“ใครส่งพวกนายมา” เสียงโหดพอไหมวะชายหนุ่มปรับสีหน้าและแววตาให้ดูเหมือนคนโหดเหี้ยม แต่เหมือนคนร้ายจะไม่กลัวเลยสักนิด
“ฮ่าๆๆ ฉันยอมตายดีกว่าพูด”
“แล้วเราจะเอายังไงต่อมันไม่ยอมพูด” เฉินเหยียนเฟยหันมาถามเย่าหยางว่าเขาต้องทำยังไงต่อเจ็บตัวไม่พอยังต้องมาปวดสมองกับเรื่องไร้สาระอะไรอีก
“ยิงมันเลยไหมครับ” ลี่เจินยื่นปืนให้คุณชาย
“นายเอาออกไปไกลๆ อยากจะทำอะไรกับพวกมันก็ทำไป”
เฉินเหยียนเฟยไม่ได้สนใจและให้ลูกน้องจัดการคนร้ายเขาอยากรู้ว่าคนพวกนี้จะทำยังไง พูดไม่ทันจะจบลี่เจินจึงยิงไปที่ต้นขาของคนร้ายหนึ่งนัด
ปัง
“เห้ยย” เฉินเหยียนเฟยใช้มือปิดปากตัวเองไว้เพราะตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นทุกคนหันมามองเขาเป็นตาเดียว ชายหนุ่มต้องแกล้งทำตัวให้เป็นปกติทั้งที่ความจริงอยากจะร้องออกมาและวิ่งหนีไปเลย
“คุณชายครับ คุณชาย!”
“อะไรวะ ตกใจหมดเลยนายอยากจะทำอะไรก็ทำไป”
เย่าหยางพาคุณชายกลับมารอที่รถสักพักพวกนั้นก็พากันออกมาภาพที่คนถูกยิงยังติดตาเขาอยู่เลย ตายเพราะกระสุนปืนยังคงวนเวียนอยู่แต่กับปืน เทวดาตนไหนผลักให้เขาเข้ามาอยู่ในร่างนี่กัน
“คุณชายจะกลับเลยไหมครับ”
“ฉันอยากกลับแล้ว”
“พรุ่งนี้มีงานเลี้ยงของท่านผู้บัญชาการคุณชายจะไปไหมครับ”
“อืม”
ชายหนุ่มตอบแค่นั้นและเผลอหลับไปไม่รู้ด้วยซ้ำว่าลูกน้องตัวเองพูดอะไรอยู่เขาเริ่มปวดหัวขึ้นมาอีกครั้งเพราะอะไรเขาถึงย้อนเวลากลับมาอยู่ในร่างมาเฟียได้
ตอนดึกหลินเยี่ยนจืออาบน้ำแต่งตัวเพื่อที่จะเข้านอนวันไหนไม่มีเฉินเหยียนเฟยอยู่ในบ้านเธอจะมีความสุขมาก แต่อยู่ๆ เขาเปลี่ยนไปไม่รู้จะต้องรับมือยังไง
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“ใครคะ” หญิงสาวคิดว่าแม่บ้านนำนมอุ่นๆ มาให้จึงเดินมาเปิดประตูโดยที่ยังแต่งตัวไม่เรียบร้อยหญิงสาวอยู่ในชุดนอนตัวบางมองยังไงก็ทะลุปรุโปร่ง
“คุณเหยียนเฟย!”
“ขอเข้าไปหน่อยสินะ” ไม่รอหญิงสาวอนุญาตเขาแทรกตัวเข้ามาและรีบเดินขึ้นไปบนเตียงของหญิงสาวและทิ้งตัวลงนอนมุดเข้าไปใต้ผ้าห่ม
“คุณมานอนอะไรในห้องนี่กลับห้องคุณไป”
“ขอนอนด้วยสิหมาหอนเสียงดังฉันกลัวผี” คนขี้กลัวแบบเขาแค่ได้ยินเสียงอะไรก็ระแวงไปหมดตอนนี่ไม่ใช่เดือนสิบสองหมาจะหอนทำไมก็ไม่รู้แถมห้องนอนก็กว้างไม่ชินเลย
“กลัวผี? คุณกินยาลืมเขย่าขวดหรือไงออกไปจากห้องฉัน”
“เยี่ยนจือเราแต่งงานกันมานานแล้วขอฉันนอนด้วยคนนะ”
ชายหนุ่มยังคงตัวสั่นเพราะรู้สึกกลัวจริงๆ แต่เหมือนหญิงสาวไม่เชื่อที่ผ่านมาเขาร้ายกาจสารพัดเธอจะไม่หลงกลเขาอีกแล้ว
“ลุก ออก ไป!”
