แชร์

บทที่ 26

ผู้เขียน: ลั่วเหล่ย
อวี๋ซือหยวนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทร “ฮัลโหล เถ้าแก่สวี ทางด้านฉันอยากขอยืมเงินหน่อย รีบใช้มาก ก่อนเที่ยงต้องได้มา คุณดูว่าได้หรือเปล่า?”

“ใช้เท่าไหร่?” อีกฝ่ายถามกลับ

อวี๋ซือหยวนครุ่นคิด พูดจำนวนหนึ่งออกมา “สามแสนห้าหมื่นบาท”

“ไม่มีปัญหา ในเมื่อเป็นลูกค้าเก่า กฎเกณฑ์นายก็รู้แล้ว ดอกเบี้ยร้อยละ 13 ขาดไปส่วนหนึ่งไม่ได้! นายมาที่นี่ตอนนี้ เซ็นชื่อลงนามก็เอาเงินไปได้ทันที”

อวี๋ซือหยวนพยักหน้า “ได้ครับ ขอบคุณเถ้าแก่สวี ฉันจะไปเดี๋ยวนี้”

สวีชุ่ยหลานกับหยางซิ่งเหวินท่าทางเจ้าเล่ห์ที่ทำสำเร็จ แอบดีใจ

“พวกเราไปกับนาย ให้อีกฝ่ายโอนเงินเข้าบัญชีของฉันเลย บ้านของพวกนายเหม็นแทบจะตาย อยู่ต่อไม่ได้แม้แต่นาทีเดียว ฉันไม่รอนายอยู่ที่นี่หรอก” สวีชุ่ยหลานทำแบบนี้ ก็แค่กังวลว่าจะมีปัญหาอื่นแทรกเข้ามา

อย่างไรซะคนที่เซ็นชื่อลงนามคืออวี๋ซือหยวน หนี้สินไม่เกี่ยวกับตระกูลหยางของพวกเขาแม้แต่สลึงเดียว

อวี๋ซือหยวนตอบตบลงโดยไม่ต้องคิด พูดสั่งภรรยา “คุณรอผมอยู่ที่นี่ ผมไปเดี๋ยวเดียวก็กลับ”

“ค่ะ เดินทางระวังนะ” เจิ้งอวิ๋นจวนไม่ลืมพูดเตือน

อวี๋ซือหยวนหันหลังจะเดินออกไป เมื่อคิดว่าลั่วอู๋ฉางใกล้จะกลับมาแล้ว เขา
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 27

    ภรรยาใจดำเสนอขอหย่าร้าง ในสายตาเห็นเพียงเงินทอง อำนาจและฐานะน้องชายภรรยาอกตัญญู ร่วมมือกับแม่ยายมาหาเรื่องถึงที่ ทั้งสองคนเหมือนกับผู้หญิงปากคอเราะราย ไม่มีมารยาทแม้แต่น้อยและก็พูดถึงเงินอยู่ตลอดเดิมทีลั่วอู๋ฉางคิดว่า พ่อตาหยางซิ่งเหวินจะเป็นคนมีเหตุผล รู้จักถูกผิด คิดไม่ถึงว่าเลวทรามเหมือนกับพวกเขา หรือแม้กระทั่งเลวเสียยิ่งกว่านี่ตรงกับคำพูดสมัยก่อนจริง ๆ ไม่ใช่คนนิสัยเดียวกัน อยู่ด้วยกันไม่ได้“หลอกเงิน ต้องมีเหตุผลด้วยเหรอครับ?” ลั่วอู๋ฉางพูดเสียงเย็นชา สิ้นหวังกับครอบครัวนี้อย่างถึงที่สุดลั่วอู๋ฉางอดคิดไม่ได้ ตอนนั้นตัวเองโง่เกินไป หรือพวกเขาแสดงได้ดีเก็บซ่อนไว้ได้ลึก ถึงได้ไม่เห็นความชั่วช้าของพวกเขาแม้แต่นิดสวีชุ่ยหลานถลึงตา ความปากร้ายในตอนปกติพุ่งขึ้นมาทันที กระทืบเท้า ชี้หน้าด่าลั่วอู๋ฉางสาดเสียเทเสียขึ้นมา “นายพูดจาซี้ซั้ว นี่มันเป็นการยัดเยียด ใส่ร้ายป้ายสี!”“แกสมรู้ร่วมคิดกับนังสารเลวกระทืบฉันกับจวิ้นหาว ตอนนี้ฉันเจ็บไปทั้งตัว!”“ยังมีลูกชายที่น่าสงสารของฉัน อายุยังน้อยก็ถูกนายหักขาทั้งสองข้าง เขาเพิ่งอายุยี่สิบสี่เอง ถ้าอนาคตเกิดพิการอะไร ชีวิตนี้ก็จบเห่แล้ว!

