ในฐานะตระกูลจิ้งจอกแห่งชิงชิวที่สูงศักดิ์ แถมยังเกิดมาพร้อมกับสถานะองค์หญิงที่เต็มไปด้วยอภิสิทธิ์หูเยว่ซีเกลียดที่สุดก็คือคำว่า “ปีศาจ”ยิ่งไปกว่านั้น ฝ่ายตรงข้ามยังเป็นคนประเภทที่เธอเกลียดที่สุดนักพรต!เธอขบกรามสาบานในใจว่าจะทำให้หญิงชราผู้ที่น่าเกลียดสุดขีดคนนี้ ได้รับความทรมานอย่างสาสม!“ฟึ่บ!”มือที่ฟันไปตกลงบนตาข่ายแสงการโจมตีที่หูเยว่ซีคาดการณ์ว่าจะทำลายล้างอย่างรุนแรงนั้นกลับไม่เกิดขึ้นการโจมตีของเธอไร้ผล ไม่เพียงแต่ตาข่ายแสงไม่เสียหาย แต่ยังเร่งความเร็วเข้ามาหาทันทีอีกหูเยว่ซีไม่ทันตั้งตัว ก็ถูกตาข่ายแสงพันตัวไว้ได้เธอพยายามดิ้นรนเต็มที่ แต่กลับไม่ได้ผลอะไร แถมยังเสียสมดุลจนล้มลงไปอีก “นี่มันอาคมปีศาจอะไร?” หูเยว่ซียังคงพยายามฉีกทำลายตาข่ายแสงแต่ตาข่ายกลับยิ่งหดแน่นขึ้นเรื่อยๆ ทำให้แขนขาของเธอหดเข้าหากัน ไม่มีแรงจะดิ้นรนอีกต่อไปหูเยว่ซีล้มลงบนพื้น ราวกับเป็นขนมบ๊ะจ่างที่ถูกมัดจนแน่นไปหมดเมื่อเกาชิงเหยียนเห็นดังนั้นก็เบิกตากว้างแล้วพูดด้วยความตกใจ “เล่นจนงานเข้าแล้วไง?”“เธอควรจะแก้เชือกฉันก่อนตั้งแต่แรก แบบนี้เราจะได้ไม่ต้องโดนจับกันทั้งคู่”หูเยว่ซียั
“หยางหว่านอวี่ เธออย่าทำบ้าๆ นะ!”เกาชิงเหยียนเห็นดังนั้น ก็รีบตะโกนด่าดังลั่น“อย่าทำบ้าๆ งั้นเหรอ?”สีหน้าของหยางหว่านอวี่เริ่มดูร้ายขึ้นเรื่อยๆ ดวงตาเต็มไปด้วยแววอาฆาต “พวกแกคิดว่า ฉันกลับมาครั้งนี้เพื่ออะไรล่ะ?”“ถ้าไม่ทำแบบนี้ หรือจะให้ฉันชวนพวกแกมาดื่มชาคุยกันอย่างสุภาพงั้นเหรอ?”เกาชิงเหยียนถลึงตาโจแล้วพูด “หยางหว่านอวี่ แค้นใครก็ไปลงกับคนนั้นสิ เธอทำแบบนี้จะต้องเสียใจในภายหลังแน่!”“เรื่องของภายหลัง ก็ค่อยว่ากันภายหลังสิ!”หยางหว่านอวี่ไม่เปลี่ยนใจเลยสักนิด ยังคงเดินถือมีดสั้นมาหาหูเยว่ซีก้มหน้ามองลงมา สายตาของเธอเต็มไปด้วยความอาฆาต“นังปีศาจน้อย แกคงไม่คิดไม่ฝันเลยใช่ไหมว่าตัวเองจะตกมาอยู่ในสภาพแบบนี้?”หยางหว่านอวี่หัวเราะเย็นชา “นี่แหละคือจุดจบของการที่แกเลือกอยู่ข้างลั่วอู๋ฉางและสมคบคิดร่วมมือกับเขา”หลิงเซียวซ่านเหรินที่ยืนอยู่ข้างๆ หัวเราะเยาะออกมา รู้สึกไม่เห็นด้วยกับวิธีการของหยางหว่านอวี่อย่างมากเมื่อกี้หยางหว่านอวี่ยังว่าที่เธอพูดมาก ย้ำว่าไม่ให้เธอพูดไร้สาระ แต่ตอนนี้กลับพูดไร้สาระออกมาเองแถมพูดไม่จบไม่สิ้นอีกด้วยลงมือเลยไม่ดีกว่าเหรอ จะพูดเรื่องไร้