ไม่พอแค่นั้นหญิงสาวยังคงลากเฉินเหยียนเฟยออกไปและปิดประตูห้องใส่หน้าเขายืนเคาะประตูอยู่สักพักและเสียงก็เงียบไป หญิงสาวเดินมาที่ประตูและค่อยๆ เปิดดูเขาไปแล้วจริงๆ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก ปัง ปัง
จากเสียงเคาะประตูกลายเป็นเสียงทุบจนเย่าหยางต้องสะดุ้งตื่นและรีบเดินมาเปิดประตู สิ่งที่เห็นทำให้เขาตกใจคุณชายมายืนทำอะไรอยู่ตรงนี้
“คุณชายมาทำอะไรครับ”
“ขอฉันนอนด้วยคนฉันกลัวผี” เฉินเหยียนเฟยรีบเข้ามาในห้องของเย่าหยางและกระโดดขึ้นเตียงไปจองที่เรียบร้อยและสั่งให้ลูกน้องลงไปนอนที่พื้นแทน
“คุณชายครับ”
“ทำไมหรือนายจะให้ฉันไปนอนพื้น”
“เปล่าครับ” เย่าหยางไม่มีทางเลือกจึงไปหยิบหมอนและผ้าห่มมานอนที่พื้นแทนคงจะถูกคุณผู้หญิงไล่ออกมาคนที่รับกรรมคงหนีไม่พ้นพวกเขา
เวลาเกือบเจ็ดนาฬิกาหลินเยี่ยนจือรีบออกไปทำงานวันนี้มีประชุมใหญ่เลยไม่อยู่ทานข้าว บริษัทที่เธอทำงานอยู่เป็นของพี่ชายเพื่อนสนิทหลินเยี่ยนจือจึงเกรงใจ
“เยี่ยนจือละ”
“คุณผู้หญิงออกไปทำงานแล้วครับ” พ่อบ้านหมิงตอบคุณชายออกไป แต่ชายหนุ่มทำหน้านิ่วคิ้วขมวดหลินเยี่ยนจืออยากดื้อกับเขาก่อน
“คุณชายจะเข้าไปดูงานหน่อยไหมครับ”
“ไปที่ทำงานของเยี่ยนจือ” ลูกน้องจึงไม่โต้ตอบอะไรและทำตามคำสั่งของคุณชายทันที เขาไม่เข้าใจทำไมหลินเยี่ยนจือต้องออกไปทำงาน
“หลินเยี่ยนจือทำไมต้องออกไปทำงาน” เขารู้มาส่วนหนึ่งแล้วว่าสามีตัวจริงของหญิงสาวไม่ยอมให้เงินหญิงสาวและยังทำเป็นรังเกียจภรรยาตัวเอง
“คุณชายเป็นคนสั่งให้คุณผู้หญิงรู้จักทำมาหากินเองนี่ครับคุณผู้หญิงก็ออกไปทำงานตั้งแต่แต่งงานแล้วนะครับ” เย่าหยางสงสารผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อหาเงิน
“แล้วยังไงต่อ”
“คุณผู้ชายเกลียดคุณผู้หญิงยิ่งกว่าอะไรอีกเพราะทำให้คนที่คุณชายรักหนีไปเพราะแต่งงาน”
เฉินเหยียนเฟยพอจะปะติดปะต่อเรื่องราวได้แล้วบนโลกใบนี่ยังมีคนสวยกว่าหลินเยี่ยนจืออีกหรือ ไอ้มาเฟียโง่คนนั้นยังมาทำทีรังเกียจภรรยาตัวเองอีก
“คุณชายยึดสมบัติของคุณผู้หญิงมาและยัง เอ่อ ยังไล่ให้ไปหย่าอีกครับ” เย่าหยางหยุดพูดเพียงเท่านั้นเพราะเห็นแววตาที่เห็นใจออกมาจากเฉินเหยียนเฟย
ไอ้มาเฟียรวยแล้วยังจะโกงผู้หญิงอีกตายไปแล้วก็ให้ตายไปอย่ากลับมาอีกต่อจากนี่เขาจะดูแลหลินเยี่ยนจือเอง รถแล่นเข้ามาจอดอยู่หน้าบริษัทที่หญิงสาวทำงานอยู่
“ไปเรียกหลินเยี่ยนจือกลับบ้านบอกว่าฉันมารอรับ”