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 28

    ดวงตาช่างน่าหวาดกลัวอย่างมาก!สวีชุ่ยหลานกับหยางซิ่งเหวินตกใจจนหน้าซีดและตัวสั่นไปหมดในดวงตาที่เต็มไปด้วยความอาฆาตและความเย็นชา พวกเขาเหมือนเห็นภูเขาซากศพและทะเลเลือด พญายมถือเคียวกันแหลมคม เผยรอยยิ้มแปลกประหลาดที่ทำให้คนขนลุกขนพองตอนนั้น ทนายบอกลั่วอู๋ฉางว่า ตระกูลหยางใช้ความพยายาม เอาหนังสือให้อภัยมาจากผู้เสียหาย มีโอกาสได้รับโทษสถานเบาในศาลตลอดเวลา ลั่วอู๋ฉางคิดว่าครอบครัวภรรยาใช้เงินและหาเส้นสาย สุดท้ายได้รับการให้อภัยจากหวังจื่อเฟิง เพื่อลดโทษให้เขาคิดแบบนี้แล้ว ตระกูลหยางถือว่าทำอย่างเต็มที่ ความทุ่มเทของลั่วอู๋ฉางก็คุ้มค่าในเมื่อ คุณอาอวี๋ซือหยวนเป็นครูมหาลัย ตลอดชีวิตนอกจากสอนหนังสือ ทำอะไรอย่าอื่นไม่เป็น รักษาและพัฒนาความสัมพันธ์ ต้องรู้จักประจบผู้มีอำนาจ นี่คือจุดด้อยของอวี๋ซือหยวนใครจะคิดว่า ทุกอย่างนี้สำเร็จได้เพราะอาอวี๋ขายบ้านและกู้ดอกเบี้ยสูงมา!หยางซิ่งเหวินตกใจจนรู้สึกหนาวไปทั้งตัว เขาทนไม่ไหวแล้วจริง ๆ จึงจะพูดความจริงออกมา “คืออย่างนี้……”“คืออย่างนี้ ไม่เพียงตระกูลอวี๋ของพวกนายขายบ้าน ตระกูลพวกฉันก็ขายแล้ว!”สวีชุ่ยหลานรีบชิงคำพูดทันที ถลึงตาพูด “ก็ค

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 29

    เจิ้งอวิ๋นจวนรีบเข้าไปห้าม “มีอะไรพูดกันดี ๆ อย่าลงไม้ลงมือสิ!”“นังขอทาน ไสหัวไปซะ!” หยางซิ่งเหวินผลักเจิ้งอวิ๋นจวนล้มลงกับพื้น โบกหมัดไปทางลั่วอู๋ฉางอีกครั้ง“ผลัวะ!”ลั่วอู๋ฉางถีบไปที่ท้องของหยางซิ่งเหวิน กระเด็นออกไปไกลสามสี่เมตร ล้มหน้าคะมำเต็ม ๆ“กล้าทำสามีฉัน ฉันสู้ตายแล้ว!” สวีชุ่ยหลานพุ่งเข้ามาลั่วอู๋ฉางขมวดคิ้ว พูดอย่างดุดัน “ไสหัวไป!”สวีชุ่ยหลานกลัวจนขี้หดตดหาย สองขาอ่อนแรง ล้มนั่งลงกับพื้นหยางซิ่งเหวินก็ตกใจอย่างมาก ทั้งสองคนสภาพน่าอนาถ ประคองกันและกันหนีหัวซุกหัวซุนจนกระทั่งพุ่งออกไปนอกประตู พวกเขาถึงรู้สึกความกดดันที่ลดลง สวีชุ่ยหลานวิ่งไปด้วย หันหลังกลับไปพูดข่มขู่ด้วย “ลั่วอู๋ฉาง แกมันไอ้ระยำที่เกาะผู้หญิงกินเป็นอย่างเดียว แกคอยดูเถอะ ฉันไม่ฆ่าแกให้ตาย ฉันก็ไม่ใช่สกุลสวี!”อวี๋ซือหยวนประคองภรรยา พูดอย่างกลัดกลุ้ม “เสี่ยวลั่ว มีอะไรค่อย ๆ พูดไม่ได้เหรอ? ต้องทำให้แย่ถึงขนาดนี้ ต่อไปจะกู้กลับไม่ได้”“เดิมทีก็ไม่มีที่ให้กู้กลับอยู่แล้ว”ลั่วอู๋ฉางถึงได้เผยรอยยิ้มออกมาอีกครั้ง พูดว่า “เรื่องในอดีต ก็ให้มันผ่านไปเถอะ อาอวี๋สอนผมเอง อย่าใส่ใจกับเมื่อวานมากเกินไป

