“ตระกูลหลิ่วมาทำอะไรที่นี่? ฉันจำได้ว่าเราไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับตระกูลหลิ่วนี่นา!”“ตอนนี้ทุกตระกูลต่างหลีกเลี่ยงไม่อยากยุ่งกับเรา หรือว่านี่จะเป็นโอกาสที่จะแก้สถานการณ์ได้งั้นเหรอ?”“ถ้าตระกูลซูของเราสามารถเป็นพันธมิตรกับตระกูลหลิ่วได้ ต่อไปก็ไม่ต้องมาคอยดูท่าทีของตระกูลเย่แล้ว”“ไม่ใช่แค่ตระกูลเย่หรอก แม้แต่ตระกูลหม่าก็คงอิจฉาเราและปฏิบัติต่อเราอย่างสุภาพมากขึ้น!”ที่หน้าประตูบ้านตระกูลซู มีคนกลุ่มหนึ่งล้อมเอาไว้อยู่ทุกคนต่างก็เดากันไปว่า คนที่อยู่ในรถคันนี้จะเป็นใคร และมีจุดประสงค์อะไรที่มาปรากฎตัวที่บ้านตระกูลซูเมื่อรถเบนท์ลีย์จอดอย่างมั่นคง ประตูรถก็เปิดออกโดยอัตโนมัติรองเท้าส้นสูงสีดำและขางามเรียวยาวในถุงน่องสีดำก้าวออกมาก่อนจากนั้นเอวบางคอดราวต้นหลิ่ว ที่คล้ายสามารถโอบรัดด้วยมือเดียวก็ค่อยๆ ตามออกมายิ่งทำให้หน้าอกสองข้างด้านบนดูใหญ่โตขึ้นไปอีก!สุดท้ายใบหน้าที่งดงามประณีต ยิ่งทำให้เธอดูงดงามเหนือธรรมชาติช่างเป็นเด็กผู้หญิงที่งดงามอะไรแบบนี้!สายตาของทุกคนจับจ้องไปโดยไม่รู้ตัวมองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นลูกหลานของตระกูลใหญ่ ออร่าความมั่นใจที่แผ่ซ่านออกมา ยิ่งท
อย่างที่สองคือ เพื่อให้ลั่วอู๋ฉางได้รู้ว่า แขกคนพิเศษที่แท้จริงเป็นอย่างไรเด็กน้อยอย่างนาย ยังห่างไกลนัก!คนหนึ่งเป็นต้นเหตุที่ทำให้ตระกูลซูของเราต้องเสียหายมหาศาล อีกคนหนึ่งคือคุณหนูจากตระกูลมหาเศรษฐีในเมืองหลวงใครสำคัญใครไม่สำคัญ แค่ดูก็รู้ได้ทันที!ก็ต้องการให้ลั่วอู๋ฉางรู้สึกอับอายขายหน้านั่นแหละ!หลิ่วซือหยินก็ทำตามที่เจ้าบ้านว่า เดินตามอีกฝ่ายมาที่บ้านหลักอย่างรวดเร็ว“หัวหน้าตระกูล มีแขกคนสำคัญมาเยือนครับ!”ทั้งที่ยังอยู่ห่างจากประตูใหญ่ของบ้านหลักอีกสิบกว่าเมตร แต่เจ้าคนนี้ก็เริ่มตะโกนเสียงดังแล้วราวกับกลัวว่าคนข้างในจะไม่ได้ยินอย่างนั้นแหละ!“คุณหนูใหญ่หลิ่วซือหยินจากตระกูลหลิ่วในเมืองหลวง ตั้งใจมาคารวะผู้เฒ่าซู เพื่อเจรจาเรื่องธุรกิจ!” เจ้าคนนั้นยังคงตะโกนเสียงดังต่อไปหลิ่วซือหยินหน้าตึงทันที แสดงออกถึงความไม่พอใจเห็นได้ชัดว่าเธอคิดว่าเจ้าคนนี้โอ้อวดเกินไป!ถ้าหากคุณลั่วไม่พอใจขึ้นมา แผนการความร่วมมือก็อาจล่มไปตั้งแต่ยังไม่เริ่มก็ได้ถึงยังไง ข้อตกลงความร่วมมือก็ยังไม่ได้บรรลุแถมคุณลั่วก็เป็นคนสุขุม ไม่ใช่พวกคนที่ชอบโอ้อวดอย่างแน่นอนแต่คนในตระกูลซูสนใจเร