“คุณชายจะให้คุณผู้หญิงลาออกหรือครับ” ลี่เจินถามเพราะไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน
“นายหูตึงไปแล้วเหรอ”
“ครับผมจะจัดการให้เดี๋ยวนี่”
เฉินเหยียนเฟยนั่งอ่านหนังสือหนังพิมพ์อยู่สักพักคนที่เขาอยากเจอหน้าก็มาหยุดตรงหน้าเขาด้วยแววตาที่ไม่พอใจเท่าไร “ฉันมารับภรรยากลับบ้าน”
“คุณบ้าไปแล้วหรือไงฉันต้องทำงาน”
“เย่าหยางนายจัดการแล้วใช่ไหม”
“ทุกอย่างเรียบร้อยครับ” พอลูกน้องพูดจบเฉินเหยียนเฟยไม่รอช้ารีบอุ้มหญิงสาวขึ้นพาดบ่าและเดินออกไปทันทีโดยไม่สนสายตาของผู้คนที่เดินผ่านไปมา
“ปล่อยฉันนะ...” ร้อยวันพันปีเขาไม่เคยคิดที่จะสนใจเธอเลยสักครั้งและไม่เคยเข้ามาวุ่นวายเรื่องของเธอแต่ครั้งนี้เขาเล่นยื่นใบลาออกแทนเธอ และยังมาลักพาตัวเธอออกไปทั้งที่ยังไม่หมดเวลาทำงาน
“ต่อไปนี่ไม่ต้องไปทำงานอีก”
“คุณจะพาหรือไงแล้วฉันจะเอาอะไรกิน!”
เขาเห็นแก่ตัวมากทั้งที่โกงสมบัติชิ้นสุดท้ายที่พ่อมอบให้เธอไม่พอยังจะมาสั่งไม่ให้เธอทำงานอีก เขาแค่โกรธที่ต้องแต่งงานกับหญิงสาวทำให้ผู้หญิงที่เขารักหนีไป
“ฉันออกจะรวยจะเอาเท่าไร”
“ฉันต้องการใบหย่าคุณให้ได้ไหมละ”
“อย่ามาตลกน่า” พอได้ยินว่าหญิงสาวอยากหย่าขึ้นมาทำไมหัวใจของเขาถึงรู้สึกคันหยุกหยิกและไม่พอใจเป็นอย่างมาก
“ตลอดหลายปีที่ผ่านมาคุณถามหามันตลอดไม่ใช่หรือและทรมานฉันสารพัด”
“เรา เราก็เริ่มต้นกันใหม่ได้” เขาเห็นน้ำตาไหลออกมาจากใบหน้าแสนสวยนั่นเขารู้สึกผิดใบหน้าที่สวยของหลินเยี่ยนจือไม่เหมาะกับน้ำตาเลย มือหนาจะเลื่อนขึ้นมาเช็ดน้ำตาให้แต่หญิงสาวกลับหันใบหน้าหนีและใช้มือปาดเช็ดน้ำตาด้วยตัวเอง ทั้งรถจึงตกอยู่ในความเงียบไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมาจนรถแล่นเข้ามาจอดในลานจอดรถของคฤหาสน์หรู
หลินเยี่ยนจือกลับมาถึงคฤหาสน์ก็ไม่ยอมพูดยอมจากันกับชายหนุ่มเธอกำลังโกรธเขาตามปีที่ผ่านมาเขาทรมานเธอไม่พออีกหรือหญิงสาวอยากหลุดพ้นไปจากตรงนี้ “ฮึก ฮือ คุณพ่อขา” เมื่อความอ่อนแอเล่นงานคนที่พยายามจะเข้มแข็งจึงร้องไห้ออกมาพ่อทิ้งเธอไว้ให้เผชิญโลกกว้างและเขาคนนั้นที่ทิ้งเธอไว้ จางหย่งคือผู้ชายที่เธอรักเขาจากโลกนี่ไปได้สามปีแล้ว ปัง! “คุณเข้ามาทำอะไรออกไป” “อยากออกไปอยู่หรอกมากินข้าวก่อน” เฉินเหยียนเฟยให้สาวใช้ถืออาหารเข้ามาให้หญิงสาวตอนนี้เลยเวลาเที่ยงมานานมากแล้ว หญิงสาวทำนิ่ง “ออกไป” “กินก่อนเดี๋ยวฉันจะออกไป