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 30

    เสียงตบหน้าที่ดังกังวาน ดังไปทั่วลานบ้านลั่วอู๋ฉางยังคงกางแขนออกด้วยท่าทางเก้กัง ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหนือคาดอวี๋ซือหยวนกับเจิ้งอวิ๋นจวนก็ตกตะลึง สามีภรรยาสูงวัยคิดไม่ถึงว่าลูกสาวจะทำแบบนี้ ไม่มีการเตรียมใจเลยสักนิดความเป็นจริง จากความสามารถของลั่วอู๋ฉาง หลบฝ่ามือนี้เป็นเรื่องที่ง่ายดายมากอย่าว่าแต่อวี๋อีเหรินเด็กผู้หญิงที่อ่อนแอบอบบางแบบนี้ ต่อให้เปลี่ยนเป็นทหารกองกำลังพิเศษที่แข็งแกร่งความสามารถเก่งกาจ แปดคนสิบคนก็อย่าคิดจะเข้าใกล้เขาจนกระทั่งฝ่ามือตกลงบนใบหน้าของเขาอย่างแรง ลั่วอู๋ฉางก็ไม่อยากเชื่อว่านี่เป็นความจริงเขาจินตนาการไม่ออก เด็กน้อยที่ติดตามเขาตลอดทั้งวัน ดวงตาโตที่สดใสเต็มไปด้วยความชื่นชม ไม่ยอมออกห่างเขา จะลงมือตบตัวเองต้องรู้ไว้ว่า ลั่วอู๋ฉางกับอวี๋อีเหรินไม่ใช่พี่น้องแท้ ๆ แต่กลับยิ่งกว่าพี่น้องแท้ ๆ!ลั่วอู๋ฉางครุ่นคิด นี่อาจจะเป็นเพราะความหวังยิ่งมาก ผิดหวังก็ยิ่งมากสินะเขาในอดีตดีเลิศพอ ทั่วตัวเปล่งประกายแสง อวี๋อีเหรินเหมือนกับเด็กผู้หญิงคนอื่น ๆ ชื่นชมเขาก็เป็นเรื่องธรรมดาใครจะไปคิด ลั่วอู๋ฉางจะกลายเป็นนักโทษ อยู่ข้างในสี่ปีเต็ม ๆความชื่นชมของ

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 31

    "ลั่วอู๋ฉาง เรื่องพวกนี้นายเป็นคนก่อขึ้น! ตอนนี้ นายมีสิทธิ์อะไรปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขา แถมยังทำร้ายครอบครัวพวกเรา ทำร้ายจนแย่ไม่พออีกเหรอ?"ลั่วอู๋ฉางใบหน้าตกตะลึง พูดไม่ออก!เดิมทีเขาคิดว่า อวี๋อีเหรินผิดหวังต่อตนเอง เกลียดที่เขาไม่มุมานะ คิดไม่ถึงว่าจะเป็นความเกลียดแค้นเข้ากระดูก!ความจริงแล้ว เขาสังเกตุเห็นตั้งนานแล้วว่าอาอวี๋ใบหน้าเหี่ยวย่น อาสะใภ้เจิ้งผ่านความยากลำบากมาเยอะมาก ทั้งสองคนเทียบกับคนรุ่นเดียวกัน เห็นได้ชัดว่าแก่กว่าเป็นสิบกว่าปีโดยเฉพาะอาสะใภ้เจิ้ง มือหยาบกร้านปกคลุมไปด้วยรอยแตกกับแผลเปื่อยเพราะความเย็น ต้องรู้ไว้ว่าตอนนี้เป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง มากสุดนับเป็นต้นฤดูหนาว แค่คิดก็รับรู้แล้ว่าช่วงปลายฤดูหนาว สองมือของเธอจะกลายเป็นแบบไหนลั่วอู๋ฉางโกรธแค้นเข้ากระดูกดำ แทบอยากจะตบหน้าตัวเองแรง ๆ!นี่ก็เหมือนกับที่อวี๋อีเหรินพูดไว้ ตัวเองหลบไปเพลิดเพลินอยู่ในคุก ไม่รับรู้เรื่องของโลกภายนอกและยังคิดอย่างไร้เดียงสาว่า ตัวเองแบกรับทุกอย่างไว้ ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใคร พวกเขาจะมีชีวิตอยู่ข้างนอกอย่างดีมากผลลัพธ์กลับตรงกันข้าม"ลูกใช้ชีวิตอย่างลำบาก เป็นเพราะพ่อไม่ม

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 32

    อวี๋อีเหรินนิ่งอึ้งอยู่ที่เดิม น้ำตาคลอเบ้า ท่าทางน่าสงสารอย่างมากเธอฝืนกลั้นไม่ให้น้ำตาไหลออกมา น้ำเสียงแฝงไปด้วยเสียงร้องไห้ที่ชัดเจน “พ่อ เพื่อลั่วอู๋ฉางคนอันตรายคนนี้ แม้แต่ลูกสาวแท้ ๆ คนนี้พ่อก็ไม่ยอมรับแล้วใช่ไหม?”อันที่จริง ในตอนที่อวี๋ซือหยวนพูดคำที่โหดร้ายออกมา ในใจก็รู้สึกเสียใจแล้วแต่หน้าตาและศักดิ์ศรีในฐานะผู้อาวุโส บวกกับการปกป้องที่มีต่อลั่วอู๋ฉาง ลิขิตให้เขาไม่สามารถก้มหัวให้ลูกสาวได้ง่าย ๆอวี๋ซือหยวนเป็นรุ่นน้องของพ่อลั่วอู๋ฉาง ทั้งสองคนต่างเป็นบุคคลที่มีความสามารถมีศีลธรรมและการเรียนดีเด่น เป็นบุคคลสำคัญในการปลูกฝังโรงเรียนภายหลังมีโอกาสรับตำแหน่งสอนหนังสือที่โรงเรียน ภายใต้การเปรียบเทียบ พ่อของลั่วอู๋ฉางมีคุณสมบัติมากกว่า โอกาสชนะเยอะกว่าแต่เขาพิจารณาว่าฐานะทางบ้านของอวี๋ซือหยวนไม่ดี หลังจากเรียนจบทำได้แค่กลับบ้านเกิด อย่างมากก็เป็นแค่ครูประถมศึกษา ถูกฝังกลมตลอดชีวิต จึงเป็นฝ่ายสละสิทธิ์ให้ ตัวเองพาภรรยาที่เพิ่งแต่งงานใหม่ไปที่ทีมสำรวจวิทยาศาสตร์แนวหน้าอวี๋ซือหยวนรู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณ แม้แต่เจิ้งอวิ๋นจวนภรรยาของเขา ก็เป็นเพราะแม่ของลั่วอู๋ฉางเป็นแม่สื่อ