“เป็นยังไงบ้าง?”“คุณหนูหลิ่วลงทุนมาพบท่านผู้เฒ่าโดยเฉพาะ แสดงความจริงใจขนาดนี้ ตกลงมาเพื่อโครงการอะไรงั้นเหรอ?”“สวรรค์มีตาจริงๆ ในที่สุดก็ถึงคิวตระกูลซูของเราแล้ว!”คนกลุ่มใหญ่พากันเฝ้าอยู่ข้างนอกบ้านใหญ่เมื่อเห็นคนในตระกูลที่ไปประจบหลิ่วซือหยินคนนั้นเดินออกมา ก็รีบล้อมเข้ามาถามกันไม่หยุดปากทุกคนตื่นเต้นจนไม่ทันสังเกตเลยว่าสีหน้าของชายคนนั้นประหลาดขนาดไหนท่ามกลางความแปลกใจ ยังมีความสับสนแฝงอยู่“รีบพูดมาสิ พวกเราก็เป็นคนในครอบครัวกันนะ จะทำตัวลึกลับไปทำไม?”เมื่อเห็นเขาไม่ยอมพูด ทุกคนก็เริ่มใจร้อนเขายิ้มขมขื่นแล้วพูดว่า “ดูเหมือนว่าคุณหนูหลิ่วจะไม่ได้มาพบท่านผู้เฒ่านะ!”“พูดล้อเล่นอะไรน่ะ หล่อนมาถึงบ้านตระกูลซูแล้ว ถ้าไม่ใช่มาพบท่านผู้เฒ่าจะมาทำอะไร?”ทุกคนย่อมไม่เชื่อเขายิ้มขมขื่นอีกครั้ง “มาหาคนแซ่ลั่วน่ะ!”จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่เข้าใจทำไมคุณหนูหลิ่วถึงได้สุภาพกับลั่วอู๋ฉางขนาดนั้นเขาเห็นชัดเจนในแววตาของหลิ่วซือหยินว่ามีทั้งความรู้สึกชื่นชม เคารพ และนับถือมากมายและทั้งหมดนี้ ล้วนเป็นความรู้สึกที่มีต่อลั่วอู๋ฉางเพียงคนเดียว“จะเป็นไปได้ยังไง นายพูดล้อเล่นอะไ
เมื่อหลิ่วซือหยินได้ยินเช่นนี้ ก็พยักหน้าทันที “ตกลง!”“ตกลง!” ซูเทียนคั่วก็พยักหน้าอย่างหนักแน่นตามไปด้วย“ทั้งสองยิ้มพร้อมกัน ราวกับว่าการตัดสินใจนี้เป็นไปด้วยความยินดี”“ซูเทียนคั่วยังไม่ลืมที่จะส่งสัญญาณทางสายตาให้หลานสาว”“ซูเฉี่ยนเฉี่ยนเป็นคนฉลาด ย่อมเข้าใจดีว่าคุณปู่หมายถึงอะไร”“ฉันก็คิดว่าเหมาะสมนะคะ” ซูเฉี่ยนเฉี่ยนแสดงความเห็นทำได้ดีมาก! ซูเทียนคั่วยกนิ้วโป้งขึ้นให้ทันทีลั่วอู๋ฉางเบิกตากว้าง “ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนี้!”“พวกคุณเข้าใจผิดกันหมดแล้ว!”“ศิษย์พี่คะ อย่าปฏิเสธเลยนะคะ” ซูเฉี่ยนเฉี่ยนเริ่มใช้วิธีการออดอ้อนหลิ่วซือหยินรีบพูดว่า “ใช่ค่ะ ถ้าไม่อย่างนั้น พวกเราคงรู้สึกไม่สบายใจ”ลั่วอู๋ฉางยิ้มเจื่อนอย่างหมดหนทาง แล้วถอยไปเลือกทางที่สอง “งั้นก็ให้พวกเธอทั้งสองตระกูลได้ตระกูลละ 30 เปอร์เซ็น ส่วนผมได้ 40 เปอร์เซ็น”“เงื่อนไขอื่นคงเดิม ถ้าตกลง เราจะเริ่มความร่วมมือทันที”“ถ้าไม่ตกลง ผมจะไปหาคนอื่น!”เดิมซูเทียนคั่วกับหลิ่วซือหยินยังอยากจะดึงดันต่อ แต่พอได้ยินคำพูดของลั่วอู๋ฉาง ก็รีบพูดโดยพร้อมกันว่า “ตกลง!”“ทั้งสองคนต่างก็รู้ดีว่า ถ้าลั่วอู๋ฉางต้องการจะห
