้วยสายตาฉ่ำน้ำ ก่อนจะเป็นฝ่ายกระดกเอวกระเด้านิ้วอีกฝ่ายที่เกร็งรับด้วยความเสียดเสียว จนได้ยินเสียงฝ่ามือกระทบก้นขาว
“ใจเย็นค่ะเด็กดี อย่างเพิ่งรีบร้อน” ภาคย์เอ่ยด้วยเสียงหยอกเย้า ก่อนจะถอนนิ้วออกจนได้ยินเสียงเด็กหนุ่มครางหวิว ก่อนจะปลดเข็มขัดแล้วรูดซิปลงต่ำ พลางขยับไปคร่อมหน้าอกเล็ก แล้วเอ่ยสั่งว่า “บีบนมหนูเข้าหากันสิคะ?” เมื่อได้ยินเตโชก็เม้มปาก ก่อนจะปล่อยขาที่ว่าแล้วบีบนมเข้าที่แก่นกายอีกฝ่ายที่ใหญ่เท่าข้อมือ ก่อนจะกลืนน้ำลายเมื่อสัมผัสร้อนแข็งกำลังถูกไถที่ร่องอกตัวเอง
“ดี” ภาคย์เอ่ยเสียงต่ำก่อนจะกระดกเอวเข้าหาร่องนมของเด็กหนุ่มอย่างหื่นกระหาย เตโชรู้สึกเสียวที่หน้าอกและแสบร้อนที่หน้าอกมาก ก่อนจะเม้มปากเมื่อส่วนหัวมันกระแทกเข้าที่คางและริมฝีปาก “อ้าปากค่ะคนเก่ง” เมื่อได้ยินเตโชก็อ้าปากจนส่วนหัวเข้าไปในปากจนเต็มปากไปหมด เตโชที่เพิ่งโดนทำแบบนี้ครั้งแรกก็ตื่นตกใจ ก่อนจะเกร็งปากแน่นจนภาคย์แทบขยับไม่ได้
“อื้อ”
“ไม่ต้องเกร็งค่ะ อ้าปากกว้าง ระวังฟันด้วย” เมื่อได้ยินเตโชก็พยักหน้ารับ ก่อนจะอ้าปากรับ ก่อนที่ภาคย์จะถอนตัวออกเมื่อเด็กหนุ่มใต้ร่างหน้าแดงก่ำปากแดงบวมไปหมด พลางใช้ส่วนปลายหัวเกลี่ยที่ปากเล็กบวมแดง “พร้อมหรือยังคะเด็กดี?” เมื่อได้ยินเตโชก็หัวใจเต้นแรง ก่อนจะพยักหน้ารับ แล้วถูกภาคย์ดึงขามาพาดไว้ที่ไหล่ พลางหยิบหมอนมารองเอวเด็กหนุ่ม ก่อนจะหยิบเอาถุงยางอนามัยจากกระเป๋าตังค์มาฉีกออกด้วยปาก แล้วสวมเข้าไป พลางค่อยๆ กดส่วนหัวไปในรูฉ่ำน้ำของเตโช
“คุณป๋า เตเจ็บ” ภาคย์กัดฟันแน่นเพราะความคับแน่นที่ได้รับ ก่อนจะลูบหัวปลอบเด็กหนุ่ม พลางค่อยๆ กดตัวเองเข้าไปด้านในลึกขึ้นเรื่อยๆ
“แทนตัวเองว่าหนูสิคะ ฮ่าส์” ภาคย์เอ่ยพลางขยับเข้าไปอีกนิด ก่อนจะคำรามในลำคอเมื่อความอุ่นร้อนฉ่ำแฉะมันกำลังโอบรัดแก่นกายของตัวเอง
“คุณป๋าขาหนูเจ็บ” เมื่อได้ยินภาคย์ก็ก้มลงจูบเจ้าตัว เพื่อเบี่ยงความสนใจ เตโชที่ได้รับจูบก็โอบรอบคออีกฝ่ายแน่น ก่อนจะพยายามผ่อนคลายตัวเอง แม้จะเจ็บแต่เพื่ออนาคตที่ดีกว่าเตโชทำได้เพียงกัดฟันเพื่อผ่านมันไปเท่านั้น “อ๊า!!” แล้วเตโชก็ต้องกรีดร้องเสียงดัง เมื่อภาคย์กดตัวเองเข้าไปจนสุดในคราวเดียว จนเตโชตัวสั่นเทาบีบรัดแก่นกายด้านในแน่น
“แม่ง!!” ภาคย์สบถเมื่อความคับแน่นกำลังตอดรัดตัวเองตุบๆ ก่อนจะค่อยๆ ถอนตัวเองออก แล้วกดกระแทกเข้าไปใหม่ ทำซ้ำอยู่แบบนั้นจนเด็กหนุ่มนอนตาลอยตาเหลือกเพราะแรงส่งจากการกระเด้า...ด
“อื้อ อื้อ มัน ฮ่าส์ อ่าส์ เสียว อิ๊!!!!” เตโชทำได้เพียงส่งเสียงร้องครางเมื่อแรงส่งจากด้านล่างทำให้ตัวเองล่องลอยไปบนเมฆหมอกที่ภาคย์กำลังสร้างให้เด็กหนุ่มค่อยๆ ไต่ขึ้นไป จนกระทั่งความซ่านเสียวที่ได้รับกำลังเตะเข้าที่ขอบสวรรค์ หยาดน้ำขาวขุ่นของเด็กชายก็รินรดที่หน้าท้องตัวเอง บีบรัดแก่นกายของภาคย์แน่น จนภาคย์ทำได้เพียงกระแทกกระทั้นเข้าไปด้านในอย่างรุนแรง “อื้อ!!!”
