Share

บทที่ 4 ช้า ๆ ได้พร้าสองเล่มงาม

Author: LADY-ZOMBIE
last update Last Updated: 2024-12-20 22:54:40

บทที่ 4 ช้า ๆ ได้พร้าสองเล่มงาม

เตโชมองดูรถยนต์คันหรูที่จอดอยู่ใต้เพนต์เฮาส์ด้วยสายตาวาววับ ก่อนจะวิ่งเข้าไปกอดคุณป๋าที่กำลังยืนมองตัวเองอยู่ด้วยความดีใจว่า “ขอบคุณครับคุณป๋า!!” ภาคย์ย่อตัวรับตัวเด็กหนุ่มไว้ในอ้อมกอด ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงอารมณ์ดีว่า

“คราวนี้หนูจะได้ขับรถพาป๋าไปเที่ยวได้แล้ว” เมื่อได้ยินเตโชก็มีนัยน์ตาวาววับ ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงเอาใจว่า

“แน่นอนครับ คุณป๋าอยากไปที่ไหน เดี๋ยวหนูจะขับพาไปเอง” เมื่อได้ยินภาคย์ก็ยกยิ้มเอ็นดู ก่อนจะลูบหัวอีกฝ่าย “ถ้าอย่างนั้นคุณป๋าว่างไหมครับ เราออกไปขับรถเล่นกัน?” เมื่อได้ยินภาคย์ก็ยกยิ้มอ่อน ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงหยอกเย้าว่า 

“เรามีใบขับขี่แล้วหรือ?” เมื่อได้ยินเตโชก็เบิกตากว้างอย่างคนเพิ่งนึกได้ ก่อนจะยู่ปากแล้วพูดด้วยเสียงเล็กเสียงน้อยว่า

“ถ้าอย่างนั้นเอาไว้เตไปทำใบขับขี่แล้ว ถ้าวันไหนคุณป๋าว่างเราออกไปขับรถเล่นกันนะครับ?” เมื่อได้ยินภาคย์ก็ยกยิ้มอ่อน เด็กหนุ่มไม่เร่งรัดตัวเองให้ทำอย่างที่ใจต้องการ แต่เลือกที่จะหาวันว่างของภาคย์เองทำเอาภาคย์พออกพอใจลึกๆ ไม่ได้ที่เด็กหนุ่มฉลาดคิดฉลาดพูดให้ตัวเองพอใจอยู่เสมอ

“โอเคค่ะ” เมื่อได้ยินเตโชก็กอดแขนพาคุณป๋าไปดูรถคันใหม่ ก่อนจะเจิมรถคันใหม่จนขย่มโยกไปพักใหญ่

....................................

ภายในบ้านหลังหนึ่งร่างของคนสองคนกำลังนั่งคุยกันภายในสวนด้วยท่าทางเคร่งขรึม คนหนึ่งมีใบหน้าหวานติดน่ารัก อีกคนมีใบหน้าสวยดูเย่อหยิ่งเล็กน้อย ก่อนที่หนึ่งในนั้นจะพูดด้วยเสียงจริงจังว่า “ดูเหมือนว่าคุณท่านเขาจะรับเด็กใหม่เข้ามา” ชายหนุ่มใบหน้าหวานนาม ‘อี้’ เอ่ยด้วยเสียงไม่สบอารมณ์ ก่อนที่ชายตรงหน้าจะเอ่ยด้วยเสียงเย็นชาว่า 

“ของใหม่ก็แบบนี้ไม่นานท่านก็เบื่อ เราแค่ต้องรอโอกาส” เมื่อได้ยินสิ่งที่ ‘เพียว’ เอ่ยอี้ก็มีสีหน้าบูดบึ้ง ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงไม่สบอารมณ์ว่า

“แล้วเราต้องรอไปอีกเมื่อไร แค่ทุกวันนี้หน้าท่านฉันยังไม่ได้เจอมาหลายสัปดาห์แล้วนะ!!” เพียวจ้องมองอี้ด้วยสายตาติดรำคาญ ถ้าไม่ติดว่ารู้จักกันมานาน มีหรือที่ตนจะทนมองพฤติกรรมเหมือนคนสิ้นคิดของคนตรงหน้าอย่างนี้

“เมื่อไรก็เมื่อนั้น อยากเป็นเหมือนเนย์หรือ? ตามติดท่านมากๆ ระวังจะโดนเขี่ยทิ้งไปอีกคน” เมื่อได้ยินสีหน้าของอี้ก็บิดเบี้ยว มีแววตาของความหวาดกลัวที่จะโดนเขี่ยทิ้งจางๆ เรื่องของเนย์เป็นที่พูดถึงอยู่สักพัก เพราะเจ้าตัวเล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนอีกคนฟัง แล้วมีหรือที่เพื่อนคนนั้นจะไม่แพร่ข่าว เพราะฉะนั้นเมื่อได้ยินว่าเนย์โดนเขี่ยทิ้งอย่างไร วันนี้อี้และเพียวถึงได้นัดมาเจอกันที่บ้านแบบนี้

“แล้วเราต้องทำอย่างไร? ไอ้เด็กใหม่นั่นกกท่านเอาไว้คนเดียวแบบนี้” เมื่อได้ยินดวงตาของเพียวก็มีร่องรอยของแผนการบางอย่าง ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงที่เบาลงว่า

“ไม่ต้องทำอะไร เราแค่ต้องสอนบทเรียนมันก็พอ” เมื่อได้ยินสีหน้าของอี้ก็เต็มไปด้วยความสนใจ ก่อนจะเอ่ยถามด้วยเสียงตื่นเต้นว่า

“ทำอย่างไร?” เพียวยกยิ้มที่ไม่ถึงดวงตา ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า

“ไม่ยาก แค่ให้เด็กนั่นรับรู้ถึงตัวตนของพวกเรา” อี้หรี่ตาลงพลางจ้องมองเพียวด้วยสายตาที่ถามว่าแล้วจะทำอย่างไร? ก่อนที่เพียวจะพูดต่อว่า “ไม่ยาก ได้ยินว่ามันได้อยู่ที่เพนต์เฮาส์ใช่ไหม ส่งรูปของท่านและคนอื่นๆ ให้มันโดยไม่ระบุชื่อสิ เชื่อเถอะว่าเด็กที่เพิ่งเข้ามาใหม่อย่างมันคงต้องมีหึงหวงท่านอย่างแน่นอน” นัยน์ตาของอี้หดตัวลง ก่อนจะยกยิ้มที่มุมปากแล้วเอ่ยขึ้นว่า

“และถ้ามันแสดงความเป็นเจ้าของต่อท่านมากๆ ไม่นานมันก็คงโดนเขี่ยทิ้งเหมือนเนย์?” เมื่อได้ยินเพียวก็พยักหน้ารับ ก่อนจะลดเสียงลงแล้วเอ่ยด้วยเสียงจริงจังว่า

“แต่เราลงมือเองไม่ได้ หากท่านรู้เรื่องขึ้นมาเราคงซวยไปด้วย” เมื่อได้ยินอี้ก็ยกยิ้มอย่างเย็นชา

“เอาล่ะ เรามีผู้สมัครที่ดีอยู่แล้วนี่ ไม่ใช่ว่าเจย์มันเป็นคนโปรดคนล่าสุดของท่านหรือ?” เมื่อได้ยินเพียวก็ยกยิ้ม ก่อนจะยกเครื่องดื่มขึ้นจิบด้วยสายตาวาววับ และเรื่องนั้นก็มีมติเห็นด้วยโดยพร้อมเพรียงกันว่าเรื่องในครั้งนี้เจย์ต้องเป็นคนลงมือ

............................