“เห็นแก่ที่เจ้าหน้าตาน่ารักดี ข้าจะใจกว้าง ไม่ถือสาเจ้า! แต่จงรีบไสหัวไปไกลๆ ซะ ได้ยินแล้วใช่ไหม?”“ไม่อย่างนั้น ข้าจะทำให้เจ้าต้องชดใช้อย่างเจ็บปวด!”ไท่อีเลิกคิ้วขึ้น พูดอย่างจริงจังว่า “ในเมื่อข้ามาแล้ว ย่อมไม่มีวันยืนมองพวกเจ้าเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์โดยไม่ทำอะไรแน่”“ยิ่งไปกว่านั้น ข้าได้รับคำไหว้วานมา ย่อมต้องทำตามหน้าที่!”เมื่อสิบกว่านาทีก่อน ไท่อีได้รับโทรศัพท์จากลั่วอู๋ฉาง ขอให้มาช่วยดังนั้น เขาจึงมา“ดื้อด้าน คนที่ไม่รู้จักมองสถานการณ์อย่างเจ้า คงอยากมีเรื่องมากสินะ!”หลิงเซียวซ่านเหรินโกรธมาก พูดว่า “ในเมื่อเจ้าหาเรื่องตายเอง ก็อย่าหาว่าข้าลงมืออย่างไร้ปราณีเลย!”สิ้นคำ นักพรตหญิงชราก็พุ่งเข้ามาในพริบตารวดเร็วจนเห็นเป็นเพียงเงาจางๆสะบัดแส้ในมือแรง จนขนสีขาวกลายเป็นผืนแพร พุ่งเข้าหาไท่อี“ฟิ้ว!”ผืนแพรสีขาวฉีกขาดอากาศ ส่งเสียงกรีดร้องแหลมบาดหูในห้องใต้ดิน หยางหว่านอวี่พูดด้วยใบหน้าได้ใจว่า “พวกแกสองคนอย่าได้ฝันหวานเชียว!”“วันนี้ต่อให้เง็กเซียนฮ่องเต้มา ก็ช่วยพวกแกไม่ได้ ชีวิตของพวกแกสองคนถูกกำหนดให้อยู่ในกำมือฉันแล้ว”ความรู้สึกในการควบคุมความเป็นความตายของคนอ
เมื่อเห็นมีดสั้นเย็นเยียบนี้กำลังจะแทงเข้าไปที่ลำคอของหูเยว่ซีก็มีลมพัดผ่านหน้าต่าง พุ่งมาโดนข้อมือของหยางหว่านอวี่เข้าอย่างจัง“แคร๊ง!”ข้อมือของหยางหว่านอวี่ถูกเจาะทะลุ มีดสั้นตกลงบนพื้น“นักพรตชั่ว แกจะมายุ่งอะไรด้วย!”หยางหว่านอวี่จับข้อมือที่เลือดไหลไม่หยุดของตัวเองไปพลาง ปากก็ตะโกนด่าด้วยความไม่พอใจอย่างมากไปพลางต่อมาก็มีลมพัดเข้ามาอีกสองสายสายหนึ่งพุ่งไปทางเกาชิงเหยียน อีกสายหนึ่งพุ่งไปทางหูเยว่ซีเดิมหยางหว่านอวี่คิดว่า ทั้งสองคนก็จะได้รับบาดเจ็บด้วยเช่นกัน นักพรตหนุ่มคนนั้นคงโจมตีโดยไม่เลือก!ถ้าเป็นแบบนั้น ในใจของหยางหว่านอวี่ก็คงจะรู้สึกดีขึ้นมากเพราะลมทั้งสองสายนี้พุ่งไปยังจุดสำคัญของทั้งสองคน!หมายจะฆ่าพวกเธอให้ตายชัดๆ หรือถ้าไม่ตายก็ต้องบาดเจ็บสาหัสนั่นแหละแต่ในวินาทีต่อมา หยางหว่านอวี่ก็รู้ตัวว่าตัวเองคิดมากไปแล้ว“ตึง!”เชือกที่มัดตัวเกาชิงเหยียนไว้ขาดออกก่อนจากนั้น ตาข่ายแสงที่พันธนาการหูเยว่ซีไว้ก็ขาดออกเป็นเสี่ยงๆ เช่นกันที่แท้ นักพรตหนุ่มก็ไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายพวกเธอ แต่ตั้งใจจะมาช่วยคน!หูเยว่ซีรีบกระโดดลุกขึ้นจากพื้น แล้วตบหน้าหยางหว่านอวี่ท