หรือกลัวว่าฉันจะวางยา” ชายหนุ่มหยิบขนมขึ้นมาและกดเข้าไปหนึ่งและเคี้ยวให้คนตัวเล็กดูแต่กินได้ไม่กี่คำรู้สึกว่าจะหายใจไม่ออก “นี่มันอะไร” “เซาปิ่ง[2] ทำจากแป้งผสมมันเทศ” หญิงสาวจำมันได้ดีเพราะจางหย่งแพ้มันเทศแต่หญิงสาวกับชอบกินเซาปิ่งแต่ดูเหมือนว่าคนตรงหน้าจะหน้าดำหน้าแดงไอออกมา “แค่กๆๆ” “อย่ามาล้อเล่นกับฉันนะ” “ชะ ช่วยฉันด้วย...” เขาไม่รู้ว่าข้างในคือมันเทศเขาแพ้มันเทศซึ่งมันเคยทำให้เขาเกือ
ช่วงสายของมีขกเข้ามาขอพบเฉินเหยียนเฟยเขาคนนั้นคือเฉินลี่หยางลูกพี่ลูกน้องของชายหนุ่มแต่เฉินเหยียนเฟยกับมีความทรงจำเกี่ยวกับน้องชาย “พี่ชายวันนี่ผมกลับมาแล้วงานที่ให้ทำสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี” “งาน?” ชายหนุ่มสงสัยว่างานอะไรที่ให้น้องชายไปทำเพราะเขาจำไม่ได้นอกจากจะค้าขายกับต่างชาติยังมีอะไรอีก “ลืมไปว่าจำอะไรไม่ได้ก็พี่ส่งผมไปขายอาวุธให้รัฐบาลทางตอนใต้ไงได้เงินมาเยอะเลย” อาชีพที่ไม่ค่อยจะสุจริตพวกเขาก็ทำกันและยังมีผู้บัญชาการร่วมขบวนการ “อ้อฉันจำได้แล้ว” “ว้าวพี่สะใภ้วันนี่ผมมีของขวัญมาให้ด้วย” เฉินลี่หยางหยิบกำไรข้อมือออกมาเขาจำได้ว่าพี่สะใภ้ของเขาอายุครบยี่สิบสองปีแล้วชายหนุ่มจึงยื่นให้ “สุขสันต์วันคล้ายวันเกิดครับ” “ขอบคุณค่ะคุณชายรอง” หญิงสาวหยิบขึ้นมาเป็นกำไรหยกสีเขียวสวยงามระรานตาราคาคงจะแพงไม่น้อย หลินเยี่ยนจือจึงส่งยิ้มให้เขา แต่เป็นเฉินเหยียนเฟยที่ตกหลุมพรางรอยยิ้มที่เขาไม่เคยเห็นเวลาอยู่กับน้องชายของเขาทำไมหญิงสาวจึงร่าเริงสดใสพออยู่กับเขากับทำท่าทีเหมือนจะขาดอากาศหายใจตาย “อะ แฮ่ม ไม่มีอะไรก็ไปทำงานข
“พี่ใหญ่เหงื่อออกร้อนหรือกลัว”“ใครกลัวตามฉันมา” คนปากเก่งเดินนำหน้าไปพอเห็นลูกน้องของศัตรูก็เบรกแทบหัวทิ่มและให้ลูกน้องตัวเองนำหน้าไปเขาก็แค่กลัวตายนิดหน่อย“ทำเป็นปากเก่ง” เฉินลี่หยางเดินนำหน้าและต่างคนต่างประจันหน้ากันอยู่ ซ่งห้าวอี้ที่รออยู่แล้วจึงหัวเราออกมาวันนี้ชัยชนะต้องเป็นของเขา“ไม่ได้เจอกันเลยฉันคิดว่านายตายไปแล้วดวงแข็งยังฟื้นขึ้นมาได้อีก”“ทุกอย่างเป็นฝีมือนายใช่ไหม”“ไม่มีหลักฐานอย่ามาพูดมัว”เฉินลี่หยางหยิบปืนออกมาวันนี้เขาจะฆ่ามันด้วยมือของเขาเองพวกที่ใช้วิธีสกปรกมักไม่ตายดีกัน“จุ๊ๆ เด็กอย่างนายหลีกไป กลัวจนต้องไปหลบหลังเลยเหรอ”“กูไม่เคยกลัวมึง” เฉินเหยียนเฟยพูดออกมาหน้าตาก็น่ากลัวจิตใจยังจะน่ากลัวอีกรอยแผลเป็นที่หน้าคงถูกใครหลายคนหมายหัวมา“แล้วเรามาดูกันว่าใครจะกลัว ไปเอาตัวผู้หญิงมา!”