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 33

    อวี๋อีเหรินถลึงตาโต พูดเสียงดัง "ฉันพูดถูกแล้วใช่ไหม? ฉันบอกตั้งนานแล้วคนตระกูลหยางเชื่อถือไม่ได้ ภายนอกซื่อสัตย์จริงใจ แอบซ่อนเร้นความหน้าเนื้อใจเสือเลวทรามต่ำช้าเอาไว้ไม่ให้คนอื่นเห็น""ลั่วอู๋ฉางนายจบเห่แล้ว! ตอนนี้แม้แต่ที่พึ่งพาสุดท้ายของนายก็ไม่มีแล้ว เอาอะไรมารับประกันว่าจะทำให้เป็นจริง?""นายยังกล้าพูดว่าไม่ได้มาสร้างความเดือดร้อนให้ครอบครัวพวกเราอีก? ทั้ง ๆ ที่อับจนหนทาง พ่อ ทำไมพ่อยังไม่เข้าใจอีกนะ เขาก็คือตัวซวย!"อวี๋ซือหยวนถลึงตาตำหนิขึ้นมา "ห้ามพูดซี้ซั้ว!"เจิ้งอวิ๋นจวนรีบเข้ามา "เสี่ยวอวี๋ ลูกพูดให้น้อย ๆ หน่อยเถอะ! ไม่ว่าอย่างไร พี่เสี่ยวลั่วกลับมาแล้ว นี่เป็นเรื่องดี และก็เป็นเรื่องน่ายินดี พวกเราครอบครัวล้อมวงทานข้าวกันอย่างมีความสุข ไม่ดีเหรอ?""ใครเป็นครอบครัวกับเขากัน หึ!" อวี๋อีเหรินเหลือกตาโตเจิ้งอวิ๋นจวนจับมือของลูกสาวขึ้นมาจากนั้นพูดขึ้น "เอาเถอะเอาเถอะ อย่าทำนิสัยเหมือนเด็ก มาได้พอดี รีบจัดการวัตถุดิบ จะได้ทานข้าวเร็วหน่อย มีแต่อาหารที่พวกลูกสองพี่น้องชอบกิน""ใครจะอยากกิน? หนูไม่ชอบหรอกนะ!" อวี๋อีเหรินปากพูดแบบนั้น แต่ก็ยังอยู่ต่อลั่วอู๋ฉางทำสีหน้า

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 34

    อวี๋ซือหยวนไม่สนใจการคัดค้านของลูกสาวด้วยซ้ำ จากนั้นหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วพูดขึ้น "ดังนั้น พ่อถึงได้ขอให้เพื่อนเก่าช่วยเหลือ""คุณอา ไม่ต้องลำบาก อันที่จริงผม......"คำพูดของลั่วอู๋ฉางเพิ่งออกจากปาก ก็ถูกอวี๋ซือหยวนพูดขัด "นายไม่ต้องกังวล ใครบ้างตอนวัยรุ่นไม่เคยทำเรื่องไม่ดี เมื่อทำผิดแล้วกลับใจได้มีค่ายิ่งกว่าทอง เพียงแค่นายพยายาม ไม่มีคนดูถูกนาย"ลั่วอู๋ฉางอยากพูดว่า ด้วยความสามารถและกำลังเงินของเขาในตอนนี้ ไม่ต้องไปทำงานด้วยซ้ำเพียงแค่ค่ารักษาโรคหนึ่งครั้ง เยอะกว่าเงินที่พนักงานออฟฟิศหามาทั้งชีวิต งานที่เข้างานเก้าโมงเช้าเลิกงานห้าโมงเย็นเหมือนกับพวกเขา เป็นการทำเรื่องที่เกินความจำเป็น!"เอาแบบนี้แหละ นายต้องฟังฉัน นายเพิ่งออกมา ใครก็คาดหวังไม่ได้ ฉันต้องรับผิดชอบต่อนาย!"อวี๋ซือหยวนทำหน้าเคร่งขรึม ใช้วิธีที่ไม่อนุญาตให้สงสัยพูดขึ้น "จำไว้ นายต้องแสดงท่าทีออกมา ให้คนเหล่านั้นที่ดูถูกนายพากันหุบปาก"ลั่วอู๋ฉางอยากจะพูดอะไรแต่ก็หยุดลงอีก ครอบครัวคุณอาทำเพื่อตัวเองมากมายขนาดนี้ ถ้าหากปฏิเสธต่อหน้า ทำร้ายความทุ่มเทใจของเขาเกินไปหน่อยไหมชิงเหยน กรุ๊ป?หรือว่า มีความเกี่ยวข้องอะ