“รู้แล้ว รู้แล้วน่า!”หูเยว่ซีแสดงท่าทีไม่พอใจอย่างชัดเจน ตัดบทคำพูดของนักพรตหนุ่มไปทันที หลบสายตาแล้วพูดว่า “นายพูดถูก พอใจหรือยัง?”“ฉันก็ขอบใจนายไปแล้ว ยังจะพูดเรื่องนี้อีก ปล่อยๆ ไปบ้างเถอะ จะเอาชนะให้ได้เลยหรือไง!”นักพรตหนุ่มอึกอักแต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรเกาชิงเหยียนหันไปขอบคุณนักพรตอย่างนอบน้อมว่า “ขอบคุณท่านนักพรต ที่ช่วยชีวิตไว้”นักพรตหนุ่มโบกมือ “แค่เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น ถ้าจะขอบคุณ พวกโยมไปขอบคุณท่านลั่วเถอะ”“เมื่อผู้อื่นไหว้วาน ก็ต้องทำตามความไว้วางใจ! ถ้าโยมลั่วไม่โทรหาอาตมา อาตมาก็คงไม่มาปรากฎตัวอยู่ที่นี่เกาชิงเหยียนพูดด้วยความจริงใจว่า “ท่านนักพรตมีความเมตตาสูงยิ่ง! จริงสิ หยางหว่านอวี่ที่อยู่ข้างในจะจัดการยังไงดี?”ไท่อีตอบว่า “ข้ามาเพียงเพื่อช่วยคน ส่วนเรื่องอื่นๆ ท่านลั่วไม่ได้สั่งความอะไร!” “แต่ว่าฟ้าดินมีเมตตาต่อชีวิต การเข่นฆ่าไม่อาจแก้ปัญหา เป็นแค่การสร้างบาปก่อกรรมเท่านั้น”เกาชิงเหยียนพยักหน้า “เข้าใจแล้ว”ไท่อีมองแผ่นหลังของหูเยว่ซีแล้วพึมพำว่า “นี่เป็นแค่เคราะห์เล็กๆ เท่านั้น เคราะห์ใหญ่จริงๆ ยังรออยู่ข้างหน้า!”เดิมทีเขาคิดไว้ว่าจะตั้งใจพู
“ตระกูลหลิ่วมาทำอะไรที่นี่? ฉันจำได้ว่าเราไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับตระกูลหลิ่วนี่นา!”“ตอนนี้ทุกตระกูลต่างหลีกเลี่ยงไม่อยากยุ่งกับเรา หรือว่านี่จะเป็นโอกาสที่จะแก้สถานการณ์ได้งั้นเหรอ?”“ถ้าตระกูลซูของเราสามารถเป็นพันธมิตรกับตระกูลหลิ่วได้ ต่อไปก็ไม่ต้องมาคอยดูท่าทีของตระกูลเย่แล้ว”“ไม่ใช่แค่ตระกูลเย่หรอก แม้แต่ตระกูลหม่าก็คงอิจฉาเราและปฏิบัติต่อเราอย่างสุภาพมากขึ้น!”ที่หน้าประตูบ้านตระกูลซู มีคนกลุ่มหนึ่งล้อมเอาไว้อยู่ทุกคนต่างก็เดากันไปว่า คนที่อยู่ในรถคันนี้จะเป็นใคร และมีจุดประสงค์อะไรที่มาปรากฎตัวที่บ้านตระกูลซูเมื่อรถเบนท์ลีย์จอดอย่างมั่นคง ประตูรถก็เปิดออกโดยอัตโนมัติรองเท้าส้นสูงสีดำและขางามเรียวยาวในถุงน่องสีดำก้าวออกมาก่อนจากนั้นเอวบางคอดราวต้นหลิ่ว ที่คล้ายสามารถโอบรัดด้วยมือเดียวก็ค่อยๆ ตามออกมายิ่งทำให้หน้าอกสองข้างด้านบนดูใหญ่โตขึ้นไปอีก!สุดท้ายใบหน้าที่งดงามประณีต ยิ่งทำให้เธอดูงดงามเหนือธรรมชาติช่างเป็นเด็กผู้หญิงที่งดงามอะไรแบบนี้!สายตาของทุกคนจับจ้องไปโดยไม่รู้ตัวมองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นลูกหลานของตระกูลใหญ่ ออร่าความมั่นใจที่แผ่ซ่านออกมา ยิ่งท
อย่างที่สองคือ เพื่อให้ลั่วอู๋ฉางได้รู้ว่า แขกคนพิเศษที่แท้จริงเป็นอย่างไรเด็กน้อยอย่างนาย ยังห่างไกลนัก!คนหนึ่งเป็นต้นเหตุที่ทำให้ตระกูลซูของเราต้องเสียหายมหาศาล อีกคนหนึ่งคือคุณหนูจากตระกูลมหาเศรษฐีในเมืองหลวงใครสำคัญใครไม่สำคัญ แค่ดูก็รู้ได้ทันที!ก็ต้องการให้ลั่วอู๋ฉางรู้สึกอับอายขายหน้านั่นแหละ!