“รัดแน่นๆ เด็กดี” เมื่อได้ยินเตโชก็พยายามตั้งสติที่แตกกระเจิงแล้วรัดแน่น ก่อนที่ภาคย์จะปลดปล่อยออกมาจนล้นทะลักถุงยาง พลางดึงถุงยางออก แล้วแตกส่วนเหลือเข้าที่หน้าอกขาวของเด็กหนุ่มจนเตโชนอนหอบกับเตียงอย่างหมดแรง ก่อนที่ภาคย์จะเอ่ยถามด้วยเสียงแหบพร่าว่า “ฉันอยากต่ออีกรอบหนูไหวไหมคะ?” เมื่อได้ยินเตโชก็กัดฟันแน่น ก่อนจะพยักหน้ารับ พลางถูกภาคย์ดึงขึ้นมาบนตัว
“คุณป๋า?” เตโชตัวอ่อนพลางแนบร่างกายเหนียวเหนอะกับอีกฝ่าย ก่อนที่ภาคย์จะลูบหัวเด็กหนุ่ม แล้วเอ่ยถามเสียงจริงจังว่า
“หนูไม่มีโรคอะไรใช่ไหม?” เมื่อได้ยินเตโชก็นัยน์ตาประกายวาบ ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงอ่อนเสียงหวาน
“ไม่มีครับ ที่สำคัญแตกในหนูได้เลยนะหนูฝังยาคุมมาแล้ว” เมื่อได้ยินภาคย์ก้มลงหอมแก้มเด็กหนุ่มที่รู้ใจตัวเอง ก่อนจะตบสะโพกอวบให้คุกเข่า แล้วชักรูดแก่นกายตัวเองจ่อเข้าปากทางที่กำลังอ้าออกฉ่ำน้ำ
“รู้ใช่ไหมคะว่าถ้าโกหกป๋าจะเจออะไร?” เมื่อได้ยินเตโชก็ยิ้มหวาน ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงเอาใจว่า
“คุณป๋าเชื่อได้หนูเป็นเด็กดีของคุณป๋าแน่นอนค่ะ จุ๊บ” แล้วเตก็ทำใจกล้าจุ๊บเข้าที่ปากอีกฝ่าย ก่อนจะค่อยๆ กดสะโพกอวบถูไถปากทางฉ่ำแฉะก่อนจะค่อยๆ กดตัวเองลงไปกลืนกินแท่งร้อนที่กำลังแข็งอวบด้วยท่าทางและสีหน้ายั่วเย้า เตรู้ดีว่าถ้ายังมัวเหนียมอาย ให้ตายคุณป๋าก็อาจจะไม่รับเลี้ยงตัวเอง เพราะฉะนั้นเตทำได้เพียงต้องแรด ต้องร่าน เพื่อมัดใจคุณป๋าเท่านั้น!!! “อื้อ ของคุณป๋าใหญ่จัง” เตเอ่ยเอาใจ ก่อนจะวางมือบนหน้าท้องแกร่ง แล้วค่อยๆ ถดสะโพกขึ้นก่อนจะกดลงอย่างแรงร่อนซ้ายร่อนขวาจนได้ยินเสียงเนื้อต้นขากระทบเข้ากับก้นกลมเป็นจังหวะ
“เด็กร่าน!!”
เพี๊ยะ!!
ภาคย์เอ่ยพลางยกมือขึ้นตีสะโพกอวบ ก่อนจะบีบเนินเนื้อสะโพกแน่นจนเต็มจนล้นเต็มง่ามมือขึ้นรอยแดง “อิ๊!!” เตโชส่งเสียงครางหวานเมื่อภาคย์อดรนทนไม่ไหวกับลีลาทั้งขย่มทั้งร่อนเอวของเด็กหนุ่ม ก่อนจะกระแทกสวนสะโพกขึ้นไปติดกันถี่ๆ จนเตโชตัวสั่นหัวโยกคลอนเจ็บรูไปหมดแต่ต้องทำเหมือนว่าตัวเองมีความสุข แน่ล่ะ ว่าเตโชเจ็บจนแสบรูไปหมด แต่เพื่ออนาคตที่ดีเตโชทำเพียงต้องเอาอกเอาใจอีกฝ่ายอย่างช่วยไม่ได้
ภาคย์กระแทกกระทั้นขึ้นไปก่อนจะปลดปล่อยเข้าไปในรูของเด็กหนุ่มจนหมด ในขณะที่เตโชเอื้อมมือจับรูดแก่นกายตัวเองจนเสร็จตามมาในเวลาต่อมา ก่อนจะนอนซบบนอกของภาคย์ แล้วเอ่ยด้วยเสียงอ่อนแรงว่า “หนูชอบจังเลยค่ะ” เมื่อได้ยินภาคย์ก็ฮึกเหิมหอมหัวหอมแก้มอีกฝ่ายอย่างเอาใจ ก่อนที่เตโชจะเอ่ยด้วยเสียงเบาว่า “ทำอย่างไรดีค่ะหนูติดใจคุณป๋าแล้ว แต่เราคงไม่ได้เจอกันอีกง่ายๆ ” เมื่อได้ยินภาคย์ก็หรี่ตาลงก่อนจะยกยิ้มมุมปาก แล้วเอ่ยกับเด็กหนุ่มเสียงอ่อนว่า
“ทำไมจะไม่ได้เจอกันค่ะ ป๋าบอกแล้วไงว่าจะให้โอกาสหนูได้เรียนหนังสือ” เมื่อได้ยินเตโชก็ตาวาว ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายด้วยสายตาที่ปิดความดีใจไว้ไม่มิด
“คุณป๋าหมายถึงจะรับเลี้ยงหนูใช่ไหมครับ?” เมื่อได้ยินภาคย์ก็พยักหน้ารับ ก่อนจะลูบหัวเด็กหนุ่มเมื่อเจ้าตัวเข้ามากอดตัวเอง ก่อนจะหอมแก้มซ้ายขวาอย่างเอาใจ
“ฟอด ฟอด คุณป๋าน่ารักที่สุดเลย หนูชอบคุณป๊าที่สุด” เมื่อได้ยินภาคย์ก็ยกยิ้มก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงหยอกเย้าว่า
“ถ้าอีกรอบหนูไหวไหมคะ?” เมื่อได้ยินเตโชก็กัดปากอย่างยั่วเย้า ก่อนจะบีบรัดแท่งร้อนที่กำลังค่อยๆ แข็งตัวในรูตัวเองเป็นสัญญาณบอกว่าตัวเองพร้อมรับแค่ไหน
“ไหวสิค่ะ” เมื่อได้ยินเตโชก็ขึ้นขย่มจนภาคย์ทำได้เพียงตบก้นเด็กดื้อที่พยศบนตัวอย่างมันเขี้ยว ก่อนที่คืนนั้นเพนต์เฮาส์ที่ว่านั่นจะตกเป็นของรับขวัญเด็กเลี้ยงคนใหม่ของภาคย์ อัครพิเสธ
................................