เตอยู่กับคุณป๋ามาได้เดือนกว่าแล้ว พอจะรู้จักนิสัยใจคอของอีกฝ่ายมาบ้าง วันนี้เหมือนทุกวันเตนั่งทบทวนบทเรียนเพื่อไปเตรียมสอบเทียบอย่างจริงจัง แต่จู่ๆ เสียงกริ๊งที่ประตูก็ทำให้เตตกใจ ก่อนจะเปิดออกไปดูและเห็นว่าเป็นคนจากฝ่ายนิติฯ ที่เอาพัสดุมาให้ตัวเอง เตขมวดคิ้วรับของมาด้วยสายตาแคลงใจ เพราะช่วงนี้ตนไม่ได้สั่งของอะไรเป็นพิเศษทำไมถึงมีของมาส่งได้ เตเขย่ากล่องที่ว่าพบว่าไม่ได้มีน้ำหนักมากนัก ก่อนจะวางมันไว้ที่โต๊ะเตี้ยหน้าโซฟา แล้วหรี่ตาลง ใครส่งมา? นั่นเป็นคำถามที่เตคิดไม่ตก ก่อนจะกลั้นใจหยิบเอาคัตเตอร์ออกมากรีดเปิดหน้ากล่อง แล้วต้องหรี่ตาเมื่อเห็นว่ามันเป็นรูปถ่าย เตหยิบขึ้นมาดูด้วยความสนใจ ก่อนจะส่งเสียงเหอะในลำคอด้วยสายตาที่หรี่ลง

“เหอะ” เตโชมองรูปภาพของอีกฝ่ายและคุณป๋าด้วยสายตาเยาะเย้ย ก่อนจะหรี่ตาลงอย่างขบคิด แล้วทำการซ่อนของทุกอย่างเอาไว้ในห้องเก็บของ แล้วเอ่ยด้วยเสียงและสายตาวาววับอย่างนึกสนุกว่า “มาดูกันว่าสงครามประสาทครั้งนี้ใครจะชนะ?” แล้วเตก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่แม้แต่จะถามคุณป๋าเกี่ยวกับการมีอยู่ของเด็กคนอื่นๆ หรือแสดงท่าทางหึงหวงแต่อย่างใด ฝั่งของเตสงบเงียบเหมือนน้ำนิ่ง แต่ไม่ใช่กับฝั่งของเจย์ที่นั่งกัดเล็บอย่างวิตกกังวล

“ผ่านมาแล้วเป็นสัปดาห์แต่ไม่เห็นท่าทีว่าเกิดอะไรขึ้นเลย” เจย์เอ่ยด้วยเสียงไม่สบอารมณ์ ก่อนที่อี้ที่นั่งอยู่ที่ร้านคาเฟ่ตรงข้ามจะมีสีหน้าราบเรียบ

“แสดงว่าสิ่งที่ส่งไปยังไม่มากพอ นายลองส่งของไปอีกสิ คราวนี้เอาให้แรงกว่าเดิม” เมื่อได้ยินเจย์ก็หรี่ตา ก่อนจะเม้มปาก แล้วเอ่ยด้วยเสียงระแวดระวังว่า

“ของอะไร?” อี้ยกยิ้ม ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงเบาว่า

“ถ้ารูปถ่ายยังทำให้ทางนั้นดิ้นไม่ได้ เราก็ต้องเริ่มใช้วิธีอื่น”

“วิธีอะไร?” เจย์ถามอย่างสนใจ ก่อนที่อี้จะเอ่ยด้วยเสียงเบาลงอีกระดับว่า

“ขู่ให้กลัว” เมื่อได้ยินเจย์ก็นิ่งไป ก่อนจะเม้มปาก แล้วขมวดคิ้ว

“ถ้าท่านจับได้....” อี้ยกยิ้มที่ไม่ถึงดวงตา ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงราบเรียบว่า

“ก็แค่อย่าให้ท่านจับได้” เมื่อได้ยินเจย์มีสีหน้าแปลกไป ก่อนจะเอ่ยถามว่า

“แล้วต้องทำอย่างไร?” เมื่อได้ยินอี้ก็ยกยิ้ม ก่อนจะกระซิบถึงวิธีการ

“หาคนที่โง่ที่สุดในพวกเราแล้วเสนอแผนนี้” เมื่อได้ยินดวงตาของเจย์ก็สว่างวาบก่อนจะหลุดหัวเราะ แล้วเอ่ยด้วยเสียงอารมณ์ดีว่า

“โอเคฉันมีคนในใจแล้ว” เมื่อได้ยินทั้งคู่ก็สบตากันอย่างเข้าใจ ก่อนจะแยกย้ายกันไปทำตามแผน แน่นอนว่าเป้าหมายของเตย์คือ ‘ดิน’ เด็กเลี้ยงที่เข้ามาก่อนตัวเองไม่นาน เจ้าตัวค่อนข้างโง่และยุง่าย ที่สำคัญยังไม่ฉลาดเท่าไร เหมาะแก่การเป็นเครื่องมือในครั้งนี้ที่สุด

........................

เตโชคิดว่าทางนั้นจะส่งอะไรมาเพิ่มแต่ผ่านมาเป็นสัปดาห์แล้วกลับไร้วี่แววทำเอาเตโชอดจิปากกับความขี้ขลาดของทางนั้นไม่ได้ วันนี้ยังเหมือนทุกวันเตโชนั่งทบทวนบทเรียนเพื่อเตรียมสอบเทียบม.ปลาย และเมื่อกริ๊งที่ประตูดังขึ้นนัยน์ตาของเตโชก็เต็มไปด้วยความคาดหวัง ก่อนจะเดินออกไปรับพัสดุ คราวนี้ของข้างในค่อนข้างหนัก เตโชเชื่อว่าคงไม่ใช่แค่รูปถ่าย ตนหยิบเอาคัตเตอร์มาแกะเปิดกล่อง ก่อนจะหลุดหัวเราะ เมื่อเห็นตุ๊กตาหัวขาดเปื้อนสีแดงในกล่อง พร้อมกับข้อความที่เหมือนพรินต์ออกมาจากเครื่องที่ว่า

‘ระวังตัวเอาไว้ให้ดี’

“จิจิ ทางนั้นค่อนข้างฉลาด แต่ก็ยังโง่อยู่ดี” เตโชหยิบเอาโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายกล่องที่ว่า แล้วเอาของทั้งหมดไปซ่อนไว้ที่เดียวกันกับรูปภาพคราวที่แล้ว ก่อนจะลูบใบหน้าแล้วเอ่ยพึมพำว่า “รอดูอีกหน่อยว่าจะส่งอะไรมาเพิ่มไหม ถ้าไม่ก็ค่อยทำตามแผน” เตโชยกยิ้มเย็น เพราะเป้าหมายของเตโชจะไม่หยุดที่แค่เป็นหนึ่งในเด็กเลี้ยงของท่านแน่ๆ แต่เป้าหมายของตนยิ่งใหญ่กว่านั้น เตโชต้องได้เป็นคุณชายของอัครพิเสธ และได้เป็นคนสุดท้ายที่กอดใบทะเบียนสมรสกับคุณป๋า!!แม้จะไม่ได้รักแต่เพื่ออนาคตที่ดีกว่าเตโชเชื่อว่าตัวเองทำได้!!

คุณป๋ายังคงมาหาตัวเองทุก 2-3 วันต่อครั้ง เตโชยังคงทำตัวเหมือนปกติ ก่อนที่วันนี้จะมีของมาส่งอีกครั้ง เตโชมีนัยน์ตาวาววับ พลางมองของด้านในที่ค่อนข้างหนัก เตโชเอียงคอก่อนจะเปิดกล่อง แล้วต้องมีสีหน้าเหมือนอยากอาเจียนเมื่อกลิ่นไข่เน่าอบอวลไปทั่วห้องเมื่อเปิดกล่อง ด้านในไม่มีข้อความเขียนไว้ แต่เป็นรูปของตัวเองที่เหมือนถูกแอบถ่ายแล้วโดนกรีดใบหน้าอย่างน่าขนลุก พร้อมกับเส้นผมด้านในที่เปียกย้อมด้วยสีแดงสด เตโชหัวเราะสะใจเมื่อเห็น ก่อนจะหัวเราะในลำคอ เอาล่ะ ดูเหมือนการแสดงคงต้องเริ่มในเร็ววันนี้แล้ว

คราวนี้เตโชเก็บของที่ว่าเข้าไปที่ห้องเก็บของ ก่อนจะเดินไปหน้ากระจกแล้วลูบปลายหางตาให้แดงและบวมช้ำ ก่อนจะกะพริบตาถี่ๆ เพื่อร้องไห้พยายามร้องไห้อยู่หน้ากระจกจนตาบวม ก่อนจะเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนอนแล้วปิดไฟทั่วทั้งเพนต์เฮาส์ พลางซ่อนตัวอยู่ในห้องนอน เตโชทำแบบนี้อยู่ราวสามวันกว่าที่คุณป๋าจะมาหาตัวเอง และใช่ แผนการเอาคืนของเตโชกำลังจะเริ่มในไม่ช้านี้

........................