บทล่าสุด

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 1059

    ชวีซานตัวไม่กล้าขัดขืน ได้แต่ทำตามคำสั่งเมื่อทุกคนมาถึงภูเขาด้านหลัง ฟ้าก็เริ่มสางแล้วเบื้องหน้าคือเหวลึกที่ขวางทางอยู่ลั่วอู๋ฉางผูกปลายเชือกด้านหนึ่งไว้กับเสา แล้วสะพายเชือกที่มัดรวมกันไว้บนหลัง ก่อนพยักหน้าให้ทุกคน"มีปัญหาอะไรไหม?"ลั่วอู๋ฉางถามอาวุโสที่มีใบหน้าฟกช้ำดำเขียวคนนั้นอาวุโสรีบตอบ "ไม่มีปัญหาครับ!"ลั่วอู๋ฉางกระโดดขึ้นด้วยเท้าข้างเดียว ตัวเขาลอยขึ้นสูงก่อนเหาะตรงไปยังอีกฟากของหน้าผาเมื่อเหาะไปได้ครึ่งทาง ร่างของลั่วอู๋ฉางก็เริ่มร่วงลงเมื่อคำนวณจากมุมนี้ เขาแทบไม่มีโอกาสไปถึงอีกฝั่งเลยทันใดนั้น นกอินทรียักษ์ตัวหนึ่งก็โฉบมาจากด้านข้างอาวุโสคนเมื่อกี้ยืนอยู่ริมหน้าผาและเป่านกหวีดเรียกอินทรีอินทรียักษ์กางปีก ลั่วอู๋ฉางเหยียบลงบนหลังมันหนึ่งที ทิศทางที่กำลังร่วงพลันเปลี่ยนเป็นลอยขึ้นเสี้ยววินาทีต่อมา เขาก็ลงถึงริมหน้าผาอีกฝั่งอย่างมั่นคงจากนั้นก็ทำแบบเดิม ผูกปลายเชือกฝั่งนี้ไว้กับเสาอีกข้าง"เจ้าสำนักชวี สั่งคนของท่านให้เริ่มได้แล้ว!" ซูเทียนคั่วออกคำสั่งอย่างไม่ไว้หน้าชวีซานตัวไม่ใช่ไม่เคยคิดจะเล่นงานตอนที่ลั่วอู๋ฉางกำลังข้ามหน้าผาเขาเคยคิดจะสั่ง

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 1058

    คำกล่าวอย่างมั่นใจของลั่วอู๋ฉางดังก้องไปทั่วสำนักใหญ่ของพันธมิตรบู๊ลิ้มหากเป็นเมื่อก่อน ใครกล้าพูดกับหัวหน้าสำนักพวกเขาเช่นนี้ คงไม่ต้องรอให้ชวีซานตัวเอ่ยปาก สมาชิกระดับล่างก็พร้อมจะซัดมันจนหมอบไปแล้วต่อหน้าประตูสำนักงานใหญ่ จะปล่อยให้คนมาพูดจาโอ้อวดได้อย่างไร?แต่สถานการณ์ตอนนี้คือ ลั่วอู๋ฉางไม่เพียงแต่พูด เขายังทำลายประตูใหญ่ของพวกเขาและทำร้ายคนไปอีกหลายสิบคนด้วยแน่นอนว่าจำนวนนี้ไม่ได้ตายตัวถ้าคนอื่นกล้าบุกเข้าไปอีก ลั่วอู๋ฉางจะไม่ปรานี และยินดีที่จะช่วยเพิ่มจำนวนผู้บาดเจ็บให้พันธมิตรบู๊ลิ้มอีกด้วย"แก...ปากกล้านักนะ!"ชวีซานตัวในฐานะหัวหน้าแห่งบู๊ลิ้ม ไม่อาจเสียศักดิ์ศรีด้วยการยอมแพ้ง่าย ๆทั้งๆ ที่ความจริง ในใจเขานั้นกลับตื่นตระหนกจนแทบควบคุมไม่อยู่อาวุโสทั้งแปดร่วมมือกันยังเอาชนะไม่ได้!ถึงแม้ตอนฝึกซ้อมปกติ ชวีซานตัวจะเคยชนะพวกเขามาแล้วก็เถอะแต่ใช้นิ้วโป้งเท้าคิดก็ยังรู้เลยว่า เป็นอาวุโสทั้งแปดแกล้งอ่อนข้อให้ถ้าสู้จริง ชวีซานตัวไม่มีทางได้เปรียบหรอกแต่ลั่วอู๋ฉางกลับทำได้!นี่แสดงให้เห็นว่า ความสามารถของเขาเหนือกว่าชวีซานตัวมากถ้ายอมแพ้ต่อหน้าสมาชิกบู๊ลิ้มมา