ภาคย์ อัครพิเสธ เป็นลูกชายเพียงคนเดียวของอดีตนักการเมือง ปัจจุบันเจ้าตัวดำรงตำแหน่งเป็นประธานบริษัท เภตรา ฟาร์มาซูติคอล บริษัทผลิตยาและจำหน่ายไปทั่วโลก ซึ่งเป็นของมารดาที่ทิ้งไว้ให้ เพราะฉะนั้นมูลค่าเม็ดเงินของอีกฝ่ายเรียกได้ว่าล้นเหลือ และมันล้นเหลือเสียจนภาคย์นำมาใช้จ่ายกับการเลี้ยงดูเด็กๆ ในปกครอง ใช่ เตโชไม่ใช่เด็กคนแรกหรือคนสุดท้ายที่ภาคย์คิดจะเลี้ยงดู แต่เป็นหนึ่งในเด็กในปกครองที่ตอนนี้ภาคย์กำลังให้ความสนใจ เจ้าตัวไม่ได้เรียกร้องมากเกินไป เอาใจเก่ง ฉลาดคิด ฉลาดพูด และที่สำคัญเจ้าตัวอยู่เป็น เพราะฉะนั้นไม่แปลกใจถ้าในหนึ่งเดือนที่ผ่านมานี้ภาคย์จะไปหาเตโชอยู่บ่อยครั้ง และวันนี้เองก็เช่นกันเด็กหนุ่มออกมารอรับตัวเองด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม พลางเขย่งเท้าหอมแก้มตัวเอง ก่อนจะเอ่ยต้อนรับเสียงหวานว่า “ยินดีต้อนรับกลับครับคุณป๋า”
เมื่อได้ยินหัวใจของภาคย์ก็ชุ่มชื้น ก่อนจะเดินไปโอบเอวเจ้าตัวมาหอมแก้มอยู่หลายฟอดเพื่อคลายความมันเขี้ยว “คิดถึงป๋าหรือเปล่า?” เมื่อได้ยินเตโชก็ยกยิ้ม ก่อนจะพยักหน้ารับ แล้วโอบรอบคออีกฝ่าย พลางเขย่งเท้าจูบที่มุมปากอีกฝ่าย แล้วเอ่ยอย่างเอาใจว่า
“แน่นอนครับ หนูคิดถึงคุณป๋ามาก” ภาคย์จ้องมองเตโชด้วยสายตาอ่อนลง ตนไม่ได้มาหาเจ้าตัวถึงสามวัน แต่เตโชยังคงทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่ได้ร้องไห้เสียใจเรียกร้องอะไร แต่กลับเอาอกเอาใจตัวเองอย่างออดอ้อน แล้วมีหรือที่ภาคย์จะไม่ชอบบุคลิกนิสัยแบบนี้
“ป๋าได้กลิ่นหอม ทำอาหารไว้หรือครับเด็กดี?” เตโชยกยิ้มจนนัยน์ตาหรี่ลงเป็นเสี้ยวก่อนจะเอ่ยตอบ
“ใช่ครับ เป็นอาหารบ้านๆ คุณป๋าจะชอบไหม?” เมื่อได้ยินภาคย์ก็กอดเอวพาอีกฝ่ายเดินเข้าไปที่ห้องอาหาร ทันเห็นอาหารสองสามอย่างที่ขึ้นชื่อ ต้มยำกุ้ง ไข่เจียว และหมูทอดกระเทียม ภาคย์ไม่ได้เรื่องมากเรื่องการกิน แต่การมีคนเอาใจแบบนี้มีหรือที่ภาคย์จะไม่ชอบ
“ชอบแน่นอน มาทานกันเถอะ” เมื่อได้ยินเตโชก็ผละออกหันมาตักข้าวสวยเตรียมจานให้พร้อมต่อการรับประทานอาหารก่อนจะนั่งลงด้านข้าง แล้วเริ่มตักอาหารภาคย์อย่างเอาใจ
“คุณป๋าทานอันนี้ด้วยครับ” ภาคย์อ้าปากรับการป้อนจากเด็กหนุ่ม ก่อนจะพยักหน้ารับ ไม่ถือว่าอร่อย แต่ถูกปากใช้ได้ ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงอารมณ์ดีว่า
“เราทำอาหารอร่อย คุณป๋าส่งเราไปเรียนทำอาหารเพิ่มดีไหม?” เมื่อได้ยินเตโชก็พยักหน้ารับอย่างดีใจ ก่อนจะหอมแก้มภาคย์อย่างดีใจ
“ขอบคุณครับคุณป๋า” เตโชเอ่ยอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะยกยิ้มหวาน
“เดี๋ยวอีกวันสองวันจะมีครูเข้ามาสอนพิเศษเรานะ เรียนม.ปลายแบบโฮมสคูลไปก่อน แล้วค่อยไปสอบเทียบเอาที่หลัง หลังจากได้ใบสอบเทียบแล้วค่อยไปเข้าเรียนมหาลัยฯ” เมื่อได้ยินเตโชก็ตาวาวก่อนจะลุกจากที่นั่งแล้วเดินไปนั่งบนตักของอีกฝ่าย ก่อนจะยกมือไหว้แนบอกพลางเอ่ยด้วยเสียงหวานว่า
“ขอบคุณคุณป๋าที่ให้โอกาสหนูนะคะ” ก่อนที่เตโชจะช้อนสายตาเงยหน้ามองภาคย์ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรัก ทำเอาภาคย์รู้สึกกระชุ่มกระชวย ก่อนจะยกมือขึ้นกอดเด็กหนุ่มแล้วเอ่ยด้วยเสียงแหบพร่า
“ป๋ารอรางวัลของหนูอยู่นะคะ” เมื่อได้ยินเตโชก็ยกยิ้มก่อนจะพยักหน้ารับ และคืนนั้นเตโชก็ให้รางวัลคุณป๋าไปอีกหลายน้ำ
+++++
Lady Zombie
24/11/67
บทที่ 3 เงยหน้าอ้าปาก / ลืมตาอ้าปากเกือบเดือนแล้วที่เตโชได้มาอยู่ที่นี่ เพนต์เฮาส์หรูใจกลางเมืองแบบนี้ ทุกวันจะมีอาจารย์เข้ามาสอนความรู้ของชั้นมัธยมปลายให้ตัวเองเป็นประจำ พร้อมกับป้าแม่บ้านที่คอยเข้ามาสอนตัวเองทำอาหารในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ เรียกได้ว่าชีวิตของเตโชกำลังไปได้สวย ไม่มีอีกแล้วเตโชที่เป็นที่รองมือรองตีนของคนในบ้าน ตอนนี้มีแต่ ‘คุณเต’ เท่านั้น และใช่ เมื่อเริ่มมีกินมีใช้เตก็เริ่มเก็บเงิน และใช้จ่ายซื้อเสื้อผ้า และผลิตภัณฑ์ต่างๆ มาดูแลตัวเองให้ดีขึ้นกว่า สังเกตได้จากใบหน้าที่ดูดีกว่าเดิมเพราะได้รับการบำรุงอย่างต่อเนื่อง และวันนี้เตโชก็มีแขกมาหาตนเอง ตอนแรกเตโชคิดว่าเป็นคนจากนิติฯ ที่เอาพัสดุขึ้นมาส่งให้ แต่ใครจะไปคาดคิดว่าคนที่มาคือพี่ปอ หญิงสาวที่พาเตโชเข้ามาในวงการนี้“พี่ปอ?” เมื่อหญิงสาวเห็นท่าทางของเตโชก็พยักหน้ารับ ไม่เสียแรงที่เธอฝึกอบรมอีกฝ่ายอยู่หลายวัน“ฉันเห็นแกส่งที่อยู่มาให้เลยมาดูเสียหน่อยว่าเป็นอย่างไรบ้าง ดูดีนี่” เมื่อได้ยินเตโชก็เชิญอีกฝ่ายเข้ามาในบ้าน ก่อนจะไปหยิบเอาน้ำและขนมมาต้อนรับอีกฝ่ายอย่างเป็นกันเอง“ถ้าไม่ได้พี่เตคงไม่ได้ลืมตาอ้าปากได้แบบนี้หรอ