ลูกน้องของซ่งห้าวอี้ลากหลินเยี่ยนจือออกมาใบหน้าเปื้อนด้วยน้ำตาเพราะกลัว“เยี่ยนจือ / พี่สะใภ้!”“ยิงมาสิมึงยิงกูยิงเมียมึง เสียดายหน้าสวยๆ แบบนี้ไม่น่าต้องตายเร็ว” ซ่งห้าวอี้จ่อกระบอกปืนไปที่ต้นคอของหญิงสาวที่ยื่นตัวสั่นอยู่มือทั้งสองข้างถูกมัดไว้ด้วยเชือก“ฮึก” ถึงแม้จะกลัวแต่ก็พยา
“ถ้าอย่างรบกวนคุณไห่ลี่โอนเงินจำนวน 3 หมื่นหยวนเข้ามาในระบบเลยครับทางเราจะได้ทำเรื่องเบิกเงินให้ครับ” เมื่อเหยื่อหลงกลและโอนเงินเข้ามาทำให้เฉินเหยียนเฟยยิ้มออกมาอย่างพอใจที่สามารถหลอกเหยื่อให้ตายใจได้ เมื่อเงินถูกโอนเข้ามาในบัญชีเขาจึงรีบบล็อกทุกช่องทางการติดต่อโดยไม่ทุกข์ร้อนอะไรว่าเหยื่อจะเป็นอย่างไร “โห่พี่เก่งมากเลยนับถือ” “พี่แน่อยู่แล้วไอ้น้อง” เฉินเหยียนเฟย ชายหนุ่มวัยสามสิบสองปีที่ทำอาชีพแก๊งคอเซนเตอร์หลอกลวงชาวบ้าน เขาอยู่วงการนี้มาเกือบสามปีแล้วใครว่าคนน่ากลัวความจนต่างหากที่น่ากลัวเขาปากกัดตีนถีบตัวเองมาจนมีเงินมีทองทุกวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย “ไอ้หนุ่มดวงถึงแล้ว” ยายชราที่นั่งอยู่บริเวณคอสะพานเอ่ยขึ้นมาเมื่อเฉินเหยียนเฟยเดินผ่านหน้า เธอรู้เธอเห็นอีกไม่กี่ชั่วโมงหรอกน่าสงสารอายุยังน้อยอยู่เลย “ยายพูดอะไรแก่แล้วเลอะเลือนหรือไง” เขาหัวเสียขึ้นมาที่ถูกทักแบบนั้น ถ้าไม่ติดว่าเป็นคนแก่และเป็นหญิงชราเขาเตะหัวคว่ำไปแล้ว “อย่าเดินไปทางนั้นเลยไอ้หนู” “พูดอะไรของยายมาแช่งกันทำไม” “คนเราหนีไม่พ้นความตายหรอก” แล้วแต่
เฉินเหยียนเฟยพอจะเดาเรื่องราวที่ผ่านมาได้บ้างเขานั่งจ้องใบหน้าของหลินเยี่ยนจือคนอะไรทั้งสวยทั้งน่ารัก เจ้าพ่อมาเฟียตัวจริงก็โง่เสียยิ่งกว่าอะไรมีเมียสวยขนาดนี้ยังไม่รักเมีย “คุณเป็นภรรยาผมจริงๆ ใช่ไหม” “คุณถูกยิงที่หน้าอกทำไมสมองถึงได้รับความกระทบกระเทือน” หญิงสาวทำท่าทีสงสัยเพราะตั้งแต่นั่งคุยกันมาเขาจำอะไรไม่ได้ด้วยซ้ำไม่รู้จะเสียใจหรือดีใจ “คนไข้การสูญเสียความทรงจำชั่วคราวครับอาจจะมีเรื่องอะไรมากระทบกระเทือนจิตใจ [1]” คุณหมออธิบายไปเกี่ยวกับอาการป่วยของชายหนุ่มแต่หลินเยี่ยนจือไม่เชื่อว่าเขาจะความจำเสื่อม เฉินเหยียนเฟยรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเกือบหนึ่งเดือนเต็มถึงได้กลับมาที่คฤหาสน์หลังโตที่เขาไม่เคยคิดไม่เคยฝันว่าจะได้มาอยู่ในบ้านหลังใหญ่โตขนาดนี้ “ยินดีต้อนรับกลับบ้านค่ะคุณชาย” สาวใช้ทั้งหลายต่างพากันมายืนรอต้อนรับเจ้านายที่เพิ่งออกจากโรงพยาบาล “ตามสบาย” เขาเดินตัวปลิวเข้ามาในบ้านหลังใหญ่โตและเห็นรูปแต่งงานของเฉินเหยียนเฟยกับหลินเยี่ยนจือรู้สึกคันยุกยิกที่หัวใจไม่น้อย ‘นายตายไปแล้วต่อไปฉันจะดูแลหลินเยี่ยนจือเอง’