หลิ่วซือหยินก็ทำตามที่เจ้าบ้านว่า เดินตามอีกฝ่ายมาที่บ้านหลักอย่างรวดเร็ว“หัวหน้าตระกูล มีแขกคนสำคัญมาเยือนครับ!”ทั้งที่ยังอยู่ห่างจากประตูใหญ่ของบ้านหลักอีกสิบกว่าเมตร แต่เจ้าคนนี้ก็เริ่มตะโกนเสียงดังแล้วราวกับกลัวว่าคนข้างในจะไม่ได้ยินอย่างนั้นแหละ!“คุณหนูใหญ่หลิ่วซือหยินจากตระกูลหลิ่วในเมืองหลวง ตั้งใจมาคารวะผู้เฒ่าซู เพื่อเจรจาเรื่องธุรกิจ!” เจ้าคนนั้นยังคงตะโกนเสียงดังต่อไปหลิ่วซือหยินหน้าตึงทันที แสดงออกถึงความไม่พอใจเห็นได้ชัดว่าเธอคิดว่าเจ้าคนนี้โอ้อวดเกินไป!ถ้าหากคุณลั่วไม่พอใจขึ้นมา แผนการความร่วมมือก็อาจล่มไปตั้งแต่ยังไม่เริ่มก็ได้ถึงยังไง ข้อตกลงความร่วมมือก็ยังไม่ได้บรรลุแถมคุณลั่วก็เป็นคนสุขุม ไม่ใช่พวกคนที่ชอบโอ้อวดอย่างแน่นอนแต่คนในตระกูลซูสนใจเร
“เป็นยังไงบ้าง?”“คุณหนูหลิ่วลงทุนมาพบท่านผู้เฒ่าโดยเฉพาะ แสดงความจริงใจขนาดนี้ ตกลงมาเพื่อโครงการอะไรงั้นเหรอ?”“สวรรค์มีตาจริงๆ ในที่สุดก็ถึงคิวตระกูลซูของเราแล้ว!”คนกลุ่มใหญ่พากันเฝ้าอยู่ข้างนอกบ้านใหญ่เมื่อเห็นคนในตระกูลที่ไปประจบหลิ่วซือหยินคนนั้นเดินออกมา ก็รีบล้อมเข้ามาถามกันไม่หยุดปากทุกคนตื่นเต้นจนไม่ทันสังเกตเลยว่าสีหน้าของชายคนนั้นประหลาดขนาดไหนท่ามกลางความแปลกใจ ยังมีความสับสนแฝงอยู่“รีบพูดมาสิ พวกเราก็เป็นคนในครอบครัวกันนะ จะทำตัวลึกลับไปทำไม?”เมื่อเห็นเขาไม่ยอมพูด ทุกคนก็เริ่มใจร้อนเขายิ้มขมขื่นแล้วพูดว่า “ดูเหมือนว่าคุณหนูหลิ่วจะไม่ได้มาพบท่านผู้เฒ่านะ!”“พูดล้อเล่นอะไรน่ะ หล่อนมาถึงบ้านตระกูลซูแล้ว ถ้าไม่ใช่มาพบท่านผู้เฒ่าจะมาทำอะไร?”ทุกคนย่อมไม่เชื่อเขายิ้มขมขื่นอีกครั้ง “มาหาคนแซ่ลั่วน่ะ!”จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่เข้าใจทำไมคุณหนูหลิ่วถึงได้สุภาพกับลั่วอู๋ฉางขนาดนั้นเขาเห็นชัดเจนในแววตาของหลิ่วซือหยินว่ามีทั้งความรู้สึกชื่นชม เคารพ และนับถือมากมายและทั้งหมดนี้ ล้วนเป็นความรู้สึกที่มีต่อลั่วอู๋ฉางเพียงคนเดียว“จะเป็นไปได้ยังไง นายพูดล้อเล่นอะไ
ชวีซานตัวไม่กล้าขัดขืน ได้แต่ทำตามคำสั่งเมื่อทุกคนมาถึงภูเขาด้านหลัง ฟ้าก็เริ่มสางแล้วเบื้องหน้าคือเหวลึกที่ขวางทางอยู่ลั่วอู๋ฉางผูกปลายเชือกด้านหนึ่งไว้กับเสา แล้วสะพายเชือกที่มัดรวมกันไว้บนหลัง ก่อนพยักหน้าให้ทุกคน"มีปัญหาอะไรไหม?"ลั่วอู๋ฉางถามอาวุโสที่มีใบหน้าฟกช้ำดำเขียวคนนั้นอาวุโสรีบตอบ "ไม่มีปัญหาครับ!"