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 1057

    เขาไม่อยากให้ใครพูดถึงเรื่องนี้ โดยเฉพาะต่อหน้าสาธารณชน"อาวุโสทั้งแปดของสภาผู้อาวุโสอยู่ที่ใด?"ดวงตาของชวีซานตัวเต็มไปด้วยความโกรธ พร้อมตะโกนออกคำสั่งอย่างดุดัน"ข้าน้อยอยู่ที่นี่!"อาวุโสทั้งแปดคนตอบรับออกมาพร้อมกัน"คนผู้นี้ทำลายประตูสำนักของเรา ทำร้ายศิษย์ของเรา จงสังหารมันตรงนี้เดี๋ยวนี้ เพื่อเป็นตัวอย่าง!" ชวีซานตัวกัดฟันกล่าวอาวุโสทั้งแปดคนตอบพร้อมกันอีกครั้ง "รับทราบ ท่านเจ้าสำนัก!""ฆ่า!"ทั้งแปดคนล้วนเป็นผู้มีวิชาระดับปรมาจารย์ใหญ่มีฝีมือไม่ธรรมดา!ในสำนักใหญ่ ทั้งด้านสถานะและพลังฝีมือ พวกเขาเป็นรองเพียงชวีซานตัวเท่านั้นเมื่อทั้งแปดร่วมมือกัน แม้แต่วีรบุรุษในตำนานก็ยากที่จะเอาชนะพวกเขาได้พวกเขาร่วมมือกันอย่างเข้าขา ล้อมลั่วอู๋ฉางไว้ตรงกลาง และออกกระบวนท่าสังหารทุกอย่างใส่เขาถ้าเป็นคนอื่น คงถูกพวกเขาสับเป็นชิ้นๆ ไปแล้วแต่ลั่วอู๋ฉางกลับไม่สะทกสะท้านใดๆ เพียงแค่ส่งกระแสจิต"วึ้ง!"คาถาป้องกันตัวปล่อยแสงสีทองออกมา ขัดขวางการโจมตีทั้งหมดไว้"อะไรกัน?"ชวีซานตัวเบิกตากว้าง ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อในสายตาของเขา ต่อให้ลั่วอู๋ฉางเก่งแค่ไหน แต่ก็ยังเป็น

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 1056

    ท่ามกลางความมืด มีร่างคนจำนวนมากพุ่งผ่านไปอย่างรวดเร็วเมื่อพวกเขาเห็นชัดเจนแล้วว่าประตูทางเข้าซึ่งเป็นหน้าตาของพันธมิตรบู๊ลิ้มถูกทำลาย กลายเป็นซากปรักหักพัง พวกเขาก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟทันที"ใครกันที่กล้าบ้าบิ่นถึงขนาดนี้!""บังอาจมาพังประตูใหญ่ของพันธมิตรบู๊ลิ้ม รนหาที่ตายแล้ว!""จะเป็นใครก็ช่าง แต่แน่ๆ คงไม่ใช่คนดีหรอก สับมันเป็นชิ้นๆ ก่อนค่อยว่ากัน!"กลุ่มคนที่โกรธแค้นเห็นร่างหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าซากปรักหักพัง"ไอ้หนุ่ม แกเห็นไหมว่าใครเป็นคนทำ?"คนตาไวมองเห็นว่าเป็นเงาของชายหนุ่มจึงรีบถามออกไปทันที"ขอเตือนไว้ก่อน เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ รีบพูดสิ่งที่นายเห็นออกมาทั้งหมก ไม่งั้นนายเองก็ต้องเดือดร้อนด้วย!"ลั่วอู๋ฉางยืนอย่างสงบพลางตอบว่า "เห็น""รีบบอกมาว่าใคร!" คนกลุ่มนั้นร้องถามขึ้นพร้อมกันลั่วอู๋ฉางตอบอย่างไม่รีบร้อนว่า "ก็ฉันไง!""อะไรนะ?!"คนกลุ่มนั้นเบิกตาโต ความโกรธที่ปรากฏบนใบหน้าชัดเจนยิ่งกว่าความตกใจ"ไอ้หนุ่ม นี่ไม่ใช่เวลามาอวดเก่ง คิดว่าเราจะเชื่อแกหรือไง?""รีบบอกมาว่าใครเป็นคนทำ ไม่งั้นจะถือว่าแกเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดด้วย!""ให้โอกาสสุดท้าย รีบพูด ไม่งั้นพวกเร

