แชร์

บทที่ 39

ผู้เขียน: ลั่วเหล่ย
เพื่อนร่วมงานไม่คิดว่าเป็นเช่นนั้น "ไม่ว่าอย่างไร ทำร้ายคนก็ไม่ถูกต้อง! เพราะว่าทำร้ายคนถูกตัดสินจำคุก ยิ่งแสดงว่าเหตุการณ์ร้ายแรง ไอ้หมอนี่ต้องไม่ใช่คนดีอะไรแน่นอน"

อวี๋อีเหรินได้ยินคำพูดนี้ รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย

แต่คิดอีกที ทำไมเธอต้องใส่ใจชื่อเสียงของลั่วอู๋ฉางด้วย ติดคุกเดิมทีก็เขาที่หาเรื่องใส่ตัว ฉันคนนี้ไม่ได้ติดข้างอะไรเขา!

ผู้จัดการยิ้มกริ่ม ในสายตาเปล่งประกายออกมา จากนั้นพูดขึ้น "คนชั่วที่ทำให้นางฟ้าเสี่ยวอวี๋ของพวกเราหงุดหงิด ห้ามเข้าบริษัทของพวกเราเด็ดขาด ฉันไปบอกกับฝ่ายบุกคคล ให้จำชื่ของเขาเอาไว้ จัดการได้ง่ายดายมาก"

อวี๋อีเหรินดวงตาสว่างทันที เธอพูดอย่างดีใจ "จริงด้วย ทำไมฉันถึงนึกไม่ออกนะ ผู้จัดการตู้คุณฉลาดจัง"

ผู้จัดการชื่อตู้หมิงเจ๋อ เป็นลูกคนรวยที่ตระกูลร่ำรวยมาก ได้ยินว่ามีทรัพย์สินเกินห้าร้อยล้าน

เขามาทำงานที่นี่ ภายนอกพูดว่าเรียนรู้ประสบการณ์ พูดอีกอย่างก็คือฆ่าเวลาน่าเบื่อ

ตอนที่ผู้ชายคนนี้เห็นอวี๋อีเหรินครั้งแรก ก็ตกตะลึงอย่างมาก สาบานว่าจะต้องตามจีบเธอให้ได้ หากเป็นเด็กผู้หญิงธรรมดา ตกอยู่ภายใต้การรุกด้วยเงินอย่างง่ายดายตั้งนานแล้ว

อวี๋อีเหรินเกิดในครอบ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 40

    ทางใต้ของเมือง โรงแรมครอบครัวธรรมดามากแห่งหนึ่งเลือกจัดการให้สามีภรรยาอวี๋ซือหยวนพักอยู่ที่นี่ ก็เพราะพื้นที่นี้เป็นขอบเขตกองกำลังของตระกูลเกา คนอื่นไม่กล้าเข้ามาสร้างเรื่องที่นี่ง่าย ๆเกาชิงเหยียนเหมาโรงแรมแห่งนี้ไว้โดยตรง นอกจากสามีภรรยาอวี๋ซือหยวนแล้ว คนอื่น ๆ ที่พักอยู่ต่างก็เป็นบอดี้การ์ดของตระกูลเกา รับผิดชอบความปลอดภัยของผู้อาวุโสทั้งสองอวี๋อีเหรินขึ้นไปชั้นบนด้วยความสงสัย จากนั้นเคาะประตูห้อง"เสี่ยวอวี๋ รีบเข้ามา"เห็นว่าคนที่เปิดประตูคือเจิ้งอวิ๋นจวน อวี๋อีเหรินถึงได้คลายความระแวงภายในห้อง นอกจากอวี๋ซือหยวน ยังมีลั่วอู๋ฉาง อวี๋อีเหรินขมวดคิ้ว "เรียกหนูมาทำไม? หนูไม่มีอารมณ์ทานข้าวเป็นเพื่อนคนที่เกลียดชังหรอกนะ"อวี๋ซือหยวนพูดตำหนิ "ลูกพูดอะไรน่ะ ตอนบ่ายหลังจากที่ลูกออกไป เสี่ยวลั่วช่วยพ่อกับแม่ของลูกไว้ แถมยังเอาเงินหนึ่งล้านห้าแสนบาทของพวกเรากลับมาจากมือพวกปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยสูงด้วย!""อะไรนะ? เขาเนี่ยนะ ล้อเล่นอะไร!" อวี๋อีเหรินไม่เชื่ออยู่แล้วในความทรงจำของเขา ลั่วอู๋ฉางเหมือนกับพ่ออวี๋ซือหยวน เป็นพวกปัญญาชนที่ไร้เรี่ยวแรง พวกปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยสูงกลับเป็นพ