บทที่ 4 ช้า ๆ ได้พร้าสองเล่มงามเตโชมองดูรถยนต์คันหรูที่จอดอยู่ใต้เพนต์เฮาส์ด้วยสายตาวาววับ ก่อนจะวิ่งเข้าไปกอดคุณป๋าที่กำลังยืนมองตัวเองอยู่ด้วยความดีใจว่า “ขอบคุณครับคุณป๋า!!” ภาคย์ย่อตัวรับตัวเด็กหนุ่มไว้ในอ้อมกอด ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงอารมณ์ดีว่า“คราวนี้หนูจะได้ขับรถพาป๋าไปเที่ยวได้แล้ว” เมื่อได้ยินเตโชก็มีนัยน์ตาวาววับ ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงเอาใจว่า“แน่นอนครับ คุณป๋าอยากไปที่ไหน เดี๋ยวหนูจะขับพาไปเอง” เมื่อได้ยินภาคย์ก็ยกยิ้มเอ็นดู ก่อนจะลูบหัวอีกฝ่าย “ถ้าอย่างนั้นคุณป๋าว่างไหมครับ เราออกไปขับรถเล่นกัน?” เมื่อได้ยินภาคย์ก็ยกยิ้มอ่อน ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงหยอกเย้าว่า “เรามีใบขับขี่แล้วหรือ?” เมื่อได้ยินเตโชก็เบิกตากว้างอย่างคนเพิ่งนึกได้ ก่อนจะยู่ปากแล้วพูดด้วยเสียงเล็กเสียงน้อยว่า“ถ้าอย่างนั้นเอาไว้เตไปทำใบขับขี่แล้ว ถ้าวันไหนคุณป๋าว่างเราออกไปขับรถเล่นกันนะครับ?” เมื่อได้ยินภาคย์ก็ยกยิ้มอ่อน เด็กหนุ่มไม่เร่งรัดตัวเองให้ทำอย่างที่ใจต้องการ แต่เลือกที่จะหาวันว่างของภาคย์เองทำเอาภาคย์พออกพอใจลึกๆ ไม่ได้ที่เด็กหนุ่มฉลาดคิดฉลาดพูดให้ตัวเองพอใจอยู่เสมอ“โอเคค่ะ” เมื่อได้ยินเตโชก็กอดแขนพาคุ
บทที่ 5 ซื่อเหมือนแมวนอนหวด‘ดิน’ เป็นเด็กบ้านนอก ตอนนี้เจ้าตัวเพิ่งเรียนจบได้ทำงานในบริษัทลูกในเครือของอัครพิเสธ แม้จะไม่มีใครรู้เรื่องที่ตัวเองเป็นเด็กเลี้ยงของท่านประธาน แต่เชื่อเถอะว่าคนระดับสูงบางคนก็ไว้หน้าดินอยู่หลายส่วน ดินที่เป็นเด็กต่างจังหวัดจึงได้เริ่มเหิมเกริม เพราะเมื่อเห็นว่าคุณภาคย์ไม่ได้ห้ามปรามอะไรตัวเองจริงจังจึงเริ่มได้ใจ ดินเม้มปากจ้องมองบานประตูในคอนโดฯ ด้วยสายตาสั่นไหว เมื่อชั่วโมงที่แล้วคุณท่านให้คุณพัดเลขาฯ ของตนโทรมาหาดินเพื่อบอกว่าคุณท่านจะพาตัวเองไปดินเนอร์ แต่ผ่านมาชั่วโมงกว่าแล้วคุณภาคย์ก็ยังไม่มาดินเลยเริ่มใจเสีย ก่อนจะตื่นตกใจเมื่อเสียงเปิดประตูดังขึ้น “คุณป๋า?” ดินลุกขึ้นยืนรีบเดินออกไปที่ประตูแต่คนที่เข้ามากลับไม่ใช่ภาคย์ แต่เป็นพัด เจ้าตัวพยักหน้าทักทายดินก่อนจะผายมือเพื่อเชิญออกไปข้างนอกว่า“ท่านประธานรออยู่ครับ” เมื่อได้ยินดินก็เดินกลับไปหยิบกระเป๋ามาแล้วเร่งฝีเท้าลงไปชั้นจอดรถ เมื่อเห็นรถคันหรูที่คุ้นตา ดินก็รีบเปิดประตูเข้าไป ทันได้เห็นว่าภาคย์กำลังนั่งปลดกระดุมข้อมืออยู่บนที่เบาะด้านหลัง“คุณป๋า” ดินเรียกอีกฝ่ายอย่างดดีใจ ก่อนจะเข้าไปนั่งด้านข้า
บทที่ 6 กำแพงมีหูประตูมีช่อง / กำแพงมีหูอี้นั่งกัดเล็บอยู่ภายในห้องนอนอย่างขบคิดเมื่อได้รับจดหมายเตือนจากท่าน แน่นอนว่าการกระทำที่เหมือนยุแยงของตนกับเจย์รู้ถึงหูท่านจริงๆ แม้จะโดนเพียงจดหมายเตือนแต่การอยู่เฉยๆ ย่อมไม่ใช่วิสัยของอี้ มีเด็กใหม่มากมายที่เข้ามาใหม่แล้วอยู่ได้ไม่ถึงเดือน อี้และเพียวก็มักใช้วิธีต่างๆ นานาเพื่อขับไล่อีกฝ่ายออกไป ท่านเองก็รู้แต่ไม่ได้ทำอะไรเพราะเด็กส่วนใหญ่ที่ออกไป ส่วนใหญ่มักเล่นใหญ่ออดอ้อนเกินพอดี แต่อี้ไม่รู้ว่าไอ้เด็กใหม่ที่ชื่อเตโชนั่นใช้วิธีอะไรท่านถึงได้ส่งคุณพัดมาเตือนตัวเองแบบนี้ เพราะฉะนั้นดูเหมือนคราวนี้วิธีธรรมดาจะไม่ได้ผล บางทีอี้อาจต้องไปเจอเด็กนั่นการตามหาเด็กนั่นไม่ใช่เรื่องยาก ถ้ามีเส้นสายมากพอ ที่อยู่ของเตโชก็มาปรากฏหราให้เห็นในอีกไม่กี่วันต่อมา อี้เตรียมตัวเป็นอย่างดี วันนี้แม้สุดท้ายต้องโดนไล่ออก แต่เด็กที่ชื่อเตโชก็ต้องออกไปกับตัวเองด้วย เพราะอี้จะไม่ยอมให้เด็กที่มีแนวโน้มที่ท่านจะเอามันกลับไปกกที่บ้านใหญ่ปรากฏตัวอยู่ข้างท่านอย่างแน่นอน เมื่อช่วงสายอี้เดินขึ้นลิฟต์มาที่หน้าประตูห้องเพนต์เฮาส์ด้วยสายตาที่ปกปิดความอิจฉาไว้ไม่มิด ก่อนจะจาง