ภาคย์ไม่เจอเตโชมาหลายวันแล้ว และดูเหมือนเด็กหนุ่มเองก็ไม่ได้เรียกร้องให้ตัวเองไปหา จนบางครั้งภาคย์ก็คิดว่าอยากให้เตโชทำตัวดูเหมือนเรียกร้องหาตัวเองบ้าง และเพราะแบบนั้นวันนี้ภาคย์เลยตัดสินใจมาหาเตโชที่เพนต์เฮาส์เพื่อบอกเด็กหนุ่มว่าตัวเองสามารถติดต่อกับเลขาฯ ของตนเพื่อเชิญภาคย์ให้มาทานอาหารที่บ้านได้เหมือนกัน และเมื่อมาถึงภาคย์ย่นคิ้วเมื่อพบว่าสีหน้าของเด็กหนุ่มดูแปลกไป เตโชมีรอยคล้ำใต้ตา ดวงตาบวมแดง และที่สำคัญเจ้าตัวดูปล่อยเนื้อปล่อยตัวเหมือนคนไม่อยู่กับร่องกับรอย ภาคย์เดินเข้าไปกอดอีกฝ่าย ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงตื่นตกใจว่า “เกิดอะไรขึ้นคะหนู?” เตโชที่ได้ยินก็เหมือนเจอที่พึ่งเจ้าตัวร้องไห้กับอกของภาคย์อย่างเงียบๆ ไม่ฟูมฟายแต่ปล่อยให้น้ำตาไหลอย่างน่าสงสารทำเอาภาคย์ตกใจรีบปลอบประโลมเจ้าตัวยกใหญ่ “ใครทำหนูร้องไห้แบบนี้คะ บอกมาป๋ามาเร็ว!!” ภาคย์พาเด็กหนุ่มมานั่งที่โซฟาก่อนจะเอ่ยถามด้วยเสียงอ่อนโยน เตโชพยายามหยุดร้องไห้ ก่อนจะปาดน้ำตาแล้วเงยหน้ามองภาคย์ด้วยสายตาลังเลว่าควรจะบอกอีกฝ่ายดีไหม ก่อนที่เตโชจะส่ายหน้า แล้วเอ่ยอย่างน่าสงสารว่า

“ไม่มีอะไรครับ แต่คืนนี้คุณป๋าค้างกับหนูได้ไหม?” เสียงตอนท้ายของเตโชสั่นเครืออย่างน่าสงสาร ทำเอาภาคย์พูดไม่ออก ร้องไห้ขนาดนี้แต่บอกว่าไม่เป็นไร ภาคย์ไม่เชื่ออย่างแน่นอน ก่อนจะกอดเด็กหนุ่มในอ้อมกอดด้วยดวงตาหรี่ลงอย่างขบคิด ก่อนจะเอ่ยปลอบว่า

“แน่นอน แต่หนูจะไม่บอกป๋าจริงๆ ใช่ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น?” เมื่อได้ยินภาคย์จ้องมองเด็กหนุ่มที่ก้มหน้าลงด้วยความลังเล ก่อนจะเอ่ยเสียงเบาว่า

“หนูไม่รู้ว่าควรบอกคุณป๋าดีไหม เพราะกลัวว่ามันจะไปรบกวนคุณป๋า หนูแค่... แค่อยากให้คุณป๋าอยู่เป็นเพื่อนเฉยๆ ” เมื่อได้ยินนัยน์ตาของภาคย์ก็อ่อนลง ก่อนจะยกมือขึ้นลูบแก้ม ลูบหัวอีกฝ่าย แล้วเอ่ยถามด้วยเสียงอ่อนโยนว่า

“ลองบอกมาก่อนสิคะ ตอนนี้ป๋ากำลังว่าง ไม่รบกวนเลย” เมื่อได้ยินเตโชก็กัดปากอย่างชั่งใจ ภาคย์มองท่าทางนั้นด้วยสายตาอ่อนลง ก่อนจะเอ่ยกระตุ้นอีกฝ่ายไปด้วยว่า “หรือถ้าหนูไม่อยากพูดก็ไม่เป็นไร แต่คืนนี้ป๋าจะค้างกับหนูแน่นอน” เมื่อได้ยินเตโชก็เงยหน้ามองคุณป๋าด้วยสายตาโล่งใจ ก่อนจะเอ่ยบีบมือบนตักแน่น แล้วเอ่ยด้วยเสียงเบาลงว่า

“มีคนส่งของน่ากลัวมาให้หนู” เมื่อได้ยินนัยน์ตาของภาคย์แข็งตัวขึ้น ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นอ่อนโยน แล้วยกมือขึ้นลูบแก้มเด็กหนุ่ม แล้วเอ่ยถามเสียงอ่อนโยน

“หนูทิ้งไปหรือยัง ขอป๋าดูหน่อยได้ไหม?” เตโชส่ายศีรษะ ก่อนจะโถมตัวเข้าไปกอดภาคย์ แล้วเอ่ยด้วยเสียงอู้อี้ว่า

“ยังครับหนูไม่กล้าทิ้ง แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรด้วย เลยเก็บเอาไว้ในห้องเก็บของ” เมื่อได้ยินนัยน์ตาของภาคย์วาบวับ ก่อนจะพาเด็กหนุ่มลุกขึ้นแล้วเดินไปที่ห้องเก็บของ เตโชก้มหน้าลงมองพื้นด้วยท่าทางหวาดกลัว ก่อนที่ภาคย์จะเปิดประตูเข้าไปในห้องเก็บของด้วยสีหน้าเย็นชา แน่นอนว่าภาคย์ได้กลิ่นไม่พึงประสงค์ แต่มองไม่เห็นว่าของอยู่ที่ไหน จึงได้หันไปมองเตโชแล้วเอ่ยถามว่า

“หนูคะ ของที่ว่าอยู่ตรงไหน?” เมื่อได้ยินเตโชก็เกร็งตัวขึ้น ก่อนจะค่อยๆ เงยหน้ามองอีกฝ่าย ริมฝีปากของเด็กหนุ่มถูกกัดอย่างแรงจนเห็นบาดแผลทำเอาภาคย์อดสงสารในใจไม่ได้ ก่อนที่เตโชจะเอ่ยด้วยเสียงเบาว่า

“จริงๆ จริงๆ แล้วคุณป๋า....”

“ให้ป๋าดูเถอะนะ” ภาคย์รู้ดีว่าเด็กหนุ่มไม่อยากสร้างภาระให้ตัวเอง แต่ก็เพราะแบบนั้นภาคย์ก็ยิ่งอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ก่อนที่เตโชจะเดินเข้ามาจับมือตัวเอง แล้วพาเข้าไปในส่วนลึกของห้องเก็บของ แล้วดึงเอากล่องสามกล่องออกมาจากใต้ชั้นที่ซ่อนไว้ค่อนข้างลึก นัยน์ตาของภาคย์หดตัวลงเมื่อมองเห็นของดังกล่าว ก่อนจะดึงเด็กหนุ่มเข้ามากอด แล้วพาออกไปจากห้องเก็บของ

“หนูไม่อยากให้คุณป๋ามองว่าหนูสร้างภาพ แต่หนูไม่รู้จะทำอย่างไรดี หนูกลัวว่าจะมีของแบบนี้ส่งมาอีก แต่ก็ไม่อยากให้คุณป๋ามองว่าหนูขี้ฟ้อง” เมื่อได้ยินภาคย์ก็ถอนหายใจ ก่อนจะกดจูบที่ศีรษะของอีกฝ่าย แล้วเอ่ยด้วยเสียงปลอบโยนว่า

“ไม่เป็นไรนะคะ หนูไม่ต้องคิดมาก เดี๋ยวเรื่องที่เหลือป๋าจัดการเอง ว่าแต่วันนี้เราไม่อยู่ที่ห้องแล้วดีไหม คุณป๋าพาหนูไปนอนโรงแรมริมแม่น้ำดีไหมคะ?” เมื่อได้ยินเตโชก็มีนัยน์ตาสั่นระริกของความขอบคุณ ก่อนจะกดหน้าและพยายามฝืนยิ้มว่า

“โอเคค่ะ หนูไปแต่งตัวก่อน คุณป๋ารอหนูก่อนนะ” พูดจบเจ้าตัวก็เร่งรีบเดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ภาคย์จ้องมองเด็กด้วยสายตาอ่านยาก ก่อนจะกดโทรศัพท์หาพัด แล้วเอ่ยด้วยเสียงเยือกเย็นจนน่าขนลุกว่า

“มาที่เพนต์เฮาส์ของเต ดูในห้องเก็บของ ฉันต้องการรู้ว่าใครส่งมันมาภายในวันพรุ่งนี้”

[ครับท่านประธาน] แล้วภาคย์ก็กดตัดสาย ก่อนจะหรี่ตาลงยกยิ้มมุมปาก พลางเอ่ยพึมพำว่า

“หนูฉลาดคิดจริงๆ ให้ตายสิ” แล้ววันนั้นเตโชก็ถูกภาคย์พาไปนอนที่โรงแรมหรูริมแม่น้ำ ก่อนที่ภาคย์จะหนีบตัวเองไปที่บริษัทเป็นครั้งแรก!!