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 41

    ลั่วอู๋ฉางวางสาย สวมเสื้อผ้าสะอาดเรียบร้อย จากนั้นเตรียมลงไปที่ชั้นล่างที่ชั้นล่าง รถเบนซ์สีดำขับเข้ามา พนักงานเปิดประตูจะเข้าไปเปิดประตู คนคนหนึ่งพุ่งเข้ามาก่อน "ฉันทำเอง!"คนผู้นี้สวมชุดสูทสั่งตัดที่ราคาแพง หวีผมอย่างเนี๊ยบ เหมือนกับถูกหมาเลียมาเขาก็คือหวังจื่อเฟิง ผู้ที่ตามจีบหยางหว่านอวี่เมื่อสี่ปีก่อน ในตอนที่หัวของเขาถูกผ้าพันแผลพันไว้แล้วนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย ตอนที่เห็นหยางหว่านอวี่ที่มาขอโทษ เขาตกตะลึง สายตาเหม่อลอยทันที!หวังจื่อเฟิงให้อภัยครอบครัวหยางหว่านอวี่ทันที แต่สำหรับลั่วอู๋ฉาง กลับไม่มีความคิดที่จะปล่อยเขาไปสี่ปีมานี้ หวังจื่อเฟิงแสดงความกระตือรือร้นต่อหยางหว่านอวี่ไม่หยุด ตอนฝันก็ยังอยากโอบกอดหญิงสาว ตอนนี้ก็คือการพิสูจน์ที่ดีที่สุด"คุณชายหวัง ทำไมถึงเป็นคุณคะ? ไม่ได้นะคะ!" หยางหว่านอวี่ท่าทางตกใจเนื่องจากได้รับเมตตาเกินไปหวังจื่อเฟิงตั้งใจทำเป็นยิ้มด้วยความหล่อเหลา พูดประจบ "ได้เปิดประตูเพื่อนางฟ้าหยาง เป็นเกียรติของผม"หยางหว่านอวี่ก้าวขาสวยที่สวมถุงน่องออกมา ยิ้มแล้วพูดขึ้น "งั้นต้องขอบคุณคุณชายหวังมากนะคะ ทำไมคะคุณก็มีความสนใจต่องานเลี้ยงการกุศลในค

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 42

    "ไม่ได้!"หยางหว่านอวี่สีหน้ากังวลและปฏิเสธโดยตรงเมื่อเห็นสีหน้าที่แปลกประหลาดของหวังจื่อเฟิงและจ้าวเหม่ยอวิ๋น จึงอธิบายว่า "วันนี้เป็นบ้านของตระกูลเกา แขกเหรื่อทั้งร่ำรวยและมีเกียรติ หากลงมือจริง ๆ จะส่งผลเสียต่อพวกเรา""ความหมายของฉันก็คือ ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเสียสละชื่อเสียงและอนาคตของคุณชายหวังเพื่อผู้ชายแบบนี้"หวังจื่อเฟิงยิ้มออกมาทันที ในสายตาเผยสีหน้าชั่วร้ายแวบผ่านไป "ไม่กระทืบเขาก็ได้ งั้นก็ให้เขาอับอายขายขี้หน้าต่อหน้าสาธารณะ ถือว่าแก้แค้นให้คุณน้าและเสี่ยวหาว"ครั้งนี้หยางหว่านอวี่ไม่ได้ปฏิเสธ ถือว่ายินยอมแล้ว"รอดูได้เลย!"หวังจื่อเฟิงเดินเข้าไปอย่างไม่ไว้หน้าใครด้วยความรวดเร็ว "ลั่วอู๋ฉาง แกหยุดนะ!"ลั่วอู๋ฉางหันกลับไปมอง มั่นใจว่าไม่รู้จักคนคนนี้ "นายเป็นใคร?"ตอนนั้นเขาดูรูปภาพของหวังจื่อเฟิงที่มีผ้าพันแผลพันหัว หน้าตาบวมปูดเหมือนหมู ใช้สิ่งนี้เป็นการตัดสินโทษ ไม่รู้จักอีกฝ่ายก็เป็นเรื่องปกติหวังจื่อเฟิงก้มหน้าไปด้านข้าง ยกมือขึ้นชี้ไปที่หัวของตัวเอง และกลอกตาไปมา "สี่ปีก่อน เอาใช้ขวดเบียร์ฟาดฉันจนเข้าโรงพยาบาล ทำไมถึงลืมเร็วขนาดนี้?""หรือว่าชีวิตในคุก

