งานแสดงยาตัวใหม่ ถูกผู้ร่วมงานทำให้กลายเป็นงานขายสินค้าไปซะงั้น!”โดยปกติงานเปิดตัวทั่วไปจะมีการแนะนำสรรพคุณของยาตัวใหม่ ชนิดของวัตถุดิบ และโรคที่สามารถรักษาได้ เป็นต้นพูดง่ายๆ คือเชิญผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมมาเพื่อบรรยายและโฆษณาสรรพคุณแต่สำหรับงานเปิดตัวยาแก้บาดเจ็บ กลับข้ามขั้นตอนนี้ไปเลยเพราะการพูดมากมายก็ยังไม่สู้การได้ประจักษ์ด้วยสายตาตัวเอง!ทุกคนได้เห็นยายอู๋จากอาการอัมพาต กลับมายืนได้ด้วยตัวเองแถมยังเดินไปได้อีกเป็นสิบก้าวนี่ก็คือการโฆษณาที่ดีที่สุด!ไม่มีเล่ห์เหลี่ยม ไม่มีการพูดโอ้อวด!แทบไม่ต้องเสียค่าโฆษณาเลย แค่ผู้คนในงานก็สามารถช่วยกระจายชื่อเสียงของยาแก้บาดเจ็บได้แล้วราคาขายอยู่ที่หนึ่งล้านห้าแสนบาทต่อเม็ด แถมยังลดราคาอีก 20 เปอร์เซ็น!ความจริงแล้ว ถึงไม่ลดราคา พวกเขาก็ยินดีที่จะซื้อ โดยไม่ต้องกระพริบตาเลยแต่ตอนนี้ เท่ากับว่าได้เงินกลับมาแบบตรงๆ อีกสามแสนบาท!”“ถ้าซื้อเพิ่มได้อีกสักหลายเม็ดหน่อยก็คงดี!”“พอใจเถอะ! เมื่อเทียบกับพวกโง่ที่อยู่ข้างบน พวกเราถือว่าโชคดีมากแล้ว!”“ใครว่าไม่ใช่ล่ะ ยังดีที่ร้านสมุนไพรซูเหวยมีความยุติธรรม ไม่เหมือนร้านร้อยสมุนไพ
“นายพูดไร้สาระอะไร ทุกคนล้วนเห็นด้วยตาตัวเอง จะเป็นเรื่องโกหกได้ยังไง?” ฝ่ายนั้นย้อนถาม“เนื่องจากซูหมิงอวี่เข้ามาช้า จึงพลาดช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นตอนที่หญิงชราหายจากโรคไป”“ยาแก้บาดเจ็บดีกว่ายาหุยชุนตันยังไงบ้าง?”อีกฝ่ายทำเสียงฮึดฮัดแล้วพูดว่า “อย่าได้พูดถึงขยะนั้นเลย ฉันเกือบจะโดนหลอกแล้ว ถ้าหากเอาเงินไปจ่ายให้กับยาหุยชุนตัน รับรองว่าเสียเงินฟรีแน่นอน”“ซูหมิงอวี่ตาโต ริมฝีปากสั่น”เขาถามต่ออีกหลายคนอย่างไม่ยอมแพ้”ผลก็คือ ทุกคนตอบเหมือนกัน!หลายคนที่อยู่ข้างหน้า เมื่อซื้อยาแก้บาดเจ็บได้แล้วก็กินเข้าไปทันทีไม่ว่าจะเป็นโรคที่ซ่อนเร้นหรือโรคเก่าเรื้อรัง ก็หายดีได้ในเวลาอันสั้น“เพื่อพิสูจน์ว่ายาแก้บาดเจ็บไม่มีปัญหา อวิ่นชางชวี่ผู้นี้จะทำการตรวจรักษาในงานให้เลยอีกด้วย”“ใครก็ตามที่กินไปแล้วไม่ได้ผล ไม่เพียงแต่จะได้รับเงินคืนสามเท่า แต่อวิ่นชางชวี่ยังจะรับผิดชอบรักษาให้จนกว่าอาการป่วยจะหายขาดด้วย”“มั่นใจขนาดนี้เลย!”“สถานการณ์แบบนี้แน่นอนว่าไม่มีทางเกิดขึ้น”“ทุกคนต่างก็ดีใจราวกับได้สมบัติ และไม่ลังเลที่จะเอ่ยชื่นชมสรรพคุณของยาแก้บาดเจ็บ”“ทำไมถึงเป็นแบบนี้?”ซูหมิงอวี่