“งั้นก็ง่ายเลย พวกคุณรอผมโทรศัพท์แป๊บเดียว น่าจะจัดการได้เร็วๆ นี้” ลั่วอู๋ฉางยิ้มหลิ่วซือหยินกับซูเฉี่ยนเฉี่ยนสบตากัน ใบหน้างดงามของทั้งสองคนแสดงความสงสัยออกมาเหมือนกัน แค่โทรศัพท์หนึ่งสาย ก็จัดการได้เลยเหรอ? ล้อเล่นอะไรกันเนี่ย!เมืองอันไม่เหมือนกับที่อื่น เพราะอุตสาหกรรมยาที่นี่พัฒนาไปไกลมาก มีผู้ประกอบการจำนวนมาก ทำให้หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีทั้งคนดีและคนเลวปะปนกันไปดังนั้น ยาตัวใหม่ที่จะยื่นขออนุมัติที่นี่ จะอยู่ภายใต้การควบคุมของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาจากเมืองหลวง พูดง่ายๆ ก็คือมีการควบคุมอย่างเข้มงวด!แน่นอน ทุกอย่างมีข้อเสียก็ย่อมมีข้อดีเช่นกัน นั่นก็คือ หากยาตัวใหม่ได้รับการอนุมัติในเมืองอัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคุณภาพหรือประสิทธิภาพ ก็จะเหนือกว่าสินค้าประเภทเดียวกันอื่นๆผลิตภัณฑ์จากเมืองอันเป็นเหมือนแบรนด์ที่มีชีวิต! ยาตัวใหม่ที่นี่เมื่อวางจำหน่าย ไม่เพียงดึงดูดความสนใจของวงการการรักษา แต่สำคัญที่สุดคือ ไม่ต้องห่วงเรื่องการขายเลยลั่วอู๋ฉางหยิบโทรศัพท์ออกมา แล้วกดหาหมายเลขหนึ่งซึ่งอยู่ไกลออกไป ณ สำนักงานใหญ่ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาในเมืองหลวง“การประชุมวันนี
ตามปกติแล้ว เลขาคงจะเดินออกไปทันทีแต่ครั้งนี้เขากลับยืนกรานที่จะอยู่ต่อ กระซิบเบาๆ ว่า “คนที่ท่านบันทึกชื่อว่า “ราชันมังกร” โทรมาครับ!”ทันทีที่ได้ยิน หวังเจิ้นอวี่ก็กระเด้งตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันที“ทำไมไม่บอกแต่แรกล่ะ!”ราวกับว่า มีสปริงติดอยู่ที่ก้นอย่างนั้น!“ยังไม่รีบเอาโทรศัพท์มาให้ผมอีก ถ้าทำให้คนที่โทรมาต้องรอ ผมจะไม่มีทางให้อภัยตัวเองเลย!”เหตุการณ์นี้ทำให้ทุกคนในห้องประชุมพากันตกตะลึงในความทรงจำของทุกคน หวังเจิ้นอวี่เป็นคนสุขุมจะพูดว่าเขาสามารถนิ่งเฉยได้แม้แต่ภูเขาไท่ซานถล่มลงมาก็ไม่เกินจริงแต่ท่าทางของเขาในตอนนี้กลับแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง ทำให้ทุกคนแทบไม่เชื่อสายตา!ทันทีที่เลขาหยิบโทรศัพท์ออกมา หวังเจิ้นอวี่ก็คว้าไปทันทีเขาถึงกับละเลยกฎเหล็กที่ว่าห้ามรับโทรศัพท์ในระหว่างการประชุม แล้วกดรับทันทีจากท่าทีรีบร้อนของหวังเจิ้นอวี่ ก็เห็นได้ชัดว่านี่เป็นสายที่สำคัญมาก เขากลัวอีกฝ่ายจะรอนาน“สวัสดีครับ คุณลั่ว ขอโทษด้วยนะครับ ผมเพิ่งเห็นว่ามีสายเข้า คุณคงรอนานมากเลยแน่ๆ ผมนี่ช่างสมควรตายจริงๆ”ถ้าบอกว่าเมื่อกี้ทุกคนเพิ่งจะตกใจ ตอนนี้ก็คงช็อกไปแล้วจริงๆ!ทุกค