+++++

Lady Zombie

26/11/67

Related chapters

  • ผมอยากเป็นคุณชายไม่อยากเป็นแค่เด็กเลี้ยง (Mpreg, Yaoi)   บทที่ 5 ซื่อเหมือนแมวนอนหวด

    บทที่ 5 ซื่อเหมือนแมวนอนหวด‘ดิน’ เป็นเด็กบ้านนอก ตอนนี้เจ้าตัวเพิ่งเรียนจบได้ทำงานในบริษัทลูกในเครือของอัครพิเสธ แม้จะไม่มีใครรู้เรื่องที่ตัวเองเป็นเด็กเลี้ยงของท่านประธาน แต่เชื่อเถอะว่าคนระดับสูงบางคนก็ไว้หน้าดินอยู่หลายส่วน ดินที่เป็นเด็กต่างจังหวัดจึงได้เริ่มเหิมเกริม เพราะเมื่อเห็นว่าคุณภาคย์ไม่ได้ห้ามปรามอะไรตัวเองจริงจังจึงเริ่มได้ใจ ดินเม้มปากจ้องมองบานประตูในคอนโดฯ ด้วยสายตาสั่นไหว เมื่อชั่วโมงที่แล้วคุณท่านให้คุณพัดเลขาฯ ของตนโทรมาหาดินเพื่อบอกว่าคุณท่านจะพาตัวเองไปดินเนอร์ แต่ผ่านมาชั่วโมงกว่าแล้วคุณภาคย์ก็ยังไม่มาดินเลยเริ่มใจเสีย ก่อนจะตื่นตกใจเมื่อเสียงเปิดประตูดังขึ้น “คุณป๋า?” ดินลุกขึ้นยืนรีบเดินออกไปที่ประตูแต่คนที่เข้ามากลับไม่ใช่ภาคย์ แต่เป็นพัด เจ้าตัวพยักหน้าทักทายดินก่อนจะผายมือเพื่อเชิญออกไปข้างนอกว่า“ท่านประธานรออยู่ครับ” เมื่อได้ยินดินก็เดินกลับไปหยิบกระเป๋ามาแล้วเร่งฝีเท้าลงไปชั้นจอดรถ เมื่อเห็นรถคันหรูที่คุ้นตา ดินก็รีบเปิดประตูเข้าไป ทันได้เห็นว่าภาคย์กำลังนั่งปลดกระดุมข้อมืออยู่บนที่เบาะด้านหลัง“คุณป๋า” ดินเรียกอีกฝ่ายอย่างดดีใจ ก่อนจะเข้าไปนั่งด้านข้า

    Last Updated : 2024-12-20
  • ผมอยากเป็นคุณชายไม่อยากเป็นแค่เด็กเลี้ยง (Mpreg, Yaoi)   บทที่ 6 กำแพงมีหูประตูมีช่อง / กำแพงมีหู

    บทที่ 6 กำแพงมีหูประตูมีช่อง / กำแพงมีหูอี้นั่งกัดเล็บอยู่ภายในห้องนอนอย่างขบคิดเมื่อได้รับจดหมายเตือนจากท่าน แน่นอนว่าการกระทำที่เหมือนยุแยงของตนกับเจย์รู้ถึงหูท่านจริงๆ แม้จะโดนเพียงจดหมายเตือนแต่การอยู่เฉยๆ ย่อมไม่ใช่วิสัยของอี้ มีเด็กใหม่มากมายที่เข้ามาใหม่แล้วอยู่ได้ไม่ถึงเดือน อี้และเพียวก็มักใช้วิธีต่างๆ นานาเพื่อขับไล่อีกฝ่ายออกไป ท่านเองก็รู้แต่ไม่ได้ทำอะไรเพราะเด็กส่วนใหญ่ที่ออกไป ส่วนใหญ่มักเล่นใหญ่ออดอ้อนเกินพอดี แต่อี้ไม่รู้ว่าไอ้เด็กใหม่ที่ชื่อเตโชนั่นใช้วิธีอะไรท่านถึงได้ส่งคุณพัดมาเตือนตัวเองแบบนี้ เพราะฉะนั้นดูเหมือนคราวนี้วิธีธรรมดาจะไม่ได้ผล บางทีอี้อาจต้องไปเจอเด็กนั่นการตามหาเด็กนั่นไม่ใช่เรื่องยาก ถ้ามีเส้นสายมากพอ ที่อยู่ของเตโชก็มาปรากฏหราให้เห็นในอีกไม่กี่วันต่อมา อี้เตรียมตัวเป็นอย่างดี วันนี้แม้สุดท้ายต้องโดนไล่ออก แต่เด็กที่ชื่อเตโชก็ต้องออกไปกับตัวเองด้วย เพราะอี้จะไม่ยอมให้เด็กที่มีแนวโน้มที่ท่านจะเอามันกลับไปกกที่บ้านใหญ่ปรากฏตัวอยู่ข้างท่านอย่างแน่นอน เมื่อช่วงสายอี้เดินขึ้นลิฟต์มาที่หน้าประตูห้องเพนต์เฮาส์ด้วยสายตาที่ปกปิดความอิจฉาไว้ไม่มิด ก่อนจะจาง

    Last Updated : 2024-12-20
  • ผมอยากเป็นคุณชายไม่อยากเป็นแค่เด็กเลี้ยง (Mpreg, Yaoi)   บทที่ 7 เอามือซุกหีบ

    บทที่ 7 เอามือซุกหีบเกือบครึ่งปีที่เตโชมาอยู่กับคุณป๋า แน่นอนว่าอะไรๆ ที่เคยดูน่าตื่นเต้นก็ไม่น่าตื่นเต้นเหมือนเคย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเตโชชะล่าใจว่าเป็นคนโปรด แล้วคุณป๋าจะไม่ทิ้งตัวเอง เตโชพยายามหาลูกล่อลูกชนมาเล่นกับคุณป๋าเสมอ แต่อย่างว่าอะไรๆ ที่เคยกินมาก่อนแล้วมันก็ไม่น่าตื่นเต้นอีกต่อไป คุณป๋าไม่ได้มาหาเตโชนานแล้วประมาณหนึ่งสัปดาห์ได้ และเตโชที่มีผู้ไม่ประสงค์ออกนามก็ส่งภาพของคุณป๋ากับเด็กหนุ่มคนใหม่วัยนักศึกษามาให้ตัวเองในระยะนี้ เตโชจะไม่ตามหาแต่กำลังรอโอกาส เตโชยังคงใช้ชีวิตต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ส่งข้อความไปมอนิ่ง และฝันดีคุณป๋าเสมอ เวลาออกไปข้างนอกก็รายงานทุกครึ่งชั่วโมง ทำแบบนี้ประจำจนวันนี้ที่เตโชไม่ได้ส่งข้อความไป เพราะมีคลิปหลุดของคุณป๋าในมุมแอบถ่ายกับเด็กใหม่ส่งมาหาตัวเองในตอนเช้ามืดเตโชหัวเราะลั่นกับสิ่งที่เห็นไม่ได้โกรธแต่รู้สึกยินดีมากกว่า เพราะนี่คือโอกาสที่ตนเองกำลังรอคอย ต่อให้เป็นเด็กใหม่แต่เตโชเชื่อว่าความทะเยอทะยานของตัวเองไม่แพ้เด็กใหม่นั่นอย่างแน่นอน เตโชไม่ได้ส่งข้อความไปมอนิ่งเหมือนอย่างเคย แต่เลือกที่จะส่งข้อความไปบอกคุณป๋าว่าตัวเองจะออกไปดื่มกับ

    Last Updated : 2024-12-20
  • ผมอยากเป็นคุณชายไม่อยากเป็นแค่เด็กเลี้ยง (Mpreg, Yaoi)   บทที่ 8 ขว้างงูไม่พ้นคอ