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 43

    ลั่วอู๋ฉางถูกชายในชุดสูทขวางเอาไว้ "คุณผู้ชาย แสดงบัตรเชิญด้วยครับ"เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่ายังต้องมีบัตรเชิญด้วย ชายชุดสูทเห็นแบบนี้ จึงพูดอธิบาย "ขออภัยครับ ข้างในมีการจัดงานเลี้ยงระดับสูง ไม่มีบัตรเชิญไม่สามารถเข้าไปข้างในได้"ลั่วอู๋ฉางขมวดคิ้ว นึกถึงคำพูดของเกาชิงเหยียน ตอนที่เขาลงมาชั้นล่างให้โทรศัพท์ไปหา เธอจะมาต้อนรับด้วยตัวเองลั่วอู๋ฉางคิดว่าไม่มีความจำเป็นนี้ จึงลืมเรื่องนี้ไปในตอนที่เขากำลังเตรียมจะหยิบโทรศัพท์ จู่ ๆ ชายชุดสูทดวงตาเป็นประกาย ถามขึ้น "ไม่ทราบว่าคุณคือคุณลั่วใช่ไหมครับ?"“ฉันคือลั่วอู๋ฉาง!”ชายในชุดสูทแสดงความเคารพทันทีและพูดว่า "ขอโทษด้วยครับคุณลั่ว ผมจำคุณไม่ได้ โปรดยกโทษให้ผมด้วย"“นายรู้จักผมเหรอ?” ลั่วอู๋ฉางงุนงง"เมื่อวานซืนที่ฝ่ายผู้ป่วยในที่สามของโรงพยาบาล ผมติดตามอยู่ข้างพี่ตาว โชคดีเคยได้พบกับคุณ......คุณรอสักครู่ ผมไปรายงานคุณหนู"หวังจื่อเฟิงเห็นภาพนี้แต่ไกล ก็รู้สึกดีใจจนยิ้มไม่หุบทันที "ดูสิว่าผมพูดว่าอย่างไร? ไอ้หมอนั่นถูกปฏิเสธแล้วสินะ! ไม่ดูว่าตัวเองฐานะแบบไหนก็กล้ามาเสนอหน้า บอดี้การ์ดของตระกูลเกาไม่ธรรมดานะ เดี๋ยวเขาจะได้รับความทรมานแน

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 44

    ภายใต้สายตาประหลาดใจของหยางหว่านอวี่และแขกทุกคน ลั่วอู๋ฉางก็ก้าวเดินเข้าไปในประตู“แขกผู้มีเกียรติมาถึงแล้ว โปรดจับตาดูให้ดี งานเลี้ยงวันนี้พิเศษมาก ห้ามเกิดข้อผิดพลาด!” พี่ตาวไม่ลืมที่จะบอกพวกลูกน้องแล้วรีบวิ่งเหยาะติดตามเขาไปหวังจื่อเฟิงไม่อยากเชื่อภาพที่ตัวเองเห็น เห็นได้ชัดว่าไอ้หมอนี่สวมชุดแผงลอยข้างถนน และก็เพิ่งถูกปล่อยออกจากคุก ทำไมถึงได้กลายเป็นแขกผู้มีเกียรติของตระกูลเกานะ?ตระกูลเกามีตัวตนแบบไหน?ในเมืองจิงไห่ ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐีวงการธุรกิจหรือว่าเป็นบุคคลใหญ่โต มีแต่พวกเขาที่ประจบประแจงตระกูลเกา ตระกูลเกาเคยประจบประแจงใครกลับที่ไหนกัน?แม้แต่พวกเขาตระกูลหวัง ก็ยังพึ่งพาตระกูลเกาเพื่อทำเงินมาโดยตลอด พ่อของ หวังจื่อเฟิงปกติต้องการพบกับเกาฉี่เฉียง ไม่ต้องพูดว่ามันยากกว่าการขึ้นไปบนฟ้า กลับถือว่าขอร้องมากไปตอนนี้ ตระกูลเกากลับสุภาพต่อลั่วอู๋ฉางขนาดนี้ เห็นได้ชัดว่าไม่สมเหตุสมผล“เกิดอะไรขึ้น?” หวังจื่อเฟิงเบิกตากว้างมองไปทางหยางหว่านอวี่แล้วซักถามหยางหว่านอวี่ก็หน้าตางุนงง "ฉันจะรู้ได้อย่างไร? วันที่เขาออกจากคุก พวกเราก็หย่าร้างกันแล้ว""ไม่ผิด ฉันก็อยู่ในเหตุการณ์ เ

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 45

    หยางหว่านอวี่หน้าตายิ้มแย้ม "เยี่ยมเลย ขอบคุณคุณชายหวัง!"“ทำไมยังเรียกว่าคุณชายหวัง?” หวังจื่อเฟิงจงใจแสร้งทำเป็นไม่ดีใจหยางหว่านอวี่หน้าแดงและเปลี่ยนคำพูดของเธอ "พี่เฟิง... "“ครับ! นี่ก็ถูกต้องแล้ว” แผนการของหวังจื่อเฟิงประสบความสำเร็จ เขายิ้มแย้มมีความสุขในทันทีโถงงานเลี้ยงพี่ตาวติดตามอยู่ข้างกายลั่วอู๋ฉางอย่างระมัดระวังและพูดว่า "คุณหนูจะออกมาต้อนรับคุณแล้ว!""ไม่จำเป็นต้องวุ่นวายขนาดนี้ คุณก็ไปจัดการงานของตัวเองเถอะ" ลั่วอู๋ฉางไม่ชอบพิธีหยุมหยิมเหล่านี้ เดินไปข้างหน้าไม่สนใจคนอื่นพี่ตาวก็ไม่กล้าคัดค้าน รีบไปหาเกาชิงเหยียนในห้องทำงานที่ชั้นบน เลขากำลังรายงานงาน "คุณหนู หยางหว่านอวี่ของหยางซื่อกรุ๊ปมาแล้ว""อะไรนะ!"เกาชิงเหยียนเงยหน้าขึ้นทันทีและตำหนิ: "ทำไมไม่บอกฉันเร็วกว่านี้?"เลขาสะดุ้งโหยง รีบพูดอธิบาย "ฉันก็เพิ่งทราบค่ะ ตอนที่ประธานเกาอยู่ ดูแลช่วยเหลือหยางซื่อกรุ๊ปมาโดยตลอด ดังนั้นฉันจึงรีบมารายงานคุณ"ในความเป็นจริง แม้แต่ผู้บริหารชั้นสูงของตระกูลเกา ก็ไม่รู้ว่าทำไมเกาฉี่เฉียง ถึงทำเช่นนี้หยางซื่อกรุ๊ปเป็นเพียงบริษัทเล็ก ๆ ที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก ต่อหน้ายั