เมื่อได้ยินหวังเจิ้นอวี่พูดแบบนี้ ลั่วอู๋ฉางก็ไม่เกรงใจอีกต่อไปเมื่อมีคำสัญญาจากหวังเจิ้นอวี่ หัวหน้าสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาในเมืองหลวง ขั้นตอนต่อไปก็จะไม่มีอุปสรรคใดๆ อีกแน่นอน ส่วนสำคัญก็เพราะหวังเจิ้นอวี่เชื่อมั่นในลั่วอู๋ฉางยาที่ออกมาจากราชันมังกรลั่วเทียน เขาแทบจะรอไม่ไหวแล้ว!ขั้นตอนการอนุมัติปกติที่ควรทำก็ยังต้องดำเนินแต่เพียงแค่จะประหยัดเวลามากขึ้นลั่วอู๋ฉางให้ซูเฉี่ยนเฉี่ยนเตรียมเอกสารรายงานการวิเคราะห์ พร้อมกับตัวอย่างยาแก้บาดเจ็บ จัดคนส่งไปยังสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาหวังเจิ้นอวี่นำทีมผู้เชี่ยวชาญในสำนักงาน ทำการตรวจสอบอย่างละเอียดทันทีอีกด้านหนึ่ง เจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคก็กำลังวิเคราะห์ตัวอย่างยาไม่นาน หวังเจิ้นอวี่ก็โทรกลับไปหาลั่วอู๋ฉาง“คุณลั่ว ผมได้อ่านรายงานข้อมูลแล้ว”หวังเจิ้นอวี่นั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ยกโทรศัพท์ขึ้นพูดว่า “ไม่ผิดจากที่คิดเลย นี่เป็นยาดีที่หาได้ยากจริงๆ”“ผมมั่นใจว่าหลังจากมันออกสู่ตลาด มันจะเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าปัจจุบันของโลกบู๊โบราณอย่างแน่นอน”เมื่อพูดถึงตรงนี้ เขาก็เปลี่ยนเรื่อง “แต่ยาของคุณกับยาหุยชุนตันที่ได้รับการอนุ
ยาเกี่ยวข้องกับชีวิตและสุขภาพของประชาชนความรับผิดชอบหนักอึ้งยิ่งกว่าภูเขาไท่ซาน!ประชาชนจ่ายเงินไป แต่กลับไม่รักษาโรค สุดท้ายนักธุรกิจจิตใจมืดบอดพวกนี้ก็รวยอื้อซ่าเหตุการณ์แบบนี้ จะต้องไม่เกิดขึ้นอย่างเด็ดขาด!ฝั่งด้านเมืองอัน“เรียบร้อยแล้ว อีกสามวันก็จะได้ใบอนุญาต” ลั่วอู๋ฉางพูดด้วยน้ำเสียงสบายๆซูเฉี่ยนเฉี่ยนและหลิ่วซือหยินต่างตกตะลึงราวกับได้เห็นเทพเจ้า!ทั้งสองรู้ดีว่า ตั้งแต่เมื่อสองปีก่อนที่ท่านหวังแห่งเมืองหลวงคนนั้นเข้ามาคุมสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กฎระเบียบก็เข้มงวดขึ้นมากการจะได้ใบอนุญาตนั้นยากยิ่งกว่าปีนขึ้นสวรรค์เสียอีกเรียกได้ว่าต้องผ่านด่านห้าชั้น ตัดหัวแม่ทัพถึงหกคน!แค่โทรศัพท์สายเดียวก็จัดการเรียบร้อยแล้วเหรอ?โดยเฉพาะหลิ่วซือหยิน ที่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาตระกูลหลิ่วไม่สามารถบุกเข้าสู่อุตสาหกรรมยาได้สำเร็จ นอกจากจะถูกคู่แข่งขัดขวางในทุกครั้งแล้ว ความยากลำบากที่ใหญ่ที่สุดก็คือเรื่องนี้ยาที่พวกเขาใช้เงินมหาศาลในการวิจัย ทั้งที่ได้รับการอนุญาตจากทางจังหวัดแล้ว แต่ในช่วงเวลาสำคัญ กลับถูกปฏิเสธจากทางเมืองหลวงทำให้ความพยายามทั้งหมดสูญเปล่า การลงทุนในช่