    บทที่ 8 ขว้างงูไม่พ้นคอเตโชเพิ่งสอบเทียบมัธยมปลายเสร็จเมื่อไม่กี่วันก่อน ตอนนี้กำลังรอให้มหาลัยเปิดรับสมัครในปีหน้า ส่วนเรื่องของคนที่โทรมาข่มขู่ตัวเองคุณป๋าบอกว่าจัดการแล้วเรียบร้อย เตโชไม่คิดจะใส่ใจอะไรอีกเพราะรู้ดีว่าถ้าคุณป๋าลงมือเองอย่างไรก็ต้องเรียบร้อย เพราะฉะนั้นชีวิตช่วงนี้จึงค่อนข้างสงบ แต่คุณป๋าก็คือคุณป๋าเมื่อเร็วๆ นี้คุณป๋าหายตัวไปอีกครั้ง และเตโชได้ยินข่าวมาจากพี่ปอว่าคุณป๋ารับเด็กใหม่มาเลี้ยงเพิ่มอีกแล้ว แต่เตโชไม่ได้เร่งร้อนเพราะกำลังรอโอกาส ตนจะไม่เคลื่อนไหวถ้าอีกฝ่ายไม่เคลื่อนไหว แม้พื้นผิวจะดูสงบ แต่เตโชรู้ดีว่าพวกเก่าๆ เริ่มทนไม่ไหวแล้ว โดยเฉพาะคนที่ความอดทนต่ำที่สุดในบรรดาเด็กเก่าอย่างเจย์ วันนี้เตโชได้รับข้อความจากเจย์ว่าจะมีนัดทานข้าวกระชับมิตรในบรรดาเด็กในปกครองอีกครั้งเพื่อต้อนรับคนใหม่เตโชตอบตกลงแต่คราวนี้ตนจะไม่เคลื่อนไหว เพราะรู้ดีว่าเจย์ต้องการใช้ตัวเองเป็นหนังหน้าไฟ กำจัดเด็กใหม่คนโปรดออกไป แต่สำหรับเตแล้วนั้นเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย การจะจับคุณป๋าให้อยู่สิ่งหนึ่งที่ต้องมีคือความอดทน เพราะฉะนั้นเมื่อถึงเวลานัดเตโชส่งข้อความไปหาคุณป๋าว่าจะออกไปทา

    Last Updated : 2024-12-20
  • ผมอยากเป็นคุณชายไม่อยากเป็นแค่เด็กเลี้ยง (Mpreg, Yaoi)   บทที่ 9 ขุดด้วยปาก ถากด้วยตา

    บทที่ 9 ขุดด้วยปาก ถากด้วยตาเกือบปีแล้วที่เตโชมาอยู่กับคุณป๋า วันนี้เป็นวันแรกที่ตนจะได้ไปมหาลัย เตโชค่อนข้างตื่นเต้นแม้จะเป็นมหาลัยเอกชน แต่นี่เป็นครั้งแรกจริงๆ ที่เตโชไปมหาลัยตามความฝัน เตโชขับรถมาจอดที่ลานจอดรถก่อนจะกดโทรศัพท์โทรคุณป๋าด้วยความตื่นเต้น “คุณป๋า หนูถึงมหาลัยแล้วนะครับ”[โอเค] เสียงปลายสายตอบกลับมาเรียบนิ่งทำให้เตโชลดความตื่นเต้นลง ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงเบาลงว่า“หนูรบกวนคุณป๋าใช่ไหม แต่หนูตื่นเต้นหนูไม่รู้จะโทรหาใครนอกจากคุณป๋า” เตโชเอ่ยอ้อน ทำเอาภาคย์ที่กำลังนั่งประชุมต้องพักการประชุม 10 นาทีก่อนจะเดินออกมาคุยโทรศัพท์กับเด็กหนุ่มที่ด้านนอก[เอาไว้วันพรุ่งนี้ป๋าไปส่งหนูที่มหาลัยดีไหมคะ?] เตโชที่ได้ยินก็มีดวงตาวาววับ ก่อนจะกดหน้าตกลงแล้วเอ่ยด้วยเสียงอารมณ์ดีว่า“ครับผม เตจะรอน้า รักคุณป๋าที่สุด” แล้วเตโชก็กดตัดสายก่อนจะสูดลมหายใจเข้าปอดเพื่อเริ่มต้นใหม่ในมหาลัย เตโชก้าวลงจากรถก่อนจะเดินไปรายงานที่ตึกใหญ่ วันแรกของการเรียนเป็นเพียงการปฐมนิเทศและการต้อนรับน้องใหม่สั้นๆ คณะที่เตโชอยู่เป็นเพียงคณะบริหารธุรกิจ สาขาการบัญชี เพราะฉะนั้นเมื่อเลิกเรียนเตโชก็กำลังกลับบ้าน แต่ระหว่

    Last Updated : 2024-12-20
  • ผมอยากเป็นคุณชายไม่อยากเป็นแค่เด็กเลี้ยง (Mpreg, Yaoi)   บทที่ 10 ศรศิลป์ไม่กินกัน

    บทที่ 10 ศรศิลป์ไม่กินกันวันต่อมาที่เตโชมาเรียนแม้จะมีคนซุบซิบกันบ้างก็อยู่ในขอบเขตที่เตโชพอรับได้ เตโชเดินมาขึ้นตึกเรียนด้วยท่าทางโนสนโนแคร์ เพราะคนพวกนี้ไม่ได้มาข้าวให้ตัวเองกิน ไม่มีความสนใจที่ต้องไปใส่ใจ และเมื่อเข้ามาในห้องคนที่เด่นสะดุดตาที่สุดคงเป็นฟิวส์และมะนาว เจ้าตัวปรบมือให้เตโชที่เดินเข้ามาก่อนจะพูดด้วยเสียงชอบอกชอบใจว่า “มีคนหนุนหลังมันดีจริงๆ นะ” เตโชยกยิ้มมุมปากก่อนจะกอดอกแล้วเอ่ยว่า“ทำไมอิจฉาหรือ?” ฟิวส์หน้าตึงก่อนจะลดมือลงแล้วเอ่ยอย่างไม่ยอมแพ้ว่า“คนแบบนายมีอะไรให้น่าอิจฉา? นอกจากความน่าสมเพช” เตโชกอดอกมองอีกฝ่ายด้วยท่าทางเย็นชา ก่อนที่มะนาวจะเอ่ยเสริมขึ้นมาว่า“ใช่ คิดว่าตัวเองสูงส่งมากนักหรืออย่างไรถึงเดินเชิดหน้ามาเรียนทั้งๆ ที่ควรรู้แก่ใจว่าตัวเองทำอะไรไว้!” เตโชยกยิ้มไม่ได้สะทกสะท้านอะไรคำแขวะนั้น ก่อนจะเอ่ยด้วยท่าทางสงบว่า“ก็ดีกว่าคนที่คิดว่าเองสูงส่งกว่าคนอื่น แต่การกระทำต่ำตม”“ไอ้เต!!” ฟิวส์ที่ได้ยินก็เลือดขึ้นหน้าจะเข้าไปตบอีกฝ่าย แต่อาจารย์เข้ามาก่อนจะเอ่ยเสียงดังว่า“ทำอะไรกัน เข้าเรียนได้แล้ว!!” ฟิวส์กับมะนาวมองเตโชด้วยสายตากินเลือดกินเนื้อ ก่อนจะเดิน

    Last Updated : 2024-12-20
  • ผมอยากเป็นคุณชายไม่อยากเป็นแค่เด็กเลี้ยง (Mpreg, Yaoi)   บทที่ 11 ลางเนื้อชอบลางยา

    บทที่ 11 ลางเนื้อชอบลางยาคุณป๋าแปลกไป เตโชไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่จากข่าวที่ปอหญิงสาวส่งมา ตอนนี้ตัวเองกลายเป็นเด็กในปกครองของคุณป๋าเพียงคนเดียวแล้วทำให้ตนกระหยิ่มยิ้มย่องอย่างพอใจ แต่ที่ไม่น่าพอใจคือทุกครั้งที่อยู่ด้วยกันคุณป๋าเหมือนมีเรื่องให้คิดมากตลอด แต่เพราะทำงานด้วยกันเตโชเลยรู้ว่าเรื่องงานไม่มีปัญหา แล้วมันมีปัญหาเรื่องอะไร? วันนี้เป็นวันหยุดคุณป๋ามาค้างที่เพนต์เฮาส์ตัวเอง เตโชที่ต้องการเอาใจคุณป๋าจึงได้ลุกขึ้นมาทำอาหารเช้าตั้งแต่เช้า ทำเอาภาคย์กอดหอมด้วยความพอใจไปยกใหญ่ ก่อนที่มื้ออาหารนั้นเตโชจะกลั้นใจเอ่ยถามออกไปว่า “ช่วงนี้รู้สึกคุณป๋าเหมือนมีเรื่องอะไรในใจ เล่าให้หนูฟังได้นะคะ ถ้าคุณป๋าอึดอัด” เมื่อได้ยินภาคย์ก็ชะงักช้อนที่กำลังทานข้าว ก่อนจะรวบช้อน แล้วเงยหน้ามองเด็กหนุ่มที่กำลังมองตัวเองด้วยแววตาของความเป็นห่วงหากจะบอกว่าภาคย์ไม่หวั่นไหวเป็นไปไม่ได้ เตโชเป็นเด็กเลี้ยงเพียงคนเดียวที่ตัวเองรู้สึกเต็มอิ่ม หรือมันถึงช่วงอิ่มตัวแล้วภาคย์ก็ไม่แน่ใจ แต่เห็นได้จากตอนนี้ที่เหลือเจ้าตัวเป็นเด็กในปกครองเพียงเดียวใครๆ ก็เดาได้ว่าภาคย์ต้องมีใจให้เตโชไม่มากก็น้อย “ป๋าแค่รู้สึกว่าค