ช่วงสายของมีขกเข้ามาขอพบเฉินเหยียนเฟยเขาคนนั้นคือเฉินลี่หยางลูกพี่ลูกน้องของชายหนุ่มแต่เฉินเหยียนเฟยกับมีความทรงจำเกี่ยวกับน้องชาย “พี่ชายวันนี่ผมกลับมาแล้วงานที่ให้ทำสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี” “งาน?” ชายหนุ่มสงสัยว่างานอะไรที่ให้น้องชายไปทำเพราะเขาจำไม่ได้นอกจากจะค้าขายกับต่างชาติยังมีอะไรอีก “ลืมไปว่าจำอะไรไม่ได้ก็พี่ส่งผมไปขายอาวุธให้รัฐบาลทางตอนใต้ไงได้เงินมาเยอะเลย” อาชีพที่ไม่ค่อยจะสุจริตพวกเขาก็ทำกันและยังมีผู้บัญชาการร่วมขบวนการ “อ้อฉันจำได้แล้ว” “ว้าวพี่สะใภ้วันนี่ผมมีของขวัญมาให้ด้วย” เฉินลี่หยางหยิบกำไรข้อมือออกมาเขาจำได้ว่าพี่สะใภ้ของเขาอายุครบยี่สิบสองปีแล้วชายหนุ่มจึงยื่นให้ “สุขสันต์วันคล้ายวันเกิดครับ” “ขอบคุณค่ะคุณชายรอง” หญิงสาวหยิบขึ้นมาเป็นกำไรหยกสีเขียวสวยงามระรานตาราคาคงจะแพงไม่น้อย หลินเยี่ยนจือจึงส่งยิ้มให้เขา แต่เป็นเฉินเหยียนเฟยที่ตกหลุมพรางรอยยิ้มที่เขาไม่เคยเห็นเวลาอยู่กับน้องชายของเขาทำไมหญิงสาวจึงร่าเริงสดใสพออยู่กับเขากับทำท่าทีเหมือนจะขาดอากาศหายใจตาย “อะ แฮ่ม ไม่มีอะไรก็ไปทำงานข
หลินเยี่ยนจือกลับมาถึงคฤหาสน์ก็ไม่ยอมพูดยอมจากันกับชายหนุ่มเธอกำลังโกรธเขาตามปีที่ผ่านมาเขาทรมานเธอไม่พออีกหรือหญิงสาวอยากหลุดพ้นไปจากตรงนี้ “ฮึก ฮือ คุณพ่อขา” เมื่อความอ่อนแอเล่นงานคนที่พยายามจะเข้มแข็งจึงร้องไห้ออกมาพ่อทิ้งเธอไว้ให้เผชิญโลกกว้างและเขาคนนั้นที่ทิ้งเธอไว้ จางหย่งคือผู้ชายที่เธอรักเขาจากโลกนี่ไปได้สามปีแล้ว ปัง! “คุณเข้ามาทำอะไรออกไป” “อยากออกไปอยู่หรอกมากินข้าวก่อน” เฉินเหยียนเฟยให้สาวใช้ถืออาหารเข้ามาให้หญิงสาวตอนนี้เลยเวลาเที่ยงมานานมากแล้ว หญิงสาวทำนิ่ง “ออกไป” “กินก่อนเดี๋ยวฉันจะออกไป หรือกลัวว่าฉันจะวางยา” ชายหนุ่มหยิบขนมขึ้นมาและกดเข้าไปหนึ่งและเคี้ยวให้คนตัวเล็กดูแต่กินได้ไม่กี่คำรู้สึกว่าจะหายใจไม่ออก “นี่มันอะไร” “เซาปิ่ง[2] ทำจากแป้งผสมมันเทศ” หญิงสาวจำมันได้ดีเพราะจางหย่งแพ้มันเทศแต่หญิงสาวกับชอบกินเซาปิ่งแต่ดูเหมือนว่าคนตรงหน้าจะหน้าดำหน้าแดงไอออกมา “แค่กๆๆ” “อย่ามาล้อเล่นกับฉันนะ” “ชะ ช่วยฉันด้วย...” เขาไม่รู้ว่าข้างในคือมันเทศเขาแพ้มันเทศซึ่งมันเคยทำให้เขาเกือ