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 46

    หยางหว่านอวี่รู้สึกดีใจอย่างมาก และใช้สายตาซางซึ้งมองดูหยางหว่านหยู่หวังจื่อเฟิงหวังจื่อเฟิงงุนงงอยู่นานแล้ว เมื่อครู่พ่อพูดชัดเจนในโทรศัพท์แล้วว่า ทำไมสำเร็จ!นี่มัน เรื่องอะไรกัน?"คุณชายหวังคุณทำได้จริง ๆ ด้วย วันนี้โชคดีมากที่มีคุณ" จ้าวเหม่ยอวิ๋นพูดอย่างตื่นเต้นหวังจื่อเฟิงพยักหน้าอย่างไร้ยางอายและพูดอย่างหน้าไม่อาย "นี่นับประสาอะไรกัน เรื่องเล็กน้อยมาก"เขาคิดในใจ ทางด้านพ่อของเขาต้องเข้าใจผิดแน่นอน คิดว่าวัยรุ่นอย่างเกาชิงเหยียน ไม่มีทางให้เกียรติเขา ในเมื่อวัยรุ่นส่วนมากไม่ค่อยชอบคนแก่พวกนี้ คิดว่าความคิดของพวกเขาล้าสมัย พอใจในสภาพปัจจุบันไม่คิดจะปรับปรุงแก้ไขกลับคิดไม่ถึงว่า เกาชิงเหยียนจะให้ความสำคัญต่อผู้อาวุโสขนาดนี้ นี่เป็นเกิดความคาดหมายจริง ๆในเมื่อเป็นแบบนี้ คุณงามความดีนี้หวังจื่อเฟิงต้องรับไว้อยู่แล้ว"ประธานหยาง เชิญค่ะ" เลขาสุภาพมาก สั่งให้บอดี้การ์ดเปิดทางเดินพิเศษไม่ต้องพูดถึงว่าแขกที่มาต่อคิวจะอิจฉาขนาดไหนหวังจื่อเฟิงหลงระเริง ใบหน้าเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ เขาก้าวเดินอย่างไม่ไว้หน้าใคร เดินเข้าไปภายใต้สายตาอิจฉาของผู้คนส่วนลั่วอู๋ฉาง กำลังเดินเท

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 47

    หยางหว่านอวี่ถึงได้พยักหน้ายอมรับ หลังจากนั่งลง ก็ยังคิดว่าเหมือนฝันไปขณะที่เธอรู้สึกกระวนกระวายใจก็รู้สึกว่าโชคดีอย่างมากเช่นกัน"เยี่ยมเลย ครั้งนี้ได้ชัยชนะอย่างแน่นอน!" จ้าวเหม่ยอวิ๋นดีใจอย่างมาก แค่เพียงที่นั่ง ตระกูลเกาก็ให้ความสำคัญกับหยางหว่านอวี่ขนาดนี้ คู่ค้าดีเด่นยิ่งเป็นเรื่องที่แน่นอนแล้วหวังจื่อเฟิงนั่งลงข้างหยางหว่านอวี่อย่างไม่เกรงใจ ไม่ปกปิดความสัมพันธ์ที่สนิทสนมกับเธอเลยสักนิดเลขากลับมาที่ห้องทำงาน กำลังจะรอรับความดีความชอบ กลับเห็นเกาชิงเหยียนสีหน้าเคร่งขรึม พูดขึ้น "ตรวจสอบหยางหว่านอวี่คนนี้ สำคัญคือความสัมพันธ์ของเธอกับหวังจื่อเฟิง"“ระ......รับทราบ!” เลขาตอบรับอย่างเร่งรีบและหันหลังไปโทรศัพท์หลังจากนั้นไม่นาน เลขาก็กลับมาที่ห้องด้วยสีหน้าซับซ้อน "ตรวจสอบได้แล้ว หลายปีมานี้ตระกูลหยางประจบประแจงตระกูลหวังอยู่ตลอด อยากจะยุยงหยางหว่านอวี่กับหวังจื่อเฟิงให้คบกัน ว่าทั้งสองกำลังจะเปิดเผยความสัมพันธ์ของพวกเขาต่อสาธารณะแล้ว"“เธอกล้าดียังไง!” เกาชิงเหยียนกัดฟัน ใบหน้าสวยของเต็มไปด้วยความเย็นชาในช่วงสามปีที่ผ่านมา เพื่อตอบแทนบุญคุญที่ลั่วอู๋ฉางช่วยชีวิตไว้ ตระก