    Last Updated : 2024-12-20
  • ผมอยากเป็นคุณชายไม่อยากเป็นแค่เด็กเลี้ยง (Mpreg, Yaoi)   บทที่ 12 ขุดบ่อล่อปลา

    บทที่ 12 ขุดบ่อล่อปลาตั้งแต่วันนั้นที่เตโชเริ่มกินยาคุม ก็ผ่านมาเดือนกว่าแล้ว เตโชรู้ดีว่าการใช้เด็กจับคุณป๋าไม่มีประโยชน์ และตนไม่ต้องการทำเช่นนั้นด้วยเพราะเตโชมีแผนที่ดีกว่านั้น การทำให้คุณป๋าอยากมีลูกกับตัวเอง เป็นเรื่องที่ง่ายกว่าการใช้เด็กจับคุณป๋าให้เกิดความขุ่นข้องหมองใจกันเปล่าๆ แถมยังเป็นวิธีสิ้นคิดอีก สู้เตโชทำให้คุณป๋าอยากมีลูกกับตัวเองก่อนไม่ดีกว่าหรือ? เพราะฉะนั้นสิ่งที่เตทำคือการทานยาตรงตามเวลาแบบไม่ให้ผิดพลาดแม้แต่น้อย “ให้หนูกินยาก่อนค่ะ” เตโชเอ่ยพลางลุกขึ้นจากเตียงไปทานยาคุมฉุกเฉิน ด้วยร่างกายเปลือยเปล่า ต่างจากภาคย์ที่กำลังมองเด็กหนุ่มด้วยสายตาอ่านยาก ก่อนจะตบที่นอนให้เจ้าตัวมานอนข้างตัวเองเตโชเดินมาทิ้งตัวนอนลงที่ด้านข้างคุณป๋าก่อนจะกลิ้งตัวเข้าไปในอ้อมอีกฝ่ายหลังทานยาเสร็จ ภาคย์เอ่ยด้วยเสียงอ่อนโยนว่า “หนูอยากไปเที่ยวที่ไหนไหมคะ?” เมื่อได้ยินเตโชก็มีนัยน์ตาวาววับ ก่อนจะเอ่ยอย่างอารมณ์ดีว่า“หนูอยากไปทะเล! คุณป๋าพาหนูไปทะเลได้ไหม?” เมื่อได้ยินภาคย์ก็มีนัยน์ตาอ่อนลง“ดีค่ะ สุดสัปดาห์นี้เราไปทะเลกัน” เมื่อได้ยินเตโชก็โถมตัวจูบอีกฝ่ายอย่างเอาใจ ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงอาร

    Last Updated : 2024-12-20

Latest chapter

  • ผมอยากเป็นคุณชายไม่อยากเป็นแค่เด็กเลี้ยง (Mpreg, Yaoi)   บทสุดท้าย จับเสือมือเปล่า

    บทสุดท้าย จับเสือมือเปล่าเส้นทางของเตโชเดินมาไกลมาจริงๆ จากเด็กสลัมที่ต้องดิ้นรนอยู่ในครอบครัวเฮงซวย สู่เด็กเลี้ยงที่ต้องแย่งชิงความรักจากคุณป๋า และมาสู่แม่ของลูกที่ไร้สถานะมาหลายปี ก่อนจะกลายเป็นคุณชายของอัครพิเสธถูกต้องตามกฎหมายในปัจจุบัน เพราะแบบนั้นเตโชจึงรู้สึกว่าตัวเองโตขึ้นจากแต่ก่อนที่คิดหวังเพื่อต้องการขึ้นเป็นคุณชายของอัครพิเสธเพียงเท่านั้น ตอนนี้เตโชสงบลงแล้ว มองโลกได้กว้างขึ้น และเลี้ยงลูกด้วยความรักความห่วงใยอย่างเต็มเปี่ยม ตอนนี้อาโปอายุได้ 5 ขวบแล้ว เจ้าตัวเรียนอยู่อนุบาลสอง และนี่เป็นเพียงช่วงปิดเทอมเท่านั้น ภาคย์กับเตโชเลยตกลงกันว่าจะพาลูกชายไปเที่ยวทะเลเพื่อพักผ่อนหนีร้อนในเมืองคุณป๋าอาสาขับรถมาเองเพราะอยากออกไปเที่ยวกับครอบครัวแบบธรรมดา อาโปนั่งที่เบาะด้านหลังร้องเพลงเจื้อยแจ้วอย่างสนุกสนาน ก่อนที่เจ้าตัวจะเอ่ยขึ้นมาว่า “คุณแม่ น้องคืออะไร?ใจ๋ใจ๋บอกว่าตัวเองกำลังมีน้องล่ะ” เมื่อได้ยินสีหน้าของเตโชก็แดงก่ำเหลือมองคุณป๋าที่หัวเราะร่า ก่อนจะเอื้อมมือมาจับมือตัวเอง แล้วเอ่ยด้วยเสียงอารมณ์ดีว่า“น้องคือเพื่อนเล่นอีกคนครับ ทำไมอาโปอยากมีน้องหรือ?” เมื่อได้ยินอาโปก็ย่นคิ

  • ผมอยากเป็นคุณชายไม่อยากเป็นแค่เด็กเลี้ยง (Mpreg, Yaoi)   บทที่ 19 ดีดลูกคิดรางแก้ว

    บทที่ 19 ดีดลูกคิดรางแก้วภายในสลัมโชคจ้องหนังสือพิมพ์ที่กำลังแปะพาดหัวข่าวการแต่งงานของยักษ์แห่งวงการยา แน่นอนว่าสิ่งที่ทำให้โชคสนใจไม่ใช่เรื่องราวความรักหวานชื่นแต่เป็นภาพของภรรยาคุณชายคนใหม่แห่งอัครพิเสธ อย่างเตโช อัครพิเสธต่างหากที่ทำให้โชคเลียริมฝีปากที่แห้งผาก ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงแหบพร่าว่า “ไอ้เต มึงอยู่นี่นี้เอง” ใช่โชคกำลังมองหาลูกชายคนเล็กที่หายตัวไปราว 10 กว่าปีได้ มันทิ้งให้ตัวเองต้องเผชิญกับเรื่องบัดซบหนีเอาตัวรอดคนเดียวแบบนี้ โชคยิ่งแค้นใจนัก ตนจ้องมองชื่อและนามสกุลใหญ่ที่ว่า ก่อนจะยืมมือถือของลูกน้องคนหนึ่งมากดเสิร์ชหาที่อยู่ของบ้านอัครพิเสธในวันแรกโชคมาที่บริษัทยาที่ชื่อว่า เภตรา ฟาร์มาซูติคอล ซึ่งเป็นบริษัทที่ผัวไอ้เตมันทำงานอยู่ โชคมาด้อมๆ มองๆ อยู่บริษัทอยู่หลายวันถึงได้รู้ว่ารถคันไหนเป็นรถที่ผัวไอ้เตมันนั่ง หลังจากนั้นก็พยายามสะกดรอยตามไปถึงที่บ้าน ตอนแรกโชคหาทางไปบ้านไม่เจอเพราะคาดกันหลังจากนั้นผ่านไปไม่นานก็มาถึงบ้านหลังใหญ่ โชคมองบ้านหลังใหญ่ด้วยความโลภในดวงตา ก่อนจะเผยริมฝีปากเมื่อเห็นจากไกลๆ ว่าเตโชมันออกมาพร้อมเด็กตัวเล็กอีกคนน่าจะเป็นลูกมันโชคคิดในใจ ก่อนจะเ