“ใครส่งพวกนายมา” เสียงโหดพอไหมวะชายหนุ่มปรับสีหน้าและแววตาให้ดูเหมือนคนโหดเหี้ยม แต่เหมือนคนร้ายจะไม่กลัวเลยสักนิด “ฮ่าๆๆ ฉันยอมตายดีกว่าพูด” “แล้วเราจะเอายังไงต่อมันไม่ยอมพูด” เฉินเหยียนเฟยหันมาถามเย่าหยางว่าเขาต้องทำยังไงต่อเจ็บตัวไม่พอยังต้องมาปวดสมองกับเรื่องไร้สาระอะไรอีก “ยิงมันเลยไหมครับ” ลี่เจินยื่นปืนให้คุณชาย “นายเอาออกไปไกลๆ อยากจะทำอะไรกับพวกมันก็ทำไป” เฉินเหยียนเฟยไม่ได้สนใจและให้ลูกน้องจัดการคนร้ายเขาอยากรู้ว่าคนพวกนี้จะทำยังไง พูดไม่ทันจะจบลี่เจินจึงยิงไปที่ต้นขาของคนร้ายหนึ่งนัด ปัง “เห้ยย” เฉินเหยียนเฟยใช้มือปิดปากตัวเองไว้เพราะตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นทุกคนหันมามองเขาเป็นตาเดียว ชายหนุ่มต้องแกล้งทำตัวให้เป็นปกติทั้งที่ความจริงอยากจะร้องออกมาและวิ่งหนีไปเลย “คุณชายครับ คุณชาย!” “อะไรวะ ตกใจหมดเลยนายอยากจะทำอะไรก็ทำไป” เย่าหยางพาคุณชายกลับมารอที่รถสักพักพวกนั้นก็พากันออกมาภาพที่คนถูกยิงยังติดตาเขาอยู่เลย ตายเพราะกระสุนปืนยังคงวนเวียนอยู่แต่กับปืน เทวดาตนไหนผลักให้เขาเข้ามาอยู่ในร่างนี่
เฉินเหยียนเฟยพอจะเดาเรื่องราวที่ผ่านมาได้บ้างเขานั่งจ้องใบหน้าของหลินเยี่ยนจือคนอะไรทั้งสวยทั้งน่ารัก เจ้าพ่อมาเฟียตัวจริงก็โง่เสียยิ่งกว่าอะไรมีเมียสวยขนาดนี้ยังไม่รักเมีย “คุณเป็นภรรยาผมจริงๆ ใช่ไหม” “คุณถูกยิงที่หน้าอกทำไมสมองถึงได้รับความกระทบกระเทือน” หญิงสาวทำท่าทีสงสัยเพราะตั้งแต่นั่งคุยกันมาเขาจำอะไรไม่ได้ด้วยซ้ำไม่รู้จะเสียใจหรือดีใจ “คนไข้การสูญเสียความทรงจำชั่วคราวครับอาจจะมีเรื่องอะไรมากระทบกระเทือนจิตใจ [1]” คุณหมออธิบายไปเกี่ยวกับอาการป่วยของชายหนุ่มแต่หลินเยี่ยนจือไม่เชื่อว่าเขาจะความจำเสื่อม เฉินเหยียนเฟยรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเกือบหนึ่งเดือนเต็มถึงได้กลับมาที่คฤหาสน์หลังโตที่เขาไม่เคยคิดไม่เคยฝันว่าจะได้มาอยู่ในบ้านหลังใหญ่โตขนาดนี้ “ยินดีต้อนรับกลับบ้านค่ะคุณชาย” สาวใช้ทั้งหลายต่างพากันมายืนรอต้อนรับเจ้านายที่เพิ่งออกจากโรงพยาบาล “ตามสบาย” เขาเดินตัวปลิวเข้ามาในบ้านหลังใหญ่โตและเห็นรูปแต่งงานของเฉินเหยียนเฟยกับหลินเยี่ยนจือรู้สึกคันยุกยิกที่หัวใจไม่น้อย ‘นายตายไปแล้วต่อไปฉันจะดูแลหลินเยี่ยนจือเอง’