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 1055

    ซูเทียนคั่วกังวลขึ้นมาทันที ขณะที่ปกป้องซูเฉี่ยนเฉี่ยนหลานสาว เขาก็ตะโกนเสียงดังขึ้นว่า "เจ้าสำนักชวี นี่คือวิธีการต้อนรับแขกของพันธมิตรบู๊ลิ้มหรือ?""หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป ไม่กลัวคนในยุทธภพจะหัวเราะเยาะหรือ?"ชวีซานตัวไม่สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย "อย่างพวกนายเนี่ยนะ? เรียกว่าแขกได้ด้วยหรือ?"เมื่อต้องเผชิญหน้ากับจำนวนคนที่มากกว่าหลายเท่า อีกทั้งสายตาที่จับจ้องมาอย่างอาฆาต ทั้งสามคนไม่สามารถต่อกรได้เลยไม่นานพวกเขาก็ถูกจับตัวได้!"ชวีซานตัว การที่คุณทำเช่นนี้ ไม่กลัวว่าศิษย์ของเทพอวี้อย่างราชันมังกรลั่วเทียนจะมาหาเรื่องหรือ?" ซูเทียนคั่วพูดขณะดิ้นรนชวีซานตัวไม่สนใจแม้แต่น้อย "ถ้าเขากล้าหาญมาที่นี่ ฉันจะให้เขาลิ้มรสชาติของการต้องเป็นนักโทษเช่นกัน!""ศิษย์ที่ถูกสอนโดยตาแก่แบบนั้น คงไม่ใช่คนดีสักเท่าไรหรอก พอดีเลย จะได้ให้เขาชดใช้หนี้แทนตาแก่นั่นและพวกแกไปพร้อมกัน!""ราชันมังกรลั่วเทียนอะไรกัน แค่เด็กหนุ่มอายุยี่สิบต้นๆ จะมีอะไรพิเศษนัก?""ตัวเขาไม่อายก็ช่างเถอะ แต่ยังกล้าไปหาคนมาคุยโวแทนตัวเอง คิดจะดังจากการสร้างกระแสเช่นนี้ คิดว่าบู๊ลิ้มเป็นที่สำหรับเล่นขายของหรือไง ฝันไปเถ

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 1054

    พูดของชวีซานตัวเต็มไปด้วยความหยาบคายใบหน้าสวยของเย่ปิงเหยาเริ่มบึ้งตึง แต่เพราะนี่เป็นถิ่นของอีกฝ่าย เธอจึงไม่อาจโต้ตอบได้ชวีหลิงหานคือน้องสาวของชวีซานตัว ทั้งสองคนมีอายุห่างกันมากกว่ายี่สิบปีหลังจากชวีหลิงหานเกิดได้ไม่นาน พ่อแม่ของเธอก็เสียชีวิตจากอาการป่วย ก่อนสิ้นใจได้ฝากให้ชวีซานตัวช่วยเลี้ยงดูน้องสาวที่ยังเป็นแค่ทารกแรกเกิดชวีซานตัวเลี้ยงดูน้องสาวด้วยความยากลำบาก จนเธอเติบโตขึ้นมาเป็นหญิงสาวที่งดงามยิ่ง ทั้งยังมีพรสวรรค์จนได้รับความสนใจจากคนในบู๊ลิ้มมีผู้คนมาสู่ขอเธอมากมายจนทำให้ประตูบ้านตระกูลชวีแทบพังในขณะที่ชวีซานตัวกำลังเลือกคู่ครองให้น้องสาวจนตาลาย และวาดฝันว่าเธอจะได้แต่งงานกับตระกูลใหญ่โตความฝันกลับพังทลาย!ชวีหลิงหาน หญิงสาวผู้แสนงดงาม กลับถูกชายแก่อัปลักษณ์คนหนึ่งมาชิงตัวไป!ในตอนแรก ชวีซานตัวคิดว่าน้องสาวของเขายังไร้เดียงสา และถูกชายชั่วหลอกลวงเขาคิดว่าเพียงแค่พูดจาโน้มน้าวด้วยความรักและเหตุผล น้องสาวจะกลับตัวกลับใจแต่ผลกลับเป็นตรงกันข้าม!ชวีหลิงหานไม่เพียงแต่ไม่สำนึกในสิ่งที่ทำ แต่กลับรักชายแก่คนนั้นอย่างหัวปักหัวปำ และพูดคำพูดไร้สาระอย่างเช่นรักจน

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 1053

    พูดตามตรง ลั่วอู๋ฉางก็มีใจอ่อนนิดหน่อยทุกครั้งที่ต้องต่อสู้กับพวกกระจอก เขามักจะคิดถึงหูเยว่ซีอย่างมากเป็นถึงจักรพรรดินีแห่งชิงชิว แต่เขากลับใช้งานเหมือนลูกน้องปลายแถวประเด็นสำคัญคือ หูเยว่ซีไม่เพียงแต่ไม่โกรธ แต่ยังเต็มใจช่วยอย่างยินดีอีกด้วย"ไม่ได้"ความมีเหตุผลเอาชนะความหุนหัน ลั่วอู๋ฉางพูดพร้อมขมวดคิ้ว "เธอต้องอยู่เฝ้าบ้าน มีแต่แบบนี้ ฉันถึงจะวางใจได้"หูเยว่ซีทำหน้าหงอย: "ก็ได้!"ลั่วอู๋ฉางหัวเราะ "เธอว่านอนสอนง่ายขนาดนี้ ต้องให้รางวัลสักหน่อยแล้ว""รางวัลอะไร?" จิ้งจอกน้อยถามอย่างตื่นเต้น ดวงตาทั้งสองส่องประกายวิบวับทันทีลั่วอู๋ฉางหยิบลูกแก้วพญานาคออกมาจากกระเป๋าแล้วพูดว่า "ก่อนหน้านี้สัญญาว่าจะให้ของขวัญเธอ ตอนนี้ถึงเวลาทำตามสัญญาแล้ว"หูเยว่ซีตาเป็นประกายอีกครั้ง "ลูกแก้วพญานาค!"ถ้าเป็นเมื่อก่อน ลูกแก้วพญานาคระดับนี้เธอคงไม่แม้แต่จะชายตามองด้วยซ้ำแค่มองนานหน่อย ก็ถือเป็นการดูหมิ่นคำว่า "จักรพรรดินีแห่งชิงชิว" แล้ว!แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน หลังจากถูกขังอยู่ในแหวนมานานถึงพันปี เพิ่งจะได้อิสรภาพคืนมา พลังลดลงไปมากและร่างกายก็อ่อนแอสุดขีดนี่คือช่วงเวลาที่เธอต้อง