  • ผมอยากเป็นคุณชายไม่อยากเป็นแค่เด็กเลี้ยง (Mpreg, Yaoi)   บทที่ 18 กิ่งทองใบหยก

    บทที่ 18 กิ่งทองใบหยกเตโชนั่งอ่านข่าวของน้ำฟ้าและวิจิตรกาลในโทรศัพท์มือถืออย่างใจเย็น รอยยิ้มมุมปากถูกยกขึ้นก่อนที่พี่เนยจะเอ่ยพร้อมกับเล่นกับน้องอาโปไปด้วยว่า “ดีแล้วค่ะที่คนเลวแบบนั้นโดนจับ” เตโชหุบยิ้มมุมปากก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงเห็นใจว่า“สงสารก็แต่น้องน้ำตาลไม่รู้ป่านนี้เป็นอย่างไรบ้าง?” เมื่อได้ยินเนยก็ถอนหายใจ ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงโมโหว่า“ไม่น่าเห็นใจเลยค่ะ เด็กอะไรไม่รู้ทำไมรังแกอื่นไปทั่วแบบนั้น” เตโชพยักหน้ารับอย่างเห็นด้วยแต่ไม่ได้เอ่ยอะไรอีก ตนคิดว่าน้ำฟ้าจะจัดการกับตัวเอง แต่คิดไม่ถึงว่าน้ำตาลจะรังแกลูกชายตัวเองจริงๆ เห็นได้ชัดว่านี่น่าจะเป็นพฤติกรรมการส่งเสริมจากมารดาอย่างไม่ต้องสงสัย คงไม่มีเด็กสิบขวบที่ไหนมารังแกคนอื่นถ้านิสัยไม่เสียจริงๆ เพราะแบบนั้นเตโชจึงพูดออกมาจากใจจริงๆ ที่เป็นห่วงน้ำตาล เพราะเด็กหญิงคงเผชิญหน้ากับเรื่องเลวร้ายแบบนี้เพราะการกระทำของมารดาทั้งนั้น และไม่นานคุณป๋าก็กลับมาถึงบ้าน เตโชพาลูกชายออกไปต้อนรับเหมือนอย่างทุกวัน แต่วันนี้ต่างไปนิดหน่อยเพราะคุณป๋าดูเหมือนมีอะไรในใจ เมื่อขึ้นมาบนห้องหลังจากเตไปส่งลูกชายเข้านอน ก็เห็นภาคย์นั่งลงที่ปลายเตียงกำลังรอ

  • ผมอยากเป็นคุณชายไม่อยากเป็นแค่เด็กเลี้ยง (Mpreg, Yaoi)   บทที่ 17 พออ้าปากก็เห็นลิ้นไก่

    บทที่ 17 พออ้าปากก็เห็นลิ้นไก่ภาคย์นั่งอ่านรายงานที่พัดส่งมาให้ตัวเองด้วยสีหน้าจริงจัง จากการสอบสวนน้ำฟ้า เธอตั้งท้องจริงหลังจากหย่ากับภาคย์มีโอกาสเป็นไปได้มากว่าเด็กคนนั้นเป็นลูกของภาคย์ แต่เรื่องนี้ก็ยังไม่แน่ชัดเมื่อในสูติบัตรของน้ำตาลในช่องพ่อถูกเว้นชื่อเอาไว้ ส่วนสาเหตุที่เธอกลับมาในช่วงสิบปีน่าจะเป็นผลมาจากครอบครัวของเธอเกิดปัญหา ตอนหย่ากันสินสมรสถูกแบ่งออกอย่างเท่าเทียมกัน และภาคย์ก็ยุติการร่วมมือระหว่างวิจิตรกาลและอัครพิเสธไปแล้วเพื่อความชัดเจน เพราะแบบนั้นตนจึงไม่ได้ใส่ใจเรื่องของวิจิตรกาลอีกต่อไป จนมาทราบตอนนี้ว่าทางวิจิตรกาลกำลังจะถูกฟ้องล้มละลาย เนื่องจากการหนีภาษีมาหลายปี “ท่านประธานอยากให้ผมสืบต่อไหมครับ?” ภาคย์วางเอกสารลงบนโต๊ะทำงาน ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงจริงจังว่า“ให้แม่บ้านเก็บเส้นผมของน้ำตาลมาให้อย่างลับๆ ในเมื่อน้ำฟ้าไม่ต้องการตรวจพิสูจน์ความเป็นพ่อเพื่อให้เรื่องนี้กระจ่างฉันคงต้องใช้วิธีนี้เท่านั้น”“ครับท่านประธาน” ก่อนที่ภาคย์จะเอ่ยต่อว่า“อีกเรื่องติดต่อคนจากวิจิตรกาล ฉันต้องการพูดคุยด้วยหน่อย” พัดเอ่ยตอบรับก่อนจะออกไปเหลือเพียงภาคย์ที่นั่งมองเอกสารในห้องด้วยสายต

  • ผมอยากเป็นคุณชายไม่อยากเป็นแค่เด็กเลี้ยง (Mpreg, Yaoi)   บทที่ 16 พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง

    บทที่ 16 พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง“ตอนเราหย่ากันฉันก็ท้องน้องน้ำตาลแล้ว แต่ฉันไม่คิดจะบอกคุณ เพราะคิดว่าไม่จำเป็น แต่ดูเหมือนตอนนี้คุณจะมีลูกแล้ว ฉันแค่ไม่อยากให้น้องน้ำตาลไม่ได้รับในสิ่งที่ควรได้รับ เพราะฉะนั้นฉันมาที่นี่วันนี้เพื่อบอกให้คุณรู้ว่าคุณยังมีลูกสาวอีกคนอยู่ด้วย”“!!!!!!!!!!!!!!” ภาคย์จ้องหน้าหญิงสาวตรงหน้าด้วยสายตาตกตะลึง ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงแหบแห้งว่า “แล้วทำไมคุณถึงเพิ่งมาบอกผมตอนนี้น้ำฟ้า?” เมื่อได้ยินน้ำฟ้าก็ยักไหล่อย่างไม่แคร์อะไร ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงราบเรียบว่า“เพราะฉันไม่คิดว่าคุณจะเชิดชูลูกของเด็กเลี้ยงคนนั้นออกหน้าออกตาอย่างไรเล่า รู้แบบนี้ตอนนั้นฉันไม่หย่ากับคุณน่าจะดีกว่า” น้ำฟ้าเอ่ยพลางยกกาแฟขึ้นจิบ ก่อนจะมองใบหน้าอดีตสามีด้วยสายตาราบเรียบเย็นชา เธอกับภาคย์แต่งงานกันเพราะผลประโยชน์ของคนรุ่นเก่า ทำตามคำสัญญาบ้าบอของคนแก่ที่ไม่คิดว่าจะทำ ชีวิตรักบนเตียงของภาคย์ก็ดีไม่แย่ แค่ตอนที่หย่าเธอดันมีลูกติดท้องมาด้วยเท่านั้น“ผมอยากตรวจ DNA ” เมื่อได้ยินน้ำฟ้าก็เบ้ปากก่อนจะเอ่ยเสียงไม่ยี่หระว่า“แต่ฉันไม่อนุญาต” เมื่อได้ยินภาคย์ก็ย่นคิ้วจ้องมองเธอด้วยสายตาสงสัย ภ

  • ผมอยากเป็นคุณชายไม่อยากเป็นแค่เด็กเลี้ยง (Mpreg, Yaoi)   บทที่ 15 ชี้นกบนปลายไม้

    บทที่ 15 ชี้นกบนปลายไม้วันนี้เหมือนทุกวันภาคย์กำลังทำงานอยู่ที่บริษัท แต่จู่ๆ พัดก็เข้ามาแล้วเอ่ยด้วยเสียงเบาว่า “ท่านประธานครับ คุณอินติดต่อมาว่าอยากขอพบท่านครับ” เมื่อได้ยินภาคย์ก็เงยขึ้นจากกองเอกสาร ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงสับสนว่า“อิน? ใคร?” อาจจะเพราะหลายปีแล้วที่ภาคย์ไม่ได้ติดต่อกับอีกฝ่ายทำให้ความทรงจำเลือนรางไปบ้าง ก่อนที่พัดจะเอ่ยอธิบายว่า“หนึ่งในเด็กในปกครองท่านครับ แต่เลิกติดต่อกันไปหลายปีแล้ว” เมื่อได้ยินภาคย์ก็ย่นคิ้ว ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงราบเรียบว่า“ทางนั้นติดต่อมาทำไม?”“ไม่บอกเหตุผลไว้ แค่ต้องการติดต่อท่านครับ” ภาคย์เอนหลังพิงพนักพิง ก่อนจะหรี่ตาลงแล้วเอ่ยด้วยเสียงราบเรียบว่า“ข้อมูลทั้งหมดของอินหลังเจ้าตัวออกจากฉันไป และตอบตกลงอีกฝ่ายเป็นเย็นนี้ที่ร้านอาหาร x ขอข้อมูลของเจ้าตัวก่อนออกไปเย็นนี้”“ได้ครับ” ภาคย์ไม่รู้ว่าอินกลับมาหาตัวเองด้วยเรื่องอะไร แต่ที่ยอมไปพบเพราะเห็นแก่ที่มีอดีตร่วมกันมาสักพักแล้วตัวเองเป็นฝ่ายบอกลาอีกฝ่ายก่อน ถ้าเป็นเรื่องเล็กน้อยภาคย์ก็ยังช่วยได้ แต่ถ้ามากกว่านั้นก็อย่าหาว่าภาคย์ใจร้ายเลยเถอะและเมื่อตอนเย็นมาถึงภาคย์ที่เพิ่งอ่านเอกสารของอินจบก็มี