บทที่ 7 เอามือซุกหีบเกือบครึ่งปีที่เตโชมาอยู่กับคุณป๋า แน่นอนว่าอะไรๆ ที่เคยดูน่าตื่นเต้นก็ไม่น่าตื่นเต้นเหมือนเคย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเตโชชะล่าใจว่าเป็นคนโปรด แล้วคุณป๋าจะไม่ทิ้งตัวเอง เตโชพยายามหาลูกล่อลูกชนมาเล่นกับคุณป๋าเสมอ แต่อย่างว่าอะไรๆ ที่เคยกินมาก่อนแล้วมันก็ไม่น่าตื่นเต้นอีกต่อไป คุณป๋าไม่ได้มาหาเตโชนานแล้วประมาณหนึ่งสัปดาห์ได้ และเตโชที่มีผู้ไม่ประสงค์ออกนามก็ส่งภาพของคุณป๋ากับเด็กหนุ่มคนใหม่วัยนักศึกษามาให้ตัวเองในระยะนี้ เตโชจะไม่ตามหาแต่กำลังรอโอกาส เตโชยังคงใช้ชีวิตต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ส่งข้อความไปมอนิ่ง และฝันดีคุณป๋าเสมอ เวลาออกไปข้างนอกก็รายงานทุกครึ่งชั่วโมง ทำแบบนี้ประจำจนวันนี้ที่เตโชไม่ได้ส่งข้อความไป เพราะมีคลิปหลุดของคุณป๋าในมุมแอบถ่ายกับเด็กใหม่ส่งมาหาตัวเองในตอนเช้ามืดเตโชหัวเราะลั่นกับสิ่งที่เห็นไม่ได้โกรธแต่รู้สึกยินดีมากกว่า เพราะนี่คือโอกาสที่ตนเองกำลังรอคอย ต่อให้เป็นเด็กใหม่แต่เตโชเชื่อว่าความทะเยอทะยานของตัวเองไม่แพ้เด็กใหม่นั่นอย่างแน่นอน เตโชไม่ได้ส่งข้อความไปมอนิ่งเหมือนอย่างเคย แต่เลือกที่จะส่งข้อความไปบอกคุณป๋าว่าตัวเองจะออกไปดื่มกับ
บทที่ 8 ขว้างงูไม่พ้นคอเตโชเพิ่งสอบเทียบมัธยมปลายเสร็จเมื่อไม่กี่วันก่อน ตอนนี้กำลังรอให้มหาลัยเปิดรับสมัครในปีหน้า ส่วนเรื่องของคนที่โทรมาข่มขู่ตัวเองคุณป๋าบอกว่าจัดการแล้วเรียบร้อย เตโชไม่คิดจะใส่ใจอะไรอีกเพราะรู้ดีว่าถ้าคุณป๋าลงมือเองอย่างไรก็ต้องเรียบร้อย เพราะฉะนั้นชีวิตช่วงนี้จึงค่อนข้างสงบ แต่คุณป๋าก็คือคุณป๋าเมื่อเร็วๆ นี้คุณป๋าหายตัวไปอีกครั้ง และเตโชได้ยินข่าวมาจากพี่ปอว่าคุณป๋ารับเด็กใหม่มาเลี้ยงเพิ่มอีกแล้ว แต่เตโชไม่ได้เร่งร้อนเพราะกำลังรอโอกาส ตนจะไม่เคลื่อนไหวถ้าอีกฝ่ายไม่เคลื่อนไหว แม้พื้นผิวจะดูสงบ แต่เตโชรู้ดีว่าพวกเก่าๆ เริ่มทนไม่ไหวแล้ว โดยเฉพาะคนที่ความอดทนต่ำที่สุดในบรรดาเด็กเก่าอย่างเจย์ วันนี้เตโชได้รับข้อความจากเจย์ว่าจะมีนัดทานข้าวกระชับมิตรในบรรดาเด็กในปกครองอีกครั้งเพื่อต้อนรับคนใหม่เตโชตอบตกลงแต่คราวนี้ตนจะไม่เคลื่อนไหว เพราะรู้ดีว่าเจย์ต้องการใช้ตัวเองเป็นหนังหน้าไฟ กำจัดเด็กใหม่คนโปรดออกไป แต่สำหรับเตแล้วนั้นเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย การจะจับคุณป๋าให้อยู่สิ่งหนึ่งที่ต้องมีคือความอดทน เพราะฉะนั้นเมื่อถึงเวลานัดเตโชส่งข้อความไปหาคุณป๋าว่าจะออกไปทา
บทที่ 9 ขุดด้วยปาก ถากด้วยตาเกือบปีแล้วที่เตโชมาอยู่กับคุณป๋า วันนี้เป็นวันแรกที่ตนจะได้ไปมหาลัย เตโชค่อนข้างตื่นเต้นแม้จะเป็นมหาลัยเอกชน แต่นี่เป็นครั้งแรกจริงๆ ที่เตโชไปมหาลัยตามความฝัน เตโชขับรถมาจอดที่ลานจอดรถก่อนจะกดโทรศัพท์โทรคุณป๋าด้วยความตื่นเต้น “คุณป๋า หนูถึงมหาลัยแล้วนะครับ”[โอเค] เสียงปลายสายตอบกลับมาเรียบนิ่งทำให้เตโชลดความตื่นเต้นลง ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงเบาลงว่า“หนูรบกวนคุณป๋าใช่ไหม แต่หนูตื่นเต้นหนูไม่รู้จะโทรหาใครนอกจากคุณป๋า” เตโชเอ่ยอ้อน ทำเอาภาคย์ที่กำลังนั่งประชุมต้องพักการประชุม 10 นาทีก่อนจะเดินออกมาคุยโทรศัพท์กับเด็กหนุ่มที่ด้านนอก[เอาไว้วันพรุ่งนี้ป๋าไปส่งหนูที่มหาลัยดีไหมคะ?] เตโชที่ได้ยินก็มีดวงตาวาววับ ก่อนจะกดหน้าตกลงแล้วเอ่ยด้วยเสียงอารมณ์ดีว่า“ครับผม เตจะรอน้า รักคุณป๋าที่สุด” แล้วเตโชก็กดตัดสายก่อนจะสูดลมหายใจเข้าปอดเพื่อเริ่มต้นใหม่ในมหาลัย เตโชก้าวลงจากรถก่อนจะเดินไปรายงานที่ตึกใหญ่ วันแรกของการเรียนเป็นเพียงการปฐมนิเทศและการต้อนรับน้องใหม่สั้นๆ คณะที่เตโชอยู่เป็นเพียงคณะบริหารธุรกิจ สาขาการบัญชี เพราะฉะนั้นเมื่อเลิกเรียนเตโชก็กำลังกลับบ้าน แต่ระหว่