“ถ้าอย่างรบกวนคุณไห่ลี่โอนเงินจำนวน 3 หมื่นหยวนเข้ามาในระบบเลยครับทางเราจะได้ทำเรื่องเบิกเงินให้ครับ” เมื่อเหยื่อหลงกลและโอนเงินเข้ามาทำให้เฉินเหยียนเฟยยิ้มออกมาอย่างพอใจที่สามารถหลอกเหยื่อให้ตายใจได้ เมื่อเงินถูกโอนเข้ามาในบัญชีเขาจึงรีบบล็อกทุกช่องทางการติดต่อโดยไม่ทุกข์ร้อนอะไรว่าเหยื่อจะเป็นอย่างไร “โห่พี่เก่งมากเลยนับถือ” “พี่แน่อยู่แล้วไอ้น้อง” เฉินเหยียนเฟย ชายหนุ่มวัยสามสิบสองปีที่ทำอาชีพแก๊งคอเซนเตอร์หลอกลวงชาวบ้าน เขาอยู่วงการนี้มาเกือบสามปีแล้วใครว่าคนน่ากลัวความจนต่างหากที่น่ากลัวเขาปากกัดตีนถีบตัวเองมาจนมีเงินมีทองทุกวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย “ไอ้หนุ่มดวงถึงแล้ว” ยายชราที่นั่งอยู่บริเวณคอสะพานเอ่ยขึ้นมาเมื่อเฉินเหยียนเฟยเดินผ่านหน้า เธอรู้เธอเห็นอีกไม่กี่ชั่วโมงหรอกน่าสงสารอายุยังน้อยอยู่เลย “ยายพูดอะไรแก่แล้วเลอะเลือนหรือไง” เขาหัวเสียขึ้นมาที่ถูกทักแบบนั้น ถ้าไม่ติดว่าเป็นคนแก่และเป็นหญิงชราเขาเตะหัวคว่ำไปแล้ว “อย่าเดินไปทางนั้นเลยไอ้หนู” “พูดอะไรของยายมาแช่งกันทำไม” “คนเราหนีไม่พ้นความตายหรอก” แล้วแต่
“พี่ใหญ่เหงื่อออกร้อนหรือกลัว”“ใครกลัวตามฉันมา” คนปากเก่งเดินนำหน้าไปพอเห็นลูกน้องของศัตรูก็เบรกแทบหัวทิ่มและให้ลูกน้องตัวเองนำหน้าไปเขาก็แค่กลัวตายนิดหน่อย“ทำเป็นปากเก่ง” เฉินลี่หยางเดินนำหน้าและต่างคนต่างประจันหน้ากันอยู่ ซ่งห้าวอี้ที่รออยู่แล้วจึงหัวเราออกมาวันนี้ชัยชนะต้องเป็นของเขา“ไม่ได้เจอกันเลยฉันคิดว่านายตายไปแล้วดวงแข็งยังฟื้นขึ้นมาได้อีก”“ทุกอย่างเป็นฝีมือนายใช่ไหม”“ไม่มีหลักฐานอย่ามาพูดมัว”เฉินลี่หยางหยิบปืนออกมาวันนี้เขาจะฆ่ามันด้วยมือของเขาเองพวกที่ใช้วิธีสกปรกมักไม่ตายดีกัน“จุ๊ๆ เด็กอย่างนายหลีกไป กลัวจนต้องไปหลบหลังเลยเหรอ”“กูไม่เคยกลัวมึง” เฉินเหยียนเฟยพูดออกมาหน้าตาก็น่ากลัวจิตใจยังจะน่ากลัวอีกรอยแผลเป็นที่หน้าคงถูกใครหลายคนหมายหัวมา“แล้วเรามาดูกันว่าใครจะกลัว ไปเอาตัวผู้หญิงมา!”ลูกน้องของซ่งห้าวอี้ลากหลินเยี่ยนจือออกมาใบหน้าเปื้อนด้วยน้ำตาเพราะกลัว“เยี่ยนจือ / พี่สะใภ้!”“ยิงมาสิมึงยิงกูยิงเมียมึง เสียดายหน้าสวยๆ แบบนี้ไม่น่าต้องตายเร็ว” ซ่งห้าวอี้จ่อกระบอกปืนไปที่ต้นคอของหญิงสาวที่ยื่นตัวสั่นอยู่มือทั้งสองข้างถูกมัดไว้ด้วยเชือก“ฮึก” ถึงแม้จะกลัวแต่ก็พยา