ในหลักการแพทย์จีน ยาถ้าถูกใช้อย่างถูกต้องจะสามารถรักษาโรค ช่วยคนได้แต่ถ้าใช้ผิด มันก็จะกลายเป็นพิษไม่เพียงไม่ช่วยรักษาโรค ยังอาจทำให้อาการแย่ลงด้วยในกรณีร้ายแรง อาจทำให้ถึงแก่ชีวิตได้“ยาของพวกคุณเป็นพิษทำให้คนตาย คืนชีวิตพ่อของผมมานะ!”ชายกลางคนตะโกนเสียงดังและพยายามพุ่งตัวขึ้นไปบนเวทีเจ้าหน้าที่รีบเข้ามาขวางเขาไว้“สาเหตุการตายของพ่อคุณยังไม่แน่ชัด ว่ามีความเกี่ยวข้องกับยาแก้บาดเจ็บหรือไม่ สรุปความตอนนี้ยังเร็วไปนะคะ”หลิ่วชือหยินกล่าวอย่างมั่นใจซูเฉี่ยนเฉี่ยนรีบเสริมว่า “ใช่ค่ะ ต้องตรวจสอบให้ชัดเจนก่อนถึงจะสรุปได้”ชายกลางคนจ้องมาแล้วพูดด้วยความโกรธ “จะตรวจสอบอะไรกันอีก ทุกคนก็เห็นกันอยู่แล้ว จะผิดพลาดได้ยังไง?”“เห็นๆ อยู่ว่าพวกคุณตั้งใจจะปัดความรับผิดชอบชัดๆ เป็นพวกพ่อค้าชั่วที่ไร้ความเมตตา!”“พ่อที่น่าสงสารของผม ลำบากมาทั้งชีวิต ในที่สุดก็ได้เวลาใช้ชีวิตในบั้นปลายกับลูกหลานอย่างมีความสุข แต่กลับถูกพวกคุณพ่อค้าใจร้ายวางยาจนตาย”“เป็นลูกที่อกตัญญูเอง ดึงดันพาพ่อมางานนี้ ทำให้พ่อก็ต้องมาตายอย่างอนาถ ลูกขอโทษจริงๆ!”ชายกลางคนร่ำไห้เสียงดังทำให้ผู้พบเห็นต่างเศร้าใ
ชายวัยกลางคนหัวเราะเยาะและพูดว่า “ทุกคนเห็นแล้วใช่ไหม พวกเขากำลังปัดความรับผิดชอบ พ่อค้าที่ไม่มีความรับผิดชอบแบบนี้ไม่มีค่าให้เชื่อถือเลย”“ยาหนึ่งเม็ดกล้าขายตั้งหนึ่งล้านห้าแสนบาท แถมยังแกล้งทำเป็นลดราคาให้อีก 20 เปอร์เซ็น ทำไมไม่ไปปล้นแทนเลยล่ะ?”“ถ้ามันรักษาโรคได้จริงก็คงไม่มีปัญหา แต่ตอนนี้กลับเป็นยาพิษทำให้คนตาย แล้วไม่กล้ารับผิดชอบ เห็นได้ชัดว่ามาเพื่อหลอกเงิน”คนเราก็แบบนี้ เวลาที่เชื่อคุณ แพงแค่ไหนก็ไม่ว่าแต่ถ้ามีความสงสัยเกิดขึ้นมา ต่อให้คุณไม่คิดเงิน แจกฟรี เขาก็ยังคิดว่าเสียเปรียบ!“คนผู้นี้ไม่ได้กินยาแก้บาดเจ็บ” ลั่วอู๋ฉางพูดด้วยเสียงเย็นชาชายวัยกลางคนร้อนตัวทันที “พูดเหลวไหล!”“ผมเห็นกับตาตอนที่พ่อกินยาเข้าไป ตอนนั้นก็มีหลายคนอยู่รอบข้าง ทุกคนสามารถเป็นพยานได้!”ทันใดนั้นก็มีคนพูดขึ้นว่า “ใช่ ผมเห็นคุณลุงกินยาเข้าไป”“ฉันก็เห็นเหมือนกัน!”ชายวัยกลางคนยืดหลังตรงทันที “ทุกคนดูสิ พวกเขาเริ่มต้นด้วยการปัดความรับผิดชอบ พอเห็นว่าโกหกไม่สำเร็จ ก็มาโกหกอีกว่าพ่อผมไม่ได้กินยา”“พวกคุณนี่ช่างหน้าไม่อายจริงๆ!”ลั่วอู๋ฉางเดินลงมาจากเวทีและพูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ “กินหรือไม่