บทที่ 10 ศรศิลป์ไม่กินกันวันต่อมาที่เตโชมาเรียนแม้จะมีคนซุบซิบกันบ้างก็อยู่ในขอบเขตที่เตโชพอรับได้ เตโชเดินมาขึ้นตึกเรียนด้วยท่าทางโนสนโนแคร์ เพราะคนพวกนี้ไม่ได้มาข้าวให้ตัวเองกิน ไม่มีความสนใจที่ต้องไปใส่ใจ และเมื่อเข้ามาในห้องคนที่เด่นสะดุดตาที่สุดคงเป็นฟิวส์และมะนาว เจ้าตัวปรบมือให้เตโชที่เดินเข้ามาก่อนจะพูดด้วยเสียงชอบอกชอบใจว่า “มีคนหนุนหลังมันดีจริงๆ นะ” เตโชยกยิ้มมุมปากก่อนจะกอดอกแล้วเอ่ยว่า“ทำไมอิจฉาหรือ?” ฟิวส์หน้าตึงก่อนจะลดมือลงแล้วเอ่ยอย่างไม่ยอมแพ้ว่า“คนแบบนายมีอะไรให้น่าอิจฉา? นอกจากความน่าสมเพช” เตโชกอดอกมองอีกฝ่ายด้วยท่าทางเย็นชา ก่อนที่มะนาวจะเอ่ยเสริมขึ้นมาว่า“ใช่ คิดว่าตัวเองสูงส่งมากนักหรืออย่างไรถึงเดินเชิดหน้ามาเรียนทั้งๆ ที่ควรรู้แก่ใจว่าตัวเองทำอะไรไว้!” เตโชยกยิ้มไม่ได้สะทกสะท้านอะไรคำแขวะนั้น ก่อนจะเอ่ยด้วยท่าทางสงบว่า“ก็ดีกว่าคนที่คิดว่าเองสูงส่งกว่าคนอื่น แต่การกระทำต่ำตม”“ไอ้เต!!” ฟิวส์ที่ได้ยินก็เลือดขึ้นหน้าจะเข้าไปตบอีกฝ่าย แต่อาจารย์เข้ามาก่อนจะเอ่ยเสียงดังว่า“ทำอะไรกัน เข้าเรียนได้แล้ว!!” ฟิวส์กับมะนาวมองเตโชด้วยสายตากินเลือดกินเนื้อ ก่อนจะเดิน
บทสุดท้าย จับเสือมือเปล่าเส้นทางของเตโชเดินมาไกลมาจริงๆ จากเด็กสลัมที่ต้องดิ้นรนอยู่ในครอบครัวเฮงซวย สู่เด็กเลี้ยงที่ต้องแย่งชิงความรักจากคุณป๋า และมาสู่แม่ของลูกที่ไร้สถานะมาหลายปี ก่อนจะกลายเป็นคุณชายของอัครพิเสธถูกต้องตามกฎหมายในปัจจุบัน เพราะแบบนั้นเตโชจึงรู้สึกว่าตัวเองโตขึ้นจากแต่ก่อนที่คิดหวังเพื่อต้องการขึ้นเป็นคุณชายของอัครพิเสธเพียงเท่านั้น ตอนนี้เตโชสงบลงแล้ว มองโลกได้กว้างขึ้น และเลี้ยงลูกด้วยความรักความห่วงใยอย่างเต็มเปี่ยม ตอนนี้อาโปอายุได้ 5 ขวบแล้ว เจ้าตัวเรียนอยู่อนุบาลสอง และนี่เป็นเพียงช่วงปิดเทอมเท่านั้น ภาคย์กับเตโชเลยตกลงกันว่าจะพาลูกชายไปเที่ยวทะเลเพื่อพักผ่อนหนีร้อนในเมืองคุณป๋าอาสาขับรถมาเองเพราะอยากออกไปเที่ยวกับครอบครัวแบบธรรมดา อาโปนั่งที่เบาะด้านหลังร้องเพลงเจื้อยแจ้วอย่างสนุกสนาน ก่อนที่เจ้าตัวจะเอ่ยขึ้นมาว่า “คุณแม่ น้องคืออะไร?ใจ๋ใจ๋บอกว่าตัวเองกำลังมีน้องล่ะ” เมื่อได้ยินสีหน้าของเตโชก็แดงก่ำเหลือมองคุณป๋าที่หัวเราะร่า ก่อนจะเอื้อมมือมาจับมือตัวเอง แล้วเอ่ยด้วยเสียงอารมณ์ดีว่า“น้องคือเพื่อนเล่นอีกคนครับ ทำไมอาโปอยากมีน้องหรือ?” เมื่อได้ยินอาโปก็ย่นคิ
บทที่ 19 ดีดลูกคิดรางแก้วภายในสลัมโชคจ้องหนังสือพิมพ์ที่กำลังแปะพาดหัวข่าวการแต่งงานของยักษ์แห่งวงการยา แน่นอนว่าสิ่งที่ทำให้โชคสนใจไม่ใช่เรื่องราวความรักหวานชื่นแต่เป็นภาพของภรรยาคุณชายคนใหม่แห่งอัครพิเสธ อย่างเตโช อัครพิเสธต่างหากที่ทำให้โชคเลียริมฝีปากที่แห้งผาก ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงแหบพร่าว่า “ไอ้เต มึงอยู่นี่นี้เอง” ใช่โชคกำลังมองหาลูกชายคนเล็กที่หายตัวไปราว 10 กว่าปีได้ มันทิ้งให้ตัวเองต้องเผชิญกับเรื่องบัดซบหนีเอาตัวรอดคนเดียวแบบนี้ โชคยิ่งแค้นใจนัก ตนจ้องมองชื่อและนามสกุลใหญ่ที่ว่า ก่อนจะยืมมือถือของลูกน้องคนหนึ่งมากดเสิร์ชหาที่อยู่ของบ้านอัครพิเสธในวันแรกโชคมาที่บริษัทยาที่ชื่อว่า เภตรา ฟาร์มาซูติคอล ซึ่งเป็นบริษัทที่ผัวไอ้เตมันทำงานอยู่ โชคมาด้อมๆ มองๆ อยู่บริษัทอยู่หลายวันถึงได้รู้ว่ารถคันไหนเป็นรถที่ผัวไอ้เตมันนั่ง หลังจากนั้นก็พยายามสะกดรอยตามไปถึงที่บ้าน ตอนแรกโชคหาทางไปบ้านไม่เจอเพราะคาดกันหลังจากนั้นผ่านไปไม่นานก็มาถึงบ้านหลังใหญ่ โชคมองบ้านหลังใหญ่ด้วยความโลภในดวงตา ก่อนจะเผยริมฝีปากเมื่อเห็นจากไกลๆ ว่าเตโชมันออกมาพร้อมเด็กตัวเล็กอีกคนน่าจะเป็นลูกมันโชคคิดในใจ ก่อนจะเ
บทที่ 18 กิ่งทองใบหยกเตโชนั่งอ่านข่าวของน้ำฟ้าและวิจิตรกาลในโทรศัพท์มือถืออย่างใจเย็น รอยยิ้มมุมปากถูกยกขึ้นก่อนที่พี่เนยจะเอ่ยพร้อมกับเล่นกับน้องอาโปไปด้วยว่า “ดีแล้วค่ะที่คนเลวแบบนั้นโดนจับ” เตโชหุบยิ้มมุมปากก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงเห็นใจว่า“สงสารก็แต่น้องน้ำตาลไม่รู้ป่านนี้เป็นอย่างไรบ้าง?” เมื่อได้ยินเนยก็ถอนหายใจ ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงโมโหว่า“ไม่น่าเห็นใจเลยค่ะ เด็กอะไรไม่รู้ทำไมรังแกอื่นไปทั่วแบบนั้น” เตโชพยักหน้ารับอย่างเห็นด้วยแต่ไม่ได้เอ่ยอะไรอีก ตนคิดว่าน้ำฟ้าจะจัดการกับตัวเอง แต่คิดไม่ถึงว่าน้ำตาลจะรังแกลูกชายตัวเองจริงๆ เห็นได้ชัดว่านี่น่าจะเป็นพฤติกรรมการส่งเสริมจากมารดาอย่างไม่ต้องสงสัย คงไม่มีเด็กสิบขวบที่ไหนมารังแกคนอื่นถ้านิสัยไม่เสียจริงๆ เพราะแบบนั้นเตโชจึงพูดออกมาจากใจจริงๆ ที่เป็นห่วงน้ำตาล เพราะเด็กหญิงคงเผชิญหน้ากับเรื่องเลวร้ายแบบนี้เพราะการกระทำของมารดาทั้งนั้น และไม่นานคุณป๋าก็กลับมาถึงบ้าน เตโชพาลูกชายออกไปต้อนรับเหมือนอย่างทุกวัน แต่วันนี้ต่างไปนิดหน่อยเพราะคุณป๋าดูเหมือนมีอะไรในใจ เมื่อขึ้นมาบนห้องหลังจากเตไปส่งลูกชายเข้านอน ก็เห็นภาคย์นั่งลงที่ปลายเตียงกำลังรอ