บทล่าสุด

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 1059

    ชวีซานตัวไม่กล้าขัดขืน ได้แต่ทำตามคำสั่งเมื่อทุกคนมาถึงภูเขาด้านหลัง ฟ้าก็เริ่มสางแล้วเบื้องหน้าคือเหวลึกที่ขวางทางอยู่ลั่วอู๋ฉางผูกปลายเชือกด้านหนึ่งไว้กับเสา แล้วสะพายเชือกที่มัดรวมกันไว้บนหลัง ก่อนพยักหน้าให้ทุกคน"มีปัญหาอะไรไหม?"ลั่วอู๋ฉางถามอาวุโสที่มีใบหน้าฟกช้ำดำเขียวคนนั้นอาวุโสรีบตอบ "ไม่มีปัญหาครับ!"ลั่วอู๋ฉางกระโดดขึ้นด้วยเท้าข้างเดียว ตัวเขาลอยขึ้นสูงก่อนเหาะตรงไปยังอีกฟากของหน้าผาเมื่อเหาะไปได้ครึ่งทาง ร่างของลั่วอู๋ฉางก็เริ่มร่วงลงเมื่อคำนวณจากมุมนี้ เขาแทบไม่มีโอกาสไปถึงอีกฝั่งเลยทันใดนั้น นกอินทรียักษ์ตัวหนึ่งก็โฉบมาจากด้านข้างอาวุโสคนเมื่อกี้ยืนอยู่ริมหน้าผาและเป่านกหวีดเรียกอินทรีอินทรียักษ์กางปีก ลั่วอู๋ฉางเหยียบลงบนหลังมันหนึ่งที ทิศทางที่กำลังร่วงพลันเปลี่ยนเป็นลอยขึ้นเสี้ยววินาทีต่อมา เขาก็ลงถึงริมหน้าผาอีกฝั่งอย่างมั่นคงจากนั้นก็ทำแบบเดิม ผูกปลายเชือกฝั่งนี้ไว้กับเสาอีกข้าง"เจ้าสำนักชวี สั่งคนของท่านให้เริ่มได้แล้ว!" ซูเทียนคั่วออกคำสั่งอย่างไม่ไว้หน้าชวีซานตัวไม่ใช่ไม่เคยคิดจะเล่นงานตอนที่ลั่วอู๋ฉางกำลังข้ามหน้าผาเขาเคยคิดจะสั่ง

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 1058

    คำกล่าวอย่างมั่นใจของลั่วอู๋ฉางดังก้องไปทั่วสำนักใหญ่ของพันธมิตรบู๊ลิ้มหากเป็นเมื่อก่อน ใครกล้าพูดกับหัวหน้าสำนักพวกเขาเช่นนี้ คงไม่ต้องรอให้ชวีซานตัวเอ่ยปาก สมาชิกระดับล่างก็พร้อมจะซัดมันจนหมอบไปแล้วต่อหน้าประตูสำนักงานใหญ่ จะปล่อยให้คนมาพูดจาโอ้อวดได้อย่างไร?แต่สถานการณ์ตอนนี้คือ ลั่วอู๋ฉางไม่เพียงแต่พูด เขายังทำลายประตูใหญ่ของพวกเขาและทำร้ายคนไปอีกหลายสิบคนด้วยแน่นอนว่าจำนวนนี้ไม่ได้ตายตัวถ้าคนอื่นกล้าบุกเข้าไปอีก ลั่วอู๋ฉางจะไม่ปรานี และยินดีที่จะช่วยเพิ่มจำนวนผู้บาดเจ็บให้พันธมิตรบู๊ลิ้มอีกด้วย"แก...ปากกล้านักนะ!"ชวีซานตัวในฐานะหัวหน้าแห่งบู๊ลิ้ม ไม่อาจเสียศักดิ์ศรีด้วยการยอมแพ้ง่าย ๆทั้งๆ ที่ความจริง ในใจเขานั้นกลับตื่นตระหนกจนแทบควบคุมไม่อยู่อาวุโสทั้งแปดร่วมมือกันยังเอาชนะไม่ได้!ถึงแม้ตอนฝึกซ้อมปกติ ชวีซานตัวจะเคยชนะพวกเขามาแล้วก็เถอะแต่ใช้นิ้วโป้งเท้าคิดก็ยังรู้เลยว่า เป็นอาวุโสทั้งแปดแกล้งอ่อนข้อให้ถ้าสู้จริง ชวีซานตัวไม่มีทางได้เปรียบหรอกแต่ลั่วอู๋ฉางกลับทำได้!นี่แสดงให้เห็นว่า ความสามารถของเขาเหนือกว่าชวีซานตัวมากถ้ายอมแพ้ต่อหน้าสมาชิกบู๊ลิ้มมา