มีคนตาไว เห็นว่าศพที่นอนอยู่บนพื้นขยับเล็กน้อยแต่พวกเขาก็ไม่แน่ใจว่าศพนั้นขยับจริงหรือไม่เพราะว่าข้างบน “ศพ” นั้นยังมีร่างของลูกชายแท้ๆ ทับอยู่ข้างบนบางทีอาจเป็นเพราะลูกชายขยับเลยทำให้ศพของพ่อขยับไปด้วยก็ได้?ไม่เพียงแค่พวกเขาที่คิดเช่นนี้ แม้แต่ตัว “ศพ” เองก็คิดแบบเดียวกัน จึงยังคงแกล้งตายต่อไป“ดื้อด้านนัก!” หลัวอู่ฉางซัดฝ่ามือออกไปตรงๆ!“เพี๊ยะ!” เสียงดังสนั่น ลมจากฝ่ามือกระแทกลงบนใบหน้าของ “ศพ” อย่างแม่นยำการตบครั้งนี้แรงมากจนมุมปากของเขาเลือดไหลออกมาไม่หยุด“ทุกคนดูสิ เลือดของคนตายนั้นจะไม่มีทางไหลเวียน!” อวิ่นชางชวี่ตะโกนเรียกสติลั่วอู๋ฉางยังคงสะบัดมือซ้ำๆ ฟาดลงบนใบหน้าของชายชรา“เพี๊ยะ เพี๊ยะๆ...” ฟาดอย่างต่อเนื่องจนหน้าของเขาเต็มไปด้วยเลือดไม่เพียงแค่ปาก แต่ที่รูจมูกและหางตาก็มีเลือดไหลออกมา“หน้าของคนตายแล้วจะไม่บวม!” อวิ่นชางชวี่พูดเตือนสติขึ้นอีกครั้งเมื่อชายวัยกลางคนเห็นเช่นนั้น ก็รีบลุกขึ้นและตะโกนว่า “หยุดเดี๋ยวนี้นะ การไม่ให้เกียรติศพถือเป็นความผิดร้ายแรง!”“พอ...พอแล้ว อย่าตบอีกเลย!" ในที่สุดชายชราก็ทนไม่ไหว รีบลุกขึ้นนั่งและตะโกนว่า “รีบหยุดเถอะ ผม
“แกร๊ก!”ไม่รอให้เขาพูดจบ ลั่วอู๋ฉางพลิกข้อมือ ขาขวาของชายคนนี้ก็ถูกบิดจนหักทันทีตอนนี้ขาหักในมุมที่แปลก กระดูกสีขาวโผล่พ้นเนื้อออกมา“อ๊าก!”ชายคนนั้นเพิ่งจะร้องออกมา ลั่วอู๋ฉางก็หักขาอีกข้างของเขาทันที“แกร๊ก!”เสียงกรีดร้องถูกกลืนกลับไปทันทีลั่วอู๋ฉางพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ครั้งหน้า จะเป็นคอของแก”ชายวัยกลางคนรู้สึกเหมือนมีมือใหญ่ที่มองไม่เห็นจับคอของเขาไว้ แม้แต่การหายใจก็ยังลำบากด้วยความตกใจ เขารีบพูดเสียงดัง “เป็นตระกูลหม่า ตระกูลหม่าสั่งให้ผมทำแบบนี้!”มีคนยกมือขึ้นแล้วชี้ไปที่เพดานโดยไม่รู้ตัว “ตระกูลหม่าข้างบนเหรอ?”ในเมืองอัน ไม่มีใครกล้าเรียกตัวเองว่าตระกูลหม่านอกจากหม่าเฉียนคุนผลลัพธ์แบบนี้ ลั่วอู๋ฉางไม่แปลกใจเลยสักนิด“ชาติชั่ว! ให้คนแกล้งตายเพื่อใส่ร้ายยาตัวใหม่ของพวกเรา วิธีการแบบนี้มันสกปรกเกินไปแล้ว!” ซูเทียนคั่วพูดด้วยอารมณ์รุนแรงจนหน้าอกกระเพื่อมขึ้นลง“ท่านลั่ว ผมจะไปคิดบัญชีกับตระกูลหม่าเอง!”พูดจบ เขาก็วิ่งออกไปทันทีครู่หนึ่งหลังจากนั้น ซูเทียนคั่วก็กลับมาด้วยท่าทางหงุดหงิดและพูดว่า “คนข้างบนหนีไปหมดแล้ว!”ลั่วอู๋ฉางยกมือขึ้นชี้ไป “มีคนหนึ่งท