ลั่วอู๋ฉางกระโดดขึ้นด้วยเท้าข้างเดียว ตัวเขาลอยขึ้นสูงก่อนเหาะตรงไปยังอีกฟากของหน้าผาเมื่อเหาะไปได้ครึ่งทาง ร่างของลั่วอู๋ฉางก็เริ่มร่วงลงเมื่อคำนวณจากมุมนี้ เขาแทบไม่มีโอกาสไปถึงอีกฝั่งเลยทันใดนั้น นกอินทรียักษ์ตัวหนึ่งก็โฉบมาจากด้านข้างอาวุโสคนเมื่อกี้ยืนอยู่ริมหน้าผาและเป่านกหวีดเรียกอินทรีอินทรียักษ์กางปีก ลั่วอู๋ฉางเหยียบลงบนหลังมันหนึ่งที ทิศทางที่กำลังร่วงพลันเปลี่ยนเป็นลอยขึ้นเสี้ยววินาทีต่อมา เขาก็ลงถึงริมหน้าผาอีกฝั่งอย่างมั่นคงจากนั้นก็ทำแบบเดิม ผูกปลายเชือกฝั่งนี้ไว้กับเสาอีกข้าง"เจ้าสำนักชวี สั่งคนของท่านให้เริ่มได้แล้ว!" ซูเทียนคั่วออกคำสั่งอย่างไม่ไว้หน้าชวีซานตัวไม่ใช่ไม่เคยคิดจะเล่นงานตอนที่ลั่วอู๋ฉางกำลังข้ามหน้าผาเขาเคยคิดจะสั่ง
คำกล่าวอย่างมั่นใจของลั่วอู๋ฉางดังก้องไปทั่วสำนักใหญ่ของพันธมิตรบู๊ลิ้มหากเป็นเมื่อก่อน ใครกล้าพูดกับหัวหน้าสำนักพวกเขาเช่นนี้ คงไม่ต้องรอให้ชวีซานตัวเอ่ยปาก สมาชิกระดับล่างก็พร้อมจะซัดมันจนหมอบไปแล้วต่อหน้าประตูสำนักงานใหญ่ จะปล่อยให้คนมาพูดจาโอ้อวดได้อย่างไร?แต่สถานการณ์ตอนนี้คือ ลั่วอู๋ฉางไม่เพียงแต่พูด เขายังทำลายประตูใหญ่ของพวกเขาและทำร้ายคนไปอีกหลายสิบคนด้วยแน่นอนว่าจำนวนนี้ไม่ได้ตายตัวถ้าคนอื่นกล้าบุกเข้าไปอีก ลั่วอู๋ฉางจะไม่ปรานี และยินดีที่จะช่วยเพิ่มจำนวนผู้บาดเจ็บให้พันธมิตรบู๊ลิ้มอีกด้วย"แก...ปากกล้านักนะ!"ชวีซานตัวในฐานะหัวหน้าแห่งบู๊ลิ้ม ไม่อาจเสียศักดิ์ศรีด้วยการยอมแพ้ง่าย ๆทั้งๆ ที่ความจริง ในใจเขานั้นกลับตื่นตระหนกจนแทบควบคุมไม่อยู่อาวุโสทั้งแปดร่วมมือกันยังเอาชนะไม่ได้!ถึงแม้ตอนฝึกซ้อมปกติ ชวีซานตัวจะเคยชนะพวกเขามาแล้วก็เถอะแต่ใช้นิ้วโป้งเท้าคิดก็ยังรู้เลยว่า เป็นอาวุโสทั้งแปดแกล้งอ่อนข้อให้ถ้าสู้จริง ชวีซานตัวไม่มีทางได้เปรียบหรอกแต่ลั่วอู๋ฉางกลับทำได้!นี่แสดงให้เห็นว่า ความสามารถของเขาเหนือกว่าชวีซานตัวมากถ้ายอมแพ้ต่อหน้าสมาชิกบู๊ลิ้มมา
เขาไม่อยากให้ใครพูดถึงเรื่องนี้ โดยเฉพาะต่อหน้าสาธารณชน"อาวุโสทั้งแปดของสภาผู้อาวุโสอยู่ที่ใด?"ดวงตาของชวีซานตัวเต็มไปด้วยความโกรธ พร้อมตะโกนออกคำสั่งอย่างดุดัน"ข้าน้อยอยู่ที่นี่!"อาวุโสทั้งแปดคนตอบรับออกมาพร้อมกัน"คนผู้นี้ทำลายประตูสำนักของเรา ทำร้ายศิษย์ของเรา จงสังหารมันตรงนี้เดี๋ยวนี้ เพื่อเป็นตัวอย่าง!" ชวีซานตัวกัดฟันกล่าวอาวุโสทั้งแปดคนตอบพร้อมกันอีกครั้ง "รับทราบ ท่านเจ้าสำนัก!""ฆ่า!"ทั้งแปดคนล้วนเป็นผู้มีวิชาระดับปรมาจารย์ใหญ่มีฝีมือไม่ธรรมดา!ในสำนักใหญ่ ทั้งด้านสถานะและพลังฝีมือ พวกเขาเป็นรองเพียงชวีซานตัวเท่านั้นเมื่อทั้งแปดร่วมมือกัน แม้แต่วีรบุรุษในตำนานก็ยากที่จะเอาชนะพวกเขาได้พวกเขาร่วมมือกันอย่างเข้าขา ล้อมลั่วอู๋ฉางไว้ตรงกลาง และออกกระบวนท่าสังหารทุกอย่างใส่เขาถ้าเป็นคนอื่น คงถูกพวกเขาสับเป็นชิ้นๆ ไปแล้วแต่ลั่วอู๋ฉางกลับไม่สะทกสะท้านใดๆ เพียงแค่ส่งกระแสจิต"วึ้ง!"คาถาป้องกันตัวปล่อยแสงสีทองออกมา ขัดขวางการโจมตีทั้งหมดไว้"อะไรกัน?"ชวีซานตัวเบิกตากว้าง ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อในสายตาของเขา ต่อให้ลั่วอู๋ฉางเก่งแค่ไหน แต่ก็ยังเป็น
ท่ามกลางความมืด มีร่างคนจำนวนมากพุ่งผ่านไปอย่างรวดเร็วเมื่อพวกเขาเห็นชัดเจนแล้วว่าประตูทางเข้าซึ่งเป็นหน้าตาของพันธมิตรบู๊ลิ้มถูกทำลาย กลายเป็นซากปรักหักพัง พวกเขาก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟทันที"ใครกันที่กล้าบ้าบิ่นถึงขนาดนี้!""บังอาจมาพังประตูใหญ่ของพันธมิตรบู๊ลิ้ม รนหาที่ตายแล้ว!""จะเป็นใครก็ช่าง แต่แน่ๆ คงไม่ใช่คนดีหรอก สับมันเป็นชิ้นๆ ก่อนค่อยว่ากัน!"กลุ่มคนที่โกรธแค้นเห็นร่างหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าซากปรักหักพัง"ไอ้หนุ่ม แกเห็นไหมว่าใครเป็นคนทำ?"คนตาไวมองเห็นว่าเป็นเงาของชายหนุ่มจึงรีบถามออกไปทันที"ขอเตือนไว้ก่อน เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ รีบพูดสิ่งที่นายเห็นออกมาทั้งหมก ไม่งั้นนายเองก็ต้องเดือดร้อนด้วย!"ลั่วอู๋ฉางยืนอย่างสงบพลางตอบว่า "เห็น""รีบบอกมาว่าใคร!" คนกลุ่มนั้นร้องถามขึ้นพร้อมกันลั่วอู๋ฉางตอบอย่างไม่รีบร้อนว่า "ก็ฉันไง!""อะไรนะ?!"คนกลุ่มนั้นเบิกตาโต ความโกรธที่ปรากฏบนใบหน้าชัดเจนยิ่งกว่าความตกใจ"ไอ้หนุ่ม นี่ไม่ใช่เวลามาอวดเก่ง คิดว่าเราจะเชื่อแกหรือไง?""รีบบอกมาว่าใครเป็นคนทำ ไม่งั้นจะถือว่าแกเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดด้วย!""ให้โอกาสสุดท้าย รีบพูด ไม่งั้นพวกเร
ซูเทียนคั่วกังวลขึ้นมาทันที ขณะที่ปกป้องซูเฉี่ยนเฉี่ยนหลานสาว เขาก็ตะโกนเสียงดังขึ้นว่า "เจ้าสำนักชวี นี่คือวิธีการต้อนรับแขกของพันธมิตรบู๊ลิ้มหรือ?""หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป ไม่กลัวคนในยุทธภพจะหัวเราะเยาะหรือ?"ชวีซานตัวไม่สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย "อย่างพวกนายเนี่ยนะ? เรียกว่าแขกได้ด้วยหรือ?"เมื่อต้องเผชิญหน้ากับจำนวนคนที่มากกว่าหลายเท่า อีกทั้งสายตาที่จับจ้องมาอย่างอาฆาต ทั้งสามคนไม่สามารถต่อกรได้เลยไม่นานพวกเขาก็ถูกจับตัวได้!"ชวีซานตัว การที่คุณทำเช่นนี้ ไม่กลัวว่าศิษย์ของเทพอวี้อย่างราชันมังกรลั่วเทียนจะมาหาเรื่องหรือ?" ซูเทียนคั่วพูดขณะดิ้นรนชวีซานตัวไม่สนใจแม้แต่น้อย "ถ้าเขากล้าหาญมาที่นี่ ฉันจะให้เขาลิ้มรสชาติของการต้องเป็นนักโทษเช่นกัน!""ศิษย์ที่ถูกสอนโดยตาแก่แบบนั้น คงไม่ใช่คนดีสักเท่าไรหรอก พอดีเลย จะได้ให้เขาชดใช้หนี้แทนตาแก่นั่นและพวกแกไปพร้อมกัน!""ราชันมังกรลั่วเทียนอะไรกัน แค่เด็กหนุ่มอายุยี่สิบต้นๆ จะมีอะไรพิเศษนัก?""ตัวเขาไม่อายก็ช่างเถอะ แต่ยังกล้าไปหาคนมาคุยโวแทนตัวเอง คิดจะดังจากการสร้างกระแสเช่นนี้ คิดว่าบู๊ลิ้มเป็นที่สำหรับเล่นขายของหรือไง ฝันไปเถ
พูดของชวีซานตัวเต็มไปด้วยความหยาบคายใบหน้าสวยของเย่ปิงเหยาเริ่มบึ้งตึง แต่เพราะนี่เป็นถิ่นของอีกฝ่าย เธอจึงไม่อาจโต้ตอบได้ชวีหลิงหานคือน้องสาวของชวีซานตัว ทั้งสองคนมีอายุห่างกันมากกว่ายี่สิบปีหลังจากชวีหลิงหานเกิดได้ไม่นาน พ่อแม่ของเธอก็เสียชีวิตจากอาการป่วย ก่อนสิ้นใจได้ฝากให้ชวีซานตัวช่วยเลี้ยงดูน้องสาวที่ยังเป็นแค่ทารกแรกเกิดชวีซานตัวเลี้ยงดูน้องสาวด้วยความยากลำบาก จนเธอเติบโตขึ้นมาเป็นหญิงสาวที่งดงามยิ่ง ทั้งยังมีพรสวรรค์จนได้รับความสนใจจากคนในบู๊ลิ้มมีผู้คนมาสู่ขอเธอมากมายจนทำให้ประตูบ้านตระกูลชวีแทบพังในขณะที่ชวีซานตัวกำลังเลือกคู่ครองให้น้องสาวจนตาลาย และวาดฝันว่าเธอจะได้แต่งงานกับตระกูลใหญ่โตความฝันกลับพังทลาย!ชวีหลิงหาน หญิงสาวผู้แสนงดงาม กลับถูกชายแก่อัปลักษณ์คนหนึ่งมาชิงตัวไป!ในตอนแรก ชวีซานตัวคิดว่าน้องสาวของเขายังไร้เดียงสา และถูกชายชั่วหลอกลวงเขาคิดว่าเพียงแค่พูดจาโน้มน้าวด้วยความรักและเหตุผล น้องสาวจะกลับตัวกลับใจแต่ผลกลับเป็นตรงกันข้าม!ชวีหลิงหานไม่เพียงแต่ไม่สำนึกในสิ่งที่ทำ แต่กลับรักชายแก่คนนั้นอย่างหัวปักหัวปำ และพูดคำพูดไร้สาระอย่างเช่นรักจน
พูดตามตรง ลั่วอู๋ฉางก็มีใจอ่อนนิดหน่อยทุกครั้งที่ต้องต่อสู้กับพวกกระจอก เขามักจะคิดถึงหูเยว่ซีอย่างมากเป็นถึงจักรพรรดินีแห่งชิงชิว แต่เขากลับใช้งานเหมือนลูกน้องปลายแถวประเด็นสำคัญคือ หูเยว่ซีไม่เพียงแต่ไม่โกรธ แต่ยังเต็มใจช่วยอย่างยินดีอีกด้วย"ไม่ได้"ความมีเหตุผลเอาชนะความหุนหัน ลั่วอู๋ฉางพูดพร้อมขมวดคิ้ว "เธอต้องอยู่เฝ้าบ้าน มีแต่แบบนี้ ฉันถึงจะวางใจได้"หูเยว่ซีทำหน้าหงอย: "ก็ได้!"ลั่วอู๋ฉางหัวเราะ "เธอว่านอนสอนง่ายขนาดนี้ ต้องให้รางวัลสักหน่อยแล้ว""รางวัลอะไร?" จิ้งจอกน้อยถามอย่างตื่นเต้น ดวงตาทั้งสองส่องประกายวิบวับทันทีลั่วอู๋ฉางหยิบลูกแก้วพญานาคออกมาจากกระเป๋าแล้วพูดว่า "ก่อนหน้านี้สัญญาว่าจะให้ของขวัญเธอ ตอนนี้ถึงเวลาทำตามสัญญาแล้ว"หูเยว่ซีตาเป็นประกายอีกครั้ง "ลูกแก้วพญานาค!"ถ้าเป็นเมื่อก่อน ลูกแก้วพญานาคระดับนี้เธอคงไม่แม้แต่จะชายตามองด้วยซ้ำแค่มองนานหน่อย ก็ถือเป็นการดูหมิ่นคำว่า "จักรพรรดินีแห่งชิงชิว" แล้ว!แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน หลังจากถูกขังอยู่ในแหวนมานานถึงพันปี เพิ่งจะได้อิสรภาพคืนมา พลังลดลงไปมากและร่างกายก็อ่อนแอสุดขีดนี่คือช่วงเวลาที่เธอต้อง
หวงผู่เจิ้งซิ่นย่อมไม่พอใจแน่!คนเป็นครูยังล้มเหลว แต่ศิษย์กลับทำสำเร็จตั้งแต่ครั้งแรกถ้าไม่ใช่บังเอิญ แล้วมันคืออะไร?ลั่วอู๋ฉางไม่ตอบอะไร จากนั้นก็หยิบคริสตัลสวรรค์ก้อนที่สองมาไม่นานก็ทำสำเร็จอีกครั้ง!หวงผู่เจิ้งซิ่นเบิกตากว้าง ประหลาดใจราวกับเห็นเทพเจ้าส่วนใบหน้าของหูเยว่ซีก็เต็มไปด้วยความชื่นชมมากขึ้นเรื่อยๆ"ลองอีกครั้งสิ!" หวงผู่เจิ้งซิ่นยังคงไม่ยอมแพ้คราวนี้ ลั่วอู๋ฉางไม่ทำตามเขาอีกต่อไป เขาเก็บแท่งคริสตัลสวรรค์ที่เหลือทันที"หมายความว่าไง?" หวงผู่เจิ้งซิ่นถามตาโตลั่วอู๋ฉางลุกขึ้นเดินออกไป ทิ้งคำพูดไว้โดยไม่หันกลับมา "ขอบคุณนะ!""เดี๋ยวสิ นายแน่ใจแล้วเหรอว่านายเข้าใจทั้งหมด?"หวงผู่เจิ้งซิ่นรีบไล่ตามไป "ถ้าไม่สำเร็จล่ะ ฉันจะได้ช่วยหาสาเหตุไง!""ไม่จำเป็นแล้ว ถ้านายท่านของฉันคิดว่าไม่มีปัญหา มันก็ไม่มีปัญหาแน่" หูเยว่ซีขวางเขาไว้ พร้อมพูดอย่างหนักแน่นในตอนนี้ สีหน้าหวงผู่เจิ้งซิ่นเต็มไปด้วยความซับซ้อนศิษย์ที่เก่งเกินไปทำให้ครูรู้สึกอับอาย"ไหนว่าราชันมังกรลั่วเทียนก็เป็นแค่คนธรรมดา เขาเป็นปีศาจชัดๆ!"หวงผู่เจิ้งซิ่นยอมแพ้อย่างหมดท่า พูดอย่างเศร้าๆ "คิดว่า
หวงผู่เจิ้งซิ่นเชิดคอขึ้น พยายามทำสีหน้าให้ดูปกติที่สุดเพื่อปกปิดความเขินอายของตัวเองเนื่องจากการสาธิตเมื่อครู่นั้นจบลงด้วยความล้มเหลวแม้ว่าเขาจะรู้วิธี แต่เพราะไม่ได้ปฏิบัติมาเป็นเวลานาน ความผิดพลาดจึงถือเป็นเรื่องปกติ"หาว..."หูเยว่ซีอ้าปากหาวครั้งใหญ่ ราวกับเปลือกตาถูกกดด้วยน้ำหนักมหาศาลใช่แล้ว เธอง่วงจริงๆ!การสอนของหวงผู่เจิ้งซิ่นทำให้เธอง่วงได้สำเร็จส่วนเนื้อหาที่พูดในภายหลัง แทบไม่ได้เข้าหัวของหูเยว่ซีเลย ผ่านหูซ้ายออกหูขวา ไม่มีอะไรในหัวเลย"พวกคุณ...ทำต่อไปเลย!"หูเยว่ซียืดแขนบิดขี้เกียจ และส่งสัญญาณให้ทั้งคู่ไม่ต้องสนใจเธอสิ่งนี้ทำให้หวงผู่เจิ้งซิ่นรู้สึกว่าตัวเองล้มเหลวมาก!รู้สึกเหมือนโดนตบหน้าฉาดใหญ่!การทำให้นักเรียนง่วงถือเป็นเรื่องที่น่าอับอายอยู่แล้ว ที่สำคัญคือการสาธิตของตัวเองยังล้มเหลวอีกด้วย"ไม่เป็นไร ฉันขอลองเอง" ลั่วอู๋ฉางเสนอตัวขึ้นอย่างกล้าหาญ"คุณจำทั้งหมดได้แล้วเหรอ?"หวงผู่เจิ้งซิ่นพูดด้วยสีหน้าจริงจังทันที "อย่าเพิ่งรีบร้อนปฏิบัติเลย ลองทบทวนสิ่งที่ฉันพูดสักรอบก่อน มีจุดไหนที่ไม่เข้าใจก็ถามให้แน่ชัด แล้วค่อยลงมือ"เพราะจำนวนของแท่งค