บทที่ 17 พออ้าปากก็เห็นลิ้นไก่ภาคย์นั่งอ่านรายงานที่พัดส่งมาให้ตัวเองด้วยสีหน้าจริงจัง จากการสอบสวนน้ำฟ้า เธอตั้งท้องจริงหลังจากหย่ากับภาคย์มีโอกาสเป็นไปได้มากว่าเด็กคนนั้นเป็นลูกของภาคย์ แต่เรื่องนี้ก็ยังไม่แน่ชัดเมื่อในสูติบัตรของน้ำตาลในช่องพ่อถูกเว้นชื่อเอาไว้ ส่วนสาเหตุที่เธอกลับมาในช่วงสิบปีน่าจะเป็นผลมาจากครอบครัวของเธอเกิดปัญหา ตอนหย่ากันสินสมรสถูกแบ่งออกอย่างเท่าเทียมกัน และภาคย์ก็ยุติการร่วมมือระหว่างวิจิตรกาลและอัครพิเสธไปแล้วเพื่อความชัดเจน เพราะแบบนั้นตนจึงไม่ได้ใส่ใจเรื่องของวิจิตรกาลอีกต่อไป จนมาทราบตอนนี้ว่าทางวิจิตรกาลกำลังจะถูกฟ้องล้มละลาย เนื่องจากการหนีภาษีมาหลายปี “ท่านประธานอยากให้ผมสืบต่อไหมครับ?” ภาคย์วางเอกสารลงบนโต๊ะทำงาน ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงจริงจังว่า“ให้แม่บ้านเก็บเส้นผมของน้ำตาลมาให้อย่างลับๆ ในเมื่อน้ำฟ้าไม่ต้องการตรวจพิสูจน์ความเป็นพ่อเพื่อให้เรื่องนี้กระจ่างฉันคงต้องใช้วิธีนี้เท่านั้น”“ครับท่านประธาน” ก่อนที่ภาคย์จะเอ่ยต่อว่า“อีกเรื่องติดต่อคนจากวิจิตรกาล ฉันต้องการพูดคุยด้วยหน่อย” พัดเอ่ยตอบรับก่อนจะออกไปเหลือเพียงภาคย์ที่นั่งมองเอกสารในห้องด้วยสายต
บทที่ 16 พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง“ตอนเราหย่ากันฉันก็ท้องน้องน้ำตาลแล้ว แต่ฉันไม่คิดจะบอกคุณ เพราะคิดว่าไม่จำเป็น แต่ดูเหมือนตอนนี้คุณจะมีลูกแล้ว ฉันแค่ไม่อยากให้น้องน้ำตาลไม่ได้รับในสิ่งที่ควรได้รับ เพราะฉะนั้นฉันมาที่นี่วันนี้เพื่อบอกให้คุณรู้ว่าคุณยังมีลูกสาวอีกคนอยู่ด้วย”“!!!!!!!!!!!!!!” ภาคย์จ้องหน้าหญิงสาวตรงหน้าด้วยสายตาตกตะลึง ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงแหบแห้งว่า “แล้วทำไมคุณถึงเพิ่งมาบอกผมตอนนี้น้ำฟ้า?” เมื่อได้ยินน้ำฟ้าก็ยักไหล่อย่างไม่แคร์อะไร ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงราบเรียบว่า“เพราะฉันไม่คิดว่าคุณจะเชิดชูลูกของเด็กเลี้ยงคนนั้นออกหน้าออกตาอย่างไรเล่า รู้แบบนี้ตอนนั้นฉันไม่หย่ากับคุณน่าจะดีกว่า” น้ำฟ้าเอ่ยพลางยกกาแฟขึ้นจิบ ก่อนจะมองใบหน้าอดีตสามีด้วยสายตาราบเรียบเย็นชา เธอกับภาคย์แต่งงานกันเพราะผลประโยชน์ของคนรุ่นเก่า ทำตามคำสัญญาบ้าบอของคนแก่ที่ไม่คิดว่าจะทำ ชีวิตรักบนเตียงของภาคย์ก็ดีไม่แย่ แค่ตอนที่หย่าเธอดันมีลูกติดท้องมาด้วยเท่านั้น“ผมอยากตรวจ DNA ” เมื่อได้ยินน้ำฟ้าก็เบ้ปากก่อนจะเอ่ยเสียงไม่ยี่หระว่า“แต่ฉันไม่อนุญาต” เมื่อได้ยินภาคย์ก็ย่นคิ้วจ้องมองเธอด้วยสายตาสงสัย ภ
บทที่ 15 ชี้นกบนปลายไม้วันนี้เหมือนทุกวันภาคย์กำลังทำงานอยู่ที่บริษัท แต่จู่ๆ พัดก็เข้ามาแล้วเอ่ยด้วยเสียงเบาว่า “ท่านประธานครับ คุณอินติดต่อมาว่าอยากขอพบท่านครับ” เมื่อได้ยินภาคย์ก็เงยขึ้นจากกองเอกสาร ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงสับสนว่า“อิน? ใคร?” อาจจะเพราะหลายปีแล้วที่ภาคย์ไม่ได้ติดต่อกับอีกฝ่ายทำให้ความทรงจำเลือนรางไปบ้าง ก่อนที่พัดจะเอ่ยอธิบายว่า“หนึ่งในเด็กในปกครองท่านครับ แต่เลิกติดต่อกันไปหลายปีแล้ว” เมื่อได้ยินภาคย์ก็ย่นคิ้ว ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงราบเรียบว่า“ทางนั้นติดต่อมาทำไม?”“ไม่บอกเหตุผลไว้ แค่ต้องการติดต่อท่านครับ” ภาคย์เอนหลังพิงพนักพิง ก่อนจะหรี่ตาลงแล้วเอ่ยด้วยเสียงราบเรียบว่า“ข้อมูลทั้งหมดของอินหลังเจ้าตัวออกจากฉันไป และตอบตกลงอีกฝ่ายเป็นเย็นนี้ที่ร้านอาหาร x ขอข้อมูลของเจ้าตัวก่อนออกไปเย็นนี้”“ได้ครับ” ภาคย์ไม่รู้ว่าอินกลับมาหาตัวเองด้วยเรื่องอะไร แต่ที่ยอมไปพบเพราะเห็นแก่ที่มีอดีตร่วมกันมาสักพักแล้วตัวเองเป็นฝ่ายบอกลาอีกฝ่ายก่อน ถ้าเป็นเรื่องเล็กน้อยภาคย์ก็ยังช่วยได้ แต่ถ้ามากกว่านั้นก็อย่าหาว่าภาคย์ใจร้ายเลยเถอะและเมื่อตอนเย็นมาถึงภาคย์ที่เพิ่งอ่านเอกสารของอินจบก็มี