“ปัง!”การเตะของอาวุโสซูในครั้งนี้ เต็มไปด้วยความแค้นเตะเต็มแรง แบบไม่มีความสงสารใดๆพื้นรองเท้าเบอร์ 43 ได้สัมผัสกับใบหน้าของซูหมิงอวี่อย่างแนบชิด“แกร๊ก!”ดั้งจมูกของซูหมิงอวี่แตกทันที หัวของเขาถูกกระแทกอย่างแรงไปข้างหลัง และร่างก็ล้มลงกระแทกพื้นอย่างหนักเขาหมดสติไปทันที!ซูเฉี่ยนเฉี่ยนเบิกตากว้าง ส่วนหลิ่วซือหยินก็ทำหน้าคล้ายว่าจะรู้สึกเจ็บแทนเขา“คนนี้คือ...พ่อของเธอเหรอ?” หลิ่วซือหยินมีสีหน้ายุ่งเหยิงซูเฉี่ยนเฉี่ยนตอบอย่างไม่สบอารมณ์ “เขาก็คือเขา ฉันก็คือฉัน!”“ไม่กี่วันก่อน คุณปู่ได้ตัดความสัมพันธ์พ่อลูกกับเขาแล้ว และไล่เขาออกจากบ้านไปเรียบร้อยแล้ว”“ดังนั้นถ้าพูดให้ถูกคือ ฉันกับเขาก็ไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกันอีกแล้ว!”หลิ่วซือหยินยกนิ้วโป้งแล้วพูดด้วยความจริงใจว่า “ตัดขาดได้ยอดเยี่ยม!”มีพ่อที่แปลกประหลาดแบบนี้ ซูเฉี่ยนเฉี่ยนถือว่าโชคร้ายมากซูเทียนคั่วสั่งว่า “จับเขาโยนออกไป!”“อาวุโสจะทำแบบนี้จริงหรือ?” ในใจพนักงานหลายคนเริ่มลังเลสุดท้ายชายชราก็ใจอ่อน พูดว่า “โทรหาโรงพยาบาล ให้พวกเขามารับตัวไป”“เข้าใจแล้วครับ!”พวกเขาหลายคนช่วยกันหามซูหมิงอวี่ออกไปคนละไม
“พริบตาเดียว ทุกคนก็รู้หมดว่าเราวางแผนใส่ร้าย ก็เลยทำให้ไม่สามารถจัดงานต่อไปได้แล้ว”หม่าเฉียนคุนเงยหน้าขึ้นทันที ดวงตาเต็มไปด้วยจิตสังหาร “แกหมายความว่าไง? โทษฉันอย่างนั้นเหรอ?”“ถ้าไม่ใช่เพราะแกดูถูกศัตรูจนพังแผนแรก ฉันจะต้องจำใจเริ่มใช้แผนสองเหรอ?”“การทำภารกิจแบบเร่งด่วน ย่อมเกิดความผิดพลาดได้เป็นเรื่องปกติ!”เย่ชิงหยุนเบิกตากว้าง ในใจคิดว่าเมื่อกี้ท่านไม่ได้พูดแบบนี้เลย!ท่าทางมั่นใจเต็มเปี่ยม ราวกับว่าชัยชนะอยู่ในกำมือ จนถึงตอนนี้เย่ชิงหยุนก็ยังจำได้ชัดเจน“ดังนั้น ความผิดทั้งหมดเป็นของแกนั่นแหละ!”หม่าเฉียนคุนพูดอย่างไม่มีเหตุผล “ฉันยังยืนยันคำเดิม ใครทำให้ฉันต้องขาดทุน ฉันจะเอาชีวิตมันซะ!”เย่ชิงหยุนร้อนใจ “เถ้าแก่หม่า พูดแบบนี้ไม่ได้นะครับ?”“เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว พวกเราทุกคนล้วนมีส่วนเกี่ยวข้อง ทุกคนต้องรับความเสี่ยงร่วมกัน นี่คือข้อกำหนดขั้นพื้นฐานในการทำธุรกิจ”หม่าเฉียนคุนถลึงตา “เย่ชิงหยุน แกคิดจะมาสอนฉันว่าควรทำตัวยังไงเหรอ?”เย่ชิงหยุนใจหายวาบ กลัวจนเหงื่อแตก รีบพูด “ไม่กล้าหรอก ผมแค่พูดตามเหตุผล...”“เพี้ยะ!”หม่าเฉียนคุนตบเย่ชิงหยุนจนล้มลงไปกับพื้นเย่ช