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 1052

    หวงผู่เจิ้งซิ่นย่อมไม่พอใจแน่!คนเป็นครูยังล้มเหลว แต่ศิษย์กลับทำสำเร็จตั้งแต่ครั้งแรกถ้าไม่ใช่บังเอิญ แล้วมันคืออะไร?ลั่วอู๋ฉางไม่ตอบอะไร จากนั้นก็หยิบคริสตัลสวรรค์ก้อนที่สองมาไม่นานก็ทำสำเร็จอีกครั้ง!หวงผู่เจิ้งซิ่นเบิกตากว้าง ประหลาดใจราวกับเห็นเทพเจ้าส่วนใบหน้าของหูเยว่ซีก็เต็มไปด้วยความชื่นชมมากขึ้นเรื่อยๆ"ลองอีกครั้งสิ!" หวงผู่เจิ้งซิ่นยังคงไม่ยอมแพ้คราวนี้ ลั่วอู๋ฉางไม่ทำตามเขาอีกต่อไป เขาเก็บแท่งคริสตัลสวรรค์ที่เหลือทันที"หมายความว่าไง?" หวงผู่เจิ้งซิ่นถามตาโตลั่วอู๋ฉางลุกขึ้นเดินออกไป ทิ้งคำพูดไว้โดยไม่หันกลับมา "ขอบคุณนะ!""เดี๋ยวสิ นายแน่ใจแล้วเหรอว่านายเข้าใจทั้งหมด?"หวงผู่เจิ้งซิ่นรีบไล่ตามไป "ถ้าไม่สำเร็จล่ะ ฉันจะได้ช่วยหาสาเหตุไง!""ไม่จำเป็นแล้ว ถ้านายท่านของฉันคิดว่าไม่มีปัญหา มันก็ไม่มีปัญหาแน่" หูเยว่ซีขวางเขาไว้ พร้อมพูดอย่างหนักแน่นในตอนนี้ สีหน้าหวงผู่เจิ้งซิ่นเต็มไปด้วยความซับซ้อนศิษย์ที่เก่งเกินไปทำให้ครูรู้สึกอับอาย"ไหนว่าราชันมังกรลั่วเทียนก็เป็นแค่คนธรรมดา เขาเป็นปีศาจชัดๆ!"หวงผู่เจิ้งซิ่นยอมแพ้อย่างหมดท่า พูดอย่างเศร้าๆ "คิดว่า

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 1051

    หวงผู่เจิ้งซิ่นเชิดคอขึ้น พยายามทำสีหน้าให้ดูปกติที่สุดเพื่อปกปิดความเขินอายของตัวเองเนื่องจากการสาธิตเมื่อครู่นั้นจบลงด้วยความล้มเหลวแม้ว่าเขาจะรู้วิธี แต่เพราะไม่ได้ปฏิบัติมาเป็นเวลานาน ความผิดพลาดจึงถือเป็นเรื่องปกติ"หาว..."หูเยว่ซีอ้าปากหาวครั้งใหญ่ ราวกับเปลือกตาถูกกดด้วยน้ำหนักมหาศาลใช่แล้ว เธอง่วงจริงๆ!การสอนของหวงผู่เจิ้งซิ่นทำให้เธอง่วงได้สำเร็จส่วนเนื้อหาที่พูดในภายหลัง แทบไม่ได้เข้าหัวของหูเยว่ซีเลย ผ่านหูซ้ายออกหูขวา ไม่มีอะไรในหัวเลย"พวกคุณ...ทำต่อไปเลย!"หูเยว่ซียืดแขนบิดขี้เกียจ และส่งสัญญาณให้ทั้งคู่ไม่ต้องสนใจเธอสิ่งนี้ทำให้หวงผู่เจิ้งซิ่นรู้สึกว่าตัวเองล้มเหลวมาก!รู้สึกเหมือนโดนตบหน้าฉาดใหญ่!การทำให้นักเรียนง่วงถือเป็นเรื่องที่น่าอับอายอยู่แล้ว ที่สำคัญคือการสาธิตของตัวเองยังล้มเหลวอีกด้วย"ไม่เป็นไร ฉันขอลองเอง" ลั่วอู๋ฉางเสนอตัวขึ้นอย่างกล้าหาญ"คุณจำทั้งหมดได้แล้วเหรอ?"หวงผู่เจิ้งซิ่นพูดด้วยสีหน้าจริงจังทันที "อย่าเพิ่งรีบร้อนปฏิบัติเลย ลองทบทวนสิ่งที่ฉันพูดสักรอบก่อน มีจุดไหนที่ไม่เข้าใจก็ถามให้แน่ชัด แล้วค่อยลงมือ"เพราะจำนวนของแท่งค

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status