บทที่ 14 เลือดข้นกว่าน้ำในวันที่ 22 มิถุนายน เด็กชายอาโป อัครพิเสธ ก็ได้ลืมตาขึ้นมาดูโลกนี้ เจ้าตัวเป็นเด็กชายที่ไม่ใช่เพศพิเศษ นี่ทำให้เตโชพอใจ ตอนนี้เจ้าตัวกำลังนอนในอ้อมแขนเตโช โดยมีคุณป๋านั่งมองอยู่ด้านข้างด้วยสายตาอ่อนโยน “น้องอาโปหน้าเหมือนคุณป๋าจนหนูอดน้อยใจไม่ได้ที่ลูกหน้าไม่เหมือนหนูเลย” เมื่อได้ยินภาคย์ก็หัวเราะ พลางยืดตัวหอมแก้มเจ้าตัว แล้วเอ่ยด้วยเสียงอ่อนโยนว่า“แต่ตาลูกเหมือนหนูมากเลยนะ” เมื่อได้ยินเตโชก็จ้องมองดวงตาอีกฝ่ายที่กำลังกะพริบไม่ได้โฟกัสสิ่งใดด้วยสายตาอ่อนลง ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงอารมณ์ดีว่า“คุณป๋าอยากอุ้มน้องไหมครับ?” เมื่อได้ยินภาคย์ก็พยักหน้ารับ ก่อนจะลุกขึ้นเพื่ออุ้มลูกชายเข้ามาในอ้อมกอด พลางจับจ้องเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเองด้วยสายตาอ่อนโยน“พ่อขอให้หนูโตมาสุขภาพร่างกายแข็งแรงมีความสุขมากๆ นะครับอาโป” เหมือนเด็กน้อยจะรู้ว่าพ่อกำลังอวยพรตัวเอง เจ้าเลยยกยิ้มจนเห็นเหงือกแดงๆ อย่างน่าเกลียดน่าชัง ทำเอาภาคย์ใจอ่อนใจเหลวไปหมด แล้วอีกไม่กี่วันเตโชก็ออกจากโรงพยาบาล กลับมาอยู่ที่บ้าน ที่บ้านมีพี่เนยแม่บ้านที่กลายเป็นพี่เลี้ยงน้องอาโป ตามที่ภาคย์จัดสรรมาเพราะเนยเคยมี
บทที่ 13 ถอดเขี้ยว ถอดเล็บ“เห็นว่าโดนพวกเจ้าถิ่นไล่ตี นอนเป็นผักอยู่ที่โรงพยาบาลมาครึ่งปีแล้ว” สิ้นเสียงของปอ เตโชก็มีสีหน้าบิดเบี้ยว ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงแหบพร่าว่า“พี่รู้ได้อย่างไร?” ปอมีสีหน้าแปลกๆ ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงเบาลงว่า“ฉันกลับไปที่บ้านเจอเจ๊หมวย แกจำเจ๊หมวยได้ใช่ไหม? นั่นแหละเขาเล่าให้ฟังว่าพี่แกไปตีกับเจ้าถิ่น เข้าไล่แทงจนเลือดอาบ เห็นว่าตกสะพานลอย ไม่ตายแต่นอนเป็นผักที่โรงพยาบาล แม่แกก็ติดเหล้าเหมือนไม่ได้สนใจอะไร ส่วนพ่อแกก็ไปๆ มาๆ ที่โรงพยาบาลกับบ้าน เฮ้อ เวรกรรมจริงๆ ” เตโชหน้าซีด ก่อนจะกลืนน้ำลาย ตนเคยคิดว่าจะไม่สนใจแล้วเรื่องครอบครัวเส็งเคร็งนั่น แต่พอได้ยินจริงๆ ก็รู้สึกไม่สบายใจ ก่อนที่ปอจะเห็นสีหน้าคนท้องรู้สึกไม่ดีจึงตบปากตัวเอง แล้วเอ่ยตำหนิตัวเองด้วยความรู้สึกผิดว่า “ฉันไม่น่าเอาเรื่องพวกนี้มาเล่าให้คนท้องฟังเลย ปากดีจริงๆ!”“ไม่เป็นไรหรอกพี่ถือว่าเล่าสู่กันฟัง” ปอไม่ได้เอ่ยอะไรเพราะรู้ดีว่าพื้นเพเตโชเป็นอย่างไร คงไม่มีใครอยากกลับไปนับญาติกับครอบครัวแบบนั้นหรอก หลังจากพูดคุยไม่นานปอก็จากไป เหลือทิ้งเพียงเตโชที่นั่งเหม่อลอยตลอดทั้งบ่าย ไม่รู้เป็นเพราะอารมณ์คนท้อ
บทที่ 12 ขุดบ่อล่อปลาตั้งแต่วันนั้นที่เตโชเริ่มกินยาคุม ก็ผ่านมาเดือนกว่าแล้ว เตโชรู้ดีว่าการใช้เด็กจับคุณป๋าไม่มีประโยชน์ และตนไม่ต้องการทำเช่นนั้นด้วยเพราะเตโชมีแผนที่ดีกว่านั้น การทำให้คุณป๋าอยากมีลูกกับตัวเอง เป็นเรื่องที่ง่ายกว่าการใช้เด็กจับคุณป๋าให้เกิดความขุ่นข้องหมองใจกันเปล่าๆ แถมยังเป็นวิธีสิ้นคิดอีก สู้เตโชทำให้คุณป๋าอยากมีลูกกับตัวเองก่อนไม่ดีกว่าหรือ? เพราะฉะนั้นสิ่งที่เตทำคือการทานยาตรงตามเวลาแบบไม่ให้ผิดพลาดแม้แต่น้อย “ให้หนูกินยาก่อนค่ะ” เตโชเอ่ยพลางลุกขึ้นจากเตียงไปทานยาคุมฉุกเฉิน ด้วยร่างกายเปลือยเปล่า ต่างจากภาคย์ที่กำลังมองเด็กหนุ่มด้วยสายตาอ่านยาก ก่อนจะตบที่นอนให้เจ้าตัวมานอนข้างตัวเองเตโชเดินมาทิ้งตัวนอนลงที่ด้านข้างคุณป๋าก่อนจะกลิ้งตัวเข้าไปในอ้อมอีกฝ่ายหลังทานยาเสร็จ ภาคย์เอ่ยด้วยเสียงอ่อนโยนว่า “หนูอยากไปเที่ยวที่ไหนไหมคะ?” เมื่อได้ยินเตโชก็มีนัยน์ตาวาววับ ก่อนจะเอ่ยอย่างอารมณ์ดีว่า“หนูอยากไปทะเล! คุณป๋าพาหนูไปทะเลได้ไหม?” เมื่อได้ยินภาคย์ก็มีนัยน์ตาอ่อนลง“ดีค่ะ สุดสัปดาห์นี้เราไปทะเลกัน” เมื่อได้ยินเตโชก็โถมตัวจูบอีกฝ่ายอย่างเอาใจ ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงอาร