ในฐานะตระกูลจิ้งจอกแห่งชิงชิวที่สูงศักดิ์ แถมยังเกิดมาพร้อมกับสถานะองค์หญิงที่เต็มไปด้วยอภิสิทธิ์หูเยว่ซีเกลียดที่สุดก็คือคำว่า “ปีศาจ”ยิ่งไปกว่านั้น ฝ่ายตรงข้ามยังเป็นคนประเภทที่เธอเกลียดที่สุดนักพรต!เธอขบกรามสาบานในใจว่าจะทำให้หญิงชราผู้ที่น่าเกลียดสุดขีดคนนี้ ได้รับความทรมานอย่างสาสม!“ฟึ่บ!”มือที่ฟันไปตกลงบนตาข่ายแสงการโจมตีที่หูเยว่ซีคาดการณ์ว่าจะทำลายล้างอย่างรุนแรงนั้นกลับไม่เกิดขึ้นการโจมตีของเธอไร้ผล ไม่เพียงแต่ตาข่ายแสงไม่เสียหาย แต่ยังเร่งความเร็วเข้ามาหาทันทีอีกหูเยว่ซีไม่ทันตั้งตัว ก็ถูกตาข่ายแสงพันตัวไว้ได้เธอพยายามดิ้นรนเต็มที่ แต่กลับไม่ได้ผลอะไร แถมยังเสียสมดุลจนล้มลงไปอีก “นี่มันอาคมปีศาจอะไร?” หูเยว่ซียังคงพยายามฉีกทำลายตาข่ายแสงแต่ตาข่ายกลับยิ่งหดแน่นขึ้นเรื่อยๆ ทำให้แขนขาของเธอหดเข้าหากัน ไม่มีแรงจะดิ้นรนอีกต่อไปหูเยว่ซีล้มลงบนพื้น ราวกับเป็นขนมบ๊ะจ่างที่ถูกมัดจนแน่นไปหมดเมื่อเกาชิงเหยียนเห็นดังนั้นก็เบิกตากว้างแล้วพูดด้วยความตกใจ “เล่นจนงานเข้าแล้วไง?”“เธอควรจะแก้เชือกฉันก่อนตั้งแต่แรก แบบนี้เราจะได้ไม่ต้องโดนจับกันทั้งคู่”หูเยว่ซียั
“หยางหว่านอวี่ เธออย่าทำบ้าๆ นะ!”เกาชิงเหยียนเห็นดังนั้น ก็รีบตะโกนด่าดังลั่น“อย่าทำบ้าๆ งั้นเหรอ?”สีหน้าของหยางหว่านอวี่เริ่มดูร้ายขึ้นเรื่อยๆ ดวงตาเต็มไปด้วยแววอาฆาต “พวกแกคิดว่า ฉันกลับมาครั้งนี้เพื่ออะไรล่ะ?”“ถ้าไม่ทำแบบนี้ หรือจะให้ฉันชวนพวกแกมาดื่มชาคุยกันอย่างสุภาพงั้นเหรอ?”เกาชิงเหยียนถลึงตาโจแล้วพูด “หยางหว่านอวี่ แค้นใครก็ไปลงกับคนนั้นสิ เธอทำแบบนี้จะต้องเสียใจในภายหลังแน่!”“เรื่องของภายหลัง ก็ค่อยว่ากันภายหลังสิ!”หยางหว่านอวี่ไม่เปลี่ยนใจเลยสักนิด ยังคงเดินถือมีดสั้นมาหาหูเยว่ซีก้มหน้ามองลงมา สายตาของเธอเต็มไปด้วยความอาฆาต“นังปีศาจน้อย แกคงไม่คิดไม่ฝันเลยใช่ไหมว่าตัวเองจะตกมาอยู่ในสภาพแบบนี้?”หยางหว่านอวี่หัวเราะเย็นชา “นี่แหละคือจุดจบของการที่แกเลือกอยู่ข้างลั่วอู๋ฉางและสมคบคิดร่วมมือกับเขา”หลิงเซียวซ่านเหรินที่ยืนอยู่ข้างๆ หัวเราะเยาะออกมา รู้สึกไม่เห็นด้วยกับวิธีการของหยางหว่านอวี่อย่างมากเมื่อกี้หยางหว่านอวี่ยังว่าที่เธอพูดมาก ย้ำว่าไม่ให้เธอพูดไร้สาระ แต่ตอนนี้กลับพูดไร้สาระออกมาเองแถมพูดไม่จบไม่สิ้นอีกด้วยลงมือเลยไม่ดีกว่าเหรอ จะพูดเรื่องไร้
“เห็นแก่ที่เจ้าหน้าตาน่ารักดี ข้าจะใจกว้าง ไม่ถือสาเจ้า! แต่จงรีบไสหัวไปไกลๆ ซะ ได้ยินแล้วใช่ไหม?”“ไม่อย่างนั้น ข้าจะทำให้เจ้าต้องชดใช้อย่างเจ็บปวด!”ไท่อีเลิกคิ้วขึ้น พูดอย่างจริงจังว่า “ในเมื่อข้ามาแล้ว ย่อมไม่มีวันยืนมองพวกเจ้าเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์โดยไม่ทำอะไรแน่”“ยิ่งไปกว่านั้น ข้าได้รับคำไหว้วานมา ย่อมต้องทำตามหน้าที่!”เมื่อสิบกว่านาทีก่อน ไท่อีได้รับโทรศัพท์จากลั่วอู๋ฉาง ขอให้มาช่วยดังนั้น เขาจึงมา“ดื้อด้าน คนที่ไม่รู้จักมองสถานการณ์อย่างเจ้า คงอยากมีเรื่องมากสินะ!”หลิงเซียวซ่านเหรินโกรธมาก พูดว่า “ในเมื่อเจ้าหาเรื่องตายเอง ก็อย่าหาว่าข้าลงมืออย่างไร้ปราณีเลย!”สิ้นคำ นักพรตหญิงชราก็พุ่งเข้ามาในพริบตารวดเร็วจนเห็นเป็นเพียงเงาจางๆสะบัดแส้ในมือแรง จนขนสีขาวกลายเป็นผืนแพร พุ่งเข้าหาไท่อี“ฟิ้ว!”ผืนแพรสีขาวฉีกขาดอากาศ ส่งเสียงกรีดร้องแหลมบาดหูในห้องใต้ดิน หยางหว่านอวี่พูดด้วยใบหน้าได้ใจว่า “พวกแกสองคนอย่าได้ฝันหวานเชียว!”“วันนี้ต่อให้เง็กเซียนฮ่องเต้มา ก็ช่วยพวกแกไม่ได้ ชีวิตของพวกแกสองคนถูกกำหนดให้อยู่ในกำมือฉันแล้ว”ความรู้สึกในการควบคุมความเป็นความตายของคนอ
เมื่อเห็นมีดสั้นเย็นเยียบนี้กำลังจะแทงเข้าไปที่ลำคอของหูเยว่ซีก็มีลมพัดผ่านหน้าต่าง พุ่งมาโดนข้อมือของหยางหว่านอวี่เข้าอย่างจัง“แคร๊ง!”ข้อมือของหยางหว่านอวี่ถูกเจาะทะลุ มีดสั้นตกลงบนพื้น“นักพรตชั่ว แกจะมายุ่งอะไรด้วย!”หยางหว่านอวี่จับข้อมือที่เลือดไหลไม่หยุดของตัวเองไปพลาง ปากก็ตะโกนด่าด้วยความไม่พอใจอย่างมากไปพลางต่อมาก็มีลมพัดเข้ามาอีกสองสายสายหนึ่งพุ่งไปทางเกาชิงเหยียน อีกสายหนึ่งพุ่งไปทางหูเยว่ซีเดิมหยางหว่านอวี่คิดว่า ทั้งสองคนก็จะได้รับบาดเจ็บด้วยเช่นกัน นักพรตหนุ่มคนนั้นคงโจมตีโดยไม่เลือก!ถ้าเป็นแบบนั้น ในใจของหยางหว่านอวี่ก็คงจะรู้สึกดีขึ้นมากเพราะลมทั้งสองสายนี้พุ่งไปยังจุดสำคัญของทั้งสองคน!หมายจะฆ่าพวกเธอให้ตายชัดๆ หรือถ้าไม่ตายก็ต้องบาดเจ็บสาหัสนั่นแหละแต่ในวินาทีต่อมา หยางหว่านอวี่ก็รู้ตัวว่าตัวเองคิดมากไปแล้ว“ตึง!”เชือกที่มัดตัวเกาชิงเหยียนไว้ขาดออกก่อนจากนั้น ตาข่ายแสงที่พันธนาการหูเยว่ซีไว้ก็ขาดออกเป็นเสี่ยงๆ เช่นกันที่แท้ นักพรตหนุ่มก็ไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายพวกเธอ แต่ตั้งใจจะมาช่วยคน!หูเยว่ซีรีบกระโดดลุกขึ้นจากพื้น แล้วตบหน้าหยางหว่านอวี่ท
“รู้แล้ว รู้แล้วน่า!”หูเยว่ซีแสดงท่าทีไม่พอใจอย่างชัดเจน ตัดบทคำพูดของนักพรตหนุ่มไปทันที หลบสายตาแล้วพูดว่า “นายพูดถูก พอใจหรือยัง?”“ฉันก็ขอบใจนายไปแล้ว ยังจะพูดเรื่องนี้อีก ปล่อยๆ ไปบ้างเถอะ จะเอาชนะให้ได้เลยหรือไง!”นักพรตหนุ่มอึกอักแต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรเกาชิงเหยียนหันไปขอบคุณนักพรตอย่างนอบน้อมว่า “ขอบคุณท่านนักพรต ที่ช่วยชีวิตไว้”นักพรตหนุ่มโบกมือ “แค่เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น ถ้าจะขอบคุณ พวกโยมไปขอบคุณท่านลั่วเถอะ”“เมื่อผู้อื่นไหว้วาน ก็ต้องทำตามความไว้วางใจ! ถ้าโยมลั่วไม่โทรหาอาตมา อาตมาก็คงไม่มาปรากฎตัวอยู่ที่นี่เกาชิงเหยียนพูดด้วยความจริงใจว่า “ท่านนักพรตมีความเมตตาสูงยิ่ง! จริงสิ หยางหว่านอวี่ที่อยู่ข้างในจะจัดการยังไงดี?”ไท่อีตอบว่า “ข้ามาเพียงเพื่อช่วยคน ส่วนเรื่องอื่นๆ ท่านลั่วไม่ได้สั่งความอะไร!” “แต่ว่าฟ้าดินมีเมตตาต่อชีวิต การเข่นฆ่าไม่อาจแก้ปัญหา เป็นแค่การสร้างบาปก่อกรรมเท่านั้น”เกาชิงเหยียนพยักหน้า “เข้าใจแล้ว”ไท่อีมองแผ่นหลังของหูเยว่ซีแล้วพึมพำว่า “นี่เป็นแค่เคราะห์เล็กๆ เท่านั้น เคราะห์ใหญ่จริงๆ ยังรออยู่ข้างหน้า!”เดิมทีเขาคิดไว้ว่าจะตั้งใจพู
“ตระกูลหลิ่วมาทำอะไรที่นี่? ฉันจำได้ว่าเราไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับตระกูลหลิ่วนี่นา!”“ตอนนี้ทุกตระกูลต่างหลีกเลี่ยงไม่อยากยุ่งกับเรา หรือว่านี่จะเป็นโอกาสที่จะแก้สถานการณ์ได้งั้นเหรอ?”“ถ้าตระกูลซูของเราสามารถเป็นพันธมิตรกับตระกูลหลิ่วได้ ต่อไปก็ไม่ต้องมาคอยดูท่าทีของตระกูลเย่แล้ว”“ไม่ใช่แค่ตระกูลเย่หรอก แม้แต่ตระกูลหม่าก็คงอิจฉาเราและปฏิบัติต่อเราอย่างสุภาพมากขึ้น!”ที่หน้าประตูบ้านตระกูลซู มีคนกลุ่มหนึ่งล้อมเอาไว้อยู่ทุกคนต่างก็เดากันไปว่า คนที่อยู่ในรถคันนี้จะเป็นใคร และมีจุดประสงค์อะไรที่มาปรากฎตัวที่บ้านตระกูลซูเมื่อรถเบนท์ลีย์จอดอย่างมั่นคง ประตูรถก็เปิดออกโดยอัตโนมัติรองเท้าส้นสูงสีดำและขางามเรียวยาวในถุงน่องสีดำก้าวออกมาก่อนจากนั้นเอวบางคอดราวต้นหลิ่ว ที่คล้ายสามารถโอบรัดด้วยมือเดียวก็ค่อยๆ ตามออกมายิ่งทำให้หน้าอกสองข้างด้านบนดูใหญ่โตขึ้นไปอีก!สุดท้ายใบหน้าที่งดงามประณีต ยิ่งทำให้เธอดูงดงามเหนือธรรมชาติช่างเป็นเด็กผู้หญิงที่งดงามอะไรแบบนี้!สายตาของทุกคนจับจ้องไปโดยไม่รู้ตัวมองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นลูกหลานของตระกูลใหญ่ ออร่าความมั่นใจที่แผ่ซ่านออกมา ยิ่งท
อย่างที่สองคือ เพื่อให้ลั่วอู๋ฉางได้รู้ว่า แขกคนพิเศษที่แท้จริงเป็นอย่างไรเด็กน้อยอย่างนาย ยังห่างไกลนัก!คนหนึ่งเป็นต้นเหตุที่ทำให้ตระกูลซูของเราต้องเสียหายมหาศาล อีกคนหนึ่งคือคุณหนูจากตระกูลมหาเศรษฐีในเมืองหลวงใครสำคัญใครไม่สำคัญ แค่ดูก็รู้ได้ทันที!ก็ต้องการให้ลั่วอู๋ฉางรู้สึกอับอายขายหน้านั่นแหละ!หลิ่วซือหยินก็ทำตามที่เจ้าบ้านว่า เดินตามอีกฝ่ายมาที่บ้านหลักอย่างรวดเร็ว“หัวหน้าตระกูล มีแขกคนสำคัญมาเยือนครับ!”ทั้งที่ยังอยู่ห่างจากประตูใหญ่ของบ้านหลักอีกสิบกว่าเมตร แต่เจ้าคนนี้ก็เริ่มตะโกนเสียงดังแล้วราวกับกลัวว่าคนข้างในจะไม่ได้ยินอย่างนั้นแหละ!“คุณหนูใหญ่หลิ่วซือหยินจากตระกูลหลิ่วในเมืองหลวง ตั้งใจมาคารวะผู้เฒ่าซู เพื่อเจรจาเรื่องธุรกิจ!” เจ้าคนนั้นยังคงตะโกนเสียงดังต่อไปหลิ่วซือหยินหน้าตึงทันที แสดงออกถึงความไม่พอใจเห็นได้ชัดว่าเธอคิดว่าเจ้าคนนี้โอ้อวดเกินไป!ถ้าหากคุณลั่วไม่พอใจขึ้นมา แผนการความร่วมมือก็อาจล่มไปตั้งแต่ยังไม่เริ่มก็ได้ถึงยังไง ข้อตกลงความร่วมมือก็ยังไม่ได้บรรลุแถมคุณลั่วก็เป็นคนสุขุม ไม่ใช่พวกคนที่ชอบโอ้อวดอย่างแน่นอนแต่คนในตระกูลซูสนใจเร
“เป็นยังไงบ้าง?”“คุณหนูหลิ่วลงทุนมาพบท่านผู้เฒ่าโดยเฉพาะ แสดงความจริงใจขนาดนี้ ตกลงมาเพื่อโครงการอะไรงั้นเหรอ?”“สวรรค์มีตาจริงๆ ในที่สุดก็ถึงคิวตระกูลซูของเราแล้ว!”คนกลุ่มใหญ่พากันเฝ้าอยู่ข้างนอกบ้านใหญ่เมื่อเห็นคนในตระกูลที่ไปประจบหลิ่วซือหยินคนนั้นเดินออกมา ก็รีบล้อมเข้ามาถามกันไม่หยุดปากทุกคนตื่นเต้นจนไม่ทันสังเกตเลยว่าสีหน้าของชายคนนั้นประหลาดขนาดไหนท่ามกลางความแปลกใจ ยังมีความสับสนแฝงอยู่“รีบพูดมาสิ พวกเราก็เป็นคนในครอบครัวกันนะ จะทำตัวลึกลับไปทำไม?”เมื่อเห็นเขาไม่ยอมพูด ทุกคนก็เริ่มใจร้อนเขายิ้มขมขื่นแล้วพูดว่า “ดูเหมือนว่าคุณหนูหลิ่วจะไม่ได้มาพบท่านผู้เฒ่านะ!”“พูดล้อเล่นอะไรน่ะ หล่อนมาถึงบ้านตระกูลซูแล้ว ถ้าไม่ใช่มาพบท่านผู้เฒ่าจะมาทำอะไร?”ทุกคนย่อมไม่เชื่อเขายิ้มขมขื่นอีกครั้ง “มาหาคนแซ่ลั่วน่ะ!”จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่เข้าใจทำไมคุณหนูหลิ่วถึงได้สุภาพกับลั่วอู๋ฉางขนาดนั้นเขาเห็นชัดเจนในแววตาของหลิ่วซือหยินว่ามีทั้งความรู้สึกชื่นชม เคารพ และนับถือมากมายและทั้งหมดนี้ ล้วนเป็นความรู้สึกที่มีต่อลั่วอู๋ฉางเพียงคนเดียว“จะเป็นไปได้ยังไง นายพูดล้อเล่นอะไ