  • ผมอยากเป็นคุณชายไม่อยากเป็นแค่เด็กเลี้ยง (Mpreg, Yaoi)   บทที่ 14 เลือดข้นกว่าน้ำ

    บทที่ 14 เลือดข้นกว่าน้ำในวันที่ 22 มิถุนายน เด็กชายอาโป อัครพิเสธ ก็ได้ลืมตาขึ้นมาดูโลกนี้ เจ้าตัวเป็นเด็กชายที่ไม่ใช่เพศพิเศษ นี่ทำให้เตโชพอใจ ตอนนี้เจ้าตัวกำลังนอนในอ้อมแขนเตโช โดยมีคุณป๋านั่งมองอยู่ด้านข้างด้วยสายตาอ่อนโยน “น้องอาโปหน้าเหมือนคุณป๋าจนหนูอดน้อยใจไม่ได้ที่ลูกหน้าไม่เหมือนหนูเลย” เมื่อได้ยินภาคย์ก็หัวเราะ พลางยืดตัวหอมแก้มเจ้าตัว แล้วเอ่ยด้วยเสียงอ่อนโยนว่า“แต่ตาลูกเหมือนหนูมากเลยนะ” เมื่อได้ยินเตโชก็จ้องมองดวงตาอีกฝ่ายที่กำลังกะพริบไม่ได้โฟกัสสิ่งใดด้วยสายตาอ่อนลง ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงอารมณ์ดีว่า“คุณป๋าอยากอุ้มน้องไหมครับ?” เมื่อได้ยินภาคย์ก็พยักหน้ารับ ก่อนจะลุกขึ้นเพื่ออุ้มลูกชายเข้ามาในอ้อมกอด พลางจับจ้องเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเองด้วยสายตาอ่อนโยน“พ่อขอให้หนูโตมาสุขภาพร่างกายแข็งแรงมีความสุขมากๆ นะครับอาโป” เหมือนเด็กน้อยจะรู้ว่าพ่อกำลังอวยพรตัวเอง เจ้าเลยยกยิ้มจนเห็นเหงือกแดงๆ อย่างน่าเกลียดน่าชัง ทำเอาภาคย์ใจอ่อนใจเหลวไปหมด แล้วอีกไม่กี่วันเตโชก็ออกจากโรงพยาบาล กลับมาอยู่ที่บ้าน ที่บ้านมีพี่เนยแม่บ้านที่กลายเป็นพี่เลี้ยงน้องอาโป ตามที่ภาคย์จัดสรรมาเพราะเนยเคยมี

  • ผมอยากเป็นคุณชายไม่อยากเป็นแค่เด็กเลี้ยง (Mpreg, Yaoi)   บทที่ 13 ถอดเขี้ยว ถอดเล็บ

    บทที่ 13 ถอดเขี้ยว ถอดเล็บ“เห็นว่าโดนพวกเจ้าถิ่นไล่ตี นอนเป็นผักอยู่ที่โรงพยาบาลมาครึ่งปีแล้ว” สิ้นเสียงของปอ เตโชก็มีสีหน้าบิดเบี้ยว ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงแหบพร่าว่า“พี่รู้ได้อย่างไร?” ปอมีสีหน้าแปลกๆ ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงเบาลงว่า“ฉันกลับไปที่บ้านเจอเจ๊หมวย แกจำเจ๊หมวยได้ใช่ไหม? นั่นแหละเขาเล่าให้ฟังว่าพี่แกไปตีกับเจ้าถิ่น เข้าไล่แทงจนเลือดอาบ เห็นว่าตกสะพานลอย ไม่ตายแต่นอนเป็นผักที่โรงพยาบาล แม่แกก็ติดเหล้าเหมือนไม่ได้สนใจอะไร ส่วนพ่อแกก็ไปๆ มาๆ ที่โรงพยาบาลกับบ้าน เฮ้อ เวรกรรมจริงๆ ” เตโชหน้าซีด ก่อนจะกลืนน้ำลาย ตนเคยคิดว่าจะไม่สนใจแล้วเรื่องครอบครัวเส็งเคร็งนั่น แต่พอได้ยินจริงๆ ก็รู้สึกไม่สบายใจ ก่อนที่ปอจะเห็นสีหน้าคนท้องรู้สึกไม่ดีจึงตบปากตัวเอง แล้วเอ่ยตำหนิตัวเองด้วยความรู้สึกผิดว่า “ฉันไม่น่าเอาเรื่องพวกนี้มาเล่าให้คนท้องฟังเลย ปากดีจริงๆ!”“ไม่เป็นไรหรอกพี่ถือว่าเล่าสู่กันฟัง” ปอไม่ได้เอ่ยอะไรเพราะรู้ดีว่าพื้นเพเตโชเป็นอย่างไร คงไม่มีใครอยากกลับไปนับญาติกับครอบครัวแบบนั้นหรอก หลังจากพูดคุยไม่นานปอก็จากไป เหลือทิ้งเพียงเตโชที่นั่งเหม่อลอยตลอดทั้งบ่าย ไม่รู้เป็นเพราะอารมณ์คนท้อ

  • ผมอยากเป็นคุณชายไม่อยากเป็นแค่เด็กเลี้ยง (Mpreg, Yaoi)   บทที่ 12 ขุดบ่อล่อปลา

    บทที่ 12 ขุดบ่อล่อปลาตั้งแต่วันนั้นที่เตโชเริ่มกินยาคุม ก็ผ่านมาเดือนกว่าแล้ว เตโชรู้ดีว่าการใช้เด็กจับคุณป๋าไม่มีประโยชน์ และตนไม่ต้องการทำเช่นนั้นด้วยเพราะเตโชมีแผนที่ดีกว่านั้น การทำให้คุณป๋าอยากมีลูกกับตัวเอง เป็นเรื่องที่ง่ายกว่าการใช้เด็กจับคุณป๋าให้เกิดความขุ่นข้องหมองใจกันเปล่าๆ แถมยังเป็นวิธีสิ้นคิดอีก สู้เตโชทำให้คุณป๋าอยากมีลูกกับตัวเองก่อนไม่ดีกว่าหรือ? เพราะฉะนั้นสิ่งที่เตทำคือการทานยาตรงตามเวลาแบบไม่ให้ผิดพลาดแม้แต่น้อย “ให้หนูกินยาก่อนค่ะ” เตโชเอ่ยพลางลุกขึ้นจากเตียงไปทานยาคุมฉุกเฉิน ด้วยร่างกายเปลือยเปล่า ต่างจากภาคย์ที่กำลังมองเด็กหนุ่มด้วยสายตาอ่านยาก ก่อนจะตบที่นอนให้เจ้าตัวมานอนข้างตัวเองเตโชเดินมาทิ้งตัวนอนลงที่ด้านข้างคุณป๋าก่อนจะกลิ้งตัวเข้าไปในอ้อมอีกฝ่ายหลังทานยาเสร็จ ภาคย์เอ่ยด้วยเสียงอ่อนโยนว่า “หนูอยากไปเที่ยวที่ไหนไหมคะ?” เมื่อได้ยินเตโชก็มีนัยน์ตาวาววับ ก่อนจะเอ่ยอย่างอารมณ์ดีว่า“หนูอยากไปทะเล! คุณป๋าพาหนูไปทะเลได้ไหม?” เมื่อได้ยินภาคย์ก็มีนัยน์ตาอ่อนลง“ดีค่ะ สุดสัปดาห์นี้เราไปทะเลกัน” เมื่อได้ยินเตโชก็โถมตัวจูบอีกฝ่ายอย่างเอาใจ ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงอาร

DMCA.com Protection Status