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 1057

    เขาไม่อยากให้ใครพูดถึงเรื่องนี้ โดยเฉพาะต่อหน้าสาธารณชน"อาวุโสทั้งแปดของสภาผู้อาวุโสอยู่ที่ใด?"ดวงตาของชวีซานตัวเต็มไปด้วยความโกรธ พร้อมตะโกนออกคำสั่งอย่างดุดัน"ข้าน้อยอยู่ที่นี่!"อาวุโสทั้งแปดคนตอบรับออกมาพร้อมกัน"คนผู้นี้ทำลายประตูสำนักของเรา ทำร้ายศิษย์ของเรา จงสังหารมันตรงนี้เดี๋ยวนี้ เพื่อเป็นตัวอย่าง!" ชวีซานตัวกัดฟันกล่าวอาวุโสทั้งแปดคนตอบพร้อมกันอีกครั้ง "รับทราบ ท่านเจ้าสำนัก!""ฆ่า!"ทั้งแปดคนล้วนเป็นผู้มีวิชาระดับปรมาจารย์ใหญ่มีฝีมือไม่ธรรมดา!ในสำนักใหญ่ ทั้งด้านสถานะและพลังฝีมือ พวกเขาเป็นรองเพียงชวีซานตัวเท่านั้นเมื่อทั้งแปดร่วมมือกัน แม้แต่วีรบุรุษในตำนานก็ยากที่จะเอาชนะพวกเขาได้พวกเขาร่วมมือกันอย่างเข้าขา ล้อมลั่วอู๋ฉางไว้ตรงกลาง และออกกระบวนท่าสังหารทุกอย่างใส่เขาถ้าเป็นคนอื่น คงถูกพวกเขาสับเป็นชิ้นๆ ไปแล้วแต่ลั่วอู๋ฉางกลับไม่สะทกสะท้านใดๆ เพียงแค่ส่งกระแสจิต"วึ้ง!"คาถาป้องกันตัวปล่อยแสงสีทองออกมา ขัดขวางการโจมตีทั้งหมดไว้"อะไรกัน?"ชวีซานตัวเบิกตากว้าง ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อในสายตาของเขา ต่อให้ลั่วอู๋ฉางเก่งแค่ไหน แต่ก็ยังเป็น

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 1056

    ท่ามกลางความมืด มีร่างคนจำนวนมากพุ่งผ่านไปอย่างรวดเร็วเมื่อพวกเขาเห็นชัดเจนแล้วว่าประตูทางเข้าซึ่งเป็นหน้าตาของพันธมิตรบู๊ลิ้มถูกทำลาย กลายเป็นซากปรักหักพัง พวกเขาก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟทันที"ใครกันที่กล้าบ้าบิ่นถึงขนาดนี้!""บังอาจมาพังประตูใหญ่ของพันธมิตรบู๊ลิ้ม รนหาที่ตายแล้ว!""จะเป็นใครก็ช่าง แต่แน่ๆ คงไม่ใช่คนดีหรอก สับมันเป็นชิ้นๆ ก่อนค่อยว่ากัน!"กลุ่มคนที่โกรธแค้นเห็นร่างหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าซากปรักหักพัง"ไอ้หนุ่ม แกเห็นไหมว่าใครเป็นคนทำ?"คนตาไวมองเห็นว่าเป็นเงาของชายหนุ่มจึงรีบถามออกไปทันที"ขอเตือนไว้ก่อน เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ รีบพูดสิ่งที่นายเห็นออกมาทั้งหมก ไม่งั้นนายเองก็ต้องเดือดร้อนด้วย!"ลั่วอู๋ฉางยืนอย่างสงบพลางตอบว่า "เห็น""รีบบอกมาว่าใคร!" คนกลุ่มนั้นร้องถามขึ้นพร้อมกันลั่วอู๋ฉางตอบอย่างไม่รีบร้อนว่า "ก็ฉันไง!""อะไรนะ?!"คนกลุ่มนั้นเบิกตาโต ความโกรธที่ปรากฏบนใบหน้าชัดเจนยิ่งกว่าความตกใจ"ไอ้หนุ่ม นี่ไม่ใช่เวลามาอวดเก่ง คิดว่าเราจะเชื่อแกหรือไง?""รีบบอกมาว่าใครเป็นคนทำ ไม่งั้นจะถือว่าแกเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดด้วย!""ให้โอกาสสุดท้าย รีบพูด ไม่งั้นพวกเร

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 1055

    ซูเทียนคั่วกังวลขึ้นมาทันที ขณะที่ปกป้องซูเฉี่ยนเฉี่ยนหลานสาว เขาก็ตะโกนเสียงดังขึ้นว่า "เจ้าสำนักชวี นี่คือวิธีการต้อนรับแขกของพันธมิตรบู๊ลิ้มหรือ?""หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป ไม่กลัวคนในยุทธภพจะหัวเราะเยาะหรือ?"ชวีซานตัวไม่สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย "อย่างพวกนายเนี่ยนะ? เรียกว่าแขกได้ด้วยหรือ?"เมื่อต้องเผชิญหน้ากับจำนวนคนที่มากกว่าหลายเท่า อีกทั้งสายตาที่จับจ้องมาอย่างอาฆาต ทั้งสามคนไม่สามารถต่อกรได้เลยไม่นานพวกเขาก็ถูกจับตัวได้!"ชวีซานตัว การที่คุณทำเช่นนี้ ไม่กลัวว่าศิษย์ของเทพอวี้อย่างราชันมังกรลั่วเทียนจะมาหาเรื่องหรือ?" ซูเทียนคั่วพูดขณะดิ้นรนชวีซานตัวไม่สนใจแม้แต่น้อย "ถ้าเขากล้าหาญมาที่นี่ ฉันจะให้เขาลิ้มรสชาติของการต้องเป็นนักโทษเช่นกัน!""ศิษย์ที่ถูกสอนโดยตาแก่แบบนั้น คงไม่ใช่คนดีสักเท่าไรหรอก พอดีเลย จะได้ให้เขาชดใช้หนี้แทนตาแก่นั่นและพวกแกไปพร้อมกัน!""ราชันมังกรลั่วเทียนอะไรกัน แค่เด็กหนุ่มอายุยี่สิบต้นๆ จะมีอะไรพิเศษนัก?""ตัวเขาไม่อายก็ช่างเถอะ แต่ยังกล้าไปหาคนมาคุยโวแทนตัวเอง คิดจะดังจากการสร้างกระแสเช่นนี้ คิดว่าบู๊ลิ้มเป็นที่สำหรับเล่นขายของหรือไง ฝันไปเถ

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 1054

    พูดของชวีซานตัวเต็มไปด้วยความหยาบคายใบหน้าสวยของเย่ปิงเหยาเริ่มบึ้งตึง แต่เพราะนี่เป็นถิ่นของอีกฝ่าย เธอจึงไม่อาจโต้ตอบได้ชวีหลิงหานคือน้องสาวของชวีซานตัว ทั้งสองคนมีอายุห่างกันมากกว่ายี่สิบปีหลังจากชวีหลิงหานเกิดได้ไม่นาน พ่อแม่ของเธอก็เสียชีวิตจากอาการป่วย ก่อนสิ้นใจได้ฝากให้ชวีซานตัวช่วยเลี้ยงดูน้องสาวที่ยังเป็นแค่ทารกแรกเกิดชวีซานตัวเลี้ยงดูน้องสาวด้วยความยากลำบาก จนเธอเติบโตขึ้นมาเป็นหญิงสาวที่งดงามยิ่ง ทั้งยังมีพรสวรรค์จนได้รับความสนใจจากคนในบู๊ลิ้มมีผู้คนมาสู่ขอเธอมากมายจนทำให้ประตูบ้านตระกูลชวีแทบพังในขณะที่ชวีซานตัวกำลังเลือกคู่ครองให้น้องสาวจนตาลาย และวาดฝันว่าเธอจะได้แต่งงานกับตระกูลใหญ่โตความฝันกลับพังทลาย!ชวีหลิงหาน หญิงสาวผู้แสนงดงาม กลับถูกชายแก่อัปลักษณ์คนหนึ่งมาชิงตัวไป!ในตอนแรก ชวีซานตัวคิดว่าน้องสาวของเขายังไร้เดียงสา และถูกชายชั่วหลอกลวงเขาคิดว่าเพียงแค่พูดจาโน้มน้าวด้วยความรักและเหตุผล น้องสาวจะกลับตัวกลับใจแต่ผลกลับเป็นตรงกันข้าม!ชวีหลิงหานไม่เพียงแต่ไม่สำนึกในสิ่งที่ทำ แต่กลับรักชายแก่คนนั้นอย่างหัวปักหัวปำ และพูดคำพูดไร้สาระอย่างเช่นรักจน

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 1053

    พูดตามตรง ลั่วอู๋ฉางก็มีใจอ่อนนิดหน่อยทุกครั้งที่ต้องต่อสู้กับพวกกระจอก เขามักจะคิดถึงหูเยว่ซีอย่างมากเป็นถึงจักรพรรดินีแห่งชิงชิว แต่เขากลับใช้งานเหมือนลูกน้องปลายแถวประเด็นสำคัญคือ หูเยว่ซีไม่เพียงแต่ไม่โกรธ แต่ยังเต็มใจช่วยอย่างยินดีอีกด้วย"ไม่ได้"ความมีเหตุผลเอาชนะความหุนหัน ลั่วอู๋ฉางพูดพร้อมขมวดคิ้ว "เธอต้องอยู่เฝ้าบ้าน มีแต่แบบนี้ ฉันถึงจะวางใจได้"หูเยว่ซีทำหน้าหงอย: "ก็ได้!"ลั่วอู๋ฉางหัวเราะ "เธอว่านอนสอนง่ายขนาดนี้ ต้องให้รางวัลสักหน่อยแล้ว""รางวัลอะไร?" จิ้งจอกน้อยถามอย่างตื่นเต้น ดวงตาทั้งสองส่องประกายวิบวับทันทีลั่วอู๋ฉางหยิบลูกแก้วพญานาคออกมาจากกระเป๋าแล้วพูดว่า "ก่อนหน้านี้สัญญาว่าจะให้ของขวัญเธอ ตอนนี้ถึงเวลาทำตามสัญญาแล้ว"หูเยว่ซีตาเป็นประกายอีกครั้ง "ลูกแก้วพญานาค!"ถ้าเป็นเมื่อก่อน ลูกแก้วพญานาคระดับนี้เธอคงไม่แม้แต่จะชายตามองด้วยซ้ำแค่มองนานหน่อย ก็ถือเป็นการดูหมิ่นคำว่า "จักรพรรดินีแห่งชิงชิว" แล้ว!แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน หลังจากถูกขังอยู่ในแหวนมานานถึงพันปี เพิ่งจะได้อิสรภาพคืนมา พลังลดลงไปมากและร่างกายก็อ่อนแอสุดขีดนี่คือช่วงเวลาที่เธอต้อง

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 1052

    หวงผู่เจิ้งซิ่นย่อมไม่พอใจแน่!คนเป็นครูยังล้มเหลว แต่ศิษย์กลับทำสำเร็จตั้งแต่ครั้งแรกถ้าไม่ใช่บังเอิญ แล้วมันคืออะไร?ลั่วอู๋ฉางไม่ตอบอะไร จากนั้นก็หยิบคริสตัลสวรรค์ก้อนที่สองมาไม่นานก็ทำสำเร็จอีกครั้ง!หวงผู่เจิ้งซิ่นเบิกตากว้าง ประหลาดใจราวกับเห็นเทพเจ้าส่วนใบหน้าของหูเยว่ซีก็เต็มไปด้วยความชื่นชมมากขึ้นเรื่อยๆ"ลองอีกครั้งสิ!" หวงผู่เจิ้งซิ่นยังคงไม่ยอมแพ้คราวนี้ ลั่วอู๋ฉางไม่ทำตามเขาอีกต่อไป เขาเก็บแท่งคริสตัลสวรรค์ที่เหลือทันที"หมายความว่าไง?" หวงผู่เจิ้งซิ่นถามตาโตลั่วอู๋ฉางลุกขึ้นเดินออกไป ทิ้งคำพูดไว้โดยไม่หันกลับมา "ขอบคุณนะ!""เดี๋ยวสิ นายแน่ใจแล้วเหรอว่านายเข้าใจทั้งหมด?"หวงผู่เจิ้งซิ่นรีบไล่ตามไป "ถ้าไม่สำเร็จล่ะ ฉันจะได้ช่วยหาสาเหตุไง!""ไม่จำเป็นแล้ว ถ้านายท่านของฉันคิดว่าไม่มีปัญหา มันก็ไม่มีปัญหาแน่" หูเยว่ซีขวางเขาไว้ พร้อมพูดอย่างหนักแน่นในตอนนี้ สีหน้าหวงผู่เจิ้งซิ่นเต็มไปด้วยความซับซ้อนศิษย์ที่เก่งเกินไปทำให้ครูรู้สึกอับอาย"ไหนว่าราชันมังกรลั่วเทียนก็เป็นแค่คนธรรมดา เขาเป็นปีศาจชัดๆ!"หวงผู่เจิ้งซิ่นยอมแพ้อย่างหมดท่า พูดอย่างเศร้าๆ "คิดว่า

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 1051

    หวงผู่เจิ้งซิ่นเชิดคอขึ้น พยายามทำสีหน้าให้ดูปกติที่สุดเพื่อปกปิดความเขินอายของตัวเองเนื่องจากการสาธิตเมื่อครู่นั้นจบลงด้วยความล้มเหลวแม้ว่าเขาจะรู้วิธี แต่เพราะไม่ได้ปฏิบัติมาเป็นเวลานาน ความผิดพลาดจึงถือเป็นเรื่องปกติ"หาว..."หูเยว่ซีอ้าปากหาวครั้งใหญ่ ราวกับเปลือกตาถูกกดด้วยน้ำหนักมหาศาลใช่แล้ว เธอง่วงจริงๆ!การสอนของหวงผู่เจิ้งซิ่นทำให้เธอง่วงได้สำเร็จส่วนเนื้อหาที่พูดในภายหลัง แทบไม่ได้เข้าหัวของหูเยว่ซีเลย ผ่านหูซ้ายออกหูขวา ไม่มีอะไรในหัวเลย"พวกคุณ...ทำต่อไปเลย!"หูเยว่ซียืดแขนบิดขี้เกียจ และส่งสัญญาณให้ทั้งคู่ไม่ต้องสนใจเธอสิ่งนี้ทำให้หวงผู่เจิ้งซิ่นรู้สึกว่าตัวเองล้มเหลวมาก!รู้สึกเหมือนโดนตบหน้าฉาดใหญ่!การทำให้นักเรียนง่วงถือเป็นเรื่องที่น่าอับอายอยู่แล้ว ที่สำคัญคือการสาธิตของตัวเองยังล้มเหลวอีกด้วย"ไม่เป็นไร ฉันขอลองเอง" ลั่วอู๋ฉางเสนอตัวขึ้นอย่างกล้าหาญ"คุณจำทั้งหมดได้แล้วเหรอ?"หวงผู่เจิ้งซิ่นพูดด้วยสีหน้าจริงจังทันที "อย่าเพิ่งรีบร้อนปฏิบัติเลย ลองทบทวนสิ่งที่ฉันพูดสักรอบก่อน มีจุดไหนที่ไม่เข้าใจก็ถามให้แน่ชัด แล้วค่อยลงมือ"เพราะจำนวนของแท่งค

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status